( จบแล้ว ) Throw UP #ผับชั้นสาม :: {ตอนพิเศษ: up! 31-12-62} #หน้า 58
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ( จบแล้ว ) Throw UP #ผับชั้นสาม :: {ตอนพิเศษ: up! 31-12-62} #หน้า 58  (อ่าน 485088 ครั้ง)

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :ruready ขนาดคนอย่างพี่อาหนังเกร็ง
สงสัยกลัวว่าเค้าจะไม่ยกลูกให้

ออฟไลน์ SHmnex

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 63
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เพราะอาฟเป็นอาฟ และเมดเป็นเมด
เลยน่ารักแบบนี้
เข้ากันอย่างลงตัว

ออฟไลน์ Nung66669

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
สมกับเป็นอาฟ o13

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
พี่อาฟเท่มากจริงๆ
คุณพ่อกับแม่เล็กก็น่ารัก

 :L2: :L2:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
ลุ้นไปกับเมด

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
อ่านตอนนี้แล้วรักพี่อาฟขึ้นมาอีกเป็นสิบๆเท่า เมดโชคดีมากจริงๆ

ออฟไลน์ A_Narciso

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 879
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
พี่อาฟ  สุดยอด!!!

ออฟไลน์ a_tapha

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4981
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +397/-1
พี่อาฟคนดีของน้องเมด :-[

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
 o13 o13 o13 แล้วน้องเดย์จะอยู่กับใคร

ออฟไลน์ smilepengy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
พี่อาฟเตอร์โคตรเท่ห์  o13

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ sugarcane_aoi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 301
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
ดีใจแทนพี่อาร์ฟกับน้องเมดที่ผ่านอุปสรรคมาได้และครอบครัวเข้าใจอ่านแล้วมีความสุข :katai2-1:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ Jusjus

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ New_atcha

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ขอ "อาฟเตอร์อารยะ" 1ที่คะ ถ้ามีคนที่รักเราอย่างนี้คงโชคดีที่สุดแล้ว  :mew1:

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27

ตอนพิเศษที่ 7


ทั้งชีวิตนี้ผมเคยคิดมาตลอดว่า ทุกวันที่ผ่านพ้นไปก็คือวันธรรมดาที่ไม่ได้มีความสำคัญอะไร ผมไม่ใช่พวกบุคคลที่ให้ความสำคัญกับวันพิเศษ แต่เหมือนตอนนี้จะไม่เหมือนตอนนั้นอีกแล้ว ผมมีวันที่ควรให้ความสำคัญเพิ่มขึ้นมาสองวัน อย่างยินดีและยอมรับ วันแรกคือวันเกิดของคนที่ได้ชื่อ คนรัก ส่วนวันที่สองคือวันครบรอบที่เราคบกัน แต่ดูเหมือนว่า 365 วัน มีวันพิเศษแค่สองวันมันดูจะน้อยไป โลกก็เลยให้หนึ่งวันพิเศษเพิ่มเข้ามา แล้วนั่นก็คือ ‘ วันวาเลนไทน์ ’

ซึ่งเดิมทีคนอย่างผมก็มองว่ามันเป็นแค่วันไร้สาระวันหนึ่งก็เท่านั้น

“ ตกลงว่าจะเอาตามนั้น ”

“ หรือมึงจะให้กูกระโดดลงจากตึกใบหยกแล้วบอกรักมัน ” คำพูดของไอ้เจสวนกลับน้องชายผมที่ก็หัวเราะพลางพยักหน้ารับคำพูดประชดของอีกคน หนำซ้ำยังแถมด้วยการยกนิ้วโป้งเห็นดีเห็นงามด้วยอย่างกวนตีน “ ไปให้พ่อมึงทำนะเดย์ ”

เสียงหัวเราะถูกใจของบาร์เทนเดอร์ทั้งสองคนดังลั่นขึ้นมาอย่างไม่เกรงใจแขกในร้าน จนผมต้องปรายตาไปมองเพื่อให้มันลดเสียงที่กำลังสนุกสนานนั่นลงเสียหน่อย

ตอนนี้ผมกำลังนั้นอยู่ที่บาร์ตรงมุมประจำ ส่วนหัวข้อที่กำลังพูดคุยกันก็เกี่ยวกับเรื่องวันแห่งความรักที่น่ารำคาญนั่น โดยที่ไอ้เดย์น้องชายของผมเป็นคนถามขึ้นมาก่อนหน้านี้ว่า ‘ วาเลนไทน์ปีนี้พวกพี่มึงให้อะไรเป็นของขวัญแฟนกันเหรอจ้ะ ’

‘ ก็คงสั่งดอกไม้ให้มันสักช่อ เอาช่อใหญ่ๆเลยนะ แล้วก็คงกินข้าวช่วงกลางวัน ก็ตามธรรมเนียมให้เค้าหน่อย ’ คำตอบของไอ้เจที่พูดขึ้นมันทำให้ผมคิดภาพตาม

ใบหน้าของไอ้เด็กแรดคนนั้น ที่คงจะดีใจออกนอกหน้าจนทำอะไรถูกตอนที่ได้รับดอกไม้ ไม่นับว่ามันต้องยิ้มไม่หุบแน่นอนในตอนที่ไอ้เจพามันไปกินข้าว ท่าทางที่จะมองไปรอบๆอย่างมีความสุขแบบที่ชอบทำนั้น คงเชิดหน้าจนดูเหมือนชนะคนทั้งโลก เป็นท่าทางที่ชวนให้ขำจนทำให้ผมคิดขึ้นมาได้ว่า แล้วถ้ามันเป็นเมด อาการมันจะเป็นยังไงกันวะ

“ คิดอะไรอยู่ครับสัดพี่ ” ไอ้เดย์ทักผมที่กำลังใช้ความคิด แต่ยังไม่ทันจะตอบอะไร ไอ้อัยย์เพื่อนมันที่เหล่กันอยู่นานก็พูดขึ้นด้วยท่าทางรู้ดีราวกับอ่านใจได้

“ คงกำลังคิดอยู่แน่นอนเลย ว่าวาเลนไทน์ปีนี้จะให้อะไรพี่เมดดีน้า ”

“ ปัญญาอ่อน ” ผมบอกปัดคนที่นั่งข้างกันก็ยกยิ้ม “ มึงยิ้มเหี้ยอะไรสัดเจ ”

“ พูดถูกก็ยั๊วะอีกไรวะ แบบนี้ก็ได้อ๋อ ”

“ กูไม่ได้คิดจะให้อะไรมันทั้งนั้น ไร้สาระ ”

“ พูดแบบนี้สุดท้ายก็ให้ตลอดแหละจ้า ” น้องผมบอก “ แต่กูว่าให้ก็ดีนะสัดพี่ ความรู้สึกหน้าแห้งๆของพี่เมดที่มองไปรอบๆ ในวันที่ใครๆก็ได้ของจากแฟน แต่ตัวเองมีแฟนแต่ไม่ได้ มันไม่โอเคนะเว้ย ”

“ คนอย่างกู ไม่จำเป็นต้องให้หรอก ”

“ ก็เพราะคนอย่างมึงนั่นแหละถึงยิ่งต้องให้ ” ไอ้เจที่นั่งข้างกันหันมาบอกก่อนจะยกยิ้ม “ เพราะยิ่งเค้าไม่คาดหวังอะไรในตัวมึงเท่าไหร่ แต่พอเค้าได้รับ เค้าก็จะยิ่งมีความสุขมากขึ้นเท่านั้น ”

“ ยกตัวอย่างเช่น เอาดอกไม้ใส่ไว้หลังรถ แล้วก็ทำเป็นบอกพี่เมดว่า ไปเอาของหลังรถให้หน่อยสิ ” ไอ้อัยย์พูดด้วยสีหน้าเพ้อฝัน “ แล้วพอพี่เมดเปิดฝากระโปรงรถออกมา พี่เมดจะอึ้งอยู่หน่อยๆใช่มั้ย ตอนนั้นเฮียก็เดินออกมาจากรถเลยเว้ย จากนั้นก็กอดพี่เมดไว้จากด้านหลัง แล้วกระซิบข้างหูพร้อมกับบอก สุขสันต์วันวาเลนไทน์ครับสุดที่รักของผม  ” ท้ายประโยคที่มันดัดเสียงทุ้มชวนให้ผมเบือนหน้าหนีแทบจะทันที ไม่ต่างอะไรกับไอ้เจที่ทำท่าอ้วกออกมาก่อนจะยกเหล้าขึ้นกิน

“ ไปบอกให้พ่อมึงทำแล้วกันนะ ” ผมบอกปัดอีกคนก็ทำหน้าไม่พอใจ

“ อะไรเฮีย ที่มันมุกคลาสิคเลยนะเว้ย แล้วความคลาสิคจะไม่มีวันตาย จำไว้ ”

“ กูว่าจัดเซอไพร์สในห้องดีกว่า ” ไอ้เดย์ที่ตอนแรกยืนฟังนิ่งๆ ก็เริ่มจะออกความคิดเห็นบ้าง “ จัดดอกไม้กุหลาบสีแดงสวยๆ เอาสัก เก้าพัน เก้าร้อย เก้าสิบเก้าดอก ”

“ เยอะไปไอ้สัด ” ไอ้เจบอกขัดมัน

“ ไม่เยอะ เพราะปลูกกุหลาบแดงไว้เพื่อเธอ เก้าพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าดอก บ่งบอกความจริงที่ยิ่งใหญ่ บ่งบอกว่าใจฉันยังคงมั่น พันปีหมื่นวัน ไม่เคยหน่าย ฟ้าดินสลายหัวใจมั่นรักเธอ ”

“ นั่นมันเพลงสมัยแม่กูยังสาวเลยนะ ”

“ ใช่ แม่กูฟังบ่อยมาก ” ผมถอนหายใจออกกมาตอนที่ฟังความคิดของน้องชายตัวเองตอนที่หันไปตอบเพื่อนสนิท

“ กูว่าคนอย่างสัดอาฟ ไม่จำเป็นต้องทำอะไรแบบนั้นหรอก แค่มึงขับรถไปกับมัน เปิดกระจกซื้อดอกไม้ที่เด็กเค้าเคาะกระจกขาย แล้วเอาให้แฟนมึง แค่นี้ จบ ”

“ แต่พอทำจริง น้องบอกมีแต่ดอกกมะลิ สัดพี่เลยซื้อมาคล้องคอพี่เมด ก่อนจะบอกกว่า มีเมียก็เหมือนมีพระในบ้าน พร้อมยกมือไหว้แล้วท่องนะโมสามจบเป็นการขอพร ”

“ ไอ้สัด ” ผมสบถออกมาใส่คนพูดที่ยกมือขึ้นไหว้ตามที่บอก

“ เลือกวิธีกูดีที่สุดเฮีย คลาสิค ”

“ ของกูสิ ” น้องชายผมหันไปบอกเพื่อนก่อนจะยักคิ้วให้ผม “ รับรองว่าเด็ด เพราะพอให้แล้ว จะได้ตัดภาพไปบนเตียงได้เลย เอิ๊กๆ ”

“ ไม่เอาวิธีไหนทั้งนั้น ปัญญาอ่อน ” ย้ำคำสุดท้ายก่อนจะยกเหล้าขึ้นกินไปจนหมดแก้วแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูงเดินไปที่ทางขึ้นชั้นสาม ผมกดรหัสปลดล็อคที่จำได้ดี ก่อนจะเปิดประตูเดินขึ้นบันไดไปชั้นบนช้าๆอย่างใช้ความคิดทบทวน

ไม่ได้อยากจะทำอะไรให้อีกคนในวันแห่งความรักทั้งนั้น ก็แค่คิดไว้เล่นๆ ก็แค่นั้น

“ แล้ววันที่ 14 นี้น้องเมดก็มาทำงานเหรอครับ ” เสียงของพี่ซองที่ดูเหมือนจะขึ้นมาทำธุระกับอีกคนเอ่ยพูดขึ้นในตอนที่ผมกำลังเดินถึงหน้าห้องพอดี ประตูปิดไม่สนิทเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมได้ยินเสียงสนทนานั้นชัดเจน

 “ ทำสิครับ ” อีกฝ่ายตอบ แต่ผมกลับรู้สึกได้เลยว่าเมดคงยิ้มอยู่ในตอนที่ตอบคำถามนั้น “ ทำไมถึงคิดว่าเมดจะไม่มาทำงานละพี่ซอง ”

“ ก็วันวาเลนไทน์ ” คนตั้งคำถามพูด “ พี่ก็คิดว่าเราจะไปเดทกับคุณอาฟที่ไหนซะอีก ”

“ คนแบบอาฟ มันไม่รู้จักวันอะไรแบบนั้นหรอกพี่ซอง พนันได้เลยว่ามันต้องพูดว่าไร้สาระแน่ ถ้าใครพูดถึงวันวาเลนไทน์ ”

‘ สมเป็นเมียกู ’ ในใจของผมพูดแบบนั้นก่อนจะยกยิ้มขึ้นมา แล้วหวนคิดถึงคำพูดของเพื่อนสนิทที่พูดกันไว้เมื่อครู่ ‘ ก็เพราะคนอย่างมึงนั่นแหละถึงยิ่งต้องให้ เพราะยิ่งเค้าไม่คาดหวังอะไรในตัวมึงเท่าไหร่ แต่พอเค้าได้รับ เค้าก็จะยิ่งมีความสุขมากขึ้นเท่านั้น ’ 

หรือบางทีผมอาจจะต้องคิดใหม่

“ อ้าว ไหงลงมาอีกแล้ววะ ” ไอ้เดย์เอ่ยทักในตอนที่เห็นผมเดินกลับลงมาอีกครั้ง บนเก้าอี้ตัวที่เพื่อนสนิทผมชอบนั่ง ตอนนี้ไม่มีมันนั่งอยู่ และเพิ่งสังเกตเห็นว่าบาร์เทนเดอร์อีกคนอย่างไอ้อัยย์ก็หายไปด้วย “ พี่เจกับไอ้อัยย์ออกไปหาอะไรกิน ”

“ อื้ม ” นั่งลงตรงเก้าอี้ตัวนั้นตอนที่ตอบรับอีกฝ่าย ผมเหลือบมองน้องชายตัวเองในวินาทีที่ไม่รู้จะทำอะไร เพราะไม่มีเหล้าตั้งอยู่ตรงหน้า และนั่นก็คงเป็นท่าทางที่ชวนให้อีกคนสงสัย

“ จะเอาเหล้าหน่อยมั้ย ถ้ามือว่างแล้วมันไม่โอเค ”

“ ไม่ ”

“ โอเค๊ ” บาร์เทนเดอร์รับคำก่อนจะพยักหน้ารับแล้วหันไปทำอย่างอื่นต่อ ส่วนผมก็ได้แต่มองรอบตัวไปเรื่อยเปื่อย
เอาเข้าจริงสิ่งที่อยากจะพูดมันก็มีอยู่แล้ว แต่แค่ไม่รู้จะเริ่มต้นพูดยังไงก็เท่านั้น กับคำถามว่า ‘ มึงว่า กูจะทำอะไรให้ไอ้เมดในวันวาเลนไทน์ดี ’ แต่เพราะผมรู้สึกว่า ประโยคนั่น ช่างเป็นอะไรที่โคตรไม่ใช่ตัวผม ก็เลยทำได้แค่เหลือบมองอีกคนอย่างหาจังหวะพูดคุย แต่คงเพราะมองมากไป  คนที่กำลังยืนทำงานอยู่ก็เลยถอนหายใจออกมาหน่ายๆ ก่อนจะวางของในมือลงทุกอย่างลง แล้วหันมาถามกัน

“ สัดพี่ ”

“ อะไร ”

“ มึงมีอะไรกันแน่ กูเห็นมึงเหลือบมองกูหลายครั้งแล้วนะ ” คนเป็นน้องถามพลางถอนหายใจหน่ายๆ ก่อนจะเบิกตาขึ้นราวกับคิดอะไรขึ้นได้  “ หรือว่ามึงจะมาพูดกับกูเรื่องพี่เมด มึงจะมาด่ากูใช่มั้ย ว่าทำไมกูชอบชวนพี่เมดออกไปกินข้าวด้วยกันสองคนต่อสองดึกๆแทบทุกวัน พี่เมดอ้วนขึ้นใช่มั้ย มึงเลยไม่โอเค หรือมึงหึงกู ” เสียงนั้นเว้นช่วงไปอย่างคิดเองเออเอง เดย์ปรบมืออย่างมั่นใจในคำตอบ “ ต้องใช่แน่ แต่คือสัดพี่เอาจริงๆนะ กูไปข้างนอกพร้อมไอ้อัยย์ไม่ได้ไง แล้วกูหิวเว้ย กองทัพต้องเดินด้วยท้อง กูเลยต้องชวนพี่เมดที่ว่างที่สุดไปด้วย แล้วจะให้ชวนมึงไป กูก็แดกไม่ลงเพราะมึงชอบทำหน้านิ่วคิ้วขมวด  แต่มึงไม่ต้องหึงกูหรอกนะ กูไม่แย่งของมึงแน่นอน แม้ว่ากุจะคู่ควรกับพี่เมดมากแค่ไหนก็ตามในจุดนี้ ”

“ มึงพล่ามพอยัง ”

“ ไม่ใช่เหรอ ” ส่ายหน้าไปมาพร้อมกับคำถามผมก็ได้แต่ถอนหายใจ

“ ประสาท ”

“ แล้วมึงมีเรื่องอะไร ” คราวนี้คำถามนั้นกลับทำให้ผมนิ่งจนน้องชายผมเลิกคิ้วสงสัย “ มึงมีพิรุธนะสัดพี่ ”

“ ไม่มีอะไร ” ผมบอกปัด “ กูแค่คิดเรื่อยเปื่อยว่า แบบว่าเกี่ยวกับดอกไม้ อะไร แบบนั้น ”

“ มึงสงสัยเหรอ ว่าทำไมเวลาเผาศพต้องใช้ดอกไม้จัน ”

“ มึงลองใช้ความคิดบ้างมั้ย ”

“ สัด ” น้องชายผมสบถ “ กูรู้หรอกมึงกำลังหมายถึงดอกกุหลาบวันวาเลนไทน์ใช่มั้ยละ ” ไม่ได้ตอบอะไรกลับไปในตอนนั้น แต่น้องชายผมก็ยิ้มกว้างออกมาก่อนจะแซว “ ทำไม มึงเปลี่ยนใจจะซื้อให้พี่เมดแล้วเหรอ ”

“ กูแค่ถาม เผื่อ เอามาจัดในผับ ให้เข้ากับบรรยากาศ ”

“ โอยยยย มึงตอแหลไม่เนียนมากสัดพี่ มึงก็เพิ่งพูดกับพี่เจเมื่อกี้ว่าธีมงานปีนี้ของ throw up มัน bed valentine ต้อนรับเฉพาะคนโสด ไอ้อัยย์ยังบอกให้เปิดเพลง โปรดส่งใครมารักฉันทีเลย มึงจะมาตอแหลกูแบบนี้ไม่ได้ เข้าใจมั้ย แล้วหน้าที่คิดธีม ไม่ใช่หน้าที่มึงครับ พี่ชาย ”

“ เหรอ ” ผมพูดขึ้น “ กูลืมบ้างสิ ”

“ ยอมรับมาเถอะ แมนๆ ปกติหน้าก็ไม่ได้บางอยู่แล้ว แคร์เหี้ยไร จะซื้อดอกไม้ให้พี่เมดก็บอก ” ผมไม่ได้ตอบอะไรกับคำพูดนั้น ทำได้แค่ถอนหายใจออกมาแทน “ กูรู้ว่ามึงคงอยากจะให้เพราะอยากจะให้พี่เมดมีความสุข แต่อีกใจมึงก็เขินที่ต้องทำอะไรแบบนี้ แบบที่มันไม่ใช่ตัวมึงเลย ”

“ มั้ง ”  น้องชายผมเบิกตาตอนที่ผมตอบ

“ ทำเป็นมาบอกว่า มั้ง ทั้งที่ในใจตอบ อื้ม ”

“ แล้วเป็นมึง มึงจะทำอะไร ” คำถามที่ผมถาม ทำให้น้องชายผมนิ่งไป เดย์จ้องหน้าผมมันทำท่าครุ่นคิดอย่างหนัก

“ ถ้าเป็นกูเหรอ กูก็คงซื้อดอกไม้สักช่อมั้ง แต่ถ้ามึงไม่อยากให้กับมือเพราะเขิน ก็ทำไมไม่สั่งให้ร้านทำดอกไม้ เอาไปส่งให้พี่เมดที่คอนโดละ แบบที่พี่เจสั่งให้ไปส่งให้ไอ้วิวละ กูว่าแบบนั้น มันดีนะเว้ย เดี๋ยวพี่เมดดีใจก็หันมากอดมึงเองแหละครับ ”

“ เหรอ ”

“ น้ำเสียงแบบไม่พอใจ ทำไม หรือมึงอยากจะได้อะไรที่มันยิ่งใหญ่กว่านี้ ”

“ แล้วมึงมีความคิดอะไรอีก ”

“ ไม่มี ” ส่ายหน้าไปมาพร้อมกับรอยยิ้มกว้างในตอนนั้นผมก็ได้แต่ถอนหายใจ “ แต่เอาจริงๆ นะสัดพี่ มึงไม่เห็นต้องคิดมากมายเลย มึงแค่อยากจะทำอะไรให้เค้า มึงก็แค่ทำ ทุกอย่างมันก็มีเท่านั้นเปล่าวะ สำหรับกูมันไม่จำเป็นต้องให้ดอกไม้ด้วยซ้ำ แค่อะไรสักอย่างที่ปกติ มึงไม่ทำให้ แต่วันนี้มึงทำ แบบนั้นสำหรับเค้ามันก็พิเศษมากแล้วเว้ย บางทีแค่มึงให้เพลงสักเพลงกับเค้า นั่นก็พิเศษแล้วไม่ใช่เหรอ มันเป็นวาเลนไทน์ในแบบของมึง ”

“ เหรอ ”

“ จ้า เชื่อน้องเถอะ พี่เมดเค้ามีความสุขทั้งนั้นแหละ ถ้าสัดพี่เป็นคนให้น่ะ เพราะว่านั่นคือสัดพี่มึงไง คนที่ไม่เห็นค่าวันสำคัญเหี้ยอะไรเลย แต่กลับมาเห็นวันแห่งความรักนี้สำคัญขึ้นมา แล้วนั่นก็เพราะพี่เมด แค่นี้พี่เมดก็ร้องไห้แล้ว เชื่อกู ”

ภาพในสมองของผมฉายชัดขึ้นตอนที่เดย์พูดจบ แต่สิ่งที่คิดเป็นลำดับต่อมาคือผมจะจัดการความรู้สึกในตอนนั้นยังไงดี ในตอนที่เมดรับดอกไม้จากคนที่มาส่งตรงหน้าห้องของเรา ตอนที่เดินตรงเข้ามาหาผม เพราะการ์ดนั้นเขียนไว้ว่า ‘ จากอารยะ ’ อีกคนที่คงหน้าแดงไปหมด รอยยิ้มน่ารักที่คงซ่อนไว้ไม่ไหว มันคงพูดว่า ‘ นี่มันไม่ใช่อาฟเตอร์ อารยะเลยนะ ’

แล้วต่อจากนั้น ผมก็คงไม่รู้จะทำอะไรดี

“ คิดออกยัง ”

“ เสือก ” พูดกับน้องชาย แล้วตอนที่ลุกขึ้นยืนอีกคนก็เบิกตากว้าง

“ เมื่อกี้อุตส่าห์ช่วยคิดไอ้สัด ”

“ ต้องขอบคุณมั้ย ”

“ ถ้าแม่มึงสอนมาดี ก็ควรทำ ”

“ งั้นก็คงไม่ต้อง ”

“ Kจริงสัดพี่ มึงเป็นคนแบบนี้ได้ยังไง ทั้งๆที่เราก็ออกมาจากทางเดียวกัน แต่กูกลับทั้งนิสัยดีและน่ารักขนาดนี้  ” คำพูดนั่นชวนให้ผมยกยิ้ม แต่ในตอนที่กำลังจะก้าวเท้าเดินออกไปเดย์ก็พูดขัด “ แต่ถ้ามึงจะซื้อดอกไม้ ก็ต้องรีบสั่งแล้วนะ เพราะอีกสองวันก็วาเลนไทน์ละ เดี๋ยวเค้าไม่มีคิวให้มึงนะจ้ะ ”

“ ใครจะสนเรื่องปัญญาอ่อนแบบนั้นกัน ”

“ จ้า สัดพี่ ”

บนผับชั้นสามที่มีแต่เสียงของภาพยนตร์ลาโรงฉายอยู่ในทีวีจอแบนแบบแขวนติดกำแพง ผมเหลือบมองสายตาเรียวที่จ้องมองเนื้อหาในทีวีนั้นอย่างให้ความสนใจแบบซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้มันอิดออดที่จะไม่ดูเด็ดขาดเพราะยังไงก็ต้องไปดูอีกครั้งที่บ้านผมตอนต้นอาทิตย์นี้อยู่แล้ว รอยยิ้มของเมดกว้างขึ้นและหุบเล็กลงตามตามเรื่องราวนั้นที่ดู เป็นช่วงเวลาที่ผมเพลิดเพลิน ถ้าไม่ติดที่ว่า

“ มองอะไร ” ผมเบิกตาขึ้นเล็กน้อยในตอนที่โดนจ้องมองจากอีกคนที่คิดว่าดูหนังอยู่และคงไม่หันมา แต่ถึงอย่างงั้นผมก็คือผมที่ต้องทำทีเป็นเบือนหน้าไปทางอื่นก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมา

“ อะไร มองอะไร ” ถามกลับไปแบบไม่รู้เรื่อง เมดก็ขมวดคิ้ว

“ ก็เห็นอยู่ชัดๆว่ามึงมองกู ”

“ แล้วมึงมองกูทำไม ”

“ กูไม่ได้มองมึง มึงนั่นแหละ มองกู ”

“ มึงไม่ได้มอง แล้วจะรู้ได้ยังไงว่ากูมองมึง ” เลิกคิ้วถามก่อนจะยกยิ้มแล้วถามกลับอีกคน “ ว่าไง มึงมองกูทำไม ”

“ กูไม่ได้มอง มึงนั่นแหละมองกู มองจนกูต้องหันไปมอง ” เมดหันมาเถียง “ มึงมองกูทำไม ”

“ อาจจะแค่สงสัยก็ได้ ” ผมยื่นหน้าเข้าไปใกล้อีกคน สบสายตาเรียวอย่างจดจ้องลงไปในแววตานั้นจนมันสั่นไหว เมดที่แก้มแดงจัดหลับตาลงช้าๆในตอนนั้นเพราะคิดว่าผมคงจะมอบจูบดูดดื่มให้ แต่ทว่าผมกลับยิ้มกว้างกับท่าทางนั้นก่อนจะเอื้อมมือหยิบเศษคุ๊กกี้วาฟเฟิลที่ติดอยู่ข้างปากอีกคนให้ก็เท่านั้น

“ อะ ”  เมดเผลออ้าปากออกก่อนจะเปิดตามองกันตอนที่รู้ตัว

“ กูอาจแค่สงสัยก็ได้ ว่ามึงจะให้มันติดจนไปถึงที่บ้านเลยหรือเปล่า ” ดีดขนมออกจากปลายนิ้ว อีกคนก็ได้แต่สบถออกมา

“ สัด ”

“ ตะกละจริงๆนะ ” ยักคิ้วล้อมันอีกคนก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาแล้วพิงหลังลงกับเก้าอี้ ก่อนจะหันไปดูทีวีต่อ

“ แล้วพอมานั่งคิดว่าพี่ซองถามกูวันนี้ว่าวาเลนไทน์ปีนี้มึงจะให้อะไรกูหรือเปล่า มันก็ถูกแล้วที่กูตอบ ” เมดหันมามองผม “  ว่าคนอย่างมึง มันไม่มีทางหรอก ”

“ งั้นเหรอ ” ยกยิ้มบอกมัน ผมหยิบมือถือขึ้นมาปลดล็อคหน้าจอก่อนจะกดเข้าโปรแกรมฟังเพลงที่โหลดเก็บไว้ หยิบหูฟังไร้สายขึ้นมาจากกล่องเก็บ เชื่อมต่อมันเรียบร้อยก่อนจะผ่อนตัวลงนอนกับเก้าอี้นั่ง ไล่นิ้วไปบนหน้าจอ ผมเลือกฟังเพลงในอัมบั้ลรวมเพลงของ ‘ ส้มฉุน ’ ศิลปินคนโปรดของอีกคนทั้งหมด

ผมหลับตาลงแล้วตั้งใจฟังความหมายของเพลงทุกเพลงอย่างตั้งใจ มันมีทั้งเพลงที่เคยฟัง แล้วก็เพลงที่เพิ่งฟังครั้งแรก เพลงส่วนใหญ่ที่เป็นเพลงรักมีหลากหลายความรู้สึกซ่อนอยู่ในเนื้อหานั้น

มีครั้งหนึ่งผมเคยสงสัยว่าทำไมเมดถึงชอบฟังเพลงของผู้ชายคนนี้นัก แล้วตอนที่ถามออกไป เจ้าตัวก็ตอบแค่ว่า ชอบเพราะเสียงร้อง แล้วก็เนื้อหาเพลงที่อีกคนแต่งออกมา มันมีความหมายลึกซึ้งดี

“ ไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจ ” พูดกับตัวเองแบบนั้นในใจ ก่อนจะรู้สึกสะดุดใจเมื่อถึงเพลงนึงที่ทำนองขึ้นต้นค่อนข้างไปทางเพลงเก่าสมัยรุ่นพ่อแม่ผมยังหนุ่มสาว

คำร้องที่มีความหมายตั้งแต่วรรคแรก ผมเผลอยิ้มออกมา ในตอนที่คิดถึงเรื่องราวของเราที่ผ่านมา ผมที่เห็นเมดครั้งแรก รอยยิ้มของอีกคนในตอนนั้น หรือแม้แต่ตอนที่เราทะเลาะกัน จนในที่สุดผมกดบันทึกเพลงนั้นลงไปในโปรแกรม ก่อนที่หน้าจอนั้นจะปรากฏข้อความแจ้งให้ผมตั้งชื่ออัลบั้มนั้นไว้ และอย่างที่ไม่ต้องคิดอะไรให้นาน ผมตั้งชื่อมันสั้นๆแค่ว่า ‘ minmade ’

“ อาฟไปหาอะไรกินกันมึง ” ดึงสายตาจากหน้าจอตอนได้ยินคำชวนนั้น ผมกดล็อคมือถือก่อนจะลุกขึ้นเต็มความสูง แล้วเดินตามอีกคนลงไปชั้นล่างที่มีไอ้เดย์รออยู่

บนถนนที่มีผู้คนขวักไขว้แม้จะอยู่ในช่วงเวลาที่ดึกมาก แต่เหมือนว่าบริเวนนี้จะไม่ได้เป็นแบบนั้น ตรงซอยรวมร้านอาหาร ยังมีคนที่ใช้บริการกันแน่นเกือบทุกร้าน แต่วันนี้เราสามคนเลือกกินต้มเลือดหมูแทนบะหมี่หมูตุ๋นที่จะเลือกกินเหมือนทุกทีด้วยเหตุผลของน้องชายผมที่บอกกับอีกคนแค่ว่า ‘ ขอเปลี่ยนบ้างนะพี่เมด เบื่อแล้ว ’

“ แล้วตกลงมีใครมาสมัครเซฟฝั่งร้านอาหารบ้างยัง ” เดย์เอ่ยถามเมดที่ก็นั่งกินไปด้วยส่วนมือซ้ายก็เล่นมือถือไปด้วย อย่างที่ชอบทำ “ แล้วช่างรับเหมาบอกมั้ยสัดพี่ ว่าเมื่อไหร่เสร็จ เราต้องกั้นผ้าไว้แบบนั้นอีกนานเท่าไหร่ ”

“ อีกห้าเดือนมั้ง ”

“ นานเหมือนกันนะ ” ไอ้เดย์บอกก่อนจะหันไปหาเมดที่เคี้ยวข้าวในปากก่อนจะตอบคำถามที่อีกคนถามไว้

“ ตอนนี้ก็มีคนเข้ามาสมัครแล้วบ้างเหมือนกัน  แต่เราก็บอกเค้าไปแล้วว่า เราจะเปิดให้ทดสอบทำอาหารก่อน แล้วเดี๋ยวจะนัดไปอีกทีเรื่องวันและเวลา ”

“ ตื่นเต้นจังเลยว่ะ ” น้องชายผมพูดก่อนจะทำท่าคิด “ ไม่รู้จะออกมาเหมือนแบบมั้ยนะ อันนั้นคือโคตรสวย ”

“ มันต้องออกมาเหมือนแบบสิ ” เมดบอกก่อนจะหันมาถามย้ำกับผม “ ใช่มั้ย ”

“ ก็คงแบบนั้น ”

ส่วนต่อเติมของร้านอาหารที่กำลังก่อสร้าง ออกแบบมาในรูปแบบที่เหมือนกับดาดฟ้า เราทำบันไดทางขึ้นไว้ติดกับตัวตึกเก่าของผับ ตกแต่งด้วยโทนสีน้ำตาลของไม้และใช้เหล็กสีดำขึ้นโครงและติดกระจกโดยรอบ ตกแต่งด้านนอกเป็นลานกว้างสำหรับคนที่ชอบรับลมธรรมชาติ เสริมด้วยต้นไม้สีเขียวห้อยระย้าพอสวยงามเพื่อให้ตัวร้านดูผ่อนคลายเหมาะกับการสังสรรค์

“ ต่อไปนี้ก็เรียกผับ throw up ไม่ได้แล้วสิเพราะต้องเรียกว่า throw up pub and restaurant ”

“ ก็ตามนั้น ” เมดยิ้มก่อนจะยักคิ้วให้คนตรงหน้าพร้อมด้วยนิ้วที่ทำท่าเก็กหล่อของมัน ก็จะพูดว่าความคิดนี้เป็นผลงานของเมดเกือบจะทั้งหมดก็ไม่ผิดนัก เพราะมันจัดการทุกอย่างตั้งแต่เสนอแนวคิดกับผม ติดต่อกับคนออกแบบ สอบถามถึงความเป็นไปได้ และก็ไม่ลืมถามถึงจุดสำคัญต่างๆ รวมไปถึงการรับสมัครพนักงานของร้านในตำแหน่งที่สำคัญ เรียกได้ว่าทำเองทุกขั้นตอนโดยทีผมคอยตรวจเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง

“ แต่เสียดายนะพี่เมด ที่มันไม่ทันช่วงวาเลนไทน์ นี่ถ้าทัน คนต้องเต็มแน่นอน ”

“ นั่นน่ะสินะ ” อีกฝ่ายรับคำก่อนจะตักข้าวขึ้นกินต่อ “ พี่เมดก็อยากให้เห็นมันเสร็จไวๆจังเลยว่ะ อยากรู้แล้วว่ามันจะเป็นยังไงบ้าง จะประสบความสำเร็จแบบที่คิดไว้มั้ย ”

“ เนอะ ”

“ ก็คงออกมาดี ” ผมพูดก่อนจะยกน้ำขึ้นมากิน “ แล้วก็ช่วยแดกให้มันเร็วๆด้วย มึงจะแวะเซเว่นซื้อเยลลี่อีกไม่ใช่เหรอสัดเดย์ ”

“ เออ จริง ” หลังคำพูดนั้นอีกคนก็รีบจัดการข้าวในถ้วยของตัวเองเข้าไปจนหมด แก้วน้ำถูกกินอย่างรีบร้อนไอ้เดย์เคี้ยวน้ำแข็งเสียงดังชวนให้ไอ้เมดหลุดยิ้มออกมาก่อนจะเดินไปจ่ายเงินให้กับแม่ค้า

เป็นท่าทางที่ชวนให้ผมคิดถึงว่าเคยมีครั้งหนึ่งที่ผมเคยบอกกับเมดว่า มันก็เหมือนแม่ของไอ้เดย์ หลายครั้งที่อีกคนพูดทั้งๆที่กินจนต้องบอกให้หยุด แล้วบางทีก็ต้องบังคับให้ไปกินข้าว เพราะอีกฝ่ายมัวแต่กินเยลลี่มากเกินไป ส่วนผมก็มีแต่หน้าที่บอกให้อีกคนเลิกสร้างความวุ่นวายสักที เพราะมันก็โตจนจะเป็นควายอยู่แล้ว แต่พอพูดแบบนั้นทีไร อีกคนก็ชอบสวนกลับแค่ว่า ‘ ถ้ากูเป็นแม่ งั้นมึงก็เหมือนพ่อแล้วละ สัดอาฟ ’

ในร้านสะดวกซื้อที่เราแวะก่อนกลับ กลิ่นไอของความรักและสีชมพูถูกตกแต่งบนชั้นขายของที่ประดับไปด้วยดอกไม้และช็อคโกเล็ตหลากหลายแบบที่ออกว่าขายในวันสำคัญที่กำลังจะมาถึง ไอ้เดย์กับเมดแยกตัวออกจากผมไปซื้อที่ล็อกอื่น ส่วนผมก็เดินไปยังตำแหน่งประจำที่ต้องมายืนทุกครั้งเมื่อมาถึง แล้วนั่นก็คือล็อกขายลูกอมเพราะเป็นจุดที่แอร์แรงและเย็นที่สุดในร้าน
 
“ ขอโทษนะคะพี่ ขอทางหน่อยค่ะ ” เสียงของเด็กที่อายุประมานประถมต้นเอ่ยบอกผมที่พอเบี่ยงตัวหลบให้ก็เจอเด็กสองคนนั้นมาด้วยกัน แล้วในตอนนั้นเองที่เห็นเด็กคนนึงคว้าเอาลูกอมห่อหนึ่งขึ้นมาจากที่แขวน มันเป็นลูกอมแบบรูปหัวใจสีแดง

“ อันนี้ไงที่ข้างในมันเขียนคำไว้ด้วยน่ะ มีคำว่า รักนะ ด้วยนะแล้วก็มีคำว่าเป็นห่วงนะด้วย นิคกี้ก็เอาไปให้เลโก้สิ เลโก้ไม่รู้หรอกว่านิคกี้ชอบ ” ผมเผลอยกยิ้มออกมาตอนที่ได้ยินเด็กสองคนนั้นพูดคุยกันแบบนั้น ในใจที่นึกหัวเราะ ‘ ว่าตัวแค่นี้ก็คิดเอาไปลูกอมไปสารภาพรักกับผู้ชายแล้วเหรอวะ ร้ายจริงๆ ’

“ จะดีเหรอ ” เด็กที่ชื่อนิคกี้เหมือนจะลังเล ใบหน้าขาวแดงจัดตรงแก้มไปหมด แถมยังดูเป็นกังวล

“ ดีสิ ถ้าให้แบบนี้ก็ไม่ต้องบอกว่ารักตรงๆนะ ”

“ แต่ว่าในนี้มีคำว่าอะไรบ้างก็ไม่รู้ ไม่รู้จะมีคำว่ารักเปล่า ”

“ งั้นเราก็ซื้อหมดเลยสิ ”

“ ไม่มีเงินอะ ” มือที่ล้วงเข้าไปในกระเป๋านักเรียนตัวที่ใส่ในนั้นมีแค่เหรียญ์กลมๆอยู่เหรียญเดียวเท่านั้น

“ เหรอ งั้นซื้อห่อเดียวก็ได้ ” เพื่อนผู้เจ้ากี้เจ้าการว่าแบบนั้นก่อนจะหยิบเอาถุงลูกอมห่อนึงนั้นแล้วคว้าจับเพื่อนเดินออกไปจ่ายเงินทันที ส่วนผมที่ยืนอยู่ตรงนั้นได้ยินแบบนั้นแล้ว ก็แอบหันซ้ายดูขวาก่อนจะรีบคว้าไปมันทั้งหมดขึ้นมา ก่อนจะเดินไปจ่ายเงินที่เค้าเตอร์ทันที

แต่ทว่าพนักงานที่ยังไม่ทันจะคิดเงินไม่เสร็จ ทั้งไอ้เมดไอ้เดย์ก็เอาขนมมาวางลงบนโต๊ะคิดเงินทั้งแบบนั้นโดยที่ไม่มีการขออนุญาตใดๆ แถมตอนที่หันไปมองทั้งสองคนก็ได้รับแค่ยิ้มกว้างออกมาก่อนจะพูดแค่ว่า

“ จ่ายเงินให้ด้วยนะอารยะ ขอบคุณมาก ”

“ เอ่อ  คือ จะให้คิดรวมหรือแยกคะ ”

“ รวมครับ ” สิ้นสุดเสียงนั้นคนที่ไม่ต้องจ่ายเงินก็เข้ามาบีบนวดที่แขนทันทีอย่างเอาใจ ก่อนที่ไอ้เดย์จะขมวดคิ้วแล้วถามขึ้นตอนที่เห็นห่อลูกอมมากมายที่พนักงานกำลังจะเอาใส่ถุง

“ สัดพี่ ทำไมซื้อลูกอมเยอะจังวะ ”

“ ไม่ใช่ของกู ” ผมบอกกปัดก่อนจะบอกพนักงานร้าน “ ช่วยแยกถุงลูกอมด้วยนะ เพื่อนผมฝากซื้อ ”

“ พี่เจน่ะเหรอ ”

“ อื้ม ”

“ แปลกสัด เชี้ยพี่เจชอบกินลูกอมแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ ”

“ ไม่ใช่เอาไปให้ไอ้วิวเหรอ ” เมดพูดขึ้นไอ้เดย์ก็หันไปมอง “ ก็พรุ่งมันวันวาเลนไทน์ บนลูกอมนั้นข้างหลังมาเขียนคำเอาไว้ อาจจะเอาไปให้วิวก็ได้ ”

“ เหรอ ” น้องชายผมหันไปถามด้วยสีหน้าไม่เชื่อเท่าไหร่ “ คนอย่างพี่เจ ไม่น่าจะใช้แผนปัญญาอ่อนแบบนี้เปล่าวะ อีกอย่างมันให้ดอกไม้ช่อเบ่อเริ้มกับไอ้วิวแล้วนะ ”

“ น้องเดย์วันวาเลนไทน์น่ะ ไม่มีอะไรที่ปัญญาอ่อนหรอก เพราะไม่ว่าคนรับจะได้รับอะไร มันก็มีความสุขทั้งนั้น ”

“ พูดแบบนี้ บอกสัดพี่ไปเลยก็ได้ว่าอยากจะได้อะไร ” น้องชายผมเหล่มองเมดยิ้มๆก่อนจะดันไหล่ไปชนอีกคนที่ก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆ แล้วมองผมด้วยหางตา ก่อนจะหันไปบอกคนถามแค่สั้นๆว่า

“ ไม่มีทางที่มันจะให้หรอก ”

“ แต่จะว่าไปเมื่อก่อนสัดพี่ก็ได้ลูกอมแบบนี้เหมือนกันนะ แล้วก็ได้สติกเกอร์รูปหัวใจติดเต็มเสื้อไปหมดเลย หน้าเทศกาลทีไรพี่ติ๊กหัวเสียตลอดเพราะต้องนั่งแกะสติกเกอร์ผมเสื้อมัน ”

“ เหรอ ”

“ ช่ายยย แล้วพี่เจก็เคยเล่าด้วยนะพี่เมดว่าตอนนั้นเวลาใครมาติดสติกเกอร์ให้มัน มันจะทำหน้านิ่งสุดๆ พอสาวถามว่าขอติดบนเสื้ออาฟได้มั้ย มันก็หันไปทำหน้าเท่ห์ๆพร้อมด้วยเสียงทุ้มๆแค่ว่า ‘ ได้สิ ’ ”

“ คิดภาพออกเลย ได้สิ ” ใบหน้าหวานเลียนแบบเสียงผมในตอนท้าย ก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆแล้วเม้มริมฝีปากแน่นในตอนที่ผมหันไปมอง “ ล้อเล่นนิดเดียวเองอารยะละก็ ”

“ กลับกันได้แล้ว มัวแต่ไร้สาระ ปัญญาอ่อน ” ผมหยิบถุงของขึ้นมา ก่อนจะเดินนำอีกสองคนออกไป

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
บนทางเดินที่ผมรู้สึกว่าอากาศเริ่มเย็นลง แล้วในตอนนั้นเองที่ถุงหิ้วของผมเริ่มขยับเพราะมีคนเข้ามาช่วยถือไว้ คนที่เดินคุยกับน้องชายผมตามหลังมาตลอดทาง แต่ตอนนี้เมดกลับสอดมือเข้ามาในถุงใบนั้น มันที่ช่วยถือทั้งๆที่ก็ไมได้หนักอะไร

“ มึงคิดว่ามันหนักสามกิโลหรือยังไง ถึงต้องมาช่วยกูถือ ”

“ เปล่า ” อีกคนตอบก่อนจะส่ายหน้า “ ข้ออ้างเฉยๆ แค่อยากเดินกับมึง ” เผลอหลุดยกยิ้มขึ้นมาในตอนนั้น ผมขยับมือไปจับมือของอีกคนไว้แน่น “ มึงจำได้มั้ย ช่วงแรกๆที่เราเจอกันมึงเคยซื้อทิชชูในเซเว่นนี้เพื่อจะเอาถุงมาครอบหัวกูเพราะกลัวกูจะโดนฝนด้วยนะ ”

“ กูเคยทำอะไรปัญญาอ่อนแบบนั้นด้วยเหรอ ” เหลือบไปมองอีกคน เมดก็ยกยิ้มหมั่นไส้ให้กันแล้วก็เงียบไปทั้งอย่างงั้น

 มันดูน่าแปลก ที่พอความเงียบคืบคลานเข้ามาโอบล้อมตัวเราในตอนนั้น ทั้งๆที่มีผู้คนมากมายเดินสวนทางกันไประหว่างทางไม่มีหยุด แต่ผมกลับรู้สึกว่าพื้นที่ตรงนี้มีเพียงแค่เราเท่านั้น เป็นช่วงเวลาที่ผมกระชับกุมมือเมด ก่อนอีกฝ่ายจะหันมามองกันด้วยแววตาที่เหมือนมีอะไรจะพูด “ มีอะไร ”

“ มึงโกรธเปล่าวะ ”

“ เรื่อง ? ” ผมตั้งคำถามกลับ

“ ก็ที่กูพูดว่ามันเป็นไปไม่ได้หรอกที่คนอย่างมึงจะให้อะไรกูในวันวาเลนไทน์ ”

“ กูดูเป็นคนงี่เง่าขนาดนั้นเลย ”

“ ก็ไม่หรอก ” เมดตอบก่อนจะส่ายหน้า “ แค่กู กลัวว่ามึงจะรู้สึกไม่ดี ”

“ ไร้สาระ ”

“ ก็ตั้งแต่ที่คบกับมึงมา รู้มั้ยบางทีกูก็รู้สึกเหมือนกันว่าตัวเองแม่ง แปลก ”

“ แปลกยังไง ”

“ ก็แปลก ที่กลับรู้สึกว่าวันวาเลนไทน์ไม่เห็นจำเป็นอะไรเลย เพราะเราก็รักกันทุกวันอยู่แล้ว ทั้งๆที่ว่าเมื่อก่อน กูรอคอยมันมากเลยนะ รู้สึกว่าจะได้รับอะไรดีๆ มันคาดหวัง ” ไม่ใช่ครั้งแรกที่หน้าผมรู้สึกร้อน แล้วก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่คนข้างกันเหมือนฮุกหมัดสวนใส่กันบนเวทีมวยจนผมรู้สึกน็อคนิ่งไป แต่ทว่าผมก็คือผมต่อให้หน้าแดงจนลามไปถึงหูยังไง คำพูดที่พูดออกไปมันก็มีอยู่แค่นั้น

“ บอกกี่ทีแล้วว่าให้เลิกดูหนังกับแม่กู น้ำเน่า ”

“ มึงแม่ง ไม่โรแมนติกเอาซะเลยไอ้สัด ” คำพูดนั้นทำให้ผมหยุดเดิน ก่อนจะดึงถุงพลาสติกที่เหมือนจะเกะกะนั้นมาไว้ที่มืออีกฝั่ง แล้วใช้มือข้างที่ว่างกระชับมือของอีกคนให้แน่นชิดขึ้นแบบที่ไม่มีอะไรมาขวาง ก่อนจะออกแรงจูงเมดให้เดินออกไปตามทางอีกครั้ง

“ โรแมนติกแบบนี้ พอใช้ได้ยัง ”

“ เอาอีกแล้วนะ ” คนหน้าแดงบ่นออกมาก่อนจะเหลือบตามอง “ แล้วสุดท้ายก็ต้องเป็นกูที่แพ้มึงตลอดจริงๆ ” ใบหน้าน่ารักแดงจัดที่เอาแต่ก้มหน้าเดินอยู่ไปข้างๆกัน ลำตัวของเราแนบชิดแม้พื้นที่จะเหลือกว้างขวาง ไม่มีใครพูดอะไรทั้งนั้น มีเพียงแค่รอยยิ้มของเราที่แต่งแต้มบนหน้าของกันและกันไปตลอดทางจนถึงผับ

ถุงลูกอมที่ผมซื้อถูกดึงแยกออกมา ก่อนจะโยนให้ไอ้เจที่นั่งอยู่ มันมองถุงนั้นงงๆ ก่อนจะหันมาพวกเรา “ อะไรวะ ” เพื่อนผมถามก่อนจะเปิดถุงออกมาดู

“ อ้าว ก็ลูกอมที่มึงฝากสัดพี่ซื้อไง ลืมอีก ”

“ ห๊ะ ? กูเหรอ ? ” คำถามของเพื่อนสนิทที่หันมาหากัน ผมพยักหน้ารับลงสั้นๆ อีกฝ่ายก็ได้แต่ยกยิ้มก่อนจะพยักหน้ารับหน่ายๆอย่างรู้กัน “ โอเค๊ ของกูก็ของกูจ้า ”

“ กูจะนั่งตรงนี้ ” ผมบอกเมดอีกคนก็พยักหน้ารับ

“ งั้นกูขึ้นไปดูหนังต่อข้างบนนะ ”

“ อื้ม ” ทุกคนแยกย้ายออกไปในตอนนั้น แล้ววินาทีที่ผมนั่งลงตรงที่เดิม ไอ้เจก็เท้าคางก่อนจะหันมามองอย่างจับผิด

“ ตกลงยังไง ไหนบอกไม่ซื้ออะไรให้ไงไอ้สัด ”

“ ใครบอกกูซื้อ กูแค่อยากกินลูกอมกูเลยซื้อมา ”

“ เหรอครับ แต่ก็ซื้อมาตั้งหลายห่อนะ อยากกินเป็นสิบๆเม็ดขนาดนี้เลยเหรอครับเพื่อน ”

“ พูดมากจังสัด มึงเอาขึ้นมาแกะหน่อย ”

“ หาคำว่าไรละ ” เจถามในตอนที่มันทยอยแกะถุงลูกอมทีละถุง แล้วเทลูกอมพวกนั้นลงบนโต๊ะ เราพลิกด้านหลังแล้วดูคำพวกนั้น

“ ไม่มี ” ผมบอกอีกคนก็ขมวดคิ้ว ลูกอมถุงใหม่ถูกเกะไปเรื่อยๆ แต่เท่าที่เห็นมันก็มีแต่คำว่าเป็นห่วง ดูแลตัวเองด้วยนะ ชอบนะ เป็นคำที่ผมไม่ต้องการเลยจนกระทั่งลูกอมเกือบเม็ดสุดท้ายถูกพลิกขึ้นมา แล้วในนั้นคำที่มันเขียนเอาไว้ ก็เป็นคำที่ผมต้องการพอดี “ เจอละ ” ผมคว้ามันใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงทันทีเห็น แต่คงช้ากว่าเพื่อนสนิทที่มองกันอยู่ตลอด 

“ อ๋อ หาคำว่ารัก ” อีกคนพูดแซว ก่อนจะหยิบแก้วเหล้าที่กำลังกินอยู่ขึ้นมากิน “ วาเลนไทน์อะไร ปัญญาอ่อนเนอะ ”

“ เงียบไปเลยไอ้สัด ”
..............................................................

ภายในรถตอนช่วงขากลับคอนโดมีเพลงหวานหูเปิดคลออย่างไม่ค่อยเข้ากับบรรยากาศ บนท้องถนนที่การจราจรไม่ติดขัดในช่วงเวลาตีสาม แต่ถึงแบบนั้นผมก็ยังเลือกที่จะจอดรถติดไฟแดงอย่างเคารพต่อกฏที่มี ความว่างเปล่าเบื้องหน้าทำให้ผมหันไปมองคนที่นั่งอยู่ข้างกัน เมดที่กำลังมองออกไปนอกหน้าต่างตรงนั้นเหมือนจะเป็นร้านดอกไม้ที่เปิดร้านเร็วกว่าปกติจากที่เคยเป็น จะว่าไปวันนี้ก็เข้าสู่วันแห่งความรักแบบเต็มตัวแล้ว ก็ไม่แปลกใจที่วันนี้ร้านดอกไม้จะดูตื่นตัวกันเป็นพิเศษขนาดนี้

 “ ดูสิ แม่งห่อดอกไม้กันตั้งแต่ตีสามเลย ” เมดชี้ไปที่หน้าร้านนั้นก่อนจะหันมายิ้มให้ผม “ แต่ก็ไม่แปลกใจ มันเป็นวันของเค้าจริงๆ เป็นวันที่จะขายดีที่สุด ”

“ อยากได้ดอกไม้เหรอ ” ผมถามมันตรงๆ อีกคนก็ได้แต่ส่ายหน้าไปมาเป็นคำตอบ

“ ไม่อะ กูไม่ใช่คนประเภทที่ให้ความสนใจกับวันวาเลนไทน์เท่าไหร่ ”

“ งั้นเหรอ ”

ผมยังคงจำเสียงของตัวเองในช่วงเวลานั้นได้ดี แต่ดูเหมือนว่าคนที่พูดออกมาจะจำไม่ได้แล้ว คำพูดที่บอก ‘ กูไม่ใช่คนที่สนใจวันวาเลนไทน์เท่าไหร่ ’ ดูเหมือนจะไม่จริงอย่างงั้น  เพราะอย่างน้อยสิ่งที่เรียกว่าขนมปังทาช็อคโกเล็ตในวันนี้ก็เป็นถูกทาเป็นรูปหัวใจ ก็เป็นสิ่งที่บอกกับผมได้ดีว่า เมดให้ความสำคัญกับมัน

“ สุขสันต์วันวาเลนไทน์นะอารยะ ” พูดแบบนั้นก่อนจะวางกาแฟไว้ตรงหน้าผม ส่วนมันก็ยกโกโก้ที่ตัวเองชอบขึ้นกินก่อนจะนั่งลงตรงข้ามกันตามด้วยขนมปังในจานตัวเอง ก่อนจะเน้นย้ำกันอีกครั้งให้ผมรู้ “ มึงไม่ต้องซีเรียสนะ กูไม่ได้อะไรกับวันวาเลนไทน์เลย แค่อยากบอกเฉยๆ แบบ ก็วันแห่งความรักทั้งที ก็อยากจะทำตัวให้เข้าการเหตุการณ์  แต่กูก็ไม่ได้ให้ความสำคัญอะไรกับมันนะ แต่แบบ แค่อยากบอก ”

“ เลิกพล่ามแล้วกินซะ ” ผมบอกก่อนจะกินขนมปังนั้นเข้าไปก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาดูเวลา ตอนนี้ก็เกือบจะสิบเอ็ดโมงแล้ว

“ เที่ยงนี้กินอะไรกันดี ” เมดถามผมแต่ยังไม่ทันได้เอ่ยตอบ เสียงโทรศัพท์ของคนถามก็ดังขึ้นก่อน

ครืน ครืน ครืน

“ แปปนะ ”

“ อื้ม ” พยักหน้ารับอีกคน เมดก็หยิบมือถือขึ้นมากดรับ

“ ครับ เข้ามาด้านในได้เลยครับ ตรงลิฟต์ตัวในสุด ใช่ครับ เดี๋ยวพี่ส่งรหัสเข้าเบอร์มือถือเรา ก็กดรหัสขึ้นมาเลยนะ โอเค ครับ สวัสดีครับ ”

“ อะไร ”

“ มีของมาส่ง แต่กูให้ขึ้นมาส่งข้างบนละ ” บอกกันแบบนั้นก่อนจะวางมือถือลงบนโต๊ะก่อนจะกิน และไม่นานเสียงกริ่งหน้าห้องก็ดังขึ้น

กริ้ง กริ้ง กริ้ง

“ ไปรับให้หน่อย ”

“ กู ” ผมชี้นิ้วเข้าตัวเอง อีกฝ่ายก็พยักหน้ารับ

“ กูยังไม่ได้อาบน้ำ น่าเกลียด มึงอาบน้ำแล้ว ออกไปรับให้ที ” ถอนหายใจออกมาตอนที่ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ผมเดินไปที่หน้าห้องเปิดประตูก่อนจะพบดอกกุหลาบสีแดงช่อใหญ่ที่ถูกส่งมาให้จากคนส่งของ “ อะไรเนี้ย ” เผลอสถบกับคนส่งของออกไปแบบนั้นอีกคนฝ่ายก็ยิ้ม

“ ดอกไม้มาส่งครับ ”

“ ห๊ะ ? ” ยังไงทำได้แค่เอียงหน้างง แต่มือก็เอื้อมมือไปรับดอกไม้ช่อนั้นมา มันเป้นกุหลาบสีแดงสดที่ไม่ได้ดกแต่งอะไรเพิ่มเดิม ในนั้นมีการ์ดเขียนอยู่ใบเดียว และข้อความสั้นๆบนนั้น ‘ ถึง อารยะ จาก มินเมด ’

  “ ช่วยเซ็นรับด้วยครับ ” สมุดถูกส่งมาให้ ผมเซ็นรับเรียบร้อยคนที่ส่งของก็เดินออกไป ทิ้งให้ผมยืนยิ้มแบบงงๆกับช่อดอกไม้นั้น และตอนที่เดินกลับเข้ามาตรงโต๊ะอาหาร คนที่อ้างว่าออกไปเปิดประตูไม่ได้เพราะยังไม่ได้อาบน้ำ ก็นั่งเท้าคางแล้วยักคิ้วให้กัน

“ เล่นอะไรของมึง ”

“ ก็วันนี้วันวาเลนไทน์ กูเลยไปส่งดอกไม้มาให้มึง ” เมดบอกแบบนั้น ผมก็ได้แต่ขมวดคิ้ว เพราะรู้สึกว่าวันนี้แบบนี้มันควรมีแค่ผมที่ให้อีกฝ่ายไม่ใช่ให้อีกฝ่ายมาให้ผมแบบนี้ “ กูแค่อยากจะเป็นคนที่ให้อะไรกับมึงบ้าง เพราะส่วนใหญ่เหมือนจะมีแค่มึง ที่เป็นคนให้กูตลอด ”

“ คิดอะไรมากอย่างงั้น ”

“ มึงนั่นแหละคิดอะไรมากอย่างงั้นวะ ” เมดบอก “ กูรู้นะว่ามึงคิด คิดว่าให้มึงทำไม ต้องเป็นมึงสิที่ให้ ”

“ รู้ด้วย ”

“ วันวาเลนไทน์คือวันแห่งความรัก รักใครเราก็ให้ของกับคนนั้น ไม่ได้กำหนดสักหน่อย ว่าฝ่ายไหนจะต้องให้ฝ่ายไหนจะต้องรับ แล้วเหตุผลมันก็มีแค่นั้น กูให้ดอกไม้มึง ก็เพราะว่ากูรักมึง ”

“ ท็อปฟอร์มขนาดนี้ได้ไงวะ ” ผมถามอีกคนสั้นๆ เมดก็ได้แต่ยิ้มกว้างออกมา ก่อนจะยกนิ้วเก็กหล่อให้ตัวเอง “ มานี่หน่อยมา ”

“ จะจูบกูเหรอ ” ถามแบบนั้นแต่ก็ยังเดินเข้ามาหา เมดกอดเข้าที่เอวผม เรามอบจูบดูดดื่มให้กันก่อนจะกอดกันไว้แน่นอยู่อย่างงั้นจนกระทั่งอีกฝ่ายเอ่ยถาม “ วันนี้คนข้างนอกคนน่าจะเยอะ กูว่าซื้ออาหารสำเร็จรูปมากินสักมื้อมั้ย ไปเลือกเอาที่ซูปเปอร์ข้างๆด้วยกัน ”

“ ไม่อะ ” ผมบอก “ กูมีที่อยากจะไปอยู่แล้ว ”

“ ที่ไหน ? ”

“ ร้านวนิลา ”

“ ร้านที่เราเจอกันครั้งแรกใช่มั้ย ”

“ อื้ม ” พูดสั้นๆแค่นั้นอีกคนก็ขมวดคิ้วก่อนจะถอนหายใจออกมา

“ มึงฟังกูมั้ยสัด ก็บอกอยู่ว่าวันนี้มันวันวาเลนไทน์ คนมันเยอะทุกร้านนั้นแหละ ยิ่งร้านวนิลาไม่ต้องพูดถึง คนต้องโคตรเยอะแน่นอน ”

“ จะกลัวอะไร กูจองไว้แล้ว ”

“ ห๊ะ? ”

“ กูจองไว้ตอนบ่ายสองวันนี้ แล้วถ้ามึงมัวแต่ ห๊ะ แล้วยังไม่รีบไปอาบน้ำแต่งตัว มึงก็ไม่ต้องแดก ”

“ คือมึงจองไว้เหรอ แบบจองไว้เพื่อไปกินข้าวกับกู สองคนในวันวาเลนไทน์ ถูกมั้ย ” สายตาเรียวที่ยังคงถามกันเพื่อความแน่ใจ ผมก็ถอนหายใจออกมา แล้วในตอนที่หันหน้าแดงๆไปทางอื่นนั้น

“ แล้วกูจะจองไว้ทำไม ถ้าไม่ใช่เพื่อมึง ”

“ เชี้ย พี่อาฟหน้าแดง ”

“ ไปอาบน้ำ ” ผมพูดย้ำอีกคนก็จูบที่ริมฝีปากกันอีกครั้งก่อนจะ วิ่งขึ้นไปบนห้องทันที ทิ้งให้ผมยืนก้มหน้าอย่างหมดแรงกับช่อดอกกุหลาบสีแดงในอ้อมแขนอย่างไม่รู้จะควบคุมหัวใจตัวเองให้สงบลงจากพายุแห่งความสุขนั่นยังไง

กลิ่นน้ำหอมตลบอบอวลไปทั้งห้องตอนที่อีกคนเดินลงมา เมดใส่เสื้อเชิ้ตผ้าซาตินสีชมพูตัวที่ไปเดทกับผมครั้งแรก เข้าคู่กับกางเกงสีดำแนบตัว มันที่หันมามองกันถามไถ่ถึงชุดของตัวเองแบบไม่มั่นใจเท่าไหร่

“ มึงว่ากูดูต้อนรับวาเลนไทน์ไปมั้ย ”

“ แล้วทำไมถึงใส่สีชมพู ไม่ชอบไม่ใช่เหรอ ”

“ ก็..” เสียงที่ขาดช่วงไปนั้น มือบางยกขึ้นเกาแก้มตัวเองเบาๆ ก่อนจะมองไปทางอื่นแล้วตอบ “ มึงเคยบอกว่าใส่แล้วดูดี มึงชอบ ”

“ งั้นก็เพื่อกู ไม่ใช่ต้อนรับวาเลนไทน์จริงมั้ย ”

“ ก็อื้ม ” ตอบสั้นๆ แบบนั้นคนหูแดงก็รีบเดินออกไปจากห้องโดยที่ไม่รอให้ผมได้แซวหรือแกล้งอะไรมันได้มากกว่านี้อีก ไม่แม้จะให้เวลาได้จดจ้องใบหน้าน่ารักที่แต่งตัวได้โคตรน่ารักเลยสักนิด

“ โคตรใจร้าย ”

บนรถที่เงียบเชียบของเราในตอนเดินทาง เป็นความรู้สึกที่ผมอธิบายไม่ได้ อาจจะเรียกว่าตื่นเต้น หรืออะไรสักอย่างมีอาการแบบที่ว่ามือของผมเกิดเย็นขึ้นฉับพลัน ในตอนที่เมดกำลังเอื้อมมือไปกดเปิดเพลงเพื่อทำลายบรรยากาศนั้น ทั้งๆที่ผมเตรียมจะกดต่อมือถือกับเครื่องฟังเพลงในตอนที่จอดรถตรงไฟแดงข้างหน้า

“ ต่อมือถือกูกับเครื่องฟังเพลงให้หน่อย ” ยื่นมือถือให้อีกคนเมดก็ขมวดคิ้ว

“ มึงมีเพลงจะฟังเหรอ ”

“ ไม่ ”

“ แล้วต่อทำไมวะ ”

“ ใช้อะไรก็ทำเถอะน่า กูขับรถอยู่ ” เสียงถอนหายใจเซ็งๆนั้นดังออกมาตอนที่มันเอามือถือผมไปกดอยู่สองสามครั้ง ก่อนจะยื่นกลับมาให้

“ เสร็จแล้ว ”

“ เข้าไปในโปรแกรมฟังเพลง ” ผมบอกเมดก่อนจะยื่นมือถือไปให้มันอีกครั้ง มือขาวหยิบมันขึ้นมากด ก่อนจะนิ่งไปแล้วค่อยๆยิ้มออกมา ตอนที่เห็นชื่ออัลบั้มที่ผมเซฟชื่อเอาไว้ก่อนหน้านี้ “กดเปิดอัลบั้มที่ทำให้มึงยิ้ม แล้วก็กดเปิดเพลง ”

“ เดี๋ยวนะ เพลงนี้คือ ให้กูเหรอ ” ไม่ได้ตอบคำถามนั้นในตอนนั้น แต่ผมกลับแค่ยื่นมือไปจับมือของอีกคนไว้ มือที่ค่อนข้างชุ่มเหงื่อของผมในนั้นมีลูกอมอยู่หนึ่งเม็ดในนั้น ผมจัดการยัดมันใส่มือของอีกคนก่อนจะพูดแค่สั้นๆ

“ ก็วันวาเลนไทน์ละนะ ”

เสียงดนตรีบรรเลงก่อนขึ้นคำร้องทำให้คนที่ฟังยิ้มกว้างออกมาก่อนจะพูดแบบไม่ออกเสียงแค่ว่า ‘ อารยะ แม่ง ’  เพลงที่ผมเลือกคือเพลงที่มีชื่อว่า ‘ อีกสักกี่ครั้ง ’ ส่วนนักร้องก็เป็นคนที่อีกคนชอบอยู่แล้ว ผมรู้ว่าเมดคงเคยฟังเพลงนี้มาก่อน และนั่นก็คือเหตุผลที่ผมอยากจะให้ทุกครั้งที่มันฟังเพลงนี้ มันจะคิดถึงเรื่องราวของเรา เหมือนกันกับผมที่ฟังมัน และคิดถึงแต่เรื่องราวของเรา เรื่องราวที่มันอยู่ในนั้นตั้งแต่ขึ้นต้นจนถึงท่วงทำนองสุดท้าย

“ ชอบท่อนนี้จังวะ ” เมดพูดขึ้น “ ในชีวิตนี้คงมีบางตอน บางตัวละคร อยากย้อนกลับแก้ไข แต่มีสิ่งนี้ ให้กลับกี่ทีฉันก็แน่ใจ อีกสักกี่หน อีกสักกี่ครั้ง ฉันก็จะยัง เลือกคนคนนี้ กี่ร้อยเรื่องราว ตลอดชีวี ฉันช่างโชคดี ได้เคียงข้างเธอ ”

“ เหมือนกัน ” ตอบอีกคนสั้นๆ ก่อนจะดึงมือออกจากการจับกุมนั้น ในตอนที่เพลงจบลง เมดก็ก้มลงมองลูกอมในมือของตัวเอง ก่อนจะกำมันไว้แน่นแล้วดึงตัวเองเข้ามาหาผมแล้วกอดกันไว้แน่น

“ ขี้โกงจริงๆเลยไอ้สัดอาฟ ทั้งๆที่กูคิดว่า วันนี้กูต้องชนะมึงแน่นอนแท้ๆ ”

“ ถึงมึงไม่ค่อยจะอยากอินกับวาเลนไทน์เท่าไหร่ แต่ก็ช่วยรับไปหน่อยแล้ว เพราะกูซื้อมาแล้ว ” คำพูดที่ชวนให้อีกฝ่ายยิ้มกว้างออกมาในตอนนั้นเมดสบถ

“ มึงแม่ง ส้นตีนจริง ” พูดแบบนั้นก่อนจะหยิบเอาลูกอมขึ้นมาดูข้อความนั้นชัดๆแล้วยิ้มไม่หุบอยู่แบบนั้น แก้มแดงของอีกคนลามมาถึงหู  แต่ผมเองในตอนนั้นก็ไม่ต่างกัน

“ ตามนั้นนะ ”

“ อะไรที่บอกว่าตามนั้น ”

“ ก็ข้อความบนลูกอม ”

“ รักนะ น่ะเหรอ ”

“ อื้ม รักนะ ” พูดย้ำกับมันแบบนั้นทั้งๆที่สายตาของผมยังคงมองไปข้างหน้า แต่เหมือนคนข้างกันจะไม่ยอมให้มันหยุดแค่นั้น เมดดึงตัวเองเข้ามาหากันด้วยรอยยิ้มกว้างมันที่หอมแก้มผมไปเต็มฟอดก่อนจะพูดออกมาด้วยแววตาเรียวมีแต่หยดน้ำตาเอ่อล้นอยู่ในนั้น

“ รักมึงเหมือนกัน อารยะ ในแบบที่มึงเป็นมึงนี่แหละ ”

ไม่ได้ตอบกลับอะไรอีกคน ทำได้เพียงแค่ถอนหายใจออกมาเพื่อให้ความรู้สึกสุขที่ฟูฟ่องล้นอกนั้นระบายออกไป ก่อนจะ กดไฟสัญญาณเลี้ยวซ้ายเพื่อแวะจอด แล้วมอบจูบดูดดื่มให้กับอีกคน ที่ก็บอกว่าไม่ค่อยให้ความสำคัญกับวันวาเลนไทน์สักเท่าไหร่

ก็ได้แต่หวังว่าโต๊ะในร้านอาหารที่จองไว้ เราจะไปได้ทันเวลา

.........................................................................

ตัดสินใจนานมาก ว่าคนแบบคุณอารยะน่ะ เค้าจะทำยังไงในวันแบบนี้
ความรู้สึกตอนเขียนก็คิดไว้หลายอย่างมาก แต่ต้องลบไปเพราะรู้สึกว่าไม่ใช่พี่อาฟเลย
จนมาคิดได้ว่า พี่อาฟ ก็ไม่เป็นตัวเองตั้งแต่เจอเมดแล้ว เหมือนเมดเปลี่ยนเค้า แล้วทำให้เค้าที่เคยเป็นเค้าเปลี่ยนไป เพราะงั้นสุดท้ายก็เลยออกมาในรูปแบบนี้

ท้ายนี้ พี่อาฟจะไปกินข้าวกับเมด ทันมั้ยไม่รู้
แต่สำหรับการจับจองเป็นเจ้าของหนังสือ #ผับชั้นสาม น่ะ ทันแน่นอน

ปิดจองวันที่ 5 เมษายน นี้แล้ว ใครสนใจ ตามรายละเอียดนี้เลยนะคะ
https://docs.google.com/forms/u/1/d/e/1FAIpQLSc1bZFqYuxXsXNY8pALfb0Jy0mF8R6d-kTNbqfZyiSSPoWj7w/viewform

ท้ายนี้ฝากแท็ก #ผับชั้นสาม ด้วยนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์จ้า

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ Gokusan

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-1
เป็นวาเลนไทน์ที่แบบ...พี่อาฟอ่ะ ชนะอีกแล้ว 555
เมดกำลังได้ใจว่าเป็นฝ่ายให้บ้างแล้วเชียว
แต่ก็นั่นแหละ...รักถึงได้ทำให้ ^^

ออฟไลน์ HydrA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-2
พี่อาฟก็หวานในแบบฉบับพี่อาฟแหล่ะ แค่นี้ก็อบอุ่นหัวใจแล้วจ้ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ Nung66669

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
 :katai2-1: อาฟเปลี่ยนเพราะเมดแต่เปลี่ยนในแบบของอาฟก็เค้ารักของเค้าเนอะ :-[

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :hao3: คนอย่างพี่อาฟ ยังต้องพ่ายแพ้ให้วันวาเลนไทน์

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
งุ้ย เขินนน~

ออฟไลน์ nolirin

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +274/-5
 :-[ อ่านเองเขินเองจ้า
พี่อาฟเค้าไม่หวานเล๊ยยยย จริงๆนะ อิอิ

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
เรานึกว่าอาฟจะซื้อลูกอมให้เด็กสองคนนั้นซะอีก555 ที่แท้ซื้อให้ตัวเองแต่ก็ยังฟอร์มอะนะ  :z1: :z1: :z1:

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ตอนนี้น่ารักน่ารักมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ มันหวานมันอบอุ่นมันลงตัวมันดีย์ :L2:

ออฟไลน์ SHmnex

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 63
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
โคตรเขินเลย  ทั้งพี่อาฟ น้องเมด ทำให้เขินมากเหลือเกิน

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
อ่านไปก็บิดตัวเขินตามไปด้วย
พี่อาฟแม่ง หวานแบบเท่ๆอ่ะ

 :-[ :-[

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด