The rainbow project เรื่องสั้น 7 เรื่อง 7 คนเขียน (อัพให้ใหม่ง่ายกว่าทำลิ้งค์)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: The rainbow project เรื่องสั้น 7 เรื่อง 7 คนเขียน (อัพให้ใหม่ง่ายกว่าทำลิ้งค์)  (อ่าน 263310 ครั้ง)

ออฟไลน์ vascular

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 412
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-2
โยงกันทุกเรื่องจริงๆ

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
อ๊า เค้าเพิ่งได้อ่าน
พระเอกซี้แหงแล้วเหรอ
ทำไมมันเศร้ายังงี้  :sad11:

จงกลนี

  • บุคคลทั่วไป
ไหนๆๆ ใครเศร้า
จะเศร้าไปใย
ความสนุกมันเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้นเองค่ะ รออ่านตอน10
กันได้ แต่เค้าก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าวันไหนดี หุๆ

จงกลนี

  • บุคคลทั่วไป
ศึกวันแดงเดือด

Saint De Jupiter

  • บุคคลทั่วไป
เพิ่งเห็นโปรเจ็คนี้ครับ ขอติดตามด้วยคนนะ  ^^

จงกลนี

  • บุคคลทั่วไป
ดาราเจ้าบทบาท
ต่อหน้ามะพลับลับหลังตะโก นะคะคุณปลายฟ้า

จงกลนี

  • บุคคลทั่วไป
ยินดีต้อนรับ จ๊วบๆๆๆๆๆ

Saint De Jupiter

  • บุคคลทั่วไป
มาตามสายรุ้งสีที่สองครับ  ^__^

จงกลนี

  • บุคคลทั่วไป
Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 2 [18/05/2011]
«ตอบ #308 เมื่อ18-05-2011 16:53:53 »

แหล่มๆๆ เลย
อ่านไปน้ำลายไหมไป ซู้ตน้ำลายก่อน

จงกลนี

  • บุคคลทั่วไป
แรงดีเหมือนกันนะเพื่อนสาว 55

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






Saint De Jupiter

  • บุคคลทั่วไป
จิ้มสีที่สามครับ  ^^

Saint De Jupiter

  • บุคคลทั่วไป
ดูไฉไล&ไซไฟดีครับ

Saint De Jupiter

  • บุคคลทั่วไป
ว้าว... แร๊งส์

Saint De Jupiter

  • บุคคลทั่วไป
Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 2 [18/05/2011]
«ตอบ #313 เมื่อ18-05-2011 17:13:35 »

สงสัยจังว่าใช่นักเขียนคนที่เราคิดรึเปล่าเอ่ย ???

Saint De Jupiter

  • บุคคลทั่วไป
พี่อิ๊กแต่งเรื่องนี้ใช่ป่ะ

ออฟไลน์ som

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +230/-2
หมูทำไมถึงคิดว่าเป็นอิกกี้กันเล่าคะ
ชิ
ป้านัทครับ  ผมก็คิดเหมือนกับพี่เค้านะครับ
แล้วป้านัทละครับจะหลอนอะไรอีกเปล่าครับวันนี้ 

ออฟไลน์ som

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +230/-2
กำลังจะเข้าช่วงหลอนแล้วดิครับ  ไม่กล้าอ่านตอนดึกๆ

จงกลนี

  • บุคคลทั่วไป
คนน่ากลัวกว่าผีอีกนะคะ ยิ่งประเภทรู้หน้าไม่รู้ใจ ยิ่งน่ากลัวกว่าหลายเท่า

จงกลนี

  • บุคคลทั่วไป
แอร๊ยยยยยยยยยย

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
^^^  อ่ะแฮ่ม ๆ ขอตอนต่อไปด้วยยยย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






จงกลนี

  • บุคคลทั่วไป
ดึกๆ ก่อน ยังไม่ถึงบ้านเลยค่ะ

ออฟไลน์ IZE

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4601
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-3
เชียร์สุดใจขาดดิ้น อย่าได้ยอมมันนะ

ออฟไลน์ Mookkun

  • magKapleVE
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 637
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
    • Consensual free relationships
สีเหลืองงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง 
ฮิ้ววววว *ยกป้ายไฟเชียร์*
 :pig4:

ออฟไลน์ IZE

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4601
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-3
5555555555555  เหมือนคุณหนูจะแรง  แต่ก็ยังเด็กอะนะ แอบมาเขินอาย

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
 :o8:คุณหนูริช   แต่ทำเป็นเข้มนะ

ออฟไลน์ taroni

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2366
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-27
คุณหนูแอบแรงแต่ก็ยังมีความน่ารักอยู่ :o8:

ออฟไลน์ taroni

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2366
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-27
ท่าทางจะแรงกันขึ้นเรื่อยๆ o18

ออฟไลน์ taroni

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2366
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-27
Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 2 [18/05/2011]
«ตอบ #327 เมื่อ18-05-2011 21:30:39 »

เข้ามาวิ่งเล่นในบาร์ :oni1:

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
เมย์vsเทียน คู่ชกที่สมน้ำสมเนื้อ

จงกลนี

  • บุคคลทั่วไป



ตอนที่ 6 "ของขวัญ"
เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ที่อยู่ในมือดังขึ้น อ๊อบขมวดคิ้วด้วยไม่คุ้นกับเลขหมายที่แสดงอยู่บนหน้าจอก่อนจะตัดสินใจกดรับสาย
"สวัสดีครับ ผม ร.ต.ท.พชร พงษ์ภิญโญ ขอเรียนสายกับคุณอำนาจครับ"
"สวัสดีจ้า อำนาจกำลังพูดอยู่จ้ะ ไม่ทราบว่าคุณตำรวจมีอะไรเหรอจ๊ะ" อ๊อบตอบรับพร้อมกับถามอย่างสงสัย
"ถ้าไม่เป็นการรบกวนจนเกินไป ผมขอคุยเรื่องสำคัญสักครู่ครับ คุณเป็นผู้จัดการของคุณเอกวิน นรลักษณ์ ใช่ไหมครับ" ผู้หมวดหนุ่มพยายามบอกกล่าวความเป็นไปอย่างช้า ๆ
"ใช่ครับ อ๊อบเป็นผู้จัดการของอเล็กซ์ ว่าแต่อเล็กซ์เป็นอะไรไปเหรอคะ" อ๊อบตอบรับพลางเอามือทาบอกนึกสงสัยเกี่ยวกับเรื่องที่ตำรวจโทรมาหาตน
"คุณอ๊อบใจเย็น ๆ นะครับ ตอนนี้คุณเอกวิน นรลักษณ์เสียชีวิตแล้ว" ร.ต.ท.พชร บอกประเด็นสำคัญในที่สุด
"พระเจ้า! อเล็กซ์ตายแล้ว...เมื่อไหร่คะคุณตำรวจ แล้วตายได้ยังไง? ตอนนี้..." อ๊อบเข้าอ่อนทรุดกายลงนั่งบนเก้าอี้นวมบุหนังหนานุ่มนึกใจหายพร้อมกับหวนคิด ไปถึง นิว พระเอกดังในสังกัดของตนเมื่อปีก่อนที่เสียชีวิตลงด้วยอุบัติเหตุ และคนที่นั่งไปด้วยก็ยังคงเป็นเจ้าหญิงนิทรามาจนถึงวันนี้
"เวลาที่เสียชีวิตกับสาเหตุการตาย ผมยังคงระบุชัดเจนไม่ได้ แต่ผมอยากให้คุณอ๊อบมายืนยันศพที่นิติเวชก่อนครับ แล้วคุณอ๊อบติดต่อครอบครัวคุณเอกวินได้รึเปล่าครับ" ผู้หมวดหนุ่มเอ่ยขอให้อ๊อบไปพบที่นิติเวช
"อเล็กซ์เป็นเด็กกำพร้า แต่ว่าเค้ามีเพื่อนสนิทอยู่คนนึง เดี๋ยวอ๊อบจะโทรตามให้เค้าไปหาแล้วกันคุณตำรวจ  อีกสักไม่เกินสองชั่วโมงอ๊อบน่าจะไปถึง" อ๊อบบอกพลางนัดแนะเวลา
"ครับ ผมจะรอที่นิติเวชครับ แล้วพบกันครับ" หมวดพชร บอกก่อนจะตัดสายไป
 
 
โทรศัพท์ในกระเป๋าเสื้อส่งเสียงดังเมื่อมีสายเรียกเข้าทำลายความเงียบ เมื่อหน่องกำลังคุยงานอยู่กับ บ.ก. หน่องหยิบออกมาพลางส่งยิ้มแหย ๆ ไปให้คนตรงหน้า ก่อนจะเอ่ยปาก
"ขอโทษนะครับ หน่องขอรับโทรศัพท์สักครู่นะครับ บ.ก." หน่องบอกขอ ก่อนที่คนตรงหน้าจะผงกหัวเชิงอนุญาตกลับมา
"สวัสดีครับ หน่องพูดสายครับ" หน่องกดรับก่อนจะเอาโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหูพร้อมกับเอ่ยทักคนปลายสาย
"สวัสดีจ้าน้องหน่อง นี่พี่อ๊อบนะ พี่เป็นผู้จัดการของอเล็กซ์ น้องหน่องจำได้ไหมจ๊ะ" อ๊อบกล่าวทักพร้อมแนะนำตัว
"จำได้ครับพี่อ๊อบ พี่อ๊อบมีอะไรให้หน่องทำเหรอครับ" หน่องตอบพร้อมกับถามถึงเรื่องที่อีกฝ่ายโทรมาหา
"น้องหน่องใจเย็น ๆ นะคะ... คือ... คือว่า... ตอนนี้... อเล็กซ์เค้า..."  อ๊อบบอกตะกุกตะกัก
"หรั่งเป็นอะไรเหรอครับ หน่องพยายามโทรหาตั้งแต่เมื่อวานตอนเช้า เค้าก็ไม่เปิดเครื่อง... หน่องติดต่อไม่ได้เลยครับ" หน่องบอกร้อนรน
"คือน้องหน่องคะ น้องหน่องใจเย็น ๆ นะคะ คือว่า... ตอนนี้อเล็กซ์เค้าเสียแล้วค่ะ" อ๊อบพยายามบอก
"น้องหน่องมาเจอพี่ที่นิติเวชนะคะ เป็นเรื่องด่วนมากเลย ฮัลโหล น้องหน่องได้ยินพี่พูดไหมคะ"
"หรั่งตายแล้ว!" หน่องเผลอปล่อยโทรศัพท์หลุดจากมือตกมาอยู่ที่โต๊ะหน้า บ.ก. ใบหนาของหน่องขาวซีดด้วยความตกใจ บ.ก. จึงเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มาคุยต่อเสียเองจนจบแล้วจึงวางสายไป
 
 
ประตูสวิงบานใหญ่ดูเหมือนว่าจะหนาและหนักในความรู้สึกของหน่อง ฝามือขาวที่มีนิ้วเรียวยาวผลักมันเข้าไปอย่างช้า ๆ ด้วยความพยายาม จนอ๊อบที่รั้งอยู่ข้างหลังต้องยกมือขึ้นมาแตะหัวไหล่ของหน่องอย่างให้กำลัง ใจ
ทั้งสองเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงกลางห้องขนาดไม่ใหญ่นัก ที่กลางห้องมีเจ้าหน้าที่พร้อมกับร่างที่ถูกคลุมเอาไว้ด้วยผ้าสีขาวผืนใหญ่ เสียจนมิดชิด
"พร้อมนะครับ.. ผมอยากให้คุณสองคนช่วยยืนยันว่านี่คือร่างของคุณเอกวิน นรลักษณ์จริง ๆ ไม่ผิดตัวนะครับ" เสียงของนายตำรวจหนุ่มเอ่ยทำลายความเงียบในห้อง
"พร้อมครับ" อ๊อบบอกก่อนจะหันไปมองหน่องที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ที่ได้แต่เพียงผงกหัวโดยไม่พูดอะไรออกมาสักคำ
"เชิญครับ" นายตำรวจหนุ่มบอกพร้อมกับพยักหน้าให้กับเจ้าหน้าที่ข้างเตียงเข็น
เมื่อเจ้าหน้าที่ตลบผ้าขาวที่คลุมเอาไว้ออกแค่อกเผยให้เห็นร่างที่ นอนหมดลมหายใจอย่างชัดเจน เรือนร่างที่ขาวซีดปราศจากสีเลือด ละอองไอเย็นเกาะพราวตามร่าง หน่องเดินเข้าไปจนชิดพร้อมกับเอามือปิดปาก หยาดน้ำตาไหลรินออกมาราวกับไม่สามารถจะหยุดได้ ริมฝีปากขบเม้มเหมือนกับไม่อยากให้เสียงสะอื้นเล็ดรอดออกมา หน่วยตาแดงก่ำ หน่องค่อย ๆ เอื้อมมือของเขาส่งไปสัมผัสกับมือเย็นเยียบของร่างที่มีผ้าขาวคลุมเอาไว้แค่ อก ก่อนจะโผเข้ากอดร่างแน่นิ่งของผู้ที่เป็นเพื่อนรักเอาไว้พร้อมหลุดส่งเสียง ที่พยายามเก็บกลั้นเอาไว้ออกมาในที่สุด เสียงสะอื้นร่ำไห้พร้อมหยาดน้ำตาพร่างพราว อ๊อบที่เดินตามเข้าไปได้แต่เพียงพยามยามลูบหลังลูบไหล่เพื่อปลอบโยนให้หน่อง คลายโศกเศร้าก่อนจะเอ่ยออกมา
 
 
"นี่คือเอกวิน นรลักษณ์จริง ๆ ไม่ผิดตัวแน่" อ๊อบบอกด้วยเสียงเบาหวิวก่อนจะนิ่งค้างไป
นายตำรวจหนุ่มได้แต่เดินไปหาคนตัวเล็กที่กอดศพเพื่อนพร้อมกับ พยายามดึงมือออก แต่คนตัวเล็กก็ไม่ยอมปล่อยมือยังคงร้องไห้และสะบัดมือออกจากการเกาะกุมของ นายตำรวจหนุ่ม ความพยายามของนายตำรวจจบลงที่คนร่างเล็กซุกหน้าร้องไห้เสียงดังอยู่ในอ้อมอก ของผู้หมวดหนุ่มก่อนจะหมดสติไปในที่สุด
 
"แล้วอ๊อบจะรับศพออกไปได้เมื่อไหร่... คุณตำรวจ" อ๊อบถามเมื่อเดินตามผู้หมวดที่อุ้มหน่องออกมาจากในห้อง
"อย่างเร็วก็คงเป็นพรุ่งนี้เช้าครับ ตอนนี้คงต้องปล่อยให้นิติเวชทำงานในส่วนของเขานะครับ" นายตำรวจบอกพร้อมกับนำร่างของคนในวงแขนค่อย ๆ วางลงบนเก้าอี้หน้าห้อง พร้อมกับเอาสมุดเล่มเล็กในมือส่งให้อ๊อบคอยโบกพัดให้ ส่วนตัวเองก็พยายามแกะกระดุมและเข็มขัดของหน่องออกพอหลวมและพยายามบีบนวดจน หน่องได้สติ
"แล้วนี่อ๊อบต้องจัดงานแถลงข่าวก่อนไหมนี่" อ๊อบพูดพร้อมกับขมวดคิ้วเข้าหากัน
"ผมขอดูผลชันสูตรพรุ่งนี้ก่อนแล้วกันครับคุณอ๊อบ ผมว่ามันแปลก ๆ " ผู้หมวดหนุ่มเอ่ยขอออกมา
"แปลกยังไงเหรอครับคุณตำรวจ" หน่องถามด้วยความสงสัย พลางส่งสายตาจ้องมองไปทางหมวดหนุ่มอย่างงุนงง
"ก็ตามร่างกายไม่มีบาดแผลใหญ่ ๆ เลยไม่รู้ว่าเขาตายยังไงนะสิ ตอนนี้พวกคุณอย่าเพิ่งแจ้งนักข่าวเลยครับ" ผู้หมวดหนุ่มบอก ก่อนจะขอร้องให้ปิดข่าว
"เอาไว้พรุ่งนี้เราค่อยมาว่ากันอีกทีแล้วกันนะ" อ๊อบบอกก่อนจะหันไปสบตากับหน่อง
"วันนี้เชิญพวกคุณกลับไปพักผ่อนก่อนดีกว่านะครับ นี่นามบัตรของผมครับ" นายตำรวจหนุ่มบอกพลางยื่นส่งนามบัตรไปให้กับทั้งสองคนคนละใบ
อ๊อบกับหน่องตอบขอบคุณแล้วจึงยื่นส่งนามบัตรของตนกลับไปให้อีกฝ่ายเช่น กัน ก่อนที่อ๊อบกับหน่องจะขอตัวลากลับไป ร.ต.ท.พชร มองไปที่นามบัตรทั้งสองในมือ นิวัตร แก่นกำภู ผู้สื่อข่าว หนังสือพิมพ์... "นักข่าวเหรอนี่"
 
 
ระหว่างที่ทั้งอ๊อบกับหน่องเดินออกไปที่จอดรถ
"หน่องกลับยังไง เดี๋ยวให้พี่ไปส่งไหม บ้านอยู่ไหนล่ะหน่อง" อ๊อบถามพลางหันมาหยุดมองคนที่เดินตามหลังมาอย่างช้า ๆ
"ไม่เป็นไรพี่ บ้านหน่องอยู่นนนะพี่ เดี๋ยวหน่องนั่งแท็กซี่กลับเองได้ ขอบคุณครับ" หน่องบอกอย่างเกรงใจอีกฝ่าย
"ไม่เป็นไรหน่อง พี่ไปส่งได้ทางผ่านบ้านพี่อยู่แล้ว เออ... พี่มีของจะให้เราด้วยอยู่ในรถน่ะ" อ๊อบบอกพร้อมกับเดินนำไปที่รถ
 
"ขึ้นรถเลยหน่อง" อ๊อบบอกพร้อมกับเอี้ยวตัวไปหยิบกล่องของขวัญเล็ก ๆ ที่ถูกห่อด้วยกระดาษสีม่วงเหลือบลายสวยมีการ์ดใบน้อยใส่ซองสีโทนเดียวกัน จ่าหน้าซองถึงหน่องแปะติดเอาไว้ตรงเบาะด้านหลังกลับมาส่งให้อีกฝ่าย
"อะไรเหรอพี่" หน่องรับมาถือไว้พร้อมกับถามอย่างงงๆ
"พี่เองก็ไม่รู้เหมือนกัน พี่เจอมันในคอนโดของอเล็กซ์ เห็นจ่าหน้าซองถึงหน่อง พี่ก็เลยเอามาให้ด้วย" อ๊อบบอกพร้อมกับหันมายิ้มให้คนข้าง ๆ ก่อนจะขับพาหนะออกจากที่ลานจอด
"หน่องอยากรู้ก็แกะดูเลยซิ พี่ก็อยากรู้เหมือนกัน"
หน่องแกะริบบิ้นสีสวยออกมาก่อนจะแกะกระดาษห่อของขวัญออกอย่างบรรจง กล่องกำมะหยี่สีน้ำเงินใบเล็กเป็นปราการกางกั้นสิ่งที่อยู่ภายในเอาไว้อีกชั้น หน่องขมวดคิ้วงุนงงก่อนจะค่อย ๆ เปิดฝาออกมา สร้อยคอเส้นเล็ก ๆ สะท้อนแสงสีเงินเป็นประกาย ตรงกลางห้อยจี้เพชรเม็ดเล็ก ๆ สีชมพูสดในตัวเรือนวัสดุเดียวกันกับสร้อยคอ
หน่องหยิบมันออกมาด้วยมือที่สั่นเทา เขาวางมันลงไปไว้ในกล่องอีกครั้งก่อนจะไปให้ความสนใจกับข้อความในการ์ดใบ เล็กที่ถูกเขียนด้วยลายมือขยุกขยิก อ่านใจความได้ว่า
 
 
ของขวัญชิ้นแรกหลังจากที่เราได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง
                        รักหน่องเสมอ
                             หรั่ง
 
เสียงเฮฮาพูดคุยหยอกเย้าเสียงดังท่ามกลางบรรยากาศของวงเหล้าที่ครื้นเครง ชายหนุ่มรูปร่างกำยำกว่าห้าคนนั่งล้อมวงดื่มกินอย่างสนุกสนานบนสนามหญ้าหลัง บ้านขนาดใหญ่ สายลมพัดไอเย็นเข้ามาแผ่ว ๆ อากาศเย็นสบายด้วยฝนซึ่งหยุดตกไปได้ไม่นาน โต๊ะไม้ใต้ชายคามีอาหารเลิศรสที่พร่องไปมากหลายจาน พร้อมสุราฉลากดำตัวหนังสือสีทองในขวดแก้วหูหิ้วที่เจ้าของบ้านใจดีอภินันทนาการ สำหรับลูกน้องคนสนิทใกล้ชิด เป็นสินน้ำใจตอบแทนพร้อมกับที่ได้วันหยุดพักเพิ่มในวันพรุ่งนี้ เสียงสรวลเสเฮฮาชักจะดังหนาหูขึ้นทุกที
"เฮ้ย! เบา ๆ หน่อยพวกมึง ชักจะดังกันเกินไปแล้ว เดี๋ยวนายท่านก็ลงมาว้ากเอาหรอก" ชายที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าของทุกคนเปิดประตูหลังบ้านออกมานั่งร่วง วงพร้อมกับบ่น
"นายไม่ได้ยินหรอกพี่เสก ป่านนี้ถึงไหนต่อไหนไปแล้ว เห็นนายแบบคนนั้นมาหาตั้งแต่เย็น พอกินข้าวเสร็จก็พากันหายเข้าห้องไปเลยนี่พี่" ลูกไล่ร้องบอกพลางหัวเราะร่า
"เออ อย่าเสือกปากมาก แดก ๆ เข้าไปเลยมึงไอ้ว่าน ไหนเอามากินสักแก้วสิพวกมึง" เสกบอกปรามพร้อมร่ำร้องหาเครื่องดื่ม ก่อนที่ชายอีกคนจะยกแก้วที่มีเหล้าพร้อมโซดาน้ำแข็งมาวางให้ตรงหน้า
"ข่าวดีพี่... แก้วสุดท้ายพอดีเลยพี่เสก" เขาบอกลูกพี่
"อะไรของพวกมึงวะ... กูเพิ่งจะหย่อนตูดยังไม่ทันได้กินเลย... หมดแล้วเหรอวะ ไอ้ว่านมึงขี่รถออกไปซื้อมาเลยนะมึง" เสกบ่นพร้อมกับหันไปไล่ว่านให้ออกไปซื้อมาเพิ่มอีก
"โฮ พี่เสก อะไรก็ไอ้ว่าน อะไรก็ว่าน ตลอดอ่ะ" ว่านบ่นกระปอดกระแปด
"แล้วมึงจะไปซื้อให้กูไหม ไอ้ว่าน" เสกถามพร้อมกับยกเท้าขึ้นมาหมายจะยันไอ้คนข้าง ๆ
"ไปสิพี่ ไปแล้ว" ว่านที่กระโดดหนีร้องบอกพลางวิ่งไปทางมอเตอร์ไซค์ที่จอดอยู่ด้านข้าง
 
 
ว่านขึ้นขี่แล้วขับออกไปจากบ้านหลังงามบนเนื้อทีกว่าห้าไร่ มุ่งตรงออกทางท้ายหมู่บ้านไปตามถนนก่อนจะตัดเลี้ยวเลาะออกไปยังทางเล็ก ๆ ที่มีต้นไม้ใหญ่ใบดกหนาแผ่กิ่งก้านตระหง่านมืดดำทั้งสองข้างของถนนลูกรังสาย เล็ก ๆ ที่ทอดยาวจะไปตัดออกถนนใหญ่ข้างหน้าที่มองเห็นอยู่ลิบ ๆ ฟากหนึ่งของถนนเป็นบึงน้ำกว้างใหญ่ ผิวน้ำดำมืด ดอกบัวกลีบซ้อนบานแข่งเงาสะท้อนของพระจันทร์ดวงโตกลม กลิ่นหอมของดอกบัวล่องลอยไปตามกระแสลมที่พัดผ่าน ผิวน้ำไหวระลริ้วเงาสะท้อนจากโพยมเพ็ญไหววูบวิบวับ ว่านขับรถมาด้วยความเร็วแสงไฟหน้ารถสาดตรงไปตามทางมืดเพราะความร่มครึ้มของ ต้นไม้สองข้างทาง ทันใดนั้นเงาดำขนาดใหญ่ก็วูบผ่านหน้ารถอย่างกระชั้นชิด เขาเบรกรถจนตัวโก่งก่อนจะหักหลบเงาดำแล้วเสียหลักล้มกลิ้งลงข้างทาง ตัวเขากระเด็นตกลงไปที่ริมบึง ส่วนรถที่ขี่มาก็กลิ้งล้มอยู่บนถนนนั่นเอง เขาร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด ขาขวาที่บิดเบี้ยวผิดรูปกระดูกสีขาวที่หักทิ่มทะลุเนื้อบริเวณหน้าแข้งทำให้ เขาขยับตัวหรือลุกขึ้นไปไหนไม่ได้ ทำได้แต่นอนร้องโอดโอยอยู่อย่างนั้น
ก่อนที่เสียงอันน่าเวทนาจะหยุดลง ขนบริเวณท้ายทอยของเขาก็ลุกตั้งชัน ซึ่งตัวเขาเองก็ไม่ทราบสาเหตุ เขาพยายามสอดส่ายสายตาเพ่งฝ่าความมืดดำของผิวน้ำในบึง ท่ามกลางดอกบัวกลีบซ้อนและระลอกพลิ้วเต้นของเงาสะท้อนของดวงจันทร์ เงาดำที่มืดยิ่งกว่าผิวน้ำค่อย ๆ โผล่ขึ้นมาอย่างช้า ๆ มุ่งตรงมาทางที่เขานอนแผ่อยู่ ภาพที่เห็นแทบทำให้เขาหยุดหายใจไปชั่วขณะ  เงาดำมืดที่เริ่มก่อเป็นรูปเป็นร่างคล้ายกับคนขึ้นทุกที ๆ ใบหน้าที่โผล่พ้นน้ำขาวซีดเสียยิ่งกว่าอะไรที่พบเจอ ขาวจนเห็นเส้นเลือดสีดำบนใบหน้าได้ชัดเจน ดวงตาสีขาวขุ่นฝ้ามัวไร้เงาสะท้อน ริมฝีปากดำที่ยกยิ้มกว้างจนเห็นซี่ฟันขาวได้ถนัดแม้จะมืดมิด เงาร่างในอาภรณ์สีดำนั้นค่อย ๆ คืบคลานมาคร่อมทับร่างของว่านที่นอนนิ่งอยู่ ใบหน้าชวนสยองก้มลงมองในระยะประชิด เส้นผมสีอ่อนแนบลู่ไปกับหนังศีรษะ หยดน้ำจากใบหน้าชวนสยองหยดติ๋ง ๆ ลงบนแก้มของว่านความเย็นเยียบของหยดน้ำที่ตกกระทบส่งความหนาวเหน็บซึมผ่าน ผิวหน้าเข้าไปสะท้านเยือกแทบจะทำให้โลหิตในกายแข็งเป็นน้ำแข็งตามไปด้วย ความกลัวเข้าไปกัดกินในหัวใจ
ว่านที่พอจะมีสติหลงเหลืออยู่เล็กน้อยได้แต่เพียรพยายามกระเสือกกระสน ดิ้นรนกระถดถอยหนี เขาพยายามพลิกตัวนอนคว่ำลงแล้วเริ่มใช้สองมือตะกุยดินข้างตัวเพื่อพาร่างของ เขาไปให้พ้นจากสิ่งสยองขวัญที่กำลังสั่นประสาทอยู่ตรงหน้า เศษดินและเศษหญ้าฝังเข้าไปในเล็บมือทั้งสองข้างแต่ความพยายามของเขาก็ไร้ผล เมื่ออมนุษย์ที่หยุดนิ่งมองดูความทุรนทุรายของเหยื่อพร้อมกับแสยะยิ้มชวน สะอิดสะเอียนเพียงครู่ ก่อนจะคลานตามมาช้า ๆ  ติด ๆ  ว่านที่กำลังหาทางรอดเหลียวหันมามองพร้อมกับร้องตะโกนขอความช่วยเหลือสุด เสียง "ช่วยด้วย!!!!!" พร้อมกับสองมือที่ตะกุยดินพยายามจะให้เร็วยิ่งกว่าเดิมส่งผลให้เล็บจากนิ้ว มือฉีกขาด โลหิตสีเข้มไหลซึมออกมาจากบาดแผลที่ขาและที่ปลายนิ้ว เลือดไหลนองเป็นทางยาวตามที่เขาดิ้นรน
อมนุษย์ที่ตามมาจนทันใช้อุ้งมือขาวซีดและเย็นจัดจับเข้าที่ข้อเท้าขาข้างที่หักของว่าน ก่อนจะออกแรงลากเพื่อมุ่งย้อนกลับไปตามทางเก่า
"อ้า!!!!!!!!!!" เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดของว่าน และการพยายามขัดขืนโดยการเพียรจิกนิ้วมือของตนลงไปในดินเพื่อชะลอแรง ของอมนุษย์จนสุดกำลังแต่ก็ไร้ผล ทิ้งเพียงรอยครูดและรอยเลือดเป็นทางยาว เมื่อร่างของว่านถูกลากย้อนกลับตามทางที่มุ่งลงไปในบึงอย่างช้า ๆ  ลึกลงไป ๆ ทุกที
"ช่วยด้วย... ช่วยด้วย... ช่วย..." ผิวน้ำดำมืดกลืนร่างของว่านพร้อมกับเก็บกักเสียงสุดท้ายก่อนที่สติสัมปชัญญะ และวิญญาณจะหลุดลอยออกจากร่าง

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด