เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 10
ขับรถกลับมาถึงคอนโด จอดรถที่ลานจอดรถปกติ ก่อนที่เราสองคนจะเดินลงจากรถผ่านทางหน้าเค้าเตอร์ของคอนโด เพื่อจะไปกดลิฟต์อีกฝั่ง สายตาของผมหันมองผู้หญิงสองสามคนที่นั่งอยู่ตรงนั้น ขาที่ผ่อนลงช้าๆแล้วหยุดลงทันที เหมือนมีความคิดนึงผ่านเข้ามาในหัว ในขณะที่ไอ้ขมกลับเดินตรงไปถึงลิฟต์แล้ว แต่เพราะไม่เห็นผมข้างกาย มันเลยตะโกนเรียก
" ไอ้ภาพ มาสิ " กวักมือเรียกผมด้วยรอยยิ้มอย่างเช่นทุกวัน มันคงคิดถึงเจ้าตัวเล็กจนแทบจะทนไม่ไหวแล้วในตอนนี้ รอยยิ้มที่ชวนให้ผมยิ้มตามอย่างไม่เคยเบื่อ ก่อนจะเดินเข้าไปหามัน
" มึงขึ้นไปเถอะ กูไม่ขึ้นไปละ ขี้เกียจ เดี๋ยวก็ต้องลงมาอีก มึงจัดไอ้กาลิคให้เรียบร้อย แล้วพามันลงมาก็แล้วกัน กูจะรอตรงนี้ "
" เอางั้นเหรอ แล้วมึงจะไม่ฉี่ ไม่อะไรเลยเหรอ ล้างหน้า พักผ่อน สักหน่อยมั้ย" มันถามด้วยท่าทางเป็นห่วง มีเพื่อนก็เหมือนแมีแม่นั่นแหละ สำหรับไอ้ขม มันจัดการผมทุกเรื่องยิ่งกว่าแม่ซะอีก
" ไม่อะ " ผมส่ายหน้า " เดี๋ยวจัดการฉี่ที่ห้องน้ำตรงนั้นก็ได้ " เชิดหน้าไปที่ห้องน้ำของคอนโดอีกคนก็พยักหน้ารับ
" นานอยู่นะมึง กูจะจัดการอาบน้ำให้มันก่อน ล้างจาน แล้วค่อยลงมานะ ไม่นอนพักแน่อะ " มันถามย้ำ
“ เออน่า กูรอได้ "
“ เอางั้นก็ได้ " มันพยักหน้ารับก่อนจะเดินเข้าไปในลิฟต์ที่มาถึงพอดี ผมกดปิดลิตฟ์แต่อีกคนด้านในกลับกดเปิดมันออก ก่อนจะเอียงหน้าออกมาถามอีกครั้ง " ไม่ไปจริงอะ "
“ จริงๆ มึงไปจัดการ กาลิคเถอะไป กูนั่งคอยตรงนี้แหละ "
“ งั้นเจอกัน " เสียงเซ็งๆของมันกดปิดลิฟต์อีกครั้ง ผมก็ยกยิ้มออกมา มองดูลิฟต์ที่ค่อยๆเคลื่อนตัวขึ้นไป ผมหัวเราะก่อนจะส่ายหน้าไปมาตอนที่คิดถึงท่าทางของมันเมื่อกี้
ตั้งแต่เด็กจนโตไอ้เชี้ยนี่ก็เป็นแบบนี้มาตลอด เจ้ากี้เจ้าการ วุ่นวาย ขี้บ่น แต่อีกด้านมันก็เป็นอ่อนโยน ชอบคิดมากถึงความรู้สึกของคนอื่นประจำ แล้วนิสัยที่ชอบที่สุด คือมันขี้อ้อน ช่างพูด แล้วก็เข้ากับคนอื่นได้ง่าย ท่าทางที่ดูเป็นธรรมชาติของมัน ไม่ว่าจะยิ้ม หัวเราะ หรือแม้แต่จะร้องไห้ ก็มีอิทธิพลกับตัวผมไปเสียทุกอย่าง และตอนนี้ก็ดูเหมือนว่า มันจะมีอิทธิพลต่อตัวผมมากขึ้นทุกที โดยเฉพาะกับใจ
" สวัสดีค่ะ คุณภาพ "
" สวัสดีครับ " หันไปทักทายพนักงานที่เค้าเตอร์ผมที่กำลังจะเดินไปนั่งที่โซฟาชะงักตัวเองลงก่อนจะหันไปมองเธอ เพราะความคิดนึงที่ผุดขึ้นมา เงยหน้ามองขึ้นไปรอบๆก่อนจะเจอเข้ากับกล้องวงจรปิดหลายๆมุม ผมเดินออกไปตรงทางเข้าด้านหน้ามันมีกล้องวงจรปิดติดตั้งอยู่แทบทุกส่วน ทั้งสวนด้านหน้า ประตูทางเข้า รปภ ' ถ้าขอดูกล้องวงจรปิดวันที่กาลิคเข้ามา อาจจะรู้ก็ได้ว่าใครเป็นแม่เด็ก เพราะกาลิคมันคงมาที่นี่คนเดียวไม่ได้หรอก ' ความคิดที่ผุดขึ้นของผมก่อนจะเดินตรงเข้าไปที่เค้าเตอร์ข้างใน " ขอโทษนะครับ ผมขอสอบถามหน่อย "
“ ได้ค่ะ มีอะไรคะคุณภาพ “
“ ถ้าผมจะขอตรวจดูภาพจากวงจรปิดจะได้มั้ยครับ "
“ เอ่อ.. มีอะไรที่อยากจะรู้เหรอคะ " เธอตั้งคำถามกลับมา ก็จริงนะใครมันจะให้ดูภาพกล้องวงจรปิดแบบชนิดที่ไม่มีเหตุผลอื่นนอกจากคดีทางตำรวจวะ เจ้าหน้าที่คอนโดก็ต้องกลัวว่าผมอาจจะมาตรวจดูเวลาเข้าออกคอนโดของสาวสักคนแน่ๆ
“ คือว่า ยังจำเด็กผู้ชายตัวเล็กๆ ที่มีคนมาฝากไว้ได้มั้ยครับ ฝากให้ผมกับขมน่ะ "
“ อ้อ จำได้ค่ะ เด็กผู้ชายที่พี่ฝากให้น้องมีนาพาขึ้นไปหาน้องขมกับน้องภาพ "
“ ผมอยากรู้น่ะครับ ว่าใครเป็นคนมาส่งเค้า " เธอพยักหน้ารับก่อนจะถาม
“ แล้วเด็กคนนั้นไม่ใช่ลูกน้องภาพ หรือว่าน้องขมเหรอคะ " คำถามที่ชวนให้ผมเงียบ เธอก็พูดต่อ " พี่คิดว่าเป้นลูกหรือหลานนะคะ เห็นมีภาพของน้องภาพกับน้องขม เลยให้น้องมีนาไปส่ง "
“ ใช่แหละครับ " ผมบอกปัด " แค่ผมแค่อยากรู้ว่าใครมาส่งเท่านั้นแหละครับ ยังไงช่วยจัดการให้หน่อยได้มั้ย "
“ ค่ะ ได้ค่ะ " เสียงตอบรับของเธอมาพร้อมกับกระดาษแผ่นนึงที่ยื่นมาให้กรอก รายละเอียดของการขอตรวจสอบกล้องวงจรปิด " น้องภาพกรอกเอกสารแจ้งความจำนงจะขอดูกล้องนะคะ แล้วถ้าได้ความยังไงแล้ว พี่จะติดต่อไปนะคะ "
“ ครับ ขอบคุณมาก " ผมกรอกเอกสารทั้งหมดเรียบร้อยทั้งชื่อของตัวเอง แล้วก็เวลาที่ต้องการจะตรวจ พื้นที่บริเวณที่อยากจะดู ส่งคืนให้พี่พนักงานที่รับไปอ่านก่อนจะหันมายิ้มให้
“ เรียบร้อยค่ะ "
“ อาภาพพพพพพพพพพ " เสียงใสลากยาวที่เอ่ยเรียกผม หันไปมองก็เจอเข้ากับเจ้าตัวเล็กที่วิ่งตรงมาหาจากลิฟต์ ย่อตัวลงกางแขนออกอีกคนก็พุ่งตัวเข้ามาใส่ จับอุ้มขึ้นมาตอนนั้นก็โดนหอมแก้มไปเต็มๆ " คิดถึงอาภาพที่สุดเลย ทำไมอาภาพไม่ขึ้นไปหากาลิคพร้อมกับอาขม "
" เพราะว่าอาภาพขี้เกียจ " บอกมันตรงๆก่อนจะหอมแก้มใสนั่นไปเต็มฟอด " แล้วอีกอย่างนะ ถ้าขึ้นไปพร้อมอาขม กาลิคก็ต้อง อาขม หนูคิดถึงอาขมแล้วก็กอดอาขมคนเดียว ไม่สนใจกูเลย อยู่รอข้างล่างนี่แหละดี มึงได้วิ่งเข้ามากอดไง "
“ อาภาพ อาภาพงอนกาลิคเหรอ งั้นกาลิคง้อนะ "
“ ไปเอาคำพวกนั้นมาจากไหนวะ " ไอ้ขมที่เดินเข้ามาใกล้ถาม มันก้มลงผูกเชือกรองเท้าผ้าใบให้อีกคน ที่ก็จับหน้ามาส่ายไปมากาลิคจุ๊บลงที่ข้างแก้มก่อนจะกอดผมไว้
“ ไม่งอนกาลิคนะ โอ๋ๆ " น่ารักอีกแล้ววววว..ผมหลุดยิ้มออกมาก่อนจะก้มลงหอมแก้มมันไปเต็มฟอดด้วยความหมั่นไส้ คำพูดคำจาช่างอ้อนจริงๆเด็กอะไรวะ เหมือนไอ้ขมตอนเด็กๆเลย เวลาโกรธกันถ้ามันทำผิด มันจะชอบมายืนบิดชายเสื้อตัวเองไปมาอยู่ตรงหน้าผมก้มหน้าก้มตาไม่พูดอะไร พอเงยหน้าสบตาเข้าหน่อยมันก็ถามเสียงอ้อมแอ้มว่า ' ภาพ ภาพโกรธขมเหรอ ขมขอโทษนะดีกัน ' แล้วพอเป็นแบบนั้นผมก็โกรธมันไม่ลงทุกที
“ นี่มึงสอนเหรอ " ผมถามอีกคนที่ก็เงยหน้าขึ้นมาพลางส่ายหน้า
“ ทำไมถึงคิดว่ากูสอนมันวะ "
“ ก็มึงก็ชอบทำแบบนี้ตอนเด็กๆ " มันขมวดคิ้วตอนได้ยินแบบนั้น ท่าทางที่เหมือนไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ว่าตัวเองจะขี้อ้อนอะไรแบบนี้
“ กูทำที่ไหน มึงคิดไปเองรึเปล่า ตอนนั้นมึงก็ยังเด็กจำได้เหรอ " ยกยิ้มให้มันที่เอื้อมมือมาปัดแป้งที่ติดอยู่หน้ากาลิคให้เรียบร้อย มันที่จัดการทุกอย่างไม่ต่างจากแม่กาลิคเลยในตอนนี้
“ กูจำได้แม้กระทั้งว่า จูบแรกของมึง คือกูอะ "
“ ไอ้เชี้ย! เพียะ! " เสียงตบมาพร้อมเสียงด่าและความเจ็บปวดที่ชาไปแม่งทั้งหลัง
“ โอ๊ยย กูเจ็บนะไอ้ขม "
“ แล้วมึงพูดเหี้ยไรวะ "
“ อาขมมมม อาขมตีอาภาพทำไม " กาลิคเอ่ยถาม มันเบิกตาด้วยความตกใจ แววตาสั้นๆที่มองทั้งขมมองทั้งผมแบบไม่เข้าใจก่อนจะเอื้อมมือไปลูบหลังของผมเบาๆ " อาภาพเจ็บมั้ย "
“ ไม่เจ็บหรอก " ผมบอกมันที่ยังมองด้วยสายตาเป็นห่วงผม
“ ทะเลาะกันเหรอครับ "
“ เอาแล้วไงมึง " ผมหันไปบอกร่างบางที่ถอนหายใจออกมา มันคงรู้ว่าเพราะมันนั่นแหละที่ทำให้ กาลิคใจเสียเพราะคิดว่าเรากำลังทะเลาะกัน
“ ไม่ได้ทะเลาะหรอก " ขมบอกก่อนจะยิ้มเก้อๆกับท่าทางของกาลิคที่ตอนนี้เหมือนคิดไปว่า เรากำลังโกรธกันและทะเลาะกันถึงขั้นลงไม้ลงมือ " เราแค่แกล้งกันน่ะ แกล้งกัน เล่นกัน แบบผู้ใหญ่เล่นกันเนอะ " มันเชิดหน้ามาทางผมที่ก็พยักหน้ารับ
“ อื้ม ไม่ได้ทะเลาะเลย "
“ ใช่ๆ ไม่ได้ทะเลาะอะไรกันเลย เรายังรักกันเหมือนเดิม " มือบางเอื้อมมากอดคอผมก่อนจะเอาหน้ามาเบียดใกล้ๆ ท่าทางที่แสดงให้ไอ้ตัวเล็กที่กำลังตกใจหายจากความรุ้สึกนั้นโดยเร็ว
“ จริงนะ " มันย้ำ เราก็พยักหน้ารับพร้อมกัน
“ อาขม รักอาภาพจะตาย ไม่เชื่อจะหอมแก้มให้ดูก็ได้อะ " แล้วก็หอมลงมาเต้มฟอดที่แก้มผมในวินาทีถัดมานั้น ยกยิ้มแก้เก้อกับความรวดเร็วที่เกิดขึ้นก่อนจะโดนสะกิดให้พูดอะไรสักอย่าง
“ ใช่ ไม่ได้โกรธกันทะเลาะอะ เล่นกันเฉยๆ " เอื้อมมือไปกอดไหล่มันบ้างผมหอมแก้มมันที่ก็ยิ้มกว้างออกมาแม้จะดูฝืนๆเพราะตอนนี้ในใจมันคงเครียดแค้นกับคำพูดของผมที่เอ่ยแซวมันไปก่อนหน้านี้ “ เห็นมั้ย เราไมไ่ด้โกรธกันเลย รักกัน รักกัน "
“ การตีแบบนั้นคือ ผู้ใหญ่เล่นกันเหรอครับ " กาลิคเอ่ยถาม เราสองคนก็พยักหน้าลงพร้อมกัน
“ สำหรับอาภาพกับอาขมมันเป็นแค่เรื่องล้อเล่นกันเท่านั้นแหละ เราไม่ตีกันแล้วทำให้อีกต้องเสียใจหรอก เราไม่เคยทำอย่างงั้น " ขมก็มบอกมัน ก่อนจะลูบหัวอีกคน
“ แต่กาลิคไม่อยากให้อาขมตีอาภาพ แล้วก็ไม่อยากให้อาภาพตีอาขม " มันว่า " กาลิคไม่อยากให้อาภาพเจ็บ แล้วก็ไม่อยากจะให้อาขมเจ็บด้วย ทำไมเราไม่พูดกันดีๆ "
“ เออ ทำไมเราไม่พูดกันดีๆ " ผมก้มลงถามไอ้ขมที่ก็เงยหน้าขึ้นมายิ้มให้ เป็นยิ้มเกร็งๆที่ในใจคงมีคำด่าผมเป็นพันคำ
“ นั่นนะสินะ งั้นภาพกูขอโทษนะที่ตีมึง "
“ อื้อหื้ออ แสดง "
“ ภาพ..” มันกัดฟันยิ้ม “ ตอบรับคำขอโทษของกูสิครับ “
“ ไม่เป็นไรไม่โกรธหรอก แค่หลังเกือบหักเท่านั้นเอง “ ท้ายประโยคผมพูดเบาๆก่อนที่มันจะยิ้มให้กาลิค
“ ถ้าทำผิดก็ต้องขอโทษเนอะ “
“ อื้อ ไม่โกรธกันแล้วนะทั้งคู่ “ เด็กน้อยหันมองผมที หันมองภาพที เราก็พยักหน้ารับพร้อมกัน
“ งั้นก็ไปกินข้าวกันเถอะ หิวแล้วยัง " มือบางเอื้อมมืออุ้มอีกคนไป เราเดินตรงไปที่รถปลดล็อครถไอ้ขมก็จัดการให้กาลิคนั่งข้างหลังเรียบร้อย ก่อนจะมายืนรอผมที่ประตูคนนั่งข้างไม่ยอมเข้าไปนั่ง มันกัดที่ฟันพูด " เพราะมึงนั่นแหละ ไอ้สัด "
“ คราวหลังถ้ามึงตีกูอีก กูจะฟ้องกาลิค " กัดฟันตอบมันไป อีกคนก็เบิกตาขึ้นมา
“ ห้ามพูดเรื่องนั้นอีกนะ ไอ้สัดกูจะต่อยมึง "
“ ต้องพูดกันดีๆน้าาา " ผมเลียนเสียงกาลิคก่อนจะส่งจูบให้มัน แล้วก็ตัดบทเข้าไปนั่งในรถของตัวเอง นึกขำท่าทางโกรธของมันก่อนจะส่ายหน้าไปมากับเหตุการร์ตอนเด็กที่ยังคงจำได้ดี
ตอนนั้นรู้สึกว่าเพิ่งจะขึ้นป.หนึ่งมั้ง มันเป็นช่วงปิดเทอมที่สนุกมากๆเพราะไม่ต้องไปเรียนพิเศษแถมยังได้เล่นด้วยกันทั้งวัน เรื่องของเรื่องก็มีอยู่ว่า แม่ไอ้ขมต้องไปทำงานต่างจังหวัดแม่ผมก็เลยรับอาสาดูแลมันให้ ตอนนั้นจำได้ว่าตอนกลางคืนเราดูหนังกินขนมกันอยู่ที่ชั้นล่างกับแม่ปกติ แล้วตอนนั้นในหนังก็มีฉากจูบ เราก็สองคนก็ตั้งใจดูด้วยความอยากรู้อยากเห็นตามประสาเด็กที่ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้ แล้วตอนนั้นแม่ก็โวยวายบอกให้ขึ้นไปข้างบนซะ โดนไม่ได้อธิบายอะไรเลยว่าเค้าทำอะไรกัน ภาพที่ติดอยู่ในตาผม ตอนนั้นแม้จะต้องนอนแล้ว แต่ก็ยังนอนไม่หลับ
' ขมๆ ' ผมเอื้อมมือไปปลุกมันอีกคนก็สะลึมสะลือตื่นขึ้นมานั่ง
' มีอะไรอะเหรอ ' มันถามก่อนจะขยี้ไปมา
' มาทำแบบในทีวีกัน '
' แบบในทีวีอะไรอะ ' มันตอบงงๆก่อนจะล้มตัวลงนอน " ไม่เอา ขมจะนอนแล้ว "
' ลุกขึ้นมาก่อนนน ' ดึงมันให้ลุกขึ้นนั่ง
' ง่วงแล้ว ' ท่าทางงอแงของมัน ผมก็เอาไฟฉายใต้หมอนมาส่องหน้ามัน
' ตื่นๆ ตื่นมั้ย ให้ภาพเอาตรงนี้ไปชนตรงนี้ของขมก่อน ' ชี้ที่ปากตัวเองก่อนจะชี้ปากของมัน ด้วยความง่วงอีกคนก็เลยพยักหน้างึกงักยอมกันไป ในตอนนั้นก็ไม่รู้คิดอะไรอยู่เหมือนกัน คงแค่คิดว่าอยากจะรู้มั้งว่ามันรู้สึกยังไง ทำไมในละครเค้าถึงทำหน้าตาแบบนั้น หน้าตาที่ดูเหมือนกำลังมีความสุข
' อื้อ ' มันพยักหน้ารับในตอนนั้น ผมก็เลื่อนตัวเข้าไปจูบมัน มันไม่ใช่จูบดูดดื่มอะไรหรอก แค่เอาริมฝีปากจูบกันเท่านั้น
' ไม่เห็นจะรู้สึกอะไรเลย ' ผมรู้สึกแบบนั้น ไม่เห้นจะมีความสุขอย่างที่เห็นในละครเลยสักนิด
' งั้นขมนอนนะ ' คนโดนจูบล้มตัวลงนอนแล้วหลับสนิทไปในเวลาต่อมา แล้วเช้าวันรุ่งขึ้นนั้นผมก็เดินลงไปข้างล่าง พี่แก้วพี่เลี้ยงที่เดินอยู่แถวนั้นก็เอาอาหารเช้ามาให้ผมกับขมกิน ในตอนนั้นด้วยความอยากจะรู้ว่าการเอาปากสัมผัสกันเรียกว่าอะไรก็เลยเอ่ยถามเธอ
' พี่แก้วๆ ภาพมีอะไรจะถาม '
' คะ น้องภาพจะถามอะไรเอ่ย '
' จะถามว่า ถ้าเราเอาปากตรงนี้ไปชนกับปากของเพื่อนแบบนี้ เรียกว่าอะไรเหรอครับ '
' เรียกว่าจูบค่ะ ' เธอบอก ' เอาไว้สำหรับคนรักกัน ถ้าเรารักกันเราก็จูบกัน น้องภาพถามทำไมเหรอ '
' ก็เมื่อคืนนะ ภาพอะ จูบขมไปแล้วแหละ แต่คงไม่เป็นหรอก จูบได้ ภาพรักขมอยู่แล้ว ' คำพูดตอนเด็กๆที่พูดออกไปแบบนั้นทำให้พี่เลี้ยงตกใจไม่น้อย เธอเข้ามาส่งเสียงจุ๊ๆให้เงียบไว้ ก่อนจะอธิบายว่า ผู้ชายเค้าไม่จูบกับผู้ชายหรอก จากนั้นก็เลยเอามาล้อไอ้ขมบ่อยๆเลยว่ามันถูกผม ช่วงชิงจูบแรกไปเสียแล้ว
“ ภาพ คิดเหี้ยอะไรอยู่เมื่อไหร่จะออกรถวะ " เสียงเอ่ยทักที่ทำให้ผมหลุดออกมาจากภวังค์ที่เผลอไปคิดเรื่องราวในอดีตอยู่เสียนาน พยักหน้ารับมัน ก่อนจะถอยรถออกจากร้านจอดไปที่ร้านอาหารปิ้งย่างอย่างที่ตั้งใจไว้
ร้านอาหารปิ้งย่างที่อยู่ตรงซอยสุขุมวิทเป็นร้านประจำที่ผมกับภาพมาด้วยกันบ่อยๆ เวลาที่อยากจะปิ้งย่าง แม้ว่าของไม่เยอะเท่าร้านอื่นแต่ว่าคุณภาพเนื้อและของสดดี พนักงานก็บริการดีก็เลยชอบกินร้านนี้
“ ถึงแล้วว " ไอ้ขมเอ่ยบอกกาลิคที่ย้ายตัวเองจากข้างหลังมานั่งตักอีกคนระหว่างทาง สายตากลมๆเงยมองขึ้นไปรอบๆด้วยความสนใจ ก่อนจะหันไปหาไอ้ขมที่มันนั่งตักอยู่
" อาขม เราจะมากินอะไรกัน "
" มากินปิ้งย่างกัน "
“ แล้วปิ้งย่างเป็นแบบไหนเหรออาขม " กาลิคถาม
“ อยากรู้ละสิ เพราะงั้นเราก็ลงไปกินกันเลย จะรู้ว่าเป็นยังไง ดีมั้ย ไปกินกัน ปิ้งย่างเป็นแบบไหนกันน้า " เสียงเชื้อเชิญของมันชวนให้กาลิคอยากจะรู้ขึ้นมาทันทีว่า ปิ้งย่างเป็นยังไง กาลิคออกมายืนข้างรถคว้ามือไอ้ขมที่ก็ลุกออกมาจากรถแทบไม่ทัน
“ อาภาพไปกินกัน ไปกินปิ้งย่าง " มือเล็กๆคว้ามือผมที่ยืนรออยู่ท้ายรถ สองมือที่จับมือเราไว้คนละข้างท่าทางร่าเริงและมีความสุขมากกว่าใครที่ได้ออกมาข้างนอก
“ สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่ากี่ท่านคะ "
“ อาขม อาภาพ แล้วก็กาลิคครับ " เสียงใสๆตอบพนักงานก็หลุดยิ้มออกมา เธอก้มลงมาลูบหัวมัน
“ สามคนครับ " ผมตอบ เธอก็เปิดประตูให้ก่อนจะพาไปนั่งที่โต๊ะด้านในสุดที่ติดกับกระจกสูง กาลิคนั่งกับไอ้ขม เป็นแบบนั้นตลอดเวลาเราออกมากินข้าวข้างนอก เพราะคนนึงก็ชอบให้อ้อน ส่วนอีกคนนึงก็ชอบอ้อนเสียเหลือเกิน
“ เมนูค่ะ " พนักงานยื่นเมนูมาให้ คนตรงหน้าผมสองคนก็ก้มลงดูด้วยความสนใจ เสียงงุ้งงิ้งที่ก้มเลือกกันอยู่สองคนชวนให้ผมยิ้มกว้างออกมา
“ หัวหอมจะกินอะไรกันดี "
“ กินกุ้งงงง "
“ กุ้งนะ กุ้งสองครับ " ไอ้ขมเริ่มสั่ง " แล้วก็เนื้อหมูตรงนี้ เนื้อวัวก็อันนี้ แล้วก็อันนี้ " นิ้วที่จิ้มชี้บอกพนักงานไปเรื่อยเปื่อย ผมคิดว่ามันคงสั่งเผื่อผมแล้วโดยที่ผมไม่ต้องสั่งอะไรเพิ่มอีก ไอ้ขมรู้อยู่แล้วว่าผมกินอะไรไม่กินอะไร " เอาหอยแมลงภู่ด้วย แล้วก็ อื้ม ผัก ข้าวผัดกระเทียมสองที่ ส่วนน้ำ กินน้ำเปล่าดีกว่ามั้ยมึง กินแป็ปซี่เดี่ยวเด็กกินตาม " ประโยคหลังมันถามผมที่ก็พยักหน้ารับ
“ อื้ม ตามนั้น "
“ น้ำเปล่า สามแก้ว แค่นี้ครับ "
“ แค่นี้ครับ แค่นี้นะ " ไอ้ตัวเล็กพูดตาม ขมยื่นเมนูไปให้พนักงานก่อนจะก้มลงกอดแล้วหอมแก้มมันด้วยความหมั่นเขี้ยว " อาขม อันนี้อะไร " มันชี้ไปที่เตาปิ้งตรงหน้ามัน
“ อันนี้เหรอ คือเตาย่าง ห้ามจับนะ มันร้อน เดี๋ยวเราจะเอาของที่สั่งมาเมื่อกี้นะ มาตั้งไว้บนนี้ พลิกไปมาให้สุก แล้วก็กิน แบบนี้เลยเรียกว่า ปิ้งย่าง "
“ ปิ้งย่าง ปิ้งย่างคือ เอาของพวกนี้มาตั้งไว้บนนี้เหรอ " กาลิคชี้ไปที่เนื้อที่ถูกเอามาวาง
“ ช่ายยแล้ว เพราะมันยังไม่สุกยังกินไม่ได้ พอเราเอามาตั้งบนนี้ พลิกไปมามันจะสุก พอสุกแล้วก็กินได้ อาหารต้องทำให้สุกก่อนถึงจะกินได้นะ " อีกคนบอกก่อนจะเคลียร์โต๊ะขยายพื้นที่ให้พนักงานตั้งของได้ถนัด “ ภาพ มึงช่วยขยับร่างกายช่วยพี่เค้าด้วยสิ มึงจะนั่งนิ่งอีกนานมั้ย "
“ อ๊ะ โทษที โทษที " ยื่นมือไปรับของจากพนักงานมาตั้งข้างๆตัวทันทีที่ขมบอก เพราะมัวแต่มองมันก็เลยไม่ได้สนใจอย่างอื่นเท่าไหร่
“ อาขมๆ เพราะว่าอาภาพมัวแต่มองอาขมอยู่ ก็เลยไม่ได้ช่วยพี่เค้า " กาลิคบอกอีกคนก็เหลือบมองหน้าผม
“ ไอ้ภาพ มองกูทำไม " ไอ้ขมถาม ก่อนจะก้มห้นาลงขอบคุณพนักงานที่เสริมของให้จนครบ
“ นี่มึงก็ไปเชื่อมัน "
“ ก็ลูกพี่กูบอกอะ กูต้องเชื่อลูกพี่กูดิ " ไอ้ขมเชิดหน้าไปทางเจ้าตัวเล็กที่ก็มองผมอยู่ " กินอะไรดีครับลูกพี่ผมจะปิ้งให้ก่อน กุ้งเนอะ ส่วนของไอ้ภาพก็อันนี้ อันนี้ แล้วนี่ก็ของกู "
“ อาขม อาขม กาลิค อยากจะทำแบบอาขม " มือน้อยยื่นมาจับที่คีบ ที่ก็คีบเนื้อไปวางบนเตา ท่าทางสนใจของมันชวนให้ผมถ่ายรูปเก็บไว้ตั้งหลายภาพ หมูที่ถูกปิ้งจนสุกก่อนจะนำไปวางที่ข้าวผัดกระเทียมของกาลิค
“ กินกับข้าวนะหัวหอมอะ หมูร้อนๆ เป่าก่อนนะ "
“ ครับ "
“ อะ ของมึง " มันยื่นเนื้อวัวมาให้ผมที่ก็หยิบเนื้อหมูส่งให้มันเหมือนกัน
“ มึงบ้างเถอะ ตักให้คนอื่นอยู่ได้ " ผมบอกอีกคนก็ยิ้ม " กูตักเองแหละ มึงดูแลกาลิคเถอะ "
“ หัวหอม กินผักบ้างมา " ไอ้ขมว่าพลางหยิบผักกาดหอมตักข้าวแล้ววางหมูลงไปห่อเป็นคำ ก่อนจะยื่นไปจ่อปากอีกคน
“ กาลิคไม่กินผักสีเขียวๆนี่นะ "
“ อร่อยนะทำไมไม่กิน " ขมถามก่อนจะยัดเข้าปากตัวเอง " อื้มม อร่อยไม่ขมด้วย จริงๆ แล้วมึงจะติดใจ ลองดู " มันเชื้อเชิญไอ้ตัวเล็กที่ก็ทำแบบเดิมแล้วยื่นมาป้อนอีก " กินเร็ว อร่อยนะ "
“ ไม่เอา ไม่กินนนน "
“ อาภาพก็ไม่กินผักเหมือนกัน อาภาพยังบอกว่าอร่อยเลย " มันหันมาหาผม กูไม่เคยกินผักยังไง ปกติก็กินผักอยู่แล้วมีแต่มันแหละที่ไม่ค่อยกิน เวลากินก็เลือกตลอด ว่าอันนี้กิน อันนี้ไม่กิน " นี่ดูๆ อาขมจะป้อนอาภาพให้อาภาพกินนะ อะ มึง อ้าปากรับเร็ว อ้ามมม "
“ อั้ม " อ้าปากรับอาหารในมือของมันมาเคี้ยวก่อนจะทำตาโตเหมือนอร่อยซะมากมาย ผมกลืนลงไป " อร่อยจัง "
“ เห็นมั้ยลองๆ ของหัวหอม อาขมจะทำชิ้นเล็กๆแบบนี้ ใส่ข้าวใส่หมู อะ อ้ามมมม " ปากเล็กอ้าปากแบบไม่ค่อยโอเคกับการกินผักเท่านั้น กาลิคเคี้ยวก่อนจะกลืนลงไป " เป็นไง "
“ อร่อยครับ "
“ กินอีกนะ กินผักเยอะๆ มึงไม่ค่อยได้กิน ต้องกินผักเยอะๆ " มันจัดแจงทำแบบเดิมให้กาลิคกินตั้งหลายคำ กุ้งก็แกะให้ วุ่นวายอยู่กับเด้กจนตัวเองไม่ได้กินเลยสักชิ้น
“ อะ มึง " ผมคีบเบคอนไปจ่อปากมัน " กินหน่อย มึงป้อนกาลิคไป กูป้อนมึงเอง ถ้ามึงไว่างดูแลตัวเองเดี่ยวกูดูแลมึงเองก็ได้ " ไอ้ขมยิ้มออกมา ตอนที่อ้าปากรับแล้วเคี้ยวไปเรื่อยๆ มันก็เชิดหน้าลงไปที่ข้าวตัวเองพร้อมบอก
“ งั้นก็ป้อนข้าวกูด้วยเลย "
“ โอเค " จัดการตักข้าวป้อมนัพร้อมกับหมูที่ย่างเสร็จใหม่ๆ ใบหน้าหวานที่เคี้ยวอย่างเอร็ดชวนให้ผมยิ้ม
“ หัวหอม กุ้งของมึงอะ อ้าปากเร็ว " คนถูกป้อนที่เอาแต่เล่นรถบังคับเล็กๆไปมาบนโต๊ะไปยอมสนใจ ไอ้ขมที่รอจะป้อนก็เลยต้องเปลี่ยนแผนใหม่ " หัวหอมครับ นี่ ปึ้นๆมา ปึ้น~ ปึ้น~ รถสุดเท่มาแล้ว อ้าปากเลย “ รถสุดเท่ ถูกกินเข้าไปแล้ว กินข้าวด้วยอีกคำ อั้ม ดีมาก " ป้อนข้าวตามเข้าไปมันถอนหายใจออกมา ผมเข้าใจมันอยู่นะ เพราะกว่าจะป้อนได้สักคำเล่นเอาเหนื่อย สารพัดจะหลอกล่อ " จรวดเล็กกำลังจะพุ่งชนโลกแล้ว อ้าปากเลย อ้ามม หัวหอม นี่ถ้ายังนิ่งไม่กินข้าว อาขมจะยึดรถแล้วนะ "
“ อย่ายึดไปนะ " มันเอารถที่กำลังแนบอกตัวเองไว้ก่อนจะส่ายหน้าไปมา " อาขมอย่ายึดรถหนู "
“ ถ้าไม่ให้ยึดก็หันมากินข้าวดีๆ "
“ อาขมอย่าดุกาลิคสิ " มันหันมาอ้อนอีกคนก็ปั้นหน้านิ่งทั้งๆที่กำลังจะยิ้มออกมา
“ ก็กาลิคชอบให้อาขมดุนี่ บอกว่าให้กินข้าวก่อน แล้วเดี๋ยวค่อยเล่น กินให้เสร็จ อะ อ้าปาก ถ้าไม่กินจะไม่ป้อนแล้วนะ " มันรับกุ้งกับข้าวเข้าไปเคี้ยวพลางพูดอ้อน
“ ป้อน กาลิคอยากจะให้อาขมป้อนหนู "
“ งั้นก็ตั้งใจกิน " ป้อนข้าวเข้าไปอีกคำพร้อมผัก คราวนี้คนที่เคยเอาแต่เล่นก็ตั้งใจกินขึ้นมากกว่าเดิม
“ มึงก็กินบ้างสิอะ ไอ้ขม " ผมบอกก่อนจะยื่นข้าวไปป้อนมัน แต่เพราะมันยังวุ่นวายอยู่กับการแกะกุ้งเพื่อป้อนอีกคน มันก็เลยไม่ได้หัวมาสนใจผม มีแต่กาลิคที่มองอยู่ มันก็เลยบอก
“ อาภาพ อาภาพต้องบอกว่า ปึ้นๆ ปึ้นๆ ปึ้นๆ แล้ว อาขมจะหันไปสนใจอาภาพ แล้วอาขมก้จะกินข้าว " คือกุต้องทำอะไรที่มันปัญญาอ่อนขนาดนั้นด้วยเหรอวะ " อาภาพ ลองพูด ปึ้นๆ ปึ้นๆ "
“ ปึ้นๆ ปึ้นๆ ปึ้นๆ เครื่องบินลากตะเวนกำลังจะบินเข้ามาใกล้แล้ว " คำพูดของผมชวนให้ให้ร่างบางหันมาจ้องหน้า มันที่ขทวดคิ้วก่อนจะยิ้ม
“ นี่มึงก็เอากับมันด้วยนะ "
“ กูว่ามันได้ผล นะ มึงหันมาสนใจเลยอะ "
“ สนใจในความปัญญาอ่อนของมึงไง " กูก็คิดว่างั้นเหมือนกัน ผมยกยิ้มไอ้ขมก็อ้าปากกินข้าวเข้าไปเต็มคำ " เอาหมูชิ้นนั้นด้วย แล้วย่างหมูเพิ่มให้กูหน่อย "
“ ครับๆ "
“ ดูแลกูให้ดีหน่อยภาพ " มันว่ายิ้มๆพลางเชิดหน้าเหมือนพวกคุณนาย ทั้งๆที่มือก็กำลังแกะกุ้งให้ไอ้กาลิค แล้วป้อนอีกคนพร้อมกับข้าว
“ กูต้องดูแลมึงดีอยู่แล้ว " เพราะกูทำแบบนั้นมาตลอด แต่มึงไม่เคยสังเกตเห็นเท่านั้นเอง
.....................................................
ภาพขม น่ารักจังง พี่ภาพ แอบรู้สึกอะไรกับขมก็ยอมรับออกไปเลย
บอกเลยมั้ยภาพ บอกขมเลย
สุดท้ายนี้ รักน้องหัวหอมเหลือเกิน งื้ออออ
เขียนไปเขียนมาก็ให้ความรู้สึก ภาพคือพ่อ ขมคือแม่ และ หัวหอมคือลูก
คือมันดี ชอบบ แบบนี้
ฝากแท็ก #มมชลก ในทวิตด้วยนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์จ้า