Friend's brother,Brother's friend เมื่อเพื่อนสงสัย... (ตอนพิเศษวันปีใหม่ P.85)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Friend's brother,Brother's friend เมื่อเพื่อนสงสัย... (ตอนพิเศษวันปีใหม่ P.85)  (อ่าน 1231176 ครั้ง)

ออฟไลน์ ดาวโจร500

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 643
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
ตามอ่านทันแล้ วว ></// อ่านเรื่องนี้แล้วรู้สึกว่าโดนใจใช่เรย ><//  :-[อร้าง ง o13
 
น้องเน็ตน่ารักอ่า า  :sad4:   :impress2:  แต่ปันโผล่มาทีนี่ดราม่าตลอดดด  :m15:

เค้ารออยู๋นะตัว  :call:


ออฟไลน์ phoenixa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 569
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1
เน็ตน่ารักเนาะ
น่าเอ็นดูจริงๆ นั่นแหละ
เฮียบีมไม่หลง ไม่เอ็นดูได้ไง
บอมเดินเกมผิดแล้วแหละที่ส่งเน็ตไป
บูมแสดงความรู้สึกออกไปทุกทางแล้ว
ถ้าปันๆ จะยังไม่ยอมหันมามอง ก็คงต้องถอยออกมาตั้งหลักใหม่ก่อนล่ะนะ

little_nok

  • บุคคลทั่วไป
เฮียกับเน็ต มันยังกั๊กๆ ไงไม่รู้น่ะ
้เหมือนจะยังรักกันไม่มากพอ
จริงอยู่ว่าเน็ตเพิ่งจะเริ่มๆ เปิดใจ
แต่ถ้าเฮียมั่นใจแล้ว ก็น่าจะลุยโลด
หรือว่าเฮียแคร์ความรู้สึกเน็ต ที่ว่าเน็ตต้องเกรงใจเพื่อน
เง้อออ

ออฟไลน์ Azitten

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-0
หวังว่าบอมจะเข้าใจเฮียในเร็ววันอะ

มาม่าเริ่มมาเบาๆๆ หวังว่าทุกคนจะผ่านไปได้
อยากเห็นเน็ตกะเฮียหวานๆออีก

 :-[ :-[

ออฟไลน์ 1andonly

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 131
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
อ่านสนุก แต่อึดอัดแทนทุกคนเนอะ

lady red

  • บุคคลทั่วไป
พอมาอ่านตอนนี้ซ้ำอีกรอบรอไรเตอร์ก็แอบขัดๆกับน้องบูมที่บอกว่า ที่ตื้อปันแบบนั้นเป็นเพราะไม่เคยจีบใคร (ขอมหากาพย์คอมเมนต์ยาวๆอีกสัก 2 อันนะไรเตอร์)

      เราคิดว่าเหตุผลนี้ยังฟังไม่ขึ้น เพราะต่อให้ไม่เคยจีบใครจริงโดยสามัญสำนึกก็น่าจะรู้ว่าไม่ควรใช้วิธีแบบนี้  หรืออย่างน้อยน้องก็เคยมีแฟนแล้ว  ก็สามารถดูเอาจากวิธีที่อีกฝ่ายใช้จีบน้องว่าเขาใช้วิธีไหนที่ทำให้น้องบูมรู้สึกดีจนยอมคบด้วย  อีกอย่างน้องบูมน่าจะเคยเห็นวิธีที่คนอื่นใช้จีบกันมาเยอะ  ทั้งจากพี่บีม  จากเพื่อน หรือจากคนที่เข้ามาจีบตัวเอง  ซึ่งจากประสบการณ์เหล่านี้น้องก็น่าจะสามารถแยกแยะได้ว่าวิธีไหนที่ควรนำมาใช้  วิธีไหนที่น่าจะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกไม่ดี

     หรืออย่างน้อยที่สุด ต่อให้ไม่คิดถึงเรื่องนั้น  น้องบูมก็น่าจะคิดเรื่องเอาใจเขามาใส่ใจเรา  เพราะน้องบูมก็เคยเจอเหตุการณ์ทำนองนี้มาแล้วจากกรณีแฟนเก่าของตัวเอง  ที่พยายามทำตัวเป็นเจ้าของเข้ามาบงการชีวิตน้องบูม  คอยหึงหวงวุ่นวายกับผู้ชายที่มาใกล้น้อง  พยามทำให้น้องมาเป็นของตัวเองโดยไม่เลือกวิธีการ และไม่ใยดีว่าบูมจะรู้สึกยังไงกับการกระทำอันนั้น  ซึ่งจากที่อ่านมาเรารู้สึกว่าน้องบูมไม่ได้ต่างจากเขาเลย คือทำแต่เพื่อรักของตัวเอง ใช้คำว่ารัก  ใช้คำว่าพยาม  มาเป็นข้ออ้าง

     เห็นได้จากตอนที่แล้วที่น้องบูมก็รู้ว่าปันรู้สึกอะไรบางอย่างกับเน็ต คือ รู้ว่าปันไม่ได้รักตัวเอง เหมือนที่บูมก็รู้สึกกับแฟนเก่าในตอนนั้น  แล้วการที่บูมทำกับปันคล้ายกับที่แฟนเก่าเคยทำกับบูม คือพยามเข้ามาแสดงความรักในรูปแบบของการแทรกแซงชีวิตปันไม่ให้ไปกับผู้หญิงคนอื่น  พยามทำให้ปันเป็นของตัวเองโดยไม่เลือกวิธีการ ใช้ความเป็นห่วงของปันหรือใช้แม้กระทั่งฐานะความเป็นน้องของบอมเป็นเครื่องมือ  ความรู้สึกของปันจะเป็นยังไงก็ไม่ได้ให้ความสนใจมากไปกว่าความรู้สึกของตัวเอง เป้าหมายมีเพียงแค่ให้ปันเลิกสนใจเน็ต  เลิกสนใจผู้หญิงคนอื่น  แล้วหันมาสนใจตัวเองเท่านั้น   ซึ่งตรงนี้น้องบูมไม่ได้สะอึกคิดถึงมันสักนิดเชียวหรือว่าตัวเองก็กำลังใช้การกระทำที่ตัวเองไม่ชอบ  ที่ตัวเองเกลียดนักเกลียดหนาในอดีตมาทำกับคนอื่นที่ตัวเองอ้างว่ารักในรูปแบบเดียวกัน   เหมือนน้องบูมรู้สึกอยากเอาชนะมากกว่าที่จะรักปันจริงๆ เพราะดูจะเป็นเหตุผลที่ค่อนข้างสมเหตุสมผลกับการกระทำของน้องบูมที่ผ่านมาที่สุดแล้ว 


ออฟไลน์ fastation

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-3
รออ่านตอนต่อไปจ้า
เป็นกำลังใจให้คนเขียนเน้อ

ออฟไลน์ katte

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 138
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-0

Olivia23

  • บุคคลทั่วไป
บอม..ถ้ามึงรู้ว่าเฮียเลิกกันกับพี่ทรายทำไมแล้วมึงจะไม่พูดแบบนี้  :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ออฟไลน์ squalo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ขอโทษแม่ยก ปันบูม หน่อยนะค่ะ เพียงแต่
ประโยคนี้

เกิดเป็นคำถามให้ผมนึกแย้งในใจว่า ทำไมคนที่ไม่ลุกขึ้นยืนเพื่อความรักของตัวเองแบบพี่เน็ตแล้ว
จึงสมควรได้รับความรักจากพี่ปันทั้งๆที่คนอื่นพยายามกันสุดใจด้วยเล่า?

พระเจ้าไม่ยุติธรรมเกินไป และเพราะแบบนั้นหลังคำปดที่แสดงออกมาถึงความอ่อนแอของพี่รหัสผมจึงตั้งใจว่าจะไม่ปล่อย


ถึงแม้ทั้งสองคนใจตรงกัน ผมก็จะไม่มีวันปล่อยให้คนที่ไม่สมควรได้พี่ปันไปแน่ๆ


ฟังดูแย่มากๆค่ะ ไม่ชอบใจ
ไม่ชอบเลยจริงๆ ถ้าหาก ปันกับบูมได้สมหวังกันไป
ทำไมค่ะ ? ทั้งๆที่ปันก็ชอบเน็ต เน็ตก็ชอบปัน
แต่สองคนนีัรู้ลิมิตรกันดี แต่สมมุติอยู่ดีๆ บูม มาจากไหนไม่ทราบ
มารุก ได้ไปเลย งี้หรอ ?  โหดร้ายเกินไปแล้ว (หวังว่าคงไม่เป้นอย่างงั้น ฮ่าๆ )
ปันก็เคยพูดว่า ถ้าหากมีแฟนเป็นผู้ชาย จะคิดถึงเน็ตคนแรก
แต่ถ้าหาก ปันเป็นแฟนกับบูมจริงๆ บอกตรงๆ เราเป็นเน็ต คงเฮิร์ทมากๆแน่ๆ
เหมือนโดนมีดพันเล่มเสียบด้วยน้ำมือคนรักที่ฉาบด้วยรอยยิ้ม

ทำไมบูมพูดเหมือนไม่คิดถึงเน็ตเลย
เรารู้สึกไม่ดีกับบูมเลยค่ะ  :เฮ้อ:
/อินจัด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-07-2012 16:37:30 โดย squalo »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Takarajung_TK

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 931
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-2

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
5555+.... แมร่ง ไอ้หัวส้ม ตัดอารามณ์กันซ้า!!!....

ออฟไลน์ mellowshroom

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 976
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1


บอม อย่าหลงให้มันมากนักสิ

เหตุผลของนายไปไหนหมด .. :เฮ้อ:

ออฟไลน์ -west-

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1875/-12
    • FACEBOOK PAGE
Friend's brother Brother's friend 20 , ไม่ได้ไม่รัก
[NET's talk]



พรุ่งนี้บ่ายโมงตรงมีสอบตัวสุดท้าย ชีวิตณัฏฐนิชน่าอิจฉากว่าคนอื่นตรงที่วิชาดังกล่าวเป็นตัววิตามินที่ลงเพื่อดึงเกรดขึ้นโดยแท้
ดังนั้นทั้งๆที่ยังสอบไม่เสร็จดี ผมก็ยังนั่งกินฟิชโช่ห่อสีเหลืองสลับกับแป๊บซี่ที่ขายหน้าเคาท์เตอร์อยู่ในโรงหนังโบราณอย่างสกาล่าสบายใจเฉิบ โดยมีเจ้ามือที่น่ารักนั่งตั้งใจดูเรื่องราวในจอเงินใจจดใจจ่อแต่ไม่วายเลื้อยตัวยาวเอาหัวมาพิงไหล่ให้ผมเกร็งจนเกือบตะคริวขึ้น
หนังที่ดูถูกเรียกว่าหนังนัวร์ ฉายแบบสื่อให้ผู้ชมเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้างตามสไตล์ผลงานที่เข้าชิงรางวัลในเทศกาลหนังที่เมืองคานส์ เฮียบอกเป็นหนังที่ดีมากแต่น่าเสียดายที่ได้เข้าฉายแค่บางโรงเท่านั้นเนื่องจากไม่ใช่ภาพยนต์ที่ตั้งใจตีตลาดแบบกว้าง แต่เจาะไปยังผู้ชมที่ต้องการหนังที่เปี่ยมล้นไปด้วยคุณภาพแทน

ผมไม่ได้ชอบการดูหนัง แต่ก็ไม่ได้เกลียด ความจริงก็คือมันไม่เกี่ยวกับหนังที่มาดูหรอก คนที่มาด้วยต่างหากที่ทำให้ผมตัดสินใจเข้าโรงแต่ละครั้ง

นี่ก็เหมือนกัน ดูไปงงไปแต่กลับรู้สึกสนุก ยิ่งตอนเข้าฉากกดดันดราม่าแปลกๆ ได้สังเภตปฏิกิริยาคนข้างๆยิ่งสนุก เฮียถือแก้วน้ำพลาสติกเอาไว้กัดหลอดน้ำอินไปจนผมต้องตีปากหนาหลายๆทีให้คายออกมา ผู้ชายตัวโตสะดุ้งเสียจริตนิดๆจนผมเผลอยิ้ม เฮียดูมีความสุขเหมือนตัวเองได้ดำดิ่งไปกับภาพตรงหน้า ดีจังนะคนที่รู้ว่าตัวเองชอบอะไรแล้วตัดสินใจเดินตามทางที่ถูกต้องตั้งแต่จบ ม.6 ผิดกับผมที่เลือกๆลงเรียนตามเพื่อนเพราะคิดไม่ออกจริงๆว่าตัวเองชอบทำอะไร และเพราะเป็นคนยังไงก็ได้เกินไปเจียนขึ้นปี 4 ผมเลยไม่ได้รู้สึกแย่ที่เลือกเรียนตามบอมตอนนั้น

บอมชอบวิศวะเหรอ? เปล่าหรอก มันเลือกเรียนเพราะคิดว่าเท่ห์ดีแล้วบังเอิญคะแนนถึง ตามสไตล์ที่ยึดตัวเองเป็นศูนย์กลางโลกก็เท่านั้น ไม่ได้สนใจว่าป๊ากับม้ามันขอแล้วขออีกให้เรียนบริหาร เศรษฐศาสตร์ คหกรรม หรืออะไรก็ได้ที่พอจะกลับมาพัฒนากิจการที่บ้านได้ถ้าใจจริงไม่ได้มีเป้าหมายชีวิตแน่วแน่แบบพี่ชาย แต่สุดท้ายมันก็ตอบคำถามป๊าได้น่าโดนเสยที่สุดด้วยคำว่า ‘มันไม่เท่ห์อะป๊า’

ถึงแบบนั้น สุดท้ายปะป๊าใจดีของบอมก็ไม่ว่าอะไร


เฮียขยับตัวลุกขึ้นนั่งตัวตรงเมื่อฉากสุดท้ายของภาพยนต์ค่อยๆมืดลง ผมเก็บของที่วางอยู่บนพื้นขึ้นทำท่าจะลุกตามคนอื่นที่ทยอยเดินออกไปแต่กลับถูกกดบ่าเอาไว้ก่อน รายชื่อนักแสดงและทีมงานค่อยๆผุดขึ้นมาจากด้านล่างเลื่อนขึ้นบน จนรอบตัวที่เดิมก็มีคนดูบางตาอยู่แล้วกลายเป็นหายไปหมด เฮียก็ยังนั่งอ่านรายชื่อจนชื่อสุดท้ายลอยขึ้นมาถึงลุกยืน โดยที่ผมรู้ทีหลังว่ามันเป็นมารยาทอย่างหนึ่งที่คนไทยไม่เป็นเหมือนต่างประเทศซึ่งมักจะดูจนรายชื่อสุดท้ายหายไปนั่นแหละ เฮียไม่ค่อยได้ดูหนังโรงบ่อยเพราะทำงานเกี่ยวกับสื่อ ประเดี๋ยวประด๋าวไอ้พวกที่กองมันก็ไปหาโหลดมาให้ตามแหล่งใต้ดินก่อนหนังเข้า ซ้ำร้ายบางทียังมีพวกสปอยล์มาเล่าให้ฟังก่อนดูทำเสียอรรถรสหมด นอกเสียจากภาพยนต์ที่ควรซึ่งคุณค่ามันถึงยอมเสียตังค์มาสนับสนุนเท่านั้น และดูยันเม็ดสุดท้ายที่ผมคิดว่าแม่งคุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม

จะพูดก็พูดเถอะ เฮียบอกว่าหนังที่ฉายในไทยไม่น้อยที่เน้นการตลาดเสียจนไม่มีคุณค่าของตัวเอง แต่ก็มีอีกมากเช่นกันที่ยังน่าสนใจ ควรศึกษาทั้งในเนื้อหา เอฟเฟค วิธีการถ่ายทำรวมไปถึงตัวละครที่ได้รับเกียรติมาสวมบทที่ว่านั้น

เฮียมองอะไรลงไปลึกตามพวกที่ยังมีไฟในการทำงาน อันที่จริงสิ่งที่ชายหนุ่มสนใจมากกว่าเรื่องอื่นคือเอฟเฟค ฟิลเตอร์ในภาพยนต์รวมไปถึงเทคนิคการตัดต่อให้สมูทเพราะตรงกับงานหลักที่มันทำ
หลังจากปิดกองละครหลังข่าวไปยังมีโฆษณาที่ทีมงานเฮียรับมาอีกหลายโปรเจค บางทีก็ไม่ต้องไปทำที่ออฟฟิศ เปิดคอมพ์จัดการที่บ้านก่อนเอาออกไปส่งก็มี กระนั้นนั่นก็เป็นส่วนน้อย เฮียบอกว่าการทำงานเราควรได้เจอผู้คนเพื่อเข้าใจถึงความหลากหลายของปัญหา รู้จักผูกมิตรกับคนอื่น ช่วยกันทำงานตลอดไปถึงการจัดการใช้คนในรูปแบบต่างๆไม่ให้เกิดปัญหา เวลาที่เฮียเล่าคร่าวๆแล้วถึงจะบอกว่างานหลักคือโพสโปรดัคชั่นแต่ฟังยังไงๆผมก็มองว่าเฮียทำงานตั้งแต่GB. เจนเนอรอล เบ๊ ไปจนถึง PM โปรเจคแมนเนจเจอร์ต่างหาก


“อิ่มหรือยัง?”

ทั้งๆที่ควรถามว่าหิวหรือยังมากกว่า แต่เพราะในโรงผมกินตลอดเวลาหนังฉายผู้ชายตัวโตข้างๆมันเลยถามล้อๆ


“ยัง ไปกินเกี๊ยวกุ้งยักษ์กัน”

เฮียพยักหน้า หยิบแว่นที่เหน็บไว้กับเสื้อยืดตราห่านขึ้นมาสวมกันแดด โถ ดูมันเถอะ คนเหี้ยอะไรขนาดใส่เสื้อยืดตราห่านกับยีนส์ขาดวิ่นซกมกๆยังดูดี ผมนี่สิสวมชุดนิสิตอยู่แท้ๆกลับดูเหมือนเป็นเด็กเหลือขอเกเรๆ  อะไรวะแค่ไม่ติดกระดุม2เม็ดบนกับปล่อยชายเสื้อนี่ทำให้ภาพพจน์เปลี่ยนขนาดนี้เลยหรือไง

ผมคอยลอบมองเวลาเราทั้งคู่เดินผ่านกระจกอยู่เรื่อยจนรั้งท้าย เฮียต้องกวาดแขนมาล็อคคอให้ผมเลิกโอ้เอ้เดินเสียที สาดดด แม่งคิดว่าตัวสูงกว่าแล้วได้เปรียบ ลากกูเป็นลูกสมุนเลยไง




“ขอเป็นน้ำเปล่าครับ”

เฮียหันไปบอกบริกรแล้วพับเมนูเก็บ ผมยื่นเมนูคืนพนักงานแล้วท้าวแขนกับโต๊ะ ร้านเกี๊ยวกุ้งใจกลางสยามยังมีผู้คนหนาแน่นเหมือนเคย เสียงพูดคุยดังจ้อกแจ้กแต่เหมือนมันจะเงียบลงหน่อยตอนเฮียเดินเข้ามาในร้านเพราะสายตาแทบทุกคู่มองมาแล้วหันไปซุบซิบ บางโต๊ะนินทาคนมาใหม่เบาไปหน่อยผมเลยกลายเป็นคนเสือกได้ยินคำถาม ‘นั่นบีม ปารมี ที่เป็นนายแบบหรือเปล่า?’ อุเหม่ พ่อพระคุณรุณช่อง อำลาวงการมาหลายปีแล้วยังเป็นที่จดจำแบบนี้มันน่าภูมิใจแทนไอ้เน็ตจริงๆที่มี ’ผู้ชายแบบนี้’ มาจีบเปิดอก

ผมรู้สึกยืดนิดๆ จนเฮียเดาะลิ้นแล้วถามว่า “มึงเป็นอะไร?”

“เปล่า อ้อ! พรุ่งนี้ปาร์ตี้เลี้ยงส่งปันไปฝึกงานเมกานะเฮีย”

ประโยคแรกปฏิเสธเนียนๆ แล้วรีบเฉไปเรื่องอื่น เฮียพยักหน้ารับรู้ ก่อนถาม “มันไปเมื่อไหร่ ทำไมรีบจัดกันจัง”

“อาทิตย์หน้า แต่ผมนี่แหละที่นัดพรุ่งนี้ เลี้ยงส่งไอ้บูมไประยองด้วยเลย มันไปอยู่โน่น 20วันประเดี๋ยวจะคิดถึงแสงสี”

“พาน้องกูเสียคนนะ”

“ทำไมล่ะ ไม่อยากได้น้องเขยเหรอ? ผมพยายามช่วยนะ”

“แล้วมึงไม่ชอบไอ้ปันแล้วหรือไงถึงมาช่วยน้องกู?”

ทั้งๆที่ตั้งใจแค่พูดแหย่ไปเฉยๆแต่ประโยคของเฮียที่บอกว่ารู้ว่าน้องชายคนเล็กมันเป็นเกย์ มิหนำซ้ำยังรู้เรื่องปันด้วยแล้วก็ได้แต่อ้าปากพะงาบ ไปต่อไม่ถูกกันทีเดียว


“ว่าไง....”

คนฝั่งตรงข้ามถามซ้ำ ใช้นิ้วเชยปลายคางที่ทำท่าเหมือนจะถามอะไรให้เงยขึ้น ผมสะบัดหน้าหนีแล้วย่นหน้า ถามว่าชอบไหม แน่นอนมันยังพิเศษกว่าเพื่อนคนอื่น แต่ก็ไม่ได้รู้สึกมากมายเหมือนทุกครั้งที่นึกถึง ไม่ได้อุ่นวาบในหัวใจ และไม่ได้เต้นแรงเหมือนมีใครเข้าไปตีกลอง มันเป็นแค่ความรู้สึกแบบ... ยังไงไม่รู้ อธิบายไม่ค่อยถูก

ผมเคยสงสัยว่าคนที่คบกันเป็นสิบปีแล้วเลิกนี่มันทำได้ยังไง บางทีคำตอบมันก็ชัดเจนตรงที่เมื่อเราไปให้ความสนใจ’อย่างอื่น’ ความรู้สึกที่เคยเด่นชัดจะเหมือนค่อยๆเว้าแหว่งไปตามกาลเวลา นึกถึงสมัยเรียนที่ผมชอบมันจนเก็บมาเป็นอารมณ์เสียใจร้องห่มร้องไห้ได้ยังขำตัวเองนิดๆ นี่กูเป็นได้ขนาดนั้นเชียว โถ.. พ่อนายเอกเอ็มวี


เฮียทำหน้ากะล่อนอยู่ตรงหน้า เอามือของตัวเองท้าวคางมองผมยิ้มๆ ยิ้มห่ายิ้มเหวอะไรนักหนาไม่รู้ มีเรื่องอะไรน่าพอใจนักหรือไง ยังไม่ทันตอบถ้วยเกี๊ยวกุ้งใส่ปูหมูแดงของผมก็ถูกยกมาเสิร์ฟ ได้ทีเลยทำเนียนชวนคุยต่อ


“ไปด้วยกันป่าว?”

“หืม? พรุ่งนี้น่ะเหรอ เดี๋ยวไปส่งแล้วกัน ตอนค่ำๆพี่เจี๊ยบนัดกินข้าว”

“พี่เจี๊ยบ? ผู้จัดการคนเก่าของเฮียน่ะเหรอ?”

“อืม มีงานยักษ์เข้ามา เป็นแบรนด์เอ็มบราสเตอร์ของแคสเปอร์สกี เห็นว่ากูเสือกไปตรงสเปคทีมงานเข้าเลยอยากให้ลองไปแคสดู”

“แบรนด์นอกนี่ ผมรู้ๆ เจย์โจวเป็นแบรนด์เอ็มบราสเตอร์ของเอเชีย นี่เจาะตลาดไทยเหรอ?”  อดยิ้มยินดีด้วยไม่ได้ ถึงไม่ใช่คนในวงการผมก็รู้ดีว่ามันเป็นโอกาส แต่คนตรงหน้ากลับส่ายหัว

“ยังคิดไม่ตกเลยว่าจะลองไปดีไหม ไม่ชอบทำงานหน้ากล้อง”

“แบรนด์เอ็มบราสเตอร์ไม่ใช่ดาราสักหน่อย เป็นแค่พรีเซนเตอร์ที่ต้องรู้เรื่องสินค้าแบบเจาะลึกเฉยๆไม่ใช่เหรอ?”

“แต่สื่อก็ให้ความสนใจ มานั่งแดกเกี๊ยวกุ้งแบบนี้ยังขึ้นหน้าหนึ่งได้เลย กูไม่ชอบ แต่อย่างที่มึงบอก มันก็เป็นโอกาส”

“เลยจะไปปรึกษาพี่เจี๊ยบ?”

“ก็ถ้าถามมึงมันคงไม่ได้ความ”

โหย ไรวะ ผมตวัดตาขึ้นมองมันงอนๆแต่พอหมูแดงชิ้นใหญ่ถูกวางลงในถ้วยก็หายโกรธเป็นปลิดทิ้ง ยิ้มร่าคีบขึ้นกินแล้วค่อยแบ่งผักกวางตุ้งในถ้วยคืนให้เฮียบ้าง อะนี่ ได้หมูมาชิ้นเดียว เน็ตผู้แสนจะใจดีแบ่งผักให้หก เจ็ดชิ้นเลย


“มึงนี่นะ! เอาคืนไปๆ ไม่ยอมกินผักตัวถึงได้แกร็นแบบนี้ไง”

“อะไร คนเค้าอุตส่าห์มีน้ำใจ” ทำเป็นบ่นปากงุบงิบ เฮียยิ้มนิดๆแล้วพูดเสียงเบา

“ขอบใจแต่ไม่ต้อง”


****************

ผมได้ไอศครีมฮาเก้นดาสมากินหน้าทีวีหนึ่งกระป๋องหลังกลับจากสยาม นั่งดูรายการวาไรตี้หลังละครจบไป ป้อนเฮียไป เปิดแอร์เอาผ้าห่มคลุมขาแล้วพิงพับกับหัวเตียงใกล้ๆกัน

หอพักที่เช่าอยู่ราคาเดือนละห้าพันบาท รวมอินเตอร์เน็ตอีกก็เพิ่มห้าร้อย ค่าน้ำค่าไฟเบ็ดเสร็จมากกว่าค่ากินต่อเดือนเสียอีก กระนั้นในย่านมหาวิทยาลัยก็ยังได้บริเวณแค่แมวดิ้นตายเพื่อพักอาศัยเท่านั้นกิจกรรมส่วนใหญ่เลยต้องทำบนเตียง นอนบนเตียง ดูทีวีบนเตียง อ่านหนังสือบนเตียง เล่นโนตบุคบนเตียง และกินบนเตียง แรกๆก็สร้างภาพให้เฮียเห็นว่ากินบนโต๊ะหนังสืออยู่หรอก หลังๆพอสนิทกันเลยเอาความซกมกเข้าสู้ว่าเตียงที่ปีนึงจะซักผ้าปูแค่รอบสองรอบน่ะ ผ่านสงครามอาหารมาโชกโชนแล้ว


“เน็ตไม่เคยไปเที่ยวเกาะเลย”

“หืม? พูดเป็นเล่น?”

รายการในจอโทรทัศน์กำลังฉายเรื่องราวสถานที่ท่องเที่ยวในเกาะล้าน ปั่นจักรยาน กินปูนึ่งกุ้งเผา ฝรั่งมังค่าเดินแก้ผ้าให้ว่อนไปหมด ดูผ่านๆมันก็เหมือนทะเลชายฝั่งทั่วไป แต่ถึงแบบนั้นก็อยากลองนั่งเรือดูปะการังสักครั้งเหมือนกัน


“อย่างมากก็ชะอำ หัวหิน พัทยา”

“งั้นไว้กลับมาจากฝึกงานค่อยไปด้วยกัน ลงทะเลใต้ไหม น้ำใส ทรายขาวกว่าแถบนี้เยอะ”

“ไกลไปเปล่า? กลับจากฝึกงานเน็ตได้พักอีกไม่นานก็เปิดเทอมแล้ว ว่าจะกลับไปอยู่กับแม่ก่อนเปิดเทอม เอาใกล้ๆก็ได้ เสม็ดได้ไหม? เขาว่าสวย”

“ไอ้เขาที่ว่านี่มันใคร?”

“หืม? เยอะแยะไปหมด ใครๆก็บอกว่าสวย บรรยากาศดีด้วย”

“แล้วไอ้เขานี่ไม่ได้บอกเหรอว่าไอ้บรรยากาศดีๆเนี่ยแหละเขาถึงว่าไปเสม็ด เสร็จทุกราย”

ตากลมตวัดมองคนพูดขวับ เฮียยิ้มแล้วโน้มตัวเข้ามาหอมแก้มเบาๆ


“ป้อนหน่อยซิ”

ผมเบือนสายตามามองหน้าจอโทรทัศน์ ตักไอศครีมในมือส่งป้อนคนข้างๆลวกๆ แกล้งจิ้มผิดจิ้มถูกไม่เข้าปากจนเฮียเลยร้องฮื้อ


“ป้อนดีๆ”

“ทำตัวเป็นลูกนกไปได้ อะ จะหมดแล้ว” เฮียรับไอศครีมเข้าปาก แล้วหันมาบอก

“ที่เหลือกินไปนะ”

“เน็ตกินเยอะแล้ว เฮียกินเถอะ”

“ก็ซื้อมาให้เน็ตกินนี่ อย่าเรื่องมากน่ากินๆไปจะได้แปรงฟัน พรุ่งนี้มีสอบอีกตัวยังจะนอนดึก”

สุดท้ายผมก็แพ้ความดื้อดึงของอีกฝ่ายตักจ้วงไอติมที่เหลือจนหมด แหม ถ้าไม่คะยั้นคะยอกินไม่หมดนะเนี่ยยย  เฮียลุกไปแปรงฟัน หลังจากนั้นก็เป็นผมก็เดินตาม ภาพในกระจกที่อ่างล้างหน้าคือผู้ชายคนหนึ่งมีมัดกล้ามเป็นลอนช่วงบนเปลือยเปล่าแปรงฟันจนฟองฟอด ขณะที่อีกคนที่สวมบ็อกเซอร์ตัวเดียวเหมือนกันตัวเล็กแห้งได้เกือบครึ่งบีบยาสีฟันใส่แปรงอยู่ ตรงหน้าท้องมีพุงห้อยนิดๆเพราะน้ำหนักที่ขึ้นมาอีก 2โลกำลังหาที่ลง ที่จริงหุ่นผมไม่ได้แย่นะแต่พอมายืนเทียบกันตัวตัวกับเฮียแบบนี้แล้วผมเกลียดหุ่นไอ้เฮียขึ้นมาทันที

คนที่เดินออกจากห้องน้ำคนแรกเป็นคนเดียวกับที่เข้ามาก่อน ผมถูๆแปรงลงบนฟันแรงๆสองสามทีแล้วบ้วนปากเดินตามออกมา เห็นอาคันตุกะเลื่อนเก้าอี้ขึ้นปีนรื้อของหลังตู้แล้วขมวดคิ้วย่น


“ทำไร?”

“เหมือนเห็นคีย์บอร์ด อะ นี่ไง”

“ฝุ่นมันเยอะ ไม่ต้องเอาลงมาหรอก”

ผมบอก แต่คนที่รื้ออยู่ข้างบนยังไม่ละความพยายาม ไม่นานนักเจ้าคีย์บอร์ดแป้นเหลืองก็ถูกอุ้มลงมาด้วยฝีมือคนซื้อ เฮียวางลงบนพื้นจัดการเสียบปลั๊กแล้วลองกดให้เกิดเสียงติ๊ง หนิ่ง


“ยังใช้ได้นี่”

“อืม แต่ไม่ค่อยได้เล่นเลย นิ้วแข็งหมดแล้ว เอาลงมาจะสอนเหรอ?”

“กูก็ไม่ค่อยได้เล่นแล้ว ตอนนี้เปียโนที่บ้านก็เป็นหมันเหมือนกัน เน็ตอยากหัดใหม่เหรอ?”

“เท่ห์ออก เล่นดนตรีเป็น”

“งั้นเดี๋ยวกูลองฟื้นก่อนแล้วกัน กลับจากฝึกงานคงสอนได้อยู่ นี่จะนอนหรือยัง”

“อ้าว เมื่อกี้ใครไล่นอนวะ”

ยกมือเกาหัวแกรก ไอ้เราก็รีบจ้วงเอาๆเสือกมาถามหน้าซื่อว่าจะนอนหรือยัง เฮียยิ้มแล้วผละจากคีย์บอร์ดมาบนเตียง จัดหมอนเปิดไฟโคมให้เรียบร้อยก่อนลุกไปปิดสวิซท์ไฟนีออนหน้าห้องโดยทิ้งคีย์บอร์ดไว้อย่างนั้น


“งั้นนอนได้แล้ว”

ผมล้มตัวตามคำสั่ง เฮียดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมถึงช่วงอกแล้วลูบเรือนผมสีส้มเบาๆ จากนั้นโน้มตัวลงจูบที่หว่างคิ้วแล้วยิ้มพราว


“เดี๋ยวเล่นดนตรีให้ฟังก่อนนอน”

เฮียเป็นเล่นดนตรีเพราะ ผมจำได้ เป็นผู้ชายที่ดูเท่ห์มากเวลาอยู่กับเปียโน ใบหน้าหล่อคมดูสุขุมใจเย็น สายตาของเฮียจะสงบนิ่งแผ่นหลังยืดตรงกระทั่งจบนั่นแหละที่มุมปากสวยจึงกดยิ้ม

ภาพนั้นเป็นภาพของเฮียในความทรงจำของผมตอน ม.ปลาย แต่ภาพตอนนี้ภายใต้แสงไฟสีส้มเหลืองคือผู้ชายตัวโตสวมบ็อกเซอร์ลายจุดนั่งขัดสมาธิที่พื้น โน้มตัวลงหน่อยๆเพื่อปรับเสียงไม่ได้ดูสง่างามจนต้องมองตาค้างเหมือนสมัยก่อนเลยสักนิด ทว่าภาพตรงหน้ากำลังทำให้ผมยิ้มแก้มปริ

ปลายนิ้วเรียวของชายหนุ่มค่อยๆกดบรรเลงลงบนแป้น เสียงที่ดังออกมาไม่ได้พริ้วไหวอาจเป็นเพราะเฮียยังไม่คล่องอย่างที่บอกหรือไม่ก็เพราะเพลงที่เล่นเป็นเพลงใหม่ เหมือนเฮียแกะโน้ตสดด้วยซ้ำมันถึงมีผิดเพี้ยนคีย์อยู่บ้าง แรกๆผมต้องกลั้นขำกับพ่อหนุ่มโชว์พาวนิดๆแต่พอเริ่มเข้าสู่ท่อนฮุครอยยิ้มที่ฉีกกว้างของผมก็ค่อยๆหดเม้มลงเป็นเส้นตรง ภาพของผู้ชายใต้แสงไฟสีส้มเหลืองค่อยๆพร่า เฮียกำลังยิ้มอ่อน เงยหน้าขึ้นมาสบตากับผมเมื่อเพลงบรรเลงมาจนถึงท่อนสุดท้าย


รักฉันเท่าที่ใจเธออยากรัก เธอไม่ต้องลำบากลืมใครเพื่อมารักฉัน
ไม่ขอให้เธอลืมคนในวันนั้น คิดถึงได้ตามต้องการ
ตอนเราอยู่ด้วยกัน ก็ไม่เคยบังคับกัน
รักฉันเท่าที่เธอจะรักได้



***********
(มีต่อ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-08-2012 11:16:45 โดย -west- »

ออฟไลน์ -west-

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1875/-12
    • FACEBOOK PAGE



เวลาในการสอบหนึ่งวิชามีให้สามชั่วโมง แต่เพราะเป็นวิชาตัวเลือกเพิ่มเกรดเวลาในการสอบทั้งสิ้นศิริรวมแล้วจึงใช้แค่หนึ่งในสามของทั้งหมดเท่านั้น ทันทีที่อาจารย์คุมสอบอนุญาตให้ส่งกระดาษคำตอบ ผมก็หันไปยักคิ้วให้ไอ้โชติเป็นสัญญาณว่ากูออกแล้วนะ จากนั้นมันก็ลุกเดินเอาข้อสอบมาส่งที่โต๊ะบนสแตนด์ของอาจารย์ตามมาติดๆ
ผมก้มลงมองนาฬิกาข้อมือตัวเอง ตอนนี้เพิ่งสิบโมงตรงเท่านั้น ถ้าให้เดาแล้วเฮียคงออกไปทำงาน ผมกะกลับไปหอนอนพักนิดหน่อยหลังจากที่นอนดึกตื่นเช้าให้สมองเปลี้ยทันทีที่ลืมตา จนบัดนี้ยังเดินสโลเสล หาวหวอดปากกว้างจนไอ้เพื่อนตัวดีแย้บถาม

 “ไปอดหลับอดนอนที่ไหนมาวะ เมื่อคืนเยิ้บกับเฮียยันเช้าหรือไง?”

“พ่อมึงสิ!”

ถ้ามันจบด้วยประโยคแรก ไม่ส่อสันดานด้วยประโยคหลังโชติพงษ์คงไม่โดนด่าให้ฟินนาเร่ตั้งแต่ช่วงเช้า มันยักไหล่ไหวยิ้มที่มุมปากนิดๆ เรียนหนักจนประสาทแดกแล้วมั้ง ผมเห็นมันยิ้มแบบนี้ตั้งแต่เจอหน้าก่อนเข้าห้องสอบ ถ้าไม่ติดว่าเป็นเพื่อนสนิทนี่คงได้โดนตีนท้าวปากไปบ้างแน่ๆ กวนตีนไม่มีใครเกิน

“อ้าว ใครจะไปรู้ ก็.... หึหึ”

“ก็อะไร?”

“เปล๊า นั่นไอ้บูมนี่ เออ เมื่อวานมันโทรบอกกูว่าเย็นนี้คงไปไม่ได้นะ”

“อ้าว ไหงงั้นวะ? แล้วทำไมไม่โทรบอกกูล่ะ”

“เมื่อคืนมันโทรหากูตอนตี 2 บอกว่ายังอ่านหนังสืออยู่ กะโต้รุ่งยันสอบช่วงบ่ายเลยคงไม่มีแรงไปเที่ยวต่อแล้ว”

“เฮ้ย ไม่ได้ดิ ไปคุยกับมันเป็นเพื่อนกูหน่อย”

“สัตว์ น้องมันติวหนังสืออยู่เสือกไปเซ้าซี้มันแดกเหล้า น้องผัวมึงนะโว้ยอย่าพานอกลู่นอกทางดิ”

“ครวยครับ อย่ามาทำพระเอก ความคิดไม่ได้ทำให้หน้ามึงหล่อขึ้นหรอกเชื่อกู”

ไอ้โชติเบะปาก ทำทีเหมือนไม่อยากเข้าไปกวนเด็กๆที่เสียงดังล้งเล้งอยู่ใต้ตึกคณะโดยมีปรมัตถ์เป็นหัวโจกยืนกางหนังสือชี้ให้เพื่อนอีก4-5คนมองตามตาปริบ

เป็นแบบนี้ตั้งแต่ปี1 เวลาปกติบูมจะคบกันแค่กับไอ้หยกแต่พอช่วงสอบทีไรสัมพะเวสีก็จะวิ่งโร่เข้าหามันเพราะเป็นคลังความรู้ บูมไม่ได้เป็นแค่เด็กฉลาดที่เรียนรู้อะไรได้เร็ว โชคดีของมันคือได้ยืมหนังสือต่อจากผมที่จดเลคเชอร์โนตไว้อย่างละเอียด ขณะที่ผมเกรดยังร่อแร่อยู่ที่ 2 กลางๆ บูมกลับได้ทุนค่าเทอมทุกปีเพราะได้เกรดAเรียงหน้ากันสลอนบนทรานสคริป  น่าภูมิใจแทนที่บ้านมันจริงๆ


 “พี่เน็ต พี่โชติหวัดดี”

ไอ้หยกเป็นคนเห็นผมกับโชติคนแรกเลยยกมือไหว้ ผมพยักหน้ารับเหลือบไปมองน้องชายเพื่อนที่ยกมือไหว้บ้างแต่ไม่ได้ดี๊ด๊าเวลาเจอผมเหมือนทุกครั้งแล้วเริ่มเรียบเรียงคำพูดไม่ถูก ไม่เคยเห็นสีหน้าอิดโรยของน้องรหัสขนาดนี้เลยสักครั้ง


“สอบบ่ายเหรอ?”

“ครับ นี่ไอ้บูมกำลังทวนให้ พี่เน็ตสอบเสร็จแล้วเหรอ?”

หยกตอบ ปรมัตถ์นั่งลงบนเก้าอี้แล้วเปิดหน้าหนังสือผ่านไม่ได้เข้าประชิดตัวผม ยกแขนขึ้นท้าวคางเงียบๆเหมือนคนยังไม่ตื่นดีมากกว่าคนเตรียมสอบ


“เสร็จแล้ว บูมเย็นนี้ไหวเปล่า?”

คนถูกถามเงยหน้าขึ้นจากกองหนังสือยิ้มให้แห้งๆ


“ไม่น่าไหวอะพี่เน็ต บูมโคตรเหนื่อยเลยเนี่ย เทอมนี้อาจารย์ตัดเกรดฟลูอิดโหดเพราะงอนที่พวกผมไม่ค่อยเข้าเรียนเลยต้องมานั่งอ่านกันงกๆไม่ได้หลับไม่ได้นอน” เด็กที่นั่งอยู่คนเดียวหัวโต๊ะยกมือขึ้นเกาแก้ม ผมร้องแหวขึ้นมาไม่ยอมให้มันปฏิเสธง่ายๆ

“ได้ไง พวกกูเลื่อนมาเพราะจะส่งมึงด้วยนะ”

“โหย พี่เน็ต นี่บูมเพลียจริงๆ นะ ไว้วันหลังเถอะ”

“วันหลังก็ไม่ใช่เลี้ยงส่งมึงกับไอ้ปันดิวะ แล้วนี่อะไร ไหนว่าชอบเพื่อนกู ไมมันจะไปเมกาตั้ง2เดือนแล้วไม่ไปเลี้ยงส่งสักหน่อย?”


ไอ้บูมก้มหน้า หรือไอ้ห่าปันมันพูดจาหมาๆวะ นิสัยอย่างหนึ่งของปันนภคือค่อนข้างนิ่งแต่ถ้าไม่พอใจอะไรมากๆจะพูดตรงๆแบบไม่ถนอมน้ำใจ คนอย่างไอ้บูมก็เข้าเคสน่ารำคาญของคุณชายเสียด้วยเพราะเสือกถูกเลี้ยงด้วยลักษณะคล้ายๆกันคือไม่รู้จักผิดหวัง ถ้านับเรื่องเดียวที่บูม’พลาด’ คือไอ้เอกนั่นแหละซึ่งดูเหมือนเป็นแค่เรื่องเดียวเท่านั้นที่ผมเห็นว่าทำให้บูมหน้ายุ่งอยู่เป็นเดือน ที่เหลือออกแนวประมาณว่าแค่ออกคำสั่งทุกอย่างตามใจนึกก็จะมาประเคนถึงที่แบบไม่ต้องดิ้นรนอะไรมาก

ความขัดแย้งจากการออกคำสั่งแล้วได้ผลทันใจมันจะเกิดขึ้นทันทีเมื่อทั้งสองคนดีมานด์ไม่ตรงกัน อย่างเช่นปันอาจสั่งให้บูมเลิก ขณะบูมออกคำสั่งให้ปันรัก แค่นี้ผมก็เห็นภาพของสัตว์ประหลาดกับอัลตร้าแมนแล้ว


 “ทะเลาะอะไรกันหรือเปล่า?”

“เปล่านี่”

“ถ้าเปล่าก็ต้องไปดิ เอางี้เย็นนี้กูจะนั่งรอมึงใต้ตึกแล้วไปด้วยกัน”

“พี่เน็ตแม่งเอาแต่ใจ..”

ไอ้บูมส่ายหัว เฮ้ย เอาแต่ใจอะไรวะ นี่กูอุตส่าห์หาเวลาให้มึงได้อยู่ใกล้ชิดกับพ่อยอดกุมารของมึงนะไอ้เปี๊ยก ผมมองหน้ามันเซ็งๆ สุดท้ายบูมก็รับปาก

“ครับๆ เดี๋ยวไปที่ร้านดึกๆแล้วกัน ขอกลับไปนอนแป๊บนึงแล้วจะตามไป”

“อย่าเบี้ยวกูนะ”

“เปิดฮอร์การ์เด้นรอได้เลย”

“ไอ้สัตว์ แดกแพง! ลีโอสามขวดร้อยก็เมาอ้วกเหมือนกัน”

“มันบาดคอ” ไอ้บูมยิ้มตาปิดกวนส้นตีน ผมให้รางวัลหน้าเป็นมันด้วยนิ้วกลางโดดๆทั้งโต๊ะเลยหัวเราะเอิ้กอ้าก โชติหันมาใช้ข้อศอกสะกิดผม

“แล้วมึงไปยังไง กูว่าจะกลับบ้านก่อนเหมือนกัน เมื่อเช้ายังไม่อาบน้ำเลย”

“เออๆ มึงกลับไปเหอะ เดี๋ยวกูให้เฮียไปส่งร้าน” ผมตอบไม่ได้ใส่ใจนัก เลื่อนสมุดไอ้หยกที่ไฮไลท์ห่าอะไรหลากสีเต็มไปหมดจนตาลายมาดู กระทั่งเสียงนรกเอ่ยแซวผมเลยปิดหน้าปกหันมองไอ้สมองเหี้ยตาขวาง

“แหมะ! กูล่ะเบื่อข้าวใหม่ปลามัน ตัวติดกันเป็นปาท่องโก๋ ฝึกงานคราวนี้ชะรอยจะมีคนขาดใจตายเลยล่ะมั้ง”

 “ไอ้เหี้ยโชติ!”

“จุ๊ๆ อย่าอายๆ กูเห็นหรอก รอยดูดที่คอมึงน่ะ แหม๊ ทำเป็นยกคอปกขึ้นตั้ง ถามจริง นี่มึงใจแตกตั้งแต่เมื่อไหร่?”

ผมเอามือตะปบที่หลังคอทันทีที่ประโยคนั้นจบ มองโชติพงษ์ที่ผิวปากตาขวางนึกเคืองบางคนที่แม่งอุตริมาดูดได้แล้วหน้าแดงร้อนวาบ




“เฮียแม่ง น่ารักว่ะ”

ภายใต้ความมืดมิด ผู้ชายที่เล่นคีย์บอร์ดผิดโน้ตกระเถิบขึ้นมานอนใกล้ๆ ให้แขนซ้ายใช้แทนหมอน ส่วนข้างขวาแตะรอบเอวคอดไว้โดยมีปลายคางล็อคหัวให้ผมก้มหน้าแนบอกมันชิดจนได้กลิ่นอ่อนๆ
กลิ่นสบู่เหมือนกัน แต่กลับหอมจนผมนึกอยากไล่ดมว่าตรงไหนที่ทำให้มันหอมกว่ากลิ่นกายของผมในตอนนี้

“น่ารักแล้วรักบ้างหรือยัง?”

เสียงมันถามล้อ รู้สึกขอบคุณจริงๆที่มันไม่เห็นหน้าผมตอนที่ตอบมันว่า  “ก็ไม่ได้ไม่รัก...” เสียงแหบต่ำ
หัวใจของเฮียเต้นแรงจนผมได้ยินอยู่พักหนึ่ง ไม่รู้หรอกว่ามันคือเสียงหัวใจของเฮียแค่คนเดียวหรือรวมของตัวเองไปด้วย แต่ใครจะยอมรับให้เสียฟอร์มวะ โมเมว่าเป็นของมันทั้งหมดก็แล้วกัน

“แสดงว่ารักแล้ว?”

หลังจากเงียบไปนานเฮียก็ถามเสียงกระซิบ ผมรู้สึกเจ็บที่อกด้านซ้ายนิดๆเหมือนกลองที่ตีรัวข้างในมันกำลังกระทุ้งออกมา มือที่โอบเอวหนาของเฮียไปด้านหลังเผลอดึงผ้าปูที่นอนขึ้นมาจิกกำ หน้างี้ร้อนเหมือนคนเป็นไข้ ป่วยเหรอ? ต้องป่วยแน่ๆ..

“ขี้ตู่สัตว์” รีบตอบก่อนจะรู้สึกป่วยหนักไปมากกว่านี้ เฮียกดคางลงบนกระหม่อมผมอย่างหมั่นเขี้ยวแล้วบ่น

“พูดไม่น่ารัก”

“ไม่ต้องมารัก” พอเถียงกลับทันทีแทนที่เฮียแม่งจะเปลี่ยนเรื่องหรือทำอะไรก็ได้เสือกหัวเราะเสียงเบา ตอบเสียงนุ่มให้ซึมลึกเข้าไปในใจที่เต้นรัว

“ว้า... รักไปแล้วนี่”


หมั่นไส้!


เพราะรู้สึกแบบนั้นเลยออกแรงผลักเฮียที่นอนตะแคงกอดอยู่ให้ล้มหงาย ลุกขึ้นนั่งคร่อมจูบปากดีๆนั่นสักทีให้มันหยุดพูดให้ผมเขินได้แล้ว ทว่าเมื่อถอนปากออกกลับถูกพลิกกลับไปนอนใต้ร่างเฮีย พ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง

ประกายตาวาววับสะท้อนในความมืด จมูกคมสันโน้มลงมาเกลี่ยข้างแก้มขณะที่ปากพูดชิดติดกับปากผมว่า

“ริจะกดกูหรือไง?”



และหลังจากนั้นผมก็รู้สึกผิด

ทั้งๆที่ตอนนั้นแค่เอาปากไปชนให้มันเงียบแท้ๆ แต่กลับถูกเอาคืนอย่างสาสม ริมฝีปากนุ่มที่กดทับลงมาดูดดึงให้เผลอเผยอคล้อยตาม ปลายลิ้นสากซอกแซกผ่านไรฟันเข้ามาเกลี่ยแตะที่ลิ้นผม ลมหายใจร้อนระอุเป่ารดทั่วหน้าจนแก้มร้อนเห่อ ผมรู้สึกถึงแรงนวดเค้นจากฝ่ามือลงบนผิวกายเปลือยเปล่าอย่างชัดเจน เฮียจูบผมย้ำที่ริมฝีปากครั้งแล้วครั้งเล่า ขยับถอนออกให้มีจังหวะหายใจเป็นพักๆแล้วก้มลงไปจูบที่เดิมอีก


หัวใจเต้นแรงเหมือนจะหลุดแล้ว ใครก็ได้หยุดเฮียที


และเหมือนเป็นคำขอจากเด็กดีที่บร๊ะเจ้าสั่งให้เฮียถอนจูบออก แต่มาเช็ดคราบน้ำลายที่เปียกปอนรอบปากด้วยซอกคอผม ปลายนิ้วเกลี่ยแตะที่หัวนมให้ผมสะดุ้งแอ่นตัว แรงดูดบริเวณเหนือไหปาร้าขึ้นมาหน่อยเจ็บจี๊ดผสานกับเสียวแปลบ ทุกอย่างมันไหลลงไปรวมกันให้ร่างกายส่วนหนึ่งปวดหนึบ แต่เฮียก็เบรคทุกอย่างไว้ทัน

“..พรุ่งนี้สอบ......”

“กะ...ก็เออน่ะสิวะ! เช้าด้วย เลิกเลย! ทำเหี้ยอะไรเนี่ย!!”

เผลอกัดปากล่างตัวเองแน่น เฮียถอนหายใจผ่อนยาวๆควบคุมอารมณ์ มันเลื่อนตัวมาจูบที่หน้าผากผมเน้นๆอีกครั้ง “ขอโทษ.. โกรธหรือเปล่า”

“ถ้าปล่อยตอนนี้จะไม่โกรธ”

เฮียถอนหายใจยาวอีกครั้ง ค่อยๆลุกจากที่คร่อมผมอยู่เป็นนอนหงายให้ผมเห็นว่าอะไรที่มันตั้งโด่ขึ้นมาจากกางเกงบ๊อกเซอร์ตัวนั้นพอเป็นเงารางๆ


“...มึงก็ขึ้น”

“ก็กูยังไม่เสื่อม!”

“แบบนี้นอนไม่หลับแน่”

ผมหลับตาลง เออสิวะ แม่งยืนตรงเคารพธงชาติแบบนี้แล้วจะหลับลงได้ไง เฮียเลื่อนมือมาจับมือผมแล้วค่อยๆดึงไปวางเหนือหน้าท้องมันช้าๆ


“ลอง...สลับกันชักไหม”

ผมกระพริบตาปริบท่ามกลางความมืด มือของเฮียที่นำทางให้มือผมไปวางอยู่บนตัวมันค่อยๆเลื้อยมาหา เฮียเป็นคนแตะร่างกายผมผ่านเนื้อผ้าก่อนหลังจากนั้นมันก็ค่อยๆงัดขึ้นมาสัมผัสโดยตรง ผมหลับตา ใจเต้นระส่ำเพราะเป็นครั้งแรกที่ได้จับของคนอื่น ขนาดของมันใหญ่กว่าผมเล็กน้อยแต่แข็งขืนกว่ามาก ทุกครั้งที่ขยับมือขึ้นลงได้ยินเสียงซี้ดซ้าดในลำคอของผู้ชายข้างๆขณะที่ตัวเองก็เผลอหลุดครางเวลาเฮียเน้นที่รอยหยักของมันบ่อยๆ


มัน... สุดยอดไปเลย




“เอาจริงดิ เฮียเผด็จศึกพี่เน็ตแล้วเหรอ?”

เสียงไอ้บูมเรียกสติให้กลับคืนมา ผมสะดุ้งโหยงเห็นว่ารุ่นน้องจ้องกันตาแป๋วหมดคราบนิสิตอิดโรยไปเสียสิ้นแล้วตวัดหางตามองคนเปิดประเด็น มันทำท่าหาวหวอดเหมือนไม่ใช่ต้นเรื่องที่พูดขึ้นมาให้ผมตกเป็นจำเลยสังคม

“...เห็นรอยกันทนโท่ขนาดนี้”

“ไอ้โชติ มันไม่ใช่แบบนั้นโว้ย!”

“อ้าวแล้วมันแบบไหน?”

น้องหยกครับ เวลานี้ไม่ต้องสมทบคนอื่นๆก็ได้ กูขอกำลังเสริมด่วน แต่ก่อนที่จะถูกตราหน้าว่าเสียสูญให้เฮียแล้วผมก็รีบปฏิเสธเป็นพัลวัน

“ก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกน่า มึงสอบบ่ายกันไม่ใช่เหรอ? อ่านๆ เดี๋ยวกูกลับหอแล้ว ไปละ บายยยย”


ไอ้เหี้ยยย  ให้อยู่อธิบายเรื่องนั้นก็ไม่ใช่เน็ตแล้วคร้าบบบ  ขอชิ่งก่อนเลยแล้วกัน!



------------------------------------------
COMPLETE Friend's brother Brother's friend 20
01/08/12




 :ped149:ขออภัยมาดึกมากกก  เค้าเพิ่งกลับจากชอปปิ้งมาตอนห้าทุ่ม ปวดขาสุดๆเลยยย ย ย  ;___;
ตอนนี้ยาวเนอะ ไม่ใช่ว่าขยันนะคะ ช่วงนี้งานเยอะกลับบ้านสองทุ่มสามทุ่มทุกวันแต่แต่งแล้วติดลม ตัดไม่ลงซักที
ดีใจมากสำหรับทุกคอมเม้น รักคนอ่านนะคะ  :กอด1:

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
เฮียยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย พ่อพระเอกสุดยอดโรแมนติกอมตะนิรันดร์กาลรูปทองผ่องแผ้วนพคุณ
คนดีที่สุดในเรื่องนี้แล้ว อดทนได้ไงเนี่ย

lady red

  • บุคคลทั่วไป
สำหรับที่อ่านตอนนี้โดยส่วนตัว คิดว่าระหว่างเฮียกับปัน  ไม่ว่าเน็ตจะเลือกใคร  เราก็รู้สึกว่ารับได้  เพราะคนหนึ่งคือคนที่รักมานาน  อีกคนหนึ่งคือคนที่กำลังเริ่มจะรัก แต่กับน้องบูม (ที่รู้สึกว่ายังไงๆก็คงได้คู่กับปัน  เพราะออกมาเด่นคู่กันซะขนาดนี้) เรารู้สึกว่าถ้าตอนจบเน็ตเลือกเฮีย  เราก็ไม่อยากยกปันให้น้อง  ให้ปันไปคู่กับผู้หญิงที่แม้จะไม่รักแล้วแต่งงานไปตามกรอบที่เจ้าตัวยึดมั่นยังดีกว่า

เพราะค่อนข้างสงสารเน็ต  ไม่อยากทำให้เน็ตรู้สึกเจ็บปวด เพราะแม้ว่าจะรักไม่เท่าเดิมแต่ก็ยังคงรักอยู่  และจากตอนก่อนๆที่เวลาก็ผ่านมาไม่นานเท่าไหร่  เน็ตก็ยังเจ็บปวดเมื่อเห็นปันอยู่กับน้อง  และยิ่งเห็นเน็ตพยายามจับคู่ปันให้น้องในตอนนี้ก็ยิ่งรู้สึกว่าความรักของเน็ตยิ่งใหญ่จนรู้สึกน่าสงสาร  เพราะรักโดยหวังแค่ให้คนที่ตัวเองรักสองคน(ปันกับบูม)มีความสุขเท่านั้น  แม้ตัวเองจะเจ็บปวดบ้างก็ไม่เป็นไร  ต่างกับที่น้องบูมทำกับเน็ต  เมื่อตอนก่อนๆ คือพยายามเข้าแทรกแซงความรู้สึกของทั้งคู่  ทั้งๆที่ก็รู้ว่าสองคนใจตรงกัน  และสองคนนี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน  คนหนึ่งคือพี่รหัสที่ดีกับตัวเองมาตลอดและตัวเองก็อ้างว่ารักนักรักหนา  อีกคนอย่างน้อยก็เป็นคนที่เคยมีบุญคุณคอยช่วยเหลือตัวเองมาแล้ว โดยไม่ใส่ใจว่าพี่รหัสตัวเองจะรู้สึกยังไง จากการที่ตัวเองพยามเข้ามาแทรกแซงสุดชีวิตแบบนี้ ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าหากปันกลายมาเป็นของบูมจริงไม่มีทางที่เน็ตจะไม่รู้สึกอะไร เพราะขนาดตอนแกล้งเป็นแฟนกับปัน  น้องก็รู้ว่าเน็ตก็ยังเจ็บขนาดนั้น 

และอีกเหตุผลที่ไม่อยากยกน้องให้ปันคือ  น้องบูมไม่มีท่าทีลังเลกับการกระทำที่เหมือนกับเป็นการทำร้ายพี่รหัสตัวเองทางอ้อมเลย เพราะโดยปกติถ้าเราแคร์หรือใส่ใจใครต่อให้เรามีความชอบธรรมให้กับการกระทำของตัวเองแค่ไหนแต่ถ้ามันอาจทำร้ายคนๆนั้น  ก่อนทำเราก็จะต้องคิดทบทวนหรือลังเลบ้าง(เช่น ถ้าจะไปคบกับแฟนเก่าของเพื่อนสนิทที่เลิกกันแล้วโดยที่เพื่อนเรายังรักคนๆนั้นอยู่  ร้อยทั้งร้อยถ้าเรารักเพื่อนก็ต้องลังเลคิดถึงความรู้สึกเพื่อนบ้าง  ถึงแม้เราจะมีความชอบธรรมที่จะทำแบบนั้นได้เพราะสองคนนั้นไม่ได้เป็นแฟนกันแล้วก็ตาม)  แต่ท่าทางของน้องบูมที่แสดงออกมาในตอนที่แล้วไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย  เหมือนความรู้สึกเจ็บปวดของเน็ตไม่มีความหมายในสายตาน้องบูมเมื่อเทียบกับความต้องการของตัวเอง  มิหนำซ้ำนอกจากไม่ลังเลแล้ว  น้องบูมก็ยังมีการแอบกล่าวโทษเน็ตเป็นเชิงตำหนิกรายๆ ทำนองว่า  รู้สึกไม่ยุติธรรมกับตัวเองเลย ทำไมเน็ตถึงเหมือนได้หัวใจปันไปทั้งที่ไม่เคยทำอะไร

ซึ่งเราว่าถ้าเน็ตรู้ว่าน้องรหัสที่ตัวเองรักคิดแบบนี้กับตัวเองเน็ตคงเสียใจมาก  เพราะเน็ตก็แสดงท่าทีปรารถนาดีกับบูมมาตลอด  แม้กระทั่งตอนที่รู้ว่าบูมรักคนที่ตัวเองรัก  เน็ตก็ไม่ได้พยามขัดขวางหรือพยามแทรกแซงเหมือนที่บูมทำเมื่อตอนที่รู้ว่าเน็ตรักปัน   ทั้งๆที่เน็ตเองก็แอบเจ็บปวดกับความจริงที่รู้อันนี้  อีกทั้งเน็ตกลับคิดเป็นทำนองเชิงจะยกปันให้บูมด้วยซ้ำ  พยายามช่วยเหลือให้น้องที่ตัวเองรักสมหวัง  ไม่มีความริษยาหรือความคิดร้ายๆอะไรให้กับบูมเลยแม้แต่น้อย  อย่างมากสุด  ถ้าเน็ตจะมองน้องแล้วเกิดข้อตำหนิ  ก็เป็นข้อที่เน็ตตำหนิตัวเองว่าไม่มีความกล้าเหมือนน้องบูมมากกว่า

ที่กล่าวมาคือ  เราคิดว่าน้องยังดีไม่มากพอที่เน็ตจะเสียสละให้ขนาดนี้.....ยังดีไม่มากพอที่ปันจะรัก.....ยังดีไม่มากพอที่จะได้สมหวังในความรักกับปันที่แม้แต่เน็ตก็ยังไม่สมหวัง(ทั้งๆที่ความรักของเน็ต  มันยิ่งใหญ่อยู่เหนือแม้กระทั่งความเจ็บปวดของตัวเองแบบนี้)......และยังดีไม่มากพอที่จะทำให้เน็ตต้องเจ็บปวดกับความสมหวังของน้อง   ไม่ว่าความเจ็บปวดนี้จะเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-08-2012 05:53:11 โดย lady red »

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
เฮียกับเน็ตคู่นี้พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ คู่นี้ออกมาทีไรหวานพอดีๆทุกทีเลย  o13

ตอนหน้าคุณชายปันจะออกแล้ว จะดราม่ามั๊ยนี่ 

ออฟไลน์ ruby

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 477
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-3
ตอนนี้เฮียโคตรน่ารักเว่อร์อ่ะ หลงรักมากกว่าเดิมกริ๊วๆๆๆ(เดี๋ยวเน็ทกระทืบ)
คู่ปันกับบูมจะลงเอยยังงััย. รอตอนหน้าค่ะ :กอด1:

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
เห็นด้วยกับ lady red ที่สุด  ถ้าสุดท้ายแล้วปันกับบูมจะลงเอยกัน
บอกได้คำเดียวว่าเสียความรู้สึก ขออภัยแฟนคลับปันบูมด้วย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
โอย...ตอนนี้...ฝันดี อิอิอิ

ออฟไลน์ mellowshroom

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 976
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1

อ๊าาาาา เขินอ่ะ ถ้าไม่มีสอบนะ .. o18

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
เกือได้เสียกันจริงๆและ
นีถ้าเน็ตไม่สอบเนี่ย สงสัย หึหึ แน่

ออฟไลน์ goonglovenut

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 810
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1188/-10
อยากบอกว่ารักเฮียคะ เน็ตดีแล้วที่รักเฮีย  ไม่รู้จะโดนว่าไหมที่อยากให้ปันคู่บูมนะ คือ ปันกับเน็ตความสัมพันธ์มันคือเพื่อนเลยไม่กล้า ต่างคนต่างเก็บความรู้สึก จะว่าบูมเข้าไปแทรกมันก็จริงแต่ถ้าคนใจตรงกันอะไรมันก็ขวางไม่ได้หรอก และล่าสุดที่ปันจูบบูมทำเพื่ออะไร เหมือนไปให้ความหวังกับเด็ก ยิ่งทำให้คิดเข้าไปใหญ่ บูมยังเด็กความคิดจึงน้อยกว่าพวกพี่ๆที่มีความคิดมากกว่า แต่ถ้าไม่ได้คู่กันก็ไม่เป็นไรจ๊ะ  :กอด1:

ออฟไลน์ nackii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
แว๊กกกกก .. ใกล้แล้ว >,<
เรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งเรื่องโปรดเลย ดีใจนะที่ทุกวันพุธจะได้มานั่งรอ

เรื่องค่อยๆดำเนินแบบนี้ ชอบอ่ะ ^^

ออฟไลน์ kojibara

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-1
เน็ตน่ารักเกิ๊นนนนนน
เกือได้เสียตัวแล้วววว
 :-[ :-[ :-[ :-[

ออฟไลน์ moredee

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-8
เฮียกับเน็ต ชัดเจนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน

sunshadow

  • บุคคลทั่วไป



     อ้ากกกก หนูเน็ตตกหลุมเฮียไปซะแล้วววว
     หลวมตัวเผลอใจให้เค้าไปแล้วสิ
     ไปเจอปันนภงานนี้ไม่มีบูมไปขวางด้วย
     ถ้าปันรู้จะออกอารมณ์ไหนนะ





ออฟไลน์ Kalamall

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 729
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-2
เฮียยยย น่ารักว่ะ  :-[ เน็ตจะไปเสม็ดเหรอ หึหึหึ!

เรื่องบูมหมวยน้อยกะคุณปันนภมันน่าลุ้นมากไปละ :z3:

a-o-pai

  • บุคคลทั่วไป
ยังไงเน็ตก้อยังรักปันอยู๋อ่ะน้อ เห้อ

ตอนนี้เน็ตก้อกำลังเริ่มที่จะรักเฮียบ้างแล้ว

ถึงขนาด.....อิอิอิอิ

ยังไงก้อจะรอตอนต่อไปนะครับ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด