จูบที่ยี่สิบสอง ผมเห็นเธอในทีวีตั้งแต่ยังจำความได้ ผมยาวสนิทสีดำยาวถึงกลางหลัง ผิวขาวสะอาดไม่เคยมีรอยหมองคล้ำ ร่างบางระหงแบบคนดูแลสุขภาพเป็นอย่างดี ความสวยไม่สร่างกับน้ำเสียงอ่อนหวาน และท่าทางแบบกุลสตรีไทยที่คนทุกรุ่นจะหลงรัก ทว่าสิ่งเหล่านั้นก็ไม่ใช่เหตุผลหลักที่ทำให้เธอกลายเป็นตำนานของวงการบันเทิง ทว่ามาจากภาพลักษณ์และชื่อเสียงที่เธอสั่งสม การวางตัวให้เป็น ‘แบบอย่าง’ ของประชาชน
แม้ผมจะเกิดไม่ทันยุคที่เธอเป็นนางเอก แต่ทุกบทบาทของเธอที่ผมทันเห็นก็ยังเป็นตัวละครเด่น และทุกตัวละครจะมีอุปนิสัยที่คล้ายคลึงกัน คือเป็นตัวละครฝ่ายดี
ไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งจะได้สัมผัสด้านที่ไม่เคยเห็นของพิมพ์ผกา ดำรงเดช
“ขอโทษด้วยนะที่ลงไปรับเธอมาแบบเสียมารยาทอย่างนั้น ถือซะว่ามานั่งรถกับฉันเล่นแล้วกัน ใช้เวลาไม่นานหรอก”
แม่ของธีร์อธิบายกับผมด้วยเสียงหวานนุ่ม หากก็ฟังดูเป็นคำสั่ง ทันใดนั้นเองคนอีกคนที่นั่งในเบาะข้างหน้าถัดจากเธอก็แสดงตัวออกมาบ้าง...พี่บุ๊ค ผู้จัดการของธีร์หันมายิ้มเย็นทักทายผม
“แต่ก่อนที่จะคุย รับสายลูกชายฉันแล้วบอกว่าเธอไม่เป็นอะไร”
เธอยื่นโทรศัพท์ของผมที่ธีร์ยังโทรซ้ำเข้ามาให้ เพราะล่าสุดผมทำได้แค่รับสายเขา แล้วจู่ๆ ก็โดนจับขึ้นรถมา
“ฮัลโหลน้องธีร์...” ผมเลือกใช้สรรพนามเปลี่ยนไปเพื่อให้แม่ของเขาได้ยินโดยเฉพาะ
[พี่จุ๊บ ตะกี้เป็นอะไรเนี่ย ทำไมรับสายแล้วเงียบไป]
“เปล่าๆ พอดีพี่ซื้อของอยู่ แล้วทำมือถือตก”
[ทำไมอยู่ๆ ถึงเรียกตัวเองว่าพี่เนี่ย ปกติใช้...]
“อ้อ โทรมาเรื่องรูปในกล้องใช่ไหม”
[รูปอะไร รูปโป๊เหรอ นายพูดเรื่องไรเนี่ย]
“อ๋อต้องเอาไปส่งอาจารย์แล้ว โอเค เดี๋ยวพี่กลับบ้านไปแล้วส่งให้เลยนะ”
[เดี๋ยว นี่มันระ...]
“แค่นี้นะครับน้อง บาย”
ผมกดวางสาย กะจะเก็บมันกลับลงในกระเป๋ากางเกง แต่แม่ของธีร์ยื่นมือมาขอไว้เสียก่อน “คุยเสร็จเดี๋ยวฉันคืนให้”
“แต่ว่า...”
“ฉัน จะ คืนให้” แววตาของเธอดุดันกว่าเดิมทำให้ผมยอมยื่นโทรศัพท์ให้เธอแต่โดยดี นางเอกรุ่นแม่สีหน้าแช่มชื่นขึ้นเมื่อได้ไป
“ต้องบอกว่าน่าประทับใจมากทีเดียวที่เธอพยายามใช้คำพูดแบบพี่น้องกับธีร์แบบนั้น” นางเอกรุ่นแม่เปรย “...แต่ทริคตื้นๆ แบบนั้นหลอกฉันไม่ได้หรอก”
ใจผมหล่นวูบ หากพยายามปั้นสีหน้าตัวเองเพื่อหลอกเธอต่อไป
“เดี๋ยวพี่บุ๊คมีอะไรจะคุยกับเธอ” แม่ของธีร์บอก “หวังว่าคงไม่ต้องให้ฉันต้องพูดอะไรเพิ่มเติมอีกนะ” ประโยคหลังเหมือนเธอหันไปพูดกับพี่บุ๊คมากกว่า
“ค่ะพี่ต่าย” พี่บุ๊ครับคำ ทันใดนั้นเขาก็สั่งให้รถจอดเพื่อที่จะย้ายจากเบาะหน้ามานั่งข้างๆ ผม
“จุ๊บ น้องชื่อจุ๊บใช่ไหม”
เขาถาม เขยิบร่างท้วมเข้าใกล้ผมและยิ้มให้อย่างเป็นมิตร ผมได้กลิ่นน้ำหอมสะอาดจากตัวพี่บุ๊ค วันนี้เขาใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงสโล่งลายไทยตามสไตล์ แต่ทรงผมโมฮอคด้านบนกลับดูอินเตอร์ คาดว่าน่าจะอยากผสมผสานความตะวันออกกับตะวันตกอยู่ในตัวเอง
“ใช่ครับ”
“ก่อนเราคุยกัน สัญญากับพี่ได้ไหมว่าจะไม่โกหกพี่ เพราะพี่อยากช่วยจริงๆ”
“ครับ” ผมรับคำ ฉีกยิ้มเพื่อจะได้ไม่ดูน่าสงสัย
“พี่จะไม่อ้อมค้อมนะน้องจุ๊บ” พี่บุ๊คสูดหายใจตั้งสติ “น้องคบกับน้องธีร์หรือเปล่า”
“คบ?” ผมเอียงคอทำหน้าสงสัย แต่ในใจเต้นโครมครามจนเหมือนมันจะหลุดออกจากอก รับรู้ได้ถึงเม็ดเหงื่อแห่งความวิตกที่กำลังซึมออกทางหน้าผาก
พี่บุ๊ครู้ แม่ของเขารู้
....ได้ยังไง
“ผมเป็นพี่เทคของเขาที่มหา’ลัยครับ”
“เหรอคะ” ตุ๊ดผู้จัดการถามด้วยเสียงเจื้อยแจ้ว แต่สีหน้าไม่ได้เจื้อยแจ้วตามเลย “งั้นอธิบายกับพี่ได้ไหมว่าทำไมถึงภาพหลุดของน้องกับธีร์ตอนกำลังจะจูบกันออกมา”
“...”
“พี่จะไม่ให้ดูภาพหรอกนะ แต่มีสายส่งมาให้พี่ดู แลกกับเงินห้าหมื่น ไม่อย่างนั้นรูปจะหลุดไปอยู่ในมือนักข่าว”
“ผม...ผมไม่รู้ว่าพี่พูดถึงอะไร ธีร์มีภาพหลุดเหรอครับ” ผมยังทำไก๋ พี่บุ๊คถอนหายใจ
“เมื่อวานธีร์โดดซ้อมคอนเสิร์ตที่กำลังจะมีในอาทิตย์เพื่อไปเที่ยวกับน้องใช่ไหม อย่าคิดว่าพี่ไม่รู้ พี่เป็นผู้จัดการเขานะคะ” เขาพูดต่อ “อย่าโกหกพี่ เพราะมันมีภาพหลุดที่น้องกำลังจะจูบกันออกมา...เห็นหน้าไม่ชัดหรอก แต่มีชื่อน้องอยู่บนเสื้อเขา”
“...”
“จุมพิต วิเศษกาล นั่นใช่ชื่อน้องไหมคะ” ผมพยักหน้ารับช้าๆ แล้วแถต่อ
“ธีร์แค่...แค่เอาของขวัญวันเกิดมาให้ผมเฉยๆ ครับ ไม่มีอะไรทั้งนั้น”
“เอาของขวัญวันเกิดไปให้ก็เลยค้างบ้านน้องด้วยเลยใช่ไหม”
“ผม...ไม่รู้ว่าพี่พูดเรื่องอะไร”
“ไหนเราสัญญากันแล้วว่าจะไม่โกหก” พี่บุ๊คเผลอเร่งระดับเสียงจนออร่าแห่งเป็นมิตรหายวับไปในพริบตา เขาถอนหายใจให้ผมฟังอีกครั้ง ปั้นหน้ายิ้มที่ดูยังไงก็รู้ว่าไม่จริงใจ “แต่โอเค ถ้าน้องพูดแบบนี้พี่ก็จะเชื่อ”
ผมกระแอมสู้ ไม่ได้รู้สึกว่าเรื่องทั้งหมดง่ายขึ้นสักนิด “...ครับ”
“ถ้าน้องยืนยันว่าไม่ได้คบกับธีร์และเป็นแค่พี่น้องกันจริงๆ เพื่อความบริสุทธิ์ใจ ต่อไปนี้พี่อยากให้น้องเลิกเจอกันได้ไหมคะ”
“พี่ครับ...” ผมส่ายหัวอย่างไม่เข้าใจ กลั้วหัวเราะ “มันไม่เห็นจะเกี่ยวกันเลย”
“พี่ว่าเกี่ยว” พี่บุ๊คยิ้มย่อง “ถ้าน้องบริสุทธิ์ใจจริงๆ จะทำให้พี่ได้ไหม”
“...”
“พี่ไม่ได้ ‘ขอ’ ให้น้องทำเฉยๆ นะ ทางพี่มีค่าตอบแทนให้ด้วย ถ้าน้องตัดขาดจากธีร์ได้จริงๆ...พี่จะให้ทุนการศึกษา สักห้าหมื่นเป็นไง จ่ายค่าเทอมที่คณะได้หลายเทอมเลยนะ”
ผมจ้องเขาอย่างไม่เชื่อสายตา นี่มันใช้เงินฟาดหัวกันชัดๆ
“ผมรู้ว่าพี่กำลังทำอะไรอยู่นะครับ แต่ผมขอยืนยันอีกครั้งว่าผมกับธีร์เป็นแค่พี่น้องกัน” ผมยื่นคำขาด
“บุ๊ค พอเถอะจ้ะ พี่ว่าน้องเขาคุยไม่รู้เรื่องแล้ว”
พอพี่บุ๊คทำท่าจะล่อซื้อผมต่อ คนที่นั่งเบาะหน้าก็ขัดเขาขึ้นเสียก่อน
พิมพ์ผกา ดำรงเดชหันมามองหน้าผมด้วยสีหน้าเรียบตึงในตอนแรก เธอค่อยๆ คลี่ยิ้มและมองผมด้วยแววตาเอ็นดู แต่คำพูดจากนั้นกลับทำให้ผมรู้สึกชายิ่งกว่าโดนตบ
“ฉันพยายามจะพูดให้เธอเข้าใจง่ายที่สุด ฟังดีๆ แล้วก็คิดตามถ้าเธอเป็นอย่างที่ฉันพูด แต่ถ้าเธอไม่ใช่แบบนั้นก็ทำเป็นหูทวนลมไปแล้วกัน...”
ผมลอบกลืนน้ำลาย หูได้ยินคำของเธอที่เปล่งออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ
“เธอเรียนนิเทศศาสตร์ คณะเดียวกับเขา เธอน่าจะเข้าใจวงการบันเทิงดี บอกฉันหน่อยว่าในความเข้าใจของเธอ ภาพลักษณ์มันสำคัญกับการเป็นดาราแค่ไหน...”
ผมเม้มริมฝีปาก “น่าจะ...สำคัญมากครับ”
“สำหรับฉัน ภาพลักษณ์มันคือทุกอย่าง
“เป็นเลสเบี้ยน มีแฟนเป็นผู้หญิง ก็ยังเล่นบทรักผู้ชายได้อย่างไม่ขัดเขิน แต่ถ้ามีข่าวว่าเป็นเกย์ หรือคบผู้ชายออกมาปุ๊บ โอกาสในการเล่นบทที่เป็นผู้ชายจริงๆ กลับกลายเป็นศูนย์ ไม่ต้องพูดถึงบทพระเอกหรอก ที่จะเล่นได้ก็คงบทเกย์จริงๆ ซึ่งก็ยากอยู่ดี เพราะสังคมสมัยนี้อยากให้เอาผู้ชายแท้ๆ มารับบท”
“...”
“อย่าเข้าใจผิด ฉันไม่ได้มีปัญหากับการที่ผู้ชายรักกัน แต่ถึงฉันจะมีมันก็เป็นส่วนน้อยที่ทำให้ฉันทำแบบนี้ เพราะนี่มันใหญ่กว่าเรื่องความรักมาก นี่เป็นเรื่องชีวิตของคนๆ หนึ่ง และคนๆ นั้นคือลูกของฉัน”
แล้วรอยยิ้มของเธอก็ค่อยๆ จืดจางลง เหลือเพียงใบหน้าเรียบเฉยกับแววตาที่มองผมราวกับสิ่งของ
“คนที่ฉันเลี้ยงเขาให้เตรียมพร้อมสู่วงการบันเทิงมาทั้งชีวิต มันจะถูกหยุดเพราะเด็กผู้ชายกะโปโลแค่คนเดียวไม่ได้”
“...”
“หวังว่าเธอคงเข้าใจ”
“...”
“หรือถ้าเธอไม่เข้าใจ ครั้งหน้าที่ฉันพาเธอขึ้นรถ เราจะไม่ได้มานั่งคุยกันแบบนี้แน่ๆ”
“...ผม...ผมไม่รู้จริงๆ ว่าคุณพูดถึงเรื่องอะไรอยู่”
บอกแบบนั้นทั้งที่ความกลัวกำลังครอบงำจิตใจผม ความคิดตอนนี้วนเวียนอยู่กับสิ่งที่คนมีอำนาจตรงหน้าจะทำได้เพื่อปกป้องลูกชายของตัวเอง
มากไปกว่านั้นคือการปกป้องตัวเธอเอง การมีข่าวออกมาว่าลูกชายที่กำลังดังเป็นเกย์จะทำให้ภาพทั้งหมดที่เธอเคยสร้างมาพังครืน และมันอาจสืบสาวไปถึงเรื่องภายในครอบครัวที่ไม่มีใครเคยรู้
มันอาจทำให้คนตั้งคำถามกับพิมพ์ผกา ดำรงเดชว่าจริงๆ เธอเป็นคนแบบไหนกันแน่
“ปล่อยเขาไปตอนนี้ หรือทำลายชีวิตเขา เธอเลือกเอง”
“...”
“เลือกให้ดี”
ทันใดนั้นเองรถตู้ก็หยุดแล่น เราวนกลับมายังจุดที่เธอจับผมขึ้นรถที่เก่า พี่บุ๊คเปิดประตูรถให้ผม และยัดนามบัตรเล็กๆ แผ่นหนึ่งลงในมือ “เผื่อว่าน้องเปลี่ยนใจ โทรหาพี่ได้ตลอดเวลานะ”
ข้าวของทั้งหมดของผมถูกยกลงมาด้วยเมื่อลงจากรถ เหลือเพียงแค่สิ่งเดียวเท่านั้นที่ยังไม่ได้คืน
นางเอกรุ่นแม่ยิ้มให้ผมด้วยรอยยิ้มเดียวกับตอนขึ้นมา เธอยกโทรศัพท์มือถือของผมให้ดู หน้าจอแสดงรายชื่อคนที่ออกโทรล่าสุด
“พี่น้องเขาไม่คุยกันทุกวันแบบนี้” แล้วเธอก็โยนมันออกนอกรถมาตกข้างตัวผม “จะได้เป็นหลักฐานที่บอกว่าทำโทรศัพท์ตกไง”
ประตูปิดลง และรถก็เคลื่อนออกไปจากตรงนั้น ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู แรงกระทบกระเทือนทำให้กระจกหน้าจอแตกร้าว...
ไม่ต่างกันกับความสัมพันธ์ของผมและธีร์ตอนนี้
(ต่อด้านล่าง)