บทที่ 13
หลังจากที่แต่ละคนลงไปเล่นน้ำทะเลกันหมดแล้ว บ้านทั้งบ้านจึงเหลือเพียงแค่มีนากับเมฆาตามลำพัง มีนานั้นจึงตัดสินใจเลี่ยงออกมานั่งเล่นที่ศาลาหน้าบ้านริมสระว่ายน้ำ นั่งจ้องมองพวกพี่ชายและคนอื่นเล่นน้ำทะเลแทน ทั้งนี้เพราะเขารู้สึกเขิน หากจะต้องอยู่กันสองต่อสองกับเมฆานั่นเอง
"หนีพี่มาอยู่ที่นี่เอง พี่เดินตามหาเสียแทบแย่"
เมฆาเดินตามมานั่งตรงข้ามกับอีกฝ่ายพร้อมยิ้มน้อย ๆ ให้ ทว่าคนฟังนั้นมัวแต่รู้สึกเขินที่คนซึ่งตนหนีหน้าเดินมาตาม จึงไม่ทันได้สังเกตรอยยิ้มของชายหนุ่มว่ามันดูผิดแผกแปลกไปจากทุกครั้งที่เคยได้เห็น
"ไม่ได้หนีสักหน่อย! มีนก็แค่อยากมาพักผ่อนนอกบ้านบ้างเท่านั้นเอง!"
"งั้นหรือ... ถ้าอย่างนั้นก็ค่อยยังชั่ว พี่ก็คิดว่ามีนจะเปลี่ยนใจจากพี่ ไปหาคนอื่นแทนเสียแล้วล่ะนะ"
มีนาชะงัก แล้วย้อนถามกลับไปอย่างแปลกใจ เพราะสีหน้ายิ้ม ๆ ของเมฆาตอนนี้มันดูเหยียด ๆ หยัน ๆ เขาชอบกล
"พี่เมฆหมายความว่าไง"
เมฆาจ้องมองเด็กหนุ่ม แล้วเหลือบมองไปยังใครบางคนที่กำลังเล่นน้ำทะเลอยู่ด้วยสายตาที่ค่อนข้างเย็นชา
"ก็หมายความตามที่เห็น...เพื่อนของน้องฟ้าเขาก็น่ารักดีนี่ แถมยังใจดีด้วย เป็นแบบที่น้องมีนชอบเลยไม่ใช่หรือครับ"
มีนานิ่งอึ้งไปชั่วครู่ จากนั้นจึงลุกขึ้นยืนพรวดแล้วยื่นมือไปกระชากคอเสื้ออีกฝ่ายด้วยความโมโหอย่างลืมตัว
"อย่ามาดูถูกกันให้มากนักนะพี่เมฆ! มีนอาจจะดูเหมือนคนใจง่ายในสายตาพี่ก็จริง แต่มีนไม่เคยทำตัวง่าย ๆ รักเร็วเปลี่ยนใจเร็วอย่างที่พี่พูดมาสักหน่อย! พี่เองต่างหากที่ไม่ได้คิดจริงจังอะไรกับมีน แต่พอเห็นมีนดีกับใคร กลับดันมาทำตัวหวงก้างแบบนี้ ใครกันแน่ที่น่าชวนโมโหกว่ากันน่ะ!"
บอกจบเจ้าตัวก็ปล่อยคอเสื้อของชายหนุ่ม ก่อนจะเดินกระแทกเท้ากลับเข้าไปในบ้าน แต่ก็ยังไม่วายหันมาตวาดลั่นใส่คนที่ทำให้ตนโมโหอีกครั้งหนึ่ง
"ไอ้คนงี่เง่า! เห็นแก่ตัว! มีนไม่น่าไปเผลอตกหลุมรักคนงี่เง่าอย่างพี่เข้าให้เลย บ้าที่สุด!"
เมฆานิ่งอึ้งไปชั่วขณะ เขาเห็นอีกฝ่ายน้ำตาคลอก่อนจะวิ่งหนีไป ชายหนุ่มสบถกับตัวเองอย่างหงุดหงิด มาถึงตอนนี้ก็ทำให้เขาพอจะตอบตัวเองได้แล้วว่า เจ้าความรู้สึกที่มันกำลังก่อตัวขึ้นอยู่ขณะนี้ มันคือความหึงหวงที่แทบไม่เคยเกิดขึ้นกับเขามาก่อน ไม่ว่าเขาจะคบกับใครคนไหนก็ตาม
"เฮ้อ! งี่เง่าจริง ๆ ด้วยสินะเรา ...สมแล้วกับที่โดนเด็กมันด่าให้"
เมฆาพึมพำ ก่อนจะตัดสินใจเดินตามคนที่วิ่งหนีเข้าบ้านพักไป ด้วยแววตาที่ฉายแววมุ่งมั่นในบางสิ่ง ผิดจากทุกครั้ง
อีกด้านหนึ่งหลังจากที่วิ่งหนีเมฆาเข้ามาหลบในห้องพัก มีนาก็เอาหน้าซุกหมอนร้องไห้โฮอย่างเจ็บใจ เมื่อโดนคนที่ตนตกหลุมรักพูดจาดูถูกเข้าให้แบบนี้
"ไอ้พี่เมฆงี่เง่า...ตัวเองก็ยังบอกไม่ได้เต็มปาก ว่าชอบเราจริงหรือเปล่า ...ฮึก...ยังจะมาว่าชาวบ้านเค้าใจง่ายอีก...ฮึก...ทำตัวเป็นหมาหวงก้างไปได้!"
คนที่แอบย่องมาดูอยู่หน้าห้องแถมยังถูกเรียกว่าเป็นหมาถึงกับสะดุ้งนิด ๆ ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าปอด แล้วลงมือเคาะประตูห้องที่เปิดแง้มทิ้งไว้เพราะลืมปิดเบา ๆ ทำเอาคนที่กำลังนอนร้องไห้อยู่บนเตียงชะงักกึก รีบหันขวับมามองก่อนจะตวาดใส่เสียงแข็ง
"ตามมาทำไม! ไปให้พ้นหน้าเลยนะ!"
"ไม่ได้หรอกครับ เพราะพี่ตั้งใจจะมาขอโทษน้องมีนนี่ครับ ขืนไปจริงน้องมีนก็ไม่ให้อภัยพี่น่ะสิ"
เมฆาบอกแล้วยิ้มน้อย ๆ แบบขี้เล่นตามปกติทำเอาคนมองชะงักแล้วยันกายขึ้นมานั่งกอดหมอนพร้อมตวาดใส่เสียงห้วน
"ฮึ! ถ้าจะมาขอโทษ สู้ไม่ทำให้โกรธแต่แรกจะง่ายกว่าไหม! ทีเมื่อครู่พูดจาดูถูกเค้า ทีนี้จะมาขอโทษ มีนไม่ใช่ถังขยะรองรับอารมณ์แปรปรวนของพี่เมฆนะ!"
เมฆาลอบถอนหายใจกับถ้อยคำต่อว่ารุนแรงกลับมา แต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้นึกโกรธอะไรอีกฝ่าย เนื่องจากครั้งนี้เป็นเพราะเขานั่นล่ะที่เป็นคนก่อเรื่อง ดังนั้นต่อให้มีนาจะต่อว่าเขารุนแรงกว่านี้เขาก็ไม่มีสิทธิ์โกรธอะไรทั้งนั้น
"ครับ...พี่รู้แล้ว พี่ผิดเองที่พี่พูดไม่ดีกับน้องมีนออกไป แต่ก็เพราะพี่หึงที่เห็นน้องมีนยิ้มหวานให้น้องเจก่อนหน้านั้น ทั้งที่พี่ก็น่าจะรู้ดีว่ารอยยิ้มที่น้องมีนมีให้คนอื่นมันก็เป็นเรื่องปกติ แต่เพราะความหึงหวง มันเลยทำให้พี่ทำตัวแย่ ๆ จนเผลอทำให้น้องมีนเสียใจ ...น้องมีนอภัยให้พี่ด้วยนะครับ"
มีนานิ่งอึ้งพูดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะ ใบหน้าที่ชุ่มรอยน้ำตานั้นบัดนี้แดงระเรื่อ เมื่อได้ยินคำขอโทษที่ปนมากับคำสารภาพของอีกฝ่าย
"กะ...ก็ไหนพี่เมฆเคยบอกว่า...ยังไม่รู้ใจตัวเองว่าคิดยังไงกับมีนยังไงล่ะ..."
มีนาถามออกไปด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก น้ำตาที่เคยไหลตอนนี้มันกลับแห้งเหือดไปเสียดื้อ ๆ อย่างนั้น
"ก่อนหน้านั้นยังไม่รู้ แต่มาตอนนี้พี่รู้แล้วล่ะว่า น้องมีนสำคัญกับพี่มากขนาดไหน..."
เมฆาบอกพร้อมยิ้มมุมปากนิด ๆ อย่างนึกขำแกมเอ็นดู เมื่อคนที่เขาจงใจมาง้อ กลับเขินจนหน้าแดงก่ำ แถมตอนนี้ก็ยังเอาหน้าไปซุกกับหมอนใบใหญ่ที่ตนกอดอยู่ ไม่กล้าโผล่หน้าออกมาสบตากับเขาโดยตรง
"น้องมีนครับ...พี่ว่าตอนนี้พี่เจอคนที่พี่อยากอยู่เคียงข้าง และพร้อมจะซื่อสัตย์ต่อเขาไปเพียงคนเดียวตลอดชีวิตแล้วล่ะนะครับ"
มีนารู้สึกร้อนวูบวาบเหมือนไฟลุกไหม้ไปทั้งตัว เขาไม่กล้าเงยหน้าจากหมอนเพื่อสบตากับชายหนุ่ม เพราะขนาดแค่ได้ยินคำพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มอ่อนโยนของอีกฝ่าย เขาก็รู้สึกเขินเสียจนแทบจะละลายไปเสียเดี๋ยวนั้นแล้ว
เมฆาอมยิ้มน้อย ๆ เมื่อเห็นปฏิกิริยาตอบรับของเด็กหนุ่ม เขาเดินมานั่งตรงหน้าของคนที่ยังคงซุกหลบใบหน้ากับหมอน ก่อนจะตัดสินใจสารภาพรักออกมา
"น้องมีนครับ...พี่ชอบน้องมีนนะ...เป็นแฟนพี่ได้ไหมครับ"
มีนาสะดุ้งโหยง ก่อนจะนิ่งเงียบตัวแข็งไปสักพักจนเมฆานึกแปลกใจ ทว่าพอจะเอื้อมมือไปแตะตัว อีกฝ่ายก็เงยหน้าขึ้นพรวด พร้อมกับจ้องมองชายหนุ่มเขม็งด้วยใบหน้าแดงก่ำ
"พี่เมฆพูดจริงใช่ไหม! พูดแล้วอย่ามากลับคำ หรือบอกว่าล้อเล่นทีหลังนะ! ไม่งั้นมีนจะโกรธพี่ไปตลอดชีวิตเลย คอยดู!"
เมฆานิ่งอึ้งไปชั่วครู่ ก่อนจะหลุดหัวเราะตามมาอย่างห้ามไม่อยู่ ทำเอาคนหน้าแดงสับสน แล้วรีบโพล่งถามตามมาทันที
"พี่เมฆหัวเราะทำไม! ล้อเล่นจริง ๆ สินะ! คนบ้า! บ้าที่สุดเลย!"
เมฆาพยายามกลั้นหัวเราะ แล้วรีบดึงมือของคนที่เข้าใจผิดและจะลุกหนีไปเสียก่อน ทว่าเพราะยังไม่ทันได้ตั้งตัว จึงทำให้คนถูกดึงเสียหลักเซล้มลงมาในอ้อมแขนของคนดึง ทำเอามีนาใจเต้นแรง ตัวร้อนวูบวาบ ส่วนเมฆาพอเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ ชายหนุ่มจึงปล่อยเลยตามเลย แล้วกอดร่างเล็กในอ้อมกอดแน่นด้วยความเอ็นดูแทน
"มีนครับ...พี่ไม่ได้พูดเล่นนะครับ พี่พูดจริง...พี่ชอบมีนจริง ๆ ...มีนเป็นแฟนพี่นะครับ"
มีนารู้สึกว่าหัวใจตัวเองแทบจะหลุดออกมาจากอก มันเต้นแรงเสียจนเขาแน่ใจว่าเมฆาก็คงจะได้ยินมันด้วยเช่นกัน
"...ถ้าชอบแล้วเมื่อครู่พี่เมฆหัวเราะเยาะมีนทำไมกันล่ะ"
"หึ ๆ พี่ไม่ได้หัวเราะเยาะมีนสักหน่อย ที่พี่หัวเราะก็ด้วยความเอ็นดูต่างหาก ...ก็น้องมีนเล่นดีใจแบบน่ารักเสียขนาดนั้น พี่ก็อดขำด้วยความเอ็นดูไม่ได้สิครับ"
คำตอบของชายหนุ่มทำให้มีนาที่หวนคิดตาม หน้าแดงวาบขึ้นมาอีกครั้ง เจ้าตัวซุกหน้าลงกับแผ่นอกกว้างของอีกฝ่ายด้วยความอับอาย ทำให้เมฆาอมยิ้ม ก่อนจะย้ำถามเพื่อต้องการฟังคำตอบจากคนในอ้อมกอดของตนอีกครั้ง
"แล้วตกลงว่าน้องมีนจะยอมเป็นแฟนพี่ หรือไม่ยอมล่ะครับ"
ยังคงไม่มีคำตอบในทันที หากแต่อ้อมแขนเล็ก ๆ นั่นกอดรัดร่างของตนแน่นขึ้น ซึ่งก็ทำให้เมฆาอมยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะเอ่ยตามมา
"ถ้ายังไม่รีบตอบ พี่จะถือว่าน้องมีนตกลงรับรักและยอมรับพี่เป็นแฟนเรียบร้อยแล้วนะครับ ...เอ้า! นับถึงสามนะครับ หนึ่ง...สอง...สา..."
"ตกลงครับ! มีนตกลงเป็นแฟนกับพี่เมฆ!"
มีนารีบดันตัวออกพร้อมโพล่งขัดขึ้นก่อนที่อีกฝ่ายจะนับถึงสาม โดยที่เมฆาเองก็ถึงกับนิ่งอึ้งไปชั่วครู่เพราะไม่คิดว่าเด็กหนุ่มจะกล้าพูดออกมาเช่นนี้
"ก็มีนอยากเป็นฝ่ายบอกด้วยตัวเองเหมือนกันนี่ครับ..."
มีนาบอกตามมาอย่างเขิน ๆ และนั่นก็ทำให้คนมองอดใจไม่ไหว ก่อนจะชะโงกหน้าไปหอมแก้มเนียนใสนั่นฟอดใหญ่อย่างลืมตัว
"น้องมีนของพี่น่ารักจริง ๆ เลยน้า... ดีนะครับที่พี่รู้ใจตัวเองแต่เนิ่น ๆ ขืนรู้นานกว่านี้ เกิดน้องมีนเปลี่ยนใจไปมองคนอื่น พี่คงเศร้าแน่"
มีนามองตอบอย่างเอียงอาย แล้วจึงชะโงกหน้าไปหอมแก้มของอีกฝ่ายอย่างประจบบ้าง
"มีนเป็นคนชอบอะไรง่าย ๆ ก็จริง แต่ตัดใจยากนะ... เพราะงั้นมีนไม่เปลี่ยนใจง่าย ๆ แน่ ...พี่เมฆนั่นล่ะ ถ้านอกใจเมื่อไหร่ล่ะก็ มีนจะบอกให้พี่ฟ้าฝากบอกพี่ซัน ให้เล่นงานพี่เมฆให้หนักแน่ คอยดู!"
เมฆายิ้มเจื่อนกับคำขู่ ที่ดูไม่ค่อยเหมือนจะเป็นการล้อเล่นจากอีกฝ่าย และเขาเองนั้นเชื่อมั่นว่า หากเวหาเป็นคนขอร้อง ต่อให้เป็นเรื่องเหลวไหลหรือ ไร้สาระเพียงใด รวีก็คงพร้อมจะยอมทำตามทุกอย่าง ต่อให้เรื่องนั้นมันจะเกี่ยวกับสวัสดิภาพความปลอดภัยของเพื่อนสนิทอย่างเขาก็ตามทีล่ะนะ
"ครับ ๆ ยังไงพี่ก็ไม่กล้านอกใจแน่ แต่แหม! แฟนพี่คนนี้นี่นะ เห็นน่ารักขนาดนี้ แต่ดุใช่เล่นนะเนี่ย"
มีนาค้อนให้นิด ๆ อย่างหมั่นไส้ จากนั้นเมฆาจึงชวนเด็กหนุ่มออกจากห้องไปนั่งคุยเล่นที่ห้องรับแขกด้านล่างแทน เพราะเขาเกรงว่าขืนอยู่ในห้องนอนกันสองต่อสอง คุยกันไปอ้อนกันมานานกว่านี้อีกนิด เขาคงจะได้ตบะแตกเผลอลืมตัวจับอีกฝ่ายปล้ำเข้าให้ก็ได้ ซึ่งหลังจากนี้แล้ว เขาค่อนข้างมั่นใจว่าวารีเองหากรู้เรื่องนี้ ก็คงจะต้องยื่นเงื่อนไขเดียวกับที่เพื่อนสนิทโดนกับเขาเข้าด้วยอีกคนเป็นแน่ ดังนั้นเขาก็ควรจะหัดฝึกความอดทนของตนเองให้ชินไว้เสียก่อนแบบนี้แต่เนิ่น ๆ บ้างนั่นล่ะนะ!
ทางด้านรวีนั้นหลังจากออกไปเล่นน้ำกับพวกเวหาได้สักครู่ใหญ่ชายหนุ่มจึงขอตัวมานั่งพักที่ริมหาด เพราะรู้สึกไม่ค่อยชินกับอากาศร้อนของเมืองไทยนัก แต่พอรวีนั่งหลบใต้ร่มกันแดดริมหาดอยู่ได้สักพัก เวหาก็วิ่งขึ้นมาจากทะเลและเดินผ่านอีกฝ่ายไป ทว่าพอชายหนุ่มขยับจะลุกตามก็กลับถูกเวหาสั่งให้รอที่นี่ก่อน ทำให้รวีถึงกับหน้าสลด ทว่าพอเด็กหนุ่มกลับมาอีกครั้งพร้อมน้ำเย็นและผ้าขนหนูชุบน้ำเย็นเฉียบก็ทำให้คนที่นั่งหน้าจ๋อยอยู่ถึงกับนิ่งอึ้งอย่างตกตะลึงระคนยินดี
"ขอโทษนะครับ ฟ้าเองก็ลืมไปว่า พี่ซันน่ะอยู่เมืองนอกมานาน คงจะไม่ค่อยชินอากาศเมืองไทยนัก"
เวหาบอกด้วยสีหน้ารู้สึกผิด ทว่ากลับทำให้คนที่จ้องมองอยู่สะดุ้งแล้วรีบบอกตามมา
"น้องฟ้าอย่าโทษตัวเองเลยนะครับ! ไม่ใช่ความผิดของน้องฟ้าสักหน่อย! มันเป็นเพราะพี่อยากอยู่ใกล้น้องฟ้าตลอดไม่อยากห่างไปไหนต่างหาก ...แต่บางทีพี่ก็ลืมลิมิตตัวเองไปบ้าง เลยต้องมานั่งหมดสภาพไม่น่าดูแบบนี้ล่ะนะครับ"
รวียิ้มเจื่อน ๆ แต่กลับทำให้เด็กหนุ่มชะงักแล้วจึงมีรอยยิ้มตามมา จากนั้นเจ้าตัวจึงส่งแก้วน้ำเย็นยื่นให้กับรวี ซึ่งรวีก็รับมาดื่มพร้อมรอยยิ้มกว้าง แต่แล้วชายหนุ่มก็ต้องนิ่งอึ้ง เมื่อเวหานำผ้าเย็นที่ติดตัวมาด้วยช่วยซับหน้าของตนเบา ๆ
"ทุกสิ่งที่พี่ซันทำไปทั้งหมดก็เพื่อฟ้าไม่ใช่หรือครับ เพราะฉะนั้นสำหรับฟ้าแล้ว ไม่ว่าพี่ซันจะเป็นยังไง พี่ซันก็เท่สำหรับฟ้าเสมอนะครับ"
รวีตกตะลึงพูดอะไรแทบไม่ออก ส่วนทางด้านเวหานั้นหน้าแดงระเรื่อ เจ้าตัวเหลือบไปมองที่ทะเล ก็เห็นว่าเพื่อนทั้งสองทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แถมยังแสร้งหันไปมองทางอื่น แต่ถึงกระนั้นก็ยังคงแอบหันมามองในบางครั้ง จนคนที่กำลังจ้องอยู่ต้องสั่นศีรษะอย่างระอา
"ถ้างั้นเดี๋ยวผมไปเล่นน้ำต่อนะครับ"
เวหาบอกแล้วลุกขึ้นยืน หากแต่ก็ต้องชะงักเมื่อรวีนั้นรีบจับมือของตนรั้งเอาไว้ก่อน
"มีอะไรหรือครับพี่ซัน"
รวีนิ่งอึ้งต่อการกระทำของตัวเอง ชายหนุ่มมีทีท่าลังเลและคิดหนักอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะตัดสินใจโพล่งออกไปอย่างลืมตัวในที่สุด
"เป็นแฟนกับพี่นะครับน้องฟ้า!"
เวหานิ่งอึ้งหน้าแดงระเรื่อ โชคดีที่พวกเวทิตกับเจตต์นั้นเล่นน้ำอยู่ห่างไปไกล จึงทำให้ทั้งคู่ไม่ได้ยินในสิ่งที่รวีพูดออกมา
"เอ่อ...แล้วถ้าฟ้าบอกว่ายังไม่พร้อมล่ะครับ"
เวหาตอบกลับไปเสียงแผ่ว แต่นั่นกลับทำให้คนฟังหัวใจกระตุกวูบ ทว่าไม่นานเจ้าตัวก็มีรอยยิ้มน้อย ๆ ให้ได้เห็น
"ไม่เป็นไรครับ ยังไม่พร้อมตอนนี้พี่ก็จะรอจนกว่าน้องฟ้าจะพร้อม"
เวหาอมยิ้ม แล้วจึงแสร้งถามต่อ
"แล้วถ้าฟ้าเกิดยังไม่พร้อมต่อไปเรื่อย ๆ พี่ซันก็จะยังคงรอฟ้าต่อไปเรื่อย ๆ อีกหรือครับ"
รวีชะงักกึก เขาเงียบไปสักพัก ก่อนจะเผยรอยยิ้มอ่อนโยนให้กับเด็กหนุ่มตรงหน้าตน
"ถ้าเป็นการรอที่ยังคงมีความหวัง พี่ก็พร้อมจะรอครับ...ไม่ว่าจะใช้เวลากี่เดือนกี่ปีก็ตาม"
เวหาฟังแล้วก็ถึงกับนิ่งอึ้ง เจ้าตัวก้มหน้านิ่งเงียบไปชั่วครู่จนรวีใจเสีย เพราะคิดว่าเด็กหนุ่มอาจจะไม่พอใจที่เขาตื๊อเกินไปก็เป็นได้
"น้องฟ้า...พี่ขอโทษนะครับ...น้องฟ้าโกรธพี่หรือครับ"
"ใครว่าล่ะครับ"
เวหาเงยหน้าขึ้นมามองอีกฝ่ายพร้อมรอยยิ้มหวาน ก่อนจะใช้มืออีกข้างเอื้อมไปจับมือข้างที่เกาะกุมข้อมือเขาอยู่แผ่วเบา
"ฟ้าให้พี่ซันรอมาตั้งหลายปีแล้ว...ฟ้าไม่ใจร้ายให้พี่ต้องรอต่อไปอีกหรอกนะครับ"
รวีนิ่งอึ้งไปชั่วครู่ เจ้าตัวทวนคำไปมา แล้วจึงโพล่งขึ้นอย่างตกใจ
"แสดงว่าน้องฟ้ายอมตอบรับเป็นแฟนพี่แล้วหรือครับ!"
เวหาหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะพยักหน้าพร้อมยิ้มอย่างเขินอายนิด ๆ
"ครับ...ผมยินดีเป็นแฟนกับพี่ซันครับ"
รวีเบิกตากว้างพร้อมกับดึงร่างตรงหน้ามาหาตน จนเวหาเสียหลักล้มลงไปในอ้อมกอดของอีกฝ่าย หากแต่รวีนั้นไม่สนใจเขากอดรัดร่างนั้นแน่นอย่างยินดีเป็นที่สุด ทำเอาเวหารู้สึกอายจนทำอะไรไม่ถูก ส่วนพวกเจตต์กับเวทิตที่หันมาเห็นเข้าก็พากันนิ่งอึ้ง แล้วจึงตัดสินใจกึ่งเดินกึ่งแหวกว่ายกลับเข้ามาฝั่ง และแม้ว่าจะมีคนมายืนจ้องอยู่ไม่ห่างนัก หากแต่ชายหนุ่มก็ยังคงกอดร่างในอ้อมกอดพร้อมกระซิบคำรักรวมถึงหอมแก้มคนในอ้อมกอดจนฉ่ำปอด เสียจนเจตต์ต้องสะกิดเวทิตแล้วพากันกลับเข้าบ้านพักไปก่อน แต่ก็ยังไม่วายขยิบตาให้เพื่อนสนิท ที่ตอนนี้กำลังหน้าแดงและเริ่มดิ้นขลุกขลักเพราะความเขินอายเต็มที่
"พี่ซัน...ปล่อยฟ้าก่อนครับ"
"ครับ ๆ ปล่อยแน่ แต่ขอกอดอีกนิดนะครับ"
รวีบอกแล้วหอมแก้มซ้ายขวาของคนในอ้อมกอดอีกครั้ง
"พี่ซัน...ฟ้าอายนะครับ ที่โล่งแจ้งขนาดนี้"
เวหาประท้วงต่อ แต่ดูเหมือนว่าคนกอดจะไม่สนใจ แถมยังยิ้มให้แทนอีกต่างหาก
"ไม่เป็นไรครับ ถ้าน้องฟ้าอายก็ซุกหน้ากับอกพี่ก็ได้"
เวหาหน้าแดงก่ำ ไม่รู้จะพูดอะไรอีก เพราะไม่ว่าจะพูดอะไรออกไป รวีก็มีข้ออ้างมาแย้งได้ทุกที ทว่าสักพักเด็กหนุ่มก็ได้ยินเสียงฝีเท้าใกล้เข้ามา พร้อมกับเสียงตะโกนโวยวายที่คุ้นเคยดังลั่นขึ้น
"นี่พี่ซัน! ปล่อยพี่ชายมีนเดี๋ยวนี้นะ!"
รวีเงยหน้ามองน้องชายคนรัก แล้วยิ้มน้อย ๆ พร้อมกับเอ่ยตอบอย่างอารมณ์ดี
"แต่พี่ชายน้องมีน ตอนนี้เป็นแฟนพี่แล้วนะครับ"
มีนาชะงัก แล้วหันขวับไปมองพี่ชายพร้อมเอ่ยถามอย่างคาดคั้น
"จริงหรือพี่ฟ้า!"
เวหาหน้าแดงวาบ ยิ่งเห็นเมฆาเดินตามน้องชายมาแล้วยิ้มล้อเลียนให้ตนเขาก็ยิ่งอายใหญ่ มองไปด้านหลังก็เห็นเจตต์กับเวทิตโบกมือแล้วฉีกยิ้มกว้างชูสองนิ้วให้ เวหาก็แทบอยากจะมุดทรายหนีไปเสียเดี๋ยวนั้น
"แหม ๆ ไอ้เราก็คิดว่า คู่ของเราจะมาแรงแซงโค้งคู่เดียวเสียอีกเนอะน้องมีน ไม่คิดเลยว่าเจ้าซันก็ไม่ยอมแพ้ ชิงสารภาพรักกับน้องฟ้าเข้าให้เหมือนกัน"
เมฆาเปรยขึ้นอย่างอารมณ์ดี ทว่าคำพูดของชายหนุ่มนั้นทำให้มีนาหันขวับมาถลึงตาจ้องดุ ๆ ด้วยความอาย ส่วนรวีกับเวหาพากันนิ่งอึ้ง พอ ๆ กับเจตต์และเวทิตที่อยู่ด้วยแถวนั้น
"พี่เมฆ! บอกเขาไปทำไมกันเล่า! มีนอายนะ!"
เมฆามองคนขี้อายของตนแล้วอมยิ้มอย่างนึกขำแกมเอ็นดู เพราะอีกฝ่ายนั้นไม่ได้แก้ตัวปฏิเสธ แต่กลับทำเป็นดุใส่เขาแทน ด้วยใบหน้าที่แดงระเรื่อน่ารักนั้น
"ก็คิดบ้างหรอกว่าคู่นี้ก็แปลก ๆ เหมือนกัน ...มิน่าล่ะตอนที่ฉันจะไปเล่นน้ำ พอเดินผ่านพี่เมฆ ยังนึก ๆ อยู่ว่าทำไมถึงเสียวสันหลังวาบ ๆ คล้ายจะโดนเขม่น ฮ่า ๆ ที่แท้ก็งี้นี่เอง!"
เจตต์ที่หัวไวประมวลสถานการณ์รอบด้านได้อย่างรวดเร็วเปรยขึ้นแล้วหัวเราะตามมา ทำเอามีนาสะดุ้งโหยงแล้วหน้าแดงก่ำ เด็กหนุ่มพยายามจะแก้ตัวด้วยความอาย แต่พูดไม่ออก เห็นดังนั้นเวทิตเลยตบหลังเพื่อนไปหนึ่งฉาด โทษฐานที่ทำให้น้องชายของเพื่อนสนิทต้องอับอายเช่นนี้
"ขอโทษน้องมีนด้วยแล้วกันที่หมอนี่พูดไม่ค่อยคิด ว่าแต่แทนที่จะมา สวีทหวานกันท่ามกลางแสงแดดช่วงบ่ายแบบนี้ ผมว่าเข้าไปพักในห้อง แล้วเปิดแอร์เย็น ๆ คุยกันแทนไม่ดีกว่าหรือครับ"
เวทิตที่กลัวเพื่อนจะเป็นลมแดดเอาเข้าเสียก่อนเสนอความเห็น ทำให้เวหารีบพยักหน้าหงึกหงักเห็นดีด้วย ซึ่งรวีก็ทำเสียงในลำคออย่างนึกเสียดาย ก่อนจะยิ้มหวานตามมาหลังจากนั้น
"โอเคครับ งั้นไปกอดกันในบ้านต่อก็ได้"
"คุยกันต่างหากครับ ไม่ใช่กอด!"
เวหารีบแย้ง แล้วผลักคนที่คลายอ้อมกอดออกให้ตน อย่างนึกหมั่นไส้ ก่อนจะรีบวิ่งหนีไปโดยที่รวีไม่ทันตั้งตัว
"เดี๋ยวครับน้องฟ้า! รอพี่ก่อน! พี่ไปด้วย!"
รวีรีบวิ่งตามเด็กหนุ่มไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้แต่ละคนที่เหลือพากันถอนหายใจเฮือกใหญ่ แต่พอเจตต์หันมาสบตากับมีนา คนตัวเล็กก็หน้าแดงวาบแล้วรีบหลบไปยืนด้านหลังเมฆาด้วยความอาย ทำให้เจตต์นึกขำและคิดจะแกล้งแหย่ให้อีกฝ่ายอายเพิ่มขึ้น
"เฮ้อ! ขนาดน้องมีนก็ยังมีแฟนแล้วแบบนี้ ก็กลายเป็นว่าหนุ่มโสดซิง ในกลุ่มก็เหลือแต่พี่คนเดียวแล้วสิครับ เหงาจัง...อุตส่าห์คิดว่าน้องมีนยังว่างเหมือนกัน เลยจะจีบเสียหน่อยเชียว!"
เวทิตมองเพื่อนสนิทที่ชอบปากหาเรื่องอย่างเอือมระอา ส่วนเมฆานั้นกระแอมเบา ๆ แล้วจึงแสร้งเปรยขึ้นบ้าง
"พี่จะบอกให้ซันมันติดต่อญาติของมันให้น้องเจเสียวันสองวันนี้เลยดีไหมครับ เผื่อน้องเจจะได้ไม่เหงา และจะได้ไม่มีเวลาว่างมาเที่ยวแซวแฟนชาวบ้านเขาแบบนี้"
เมฆาบอกแล้วยิ้มเยียบเย็นเสียจนเจตต์สะดุ้งโหยง ก่อนจะรีบสั่นศีรษะไปมายกใหญ่
"โอ๊ย! ไม่เอาเด็ดขาดครับ! ผมยังไม่อยากตายก่อนวัยอันควร!"
เมฆาชะงักก่อนจะหลุดหัวเราะเสียงดังอย่างลืมตัว แล้วจึงตบบ่าอีกฝ่ายพร้อมยิ้มน้อย ๆ ให้
"พี่ล้อเล่นน่ะ อีกอย่างญาติเจ้าซันมันก็ไม่ได้โหดขนาดนั้นหรอก ไอ้ที่บอกว่าเป่าทิ้งนั่นเขาก็แค่คิดจะยิงขู่ แต่บังเอิญมือมันดันเผลอไปเหนี่ยวไก ก็เลยกลายเป็นลือกันไปว่าหมอนั่นเป็นพวกหึงโหดก็แค่นั้นเองล่ะ"
เจตต์ยิ้มเจื่อน ๆ เมื่อได้รับฟัง เขาไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายนั้นพูดเรื่องจริงหรืออำเขาเล่นกันแน่ แต่เท่าที่รู้เขาปฏิเสธไว้ก่อนเห็นจะดีเป็นที่สุด
"ง่า...ผมว่าตอนนี้ผมเป็นโสดไปก่อนจะดีกว่า เพราะฟังที่พี่เมฆเล่ามันยิ่งทำให้ผมหายเหงาเข้าไปใหญ่เลยครับ"
เมฆาอมยิ้มมองคนพูด ที่ตอนนี้กำลังรีบดึงเพื่อนกลับเข้าบ้านพักไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงเหลือบมามองคนข้างกายที่ขยับมาจับมือเขา พร้อมบ่นอุบอิบด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ
"เข้าบ้านกันเถอะพี่เมฆ...ขืนช้ากว่านี้เพื่อนพี่ก็ปล้ำพี่ชายผมเข้าให้พอดี!"
เมฆาเลิกคิ้วนิด ๆ ก่อนจะทำท่าเป็นนึกอะไรบางอย่าง
"นั่นสิ...ขนาดน้องฟ้ายังไม่ตอบรับรัก เจ้าซันยังคลั่งไคล้เสียขนาดนั้น นี่ยอมตอบตกลงเป็นแฟนกันเรียบร้อย เจ้าซันมีหวังของขึ้น จนเผลอลืมตัวผิดคำสัญญาที่เคยให้ไว้กับน้าวารีเข้าให้แน่..."
ยังไม่ทันพูดจบดี มีนาก็ตาเบิกกว้างแล้วรีบดึงมือชายหนุ่มลากเข้าไปในบ้านพักอย่างรวดเร็ว ทำเอาเมฆาถึงกับอมยิ้มอย่างเอ็นดู ที่ถึงแม้มีนาจะเป็นห่วงสวัสดิภาพของพี่ชายสักเพียงใดก็ตาม แต่เจ้าตัวก็ยังคงไม่ลืมเขา และจูงมือพาไปด้วยกันแบบนี้อยู่ดีนั่นเอง
..... TBC ...
พรุ่งนี้จะลงตอนจบ(14) และตอนพิเศษให้ช่วงเย็นๆ ค่ำ ๆ นะคะ ^^ (วันนี้ก็เกือบลืมโพส พอดีงานเข้ากว่าจะเสร็จก็ช่วงเย็นละ)
สำหรับเรื่องนี้หลายคนอาจจะคิดว่าดำเนินเรื่องเร็ว รักกันง่ายไปนิด ยังไงก็ขออภัยด้วยนะคะ พอดีปัดตั้งใจจะเขียนสั้น ๆ ง่าย ๆ ไร้ปมซ่อนเงื่อน อยู่แล้ว ก็เลยรวบรัดอย่างที่เห็น...แต่ถึงยังไงก็ตั้งใจเขียนให้คนอ่านได้มีรอยยิ้มกันบ้าง และรู้สึกดีใจมากๆ เวลาอ่านคอมเมนต์แล้วนักอ่านแต่ละท่านบอกว่าเรื่องนี้ชวนให้ยิ้มได้ ...ในฐานะคนเขียนก็รู้สึกปลื้มใจมาก และดีใจที่มีคนชอบสไตล์การแต่งเรื่อยเปื่อยเช่นนี้อยู่เหมือนกัน ^^ และหวังว่าภาคต่อไปของน้องเจกับคุณญาติของพี่ซัน ก็จะสามารถสร้างรอยยิ้มให้กับนักอ่านที่รออยู่ได้ไม่มากก็น้อยนะคะ