ย่องๆๆมาอัพเพิ่มให้อีกตอน..ไ
+++++++++++++++++++++++++++++++++
ตอนที่ 45....ช่วงเวลาอ่อนแอ
คุณหมอคะ...คุณหมอ..คุณหมอ...”
“ คะ..ครับ..ว่างัยนะครับป้าแดง... ..”.
“ คุณหมอไม่สบายรึปล่าวคะ..ดูหน้าซีดๆ..”
“ ปล่าวครับ...แค่รู้สึกปวดหัว..นิดหน่อยครับ..พักซักหน่อยก้อคงหาย..”
“ งั้นวันนี้จะให้ป้าไปเอากับข้าวที่ร้านให้มั๊ยคะ..เพราะเดี๋ยวป้าเลิกงานแล้วจะได้เลยไปทำงานบ้านให้คุณหมอเลย..”
“ ครับ...งั้นก้อฝากด้วยนะครับ..”
“ แล้วตุณหมอจะทานข้าวก่อนไปขึ้นเวรมั๊ยคะ..”
“ ไม่หรอกครับ เดี๋ยวไปทานที่โน่นเลย..”
“ อย่าลืมทานนะคะ..ตอนเที่ยงป้าก้อเห็นทานนิดเดียว..”
“ ครับ...งั้นเดี๋ยวผมไปขึ้นเวรเลยนะครับ..”
วันนี้ผมรู้สึกปวดหัวแล้วก้อเพลียๆ คงไม่เพราะผมทานข้าวไม่ค่อยได้มาหลายวัน โรคกระเพราะก้อคงกำเริบแหละครับ แต่อาจจะมีไมเกรนด้วย
เพราะช่วงนี้ผมนอนไม่หลับติดต่อกันมาหลายคืนแล้ว แต่ก้อทานยาไปแล้วครับ คิดว่าซักพักน่าจะดีขึ้น
ผมเดินไปนั่งเล่นในรถซักพัก พอหายปวดหัวค่อยขัยรถไปขึ้นเวรต่อที่โรงพยาบาลครับ
สามทุ่มผมขับรถกลับถึงบ้านด้วยความเพลียกลับไปถึงก้อเจอแทนกำลังนั่งดูทีวีอยู่ครับ
แปลกจัง..ทำไมวันนี้กลับเร็ว
“ กลับมาแล้วเหรอแทน..”
“ ครับ..วันนี้งานเสร็จเร็ว..... ..”
“ คุณกร..ทำไมหน้าคุณซีดจัง..ไม่สบายรึปล่าวครับ..”
“ ไม่หรอก..คนไข้เยอะนิดหน่อย ชั้นไปอาบน้ำก่อนนะเพลียมาก..”
ผมรู้สึกไมค่อยสบายเลยรีบตัดบทแล้วเดินเข้าห้องนอนไปทันที...
เข้าห้องน้ำอาบน้ำเสร็จผมก้อรีบเข้านอนทันที ตอนนี้ผมปวดหัวมาก ไม่อยากทำอะไรเลย อยากนอนนิ่งๆแค่นั้นครับ
ซักพักผมก้อได้ยินเสียงคนล้มตัวนอนข้างๆ แล้วก้อมีริมฝีปากมาจูบที่หน้าผากผมพร้อมกับคำพูดเบาๆ
“ ราตรีสวัสดิ์นะครับ..”
นี่แหละครับ..ชีวิตประจำวันของเรา นับวันเราก้อยิ่งเจอหน้ากัน พูดคุยกันน้อยลงเรื่อยๆ จะได้เจอกันก้อตอนจะเข้านอนแค่นั้นครับ
แต่ก้อแทบจะไม่ได้พูดคุยอะไรกันมาก ถ้าไม่เค้าเหนื่อยก้อผมเหนื่อยครับ จนทุกวันนี้เราแทบจะได้คุยกันวันละไม่ถึงชั่วโมงเลยครับ
ยิ่งเดือนนี้แทนเค้าเริ่มเข้ากะ โอกาสที่เราจะเจอกันก้อยิ่งน้อยลง เหมือนคนไม่ได้อยู่ด้วยกันเลยครับ
ความจริงแล้วผมก้ออยากจะโกรธเค้านะครับ แต่พอนึกถึงวันที่เค้าได้เงินเดือนใหม่ครั้งแรก แล้วเค้าเอาเงินเดือนครึ่งนึงไปซื้อแหวนให้ผม
แล้วเอามาสวมให้ผมด้วยท่าทางภูมืใจและมีความสุข..แค่นี้ผมก้อโกรธไม่ลงแล้วครับ
ผมมั่นใจนะครับ ว่าเค้ายังคงรักผมเหมือนเดิม เพียงแค่ตอนนี้ทุกอย่างมันยังไม่เข้าที่เข้าทางแค่นั้นเอง...ผมได้แต่หวังว่ามันจะลงตัวเร็วๆนี้นะครับ
วันนี้ผมไม่ต้องไปขึ้นเวรที่อื่นแต่ต้องต่อเวรที่นี่จนถึงเที่ยงคืน แทนเองก้อเข้ากะบ่ายด้วยครับวันนี้ ก้อเลยจะไม่กลับจะค้างที่หอพักของโรงงานเลยครับ
วันนี้อาการปวดหัว ปวดท้อง ทานอะไรไม่ได้ ก้อยังอยู่ครับ..ผมไม่รู้ว่าช่วงยี้ผมเป็นอะไร ดูอ่อนแอๆยังงัยก้อไม่รู้ครับ
ผมกะว่าเย็นนี้ถ้าไม่มีคนไข้ผมจะไปหาหมอนพ เพื่อนที่เป็นหมอMed ให้ช่วยสั่งยาให้ครับ
นั่งรอคนไข้ไปได้ซักพักผมก้อได้ยินเสียงประกาศ CPR ที่ ER..... CPR ที่ ER
ผมได้ยินก้อรีบลุกเพื่อที่จะไปช่วย CPR แต่ผมคงจะลุกเร็วไปหน่อย เพราะผมรู้สึกเวียนหัวแล้วทุกอย่างก้อดับวูบครับ
“ คุณหมอฟื้นแล้ว.... ..”
ผมได้ยินเสียงคนคุยกันแว่วๆก้อเลยหลับตาอีกซักพักก่อนจะค่อยๆลืมตาขึ้นครับ
พอลืมตาผมก้อเจอหน้า หมอนพเพิ่อนผม กับพี่กุลหัวหน้าพยาบาล แล้วก้อมีพยาบาลอีกคนครับ
“ ผมเป็นลมเหรอครับ..”
“ ใช่แล้วหมอกร..คุณเพลีย แถมยัง hypo อีกต่างหาก ก้อเลยหน้ามึดเป็นลมเอาหนะ ผมก้อเลยสั่งIV ให้คุณสองกระปุก ..”
“ เห็นบอกว่าช่วงนี้ไม่ค่อยกินข้าว งั้นก้อกินIV ไปก่อนแล้วกันนะ..” หมอนพแซวผมแบบยิ้มๆครับ
“ สองพอนะหมอนพ..ผมไม่ชอบนอนนานๆหนะ..”
“ นานไม่นานก้ออย่างน้อยก้อต้องสองวันแหละ เพราะพรุ่งนี้ ผมจะทำ scope ดูแผลในกระเพาะ ให้คุณด้วย..”
“ สองวันก้อพอได้ แต่อย่าถึงสามวันเลยนะ..”
“ ไม่รู้หละ ถ้าคุณดื้อไม่กินข้าว ก้อต้องอยู่กินน้ำเกลือไปเรื่อยๆแบบนี้แหละ..”
“ เอาหละคุณพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าผมมาเยี่ยมอีกที..”
พอหมอกับพี่พยาบาลออกไป ผมก้อหลับตานอนคิดอะไรไปเรื่อยครับ
เฮ้อ..ทำไมช่วงนี้เราอ่อนแอจังเลยนะ ขณะที่คิด มือผมก้อลูบไล้ไปที่แหวนที่แทนซื้อให้ ที่ผมสวมไว้ที่นิ้วนางข้างขวา โดยไม่รู้ตัวครับ
ตอนนี้ผมรู้สึกเพลียมาก ยังไม่อยากจะคิดอะไร และยังไม่อยากให้ใครรู้ด้วยครับ ว่าผมไม่สบาย ผมก้อเลยยังไม่โทรบอกใคร
นอนโรงพยาบาลแค่นี้ผมอยู่คนเดียวได้ครับ ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ก้อโรงพยาบาลถือเป้นบ้านหลังที่สองของผมอยู่แล้วนี่ครับ
แต่ผมก้ออดน้อยใจไม่ได้นะครับ ว่าใจคอวันนี้ทั้งวัน แทนเค้าจะไม่โทรหาผมรึงัยนะ
ถึงจะบอกกันไว้แล้วว่าวันนี้ต่างคนต่างขึ้นเวรกะบ่ายก้อเถอะ ช่วงพักตอนเย็นก้อน่าจะโทรมาหาผมบ้างแต่นี่อะไร เล่นเงียบไปเลย
ขณะที่คิดไป มือผมก้อควานไปที่หัวเตียงเพื่อหาโทรศัพท์
เจอแล้วครับ
5 สายที่ไม่ได้รับ จากแทนทั้งหมดครับ เป็นช่วงทุ่มนึงที่ผมยังหลับอยู่ด้วย แสดงว่าแทนก้อยังโทรหาผมตามปกติครับ
แต่ผมไม่ได้รับแค่นั้นเอง ผมก้อไม่น่าที่จะไปคิดน้อยใจเค้าเลยครับ คิดได้แบบนี้ผมก้อเลยกดโทรศัพท์ไปหาแทนซะหน่อย
แต่คงไม่บอกหรอกครับว่าผมนอนโรงบาล เดี๋ยวจะเป็นห่วงซะเปล่าๆ
ตื๊ด....ตื๊ด....
ไม่มีสัญญาณ ..สงสัยแบตหมดหรือไม่ก้ออยู่ในโรงงานเลยไม่มีสัญญาณครับ
ขณะที่ผมกำลังลังเลว่าจะโทรอีกหรือไม่โทรดี เสียงโทรศัพท์ผมก้อดังขึ้นครับ
“ ครับแม่.... ..”
“ กรเป็นงัยลูก ทำไมช่วงนี้ดูเงียบๆกันไป ไม่กลับบ้านบ้างเลย..”
พอได้ยินเสียงแม่ ผมก้อรู้สึกว่าผมกลับไปเป็นเด็กชาย ธนกร เด็กผู้ชายตัวเล็กๆ ขี้แย คนเดิมครับ
“ พอดีช่วงนี้กรยุ่งๆขึ้นเวรเพิ่ม แล้วแทนเค้าก้อพึ่งเริ่มงานใหม่ ก้อเลยยุ่งๆกันทั้งสองคนครับ..”
“ งั้นเหรอ แม่ก้อนึกว่ามีปัญหาอะไรกัน..”
“ แล้วทำไมเสียงกรเป็นแบบนั้นหละลูก..”
พอแม่พูดแบบนี้ผมก้อยิ่งรู้สึกว่าความเข้มแข็งที่ผมพยายามสร้างกำลังจะพังลงครับ
“ กรไม่สบายนิดหน่อยครับแม่..”
“ เสียงแบบนี้คงไม่นิดแล้วหละ แล้วนี่กรอยู่ไหน..”
“ กรนอนแอดมิทอยู่ที่โรงบาลครับ..”
“ แอดมิท...งั้นก้อแสดงว่าเป็นหนักสิ..”
“ ไม่หรอกครับ กรเพลียๆก้อเลยนอนให้น้ำเกลือเฉยๆ แม่ไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวพรุ่งนี้ก้อน่าจะได้ออกครับ ..”
“ งั้นเหรอ แล้วนี่ใครนอนเฝ้า...แทนเหรอ ..ขอแม่คุยกับแทนหน่อย..”
“ เอ่อ...เอ่อ...กรอยู่คนเดียวครับ..พอดีวันนี้แทนเข้ากะบ่ายก้อเลยไม่ได้กลับครับ..”
แม่ผมเงียบไปครู่นึง.....แล้วก้อพูดกับผมด้วยเสียงเครือๆเหมือนกับจะร้องไห้ครับ
“ คืนนี้กรอยู่คนเดียวไปก่อนนะลูก..พรุ่งนี้แม่จะให้ตาไปส่งแต่เช้า..”
“ กรอยู่ได้ครับแม่ ปกติกรก้ออยู่โรงพยาบาลประจำอยู่แล้ว..”
“ อยู่แบบเป็นหมอ กับ แบบเป็นคนไข้ มันไม่เหมือนกันหรอกลูก ..”
“ งั้นกรรีบนอนเถอะ ..พรุ่งนี้แม่จะไปแต่เช้า..”
“ ครับแม่.. ..”
หลังจากได้คุยกับแม่ผมก้อรู้สึกว่าใจผมอบอุ่นขึ้น เข้มแข็งขึ้น เพราะไม่ว่ายังงัยเมื่อไหร่ แม่ก้อรักและเข้าใจผมเสมอ
แม่รู้ว่าผมกำลังรู้สึกยังงัยโดยที่ผมไม่ต้องพูดอะไรเลย
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++