Lesson 36
( Autt Part )
“เฮ้ย อย่าทำอะไรบ้าๆนะเว้ย” ผมสะบัดมือจนหลุดแล้ววิ่งไปที่ประตูแต่ผมคงช้าไป
“งั้นก็รอก่อน เดี๋ยวจะไปส่ง” มันมายืนขวางประตูไว้
“ก็บอกว่า....เหวออออ” ผมโดนผลักอย่างแรงจนล้มลงไปบนที่นอนส่วนไอ้วินก็ตามมากดข้อมือผมไว้กับเตียง
“เออๆ รอก็ได้ปล่อยก่อนเซ้” ผมโวยวายเสียงดังเพราะสภาพในตอนนี้ผมเสียเปรียบอย่างแรงเลยทีเดียว
“ก็แค่เนี่ย จะเรื่องมากทำไม” มันลุกออกไปจากตัวผมแล้วล้มตัวลงนอนส่วนผมก็ลุกขึ้นไปนั่งที่โซฟา
“นี่ไม่มีอะไรให้บ้างหรอ เบื่อว่ะ” ผมบอกมัน
“มีโน๊ตบุ๊คอยู่ในตู้อ่ะ” มันบอกจบผมก็พรุ่งไปที่ตู้ทันทีอย่างน้อยก็มีคอมเล่นแก้เซ็ง
“มีอินเตอร์เน็ตไหมอ่ะ” ผมถามมันต่อ
“มี อยู่ตรงหัวเตียงอ่ะ” มันบอกผมทั้งๆที่ไม่ลืมตา
“อืม มึงนอนไปเถอะกูรอได้” ผมบอกมันแล้วเปิดโน๊ตบุ๊คทันที ถ้ามีโน๊ตบุ๊คกับอินเตอร์เน็ตให้ผมอยู่ไหนก็อยู่ได้
“อือ” มันตอบแล้วก็นิ่งไปคงหลับไปแล้ว ส่วนผมก็นั่งเล่นเกมดูหนังฟังเพลงไปตามเรื่องตามราวจนผมเผลอหลับไป
( Win Part )
ผมตื่นข้ามาอีกทีก็เกือบตอนหัวค่ำไม่รู้เหนื่อยมาจากไหนถึงได้หลับไปนานขนาดนี้สงสัยจะเหนื่อยล้าสะสมมาหลายวันเพราะช่วงหลายวันนี้ผมแทบไม่ได้พักผ่อนเลย แต่เมื่อเตรียมกำลังจะลุกก็รู้สึกว่ามีอะไรอุ่นๆซุกอกอยู่พอหันไปดูก็เจอไอ้ตัวเล็กนอนซุกอกผมอยู่ หน้ามันขาวใสมากๆ แถมดูน่ารักอีกต่างหาก เวลานอนนี่ดูไม่มีพิษมีภัยเลยไม่น่าเชื่อว่าคนที่นอนซุกกับอกผมกับคู่กัดผมคือคนๆเดียวกัน
“ดูไม่มีพิษมีภัยเลยนะเวลานอนเนี่ย” ผมพูดกับตัวเองแล้วเอามือไปเกลี่ยผมมันเล่น
“อื้อ” คนตัวเล็กเริ่มขยับตัวเพราะถูกรบกวน
“…” มันลืมตาแป๋วมองหน้าผม บ้องแบ๊วเหลือเกิน
“ตื่นแล้วหรอ” ผมถามหยั่งเชิง
“กี่โมงแล้วอ่ะ” มันถามผมกลับ
“จะทุ่มแล้ว หิวไหมเดี๋ยวไปหาอะไรกินกันแล้วเดี๋ยวไปส่ง” ผมบอกมัน มันก็ไม่พูดอะไรแต่ลุกเดินเข้าไปในห้องน้ำสักแปปนึงแล้วก็ออกมา
“หิวเปล่า” ผมถามมันอีกครั้ง
“อือ หิว” มันตอบอย่างรวดเร็ว
“อยากกินอะไรล่ะ” ผมถาม
“อะไรก็ได้” เมื่อมันพูดจบผมก็พามันออกจากบ้านทันที ผมพามันมุ่งไปที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านผมมากนัก
“รออยู่บนรถนะ เดี๋ยวมา” ผมกำลังจะเปิดประตูลงจากรถ
“ไปไหน” แต่ใครอีกคนถามขึ้นก่อน
“ไปสั่งกับข้าว”
“อ้าว ทำไมไม่กินนี่เลยอ่ะ” มันถามกลับ
“คนมันแน่นอึดอัดไม่ชอบเดี๋ยวไปกินคอนโดมึง” พูดจบผมก็ปิดประตูรถทันทีไม่ฟังคำอนุญาตจากมันหรอก มัดมือชกไปเลยจะได้รู้ที่อยู่มันด้วย ผมสั่งอาหารมาห้าหกอย่างแล้วกลับขึ้นมาที่รถ
“มึงพักที่ไหน” ผมเปิดฉากถามมัน
“มึงขับไปเถอะเดี๋ยวบอกทางเอง” ผมขับไปตามทางที่มันบอกสักพักก็ถึง ท่าทางมันจะเป็นลูกคนมีตังถึงอยู่คอนโดนี้ได้ เพราะคอนโดนี้ก็แพงอยู่มาก
“มึงพักที่นี่หรอ” ผมถามมัน
“อือ” มันตอบแค่นั้นแล้วก็เปิดประตูรถ
“รวยนี่หว่า คอนโดนี้แพงไม่ใช่เล่นเลยนะ” ผมบอกมัน
“เสือกน่า มึงจะแดกไหมข้าวท่าจะแดกก็ลงมาได้แล้ว” มันตะหวาดผม แต่ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร รอก่อนเถอะ วันที่มึงจะต้องตามตูดกูต้อยๆ พอถึงวันนั้นกูเนี่ยแหละจะสะบัดมึงทิ้งแบบไม่เหลือชิ้นดีเลยมึงคอยดู!!!!
( Autt Part )
ผมพามันขึ้นลิฟท์จนถึงชั้นที่ผมอยู่แล้วพามันเดินตรงไปที่ห้องผมทันที ปกติผมต้องกลับกับพรหมแต่พรหมกลับบ้านไปแล้ว อย่างงี้ผมก็เหงาน่ะสิตั้งสิบวัน
“ห้องนี้หรอ” มันถามเมื่อผมมาหยุดอยู่หน้าห้องของตัวเอง
“อือ ห้องนี้แหละรอแปปหากุญแจก่อน” ผมควานหากุญแจในกระเป๋ากางเกง แล้วก็ไขให้มันเข้าไปในห้อง
“มึงอยู่คนเดียวหรอ” มันถามผม
“อือ อยู่คนเดียวสิไม่อยู่คนเดียวแล้วจะอยู่กับใครล่ะ” ผมตอบมันกลับทันที
“ก็นึกว่าพักอยู่กับไอ้หน้าติ๋มนั่น” มันบอกผม แต่ผมนี่งงใครวะหน้าติ๋ม
“ใครวะ???” ผมทำหน้างงใส่มัน
“ก็ไอ้พรหมนั่นไง นึกว่าอยู่ด้วยกัน” มันพูดแล้วทำหน้ากวนตีนใส่ผม
“อ่อ ก็ไม่เชิงหรอกพรหมอยู่ห้องข้างๆเนี่ยเอง ปกติกูก็อยู่กับมันแทบทั้งคืนอยู่แล้ว” ผมบอกมันเพราะพรหมชอบมาอยู่ห้องผมจนดึกดื่นแต่ก็ไม่เหงาดี
“กูถามจริงๆเถอะ มึงกับไอ้พรหมเป็นอะไรกันวะ” มันถามผมสีหน้าดูจริงจัง
“มึงคิดว่าไงล่ะ” ผมถามมันกลับ
“กูคิดว่ามึงเป็นแฟนกัน” มันตอบผมตรงมาก
“ฮ่าๆๆๆๆๆ” ผมหัวเราะจนน้ำตาเล็ดก็แหมคนเรามันก็คิดได้เนอะ
“หัวเราะอะไรไม่ขำเว้ย” มันมีสีหน้าหงุดหงิดขึ้น
“ก็เปล่าหรอก อะไรที่ทำให้มึงคิดว่ากูกับพรหมเป็นแฟนกันล่ะ” ผมถามมันกลับ
“ก็มึงสองคนชอบอยู่ด้วยกัน ไปไหนมาไหนด้วยกันจะให้กูคิดว่าไงล่ะ”
“จำเป็นหรอว่าไปไหนมาไหนด้วยกันแล้วต้องเป็นแฟนกัน” ผมถามมันกลับ
“ก็....ไม่จำเป็น” มันตอบน้ำเสียงอ่อนลงเยอะ
“อ่ะถูก...มันไม่เห็นเกี่ยวนี่จริงไหม” ผมบอกมัน
“แต่ภาพมันฟ้องนี่หว่า หลายๆอย่าง” มันยังไม่ยอมแพ้ผม
“บางทีสิ่งที่เห็นกับความเป็นจริงมันอาจจะไม่ตรงกันก็ได้ เค้าถึงบอกกันไงว่าอย่าพึ่งเชื่อในสิ่งที่เห็นเพราะมันไม่จริงเสมอไป” ผมบอกมันมันก็นิ่งไปสักพัก
“มากินข้าวเถอะกูหิวละ” มันกับผมนั่งกินข้าวกันอยู่พักใหญ่ผมก็ส่งแขกด้วยการไล่มันกลับบ้านโดยให้เหตุว่าแดกข้าวแล้วก็กลับไปสิ มันหน้างอนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้ตีกัน จริงๆแล้วมันเองก็มีมุมน่ารักๆในความคิดผมเหมือนกันนะเนี่ย