และเมื่อได้เวลาพอเหมาะพอดีแล้ว ผมจึงสาวราวกลับไปยังที่นั่งพัก ภาพที่เห็นคือไอ้หน้านิ่งนั่งกระสับกระส่ายหายใจหอบถี่อยู่ตรงหน้า มันมองจ้องผมตาเป็นมัน
“เป็นไรอะ ไม่สบายเหรอ” แกล้งถามมันแต่ก็พึ่งมารู้สึกตัวว่าหัวกูเริ่มปวดตุบๆ ไอ้คนที่ไม่สบาย คงเป็นกูเนี่ยแหละ
ทนอีกนิดนะไอ้ดิน เดี๋ยวจูบแล้วค่อยออกไปหายาแดก
“เป็นไรไม่รู้ ร้อนเนื้อร้อนตัววูบวาบ คอแห้งเป็นผงเลย” มันบ่น
ผมแกล้งทำเป็นตกใจแล้วไปนั่งใกล้ๆ ก่อนจะปลอบมัน “เดี๋ยวค่อยไปหายากินข้างนอก” มันพยักหน้าแล้วเดินเซๆ ไปที่ประตู
“เฮ้ยคุณ! ประตูมันล็อค!” มันทำหน้าตาตื่น
“อ้าว ล็อคเหรอ” ผมแกล้งตื่นเต้นตามมันแต่ดันเหลือบเห็นขวดเปล่าสองขวดวางอยู่ที่พื้น
!!!!
“เฮ้ย!!!” จำได้ว่าเอาวางไว้ให้มันแค่ขวดเดียวนี่หว่า แล้ว!? “เฮ้ย!!!!!” ผมอุทานออกมาอีกครั้งเพราะกระเป๋าหายไป “กระเป๋ากูไปไหนเนี่ย!”
สกายเดินหน้าหื่นเข้ามานั่งข้างๆ “ผมให้น้องทีมงานขนออกไปพร้อมของอื่นหมดแล้วล่ะ”
“ห้ะ!!!!!” ตอนนี้ทำได้แค่อุทานพยางค์เดียวเพราะคิดคำอื่นไม่ออกแต่แล้วพอนึกออกก็แทบช็อค “โทรศัพท์กูอยู่ในนั้น!!” ผมบอก
“อ้าวเหรอ ผมนึกว่าอยู่ในเสื้อวอร์มคุณซะอีก” มันอธิบายพลางลูบแขนตัวเองแรงๆ “นึกว่าไม่ได้ใช้อะไรแล้วก็เลยให้น้องเขาขนไปหมด เก็บไว้แค่น้ำที่อยู่ข้างกระเป๋าแค่นั้นแหละ” ไอ้เรื่องโทรศัพท์ก็ว่าแย่แล้วนะ พอได้ยินคำว่าน้ำที่อยู่ข้างกระเป๋าก็ยิ่งทำให้ตาแทบจะถลนออกนอกเบ้า
ผมสะบัดหน้าไปมองขวดน้ำที่วางบนพื้นอีกครั้งและมองหน้าสกายสลับไปมาแบบนี้หลายรอบ “ม..มึง มึงอย่าบอกนะ ว่าขวดน้ำนั่นเป็นน้ำจากกระเป๋ากู!” ระหว่างรอคำตอบก็กลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคออย่างยากลำบาก เหมือนกลืนกาวที่ผสมเศษแก้วเล็กๆ ทั้งหนืดทั้งบาดแสบคอฉิบหายเลยตอนนี้
“ใช่ ก็ผมถามแล้วว่ากินได้มั้ย คุณบอกให้กินสองอันได้เลย ผมก็ซัดหมด ทั้งน้ำทั้งโค้ก ไม่เคยกระหายน้ำขนาดนี้มาก่อนเลยนะ” ฉิบหายตายโหง!!!
“กูจะเป็นลม..” ผมทำท่าจะทรุดกองลงกับพื้น ไอ้หน้านิ่งจึงรีบยื่นมือมาประคองแต่เมื่อผิวหนังเราเสียดสีกันมันก็สะดุ้งเฮือกแล้วผละออกก่อนจะหายใจหอบและกลืนน้ำลายดังเอื้อก
“ผมร้อนไปทั้งตัวเลยคุณ แตะตัวคุณแล้วมัน..” ดูมันจะงงกับอาการของตัวเองและกระดากอายที่จะบอกออกมาว่ามัน.. เ งี่ ย น
ตายห่าแล้วกู แดกเข้าไปขนาดนั้นมันต้องเอาออกกี่น้ำวะนั่น แล้วจะโทรบอกไอ้เอกให้มาเปิดประตูได้ยังไงวะเนี่ย โอ้ยย กูจะบ้าตาย!!!
ผมนิ่งคิดอยู่สักพักก็ลองไปเคาะประตูเรียก มันเป็นประตูแบบเก็บความเย็นด้วยก็เลยหนากว่าประตูทั่วไปแถมยังมีตัวดูดอากาศที่ดังหวึ่งๆ อีกสามตัว ก็เลยไม่รู้ว่ามันดังไปถึงข้างนอกหรือไม่ ตีไปก็ดังปึ้งๆ ซึ่งถ้ามีคนอยู่ข้างนอกจริงๆ ก็น่าจะได้ยิน แต่ผมเดาว่าไอ้เอกคงไม่ได้อยู่แถวนี้
“ซวยแล้วไอ้ดิน ซวยๆๆๆ” ผมบ่นกับตัวเอง “ไอ้หน้านิ่งมันจะเสี้ยนตายมั้ยวะเนี่ย แล้วกูจะทำยังไงดี ทำไงๆๆๆ” ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัวจนต้องเดินไปนั่งพัก
“อืออ.. ฮืดๆ ฮืดๆ” เสียงลมหายใจของสกายดังขึ้นเรื่อยๆ มันนั่งถูหน้าขาตัวเองแบบเอาเป็นเอาตาย “ค..คุณ ผ..ผม..ว่า..ผม..ม..ไม่ไหว..แล้ว..ล่ะ” คำพูดแทบจะไม่ประติดประต่อ หน้าตาดูหื่นกระหายแบบถ้าไม่ได้ปลดปล่อยคือต้องตายแน่
ผมเห็นแล้วอดสงสารไม่ได้ กูไม่น่าเล่นแบบนี้เลยเว้ย ถ้ามันเป็นอะไรขึ้นมาแล้วกูจะทำไงวะเนี่ย!
ด่าตัวเองในใจก็คงไม่ช่วยอะไร คงต้องทำสิ่งที่ต้องทำนั่นแหละ
ผมตัดสินใจเดินไปคว้าข้อมือของสกายให้เดินไปยังมุมห้องเพราะพวกโต๊ะเก้าอี้จะได้อำพลางไว้อีกชั้นถ้ามีใครทะลึ่งพรวดเข้ามา ร่างมันผวาเฮือกทันทีเมื่อผมแตะตัว “อือ.. ร..ร้อน เฮือกๆ” ดวงตาที่แดงก่ำ ร่างกายที่สั่นสะท้านและลมหายใจกระชั้นถี่ขึ้นทุกที
ไม่ได้การละ ถ้าเป็นแบบนี้นานไปอาจจะช็อคตายไปก่อน “เดี๋ยวกูช่วย” ผมบอกออกไปด้วยเสียงที่เบาหวิว ไอ้ช่วยน่ะมันไม่ยากหรอกเพราะช่วยตัวเองก็ออกบ่อยแถมไอ้คนที่กระสันอยู่นี่ ผมเองก็หวังแอ้มมันอยู่ด้วยซ้ำ แต่ไอ้ร่างกายที่เริ่มไร้เรี่ยวแรงเนี่ยสิที่เป็นปัญหา
ไม่ไหวก็ต้องไหวไอ้ดิน!
ผมจับมันนั่งพิงกำแพงแล้วผมก็นั่งลงข้างๆ ตอนนี้มือของมันอยู่ไม่เป็นสุข คอยรุกเลื้อยถูไถไปตามเป้าตัวเองอย่างไร้ความอาย ถ้ามีสติคงไม่กล้าทำแบบนี้
“ช..ช่วย ผ..ผม” กางเกงลำลองสีดำถูกปลดลงแล้วมือผมก็ถูกคว้าไปโปะอยู่กลางลำกล้องของมัน
ไอ้สัด! ใหญ่พอๆ กับของกูเลยว่ะ!
หัวใจผมเต้นถี่รัว รู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปเมื่อตอนถูกเปิดซิงครั้งแรกกับสาวรุ่นพี่ม.ปลาย
ตอนนั้นจำได้ขึ้นใจว่าสั่นสะท้านมากแค่ไหนกับการปฏิบัติกิจของพี่สาวจอมขย่ม
แต่ตอนนี้.. ผมคงต้องเป็นคนเขย่าสินะ..
“อึก..อาห์ อือ..” สกายครางกระเส่าแทบจะทุกวินาทีที่มือหนาของผมขยับ
มันนั่งพิงกำแพงเหยียดขาแหงนหน้าหลับตาครางปร่าอย่างสุขสม ผมนั่งขนาบข้างและเอื้อมมือไปช่วยชักนำลำกล้องใหญ่ด้วยความตื่นเต้น
ไม่เคยจับของผู้ชายมาก่อนแต่ก็ไม่ได้นึกรังเกียจแม้แต่นิด จะว่าไปก็รู้สึกคึกคักตามเสียด้วยซ้ำ ผมเปลี่ยนท่านั่งเพราะรู้สึกไม่ค่อยถนัด ดันร่างใหญ่ของสกายให้ขยับออกจากกำแพงแล้วแทรกตัวเข้าไปนั่งแทนตำแหน่งเดิมของมัน จัดให้มันนั่งอยู่ตรงกลางหว่างขาและดึงให้มันเอนมาพิงหน้าอกเพื่อจะได้ขยับมือได้ถนัดถนี่
“อ่ะ อ่า อาห์ ซี๊ดด..” ครางเก่งฉิบหายไอ้ห่านี่ เดี๋ยวกูก็ฟันมึงซะตรงนี้เลย
พูดไปงั้นแหละครับเพราะร่างผมตอนนี้ก็แทบจะไร้สิ้นเรี่ยวแรงแล้ว ที่ยังขยับมือรัวๆ อยู่ได้เพราะสงสารมันแค่นั้นเอง กลัวจะช็อคตายไปซะก่อนจะได้เป็นแฟนกัน
ในระหว่างที่ขยับมือเป็นจังหวะอยู่นั้นผมก็อดไม่ได้ที่จะก้มลงคลอเคลียซอกคอและกกหูขาวเนียนอย่างลืมตัว ผิวสกายขาวอมชมพู ถึงจะมีตกกระบ้างประปรายตามประสาคนที่มีเชื้อสายตะวันตกแต่โดยรวมแล้วก็ดึงดูดปลายจมูกและริมฝีปากให้สูดดมได้ไม่น้อยเลย
“มีความสุขมั้ย” ผมกระซิบชิดใบหูพร้อมกับสูดหายใจเข้าลึกด้วยความหลงใหล
“อ..อืมม” เสียงครางต่ำอย่างกระสันพร้อมกับใบหน้าหล่อใสที่หันมาจ้องผม “จ..จูบ..หน่อย” หัวใจแทบหยุดเต้นเมื่อริมฝีปากสีสวยเผยอออกรอการจุมพิต ดวงตาฉ่ำปรือและเสียงหายใจกระเส่านั้นทำให้ผมแทบคลั่ง
เกือบหลงไปตามอารมณ์ชั่ววูบเมื่อผมก้มลงไปกะจะจูบตามที่มันขอ
“อยากจูบ มึงก็จูบกูเองสิ” ผมว่าแล้วขยับมือรัวเร็วกว่าเดิม”
“อ๊ะ อ่ะ อื้อ อือห์ อาห์” ร่างในอ้อมแขนบิดเกร็งสองสามครั้งแล้วปลดปล่อยออกมาเต็มฝ่ามือ “ย..ยัง ม..ไม่” เสียงมันกระท่อนกระแท่นจนต้องเอียงหูเพื่อฟังให้ชัด
“ว่าไงนะ” ผมถามพลางหยุดมือแล้วจับท่อนรักของมันเอาไว้เฉยๆ
“ย..ยังไม่..เสร็จ” ไม่เสร็จเหี้ยไร! น้ำเต็มมือกูเลยสัด “ท..ทำอีก..น..นะ” มันเอียงหน้าอ้อนแล้วจับข้อมือผมขยับไปมาเพื่อปลุกปั่นลูกชายของมันที่ไม่ได้อ่อนลงเลยทั้งๆ ที่ได้ปลดปล่อยไปแล้วหนึ่งรอบ
“ยาแม่งแรงฉิบหาย” ผมบ่น
“นะ..นะครับ” แน่ะ มีนะครับซะด้วย แล้วกูจะขัดใจได้ไงล่ะเนี่ย เฮ้ออ ต่อก็ต่อวะ!
แล้วผมก็เริ่มการชักนำระรอกใหม่ ทุกอย่างยังเป็นเหมือนครั้งแรกแต่คราวนี้ผมเผลอดูดลำคอมันไปสองสามครั้งจนเกิดรอยจางๆ มันพยายามจะจูบแต่ผมคิดว่ายังไม่อยากให้เป็นตอนนี้ อยากให้มีสติดีดีกว่านี้อีกหน่อยจะได้ชัดเจนว่าใครกันแน่ที่เป็นคนแพ้พนัน
“แฮ่กๆ อึก อาห์ อ๊า” ร่างมันแอ่นขึ้นเล็กน้อยพร้อมกับขยุ้มหน้าขาผมอย่างแรง
คราวนี้ของเหลวข้นที่หลั่งออกมาไม่ได้เยอะเท่าครั้งแรกแต่ก็ทำให้เลอะเปื้อนกางเกงเล็กน้อย
“ดีขึ้นยัง” ผมถาม
ถ้าไม่ดีขึ้นกูก็ไม่ไหวแล้วนะ ตอนนี้ก็นั่งแทบไม่อยู่ เลื้อยลงไปเรื่อยๆ จนใช้แค่ช่วงไหล่พิงกำแพงแล้วเนี่ย
มันเอียงหน้ามองอีกครั้งแล้วทำหน้าอ้อนเหมือนเดิม “ข..ขออีก”
“..กูไม่มีแรงแล้ว” ผมบอกพร้อมกับหลับตาแน่นเพื่อไล่ความเจ็บปวดในหัวให้หายไป
“นะ..ผม..ขอ..อีกนะ” ร่างของมันพลิกกลับเข้ามาคร่อมผมเอาไว้
ถึงกับต้องลืมตาขึ้นทันทีเมื่อซอกคอถูกจมูกโด่งของมันฝังลงมาอย่างรวดเร็ว “ด..เดี๋ยว!” พยายามอย่างหนักที่จะดันมันออก แต่เรี่ยวแรงแทบไม่มี
ไอ้สัด! นี่มันเหี้ยไรกันวะเนี่ย!
‘ถ้าชาตินี้กูปิ๊งผู้ชายนะ กูจะยอมเป็นฝ่ายรับให้เลยเอ๊า’ เสียงหลอนๆ ที่อยู่ๆ ก็ดังขึ้นในหัว ยิ่งทำให้ผมประสาทแดก
“เดี๋ยวกูช่วยมึงอีกรอบก็ได้” พยายามดันมันให้พลิกกลับลงไปแต่แรงหื่นของไอ้หน้านิ่งมันมากมายเหลือเกิน
“ผมไม่ใส่ก็ได้ ฮืดฮืดด” มันพูดไปไซร้ซอกคอไปพร้อมกับพ่นลมหายใจหืดหาดใส่หูผม “ค..แค่ถูๆ ให้เสร็จ..ก็พอ..นะ” กูจะเชื่อมึงได้มั้ยเนี่ย แค่จะพูดยังหายใจแทบไม่ทัน
“ไม่เอาโว้ยย ออกไป” พยายามยกเข่าดันร่างมันออกแต่อยู่ในอาการพิษไข้กำเริบแบบนี้ ผมจนปัญญาจริงๆ
“นะครับ ผมขอ..นะ..อึดอัด..จนร่างจะ..พังอยู่แล้ว” มันพยายามรวบรวมสติเพื่อสื่อสารออกมา
เห็นแล้วก็สงสาร “...ไม่ใส่แน่นะ!” ผมถามพลางดันหน้ามันออก แค่ดันหน้ายังแทบไม่ไหว แล้วถ้ามันจะเสียบกูจริงๆ จะทำไงวะเนี่ย!
“ครับ..” แค่ครับยังไม่พอแม่งยังสูดหายใจเข้าจนสุดอยู่ตรงกกหูกูด้วย ขนอ่อนลุกพรึบพรับแบบไม่ต้องบิ้วใดใด
ผมต้องยอมให้มันปลดกางเกงออกหมดทุกชิ้น นี่ถ้าใครเปิดประตูเข้ามาเจอมีหวังได้ขึ้นหน้าหนึ่งเป็นเดือนๆ แน่นอน แต่จะทำไงได้ล่ะ แผนก็แผนกูเอง ผิดแผนแบบนี้ก็ต้องยอมรับชะตากรรมล่ะนะ
“ซู้ดดดด ซี๊ดดดด” ลำคอและใบหูของผมแทบทุกตารางนิ้วถูกสูดดมดูดเม้มไม่ได้ขาด เสียงซี๊ดซ๊าดของมันก็ดังขึ้นตลอดเวลาจนอยากถีบสักเปรี้ยงให้หายกาม
“อึก!! อ..ไอ้..เหี้..ย เจ็บ!” ผมเบิกตาโพลงเมื่อด้านหลังถูกบางสิ่งรุกร้ำเข้ามาโดยไม่ทันได้ระวัง รวบรวมพลังขยับก้นให้หลุดออกจากการโจมตี ยังดีที่ยังพอมีแรงเหลือ “ถ้ามึงใส่มาอีกที กูฆ่ามึงแน่!” ผมกัดฟันกรอด
“ท..โทษที ลืมตัว” คือหน้ามึงไม่ได้บ่งบอกว่าลืมตัวซักนิด สภาพนี้คือลืมแม้กระทั่งชื่อตัวเองแล้วไอ้สัด!
แล้วตัวผมก็ถูกรวบกอดไว้แน่น มันขยับเอวขึ้นลงถี่รัวแต่ไม่ได้สอดใส่เข้ามาหรอก แค่ผลุบเข้าผลุบออกตรงซอกขาและร่องตูดผมเนี่ย
ไม่นานนักมันก็เกร็งและปล่อยน้ำรักออกมาเฉอะแฉะเต็มพื้น ผมถอนหายใจอย่างโล่งอกพร้อมกับทิ้งแข้งขาลงอย่างอ่อนแรง
“หมดทุกข์หมดโศกซะทีไอ้ดิน” หลับตารำพึงกับตัวเองอย่างเหนื่อยล้า แต่แล้วก็ต้องลืมตาขึ้นอีกครั้งเพราะมีบางอย่างกำลังถูไถไปมาหยอกล้อกับลูกชายของผม
“..ขออีก” มันมองกลับมาเมื่อผมจ้องมัน แม่งทำหน้าอ้อนเหมือนผู้ชายจะขอซิงจากผู้หญิงอย่างนั้นแหละ โอ้ย กูไม่ไหวแล้วววว!!!
ผมโบกมือหยอยๆ พยายามบอกมันว่า ‘พอเถอะไอ้เหี้ย’ แต่นอกจากมันจะไม่หยุด แม่งยังช้อนข้อพับเข่าผมขึ้นทั้งสองข้างแล้วโถมตัวทับลงมา
ถามว่าตอนนี้รู้สึกอะไรบ้าง..
กูปวดหัวจะระเบิดอยู่แล้ว กล้ามเนื้อทุกส่วนเหมือนเป็นอัมพาต กระดุกกระดิกแทบไม่ได้
“คุณ..น่ารัก” ทุกความเจ็บปวดหายเป็นปลิดทิ้งเพียงแค่ได้ยินคำหวานของมัน ดวงตาคู่สวยจ้องมองผมราวกับเป็นของที่มันหวงแหน ต่างกับแววตาหื่นกระหายเมื่อหลายนาทีที่ผ่านมา “ให้ผมนะ.. นะครับ” เหมือนร่างหลุดลอยไปในบรรยากาศที่ไร้แรงโน้มถ่วง ร่างกายล่องลอยเคว้งคว้างอยู่ครู่เดียวจากนั้นก็ถูกดูดเข้าไปในดวงตาของมัน
“อึก..จ..เจ็บ” ช่องทางด้านหลังถูกบุกรุกเข้ามาอย่างรวดเร็ว “ม..ไม่ไหว!” ผมหลับตาปี๋แยกเขี้ยวและกัดกรามน่นพลางดันตัวมันออกเพราะไม่คิดว่าจะทนความเจ็บปวดนี้ได้
กูจะยอมเป็นฝ่ายรับให้เลย
กูจะยอมเป็นฝ่ายรับให้เลย
กูจะยอมเป็นฝ่ายรับ
จะยอมเป็นฝ่ายรับ
ยอมเป็นฝ่ายรับ
ฝ่ายรับ
ฝ่ายรับ
รับ
รับ
“ม่าย ไม่เอาไม่รับ!! ปล่อยยยยย!!!” ผมรวบรวมพลังดันตัวมันออก
สกายหยุดเคลื่อนไหวและจ้องมองกลับมานิ่งๆ แววตาที่ห่วงใยระคนสงสาร แววตาที่บ่งบอกว่าสติของมันคืนกลับมาเข้าร่างบ้างแล้ว ผมเผลอสติหลุดเข้าไปในดวงตาคู่สวยอีกครั้ง จ้องมองภาพใบหน้าอ่อนโยนนั้นอย่างหลงใหล รู้สึกอยากทะนุถนอมผู้ชายคนนี้ไว้ให้นาน อยากเป็นเจ้าของมัน อยากดูแลรักษาเยียวยาหัวใจที่จมอยู่กับความทุกข์ อยากเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของมัน อยากปกป้องดูแลและได้รับสิทธิไล่ตะเพิดใครต่อใครที่เข้าใกล้มันโดยชอบธรรม
นานทีเดียวที่เราสื่อสารกันด้วยสายตา นานจนลืมว่าช่วงล่างถูกเสียดสีไปมาและถูกรุกล้ำเข้ามาทีละนิด และก่อนที่จะเฉลียวใจร่างผมก็ผวาเฮือก สองมือตะปบท่อนแขนของสกายแล้วบีบแน่น
“อ้ากก กูเจ็บ!!!” รอบดวงตาแสบร้อน กลางทรวงอกเหมือนมีไต้ฝุ่นลูกใหญ่หมุนวนปั่นคว้านเครื่องในจนละเอียดยิบรวมเป็นเนื้อเดียว
กูขอถอนคำพูด! กูไม่อยากดูแลทะนุถนอมมึงแล้วไอ้สัด กูเกลียดมึงไอ้หน้านิ่ง!!!!
ผมแยกเขี้ยวมองมันตาถลน ตอนนี้ร่างมันหยุดการเคลื่อนไหวแต่ยังคงคาท่อนรักเอาไว้ในร่างผมเช่นเดิม
แต่แล้วความโมโหโกรธาของผมก็ค่อยๆ คลายลงทีละน้อยเพราะแววตาอ่อนโยนของมันอีกครั้ง เหมือนถูกสะกดให้ต้องยอม เหมือนมันกำลังสื่อความหมายให้ผมเข้าใจว่าตอนนี้ไม่ใช่มันที่เป็นคนกระทำแต่เป็นผมที่ช่วยปกป้อง มันทำให้ผมรู้สึกราวกับว่าได้เอาตัวเองรับคมดาบแทนมัน โดยที่มันก็รับรู้และรู้สึกขอบคุณ
ทุกสิ่งทุกอย่างกลับตาลปัตรจากความโกรธเกรี้ยวกลายเป็นความภูมิใจ ถ้าไม่ทำแบบนี้ สกายอาจไม่รอดและผมเองจะอยู่ได้ยังไงถ้าไม่มีมัน
สักพักใบหน้าหล่อของมันค่อยๆ เคลื่อนเข้ามาใกล้ ในตอนแรกผมหยุดนิ่งเพื่อรอรับการจุมพิตแต่แล้วก็เอียงหน้าหนีเพราะเรื่องพนันมันค้ำคอ ที่เสียตัวเนี่ยมันผิดพลาดทางเทคนิคแต่ต้องชนะพนันแบบที่มันก็รู้สติด้วยถึงจะวินวิน
สกายทาบปลายนิ้วลงมาบนสันกรามของผมแล้วดันให้มองตรงหามัน “ผมขอจูบคุณได้มั้ย” น้ำเสียงที่ชัดเจนจนผมมั่นใจว่ามันไม่ได้พูดเพราะฤทธิ์ของยาแต่ถึงกระนั้นผมก็ไม่ได้ตอบอะไร “ถ้าจูบคุณแล้วต้องแพ้พนัน ผมก็ยอมแพ้ให้คุณนะ” มันยิ้มบางๆ แล้วมองผม
เป็นยิ้มที่น่ารักและอ่อนโยนราวกับเด็กน้อยที่ยอมถูกทำโทษเพื่อแลกกับการได้เล่นกับสุนัขตัวโปรด ถึงจะมอมแมมไปด้วยกันจนโดนแม่ตีก็คุ้มที่ได้แลก เห็นแล้วจึงอดไม่ได้ที่จะยิ้มตอบ ยิ้มนี้ของผมไร้ซึ่งแผนการใดใด เป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าอยากให้โดยที่ไม่ต้องการสิ่งตอบแทน
ผมบอกแล้วจ้องมองมันด้วยความรู้สึกปรารถนา “Kiss me..”
รักมั้ยนะ ผมรักมันใช่มั้ย..
“อืมม” แล้วริมฝีปากของเราก็บรรจบกัน สกายจูบผมอย่างอ่อนหวานก่อนจะเปลี่ยนเป็นเร่าร้อนขึ้นเมื่อผมเป็นฝ่ายใช้ลิ้นแทรกเข้าไปหยอกล้อกับริมฝีปากอุ่นชื้นของมันก่อน
หวาน..
จูบมันหวานจนผมอยากรู้ว่าจะมีอะไรที่หวานมากกว่านี้หรือไม่
เสียดายที่ตอนนี้ไร้เรี่ยวแรง ไม่อย่างนั้นสกายต้องถูกผมกลืนกินจนแทบไม่เหลือซาก มันดูดี ดูน่ารัก ดูอ่อนโยน และดูเหมือนจะมีใจให้ผม
ไม่รู้ล่ะ ตอนนี้ขอมโนเข้าข้างตัวเองแบบนี้ ไม่งั้นจะกลายเป็นว่าเสียตัวฟรี
“อึก..บ..เบา เชี่ย เบา!” ผมผวาล็อคคอมันแน่นเมื่อท่อนอันโตเริ่มขยับเข้าออก จะว่าไปมึงโหดมากนะสกาย แทบไม่เบิกทางอะไรให้กูเลยแม้แต่นิด รู้สึกจะใช้แค่น้ำรักของตัวเองแทนเจลหล่อลื่น แล้วดูมังกรของมึงสิ ใหญ่ซะขนาดนั้น เฮ้อ ไอ้ดินเอ้ย ครั้งแรกของมึงนี่ไม่ธรรมดาจริงๆ
ฝากถึงบรรดาฝ่ายรุกทั้งหลายนะครับ ถ้าคุณจะเปิดซิงใคร กรุณาค่อยๆ ค่อยๆ ค่อยๆ และค่อยๆ มึงค่อยๆ ลำเลียงลำของมึงเข้าไปเพราะกูบอกเลย แม่งเจ็บเหี้ยๆ !!!!
ครั้งแรกของผม ยังดีที่ใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่ก็เสร็จกิจ รู้สึกดีอยู่อย่างก็คือในระหว่างที่มันโยกกายบนร่างผมก็ไม่เคยละอ้อมกอดและริมฝีปากออกไปเลย หลายครั้งที่มันพยายามควานหามังกรตัวเขื่องของผมเพื่อช่วยบรรเทาความเจ็บปวดแต่ผมจับมือมันออกเพราะอยากให้มันจดจ่ออยู่แค่ไอ้จ้อนของตัวเอง ไม่ใช่หวังดีหรือเสียสละแต่ประการใด แต่เพื่อที่มึงจะได้เสร็จเร็วๆ ไอ้เหี้ย!!!
แล้ววิบากกรรมของผมก็ถึงกาลสิ้นสุด มันถอนร่างออกไปแล้วเอาบ็อกเซอร์มาเช็ดทำความสะอาดให้ผมก่อนจะทำความสะอาดตัวเองและเสื้อผ้ารวมถึงบนพื้นด้วย จากนั้นก็จัดการแต่งเนื้อแต่งตัวให้ผมและตัวมันเองจนเรียบร้อย
ไม่อยากเชื่อว่ารวมระยะเวลาตั้งแต่เริ่มกามกันจนถึงตอนนี้ ผ่านไปแค่ครึ่งชั่วโมงกว่าๆ ไอ้เหี้ยเอ้ย แม่งก็ทำไปได้ สี่น้ำครึ่งชั่วโมง!
“ลุกไหวมั้ย” ยังมีหน้ามาถาม
“มึงถามว่ากูทำประกันไว้โรงบาลไหนดีกว่าไอ้สัด” นอนด่ามันเพราะขยับตัวไม่ได้เลย ในหัวนี่ร้าวระบมจนยกไม่ขึ้น
“สภาพขนาดนี้ยังปากดีอีก” ว่าแล้วก็มาพยุงผมให้ไปนั่งบนเก้าอี้ที่มีพนักพิง แต่ขอโทษนะ มึงปล่อยกูนอนดีกว่ามั้ย นั่งแบบนี้กดทับบาดแผลฉกรรจ์ของกูเว้ย!!
“ดีขึ้นแล้วเหรอ” ผมถาม ตอนนี้ดูมันจะสร่างจากอาการหื่นกามไปเยอะแต่หน้าก็ยังซีดและตาแดงอยู่
“มือยังสั่นอยู่นะ หนาวๆ ร้อนๆ เหมือนมีไข้ ไอ้นี่ก็ยังแข็งๆ อ่อนๆ อยู่ตลอดอะ” มันบุ้ยปากไปที่หว่างขา
ผมผงกหัวรับรู้ “ออกไปแล้วก็กินน้ำเยอะๆ นอนแช่น้ำอุ่นซักพัก เดี๋ยวก็หาย”
แทนที่จะขอบคุณที่ผมแนะนำแต่มันกลับทำหน้างอ “นี่แผนคุณใช่มั้ย ใส่อะไรในน้ำให้ผมกินล่ะสิถึงเป็นแบบนี้น่ะ” มันใช้เท้าเตะพวกขวดเปล่าให้ล้มระเนระนาด “หมองูตายเพราะงู เห็นมั้ยว่าผลเป็นไง ผมขอร้องล่ะนะ เลิกเป็นคนเจ้าแผนการซะทีเถอะ ถ้าแผนสำเร็จก็ดีไปแต่ถ้ามันผิดแผนคุณก็จะเป็นแบบ..!!! เฮ้ย!! คุณ!! คุณ!!” เหมือนโลกมันเอียงมากขึ้นหรือยังไงวะ ผมเริ่มตะแคงลงเรื่อยๆ จนร่างตกลงบนพื้น
“คุณไหวมั้ย โอ้ย ตัวร้อนจี๋เลย คุณ..คุณ อดทนไว้นะ..”
รู้สึกถึงแรงเขย่า ได้ยินเสียงเรียก รู้สึกถึงไออุ่น รู้สึกว่าถูกพรมจูบไปทั่วใบหน้า รู้สึกถึงความห่วงใยที่มากมาย จากนั้นสักพักก็ได้ยินเสียงผู้คนโฉ้งเฉ้งโวยวายกันยกใหญ่แต่ก็ไม่สามารถลืมตาขึ้นมาได้เลย
“ห...หา..พ..พี่..เก..”
“อะไรนะ คุณพูดอะไร พูดอีกทีผมไม่ได้ยิน”
“..หา..พี่..เ..ก..ด” นี่คือประโยคสุดท้ายที่ผมพูดออกไป และจากนั้นสติก็ไม่รับรู้อะไรอีกเลย
“อิดอกดินเอ้ย ห้าวซะขนาดนี้เสือกโดนกด แถมคนกดยังหน้าอ่อนกระดูกอ่อนกว่ามึงตั้งไม่รู้กี่เท่า บทจะยอมแม่งก็ยอมง่ายยอมดาย สงสัยรักเขามากล่ะสิ ถ้าไม่รักนะ ถึงมึงใกล้ตายมึงก็ไม่ยอมให้ใครเสียบได้หรอก ตื่นมากูจะล้อยันลูกบวชเลยมึง” เสียงด่าแบบนี้รู้สึกคุ้นหูว่ะ อบอุ่นใจเหมือนได้อยู่ในที่ปลอดภัย
จากนั้นก็มีเสียงเปิดประตูและมีเสียงตีนหนักๆ เดินเข้ามาหยุดที่ปลายเท้า
“ไอ้นี่ก็เหมือนกัน กดมันได้ก็อย่าลำพองไปล่ะ มันเอาคืนมึงแน่” เสียงพี่เกด..น่าจะใช่ ว่าแต่ มันคุยกับใครวะ
“...ผมน่ะ..ยังไงก็ได้ครับ ไม่ได้ซีเรียสอะไร” เสียงไอ้หน้านิ่งใช่มั้ยวะ
กำลังคิดถึงพอดีเลย
“..อือ..ม..มึ..” ผมพยายามจะสื่อสารออกไปแต่ลำคอแห้งผากจนหายใจติดขัด
“อาราย อะราย!! เจอทั้งไข้เจอทั้งยากดไว้ขนาดนี้แม่งยังฟื้นได้อีก มึงนี่มันเดนตายฉิบหายเลยว่ะ ไหนพูดอีกทีซิ”
“ม..มึง พ..แพ้ พนัน ก..กูแล้ว..นะ” ผมบอกอย่างกระท่อนกระแทนหวังว่าคนฟังคงจับใจความได้
“มันบอกว่า มึงแพ้พนันกูแล้วนะ พนันไรกันเหรอวะ”
“หึหึ” อย่ามาหัวเราะหึหึนะไอ้หน้านิ่ง ห้ามโกงกูนะ มึงแพ้มึงก็ต้องเป็นเบ้ให้กูด้วย! “ขอผมไปคุยกับเขาใกล้ๆ ได้ไหมครับ”
“อยากมาก็ไสหัวเข้ามาสิ ไม่ได้กั้นคอกไว้ซะหน่อย”
แล้วทุกอย่างก็เงียบไปสักพัก จากนั้นที่ข้างหูผมจะมีเสียงกระซิบเบาๆ
“ยอมแพ้ให้ก็ได้ครับ..เมีย”
!!!!!
เมียพ่อง!!!! ***************************