20
“ขนมของท่านแม่อร่อยใช่ไหมท่านอา”
ซาอิดซึ่งก่ายเกยบนหน้าตักของเอลียาห์ที่นั่งขัดสมาธิฉีกยิ้มหวาน วันนี้หลังจากสอนอะไรหลายๆอย่างให้หลานชาย เด็กหนุ่มก็ถูกจัสมินชักชวนให้ทานขนมที่เธอทำด้วยตัวเอง
“อร่อยมากๆ” เอลียาห์เอ่ยชม
“ดีใจที่ท่านเอลียาห์ชอบค่ะ ข้ามักจะตระเวนนำอาหารที่ทำเองไปแจกจ่ายเพื่อนและสามีของเพื่อนอยู่เสมอ ตอนนี้นับว่าโชคดีที่ท่านคอยช่วยชิมให้ก่อนที่จะนำไปให้ผู้อื่นทาน”
“เรื่องเล็กน้อย เราชอบทานขนมหวานมากอยู่แล้ว”
“ยังไงก็ต้องขอบคุณท่านเอลียาห์ค่ะที่อุตส่าห์มา”
ถึงจะเรียกว่ามาเยี่ยมเยียนแต่อันที่จริงก็แค่พบปะทานขนมกันที่ห้องโถงซึ่งมีผู้คนผ่านไปมาได้ตลอดเวลา ที่เป็นเช่นนั้นเพราะกฎจารีต ชายหญิงไม่สามารถอยู่ในที่รโหฐานตามลำพังได้
“ท่านจัสมินเจ้าคะ”
หญิงรับใช้เข้ามากระซิบยังข้างหูของผู้เป็นนาย จัสมินยิ้มแย้มเมื่อได้ฟังคำรายงาน
“ข้ามีแขกมาหาค่ะท่านเอลียาห์ เป็นเพื่อนสาวของข้าเอง”
“ถ้าอย่างนั้นเราคงต้องกลับแล้วสินะ” เอลียาห์ผุดลุกขึ้น
“ไม่จำเป็นหรอกค่ะ คือมันอย่างนี้ ที่จริงแล้วข้าขอสารภาพว่าเพราะไม่รู้ที่ต่ำที่สูง ข้าก็เลยเอาเรื่องที่ได้มีโอกาสสนิทสนมกับท่านไปเล่าให้อามีร่าฟัง นางกับข้าค่อนข้างไม่ถูกกัน นางจึงเย้ยหยันหาว่าข้าโกหก ก็เลยใช้อุบายล่อหลอกท่านให้มาพบหน้านางเพื่อตัวเองซักครั้งค่ะ”
“ทำอย่างนี้ไม่ดีเลยนะ”
เอลียาห์ตำหนิ ถึงจะยุ่งยากใจเพียงไหนแต่เป็นกังวลแทนจัสมินที่อาจถูกต่อว่าทั้งที่ไม่ใช่เรื่องของเขาเองอยู่บ้างเหมือนกัน
“ได้โปรดเถอะค่ะท่านเอลียาห์แค่อยู่ทานน้ำชากับขนมสักพัก นางพบกับข้าไม่นานหรอกค่ะ”
เด็กหนุ่มลังเลใจอยู่นาน พอได้ยินคำขอร้องของซาอิด เด็กน้อยเล่าถึงนิสัยสุดจะแย่ของอามีร่าให้ฟังหลายอย่าง เพราะสงสารหลานชายที่กลัวมารดาถูกรังแกเขาจึงตกปากรับคำไป
“ขอบพระคุณจริงๆค่ะท่านเอลียาห์ ซาอิดไปเดินเล่นกับท่านอาซาลามก่อนเถอะนะ”
ซาอิดร้องประท้วงคำตัดสินของแม่ แต่เมื่อไม่ได้รับความสนใจ เด็กน้อยก็ผละจากไปโดยไม่ลืมกล่าววาจาเป็นห่วงเป็นใยกับเอลียาห์
น่าเอ็นดูเหลือเกิน
เอลียาห์ยิ้มน้อยๆให้ซาอิดที่หันมาโบกมือไม้ไม่เลิก จากนั้นอามีร่าและสาวใช้ก็เข้ามาพบปะกับพวกเขาในเวลาถัดมา
อามีร่าเป็นหญิงสาวผู้มีรูปโฉมงดงามสูสีกับจัสมินเพียงได้พบกันครั้งแรก เด็กหนุ่มก็อดชมเชยในใจไม่ได้
อามีร่าเมื่อพบหน้าเอลียาห์ก็หยุดตะลึงงัน จนเขาขบขัน เจ้าหล่อนแสดงท่าทางกระตือรือล้นที่จะเสวณากับเขามากเป็นพิเศษ
“ท่านเอลียาห์รู้ไหมคะว่าตอนที่อยู่ในหมู่บ้านข้ากับจัสมินแข่งขันกันเสียทุกเรื่อง”
“เจ้าอย่าพูดเรื่องน่าอายของเราเลย”
จัสมินหัวเราะพร้อมกับขยิบตาให้เอลียาห์อย่างหยอกเย้า
“เราผลัดกันแพ้ชนะกันไปทุกๆเรื่อง แต่ว่าวันนี้นางถึงกับพาข้ามาพบปะเจ้าชายได้ ทั้งที่ข้าซึ่งเป็นภรรยาเอกของขุนนางผู้ใหญ่ยังแทบไม่มีโอกาส ยอมรับว่าข้าตกใจมากจริงๆ”
“สามีของเจ้าคือใครกันหรือ”
เอลียาห์พยายามปั้นยิ้ม ลึกๆแล้วเขารู้สึกได้ถึงความเป็นปรปักษ์อย่างชัดแจ้งที่อามีร่ามีต่อจัสมิน ในทางกลับกันเพื่อนสาวคู่แข่งกลับยิ้มแย้มสดใสทั้งที่ถูกเหน็บอยู่ตลอดได้จนเขานึกชื่นชม
“โอ้ เป็นเสนาบดีเฒ่าที่กำลังจะเกษียณนะคะท่านเอลียาห์”
อามีร่าหน้าเสียทันทีที่จัสมินชิงตอบคำถามพร้อมกับหัวเราะโฮะโฮะ เอลียาห์ถึงจะรู้ว่ามารดาของซาอิดจงใจตีกระทบ แต่ไม่ได้ตำหนิหล่อน กลับยังเอาใจช่วยอยู่ในใจแล้วเอ่ยปากถามคำถามก่อนที่คนถูกกระทบจะออกอาการจนห้ามไม่ได้
“ใช่ท่านชูกูรที่กำลังจะเกษียณหรือเปล่า ตอนนี้เสนาบดีที่กำลังเกษียณมีแต่ท่านชูกูรกับท่านนะบีล”
“ถูกแล้วค่ะท่านชูกูรคือสามีของข้า” อามีร่ายิ้ม
“ท่านชูกูรมีทายาทที่จะมารับตำแหน่งคือท่านรุสลัน คนผู้นี้เป็นบุตรชายที่เฉลียวฉลาดเหมาะสมกับตำแหน่งอย่างมาก”
พอเอ่ยถึงรุสลันอามีร่าก็ถลึงตามองจัสมินที่กระตุกยิ้ม เอลียาห์ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางเท่าไหร่นัก แต่ก็เลือกที่จะเมินเฉยต่อมัน เขาไม่อยากเข้าไปยุ่งกับความบาดหมางของเหล่าสตรีไปมากกว่านี้
“อุ๊ยตาย ลืมไปเลยว่าข้านำใบชาจากตะวันตกมาฝาก ละตีฟะฮ์นำมันไปชงมาให้พวกเราที”
อามีร่ายื่นห่อใบชาให้สาวใช้ส่วนตัวไม่นานนัก ชาซึ่งหอมกรุ่นก็ถูกนำมาวางยังตรงหน้า เอลียาห์สูดกลิ่นหอมแล้วให้รู้สึกพึงพอใจ
“นี่คือชาที่ได้มาจากทางตะวันตกหรือ”
“ใช่ค่ะ”
อามีร่าพูดกับเอลียาห์ เจ้าหล่อนดูพออกพอใจในตนเอง
“อ้าวดื่มเสียสิจัสมินข้าอุตส่าห์เอาของดีมาให้เชียวนะ”
จัสมินยังไม่ตอบคำ เจ้าหล่อนหมกมุ่นอยู่กับการสูดดมกลิ่นด้วยใบหน้าบูดเบี้ยว เอลียาห์เดาว่าชาถ้วยนี้คงไม่ถูกรสนิยมของเจ้าหล่อน
“ข้าดมแล้วรู้สึกคลื่นไส้ คงจะดื่มชาลงไปไม่ได้แน่ๆ”
“อะไรกัน”
อามีร่าหัวเสียจนเกินกว่าเหตุ หญิงสาวทั้งขู่ทั้งปลอบให้จัสมินดื่มชาถ้วยนั้น แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรเจ้าของถ้วยชาก็ไม่ยอมดื่ม
“เอาล่ะ เราจะดื่มแทนเองแล้วกัน”
เอลียาห์ขยับกายคว้าเอาถ้วยชาเจ้าปัญหาขึ้นยกดื่ม รสชาติถึงแม้จะขมกว่าถ้วยของเขานิดๆแต่กลิ่นหอมยังทำให้รื่นรมย์ได้เหมือนเดิม อามีร่าอ้าปากค้างจนเด็กหนุ่มนึกอยากหัวเราะเมื่อสังเกตเห็นอาการของเธอ
“ข ข้าว่าจะขอตัวกลับก่อนดีกว่าค่ะ”
อามีร่าเอ่ยตะกุกตะกัก หากแต่จัสมินที่ชงชาถ้วยใหม่ให้หล่อนกลับเอ่ยถ้วงไม่ให้อีกฝ่ายปลีกตัวไปโดยง่าย
“เจ้ายังไม่ได้ทานขนมของข้าเลย” จัสมินยิ้มหวาน
“จริงด้วยเป็นขนมชนิดใหม่ แน่นอนว่าไม่เคยได้กินที่ไหนแถมยังอร่อยมากอยู่ทานก่อนแล้วค่อยไปเถอะ” เอลียาห์สนับสนุน
“เอ่อ….คือ”
อามีร่าตกปากรับคำด้วยท่าทางหวั่นวิตกเพราะถูกเอลียาห์แกมบังคับ เจ้าหล่อนซดชาที่จัสมินชงให้เฮือกใหญ่ก่อนจะหน้าซีดตัวแข็งมองดูเพื่อนสาวขอตัวไปยกขนมมาให้
“เป็นอะไรหรือ”
เอลียาห์ถามด้วยความเป็นห่วง อามีร่าตกตื่นอยู่ตลอดเวลาเหมือนคนเห็นผี ในตอนนั้นจู่ๆเด็กหนุ่มก็รู้สึกวูบวาบร้อนเห่อไปทั้งร่าง
“อะ…..”
เด็กหนุ่มนั่งงอตัวด้วยความเสียวปลาบจากท้องน้อยไปจนถึงปลายเท้า ความร้อนรุ่มที่เกิดขึ้นอย่างเฉียบพลันทำเอาสับสนจนต้องช้อนมองตั้งคำถามกับอามีร่าซึ่งสบตามา
“ข ข้าไม่ได้ทำนะคะ ตายแล้ว”
อามีร่าเอ่ยปฏิเสธตะกุกตะกัก ขณะที่ทำท่าจะวิ่งหนีไป พอเห็นเอลียาห์คู้กายด้วยความทรมาน เจ้าหล่อนก็รี่เข้ามาดูอาการอย่างงกงกเงิ่นเงิ่น
“ข้า รู้สึก”
เอลียาห์ใช้ดวงตาฉ่ำเยิ้มมองดูอามีร่า เจ้าหล่อนถึงแม้จะตกประหม่า แต่เมื่อถูกมองด้วยแววตากระหายใคร่จากเจ้าชายที่ทั้งสูงศักดิ์และรูปงามหล่อนก็ถูกด้านมืดของตนเข้าครอบงำในชั่วพริบตา
“เอ่อ ท่านถูกยาปลุกกำหนัดน่ะค่ะ ข้าไม่ได้ตั้งใจเล่นงานท่าน ข้าอยากแกล้งจัสมินเท่านั้น เอาอย่างนี้ให้ข้าช่วยท่านนะคะท่านเอลียาห์”
“ทำผิดมากถึงขนาดนั้นแล้วยังไม่พออีกหรือ”
น้ำเสียงทรงอำนาจดังขึ้นพร้อมกับการปรากฏกายของแดริล กษัตริย์ผู้แผ่รังสีคุกคามก้าวฉับๆมายังเอลียาห์แล้วใช้มือปัดอามีร่าให้ออกไปให้พ้นจากรัศมีของเขาและเด็กหนุ่ม
“แดริล…เรา……อึก…..”
คนในอ้อมแขนบิดกายไปมา แดริลรูดีหากปล่อยไปไม่ช้า เอลียาห์คงต้องล้มป่วยเพราะฤทธิ์ยากระตุ้นกำหนัด
“เจ้าวางยากับเชื้อพระวงศ์ คงเตรียมใจรับโทษทัณแล้วสินะ”
ดวงตาคมกร้าวตวัดมองอามีร่าที่หน้าซีดตัวสั่น จังหวะนั้น หญิงสาวก็คู้กายด้วยความปั่นป่วนของร่างกาย
“อุ…อุ้ย…”
แดริลเลิกคิ้วให้กับอาการป่วยฉับพลันของผู้ต่ำศักดิ์กว่า หากว่าเจ้าหล่อนไม่วิ่งแจ้นออกไปพร้อมกับผายลมไปตลอดทาง กษัตริย์หนุ่มคงไม่พ้นจับสตรีอุกอาจผู้นี้แก้ผ้าแห่ประจาน ทว่าท่าทางอันวุ่นวายชวนสังเวช แดริลตัดสินใจจะหาวิธีลงโทษหล่อนในภายหลัง
“ได้โปรดปล่อยเราไว้เพียงลำพัง”
เอลียาห์อ้อนวอนคนที่ช้อนอุ้ม ในขณะอดกลั้นต่อราคะซึ่งกำลังพุ่งสูง
“เงียบซะ ถ้าไม่ปลดปล่อยเจ้าจะแย่เอา”
อยากจะทุ่มเถียงกับคนที่ตีหน้าขรึมใจแทบขาด กระนั้นก็ไม่สามารถทำได้ เพราะร่างกายและจิตใจไม่อยู่กับเนื้อตัว เอลียาห์รู้สึกวูบหวิวร้อนผ่าวในจุดซึ่งแนบชิดกับแดริลไปทุกอณูสัมผัส
เมื่อมาถึงห้องส่วนตัวทันทีที่ถูกวางลงบนเตียง เอลียาห์ก็คลานหนีไปซุกตัวอยู่ตรงหัวเตียง เด็กหนุ่มพยายามคุมสติไม่ให้โผเข้าหาชายหนุ่มด้วยไฟอารมณ์ซึ่งเผาผลาญสติจนแทบไม่เหลือ
“เอลียาห์ น้องเอลียาห์”
แดริลคลานเข่าเข้าหาร่างบาง น้ำเสียงยั่วยวนกวนราคะ เอลียาห์ฟังแล้วเกิดเสียวซ่านจนแทบจะปลดปล่อยในวินาทีนั้น
“อ้า…”
เอลียาห์ปลดปล่อยออกมาจริงๆทันทีที่ถูกโอบกอด ถึงจะอับอายจนแทบอยากตาย แต่กางเกงผ้าเนื้อดีที่เปรอะเปื้อนยังถูกดุนดันจากอวัยวะเพศซึ่งไม่ยอมสงบลงง่ายๆ
“จะปล่อยให้เป็นอย่างนี้ไปทั้งคืนหรือ จะนอนทรมานรอให้ปลดปล่อยเองอยู่แบบนี้โดยไม่ทำอะไรหรือไง”
ผู้โอบกอดกระซิบเสียงหวาน
“จะ…จะทำด้วยตัวเอง”
เอลียาห์สลัดตัวออกจากแดริล เด็กหนุ่มรีบถอดกางเกงไปให้พ้นตัว แล้วใช้มือจับเครื่องเพศชักรูดขึ้นลง
“ทำอย่างนี้จะถึงฝั่งฝันได้หรือ”
เสียงหัวเราะน้อยๆของแดริลช่างบาดจิตนัก ถึงอย่างนั้นเอลียาห์ก็ปฏิเสธความจริงไม่ได้ เรื่องที่เขาไม่มีแรงหรือสติพอจะช่วยตัวเองอย่างที่ใจปรารถนา
“อึก”
มือไม้ที่สั่นพยายามขยับรูดแต่มันมุถึงใจพอ ความร้อนรุ่มทรมาน เมื่อไม่ได้รับการปลดปล่อย เอลียาห์หลั่งน้ำตาสะอื้นไห้อย่างหมดหนทาง
“ได้โปรดช่วยที”
คนถูกขอร้องคลี่ยิ้มอ่อนโยน แดริลขยับกายเข้าช่วย
“ไม่ต้องกลัวนะ”
เอลียาห์ถูกจับนั่งลงบนตักของแดริลโดยหันหลังให้ มือใหญ่ร้อนผะผ่าวคว้าจับเครื่องเพศของร่างบางแล้วขยับปรนเปรอเป็นจังหวะเชื่องช้าก่อนจะเริ่มเคลื่อนไหวเร็วขึ้นเรื่อยๆ
“อุ…อึก..”
“อย่ากลั้นเสียงสิน้องเอลียาห์ มันจะทำให้เจ้าทรมานมากขึ้นไปอีกนะ”
คนถูกเสี้ยมสอนค่อยส่งเสียงหวานออกมาทีละนิด ถึงแม้ว่าตอนแรกจะยังขัดเขิน แต่ไม่นานนักเด็กหนุ่มก็ทำเหมือนเป็นเรื่องปกติ
“น้องเอลียาห์ยังคงครางเสียงแผ่วเหมือนลูกแมวยามออดอ้อนเช่นเดิม น่ารัก ถึงข้าอยากให้เจ้าครางเสียงดังให้มากกว่านี้ แต่เจ้าที่ทำเสียงครางเครือทำให้ข้าอดใจแทบไม่ไหว”
“อื้อ”
เอลียาห์ปลดปล่อยแทบจะในทันทีที่อีกฝ่ายพูดจบประโยค เครื่องเพศของเด็กหนุ่มยังคงสู้มือดุจดั่งเดิม
“เอลียาห์…น้องเอลียาห์สงสัยว่าข้าคงต้องช่วยเจ้าให้จริงจังยิ่งกว่านี้”
เอลียาห์ถูกจัดแจงให้นอนหงายลงบนเตียงกว้าง เขาบิดร่างกายด้วยความเสียวซ่านไปมา ถึงจะตื่นกลัวต่อสิ่งที่เดาได้ว่าอาจจะเกิดขึ้น แต่ดวงตาคมซึ่งเต็มไปด้วยความหลงใหลของแดริลทำให้เด็กหนุ่มแย้มยิ้มโดยไม่รู้ตัว
“บางครั้งข้าก็คิดว่าเจ้าเป็นปีศาจร้ายมากกว่าเทวทูต”
คนตำหนิจรดริมฝีปากลงบนเครื่องเพศซึ่งชูชันยั่วตา เอลียาห์ถูกแดริลประทับจูบลงที่ตรงนั้นเน้นย้ำหลายครั้งก่อนจะดูดกลืน
“อื้อ…”
โพรงปากอุ่นร้อนทำให้รู้สึกดี จนร่างกายเหยียดเกร็ง ถึงแม้ความผิดชอบชั่วดีจะยังย้ำเตือนอยู่บ้าง แต่ราคะอันร้อนแรงซึ่งได้สัมผัส เอลียาห์พร้อมใจจะลืมเลือนเรื่องที่คนตรงหน้ามีฐานะเป็นพี่ชายต่างมารดา
“ดี ดีเหลือเกิน”
ครางอย่างสุขสมและจมอยู่กับความสุขทางกาย เอลียาห์พึงใจจนไม่แม้แต่ปฏิเสธคำขอร่วมรักแบบคนเพศเดียวกันของแดริล
“ได้จริงนะหรือน้องเอลียาห์”
แดริลถามขณะขยับมือปรนเปรอไม่หยุด เด็กหนุ่มทั้งส่ายหน้าและผงกหัว กษัตริย์หนุ่มจึงตีความเข้าข้างตัวเองด้วยไม่อาจอดทนไปได้มากกว่านี้
“ข้าจะไม่ทำให้เจ้าเจ็บ”
เอลียาห์ที่รู้สึกดีจนเคลิบเคลิ้มถึงจะรู้ว่าแดริลตะโกนเรียกผู้อื่นเข้ามาในห้อง แต่ก็ไม่มีสติพอจะเอ่ยต่อว่า ดวงตากลมมองดูผู้เป็นพี่ชายรับน้ำมันหอมจากข้ารับใช้มาก่อนจะเทลงบนฝ่ามือชโลมมันลงมายังช่องทางเร้นลับของตน
“อึก…อ้า…”
ปลายนิ้วเรียวยาวถูกดันเข้ามาสำรวจในช่องทางคับแคบ ถึงจะอึดอัด แต่พอนานเข้า เอลียาห์ก็รู้สึกดีจนแทบคลั่ง
“อื้อ…ทำไมถึงดีอย่างนี้นะ”
เป็นความรู้สึกที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน มันเป็นความรู้สึกที่ดีเสียยิ่งกว่าการถูกใช้มือกับเครื่องเพศซึ่งแดริลทำให้เขาเสียอีก เอลียาห์พอรู้มาบ้างว่าการร่วมรักเป็นเช่นไรทั้งแบบปกติและแบบคนรักเพศเดียวกัน แต่เขายังไม่เคยลองกับผู้หญิงซักครั้ง จึงสงสัยขึ้นมาครามครัน มันจะดีเท่ากับที่โดนทำอยู่ตอนนี้หรือไม่
ไม่อย่างนี้มันผิด แดริลนอกจากจะเป็นผู้ชายเหมือนเขา ยังเป็นพี่ชายร่วมสายเลือด ทำแบบนี้ไม่ถูกต้องเลย
“อ…อย่า…”
ถึงจะห้ามก็สายไปเสียแล้ว แดริลฝังกายจมเข้ามาในร่างจนมิดด้าม แถมยังขยับสอดประสานเนิบนาบทันทีที่เข้าไปจนหมดในเวลาต่อมา
“อ้า…หยุด…”
“หยุดไม่ได้แล้วน้องเอลียาห์ ถ้าให้หยุดตอนนี้ ให้ข้าตายเสียยังดีกว่า”
แดริลกระซิบเสียงแหบพร่า เอลียาห์ร้องไห้ออกมาระหว่างการทำรักอันเร่าร้อน เด็กหนุ่มไม่แน่ใจแล้วว่า น้ำตาซึ่งไหลออกมา มันมาจากความสุขสมที่ถูกอัดจนล้นปรี่ หรือมาจากความเสียใจในความผิดบาปของตนกับแดริลกันแน่
มีต่อค่ะ