{ปิดพรีออเดอร์}º●Not Fat อ้วนไม่รักงั้นผอมก็ได้!!!●º 13/08/59 P.63 END
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

ถ้าหากจัดพิมพ์นิยายเรื่อง Not fat อ้วนไม่รักงั้นผอมก็ได้ (ฉบับรีไรท์+ตอนพิเศษ)

อุดหนุนแน่นอน
19 (26.8%)
ขอดูราคาก่อน
51 (71.8%)
ไม่อุดหนุน
1 (1.4%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 71

ผู้เขียน หัวข้อ: {ปิดพรีออเดอร์}º●Not Fat อ้วนไม่รักงั้นผอมก็ได้!!!●º 13/08/59 P.63 END  (อ่าน 523064 ครั้ง)

ออฟไลน์ เซยูเนียส

  • เป็ดขึ้นคาน
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1384
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-2
คนเขียนทำนิพนจ์อยู่สินะ!! สู้ๆ ครัช นิยายเรารอได้

ออฟไลน์ หมูหยังสือ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :ling1:จุใจมาก(ก.ไก่ล้านตัว)
รีบมาต่อนะคะ :mew2: :mew2: :mew2:

ออฟไลน์ miwmiwzaa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 94
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ขอบคุณค่ะ คิดถึงปังๆกับพี่ใหญ่จัง มาต่อไวๆนะคะ

ออฟไลน์ Soda.wine

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 76
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ไม่นะ หมูแดงปังปังของพี่ใหญ่ ต้องต้องคู่กับพี่ใหญ่เท่านั้นนะ ส่วนพี่อลันไปอยู่กับน้องปาล์มเลยนะ

ออฟไลน์ jepei

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 15
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ร้องไห้กับปังปังก่อนหน้านี้น้ำตายังไม่ทันแห้ง ตอนนี้กลับยิ้มปากกว้าง..น่ารักกกกก #พี่เสือร้าย #น้องหมูอ้วน

ออฟไลน์ iaum

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
เข้ามาอ่านเพราะชื่อเรื่องเลยยยย o18 o18 o18 ชื่อเรื่องน่าสนใจมากก :z2: :z2: :z2:

ออฟไลน์ pa_pa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 469
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +414/-4


{special กาจพลXชินโด}




เรื่องราวของผม อาจจะไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรมากนักหรอกนะครับ ผมชื่อชินโด เพื่อนของปังปังตัวเล็กและไอ้เสาร์ ที่เคยหลงผิดเพราะพิษเศษฐกิจที่ทำให้กิจการฟิตเนสของบ้านผมล้มละลาย ทำให้ผมเกิดอารมณ์ชั่ววูบทำร้ายเพื่อได้ลงคอโดนการทำของปังปังเสียหาย แต่แล้วก็ไปไม่รอดถูกจับได้ และก็เป็นโชคดีของผมที่ปังปังให้อภัยพร้อมกับฝากผมให้เข้ามาทำงานที่ร้านกาแฟใกล้ๆมหาลัยที่ปังปังรู้จัก ถึงแม้ค่าจ้างจะไม่เยอะอะไร แต่พี่ปอยเจ้าของร้านใจดีให้ผมทำงานเป็นกะได้ถ้ามีเรียน หรือวันไหนไม่มีเรียนก็มาช่วยที่ร้านทั้งวันได้ เพราะร้านนี้ทำให้ผมพอที่จะให้ผมเก็บเป็นค่าเทอม และค่าเช่าหอพัก รวมไปถึงค่ากินได้โดยไม่ต้องรบกวนพ่อแม่ … ซะเมื่อไหร่!!! ใครจะไปพอกันเล่า!!!!



“อีก 2 เดือนต้องจ่ายค่าเทอมแล้ว … ค่าหอสิ้นเดือนนี้อีก ไหนจะค่าจำนองบ้านอีก … หักลบแล้วเหลือนิดเดียวเอง …”


ผมบ่นกับตัวเองในขณะที่นั่งอยู่ที่หลังเคาเตอร์กาแฟสด ในตอนนี้เป็นช่วงเช้ายังไม่มีลูกค้ามากนัก เฮ้อ … ทำไงดีนะ เพราะว่าบอกพ่อกับแม่ไปแท้ๆว่าไม่ต้องส่งเงินมาให้แล้วนั้นแหละ ทุกอย่างเลยรวนไปหมด แต่ก็นะ ในเมื่อผมมีงานมีการทำแล้วผมก็ไม่ควรจะรบกวนท่านอีกอย่าง ยูริ น้องสาวผมที่เพิ่งขึ้น ป.1 ก็ต้องใช้เงินเยอะเหมือนกัน จะให้ผมไปหางานอื่นทำเสริม ผมคงทำไม่ไหวเพราะลำพังแค่เรียนและทำงานที่นี้ก็แทบจะไม่มีเวลานอนแล้ว มีงานวาดงานปั้นที่ต้องส่งทุกวันแทนจะคะแนนนั่งสอบนี้นะ เฮ้อ ชีวิตเด็กมหาลัยอย่างผมนี้มันไม่ง่ายจริงๆ… เอาละ เลิกตัดพ้อและหาวิธีให้อยู่ได้ทั้งเดือนในวงเงินขี้มดนี้กันเถอะ ฮึบๆ
ผมลุกขึ้นปัดผงขนมปังอบใหม่ที่เพิ่งเอาไปใส่ไว้ในตู้ขนมปังออกจากเอี้ยมกันเปื้อนตัวสีดำที่ใส่อยู่ ก่อนจะเดินไปหยิบไม้กวาดเตรียมปัดกวาดเช็ดถูร้านอีกรอบ ร้านของกินจะปล่อยให้สกปรกไม่ได้นี้นะ 


กริ๊ก กริ๊ก



“อ่ะ พี่คมสวัสดีครับ”


ผมยกมือไหว้ทักทายพี่คมรุ่นพี่ปี 4 คณะการจัดการ ที่ผมรู้จักและเป็นลูกค้าประจำมาเกือบทุกวันในระยะเวลาที่ผมทำงานอยู่นี้ พี่คมมักจะมานั่งดื่มกาแฟมากับเพื่อนบ้างหรือมาคนเดียวบ้างตามโอกาส พี่คมเป็นคนหุ่นดีครับ ร่างสูงใหญ่ผิวสีแทนออกเข้มแต่ดูสะอาดสะอ้านไว้ผมทรงสกินเฮดเหมือนพี่ใหญ่แฟนปังปัง ตาเรียวคมกริบ กับปากที่ยกขึ้นทำให้ดูเหมือนยิ้มตลอดเวลา


“สวัสดีน้องชิน ทำอะไรน่ะเรา ลูกค้าไม่มีพักบ้างก็ได้”  เขาพูดพร้อมกับเดินมาแย่งไม้กวาดจากมือผมไปวางไว้ที่เดิม ผมมุ่ยหน้ายิ้มๆ เพราะพี่คมใจดีแบบนี้ไงถึงมีสาวๆมาขายขนมจีบไม่ขาดสาย


“ไม่ได้สิครับเดี๋ยวพี่ปอยมาเห็นร้านมีฝุ่นผมจะโดนดุ พี่คมรับอะไรดีครับ” ผมเดินไปที่เคาเตอร์บาร์กาแฟโดยมีพี่คมเดินตามมาติดๆ


“พี่เอาเหมือนเดิมครับ”


“ได้เลยครับไปนั่งรอที่โต๊ะเลยครับเดี๋ยวผมยกไปเสริฟให้”


“มาถึงก็ไล่พี่เลยนะเราน่ะ”


“ไม่ได้ไล่ครับ”


กริ๊ง กริ๊ง 



   เสียงกระดิ่งหน้าร้านดังขึ้น ทำให้ผมเงยหน้าขึ้นไปมองและก็ต้องถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ส่ายหน้าไปมาอย่างระอาใจ ไอ้ตัวป่วนคนนี้ก็เข้าๆออกๆร้านผมแทบจะทุกวันเหมือนกันนั้นแหละ เฮ้อ ไม่รู้ปังปังเคยชอบคนพันธ์นี้ไปได้ยังไง ดีแล้วละที่รักกับพี่ใหญ่ถ้าได้คนเจ้าเล่ห์ปากร้ายใจร้ายคนนี้เป็นแฟนนะต้องกระอักเลือดตายแน่ๆ ปังยิ่งไม่ทันคนอยู่ด้วย


   “ถอนหายใจเลยหรอไอ้วอก”


   “คุณสิวอก” ผมตอบแบบไม่มองหน้า เพราะยังสนใจกับการชงอาริกาโน่ให้พี่คมอยู่ ใครเค้าจะมีเวลาว่างเหมือนคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าผมนี้แหละ


   “ต่อปากต่อคำ เหมือนเดิมละกัน”


   “ไอ้เหมือนเดิมของคุณนี้อะไร”


   “เป็นพนักงานภาษาอะไรจำลูกค้าไม่ได้ อ๋อ ไม่สิ เลือกจำซะมากกว่า หึ” ไอ้พี่กาจพลเหยียดๆ ผมเสร็จก็เดินไปนั่งโต๊ะใกล้ๆพี่คมที่นั่งจ้องผมอยู่ริมกระจกร้าน ก่อนจะเบนสายตามองพี่กาจพลนิ่ง สองคนนั้นเหมือนจะต่อสู้กันด้วยสายตา ผมเองก็เริ่มชินเพราะเหตุการณ์นี้มันเกิดขึ้นเกือบทุกวันไม่รู้ไปทะเลาะกันมาแต่ชาติปางไหน


   ผมชกกาแฟให้พี่คมเสร็จก็หันไปหยิบครัวซองกลิ่นหอมร้อนๆที่เพิ่งอบเสร็จคีบมาใส่จานที่เตรียมไว้ในถาดและเดินถือไปเสริพให้พี่คมที่ส่งยิ้มมาให้ผมอยู่ตอนนี้


   “อาริกาโน่ร้อน กับครัวซองแบบใหม่ของร้านครับ”


   “ฟรีหรือเปล่า น่ากินเชียวครับ” เขาก้มลงไปดมครัวซองตรงหน้านิดๆก่อนจะเงยขึ้นมายิ้มให้ผมอีก


   “ครับ ผมเลี้ยง เป็นรางวัลให้พี่คมที่มาอยู่เป็นเพื่อนผมทู๊กกกกกกกวัน”


   “หึหึ น้อมรับครับ เพิ่มอบใหม่เหรอ”


   “ครับ พี่ปอยอบไว้ก่อนออกไป ทานให้อร่อยนะครับพี่คมผมขออนุณาติไปทำงานก่อน”


   “หึ กาแฟคงไม่ต้องใส่น้ำตาลแล้วมั่งหวานนนนนนนนน ซะขนาดนี้” ผมถอนหายใจไม่สนใจเสียงนกเสียงกาก่อนจะเดินกลับมาที่เคาเตอร์กาแฟเพื่อชงคาปูชิโน่เย็นให้คุณลูกค้าจอมกวนโอ้ย พี่คมก็เช่นกัน เขายิ้มให้ผมก่อนจะหันไปสนใจหนังสือวรรณกรรมเล่มโตในมือต่อ เขามักนิ่งแบบนี้เสมอต่างจากอีกคนที่มักจะอารมณ์ร้อนเอาแต่ใจจนเหมือนเป็นคนบ้า


แก๊ก



   “คาปูชิโน่เย็นได้แล้วครับ” วางแก้วกาแฟทรงสูงตรงหน้าไอ้พี่พลที่ก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์ในมืออย่างเอาเป็นเอาตายเสร็จก็หมุนตัวกลับ ตั้งใจว่าจะเก็บกากกาแฟที่ค้างในเครื่องออก


   “ครัวซองฉันละ” 


   “ครัวซอง ?” ผมหันกลับไปถาม ไอ้พลยังทำหน้าตาระรื่นกวนโอ้ยอยู่ไม่สะถกสะท้านหมอนี้เลิกคิ้วพยักหน้าพูดออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ มองหน้าผมไม่วางตา


   “ก็ใช่นะสิ ครัวซองละ ?”ตาผมจ้องเป๊งไม่กระพริบเหมือนกัน มีใครที่ไหนบ้างถามหาของฟรีเองแบบนี้ ผมอยากจะให้ใครชิมคนนั้นต้องเป็นคนดี นิสัยดี อย่างคนๆนี้ผมให้ซื้อก็แล้วกัน


   “ได้ครับจะรับกี่ชิ้นดีครับ”


   “หึ ของฟรีกี่ชิ้นก็ได้งั้นเหรอ”


   “ทานร้านเรายังไม่มีโปรโมชั่นฟรีขนมครับ”


   “แล้วทำไมกระแดะไปให้ผู้ชายแบบนั้นละครับคุณหนูชิน”


   “เพราะพี่คมเป็นคนดีไงครับคุณชายกาจพล” พูดเสร็จผมก็หันหลับเดินกลับ ยอมรับว่าบาดหูกับคำพูดคำจาดูถูกผมแบบนี้มาก นี้เหรอวะวาจาของคนรวย หึ !


ควับ!


   ไอ้พี่กาจพลวิ่งมาดักหน้าผมและด้วยความตกใจผมเลยผลักอกหนาๆตรงหน้าออกไปอย่างแรงแต่หมอนี้ไม่ยอมแพ้กระชากมือผมเข้าไปรวบไว้ทั้งสองข้าง กระบอกตาผมร้อนผาวไปหมด เพราะหมดทางสู้  บ้าเอ้ย! เกิดบ้าอะไรขึ้นมาวะ


   “หึหึ มันก็เลวพอกันนั้นแหละ” หมอนั้นพูดเย้ยผม


   “คุณจะทำอะไรชิน” พี่คมเดินมายืนตรงกลางระหว่างผมกับหมอนั้นวางมือใหญ่บนมือของนายกาจพลใช้มือโอบไหล่ผมเอาไว้อย่างปกป้อง


   “อย่าเสือก!” ผมสะดุ้งนิดหน่อย แต่ก็ถือโอกาสที่นายนั้นโมโหจนควันออกหูสะบัดตัวออกมายืนจังก้าให้ห่างจากพวกเขา
ทั้งสองคน จะชกก็ชกไปอย่าดึงผมเข้าไปเป็นฉนวนในการมีเรื่องได้ไหมละ มันขนลุก!



   “ทำไม ยอมรับตัวเองไม่ได้เหรอไง ว่าแต่คนอื่น ตัวเองก็เลวพอกันนั้นแหละ อย่าคิดว่าสุชาดาไม่เล่าให้ฉันฟังนะว่านายไปทำอะไรไว้ หึหึ”


   “หยุดพูดนะ! ขอโทษนะครับพี่คม ส่วนคุณ!อย่ามาทำตัว‘เหี้ยๆ’ (พูดไม่มีเสียง) ต่อหน้าลูกค้าผมแบบนี้” 


   “ปากดีนักนะ” นายนั้นจะถลาเข้ามาหาผมแต่ถูกพี่คมขวางเอาไว้ จากนั้นก็เหมือนจะสิงโตกับหมาพิคบลูกำลังจะพุ่งเข้าหากัน ผมเลยทำอะไรไม่ได้นอกจากวิ่งไปหยิบไม้เบสบอลด้านหลังเคาเตอร์ที่เตรียมไว้เพื่อการนี้ และถลาเข้าไปยืนกลางฝูงที่กำลังจะพุ่งเข้าหากันเต็มทน

 
   “หยุด! ถ้าจะทะเลาะกันไปทะเลาะกันนอกร้านครับ แต่ถ้าไม่ฟังผมฟาดทั้งคู่แน่!!!!”


   “น้องชิน …”


   “พี่กลับไปก่อนเถอะครับพี่คม” ผมหงุดหงิดหันกลับไปพูดกับพี่คมเสียงดังนิดๆ ให้ตายสิ ทั้งหงุดหงิดทั้งร้อนในอกประหลาดๆ เกลียดชะมัด ผมรู้ว่าผมผิดไปแล้ว ผมสำนึกผิดแล้วแท้ๆ แต่หมอนั้นก็ยังพูดจาถากถางผมไม่เลิก


   “ไอ้วอกไล่แล้วมึงก็ไปสิวะ” ผมค้อนควับไปที่ไอ้พี่พลที่ไม่เคยคิดจะสงบปากสงบคำกับใครเขา


   “ถ้าไอ้หมอนี้ไม่ออกจากร้าน พี่ก็ไม่มีวันปล่อยให้เราอยู่กับหมอนี้สองคน” นี้ก็อีกคนทำไมดื้อด้านกันนัก!!!


กริ๊ง กริ๊ง



   ผมที่หันไปค้อนพี่คมอยู่หันไปมองลูกค้านักศึกษากลุ่ม 5 คนที่เดินพูดคุยกันเข้ามาในร้านแต่ก็ชะงักเมื่อเห็นสภาพเราสามคน ที่คนตัวหนาไล่เลี่ยกันสองคนกำลังยืนประจันหน้ากันอยู่และเด็กเสริฟร้านกาแฟอย่างผมกำลังถือไม้เบสบอลยืนตรงกลางเหมือนพร้อมจะง้างทุบใครที่เริ่มกระโจนเข้าหากันก่อน


   “เอ่อ พวกเราเข้ามาทานได้ใช่ไหมคะ” น้องผู้หญิงถักเปียพูดขึ้น


   “ได้ครับเชิญ” ผมพยักหน้ายิ้มตอบและผลักทั้งคู่ให้แยกออกจากกัน ก่อนจะก้าวไปต้อนรับเด็กผู้หญิงกลุ่มนั้น ทำเอาผมปรับอารมณ์แทบไม่ทันเลยทีเดียว 


   รับออเดอร์จากลูกค้าเสร็จผมก็เดินมาที่หลังเคาเตอร์กาแฟทันที ไม่ลืมที่จะลอบสังเกตทั้งสองคนที่ตอนนี้กลับไปนั่งที่โต๊ะสงบปากสงบคำกันไปได้ เฮ้อ … ทำไมผมจะไม่รู้ว่าพี่คมคิดยังไงกับผมละครับ เขาออกจะชัดเจนขนาดนั้นผมเองก็รู้ตัวว่าผมไม่ได้ชอบผู้หญิง แต่ก็ไม่ได้คิดว่าจะชอบที่คมได้ เขาเป็นคนดีครับ แต่ผมไม่ได้รู้สึกแบบนั้นกับเขา ผมมองเขาเป็นพี่ชายที่ดีของผม  ส่วนไอ้พี่พล ที่มาที่นี้ทุกวัน ผมก็รู้ว่าหมอนั้นมาหาข่าวของปังปัง หวังจะขอความเห็นใจจากผมให้ช่วยสืบเป็นพ่อสื่อพ่อชักให้ได้ใกล้ชิดกับปังปัง แต่อย่าหวังที่ผมจะปริปากบอกเลย


   ตอนนี้ปังก็กลับมาเรียนได้ 2 อาทิตย์แล้วหลังจากที่ไปออสเตรเลียมา คืนดีกับพี่ใหญ่แล้วด้วย แถมยังมีพี่ชายที่ชื่อลันไปรับไปส่งทุกวันอีกต่างหาก ส่วนมิ้นต์ผู้หญิงเจ้าปัญหาก็หายไปเลยไม่มาเรียนหอที่เคยพักก็ไม่อยู่ ข้อมูลพวกนี้แหละที่หมอนั้นอยากรู้ หึ ก็เพราะตัวเองทำผิดไว้เยอะไง เขาถึงไม่อยากจะเห็นหน้าเลยต้องใช้ไม้นี้ … แต่จะว่าไปผมก็เคย … ทำผิดกับเพื่อนเหมือนกันนี้นะ … ก็จริงที่หมอนั้นบอกแหละ ผมไม่ใช่คนดีหรอก … แต่อย่างน้อยผมก็ดีกว่าหมอนั้นที่คิดได้และสำนึกได้กลับตัวกลับใจไม่ทรยศเพื่อนอีก แล้วไอ้พี่กาจพลละ ทำได้ไหม ?


   “ชานมปั่น โกโก้เย็น สตอเบอรี่นมสดปั่น  ชาเขียนร้อน ลาเต้เย็น กับขนมปังปิ้ง 2 คู่ แยมสตอรี่กับนมเนย ขนมเค้กหน้านิ่ม 1 ชิ้นและก็เค้กส้ม 1 ชิ้น รายการครบนะครับ”


   “ครบคะ” ผมพยักหน้ายิ้มรับก่อนจะโค้งให้เดินออกมาอย่างน้อบน้อมหลังจากเสริฟอาหารให้ลูกค้าครบ เดินผ่านทั้งโต๊ะที่คมและนายนั้นอย่างไม่มองหน้า เพราะผมงอนทั้งคู่แหละ อยากมีเรื่องกันในร้านผมดีนัก หึ 


   “ครัวซองละ!”


กริ๊ง !


   เสียงวางช้อนดังมาจากโต๊ะพี่คม ทั้งร้านตกในความเงียบอีกครั้งแม้กระทั่งโต๊ะของน้องผู้หญิงที่นั่งอยู่อีกฝั่ง … ไอ้นี้ทำไมกวนผมไม่เลิกสักที ผมถอนหายใจก่อนจะหันไปปั่นหน้ายิ้มและพยักหน้าให้ใบหน้าที่ยียวนกวนประสาทผมไม่เลิก


   “รอสักครู่นะครับ” ผมเน้นทีละคำก่อนจะเดินมาหยิบครัวซองออกมาจากตู้ขนมหนึ่งชิ้นวางบรรจงใส่จานเหมือนปกติและเดินไปเสริฟให้เสร็จๆจะได้จบเรื่อง


หมับ !


   “อย่าคิดว่าจะรอดนะ” แล้วใครกลัว ? ผมยิ้มมุมปากให้ก่อนจะสะบัดมือออกและเดินมาทำงานปกติ โดยไม่สนใจทั้งพี่คมและไอ้พี่กาจพล


   เนื่องจากลูกค้าถยอยเข้ามาบ้างแล้ว และประจวบเหมาะกับที่น้องติว น้องเด็กผู้หญิงพาสทามอีกคนนึงมาเข้ากะ ละพี่ปอยก็กลับมาจากธุระ ทำให้งานยุ่งและคนเยอะ สองคนนั้นเคยพักรบไม่ห่ำหั่นกันให้ผมต้องรำคาณอีกไม่งั้นผมได้เอาไม้เบสบอลเพ่นหัวกบาลไม่ใครก็ใครสักคนนั้นแหละ เฮ้อ … เห็นผมหน้าอ่อนๆแบบนี้ ผมก็ไม่ใช่คนดีอย่างปังปังหรอกนะ อาจจะร้ายยิ่งกว่าตัวเล็กด้วยซ้ำไป ยิ่งคนที่มาร้ายกับผมอย่างไอ้พี่บ้าที่นั่งเต๊ะท่ามีหลายชั่วโมงแบบนั้นผมก็ไฝว้ไม่ไว้หน้าเหมือนกัน หึ เล่นกับใครไม่เล่นมาเล่นกับชินได้ยังไงครับ 

   “เฮ! สวัสดีครับ พี่ปอย  น้องติว แล้วก็ชินโดที่รักของโผ้มมมมมมมมมมมมมมมมม”


   “อย่าไอ้มิก! มาจากไหนเนี้ย”


   “มาเข้าจากหลังร้านอะดิ อื้อออ อย่าดันหน้าผมเด้ มันเจ็บน้า~”


   ผมเอามือยันหน้าเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันที่เรียนอยู่อีกมหาวิทยาลัยนึงไม่ใกล้ไม่ไกลมากนักที่เข้ามาในร้านได้ก็พุ่งล้าวเข้ามาหาผมที่กำลังชงกาแฟอยู่ ร่างสูงโปรงพอๆกับผม ผิวสีน้ำผึ้งเนียน หน้าตาดูกึ่งสวยกึ่งหล่อ พอที่จะทำให้สาวๆหลงได้นั้นแหละครับ เสียงกระดิ่งจากสร้อยคอสีดำเส้นเล็กๆที่ห้อยติดกับกระดิ่งดังกรุ้งกริ้งๆเหมือนแมว เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของไอ้เพื่อนคนนี้ ถ้าจะเป็นแมวก็คงแมวดำจอมกวนโอ้ยนั้นแหละ


   “มาถึงก็พุ่งเข้าหาพี่ชินเลยนะ เดี๋ยวก็โดนแฟนคลับพี่ชินตะบปหรอกพี่มิก” น้องติวแซวขึ้นผมหันควับไปมองน้องถึงจะทำท่ารูดซิปปากและโยนกุญแจทิ้ง ส่วนมิกทำหน้าแหยงๆมองไปที่โต๊ะพี่คมสลับกับโต๊ะไอ้พี่กาจพลและถอยห่างผมออกไป


   “โด่ววววววววววว ม้ายกลัวหรอก ฮิฮิ ไหนๆมีอะไรให้มิกทำบ้าง”  ไม่กลัวเล้ยยยยยยยยยยยย สักนิด ฮ่าๆๆๆ มีมิกอยู่ก็ตลกดีเหมือนมีน้องนอกจากยูริเพิ่มอีกหนึ่งคน ดูมุ้งมิ้งมีกระดิ่งติดคอแบบนี้หาที่ไหนได้ ผมเคยถามว่าทำไมต้องใส่ เจ้าตัวก็ไม่ยอมบอกสักที บอกเป็นของแมวตัวเก่าใส่ไว้กันิดถึง ดูประหลาดๆ แต่ผมก็จะพยายามเชื่อนะ 


   “ชินกลับไปพักเถอะ เจ้าติวเจ้ามิกมาแล้วเห็นว่ามีงานไม่ใช่หรือไง”


   “ครับผม งั้นผมไปเปลี่ยนชุดก่อนนะครับ” ผมยิ้มรับพี่ปอย ก่อนจะเดินมาห้องพนักงานด้านหลังร้านเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้ากลับหอพักที่อยู่ไม่ไกลมากนักแต่อยู่คนละซอยกับปังปังเท่านั้นเอง ใจจริงผมอยากจะกลับไปอยู่บ้านนะครับ แต่บวกลบคูณหารแล้วค่ารถกับค่าหอเท่าๆกันเลย


   ถ้าบ้านผมล้มละลายก่อนผมเข้ามหาลัยก็คงดีผมจะได้ตัดสินใจไม่เรียนหรือไปเรียนในมหาลัยที่ถูกกว่านี้ โชคดีแค่ไหนที่ผมยังขอทุนเพื่อการศึกษาผ่าน ได้แบ่งเบาค่าเทอมไปได้บ้าง และผมเองไม่อยากเลือกเรียน เพราะสิ่งที่ผมเรียนอยู่ตอนนี้ คือความฝันของผม ใครจะคิดว่าลูกครึ่งไทย ญี่ปุ่น ในฐานะบ้านปานกลางจะต้องมาตกอยู่ในสถานะแบบนี้ได้ ... แต่ก็เอาเถอะ จะไปคิดโทษโชคชะตาก็ไม่มีประโยชน์อะไร ถ้าเทียบกันผมกับคนที่เขาไม่มีโอกาสได้เรียน ผมก็ยังมีโอกาสที่ดีกว่าละนะ … คิดแบบนี้แล้วก็สบายใจดี ไม่มีใครไม่ดิ้นรนหรอกเนอะ แล้วเดี๋ยวมันก็จะผ่านไปเอง …


   “ผมกลับก่อนนะครับ”


   ผมที่แต่งตัวในชุดลำลองเสื้อบอลกางเกงขาสั้นเรียบร้อย เดินออกมายกมือไหว้พี่ปอยที่นั่งอยู่ที่เค้าเตอร์คิดเงิน ก่อนจะหันไปโบกมือให้มิกที่นวดแป้งอยู่ในครัว และน้องติวที่กำลังเดินเสริฟออเดอร์อยู่หน้าร้าน  ผมมองออกไปก็เห็นแค่พี่คมที่นั่งมองมาที่ผมยิ้มๆ แต่ไม่ยักจะเห็นไอ้พี่กาจพล สงสัยจะเบื่อป่วนคนอื่นเลยกลับไปแล้ว ดีเหมือนกันนะ ทางสะดวกดี


   “น้องชินพี่ไปส่งนะครับ” ยังไม่ทันจะแบกเป้ออกจากร้านได้พี่คมก็เดินมาดักหน้าผมเอาไว้ก่อน พร้อมรอยยิ้มที่คลุกรุ่นไปด้วยความอบอุ่นและหวังอะไรจากผมบางอย่าง


   “ไม่เป็นไรครับพี่ พอดีผมจะแวะไปธุระที่ร้านเครื่องเขียนก่อนน่ะครับ” ผมยิ้มตอบอย่างสุภาพ และเดินเลี่ยงออกมาจากประตูร้าน


   “ไม่เป็นไรครับพี่ว่างเดี๋ยวพาไป”


   “เอ่อ … ก็ได้ครับพี่”


   ผมจนปัญญาจะปฎิเสธเลยยอมให้พี่คมเดินไปที่มอเตอร์ไซค์คันโตราคาแพงที่ด้านหลังไม่ค่อยเหลือพื้นที่ให้ผมนั่งเท่าไหร่
นัก พี่คมเดินยิ้มมาขึ้นไปสตาร์ทรถพร้อมกับยื่นหมวกกันน็อกอีกใบให้ผม ก่อนจะสวมให้ตัวเอง ผมรับผมสวมอย่างเสียมิได้ ก่อนจะขึ้นไปนั่งซ้อนท้ายและกระชับหาที่จับไว้กันตก … ผมนั่งรถเมไปสบายกว่าไหมเนี้ยเสียวตกชะมัด!


   “เกาะดีๆนะครับ” ผมพยักหน้ารับก่อนที่พี่คมจะค่อยๆออกรถไป ห้างที่ผมจะไปซื้ออุปกรณ์วาดรูปอยู่ค่อนข้างไกลจากตรงนี้ แต่ผมก็ต้องไปและรีบกลับมาทำงานบังเอิญว่าของที่ต้องใช้ดันหมดวันนี้ซะได้ เฮ้อ ถือว่าประหยัดค่ารถ 8 บาทแล้วกัน คิกๆ


   “เอ่อ … ยังไม่ถึงไม่ใช่เหรอครับ” ขับมาได้สักพักพี่คมก็มาจอดที่สวนอาหารแห่งหนึ่งที่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา บรรยากาศยามเย็นลมพัดสบายๆ ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกดีในเวลานี้ … เพราะถ้าผมไม่มีงานส่งพรุ่งนี้ผมอาจจะตกวิชาวาดก็ได้


   “ร้านนี้อร่อยพี่อยากพาเรามาทานก่อน แล้วเดี๋ยวพี่พาไปซื้อนะ”


   “พี่คมครับ … ผมอยากไปร้านเครื่องเขียน ผมมีงานต้องทำ และส่งพรุ่งนี้ครับ” ผมถอดหมวกออกมาและพยายามสงบสติอารมณ์เข้าไว้ ยุบหนอพองหนอ … ยุบหนอ…


   “แต่พี่อยากให้เราทานด้วยกันนะครับชิน”


   “พี่คม …” อย่านะพี่คม ถ้าพี่ล้ำเส้นกว่านี้ … เอาแล้วไงพ่อปลาไหลหยิบมือผมขึ้นไปแนบอกพี่ท่านแล้ว


   “ชินก็รู้พี่คิดยังไงกับชิน นะครับชินทานข้าวกับพี่สักมื้อ อะ ชิน!” ผมเลิกคิ้วก่อนจะสะบัดมือที่เขาจับและเบี่ยงตัวเดินออกมาทันที บ้าชะมัด อะไรกันนักกันหนาวะ


   “ชิน !”


   “อย่า! … ถ้าไม่อยากให้ผมเกลียดพี่ อย่ามาเข้าใกล้ผมตอนนี้พี่ทำผมหงุดหงิดมากนะครับวันนี้และผมก็คิดว่าการแสดงออกของผมชัดเจนดีว่าวางพี่ในสถานะไหนถ้าพี่อยู่ในสถานะนั้นไม่ได้ก็พอเถอะครับ” ผมหันไปค้อนขวับใส่พี่คมที่ทำท่าจะเข้ามากกระชากผมเข้าไปเหมือนในละคม ขอโทษนะครับ นี้ไม่ใช่ละคร และผมไม่พร้อมจะเป็นของใครทั้งนั้น ผมยังมีภาระอีกเยอะ … และพี่คมก็ไม่ใช่คนที่ผมต้องการใช้ชีวิตอยู่ด้วยตลอดทั้งชีวิต


   “ทำไมเป็นอย่างนี้ละครับพี่รักเรานะ ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ รอเรามาเกือบปีนะชิน!”


   “พี่เป็นคนเลือกที่จะให้ความรู้สึกกับผมมาเอง โดยที่ผมไม่ร้องขอ แล้วทำไมผมต้องรับมาทั้งๆที่ผมไม่ได้รู้สึกด้วยครับ … พอเถอะพี่คม ผมเป็นได้แค่น้องพี่เท่านั้น มากกว่านี้ผมให้พี่ไม่ได้ครับ”


   ผมเดินออกมาจากตรงนั้น ยอมรับผมรู้สึกใจคอไม่ดีเอาซะมากๆ … ผมเด็กธรรมดาๆ หน้าจืดๆ ไม่เคยคิดว่าจะมีใครมาสนใจ และผมก็มีความสุขที่อยู่ตรงจุดนี้ จุดในที่ของผม และเฝ้ารอใครสักคนที่เข้ามาเพื่ออยู่กับผมไปตลอดชีวิต  ไม่ใช่คนที่หวังเข้ามาเพียงผ่านและหักล้างให้ผมเสียใจเศร้าใจ ทุกข์ทรมาน … อย่าคิดว่าผมไม่รู้เลยนะครับพี่คม ว่าสต๊อกหญิงและชายของพี่มันเยอะแค่ไหน … ดีแค่ไหนที่ผมไม่หลงงมงายคำหวานของพี่แล้วไปเป็นหนึ่งในสต๊อกของพี่เหมือนคนอื่นๆ …

.
.
.

ต่อด้านล่าง




ออฟไลน์ pa_pa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 469
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +414/-4

   เหนื่อยวะ … เดินมาตั่งไกล มานั่งรอรถเมที่ป้ายตั้งนานสองนานไม่เห็นมีโผล่มาสักคัน … การหักอกใครมันเป็นอย่างงี้เองหรอ ทำไมถึงอึดอัดแบบนี้นะ แล้วต่อไปนี้พี่คมจะมาให้เราเห็นอีกไหม … เขาคงเกลียดผมแล้วละ


ปริ้น !



   เสียงแตร่รถทำให้ผมเงยหน้าขึ้นไปมอง กระจกรถเก๋งคันสีดำเปิดออก และใบหน้าใสยิ้มแย้มฟันขาวเหล็กสีน้ำเงินสวยลอยออกมาเด่น รอยยิ้มสงสัยปนดีใจของเพื่อนที่ผมรักก็ปรากฎตรงหน้าผม ปังปังมาได้ไง แถมมากับพี่ใหญ่อีกต่างหาก นี้พี่อลันยอมปล่อยปังปังมาแล้วเหรอ


   “ชิน  มาทำอะไรแถวนี้ ?”


   “อ่า คือ … สวัสดีฮะพี่ใหญ่ สวัสดีปังปัง คือชินกำลังจะไปห้างน่ะ ไปซื้อของ” ปังยิ้มรับผม พี่ใหญ่ด้านฝั่งคนขับเองก็เหยียดยิ้มมุมปากส่งมาให้ผม คนอะไร หล่อแบบเถื่อนๆได้ลงตัวชะมัด


   “เหรอ ไปสิ ปังเองก็จะไปซื้อของใช้เหมือนกัน แล้วเดี๋ยวปังไปส่งที่หอนะ”


   “คือ … จะดีเหรอ” ผมเกรงใจอย่างบอกไม่ถูกเพราะปังมากับแฟนนี้นะ


   “ดีสิ ขึ้นมาเลย” ผมยิ้มแห้งๆก่อนจะเดินไปที่ประตูหลังและเปิดออก และต้องตกใจเมื่อเห็นกุหลาบช่อโตวางอยู่ด้านหลัง … ดอกไม้ใคร พี่ใหญ่ไม่น่าโรแมนติกขนาดนี้นี้หน่า … เขินแทนปังชะมัด คิกๆ 


   “ชินอย่าล้อปังสิ”


   ผมหัวเราะเมื่อเห็นหน้าแดงๆของเพื่อนสนิทผ่านทางกระจกมองหลัง ผมยังไม่ทันพูดอะไรเลยมีแต่ปังนี้แหละที่ร้อนตัว เพราะขำพูดของปังทำให้พี่ใหญ่หมั่นเขี้ยวยื่นมือหนามาบีบแก้มยุ้ยๆของปังไปอย่างแรง น่ารักชะมัด อิจฉาสุดๆ ปังกับพี่ใหญ่เองก็ผ่านอะไรมาด้วยกันเยอะแยะ ผมไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงได้รักกันขนาดนี้ ชาตินี้ผมจะมีไหมนะ


   ผมกับปังคุยกันมาตลอดทางทั้งเรื่องงานและเรื่องอื่นๆ จนมาถึงห้างเป้าหมายของผมตั้งแต่แรก เราจึงแยกกันเพราะปังเองก็ต้องรีบไปซื้อของใช้ส่วนตัวเหมือนกัน และนัดมาเจอกันที่ลานจอดรถอีกหนึ่งชั่วโมง ผมเดินมาที่ร้านเครื่องเขียนเลือกซื้อของที่ใช้ทำงานที่จำเป็นจริงๆในเวลาไม่นานนักจนเวลาเหลือพอที่จะเดินดูของกินของใช้อีกจนได้ของมาพอสมควร ก่อนจะมายืนรอปังปังที่ลานจอดรถ เหลืออีก 10 นาทีจะครบหนึ่งชั่วโมงที่นัดกันเอาไว้  ผมยืนเรื่อยๆเปื่อยๆ จนสะดุ้งเมื่อมือใหญ่อบอุ่นมาโอบรอบไหล่ผมจากด้านหลัง ด้วยความตกใจเลยถลาตัวออกมายืนจังก้าจ้องไปที่แขกไม่ได้รับเชิญ


   “ไอ้พี่กาจพล!”


   “ใช่ ผมเองแหละ ทำไมต้องตกใจขนาดนั้นด้วยครับคุณหนูวอก” เสียงยั่วยวนกวนประสาทของหมอนั้นทำให้ผมโมโหควันแทบจะออกหู


   “มาทำอะไรที่นี้”


   “ก็บังเอิญมาเจอเด็กเดินคนเดียว ดูน่าสงสารเลยเข้ามาหา … ไงละโดนทิ้งแล้วมั้ง ไปสิจะไปส่งบ้าน” หมอนั้นกระชากไหล่ผมเข้าไปโอบอีกรอบ ผมเอามือยันหน้าก่อนจะดีดตัวออกมาอีกครั้ง ให้ตายสิ เมื่อตอนกลางวันยังจะฆ่าผมอยู่เลยตอนนี้มาทำดี คืออะไร!


   “จะมาไม้ไหน”


   “ไปขึ้นรถ จะพาไปส่งบ้าน” ไอ้พี่พลไม่สนใจผม เดินเข้ามาจับแขนผมและทำท่าจะลากไปที่รถ แต่รอบนี้ต่อให้ผมดีดตัวหรือพยายามแกะมือออก ไอ้พี่บ้าก็ยังจับแขนผมเอาไว้จนแทบจะหลุด


   “ไม่! อย่ามาจับตัวผม ผมรอคนอยู่”


   “ใคร ? ไอ้คม ? หึ แรดชะมัด” 


   “คุณว่าใคร ผมรอ… ไม่ได้รอใคร ไปสิจะไปส่งผมก็ไป” เกือบแล้ว ผมเกือบบอกว่ารอปังอยู่ไม่งั้นไอ้พี่พลต้องรอปังปังแน่ๆ แล้วก็จะเจอกับพี่ใหญ่ … จากนั้นสงครามกิลวอร์ก็จะเริ่มขึ้น … ไม่ดีแน่นอน ไปก็ไปอย่างน้อยไอ้พี่กาจพลก็จะไม่ต้องเจอกับปังปังละนะ


   ผมขึ้นมานั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถบนรถแข่งราคาแพงสีน้ำเงินเข้มข้าวของของผมถูกเอาไปยัดไว้เบาะหลังรถยกเว้นวุ้นขนมที่ผมแอบซื้อติดมือมาที่อยู่บนตัก ไอ้พี่กาจพลเดินขึ้นมานั่งฝั่งคนขับไม่วายจะผิวปากอารมณ์ดีเหลือเกินจนหน้าหมั่นไส้ ผมเหลือบมองแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร จนมือยาวๆยื่นมาหยิบเบลล์มาคาดตัวผมให้นี้แหละที่ผมได้สังเกตุหน้าระยะใกล้ … ไอ้คนเจ้าชู้คนนี้หน้าขาวเนียนชะมัด ไม่ใช่แค่หน้านะ หมอนี้ผิวดีกว่าผู้หญิงหลายคนซะอีก หน้าหล่อ คิ้วเข้มจมูกโด่งปากรูปกระจับสวยสีอ่อน ดูสะอาดสะอ้านไปหมด ติดอย่างเดียวปากหมาและกวนตีนที่หนึ่ง 


   “คาดไว้นะครับคุณหนูแรด เดี๋ยวพี่จะพาไปส่งบ้าน หึหึ บ้านพี่นะน้อง”


   “อะ ไอ้!”


   “จุ๊ๆ เงียบๆเด็กดี พี่กำลังอารมณ์ดีอย่าให้ต้องโมโห”


   “ฮึ้ย!” ผมสถบด่าออกมาในลำคอ ก่อนจะเชิดหน้าไปอีกทาง จะไปไหนก็ไปเถอะ แต่ให้ผมกลับไปทำงานเถอะก่อนที่เดดไลน์พรุ่งนี้จะมาถึง


   “พาผมกลับหอ ผมมีงานต้องทำส่งพรุ่งนี้”


   “งานอะไร”


   “ยุ่ง”


   “ไม่บอกก็ไม่ไปส่ง แว้! โอ้ย ไอ้เด็กแรด!!!” ผมดีดหน้าผากของไอ้คนที่แลบลิ้นใส่ผมไปหนึ่งที จะอารมณ์ดีอะไรนักหนาต้องโดนๆ แล้วยังด่าผมแรดอีกถ้าไม้เบสบอลอยู่ใกล้ๆจะจับฟาดให้!


   “ผมมีงาน ถ้าไม่อยากให้ผมแจ้งตำรวจหรือกระโดดลงไปตอนนี้ ต้องไปส่งผมที่หอ”


แก๊ก …



   ผมเบิ่งตากว้างเมื่อเสียงประตูปิดอัตโนมัติดังขึ้น … ปิศาจ!!!!!!


   “ก็บอกมาว่างานอะไร”


   “งานวิชาวาด!!! พอใจหรือยัง!!! เพิ่งสั่งวันนี้และต้องส่งพรุ่งนี้!”


   “อย่าตะโกน คุยกันดีๆ” ฮึ้ย แล้วหมอนี้เคยคิดจะพูดดีกับผมไหมละ!!!! น่าเบื่อชะมัด


   “จะพาไปส่งหอก็ได้ แต่ต้องให้ผมขึ้นไปกินข้าวบนหอนาย”


   “เพื่อ ?”


   “เพื่อกวนตีน” ผมละเกลียดการพูดแบบกวนตีนๆแบบนี้ชะมัด เอาเถอะจะทำอะไรก็ทำแค่ไปส่งผมให้ถึงที่หมายและไม่ต้องเจอปังปังอีกก็พอ


   “กาจพลนี้ชื่อเล่นเหรอ” ผมถามขึ้นเพื่อจะลดความประสาทของหมอนี้ได้บ้าง


   “เปล่านี้ใครจะชื่อจริงจังแบบนั้น แค่เพื่อนมันเลือกกันจนติดปากแค่นั้นแหละ เลยไม่อยากไปขัดมัน อยากรู้หรือไงว่าชื่อเล่นคืออะไร”


   “ไม่อะ”


   “แล้วจะถามทำไม กวนตีนหรือแรด”


   “คำก็แรด สองคำก็แรด ตัวเองก็เลวเหมือนกันนั้นแหละ”


   “ก็เข้ากันดีนี้ เลวกับแรด หึหึ”


   “ตลก” ผมชูมะเหงกขึ้น ไอ้พี่กาจหันมาเลิกคิ้วหัวเราะและเอื้อมมือไปเปิดเพลงคลาสสิกคลอการจราจรที่ติดโคตรอยู่ด้านนอก … ผมหันหน้าออกกระจก มองไปเรื่อยเปื่อยและก็ต้องสะดุ้งเมื่ออยู่ๆหมอนั้นก็พูดขึ้นอย่าไม่มีปรี่มีขลุ่ย


   “ชื่อพาย”


   “ชื่อไม่สมกับความเลว” ผมกระแนะกระแหนไปอีกหนึ่งที หมอนั้นหัวเราะและหันมาด่าผมกลับ


   “หึ ชินโดชื่อก็ไม่สมกับความแรด”


   “เกลียด”


   “ก็ดี … ก็ถ้าหากเชื่อว่าตัวเองจะเปลี่ยนแปลงเป็นคนดีได้ แล้วทำไมไม่เชื่อบ้างว่าคนอื่นเขาก็เปลี่ยนได้เหมือนกัน”


   “…” ผมไม่ได้ตอบอะไร เพียงแต่เงียบและด้วยความเหนื่อยกับแอร์เย็นๆ ก็ทำให้ผมหลับไปโดนลืมไปเลยว่าผมลืมโทรหา
ปังปัง … 


   “เฮ้ย ตื่นไอ้แรด!!!!”


   “ไอ้เลว!!!!” ผมตะคอกกลับเพราะบังอาจมาตะโกนใส่หูของผมก่อน


   หึ คิดว่าจะมองใหม่แล้วเชียวไอ้บ้านี้กลับทำให้ผมหมดศรัทธาอีกจนได้ ชิ ผมเมาขี้ตามองไปรอบๆก็เห็นว่าเป็นหน้าหอของผม … หมอนี้รู้จักหอผมด้วย  ผมเอื้อมตัวไปหยิบของที่อยู่เบาะหลังมาถือไว้ ก่อนจะหันไปเปิดประตูแต่ก็เปิดไม่ออก


   “เปิดประตูดิ”


   “เดี๋ยวดิคุยกันก่อน”


   “คุยไร”


   “ไหนบอกจะให้ขึ้นไป ถ้าผมปล่อยแรดน้อยไปตอนนี้แรดน้อยต้องวิ่งขึ้นหอไปแน่ๆ รู้หรอกน่ะว่าเตรียมคีย์การ์ดไว้แล้ว ใช่ไหม ?” คีย์การ์ดในมือผมลั่นเลย … ฉลาดจังกับเรื่องแกมโกงเนี้ย


   “เอายังไง เอายังไง”


   “เออ ก็ลงไปสิ” หมอนั่งเลิกคิ้วก่อนจะเอื้อมตัวมาหยิบคีย์การ์ดจากมือผมไปก่อนจะยอมปลดล็อกประตูให้ ผมถอนหายใจเดินลงไปจากรถและยื่นรอจนกว่าไอ้คุณชายพายจะทำธุระในรถเสร็จอย่างเบื่อหน่าย นี้เวลาก็พาไปจะทุ่มแล้วผมยังไม่ทันทำอะไรเลย เฮ้อ


   “เดินไปสิรออะไร” พอคุณชายออกมาจากรถได้ก็ไม่วายกวนตีนผมอีกยก คนบ้าอะไรกวนได้ตลอดเวลาที่บ้านทำธุรกิจทุเรียนกวนหรอ ?


   “เออ!”  ชิ อยากขึ้นหอผมนักก็ขึ้นไปสิ ขึ้นไปและทำอะไรให้กินด้วยแล้วกัน ไอ้พี่พายเลว!




==============================

เค้าอยากให้พี่พายเป็นคนดี แต่เอาจริงๆเนื้อในของพี่พายไม่ได้แย่นะแค่เป็นคนที่มองคนแค่ภายนอก

และออกจะดื้อด้านด้วยนิสัยที่เอาแต่ใจไปสักหน่อย แต่ถ้าหากพี่พายจะปรับตัวน้องก็ไม่ว่าอะไรนะคะ

น้องชินเองก็น่ารัก ไม่ใช่เด็กอ่อนแออย่างที่หลายคนเข้าใจ แค่พยายามทำทุกอย่างด้วยตัวเอง

ไม่ได้ร่างน้อยอรชรเหมือนน้องเล็กและอ่อนแอไม่ทันโลกเหมือนน้องปัง

แต่มีบุคลิคที่แตกต่างออกไป สูงโปร่ง น่ารัก จิตใจดี สู้คน

นายเอกโหดที่ถือไม้เบสบอลเพ่นกบาลคนที่ไม่ชอบหน้าได้นั้นแหละ ฮ่าๆๆๆ


คนเขียนไม่ได้บอกนะว่าขึ้นหอปุ๊บจะรักและญาติดีกันเลย คู่นี้ก็ต้องมีพัฒนาการคะ รอติดตามspecial  ของคู่นี้ตามวาระและโอกาสค่าาาา


ขอโทษที่ช้าคะติดโปรเจค เจอกันตอนหน้านะคะ ใครคิดถึงปังปังเจอกันค่าา<3'

ฝากเพจเด้อ

ห้องเก็บนิยาย pa_pa


 :bye2:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-04-2016 22:26:27 โดย pa_pa »

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

ออฟไลน์ try_sasiprapa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ชอบบเรื่องนีี้มากเลยยวันเดียวอ่านได้30ตอนกว่าๆแระ555 :hao7:
แล้วก็ยังรอตอนต่อไปปป คิดถึงปังปังกะพี่ใหญ่ หมูแดงกะพี่เสือ!!!.. :laugh: :z3: :jul1:

มาต่อเร็วๆนะค่ะ :katai4: :katai4:
 สู้ๆนะเป็นกำลังใจให้นักเขียน :hao3: :hao3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ Natchapat.chanachon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ปังปังจะหงอไปหนายยย~~ ต่อต้านบ้างก็ด้ายยย แม่คนโลกสวยยย :z3: :z3:

ออฟไลน์ Soda.wine

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 76
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ sirikanda28

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1758
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +117/-3
ชินเป็นส่วนผสมระหว่าง
น้องเล็กกับปังปัง

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ชินโดจะปราบพี่พายได้มั้ยเนี่ย รอดูต่อไป

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6

ออฟไลน์ เมื่อนั้นฝันว่า

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 323
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ hmmm

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ pa_pa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 469
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +414/-4
สวัสดีค่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา ลืมกันเหรอยัง กระซิกๆ  :mew6:

เค้าหนีไปทำโปรเจคมา เรียนจบแล้วแต่งานยังไม่จบ งื้อออออออออออออออออออออ

คิดถึงทุกคนนะคะ อีกไม่นานเกินรอ เจอกัพี่ใหญ่และปังปังแน่นอนคะ

รักกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก  :mew1:

 :bye2:


ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ minneemint

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0

ออฟไลน์ Pe_no

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 375
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ออฟไลน์ nightsza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-1
สู้ๆกับโปรเจคนะ คอยเชียร์คู่น้องชินโดนะ

ออฟไลน์ ขิงก็ราข่าก็แรง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เมื่อไรจะมาสักทีอ่าาารอที่ท่าน้ำทุกวันเลยนะ :katai5: :katai4:

ออฟไลน์ pa_pa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 469
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +414/-4
* ความเดิมตอนที่แล้ว
ปังปังกลับมาเมืองไทยพร้อมกับพี่อลันและย้ายเข้าไปอยู่ที่บ้านของพี่ชาย
ก่อนจะมาพบกับพี่ใหญ่ที่ตลาดในระหว่างทางที่จะไปหาที่หอพัก
เมื่อทั้งสองคนได้ปรับความเข้าใจกัน แต่อลันกับไม่ยอมที่จะให้ทั้งคู่อยู่ด้วยกัน


{CH 47 เสียงคำบอกรัก}





“อย่าดื้อนะปัง” 


   “ครับ”


   ผมขานรับพี่อลันก่อนจะปิดประตูรถยนต์คันสีเงินลูกชายของพี่อลัน และหันหลังเดินเข้ามหาลัย ผมกลับมาได้ 2 อาทิตย์แล้วครับ กลับมาวันแรกผมได้ปรับความเข้าใจกับพี่ใหญ่แล้ว แต่ต่อว่าเราทั้งคู่ก็เหมือนคู่รักที่ต้องแอบคบแอบคุยกัน ได้เจอกันที่มหาลัยเท่านั้นเอง เพราะพี่อลันไม่ชอบพี่ใหญ่มาก ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงเกลียดพี่ใหญ่นัก หัวเด็ดตีนขาดยังไงพี่ลันก็ไม่เปิดใจให้พี่ใหญ่เลย หลายต่อหลายครั้งที่พี่ใหญ่หมดความอดทน แต่ผมเองที่เป็นฝ่ายห้ามเขาไว้ จริงอยู่ที่พี่อลันไม่ใช่พี่ชายแท้ๆ และเพิ่งเจอกันเพียงไม่นาน แต่เค้าก็คือพี่ชายที่ผมไม่เคยมี ผมแคร์เค้าไม่น้อยกว่าพี่ใหญ่เลยเพราะทั้งคู่คือคนที่ผมรัก เฮ้อ … ตรงกลางนี้มันลำบากใจจัง


   “ไง”


   เสียงเข้มอบอุ่นที่ผมจำได้ขึ้นใจทักทายผมจากด้านหลังพร้อมกับวางแขนแกร่งพาดมาที่บ่า สัมผัสนั้นทำให้ผมยิ้มกว้างและอยากขอบคุณคนๆนี้ที่ทนกับผมได้ไม่ว่าจะมีอุปสรรค์อะไร เขาก็ไม่คิดที่จะเลิกกับผมเลย มีแต่ผมคนเดียวที่คิดเล็กคิดน้อยอยู่คนเดียวตลอดมา


   “สวัสดีครับ … วันนี้พี่ใหญ่มาส่งงานหรอครับ” ผมหันไปสวัสดีเขาแต่ก็ไม่สะบัดตัวหนี ปล่อยให้เขากอดคอเดินตรงไปที่ตึกเรียนของผม ท่ามกลางสายตาคนทั้งมหาลัย


   “เปล่า กำลังจะไปยื่นเอกสารสมัครงานที่บริษัทแต่มาหาก่อน บอกเมื่อคืนแล้วจำไม่ได้เหรอไง” เขายกมืออีกข้างมาหยิกแก้มผม ไม่ได้หยิกแบบน่ารัก แต่หยิกแบบจะให้เนื้อผมหลุดออกมาให้ได้ งื้อ เจ็บนะเนี้ย


   “เจ็บนะ พี่ใหญ่กินข้าวมาเหรอยังครับ” ผมลูบแก้มตัวเองปอยๆ มองหน้าพี่ใหญ่ที่ยิ้มทะเล้นอยู่ พักนี้พี่ใหญ่น่ารักขึ้นมาก อาจจะเป็นเพราะเราห่างกันก็ได้ ผมเองก็ไม่อยากงอแงเพราะกว่าเราจะได้เจอกัน จะได้คุยกันมันน้อย ถ้าเทียบกับเมื่อก่อนที่เราอยู่ด้วยกัน 24 ชั่วโมง


   “ยังก็ว่าจะมากินกับหมู”


   “ผมไม่หมูแล้วนะ”


   ตอนนี้น้ำหนักผมเหลือ 70 แล้ว ไม่ขึ้นและไม่ลดลงไปอีก เพราะไม่ได้ออกกำลังกายเลยหลังจากกลับมาจากออสซี่ แต่กลับกัน ผมก็ไม่ได้กินของจุกจิกหรืออาหารมากนัก อ่อ ปลายสัปดาห์นี้หมอคลินิกจัดฟันให้ไปดึงฟันประจำเดือนด้วย เกือบลืมแหนะ ไม่รู้รอบนี้จะดึงเยอะไหม และถ้าผมปวดก็ไม่มีพี่ใหญ่อยู่ข้างๆนะสิ … นึกถึงวันนั้นวันที่ปวดฟันแล้ววิ่งไปหาพี่ใหญ่ห้องข้างๆ … และพี่ใหญ่ก็ยึดตัวผมจากนั้นเป็นต้นมา หึหึ ตอนนั้นถึงจะงงๆ แต่พอกลับไปคิดมันก็เขินดีเหมือนกัน ใครจะเชื่อคนโหดอย่างพี่ใหญ่จะรักคนอย่างผมได้ และใครจะเชื่อว่าผมเองจะรักคนโหดๆอย่างพี่ใหญ่จนหมดใจแบบนี้


   “ไม่หมูอะไร ผอมลงแค่นี้ยังไงก็หมูอยู่ดี หึหึ”


   “พอๆ ครับไปกินข้าวกันเถอะ เดี๋ยวอีก ครึ่งชั่วโมงปังมีเรียน” ผมดันหลังพี่ใหญ่ให้เดินนำไป ก่อนที่เขาจะหันกลับมาคว้าเอามือผมไปกุมเอาไว้ ก่อนที่เราจะเดินไปด้วยกัน อบอุ่นจังอยากให้พี่อลันมาเห็นว่าตอนนี้พี่ใหญ่น่ารักแค่ไหน เค้าจะได้ยอมรับพี่ใหญ่ของผมสักที


   “หวานนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนเจี๊ยบ!!!” พอนั่งลงที่เก้าอี้โรงอาหารได้ เจ้าป่วนตัวเล็กก็เข้ามาก่อกวนทันที ตัวเล็กยิ้มล้อเลียนผมโดยมีนายเสาร์ที่ปัจจุบันก็เปลี่ยนแปลงจากเมื่อก่อนไปเยอะนั่งคุมเชิงอยู่ไม่ไกลนัก ผมยิ้มเขินๆ ไม่ตอบอะไร


   “ปังปัง เมื่อไหร่จะกลับมาอยู่หอ เล็กคิดถึง แล้วดูสิเนี้ย ครีมหมดใช่ไหมผิวลอกแบบนี้ แถมพุงย้วยด้วย ไม่ได้นะปังถึงจะผอมลงแต่ไม่เฟิร์ม ก็ไม่ดีนะ กลับมาสิเล็กเป็นเทรนเนอร์ของปังน้า ~~~~~” ตัวเล็กเข้ามาสำรวจร่างกายของผมไปอ้อนผมไป เราคุยกันเจอกันแทบทุกวันตัวเล็กพูดกรอกหูผมด้วยประโยคนี้แทบทุกวันเหมือนกัน


   “คงอีกสักพักนะเล็ก ไว้พี่อลันเย็นลงกว่านี้ปังจะพูดกับพี่อลันเอง”


   “งั้นให้เล็กไปเที่ยวบ้านได้ไหม ให้เล็กไปนอนค้างสักคืนสองคืน เล็กอยากนอนกอดปังเพราะปังนุ่มนิ่มดึ๊งๆ กอดไอ้บ้าเสาร์มีแต่กล้ามเนื้อเล็กไม่ชอบ”


   “อะ แฮ่ม ไอ้เล็กแกไปนอนกอดไอ้เสาร์ตอนไหน” พี่ใหญ่กระแอมมองไปที่ตัวเล็กนิ่ง เพื่อนตัวเล็กของผมลุกขึ้นกรูเข้าไปหานายเสาร์ที่ดูดน้ำแดงจากแก้วอยู่ตาโต


   “ชะอุ้ย…แหะ ๆ เล็กพูดเล่นแหนะพี่ตัวใหญ่” เล็กทำท่าทะเล้นก่อนจะหันไปซุกหน้ากับต้นแขนแกร่งของแฟนตัวเอง เสาร์หัวเราะนิดๆก่อนจะผลักหัวตัวเล็กออกก่อนจะเข็กมะเหงกไปหนึ่งทีอย่างหยอกๆ ทำเอาตัวเล็กหน้ามุ้ยไปเลย


   “หาเรื่องให้กูแล้วไหมละไอ้แมวผี”


   “กินอะไรปัง”


   “เดี๋ยวปังไปซื้อเองก็ได้ครับ”


   “กินอะไรครับ หื้ม ?” พี่ใหญ่ถามซ้ำเน้นเสียงในลำคอ … ผมกระตุกยิ้มนิดๆถ้าเป็นเมื่อก่อน หื้ม ด้านหลังจะไม่มีจะมีนะ คึคึ พี่ใหญ่เวอร์ชั่น 10.1 นี้น่ารักชะมัด


   “ปังเอาข้าวกล้องกับไก่เนื้ออกฉีกแล้วกันครับ”


   พี่ใหญ่พยักหน้าก่อนจะเดินไปที่ร้านขายข้าว ในระหว่างนั้นตัวเล็กก็เข้ามาคุยกับผมเรื่องต่างๆ ประจวบเหมาะกับพี่ชินโดมาพอดีเราเลยได้คุยเรื่องงานกลุ่ม 4 คนที่อาจารย์จะให้ทำโมเดลบ้านเพื่อนำไปประกวดและจัดแสดงในงานกุศลช่วยเหลือเด็กพิการในบ้านต่างจังหวัด งานนี้ถ้าฟลุคชนะได้เงินรางวัลด้วยละ 


   “กินข้าวได้แล้วปังอย่ามัวแต่คุย”


   “เล็กขอเสนอเป็นอาคาร 2 ชั้นเพราะน้องๆคนพิการจะได้ไม่ต้องเสี่ยงกับการขึ้นลงหลายชั้น พื้นที่รอบๆเป็นต้นไม้ แล้วก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันด้วย”


   “ปังกินข้าว”


   “คะ ครับ …แล้วงบประมานเท่าไหร่เหรอ” ผมหันไปตอบพี่ใหญ่ก่อนจะหันมาถามเพื่อนต่อ


   “มีงบให้กลุ่มละ 3,000 อะปัง เฉพาะทำโมเดลอย่างเดียวนะ ยังไม่รวมค่าออกค่ายตอนไปประกวดด้วย”ชินโดพูด พร้อมกับหยิบซองสีขาวที่อาจารย์คณะมอบให้แต่ละกลุ่ม


   “เรายังไม่เคยทำโมเดลบ้านจริงๆเลย เรายังกะไม่ถูกว่าต้องใช้เท่าไหร่ เราเลยต้องประหยัด”  ผมพยักหน้าเห็นด้วยกับเสาร์ ก่อนที่จะอ้าปากงับช้อนใส่ข้าวที่จ่อมาที่ริมฝีปากอย่างอัตโนมัติ กว่าจะรู้ตัวทุกคนก็จ้องผมล้อเลียนแล้ว


   “อ่ะ เดี๋ยวผมกินเองครับ”


   “หึ ไม่คุยต่อแล้วเหรอไง” พี่ใหญ่แซว ก่อนจะตักข้าวมาจ่อที่ปากผมอีก ผมมองอย่างเขินๆ แต่ก็ยอมกินข้าวคำนั้น ถึงจะไม่ใช่ข้าวกล้องอกไก่ฉีกแต่เป็นข้าวมันไก่ที่มีแต่หนังก็เถอะ … ขุนกันเข้าไปสิพี่ใหญ่คนบ้า


   “เลิกเวลาเดิมใช่ไหม เดี๋ยวมารับ” พอกินข้าวเสร็จผมก็เดินมาส่งพี่ใหญ่ที่ลานจอดรถ วันนี้พี่ใหญ่เอารถยนต์มา เพราะคงไม่เหมาะที่จะใส่สูขขับมอเตอร์ไซค์ในแดดเมืองไทย 


   “ไปไหนครับ” ผมถามขึ้น … จะได้เตี้ยมกับตัวเล็กกถูก … ผมไม่ได้โกหกนะ แค่ … แค่บอกไม่หมดเท่านั้นเอง ฮืออออ


   “ไปบ้านเรานั้นละ” พี่ใหญ่พูดพร้อมกับวางมือบนหัวผม พร้อมกับยิ้มที่อ่อนโยน … เขาเท่มากๆเลยสมบูรณ์แบบไปหมด อย่าไปยิ้มแบบนี้ให้คนอื่นนะรู้ไหม ไม่สิเวลานี้ผมไม่ควรจะต้องมาหลงเสน่ห์รอยยิ้มของพี่ใหญ่ หายนะกำลังจะมาถึงเมื่อทอนนาโดสองลูกจะเจอกันอีกแล้ว ฮือออออ


   “ตะ แต่พี่อลันอยู่นะครับ แล้วถ้าไป เราอาจจะไม่ได้เจอกันเลยนะครับพี่ใหญ่” ผมพูดเสียงอ่อยก้มหน้านิ่ง … ผมกลัว … ผมกลัวว่าเรื่องทั้งหมดจะเลวร้ายไปมากกว่านี้ 


   “พี่ไม่อยากรอแล้วปัง ไม่อยากกลับมาอยู่ด้วยกันเหรอ” มือหนาลูบที่แก้มของผมเบาๆ กระซิบบอกด้วยน้ำเสียงนุ่ม ปลอบประโลมจิตใจของผมที่สะท้อนออกมาเป็นกายที่ลั่นไหวอย่างช่วยไม่ได้ … ผมขี้ขลาด … ผมกลัว ผมไม่อยากให้ใครต้องทะเลาะกันเพราะผมอีกแล้ว


   “ปังอยากกลับไป แต่ถ้าพี่ใหญ่ไปเรื่องอาจจะแย่ลงนะครับ”


   “เชื่อใจพี่” เสียงอบอุ่นนั้นเข้มแข็งขึ้นในทันที ทำให้ผมยิ้มออกมานิดๆ  ก่อนจะพยักหน้าให้พี่ใหญ่ในที่สุด … ผมเลือกที่จะเชื่อใจคนที่ผมรัก เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียเหมือนที่แล้วมา …


   “กะ ก็ได้ครับ … ก็ได้ …”


   “หึหึ ถ้าไม่ใช่มหาลัย โดนจูบไปแล้วไอ้หมูแดง” เขากระซิบ


   “บะ บ้า ไปได้แล้วครับพี่ใหญ่ ปังต้องขึ้นเรียนแล้ว” ผมดันหลังพี่ใหญ่ให้ขึ้นรถ เขาหัวเราะในลำคอ ก่อนจะก้มลงมาหอมแก้มผมฟอดใหญ่ เสียงกรี๊ดกร๊าดรอบข้างทำให้ผมเขินแทบมุดแผ่นดิน


ฟอด



   “แล้วเจอกัน” พี่ใหญ่เดินขึ้นรถไปในขณะที่ผมยืนก้มมองพื้นอยู่ที่เดิม … ถ้าผมช็อคตายพี่ใหญ่รับผิดชอบไหม ?


.


.


.



   อีกด้านหนึ่งอลันเดินกลับเข้ามาในบ้านหลังจากที่ไปส่งน้องชายสุดที่รักมาแล้ว ร่างสูงเอนตัวลงนั่งบนโซฟาอย่างผ่อนพลายเปิด TV เพื่อเปิดดูข่าวสารตลาดหุ้นที่แหล่งที่เขาสนใจ โดยไม่ได้เอะใจเลยว่ามีบุคคลแปลกปลอมกำลังเดินไปมาในห้องครัวด้านหลัง หยิบเอามันฝรั่งในสต๊อกขนมขึ้นมามองอย่างเจ้าเล่ห์ เลียริมฝีปากบางอย่างหมายมั่น ปาล์มเด็กหนุ่มรูปร่างสันทัด เอวบางได้สัดส่วนไม่อรชนเหมือนผู้หญิงแต่แข็งแรงแตกต่างจากผู้ชายทั่วไป ผิวสีน้ำผึ้งดวงตากลมโตฉายแววเจ้าเล่ห์ซุกซนจมูกรั้นอย่างคนดื้อดึง ไฝ่เม็ดเล็กๆเป็นตำหนิจุดเด่นที่ทำให้ทั้งชายและหญิงหลงรักเสน่ห์ในตัวที่มีอย่างเหลือร้าย


   “เฮียมันฝรั่งรสชีทไปไหนแล้วอ่ะ”


ปั๊ก



   “ตกใจหมดไอ้ปาล์ม เข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่วะ” ร่างสูงที่พาดขาบนโต๊ะเล็กตรงหน้าและกำลังจะเคลิ้มหลับไปอีกรอบสะดุ้งจาขาแกร่งพาดตกลงบนพื้นอย่างช่วยไม่ได้ หันไปมองเด็กข้างบ้านอย่างงงๆ เพราะเขาว่าเค้าล็อกประตูรั้วแล้วส่วนคุณลุงผดุงเองก็ออกไปด้านนอกตั้งแต่เช้าแล้ว


   “นี้ไง ฮี่ๆ” เจ้าปาล์มโชว์กุญแจสำรองที่อลันเคยให้ไว้เมื่อครั้งที่มาเมื่อไทยปีที่แล้วให้ดู เพราะอลันเห็นว่าปาล์มไม่มีพิษมีภัยและให้ช่วยเฝ้าบ้านทำความสะอาดจึงไม่หวงหากจะมานั่งๆนอนๆหรือพาเพื่อนมาที่บ้านหลังนี้


   “แสบนักนะ แล้วไม่ไปเรียนหรือไงเราอ่ะ” ปาล์มเบ้ปากเดินมานั่งข้างๆอลันใช้หัวหนุนแขนแกร่งที่พิงพนักเอาไว้ยกขาทั้งสองขึ้นมาขัดสมาธิบนโซฟากินมันฝรั่งมุบมับๆไม่ได้สนใจตอบคำถามของอลัน ตาสีฟ้ามองกลุ่มไรผมสีดำสนิทอย่างอ่อนใจแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะปาล์มเองก็เหมือนน้องของเขาคนนึง


   “เฮียไม่เบื่อเหรอ”


   “เบื่ออะไรวะ” อลันถามขึ้นเมื่ออยู่ๆ ปาล์มที่นั่งจ้อง TV นิ่งอยู่นานสองนานพูดขึ้น


   “พลากคนรักเค้านะ โอ้ย พูดทีไรทำเป็นขึ้น สักวันเถอะกรรมจะตามสนอง” ร่างบางโวยวายเมื่ออยู่ๆ อลันชักแขนและใช้อีกมือผลักหัวของเขาจนเซไปอีกทาง ลุกขึ้นเดินหนีไปหยิบน้ำเย็นในตู้เย็นมาดื่มแก้กระหายโดยมีตาใสของปาล์มมองอยู่ห่างๆ


   “เฮียลัน”   


   “…” ตาสีฟ้าคมเหลือบมองคนตาใสที่เดินเข้ามาหา แต่ยังทำเป็นไม่สนใจกระดกน้ำเปล่าอยู่แบบนั้น


   ร่างสูงก็ต้องผงะเมื่อมือบางกระชากเอาขวดน้ำออกและพลิกตัวแกร่งของเขาให้ไปเผชิญหน้ากับเด็กที่ตัวเท่าติ่งหูล่างของเขา ริมฝีปากกระจับที่มีใฝเล็กๆที่มุมปากบนเม้นเข้าหากันก่อนจะเริ่มโวยวายออกมาอย่างขัดใจ เมื่อเห็นท่าทีของพี่ชายคนสนิท


   “ใจคอเฮียจะไม่ฟังใครเลยหรือไงวะ”


   “หยุดพูดถ้าจะมาป่วนก็กลับบ้านไป” อลันพยายามเดินหนีและใจเย็น แต่ก็ถูกปาล์มคว้าแขนเอาไว้ให้กลับมายืนที่เดิม เห็นตัวบางๆแต่แรงเยอะใช่เล่น อลันคิดในใจ


ผลั๊ก!



   “เฮียไม่ใช่ดวงอาทิตย์นะที่จะให้ดวงดาวโง่ๆมาหมุนรอบเฮียอยู่นั้นอ่ะ”


   มือเรียวผลักอกจนอลันที่ไม่ทันตั้งตัวถลาไปด้านหลังชนกับตู้เย็น แต่ร่างสูงอย่างไรก็ยังมีแรงที่เยอะกว่า เขาจับแขนปาล์มได้ก็เหวี่ยงเข้ามาแทนที่ทำให้หลังบางกระแทกกับตู้เย็นแรงไม่ต่างจากเขา เว้นเสียแต่ปาล์มตัวเล็กกว่าจึงย่นหน้าเพราะความเจ็บ ตากลมลืมจ้องเขม็งจ้องตาสีฟ้าอย่างไม่ลดละความพยายาม


ผลั๊ก!


   “นี้มึงพูดจาไม่รู้เรื่องหรือไง ไอ้ปังน้องกู กูจะเลือกสิ่งที่ดีให้น้องกูเท่านั้น”อลันกัดฟันกรอดระงับความโกรธ ก่อนจะพ่นคำที่ไม่ลื่นหูออกมา


   “โว้ย ! และตลอดมาที่น้องเฮียอยู่เมืองไทย แม่เค้าตาย อยู่กับพ่อที่เป็นภารโรงบ้านเก่าๆ โดนเพื่อนรังแกต่างๆนาๆ เฮียได้ทำหน้าที่พี่ไหมวะ แล้วนี้อะไร พอน้องมันจะมีผัว เสือกไปห้ามมัน  อยู่กับมันตลอดหรือถึงรู้ว่าผัวมันไม่ดีน่ะ จะมาเรียกร้องสิทธิความเป็นพี่อะไรตอนนี้วะ ! เป็นบ้าหรอ!!!” หลายต่อหลายวันมานี้ปาล์มตีสนิทกับปังปังจนคนซื่ออย่างเจ้าหมูแดงยอมเล่าความหลังให้ฟัง เพื่อให้ปาล์มช่วยเป็นอีกหนึ่งแรงในการทำให้พี่อลันอ่อนลง แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นอย่างงั้น


   “ไอ้ปาล์ม!!!!!!!!” อลันตวาดลั่นฟิวขาดง้างมือกำหมัดค้างแต่ปาล์มเองก็ไม่หลบ ไม่หนี จ้องตาสีฟ้าด้วยอารมณ์โมโห กัดริมฝีปากแน่น ก่อนจะตวาดออกมาเมื่ออลันสะบัดมือลงข้างตัวและเตรียมจะเดินหนี แต่เป็นอีกครั้งที่ร่างบางไม่ยอมให้อลันหนีปัญหาอีกแล้ว


   “ถ้าผมพูดผิด เฮียก็ต่อยเด้!!!!”


   “มึงนี้นะ เก่งฉิบหาย เดี๋ยวกูจะซื้อตะกร้อมาครอบปากมึง” อลันยกแขนแกร่งขึ้นรั้งบ่าของปาล์มติดตู้เย็นก้มหน้าเข้ามาชิดก่อนจะกระซิบบอกด้วยความโมโหที่อัดอั้น


   “ถ้าผมไม่พูดแล้วใครจะพูด นี้พี่โตมาเมืองนอกจริงปะ ทำไมทำตัวไร้สาระแบบนี้วะ” ปาล์มตอกกลับทันที หลายต่อหลายครั้งที่ปาล์มพยายามพูด อลันเลือกที่จะเป็นฝ่ายเดินหนี ครั้งนี้จึงเป็นครั้งแรกที่ปาล์มจะได้สั่งสอนผู้ใหญ่ที่ไม่รู้หน้าที่ว่าพี่ชายที่แท้จริงควรเป็นอย่างไร


   “มึงหยุดพูดสักที มึงไม่เป็นกู มึงไม่เข้าใจ กูแค่อยากให้ปังเจอสิ่งที่ดี อยากให้ปังมีอนาคต”


   “ด้วยการเลิกกับผัวน่ะหรือวะเฮีย ผัวนะไม่ใช่ขี้ที่จะเช็ดแล้วจบอ่ะ เฮียแม่งเป็นอะไรวะ โคตรหมดศรัทธา เฮียแม่งเคยเป็นไอดอลผมเลยนะเว้ย” ประโยคหลังร่างบางพูดอย่างน้อยใจ แววตาที่เคยสุกใสหมองหม่นลง


   อลันคลายแขนที่กดบ่าปาล์มออก ก่อนจะหันหลังให้ แต่ปาล์มวิ่งไปดักหน้ากางสองมือออกไม่ยอมให้ร่างสูงหนี ตาสีฟ้าเหลือบมองก่อนจะยกมือขึ้นเสยผมขึ้นอย่างหงุดหงิดมืออีกข้างท้าวที่เอวอย่างเซ็งๆ หลับตาระงับอารมณ์ตัวเอง เขาไม่อยากทำร้ายปาล์มเพียงเพราะว่าทะเลาะกันเรื่องของปังปัง 


   “กลับบ้านไปไอ้ปาล์ม หรือไปให้พ้นหน้ากูซะ”


   “ไม่ไป” อลันจิ๊ปากกับความดื้อรั้นของน้องข้างบ้านคนสนิท ก่อนจะยกมือเท้าเอวอย่างเซ็งๆมองไปที่ปาล์มยกมือขึ้นชี้มาที่ตัวเอง


   “จะให้กูทำยังไง”


   “เฮียต้องฟังน้องของเฮียบ้าง” ริมฝีปากกระจับแย้มยิ้มก่อนจะพูดออกมาทันที


   “เออๆ กูจะฟัง ถ้ามันกล้ามาน่ะนะ” อลันตอบแบบส่งๆ แต่ในประโยคหลังดวงตาสีฟ้ากลับฉายแววประหลาด


   “ไม่ใช่ให้ฟังพี่ใหญ่ แต่ให้ฟังปังปัง”


   “ไม่ กูจะรอฟังจากปากของไอ้ใหญ่ แค่นี้จบ โอเค ? ถ้าพอใจแล้วก็กลับบ้านไป” พอพูดจบก็เดินผ่านร่างบางหนีขึ้นด้านบนไปทันที ปล่อยให้ปาล์มยืนเกาหัวแกรกๆ หยิบเอาถุงมันฝรั่งที่ตกอยู่ที่พื้นขึ้นมาหมายจะกินที่เหลือต่อ แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะมันฝรั่งตกอยู่ที่พื้นเต็มไปหมดเพราะเหตุการณ์ทะเลาะเมื่อสักครู่ ทำเอาเจ้าตัวมองบนอย่างเซ็งๆ


   “แม่งหกเละเทะหมด ของฟรีซะด้วยสิ”


.


.


.


   ภายในหอสมุดที่ปังกลับมาทำงานเป็นบรรณารักษ์ปกติในช่วงพักกลางวัน ตัวเล็กใช้ศอกสะกิดเสาร์ที่นั่งเล่นเกมโทรศัพท์อยู่ข้างๆ ให้ดูเพื่อนสนิทปังที่นั่งอยู่ที่เคาเตอร์บรรณารักษ์เอาแต่นั่งจ้องกระดาษวางเปล่าในมือถือดินสอค้างอยู่อย่างงั้นมาจะสิบนาทีแล้ว ในขณะที่ชินโดที่นั่งค้นข้อมูลในหนังสือวิจัยเล่มใหญ่อยู่เงยหน้าขึ้นส่ายหัวไปมาอย่างนึกสงสารปังปัง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากก้มลงอ่านหนังสือต่อ ยังโชคดีที่วันนี้คนในหอสมุดไม่มากเท่าไหร่นัก


   “ยืมแปป” เสาร์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะหันไปคว้าเอาหนังสือวิจัยที่ชินโดอ่านอยู่มาอย่างง่ายๆ เจ้าตัวหน้าเอ๋อเพราะไม่ทันตั้งใจได้แต่สาปแช่งเพื่อนตัวเองในใจ


   “จะไปไหน” เล็กร้องถามเมื่อเห็นแฟนตัวเองลุกขึ้นยืนถือหนังสือเล่มหนาตรงไปที่เคาเตอร์บรรณารักษ์ เล็กมองตามแต่ไม่ได้เดินตามไป เพราะจะดูว่าเสาร์คิดอะไรอยู่


โป๊ก



   “อะ โอ้ย ทะ ทำอะไรน่ะ นั้นสันหนังสือนะ” เจ้าปังโวยวายออกมานิดๆ ลูบหัวที่ถูกสันหนังสือลูบคมมาหมาดๆ


   “เป็นห่าอะไรไอ้อ้วน” เสาร์ใช้มือท้าวเคาเตอร์ทำท่านักเลงใส่ ไม่ได้ระวังด้านหลังว่าตอนนี้ตัวเล็กกำลังถูกชินโดหิ้วปีกห้ามอยู่เพราะทำท่าจะเข้ามาตะบปนักเลงแหย่งๆ


   “ปะ เปล่า กำลังคิดงานอยู่”


   “หึ นึกว่าคิดถึงผัว โอ๊ะ คิดถึงผัวจริงด้วย เล่าให้ฟังหน่อยสิ ของไอ้พี่ใหญ่เป็นไงวะ”


   “สะ เสาร์ ผมว่านายกลับไปนั่งที่เหอะ ผมต้องทำงาน” ปังปังก้มหน้าแดงปลั่งเพราะสิ่งที่เสาร์พูด ก่อนจะรับหนังสือคืนจากนักศึกษาสาวที่เข้ามาคืนด้วยความเอียงอาย


   “ก็ทำไปสิ” เสาร์พูดอย่างไม่ใส่ใจนัก ก่อนจะยิ้มให้นักศึกษาสาวคนดั่งกล่าว ทำเอาหญิงสาวเขินหน้าแดงไปด้วย ตัวเล็กที่อยู่ด้านหลังเหยียดยิ้มหัวใจในลำคอ หึหึ คนชินโดที่นั่งอยู่ข้างๆขนลุกเกรียว … พ่อบ้านใจกล้าจริงๆ


   “ว่าไง มีไร กูกับมึงก็คบกันมานานตั้งแต่ อนุบาลแล้วนะไอ้ปัง ความทรงจำดีๆก็ก็มีมากมาย มีไรบอกกูได้” ความทรงจำดีกับผีน่ะสิ


   “พี่ใหญ่จะไปเจอกับพี่อลันน่ะ” คนแก้มใสบอกเสียงอ่อยไม่ดังนักเพราะไม่มีเหตุผลที่จะปิดบังอะไร


   “ฉิบหายสิแบบนั้น ครั้งก่อนเจอกันก็ตลาดแทบแตก แถมขับรถจะชนไอ้พี่ใหญ่ รอบนี้ไม่เอามีดแทงกันเลยเหรอวะ” เจ้าปังชักไม่แน่ใจแล้วว่าเสาร์นั้นหวังดีกับตัวเองหรือเปล่า ได้แต่ถอนหายใจและก้มหน้ามองกระดาษว่างเปล่าต่อ


   “ถึงจะกลัว แต่ผมก็เชื่อใจพี่ใหญ่ … ต่อให้เขาตัดสินใจยังไง ผมก็จะอยู่ข้างๆเค้าไม่ไปไหนอีกแล้ว”


   “โอโห้ มึงน่ารักขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ” เสาร์พูดงงๆ ก่อนจะสะดุ้งเล็กๆเมื่อมือเย็นๆของเล็กมาวางบนไหล่แกร่งทำเอาเสียวสันหลังวูบนึกว่าจะถูกตะบปเอาจริงๆ รอยยิ้มหวานๆถูกส่งไปให้เสาร์ก่อนที่มือของตัวเล็กจะยกขึ้นมาลูบเบาๆที่ศรีษะเกรียนๆของแฟนที่แสนดี(กัดฟันพูด)


   “สู้ๆนะปังปัง ให้เล็กไปด้วยไหม ถ้าไอ้คนยักนั้นบ้าทำอะไรปังขึ้นมา เจอเล็กทุ้มแน่” ไม่พูดเปล่าประโยคหลังมือเล็กแอบขยุ้มผมที่มีอันน้อยนิดของเสาร์จนหงายไปด้านหลังอย่างหยอกๆ และปล่อยออกลูบต่ออย่างเบาๆมือทำเอาพ่อบ้าใจกล้าเมื่อสักครูกลื่นน้ำลายอย่างฝืดคอ


   “ใช่แล้วปังอย่าไปยอม ปังไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะ” ชินโดเดินเข้าไปหลังเคาเตอร์ก่อนจะยกแขนกอดคอคนจ้ำม้ำอย่างให้กำลังใจ 


   “ขอบคุณนะ ตัวเล็ก ชิน เสาร์” ปังเอ่ยขึ้นพร้อมกับยิ้มที่สดใสจนแก้มปริ ทำเอาเพื่อนทั้งสามคนพลอยสบายใจไปด้วย อย่างน้อยปังก็ไม่มานั่งนอยส์หนักมากเหมือนแต่ก่อนแล้ว เผลอๆการที่ปังและพี่ใหญ่อยู่ห่างกัน อาจจะเป็นผลดีในแง่ความคิดความรู้สึกของทั้งสองคนก็เป็นไปได้


.


.


.

ออฟไลน์ pa_pa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 469
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +414/-4

-ปัง-



   “วันนี้พี่ใหญ่มารับใช่ไหมปัง”


   “อือ” ผมหันไปตอบตัวเล็กที่เดินลงมาจากหอสมุดเป็นเพื่อนผม ในขณะที่ชินโดและเสาร์อาสาไปรับงานคืนที่ห้องอาจารย์ที่ตึกคณะศิลปกรรม


   หลังจากที่ทำงานเสร็จ ความจริงในวันนี้ผมต้องอยู่ปิดหอสมุดตอน 1 ทุ่ม แต่พี่ใหญ่ไลน์มาบอกว่าให้ลาออกมาก่อนตอน 4 โมง ผมจึงไม่มีทางเลือก โชคดีที่อาจารย์ แนน บรรณารักษ์ใหญ่ท่านอนุญาตให้ผมเลิกงานก่อนได้ ใจผมเต้นตุบๆ กลัวก็กลัว แต่ในความกลัวผมก็ยังมีความกล้าอยู่เหมือนกัน จะว่าไงดีละจะไม่กล้าตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว คงไม่มีใครหยุดยั้งพี่ใหญ่ได้แล้วแน่นอน …


   “อือ เดี๋ยวเข้าไป อยู่รอพี่ใหญ่เป็นเพื่อนปังปังก่อน เออน่ะ อย่าพูดมากได้ไหม” ตัวเล็กที่เดินควงแขนผมไปที่หน้ามหาลัยอยู่พูดโทรศัพท์อย่างหงุดหงิด ปลายสายคงจะเป็นเสาร์นั้นแหละ


   “มีอะไรเหรอเล็ก” ผมถาม


   “ไม่อะไรหรอก ไอ้เสาร์มันงี่เง่าให้ไปดูงานน่ะ มันหาไม่เจอ” เล็กพูดด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย เพื่อนตัวน้อยของผมก็แสดงท่าทางไปงั้นแหละ ความจริงเล็กรักเสาร์หวงเสาร์มากใครๆก็ดูออก


   “ไปเถอะ เดี๋ยวปังนั่งรอพี่ใหญ่แถวนี้ อีกเดี๋ยวเค้าก็คงมา” ผมชี้ไปที่ม้าหินข้างทางเดิน ตรงนี้ไม่ไกลจากหน้ามหาลัยนัก พี่ใหญ่คงวนรถมารับผมได้อยู่แล้ว แถมยังใกล้กับจุดรอรถบาสประจำทางที่จะเข้าไปตึกคณะอีกด้วย ถือว่าพบกันคนละครึ่งทาง


   “ปังไม่ให้เล็กไปด้วยจริงๆใช่ไหม ?” เล็กเงยหน้าถามผมขึ้น ผมนั่งลงส่ายหัวไปมา ผมรู้ตัวเล็กหวังดี แต่ถ้าเล็กไปเหตุการณ์อาจจะแย่ลงก็ได้


   “ไม่เป็นไรหรอก” ผมนั่งลงที่เก้าอี้ก่อนจะส่ายหัวไปมาเบาๆ เล็กยิ้มก่อนจะยกมือทั้งสองมากุมแก้มทั้งสองข้างของผมเอาไว้


   “ปังโอเคนะ เรื่องเรียบร้อยแล้วโทรหาตัวเล็กด้วย”


   “อือ ปังจะโทรหา” ผมว่า


   “แล้ว ปังต้องสู้ๆนะ” เล็กชูสองนิ้วให้ก่อนจะทำหน้าจริงจักทำให้ผมขำออกมาอย่างช่วยไม่ได้ เล็กนี้แหละที่เครียดว่าผมเพราะตัวเล็กเป็นเพื่อนที่ดียังไงละ


   “ฮ่าๆ โอเค อย่าเป็นห่วงเลยยังไงพี่อลันก็พี่ชายปังนะ”


   “โอเคๆแล้วเล็กจะโทรหานะ นั่งรอดีๆละ” ตัวเล็กว่าก่อนจะโบกมือบ๊ายบายวิ่งไปขึ้นรถที่มาพอดี


   พอเล็กไป รอบข้างก็สงบลงเพราะไม่มีใครที่ให้ความสนใจผมมากนัก  ผู้คนต่างเดินไปเดินมาเหมือนเวลาที่หมุนไปเรื่อยๆไม่หยุดรอใคร เสียงหัวเราะพูดคุยจากพวกเขาดังเป็นระยะๆ มันก็เพลินดีนะครับการที่ได้นั่งมองพวกเขาไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้น … พอหลับตาแล้วเหมือนตัวของผมเล็กนิดเดียวเอง


   “ปังขึ้นรถ” เสียงเรียกที่คุ้นเคยทำให้ผมได้สติ พี่ใหญ่ที่นั่งอยู่บนรถยนต์คันคุ้นเคยขับมาเทียบตรงที่ผมนั่ง ผมยิ้มนิดๆ ก่อนจะลุกขึ้นก้าวขึ้นรถไปไม่ได้สนใจอะไร


   “สวัสดีครับพี่ใหญ่” ขึ้นไปได้ผมก็โยนกระเป๋าไปด้านหลังโดยไม่ได้หันไปมอง ง้วนอยู่กับการดึงสายสายนิรภัยมาจะคาดที่ตัวเองเพราะเดี๋ยวพี่ใหญ่ดุเอา


   “ปัง”


   “ครับ” ผมขานรับพี่ใหญ่แต่ก็ยังก้มหน้าก้มตาทะเลาะกับสายคาดอยู่ ก็มันดึงไม่ออกอ่ะ


   “หันมาก่อนได้ไหม”


   “เดี๋ยวนะครับ ปัง … อะ อะไรครับเนี้ย”  ดอกกุหลาบสีขาวแต่ปลายกลีบเป็นสีแดงช่อใหญ่อยู่ตรงหน้าผม กลิ่นของมันหอมหวานสบายจมูก ผมรับมาอย่างงงๆ ก่อนจะหันไปมองหน้าพี่ใหญ่อย่างไม่เข้าใจ เค้าจะซื้อไปเยี่ยมใครหรอ ใครป่วนเหรอ


   “ใครป่วยครับ เราจะไปโรงพยาบาลกันก่อนเหรอ”


   “ไอ้หมูซื่อบื้อ ถ้าไม่รู้ก็ไม่ต้องเอา”


   “หะ ให้ผมเหรอ”


   “ชดเชยวาเลนไทน์ปีที่แล้ว”


   “หะ อะ พะ ขะ เขิน …” ผมพูดไม่ออกได้แต่พึมพำก้มหน้าหน้าร้อนผาวกอดดอกไม้กับอกแน่น … ดอกไม้ช่อแรก … ดอก
กุหลาบที่แฟนเค้าให้กัน … ชาตินี้ผมได้กับเค้าด้วย งะ งื้ออออออออออ 


   “หึหึ แค่นี้ก็เขินแล้ว งั้นไอ้ตัวนี้ก็ไม่ต้องเอาแล้วกัน”


   “อะไรครับ มะ หมู หมูตัวเบอเริ้มเลย …” ผมหันไปด้านหลังและตาโตค้าง ทุกอย่างค้างหมด เมื่อเผชิญหน้ากับเจ้าหมูตัวยักษ์สีขาวขนปุกปุย … มันเป็นผู้ชายนะเพราะมันมีหนวดจิ้มอยู่ที่ปากด้วย … นะ น่ารักพี่ใหญ่เลือกซื้อของแบบนี้เป็นด้วยเหรอ


   “หึหึ อ้าว อึ้งๆ”


   “ซื้อมาทำไมครับ สิ้นเปลืองจะตาย” ผมหันไปพูด แต่ใจจริงอยากจะกอดเจ้าหมูอ้วนจะตายแล้ว ถึงผมจะไม่ค่อยชอบตุ๊กตาเพราะเหมือนผมเห็นตัวเอง แต่กับเจ้าตัวนี้น่ารักเกินกว่าจะไม่ชอบมัน อีกอย่าง … พี่ใหญ่เป็นคนซื้อให้ด้วย วันนี้ทำไมรู้สึกเหมือนผมถูกหวยเลยนะ … หรือคนๆนี้จะพยายามทำให้ผมตกหลุมพรางของเสือร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า งื้ออออ
   

“หึหึ อันนี้ชดเชยวันเกิดของหมู เอ๊าละ ไปกันเถอะ”


ฟอด



   “ขะ ขอบคุณนะครับ” ผมรีบหอมรีบหันหน้าหนี เขินเหมือนตัวจะแตก ทั้งๆที่ตอนนี้ก็แตกอยู่แล้ว กะ ก็พี่ใหญ่ทำดี ผมก็ต้องให้รางวัลไม่ได้หรือไง 


   “เดี๋ยวนี้กล้านักนะ… คืนนี้เดี๋ยวก็รู้”  ผมไม่ตอบอะไรอีก พี่ใหญ่เองก็เลิกแกล้งผมขับรถไปเงียบๆ ผมนอนกอดช่อกุหลาบหอมๆจนหลับไป …


ปี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด ปี๊ดดดดดดดดดดดดด



   หลับได้เพียงไม่นานก็ต้องสะดุ้งตื่นด้วยแตร่รถที่ดังสนั่นไปทั่ว มองไปรอบๆก็เห็นหน้าอยู่ภายในซอยบ้านแล้วเพียงแค่เลี้ยวขวาไปไม่เกิน 50 เมตรก็จะถึงแล้วแท้ๆ หันมามองพี่ใหญ่ก็เห็นเค้านั่งขมวดคิ้วปลดสายคาดนิรภัยและทำท่าจะลงไป พอเค้าเห็นว่าผมตื่น ก็หันมาบอกด้วยอารมณ์ที่ไม่ดีนัก 


   “… รออยู่บนรถไม่ต้องลง” ผมที่ยังเบลอๆอยู่หันไปมองด้านหน้าเห็นชายร่างสันทัดคุ้นหน้าคุ้นตากันดีกำลังนั่งคล่อมมอเตอร์ไซค์ฟีโน่สีน้ำตาลบีบแตร่อยู่ไม่ยอมหยุด พี่ปาล์มนี้หน่า


   “เดี๋ยวครับพี่ใหญ่ ผมรู้จัก”


   “รู้จักไอ้เด็กแว้นไม่รู้เรื่องรู้ราวนี้ด้วยเหรอ งั้นบอกให้มันหยุดบีบแตร่และถอยไทย รบกวนชาวบ้านเขา” พี่ใหญ่ถามผมพยักหน้าเอามืออุดหูนิดๆเพราะแสบแก้วหู ก่อนที่เขาจะบอกให้ผมห้ามพี่ปาล์มเพราะพี่ใหญ่เองก็เริ่มอารมณ์ไม่ดีแล้ว


   “พี่ปาล์มปังเองหยุดบีบได้แล้วครับ” ผมเปิดกระจกตะโกนออกไป พี่ปาล์มยอมลงจากรถและเดินมาหาผม เขาโผล่หน้าเข้ามาในรถ มองผมสลับกับพี่ใหญ่ก่อนจะส่งยิ้มหวานมาให้ … ทำไมผมรู้สึกสยอง


   “ยอมลงมาสักที เรียกเท่าไหร่ก็ไม่ลง แถมเคาะเรียกก็ไม่ตื่นอีก”


   “ไม่ขับชนก็ดีแค่ไหนแล้ว เกรียนชะมัด” พี่ใหญ่บ่นอุบอิบ


   “เอ่อ อะไรกันเหรอครับ”


   “หึ นี้ก็หลับลึกซะ เลือกอยู่ตั้งนาน พี่คนนี้ก็ใจแข็งชะมัดไม่ยอมลงสักที ก็เลยบีบแตร่ใส่ซะเลย” ก็โชคดีของพี่ที่พี่ใหญ่ไม่เหยียบคันเร่งใส่ละนะ ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็คงไม่แน่


   “ว่าแต่มีอะไรเหรอพี่ปาล์ม”


   “ก็ตอนนี้เฮียยอมคุยแล้วนะ แต่! ไม่ใช่กับปัง แต่เป็นกับพี่ใหญ่ ถ้ายังไงก็ใจเย็นหน่อยแล้วกัน เพิ่งทะเลาะกันไล่กูออกจากบ้านมา ไปเถอะ เดี๋ยวเข้าไปพร้อมกัน ” ผมที่ตั้งท่าจะดีใจก็ต้องห่อเหี่ยวลง มีแต่พี่ใหญ่ที่หัวเราะในลำคอจนผมขนลุก เฮ้อ … ตื่นเต้นจนใจเต้นตุบๆเลย


   “ดอกไม้อะไรน่ะ สวยจัง อ่ะ แหม มีตุ๊กตาด้วย คึคึ มีผัวดีชีวิตดีนะปัง” ผมกดปิดกระจกทันที คนขี้แกล้งที่ยืนหัวเราะอยู่ข้างนอกยิ่งชอบใจโห่ร้องก่อนจะเดินไปคล่อมมอเตอร์ไซค์แล้วขับออกไป


   “พูดจาดีก็เป็น”


   “พี่ใหญ่!” ผมตะโกนลั่นเพราะว่าจะไม่เขินแล้วเชียว


   “หึหึ ไปกันเถอะ” พี่ใหญ่ว่าก่อนจะขับตามปาล์มไปทันที


   พี่ใหญ่จอดรถในรั้วบ้านของพี่อลัน ก่อนที่ไม่กี่วินาทีร่างสูงใหญ่ตาสีฟ้าผมสีฟางอ่อนที่ฟูเหมือนคนเพิ่งตื่นนอนก็วิ่งหน้าตา
ตื่นลงมาที่ประตูบ้าน ก่อนที่จะจ้องเขม็งมาที่เราสองคน ผมมือสั่นเล็กๆ แต่มือผมก็ถูกคว้าเอาไปจับและบีบเบาๆ ก่อนที่ริมฝีปากอุ่นๆจะหอมเข้าที่ขมับของผมอย่างอ่อนโยนและให้กำลังใจ ผมหันหน้าไปก่อนจะยิ้มให้เขานิดๆพยักหน้าให้ ก่อนที่มืออุ่นนั้นจะปล่อยผมไว้ตามเดิม ดอกไม้ช่อนั้รถูกผมวางทิ้งไว้ในรถก่อนจะเปิดประตูและก้าวลงจากรถไปพร้อมๆกับพี่ใหญ่ …


   “พี่อลันสวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้พี่อลัน เขาไม่มองผมแม้แต่น้อย มองแต่พี่ใหญ่ มองแบบไม่เป็นมิตรเอาซะเลย


   “เฮียใจเย็นๆนะ เฮียบอกผมแล้วไงว่าจะคุยกับพี่ใหญ่ นี้ไงพี่ใหญ่ตัวเป็นๆ” พี่ปาล์มพยายามเข้าไปห้ามพี่อลันให้ใจเย็นๆ จับแขนแกร่งเอาไว้ พี่อลันมองหน้าพี่ปาล์มแต่ไม่ได้สะบัดแขนออกแต่อย่างใด


   “มึงไปตามมันมาเหรอไอ้ปาล์ม มึงกล้ามากนะที่มาเหยียบบ้านกู”


   “ผมจะมายื่นข้อตกลงกับคุณ” พี่ใหญ่พูดก่อนจะเดินเข้ามากอดคอผมที่สั่นนิดๆเอาไว้


   “ไม่ มาทางไหนกลับไปทางนั้น!” พี่อลันตวาด


   “เฮียแม่งไม่แมนเลย”


   “อะไรของมึง” พี่ลันหันไปถามพี่ปาล์มที่ยืนหน้างออยู่ข้างๆ เลิกคิ้วมองอย่างไม่เข้าใจ


   “ก็เฮียบอกว่าจะคุยก็ต้องคุยดิ พี่ใหญ่ไอ้ปังเข้าบ้าน ทะเลาะกันหน้าบ้านไม่อายหรือไง”


   “อะไรนักหนาวะ” เสียงบ่นภาษาอังกฤษดังออกมาได้ใจความประมานนั้น ก่อนจะคล้อยหลังเดินเข้าไปในบ้านไปพร้อมกับพี่ปาล์ม ผมและพี่ใหญ่เดินตามเข้าไปทันที อย่ากลัวนะปัง ตัวก็ออกจะใหญ่ จะไปกลัวทำไม


   พี่อลันนั่งลงที่โซฟาโดยใช้แขนทั้งสองข้างท้าวที่เข่าของตัวเอง เงยหน้าขึ้นมามองผมนิ่ง แต่ในแววตานั้นมีทั้งความแกร่งกร้าวและฉุนเฉียวก่อนจะเรียกให้ผมไปนั่งข้างๆเขา ผมหันไปมองพี่ใหญ่เขาก็พยักหน้าให้ผมทำตามผมจึงเดินเข้าไปนั่งใกล้ๆพี่อลัน ส่วนพี่ใหญ่เองก็มานั่งโซฟาใกล้ๆ โดยมีพี่ปาล์มยืนมองอยู่ห่างๆ


   “นั่งที่พื้น”


   “พี่ลัน! ไม่เอาครับพี่ใหญ่นั่งที่เก้าอี้เถอะ” ผมเบิ่งตากว้างรีบพูดกับพี่อลันเพราะผมรู้นิสัยพี่ใหญ่ดี … เขาเป็นคนมีศักดิ์ มี ศรี เค้าถือตัวของเขามากผมไม่อยากทำลายความภาคภูมิของเขา


   “น้องของกูมีค่ามากกว่าศักดิ์ศรีของมึงหรือเปล่า”  พี่อลันพูดเสียงนิ่ง พี่ใหญ่มองมาที่เขาไม่วางตาก่อนจะก้าวมานั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าของเรา ผมรีบลงไปนั่งกับเขาทันที กอดแขนแกร่งของเขาไว้ควบคุมเสียงตัวเองไม่ให้สั่นไหว แต่พี่ใหญ่ก็ไม่ไหวติง …


   “ไม่เอาครับ อย่าทำ พะ พี่ใหญ่ลุกขึ้น”


   “ปังขึ้นมานั่งที่เดิม”


   “มะ ไม่ ถ้าพี่อลันจะทำแบบนี้ ก็ให้ปังนั่งกับพี่ใหญ่”


   “ปัง!!!!”


   “หยุดตะโกนสักที ผมทำอะไรผิด!” ผมตะโกนกลับลั่นอย่างเหลืออด … เพราะสิ่งที่พี่อลันทำคือการทำลายศักดิ์ศรีของพี่ใหญ่มาก ผมไม่เคยเจออคนโหดร้ายขนาดนี้มาก่อน


   “โอ้ย นี้ดูละครช่อง 7 มากไปปะเฮีย เฮ้อ” พี่ปาล์มเดินมาท้าวแขนทั้งสองข้างลงที่พนักพิงด้านหลัง มองมาที่ผมอย่างอ่อนใจ


   “เงียบไปเลยไอ้ปาล์ม เรื่องคนในครอบครัว วางนักก็ไปหาตะกร้อมาครอบปาก”


   “ฮัลโหล นี้โตมาเมืองนอกหรือนักไทน์แมชชีนมาจากยุคพระเจ้าเหา ทำไมหัวโบราญไม่เข้ากับสีตาขนาดนี้” มือหนาตะบปเข้าที่ปากของพี่ปาล์มให้เงียบก่อนจะใช้แขนอีกข้างตวัดจนตัวของพี่ปาล์มลอยข้ามพนักมาโดยพี่อลันล็อคคอปิดปากร้องอึกอักๆ ด่าไม่เป็นภาษาอยู่


   “เลิกพูดซะ” พี่อลันพูดก่อนจะก้มลงมามองหน้าผมสลับกับพี่ใหญ่ พี่ใหญ่ที่นั่งนิ่งจ้องไปที่พี่อลันไม่วางตา


   “กูจะให้มึงพูด แค่วันนี้ ถ้ามึงทำให้กูเชื่อใจไม่ได้ อย่าหวังจะมีโอกาสนี้อีก … พอใจมึงไหมไอ้ปาล์ม”


    ประโยคหลังเขากระซิบข้างหูของพี่ปาล์มแต่พอที่จะทำให้ผมได้ยิน ก่อนที่ร่างเล็กของพี่ปาล์มจะสะบัดออกและลุกขึ้นไปยืนด่าพี่อลันแหย่งๆ และเดินโมโหเข้าไปในครัว และทำอะไรสักอย่างกับตู้เย็น … อยากขำ แต่ขำเวลานี้ไม่ได้


   “มึงคิดอะไรถึงมายุ่งกับน้องกู” พี่อลันถามขึ้น ดูเหมือนใจของเขาจะเย็นลงบ้างแล้ว


   “ตอนแรกก็ไม่คิดอะไร แต่หลังๆ จะเลิกก็เลิกไม่ได้” ผมหันขวับไปมองพี่ใหญ่ … ไม่ต้องตอบตรงขนาดนั้นก็ได้


   “นี้คือคำตอบมึงหรือไอ้ใหญ่ คำตอบแบบนี้เหรอที่จะให้กูยกน้องให้”


   “ก็ยังดีกว่าไอ้พี่ที่ไหนไม่รู้อยู่ๆมาบอกตัวเองเป็นพี่”


   “พี่ใหญ่ …” ผมร้องห้ามเบาๆ อย่าทะเลาะกันพูดกันดีๆได้ไหม  อย่าทำท่าเหมือนจะพร้อมจะชกกันตลอดเวลาแบบนี้สิ


   “หึ … ก็ได้ไอ้ใหญ่ เรื่องนี้เจ๋ากัน อีก 10 ปีต่อจากนี้มึงคิดว่าชีวิตมึงกับน้องกูจะเป็นยังไง ผู้ชายด้วยกัน ใครจะไปรับได้”


   “พ่อแม่เราไง แม่ผมรับรู้เรื่องของเราแล้ว พ่อของปังก็รับรู้แล้ว เราสองคนก็รับรู้ความรู้สึกของกันและกัน คนรอบตัวเข้าใจ แล้วคุณยังต้องการอะไรกับพวกเราอีก 10 ปีต่อจากนี้ผมไม่รู้ แค่วันพรุ่งนี้ผมยังไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ไหม แต่สิ่งที่ผมทำวันนี้ คือสิ่งที่ผมต้องทำ เพื่อวันพรุ่งนี้ที่ผมจะมีปังอยู่กับผม” ผมบีบมือของเขาแน่น


   “ถึงมึงจะไม่แคร์ใคร แต่สังคมไม่แคร์มึงนะไอ้ใหญ่ มึงยังเด็กยังไม่รู้หรอกว่าสังคมมันโหดร้ายแค่ไหน”


   “แล้วอะไรบอกคุณว่า ผู้หญิงต้องคู่กับผู้ชายเท่านั้น ใครบัญญัติเอาไว้ ผมรักไอ้ปังเท่านั้นที่ผมรู้ ผมไม่สนใจว่าสังคมจะว่ายังไง ผมจะไม่บอกว่ายุคนี้มัน 2016 แล้ว ถึงจะเป็นสมัยโบราณ ถ้าผมเจอไอ้ปัง ผมก็จะรักมัน เพราะสิ่งที่เป็นมันไม่มีใครลอกเลียนแบบได้ บางทีมันอาจจะน่ารำคาญ นอยส์ ขี้ขลาดไม่เข้ากับตัวของมัน ถึงมันจะอ้วนจะดำขี้ริ้วขี้เหล่ยังไง แต่ผมก็รักในสิ่งที่เป็นมัน เนื้อแท้ข้างในที่ผมต้องการ … เพราะผมเชื่อแบบนี้ไอ้ปังถึงได้รักผมตอบ … เพราะผมรักมันที่เป็นมันโดยไม่เสแสร้ง”


   ผมสะอื้นเล็กๆในลำคอ … นี้พี่ใหญ่คิดอะไรขนาดนี้เลยเหรอ … พี่ใหญ่รักผมขนาดนี้เลยเหรอ ผมเงยหน้ามองพี่อลันที่ก้มลงมามองเราสองคนนิ่งไม่พูดอะไรอีกแล้ว ก่อนจะค่อยๆยื่นมือสั่นไปวางไว้บนเข่าของพี่อลัน ตาสีฟ้าเหลือบมามองผม


   “ผมรักพี่ใหญ่ครับพี่อลัน … ผมไม่สามารถเลิกกับพี่ใหญ่ได้ แค่ไม่เจอกันอาทิตย์เดียวในตอนนั้น ปังก็เหมือนจะตาย พี่ใหญ่ไม่ได้ทำอะไรผิดนะครับ มันไม่ยุติธรรมกับเราเลยนะครับ … ผมขอกำหนดชีวิตตัวเองได้ไหม … ผะ ผมขอได้ไหมครับ” ผมขอร้องอย่างอ้อนวอน 


   “ถ้าคุณคิดถึงน้องไปหาเราได้ตลอดเวลา” พี่ใหญ่พูดเสียงนิ่งทำให้พี่อลันที่จ้องผมอยู่ผละออกไปพิงกับโซฟา เหยีดยิ้มออกมานิดๆ


   “นี้รู้หรือไงว่ากูจะยกน้องกูให้แล้ว”


   “จะให้ผมแสดงความจริงใจยังไงก็ได้ครับ”


   “หึ เดินไปลากคอไอ้ปาล์มออกจากตู้เย็นกู ก่อนที่ขนมของน้องกูจะหมดตู้” พี่อลันชี้ไปด้านหลังอย่างเหนื่อยหน่าย พี่ใหญ่ลุกขึ้นยืนอย่างไม่คิดก่อนจะเดินก้าวไปที่ห้องครัวทันที เสียงโวยวายโครมครามดังขึ้นผมย่นคอนิดๆและพยายามชะเง้อมองไปที่ห้องครัว


   “โว้ยยยยยยยยยยยยย อะไรของพี่วะ อุ้ยปลาหมึกตก พี่ปลาหมึกผมตกกกกกกกกกกกกกกกกก!”ภาพของพี่ใหญ่ที่ลากคอพี่ปาล์มออกมาลากไปหน้าบ้านจะทำให้ผมขำออกมานิดๆ


   “หึ ขำออกแล้วเหรอไง ขึ้นมานั่งกับพี่สิปัง” พี่อลันก้มลงมามองผมแววตาของเขาอ่อนลงแล้ว ผมค่อยๆยันตัวลุกขึ้นไปนั่งข้างๆ ก่อนจะยิ้มออกมาได้จนแก้มปริ


   “พี่อลันยอมแล้วใช่ไหมครับ”


   “ก็ลองดู … ผ่านมา 2 อาทิตย์ พี่ก็รู้ว่าเราไม่ได้มีความสุขเลยที่อยู่ข้างพี่ แต่วันนี้เราดูมีชีวิต เราดูสดใส … สิ่งที่พี่คิดมันอาจจะผิดมาตลอด พี่จะลองทำความเข้าใจกับมันใหม่ … ปังอภัยให้พี่ไหมครับในทุกสิ่งที่พี่ทำผิดพลาด” ผมพยักหน้าก่อนที่เขาจะดึงผมเข้าไปกอดซะแน่น คึคึ วันนี้วันดีของผมชะมัดเลย ต่อจากนี้พี่อลันจะไม่โหดร้ายกับผมและพี่ใหญ่แล้ว และผมก็จะได้มีอิสระ …


.
.
.

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-05-2016 10:59:48 โดย pa_pa »

ออฟไลน์ pa_pa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 469
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +414/-4
   “ไอ้ใหญ่มาคุยกับกูหน่อย” พี่อลันผละผมออกก่อนจะยกมือโบกให้พี่ใหญ่ที่เดินเข้ามาหน้านิ่งมาใกล้ พี่ใหญ่เดินมานั่งลงที่โซฟาข้างๆ มองผมสลับกับพี่อลันแต่ไม่ได้พูดอะไร


   “มึงจะเอายังไง น้องกูจะกลับไปอยู่หอพักนักศึกษารังหนูของมึงหรือไง”


   “ไม่ครับ วันนี้ไอ้ปังต้องนอนที่นี้”


   “…!” ผมหันไปมองพี่ใหญ่ทันที …. อะไรกันอ่ะ


   “อีกประมานหนึ่งอาทิตย์ผมจะมารับ” พี่ใหญ่พูดเสียงนิ่ง


   “พี่ใหญ่” ผมอวดครวญทำไมไม่พอผมกลับหอพักละ


   “แต่คืนนี้ผมจะนอนที่นี้” เขามองมาที่ผมและกระตุกยิ้ม ผมยิ่งงงเข้าไปใหญ่


   “หึ มาขอน้องกูแถมยังขอที่ซุกหัวนอนอีกนะมึง”


   “ไม่ได้เหรอครับ” พี่ใหญ่เลิกคิ้วถาม พลางยิ้มกว้างอย่างกวนๆ พี่อลันดุนลิ้นในปากก่อนจะพยักหน้าส่งๆ


   “ได้แต่แยกห้อง กูไม่ชอบให้น้องกูอยู่ใกล้มึง…ต่อหน้าต่อตากู”


   “หึ ยังไงก็ได้ครับ”


   “ทำข้าวเย็นด้วย ปังลุงผดุงโทรมาบอกว่าคืนนี้จะค้างบ้านเพื่อนแกนะ เห็นว่าฝั่งนั้นป่วยไม่มีคนดูแล”


   ผมพยักหน้ารับอย่างมึนๆ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร พี่อลันกับพี่ใหญ่นั่งเขม็นกันสักพัก พี่ปาล์มก็เดินเข้ามาในบ้านพร้อมลูกชิ้นสองไม้เกาะแกะพี่อลันจนพี่อลันหนีขึ้นไปทำงานด้านบนโดยมีพี่ปาล์มเดินตามขึ้นไปด้วย ทิ้งให้ผมกับพี่ใหญ่นั่งจ้องหน้ากันนิ่งก่อนที่ผมจะหัวเราะออกมาและโหมเข้าไปกอดกับพี่ใหญ่ แขนแกร่งโอบกอดผมเอาไว้อย่างหวงแหนไม่ต่างกัน … ถึงจะไม่เข้าใจอะไรมากนัก แต่ผมก็ไม่อยากคิดให้ปวดหัวแล้ว ผมเชื่อพี่ใหญ่ทุกอย่าง เพราะพี่ใหญ่คือคนที่ผมรัก


   ตกเย็น ผมและพี่ใหญ่ออกไปซื้อของมาทำกับข้าวกันที่ห้างใกล้ๆบ้าน กลางทางเจอชินโดที่นั่งรออยู่ป้ายรถเมเลยรับไปด้วยกัน ก่อนจะตกลงกันว่าจะกลับมาเจอที่รถกันอีกหนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น เพื่อพาชินโดกลับไปส่งที่หอพักถึงแม้จะวนหน่อยๆ แต่พี่ใหญ่ก็เต็มใจที่จะขับรถไปส่งชินโด ผมกับพี่ใหญ่แยกกับชินโดมาเดินในโซนของอาหารสด โดยที่พี่ใหญ่เดินเข็นรถตามผมที่เดินเลือกของอยู่


   “พี่ใหญ่เย็นนี้หม้อไฟได้ไหมครับ” หลังจากที่คุยโทรศัพท์กับตัวเล็กรายงานความสำเร็จครั้งนี้เสร็จก็หันมาถามพี่ใหญ่บ้าง


   “อืม ตามใจ” พี่ใหญ่ตอบกลับมา ผมเดินเข้าไปก้มมองเขา ก่อนที่จะยิ้มๆเมื่อเขาเหลือบตาคมมาหา


   “ทำหน้าโหดทำไมครับ โกรธอะไรผมเหรอ”


   “เปล่า แค่คิดอะไรเพลินๆน่ะ แม่คิดถึงเรานะ เดี๋ยวพออะไรลงตัวแล้วจะพาไปเยี่ยม”


   “ครับ” ผมพยักหน้าและเดินไปพร้อมๆกับเขา เขาเดินซื้อของกันเงียบๆจนเสร็จ แต่พอกลับมาที่รถชินโดก็โทรมาบอกว่า
กลับไปที่หอพักแล้ว ผมกับพี่ใหญ่จึงตรงกลับบ้านด้วยความปลอดโปร่งใจ เพราะไม่มีอะไรที่ต้องคิดมากแล้ว


   “พี่ปาล์มเดี๋ยวปังทำเองครับพี่ปาล์มไปนั่งเถอะ” ผมร้องบอกพี่ปาล์มที่พยายามจะช่วยหั่นผัก แต่โดนมีดบาดไปแล้วหนึ่งแผล พี่ใหญ่เองที่กำลังหั่นเนื้ออยู่หั่นมามองพี่ปาล์มนิ่ง


   “ไอ้กาก”


   “ชิ ! นั่งเฉยๆก็สบายดี” พูดจบเขาก็เดินงอนออกไปนั่งโซฟาด้านนอก ผมหัวเราะนิดๆก่อนจะหันมาจัดการกับผักต่อ ก่อนที่ร่างสูงของพี่ใหญ่จะมายืนข้างๆผม


   “เสร็จแล้วเหรอครับ อ่ะ !” ริมฝีปากหนาก้มลงมาทาบกับริมฝีปากผมเบาๆ ไม่ได้รุนรานอะไร


   “เสร็จแล้วครับ” เสียงเข้มตอบอย่างหยอกล้อ … ผมเม้มปากก่อนจะยิ้มออกมาให้เขาเขินๆ  ก่อนที่เราจะช่วยกันทำอาหารเงียบๆในโลกส่วนตัวของเรา


   มื้อเย็นของเราผ่านไปด้วยความสุข … ความสุขที่ได้อยู่ท่ามกลางพี่อลันที่คอยจะประชดประชันพี่ใหญ่อยู่ตลอดเวลา พี่ปาล์มที่กินอย่างไม่เลี้ยง สวาปามไม่เลือกหน้าไม่คุยกับใครอยู่ข้างๆที่อลัน และพี่ใหญ่ที่นั่งข้างผมคอยตักนั้นนี้ให้ผมกินไม่ขาด และคอยตอบคำถามของพี่อลันที่เหมือนจะซักประวัติให้รู้ทุกอย่าง ส่วนผมก็นั่งกินเงียบๆ มีบ้างที่หัวเราะเพราะพี่ปาล์มสำลักเพราะรีบกิน มีบ้างที่สะอึกกับคำพูดของพี่ใหญ่ หรือจะผวากับท่าทีนักเลงของพี่ชายผม แต่นั้นก็ถือว่าเป็นความสุข ที่มีคนรักรายล้อมตัว ที่ไม่สามารถหาที่ไหนได้อีกเลย


   หม้อไฟหมดลงอย่างรวดเร็ว วงถูกย้ายไปที่ม้าหินหน้าบ้าน เบียร์ที่พี่ใหญ่ซื้อมาจากซุปเปอร์ถูกซุกอยู่ในลังน้ำแข็ง ซึ่งผมกับพี่ปาล์มได้กินแค่น้ำอัดลมเท่านั้น พอดูไปดูมา เขาทั้งสองคนก็เข้ากันได้ดีเหมือนกันนะ


   “กลับไปได้แล้วไอ้ปาล์ม”  พี่อลันหันมาบอกพี่ปาล์มที่นั่งกินขนมกับน้ำสลับกันอย่างเพลินๆ อิจฉาจังคนที่กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน นี้ผมกินน้ำอัดลมไปแก้วเดียวขึ้นมา 2 โลแล้วมั่งสงสัย


   “วันนี้เฮียไล่ผมมากี่ครั้งแล้ว” มันฝรั่งถูกยัดลงคอไปพร้อมๆกับคำถามที่พูดออกมา ลุ้นกลัวว่าจะติดคอจัง


   “หึ ไล่จนกูไม่อยากจะไล่แล้ว แต่มันดึกแล้วเดี๋ยวป๋ามึงกลับมาไม่เจอก็โดนตีและต้องวิ่งมาให้กูไปช่วยอีก”


   “วันนี้ป๋าไม่กลับบ้าน”


   “… งั้นก็มานอนกับกู”


   “คึคึ” พี่ปาล์มหัวเราะชอบใจ จนผมหัวเราะตามในความทะเล้นของพี่ปาล์ม


   พี่ปาล์มเป็นลูกคนเดียวอยู่กับพ่อที่ชื่อลุงไฟ ลุงไฟทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และมีบุคลิกอารมณ์ร้อนมักจะโมโหใส่พี่ปาล์มเสมอ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าลุงไฟจะไม่รักพี่ปาล์มนะครับ แต่ในบางครั้งลุงไฟก็ควบคุมตัวเองไม่ได้ซะมากกว่า พี่ปาล์มเองก็ไม่ได้เกลียดพ่อตัวเองเพียงแต่ว่าเพราะการเลี้ยงดูที่บกพร่องทำให้พี่ปาล์มย้ายออกไปอยู่หอด้านนอก จะมีแค่ช่วงที่พี่อลันมาบ้านที่พี่ปาล์มจะกลับมานอนบ้านเท่านั้น และบางครั้งที่ลุงไฟไม่กลับบ้าน พี่ปาล์มก็จะมานอนกับพี่อลัน ผมเคยชวนมานอนด้วยกันเค้าก็บอกว่าอยากแกล้งที่อลันให้หงุดหงิดที่เขาไปนอนด้วย ผมเลยไม่ได้ว่าอะไรอีก


   “ปัง พรุ่งนี้มีเรียนไปนอนได้แล้ว” พี่ใหญ่พูดขึ้นเบาๆ ผมหันไปมองเขาสลับกับพี่อลันที่มองมาที่ผมนิ่ง ยกแก้วเบียร์ขึ้นจิบเบาๆ


   “ขอนั่งอีกนิดไม่ได้เหรอครับ”


   “ไม่ได้ ไปนอนได้แล้ว” ผมพยักหน้าเศร้าๆ ก่อนจะเดินออกมาจากวงเหล้าด้วยความน้อยใจโดยมีพี่ปาล์มตะโกนราตรีสวัสดิ์มา เพิ่งชมไปเมื่อเช้าว่าใจดีแล้วแท้ๆ ที่แท้ก็ใจร้ายอยู่ดีนั้นแหละ ฮึ


.


.


.


   “กูรู้มึงมีแผน” 


   อลันพูดขึ้นหลังจากที่น้องชายเดินคอตกคล้อยหลังไปแล้ว ทำเอาคนที่กินขนมอยู่ชะงัก ช้อนตามองร่างสูงทั้งสองอย่างเกร็งๆ กลื่นน้ำลายลงคอดังอึก พลางอยากที่จะตะโกนเรียกปังปังให้กลับมาก่อนเพราะบรรยากาศตรงนี้ไม่ดีเท่าไหร่นัก


   “หึ พี่ก็ห้ามผมไม่ได้” พี่ใหญ่พูดพร้อมกับคีบเอาน้ำแข็งมาใส่แก้วตัวเองนิ่ง


   “ถ้าทำให้น้องกูเสียใจกูฆ่ามึงแน่ ถึงกูจะกลับออสเตรเลียไปแล้วก็อย่าหวังจะรอด” อลันกัดฟันพูด


   “ถ้าคิดว่าผมจะพลาดก็รอดูต่อไป”


   “นี้ …อย่าทะเลาะกันสิ”


   ร่างบางที่นั่งอยู่ตรงกลางพูดขึ้นเบาๆ ก่อนที่ใหญ่จะหันมาเหยียดยิ้มส่วนอลันจะทำตาดุใส่ ร่างสูงของพี่ใหญ่ยืนขึ้น เดินออกมาจากวงเหล้าโดยไม่พูดอะไร เดินไปที่รถหยิบเอาช่อกุหลาบสวยกับตุ๊กตาหมูยักออกมา ก่อนจะเดินเข้าไปในบ้านช้าๆ ปล่อยให้อลันและปาล์มมองตาม


   “คึคึ ดุเมียเสร็จก็รีบไปง้อเมียเลย คึคึ”


   “ปากดี กินเข้าไป” ร่างสูงจิ้มเอาหมูย่างกับแกล้งขึ้นมาก่อนจะยัดใส่ปากกระจับของเด็กข้างบ้านอย่างหมั่นไส้


   อีกด้านหนึ่ง ปังปังเองพอเข้ามาในห้องได้ ก็จัดการถอดเสื้อแขนยาวที่ใส่อยู่เหลือแค่เสื้อกล้ามสีขาวกับกางเกงขาสั้นเลยเข่าขึ้นมานิดๆ จัดการเอาเสือโยคะออกมาปู อย่างนึกหงุดหงิดใจเพราะน้องใจพี่เสือร้ายไล่ต่อหน้าพี่ชายตนเอง ก่อนจะนั่งลงกับพื้นออกกำลังกายในท่าซิตอัพอย่างเต็มแรง


ก๊อก ก๊อก ก๊อก


   “ใครครับ”


   “ฉันเอง”


   เสียงคุ้นเคยนั้นดังขึ้นจากหน้าประตู ร่างท้วมขมวดคิ้วก่อนจะลุกขึ้นไปเปิดประตู พอเห็นว่าพี่ใหญ่ถือทั้งดอกไม้และตุ๊กตาหมูยักขึ้นมาก็ตาโต ช่วยถือแทบจะไม่ทัน ปังปังยกเอาเจ้าหมูขนนุ่มไปวางไว้ข้างเตียง ส่วนดอกไม้เอาวางไว้ในตู้เย็นเล็กๆ แอบรู้สึกผิดที่ตัวเองลืมเอาไว้หลังรถจนมันเชาไปแล้วนิดหน่อย


    “ปังครับ”


   “…”


   “งอนเหรอ”


   “ทีอย่างนี้มาพูดดี” เจ้าปังพูดพร้อมกับเดินไปนั่งที่เสือโยคะ ในขณะที่เสือร้ายก็ตามมานั่งขัดสมาธิตรงหน้าจ้องมองใบหน้ากลมใสที่เต็มไปด้วยเหงื่อยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยนก่อนที่จะจับเชยคางมนขึ้นมาจูบเบาๆที่หน้าผากใส


   “รักนะครับ ขอโทษที่ไล่ พี่กลัวว่ามันจะดึก เพราะพรุ่งนี้ปังเรียนเช้า”


   “แต่ผมก็นอนดึกประจำนี้” คนงอนยังคงเถียงต่อไปแก้มพองลมออกมานิดๆ จ้องมองตาคมที่อ่อนโยนอย่างไม่หลบตา


   “หึหึ แต่คืนนี้ไม่เหมือนกันครับ”


   “หมายความว่ายังไงครับ อื้อ!” ริมฝีปากหนาทาบลงมาที่ริมฝีปากอวบอิ่มของเจ้าหมูน้อยอย่างไม่ทันตั้งตัว ลิ้นหนาไล่ต้อนภายในโผล่งปากนุ่มจนปังปังรู้สึกจนมุม และยอมให้พี่ใหญ่ดำเนินเกมต่อไปโดยตนเองเป็นผู้ตามค่อยๆเรียนรู้ไปอย่างเชื่องช้า 


   “ผะ พี่ใหญ่ อืม ผมยังไม่ได้อาบน้ำ” ร่างอวบร้องห้ามเมื่อมือสากแต่อุ่นของพี่ใหญ่ล้วงเข้าไปภายในเสื้อกล้ามบางอย่างถือสิทธิ ริมฝีปากชื้นซับไปตามข้างแก้ม ใบหู และต้นคอ จนขนทั้งตัวของปังปังลุกเกรียว


   “ไว้อาบทีเดียวครับที่รัก” เสียงแหบพร่านนั้นทำให้ปังปังยากจะต่อลอง


   ก่อนที่ร่างของเขาจะถูกโอบรัดขึ้นไปวางไว้บนเตียงหนาของตน แผนหลังวางเปล่าสัมผัสกับผ้าปูที่นอน ได้เพียงไม่นานร่างใหญ่สูงตระหง่านเปลือยอกก็ทาบทับลงคร่อมเขาเอาไว้ ใบหน้าคมจ้องมองคนรักอย่างห่วงแหนและหยอกล้อเพราะใบหน้าของเด็กชายตรงหน้าแดงปลั่งและเต็มไปด้วยเหงื่อที่ชื้นออกมาจากความตื่นเต้น ริมฝีปากแดงสั่นระริกนิดๆ ยั่วยวนให้เขาก้มลงไปสัมผัสความหวานนั้นอีกครั้ง โดยที่แขนอวบของปังปังจะยกขึ้นคล้องบ่าแกร่งเอาไว้อย่างเต็มไว้ สองร่างกอดเกี่ยวกันท่ามกลางคืนที่แสนเงียบสงบ แต่อุณหภูมิแห่งความรักอันเร้าร้อนกับปะทุครั้งแล้วครั้งเล่าจนไม่รู้ที่จะจบลงเมื่อไหร่ …


   “ปังรักพี่ใหญ่นะครับ” เสียงแหบพร่านของคนรักใต้ร่างของเสือร้ายดังขึ้น


   ก่อนที่จะหมดแรงและหลับไปในเวลา ตี 3 ใหญ่เองจ้องมองภาพนั้นอย่างเอ็นดู ก่อนจะค่อยๆยกกายออก ลุกขึ้นทำความสะอาดร่างกายคนรักและตนเองในสภาพเปลือยเปล่า เปลี่ยนเสื้อผ้ามอบความอบอุ่นให้กับเจ้าหมูของเขา


   “หนักนะเนี้ย หึหึ” เสือร้ายจัดการอุ้มร่างนุ่มนิ่มที่แสนห่วงแหนมาวางไว้บนโซฟาก่อนเตียงที่มองเห็นคราบไคแห่งความไคร่ในรักของทั้งคู่ทิ้งหยิบเอาผ้าปูผืนใหม่มาใส่ และพาร่างไร้สติมานอนบนเตียงเช่นเดิม ก่อนที่เขาจะค่อยๆทิ้งกายลงข้างๆ ดึงร่างที่แสนคิดถึงเข้ามากอดไว้ ไม่วายจะจูบลงบนริมฝีปากอิ่มอย่างเอ็นดูเหยียดยิ้มให้กับความน่ารักตรงหน้าอย่างอุ่นใจ


   “หลับนะคนดี ต่อจากนี้พี่จะหาทุกสิ่งให้เราเอง” เสียงเข้มกระซิบบอกข้ามริมหูนิ่ม ก่อนจะค่อยๆด่ำดิ่มสู่ห้วงนินทาอันแสนมีความสุข





==========================

มาล้าววววววววววววววววววววววววววววววววว ขอโทษที่ช้าคะ อย่างที่ทุกคนรู้ เค้าแอบไปทำโปรจคมาาาา  :hao3:

ตอนนี้ตอนท้ายแบบว่่า  :hao6: อยากแต่ง NC เป็นแต่แต่งไม่เป็นอ่านเป็นอย่างเดียว5555555

ปาล์มกับพี่อลันจะไม่มีตอนพิเศษในเรื่องนะคะ แต่จะเขียนแยก! เพราะคนเขียนรักปาล์มเข้าแล้ว คึคึ 

ในเมื่ออุปสรรคขอปังปังและพี่ใหญ่จบลง เรื่องราวที่ดำเนินมาถึงตอนนี้ก็เป็นตอนท้ายๆแล้วละ

อาจจะมีภาค 2 อาจจะนะคะ ย้ำอีกที อาจจะ เดี๋ยวแจ้งอีกทีคะ ขอบคุณทุกคนที่รักรอคอยเค้านะ และขอโทษที่หายไปนาน


รักนะคะ คนดีของฉันนนน

เจอกันตอนหน้านะค ฝากเพจด้วย อิอิ

ห้องเก็บนิยาย pa_pa

เข้ามาให้กำลังใจ Pa_Pa กันเยอะๆ เค้าจะได้มีแรงปั่นต่อเงินทองไม่สำคัญเท่าคอมเม้นและกำลังจากทุกคนเลยคะ  :katai5:

 :bye2:



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-05-2016 11:00:37 โดย pa_pa »

ออฟไลน์ minneemint

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Dolamon

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :o8: ดีใจจังได้กลับมาอยู่ด้วยกันแล้ว :-[

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด