บทที่ 27
“ไอ้เด็กนรก” แมคสบถ
เขาเข้ามาอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าอีกรอบที่บ้านและนั่งเล่นอยู่แถวๆบ้านเพราะบริเวณด้านหลังของตลาดประสิทธานนท์นั้นค่อนข้างจะกว้างและเป็นสวนสาธารณะขนาดกลาง นั่งไปก็คิดถึงไอ้เด็กทีนรกนั่น เหอะ ไอ้เด็กทีนั่นอย่าหวังเลยว่าชีวิตนี้จะได้เข้าใกล้เมฆาอีก เด็กนั่นผิดกฎของเขา และยังถูกตัดคะแนนจนติดลบชนิดที่ไม่มีทางบวกเพิ่มแน่นอน!
“พี่แมค ไปไร่น้ำรินด้วยกันมั้ย” เสียงของตะวันตะโกนอกมา แมคหันไปมองแล้วลุกขึ้น ไปไร่น้ำรินเหรอ ก็ดีนะ เพราะเขาไม่ได้เจอรัชพลมานานอยู่เหมือนกัน
“ไปๆ” แมครีบตามน้องชายไป
วันนี้ตะวันเข้าไปที่ไร่น้ำรินและไร่เพียงระพีตามปกติ ช่วงนี้เป็นช่วงที่ต้องจัดการและประคบประหงมเป็นพิเศษหลายๆอย่าง สามหนุ่มเลยมีเรื่องต้องคุยกันเกือบทุกวัน อีกนิดเดียวตะวันคงได้ย้ายไปนอนทีไร่น้ำรินแล้ว
สองหนุ่มประสิทธานนท์เข้ามาที่ไร่น้ำรินในตอนบ่ายของวัน เหมือนวันนี้จะเข้าไปจัดการเรื่องโรคพืชในส่วนของสวนผลไม้ที่ปลูกใหม่ นั่นจำเป็นที่จะต้องให้น้ำหวานมาอีกรอบซึ่งเพียงดินเป็นคนพามา
แมคขอตามเข้าไปที่สวนด้วยเพราะอยากเดินดูไร่ แต่เมื่อมาถึงก็ต้องเจอกับเพียงดินและรัชพลที่อยู่ในชุดเต็มยศและกำลังควบคุมคนงานฉีดพ่นยาบางอย่างอยู่ แมคยกคิ้วเล็กน้อย
ที่แท้ก็ทำงานทีไร่น้ำรินนี่เอง
“เจอกันอีกแล้วนะนายเพียงดิน” แมคกอดอกอย่างวางมาก เขาอยู่ในชุดที่เตรียมพร้อมจะสู้กับโคลนและเศษดินอื่นๆอย่างเต็มที่ แน่นอนว่าตะวันเป็นคนจัดการให้
“นาย... พี่ไอ้เตี้ย” เพียงดินเลิกคิ้วเพราะไม่คิดว่าจะเจอแมคที่นี่ และสภาพของเขาตอนนี้ก็กำลังเลอะเปรอะเปื้อนเลยทีเดียว
“สองคะแนนสำหรับเรียกน้องชายฉันแบบนั้น” แมคถอยห่างและไปยืนบนเนินดินที่ค่อนข้างจะแข็งแรงหน่อย ไม่เลอะ
“ห๊ะ...” เพียงดินงงเล็กน้อย มาถึงเขาก็โดนไปแล้วสองคะแนน เพราะฉะนั้นเหลือแค่เก้าสิบคะแนน!
“นี่พี่ยังไม่เลิกใช้กฎใช้คะแนนนี่อีกเหรอ” ตะวันถามงงๆ เขาพอจะรู้เรื่องกฎอะไรของแมคอยู่บ้าง แต่ไมคิดว่าจะจริงจังและยังเอามาใช้กับคนอื่น ว่าแต่แมคเอามาใช้กับเพียงดินทำไม
แมคไม่ตอบแต่มองเพียงดินอย่างดูแคลน เขาไม่ชอบความสกปรก แต่แน่ล่ะทำงานกับดินกับน้ำมันก็ต้องมีบ้าง แต่เห็นแล้วมันก็ขัดตาไม่น้อยเหมือนกัน
“นี่นายคิดว่าน้องชายของฉันที่เป็นหมอซึ่งความสะอาดเป็นสิ่งสำคัญมากนั้นจะต้องมาทนอยู่กับอะไรที่มันสกปรกอย่างนี้เหรอ และกระดุมเม็ดที่สามและสี่ของนายช่วยติดให้มันดีๆด้วย ฉันขัดตามาก และท่าทางแบบนั้นคนอื่นไม่คิดว่าเป็นคนป่ารึไง นี่นายไปเอาความมั่นใจผิดๆอะไรมาจีบเมฆ ฉันมองไม่ออกเลยจริงๆว่าพวกนายจะไปด้วยกันได้” แมคร่ายยาวนั่นทำให้ทั้งตะวันและรัชพลรวมถึงน้ำหวานหันมามองก่อนจะหันไปหาเพียงดิน
“จีบ?” ตะวันถามพร้อมกับทำหน้างง
“เอ่อ...” เพียงดินอึกอัก เขายังไม่บอกเรื่องนี้กับใครทั้งนั้นและทุกคนก็เหมือนไม่มีเวลามายุ่งเรื่องของเขาด้วย แต่วันนี้คือแมคพูดออกมาซะหมดขนาดนี้ ปฏิเสธคงยาก
“ตอนแรกเห็นจะฆ่ากันตายทุกวัน ไหงเป็นงี้อ่ะ” รัชพลถามบ้าง
“อย่าบอกนะว่าทุกคนยังไม่รู้ ความหนักแน่นไม่มีพอ จงใจปิดแบบนี้แสดงว่าไม่จริงจัง โดนห้าคะแนน” คำพูดนั้นทำเอาเพียงดินมึนไปไม่ได้ ตั้งแต่พี่ของเมฆามาเนี่ยเขาพูดนับคำได้ แล้วโดนใส่รัวๆคะแนนหดหายอย่างงงๆ เหี้ยอะไรวะเนี่ย
“เดี๋ยวก่อนครับ ทุกคนใจเย็นๆก่อน” เพียงดินยกมือขึ้นห้ามพร้อมกับจะเดินเข้าไปหาแมคในมือยังคงมีพลั่วอยู่
“หยุดอยู่ตรงนั้น! อย่าเข้าใกล้ฉันเกินสามเมตร” แมคตะโกนห้ามก่อนพร้อมกับถอยมาอีกหนึ่งก้าว
เพียงดินหยุดกึกอย่างไม่รู้ตัว อาจจะเป็นเพราะเสียงของแมคที่ตะโกนลั่นนั้น เรื่องมากชิบหาย เหนือหมอเตี้ยยังมีพี่หมอเตี้ย
“อธิบายไปสิ ฉันให้เวลาห้านาที” แมคยกนาฬิกาขึ้นมาดูแล้วบอกเพียงดิน เพียงดินอึกอักอยู่เล็กน้อยก่อนจะถอยหายใจแล้ววางพลั่วในมือไว้แถวนั้น
“ก็ตามจีบมาซักพักแล้วแหละ แต่หมอเมฆยังไม่ตกลงคบเลย ไม่รู้ว่ายังไง ไปๆมาๆก็ชอบไปแล้ว” เพียงดินพูด ตะวันและรัชพลหันมามองหน้ากันเล็กน้อยแล้วถอนหายใจ
“เมฆมันใจแข็งจะตาย ผมว่าคุณดินน่ะจีบมันยากหน่อย บ้านนี้เค้าสายแข็ง” ตะวันบอกพร้อมกับเบือนสายตาไปที่แมคด้วย เป็นเหมือนกันทั้งบ้าน
โมกพี่ชายคนโต ปีนี้ก็อายุสามสิบแต่ก็ยังไม่แต่งงาน แมคก็ยังเรื่องมากเลือกมากไม่ยอมคบใครเอาแต่จัดการชีวิตน้องๆ มุกก็ยังไม่มีแฟนและมีแนวโน้มว่าจะยังไม่มีเร็วๆนี้ ส่วนเมฆาอย่างที่เห็น ใครก็จีบไม่เคยติด
“ถ้ามีคนที่ดีพอสำหรับฉัน ฉันก็ต้องเลือกอยู่แล้ว แต่วันนี้ขอจัดการเรื่องนายก่อนนายเพียงดิน อย่างที่ฉันบอกว่าฉันมีเวลาให้สองอาทิตย์ ช่วยแสดงให้ฉันเห็นหน่อยว่านายดีพอที่จะเป็นคนรักของเมฆาได้ ฉันรู้ว่าตอนนี้น้องชายฉันค่อนข้างจะใจอ่อนกับนานแล้ว แต่ฉันยังไม่อนุญาต” แมคประกาศลั่น นั่นทำให้เพียงดินหงุดหงิดไม่น้อยแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป
ความจริงเรื่องนี้มันไม่ได้เกี่ยวกับแมคเลย มันเกี่ยวแค่เขาและเมฆาเท่านั้น แต่ก็นะ เขาตกลงกับเมฆาไว้แล้วว่ายอมเล่นตามเกมบ้าๆของแมคก็ต้องยอม เพราะผลที่ตามมามันคุ้มไม่น้อยเหมือนกัน
“ฉันว่าจะไปดูน้ำตกหลังไร่เสียหน่อย ยังไงก็ฝากบอกคนงานของนายด้วยนะรัช ว่าคิดดีแล้วใช่มั้ยที่มายุ่งกับน้องฉัน” แมคพูดแล้วเดินออกไปจากตรงนั้น เดินไปที่เอทีวีซึ่งจอดอยู่ไม่ไกล รัชพลขมวดคิ้วเล็กน้อยอย่างงงๆ
“อะไรวะ คนงานอะไร” นายเหนือแห่งไร่น้ำรินเกาหัวอย่างงงๆ แล้วเลิกสนใจแมคแต่พุ่งประเด็นมาที่เพียงดินแทน
“ไม่ต้องมามองผมอย่างนั้นเลยคุณรัช เอาเป็นว่าตอนนี้ยังไม่ถึงไหน แถมก้างชิ้นเบอเร่อมาขวางอีก ไม่ได้อย่างนั้นอย่างนี้นะคุณตะวัน แต่ญาติคุณเค้าปกติดีใช่มั้ย” เพียงดินถอดเสื้อคลุมตัวนอกออกแล้วทิ้งตัวลงนั่งกับเนินดินที่แมคเพิ่งยืนเมื่อครู่ ก่อนจะถอดหมวกออกแล้วสะบัดผมอย่างร้อนๆ
“พี่แมคก็อย่างนี้แหละ แต่จริงๆไม่ได้เป็นคนเลวร้ายหรอก ถ้าคุณดินจีบได้เมฆติดซะอย่างเรื่องอื่นก็หายห่วง ที่ไอ้เมฆมันไม่มีใครพี่แมคก็มีส่วน แต่จริงๆแล้วเมฆมันไม่เอาเองแหละ ถ้ามันตกลงกับใครจริงๆ ถ้าพี่มันจะห้ามแค่ไหนมันก็ไม่ฟังหรอก” ตะวันบอกแล้วนั่งลงข้างๆเมฆา ครอบครัวนี้ค่อนข้างแปลกๆอยู่แล้ว แต่ตะวันก็ชินเพราะเจออย่างนี้มาตั้งแต่เด็กๆ
“ถ้าอย่างนั้นผมคงต้องทำใจไว้ครึ่งนึง ดูเหมือนว่าน้องชายคุณเค้าจะยังไม่อยากเล่นด้วยกับผมเท่าไหร่” เมฆาพูดอย่างเซ็งๆ มันก็จริง ถ้าเมฆายอมตกลงกับเขา เรื่องทุกอย่างมันก็จบ แค่นั้น
“ยังไงก็สู้ๆแล้วกัน” ตะวันตบไหล่เพียงดินเบาๆ เรื่องยากแล้วสิ
“หมอเมฆ เราต้องไปออกหน่วยที่งานเกษตรวันศุกร์นี้นะ” หมอทศเข้ามาหาเมฆาพร้อมกับมาแจ้งข่าวที่เขาเพิ่งได้รับทราบมาเมื่อครู่
“เราต้องไปด้วยเหรอครับ” เมฆาถามอย่างงงๆ งานนี้เป็นของจังหวัด ทำไมหมอในอำเภอเล็กๆอย่างเขาต้องไปด้วย
“ไปสิ เค้าเอาหมอทั้งจังหวัดนั่นแหละ ประจำแต่ละจุดน่ะ แล้วก็อาจจะมีสัมมนาเดือนหน้าด้วยนะ” ทศพรแจ้งอีกครั้งก่อนจะยิ้มให้
แล้วเดินออกไป
เมฆาทิ้งตัวลงกับเก้าอี้อย่างรู้สึกเหนื่อย งานค่อนข้างยุ่งไม่น้อย คนไข้วันนี้เยอะกว่าปกติ เวลาพักเขาเลยอยากจะพักแบบเต็มที่เสียหน่อย
เมฆาลุกขึ้นบิดขี้เกียจก่อนจะเดินออกมาข้างนอก หน้าโรงพยาบาลมีรถขายกาแฟอยู่ เขาว่าจะไปหาอะไรดื่มเสียหน่อย
มาอยู่นี่นานค่อนข้างจะชินกับและรู้จักคนแถวนี้หมดแล้ว ทุกคนน่ารักและเป็นกันเอง เมฆาชอบบรรยากาศแบบนี้มากกว่าการไปอยู่ในเมืองใหญ่ๆซะอีก
“อ้าว คุณหมอ วันนี้เอาอะไรครับ” พ่อค้าร่างใหญ่ตัวท้วมถามขณะที่ในมือยังชงกาแฟให้ลูกค้าไปด้วย
“เหมือนเดิมเลยครับลุง” เมฆาตอบแล้วเดินไปนั่งม้าหินอ่อนแถวนั้น ซึ่งมีป้าๆอาๆมานั่งอยู่ก่อนแล้ว เขาเลยยิ้มให้
“คุณหมอเมฆนี่น่ารักจังเลยนะคะ ผิวก็ดี๊ดี คนกรุงเค้าเป็นแบบนี้ทุกคนรึเปล่า” หญิงวัยกลางคนถามขั้นเป็นภาษาท้องถิ่น เมฆาทำหน้างงเล็กน้อยก็จะค่อยๆแปล มาอยู่นี่เขาเริ่มจะเข้าใจภาษาเหนือมาบ้างแล้ว
“คุณป้าก็น่ารักเหมือนกันครับ แล้ววันนี้เป็นอะไรเหรอครับถึงได้มาโรงพยาบาล” เมฆาถามกลับพร้อมกับกาแฟของเขาที่ลุงเจ้าของร้านเพิ่งชงเสร็จถูกวางลงข้างหน้าแล้วตัวเจ้าของร้านเองก็มานั่งร่วมวงด้วย
“จะอะไรซะอีกล่ะ ก็ลูกมันน่ะต้องมาล้างแผล มันใช่มันหรอก” ลุงเจ้าของร้านกาแฟตอบแทน
“ลูกคุณป้าเป็นอะไรเหรอครับ” เมฆายังถามต่อแล้วดูดกาแฟอย่างอารมณ์ดี
“แผลไฟไหม้น่ะ มันยังเดินไม่ได้เพราะแผลยังเต็มขาเลย ก็มันดันไปทำให้นังคุณราตรีไม่พอใจเข้าน่ะสิเลยโดนน้ำมันร้อนสาดใส่อย่างนั้น” พอป้าพูดจบเมฆาแทบจะสำลักกาแฟทันที
“อะ... อะไรนะครับ สาดน้ำมันร้อนๆใส่ บ้าไปแล้วน่า แล้วได้แจ้งตำรวจรึยังครับ” ยังมีอย่างนี้อยู่อีกเหรอเนี่ย เมฆาตกใจไม่น้อย ตั้งแต่เขามาอยู่ที่นี่ก็เพิ่งจะเจออะไรแบบนี้
“หูย คุณหมอ แจ้งอะไรล่ะคะ ลูกป้าน่ะทำงานให้นายอำเภอ แล้วนังคุณราตรีนั่นก็ลูกนายอำเภอ ขืนแจ้งความได้เดือดร้อนกันหมดน่ะสิ แต่นายอำเภอท่านก็ดีนะ ออกค่าใช้จ่ายให้หมด ท่านน่ะดี ติดที่ว่าเลี้ยงลูกไม่ดีนี่แหละ นังคุณราตรีนี่เลยนิสัยเสีย” ได้ทีถึงกับเม้าใหญ่ เมฆาทำหน้างงอีกรอบ เขาเพิ่งเคยได้ยินชื่อราตรีก็คราวนี้ แล้วยังเป็นลูกคนใหญ่คนโตที่นี่อีก แต่การใช้อำนาจแบบนี้มันก็ไม่เกินไปหน่อยเหรอ
“ไม่ต้องตกใจหรอกคุณหมอ คนที่นี่รู้กันทุกคนว่าคุณราตรีเธอร้ายแค่ไหนจนพ่อเลี้ยงดินต้องขอเลิก ข่าวใหญ่ทั้งอำเภอ” ลุงข้าวของร้านพูดต่อ นั่นทำให้เมฆาต้องคิ้วขมวดเมื่อได้ยินชื่อใครอีกคน
“พะ... พ่อเลี้ยงเพียงดิน สองคนนี้เคยคบกันเหรอครับ” เป็นเรื่องใหม่ที่เมฆารู้ เพียงดินเคยบอกว่ามีแฟนแต่ไม่เคยบอกว่าใคร
“ก็ใช่น่ะสิ ตอนคบกันนะพ่อเลี้ยงเอาใจอย่างดี เกือบแต่งงานกันด้วยแล้ว เพาะช่วงนั้นพ่อเลี้ยงหลงมาก กะจะสร้างครอบครัว แต่ก็นั่นแหละ นานเข้าๆลายคุณเธอก็ออก คุณราตรีเธอค่อนข้างจะเยอะ พ่อเลี้ยงเลยทนไม่ไหว ขอเลิกไป เธอก็ตามแว้ดๆ ตามง้อ แต่พ่อเลี้ยงก็ไม่สน ตัดแล้วตัดเลย ป้านะแอบสะใจซะจริง” ข่าวใหม่ที่ได้รับทำให้เมฆาครุ่นคิดอยู่ไม่น้อย
เพียงดินเคยหลงใครถึงขั้นจะแต่งงานเลยเหรอ.... แล้วที่เพียงดินทำอยู่ตอนนี้ไม่ใช่แค่ว่าหลงเขาหรอกนะ นานๆไปก็เบื่อแล้วก็เลิกอย่างนี้เหรอ
เมฆาเริ่มคิดหนัก แล้วยิ้มให้คนตรงหน้าก่อนจะยกกาแฟขึ้นมาดูดอีกรอบก่อนจะเดินเข้าไปในโรงพยาบาลด้วยความคิดที่ตีวนอยู่ในหัว
“ฉันมาหาหมอทศ เค้าอยู่ที่ไหน” เสียงหนึ่งดังขึ้นที่หน้าห้องฉุกเฉิน เป็นเสียงของหญิงสาวที่แต่งตัวค่อนข้างจะเปรี้ยวและตอนนี้เธอเหมือนกำลังโวยวายอะไรบางอย่าง ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องดีแน่เมื่ออยู่ในโรงพยาบาลแบบนี้ และตอนบ่ายคนก็เยอะอยู่ด้วย
“หมอทศไม่ว่างค่ะ ถ้าคุณไม่สบายก็ไปรอคิวนะคะ แต่ถ้าไม่ก็ไปคุยกันนอกรอบเอาเอง” พยาบาลแพรมองด้วยสายที่แสดงว่ารังเกียจอย่างชัดเจน นั่นทำให้เมฆายิ่งสนใจ
“แต่ฉันอยากคุยกับเขา ฉันอยากรู้ว่าดินมีแฟนใหม่ใช่มั้ย ไปเรียกหมอทศมา” เธอยังคงโวยวายไม่หยุดจนเมฆาต้องเข้าไปจัดการเมื่อเสียงมันเริ่มดังขึ้น
“มีปัญหาอะไรรึเปล่าครับ” เขาไปยืนข้างๆพยาบาลแพรแล้วถาม สาวสวยคนนั้นปราดสายตามามองแล้วกอดอก
“ฉันต้องการเจอคุณหมอทศพร” เธอว่าอย่างวางมาด
“เกรงว่าตอนนี้ยังไม่สะดวกนะครับ ถ้าคุณไม่ได้เจ็บป่วยอะไรก็เชิญกลับเพราะวันนี้คนไข้เราค่อนข้างเยอะ หมอทศเองก็ต้องทำงาน” เมฆาพยายามพูดด้วยน้ำเสียงปกติ แต่คำพูดนั้นมันเหมือนการฉีกหน้าของหญิงสาวตรงหน้า
“นี่แก แกกล้าไล่ฉันเหรอ แกอีก พวกแกกล้าไล่ฉัน ฉันจะฟ้องพ่อ” เธอโวยวายแล้วชี้หน้าเมฆารวมทั้งพยาบาลแพร
“เชิญเลยค่ะคุณหนูราตรีขา เชิญไปฟ้องเลยค่ะ พ่อของคุณคงเข้าข้างหรอก” แพรพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจเช่นกัน เมฆาเงยหน้ามองหญิงสาวอีกรอบ
นี่น่ะเหรอคุณหนูราตรีลูกนายอำเภอ
ช่วงนี้อารมณ์เราไม่ค่อยเสถียรเท่าไหร่เลยไม่ค่อยได้อัพนะคะ กลัวแต่งแล้วมันจะพัง
มีตัวละครใหม่อีกแย้ววววววววว
แม่นางสาวเจ้าคนสวยลูกนายอำเภอ ฝากติดตามตอนต่อไปด้วยนะคะ เราจะพยายามอัพเป็นปกติค่ะ