###END### = P A Y = เปย์ข้าด้วยบุฟเฟ่ต์สิ [แจ้งกำหนดการวางจำหน่าย] 04/04/64
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ###END### = P A Y = เปย์ข้าด้วยบุฟเฟ่ต์สิ [แจ้งกำหนดการวางจำหน่าย] 04/04/64  (อ่าน 70000 ครั้ง)

ออฟไลน์ GreenHead(หัวเขียว)

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 124
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
    • Green Head - หัวเขียว
เปย์ครั้งที่ 10 [2]
«ตอบ #90 เมื่อ30-04-2018 22:07:26 »


เพียงไม่นานกระแสของผู้คนก็กลับไปสู้ความสงบ ใครที่เป็นคนต่างห้องก็เดินกลับไปห้องตัวเอง หน้าต่างที่ถูกเปิดไว้สำหรับรับชมก็ปิดลง คนที่อยู่ในห้องกลับไปที่นั่งของตัวเอง ดำมองคนอื่นเลิกลักอย่างไม่เข้าใจ สุดท้ายก็คิดถึงคำพูดของสิรินขึ้นมา

‘ดำต้องเชื่อฟังคุณครูรู้ไหม ท่านจะเป็นคนที่มาสอนหนังสือดำ ต้องเคารพพวกท่านให้มากๆ อย่าดื้ออย่าซน ถ้าตัวเองทำผิดจริง ต้องรับผิด...แต่ถ้าดำไม่ผิดก็ออกความเห็นได้ ท่านจะบอกเองว่าจะต้องทำอย่างไร’

ไอ้ดำต้องไม่ดื้อไม่ซนกับคุณครู แต่วันแรกก็มีเรื่องเสียแล้ว ถ้าปะป๋ากับคุณสินรู้ไอ้ดำต้องโดนทำโทษอดข้าวแน่ๆ ไม่นะ ทำอย่างไรดีๆ

ก่อนจะกลับไปนั่งโต๊ะ ดำก็เห็นเต็มที่พยายามลุกขึ้นด้วยตนเอง แม้ท่าทางจะทุลักทุเลอยู่ไม่น้อย แต่ก็ยังฝืนขยับตัว โดยไม่ร้องขอความช่วยเหลือ ก่อนจะคิดอะไรไปมากกว่านั้น ดำเข้าไปพยุงเต็มที่กำลังจะล้มลงทันที

“ระวัง” เต็มหันหน้ามองเจ้าของเสียงก่อนที่จะพยายามยื้อตัวออกจากมือของเขา ปากก็ร้องบอกให้ปล่อย ไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากดำแม้แต่น้อย ดำอดที่จะชื่นชมไม่ได้ รักศักดิ์ศรียิ่งชีพนี่สิลูกผู้ชาย ไม่เหมือนเจ้าคนอ่อนแอเมื่อครู่เลย ถ้าได้ลองสู้กันแบบจริงๆ จังๆ กันอีกครั้งโดยไม่มีคนขัดต้องดีไม่น้อย

ดำกำลังจะปล่อยมือ เพราะไม่อยากทำลายศักดิ์ศรีของอีกฝ่าย ครูหญิงวัยกลางคนหนึ่งก็เปิดประตูเข้ามาเสียแล้ว

“นั่นเตวินท์เป็นอะไร” ด้วยที่เต็มเรียนโรงเรียนนี้มาตั้งแต่ ม.ต้น ครูส่วนมากจึงจดจำได้เป็นอย่างดี คนที่สร้างชื่อเสียงให้โรงเรียนจะจำไม่ได้ได้อย่างไร

เต็มกับดำเหงื่อตก มองหน้าส่งสายตาปรึกษากัน จะให้ครูรู้เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้ ไม่เช่นนั้นซวยแน่ เล่นมีเรื่องกันตั้งแต่วันปฐมนิเทศแบบนี้

“เต็มปวดท้องค่ะ ดำกำลังจะพาไปห้องพยาบาล” ลิลินเห็นทั้งสองคนไม่ตอบเสียทีจึงรีบแก้ตัวแทน เต็มถึงจะเลือดร้อนอยู่บ้าง แต่ก็โดนดำจัดการไปแล้วคงไม่กล้าแผลงฤทธิ์นักหรอก ช่วยได้เธอก็เต็มใจ

“อ้อ แบบนั้นเอง แต่เด็กคนนั้นเป็นนักเรียนใหม่ไม่ใช่เหรอ จะพาไปห้องพยาบาลถูกได้อย่างไร ฮึ” ครูสมศรีจดจำดำได้เป็นอย่างดี เพราะเป็นเด็กที่ไม่ได้เข้าสอบวัดผลพร้อมคนอื่น ดำพึ่งสอบเมื่อ 3 วันก่อน แล้วเริ่มเรียนทันทีเท่านั้น ด้วยคำสั่งของผู้อำนวยการ จะจำไม่ได้ก็แปลกเกินไปแล้ว

“เอ่อ คือ” ลิลินหน้าซีด ครูสมศรีแกความจำดีเกินไปแล้ว โถ่

“เดี๋ยวไอ้ดำให้เต็มบอกครับ ไม่มีปัญหา” ดำเออออห่อหมก ตอนนี้ไอ้ดำขอทางรอดก่อน จะกลายเป็นเด็กดื้อไม่ได้

เต็มพยักหน้าเห็นด้วย ครูสมศรีจึงเลิกสงสัย แล้วปล่อยทั้งคู่ออกจากห้องไป ทั้งยังกำชับให้ดำกลับมาที่ห้องเรียนด้วย เพราะดำเป็นนักเรียนใหม่จะพลาดการพูดคุยครั้งแรกไม่ได้ เด็กคนนี้ถูกกำชับมาเป็นพิเศษ ทั้งยังพึ่งเคยมาโรงเรียนเป็นครั้งแรก เธอต้องดูอุปนิสัยใจคอ และผูกสัมพันธ์กับเพื่อนให้เหมาะสม ไม่เช่นนั้นแล้วเธอคงต้องพบปัญหาในภายภาคหน้าแน่ หวังว่าจะเป็นเด็กดีนะ อย่าให้ครูแก่ๆ คนนี้โดนไล่ออกก่อนเกษียณเลย

ครูสมศรีได้แต่ภาวนาในใจ เธอเจอเด็กมาหลายรูปแบบ แต่ก็อดที่จะวิตกไม่ได้ เพราะเด็กคนนั้นพึ่งเข้ามาเรียน ทั้งยังมีความเกี่ยวข้องกับผู้อำนวยการอีก ร่างกายที่ดูเล็กกว่าคนรุ่นเดียวกันนั่นคงเพราะป่วยจึงหยุดเรียนไปกระมัง ถ้าไม่ถูกแกล้งก็คงดี

เอาล่ะ เธอต้องทำให้พวกเด็กๆ เข้ากันให้จงได้

ครูสมศรีคิดอย่างหมายมั่นจากนั้นเธอจึงกลับมาสนใจนักเรียนในห้อง สั่งให้รอดำแล้วจึงเริ่มพูดคุยถึงการเรียนตลอด 1 ปีต่อไป

ส่วนดำพาเต็มเดินตามทางจนถึงห้องพยาบาลตามที่เต็มบอก กล่าวขอบคุณที่เต็มไม่เปิดโปงที่เขาทำเรื่อง แล้วจึงพาเข้าห้องไปฝากคนป่วยไว้กับครูห้องพยายาล สภาพเต็มสมควรพามาจริงๆ แม้สาเหตุจะไม่ใช่ป่วยก็เถอะ

ดำกลับห้องเรียนตามคำสั่ง ตั้งใจเป็นเด็กดี กู้คืนความโหดเมื่อครู่ กลับมายิ้มแย้มกับเพื่อนๆ เหมือนเดิม ทุกคนแนะนำตัวอย่างเป็นมิตร แม้จะเกรงๆ ดำอยู่บ้างเพราะภาพติดตาเมื่อครู่ก็ตาม จนกระทั่งถึงคิวของดำที่ต้องแนะนำตัว คนตัวเล็กลุกขึ้นยืนจากที่นั่งของตัวเอง แนะนำตัวอย่างฉะฉานตามแบบที่ซักซ้อมเอาไว้หลายครั้งจนจำขึ้นใจ

“ผมชื่อ ดลนที รัสเซลล์ ชื่อเล่น ดำ ครับ ไอ้ดำฝากตัวด้วยน้า” ชื่อที่เตรียมไว้ กับนามสกุลของมาร์โก้ถูกหยิบยกขึ้นมาใช้ เพราะต้องสวมรอยเป็นบุคคลที่มีทะเบียนอยู่จริง แต่หากไร้ตัวตน จึงเลี่ยงไม่ได้เลยที่ดำจะต้องใช้ชื่อแบบไทย เพื่อความแนบเนียน

และเมื่อจดทะเบียนเป็นลูกบุญธรรมแล้วเขาจึงเปลี่ยนนามสกุลได้ไม่ยาก ทุกอย่างถูกคิดไตร่ตรองเอาไว้เป็นอย่างดี ทั้งประวัติต่างๆ ก็ถูกสร้างขึ้นง่าย เนื่องจากเจ้าของชื่อหายสาบสูญไปหลายปี โดยไม่มีใครตรวจสอบ จะใช้เหตุผลใดยกขึ้นมาอ้างในระหว่างนั้นจึงไม่ยากเย็น

“ดลนที ไม่เคยมาโรงเรียน เพราะป่วยหนักร่างกายอ่อนแอมาก อย่างไรก็ฝากทุกคนดูแลเพื่อนด้วยนะ” ครูสมศรีแจ้งสาเหตุให้นักเรียนได้รับทราบ จะอย่างไรก็ต้องอาศัยความร่วมมือจากคนรุ่นเดียวกันจึงจะสามารถดูแลได้อย่างทั่วถึง

ส่วนภายในใจของนักเรียนทุกคนนั้นได้แต่อื้ออึงไปด้วยเครื่องหมายคำถาม

ร่างกายอ่อนแอ คนที่ล้มเต็มได้ด้วยหนึ่งหมัดกับถีบอีกหนึ่งทีเนี่ยนะ

พิจารณาแล้วร่างกายแบบนั้นเชื่อได้ง่ายๆ แต่ภาพที่ดำจัดการเต็มเมื่อครู่มันก็ติดตาเกินบรรยาย ได้แต่หาข้ออ้างให้ตัวเองอย่าง ผู้ปกครองดำอาจจะกลัวโดนรังแกก็เลยฝึกให้สู้เป็นก่อนเข้าสู่สังคมปกติล่ะมัง คิดแบบนั้นแล้วก็ได้แต่ยอมรับในใจเงียบๆ ไม่กล้าเอ่ยถึงเหตุการณ์เมื่อครู่แม้แต่น้อย

การพูดคุยเป็นไปอย่างราบรื่น ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงคุณครูสมศรีก็แจกตารางเรียน แล้วปล่อยนักเรียนกลับบ้านพร้อมกับเวลาที่ผู้ปกครองประชุมเสร็จพอดี เพื่อนๆ ต่างลากันกลับบ้าน ผู้ปกครองมารอหน้าห้องอย่างคึกคัก ดำเองก็ออกไปหามาร์โก้ที่ตกเป็นเป้าสายตาของผู้ปกครองคนอื่นตั้งแต่มาถึงโรงเรียน แม้ความอยากรู้อยากเห็นหายไปบ้างแล้ว แต่บรรดาผู้ปกครองที่ไม่เห็นตอนที่มาร์โก้มาพร้อมกับดำและสิรินก็ได้แต่จ้องมองว่าใครกันหนอที่ชายคนนั้นเป็นผู้ปกครอง คงต้องให้ลูกผูกมิตรไว้เสียแล้ว เวลาอยากรู้อะไรจะได้ถามง่ายๆ โดนเฉพาะบรรดาแม่หม้ายทั้งหลายที่วางแผนอย่างคาดหวัง

“ปะป๋า” ดำยิ้มกว้างหลังจากเดินออกมาจากกลุ่มเพื่อน เพียงมองกวาดผ่านรอบเดียวก็พบมาร์โก้ ก็ปะป๋าของเขาออกจะเด่นขนาดนั้น

“ว่าไงเจ้าตัวเล็ก สนุกรึเปล่า” มาร์โก้อ้าแขนรับดำที่พุ่งเข้ามาหา ดูประจบแปลกๆ แต่ก็ทำเป็นมองข้ามไป คงแอบทำอะไรผิดล่ะสิท่าเจ้าเด็กดื้อเอ๊ย

“สนุกมากกก เพื่อนๆ นิสัยดีครับ” ดำยิ้มโชว์ฟันขาว ทำหน้ามีความสุขเต็มประดา แต่เขาก็รู้สึกเช่นนั้นจริงๆ เพื่อนที่อายุเท่ากันอยู่รวมกันมากขนาดนี้เขาไม่เคยพบมาก่อน ทั้งยังใจดีเอามากๆ เข้ามาพูดคุยไม่ถือตัวแม้แต่น้อย ถึงจะดูกลัวๆ เขาไปบ้างก็ตาม แม้กระทั่งเต็มดำก็คิดว่าคงมีความดีอยู่บ้าง ดำชอบในความรักศักดิ์ศรีของอีกฝ่าย ปฏิเสธการช่วยเหลือแม้ร่างกายของตัวเองจะทนไม่ไหว

“ดีมาก มีอะไรก็บอกปะป๋าเข้าใจไหมครับ ถ้ามีใครรังแกบอกได้เลยเดี๋ยวปะป๋าจัดการให้” มาร์โก้ขยี้หัวดำเบาๆ มองด้วยสายตาเอ็นดู ถึงจะฟังจากสิรินมาแล้วว่าดำสู้เก่งเอามากๆ แต่เขาก็เป็นห่วงอยู่ดี ดูร่างกายเล็กๆ นั่นสิ ถ้าโดนทำร้ายเข้าคงเจ็บน่าดู

ตอนนี้ถ้าใครได้ยินเข้าคงจะทอดถอนใจ อย่างดำน่ะเหรอจะมีคนรังแก บอกว่ารังแกคนอื่นยังน่าเชื่อมากกว่า เฮ้อ

“ปะป๋าเก่งที่สุด” ดำออดอ้อน กอดไม่พอยังเพิ่มหัวที่ถูกไปมานั่นอีก เดี๋ยวนี้พัฒนาไปไกล เวลาหิวทีไรมาไม้นี้ทุกที นี่คงใกล้ถึงเวลาอาหารแล้วสินะ มาร์โก้ยกนาฬิกาขึ้นมาดูอย่างรู้ใจ ก็นะลูกคนเล็กทั้งทีจะไม่ตามใจได้อย่างไร

“พึ่ง 11 โมงเอง จะมาอ้อนหิวอะไรฮึเจ้าตัวเล็ก”

“แหะๆ ก็ไอ้ดำหิวแล้วอะปะป๋า ขอกินของอร่อยหน่อยนะครับ นะนะ” ดำยังอ้อนต่อ จะว่าเปลี่ยนเรื่องก็ใช่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันไม่มีส่วนของความจริงเลยนี่นา

ก็ไอ้ดำเริ่มหิวแล้วจริงๆ ล่ะ

“โธ่ เล่นแบบนี้ปะป๋าจะใจแข็งอยู่ได้ยังไง แต่ว่าข้าวยังไม่อนุญาต เอาเป็นว่าไปนั่งกินไอศกรีมแสนอร่อยรองท้องก่อนดีกว่าเนาะ ดีไหม” มาร์โก้เพิ่มข้อเสนอใหม่ ถ้าให้กินเร็วไปเดี๋ยวก็หิวเร็วอีก วันนี้นั่งฟังพวกผู้ปกครองซุบซิบจนปวดหัว ขอพักก่อนดีกว่า

ขับรถเพียงไม่นานก็ถึงร้านที่เล็งเอาไว้ ร้านประดับตกแต่งด้วยสไตล์ที่ดำไม่เคยเห็น ลวดลายตัวอักษรสีดำแดงตัดผ่านกันทั้งบนกระจกและผนัง โต๊ะ เก้าอี้หลากสี ทั้ง แดง ดำ ขาว สลับไปมา ไฟก็เป็นสีเหลืองนวลขับเน้นบรรยากาศให้ดูสบายมากขึ้น เขาจึงมองไปมาอย่างสนใจ แต่ก็เพียงไม่นานเท่านั้น เพราะหลังจากนั่งลงบนเก้าอี้ พนักงานก็นำเมนูมาให้ สายตาของดำจึงถูกความน่ากินของภาพไอศกรีมหลากรูปแบบดึงสายตาเอาไว้เสียทั้งหมด

“ว่าไง อยากกินอะไรสั่งเลย” มาร์โก้กล่าวบอกก่อนจะนั่งรอเงียบๆ ยิ้มมองดำตาวาวกับเมนูที่ไม่เคยกินอยู่เช่นนั้น ดูสิน้ำลายไหลอีกแล้ว เบิกบานใจอยู่ชั่วครู่ก็ยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปส่งไปยั่วสิรินเสียหน่อย เอาให้ไม่มีสมาธิฝึกงานไปเลย หึหึ

“ว่าไง อยากกินอะไรสั่งเลย” มาร์โก้กล่าวบอกก่อนจะนั่งรอเงียบๆ ยิ้มมองดำตาวาวกับเมนูที่ไม่เคยกินอยู่เช่นนั้น ดูสิน้ำลายไหลอีกแล้ว เบิกบานใจอยู่ชั่วครู่ก็ยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปส่งไปยั่วสิรินเสียหน่อย เอาให้ไม่มีสมาธิฝึกงานไปเลย หึหึ

“ปะป๋า ไอ้ดำอยากกินหมดเลย น่ากินจัง อันนี้เขียนว่าช็อกโกแลตล่ะ โห ช็อกโกแลตที่คุณก้องให้ทำได้หลายอย่างจริงๆ สุดยอด” ดำตื่นเต้นไปหมด เมื่อเปิดถึงหน้ารวบรวมเมนูช็อกโกแลต มีทั้งสำหรับเด็กตกแต่งเหมือนตัวการ์ตูนที่ดำเคยดู และแบบใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ที่ดำชอบที่สุดคงเป็นที่มีช็อกโกแลตแยกเอาไว้ในถ้วย กับไอศกรีม 5 ลูกนี่แหละ ได้เยอะแถมน่ากินอีก

แต่ก่อนที่ดำจะได้บอกเมนูที่อยากกินก็เหลือบไปเห็น กระดาษแผ่นใหญ่ที่ถูกเสียบแทรกเอาไว้ในเล่ม ยิ่งพอดึงออกมามองยิ่งตาโต

มะม่วงอกร่องทองซันเดย์

ว้าว มะม่วงก็กินแบบนี้ได้เหรอเนี่ย ปะ เปลี่ยนใจดีกว่า

“ปะป๋า ไอ้ดำอยากกินอันนี้ เอาถ้วยใหญ่ๆ เลย ไอ้ดำชอบมะม่วงที่สุด” ดำส่งสายตาประกายออดอ้อน ถึงแม้จะรู้ว่าปะป๋าของเขาไม่ห้ามแน่ๆ แต่ก็อยากอ่อนอยู่ดี เพื่อรับประกันความแน่นอนนั่นเอง

“หือ เอาอันเดียวเองเหรอ” มาร์โก้ส่งเสียงถามอย่างแปลกใจ นึกว่าดำจะสั่งมาไม่ต่ำกว่า 5 ถ้วยเสียอีก ก็นะกระเพาะเจ้าลูกคนเล็กของเขายิ่งกว่าหลุมดำซะอีก

“เอ๋ ไอ้ดำสั่งมากกว่าหนึ่งได้เหรอครับ ถ้าอย่างนั้นเอาอันนี้ด้วย มันเขียนว่าบิงซูล่ะ แปลกดี ไอ้ดำอยากลองกินดูครับ แล้วก็- “

“หยุดๆ เอาแค่ 2 พอดีกว่า เดี๋ยวเรากลับบ้านแล้วปะป๋าทำของอร่อยให้กินเนาะ” พอเปิดช่องให้หน่อยก็เอาเลย เขาก็ลืมตัวทุกที ไม่ได้ๆ กินของเย็นเยอะไปเดี๋ยวปวดท้อง แต่จะให้บอกให้หยุดคงดื้ออีก ดังนั้นเพื่อไม่ให้ดำโต้แย้งมาร์โก้จึงยกประโยชน์เรื่องของอร่อยมาต่อรองแทน

“เย้ เอาดำเอา 2 ครับ แล้วก็กลับไปไอ้ดำอยากกินสตูเนื้อล่ะ” ดำไม่รอให้มาร์โก้พูดอีก เขารับปากแล้วบอกเมนูที่อยากกินในทันที แล้วมีหรือมาร์โก้จะขัดได้ ทำได้เพียงยิ้มรับอย่างจำยอมเท่านั้น ก็ช่วยไม่ได้จริงๆ ดีกว่าดำสั่งครบทุกเมนูล่ะนะ ไม่อยากเห็นภาพแบบนั้นเลยจริงๆ

“ขออนุญาตเสิร์ฟค่ะ แมงโก้เฮอริเคน กับ บิงซูข้าวเหนียวมะม่วงนะคะ” รอเพียงไม่นานเมนูมะม่วงอกร่องทองตามฤดูกาลก็พร้อมเสิร์ฟ

ดำมองไอศกรีมตรงหน้าอย่างพอใจ เงยหน้าขอความเห็นเล็กน้อย พอมาร์โก้พยักหน้าก็เริ่มตักไอศกรีมเข้าปากในทันที

อร่อย บอกได้คำเดียวคืออร่อย เป็นไอศกรีมแท้ๆ ทำไมรสชาติถึงเหมือนมะม่วงได้ขนาดนี้ ไอ้ดำเคยกินแค่ไอศกรีมกะทิ มันไม่ออกรสชัดขนาดนี้นี่นา อร่อยเกินไปแล้ว ไอศกรีม 5 ลูกนี่ไอ้ดำจะกินให้หมดเลย

แล้วนั่นข้าวเหนียวสีเขียว

ไม่รอช้าดำตักข้าวเหนียวสีเขียวน่าลิ้มลองเข้าปาก รสชาติใบเตยแผ่ซ่าน ยิ่งตักคำต่อไปคู่กับไอศกรีมมะม่วงยิ่งเข้ากันอย่างลงตัว

“ราดกะทิด้วยสิ จะอร่อยขึ้นนะ” มาร์โก้เอ่ยปากบอกหลังจากส่งรูปล่าสุดไปยั่วคนที่ไม่อยู่เสร็จเรียบร้อย

“ปะป๋ากินสิ เดี๋ยวไอ้ดำกินหมดก่อนไม่รู้ด้วยนะ” ดำรีบบอก เพราะมาร์โก้เป็นคนสำคัญเขาจึงพร้อมจะแบ่งของอร่อยให้

มาร์โก้ราดน้ำกะทิลงไป แล้วจึงตักกิน อืม อร่อยไม่เปลี่ยน ไม่ว่าจะกินกี่ปีก็ยังคงความอร่อยเอาไว้ สมกับเป็นเมนูที่กินได้ตามฤดูกาลจริงๆ

ดำก็ไม่รอช้า ลงมือกินตามมาร์โก้ติดๆ

อืม รสเค็มนิดๆ มันหน่อยๆ ของกะทิเข้ากับข้าวเหนียวใบเตยสุดๆ ลองกินพร้อมกัน 3 อย่างบ้างดีกว่า

ว้าววววว แบบนี้สิถึงเพิ่มความอร่อยถึงที่สุด ครีมขาวๆ ข้างบนก็อร่อย แล้วเจ้าลูกสีเขียวเหลืองคล้ายมะม่วงนี่อะไรนะ ขอลองเลยละกัน

ลูกชุปล่ะ ว้าว อร่อยมาเลย ยิ่งกินกับครีมสีขาวด้วยยิ่งอร่อย เคี้ยวมันสุดๆ

หลังจากชิมไอศกรีมอกร่องทองจนพอใจดำก็หันไปสนใจบิงซูถ้วยใหญ่ มองแก้วใส่นมข้นใบเล็กกับแก้วบรรจุน้ำสีเหลืองละมุนเอาไว้ข้างๆ ก็ และเปรียบเทียบกับน้ำกะทิเมื่อครู่ มันคงเอาไว้ราดไม่ต่างกันสินะ ราดเลยละกันเพราะทำแบบนั้นแล้วอร่อยมากๆ เลย

มะม่วงสี่เหลี่ยมลูกเต๋าหันพอดีคำถูกตักขึ้นพร้อมเกล็ดน้ำแข็ง บนเกล็ดน้ำแข็งราดด้วยน้ำสีขาวและสีเหลือง ดำตักเข้าปากอย่างไม่ลังเล

อื้ม นมข้นกับน้ำมะม่วงเข้ากันสุดๆ เลย น้ำสีเหลืองนี่น้ำมะม่วงนี่เองไอ้ดำชอบจัง กลิ่นมะม่วงอบอวล รสหวานซ่านไปทั่วปาก ความเย็นทำให้มีชีวิตชีวา สำหรับหน้าร้อนแล้วเป็นเมนูที่จะให้กินกี่ครั้งก็คงไม่พอ

ดำลิ้มรสของหวานทั้งสองถ้วยสลับไปมา ไม่ว่าจะแมงโก้เฮอริเคน หรือบิงซูข้าวเหนียวมะม่วงก็ถูกใจเขาทั้งนั้น ถูกใจรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ดึงความหอมหวานของมะม่วงออกมาได้ถึงขีดสุด ไหนจะความต่างในแต่ละเมนู เรียกได้ว่ามีทั้งความเหมือนและแตกต่างจนยากจะห้ามใจเลยทีเดียว

สุดท้ายดำก็กินหมดอย่างรวดเร็ว มาร์โก้กินน้อยกว่า ส่วนมากเวลาหมดไปกับการถ่ายรูป ยิ่งพอถูกดำตื้อขอกินอีกยิ่งลำบากใจ แต่สุดท้ายก็ต้องจำยอมสั่งไอศกรีมเค้กมะม่วงอกร่องทองกลับบ้านหนึ่งก้อนใหญ่จนได้ เอาเถอะเพื่อเจ้าจอมตะกละแล้วมื้อนี้ถือว่าเล็กน้อยเท่านั้น

มาร์โก้ได้แต่ปลอบตัวเองในใจ ให้ตายเถอะว่าแต่สิริน สุดท้ายตัวเองเองก็เอาชนะลูกอ้อนของดำไม่ได้เหมือนกัน เจ็บใจนัก...



โปรดติดตามตอนต่อไป...

___________________________________________

มาแล้วค่า ตอนก่อนจัดหนักไป ตอนนี้ก็มาแบบมื้อเบาๆ

ได้พักผ่อนพักท้องกันบ้างเนาะ สองพ่อลูกก็สรรหาของมาเลี้ยงเจ้าตัวเล็กกันจริงๆ เลย

ส่วนน้องนั่นน่ารักมาหลายตอน พอห่างตาก็แผลงความแสบออกมาแล้วค้า555

เค้าน่ารักแค่กับคุณสินเท่านั้นแหละเนาะ หุหุหุ

ขอบคุณทุกคอมเมนท์ทุกความเห็นค่ะ กรีนอ่านแล้วดีใจมากที่ทุกคนหิว555

อ่านจบแล้วอย่าลืมหาอะไรทานกันนะคะ

เจอกันตอนหน้าจ้า

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ชื่อดำ ชื่อเต็มๆหลุมดำ 5555  ดำน่ารักอ่ะ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ดำจะได้เพื่อนแล้ว มีเพื่อนสนิทกี่คนหน่า  :mew1:

ออฟไลน์ Mayana

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 424
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2
ป๊ะป๋าแพ้ทางจนได้  :laugh:

ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
ใครๆก็แพ้ลูกอ้อนน้องงง อยากเลี้ยงงงงง

ออฟไลน์ tn

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 113
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ความเปย์ของพ่อลูกนี้ เผื่อแผ่มาถึงน้องบ้างได้มั้ย หิวววววววว  :-[

ออฟไลน์ GreenHead(หัวเขียว)

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 124
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
    • Green Head - หัวเขียว
เปย์ครั้งที่ 11
«ตอบ #97 เมื่อ09-05-2018 09:17:26 »


เปย์ครั้งที่ 11

รู้หลบเป็นปีก รู้หลีกเป็นหาง

‘รู้จักเอาตัวรอด หรือปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์’

ดิ๊ง

“อีกแล้วเหรอ ฮ่าๆ ๆ สะใจวุ่ย” วันหัวเรอะชอบใจ เมื่อเห็นว่าสิรินเริ่มหน้านิ่วคิ้วขมวดมากขึ้น มันคงเริ่มจากวันนั้น วันที่สิรินขอเข้าสายเพราะอยากไปส่งน้องชายที่โรงเรียน

พวกเขาฝึกงานในบริษัทรับออกแบบอาคารเล็กๆ แห่งหนึ่ง ที่มีพนักงานเพียง 10 คนเท่านั้น ถึงจะเล็กแต่กลับเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียง ด้วยเพราะเจ้าของบริษัทเคยได้รับรางวัลในการออกแบบและก่อสร้างอาคารหลายแห่ง จนมีงานล้นมือแทบไม่มีเวลาว่างกันเลยทีเดียว โชคยังดีที่ปฏิเสธไปได้บ้าง จึงไม่ต้องโหมทำงานจนหนักเกินไป คนที่ทำงานก็เป็นกันเอง จะซีเรียสแค่เวลาลุยงานเท่านั้น

นักศึกษาที่ได้ฝึกงานที่นี่จึงได้รับประสบการณ์มากกว่าที่อื่น เพราะไม่ได้หวงวิชา หรือทิฐิสูงส่งมองเด็กฝึกงานเป็นเบ๊ ซ้ำยังให้เป็นผู้ช่วยในบางโครงการอีก เรียกได้ว่าไม่หวงประสบการณ์แม้แต่น้อย

พอสิรินขอไปส่งน้องที่โรงเรียนวันแรกก็ใจอ่อนยอมให้ไปง่ายๆ ยิ่งพอสิรินเผลอเรียกน้องชายว่าเจ้าจอมตะกละ ยิ่งถูกกำชับเสร็จสรรพว่าให้พามาเที่ยวให้ได้

แต่ถึงอย่างนั้นวัน ที่มีประสบการณ์อยู่กับสิรินยาวนานกว่าใครก็พอจับกระแสอารมณ์สั่นไหวชั่ววูบในดวงตาสิรินได้ และเมื่อปะติดปะต่อกับอาการคุยโทรศัพท์แล้วแอบยิ้มมุมปากนั่นอีกมันยิ่งเริ่มชัดขึ้น ว่าเขาหวงน้องชายไม่น้อย

ส่วนที่มั่นใจก็เป็นวันนั้น เวลาประมาณ 11 นาฬิกา พวกเขากำลังนั่งศึกษาข้อมูลงานเก่าๆ ที่บริษัทเคยทำ เพราะวันนี้พวกพี่ๆ อนุญาตให้พวกเขาหยุดพักอยู่ในบริษัทได้ไม่ต้องตามออกไปประชุมร่วมกับบริษัทว่าจ้างงานในครั้งนี้

หลังจากโทรศัพท์ดังสิรินก็หยิบขึ้นมาดู ใบหน้าตอนนั้นเหมือนมีอารมณ์ทับซ้อนกันอยู่ ทั้งดีใจ มีความสุข และอิจฉา หึงหวง ยิ่งพอรัวนิ้วลงไปบนแป้นพิมพ์ในโทรศัพท์ คิ้วยิ่งขมวดผูกกันเป็นโบว์ ด้วยความอยากรู้อยากเห็นวันจึงอาศัยช่วงที่สิรินจดจ่อย่องไปข้างหลัง

ภาพเด็กผู้ชายยิ้มแฉ่งแก้มป่องจากการอมไอศกรีมไว้ในปากดูมีความสุขสุดๆ ปรากฏบนหน้าจอโทรศัพท์ พร้อมกับข้อความเยอะเย้ยจากคนที่ส่งมาเป็นประโยคชวนโมโห และไม่ได้มีเพียงภาพเดียว

ทั้งภาพมองไอศกรีมตาวาว ภาพกำลังยื่นช้อนเข้าปาก ภาพการลิ้มรสไอศกรีมโดยยกมือขึ้นมาจับแก้ม เรียกได้ว่าแทบจะทุกอิริยาบถเลยทีเดียว ส่วนประโยคที่มาพร้อมภาพก็

“น่ารักเนาะ เจ้าตัวเล็กดูชอบมากเลย ปะป๋าเป็นปลื้ม”

“เจ้าตัวเล็กชมฉันใหญ่เลยล่ะสิน หึหึ”

“บอกว่า ปะป๋าเก่งที่สุดด้วยน้า...ไม่ใช่คุณสินเก่งที่สุดซะแล้ว คึคึ”

“ดูสิๆ เคี้ยวจนแก้มป่องเลย ทั้งที่ชอบขนาดนี้ยังบอกให้ปะป๋ากินด้วย เป็นเด็กดีว่าไหม”

“อิจฉาล่ะซี่ ตั้งใจฝึกงานไปนะ ฉันในฐานะพ่อจะดูแล้วดำเอง”

พอได้เห็นก็เข้าใจคนที่นั่งมองโทรศัพท์ด้วยสายตาราวจะฆ่าคนได้ในทันที ถ้าเป็นคนหวงน้องแล้วยิ่งโดนแบบนี้คงอยากจะวิ่งไปนั่งอยู่ตรงนั้นทันที แต่ก็น่าแปลกวันไม่คิดว่าสิรินจะแสดงท่าทางแบบนี้ได้ด้วย ปกติจะเย็นชาเป็นน้ำแข็ง แล้วดูตอนนี้สิแทบจะลุกเป็นไฟแล้ว

“ฝากไว้ก่อนเถอะมาร์โก้...ส่วนเจ้าตัวเล็กจะจับตีก้นให้เข็ด” สิรินเข่นเคี่ยว แม้จะชอบที่ดำยิ้มแต่ก็อย่างที่บอกไป เขาก็ยังอยากเก็บรอยยิ้มนั้นไว้คนเดียว แล้วมาร์โก้นี่ตัวดี รู้ทั้งรู้ว่าเขาจะไม่มีสมาธิทำงานจนแทบอยากบึ่งรถกลับไปหาเจ้าตัวเล็กยังส่งมาอีก มันน่านัก

และเรื่องราวเช่นนี้ก็เป็นมาเรื่อยๆ ในวันที่สิรินพลาดช่วงเวลาอาหารกับน้องชายตัวเล็ก ทั้งช่วงเช้า ช่วงเย็น ไม่ขาดสาย รวมทั้งวันนี้ถาพก็ถูกส่งมาในช่วงเที่ยงพอดิบพอดี อาจเพราะเป็นวันเสาร์ โรงเรียนหยุดแต่ที่ทำงานไม่ได้หยุดไปด้วย สิรินจึงดูบรรยากาศมาคุมากกว่าวันปกติ

“หุปปากไป” สิรินค้อน แล้วก้มหน้าก้มตาเก็บเอกสารที่ต้องอ่านในวันนี้ พวกเขาเองก็ถึงเวลาทานข้าวแล้วเช่นกัน

“น่าๆ นายก็ถือโอกาสโทรหาดำเลยสิ แล้วตอนเย็นก็ไปพาไปหาอะไรอร่อยๆ กินกันไง” หลังจากซักไซ้จนน่ารำคาญ วันก็ได้รู้ชื่อของเจ้าเด็กที่มีอิทธิพลต่อจิตใจของสิรินจนได้ แล้วจะปล่อยให้มีบรรยากาศเช่นนี้จนถึงบ่ายก็คงไม่ดี ถึงจะสะใจแต่ก็ทำงานไม่สะดวกนัก ต้องช่วยเสียหน่อย

“อืม ขอบใจ” หลังจากได้ยินคำพูดของวันสิรินก็คิดอะไรบางอย่างได้ ความจริงที่เขาโมโหหนักเพราะว่าวันนี้เป็นวันหยุดมาร์โก้กับดำอยู่บ้านทั้งวัน ทำให้มาร์โก้ทำนู่นทำนี่ให้ดำกิน แล้วก็ตามมาด้วยภาพน่ารักน่าเอ็นดูทุกครั้งไป เวลาอาหารก็พอว่า แต่เล่นทั้งวันแบบนี้เขาไม่มีกะจิตกะใจทำงานแน่ๆ ยิ่งช่วงบ่ายต้องตามพี่ภพออกไปคุมงานก่อสร้างแล้วด้วย มีหวังเขาเอาแต่จดจ่อกับโทรศัพท์แน่ ดังนั้นแล้วต้องจัดการให้เรียบร้อย

ไม่ต้องรอให้ภาพใหม่ส่งมา สิรินก็ขอตัวออกไปข้างนอกในทันที ให้วันกินข้าวไปก่อนได้เลย ระหว่างเดินก็เปิดโทรศัพท์เช็คข้อมูลสิ่งที่ต้องการ จนกระทั่งมาถึงสวนข้างบิรษัท สิรินเลือกนั่งบนม้านั่งตัวหนึ่งแล้วจึงกดหมายเลขโทรศัพท์ปลายทาง

เขาซื้อโทรศัพท์ในดำได้ลองใช้ตั้งแต่ยังไม่เปิดเรียน แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่ค่อยเล่นอะไรมากมายนัก ส่วนมากคอยรับหรือโทรหาเขา กับมาร์โก้เท่านั้น คงเพราะดำอยู่มากับสภาพไร้แสงสี เด็กน้อยของเขาจึงไม่ได้ใส่ใจโลกโซเชียลเช่นเด็กคนอื่นๆ

แต่ที่ติดหนักก็เห็นจะมีแต่ทีวีล่ะนะ เปิดดูการ์ตูนได้ไม่มีเบื่อ บางวันก็ที่นั่งรถกลับบ้านก็เล่าอย่างออกรสว่าจะไปดูเรื่องนั้นเรื่องนี้ พอลองถามว่าทำไมไม่ดูในโทรศัพท์จะได้ไม่ต้องรอนานก็ได้คำตอบว่า

‘จอเล็กเกินไปไอ้ดำไม่ชอบ ไอ้ดำชอบทีวีจอใหญ่ๆ ’

เป็นคำตอบที่น่าเอ็นดูเหลือเกิน แถมยังทำมือประกอบคำพูดเหมือนเด็กๆ ดวงตาก็แวววาวตื่นเต้น ดูจะชอบมากจริงๆ

รอเพียงไม่นานปลายสายก็กดรับ เสียงเจื้อยแจ้วตอบรับในทันที

“คุณสินนนน”

“ว่าไง ทำอะไรอยู่” สิรินยิ้มออกมาอย่างผ่อนคลาย เสียงสดใสนั่นทำให้อารมณ์หน่วงๆ ในอกหายไปจนหมดสิ้น

“กำลังรอปะป๋าอยู่ครับ วันนี้ปะป๋าจะทำน้ำแข็งไสให้ไอ้ดำกินล่ะ” ดำโอ้ น้ำแข็งไสจากผลไม้ที่ปะป๋าจะทำให้กินดูน่าอร่อยมาก ไอ้ดำไปแอบดูมาล่ะ

“หือ พึ่งกินข้าวเที่ยงไปเอง จะกินอีกแล้วเหรอ” หลังจากถามก็ได้ยินเสียงหัวเราะแหะๆ จากปลายสาย ดูท่าคงจะกินได้อีกเยอะสินะ เข้าทางมาร์โก้เกินไปแล้ว

“ก็ของหวาน กับของคาวมันไม่เหมือนกัน” ตามด้วยเสียงพึมพำแผ่วเบา ดำกลัวโดนคุณสินดุ แต่ความอยากกินก็มีไม่แพ้กัน จึงพยายามหาข้อแก้ตัว ซึ่งไม่มีความมั่นใจอยู่เลย

“อืม...ดำอยากไปดูการ์ตูนจอใหญ่กว่าที่บ้านรึเปล่า” สิรินเริ่มต้นเข้าเรื่อง ส่วนคำตอบของดำเดี๋ยวค่อยจัดการ

“มีที่จอใหญ่กว่านี้เหรอครับ อยากๆ ไอ้ดำอยากดู” ดำตื่นเต้นดีใจ ร้องลั่น พยักหน้าหงึกหงักกับโทรศัพท์แม้ปลายสายจะไม่เห็นก็ตาม

“ถ้าตอนเย็นฉันพาไปกินของอร่อยมื้อใหญ่ กับพาไปดูหนัง...ระหว่างนี้ดำจะไม่กินของจุกจิกได้รึเปล่านะ ต้องเตรียมท้องไปกินมื้อเย็นซะด้วยสิ ถ้าไม่ได้ก็ยกเลิกเลยดีกว่า ดำคิดว่าอย่างไร” เสียงสิรินเรียบเรื่อย แต่หากมุมปากยกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ เพื่อกันไม่ให้มาร์โก้ส่งรูปน่ารักๆ ดำมาก่อกวน เขาต้องจัดการต้นเหตุของความปั่นป่วนเสียก่อน

ดำฟังตอนแรกยิ้มกว้างดีใจ ทั้งของอร่อยมื้อใหญ่ ทั้งดูหนัง โห! ไอ้ดำอยากทำทั้งสองอย่างเลย

แต่พอประโยคต่อมาก็ทำให้ดำทั้งลังเล ทั้งเสียดาย น้ำแข็งไสฝีมือปะป๋า แล้วอาจจะมีอะไรเพิ่มอีก กับ อาหารมื้อใหญ่พร้อมการ์ตูนจอใหญ่ของคุณสิน เลือกยากจัง

ดำอ้าปากพะงาบๆ อยากเถียงแทบขาดใจ แต่ก็หาข้อโต้แย้งไม่ออก มื้อใหญ่ต้องเตรียมท้อง คุณสินพูดถูก เดี๋ยวไอ้ดำกินได้น้อยไม่คุ้มกันพอดี งื้อ เอาอย่างไรดี

“ว่าไงหือ” ยิ่งดำเงียบ สิรินก็รู้ได้ทันทีว่าข้อเสนอของเขานั้นได้ผล ดำกำลังลังเล กระตุ้นอีกหน่อยก็เป็นอันใช้ได้

“ไอ้ดำ ไอ้ดำ ไอ้ดำอยากกินมื้อใหญ่กับดูการ์ตูนจอใหญ่ แต่ว่าๆ” ดำตะกุกตะกัก อย่างไรไอ้ดำก็เลือกไม่ได้ ยิ่งพอมองไปห้องครัวมีผลไม้เรียงรายอยู่น้ำลายยิ่งไหล จากนั้นหันไปดูจอทีวี ก็คิดถึงจอที่ใหญ่กว่านี้

คุณสินใจร้าย ไอ้ดำต้องเลือกจริงๆ เหรอ

“แต่ว่าอะไร”

“น้ำแข็งไสของปะป๋าจะเสร็จแล้วขอไอ้ดำกินก่อนได้ไหมครับ ถ้วยเดียว ไม่สิ 2 เอ๊ย 3 ดีกว่า” ดำต่อรอง ขอแค่น้ำแข็งไสก็ยังดี ถ้าปะป๋าจะทำอย่างอื่นอีกไอ้ดำจะขอให้ทำพรุ่งนี้ก็ได้ ดำคิดอย่างมุ่งมั่น

“หึหึ สรุปว่าไม่อยากดูจอใหญ่” สิรินแกล้งต่อ ดูเจ้าตัวเล็กสิ ขนาดต่อรองยังมีความตะกละอยู่ในประโยค คงกำลังคำนวณถ้วยที่จะกินได้จนอิ่มสินะ

“ไม่ๆ ไอ้ดำอยากดู...แต่น้ำแข็งไสจะเสร็จแล้วนะครับ” เสียงดำหงอยลงทันตา คุณสินไม่ยอมจริงๆ ด้วย

“2 ถ้วย ถ้าเกินกว่านั้น...อด” คนตัวโตแกล้งจนพอใจแล้วจึงเฉลย เขาตั้งใจจะอนุญาตตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่ขอลงโทษให้พอใจก่อนเถอะ ยิ้มเรี่ยราดจริงเจ้าจอมตะกละ

“ครับ คุณสินใจดีที่สุด” เสียงเหงาหงอยแปรเปลี่ยนเป็นเริงร่า จากคุณสินใจร้ายก็เปลี่ยนเป็นใจดีเสียแล้ว ดูท่าคนที่มีอิทธิพลต่อจิตใจของอีกฝ่ายจะไม่ได้มีแค่ดำสินะ

“ไปกินเถอะ ฉันจะไปกินข้าวแล้ว เจอกันตอนเย็น” เสียงหัวเรอะชอบใจ กระโดดโลดเต้นของปลายสายทำให้สิรินต้องยกมือขึ้นมาปิดปาก เขาจะยิ้มกว้างเกินไปแล้ว ก่อนจะหลุดมาดไปมากกว่านี้ก็ต้องวางสายเสียก่อน แม้จะไม่อยากวางเพียงใดก็ตาม

“ครับ กินให้อร่อยน้า ไอ้ดำจะตั้งใจรอตอนเย็น...ปะป๋าสองถ้วยพอ ไอ้ดำรอคุณสิน” ดำได้ยินสิรินบอกว่าจะไปกินข้าวก็ไม่ขัด ก็กินข้าวสำคัญนี่นาต้องกินให้ครบทุกมื้อ จึงตอบรับเสียงเริงร่า ตามด้วยเสียงแผ่วเบาคุยกับมาร์โก้ คงรีบวิ่งไปบอกจนลืมวางสาย

ความจริงจะช่วยกันปิดกับมาร์โก้เขาก็ไม่มีทางรู้ แต่ดำน่ะเป็นเด็กดี เชื่อฟังว่าง่ายแบบนี้เขาถึงใจอ่อนทุกทีสิน่า

หลังจากจัดการตัวต้นเหตุเสร็จสรรพสิรินก็กดวางสายแล้วเดินไปกินข้าวร้านอาหารตามสั่งข้างบริษัท เขาเป็นเช่นนี้ แม้วางตัวเป็นคุณชายเย็นชา แต่เรื่องอาหารการกินหรือการทำงานล้วนเหมือนคนทั่วไป

มีเงินมากมายแล้วอย่างไร อาหารอร่อยจำเป็นต้องแพงด้วยหรือ มีอาหารมากมายที่หากขึ้นห้าง หรือกินในร้านหรูแล้วทำเสียรสชาติต้นตำรับ เขาเพียงเลือกกินของที่คิดว่าอร่อยเท่านั้น

ส่วนงานได้ทำอะไรที่มันลุยๆ เหงื่อออกเสียบ้างก็ดีไม่น้อย ขอเพียงเป็นอาชีพที่ตนรักและทุ่มเทก็เพียงพอ

วันนั้นดำกินน้ำแข็งไสแตงโมราดน้ำหวาน ที่มีทั้งแตงโมหั่นเป็นชิ้นประดับตกแต่ง พร้อมลูกชิดสีขาวกับขนมปังนุ่มนิ่มรองอยู่ก้นถ้วย และน้ำแข็งไสมะพร้าวที่มีเนื้อมะพร้าวน้ำหอมวางเรียงรายอยู่ด้านบน ดำว่ามันเหมือนบิงซูอยู่หลายส่วน แต่น้ำแข็งที่ไม่ได้บทละเอียดนักก็ทำให้ได้เคี้ยวเย็นฉ่ำไปทั่วปาก ดำหมายมาดว่าพรุ่งนี้ต้องให้ปะป๋าทำอีก แค่ 2 ถ้วยมันไม่พอหรอก มีเพียงวันนี้ที่ต้องอดทน ของอร่อยกับการ์ตูนมื้อใหญ่รออยู่ตอนเย็นแล้ว

สิรินจัดการปัญหาเช่นนี้ทุกวันเสาร์ โดยสัญญาว่าทุกวันเสาร์จะพาดำไปดูหนัง ซึ่งเจ้าตัวติดอกติดใจจนยอมรับปากง่ายๆ ต่อให้มาร์โก้เอาอะไรมาร์ล่อดำก็จะอดทน

ปัญหานี้จึงจบลงเช่นนี้เอง มาร์โก้ก็ไม่ขัดออกจะชอบใจเสียด้วยซ้ำที่เขายอมดำเสียขนาดนี้

::::


ออฟไลน์ GreenHead(หัวเขียว)

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 124
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
    • Green Head - หัวเขียว
เปย์ครั้งที่ 11 [2]
«ตอบ #98 เมื่อ09-05-2018 09:18:38 »


ดำมาโรงเรียนได้ 1 เดือนแล้ว วันนี้มาร์โก้กลับไปจัดการธุระสำคัญที่อเมริกา สิรินก็ออกต่างจังหวัดกับบริษัทที่ฝึกงาน ทำให้ดำต้องกลับบ้านเอง ซึ่งสิรินต้องการให้เพื่อนของเขารับส่งดำระหว่าง 3 วันนี้ แต่ดำออกปากอย่างหมายมั่นว่าจะกลับเอง เพราะเห็นเพื่อนๆ กลับกันเองได้ ดำอยากลองนั่งรถเมล์รถไฟฟ้าที่เพื่อนๆ เล่าให้ฟังบ้าง

แถมยังรับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะโทรรายงานสิรินทุกฝีก้าว ไม่ว่าเช้าหรือเย็น ส่วนอาหารการกินก็ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวดำออกแต่เช้าไปกินที่โรงอาหารของโรงเรียนก็ได้

สิรินจึงจำต้องขอหยุด 1 วันแล้วพาดำนั่งรถไปกลับ เพื่อความมั่นใจ พยายามทำใจว่าอย่างไรดำก็ไม่ใช่เด็กตัวเล็กๆ แล้ว ยิ่งดำออดอ้อนเขาจึงใจอ่อน แต่ก็กำชับว่า 3 วันเท่านั้น ถ้าเขากลับมาแล้วจะรับส่งเหมือนเดิม ดำก็ยอมรับปากอย่างง่ายดาย แถมยังดีใจจนออกนอกหน้า คงอยากไปซนเต็มที่แล้ว

และวันนี้ก็เป็นวันที่ดำต้องกลับคนเดียวเป็นวันแรก เขาทั้งตื่นเต้น ทั้งแอบกังวลว่าตนจะหลงทาง จนนั่งเหม่อในสวนระหว่างพักไม่ทันเข้าเรียนคาบบ่ายเสียได้

“ทำอย่างไรดี คุณสินไม่อยู่วันแรกไอ้ดำก็ทำเรื่องเสียแล้ว มีหวังคุณสินไม่สบายใจแน่เลย” ดำโอดควร เพราะมัวแต่ตื่นเต้นแท้ๆ เลย ถ้าแอบเข้าไปคุณครูจะจับได้ไหมนะ

แต่ไม่มีทางเลือกต้องแอบเข้าไปทางหน้าต่างแล้วล่ะ เวลานี้ต้องปิดประตูห้องแล้วแน่ๆ เพราะคุณครูอำพรไม่ชอบเด็กเข้าสายจึงปิดประตูห้องล็อกระหว่างสอน คนที่สายหลังจาก 5 นาทีไปก็จะไม่อนุญาตให้เข้าเรียน หน้าต่างจึงเป็นทางเดียวที่สมองน้อยๆ ของดำคิดออก

ดำคิดดังนั้นก็แอบลัดเลาะไปด้านหลังอาคาร โชคดีที่ห้องเรียนอยู่ชั้นหนึ่ง หาจังหวะที่ครูอำพรเขียนกระดานปีนเข้าไปก็แล้วกัน

แต่ยังไม่ทันที่ดำจะถึงตึกเรียนของตัวเอง ด้านหลังห้องน้ำที่แยกจากตัวอาหารก็มีคนคุ้นหน้าคุ้นตากำลังปีนกำแพงออกไปด้านนอก

“เต็มทำอะไร” ดำไม่เข้าใจประตูก็มีมาออกทางกำแพงทำไม จึงเอ่ยปากถามเต็มที่กำลังจะกระโดดลงจากกำแพงไปด้านนอก

“เอ๊ย อย่าทำให้ตกใจสิวะ” เต็มตกใจเสียงดำจนแทบร่วงลงไปผิดท่า จึงหันมาเอ็ดดำอย่างหัวเสีย หมอนี่อีกแล้ว อุตส่าห์เลี่ยง จะมาเจออะไรตอนนี้

ปี๊ดๆ

“หยุดนะ ลงมาเดี๋ยวนี้! ” ก่อนที่จะได้พูดอะไรมากกว่านี้ครูฝ่ายปกครองสุดโหดก็ตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยว แล้วรีบวิ่งมาจากมุมตึกที่อยู่ถัดไปอีก 2 ตึก

“เอ้า จับมือ ขึ้นมาเร็วสิวะ อยากเข้าห้องเย็นรึไง เดี๋ยวโดนเรียกพบผู้ปกครองพอดี” เต็มจะหนีไปเลยก็ได้ แต่ไม่รู้อะไรดลใจให้ช่วยดำ ถ้าถูกจับไปตอนนี้พาลแต่จะถูกลงโทษเสียเปล่า สู้โดดเรียนเอาตัวรอดไปเลยยังจะดีกว่า

เขาได้แต่ด่าตัวเองในใจจะไปช่วยศัตรูทำไมวะ มือที่ยื่นออกไปกลับไม่ได้ชักกลับแม้แต่น้อย

“ถ้าถูกเรียกพบผู้ปกครองไม่ดีเหรอ” สมองดำยังไม่อาจเข้าใจถึงโทษของการเข้าห้องเย็นที่เต็มพูดได้ แต่คำว่าถูกเรียกพบผู้ปกครองมีอิทธิพลต่อเขาไม่น้อย จึงได้ถามออกไปว่าตกลงมันดีหรือไม่ดีกันแน่นะ ทั้งที่เขากำลังจะไปที่ห้องเรียนแท้ๆ

“เออสิ พวกครูจะบันทึกชื่อเราเป็นเด็กไม่ดีแหกกฎทันที ส่วนพ่อแม่ก็ต้องโกรธมากรู้ไว้ด้วย เร็วสิเว้ย เดี๋ยวก็ทิ้งไว้ซะหรอก” เต็มเร่ง ครูสุชาติจอมโหดจะมาถึงอยู่แล้วยังมัวโอ้เอ้อีกถ้าถูกจำหน้าได้ก็ซวยไม่ต่างกัน ต้องหนีตั้งแต่ตอนที่แกมองไม่ชัดนี่แหละ ระยะนี้ยังใช้ได้ อย่างไรแกก็แก่แล้ว

“อื้อ” ดำได้ยินดังนั้นก็รีบจับมือเต็มให้ดึงขึ้นไปบนกำแพงในทันที เท้าก็กระโดดขึ้นด้านบน มืออีกข้างก็เกาะขอบกำแพงช่วยดึงตัวขึ้นไป เพียงพริบตาก็ขึ้นไปยืนบนกำแพงข้างเต็มแล้ว

“ตามมา”

ปึ้งๆ

นอกกำแพงมีโซฟาเก่าๆ ซึ่งเป็นที่นอนของพวกคนจรจัดอยู่ เต็มกระโดดนำลงไป ดำก็ทำตาม จากนั้นทั้งสองก็ออกวิ่งลัดเลาะไปตามซอยคดเคี้ยว โดยมีเสียงนกหวีดดังแผดขึ้นเป็นระยะ บ่งบอกว่าครูสุชาติจอมโหดยังคงตามมา เพราะประตูด้านหลังไม่ไกลนัก วิ่งอีกไม่ถึงนาทีก็พบแล้ว ทั้งครูสุชาติยังมีกุญแจสำรองติดตัวไว้ตลอดไม่แปลกที่จะตามมาเร็วขนาดนี้

“มานี่” เต็มเลี้ยวเข้าแคบๆ ซอยหนึ่งแล้ว มันพาไปโผล่ด้านหลังค่ายมวยขนาดไม่ใหญ่นักซึ่งเต็มมาฝึกที่นี่เป็นประจำ ไม่รอช้ากระโดดข้ามรั้วเตี้ยๆ เข้าไปทันที

“อ้าวเต็มพาใครมาวะ” ชายรูปร่างใหญ่โตเปลือยท่อนบนเอ่ยปากถามเต็มด้วยความสนใจ ทั้งดูไม่แปลกใจแม้แต่น้อยที่เจอเต็มในเวลาแบบนี้ ทั้งยังวิ่งเอาเป็นเอาตายบ่งบอกว่าหนีโรงเรียนมาอีก

“เดี๋ยวค่อยคุยพี่ ขอหลบก่อน ครูสุชาติตามมา ถ้าแกมาที่นี่ก็ฝากด้วยนะ” ว่าจบก็วิ่งหายลับเข้าไปในค่ายทันที

และเป็นดังที่ตามที่เต็มคาด ครูสุชาติเดินวิ่งจนถึงค่ายมวยจริงๆ ด้วย แม้ในใจจะรู้ว่าครูสุชาติไม่มีทางตามฝีเท้าของพวกเขาทัน ทั้งต้องไม่เป็นตอนที่พวกเขาเลี้ยวเข้าซอยมาด้วยซ้ำ การมาถึงน่าจะเป็นเพราะความบังเอิญ แต่เต็มก็ไม่อาจวางใจได้

เขามั่นใจว่าครูสุชาติต้องมองไม่เห็นหน้าเขากับดำ แต่ทำไม่ถึงมาที่นี่ล่ะ กำลังคุยกับพี่รัน นักมวยรุ่นพี่ของเขาด้วย หรือจะจำเขาได้

ถ้าเป็นปกติเขาก็ออกมาได้อย่างเนียนๆ แท้ๆ แต่เพราะเจอดำถึงได้ซวยแบบนี้ ตั้งแต่แรกเจอหน้าก็ไม่ถูกชะตา เลี่ยงได้เป็นเดือนยังจะมาร่วมหัวจมท้ายด้วยกันแบบนี้อีก บ้าจริงๆ

“ออกมาได้แล้วเว้ย” หลังจากไล่ครูสุชาติไป รันก็เรียกให้เจ้าคนหาเรื่องมาให้ออกมาในทันที

“ขอบใจพี่รัน ว่าแต่ครูสุชาติรู้ไหมว่าเป็นผม” เต็มเดินออกมาจากที่ซ่อน แล้วจึงถามสิ่งที่คาใจในทันที เขายังไม่พร้อมจะมีเรื่องปวดหัวก่อนแข่งใหญ่แบบนี้

“ไม่ แค่วิ่งผ่านมาเลยถามว่าเห็นเด็กโดดเรียนวิ่งมาแถวนี้บ้างรึเปล่า”

“ฟู่ ค่อยยังชั่ว” หลังได้รับคำตอบก็ต้องยอมรับว่าโล่งใจมากทีเดียว ถึงเขาจะได้รับการอนุโลมเรื่องการฝึกซ้อมหากใกล้แข่ง แต่มันก็เป็นเพียงขอบเขตในชมรมเท่านั้น จะออกมาค่ายมวยยังไม่ได้รับการอนุญาต ซึ่งเขาก็แอบทำมาประจำ คาบไหนที่คิดว่าเรียนไปไม่รอดแน่ๆ ก็โดด แล้วทำงานตามส่งทีหลัง ขอแค่ไม่ติดศูนย์ก็พอใจแล้ว

ซึ่งครูในโรงเรียนก็ยอมรับในข้อนี้ และมีกฎว่าถ้าสอบไม่ผ่านต้องเรียนเสริม แน่นอนว่าเต็มโดนประจำ ถึงจะแค่บางรายวิชาก็เถอะ

เต็มชอบที่จะมาฝึกที่ค่ายมากกว่า เพราะได้ชกกับคนที่เก่งกว่า ในชมรมเก่งก็จริง แต่มันก็เป็นเพียงระดับนักเรียนเท่านั้น คู่ต่อสู้ที่เขาต้องการคือพวกที่ผ่านสังเวียนจริง ทั้งยังมีประสบการณ์เจนจัดกว่า เป็นพวกผู้ใหญ่ที่สู้ในสังเวียนครั้งแล้วครั้งเล่า นั่นแหละถึงจะเรียกว่าสุดยอด

ตั้งแต่เด็กเต็มก็หลบจากครอบครัวที่วุ่นวายมาที่นี่ประจำ จนเขารักในการชกมวยไม่แพ้นักมวยคนอื่นๆ ต้องยอมรับว่าเหลิงไปบ้าง เพราะชนะรุ่นพี่ในค่ายที่ใช้เวลาฝึกฝนยาวนานกว่าได้หลายคน และก็ถูกหยุดด้วยความอัปยศครั้งนั้น การแพ้ในระดับนักเรียน เต็มไม่พอใจแม้แต่น้อย

เขาจึงมีทิฐิใหญ่หลวง เริ่มพาลรังแกคนอื่น และถูกหยุดด้วยหมัดเดียวของดำในตอนนั้น ทำให้เต็มตระหนักว่าเขายังอ่อนแอมาก แม้จะอยู่ในรุ่นเดียวกัน ดำไม่ได้ใช้กลโกง สู้อย่างตรงไปตรงมา ไม่เหมือนการแพ้ในครั้งนั้น เต็มจึงฝึกเป็นบ้าเป็นหลังมากขึ้น เขาต้องเก่งกว่าใคร!

“แล้วทำไมรอบนี้พาเพื่อนมาด้วยวะ แปลกดี มีเพื่อนด้วยเหรอมึง ฮ่าๆ ๆ”

“ไม่ใช่”

“ไม่ใช่”

สองเสียงประสานตอบดังฟังชัดแทบจะทันที ไม่พอยังหันหน้าไปมองกันแล้วหันหน้าหนีอีก เพราะการต่อสู้ครั้งนั้นพวกเขาจึงมีอาการเช่นนี้

ดำถูกบางคนกลัวทั้งที่พยายามเป็นมิตร ถึงจะยอมรับว่าเต็มมีดีอยู่บ้าง แต่มันให้อภัยข้อนั้นไม่ได้จริงๆ ส่วนเต็มมองดำเป็นคู่ต่อสู้เต็มตัว เป็นเป้าหมายต่อไปหลังจากคว้าแชมป์ระดับจังหวัดแล้ว จะให้บอกว่าเพื่อนมันก็เลยแปร่งหูพิกล

“ฮ่าๆ แล้วนี่จะเอาเลยไหม” รันหัวเราะกับท่าทางของเด็กทั้งสอง เขามองดูก็รู้ว่าพวกนี้ไม่ได้มองกับเป็นศัตรู คงจะมองว่าเป็นคู่แข่งล่ะมัง เขาก็เคยมีช่วงเวลาเช่นนี้ ไม่ชอบขี้หน้า แต่ก็ตัดกันไม่ขาด ทิ้งอีกฝ่ายเอาตัวรอดไม่ได้ถึงได้พากันวิ่งมาถึงตรงนี้

“เอาเลยเฮีย ขอไปเปลี่ยนชุดก่อน” ว่าจบก็เดินลิ่วๆ เข้าไปในห้องอาบน้ำทันที หลังจากเต็มหายลับเข้าไปในห้อง รันก็คิดว่าถึงเวลาซักฟอกดำแล้ว ตัวเล็กจริงๆ ถึงจะไม่น่าเชื่อว่าเต็มมองเด็กคนนี้เป็นคู่แข่ง แต่เราจะตัดสินคนจากภายนอกไม่ได้ เด็กคนนี้อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เต็มกลับมาฝึกอย่างเอาเป็นเอาตายเหมือนสมัยก่อนก็ได้ ไม่ใช่เที่ยวกร่างเหมือนก่อนหน้านี้ เพียงเพราะชนะรุ่นพี่ในค่าย

“ว่าไงเรา ชื่ออะไร” ดำไม่ได้สนใจรัน เขากำลังมองดูรอบๆ อย่างสนใจ สมัยก่อนดำได้แต่แอบมองแล้วฝึกตามอยู่ห่างๆ เป็นครั้งแรกที่ได้เข้ามานั่งด้านในเช่นนี้ ทั้งพวกอุปกรณ์ยังดูดีกว่าสมัยก่อนมาก เขาจึงสนใจมากขึ้นไปอีก

“สนใจเหรอ อยากร่วมฝึกด้วยไหม” รันไม่ได้โกรธที่ไม่ได้รับคำตอบ ดูจากแววตาแล้วคงจะสนใจค่ายมวยมากจริงๆ และเพื่อพิสูจน์ฝีมือดำแล้วทางที่ง่ายที่สุดคือ ให้ลงสนามจริงไปเลย

“ฮะ! พี่ชายว่าไงนะ” ความสนใจถูกดึงกลับมาด้วยประโยคเพียงประโยคเดียว หัวใจดำเต้นตึกตัก แต่ก่อนเขาไม่ถูกอนุญาตให้เข้าไปจึงทำได้เพียงแค่ฝันเท่านั้น พอถูกบอกว่าให้ร่วมฝึกดำจึงตกตะลึงเช่นนี้

ไม่ใช่ความฝันใช่ไหม ไอ้ดำจะได้ต่อยมวยบนสังเวียนล่ะ ว้าวๆ ๆ

“เอ้า ถ้าอยากฝึกด้วยก็ตามมา อย่างแรกต้องเปลี่ยนชุดก่อน ขนาดตัวเท่าเรายืมชุดไอ้ก้อนก็คงได้” ดำเดินตามอย่างว่าง่าย อะไรไอ้ดำไม่เข้าใจหรอก ขอแค่ได้ลองฝึกบ้างก็พอ

“เอ้า เปลี่ยนใส่ชุดนี้ก่อน อย่างแรกต้องอุ่นเครื่อง วิ่งไกลๆ ไหวไหมเรา” รันถือวิสาสะเปิดล็อกเกอร์ของก้อนหิน เจ้าเด็กประถมที่พึ่งเข้ามาฝึกได้ไม่นาน กะขนาดแล้วน่าจะใส่ได้พอดี เพราะก้อนหินตัวใหญ่กว่าเด็กรุ่นเดียวกันเล็กน้อยนั่นเอง

“ได้ครับ ไอ้ดำทำได้” ดำรับชุดที่รันยื่นให้แล้วเดินเข้าห้องน้ำไปเปลี่ยนชุด รันได้แต่มองอย่างงงๆ เจ้านั่นเป็นเด็กผู้ชายจริงๆ ใช่ไหม จำเป็นต้องหาห้องน้ำด้วยเหรอ ไม่ได้ให้เปลือยทั้งตัวเสียหน่อย

ไอ้ดำต้องทำตามคำสั่ง คุณสินบอกว่าไม่ให้แก้ผ้าต่อหน้าคนอื่น ไอ้ดำเด็กดีต้องเชื่อฟังล่ะ ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจก็เถอะ

ดำเดินสวนกับเต็มที่เดินออกมาจากห้องน้ำหลังจากเข้าไปจัดการธุระส่วนตัวเรียบร้อย จึงอดแปลกใจไม่ได้ที่เห็นดำอยู่ในนี้ แล้วในแขนนั่นมันชุดฝึกไม่ใช่เหรอ

“เฮียพามันมาทำไม่เนี่ย” รันไมตอบคำถามเต็มเพียงยักคิ้วท่าทางกวนบาทาให้เท่านั้น

ชุดที่ดำได้รับมาเป็นเสื้อกล้ามสีดำ กางเกงมวยสีน้ำเงิน และชุดวอร์มสีฟ้าหนึ่งชุด ดำไม่ค่อยเข้าใจว่าเอามาทำไมแต่ก็ใส่ทับชุดมวยเอาไว้ แล้วหอบชุดนักเรียนออกมาด้านนอก

รันเก็บชุดของดำไว้ในล็อกเกอร์ของก้อนหินแทนชุดฝึกที่ยืมมา

โปรแกรมแรกของพวกเขาคือการวิ่ง ต้องเตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนจึงขึ้นชกบนเวที ดำเข้าใจข้อนี้เพราะเห็นค่ายมวยข้างๆ วัดทำเช่นนี้ประจำ จึงไม่อิดออดวิ่งตามไปทันที ตอนนี้ยังเที่ยงวัน พวกเขาจึงเลือกวิ่งในสวนสาธารณะ ที่มีต้นไม้ปกคลุมร่มรื่น

รันกับเต็มสลับกันมองดำเป็นระยะ กลัวว่าคนตัวเล็กจะล้มพับไปเสียก่อนเพราะอากาศเมืองไทยร้อนน้อยเสียที่ไหน คนที่ไม่เคยวิ่งในระยะทางหลายกิโลมีแต่ล้มพับกันไปเท่านั้น พวกเขาวิ่งรอบสวน 10 รอบ ระยะทาง 10 กิโลโดยประมาณ ตอนนี้ผ่านไปครึ่งหนึ่งแล้ว ดำก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะล้มลง แม้หน้าจะแดงชื้นเหงื่อเต็มไปหมดก็ตาม

และผิดคาดดำวิ่งกับพวกเขาจนครบ ทั้งยังไม่มีท่าทีว่าจะเหนื่อยจนล้มพับแม้แต่น้อย ส่วนมากผ่านครึ่งแรกมาก็เริ่มมีคนหมดสภาพแล้วในการวิ่งครั้งแรก แต่ดำกลับทำได้อย่างง่ายดาย

เจ้านี่เป็นตัวอะไรกันแน่ ไหนบอกว่าป่วย แบบนี้ไม่เห็นเข้ากับสภาพเลยนี่หว่า

เต็มได้แต่แย้งในใจ เขาไม่อยากเชื่อตั้งแต่แรก แต่พอเห็นสภาพดำตื่นเต้นกับทุกอย่างที่เห็น แถมบางเรื่องเป็นเรื่องปกติแท้ๆ ยังไม่รู้จัก เขาจึงทำใจเชื่อลงได้ แต่พอมาวันนี้เขากลับเริ่มลังเลอีกครั้ง

“เก่งนี่ พึ่งเคยฝึกจริงเหรอ” รันถามด้วยความอยากรู้อยากเห็นก่อนหน้านี้ถามดูก็ได้คำตอบว่าพึ่งเคยเข้ามาในค่ายมวยครั้งแรก มันจึงทำให้เขาแปลกใจอยู่พอสมควร

“อื้อๆ ไอ้ดำพึ่งเคยฝึกแบบนี้นะ” ก็ก่อนหน้านี้ถึงทำตามอยู่บ้างแต่ก็ไม่อาจทำจริงจังขนาดนี้ ส่วนมากประสบการณ์ของดำมาจากการวิวาทเสียมากกว่า พละกำลังถึงได้มากไม่แพ้คนที่ฝึกเป็นประจำเลย เขาเองก็วิวาทเป็นประจำนี่นา แถมยังต้องทำความสะอาดวัดอีก สะบักสะบอมแค่ไหนก็ต้องทำงานที่รับผิดชอบ ดำจึงก้าวข้ามขีดจำกัดได้เช่นนี้

“เอ้า มาดูกันว่าจะตามพวกเราจนจบได้รึเปล่า พร้อมรึยัง”

“พร้อม! ”

ดำวิ่งตามรันต้อยๆ โดยมีเต็มเดินตามอยู่ห่างๆ จะบอกว่าไม่พอใจก็ไม่ถูก เขาแค่ไม่เข้าใจตัวเองที่รู้สึกดีใจชั่วครู่เมื่อเห็นว่าดำตามทันเท่านั้น ไม่เข้าใจตัวเองเลยจริงๆ

วันนั้นช่วงบ่าย ดำก็ขลุกอยู่ในค่ายมวย ทั้งวิ่ง กระโดดเชือก เตะต่อยกระสอบทราย แม้เหนื่อยจนเหงื่อท่วม เขากลับไม่อาจหุบยิ้มแห่งความสนุกนี้ลงได้

จนกระทั่งถึงเวลาขึ้นสังเวียน เต็มเตรียมสู้กับดำเต็มที่ แต่ก็ถูกดับหวัง เพราะเฮียพงษ์ เจ้าของค่ายมาเจอแล้วสั่งห้าม จะให้เต็มบาดเจ็บก่อนขึ้นชกจริงรอบแรกในอีก 3 วันไม่ได้ ดูแล้วการชกครั้งนี้คงไม่หยุดแค่อีกฝ่ายแพ้ ดูสายตาของทั้งคู่สิ แทบอยากจะอัดอีกฝ่ายให้น่วมเต็มกลืนแล้ว

และในใจเขาก็เต้นตึกตัก สัญชาตญาณของนักชกเจนสังเวียนร้องบอกว่าเจ้าหนูนี่ไม่ธรรมดา วันนี้เขาอาจจะได้นักมวยฝีมือดีเข้าสังกัดอีกก็ได้

“เปรม ขึ้นชกกับเจ้าหนูนี่หน่อย”

“ครับเฮียพงษ์” เปรมเป็นนักมวยที่พึ่งชนะในเวทีใหญ่เป็นครั้งแรก เขาพึ่งเข้ามาฝึกได้ 5 ปี ทำให้ฝีมือใกล้เคียงกับเต็ม แม้จะอายุมากกว่าก็ตาม แต่ถึงจะบอกว่าเต็มไล่ตามคนที่มีอายุมากกว่าทั้งยังมีร่างกายที่พรั่งพร้อมกว่ามันก็ไม่ใช่เรื่องเกินไป

สายตาของเปรมเต็มไปด้วยการดูถูก และแฝงความแค้นเคืองเอาไว้จางๆ เจ้าเด็กนี่เป็นเพื่อนของไอ้เต็มจอมอวดดี ถ้าเช่นนั้นก็ขออัดเป็นของฝากสำหรับนัดชกครั้งหน้าหน่อยเถอะ!





โปรดติดตามตอนต่อไป...



_________________________________________

มาแล้วค้า มาช้าอีกแล้ว ขอโทษนะคะ

บทนี้กลัวยืดก็เลยขอข้ามฉากกินไปน้า ตอนหน้าถึงจะจัดหนัก

เดี๋ยวท้องให้พร้อม ฮ่าๆ

น้องดำจะแสดงฝีมืออีกแล้ว ลุ้นกันไหมเอ่ย

ส่วนความผิดของกรีนจะชดเชยให้ตอนเย็นนะคะ

รอลุ้นกันน้า

แล้วเจอกันจ้า

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
โถๆๆมาเล่นกับดำ ระวังเจอดำอัดคืนนะจ๊ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
สอยเลยดำ สอยเลย  :katai2-1:

ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3
รอตอนต่อไปค่ะ^^

ออฟไลน์ GreenHead(หัวเขียว)

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 124
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
    • Green Head - หัวเขียว
เปย์ครั้งที่ 12
«ตอบ #102 เมื่อ10-05-2018 05:02:05 »

เปย์ครั้งที่ 12

ว่าวเหลิงลม

‘อาการที่หลงระเริงกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งแล้วเพลินจนลืมตัว’


ดำมองนวมที่รันช่วยใส่ให้อย่างตื่นเต้น เป็นครั้งแรกที่ได้ใส่อะไรแบบนี้ แถมยังได้ขึ้นสังเวียนชกอีก เขาจึงไม่ได้สนใจไปมากกว่าการขึ้นชกเลย จุดประสงค์ของเปรมดำก็ไม่อาจรู้ได้

ตอนนี้ดำถอดชุดวอร์มออกแล้ว เหลือเพียงเสื้อกล้ามสีดำกับกางเกงมวยเท่านั้น ทำให้คนที่เริ่มทยอยมามุงดูอยากจะค้านเจ้าของค่ายเต็มที่

ดูสิตัวเล็กบอบบางขนาดนี้ ชกกับเปรมที่สูงเกินร้อยแปดสิบ ตัวหนาเต็มไปด้วยมัดกล้าม จะดูอย่างไรมันก็ผู้ใหญ่รังแกเด็กชัดๆ แถมยังพึ่งเคยมาค่ายไม่ใช่หรือไง จะเป็นมวยเรอะ ถึงจะเป็นเพื่อนของเต็มก็เถอะ มันก็ไม่น่าเก่งไปกว่าเปรมได้เลยนา

อย่างไรเต็มก็พึ่งชนะเปรมไปเมื่อสองเดือนก่อนแค่ครั้งเดียวเอง เจ้าหนูนี่ไม่น่าจะเอามาเทียบได้เลย แล้วใครก็รู้ว่าเปรมมันเสียหน้าขนาดไหนที่แพ้เด็กอย่างเต็ม ยังจะให้ขึ้นชกกับเพื่อนตัวน้อยของเต็มอีก มีหวังเปรมจัดเต็มจนร่างเล็กๆ นั่นเละแน่

“ระวังนะดำ เจ้านี่เก่งพอๆ กับเต็มตอนเครื่องร้อนเต็มที่เลยล่ะ” นอกจากเต็มกับเฮียพงษ์แล้วก็มีรันที่พอรู้ว่าดำไม่ใช่ธรรมดา ร่างกายเล็กๆ นี่กล้ามเนื้อแข็งไม่เบา บ่งบอกว่าได้ออกกำลังอย่างสม่ำเสมอ นิ้วมือด้านหลังมือก็ด้านจนเห็นได้ชัด คงผ่านประสบการณ์ต่อยตีโดนไร้นวมมาไม่น้อย การชกครั้งนี้มีลุ้น

“ครั้งนั้นกูแค่ประมาทจำไว้ อย่าเอาฝีมือเจ้านี่ไปเทียบกับกูตอนนั้น” เต็มเข้ามาหยุดข้างดำโดยไม่มองหน้า พูดจบแล้วก็เดินผ่านไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“อื้อ- “ดำมองตามแผ่นหลังที่เล็กกว่าสิรินไปด้วยสายตางุนงง

“ไอ้ดำยังตอบไม่จบเลยรีบอะไรของเขานะ” สุดท้ายก็พูดออกมาอย่างไม่เข้าใจ รันได้แต่ยิ้ม ห่วงเพื่อนแล้วยังเก๊ก ให้ตายเถอะเต็มเอ๊ย

“ฮ่าๆ อย่าสนใจมันเลย ขึ้นเวทีดีกว่า” ตบหลังดำเบาๆ ส่งท้าย การชกวันนี้น่าสนุกจริง แล้วนั่นเฮียพงษ์ไปกระซิบกระซาบอะไรกับเจ้าเปรม จะทำให้มันสนุกขึ้นรึไง หรือคิดว่าเปรมแพ้แน่ๆ ถ้าดูถูกดำ อืมๆ เฮียพงษ์เนี่ยชอบทำเรื่องสนุกๆ ทุกทีสิน่า

“ครับ” ดำเดินขึ้นเวทีด้วยใจที่เต้นตึกตัก เหมือนจะหลุดออกมาง่ายๆ ไม่ต่างจากวันที่ได้หนังดูหนังจอใหญ่เลย

โอ๊ย ขาสั่น มือสั่นไปหมดแล้ว ตื่นเต้นโว้ย

ทางด้านคนที่ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นเพื่อนกันก็มองตามดำทุกฝีก้าว ไม่เข้าใจว่าตัวเองห่วงอะไร ถึงวันนั้นได้คิดทบทวนแล้วว่าตัวเองยังไม่ได้เอาจริงเต็มร้อย แต่เขาก็รู้ว่าดำไม่ต่างกัน พวกเขาสู้กันโดยที่ยังไม่ได้ลงมือเอาจริงทั้งสองฝ่าย

เปรมเป็นเหมือนคู่แข่งของเขา เพราะเข้ามาทีหลัง แค่เป็นผู้ใหญ่กลับได้ขึ้นชกก่อน ทั้งทุกครั้งที่สู้กันเขาก็ไม่เคยชนะเลย มีเพียงครั้งเดียวที่เอาชนะมาได้ ครั้งนั้นสู้จนสะบักสะบอม ยกแล้วยกเล่า ไม่มีใครยอมใคร ร่างกายของเต็มยังไม่สูงใหญ่เต็มที่ทำให้อาศัยจังหวะและฝีมือในการเอาชนะเท่านั้น

ไม่เพียงร่างกายแม้แต่น้ำหนักของหมัดก็ต่างกัน แรงเด็กจะสู้ผู้ใหญ่ได้อย่างไร หนทางของเขามีเพียงออกหมัดให้มากกว่า เปรมต่อยหนึ่ง เต็มต้องต่อยกลับ 2 หมัด หลบหมัดที่จู่โจมให้ได้ ยิ่งถูกตัวน้อยลงเขายิ่งมีสิทธิ์ชนะ ใช้ทุกอย่างที่มีจนก้าวข้ามมาได้

ซึ่งนั่นเป็นเรื่องมือ 2 เดือนก่อน เวลานี้ไม่รู้ว่าเปรมเก่งขึ้นขนาดไหนแล้ว ดำเองก็ไม่รู้ว่ามีฝีมือถึงขั้นใด ในใจของเต็มจึงอดที่จะเป็นห่วงคู่แข่งของตนไม่ได้

ใช่แค่ห่วงคู่แข่ง ถ้าดำโดนเล่นจนเละแล้วเขาจะสู้กับมันได้อย่างไร ต้องรออีกนานแค่ไหนหว่าจะหาย มันก็เท่านั้น...

ถึงเปรมจะถูกเตือนว่าอย่าได้ดูถูกดำ ให้ชกอย่างเต็มที่ แต่ก็อดที่จะแย้งในใจไม่ได้ เด็กยิ้มแฉ่ง ตาโต ตัวเล็กนี่นะ หึ

“วันนี้ชกอย่างไม่เป็นทางการเริ่มได้เลย ฉันจะเป็นกรรมการเอง” เฮียพงษ์กระโดดขึ้นบนเวที อยู่ใกล้แบบนี้ดีกว่า เกิดอะไรขึ้นจะได้ห้ามทัน

“ดำมานี่มา” เฮียพงษ์เรียกดำที่กำลังมองหัวเสากับรอบๆ เวทีอย่างสนใจ

“ครับ” ในที่สุดดำก็ได้มองหน้าคู่ชกของตนตรงๆ โห ตัวใหญ่จัง

พงษ์มองดำอย่างสนใจ ดูสิไม่มีความกลัวอยู่ในดวงตานั้นเลย เหมือนชินชากับการสู้กับคนที่โตกว่าอยู่แล้ว ต่อให้เปรมตัวหนาจนต้องมีดำสองคนถึงจะเทียบได้ เจ้าตัวยังไม่มีหวั่นไหวอะไร เอาแต่ยิ้มดีใจไม่หุบเสียที

ทั้งคู่ยื่นมือที่ใส่นวมทั้งสองข้างมาแตะกัน กลางเวทีมีเพียง ดำ เปรม และพงษ์เท่านั้น ส่วนด้านล่างก็เริ่มมีเสียงโห่เชียร์ดังขึ้นเรื่อยๆ

“ไอ้หนูอัดไอ้เปรมเลย”

“เฮ้ยๆ เปรมอย่ารังแกเด็กนะเว้ย”

มีคนไม่น้อยที่คิดว่าน่าสนุกถ้าดำชนะเปรมได้จึงส่งเสียงให้กำลังใจดำบ้าง ทำให้เปรมหัวเสียขึ้นอีก มองดำด้วยสายตาไม่พอใจ เอาแต่ยิ้มอยู่ได้ มีความสุขอะไรนักหนา เริ่มชกเมื่อไหร่จะจัดการให้ยิ้มไม่ออกเลย

“วันนี้เป็นการชกแบบไม่เป็นทางการ แล้วดำก็ไม่เคยขึ้นชกมาก่อน ฉันจะไม่กำหนดกติกาอะไรมากมาย แต่ก็ให้ฟังกรรมการเวลาเข้าไปห้ามด้วย เอาล่ะ สู้ให้เต็มที่

ชก! ”

พงษ์กล่าวกับคู่ชกทั้งสอง จากนั้นก็วาดมือไประหว่างนวมที่แตะกันอยู่ เป็นสัญญาณบอกให้เริ่มชกได้ แล้วเขาก็ขยับตัวออกมาอยู่วงนอกให้ทั้งคู่ได้มีพื้นที่เคลื่อนไหวอย่างเต็มที่

เปรมขยับถอยหลังเพื่อตั้งหลักเริ่มสู้ผิดกับดำที่สวนหมัดเข้าใส่เปรมทันที คนตัวเล็กก้าวขาไปข้างหน้าอย่างพอเหมาะย่อตัวลงเล็กน้อย เสริมให้เขาที่สูงเพียงรักแร้ของเปรมเตี้ยลงไปอีก เว้นระยะห่วงของหมัดมากขึ้น แรงเหวี่ยงจากด้านล่างก็มากขึ้น ส่งหมัดเข้าเสยปลายคางของเปรมอย่างพอดิบพอดี

กว่าจะรู้ตัวหมัดของดำก็ถึงปลายคางของเปรมเสียแล้ว ชั่วพริบตานั้นร่างกายของเปรมสั่งให้เงยหน้าขึ้นตามแรงที่เหวี่ยงมาทำให้พอลดแรงกระแทกไปได้บ้าง ถึงจะไม่ได้ทรุดลงกับพื้นเพราะนั่นเป็นจุดตายของร่างกาย แต่ร่างกายใหญ่โตนั้นก็เซไปมาอย่างเห็นได้ชัด

อย่าล้มไอ้เปรม!

เปรมสั่งให้ตัวเองไม่ให้ล้มลงไป เขาไม่อยากเสียหน้า พึ่งเริ่มยังไม่ถึงนาทีเขาก็เสียท่าเข้าอย่างจัง ถ้าล้มลงไปมีหวังโดนหัวเราะเยาะไม่จบสิ้นแน่ๆ มือที่พยายามคว้าอากาศนั่นแตะเข้ากับเชือกด้านหลัง เขาจึงใช้มันพยุงตัวเอาไว้

“มึง ไอ้เด็กเวร” เปรมส่งสายตาโกรธเกรี้ยวไปยังคนตัวเล็กที่กำลังมองนวมอยู่ที่เดิมอย่างไม่สนใจที่จะมาอัดซ้ำ มันดูถูกกันชัดๆ จะมากไปแล้วนะ เพราะปกติใครๆ เขาก็ถอยรอดูจังหวะถึงเริ่มสู้ทั้งนั้น เล่นจู่โจมเลยแบบนี้ มันแค่ความเป็นไปได้ที่คาดไม่ถึงท่านั้น

ดำชกได้แล้วก็ไม่สนใจเปรมเท่าไหร่นัก เวลานี้สัมผัสของการชกผ่านนวมน่าสนใจยิ่งกว่า

ไม่เจ็บล่ะ ไม่เจ็บเลย ปกติจะเจ็บมือเวลาชกคนอื่น ไม่ได้มีแค่ฝ่ายโดนชกที่เจ็บ แต่ไอ้ที่เรียกว่านวมดีชะมัด ผ้าที่พันไว้เทียบไม่ติดเลย ทั้งนุ่มทั้งทำให้บริเวณที่ชกกว้างขึ้น แถมยังดูไม่ลดแรงปะทะลงเท่าไหร่ด้วย

ข้อนี้ดูได้จากที่เปรมได้รับผลกระทบจากหมัดเมื่อครู่ แต่ดำรู้ว่าการที่แรงปะทะลดลงนั้นไม่ดีนัก เขาต้องใส่แรงเข้าไปอีก ชักไฟลุกแล้ว

หางตาดำจับภาพหมัดที่เขาใกล้ตัวเองได้จึงกระโดดหลบไปด้านหลัง แต่ไม่คาดคิดเพียงก้าวเดียวเปรมก็เบี่ยงตัวไปรออยู่ตรงนั้นแล้ว เขายกขาขึ้นเตะหลังดำเข้าอย่างจัง

แรงขาที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามส่งผลให้ดำกระเด็นไปอัดเชือกเข้าอย่างจัง

“เจ็บ” ดำคว้าเชือกไว้ไม่ยอมให้ตัวเองล้ม ก่อนจะหันกลับไปมองเปรมด้วยความโกรธ

ไอ้ดำชักโกรธแล้วนะ

“ระวังด้วยไอ้เตี้ย พี่เปรมถนัดเตะ” ไม่รู้อะไรสิง เต็มรีบเดินเข้ามาเกาะของเวทีแล้วเตือนดำ ความห่วงมีมากกว่าทิฐิเสียแล้ว

“ขอบใจ” ดำมองอย่างงงๆ ไม่เข้าใจเต็ม แต่ก็ยิ้มแล้วเอ่ยขอบใจตามความรู้สึกนั้นจริงๆ ปกติไม่มีใครเตือนหรอกว่าคู่ต่อสู้ถนัดอะไร มีแค่ระวังหลังให้คนฝั่งตัวเองเท่านั้น มวยเนี่ยแปลกดีจริงๆ

เปรมไม่ปล่อยให้ดำตั้งตัว เข้าประชิดตัวดำในทันที แต่ผิดคาด ร่างกายที่ยังพาดอยู่บนเชือกหันหลังให้เปรมกลับตวัดขาเอี้ยวไปด้านหลัง ทั้งที่ไม่ใช่ท่าทางจะใช้ท่านี้ได้

จระเข้ฟาดหาง

เปรมกระโดดถอยหลังหลบออกมาจากระยะนั้น แต่ในใจก็อดแปลกใจไม่ได้ แปลกทั้งที่อยู่ท่านั้นแต่กลับใช้จระเข้พาดหางได้สมบูรณ์แบบ

คนที่สู้แค่บนสังเวียนกับสู้เพื่อเอาชีวิตรอดนั้นต่างกัน ถ้าแพ้ก็อาจตาย นั่นคือเรื่องปกติในยุคของดำ เพื่อไม่ให้ตัวเองมีจุดจบอเนจอนาถไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์เช่นไรก็ต้องสู้เท่านั้น

การออกหมัดหรือกระบวนท่าจึงต้องพลิกแพลงอยู่เสมอ ไม่พร้อมอย่างไรก็ต้องทำให้ได้ ในการต่อสู้เช่นอันธพาล หรือจะวิวาทธรรมดาๆ จะมาร้องบอกว่าขอเวลาตั้งหลักมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว

เปรมไม่เคยสู้กับคนตัวเล็กกว่าขนาดนี้ เพราะไม่นิยมสู้กับคนอ่อนแอ เขามองว่าคนที่เก่งจริงต้องมีร่างกายที่สมบูรณ์พร้อม พวกตัวเล็กๆ จะเอาแรงจากไหนมาสู้ อย่างไรก็ไม่อาจแตะต้องเขาได้

ทำให้หลักการที่ว่าคนที่ช่วงตัวยาวกว่าควรสู้แบบเว้นระยะจึงไม่อยู่ในหัวเปรมแม้แต่น้อย แทนที่จะเตะจากระยะที่ดำไม่อาจโต้ตอบได้ เขาจึงขยับตัวเข้ามาอยู่ในระยะของดำเสมอ การเว้นระยะ เอาไว้สู้กับคนที่เก่งกว่าเท่านั้น

ดำยิ้มมุมปากอย่างพอใจ ขอเอาคืนที่เตะหลังจนเจ็บเสียหน่อยเถอะ ไม่รอช้า ดำเข้าโจมตีเปรม หมัดตรงถูกต่อยออกไปครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เปรมก็โยกตัวหลบได้ทุกครั้งไป ซ้ำยังเตะสวนมาทุกครั้งที่ดำเปิดช่องว่าง จนเวลานี้ดำคิดว่าทั้งขาที่ยกขึ้นมาป้องกัน ทั้งสีข้างที่ยกขาขึ้นมาป้องกันไม่ทันของเขาคงแดงไปหมดแล้ว

เปรมยิ้มเหี้ยม เพียงแค่หมัดตรงทื่อๆ จะใช้ทำอะไรได้ แบบนี้ช่วงล่างเขาก็จู่โจมได้สบายๆ หมัดตรงมองออกง่าย คนที่มีประสบการณ์ขึ้นชกหลายเวทีอย่างเขาจะมองไม่ออกได้อย่างไร ทั้งหมัดยังเบา ไม่สะดุ้งสะเทือนแขนที่ยกขึ้นมาป้องกันแม้แต่น้อย

การโรมรันของทั้งคู่ทำให้เต็มไม่เข้าใจ เขารู้สึกเหมือนดำมีบางอย่างที่เล็งเอาไว้ แต่มันนานเกินไปแล้วนะ จะทำอะไรก็รีบทำสิเจ้าเปี๊ยกเดี๋ยวก็หมดแรงก่อนพอดี

และแล้วก็ถึงจังหวะที่ดำเล็งไว้ จับจังหวะได้แล้ว ตอนนี้แหละ ดำชกหมัดเข้าไปเต็มแรง พร้อมๆ กับเปรมที่ยกขาขึ้นเตะพอดิบพอดี มือที่ยกขึ้นมากันทั้งสองข้างนั้นปิดบังวิสัยทัศน์ถ้ามองคู่สู้ตัวเท่ากันมันไม่ยากเลย แต่ดำตัวเล็กกว่านั้นมาก ก่อนจะเลื่อนสายตาให้ต่ำกว่านี้ดำก็หายไปจากตรงนั้นเสียแล้ว

ดำเลียริมฝีปากอย่างพอใจ เขาย่อตัวลงจนคล้ายนั่งยองๆ กับพื้น วาดขาข้างหนึ่งออกไป เตะข้อพับเปรมที่ยังไม่อาจชักอีกข้างกลับทันเข้าอย่างจัง

เปรมเสียจังหวะจนทรุดเข่าลงกับพื้น สมองยังมึนงงไม่อาจมองการกระทำของดำได้ทัน กว่าจะรู้ตัวหน้าของเขากับดำก็อยู่ในระดับเดียวกันเสียแล้ว

ไม่เสียเปล่า ดำเหยียบเข่าที่ชันกับพื้นยกตัวของตนให้สูงขึ้น ขาอีกข้างที่ลอยอยู่ในอากาศก็งอเอาไว้ มือทั้งสองข้างจับไหล่เปรมไว้เป็นหลังยึด

แล้วซัดเข่าเข้าปลายคางเปรมอย่างจัง

หักคอเอราวัณ!

สติของเปรมดับวูบ ภาพสุดท้ายที่เห็นคือรอยยิ้มสนุกของดำ

จากนั้นดำก็กระโดดกลับมาที่พื้น ส่วนเปรมก็ล้มตัวลงอย่างหมดสภาพ

ทุกคนมองด้วยความตกตะลึงกับภาพที่เห็น แม้แต่พงษ์ที่พอจะคาดการณ์ได้ว่าผู้ชนะน่าจะเป็นดำยังไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองได้ ชนะอย่างหมดจด ไม่สะบักสะบอมแม้แต่น้อย เขาคิดว่าสภาพของดำน่าจะไม่ต่างกับเต็มที่ชนะโดยทุ่มหมดตัวเท่าไหร่นัก แต่ดูตอนนี้สิ เจ้าตัวยังยืนยิ้มมีความสุขโดยแทบจะไร้รอยขีดข่วนอยู่เลย

หลังตั้งสติได้ พงษ์ก็เข้าไปจับแขนดำยกขึ้น

“ดำเป็นฝ่ายชนะ”

เย้!!

เสียงเชียร์ดังกระหึ่ม จะบอกว่าพวกเขาเอาใจช่วยดำตั้งแต่หมัดแรกแล้วก็ว่าได้ พอดำชนะจึงได้ออกอาการเช่นนี้ มีเพียงเต็มที่ยิ้มในตอนแรกก่อนรอยยิ้มนั้นจะหายไปเป็นมุ่งมั่นเอาชนะแทน เขาต้องเก่งกว่านี้

เพราะคู่ต่อสู้ของเขา ไม่ธรรมดาเลย

::::

>>>50%<<<



มาแล้วค่ะ จะลงไถ่โทษแท้ๆ แต่ไม่จบตอนล่ะ

แถมจะลงตั้งแต่เมื่อวานเย็น ดันหลับตั้งแต่บ่าย 3 โมง อีก

ทั้งแต่งไม่จบ ทั้งไม่ได้ลง ขอโทษนะคะ

อยากจะบ้ากับตัวเองจริงๆ

ครึ่งที่เหลือมาลงต่อตอนเย็นน้า ขอไปทำงานก่อน

แล้วเจอกันจ้า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-05-2018 15:52:42 โดย GreenHead(หัวเขียว) »

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ดำสอยร่วงจนได้  :z2:

ออฟไลน์ Meen2495

  • is allergic to drama.
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-4
เก่งมากดำ ...
แต่ "รีบกลับบ้าน" นะ เดี๋ยวพี่สินรู้นาาาาาา

ป.ล. มีคำผิดนะคะ

อย่างไรเต็มก็พึ่งชนะเปรมไปเมื่อสองเดือนก่อนแค่ครั้งเดียวเอง เจ้าหนูนี่ไม่น่าจะเอามาเทียบได้เลย แล้วใครก็รู้ว่าเปรมมันเสียหน้าขนาดไหนที่แพ้เด็กอย่างเปรม ยังจะให้ขึ้นชกกับเพื่อนตัวน้อยของเต็มอีก มีหวังเปรมจัดเต็มจนร่างเล็กๆ นั่นเละแน่
น่าจะเป็น "เต็ม"

ในที่สุดดำก็ได้มองหน้าคู่ชกของตนตรงๆ โห ตัวใหญ่ยัง
... ไม่แน่ใจว่า จัง รึเปล่า

เปรมไม่ปล่อยให้ดำตั้งตัว เข้าประชิดตัวดำในทันที แต่ผิดคลาด
ผิดคาด

 

รออ่านตอนต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
หนีมาแบบนี้คุณสินรู้ละก็ ดำอดกินของอร่อยๆแน่ๆ

ออฟไลน์ maew189870

  • รักทุกคนนะคับ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 736
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-4
ขอบคุณนะคับ  แล้วก็จะรอตอนต่อไปเหมือนเดิมนะคับ

ออฟไลน์ GreenHead(หัวเขียว)

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 124
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
    • Green Head - หัวเขียว
เปย์ครั้งที่ 12 [2]
«ตอบ #107 เมื่อ11-05-2018 21:22:19 »

เปย์ครั้งที่ 12 [2]

:::::

“วันนี้ไม่มีคนมารับรึไง” หลังจากเดินออกจากค่ายมวย เต็มก็เอ่ยถามขึ้น

หลังจากดำชกเสร็จ เต็มก็ซ้อมกับคนอื่นๆ ต่อ ส่วนดำโดนห้อมล้อมจากคนในค่าย ดูท่าจะสนใจดำมากทีเดียว แต่พอเฮียพงษ์ชวนมาเป็นนักมวยในสังกัดดำกลับปฏิเสธ บอกว่าผู้ปกครองคงไม่อนุญาต

ในดวงตาดำวูบไหว ก้มมองร่างกายตัวเองที่แดงช้ำ ภาวนาในใจขอให้หายก่อนคุณสินกลับมาด้วยเถอะ เพราะมัวเมากับสิ่งที่ชอบจนลืมเสียสนิทว่ามีคนคอยเป็นห่วงเขาอยู่ มันไม่เหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว

“วันนี้ไอ้ดำกลับเอง ปะป๋ากลับไปทำงานที่อเมริกา คุณสินไปต่างจังหวัด” วันนี้บ้านคงเงียบเหงา ดำต้องอยู่คนเดียวเสียแล้ว ทั้งดีทั้งไม่ดี ทั้งอยากให้รีบกลับ ทั้งอยากให้มาช้าๆ ขอให้ร่างกายหายเจ็บก่อน

“ถ้าอย่างนั้นไปเดินตลาดกับกูไหม หิวว่ะ” เต็มเอ่ยปากชวน อยากจะตบปากตัวเองเสียจริงๆ เป็นอะไรไปนะ จะชวนคู่แข่งของตัวเองทำไม ไม่เข้าใจเลย

“ตลาดสดเหรอ เต็มทำอาหารเป็นด้วยเหรอ ปะป๋าเคยพาไอ้ดำไปซื้อของล่ะ” ดำยังจำได้ ของที่ตลาดสดถูกกว่าในห้างเยอะมาก ทั้งยังมีให้เลือกซื้อหลายอย่างกว่า วันนั้นทั้งเขาทั้งมาร์โก้เลือกซื้อจนถือเต็มไม้เต็มมือกลับบ้านเลยล่ะ

“ไม่ ตลาดนัดน่ะ ที่ที่มีของกินเยอะๆ” ถึงยังมึนๆ งงๆ แต่เต็มก็นึกขึ้นได้ว่าดำไม่ค่อยรู้จักอะไร ก็เลยพยายามอธิบายเท่าที่พอจะทำได้

“ว้าว ไปๆ ไอ้ดำไป” ของกินเยอะๆ คำนี้ช่างล่อลวงดำได้ดีเหลือเกิน อย่างไรเย็นนี้ก็ต้องสั่งอาหารแบบส่งถึงห้องมากินอยู่แล้ว สู้ไปกินแล้วค่อยกลับดีกว่า

หลังจากนั้นทั้งคู่ก็เดินลัดเลาะซอกซอยไปเรื่อยๆ และโผล่มาด้านหน้าตลาด ที่ตั้งอยู่อีกฟากของถนน ตลาดใหญ่ละลานตา ดำมองอย่างสนใจ เขาพึ่งเคยมาที่แบบนี้เป็นครั้งแรก ขนาดยืนอยู่ตรงนี้ยังได้กลิ่นของกินหอมๆ เลย

“มานี่” ถนนคับแคบแบบเลนเดียว ทำให้การจราจรติดขัด รถจอดริมทางเป็นสิ่งกรีดขวางชิ้นใหญ่ ซึ่งเป็นปกติของบริเวณชุมชนเช่นนี้ เต็มมองดำที่เพ่งความสนใจไปยังตลาด ไม่แม้แต่จะมองรถตรงหน้า อีกทั้งยังคิดไปว่าดำอาจจะไม่เคยข้ามถนน เพราะทุกวันจะมีคนมารับ บางทีอาจจะไม่เคยเดินไปไหนมาไหนเองด้วยซ้ำ จึงเข้าไปคว้าแขนดำ แล้วเดินจูงพาไปฝั่งตรงข้าม โดยลัดเลาะระหว่างช่องรถที่เว้นเอาไว้ ตอนนี้รถกำลังติด การเดินข้ามไปจึงเป็นเรื่องง่าย

ดำก็ไม่ขัดขืนปล่อยให้เต็มพาไปเช่นนั้น เขาสนใจตลาดด้านหน้ามากกว่า เต็มพาดำเดินดูร้านอาหารที่เรียงราย เขามีร้านที่เล็งเอาไว้แล้วแต่พาดำมาเดินก่อน เพราะไม่รู้ว่าดำอยากกินอะไร

“จริงสิ มึงมีเงินรึเปล่า” เต็มนึกขึ้นได้ เรื่องสำคัญที่สุดแบบนี้ลืมไปได้อย่างไร ปกติพวกเพื่อนๆ ที่ผู้ปกครองมารับ จะได้เงินไว้แค่พอค่าข้าวเที่ยงเท่านั้น

“มีๆ คุณสินให้ไว้แล้วเผื่อ 3 วันเลย” ดำตบกระเป๋ากางเกง สิรินให้เงินไว้ 3,000 เผื่อไว้สำหรับดำที่ต้องสั่งอาหารมากินเอง ทั้งอาจจะมีค่าใช้จ่ายนอกเหนือจากนั้น แต่ดำหยิบมาแค่ 500 กลัวว่าจะทำล่วงหายไปจนหมด

“อยากกินอะไร” หลังเดินมาจนครบ 1 รอบ ก็ไม่เห็นดำออกปากจะซื้ออะไร แต่กลับมองนู่นนี่แล้วสูดน้ำลายเสียทุกร้าน ตกลงอยากกินหรือไม่อาจกินกันนะ

“ไอ้ดำอยากกินทุกอย่างเลย แต่มันแพงนี่นา” อาหารที่โรงเรียนยังพอทำใจซื้อได้เพราะมันจำเป็นแต่ของพวกนี้แพงจัง

“30 บาทเนี่ยนะแพง” เต็มถามอย่างไม่เข้าใจ อะไรของเจ้านี่

“ใช่แพง” แพงมากเลย ปกติดำไม่เคยซื้อของเอง จึงไม่เข้าใจราคาอาหารของยุคนี้ ในใจชอบเอาไปเปรียบเทียบกับที่ที่ตนจากมาเสมอ

“ปกติผู้ปกครองมึงให้กินอะไร” ใช่ให้กินอะไรถึงมองว่า 30 บาทแพง ทั้งที่เป็นราคาที่ถือว่าถูกมากแล้วสำหรับเขา แต่งตัวดูมีเงิน รถก็ยี่ห้อดี จะบอกว่าพาเจ้านี่อดๆ อยากๆ อย่างนั้นเหรอ หรือเพราะเป็นลูกบุญธรรมก็เลยเลี้ยงไม่ดี

“บุฟเฟต์ในห้าง แล้วก็บุพเฟ่ต์ของปะป๋าน่ะ”

“ห๊ะ ไอ้นั่นมันแพงกว่านี้อีกไม่ใช่รึไง บุฟเฟต์อย่างต่ำก็ 200 ถึงไอ้บุฟเฟ่ต์ของปะป๋าอะไรนั่นกูจะไม่รู้จักก็เถอะ” จะว่าตกใจก็ตกใจ จะว่าแปลกใจก็แปลกใจ อะไรของเจ้านี่ ตรรกะบ้าๆ พวกนี้ใครสอนมันเนี่ย บุฟเฟต์ขั้นต่ำมื้อละ 200 กับของกินในตลาดชุดละ 30 ดันบอกว่าของราคา 30 แพงกว่า บ้าไปแล้ว

“บุฟเฟต์ของปะป๋าน่ะ อร่อยมากเลยนะ ชี้อะไรในรูปก็ได้กินหมดเลย เอาไว้วันหลังจะขอปะป๋าทำให้เต็มกินด้วย” ดำโอ้อวด เขาไม่รู้หรอกว่าอาหารเหล่านั้นราคาเท่าไหร่ รู้เพียงว่ามันอร่อยและฟรีเท่านั้นก็พอแล้ว

“กูปวดหัวกับมึงจริงๆ บุฟเฟ่ต์กับไก่ทอดจานนี้มึงบอกว่าไก่ทอด 30 แพงกว่าเนี่ยนะ” ยิ่งพูดยิ่งล้มล้างตรรกะของคนทั่วไป ครอบครัวนั้นเลี้ยงดำมาแบบไหนกัน เรื่องปกติถึงกลายเป็นเรื่องแปลก ส่วนเรื่องแปลกๆ พวกนั้นกลับกลายเป็นเรื่องปกติเสียได้

“ใช่ ก็ปกติไอ้ดำกินฟรีนี่นา อันนี้ไอ้ดำต้องจ่ายเอง...มันแพง”

โอ๊ย เอาแล้ว หลงพาคุณหนูที่ขลุกอยู่แต่ในบ้าน ทั้งยังไปไหนมาไหนกับผู้ปกครองเป็นประจำออกมาเถลไถลเข้าสินะ ถึงได้น่าปวดหัวขนาดนี้ อะไรๆ มันถึงผิดเพี้ยนไปหมด

“โอเค ดำกูจะบอกอะไรให้ เงินที่มึงได้มาก็ฟรี ผู้ปกครองมึงให้มาแล้ว จะใช้ซื้ออะไรก็ได้ ถ้ามันไม่ใช่สิ่งไม่ดี แล้วอาหารพวกนี้อะกินเพื่ออิ่มท้องทั้งนั้น ซื้อไปเถอะอย่าคิดมาก” เต็มยังคงไม่อาจเข้าใจดำได้ แต่ก็พยายามอธิบายให้ดำเลิกคิดอะไรเพี้ยนๆ เสียที เดี๋ยววันนี้จะกลายเป็นว่าเขาต้องเลี้ยงดำแทน ให้ตายสิเหมือนเป็นพี่เลี้ยงเด็กเข้าไปทุกที

“ไม่ได้ ไอ้ดำจะเก็บเงินไว้ ขอซื้ออะไรที่เป็นข้าวเย็นก็พอ”

ไม่ได้หรอก ไอ้ดำจะเก็บเงินไว้ จะพาปะป๋ากับคุณสินไปกินของอร่อยบ้าง ไอ้ดำแอบทำเรื่องไม่ดีแบบนี้ต้องไถ่โทษ แล้วก็ตอบแทนที่เลี้ยงของอร่อยไอ้ดำด้วย ไอ้ดำจะซื้อแค่ของจำเป็นเท่านั้น

“อย่างนั้นก็ตามมา” ว่าแล้วเต็มก็เดินลิ่วๆ ไม่รอดำ เขาปวดหัวเกินจะอธิบาย ปล่อยไปเถอะ พวกเขาถูกเลี้ยงมาไม่เหมือนกันจริงๆ

ดำวิ่งตามเต็มไป เพราะทั้งขาที่สั้นกว่า ทั้งเต็มยังรีบจ้ำอ้าวเดินไม่รอ เขาจึงต้องตามอีกฝ่ายให้ทัน

ด้านหน้าดำตอนนี้เป็นร้านรถเข็นเล็กๆ ด้านหลังมีโต๊ะเหล็กแบบพับได้พร้อมเก้าอี้วางอยู่หลายโต๊ะ ผู้คนคับคั่ง โต๊ะแต่ละตัวแทบจะไม่ว่างเลย

เต็มหันไปมองคนที่ตามมา ดูจากสายตาแล้วคงไม่เคยมากินอะไรแบบนี้ จะถามไปก็คงไม่ได้อะไรขึ้นมา

“เฮีย ผัดไทย 2 หอยทอดกระทะร้อน 2 ด่วนๆ เลยเฮีย”

“เออๆ นั่งเลยไอ้เต็ม โต๊ะไหนยังไม่เก็บฝากด้วย” ไม่ต้องหันมากมองก็รู้ว่าใคร เจ้าของร้านตอบรับเสร็จสรรพก็หันไปหยิบไข่มาตอกลงในกระทะผัดไทยใบใหญ่ทันที

“โห มาถึงก็ใช้เลยว่ะ” ถึงปากจะบ่น แต่เต็มก็ช่วยเก็บจาน เช็ดโต๊ะเรียบร้อย โดยบอกให้ดำนั่งรอที่โต๊ะว่างไปก่อน ร้านนี้เป็นร้านประจำของเขา แล้วเจ้าของร้านก็อยู่บ้านติดกัน พวกเขาจึงสนิทกันไม่ต่างจากพี่น้องกันจริงๆ เวลามากินเต็มก็ช่วยทำงานเช่นนี้เสมอ

ดำมองเต็มอย่างสนใจ ดูเป็นคนดีขึ้นมาอีกแล้ว ท่าทางหัวดื้อแล้วก็ชอบหาเรื่องไปทั่วนั่นคงเป็นนิสัยที่สร้างขึ้นมาปกป้องตัวเองมากกว่า ทั้งช่วยเขาไม่ให้เข้าห้องเย็น ทั้งช่วงเตือนตอนขึ้นชก ทั้งพาข้ามถนน แล้วยังมาช่วยงานร้านอาหารอีก ดูตรงข้ามกับสิ่งที่แสดงออกมาอย่างไม่น่าเชื่อเลย

บางทีพวกเขาอาจจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้...ถึงจะในรูปแบบแปลกๆ ก็เถอะ

“ไง ฉันชื่อธร เราชื่ออะไร เพื่อนที่โรงเรียนไอ้เต็มเหรอ พึ่งเห็นพาคนอื่นนอกจากที่คนค่ายมวยมาแฮะ” ธร เจ้าของร้านผัดไทยหอยทอดเจ้าอร่อยของตลาดยกของมาเสิร์ฟด้วยตัวเอง ปล่อยกระทะให้น้องชายผัดไป ส่วนเต็มก็กำลังเก็บโต๊ะสุดท้าย พอเสร็จคงมากินด้วยกัน

“ครับ ไอ้ดำ ชื่อ ดำ...น่ากินจัง” ดำมองหน้าธรชั่วครู่ก่อนที่ความสนใจทั้งหมดจะถูกกดต่ำลงตามความหอมของอาหารที่ลอยมา ภาพอาหารไม่คุ้นตาทำให้ดำตื่นเต้น มีอย่างละ 2 จาน เต็มคงสั่งเผื่อเขาด้วย

“หือ ฮ่าๆ ๆ เป็นเพื่อนที่ดีนี่ เอาเลยๆ ถ้าไม่อิ่มก็สั่งเพิ่ม” พอเห็นท่าทางที่ไม่ปิดบังความอยากอาหารของดำแล้วก็ชอบใจ ดูท่าจะเป็นพวกไม่มีลับลมคมใน แล้วก็ไม่ใช่พวกเลียแข้งเลียขาแบบที่เจ้าเต็มไม่ชอบ...ดูเป็นเพื่อนที่ดีเลยล่ะนะ

หลังธรเดินกลับไปเต็มก็มานั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามดำในทันที ต้องรีบกินเดี๋ยวมันเย็นเสียก่อน

“เอ้า กินเลย ผัดไทย กับหอยทอดร้านนี้อร่อยอย่าบอกใคร” เห็นดำเอาแต่จ้อง เต็มก็กระตุ้นให้ดำรีบกิน เขาสั่งเมนูประจำของเขา หวังว่าจะกินได้ ดูแล้วก็ไม่ใช่พวกลูกคุณหนูเท่าไหร่

“อื้อ” ดำรอเต็มนั่งถึงเริ่มลงมือกิน มันติดเป็นนิสัยไปเสียแล้ว เขารอสิรินกับมาร์โก้เช่นนี้ทุกครั้ง ไม่ว่าจะอยากกินขนาดไหนก็ตาม

สายตาของเต็มยังคงจับจ้องคนตัวเล็ก ที่ทั้งมอง ทั้งดม สำรวจจนพอใจแล้วค่อยยกชึ้นเข้าปาก...น่ารักดี

ห๊ะ....

คิดอะไรเนี่ย

ส่วนดำไม่รับรู้ถึงความคิดของคนตรงข้ามแม้แต่น้อย กระทั้งเต็มยกมือขึ้นมาตบหน้าตัวเองเพื่อเรียกสติดำยังไม่รู้เลย เวลานี้ประสาทสัมผัสทั้งหมดของเขาจดจ่ออยู่กับผัดไทยที่อยู่ในปากเท่านั้น

รสชาติเปลี่ยนไปทุกครั้งที่เคี้ยว ทั้งรสเปรี้ยวจากมะขามเปียก ความหวานจากน้ำตาล และได้รสเค็มนิดๆ จากน้ำปลา เพิ่มรสสัมผัสด้วยถั่วลิสงคั่วบดรสกลมกล่อม ไม่ว่าจะอย่างไหนก็ล้วนเข้ากันอย่างลงตัว

ดำไม่ชอบถั่วงอกดิบเท่าไหร่นัก แต่ในผัดไทยกลับกินได้โดยไม่รู้สึกถึงความเหม็นเขียว คงเพราะการใส่ลงไปในขั้นตอนสุดท้ายนั่นทำให้ถั่วงอกผ่านความร้อนเล็กน้อยจึงช่วยรสชาติขมนิดๆ นั่นลงไปได้เป็นอย่างดี ไม่ได้ดิบ และสุกจนเกินไป ความกรุบกรอบแบบฉบับของผักชนิดนี้ยังคงอยู่ ดำเริ่มชอบถั่วงอกขึ้นมาแล้วสิ

ก้อนสี่เหลี่ยมเล็กๆ นี่อะไรนะ ลองดมดูก็หอมมากเลย ส่วนรสชาติ...

ว่าแล้วก็ตักแค่ก้อนสี่เหลี่ยมเล็กๆ สีเหลืองเข้าปากในทันที

โห นอกจากหอมแล้วยังอร่อยอีก มันคือเต้าหู้สินะ ถึงจะหน้าตาไม่เหมือนที่ปะป๋าใช้ทำก็เถอะ ปกติมันจะจืดแล้วก็มีแค่รสของถั่วแท้ๆ แต่อันนี้ซึมซับรสชาติของผัดไทยจานนี้ไว้หมดเลยนี่นา อร่อยจัง ยิ่งกินทั้งหมดพร้อมกันยิ่งอร่อย เส้นทำจากแป้งแท้ๆ แต่ทั้งเหนี่ยว ทั้งนุ่ม เวลาเคี้ยวให้ความหนุบหนับดีจังเลย ไอ้ดำชอบ

“เต็มๆ ไอ้ดำอยากได้ผัดไทย” หลังกลืนกุ้งตัวสุดท้ายลงท้อง ผัดไทยก็หมดจาน บนจานไม่มีอะไรหลงเหลืออยู่แม้แต่น้อย คงจะชอบมากจริงๆ

“อืม รอแป๊บ เฮียขอผัดไทยอีกจาน” เต็มมองด้วยความแปลกใจ ดำกินเร็วมาก หมดก่อนเขาเสียอีก ทั้งยังดูจะยังไม่อิ่มง่ายๆ ตัวแค่นี้เอาไปเก็บไว้ไหนเนี่ย

“ได้ๆ” ธรรับคำแล้วหันกลับไปผัดต่อ ได้แต่นึกแปลกใจ ปกติเต็มกินแค่ผัดไทยเยอะพิเศษของเขากับหอยทอดอีกจานก็อิ่มแล้ว วันนี้ไปทำอะไรมาถึงหิวแล้วสั่งเพิ่ม

“มึงกินหอยทอดกระทะร้อนไปก่อน เย็นๆ แบบลูกค้าเยอะ รอหน่อย” ดำพยักหน้าหงึกหงักแล้วหันไปมองเจ้าหอยทอดกระทะร้อนที่เต็มบอก

อื้อหือ น่ากินไม่แพ้กันเลย ไอ้ดำมัวแต่สนใจผัดไทย เพราะมันอร่อย ขอชิมหอยทอดบ้างดีกว่า

หอยทอดเป็นแผ่นวางบนกระทะที่ค้างไฟจนร้อน ถึงจะผ่านมาสักพักแล้วแต่ก็ยังคงมีความร้อนเหลืออยู่ ทำให้ไม่สูญเสียรสชาติไปแม้จะกินทีหลังก็ตาม

เต็มยื่นขวดน้ำจิ้มให้ เขาไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ชี้ไปที่หอยทอดให้ดำรู้เท่านั้น ดำก็รับมาดมๆ ก่อนจะเทลงไปที่มุมหนึ่ง พอให้ได้ชิมเสียก่อน ถ้าอร่อยค่อยใส่เพิ่ม

เต็มได้แต่คิดในใจ...

เป็นหมารึไงนะ เจออะไรแปลกก็ดม

ดำใช้ส้อมจิ้มลงไปบนหอยทอดถึงรู้ได้ว่าด้านล่างมีอะไรอยู่ด้วย พอเปิดแผนหอยทอดดูก็เห็นถั่วงอกถูกวางไว้อีก ทำให้ดำยิ่งตื่นเต้น ลุ้นว่าจานนี้ถั่วงอกจะอร่อยขึ้นเหมือนจานก่อนหน้านี้รึเปล่า

หลังจากใช้ช้อนตัดหอยทอดออกเป็นชิ้นพอดีคำ ดำก็ตัดบริเวณที่ยังไม่มีซอสขึ้นมาชิมก่อน จะได้เปรียบเทียบว่าแบบไหนอร่อยกว่า

ความกรุบกรอบของแผนแป้งและไข่เข้ากันได้ดี ทั้งหอยแมลงภู่ตัวโตยังให้รสนุ่มนิ่มยืดหยุ่น ตัวหอยมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์อยู่แล้ว ยิ่งเพิ่มรสด้วยแป้งกับไข่ ทั้งเครื่องปรุงรสเพิ่มความกลมกล่อม ความเข้มข้นของตัวหอยจึงยิ่งมีมากขึ้น

ถั่วงอกด้านล่างคงเป็นถั่วงอกสดที่วางหอยทอดไว้ด้านบน จึงทำให้ความกรุบกรอบยังคงอยู่ไม่ต่างกัน ทั้งยังสดใหม่ ให้สัมผัสเหมือนน้ำรสหวานนิดๆ ไหลออกมาจากด้านใน ยิ่งเคี้ยวยิ่งอยากกินอีก อร่อยไม่แพ้ผัดไทยเลย

หลังจากนั้นก็ลองกินคำที่มีน้ำจ้ำราดอยู่ รสแรกที่สัมผัสคือความเปรี้ยวเผ็ดนิดๆ ของซอส เพิ่มความหลากหลายในการลิ้มรสมากขึ้น ทั้งรสเปรี้ยวยังเพิ่มความอยากอาหารขึ้นไปอีก ดำติดใจจึงใส่ลงไปอีกครึ่งของจาน ดำว่ามันอร่อยทั้งสองแบบ ไม่ว่าจะมีน้ำจิ้มหรือไม่มีน้ำจิ้มก็ตาม...เพียงไม่นานดำก็กินจนหมด

อร่อยมากเลย อยากกินอีกจัง

ยังไม่พูดอะไรผัดไทยอีกจานก็มาเสิร์ฟ น้องชายของธรมองอย่างแปลกใจเมื่อผัดไทยจานนั้นถูกยื่นไปให้ดำ แถมยังบอกอีกว่าขอหอยทอดเพิ่มด้วย จึงได้แต่เก็บความแปลกใจนั้นไว้ไปถามพี่ชาย ธรเองได้ฟังก็หันมามองดำด้วยสายตาไม่น่าเชื่อ ได้แต่ส่ายหัวให้น้อง ไม่อาจรู้ได้จริงๆ ว่าทำไมดำถึงกินได้เยอะขนาดนี้

“จานนี้ลองปรุงดูสิ” เต็มเลื่อนชุดเครื่องปรุงไปให้ เพราะจานก่อนหน้านี้ดำไม่ได้ปรุงแม้แต่น้อย ดำส่ายหัวปฏิเสธ ปกติเขาให้สิรินปรุงให้ ปรุงเองจะเสียรสชาติไปเปล่าๆ จะให้เต็มปรุงให้ก็ไม่ไว้ใจ และผัดไทยก็อร่อยอยู่แล้วกินแบบนี้เลยก็ได้ อย่างไรก็อร่อย

เต็มได้แต่มองท่าทางกินจุเป็นหลุมดำนั่นของคนตัวเล็กด้วยความตกตะลึง กินล้างกินผลาญแบบนี้เองถึงบอกว่าผู้ปกครองพาไปกินแต่บุฟเฟ่ต์ แถมเงินคงไม่ใช่น้อยๆ ไม่เช่นนั้นคงเลี้ยงเจ้านี่ไม่ไหวแน่

ยังดีที่รอบนี้ดำกินหอยทอดอีกจานก็สั่งก็อิ่ม เพียงสั่งใส่ถุงกลับบ้านอีกชุดเผื่อหิวช่วงดึกเท่านั้น ส่วนในใจคนได้ยินน่ะหรือ ได้แต่คิดว่า

กินขนาดนี้แล้วยังจะหิวอีกเรอะ!

หลังจากที่รู้ว่าดำไม่เคยกลับบ้านเอง ไม่รู้อะไรดลใจสุดท้ายเต็มก็มาส่งดำถึงรถไฟฟ้าจนได้ ในระหว่างที่กำลังจะแยกกันนั้นโทรศัพท์ของดำก็ดังขึ้น ชื่อที่ปรากฏตรงหน้าจอทำให้ดำยิ้มกว้าง

คุณสินโทรมาล่ะ

“คุณสินนน” ดำรับเสียงเจื้อยแจ้ว เต็มจึงเตรียมตัวจะกลับ แต่กลับก้าวขาไม่ออกเมื่อเห็นว่าดำกำลังหน้าซีด

“วันนี้งานของฉันถูกยกเลิกก็เลยต้องกลับมาก่อน ว่างแล้วก็เลยไปรับดำที่โรงเรียนแต่เพื่อนๆ บอกว่าดำหายไปตั้งแต่ช่วงบ่าย...ไปเถลไถลที่ไหน” เสียงสิรินดังออกมาจากโทรศัพท์ เพราะอยู่ใกล้กัน ทั้งดำยังเปิดเสียงดัง เต็มจึงได้ยินเสียงเล็ดลอดออกด้วย

ดำไม่ขยับเขยื้อนหลังจากได้ยิน ทั้งตกใจทั้งกลัว ทั้งรู้สึกผิด ความรู้สึกปะปนกันไปหมด

“ใจเย็นๆ” เต็มดูท่าไม่ดีจึงกระซิบบอก

“ไอ้ดำ...ออกมาข้างนอก ตอนนี้กำลังจะกลับครับ” ดำใจหาย ในใจร้องบอกว่าแย่แล้ว เขาไม่เข้าเรียนคุณสินต้องโกรธมากแน่ๆ ไอ้ดำจะทำอย่างไรดี

“ไปกับใคร” เสียงสิรินเย็นเหยียบ เสียงกระซิบที่เล็ดลอดออกมานั้นบ่งบอกว่าดำไม่ได้อยู่คนเดียว เจ้าตัวเล็กของเขาอยู่กับใคร แล้วช่วงบ่ายนั้นไปทำอะไรมาบ้าง คำถามเหล่านี้วนเวียนในหัวเต็มไปหมด

“เต็มครับ...เพื่อนที่ห้อง ไอ้ดำ ไอ้ดำแค่ไม่อยากเข้าห้องเย็น กลัวคุณสินเป็นห่วง แล้วก็ๆ ตามเต็มไปค่ายมวย ไม่ได้ทำเรื่องไม่ดีครับ คุณสิน คุณเชื่อไอ้ดำนะ” เสียงของสิรินทำให้ดำใจหาย ถึงสิรินไม่ค่อยแสดงอารมณ์ออกมา แต่น้ำเสียงแบบนี้สิรินไม่เคยพูดกับเขามาก่อน ในใจดำจึงร้อนรุ่ม กลัวแสนกลัวว่าสิรินจะเกลียดตัวเอง รีบแก้ตัวเท่าที่จะนึกออก

“...” ความเงียบของสิรินทำให้ดำใจเสีย ดวงตาเริ่มคลอด้วยน้ำสีใส แรงบีบไหล่ให้กำลังใจจากเต็มนั้นไม่อาจช่วยอะไรได้เลย

“อยู่ที่ไหน”

“รถไฟฟ้าครับ ไอ้ดำถึงแล้วกำลังจะไปซื้อตั๋ว” เสียงสิรินยังคงเรียบนิ่ง แต่ก็ดีกว่าความเงียบที่ได้รับ ดำรีบบอกจนลิ้นแทบพันกัน ดีใจที่สิรินยังคงตอบกลับมา

“รออยู่นั่น เดี๋ยวฉันไปรับ”






โปรดติดตามตอนต่อไป...



____________________________________

มาแล้วค่ะ ช้าอีกแล้ว แหะๆ ขอโทษนะคะ

แต่ต่อไปกรีนจะพยายามอัพไม่เกิน 3 วันต่อตอนเนาะ

ตอนต่อไปม่าไหม...จะพยายามไม่ม่าค่ะ (จริงจริ๊ง)

แค่ลงโทษเด็กดื้อเท่านั้นเองเนาะ หุหุหุ

ส่วนของกินรอบนี้ เป็นอาหารที่เรียกได้ว่าแทบจะเป็นอาหารประจำชาติของเราเลยทีเดียว

แถมยังหากินได้ง่ายๆ อีกเนาะ กรีนเองก็ชอบมากกกก

แถมร้านยังอยู่ใกล้ๆ อีก ถ้าอ่านแล้วหิว ก็ไปกินด้วยกันน้า

แล้วเจอกันจ้า

****

#ขอบคุณที่ช่วยแก้คำผิดให้ค่ะ กรีนอ่านแล้วไม่เจอเยอะมากจริงๆ ใครเจอตรงไหนก็แจ้งเข้ามาได้เลยน้า ช่วยได้เยอะเลยค่ะ ><

เก่งมากดำ ...
แต่ "รีบกลับบ้าน" นะ เดี๋ยวพี่สินรู้นาาาาาา

ป.ล. มีคำผิดนะคะ

อย่างไรเต็มก็พึ่งชนะเปรมไปเมื่อสองเดือนก่อนแค่ครั้งเดียวเอง เจ้าหนูนี่ไม่น่าจะเอามาเทียบได้เลย แล้วใครก็รู้ว่าเปรมมันเสียหน้าขนาดไหนที่แพ้เด็กอย่างเปรม ยังจะให้ขึ้นชกกับเพื่อนตัวน้อยของเต็มอีก มีหวังเปรมจัดเต็มจนร่างเล็กๆ นั่นเละแน่
น่าจะเป็น "เต็ม"

ในที่สุดดำก็ได้มองหน้าคู่ชกของตนตรงๆ โห ตัวใหญ่ยัง
... ไม่แน่ใจว่า จัง รึเปล่า

เปรมไม่ปล่อยให้ดำตั้งตัว เข้าประชิดตัวดำในทันที แต่ผิดคลาด
ผิดคาด

 

รออ่านตอนต่อไปนะคะ
*****

และขอบพระคุณนักอ่านที่น่ารัก ถ้าใครอ่านครึ่งแรกตั้งแต่แรกๆจะเห็นว่า  ชื่อท่าที่ดำใช้เผด็จศึกมีการเปลี่ยนแปลง

กรีนจำท่าสลับกันจนงงเอง จากนั้นก็มีคนที่รู้มาทักถาม ต้องขอบคุณมากจริงๆนะคะ  ตอนนี้กรีนเปลี่ยนเรียบร้อย

จาก "หนุมานถวายแหวน" เป็น  "หักคอเอราวัณ"  ค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-05-2018 22:49:26 โดย GreenHead(หัวเขียว) »

ออฟไลน์ Meen2495

  • is allergic to drama.
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-4
อ้าววว ดำ งานเข้าแล้วหนู
เห็นมะ? บอกแล้วว่า ถ้าคุณสินรู้ว่าโดดเรียน มีหวัง....
กลับไปง้อดี ๆ เน้อ ... เค้ารักเค้าหวง เอ๊ย ห่วงแบบนี้
คุณสินก็คุณสินเหอะ ง้อแป๊บเดียวเดี๋ยวก็เสร็จโก๋ดำแล้ว

--------------------------
เรื่องคำผิด "ยินดีค่ะ"
ก็คุณสละเวลาเขียนให้เราอ่านแล้ว
อะไรที่เราช่วยได้ ... ก็เต็มใจช่วยเลยละ
.
.
รถจอดริมทางเป็นสิ่งกรีด (กีด) ขวางชิ้นใหญ่
แค่ 500 กลัวว่าจะทำล่วง (ร่วง) หายไปจนหมด
ตกลงอยากกินหรือไม่อาจ (อยาก) กินกันนะ
ไม่ต้องหันมา (มา) มองก็รู้ว่าใคร
ทั้งช่วง (ช่วย) เตือนตอนขึ้นชก
สำรวจจนพอใจแล้วค่อยยกชึ้น (ขึ้น) เข้าปาก
กระทั้ง (ทั่ง) เต็มยกมือขึ้นมาตบหน้าตัวเองเพื่อเรียกสติ
เส้นทำจากแป้งแท้ๆ แต่ทั้งเหนี่ยว (เหนียว) ทั้งนุ่ม
พอเปิดแผน (แผ่น) หอยทอดดูก็เห็นถั่วงอกถูกวางไว้อีก
หลังจากนั้นก็ลองกินคำที่มีน้ำจ้ำ (จิ้ม) ราดอยู่
ยังดีที่รอบนี้ดำกินหอยทอดอีกจานก็ (ที่—รึเปล่าคะ) สั่งก็อิ่ม
“ไปกับใคร” เสียงสิรินเย็นเหยียบ (เยียบ)

----------------------
จะรออ่านตอนต่อไปนะคะ ดำดราม่า 555+


ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
งานเข้าเต็ม ๆ เลยดำ รอบทลงโทษจากคุณสินได้เลย  :sad5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
งานเข้าน้องดำแล้ว

ออฟไลน์ GreenHead(หัวเขียว)

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 124
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
    • Green Head - หัวเขียว
เปย์ครั้งที่ 13
«ตอบ #111 เมื่อ17-05-2018 23:15:04 »

เปย์ครั้งที่ ๑๓

มืดแปดด้าน

‘นึกไม่เห็น คิดไม่ออก จนปัญญาไม่รู้จะหาทางออกได้อย่างไร’



บรรยากาศภายในรถเย็นเหยียบ เงียบจนแทบได้ยินเพียงเสียงลมหายใจ ตั้งแต่บอกลาเต็ม ดำก็ไม่ได้ยินเสียงสิรินอีกเลย ร่างสูงดูเย็นชากว่าทุกครั้ง หน้าของเขาอีกฝ่ายยังไม่มอง จึงไม่กล้าที่จะกล่าวอะไรออกมาในตอนนี้

จนกระทั่งถึงห้องสิรินก็ไม่พูดอะไร เพียงแค่ยืนมองสำรวจร่างกายของเขา สายตาที่หยุดลงบริเวณขาสีแดงช้ำเต็มไปด้วยอารมณ์หลากหลาย ก่อนที่สิรินจะหลับตาสงบสติอารมณ์อันไม่สมเป็นผู้ใหญ่เอาเสียเลยของเขาแล้วหันหลังเดินจากไป เหลือเพียงดำที่ยังคงยืนนิ่งอยู่ในห้องนั่งเล่นเท่านั้น

“คุณสิน” ดำเอ่ยขึ้นด้วยเสียงแผ่วเบา แต่สิรินก็ไม่มีทีท่าจะหันกลับมาแม้แต่น้อย จนกระทั่งประตูห้องนอนปิดลง ดำก็ไม่อาจคิดสิ่งใดได้อีก เขาไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร ทั้งรู้สึกผิด ทั้งขลาดกลัว กลัวเหลือเกินว่าคนสำคัญที่สุดของเขาจะไม่ต้องการเด็กดื้ออย่างเขาอีกแล้ว

“ไอ้ดำขอโทษ” คำขอโทษที่ไม่มีคนฟังช่างไร้ความหมาย ดำยืนมองประตูอยู่เช่นนั้นจนถุงผัดไทยในมือเย็นชืด ไม่รู้ว่านานเท่าใดประตูถึงเปิดขึ้นอีกครั้ง

ดำยิ้มให้คนที่ถือกล่องปฐมพยาบาลออกมา แต่สิ่งที่ได้รับกลับมามีเพียงใบหน้าเรียบนิ่งและสายตาอ่านอารมณ์ไม่ออกเท่านั้น

“ไปอาบน้ำแล้วออกมาทายา” แม้จะเย็นชาเพียงใด แต่ความห่วงใยในประโยคนั้นยังคงอยู่ ดำอารมณ์ดีขึ้นทันตา รีบพยักหน้าหงึกหงักแล้ววิ่งเข้าไปอาบน้ำทันที ถุงผัดไทยแสนอร่อยก็ถูกทิ้งเอาไว้บนโต๊ะเตี้ยหน้าทีวีเสียงอย่างนั้น

“เฮ้อ” หลังดำหายลับเข้าห้องไป สิรินก็เอาแต่นั่งจ้องถุงผัดไทย ความหึงหวงฉายชัดในแววตา ภาพของเด็กอีกคนที่จับมือในกำลังใจดำอยู่นั่นไม่สบอารมณ์เอาเสียเลย ทั้งรอยแดงบนขานั่นอีก ถึงจะรู้ว่าดำมีฝีมือมากเพียงใด แต่เขาไม่อยากเห็นร่างกายเล็กๆ นั่นบาดเจ็บแม้แต่น้อย

วันนี้เป็นวันที่ชวนปวดหัว เขาออกต่างจังหวัดตั้งแต่เช้ามืด แต่เมื่อไปถึงสถานที่ก่อสร้างกลับเกิดปัญหา ภายในบริษัทที่จ้างงานกำลังมีปัญหาภายในเกี่ยวกับโครงการที่พวกเขาต้องทำ ซึ่งฝ่ายที่ไม่เห็นชอบเข้ามาขัดขวางการทำงานของพวกเขา จนต้องล่าถอยออกมา และยื่นคำขาดให้ทางนั้นจัดการปัญหาภายในให้เสร็จเสียก่อนแล้วจึงเริ่มงานกันใหม่อีกครั้ง

ดังนั้นแล้วพวกเขาจึงต้องกลับมาเสียก่อน ทั้งที่ยังสำรวจสถานที่ไม่เรียบร้อย การเดินทางกลับใช้เวลานานกว่าที่คิดเพราะเกิดอุบัติเหตุระหว่างทาง สิรินจึงมาถึงในช่วงที่ดำเลิกเรียนพอดี หลังจากแยกตัวจากพี่ๆ ที่บริษัทแล้วก็เลยตรงมารับเจ้าตัวเล็กจากโรงเรียน

แต่สิ่งที่รับรู้นั่นทำให้เขาแทบระเบิดอารมณ์เสียตรงนั้น ทั้งเป็นห่วง ทั้งกังวลสารพัด ยิ่งโทรไปแล้วได้ยินเสียงผู้ชายแทรกออกมา สิรินยิ่งไม่สบายใจ เขาเป็นคนยอมให้ดำออกไปเผชิญโลกภายนอก แต่ก็ไม่คิดว่าส่งที่เขากลัวจะเกิดขึ้นเร็วถึงเพียงนี้

ถ้าไม่ถูกหลอกก็ดีไป แต่ถ้าถูกพาไปทำอะไรไม่ดีเข้าเขาจะไม่ให้อภัยตัวเองแม้แต่น้อย...

เพียงไม่นานดำก็ออกมา เห็นสิรินนั่งเงียบอยู่ทีเดิมจึงได้แต่ย่องเงียบๆ ไปนั่งลงข้างๆ เท่านั้น แรงยุบตัวของโซฟาทำให้สิรินรู้สึกตัว สายตาออดอ้อนและสำนึกถูกส่งมาอีกครั้ง แต่สิรินเลือกที่จะเมินเฉย

ขาเล็กๆ ที่มีกล้ามเนื้อแข็งเกินวัยถูกยกขึ้นมาวางบนตัก

“โอ๊ย! ” ดำรีบยกมือขึ้นมาปิดปาก เพราะสิรินยกขาเขาขึ้นกระทันทัน แม้จะทำอย่างทะนุถนอมแต่มันก็สะเทือนถึงสะโพกที่พลาดโดนเตะไปหลายครั้ง

ตายแล้ว ไอ้ดำไม่อยากให้คุณสินโกรธมากกว่านี้นะ...แต่มันเจ็บนี่นา

สิรินมองดำที่เริ่มเหงื่อตกไม่กล้าสบตากับเขา เอาแต่ก้มหน้างุดหลบหนีความผิดของตน นิ้วเรียวยาวนั่นจึงถูกยกขึ้นไปแตะลงบนบริเวณที่น่าสงสัยโดยไม่เบาแรงนัก

“โอ๊ย คุณสินไอ้ดำ ไอ้ดำ- “

พรึ่บ!

เสื้อถูกยกขึ้นจนเห็นรอยแดงที่เริ่มกลายเป็นสีเขียวช้ำเลือดเล็กน้อย มือของสิรินกำแน่นสั่นระริกดังอดกลั้นอารมณ์ที่ใกล้ปะทุออกมาเต็มที สายตาโกรธเกรี้ยวเผยขึ้นชั่ววูบ ก่อนคนตัวโตจะหลับตาลงซ่อนมันเอาไว้

เขาไม่อยากทำให้ดำกลัว...

“ไอ้ดำขอโทษ” ดำเอ่ยขึ้นได้เพียงเท่านั้น แต่ก่อนไม่เคยมีคนห่วงเขาเช่นนี้ ไม่เคยมีใครโกรธเมื่อเขาได้รับบาดเจ็บ มีเพียงหลวงตาที่เอาแต่บ่นเสียยืดยาวเวลาเขาเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยงโดยไม่กลัวอะไร

สิรินต่างออกไปดำรู้ ไม่รู้ว่ามันคืออะไร รู้เพียงว่าตัวเองต้องขอโทษ สำนึกผิดต่อสิ่งที่ตนทำลงไปจนไม่กล้าเอ่ยคำแก้ตัวใดๆ

ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้ง เพราะสิรินไม่ลืมตาขึ้นมาเสียที ดำได้แต่มองด้วยหัวใจลุ้นระทึก ไม่รู้ว่าความรู้สึกขอโทษของเขาส่งไปถึงคนตัวโตหรือไม่

หลังจากลืมตาขึ้นสิรินก็ไม่สบตาดำเลยสักครั้ง พอหยิบยาขึ้นมานวดที่ขาให้ ก็ก้มหน้าก้มตานวดอย่างเดียว เสร็จจากที่ขาก็เป็นสะโพก ทุกสัมผัสเต็มไปด้วยความนุ่มนวล แต่ดำไม่รู้ด้วยเพราะเหตุใดเขาถึงรู้สึกหัวใจเต้นแรงแปลกๆ

มือร้อนผ่าวไล้วนที่สะโพกครั้งแล้วครั้งเล่า สายตาคนตัวสูงก็จดจ้องตามสัมผัสของมือนั้น แม้ไม่อาจรับรู้ถึงความรู้สึกผ่านดวงตาแต่ดำกลับรู้สึกได้ถึงความรู้สึกอันแรงกกล้าที่ส่งผ่านออกมาจากตัวของอีกฝ่าย

ของเขา ร่างกายนี้เป็นของเขา เขาถนอมมาเป็นอย่างดี แต่กลับมีคนทำให้เจ็บถึงเพียงนี้

ต่อไปจะไม่ยอมให้ใครแตะต้องได้อีก เพราะร่างกายนี้เป็นของเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น

ทั้งร่างกาย หรือแม้แต่จิตใจของเจ้าตัวเล็กต้องเป็นของเขาเพียงคนเดียว


สิรินดำดิ่งสู่ความรู้สึกของตน หลบซ่อนสายตาที่อยากกลืนกินร่างกายของคนตัวเล็กให้เป็นของเขาเพียงคนเดียวเอาไว้ แต่ด้วยไม่อาจเผยให้เห็น ทำให้ไม่สิรินไม่รับรู้เช่นกันว่าความรู้สึกเหล่านั้นถูกส่งไปถึงแล้ว แม้คนที่รับรู้มันจะไม่เข้าใจว่าความรู้สึกนี้คืออะไรก็ตาม...

การทายาอบอวลไปด้วยความรู้สึกแปลกประหลาด ไม่ใช่โกรธ ไม่ใช่อบอุ่น แต่เป็นความรู้สึกอยากครอบครองจนแทบควบคุมไม่ได้

สิรินเก็บอุปกรณ์ลงกล่อง แล้วจึงเดินกลับเข้าห้องไป ดำถึงได้รู้สึกตัว ภายในใจมีความรู้สึกหลากหลายตีกันเต็มไปหมด แต่ในนั้นก็มีความรู้สึกดีใจอยู่

คุณสินไม่ได้เกลียดไอ้ดำล่ะ คุณสินเป็นห่วงไอ้ดำมากๆ ด้วย ดีใจจัง

ดำยิ้มมีความสุข แต่แล้วรอยยิ้มนั่นก็หดหาย เมื่อเปิดประตูเข้ามาในห้อง กลับพบว่าห้องนอนว่างเปล่า ห้องน้ำก็เงียบเชียบ พอหมุนลูกบิดประตูห้องทำงานถึงรู้ว่าคนตัวโตอยู่ในนั้น

ดำสะบัดหัวไปมา

“ไม่เป็นไรไอ้ดำรอได้” ดำบอกกับตัวเองแล้วขึ้นไปนั่งรอบนเตียง ถึงสิรินจะไม่เกลียด และยังเป็นห่วงดำไม่เปลี่ยน แต่ความโกรธยังคงอยู่ ดำรู้ถึงข้อนั้นดี เขาต้องขอโทษและสารภาพผิดอย่างจริงจัง ทั้งต้องรับปากว่าจะไม่ทำอีก นั่นคือสิ่งที่ดำคิดจะทำ จึงได้แต่นั่งจ้องประตูเฝ้ารออยู่เช่นนั้น

เวลาผ่านไปจนเข็มสั้นชี้เลข 12 ดำนั่งคอพับคออ่อน พยายามต่อต้านดวงตาที่กำลังจะปิดลงในไม่ช้าอย่างเต็มกำลัง แต่ก็พ่ายแพ้ในที่สุด

ในเวลาที่ดำสติเลือนรางเขาสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นของใครอีกคนที่กำลังอุ้มเขาจากท่านั่งพิงหัวเตียงให้ลงไปนอนดีๆ จากนั่นก็ดึงผ้าห่มมาคลุมให้

สัมผัสอบอุ่นแสนคุ้นเคยที่หัวทำให้ดำผ่านคลาย หัวคิ้วเครียดเกร็งคลายออก สัมผัสนั่นหายไปช้าๆ ดำรู้สึกเสียดายจึงพยายามตามติดมือที่กำลังห่างออกไป สิ่งตอบแทนการกระทำนั้นคือสัมผัสที่อบอุ่นยิ่งกว่า

ความนุ่มหยุ่นที่หน้าผากทำให้ดำหลับสนิทเหมือนทุกคืน รอยยิ้มดีใจปรากฏขึ้น หัวใจที่กังวลได้รับการเติมเต็ม แม้เป็นเพียงความฝันก็ดีใจ

คุณสินของไอ้ดำ

::::

นาฬิกาปลุกดังขึ้นแทนเสียงอันคุ้นเคยที่เข้ามาปลุกเขาทุกเช้า แต่ดำก็ยอมลืมตาตื่น หลังปิดนาฬิกาปลุกหัวเตียง ดวงตากลมโตก็พยายามมองหาคนที่นอนกอดเขาทุกคืน

อยากยืนยันว่าความรู้สึกอบอุ่นเมื่อคืนไม่ใช่เพียงความฝัน คุณสินคนเดิมยังอยู่เคียงข้างเขา แต่เตียงที่ว่างเปล่าทำให้ดำใจหาย ความรู้สึกวูบโหวงเกิดขึ้นในใจ

เมื่อวานเป็นแค่ความฝัน...ไม่เอานะ

ไม่รอให้ความรู้สึกอบอุ่นหายไปมากกว่านี้ ดำรีบวิ่งลงจากเตียง เปิดห้องนู้นห้องนี้ตามหาคนตัวโต แต่กลับว่างเปล่า ไม่มีแม้แต่เงาของคนที่เขาอยากขอโทษจากใจ

ความรู้สึกเหมือนถูกทิ้งลงเหว จากที่คิดว่าสิรินจะยกโทษให้ตนก็กลับกลายเป็นขลาดกลัว การไม่ได้เจอหน้าของคนสำคัญในเวลาที่หัวใจอ่อนแอ มันเป็นเช่นนี้เอง

อาหารเช้าถูกเตรียมไว้บนโต๊ะอาหาร แต่กลับไร้วี่แววของคนทำ โน้ตแผ่นเล็กดูไร้เยื่อใยเมื่อไม่ได้ยินออกจากปากของคนที่เขียนมัน

‘กินข้าวแล้วก็ไปโรงเรียน...ตั้งใจเรียนนะ

สิน’


ความรู้สึกอัดแน่นตีตื้นขึ้นในอก แต่ถึงอย่างนั้นดำก็ลากเก้าอี้ออกมาแล้วนั่งลง ข้าวผิดกุ้งตัวโตยังคงหอมกรุ่น บ่งบอกว่าคนที่ทำมันพึ่งออกไปไม่นาน

ทั้งที่เป็นมื้อที่น่ากิน เพราะมีกุ้งสีส้มกว่าสิบตัวอยู่ในจานข้าวผัดใบใหญ่ แต่ดำกลับไม่รู้สึกถึงความอยากอาหารแม้แต่น้อย

มือเล็กสั่นระริกกำช้อนแน่น ปากเม้มเข้าหากันอย่างอดกลั้น จดจ้องข้าวผัดกุ้งแสนอร่อยด้วยสายตาพร่าเลือน เพราะมีหยาดน้ำสีใสไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย

หลังจากกินคำแรกดำก็ตั้งใจเคี้ยว รับรู้ได้ดีว่าแม้จะโกรธเขาเพียงใด แต่สิรินก็ไม่เคยคิดจะทำให้เขาต้องอดอยาก อาหารปริมาณที่มากกว่าคนทั่วไปถูกทำไว้อย่างรู้ใจ กุ้งสดตัวโตถูกใส่ลงไปอย่างไม่นึกเสียดาย อาหารที่ใส่ทุกรายละเอียดลงไปตามนิสัยของคนที่อยากให้กิน มันบ่งบอกได้ถึงความใส่ใจที่มีต่อเขา

แต่ภายในปากของดำกลับไร้รสชาติเหลือเกิน แม้จะเคี้ยวแล้วกลืนลงไปกี่คำก็ไม่รับรู้ถึงความอร่อยเลยสักนิด น้ำตาไหลอาบแก้ม ความรู้สึกอ้างว้างเสียใจขยายใหญ่จนไม่อาจทนไหวได้อีก

ดำพึ่งรู้ว่า อาหารอร่อยเพียงใดก็ไม่อาจแทนที่ความรู้สึกที่ขาดหายได้

หากไร้สิรินนั่งเคียงข้าง พร้อมส่งรอยยิ้มอบอุ่น อาหารก็ไร้รสชาติ

การกินข้าวคนเดียวมันเหงาขนาดนี้เลยเหรอ

คุณสินไอ้ดำขอโทษ...อย่าหายไปเลยนะครับ อาหารจะอร่อยได้อย่างไรถ้าคนสำคัญหายไป

มื้อเช้าที่ไร้คุณสินเคียงข้าง อ้างว้างเหลือเกิน...


:::::


ออฟไลน์ GreenHead(หัวเขียว)

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 124
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
    • Green Head - หัวเขียว
เปย์ครั้งที่ 13 [2]
«ตอบ #112 เมื่อ17-05-2018 23:16:26 »

เต็มสังเกตคนที่เอาแต่จ้องจานอาหารกลางวันไม่ขยับ เมื่อเช้าก็เอาแต่เหม่อลอย บางครั้งก็ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ คนร่าเริงที่ไม่สะทกสะท้านกับอะไรหายไปเสียแล้ว เมื่อวานเกิดอะไรขึ้นกันนะ

เขาที่ไม่คิดจะสนิทกับดำยังปล่อยเอาไว้ไม่ได้ ผู้ปกครองคนนั้นลงโทษแรงขนาดไหนกัน ดำถึงได้ห่อเหี่ยวขนาดนี้ เมื่อเช้าก็มาเรียนเอง ทั้งที่ปกติต้องมาส่งแท้ๆ อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เต็มก็ไม่กล้าถามออกไป กลัวว่าจะไปกระตุ้นน้ำตาที่ปริ่มขอบตานั่นให้ไหลออกมา

ยิ่งมองจานข้าว ดำก็ยิ่งเหงาหงอย ทั้งที่เมื่อวานก็นั่งกินข้าวคนเดียวแท้ๆ ยังไม่รู้สึกแย่ขนาดนี้ ที่เป็นแบบนี้เพราะสิรินสำคัญเอามากๆ

ในชีวิตดำไม่เคยคิดว่า วันหนึ่งจะคนที่มีผลกับจิตใจเขาได้มากถึงเพียงนี้

“เต็ม ไอ้ดำจะทำอย่างไรให้คุณสินหายโกรธ” เมื่อคิดอะไรไม่ออกก็ถาม ดำคิดมาทั้งวันจนสมองรับไม่ไหวแล้ว เขาหาทางออกไม่ได้เลย

“กับเรื่องแค่นี้พี่มึงก็โกรธขนาดนั้นเลยเหรอวะ” เต็มถามอยากอดใจไม่ไหว ถึงจะพอเข้าใจว่าพวกเขาทำผิด แต่กลับทำให้เจ้าจอมตะกละเอาแต่จ้องจานข้าวแบบนี้ได้ โกรธถึงขั้นไหนกันนะ

“วันนี้ไอ้ดำยังไม่เจอหน้าคุณสินเลย ฮึก คุณสินไม่อยากเจอไอ้ดำแล้ว เต็ม” สิรินมีอิทธิพลต่อความรู้สึกของดำมากเกินไปจริงๆ เขาไม่เป็นตัวของตัวเองแม้แต่น้อย ทั้งที่ปกติก็พุ่งชนกับปัญหาโดยไม่คิดแท้ๆ แต่ครั้งนี้ความกลัวกับอยู่เหนือกว่าความรู้สึกใดๆ

“เอาน่า เดี๋ยวเย็นนี้ก็ได้เจอ มึงก็บอกไปเลยว่ากูบังคับมึงไป แบบนั้นเขาจะได้ไม่โกรธมึง โอเคไหม” เต็มเกาหัวแกร็กๆ เขาปลอบคนไม่เป็น ทั้งปัญหาความสัมพันธ์แบบนี้ยังยากเกินไปที่จะเข้าใจ การแก้ปัญหาจึงออกมาแบบกำปั้นทุบดินเช่นนี้

“ไม่เอา ไอ้ดำไม่ได้โดนบังคับ แบบนั้นเต็มจะโดนโกรธไปด้วย” ดำส่ายหน้าปฏิเสธ เขาทำผิด ถึงจะบอกว่าตกกระไดพลอยโจน แต่คนที่ไม่ปฏิเสธเที่ยวเล่นจนเย็นคือเขาเอง จะโยนความผิดให้คนอื่นไม่ได้ ลูกผู้ชายกล้าทำต้องกล้ารับ เขาจะไม่ยอมทำตัวขี้ขลาดอย่างเด็ดขาด

“เอ้า แล้วจะเอาไงวะ” ความรู้สึกดีเข้าจู่โจมหัวใจเต็มเล็กน้อย ปกติเพื่อให้พ้นผิดคนเราจะหาทางหนี ดีไม่ดีอาจจะโทษเขาตั้งแต่แรก เพราะอย่างไรเขาก็มีบุคลิกออกไปทางพวกอันธพาลอยู่แล้ว มีคนน้อยนักที่จะปกป้องเขา อย่างไรคนที่ไม่รู้จักเขาจริงๆ จะเชื่อเสมอ โดยเฉพาะพวกผู้ปกครอง

เป็นคนดีเหมือนกันนะเจ้านี่

“ไม่รู้ ไอ้ดำอยากขอโทษ ตอนนี้อยากเจอคุณสินแล้วก็พูดขอโทษจนกว่าคุณสินจะยอมยกโทษให้...แต่ไอ้ดำยังไม่เจอคุณสินเลย” ว่าเสร็จก็ห่อเหี่ยว ทิ้งหัวลงตรงหน้า ยังดีที่เต็มดึงจานออกมาทัน ไม่เช่นนั้นหน้าของดำคงจมลงกับข้าวพอดิบพอดี

เต็มได้แต่มองแล้วถอนหายใจ มันไม่ใช่ปัญหาที่เขาจะเข้าไปยุ่งได้ ทั้งสองคนอาจจะไม่ใช่พี่น้องกันธรรมดาๆ ความรู้สึกบอกเช่นนั้น ถ้าเขาเข้าไปยุ่งมันจะพลอยวุ่นวายขึ้นเสียเปล่า

::::

กริ๊งงงงง

ออดส่งสัญญาณว่าเลิกเรียนได้ ดำรีบวิ่งไปรอยังที่นัดหมาย ซึ่งเขามักนั่งรอสิรินเป็นประจำในทันที ขาก้าวอย่างเร่งรีบ ส่วนใจวิ่งออกไปเจอหน้าสิรินก่อนแล้ว เต็มเป็นห่วงจึงเดินตามมานั่งเป็นเพื่อน ม้านั่งยามเย็นดูเปล่าเปลี่ยว เมื่อไม่มีทีท่าว่ารถคุ้นตาจะแล่นเข้ามาจอดเสียที จากที่มีความหวัง ดำก็หน้าหงอยลงเรื่อยๆ

แต่ในตอนนั้นก็มีรถคันหนึ่งมาจอดบนถนนตรงจุดที่สิรินกับมาร์โก้มักมารอรับดำ คนที่ลงจากรถเป็นคนคุ้นหน้า แต่ไม่ใช่คนที่หวังจะได้เจอ

“หงอยเลยเรา ขึ้นรถเร็วเดี๋ยวพี่พาไปกินของอร่อย” ทิวเดินเข้ามาหา เห็นสภาพเหงาหงอยของดำแล้วก็ใจหาย จริงๆ สิน่า จะลงโทษดำนานแค่ไหนนะ ดูสิยังไม่ถึงวันก็แย่ขนาดนี้แล้ว ทรมานทั้งคนสำคัญทั้งตัวเองแท้ๆ เลย

“คุณสิน” ดำมองไปที่รถ หวังว่าจะเจอคนตัวสูงที่อยากเจอมาทั้งวัน แต่ความหวังก็ดับลง เมื่อทิวยิ้มให้กำลังใจเขา

“เอาน่า ไปกับพวกพี่ดีกว่า อย่าสนใจไอ้คุณชายน้ำแข็งนั่นเลย เพื่อนดำสินะ ไปด้วยกันสิ มาๆ” ไม่ว่าเปล่า ทิวเข้ามากอดคอของเด็กทั้งสองแล้วลากไปขึ้นรถทันที คำปฏิเสธของเต็มก็ไม่สนใจฟังแม้แต่น้อย

บนรถมีน่านกับก้องรออยู่ก่อนแล้ว น่านทำหน้าที่ขับรถ ส่วนก้องนั่งอยู่เบาะข้างคนขับ วันนี้พวกเขาโดนคนปากแข็งขอร้องให้มาช่วยดูแลดำแทน คงห่วงคนตัวเล็กไม่น้อย แต่ก็ใจแข็งไม่ต่างกัน

ร้านอาหารจีนถูกตกแต่งอย่างเรียบง่าย แต่เมนูในร้านกลับอร่อยไม่แพ้ภัตตาคารใหญ่ๆ ร้านนี้ เป็นร้านโปรดของทิว น่านและก้อง ทั้งที่หวังว่าของอร่อยจะช่วยให้ดำดีขึ้นบ้าง แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผลอย่างที่คิด

ร้านอาหารจีนถูกตกแต่งอย่างเรียบง่าย แต่เมนูในร้านกลับอร่อยไม่แพ้ภัตตาคารใหญ่ๆ ร้านนี้ เป็นร้านโปรดของทิว น่านและก้อง ทั้งที่หวังว่าของอร่อยจะช่วยให้ดำดีขึ้นบ้าง แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผลอย่างที่คิด

วันนี้ที่ชวนเต็มมาด้วย เพราะสิรินเผลอเอ่ยถึงเต็มเข้า ดูท่าจะหึงหวงไม่น้อย พวกเขาจึงถือโอกาสพามาสังเกตด้วย แต่ดูแล้วสายตาของเต็มจะไม่มีความรู้สึกเชิงชู้สาวกับดำ ออกจะเป็นเพื่อนที่ดีเสียมากกว่า เอ็นดูดำไม่ต่างจากพวกเขาเท่านั้น คงเพราะดำให้บรรยากาศเหมือนน้องคนเล็ก ใครๆ ถึงได้มองเป็นน้องไปหมด ไม่เว้นแม้แต่คนที่อายุเท่ากัน

ถือว่าสบายใจได้ ไม่ต้องกำจัดแล้ว

เต็มปลอดภัยจากภัยร้ายโดนที่ไม่รู้ตัวแม้แต่น้อย เพราะเพื่อนอย่างพวกเขาไม่มีทางยอมให้เพื่อนของตัวเองต้องเจ็บปวดอยู่แล้ว

การทานอาหารผ่านไปด้วยดี แม้ดำจะกินเพียงไม่กี่คำเท่านั้น อย่างน้อยถ้าวันนี้สิรินยังไม่ยกโทษให้ เจ้าตัวเล็กก็คงไม่ปวดท้องเพราะอดข้าวแล้ว

น่านวนรถไปส่งเต็มกลับบ้าน ก่อนจะพาดำไปส่งที่คอนโด ให้กำลังใจคนตัวเล็ก ปลอบใจกันคนละประโยคสองประโยคเท่าที่จะทำได้แล้วจึงจากไป

ถึงอย่างนั้นดำก็ยังเหงาหงอย แม้น่านจะบอกว่าสิรินโกรธไม่นานหรอกเพราะดำสำคัญมาก แต่ดำก็ไม่มั่นใจในตัวเองแม้แต่น้อย ตอนนี้ความรู้สึกของดำแทบจะถึงจุดต่ำสุด ไม่อาจเรียกความมั่นใจในวันวานกลับคืนมาได้ คิดทุกอย่างในแง่ร้ายเท่านั้น

“ให้คุณสินด่าไอ้ดำยังดีกว่าหายไปแบบนี้ ฮึก” ดำยกมือขั้นมาเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมา มือจับลูกบิดสั่นเทา

ไม่ชอบเลย ไอ้ดำไม่ชอบห้องที่ไร้เงาคุณสินเลยสักนิด

ไม่อยากเข้าไปรับรู้ความเป็นจริงอะไรอีกแล้ว

ถึงจะคิดเช่นนั้นแต่ดำก็ไม่มีทางเลือกนอกจากเปิดเข้าไป สิ่งแรกที่ปะทะเข้ากับใบหน้าคือกลิ่นหอมของไวท์ซอสของโปรด ขาเล็กสาวเท้าด้วยความเร็วก่อนจะกลายเป็นวิ่งเข้าไปที่ห้องครัวอันแสนคุ้นเคย

แผ่นหลังกว้างของคนที่อยากเจอมาทั้งวันปรากฏขึ้นแก่สายตา ร่างนั้นหยุดชะงักก่อนจะหันมาสบตากับเขา

“ทำอะไรกลับมาแล้วก็ไปอาบน้ำ” เสียงเต็มไปด้วยความอบอุ่นนั้นทำให้ดำทำตัวไม่ถูก เหมือนภาพความทรงจำอันแสนคุ้นเคยกลับมาอีกครั้ง หัวใจที่เจ็บปวดได้รับการฟื้นฟู น้ำตาที่กลั้นไว้ไหลจากดวงตากลมโตอย่างไม่อาจกลั้นได้อีก

“คุณสิน ฮึก คุณสิน คุณสิน ฮือออ ยกโทษให้ไอ้ดำแล้วใช่ไหมครับ ยกโทษให้ไอ้ดำแล้วใช่ไหม” ดำร้องไห้เหมือนเด็กตัวเล็ก ยกมือขึ้นมากุมหัวใจเอาไว้ หัวใจที่เหี่ยวแห้งเต็มไปด้วยความหวัง

“อืม ไม่โกรธแล้ว” เพียงเท่านั้นดำก็ไม่อาจหยุดตัวเองได้อีก วิ่งเข้าไปกอดสิรินแน่น เอาแต่ร้องไห้ เขาไม่ได้เสียใจ แต่น้ำตาเหล่านี้ออกมาเพราะความรู้สึกดีใจต่างหาก

ดีใจ ดีใจ ไอ้ดำดีใจเหลือเกิน ไอ้ดำจะไม่ทำให้คุณสินโกรธอีกแล้ว ไม่เอาอีกแล้ว ใบหน้า น้ำเสียง ท่าทางเย็นชาเหล่านั้นน่ากลัว เหนือกว่าสิ่งอื่นใดคือการหายไป ไม่เอาอีกแล้ว ไอ้ดำจะไม่ยอมให้คุณสินหายไปเด็ดขาด

ดำสัญญากับตัวเองในใจ ความรู้สึกจุกหน่วงทั้งวันหายไปด้วยประโยคเพียงประโยคเดียว

สิรินกอดตอบ ลูบหัว ลูกหลังคนตัวเล็กอย่างปลอบประโลม

ลงโทษเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว...

ความจริงไม่ได้มีเพียงดำที่รู้สึกแย่ เขาเองก็ไม่ต่างกัน แต่ก็ต้องลงโทษ ไม่เช่นนั้นแล้วดำอาจจะหายไปเช่นนี้อีกเมื่อไหร่ไม่ทราบ

การกระทำครั้งนี้เป็นบททดสอบ ทั้งตัวเขาและตัวดำ สิรินต้องอดทนอดกลั้นไม่ให้เผลอทำร้ายจิตใจดำจนไม่อาจหวนกลับมาแก้ไขได้อีก ดังนั้นแล้วเขาจึงต้องถอยห่าง เว้นระยะมาจัดการกับความรู้สึกของตัวเอง แม้ทรมานแต่ก็มีเวลาให้ได้คิด ได้ยับยั้งชั่งใจ ไม่กกกอดดำเป็นของตนด้วยการขืนใจ ถ้าเป็นเช่นนั้นเขาคงเกลียดตัวเองจนไม่อาจอภัยในความโง่เขลานั้นได้

ส่วนดำได้เรียนรู้ถึงความรู้สึกห่วงใย ได้ตระหนักรู้อย่างชัดเจนว่าเวลานี้เขาไม่ใช่ตัวคนเดียว ยังมีคนคอยห่วง คอยกังวล เวลาที่คนสำคัญหายไปรู้สึกเช่นไร นั่นคือสิ่งที่สิรินอยากให้ดำรับรู้

เป็นดังความรู้สึกผูกมัด ให้รู้สึกกลัวที่จะสูญเสีย เป็นบทเรียนครั้งหนึ่งที่จะจดจำไว้ในจิตใจ

การเดิมพันครั้งใหญ่นี้สิรินหวาดกลัวไม่ต่างกัน ถ้าดำหายไปจากการกระทำครั้งนี้เขาคงทำทุกวิถีทางเพื่อเอาตัวดำกลับคืนมา ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเกลียดเขาเพียงใดก็ตาม แต่มันกลับเป็นไปตามที่เขาต้องการ

ใช่แล้วดำ จงกลัวการสูญเสียฉันไป เหมือนที่ฉันกลัวว่าดำจะหายไปเถอะ ขอโทษด้วยที่ฉันมันเห็นแก่ตัว...

สิรินวางแผนที่จะใช้เวลาลงโทษดำ 3 วัน แต่ภาพที่ถูกส่งมาจากเพื่อนทั้งสามทำให้เขาไม่อาจทนใจร้ายได้อีก

ของอร่อยอยู่ตรงหน้า แต่คนตัวเล็กกลับเอาแต่นั่งนิ่ง สีหน้าห่อเหี่ยวไร้ชีวิตชีวา ใครจะทนใจร้ายไหวอีก

"ฉันไม่โกรธดำแล้ว เลิกร้องเถอะนะ" น้ำตาของคนตัวเล็กทำให้สิรินปวดใจ เขาช่างขลาดเขลา ดำให้ความสำคัญกับเขาถึงเพียงนี้ แต่ตัวเขากลับมีความไม่เชื่อใจหลงเหลืออยู่เสียได้ เป็นผู้ใหญ่ไม่ได้ความเสียจริงๆ

เป็นเพราะดำ ความมั่นใจในสมองของตัวเองจึงหายไปง่ายๆ เช่นนี้ เขาวางแผนทุกอย่างให้สำเร็จดังที่ตัวเองต้องการเสมอ มีเพียงดำเท่านั้นที่ทำให้เขาหวาดกลัวได้ถึงเพียงนี้

เขารักดำมากจริงๆ

ดำมองสิรินด้วยใบหน้าเคล้าน้ำตา สายตารักใคร่ที่ส่งมานั้นทำให้หัวใจเขาเต้นระรัว และไม่รู้สิ่งใดดลใจคนตัวเล็กถึงเขย่งเท้าให้สูงขึ้น แล้วเงยหน้าแตะริมฝีปากของตนกับคนที่สูงกว่า

หน้าแดงซ่านเพราะความเขินอาย ทั้งที่เป็นฝ่ายรุกหาแต่ดำกลับตัวแข็งทื่อด้วยการกระทำสิ้นคิดของตัวเอง

ไอ้ดำทำอะไรลงไป!

สิรินก็ตกใจไม่แพ้กัน ริมฝีปากเล็กนุ่มนิ่มนั่นช่างเย้ายวน ดวงตาเบิกกว้างด้วยตกใจกับการกระทำของตัวเองนั่นก็น่าเอ็นดู ไหนจะใบหน้าแดงซ่านกับหัวใจเต้นแรงนี่อีก

เขาจะอดใจได้อย่างไร

ไม่รอให้ดำผละหน้าหนี สิรินเลื่อนมือมาจับท้ายทอยของคนตัวเล็กเอาไว้ ขมเม้มริมฝีปากเล็กให้ใกล้ชิดขึ้น มันหอมหวานเสียจนไม่อาจหยุดเอาไว้เพียงเท่านี้ ลิ้นร้อนโลมเลียริมฝีปากเล็กจนเปียกชุ่ม อาศัยความพลั้งเผลอตามอารมณ์สอดแทรกลิ้นร้อนเขาไปด้านในปากหอมหวาน กวัดเกี่ยวนำพาลิ้นเล็กตามจังหวะของตัวเอง ครั้งแล้วครั้งเล่าจนคนไม่เคยได้รับประสบการณ์เช่นนี้ไร้เรี่ยวแรง

ความหรรษาที่ได้รับทำให้ดำเผลอไผล ตอบรับสัมผัสอันแปลกประหลาดอย่างไม่นึกรังเกียจ รู้สึกดี เหมือนล่องลอยในอากาศ ทั้งเบาหวิว ทั้งเร่าร้อน ไม่มีความคิดที่จะขัดขืนแม้แต่น้อย

จนกระทั่งเก็บเกี่ยวความหวานจนพอใจสิรินจึงผละออกอย่างแสนเสียดาย เขากลัวว่าดำจะขาดอากาศหายใจไปเสียก่อนจึงยอมหยุดลง คนตัวเล็กช้อนตามองสบตาด้วยใบหน้าแดงก่ำ หายใจเอาอากาศเข้าปอดสภาพหอบตัวโยน

หลังจากได้สติกลับมาใบหน้านั้นก็แดงขึ้นอีก ก่อนจะอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี ซุกหน้าเข้ากับอกแกร่งไม่กล้าเงยหน้าขึ้นไปสบตาหวานซึ้งคู่นั้นได้อีก

ไอ้ดำทำอะไรลงไป จุ๊บๆ คุณสินเหมือนในทีวีไปซะแล้ว แถมยัง แถมยัง รู้สึกดีมากๆ เลย!

"หึหึ เป็นอะไรหือ ไม่ชอบเหรอ" จะโทษดำคงไม่ได้ เพราะหากเขาจะหยุดก็ใช่ว่าทำไม่ได้เสียเดียว แต่ความอยากครอบครองมีมากกว่า ทั้งริมฝีปากนั้นก็หอมหวานเกินห้ามใจ ถ้าดำบอกว่าไม่ชอบเขาก็จะให้เวลา ไม่แตะต้องจนกว่าดำจะพร้อม แต่ได้กอดได้หอมมันก็มากพอแล้ว

ดำยังเด็ก

"รู้..."

"อะไรนะ" เสียงดำอู้อี้จนจับใจความไม่ได้ ทั้งยังกอดสิรินแน่นขึ้นไปอีก หูที่ไม่อาจซ่อนไว้ได้แดงก่ำ สิรินรู้แล้วว่าดำรู้สึกเช่นไร แต่เขาก็ยังอยากได้ยิน จึงเย้าแหย่คนตัวเล็กเล่นนี้

"...ดี"

"พูดดังๆ หน่อยสิ ฉันไม่ได้ยินเลย" การไล่ต้อนยังคงดำเนินต่อไป ถ้าดำเงยหน้าขึ้นมามองสักนิด คงได้เห็นรอยยิ้มกว้างของคนที่กอดเขาอยู่ แต่ความเขินอายมีมากกว่า

"ไอ้ดำชอบ แล้วก็ แล้วก็รู้สึกดีมากเลยครับ! " ดำไม่ได้ไร้เดียงสาขนาดไม่รู้ว่าสิ่งที่พวกเขาทำคืออะไร เขาเคยเห็นในทีวีที่ผู้ชาย 2 คนจูบกัน ต้องยอมรับว่าตอนนั้นดำรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องแปลกประหลาด แต่ก็อยากรู้ อยากรู้จนนิ้วไม่ยอมกดปุ่มเลื่อนไปช่องอื่น สุดท้ายก็ดูจบจนได้

ในตอนนั้นได้แต่สงสัยว่าผู้ชายสองคนจูบกันเหมือนคู่ชายหญิงปกติแล้วรู้สึกดีจริงหรือ แต่ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่ารู้สึกดีมาก มากๆ จนอายตัวเองไปหมดแล้ว

"หึหึ ฉันก็ชอบ" น้ำเสียงนุ่มทุ้มกระซิบข้างหู ทั้งปากทั้งดวงตาผู้เป็นเจ้าของก็ฉีกยิ้มกว้าง

เขาชอบทั้งหมดที่เป็นดำ

"คุณสิน แย่แล้ว" ดำเงยหน้าสบตาสิริน ยกมือกุมหน้าอกเอาไว้ ใบหน้าที่ยังแดงซ่านนั้นดูตกใจไม่น้อย

"อะไรเหรอ หือ" สิรินขมวดคิ้ว เขาไม่อาจคาดเดาได้ว่าดำจะพูดอะไรออกมา

"ไอ้ดำ ไอ้ดำเหมือนจะเป็นลมเลย แถมหัวใจยังเต้นแรงมากๆ เลยครับ เหมือนมันจะหลุดออกมาเลย"

"หึหึ ฮ่าๆ ๆ เธอแค่มีความสุขเจ้าตัวเล็ก มีความสุขมากๆ " สิรินหัวเรอะเสียงดัง จนน้ำตาไหลออกมานิดๆ ยิ่งมองใบหน้าที่ฉายชัดถึงความไม่เข้าใจยิ่งหลงรักมากขึ้นไปอีก

"ฉันเองก็เหมือนกัน ฟังสิ" สิรินลูบหัวคนตัวเล็กเบาๆ ก่อนจะรั้งให้หัวเข้ามาใบหูเล็กๆ นั่นแนบกับอกของเขา

ตึก ตึก ตึก

ก่อนหน้านี้ดำมันแต่เขินอาย หลุดความเป็นตัวเองไปเสียหมด จึงไม่ได้ตั้งใจฟังมากนัก พอครั้งนี้แนบหูเข้าไปใกล้ เขาจึงได้ยินมันอย่างชัดเจน หัวใจของพวกเขาเต้นเป็นจังหวะเดียวกัน ความรู้สึกเองก็ไหลไปในทิศทางเดียวกัน

แม้ดำจะยังไม่รู้สึกตัว แต่เขาก็ไม่รังเกียจเลยที่จะก้าวเดินตามคนตัวสูงไป

สายตามองสบลึกซึ้ง อาหารวันนี้คงจืดชืดสำหรับพวกเขาไปเสียแล้ว ความหอมของซอสไม่อาจดึงความสนใจของดำได้แม้แต่น้อย

"คุณสิน...จุ๊บๆ ไอ้ดำอีกได้รึเปล่าครับ" ดำทำใจกล้า เขากำลังโหยหาสัมผัสเมื่อครู่ แม้ใบหน้าจะแดงระเรื่อด้วยความเขินอายก็ตาม

"หึหึ เจ้าเด็กลามก" ถึงจะว่าไปอย่างนั้น แต่คนตัวสูงก็ไม่คิดจะปฏิเสธ ไม่ปล่อยให้ปากเล็กๆ นั่นเอ่ยอะไรได้อีก ประกบจูบดูดดื่มครั้งแล้วครั้งเล่า จนเวลาผ่านเลยไปเท่าใดไม่อาจทราบ พายุอารมณ์ถึงได้หยุดลง

สิรินไม่ได้ล่วงเกินดำมากไปกว่านั้น เพราะดำยังเด็ก ร่างกายนี้ยังเล็กเกินไป เขาไม่อยากเอาเปรียบดำมากไปกว่านี้ ทั้งทุกอย่างเป็นสิ่งแปลกใหม่สำหรับดำ ต้องค่อยๆ เรียนรู้กันไป เขาไม่อยากให้ดำกลัว

ทั้งการสอนสิ่งต่างๆ ทีละเล็กทีละน้อยก็น่าสนุกกว่าจับกินทีเดียว

เด็กดีที่ตั้งใจเรียนรู้ แค่คิดอยากจะเห็นแล้ว

ดังนั้นแล้ว ไม่เป็นไร เขารอได้

อีกไม่นานหรอกใช่ไหม...เด็กดี







โปรดติดตามตอนต่อไป...



________________________________________________________

ฉลองสอบเสร็จค่ะ เย้ๆ เกิน 3 วันจนได้

มาเสิร์ฟความหวานเบาๆ ท้ายเรื่อง ไอ้หน่วงๆ ข้างบนอย่าไปถือสาเลยน้าา

กรีนไม่ตั้งใจจะม่าเลย (จริงจริ๊ง)

มีใครอินไปกับน้องดำไหมคะ แต่งเองก็สงสารน้อง แหะๆ

ของกินก็ยกไปตอนหน้าเลย ตอนนี้โดนความหวานกลบหมดแล้ว ><

เจอกันตอนหน้าจ้า

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
น่าสงสารหลานดำจังเลย กินไม่ได้เกือบ ๆ 3 วัน น้ำหนักคงจะลดไปหลายซินะ รอบหน้าต้องให้คุณสินพาไปกินอะไร ๆ ที่มันใหญ่ ๆ เยอะ ๆ ดีกว่านะ จะได้เรียกน้ำหนักที่หายไปกลับมา  :laugh:

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ไปจุ๊บคุณสินซะงั้น น้องดำ

ออฟไลน์ kokoro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
น้องดำทำพี่สินตบะแตกแล้ว 555

แผนทดลองใจได้ผลสำหรับทั้งคู่เลยแฮะ ดีนะที่พี่สินโกรธไม่นาน ไม่งั้นน้องดำแย่แน่ๆ

ออฟไลน์ yanisa0801448037

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อรั้ยยยยย น่ารักอ่ะ :ling1: ตอนแรกๆก้อหน่วงๆจิงๆสงสารดำหนักมากกกกก ไรท์เตอร์ก้อแต่งเก่งมาก  o13 คือแบบภาพก้อตามมาเป็นฉากๆๆๆ ยิ่งฉากที่เกี่ยวกับอาหาร บรรยายถึงอาหารก้อสุดๆไปเลย เหมือนนั่งดูหนังมากกว่าอ่านนิยาย(เว่อร์ไปมั้ย???) ชอบมากเลยค่ะ นั่งคอย ยิืนคอย นอนคอย ตอนต่อไปตลอดเว  :katai2-1:

ออฟไลน์ Mayana

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 424
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2

ออฟไลน์ WaterProof

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ชอบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบมว๊ากกกกกกกกกกดด :pig4:

ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด