.
.
“เฮ้อ...กูว่าแล้วว่ามึงคงแค่อยากจะพูดประชด ไม่ได้คิดจะไปจริงๆ”
“อืม...ก็คงงั้น” ไอ้ทานมันไม่พูดกับกู กูคงจะมีอารมณ์หรอก
“แล้วนี่มึงคิดจะทำยังไงต่อ...เอ๊ะ...นั่นมันไอ้พี่เอ็มมารหัวใจมึงนี่หว่า ป่านนี้ยังไม่กลับบ้านอีก”
“อืม...พี่เอ็ม...ใช่...ไอ้พี่เอ็ม!”
“เฮ่ยไอ้ทิน อย่าแม้แต่จะคิดเชียวนะมึง...กูว่ามันไม่ใช่ทางออกที่ดี”
“...กูจะไปหาไอ้พี่เอ็ม”
“ไอ้ทินมึงเอาจริงเหรอวะ ไอ้ห่า กูว่ามึงใจเย็นๆก่อนดีกว่า...มึง...”
“ไม่ต้องตามมา...กูไม่ได้ไปหาเรื่องแต่กูจะไปคุยกับเขาให้รู้เรื่องต่างหาก ไอ้เอิร์ธ”
.
.
“พี่เอ็ม...ผมมีเรื่องจะคุยกับพี่”
“คุยกับพี่??” ชี้ที่ตัวเองแล้วทำหน้างงๆเหมือนไม่เข้าใจนัก ก่อนจะยกยิ้มขึ้นเล็กน้อยเมื่อสมองเริ่มประมวลผลและประติดประต่อเรื่อง
“ใช่...พี่นั่นแหละ”
“โอเคครับ...น้องทิน”
“พี่รู้จักผม?”
“ครับ พี่รู้จักทิน แล้วก็พอจะเดาได้ว่าทินจะมาคุยกับพี่เรื่องของทานตะวัน ถูกมั้ย?”
“ครับ พี่เดาถูก...งั้นผมก็คงจะเข้าเรื่องได้ง่ายขึ้น...ผมขอถามตรงๆเลยนะ...และหวังว่าพี่จะตอบผมตรงๆเหมือนกัน...พี่คบกับทานมันอยู่หรือเปล่า”
“คบ...” พูดแล้วหยุดไว้เพื่อดูปฏิกิริยาของทินกร “จริงๆก็อยากจะพูดแบบนั้น...แต่ก็คงเป็นไปไม่ได้”
“หมายความว่ายังไง”
“...พี่ก็ไม่รู้นะว่าทำไมทินเลือกที่จะมาถามพี่แทนที่จะถามทาน...แต่ทานตะวันเขาบอกว่าเขามองพี่ไม่ได้...ส่วนเหตุผล พี่อยากให้ทินเป็นคนไปถามทานเอง...พี่บอกได้แค่นี้ พี่ขอตัวก่อนล่ะ...” ได้ยินจากเจ้าตัวเองคงจะดีกว่าให้คนอื่นมาเป็นคนบอก...
“หึหึ...ไอ้ทานตะวันตัวแสบ...เรามีเรื่องต้องคุยกัน...ยาวเลยล่ะ”
.
.
“ไอ้ตูน ไหนวะ กูยังไม่เห็นไอ้ทินมันเลย ไหนมันบอกว่าจะลงมา กูยืนรอมาตั้งนานแล้วก็เห็นแต่อีผู้หญิงหน้าขาวปากแดงกระโปรงสั้นยืนชะเง้อคอคอยอยู่เนี่ย”
“เอ้า...มาถามกูแล้วกูรู้มั้ย ก็มาด้วยกันเนี่ย”
“กูเดินไปแหย่เล่นหน่อยดีกว่า อยากรู้ว่าผู้หญิงหน้าหนาที่เดินมาอ่อยผู้ชายถึงที่นี่มันจะมีดีอะไร มึงไม่ต้องตามมานะ”
“เฮ่ยเดี๋ยว...” ไม่ทันแล้วเพื่อนกู พูดจบก็เดินลิ่วๆไปนู่น กูล่ะปวดหัว ทีตัวเองแหละทำเป็นงอนเขา แต่ไอทีแบบนี้ล่ะก็เข้าตำราเสียทองเท่าหัวไม่ยอมเสียผัวให้ใครจริงๆ ไอ้ทานเอ๊ย
.
“เออ...ขอโทษนะ ไม่ทราบว่ามายืนรอใครหรอ”
“ถามทำไม...จะจีบเหรอ แต่คงไม่ได้หรอกนะ...เพราะอย่างนายไม่ใช่เสป็คฉัน” ฉันไม่ชอบผู้ชายที่สวยกว่าตัวเอง
“ยังไม่ได้พูดซักคำว่าจะจีบ...หลงตัวเองจริงๆ” ทานตะวันเบะปากก่อนจะพึมพำในลำคอ
“นี่...ไหนๆก็ไหนๆแล้ว นายรู้จักทินกรมั้ย ทินกรที่อยู่ม.5 หน้าตาหล่อๆ ขาวๆ ตัวสูงๆอะ” หล่อนจีบปากจีบคอถาม
“รู้สิ ทำไมจะไม่รู้” รู้ซะยิ่งกว่ารู้อีก
“งั้นก็ดี ไปตามให้ฉันหน่อยสิ...ยืนรอตั้งนานแล้วเนี่ย”
“ไม่อะ ทินมันคงไม่มาหรอก...เพราะมันไม่ค่อยสนใจเรื่อง ‘ไร้สาระ’ จะเตือนด้วยความหวังดีนะ ถ้าไม่อยากยืนแห้งตายอยู่ตรงนี้ก็กลับบ้านไปเหอะ” มึงไม่ต้องเสือกโผล่มาตอนนี้นะไอ้ห่าทิน ถ้ามึงมากูจะงอนไปอีกเจ็ดวัน
“เอ๊ะ นี่นายกล้าว่าฉันไร้สาระเหรอ ไอ้บ้า”
“อยากรับก็รับไปสิ...อืม...แต่ไหนๆก็ไหนๆแล้วฉันจะบอกอะไรดีๆให้เอามั้ย...ทินน่ะ...”
.
.
“ไอ้ตูน มายืนเก้ๆกังๆอะไรแถวนี้วะ แล้วไอ้ทานล่ะ”
“โอ๊ย พวกมึงมาก็ดีแล้วไอ้ทิน ไอ้เอิร์ธ”
“ทำไม มีอะไรวะ”
“อยากรู้ใช่มั้ยว่าไอ้ทานอยู่ไหน...มึงมองไปที่หน้าโรงเรียน...เห็นที่คนมุงกันอยู่เยอะๆปะ”
“อืม เห็นๆทำไมวะ...อย่าบอกนะว่า...”
“นั่นแหละ ไอ้ทานอยู่ตรงนั้น ไอ้ทินมึงรีบไปดูเมียมึงเลยไม่รู้ไปแผงฤทธิ์อะไรกับกิ๊กใหม่มึง เมื่อกี๊กูได้ยินเสียงกรี๊ดดังลั่นเลยว่ะ”
“ไอ้ห่า ใช่กิ๊กกูที่ไหน หน้ายังไม่เคยเห็น...เออๆ เดี๋ยวกูรีบไปดูก่อน พวกมึงรออยู่ตรงนี้แหละ” พูดจบก็รีบวิ่งไปทันที ตัวแค่นี้ซ่าจริงนะมึงไอ้ทานตะวัน
.
“กรี๊ดดด แก...แก แกโกหก ทินของฉันไม่มีวันชอบผู้ชายหรอก อย่าเอาทินของฉันไปเหมารวมกับพวกเกย์อย่างแกนะอีบ้า!”
“เธอสิบ้า มายืนแหกปากกรี๊ดๆให้คนอื่นเขามองอยู่ได้ คนพูดความจริงก็หาว่าโกหก”
“อ๋อ แกกะจะเก็บไว้กินเองล่ะสิ ถึงได้พูดใส่ร้ายทินแบบนี้ ฉันไม่เชื่อหรอก”
“ไม่เชื่อก็ตามใจ...โถ่ๆ มาว่าฉันจะเก็บไว้กินเอง ไม่ได้ดูตัวเองเล๊ย ที่ใส่กระโปรงนักเรียนสั้นตื๋อขนาดนี้มาก็ไม่ใช่จะมาอ่อยไอ้ทินมันเหรอ...บอกให้เอาบุญนะ ทินมันไม่สนหรอก ขนาดเพื่อนไปตามมาแล้วรอบนึงยังไม่มาเลยเธอก็น่าจะรู้”
“กรี๊ดด...แก...แก”
“ทำไม ฉันพูดแทงใจดำล่ะสิ...”
“ทาน...ทานตะวันพอแล้ว” ในที่สุดทินกรก็เดินฝ่าวงล้อมของเหล่านักเรียนมุงเข้ามาได้สำเร็จ
“ทิน...” ทานตะวันคราง
“กรี๊ดด ทิน ทินมาแล้ว ดีเลยค่ะ ไอ้เกย์คนนี้มันคิดจะจับทินค่ะ มันบอกหยกว่าทินชอบผู้ชาย มันไม่จริงใช่มั้ยคะ ทินบอกมันไปเลยค่ะว่าไม่คนอย่างทินไม่มีวันชอบผู้ชายอย่างมัน...” ไม่มีทาง
“คุณครับ ผมว่าคุณหยุดก่อนจะดีมั้ยครับ...ผมไม่เคยรู้จักกับคุณมาก่อน...”
“...ถึงตอนนี้จะทินไม่รู้จักหยกก็ไม่เป็นไรค่ะ เพราะหลังจากวันนี้เราก็จะรู้จักกันแล้ว ส่วนไอ้เรื่องบ้าๆนี่ หยกก็ไม่เชื่อหรอกค่ะว่าทินจะเป็นอย่างที่มันพูด เพราะหยกมองทินมานานแล้ว ทินไม่ใช่แบบนั้น” หญิงสาวพูดด้วยความมั่นใจ
“เหรอครับ...งั้น...ผมว่า บางทีคุณอาจจะต้องเปลี่ยนความคิด รีเซ็ตเครื่องใหม่ทั้งหมดแล้วล่ะ...” ทินกรพูดพลางก็ยกมือขึ้นโอบไหล่เล็กของทานตะวันเอาไว้
“มะ...หมายความว่าไงคะ” ไม่อยากจะเชื่อ ต้องมีการล้อเล่นเกิดขึ้นแน่ๆ ผู้ชายที่แอบชอบมานาน...มันต้องไม่ใช่แบบนี้สิ
“ก็หมายความอย่างที่เห็น ขอโทษนะครับ...แต่ที่ทานเขาพูดมาทั้งหมดมันเป็นเรื่องจริง...ผมชอบผู้ชาย หรือจะเรียกว่าเป็นเกย์อย่างที่คุณว่านั่นแหละ อ้อ...แล้วที่สำคัญทานตะวันไม่ได้คิดจะจับผมหรอกครับแต่เป็นผมมากกว่าที่คิดจะจับเขา...คราวนี้...ชัดรึยังครับหยก...” กล้าพูดแบบไม่อายใครแล้วก็ไม่มีใครให้อาย เพราะเรื่องรักๆใคร่ๆแบบนี้แบบนี้มันเป็นเรื่องธรรมดาสามัญของโรงเรียนชายล้วน แต่ที่มามุงกันให้พรึบก็เพราะมีชะนีเข้ามาร่วมแจมน่ะสิ
“กรี๊ดดด...ไอ้บ้า...ไอ้พวกบ้า...ไอ้พวกวิปริต...กรี๊ดด...ฝากไว้ก่อนเหอะแก...กรี๊ดด”
ไม่ต้องรอให้หล่อนออกแรงฝ่าฝูงนักเรียนมุงออกไป ทุกคนก็พร้อมใจกันแหวกทางให้โดยพร้อมเพรียงกันเป็นเชิงไล่ ยิ่งทำให้หยกรู้สึกหน้ามากกว่าเดิมจึงรีบเดินกระทืบเท้าปึงๆออกไปจากตรงนั้นทันที
“ฮ่าๆ สมน้ำหน้า...” และเมื่อชะนีจากไปบรรดานักเรียนมุงก็พากันสลายตัว เพราะไม่มีอะไรให้ดูเหลือก็แต่ทานตะวันกับทินกรเท่านั้น
“ก่อเรื่องแล้วยังจะมีหน้าไปหัวเราะเขาอีกนะ...”
“แล้วจะให้กูนั่งร้องไห้รึไง...ประสาทเหอะมึง” พูดจบก็ตั้งท่าจะเดินหนี แค่นี้ก็สบายใจแล้วเว่ย แต่...
“จะรีบไปไหนทานตะวัน...เรามีเรื่องต้องคุยกัน....เพราะฉะนั้น...วันนี้มึงต้องกลับบ้านกับกู...” มาแบบคล้องจองกันเลยทีเดียว
“แต่...”
“ห้ามเถียง ห้ามบ่น ห้ามขัด ไม่งั้นจะเล่นหนังสดให้คนมามุงอีกรอบ” จบข่าว
.
.
โฮะๆ ไม่มาม่าอย่างที่คิด บางทีนะบางทีตอนหน้าอาจจะจบได้เลยมั้งงงง