๕๕ คอนเสริท“ว๊าย เดินเข้ามาแล้วเธอ มองมาทางนี้ด้วย” หนึ่งในสาวๆทำท่ากรี๊ด
เด็กวัยรุ่นทั้ง ๗ คนเดินเข้ามาในร้านพิซซ่า แล้วเดินตามพนักงานของร้านไปยังโต๊ะอีกด้านหนึ่งของร้าน ๑ ใน ๗ ไม่ได้นั่งลงที่โต๊ะ แต่พูดอะไรกับคนในกลุ่มอยู่สักพัก ก็เดินตรงมายังโต๊ะใหญ่ของหนุ่มสาวทั้ง ๑๑ คน
“ขอโทษนะ มาช้าไปหน่อย” ตั้ม พูดกับเพื่อนๆ ที่กำลังมองเขาเหมือน งงๆ “หง่ะ ทำไมมองงั้นอะ” ตั้ม เริ่มก้มหน้ามองตัวเอง
“ตั้ม มานั่งนี่” นึกพูดพลางชี้ไปที่เก้าอี้ว่างข้างๆตัว ตั้มเดินเข้าไปนั่งตามท ี่นึก บอก กำลังจะบอกขอบใจ แต่พอหันหน้าไปเจอกับหน้าของ นึก ก็ต้องเงียบไป
“เอ้อ .... จ้องเราไมอะ” ตั้ม พูดเบาๆพลางรู้สึกหน้าร้อนๆ
“ทำไมมึงแต่งตัวอย่างนี้วะ จะไปเดินแฟชั่นที่ไหน” โอ พูดขึ้นมาทำลายความเงียบของโต๊ะ
“อ๋อ เดี๋ยว บ่ายสองเราเล่นคอนเสริทน่ะ นี่มัวแต่ไปดูเวที กับพวกเครื่องดนตรีเลยมาช้า ขอโทษนะ รอกันนานรึเปล่า” ตั้ม พูดยิ้มๆ พลางกวาดสายตาไปรอบๆโต๊ะ ก็พบว่า ผู้หญิงแปลกหน้าทั้ง ๖ คน กำลังมองมายังเขาเป็นตาเดียวกัน
“ชื่อ ตั้ม เหรอ”
“คอนเสริทอะไร”
“เล่นคอนเสริทที่ไหนล่ะ”
“คนนี้เหรอที่พวกนายบอก”
“พวกที่มาด้วยนั่นใครน่ะ”
“นี่ ทำไมไม่เคยเห็นที่สถาบันกวดวิชาเลยล่ะ”
สาวๆพากันยิงคำถาม ตั้ม งง ไปหมดเพราะฟังไม่ทัน จนต้องส่งสายตาให้เพื่อนๆเป็นการขอความช่วยเหลือ
“นี่ ตั้ม นะ เพื่อนที่โรงเรียนไม่ได้เรียนที่สถาบันหรอก” นึง ช่วยตอบ
“แล้วเดี๋ยวไปเล่นคอนเสริทที่ไหนล่ะคะ” สาวหนึ่งจีบปากจีบคอถาม
“ที่ชั้น ๑ ในนี้แหละ ตรงที่เห็นเป็นเวทีอะ คอนเสริทของสถาบันดนตรีที่เราเรียนอยู่” ตั้ม ตอบไป
“เหรอ กี่โมงล่ะ แล้ว ตั้ม เล่นอะไร”
“เดี๋ยวเล่นตอนบ่ายสอง เราเล่นคีย์บอร์ด” ตั้ม ตอบพลาง มองไปยังถาดพิซซ่า จานสลัด และของกินเล่นอีกสารพัดบนโต๊ะ มองๆแล้วก็รู้ว่าเพื่อนๆทานกันไปเกือบเสร็จแล้ว
“ตั้ม กินอะไรก่อนสิ” นึก พูดพลางตักชิ้นพิซซ่าใส่จานให้ ตั้ม ซึ่ง ตั้ม ก็ยิ้มให้เป็นการขอบใจ แล้วค่อยๆตัดพิซซ่าเป็นชิ้นเล็กๆ ก่อนที่จะเอาส้อมจิ้มเข้าปาก
“ไม่ใส่ซอสหรืออะไรเลยเหรอ” สาวที่นั่งตรงข้ามถามขึ้น
“ม่ายอะ เดี๋ยวเลอะเสื้อ แล้วจะโดนครูดุ เราซุ่มซ่ามจะตาย” ตั้ม ตอบพลางยิ้มกว้างให้ สาวคนนั้นถึงกับจ้อง ตั้ม ตาค้าง
แล้วสาวๆก็พากันชวน ตั้ม คุยโน่นคุยนี่ไปเรื่อยๆ บางคนก็เลื่อนจานสลัด และจานอาหารอื่นๆให้ ตั้ม ทำให้หนุ่มๆเริ่มไม่พอใจ เพราะสาวๆทั้งหลายเอาแต่คุยกับ ตั้ม แต่ไม่มีใครกล้าพูดอะไร ได้แต่คุยผสมโรงไปด้วยบางครั้ง
“ตั้ม มีแฟนแล้วสินะ” สาวผมหยิกถามขึ้นมา แล้วทุกคนก็เงียบลง เหมือนกับรอฟังคำตอบ
“ฮ่าๆๆ” ตั้ม หัวเราะเสียงดัง พอรู้สึกตัวก็หยุดหัวเราะ แต่ยังเอามือสองมือขึ้นมาปิดปากไว้กลั้นหัวเราะเต็มที่
“ม่ายมีหรอก แฟนเฟินอะไร ออกจาอัปลักษณ์ขนาดนี้ มีเพื่อนๆดีๆ แบบนี้มายอมเป็นเพื่อนด้วย ตั้ม ก็ดีใจแล้ว” ตั้ม พูดพลางหันไปมองเพื่อนทั้ง ๕ คน แล้วก็หันมาส่งรอยยิ้มใสซื่อให้สาวๆ “จริงๆนะ แล้ว ตั้ม ก็ดีใจที่มีเพื่อนใหม่เพิ่มขึ้นอีกตั้ง ๖ คนแน่ะ”
“งั้นเราถามใหม่นะ” สาวผมซอยสั้นพูดขึ้น “ตั้ม มีผู้ชายที่รักมากที่สุดรึเปล่า” แล้วเธอก็หัวเราะคิกคัก
“เอ้อ ...ผู้ชายที่รักเราแล้วเราก็รักเค้ามากที่สุดน่ะเหรอ” ตั้ม ยิ้มน้อยๆ ประกายตาทอประการของความรักและคิดถึง “ป๊ะป๋า มั๊ง” ตั้ม พูดเบาๆ
“ว๊ายยยย..... ตั้ม นี่น่ารักจัง แบบนี้ พ่อคงรัก ตั้ม น่าดู” สาวๆ พากันหัวเราะ ส่วน ตั้ม ได้แต่ยิ้ม โดยไม่ได้สังเกตสายตาที่จ้องมองมาขอ นึก ที่นั่งอยู่ข้างๆ
... เหรอ คงงั้นอะ พ่อคงจะรักเค้ามาก แต่ก็ยังรู้สึกว่า ป๊ะป๋า ต่างหากที่รักเค้ามากกว่า แต่ยังมีอีกคนหนึ่ง ที่อยู่ในใจของ ตั้ม แต่จะให้พูดออกไปได้ยังไงต่อหน้าคนที่เพิ่งรู้จัก ...
.....................................................................................
.........................................
“กรี๊ดดดดดดดดด..............ตั้ม ๆ” สาวๆทั้ง ๖ คนไปยืนกรี๊ดกันอยู่หน้าเวที พลางมีหนุ่มน้อยทั้ง ๕ คนมองวงดนตรีบนเวทีด้วยสายตาทึ่งแกมหมั่นไส้
วงดนตรีบนเวทีบรรเลงเพลงไปแล้ว ๓ เพลง แต่ละเพลงเป็นเพลงในแนว ปอป-แจส ที่ไม่ค่อยคุ้นหูคนไทยนัก แต่ด้วยทำนองทึ่สนุกสนาน รวมทั้งการบรรเลงและการร้องที่มีมาตรฐานค่อนข้างสูง สมกับเป็นนักเรียนของสถาบันดนตรีชื่อดัง อีกทั้งลีลาการพูดของนักร้องนำ ทำให้คนดูสนุกสนานไปด้วยไม่น้อย
“แหมๆ เหมือน พี่ตั้ม ของพวกเราจะมีแฟนๆมาเชียร์กันด้วยนะครับเนี่ย อย่างนั้นมาฟัง พี่ตั้ม ร้องเพลงกันหน่อยดีมั๊ยคร๊าบบบบบ” นักร้องนำพูดขึ้น พลางผายมือไปยัง ตั้ม ที่กำลังทำหน้าเลิกลั่ก เด็กหนุ่มผิวคล้ำหน้าตาคมเข้ม ที่เล่นคีย์บอร์ดอีกคนหนึ่ง เอามือดันหลัง ตั้ม ให้เดินออกไป “ อ้าว พี่ตั้ม ห้ามปฎิเสธ นานๆพวกเราจะได้แกล้งพี่ที่รักซะที วันนี้ต้องยอมหน่อยแล้วนะ พี่ตั้ม ดีมั๊ยครับ พวกเรา”
“ดีๆๆ” เสียง สาวๆทั้ง ๖ พร้อมกับเสียงทีมงานและผู้ชมอีกจำนวนหนึ่งส่งเสียงสนับสนุน
“มาเลย พี่ตั้ม อย่าอู้ พวกผมต้องร้องคนละเพลงอยู่แล้ว พี่อย่ากินแรง แล้วนี่ประชาชนเรียกร้อง” นักร้องนำหันไปบอก ตั้ม แล้วหันมาทางผู้ชมที่กำลังหัวเราะกันเบาๆ “แต่ พี่ตั้ม ไม่ค่อยชอบร้องเพลงเร็วๆน่ะสิครับ ให้ พี่ตั้ม ร้องเพลงรักแล้วกันนะครับ เดี๋ยวผมเลือกให้เอง ดีมั๊ยครับ” นักร้องนำพูดจบ ก็เดินไปส่งไมค์ให้กับ ตั้ม แล้วหันไปกระซิบอะไรบางอย่างกับพรรคพวกจากนั้นก็เข้าไปเล่นคีย์บอร์ดแทน ขณะที่ ตั้ม เดินออกมา เสียงดนตรีก็เริ่มบรรเลงขี้นเป็นท่วงทำนองช้าๆ พอได้ยินทำนองเพลงที่ขึ้นต้น ตั้ม ก็รู้ทันทีว่าเป็นเพลงอะไร
... เอาเพลงนี้จริงๆน่ะเหรอ ทำไมต้องเพลงนี้ด้วยอะ ... ตั้ม คิดพลางก้มหน้าหายใจลึกๆ พลางฮัมเบาๆ ไปกับทำนองเพลงเป็นการเทียบเสียงไปด้วยในตัว แล้ว ตั้ม ก็เริ่มร้องเพลง
http://media.imeem.com/m/OvDkskn5am/aus=false/Lovin’ you is easy cause you’re beautiful...เสียงแหลมใสของ ตั้ม ดังผ่านไมค์ ทั้งๆที่ยังก้มหน้าอยู่ แต่ท่าทางเหมือนเขินอายในยามพูดคำรักตามเนื้อเพลง ยิ่งทำให้คนดูชอบใจ
La la la la la.......เสียงเพลงเริ่มไล่ระดับสูงขึ้น ตั้ม ก็ค่อยๆเงยหน้าขึ้น และค่อยๆเหลือบตามองไปยังกลุ่มเพื่อน ส่งสายตาหวานซึ้งไปให้ใครบางคนโดยไม่รู้ตัว
No one else can make me feel
The colors that you bring
Stay with me while we grow old
And we will live each day in springtime
Cause lovin' you has made my life so beautiful
And every day my life is filled with lovin' youโอ มองตามสายตาของ ตั้ม ก็ต้องอมยิ้ม เพราะเห็นว่า นึกเองก็กำลังมอง ตั้ม ด้วยสายตาที่หวานเชื่อมอยู่เหมือนกัน โดยที่ไม่ได้คิดเลยว่า กำลังถูกมองโดยเพื่อนๆ และพวกสาวๆบางคนในกลุ่ม
.....................................................................................
.........................................
“กูว่าคราวหน้าอย่าชวน ไอ้ตั้ม มาอีกเลยดีกว่าหว่ะ” ดม พูดด้วยสีหน้าเซ็งๆ
“ไม่เฉพาะคราวหน้าเว๊ย คราวไหนก็ไม่ชวนแม่งแล้ว” นึง พูดด้วยความโมโห
“ฮ่าๆๆ ไปโกรธมันก็ไม่ถูกนะเว๊ย กูว่าเอามันเป็นตัวล่อหญิงน่ะดีแล้ว” โอ พูดยิ้มๆ “สาวๆชอบมันน่าดู”
“เอ็งล่ะ ว่าไง ไอ้นึก” เชียร หันไปถามความเห็น
“ไม่ต้องชวนดีกว่า ตั้ม มันคงไม่อยากมาเป็นตัวล่อให้พวกเราหรอก” นึกพูดขรึมๆ
“อ้าว มึงห่วงด้วยเหรอวะ นั่นแน่ กูรู้นะมึงคิดอะไร เมื่อกี้จ้องตากันไฟแทบลุกเลยนะ” ดม พูดแล้วหัวเราะ
“นั่นดิวะ หวานซะกูเลี่ยน ตอนกินพิซซ่าก็เหมือนกัน เป็นกูนะ ละลายไปตรงนั้นแล้ว” โอ ผสมโรง
“เอ๊ะ พวกมึงนี่ชอบหาเรื่องกูจริง กูกลับบ้านแล้วเว๊ย” นึก พูดแล้ววิ่งขี้นรถประจำทางไปทันที
“ดูมัน เขินจนหนีไปแล้วเว๊ย” โอ พูดแล้วก็หันไปหัวเราะกับเพื่อนๆ