ขออนุญาตเปลี่ยนการออกเสียงชื่อพระเอก นายเอกเล็กน้อย
เพื่อความถูกต้องตามคำแนะนำค่ะ
องศาเดือด
บทที่ 5
เนื้อตัวเปล่าเปลือยกอดอกห่อไหล่สั่นเทาด้วยความหนาวเหน็บเดินตามร่างสูงกลับมาที่เคบินอย่างเงียบๆ
เปล่าประโยชน์ที่จะร้องแรกแหกกระเชอ ฮวางจื่อเทาจำเป็นต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
เขาเริ่มเรียนรู้ว่า ร่างแกร่งที่ทำร้ายเขาครั้งแล้วครั้งเล่าเย็นชาและป่าเถื่อนเกินกว่าที่เขาจะต่อสู้ได้
เมื่อมาถึงหน้าเคบินฟ้าก็สางมองเห็นแสงสีเหลืองทองของแสงแดดอ่อนๆยามเช้าทะลุไอหมอกลงมาที่
หน้าเคบินจนงามจับตา คงดีไม่น้อยถ้าได้มาพักผ่อนที่นี่กับใครสักคนที่รักจนสุดหัวใจ แต่ต้องไม่ใช่กับ
ไอ้สัตว์นรกที่จับเขามาทรมานแบบนี้
ฮวางจื่อเทา มองลานดินเล็กๆ หน้าเคบินอย่างแปลกใจ เพราะเมื่อตอนที่เขาถูกอี้ฝานอุ้มพาดบ่าไปที่น้ำตก
มันยังว่างเปล่ามีแต่กองไฟที่มอดดับ แต่ตอนนี้กลับมาโต๊ะไม้ตัวเล็กตั้งอยู่ และเก้าอี้ไม้ตัวแค่ฟุตเดียววาง
อยู่แถมบนโต๊ะยังมีเสื้อผ้าวางไว้อยู่หนึ่งชุดพร้อมทั้งอาหารง่ายๆ วางอยู่บนนั้น ชายหนุ่มไม่รอช้าเขาถลาไป
คว้าเสื้อผ้าที่มีเพียงกางเกงแพรกับเสื้อยืดสีขาวมาสวมใส่ให้พ้นภาวะเปลือยเปล่าอย่างนี้
อี้ฝานทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ไม้ คว้าตะเกียบมาถือในมือและยกชามข้าวต้มสีขาวขึ้นมาพุ้ยเข้าปาก ฮวางจื่อ
เทามองแล้วก็ต้องเผลอกลืนน้ำลาย เสียงลำไส้เคลื่อนไหวดังโครกคราก เขาเพิ่งรู้ตัวว่าตนเองนั้นหิวโหยแค่
ไหน
เขาเก็บความแปลกใจเอาไว้ก่อน ทรุดตัวลงนั่งตรงกันข้ามกับอี้ฝาน ฮวางจื่อเทามองอาหารตรงหน้าแล้วก็
ส่ายหน้าอย่างรับไม่ได้
“มีอาหารที่ดีกว่านี้ไหม อาหารแบบนี้กูกินไม่เป็น”
กินลงได้อย่างไร ในเมื่อมันมีแค่ต้มจับฉ่ายเละๆ วางอยู่หนึ่งถ้วย กับถั่วลิสงคั่วดำๆ ในจานสังกะสีเก่าๆ กับ
ข้าวต้มเละๆ วางอยู่ตรงหน้าเขา
อี้ฝานที่พุ้ยข้าวต้มเข้าปากเกินค่อนถ้วยแล้วชะงักตะเกียบลง พลางส่งสายตาเย็นเยียบยิ่งกว่าอากาศมอง
หน้าขัดใจของฮวางจื่อเทา
“ทำไมถึงกินไม่ได้”
“จับฉ่ายนี่ก็เละจนไม่รู้ว่าต้มมากี่รอบ ถั่วก็เก่าจนไม่รู้ว่ามีราขึ้นหรือยัง ส่วนข้าวต้มนี่ก็ดูไม่น่ากินเอาซะเลย
ของอย่างนี้กูกินไม่ลงหรอก โอ๊ย!”
อยู่ๆ อี้ฝานก็กระโจนข้ามโต๊ะมากดคอของเขาแล้วผลักจนหงายหลังไปกับพื้นดิน มือแกร่งบีบแน่นจนจื่อเทา
แทบหายใจไม่ออก พยายามใช้มือแกะมือที่กดคอเขาไว้ก็ไม่สำเร็จ เขาเริ่มทรมานกับอากาศในปอดที่
น้อยลงเรื่อยๆ
“ปล่อย แค่ก แค่ก หะ หายใจไม่ออก”
“หยุดดูถูกอาหารพวกนี้ ถึงแม้มันจะดูแย่แต่มันก็ทำให้คนที่ไม่ทางเลือกได้มีชีวิตอยู่ต่อไป เข้าใจไหม
ฮวางจื่อเทา”
ตะคอกถามเสียงเข้มจนคนที่กระสับกระส่ายอยู่ภายใต้การกดดันจากเขารีบพยักหน้ารับ มือกร้านจึงได้
คลายออกจากคอจนอีกฝ่ายผวางับอากาศจนแทบสำลัก น้ำตาซึมจากหางตามันช่างเรียกร้องให้เขาจัดการ
ร่างกายนี้ให้มากกว่าที่ทำอยู่
มือที่คลายจากคอจึงได้เลื่อนไปบีบที่สันกรามบังคับให้จื่อเทาอ้าปาก ก่อนที่อี้ฝานจะก้มลงไปประกบปาก
แนบชิดส่งลิ้นร้อนลงไปตวัดเร็วอยู่ในลำคอ จื่อเทาที่ยังไม่ทันตั้งตัวถึงกับสำลักอากาศแต่ก็ห้ามปรามไม่ได้
เมื่อเรียวปากกดแนบบังคับไว้ไม่ให้เลื่อนหลุด ยิ่งเขาส่ายหน้าหนีลิ้นที่ควานซุกในโพรงปากก็ยิ่งตวัดแรงจน
สมองของเขาหมุนคว้างไปหมด
ชั่วแวบแห่งจูบที่รุนแรง อยู่ๆ จื่อเทากลับรู้สึกถึงความวาบหวามที่ติดมากับปลายลิ้นร้อน มันเรียกร้องและ
กระตุ้นให้เขาโต้ตอบเหมือนในวันที่ได้พบกันครั้งแรก จูบที่ทำให้เขาต้องกลับไปโหยหามันอยู่หลายวัน
ตอนนี้มันกลับมาอีกครั้งเมื่ออี้ฝานเม้มปากไปตามกลีบปากนุ่มสลับกับหลอกล่อให้จื่อเทาส่งปลายลิ้น
ออกมาก่อนตวัดกลับเข้าไปในโพรงปาก
อา…อี้ฝานกำลังทำให้เขาลืมตัว ลืมใจ ลืมไปแล้วว่าเพิ่งคว้าเสื้อผ้ามาใส่เมื่อครู่ที่ผ่านมา เมื่อตอนนี้กางเกง
แพรและเสื้อยืดถูกกำจัดออกไปจากร่างกายจนเนื้อตัวล่อนจ้อนอยู่กลางลานดินอีกครั้ง
ไม่ต่างจากที่อี้ฝานจัดการตัวเองอย่างรวดเร็วเช่นกัน แค่พริบตาเขาก็เบียดทับแนบเนื้อลงไปกดให้แผ่นหลัง
ของจื่อเทาถูไถอยู่กับผืนดินในขณะที่เขาก็ถูไถเนื้อตัวอยู่บนร่างของจื่อเทาอีกที
ซอกคอนุ่มเป็นเป้าหมายต่อไป อี้ฝานละเลงลิ้นลากผ่านสลับขบเม้มทิ้งรอยแดงเอาไว้ทั่วทุกจุด มือไม้วาง
ลูบไล้สำรวจไปทั่วร่างกายอย่างที่อยากจะทำตั้งแต่แรกเริ่ม บีบเค้นเคล้าคลึงจนกล้ามเนื้อของจื่อเทาแทบ
จะผวาติดตามมือกร้านสะท้านอารมณ์ขึ้นมา
ยิ่งเมื่อปากอุ่นลากผ่านมาถึงแผ่นอกเนียน เม็ดบัวงดงามชูช่อรออยู่แล้ว อี้ฝานไม่รอช้าที่จะกวาดลิ้นไปโลม
ไล้ชิมรสชาติอย่างถูกปาก จนเม็ดบัวยิ่งแข็งขืนตื่นเต้นยิ่งเร้าให้เขาดูดดุนจนแทบหลุดติดริมฝีปากออกมา
“อา…”
จื่อเทาเพิ่งจะหาเสียงตัวเองเจอก็ตอนที่เผลอครางเสียงกระเส่า
ไม่…เขาต้องไม่หลวมตัวไปกับมัน คนที่ทำร้ายทั้งร่ายกายและจิตใจของเขาจนย่อยยับ แต่ทำไม …ทำไม
ตอนนี้เขาถึงยั้งตัวเองไม่อยู่ ร่างกายของเขากำลังตอบรับกับการปลุกเร้าอย่างชำนาญจนกระทั่งต้อง
แอ่นอกให้มันทั้งดูดทั้งเลียจนหนำใจ ยิ่งตอนนี้ที่มือสากวางแนบอยู่ที่ท้องน้อยเริ่มลูบไล้ลาดต่ำไปถึงจุดไว
ต่อสัมผัส เขาถึงกับต้องกัดริมฝีปากเอาไว้ไม่ให้ร้องครวญออกมา
มือที่กร้านจากงานหนักกอบกุมพวงสวรรค์งดงามอยู่ในอุ้งมือ ปลายนิ้วกระตุ้นเบาๆ อยู่ตรงปลายยอดก่อน
จะชักรูดรั้งไปมา หลังมือถูไถไปกับพวงถุงเนื้อยิ่งทำให้คนด้อยประสบการณ์แทบแดดิ้นอยู่บนลานดิน
“อื้อ…”
เสียวจนมือเรียวต้องจิกไปกับผืนดิน เผลอชันขาขึ้นมาจนตั้งฉากเมื่ออี้ฝานเลื่อนตัวลงต่ำส่งแท่งร้อนที่ถูก
กระตุ้นเข้าปาก ฟันที่ครูดไปกับเนื้อช่วงแรกก่อให้เกิดความเจ็บแปลบก่อนที่จื่อเทาจะต้องเกร็งท้องน้อยเมื่อ
ปลายลิ้นชื้นในช่องปากจะทำงานจนเขาสั่นไปหมดทั้งตัว
มือที่จิกอยู่กับดินยกมาเสยเข้าไปในกลุ่มผมดกดำแล้วกำไว้แน่น หนุ่มน้อยกัดฟันหน้าเหยเก อดไม่ได้ที่จะ
ยกสะโพกสวนซ้ำเข้าไปทุกจังหวะที่อี้ฝานก้มหน้ารูดปากลงมา
“โอ๊ย เจ็บ”
จื่อเทาร้องลั่นเมื่อช่องทางเบื้องล่างที่ยังบาดเจ็บถูกปลายนิ้วสอดเข้าไป แต่ก็ห้ามไม่ได้เมื่อเจ้าของมัน
หมุนวนควานช่องให้กว้างขึ้น แล้วเขาก็ต้องร้องแทบลั่นป่าเมื่ออี้ฝานดันตัวยืดสูงขึ้นมาจับแท่งเนื้อพองฟู
แข็งขันจนเส้นเลือดปูดโปนแทงเข้าไปแทนนิ้วที่ชักกลับออกมา
“เจ็บนะ ออกไป”
จื่อเทาพยายามผลักดันไหล่กว้าง แต่สองมือกลับถูกรวบไว้แล้วจับล็อคอยู่เหนือหัว อี้ฝานโน้มตัวมาปิดปาก
หลอกล่อด้วยปลายลิ้นจนเขาเผลอไผล อี้ฝานจึงได้โอกาสดันตัวเองเข้ามาจนสุดตัว
“อึก…”
จื่อเทาจุกจนแทบร้องไม่ออก ความเจ็บแปลบแผ่ซ่านขึ้นมา แม้จะยังน้อยกว่าเมื่อค่ำคืนแต่มันก็ทำให้เขา
น้ำตาไหล อี้ฝานหยุดนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะเคลื่อนสะโพกในช่องทางช้าๆ
“ฮือๆ”
จื่อเทาเจ็บใจตัวเองจนร้องไห้ ที่ร่างกายตอบรับกับการกระทำของอี้ฝาน เมื่อความเจ็บปวดเริ่มจางหาย
ตอนนี้เขากำลังเสียวซ่านจนต้องยกสะโพกรับแท่งเนื้อร้อน ยิ่งเมื่อมันกระแทกไปบนจุดกระสันเขายิ่ง
ดิ้นพล่าน แม้ว่าอี้ฝานจะกดน้ำหนักลงมาจนแผ่นหลังของเขาครูดไปกับพื้นดิน ยิ่งเจ็บ เขาก็ยิ่งต้องการ
“อา… ตรงนั้น ไอ้…อะ…พี่อี้ฝาน ซ้ำตรงนั้นอีกทีได้ไหม”
กลายเป็นเขาที่ต้องกัดฟันขอร้อง ได้ยินเสียงคำรามลึกในคอดังแว่วอยู่แถวยอดอกตัวเอง ที่มีแต่รอยฟันรอย
ปากแดงก่ำ อี้ฝานกระแทกตัวซ้ำอย่างที่เขาขอจนหนุ่มน้อยเผลอครางเสียงดังลั่น
เขากำลังจะถึงสวรรค์ จื่อเทาบอกตัวเอง หนุ่มน้อยหลับตาแน่นปล่อยอารมณ์ไปกับการกระทำของอี้ฝาน
ขาสองข้างเผลอยกเกี่ยวกระหวัดอยู่รอบเอวสอบ แขนสองข้างไม่จำเป็นต้องถูกจับยึดอีกต่อไปเมื่อจื่อเทา
กลายเป็นฝ่ายกอดรัดลำตัวอี้ฝานจนแนบแน่น
อีกนิดเดียว อีกนิดเดียว อ๊ะ! ไม่นะ ต้องไม่เป็นอย่างนี้!
“เกิดอะไรขึ้น พี่อี้ฝาน อย่าเพิ่งหยุด”
หนุ่มน้อยร้องลั่นเมื่ออยู่ๆ อี้ฝานก็หยุดเคลื่อนไหว แถมยังดึงสะโพกออกจนแท่งเนื้อถอนตัวเหลือแค่
หมิ่นเหม่ ดวงตาคู่หวานของจื่อเทาที่ตอนนี้เยิ้มฉ่ำไปด้วยไฟปรารถนาที่อี้ฝานปลุกขึ้นมาเบิกกว้างมอง
อี้ฝานอย่างไม่เชื่อสายตา
ร่างสูงหยุดตัวเองอยู่แค่นั้น หยุดในขณะที่ฮวางจื่อเทาที่กำลังล่องลอยอยู่ถูกกระชากลงมาอย่างรวดเร็ว
หนุ่มน้อยตาเหลือกมองผู้ชายที่ครอบครองร่างตนอย่างเว้าวอน
“นายไม่มีสิทธ์เรียกฉันว่าพี่ เพราะนายเป็นแค่ของบรรณาการจากพ่อของนาย ตอนนี้นายเป็นแค่สมบัติ
อย่างหนึ่ง เรียกฉันว่า “นาย” เดี๋ยวนี้ และร้องขอความเมตตาจากฉันในสิ่งที่นายอยากได้ ฮวางจื่อเทา”
ประโยคยาวที่สุดที่เคยได้ยินจากคนเย็นชาทำให้จื่อเทาต้องกัดริมฝีปากกลั้นเสียงร้องอย่างเจ็บใจ
ดวงตาสวยมองอี้ฝานอย่างโกรธแค้น
“ไม่มีวันที่ฉันจะร้องขอ”
อี้ฝานสบตากลับพร้อมรอยยิ้มหยันที่มุมปาก เขาก้มหน้าลงไปโลมเลียตามเนื้อตัว และดันสะโพกกลับเข้า
ไปจู่โจมในช่องทางที่ยังค้างคาอีกครั้ง และเช่นเดิมเมื่อหนุ่มน้อยเผลอไผลใกล้ถึงสวรรค์อี้ฝานก็ยั้งตัวเองไว้
อีกจนได้
“ก็ได้ ผมยอมแล้ว”
จื่อเทาน้ำตาไหลด้วยความทรมานในอารมณ์
“นายครับ ได้โปรด ได้โปรดปลดปล่อยผมด้วยเถอะครับ”
อี้ฝานส่งเสียงครางลึกอยู่ในลำคอ ดวงตาดุบ่งบอกถึงความพอใจก่อนที่เขาจะเคลื่อนตัวเร่งจังหวะ เสียงเนื้อ
กระทบเนื้อดังลั่น จนกระทั่งจื่อเทาปลดปล่อยเสียงครางอันยาวนานสะท้อนก้องป่า ก่อนเปลือกตาจะปิดลง
อย่างเหนื่อยอ่อน
มือสั่นเทาจับแก้วเหล้าเทเข้าปาก ในขณะที่อีกมือก็กำผ้าปูที่นอนสีตุ่นนั้นไว้อย่างเจ็บใจ ฮวางเล่ยอกแทบ
แตกเมื่อเห็นมันครั้งแรก
“ของขวัญจากท่านคริส ให้ส่งให้ถึงมือคุณฮวางครับ”
คนนำสารมาเยือนถึงบ้านหลังใหญ่แต่ทรุดโทรมลงตามเวลาและเพราะขาดการบำรุงรักษา เขารับมันมา
พลางหรี่ตามองคนนำสารอย่างไม่ไว้ใจ แต่เขาก็เปิดมันออกมาในที่สุด ก่อนที่จะอ้าปากค้างเมื่อเห็นของที่
ส่งมา
ผ้าปูที่นอนสีมอเปรอะเปื้อนไปด้วยคาวเลือดด่างเป็นวง ซ้ำร้ายกลิ่นคาบคาวยังอวลอยู่ใกล้จมูก
“ท่านคริสให้แจ้งว่า ส่งชองขวัญชิ้นนี้มาให้คุณฮวางเพื่อให้ทราบว่าได้รับเครื่องบรรณาการไว้แล้วครับ”
มือที่กำผ้าผืนนั้นสั่นสะท้าน ดวงตาแดงก่ำไปด้วยโทสะและความอัปยศเมื่อเข้าใจนัยยะของผ้าผืนนี้
เขาคว้าของใกล้มือขึ้นมาขว้างไปที่คนนำสารจนอีกฝ่ายต้องถอยกลับออกไป ก่อนที่ฮวางเล่ยจะคว้าเหล้า
มาดับอารมณ์
เขาเสียลูกชายคนเดียวให้กับมัน ฮวางเล่ยเจ็บ เขาเพิ่งเข้าใจความเจ็บปวดของคนเป็นพ่อ เขาอาจจะไม่ใช่
คนดีนักแต่เขาก็รักลูก และพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกชายของเขามีความสุข แม้แต่การปิดบังเรื่องฐานะ
ทางบ้านที่แย่ลง จื่อเทาก็ไม่เคยรู้แม้กระทั่งตอนที่แก๊งตกอับ
เมียเขาน่ะหรือ แยกทางกันไปนานแล้ว ป่านนี้คงไปมีผัวใหม่ที่ให้ความสุขเจ้าหล่อนได้ดีกว่าเขาที่ฝืนทนมี
ความสัมพันธ์กันอยู่ไม่กี่ครั้ง ก็แค่พอให้มีลูก เขาเองก็ทนไม่ได้เหมือนกันเมื่อรู้ดีว่าความพอใจเรื่องเซ็กส์ของ
ตนเองนั้นอยู่ตรงไหน
เสียดายที่คนๆ นั้นจากไปแล้ว คนที่ทำให้เขาพึงใจ สุขสมตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน ถ้าคนๆ นั้นยังมีชีวิตอยู่
ชีวิตของเขาคงมีความสุขมากกว่านี้ นึกแล้วฮวางเล่ยทั้งเสียใจและเสียดายเวลาที่ผ่านมา
“อี้ชิง ถ้าแกยังมีชีวิตอยู่ ฉันอยากจะบอกแกว่า กรรมมันได้ย้อนกลับมาหาฉันแล้ว ตอนนี้ฉันเจ็บ ฉันเสียใจ
และ…ฉันคิดถึงแกว่ะ”
---- มีต่ออีกนิด