The rainbow project เรื่องสั้น 7 เรื่อง 7 คนเขียน (อัพให้ใหม่ง่ายกว่าทำลิ้งค์)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: The rainbow project เรื่องสั้น 7 เรื่อง 7 คนเขียน (อัพให้ใหม่ง่ายกว่าทำลิ้งค์)  (อ่าน 263322 ครั้ง)

runynam

  • บุคคลทั่วไป
เฮ้ยยย :เฮ้อ:
นี่หรือคือปลายฟ้า.....
สงสารสายลมจัง ไอนั้นก็ไม่ดี ไอนี่ก็ไม่ได้ เฮ้ย โดนทั้งขึ้นทั้งร่อง
จะรอตอนต่อไปค่ะ
 :กอด1: :L2:

runynam

  • บุคคลทั่วไป
 :call: :call:
เข้ามารออ่านค่ะ...
เมื่อไหร่จะมาลง :z2:

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
พรุ่งนี้ไงคะ 555

Chinnosuke

  • บุคคลทั่วไป
 :mc4: :mc4: :mc4:
ดีใจสุดๆๆหาเจอแล้วพี่อิ๊ก
ชอบสุดๆๆๆๆๆแนวนี้
รักพี่อิ๊กที่สุดๆๆๆ :จุ๊บๆ: :จุ๊บๆ:

runynam

  • บุคคลทั่วไป
เฮือก o22
อ่านอีกรอบตอนกินข้าว อร่อยน่าดูชม.. :try2:
รอตอนต่อไปค่ะ
 :L2: :L2:

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
เรื่องในวงการปกติก็ซับซ้อน แบบนี้ยิ่งวุ่นวายไปกันใหญ่สินะ
คนรักก็มาก คนเกลียดก็มากตาม

ชอบบุคลิกของไนท์ มันแปลกดี อ่านแล้วลุ้นว่าต่อไปจะมีปฏิกริยาให้เห็นยังไงบ้าง

สายลมห่มฟ้า

  • บุคคลทั่วไป
ริษยากับอ่อนไหว  สำหรับปลายฟ้าแล้วมันใกล้กันนิดเดียว

คุณ iforgive เป็นคนที่เข้าใจปล้ายฟ้ามากที่สุดเลยครับ  :กอด1:

แต่ว่ามีการข่มขู่กันด้วยอะ  :laugh:

ถ้าโดนแรงเทียนเล่นงานท่าจะแย่

โลกมายายังไงก็คือมายาหาใช่จริงไม่นะครับ ดังนั้นจึงมีอะไรให้เราค้นหาอีกเยอะเลย

มาเอาใจช่วยสายลมกันเถอะครับ ว่าจะเข้าไปอยู่ในใจปลายฟ้าได้อย่างไร  :L2:

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
อุทานไม่ถูก
สงสารหรั่งใจจะขาด  กลัวก็กลัว

ออฟไลน์ ♠♥♦♣

  • ex-ChCh13
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1612
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-7
เข้ามาส่องว่าถึงไหนแล้ว หุๆๆ

hahn

  • บุคคลทั่วไป
สงสารหน่อง เพิ่งเจอกันได้ไม่นาน ก็ต้องจากกันอีกแล้ว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ rellachulla

  • iiRita♥World Behind My Wall♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1606
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-8
โอ๊ะ เอามือทาบอก
คนแบบทาน สมควรแล้วหรือที่จะมาฟาดฟันแย่งกัน
แลดูเป็นคนเหลาะแหละ ไม่มั่นคง
แต่ก้อนะ ทำให้เกิดเป็นเรื่องราวต่างๆ ตามมา
เค้าเดาเอานะ ว่าสุดท้าย ก้อไม่มีใครได้กับใคร ฮาๆๆๆ

MonarcH

  • บุคคลทั่วไป
เข้ามาบอกว่า นี่ไม่แรงนะ อิอิ เบาที่สุด มันมียิ่งกว่านี้อีก แอ๊กกก

เดี๋ยวตอนต่อไป บาร์เค้าจะแรงมั่ง  :laugh:

สายลมห่มฟ้า

  • บุคคลทั่วไป
เรื่องนี้เหมือนลงขันตกลงกันแล้วนะว่าใครเขียน

แต่ระวังนักเขียนเขาช่วยกันแปลงสำนวนนะครับ

แต่ไม่แปลงเพศแปลงสีแน่นอน  :laugh:

ออฟไลน์ rellachulla

  • iiRita♥World Behind My Wall♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1606
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-8
คุณหนู อยากรู้ อยากเห็นชิมิ
เค้ารู้น๊าา เด็กน้อย คิคิ

สายลมห่มฟ้า

  • บุคคลทั่วไป


ตอนที่ 4 ท้องฟ้าสีน้ำเงิน



                “พี่สายลม พี่สายลมครับ”
                เสียงนุ่มๆ ปลุกเขาตื่นขึ้นมาพร้อมกับแสงแดดยามเช้าที่สดใส สายลมขยี้ตาเล็กน้อยมองใบหน้าที่ยิ้มละมุนมาให้
                “ฟ้าตื่นแล้วหรือครับ แล้วนี่กี่โมงแล้ว”
                “จะแปดโมงแล้วครับ พี่รีบไปแต่งตัวเถอะเดี๋ยวสาย แต่ทำไมพี่มานอนอยู่ตรงนี้ล่ะครับ”
                “ก็พี่รอฟ้าออกมานะสิ พี่อยากจะขอโทษเรื่องเมื่อคืน”
                “เรื่องนั้นผมต่างหากที่ต้องขอโทษพี่ ผมใช้แต่อารมณ์มากไปหน่อยพี่สายลมคงไม่โกรธผมนะครับ” ปลายฟ้าทำหน้าสำนึกผิด พร้อมกับนั่งลงข้าง ๆ
                “พี่ไม่โกรธหรอกครับ แค่ฟ้าเข้าใจว่าพี่หวังดีกับฟ้าแค่นี้ก็พอแล้ว แต่ว่าให้พี่รีบแต่งตัวจะไปไหนหรือครับ วันนี้คิวฟ้าว่างทั้งวันนี่นา” สายลมคลายความกังวลลงเมื่อรู้ว่าปลายฟ้ากลับเป็นปกติแล้ว
   “ไปทะเลไงครับ พี่สายลมพาฟ้าไปหน่อยนะครับ ไม่ได้ไปนานแล้ว” ปลายฟ้าจับมือสายลมเพื่อขอร้อง
“ไม่ได้นะครับ ฟ้าต้องเก็บตัวก่อนช่วงนี้ เดี๋ยวพรุ่งนี้เข้าฉากวันแรกจะดูไม่ดีนะครับ”
“นะครับพี่สายลม ไปทะเลใกล้ ๆ ก็ได้ตอนเย็นเราก็กลับนะครับ” ปลายฟ้าบีบมือสายลมเบา ๆ เป็นการขอร้อง
สายลมรู้สึกร้อนวูบจากมือที่ได้รับการสัมผัสจากคนที่แอบรัก เขารู้ว่าปลายฟ้าชอบไปทะเลมากที่สุด ปลายฟ้าชอบนั่งมองท้องฟ้าสีน้ำเงินใส กับท้องทะเลสีน้ำเงินเข้มหลังจากกลับมาจากทะเลปลายฟ้าจะดูมีความสุขทุกครั้ง
“แต่ว่า.....” นิ้วชี้กับนิ้วกลางอันนุ่มนิ่มของปลายฟ้าแต่เข้าที่ปากของสายลมจนเขาไม่อาจพูดต่อได้
“ไม่แต่นะครับพี่สายลม พาผมไปนะครับแล้วผมสัญญาว่าจะตั้งใจทำงานมากกว่านี้” ใบหน้าคนขอร้องยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อคิดว่าตัวเองกำลังจะได้อย่างที่ขอ
สายลมรู้สึกหน้าเริ่มร้อนผ่าวขึ้นมาทีละน้อย หน้าของสายลมที่อยู่ใกล้เขาเพียงไม่กี่นิ้ว นิ้วมือที่สัมผัสอยู่ที่ริมฝีปาก และรอยยิ้มที่ยิ้มออกมาอย่างจริงใจ ถ้าเขาปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป ปลายฟ้าอาจสังเกตออกก็ได้ว่าเขาคิดยังไงกับปลายฟ้า
“ครับ ครับ ไปก็ได้ แต่ว่ารีบไปรีบกลับนะครับ” สายลมจับมือปลายฟ้าออก แล้วรับครับก่อนที่จะควบคุมตัวเองต่อไปไม่ได้
“เย่!! พี่สายลมใจดีที่สุดเลยครับ”
ปลายฟ้าสวมกอดสายลมไว้ด้วยความดีใจ สายลมยกมือขึ้นอย่างช้า ๆ หมายจะกอดตอบ
‘ไม่สิทำแบบนี้ไม่ได้’
เสียงในใจของสายลมร้องเตือนตัวเอง เขารีบเปลี่ยนท่าทีจากที่จะกอดเป็นจับตัวปลายฟ้าออก
“พี่ไปแต่งตัวก่อนนะครับ เราจะได้รีบไปกันเลย” สายลงรีบลุกเดินเข้าห้องไปอย่างรวดเร็ว เพื่อหลบใบหน้าที่กำลังร้อนผ่าวจนเป็นสีแดงระเรื่อไว้ไม่ให้ปลายฟ้าเห็น


สายลมขับรถพาปลายฟ้ามาทะเลอย่างที่สัญญาไว้ ทะเลจังหวัดระยองเป็นเป้าหมายที่ใกล้ที่สุด และหาที่เงียบ ๆ ผู้คนไม่พลุกพล่านได้ง่ายที่สุด สายลมจอดรถแถว ๆ บริเวณหาดสวนสนที่ร่มรื่น วันนี้เป็นวันธรรมดาทำให้บริเวณที่จอดรถไม่มีคนอยู่เลย
ปลายฟ้าถอดรองเท้าไว้ในรถ ก่อนที่จะเดินเท้าเปล่าย่ำทรายเม็ดละเอียดลงไปชายทะเล วันนี้ท้องฟ้าสดใสมองไปเห็นท้องฟ้าเป็นสีน้ำเงินกว้าง แต้มลายด้วยก้อนเมฆสีขาวราวกับปุยฝ้ายลอยอยู่ แสงอาทิตย์สาดส่องกระทบผืนน้ำทะเลสีน้ำเงินเข้ม สะท้อนแสงวิบวับสวยงามอย่างลงตัว สายลมเย็นพัดขึ้นมาจากชายทะเลพร้อมกับกลิ่นไอของเกลือจาง ๆ ทำให้คลายความร้อนลงไปมาก
สายลมยืนมองภาพเด็กหนุ่มวัยยี่สิบปี ที่กำลังวิ่งเล่นอยู่ที่ชายทะเลอย่างมีความสุข เด็กหนุ่มผิวขาวหน้าตาดี สวมเสื้อกล้ามสีขาว คลุมด้วยเสื้อเชิ้ตแขนสั้นลายตารางสีฟ้าจาง ๆ เนื้อผ้าบางเบา กับกางเกงขาสั้นสีดำ ใบหน้าตอนนี้มีความสุขอย่างที่ไร้มารยาแอบแฝง
เด็กหนุ่มด้วยวัยเพียงเท่านี้กลับเจอเรื่องราวร้าย ๆ มามากมาย พอผ่านพ้นเรื่องราวเหล่านั้นมาได้ก็ต้องทำงานเพื่อเลี้ยงตัวเอง ชีวิตในวัยรุ่นแทบจะไม่ได้ใช้ออกมาเลยเมื่อเข้าวงการ ปลายฟ้าเกือบจะไม่เคยได้เดินเที่ยวเหมือนที่วัยรุ่นคนอื่น ๆ ได้เดิน เขาไม่เคยได้ดูหนังในโรงเหมือนที่คนอื่น ๆ ได้ดู ทำอะไรทุกอย่างต้องคอยระวังตัวไม่ให้เกิดข่าวไม่ดีขึ้น ทุกอย่างต้องทำตามที่บริษัทสั่งมา
คงมีแต่ตอนที่มาทะเลนี่เท่านั้น ที่เขาสามารถปลดปล่อยความเป็นตัวของตัวเองออกมาได้อย่างเต็มที่ ใบหน้าที่แสดงออกถึงความสนุกสนาน ความสุข ในแบบที่จริงใจไม่เหมือนทุกครั้งมักจะได้เห็นทุกครั้งที่เขาอยู่ทะเล
“พี่สายลมครับ มานี่หน่อยสิครับ” ปลายฟ้าตะโกนเรียกสายลม ทำให้เขาหลุดจากห้วงความคิด
“ครับ ฟ้าเป็นอะไรหรือเปล่า” สายลมรีบวิ่งมาหาที่ชายทะเล
“นี่แหนะ!!!” น้ำทะเลถูกสองมือเรียวยาววักสาดเข้าใส่คนที่วิ่งมาอย่างรวดเร็ว
“ฟ้าครับ อย่าเล่นแบบนี้สิครับ” สายลมพยายามหลบน้ำที่สาดเข้ามา
“มาทะเลก็ต้องเล่นสิครับ ไปยืนอยู่แบบนั้นทำไม นี่แหนะ!!” ปลายฟ้าไม่หยุดวักนักเข้าใส่สายลม
“พอแล้วฟ้า พี่เปียกหมดแล้ว” สายลมหลบไปบอกไป แต่ตามตัวก็เริ่มเปียกมากขึ้น
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า” มีแต่เสียงหัวเราะอย่างชอบใจกลับมาเท่านั้น แต่มือยังคงไม่หยุด
“ถ้าไม่หยุดพี่ไม่ยอมแล้วนะฟ้า” สายลมเลิกหลบกลับก้มตัวใช้สองมือวักน้ำใส่ปลายฟ้ากลับคืน
“พี่สายลมเล่นแบนี้หรือครับ” ปลายฟ้าเปียกเพราะโดนน้ำสาดคืนหยุดแล้วยิ้มอย่างมีแผน
“ก็ฟ้าไม่หยุดก่อนนะครับ นี่เอาไปอีกที” สายลมวักน้ำใส่ปลายฟ้าจนเปียกทั้งตัวแล้วคราวนี้
“ได้เลยครับ เล่นแบบนี้ใช่ไหม” ปลายฟ้าวิ่งเข้าหาสายลม ก่อนอ้อมกระโดดขึ้นไปขี่หลังสายลมไว้
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า พี่สายลมเป็นม้าให้ผมแล้ว วิ่งไปเลยครับ” ปลายฟ้าออกคำสั่ง
สายลมวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว ปลายฟ้าโน้มตัวกอดคอไว้จนแน่น สายลมวิ่งวนไปมาในน้ำอยู่หลายรอบ
ตูม!!
เขาทิ้งตัวลงผืนน้ำทะเล ทั้งสองคนจมลงไปในน้ำก่อนลุกขึ้นมานั่งมองหน้ากัน ปลายฟ้าผมเปียกน้ำลู่ติดหัวจนมาปิดตาทั้งสองข้างไว้ สายลมเองก็แทบไม่ต่างกันเพียงแต่เพราะผมสั้นกว่า
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า” ทั้งสองคนหัวเราะออกมาพร้อมกัน เมื่อต่างคนต่างมองหน้ากันเอง

หลังจากที่เล่นกันต่อสักพักใหญ่ ทั้งสองคนก็ขึ้นมานั่งพักใต้ต้นสนขนาดใหญ่ ร่มเงาของต้นสนให้บรรยากาศร่มรื่นขึ้นไปอีก
“เดี๋ยวพี่ไปซื่อน้ำกับของกินมาให้นะครับ” สายลมพูดหลังจากที่ตัวเริ่มแห้งจากการนั่งตากลมมาครู่ใหญ่
“ครับ ผมขอไอติมด้วยนะ” ปลายฟ้ายิ้มให้ก่อนหันกลับไปนั่งมองท้องฟ้าและน้ำทะเลอีกครั้ง


สายลมเลือกซื้อน้ำและขนม เขาเลือกเอาเฉพาะอย่างที่ปลายฟ้าชอบกินเท่านั้น
“ไอติม ไอติม” สายลมมองหาตู้ไอศกรีม
“ป้าครับ ไม่มีไอติมขายเหรอครับ” สายลมถามเมื่อมองจนทั่วแล้วยังไม่เจอสิ่งที่ต้องการ
“ร้านป้าไม่มีหรอกจ๊ะ คนมาน้อยแถวนี้ลงไว้ก็ขายไม่ค่อยออก ป้าเลยคืนตู่เขาไปแล้วจ๊ะ” เจ้าของร้านบอก
“แล้วแถวนี้ร้านไหนมีไหมครับป้า”
“ก็ต้องเลยไปหน่อยนะพ่อหนุ่ม แต่เดินไปคงไม่ไหวหรอกมั้งป้าว่า”
“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมจะลองเดินดู มันไปทางไหนครับป้า”
“เดินขึ้นไปทางนั้นเลยจ๊ะ แต่มันไกลอยู่นะ ป้าว่าเอาจักรยานป้าปั่นไปดีกว่านะ”
“ป้าไม่กลัวผมขโมยจักรยานหรือครับ”
“จะเอาก็เอาไปเถอะ มันจะขายได้กี่ตังค์กันเชียว แล้วหน้าตาอย่างพ่อหนุ่มบ่งบอกว่าใช่โจรที่ไหนกัน” ป้ายิ้มให้อย่าเป็นมิตรและมั่นใจในสายตาตัวเองที่มองสายลมแบบนั้น
“ขอบคุณครับ งั้นผมรบกวนฝากของไว้ก่อนนะครับ”
สายลมเดินออกมานอกร้านเห็นจักรยานคันเก่า สีลอกสนิมเกาะตามซี่ลาดล้อทั้งสองข้าง เบาะขาดจนเห็นเนื้อข้างในว่าทำจากวัสดุอะไร แต่ถึงจะเก่าก็ยังดีกว่าต้องเดินเอาแล้วกัน สายลมปั่นจักรยานไปตามทางที่ป้าเจ้าของร้านบอก


สายลมหายไปพักใหญ่ก็กลับมาด้วยสภาพเหงื่อโทรมกาย เสื้อเชิ้ตสีขาวตัวบางชุ่มไปตัวเหงื่อ เพราะร้านที่ขายไอศกรีมอยู่ห่างไปหลายกิโลได้ จนเขาแอบคิดในใจว่าทำไมไม่เอารถยนต์ออกมาตั้งแต่แรก พอถึงร้านก็รีบเข้าไปเอาของพร้อมกับขอบคุณป้าเจ้าของร้าน ก่อนจะรีบวิ่งกลับมายังที่ปลายฟ้ารออยู่
สายลมถือไอศกรีมมาอย่างดีใจ เพราะมันคงทำให้ปลายฟ้ายิ้มออกมาได้อีกครั้ง แต่พอกลับมาถึงที่ปลายฟ้าไม่ได้นั่งรออยู่ตรงนั้นแล้ว หรือว่าจะลงไปเล่นน้ำอีกรอบ สายลมรีบมองหาไปตามชายทะเล ก็ว่างเปล่าไร้ร่างชองเด็กหนุ่มร่างสูงหน้าตาดีอยู่ในบริเวณนั้น หรือว่าเกิดเรื่องขึ้นกับปลายฟ้า คงเพราะเขาปล่อยให้ปลายฟ้าอยู่คนเดียวนานเกินไป
ความร้อนใจพุ่งพล่านขึ้นมาทันที เขารีบเดินหาบริเวณรอบ ๆ อย่างรวดเร็ว เดินหาจนทั่วริมชายหาดแล้วก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะเจอปลายฟ้า หรืออาจเห็นว่านานแล้วไปรอที่รถก็ได้ เมื่อคิดได้ก็รีบกลับไปที่รถด้วยความร้อนใจ

เมื่อเดินมาถึงมองเห็นเงาคนลาง ๆ นั่งอยู่ในรถ สายลมเริ่มคลายความร้อนใจลงไปบ้าง แต่เมื่อเดินเข้าไปใกล้ก็ทำให้เขาแปลกใจ เพราะเขาเห็นเงาอีกคนอยู่ในรถด้วย เงาอีกร่างกำลังเคลื่อนที่เข้าหาอีกร่างช้า ๆ สายลมกำมือจนแน่นกับภาพที่เห็นจนไอศกรีมในมือเละ สองกำมือบีบกำแน่นจนเส้นเลือดที่หลังมือปูดโปนออกมา
ความรู้สึกเจ็บแปรบเกิดขึ้นที่บริเวณหน้าอกด้านซ้ายอย่างกะทันหัน ความรู้สึกเหมือนโดนเข็มเล่มเล็ก ๆ นับหมื่นนับพันทิ่มแทงมันอยู่ ก่อนที่เข็มเหล่านั้นจะเคลื่อนที่ไปตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ความเจ็บปวดจากภาพที่ได้เห็มมันยากเกินกว่าที่จะบรรยายได้ ภาพของคนที่ตัวเองแอบรักกำลังถูกคนอื่นจูบอยู่ตรงหน้า
“ปลายฟ้ามาอยู่นี่เองหรือครับ” สายลมสงบสติอารมณ์แล้วเปร่งเสียงที่สั่นเล็กน้อยออกมาทัก เพื่อหยุดการกระทำของคนทั้งสอง
ทั้งสองคนรีบขยับตัวออกจากันอย่างรวดเร็ว
“พี่สายลม ตอนไหนครับผมนั่งรอตั้งนานได้อะไรมาบ้าง” ปลายฟ้าหันมาทักตอบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
สายลมหันไปมองหน้าอีกคนให้แน่ใจว่าเป็นใคร ก่อนหันกลับมาตอบคำถาม
“เพิ่งมาถึงก็เรียกปลายฟ้าเลยนี่แหละ แล้วคุณก้องมาได้ยังไงครับ” สายลมทักเมื่อรู้ว่าเป็นใคร
“สวัสดีครับคุณสายลม พอดีปลายฟ้าเขาโทรมาบอกตั้งแต่เช้า ผมเพิ่งว่างก็เลยเพิ่งตามมาครับ” ก้องเกียรติ ดารารุ่นพี่ที่กำลังตกเป็นข่าวยิ้มให้
“อ๋อ ครับ แต่ว่าอีกสักพักพวกเราก็คงกลับแล้ว เพราะพรุ่งนี้ปลายฟ้าต้องไปถ่ายหนังแต่เช้า” สายลมพยายามทำตัวให้เป็นปกติ ทั้งที่ยังรู้สึกเจ็บแปลก ๆ ที่หน้าอกข้างซ้ายอยู่ตลอดเวลา
“ครับไม่เป็นไรครับ ผมได้เจอปลายฟ้าแค่นี้ก็หายคิดถึงไปเยอะแล้ว” ก้องเกียรติไม่ลืมหยอดคำหวานให้คนที่นั่งข้าง ๆ
“พี่ก้องก็ไม่ต้องมาหวานให้ผมเลย คนอย่างพี่มีคนอื่นให้คิดถึงเยอะแยะไป” ถึงปากต่อทำเหมือนต่อว่าแต่ปลายฟ้าก็หน้าแดงระเรื่อเพราะความอาย
“เอาเถอะครับ ผมให้เวลาอีก 20 นาที แล้วผมจะกลับมาใหม่” สายลมกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่กว่าจะพูดประโยคนี้ออกมาได้
“นี่ขนมที่พี่ไปซื้อมา ปลายฟ้าเอาไปกินกับคุณก้องแล้วกันนะ” สายลมส่งเพียงถุงขนมให้ โดยซ่อนมือที่กำไอศกรีมจนเละไว้ข้างหลัง
“ขอบคุณครับ” ปลายฟ้ายิ้มให้


สายลมเดินกลับออกมาที่ชายทะเลด้วยอาการชาด้านไปทั้งตัว ภาพที่เขาเห็นมันยากเกินกว่าที่จะตั้งรับได้ในตอนนี้ มือยังกำไอศกรีมที่ตั้งใจหาซื้อไว้แน่น หลังจากคิดว่าปลายฟ้าไม่มีทางเห็นแล้วแน่นอน สายลมวิ่งลงทะเลไปอย่างคนบ้าคลั่ง
‘ว๊ากกกกกกกกกกก ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก’
สายลมก้มหน้าดำน้ำลงไปพร้อมกับตะโกนออกมาสุดเสียง นี่เป็นทางเดียวที่เขาจะระบายความอึดอัดที่มีอยู่ทั้งหมดตอนนี้ออกมาได้ สองมือต่อยลงผืนทรายใต้น้ำจนสุดแรงที่มี ภาพที่เห็นไม่ต่างจากคนสติไม่ดีที่กำลังทะเลาะกับท้องทะเลสีน้ำเงินอันกว้างใหญ่ สายลมเงยหน้าขึ้นมาหายใจเพียงเล็กน้อยก่อนจะทำแบบเดิมอีกครั้ง
เวลาผ่านไปเพียงชั่วครู่ แต่กับสายลมเหมือนเวลาผ่านมาหลายชั่วโมง เขากลับขึ้นมานั่งมองท้องฟ้ายามเย็น ที่พระอาทิตย์กำลังจะลับขอบผืนน้ำทะเลสีน้ำเงินไป แสงสีแดงเรื่อสาดกลืนกินน้ำทะเลสีน้ำเงินตรงปลายฟ้าเป็นวงกว้าง ถึงภาพที่เห็นตรงหน้าจะดูสวยงามแค่ไหน แต่ความรู้สึกเขากลับไม่ดีขึ้นมาเลย
“ปลายฟ้า พี่อยากเป็นดั่งดวงอาทิตย์จริง ๆ เพราะอย่างน้อยมันก็ยังได้สัมผัสกับปลายฟ้า แม้จะเพียงแค่ช่วงเวลาเดียวก็ตาม” สายลมพูดกับตัวเองกับภาพที่เห็นตรงหน้า ความคิดนี้ทำให้เขาสงบสติอารมณ์ทั้งหมดลงได้ ก่อนที่จะเดินกลับไปหาปลายฟ้าที่รถ

สายลมขับรถพาปลายฟ้ากลับที่พัก ปลายฟ้านั่งหลับอย่างสบายใจอยู่ด้านข้าง ใบหน้ายามหลับยังคงดูไร้เดียงสาเหมือนเดิม แต่ตอนนี้เจือนไว้ด้วยรอยยิ้มเล็ก ๆ
“วันนี้คงมีความสุขมากสินะฟ้า พี่อยากให้ฟ้ามีความสุขแบบนี้ทุกวันจริง ๆ” สายลมใช้มือเสยผมที่ตกปิดหน้าปลายฟ้าออกอย่างแผ่วเบา


========> โปรดติดตามตอนต่อไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-05-2011 19:22:57 โดย สายลมห่มฟ้า »

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
ความเหงากับความเดียวดายถูกสายลมโอบเอาไว้เพียงลำพัง เฮ้อ!

PrinceTae

  • บุคคลทั่วไป
 :-[ คุณหนูเป็นเด็กที่ชอบศึกษาเรียนรู้
พบข้อสงสัยมาก็ต้องเอามาตั้งสมมุติฐาน รวมข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูลโดยเอามาเปรียบเทียบ
แล้วก็สรุปผลการปฏิบัติ

แรงเทียน

  • บุคคลทั่วไป
                       

ตอนที่ ๓

“ทาน เย็นนี้กินข้าวกับเทียนไหม”
เทียนบุญยกโทรศัพท์หาธรรมทานตอนบ่ายแก่ๆ นับจากที่ปะหน้ากับมณีอารียาในวันนั้นแล้วไม่ได้เจอเขาอีกเลย
“ได้เทียน ที่ไหนล่ะ”
เทียนบุญบอกสถานที่ไปแล้ววางสาย
“กลับมาจากโน่นแทนที่จะช่วยพ่อทำงานนะ ไอ้นิตยาสารนั่นมันจ้างแกเท่าไหร่เทียนพ่อจะให้สามเท่าเลย”
คุณเทียนทิพย์เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าบุตรชายวางสายจากโทรศัพท์
“แหมพ่อ เทียนขอทำตามที่เรียนมาก่อนสิ ไม่นานหรอก ธุรกิจของพ่อสักวันมันก็ต้องเป็นของเทียนอยู่แล้วนี่ ไม่ว่าจะยังไง”
ปากพูดแต่สายตาเหลือบไปมองหญิงวัยกลางคนที่ใบหน้าผุดผาดสะสวย ถ้าให้เดาอายุของเธอคงเป็นไปได้ลำบากแต่ใบหน้างามนั้นกลับก้มมองลงที่พื้นหลบสายตาวาวที่จับจ้องอยู่
“เออน่า แต่ตอนนี้พ่อก็เหนื่อยนะ อย่าให้รอนานล่ะ เดี๋ยวพ่อยกให้น้องมันหมดเลยนะ”
“น้องไหน พ่อลืมไปแล้วเหรอว่าพ่อมีเทียนเป็นลูกคนเดียวนะ เทียนไม่มีน้อง”
“เทียน เอาอีกแล้วนะ”
เสียงของคุณเทียนทิพย์ปรามเพราะน้ำเสียงของเทียนบุญกระแทกกระทั้นสายตายังจิกจ้องมองผู้หญิงคนนั้นอยู่ไม่วางตา
“ตามนั้นล่ะพ่อ เทียนไปอาบน้ำนะ มีนัดกับทาน”
“อย่าลืมนะเรื่องที่จะมาทำงานกับพ่อน่ะ”
เทียนบุญไม่ตอบสะบัดหน้าแล้วเดินจะขึ้นห้องของตน คุณเทียนทิพย์บิดาของเทียนบุญทำธุรกิจส่งออกขนาดใหญ่ หญิงวัยกลางคนที่นั่งก้มหน้าอยู่นั้นคือปาริฉัตร ภรรยาคนที่สองของคุณเทียนทิพย์ เธอตบแต่งกับเขาตอนที่เทียนบุญกำลังเรียนอยู่ปีสองที่อังกฤษเป็นละครเรื่องเดิมที่ฉายวนซ้ำแล้วซ้ำอีกเรื่องเกี่ยวกับแม่เลี้ยงลูกเลี้ยง ไม่มีวันจบ เช่นเดียวกันเทียนบุญไม่เคยมองว่าหญิงคนนี้เป็นมารดา เธอไม่ได้รับเกียรตินั้น ปาริฉัตรมีบุตรติดมาด้วยคนหนึ่ง ทินกร ชายวันรุ่นที่กำลังเรียนอยู่แค่ชั้นมัธยมปลาย แต่ทว่าเทียนบุญไม่เคยพบหน้าคร่าตาของเขาแต่อย่างใด หลายครั้งหลายคราที่บิดาส่งรูปที่ไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆไปให้ แค่เปิดเมล์มาก็ลบทิ้งจนสิ้น เกลียดเข้าไส้
“มาหาใคร”
เทียนบุญเดินอ้อมไปหลังบ้านเพื่อคุยโทรศัพท์กับกริชเพื่อนรัก คุยไปเดินไปจนถึงหน้าบ้าน พอวางสายก็เดินดูต้นไม้หน้าบ้านอย่างสบายใจ เขาเอ่ยถามเด็กนักเรียนที่กำลังเดินเข้าประตูบ้านมา ท่าทางของเขาคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้เป็นอย่างดี
“นี่บ้านผม พี่ล่ะมาหาใคร”
“หึ ฉันควรจะถามเธอมากกว่านะ เข้าบ้านผิดหรือเปล่าน้อง เราเป็นใคร”
“นี่บ้านผม พี่นั่นล่ะเป็นใคร”
เทียนบุญนิ่งมองตั้งแต่หัวจรดเท้า หน้าตาของเขาดูหล่อเหลาสมวัย ตัวสูงเกือบเท่าๆกันกับเทียนบุญ
“อ้อ เข้าใจแล้ว เป็นลูกปาริฉัตรเหรอ”
เทียนบุญแสยะยิ้มถามออกไปสายตายังไม่วางตาจากใบหน้าของเขา
“ใช่ นั่นแม่ผม”
“เหรอ แล้วเคยได้ยินคนชื่อเทียนไหม เทียนบุญน่ะ”
เขาอ้าปากค้างหน้าซีดลงทันที
“นี่พี่คือ”
“ใช่ ฉันนี่ล่ะเทียนบุญ หึหึ ท่าทางเรียนแพงนี่เรา เก่งเนอะแม่เราน่ะ”
“อย่ามาว่าแม่ผมนะ”
“ฉันจะไปมีสิทธิ์ว่าอะไรแม่เธอ กำลังขึ้นหม้อนี่ แล้วเจอผู้ใหญ่ไม่กราบทักทายเหรอ”
เลือกใช้คำว่ากราบเพราะเขาตั้งใจให้ทินกรทำเช่นนั้นจริงๆ ทินกรอึกอัก
“หวัดดีพี่”
“ฮึ คงได้แค่นี้สินะ”
“อะไรครับพี่”
“มารยาทน่ะ คงจะเต็มที่แล้วสินะ อย่าวุ่นวายนะถ้าอยากอยู่อย่างเป็นสุข ฉันจะทำให้รู้เองว่าต้นไม้ใหญ่บางทีมันก็ไม่ต้องการกาฝาก”
แสยะยิ้มให้แล้วเดินหนีไป ทินกรกัดฟันแน่น ปาริฉัตรเคยบอกเขาแล้วว่าเทียนบุญไม่ชอบเลยกับการเข้ามาในครอบครัวของคุณเทียนทิพย์ของคนทั้งสอง บอกเขาตลอดให้ระวังการเผชิญหน้า เพราะปาริฉัตรเองเคยเจอฤทธิ์เดชมาแล้ว ไม่อยากให้บุตรชายต้องเจออะไรที่ตนเองเคยเผชิญมา
“ทานคะเย็นนี้ว่างไหม ทานข้าวกับเมย์นะคะ เมย์มีเรื่องอยากจะปรึกษาหน่อย”
มณีอารียาเองก็ยกหูขึ้นโทรศัพท์หาชายที่เป็นที่ต้องการของใครๆ
“เอ่อ เมย์คือทานนัดกับเทียนเอาไว้แล้วน่ะ ขอโทษด้วยนะ”
ธรรมทานบอกออกมาตามความจริง ข้อดีของเขาก็คือเกรงใจคน แต่ข้อดีอันนี้มันดีจริงหรือ
“ค่ะ แล้วยังไงคะ เมย์ไปกินข้าวด้วยไม่ได้เหรอ ไหนบอกว่าเป็นแค่เพื่อนกันไงคะทาน”
มณีอารียานิ่งกัดฟันอยู่พักใหญ่จึงเอ่ยขึ้น สายตาจิกมองไปยังตู้เครื่องเพชรเหมือนว่าตู้นั้นได้ทำความขัดเคืองใจให้เธอ
“เอ่อ จะดีเหรอเมย์”
“ถ้างั้นเมย์ไม่ไปก็ได้ค่ะทาน ถ้าทานรังเกียจเมย์น่ะ”
“ไม่ใช่แบบนั้นจ๊ะเมย์ ได้ครับได้ แล้วเจอกันนะ”
ธรรมทานบอกสถานที่และเวลามา มณีอารียาพอวางสายก็กำโทรศัพท์แน่น
“ตกลงนี่จะเอาให้ได้ใช่ไหมอีกะเทย ได้ เราจะได้เห็นดีกัน”
มณีอารียากัดฟันแน่น พอจวนถึงเวลาก็บึ่งออกจากร้านไปยังที่นัดหมายทันที เธอไปถึงก่อนเวลานัดเลือกที่นั่งที่ลับตาคน สักพักเทียนบุญก็มาถึง มณีอารียาลุกขึ้นจากที่
“อ๊ะนี่แก อย่าบอกนะว่า”
เทียนบุญทำหน้าตาตกใจแต่ก็เก็บอาการเอาไว้ในทันท่วงที
“ตายจริง โลกมันกลมเสียจริงนะเธอ ไม่คิดว่าจะเจอที่นี่”
“นั่นสินะ มีที่อื่นให้ไปตั้งเยอะแยะ ทำไมไม่ไป”
“ก็เหมือนผู้ชายมีล้นโลกทำไมไม่ไปหาคนอื่น มายุ่งกับของที่เขามีเจ้าของแล้วทำไมเนอะ คนเรา หน้าหนาหน้าทนที่สุด”
“ฮึ ก็เพราะมันอร่อยไงเธอ เธอเองก็อยากกินจะแย่อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ อยากกินน่ะขอให้บอกนะ จะแบ่งให้ ของเหลือน่ะคงจะชอบ”
มณีอารียาถลึงตากัดฟันแน่น แววตามาดหมายให้ถึงกับความมลายหายสิ้นไปจากโลกนี้เลยทีเดียว
“อ้าว มากันแล้วเหรอ”
เสียงร้องทักมาแต่ไกลเพราะเห็นท่าทีของทั้งสองคนที่ยืนประจันหน้ากันอยู่ ธรรมทานรีบเดินเข้ามา
“ค่ะทาน เมย์เพิ่งถึงเมื่อครู่นี่เองจ๊ะ”
มณีอารียาทำเสียงหวานยิ้มให้แล้วเดินเข้าไปกอดแขนของธรรมทาน อีกคนยืนกำหมัดกัดฟันจนกรามปูนนูนออกมา
“ทาน นี่อะไร”
แผดเสียงขึ้นสูงสายตาก็เป็นไปในทำนองเดียวกัน
“เอ่อ”
“เมย์ขอทานมากินข้าวด้วยเองล่ะค่ะคุณเทียน รังเกียจไหมคะ คงไม่นะคะ”
มณีอารียายิ้มหวานให้เทียนบุญแต่ในแววตานั้นแฝงไปด้วยความสาแก่ใจ เธอถามเองตอบเองเทียนบุญจึงได้แต่กัดฟัน
“ไม่เลยครับคุณเมย์ ไม่รังเกียจเลย”
เน้นคำว่ารังเกียจ สายตาเย้ยหยันแต่ก็ฉาบไปด้วยรอยยิ้ม
“ไปสั่งอาหารกันเถอะ ทานหิวแล้วเมย์”
ธรรมทานดูเอาใจใส่มณีอารียาเป็นพิเศษ ซึ่งการแสดงออกเช่นนี้ทำให้ในใจของเทียนบุญเหมือนดังกำลังสุมไปด้วยเปลวเพลิง
“งานเป็นไงบ้างทาน”
เทียนบุญเอ่ยขึ้นยิ้มให้ มันหวานฉ่ำเป็นพิเศษ
“ก็ดีเทียน เคลียร์เอกสารอยู่ ที่บ้านทำไว้วุ่นวายไปหมด รับช่วงต่อนี่เหนื่อยเหมือนกันนะ
“แล้วน้องลลิตล่ะเป็นไงบ้าง ไปวันนั้นไม่ยักเจอ”
“ก็เหมือนเดิมมันนั่นล่ะ มันมีโลกส่วนตัวเราเองก็ไม่ได้คุยเท่าไหร่หรอก”
“ใช่ค่ะน้องริชดื้อเงียบนะคะทาน เหมือนทานเลยนะเมย์ว่า”
สายตามองไปที่เทียนบุญแล้วแสยะยิ้ม เทียนบุญตำหนิมณีอารียาออกมาทางสายตา
“แล้วงานของเทียนล่ะโอเคไหม”
“ก็ดี เนี่ยเทียนต้องเปิดตัวคอลั่มใหม่ เหนื่อยเหมือนกันเพราะเป็นงานแรก”
“ดีๆเทียน คอลั่มใหม่เหรอ เกี่ยวกับอะไร”
“ก็เกี่ยวกับซุบซิบคนในวงการน่ะทาน เราได้ปลายฟ้าดารานักแสดงที่เขาบอกว่าดังที่สุดในเมืองไทยในตอนนี้มาเปิดตัวคอลั่มใหม่ให้ด้วยนะ”
เอ่ยออกมาอย่างภาคภูมิใจ แต่คำพูดนี้ทำให้มณีอารียานิ่งสายตาครุ่นคิด ไม่นานก็ฉายยิ้มออกมา หลังจากนั้นเธอไม่กล่าวอะไรอีก
“วันนี้เลยไม่ได้ไปส่งเลย ขับรถมาเองกันทุกคน”
ธรรมทานเอ่ยขึ้นหลังจากเดินมาที่จอดรถ
“ไม่เป็นไรหรอกทาน เทียนว่าจะแวะไปหาเพื่อนน่ะ ยังไม่กลับ”
“ใช่ค่ะทานเมย์เองก็จะแวะกลับไปที่ร้านดูความเรียบร้อยหน่อย ทานกลับก่อนเถอะค่ะ วันนี้ขอบคุณนะคะทาน”
มณีอารียาเอยขึ้น ธรรมทานเดินขึ้นรถไปก่อนใครเพราะสองคนยังรอท่าทีกันอยู่
“หน้าหนานะคนบางคน เขาไม่ได้เชิญก็มา”
เทียนบุญเปิดฉากแล้วแสยะยิ้มออกมา
“ค่ะ ก็หนาพอๆกันล่ะค่ะ เพราะถ้าไม่หนาก็คงไม่มาวอแวคนที่เขามีเจ้าของอยู่แล้ว จริงไหมคะ”
“ใครแย่งใคร เลิกใช้ซะทีคำว่าแย่ง เพราะฉันมาก่อนเธออีกนะ”
“มาก่อนมาหลังไม่สำคัญหรอกค่ะหล่อน สำคัญที่ใครจะได้ไม่ใช่เหรอ”
เทียนบุญกัดฟันแน่น ถลึงตาใส่อย่างไม่ต้องมาแสร้งแกล้งทำเหมือนตอนอยู่ในร้าน
“ได้ อยากได้ก็มาแย่งเอา เราจะได้เห็นดีกัน”
“ค่ะ ก็ระวังตัวไว้หน่อยก็ดีนะคะ เคยผิดหวังอะไรมากๆไหมคะ คงจะไม่เคยสินะ เพราะคนที่มัวแต่เงยหน้ามองไปบนฟ้าน่ะคงไม่มองดูพื้นดิน เขาบอกว่าเวลาล้มเพราะสะดุดนี่เจ็บนะคะ”
“เธอเองก็เหมือนกันนั่นล่ะ เคยแห้วไหมล่ะ คนที่คิดว่าจะเป็นของตัวแต่ก็พลาดหวังไปน่ะ คิดๆเผื่อไว้ก็ดีนะ เวลาผิดหวังขึ้นมามันจะได้ไม่เจ็บมาก ไม่อยากซุบซิบในคอลั่มว่าสาวไฮโซอกเดาะคิดสั้นอะไรแบบนี้”
“หึหึ คงไม่ใช่คนอย่างมณีอารียาหรอกค่ะ แล้วจะได้รู้กัน”
มณีอารียาเดินสะบัดหน้าขึ้นรถไป เทียนบุญเองก็เม้มปากโกรธขึ้นมา ผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ ไม่เคยเจอ
“เหนื่อยไหมเมย์ ทำงานคนเดียวท่าทางจะเหนื่อย มานั่งนี่ก่อนลูก”
คุณมณีภัสสรเอ่ยขึ้น หญิงผู้เป็นประมุขใหญ่ของบ้าน แต่ตอนนี้เธอกำลังป่วยกระเสาะกระแสะด้วยโรคหัวใจที่รุมเร้า บ้านมีสองหลังที่นี่และที่โรงพยาบาลนั่นเอง
“นิดหน่อยค่ะม้า ม้าทานยาแล้วเหรอคะ”
“จ๊ะ ดูเครียดไปนะเมย์มีอะไรหรือเปล่าลูก”
สายตาของมารดาไม่มีผิด แต่การตอบของบุตรีไม่ควรจะตอบโดยตรงเพราะรู้ดีอยู่แก่ใจว่าคำตอบนี้มันจะเสียดใจมารดาเพียงใด
“ก็เรื่องงานเปิดตัวร้านใหม่นั่นล่ะค่ะม้า แต่ไม่มีอะไร เมย์แค่อยากให้มันออกมาดูดีที่สุดเท่านั้นเองเลยเครียดไปหน่อย”
มณีอารียายิ้มแห้งๆไม่อยากหมารดาของตนหนักใจในเรื่องที่สุมอยู่ในอก
“อย่าหักโหมมากนะลูก เหนื่อยก็พัก นี่ถ้าตาเจเรียนจบม้าจะให้ช่วยงานเราเต็มที่เลยนะ”
“แหมม้าคะ เจมันเพิ่งจะเรียนปีหนึ่งเองนะคะ กว่าเจจะจบร้านเมย์ก็อยู่ตัวพอดี”
“นั่น พูดถึงก็มาโน่นแล้ว ว่าไงพ่อตัวดี”
มกุฏโกเมน คือบุตรชายคนเล็กของคุณมณีภัสสร มกุฏโกเมนกำลังศึกษาอยู่มหาวิทยาลัยชื่อดังย่านรังสิตชั้นปีที่สอง
“อ้าวพี่เมย์ หวัดดีครับม้า เหนื่อยอ่ะวันนี้ วาดรูปทั้งวันเลย”
“บ่นนะเรา นี่ดูพี่สาวเราซิ ทำงานอยู่คนเดียวไม่บ่นสักคำ นี่ไปเรียนนั่งเรียนนะไม่ได้ยืน รีบเรียนให้จบแล้วออกมาช่วยพี่แกทำงาน”
“โหม้า ผมเรียนถาปัตย์นะ ไม่ได้เรียนขายเพชร”
มกุฏโกเมนทำเสียงล้อเลียนแล้วหัวเราะเข้าไปหยอกล้อมารดา
“นั่นไงดูสิเมย์น้องชายเราน่ะมันหาทางไปจนได้ คุยกันเองก็แล้วกัน แม่ไม่อยากจะยุ่งแล้ว สร้างไว้ให้เยอะแล้วสานต่อเอง ไม่สานต่อก็เอาไปบริจาคเขาให้หมด”
“โหยม้าอ่ะ ใครจะกล้าเนอะพี่เมย์เนอะ”
“นี่เจ อาทิตย์หน้าน่ะ วันศุกร์ว่างไหมพี่อยากหเรามาช่วยงานเปิดตัวร้าน”
“ต้องดูก่อนนะพี่ กี่โมงล่ะ”
“เจก็ไปตั้งแต่บ่ายๆนั่นล่ะ มีเพื่อนอยากรับงานพิเศษไหม พี่จะจ้าง”
“งั้นโอเคเลย ฮ่าๆ”
มกุฏโกเมนคือความคาดหวังของคุณมณีภัสสรตามความคิดของครอบครัวคนจีนที่ลูกชายต้องเป็นใหญ่ในบ้าน เขาเองก็ทำตัวดีมาโดยตลอดไม่เคยนอกลู่นอกทาง เด็กหนุ่มอายุ ๑๙ ปีกับภาระหน้าที่ที่ตั้งตระหง่านรออยู่เบื้องหน้า
“นะคะทาน ช่วยเมย์หน่อยได้ไหม เมย์ขอร้องล่ะ”
มณีอารียาแสยะยิ้มออกมาเมื่อโทรศัพท์ไปหาคู่หมั้น ปลายสายอึกอักอยู่แสดงความลำบากใจออกมาทางเสียงหายใจ
“เอ่อ แต่เทียนเขานัดไว้แล้วนี่เมย์มันจะดีเหรอ”
“ทานคะ ก็นี่ไงคะอยากให้ทานวานไปขอร้องเทียนให้หน่อย เมย์อยากได้ตัวของปลายฟ้าจริงๆนะคะ งานก็เลื่อนไม่ได้ด้วยเพราะแจกบัตรเชิญออกไปหมดแล้ว ถ้าได้ปลายฟ้ามาต้องดังแน่ๆเลยค่ะทาน นะคะช่วยเมย์หน่อยได้ไหม”
“แล้วจะให้ทานไปบอกเทียนว่ายังไงล่ะเมย์”
ธรรมทานเอ่ยออกมาน้ำเสียงทำให้มณีอารียากัดริมฝีปากแน่น โง่ เธอพูดออกมาทางสายตาซึ่งชายหนุ่มคู่หมั้นไม่มีทางได้เห็น
“ก็แบบนี้สิคะทาน ทานก็บอกเทียนไปว่าจะใช้ปลายฟ้าทำงานให้เกี่ยวกับโฆษณาตัวใหม่ของบริษัทของทานน่ะค่ะ เมย์เชื่อว่าถ้าทานขอ เทียนเขาจะยอม”
ความไว้วางใจที่มีให้ธรรมทานมันมากมายจนเทียนบุญเองไม่คิดว่าเขาจะปิดเรื่องคู่หมั้น แต่เรื่องนี้ก็กำลังสะสางหาทางออกอยู่ แต่เรื่องวันนี้ยิ่งเพิ่มความเคียดแค้นในใจให้เทียนบุญเป็นอย่างมาก
“เทียน ทำไรอยู่ครับ”
กำลังคิดถึงอยู่พอดี
“ทาน ดึกป่านนี้ยังไม่นอนเหรอ”
พยายามกดเสียงไว้ไม่ให้แสดงอาการโมโหออกมา
“ก็คิดถึงเทียนไง อยากเจอเทียนจัง”
“อย่ามาโกหก วันนี้อะไรทาน อธิบายได้ไหม ทานทำแบบนี้กับเทียนได้ยังไง ที่เทียนอยากกินข้าวด้วยน่ะทานนะ ไม่ใช่คู่หมั้นของทาน”
หวีดเสียงขึ้นสูงสายตาจ้องจิกไปยังหน้าต่างห้อง
“แหมเทียน ก็เมย์เขาขอร้อง ทานเองก็ไม่ได้อยากให้เขาไปด้วยหรอกนะ”
นี่คือผู้ชายที่กุหลาบสองดอกนี้แย่งกันครอบครอง ลมปากที่เปลี่ยนไปตามทิศของลม
“เทียน ทานมีเรื่องอยากจะขอเทียนหน่อยน่ะ”
“อะไรเหรอทาน”
“เรื่องตัวนายแบบน่ะ พอดีทานต้องยิงโฆษณาตัวใหม่ อยากได้ปลายฟ้ามาก และวันก็ตรงกับวันของเทียน เอ่อ เทียนเลื่อนวันของเทียนไปก่อนได้ไหมอ่ะ”
“อะไรกันทาน ทำไมเพิ่งจะมาบอก เทียนนัดนักข่าว นัดสถานที่ทกุอย่างไว้หมดแล้วนะ จะมาบอกกระทันหันแบบนี้ไมได้หรอกนะทาน”
“โธ่นะเทียน นะขอร้องล่ะ ทานจำเป็นจริงๆ เดี๋ยวเราค่อยคุยกันดีกว่า เดี๋ยวทานไปหาเทียนตอนนี้เลยนะ”
“อ๊ะ ทาน”
เขาวางสายไปแล้ว เทียนบุญยืนนิ่งกัดฟันอยู่ ตอนนี้ภายในใจคิดไปไกลแสนไกล เพื่อคนที่เขารักควรจะทำไหม ทำอะไรได้อีกไหมนอกจากทำแบบนี้
“ฮึ ดึกดื่นป่านนี้ยังไม่นอน จะผลาญไปถึงไหน นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว”
เทียนบุญเดินลงมาชั้นล่างเห็นทินกรกำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่คนเดียว หาที่ระบายอารมณ์ เป็นคราวเคราะห์ของทินกร เขาหันหน้ามาทำหน้างงๆ
“ใคร ผมเหรอ”
“ผีมั้ง ตอนนี้มีแกกับฉันอยู่สองคน จะใครล่ะ อาศัยเขาอยู่น่ะ หัดเกรงใจเสียบ้างนะ”
“เอ่อ”
“แล้วจะนั่งอีกนานไหม ที่พูดคืออยากให้ไป ไปสิ ต้องให้ไล่ออกมาเหรอถึงจะเข้าใจ”
จิกเสียงถลึงตาใส่ทินกร เขาเองเม้มปากแน่น แต่ก็ยอมเดินหนีไป ใจจริงอยากจะเข้าไปต่อยปากสักที แต่ก็สำเหนียกตัวเอง มันจริงอย่างที่เขาพูด ทินกรเองไม่ได้อยากมาเป็นลูกเมียน้อย ไม่เคยคิด
“รอนานไหมครับที่รัก”
“ไม่นาน มีอะไรเหรอทาน”
พอเจอหน้าก็ปรี่เข้ากอดหอมเหมือนคนไม่เจอกันนานเป็นชาติ
“ก็คิดถึงไงครับที่รัก คิดถึงมากนะรู้ไหม ตั้งแต่กลับมาจากอังกฤษเราไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกันเลยนะ”
“ถ้าจะมาเพราะเรื่องนั้น ลืมมันไปได้เลยนะทาน”
“โธ่เทียนอ่ะ นะนะ ต้องให้ทานทำยังไงเทียนถึงจะยอม ทานจำเป็นจริงๆนะ”
ธรรมทานกอดหอมมือไม้ก็ป่ายไปทั่วร่าง
“ไม่เอาทาน ไม่เอาตรงนี้ ขึ้นไปบนห้องดีกว่า”
เทียนบุญลากแขนของธรรมทานขึ้นไปชั้นบนในทันที เขาเองก็เดินตามขึ้นไปสายตากระหยิ่มยิ้มย่องออกมา
“เทียนสุดยอดไปเลยครับที่รักของทาน”
ลีลารักที่ร้อนแรง ธรรมทานไม่ต้องออกแรงอะไรมากเลย แค่ครางออกมา ตอบสนองบ้างในบางลีลา นอกนั้นเทียนบุญเป็นคนจัดการเองทั้งหมด
“อ่า เทียน ทานไม่ไหวแล้วนะ”
“อย่าเพิ่งหยุด ทาน อย่าเพิ่ง”
เสียงครางกระเส่าที่ดังไม่เกรงกลัวใครดังลั่นไปทั้งห้อง โชคดีที่บ้านหลังนี้ใหญ่โตเพราะไม่เช่นนั้นเสียงคงเล็ดลอดออกไปปลุกคนทั้งบ้าน
“เทียนยอมทานคนเดียวนะรู้ไหม”
“ครับที่รัก น่ารักที่สุดเลย”
“ฮึ น่ารักแต่มีคู่หมั้นไม่บอกเทียนสักคำน่ะเหรอทาน”
“โอ๋ๆ อย่างอนสิครับที่รัก ก็บอกเทียนไปแล้วไง ว่ามันเป็นแค่ธุรกิจ”
“แต่อีนั่นมันฤทธิ์แรงมากนะทานมันด่าเทียนนะ”
“หือ เมย์น่ะเหรอเทียน”
“เอาเถอะ ทานไม่จำเป็นต้องรู้หรอก แค่ยังเหมือนเดิมแค่นี้ก็พอ เทียนจะจัดการเอง”
สายตาของเทียนบุญฉายแววเกลียดชังออกมา เขาซุกหน้าอยู่บนแผงอกของธรรมทานที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อ มันไม่วันได้ทั้งตัวทั้งหัวใจของเขาไปครอง ไม่มีวัน



โดย แรงเทียน

ออฟไลน์ @BUA@

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +427/-8
text
«ตอบ #378 เมื่อ19-05-2011 19:43:29 »

รอ nc นะคะ  5555


PrinceTae

  • บุคคลทั่วไป
รอ nc นะคะ  5555

:o8: คนแต่งไม่ค่อยไม่ประสบการณ์นะครับ ไม่รู้จะมีฉากนั้นหรือป่าว
อีกอย่างคุณหนูก็ยังเด็ก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






สายลมห่มฟ้า

  • บุคคลทั่วไป
ยังแรงเหมือนเดิม แล้วปลายฟ้าผมจะโดนอะไรด้วยไหมนี่  :o12:

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
อืมมม  รักเขาข้างเดียวเหมือนข้าวเหนียวนึ่ง  น้ำท่วมไม่ถึงก็แห้งแหงแก๋  เฮ้อออ

ออฟไลน์ อนันตกาล

  • กาลเวลา ไม่อาจทำให้คนเปลี่ยน แต่ทำให้ความคิดเปลี่ยน
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +931/-14
ถ้ากาลเขียนนะ รับรองว่าสายลมนะ ตายชัว แล้วให้ปลายฟ้าช้ำใจกอดศพ แบบนั้นคงแฮปปี้สุดๆ   :laugh:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-05-2011 20:20:36 โดย อนันตกาล »

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
ตัวละครเยอะ  ค่อย ๆ ออกมาเรื่อย ๆ จนตอนนี้เดาไม่ถูกแล้วว่าใครคือพระเอก
คนนั้นก็น่าใช่  คนนี้ก็น่าจะใช่  แต่เทียนนี่ตัวเอกแน่นอน  แร๊งงงงง

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
ไฟกิเลสในใจคน
เผาไหม้เร่าร้อนรุนแรง หากใครยิ่งเติมเชื้อโหมแรงเข้าอีก
 
กว่าจะมีใครมาดับให้มอดลงได้
ไฟคงลามลุกไหม้จนเกรียมก่อนกระมัง เฮ้อ!

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
โหดร้ายจริงๆ
ผู้หญิงคนนี้
กระซิกๆ

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
จะพยายามเชื่อแล้วกันค่ะ หุๆ

สายลมห่มฟ้า

  • บุคคลทั่วไป
มากอะ เอะอะก็จะให้ตายอย่างเดียวเลย :o12:

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
ทำไงได้ ตัวเองยังไม่กล้าบอกออกไป ก็ได้แต่มองดูเค้ากับชายอื่นเท่านั้นแหละ

ออฟไลน์ som

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +230/-2
ตอนนี้ยังหาคนที่จะสงสารไม่ถูกเลยครับ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด