.:บทเรียนพิเศษ:. คนเก่า
“สวัสดีค่ะ” เสียงหวานของใครคนหนึ่งเรียกให้คนทั้งโต๊ะหันไปมอง ร่างบางที่อยู่ในชุดเกาะอกสีครีมขาวและมินิสเกิร์ตสีแดงส่งยิ้มมาให้ สายตามุ่งตรงไปที่หนุ่มผมยาวประบ่าที่นั่งอยู่ที่โซฟานุ่มด้านในสุด เสียงเชียร์ด้านหลังที่ดังไม่หยุดบวกกับท่าทางเคอะเขินและหน้าที่แดงก่ำของเจ้าตัว ทำให้พอจะเดาได้ว่าคนตรงหน้าโดนเพื่อนในโต๊ะยุมาอีกที
“ขอไลน์ได้ไหมคะ” ทั้งที่ในโต๊ะมีคนเยอะแยะ แต่สายตาที่พุ่งตรงไม่ลังเลไปไหน ทำให้ทุกคนมั่นใจว่าเป้าหมายที่แท้จริงคือใคร ความเงียบครอบคลุมไปชั่วขณะ ก่อนที่สองคนที่ได้สติกลับมาก่อนใครจะระเบิดหัวเราะเสียงดัง
“ฮ่ะๆ ๆ ๆ ๆ ๆ กูไม่ไหวแล้วว่ะทิว” ธารากุมท้องตัวเองแน่น หัวเราะจนตัวโยนซบหน้าลงบนไหล่ข้างหนึ่งของเพื่อนตัวจิ๋ว ก็ตอนนี้คนที่โดนขอเบอร์ขอไลน์มาตลอดทั้งคืน แถมยังมีโจทย์เก่าแวะเวียนมาสร้างสีสันเป็นระยะๆ หน้าเจื่อนเป็นไข่ต้มสุกโดนปอกเปลือกไปแล้ว
“รายที่สามหรือสี่ว่ะวันนี้...อะแฮ่มๆ โทษทีครับพี่ขำเพื่อนพี่น่ะ”
ทิวาที่กำลังหัวร่อไปกับเพื่อนบังเอิญสบสายตากับคนมาใหม่ เห็นเจ้าตัวหน้าเสียไปแล้วก็แอบรู้สึกผิด พูดเฉไฉไปนิด พยายามกลั้นหัวเราะ ทำทีเป็นยกแก้วเหล้าในมือขึ้นมาดื่มต่อปิดบังยิ้มกว้าง
“พวกมึงพอเลยนะ” นัชชาผู้หญิงคนเดียวในกลุ่มกล่าวเตือน ตาหันไปมองคนที่ยืนหน้าแดงอย่างเห็นใจลูกผู้หญิงด้วยกัน เห็นมือเรียวกำมือถือในมือแน่นเกร็ง กระสับกระส่ายเหมือนคนอยู่ผิดที่ผิดทาง
“ขอโทษนะคะน้อง แต่คือคนนี้เป็...”
“เอามาครับ เดี๋ยวผมเมมให้” นัชชาพูดไม่ทันจบประโยคก็โดนอีกเสียงแทรกขึ้น คนที่นั่งข้างเป้าหมายหลักยืดตัวขึ้นจากโซฟา แบมือขอโทรศัพท์จากอีกคน เจ้าหล่อนลังเลเล็กน้อยก่อนจะยื่นโทรศัพท์ให้คนขออย่างงงๆ
หมับ!
ไม่ทันจะได้รับโทรศัพท์ไปไว้ในมือ เจ้าเครื่องสื่อสารดังกล่าวก็โดนแย่งไปด้วยมือใหญ่ของคนที่สาวเจ้าอยากได้เบอร์ เธอยกยิ้มขึ้นมาทันที ใจชื้นขึ้นกว่าเดิม เพราะตอนแรกนึกว่าจะโดนเจ้าตัวเมินไปเสียแล้ว
“ผมขอโทษนะครับ ผมคงให้ไม่ได้จริงๆ” ชายหนุ่มปฎิเสธออกไปอย่างสุภาพ ยื่นโทรศัพท์ตัวปัญหากลับไปให้เจ้าของ รอยยิ้มที่เพิ่งผุดขึ้นมาของเจ้าตัวจมหายไปในทันที หน้าร้อนชาเมื่อโดนสายตาของคนทั้งโต๊ะจับจ้อง แล้วไหนจะเพื่อนอีกทั้งโต๊ะด้านหลังที่คงรอหัวเราะเยาะถ้าเขาแห้วกลับไป
เธอเม้มปากแน่น ยังไงวันนี้ก็ไม่ยอมกลับไปมือเปล่า เจ้าตัวยื่นโทรศัพท์ออกไปอีกครั้ง
“งั้นขอเบอร์พี่แทนได้ไหมค่ะ” ว่าพร้อมส่งสายตายั่วยวนให้พี่คนเดิมที่เคยบอกให้เอาโทรศัพท์มา เพราะเป็นคนเดียวที่มีท่าทีเหมือนจะสนใจเขา ถึงพี่เขาจะหน้าหวานไปหน่อย เรียกว่าสวยเกินจนผู้หญิงอย่างเขาต้องอาย แต่ในขณะเดียวกันก็ถือว่าหล่อตี๋ตามสมัยนิยม
ทันทีที่เธอพูดจบ เสียงพูดคุยในโต๊ะก็เงียบลง คนในโต๊ะมองหน้ากันเลิกลั่กอย่างทำอะไรไม่ถูก เพราะอย่างไม่รู้ตัว สาวเจ้าเหยียบโดนกับระเบิดเขาแล้วอย่างจัง
ไม่ทันทีที่มือบางจะได้เอื้อมออกมา เจ้าตัวก็โดนรวบเอวสอบด้วยมือหนาเข้าไปในอกของอีกคน ในจังหวะที่กำลังหันไปมองเพราะกำลังตกใจ ก็โดนฉกจูบลงมาอย่างจัง ปากเรียวนุ่มที่มาสัมผัสทั้งรุนแรงและดุดัน ดูดแรงๆ จนเกิดเสียงจ๊วบขึ้นในอากาศหนึ่งครั้งถึงยอมปล่อยออก
“ตั้งต้น!!” คนโดนละลาบละล้วงต่อหน้าคนแปลกหน้าร้องดัง ตีไหล่อีกคนแรงๆ ไปทีอย่างเผลอตัว เจ้าตัวยิ่งตะโกนโวยวายหน้าแดงก่ำเมื่อไอ้เพื่อนเวรในโต๊ะโชว์มือถือส่ายไปมา บอกเป็นในว่าเหตุการณ์เมื่อกี้โดนบันทึกไว้เรียบร้อยแล้ว
“จะเอาเบอร์แฟนผมไปทำไมครับ” คนหน้าหนาไม่สนใจ หันกลับไปยิ้มถามคนที่ยืนอึ้งอ้าปากค้างทำตัวไม่ถูก เขาอุตส่าห์รักษามารยาท ปฎิเสธไปอย่างสุภาพ เจ้าหล่อนดันมายุ่งกับของรักของหวงเขาทำไม จนในที่สุดเพื่อนเจ้าตัวก็รีบวิ่งมาช่วย เอ่ยกล่าวขอโทษเล็กน้อยก่อนจะลากคนที่วิญญาณออกจากร่างกลับไปที่โต๊ะ
“ไม่รู้จักอาย” กีรติค้อน
“รู้จัก แต่ไม่อาย”
“แต่เราอาย!!” คนตัวเล็กโวยวาย ตั้งต้นมองตาพริ้ม ยิ่งโวยวายเขาก็ยิ่งคิดว่าแฟนเขาน่ารัก สอดสองแขนรอบเอวบาง วางคางลงบนบ่าเรียวจากด้านหลัง
“ก็อยากมายุ่งกับแฟนต้นเอง” ทำเสียงเล็กเสียงน้อยแก้ตัวออกไป
“แล้วกีก็เหมือนกัน เลิกแจกเบอร์ต้นได้แล้ว หึงบ้างอะไรบ้าง” คนในอ้อมกอดหัวเราะขึ้นมาทันที
“ถ้าต้องมานั่งหึง ตอนนี้คงบ้าตายไปแล้ว”
ก็คนของเขามันธรรมดาที่ไหน ไม่ใช่แค่คนที่เข้ามาหาแบบนี้หรอกนะ แต่คนที่เจ้าตัวเคยคบเคยนอนด้วยนี่สิ ที่เยอะจนเอานิ้วมือนิ้วเท้ารวมกันแล้วยังนับไม่ไหว แรกๆ เขาก็มีหวั่นไหว ตามโกรธตามหึงตามหวง แต่พอเห็นว่ามันเยอะเหลือเกิน จนเขาเองก็เหนื่อยที่จะเก็บมาคิดให้ทะเลาะกันร่ำไป หลังๆ ก็เลยชิวแบบที่เห็นนี่แหละ
คดีเก่าถือว่าให้แล้วกันไป แต่ถ้ามีคดีใหม่พ่อจะตัดแล้วโยนให้เป็ดกินเสียเลย
“มึง พี่น๊อตเรียกแล้วว่ะ” คนที่กำลังกกกอดแฟนไม่ห่างหันไปมอง เห็นไอ้ดินเพื่อนสนิทเดินส่งเสียงมาจากหลังร้าน พวกเขามาที่นี่กันบ่อยจนรู้จักกับเจ้าของร้านเป็นอย่างดี พี่แกเลยมาขอให้พวกเขามาช่วยขึ้นเล่นในวันที่นักร้องลากระทันหันแบบนี้
“สักที ต้องขึ้นแล้วมึง” บดินทร์ย้ำอีกครั้ง กรอกตามองคนที่มือยังเป็นปลาหมึกไม่ยอมปล่อยอีกคนไปง่ายๆ เขาเองก็เลยถือโอกาสรวบเข้าด้านหลังใครอีกคนที่ยกยิ้มเงยหน้าขึ้นมามองกันอยู่ก่อนแล้ว
“อินอยากฟังเพลงอะไรไหมครับคืนนี้”
“ไม่เอารักมือสองนะ เพื่อนแซวกันหมดแล้วว่าดินเล่นเป็นเพลงเดียว” ร่างสูงย่นจมูกใส่อย่างมั่นเขี้ยว จุ๊บลงที่จมูกนุ่มเบาๆ ก่อนที่จะกระซิบที่กกหูให้อีกคนหน้าขึ้นสีแดงเรื่อ
“โอเคครับ เดี๋ยวดินค่อยกลับไปร้องให้อินฟังที่ห้องก็ได้เนอะ”
พรึบ!
“ทั้งคู่เลยพวกมึง วันนี้จะได้ขึ้นไหม” เป็นเจ้าของร้านที่ว่าขึ้นเสียงเหนื่อยหน่าย
“ให้ไอ้ดินมาตาม แม่งช้ากว่าเดิมไปอีก” จับคอเสื้อทั้งสองคนดึงขึ้น ลากไปทางเวทีอย่างทุลักทุเล คนทั้งโต๊ะหัวเราะร่วนให้กับท่าทางเด็กน้อยของสองหนุ่มที่เป็นขวัญใจสาวๆ ตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับเด็กที่แอบมาปีนมะม่วงแล้วโดนเจ้าของบ้านจับได้อย่างไงอย่างงั้น
“คือกูไม่อยากจะเชื่อ ตั้งต้นคือหลงมึงเว่อร์ไอ้กี” เป็นธันที่เอ่ยขึ้น เขาเฝ้ามองสถานการณ์มาทั้งคืน คนที่เคยควงคนไม่ซ้ำหน้าอย่างมัน คืนนี้ไม่ได้ละสายตาไปจากเพื่อนตัวน้อยของเขาเลยสักนิด
“มึงนั่นแหละเว่อร์” กีว่ากลับแก้เขิน
“จริงๆ เรายืนยันได้นะกี คือตั้งแต่รู้จักมันมาเพิ่งเคยเห็นมันเป็นแบบนี้จริงๆ” ทิวาช่วยยืนยัน เข้ารู้จักอีกฝ่ายมาตั้งแต่มอต้น ตั้งแต่อีกฝ่ายเลิกกับลินไป เขาไม่เคยเห็นต้นจริงจังกับใครแบบนี้เลย พูดกันตามตรงเขาว่าจริงจังยิ่งกว่าตอนคบกับลินเสียอีก
“แล้วมึงแม่งทำเป็นเก่ง แจกเบอร์ไอ้ต้นให้คนไปทั่ว ระวังเถอะมึงจะเจอดี” อินทัชกล่าวเตือนเพื่อนบ้าง ไอ้กีทำเป็นมาทำตัวคูลไม่เข้าเรื่อง
“พวกมึงไม่เข้าใจกู” กีรติว่าท่าทางสบายๆ หยิบน้ำส้มที่อีกคนสั่งไว้ให้ขึ้นมาดื่มเพราะเขาเริ่มจะมึนๆ แล้ว
“กูเหนื่อยมึง มึงเข้าใจไหมว่ามันเยอะจนกูเหนื่อย กูหึงกูหวงแล้วจะได้อะไรถ้าคนจะทำมันก็ทำไหม” เขาเริ่มร่ายยาว
“ที่กูทำได้คือไว้ใจ ไว้ใจจนสุดหัวใจกูจริงๆ ถ้ามันบอกว่าไม่ได้ทำกูก็เลือกที่จะเชื่อแบบนั้น มันง่ายกว่ากันเยอะ” เพื่อนในโต๊ะได้แต่พยักหน้าตาม พยายามเข้าใจในความคิดลึกล้ำของอีกคน
“และต้นมันก็รู้ว่ากูเชื่อใจมันแค่ไหน และถ้ามันกล้าที่ทำลายความไว้วางใจนั้น มันเองนั่นล่ะคือคนที่รู้ดีที่สุดว่ากูจะไม่มีทางกลับไปหามันอีก”
เพื่อนๆ ที่นั่งฟังนิ่งสนิท ดูภายนอกเหมือนไอ้เพื่อนตัวน้อยจะเป็นคนยอมอีกฝ่ายเพียงข้างเดียว แต่จริงๆ แล้วคนที่คุมเกมส์นี้อย่างอยู่หมัดคือมันต่างหาก
แปะ แปะ แปะๆ
เป็นนัชชาที่ตบมือเป็นจังหวะช้า ลุกขึ้นจากที่นั่งเหมือนเวลาดูละครเวทีจบ จนคนทั้งโต๊ะทำตาม ตบมือกันเสียงดัง จะมีก็แต่ไอ้อินที่นั่งมุดอยู่ที่เบาะโซฟาเอากระเป๋าบังหน้าอย่างแสนอาย อินทัชหน้าแดงก่ำ พึมพำด่าพวกมันอยู่ในใจ
ไอ้พวกเชี่ยนี่ ทำตัวได้น่าอายเสมอต้นเสมอปลายจริงๆ เลยนะพวกมึง!
“มึงแม่ง แค่นั่งสวยๆ ไม่ต้องออกแรงสักนิด แต่คืออยู่หมัดจริงๆ ดูไว้อีธัน เอะอะให้บุก เอะอะให้ตบตลอด หัดใช้สมองเสียบ้าง”
“แหม อีแนท ไม่ใช่มึงเลยนะที่มาคอยยุกู” กีรติหัวเราะ นั่งฟังพวกมันด่ากันไปมาไม่หยุดอย่างนึกขัน
“เห้ย อีลูกน้ำ มึงดูนั่น” จู่ๆ ทิวาก็ตะโกนขึ้นให้ทั้งวงเงียบเสียง หันมองตามนิ้วที่ชี้ไปอีกฝั่งของร้าน
“เชี่ย มาได้ไงว่ะ แล้วนี่เห็นต้นหรือยังก็ไม่รู้”
“จะไม่เห็นได้ไง เด่นหร่าขนาดนั้น” ว่าแล้วก็เหลือบไปมองบนเวทีที่อีกคนกำลังนั่งดีดกีต้าร์อยู่ พอย้อนกลับไปมองทางเดิมอีกครั้งก็เห็นว่าคนที่พูดถึงยืนจ้องคนบนเวทีตาไม่กระพริบ
“เห็นชามันบอกอยู่ว่านางพยายามขอนัดคุยกับต้นหลายทีแล้ว” ทิวาเอ่ยขึ้น เขารู้จักกับน้องนิชาดี เจ้าตัวเป็นรุ่นน้องของเขาตั้งแต่สมัยมัธยมและตอนนี้ก็ยังเป็นน้องในมหา’ ลัยอีกจึงได้เจอกันบ่อยๆ
“ยังมีหน้าอีกนะ อย่าบอกว่าจะมาขอคืนดี”
“ใครหรอ” ทั้งสองที่กำลังวิจารณ์กันสนุกปากจนลืมว่ามีอีกคนอยู่ด้วยชะงักลงทันที ทำหน้าเหรอหรา
“แล้วเกี่ยวอะไรกับต้น” เขาแน่ใจว่าเขาได้ยินชื่อของแฟนในบทสนทนา แล้วยังสายตาของเจ้าหล่อนที่จับจ้องแฟนเขา มันไม่ใช่สายตาของคนที่เพิ่งมาปิ๊งนักดนตรีในร้านเหล้าแน่ๆ ทิวายิ้มเจื่อนให้ธาราก่อนจะหันไปมองคนที่ถามคำถาม เจ้าตัวใช้ดวงตากลมโตวาบวับจับจ้องมาที่เขาสองคนด้วยความสงสัยเต็มประดา จนในที่สุดเมื่อทนต่อไปไม่ไหวก็เป็นทิวาที่ตัดสินใจเอ่ยออกมา
“นั่นนะลิน... แฟนเก่าคนเดียวของต้น”
.
.
.
.
.
.
.
.
“ต้น” หลังจากจบการแสดงของคืนนี้ ตั้งต้นก็เดินไปเก็บอุปกรณ์และเครื่องดนตรีหลังร้าน พอกำลังจะเดินกลับไปที่โต๊ะที่เพื่อนและแฟนรออยู่ จู่ๆ ก็มีเสียงเรียกพร้อมสัมผัสเบาๆ มาสะกิดไหล่ให้หันหลังกลับไปมอง
ในชั่วขณะที่สบตาเข้ากับอีกฝ่าย คิ้วเรียวยาวมุ่นเข้าหากัน ตาคมเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยด้วยความตกใจ แต่มันก็เป็นแค่เพียงครู่เดียว เพราะต้องทำมันมาทั้งชีวิต การตีสีหน้าเรียบเฉยไม่แสดงออกซึ่งความรู้สึกใดๆ จึงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาเลยสักนิด
“ลิน” เอ่ยเรียกชื่ออีกฝ่าย เจ้าตัวส่งยิ้มมาให้ รอยยิ้มหวานที่ไม่เคยเปลี่ยน มันเป็นรอยยิ้มที่เขาเคยหลงไหลที่สุด
“ไง ไม่ได้เจอกันนานเลยเนอะ”
เขาเพียงแค่ยิ้มและพยักหน้ากลับไป แว๊บนึงอยากจะใช้คำพูดกระแทกกระทั้นให้อีกคนเจ็บใจเล่น
ใช่ ไม่ได้เจอกันนาน
ก็ตั้งแต่อีกคนทำตัวมั่วไม่เลิก
ก็ตั้งแต่วันที่เขาจับได้ว่าอีกคนมีชู้
ถ้าเป็นเมื่อก่อน เขาคงไม่ลังเลเลยสักนิดที่จะเอ่ยมันออกไป แต่สำหรับตอนนี้แค่คิดก็ยุ่งยากเกินไปที่จะทำแล้ว
“ลินมีอะไรหรือเปล่า ถ้าไม่มีผมขอตัวก่อนนะครับ” ชายหนุ่มเอ่ยออกไปอย่างสุภาพ เขาไม่คิดจะทำร้ายอีกฝ่ายอีกต่อไปแล้ว ต่างคนต่างอยู่คือดีที่สุด
พอทำท่าจะหันหลัง หญิงสาวก็รั้งข้อมือเขาไว้ให้ต้องหันไปมองกันอีกที ตั้งต้นมองหน้าเจ้าตัวที่เขาเพิ่งสังเกตว่ามีแววตาเศร้าหมองกว่าที่เคย ก่อนที่จะเลื่อนสายตาไปยังบริเวณที่สัมผัสกันให้อีกคนรีบปล่อยมือออกทันที เจ้าตัวอ้ำอึ้ง เม้มปากแน่นเหมือนคนที่ไม่มั่นใจสุดขีด แต่ในที่สุดก็เอ่ยในสิ่งที่อยากพูดมานานออกมา
“ขอลินคุยด้วยหน่อยได้ไหม”
ปัง!
ประตูรถถูกปิดสนิท รอบข้างเงียบสงัดมีเพียงเสียงของเครื่องยนต์และลมแอร์เบาๆ ในอากาศ ตั้งต้นนั่งนิ่งอยู่ที่ตำแหน่งข้างคนขับ ตาเหม่อมองไปด้านหน้า ปล่อยให้อีกคนที่บอกว่ามีเรื่องอยากคุย ใช้เวลาเตรียมใจอีกนิดโดยไม่ได้คิดจะเร่งรัดอะไร
“ต้น...” คนที่นั่งอยู่ในตำแหน่งคนขับเอ่ยขึ้น เอื้อมมือมากุมมือเขาอีกครั้ง เขาชะงักไปนิด ใจอยากจะดึงมือออกแต่ก็สงวนท่าทีรอดูว่าอีกฝ่ายต้องการอะไรกันแน่
“มีอะไรอยากจะคุยกับผมก็ว่ามาเลย”
“ตั้งแต่วันนั้นก็ไม่ได้คุยกันเลยเนาะ” เธอกล่าวถึงวันที่ชายหนุ่มทิ้งดอกไม้ไว้ที่ห้อง หลังจากนั้นอีกฝ่ายก็ไม่ยอมให้เขาเข้าใกล้อีกเลย ถึงตอนหลังจะรู้ว่าอีกคนมาตีตัวออกห่างเพราะอะไร แต่ด้วยที่ตอนนั้นยังเด็ก จึงถือทิฐิเหนืออื่นสิ่งอื่นใด ตัดสินใจคบกับต้าร์เพียงเพื่อจะให้ทุกคนรู้ว่า ไม่ใช่ต้นที่ทิ้งเขา เป็นเขาต่างหากที่เป็นคนที่ทิ้งอีกคน
“ลินอยากขอโทษมาตลอด ทั้งๆ ที่ต้นเองต้องเจอเรื่องแย่ๆ หลายอย่างอยู่แล้ว ลินยังทำตัวเองเป็นเรื่องแย่ๆ อีกเรื่องของต้นอีก”
ตั้งต้นไม่ได้ว่าอะไร นั่งมองคนที่น้ำตาคลอหน่วยเปิดเผยสิ่งที่อยู่ในใจ
“ถ้ามันจะทำให้ต้นรู้สึกดี ลินอยากให้ต้นรู้ไว้ ว่าสิ่งที่ลินเคยทำกับต้น มันย้อนกลับมาหาลินครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่มีใครจริงใจกับลินเลยสักคน” ละลินเอ่ยความจริงจากใจ ไม่ใช่ว่าเขาอยากคบกับใครไปทั่ว เขาเองก็อยากเจอรักแท้สักทีเหมือนกัน แต่ไม่ว่าจะลองคบใคร ลองให้ใจใครไป สุดท้ายสิ่งที่ได้กลับมา กลัยบมีเพียงการโดนหักหลัง โดนหลอกลวงไม่มีสิ้นสุด
มันคงเป็นผลกรรมที่เขาเคยทำไว้กับอีกคน
“มันไม่ได้ทำให้ต้นรู้สึกดี” สรรพนามที่คุ้นเคยกลับมาให้อีกคนแอบใจชื้น ในที่สุดชายหนุ่มที่นั่งนิ่งมาตลอดก็พูดขึ้น ในตอนแรกเขายังไม่แน่ใจว่าเขารู้สึกอย่างไรกันแน่ ตลอดหลายปี มีหลายครั้งที่เขาเคยคิดอยากให้คนคนนี้ตกนรกหมกไหม้ อยากให้มีแต่ความทุกข์เหมือนที่เขาเคยเป็น แต่ในเวลานี้ที่เขาได้มาเห็นอีกคนซึมเศร้าจมกับความทุกข์ด้วยสองตา เขาก็รู้แล้วว่าจริงๆ เขารู้สึกอย่างไร
เขารู้แล้วว่าการที่มานั่งประชดหรือการเก็บความรู้สึกโกรธแค้นไว้ในอกมันช่างเป็นการกระทำที่ไร้ประโยชน์ รังแต่จะสร้างความเจ็บช้ำให้ตัวเขาเองเปล่าๆ
เมื่อได้ลองทำไปแล้วครั้งนึง เขาจึงได้เรียนรู้แล้วว่าสิ่งที่ดีที่สุดคือการปล่อยวาง กีสอนให้เขารู้จักการให้อภัย
ในโลกนี้ถ้าเขาอภัยให้คนที่ทำให้เขาเจ็บปวดที่สุดอย่างพ่อกับแม่ของเขาได้ ก็ไม่มีใครหรอกที่เขาจะอภัยไม่ได้ แม้จะยังไม่หมดทั้งใจ แต่เขาไม่คิดจะมานั่งแค้นเคืองอีกฝ่ายอีกต่อไปแล้ว
“มันอาจจะมีช่วงเวลาที่ต้นยังไม่เข้าใจ ยังโกรธแค้น ยังอยากให้ลินไม่เป็นสุข ยังอยากให้ลินทรมานเหมือนที่ต้นเป็น แต่มันก็ผ่านมาแล้ว ผ่านมานานมากแล้ว” เขาว่าเอามือที่ว่างขึ้นมากุมทับมืออีกฝ่าย
“...”
“ลิน..เรื่องนี้ไม่ใช่แค่ลินที่ผิดหรอกนะ ลองคิดดูดีๆ ต้นเองก็มีส่วนผิด ตอนนั้นต้นอาจจะเป็นแฟนที่ไม่ดีพอก็ได้ อาจจะเอาแต่ใจจนลินทนไม่ไหว” หญิงสาวส่ายหน้าเร็วๆ เป็นการปฎิเสธ เริ่มมีหยดน้ำใสไหลออกมาจากตากลม
“เราทุกคนทำผิดได้ เราแค่ต้องเรียนรู้จากสิ่งที่เราทำ เก็บมันไว้เป็นบทเรียน เมื่อรู้ว่าผิดก็อย่าทำมันอีก แค่นี้ทุกคนก็พร้อมจะให้อภัยเราแล้วเนอะ” ว่าขึ้นพร้อมยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาอีกฝ่ายเบาๆ
“ต้นขอโทษในส่วนที่ต้นเคยทำไม่ดี แล้วต้นก็ให้อภัยในส่วนที่ลินเคยทำไว้”
“...”
“เลิกแล้วต่อกันดีกว่าเนอะ”
หลังจากได้ยินสิ่งที่อีกฝ่ายพูด ละลินที่เก็บความอ่อนไหวในใจไม่อยู่ร้องไห้โฮโผกอดอีกฝ่ายแน่น เขารู้สึกตัวเบาเหมือนปุยนุ่น ความรู้สึกผิดที่มีมาตลอดหลายปีถูกปลดปล่อยในที่สุด ได้แต่พึมพำทั้งขอโทษและขอบคุณคนตรงหน้าไม่หยุดจนอีกฝ่ายยกยิ้มอย่างนึกเอ็นดู
เขารู้ดี..เวลาที่เราทำผิดแล้วมีคนยกโทษให้..
มันรู้สึกดีแค่ไหน
“ต้นดูใจเย็นขึ้นเยอะเลยเนอะ” เมื่อหยุดร้องไห้อีกคนก็ว่าขึ้นในขณะที่ตามองดูคนที่ยังนั่งนิ่งอย่างพิจารณา ใจย้อนนึกถึงสมัยตอนที่คบกัน คนตรงหน้าเคยเป็นคนใจร้อน เอาแต่ใจ แล้วไหนจะความมั่นใจที่แสนมากล้น จนทำให้คนที่เป็นแฟนอย่างเขารู้สึกด้อยค่าเวลาอยู่ใกล้ ถึงแม้ในตอนนั้นต้นจะรักเขามากเท่าไหร่ แต่เพราะในทุกครั้งที่อยู่ด้วยกัน ตัวตนของอีกคนมันทำให้เขารู้สึกด้อยค่าลงทุกที เขาถึงเคยรู้สึกอึดอัดมาตลอด
“เพราะแฟนต้นน่ะ” ตั้งต้นกล่าวขึ้นเรียบๆ พร้อมรอยยิ้ม ตามองไปข้างหน้าอย่างเหม่อลอย สมองคิดถึงใครอีกคนที่อยู่ในใจเสมอ
“ที่ทำให้ต้นรู้จักการปล่อยวาง ทำให้ต้นรู้จักการให้อภัย คนที่ทำให้ต้นเลือกที่จะเก็บแต่ความสุขไว้กับตัว ทั้งหมดก็เป็นเพราะแฟนต้นทั้งนั้น”
ละลินรอบมองคนที่พร่ำเพ้อถึงใครอีกคน ใจแอบรู้สึกเสียดายขึ้นมาอย่างจับใจที่เขาทำอะไรโง่ๆ ในวันนั้น
“ดีจังเลยเนอะ” พูดขึ้นให้อีกคนหันกลับมาสบตากัน ขมวดคิ้วเข้าหากันเหมือนไม่เข้าใจสิ่งที่เขาพูด
“แฟนต้นเขาโชคดีเนอะ ที่มีคนรักเขาได้มากขนาดนี้”
ตั้งต้นยกยิ้ม ใจยังคิดถึงคนที่โดนพาดพิงในบทสนทนา
“ต้นต่างหากล่ะที่โชคดี”
การที่ได้เจอ มีโอกาสได้รักและรับรักจากคนๆ นี้
มันเป็นเขาต่างหากล่ะที่โชคดี...
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ทันทีที่ตั้งต้นปิดประตูรถของลินก็เคลื่อนตัวออกไป เขาชะงักเมื่อสายตาไปปะทะเข้ากับใครอีกคนที่ยืนกอดอกพิงรถที่จอดอยู่ถัดไปอีกสองคัน สายตาเรียบนิ่งกับใบหน้าที่เฉยชาของอีกคน ทำให้เขาเสียวสันหลังวาบ ร่างสูงหลับตาลงพร้อมถอนหายใจหนักเมื่อกียืดตัวตรงพร้อมกับเดินเข้ามาหา
หายมาอยู่ในรถกันสองคนแบบนี้ จะให้เข้าใจว่ายังไงได้..
“กีคือ..”
“เสร็จธุระแล้วใช่ไหม” ไม่ทันจะได้พูดอะไรร่างเล็กก็เอ่ยถามแทรกมาก่อน มือบางเอื้อมมาจับมือเขาไว้ นิ้วเรียวสอดประสาน เขาที่ยังอึ้งตะลึงทำได้มองการกระทำดังกล่าวอย่างไม่รู้จะพูดอะไร สถานการณ์มันชวนให้เข้าใจผิด เขาไม่ได้คิดจะปิดบัง แต่เรื่องของเขากับลินมันซับซ้อนจนไม่รู้จะเริ่มต้นเล่าจากตรงไหนดีต่างหาก
“งั้นเข้าไปข้างในกันเนอะ” เจ้าตัวเอ่ยพร้อมยกยิ้ม ก่อนที่ค่อยๆ ดึงมือเขาเดินนำไปก่อน เขาใช้มือที่ประสานกันอยู่ดึงรั้งอีกคนไว้เบาๆ
“กีครับ..กีกำลังเข้าใจต้นผิดนะ” เมื่อว่าอย่างนั้นอีกฝ่ายก็หันมา มือที่เคยแนบชิดผละออกจากกัน
“คนนี้แฟนเก่าต้นไม่ใช่หรอ” ร่างเล็กว่าให้เขากลืนน้ำลายอึกใหญ่
กีรู้..
ตั้งต้นพยักหน้ายอมรับ
“อ้าว..แล้วเราเข้าใจผิดอะไรล่ะ” ว่าแล้วก็ยกมือขึ้นกอดอกรอคำตอบ จนคนที่มีชนักติดหลังเยอะแยะจนกลัวไปก่อนอย่างเขาต้องรีบอธิบายแทบไม่ทัน
“วันนี้คือต้นบังเอิญเจอกับลินข้างใน เขาชวนต้นออกมาคุยกันที่รถเพราะอยากเคลียร์ คือเรื่องของต้นกับลินเราจบกันไม่ค่อยดี และมันก็ค้างคามาหลายปีแล้ว เมื่อก่อนเป็นต้นเองที่ไม่อยากเจอ ไม่อยากเคลียร์กับเขา”
“...”
“แต่ตอนนี้ ต้นอยากให้กีเชื่อต้นนะ ว่าสำหรับต้น เรื่องของลินไม่มีความหมายอีกต่อไปแล้ว ต้นเลยอยากมาคุยให้มันจบ จะได้ไม่ต้องมีอะไรติดค้างอีกต่อไป”
คนตัวเล็กยืนฟังคำอธิบายยืดยาวของเขาตั้งแต่ต้นจนจบโดยไม่ได้พูดอะไร พอเขาเงียบลงเราทั้งสองก็ได้แต่มองหน้ากันไปมา จนในที่สุดเป็นร่างบางที่เอ่ยออกมา
“แล้วตอนนี้คือจบแล้วใช่ไหม” เขาพยักหน้ารับอย่างรวดเร็ว
“ครับ จบแล้วจริงๆ” ไม่ว่าจะด้านดีหรือร้าย เขาไม่มีความรู้สึกใดๆ ให้อีกคนแล้วสักนิด
“งั้นก็ดีแล้ว”
“...”
“แล้วตกลงเราเข้าใจผิดอะไร”
“...”
“...”
“กี...คือต้นมาคุยกับลินที่รถ..ต้น..” ต้นพยายามอธิบายจนลิ้นพันกันไปหมด
“ก็ไหนบอกไม่มีอะไร”
“ไม่มีอะไรจริงๆ” ตั้งต้นรีบยืนยันอีกครั้ง
ตาประสานกัน ทั้งสองจ้องกันอย่างยั่งเชิง จนในที่สุดร่างบางก็เป็นฝ่ายปล่อยสองมือออกจากอก
“งั้น..เราก็เข้าใจถูกแล้วนี่” ว่าแล้วก็ยื่นแขนหนึ่งข้างมาหาเขา
“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว เราขอพาแฟนเรากลับเข้าข้างในได้หรือยัง”
“กี...”
“รู้หรอกน่าว่าไม่มีอะไร แต่วันหลังจะทำอะไรก็บอกกันก่อน ไอ้เรื่องชวนให้เข้าใจผิดนี่เก่งเกินใครจริงๆ นะคุณ”
“ขอโ..”
“พอเลยนะ ไม่ต้องมาขอโทษเลย ทำอะไรคิดหน้าคิดหลังดีๆ ได้ไหม คิดถึงใจเราให้เยอะๆ หน่อยสิคุณตั้งต้น” คนตัวเล็กที่เดินนำอยู่เริ่มโวยวายออกมา ตั้งแต่ลานจอดรถถึงหน้าร้านก็ยังพูดไม่หยุด ตั้งต้นได้แต่จับจ้องใบหน้าของคนที่เชื่อใจเขาเก่งเกินใคร ยกยิ้มให้กับความน่ารักของเจ้าตัวที่นับวันจะน่ารักขึ้นกว่าเดิม
ถ้าเจอแม่กับป๊าอีกครั้งจะต้องถามให้ได้
ตอนเด็กๆ ให้กินอะไรกันนะ
ทำไมถึงโตมาเป็นคนแบบนี้ ทำไมถึงได้น่ารักน่าฟัดได้ขนาดนี้
“ยิ้มอะไรน่ะ คืนนี้นอนพื้นไปเลยนะ”
“ไม่เอา” เขาว่า “เดี๋ยวกีเจ็บหลัง”
“นายนอนพื้น เราจะเจ็บหลังได้ไง”
“ต้นนอนคนเดียวได้ซะที่ไหน ไม่ได้นอนกอดกี ต้นนอนไม่หลับหรอกนะ”
“...” ใครอีกคนทำได้แต่พยายามทำหน้างอ แต่หน้าที่ขึ้นสีแดงก่ำทำให้รู้ว่าอีกฝ่ายพยายามกั้นยิ้มสุดกำลัง
“นะกีนะ ขอต้นนอนด้วยนะ”
“พอเลยนะ วันนี้จะกลับไปนอนกับพี่จี”
“วันนี้พี่จีไม่อยู่สักหน่อย”
“...”
“ไม่ต้องคิดจะไปนอนกับอินเลยนะ สงสารดินมัน”
“...” รู้ทันตลอด
“นอนด้วยกันนี่แหละ ดีที่สุดแล้วเนอะ”
“เออๆ นายนี่ เดี๋ยวนี้พูดมากจริงๆ เลยนะ” เขาหัวเราะ ทำเป็นบ่นนั่นบ่นนี้ ยังไงก็ยอมใจอ่อนให้เขาอยู่ดี
บางทีเขาก็รู้สึกอิจฉาตัวเอง...
แฟนเขานี่...มันดีที่หนึ่งจริงๆ
********
เอาตอนพิเศษมาเสิร์ฟค่ะ ตั้งต้นคนหลงแฟน 555 คือตอนที่จบไปยังมีหลายประเด็นที่ยังไม่ได้ขมวดปม จะค่อยๆ ทยอยมาเรื่อยๆ เนอะ มารอลุ้นไปด้วยกันนะคะ รวมตอนนี้ด้วยจะมีตอนพิเศษทั้งหมดสี่ตอนค่ะ
#ต้นคนรักไม่เป็น