Lesson 9
( Fear Part )
วันนี้ผมก็ไปเรียนครับพอดีมีเรียนเช้าและร่างกายก็คงกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้วด้วยวันนี้ผมเรียนภาคทฤษฎีครับ และวันนี้ช่วงบ่ายพวกรุ่นพี่เรียกรวมอีกแล้วครับผมล่ะเบื่อแม่งจังเลยเมื่อไรจะปล่อยๆไปสักทีนี่เรียกรวมแม่งอยู่ได้น่ารำคาญ ผมเป็นคนรำคาญอะไรง่ายๆและอารมณ์ร้อนเลยแหละ แต่ยายสอนไว้ว่าถ้าอารมณ์ร้อนอย่างอื่นมันก็จะร้อนตามมีแต่เสียกับเสียเพราะฉะนั้นไห้เก็บไว้ข้างในไม่ว่าจะร้อนแค่ไหนก็ตาม
ผมก็นั่งคิดอะไรเพลินๆไปก็มีผู้ชายคนนึงน่าตาดีถือว่าดีเลยแหละ มากับผู้หญิงอีกคนครับสงสัยจะเป็นแฟนกันเดินมุ่งหน้ามาหาผมครับ
“เอ่อ สวัสดีนายเรา โอ้ นี่แฟนเราชื่อ ไมโล” เฮ้อสมกันจริงผู้ชายก็หล่อผู้หญิงก็สวย
“เอ่อ สวัสดีเรา...”
“เฟียร์ เรารู้จักชื่อนายแล้ว”โอ้มันพูดครับ
“เอ่อ รู้ได้ไงหรอ” ผมก็ถามมันไปตรงๆนั้นแหละครับ
“โหย ใครไม่รู้จักนายก็บ้าแล้วตอนนี้อ่ะ” ผมก็งงสิครับ
“ทำไมอ่ะ”
“ก็ตั้งแต่ที่นาย...เอ่อ...จูบกับพี่วินกลางหาดวันนั้นน่ะ นายก็กลายเป็นที่สนใจของใครหลายๆคนเลยนะ”อันนี้ไมโลพูดครับหน้าแดงด้วย เหอๆ
“อ่อ นึกว่าอะไร ก็แค่จูบ...ห๊ะ!!!!!!” ผมสะดุ้งโหยงเลยครับ
“ขอไหม่อีกทีได้ไหม อะไรนะ” ผมถามเพื่อความแน่ใจ
“นายจูบกับพี่วินกลางหาด”
ผมสิอึ้งเลยครับไม่นึกว่าตัวเองจะเสียสติขนาดที่จะทำอะไรแบบนั้นได้และที่วันนี้โอ้กับไมโลมาคุยด้วยก็เพราะอยากเป็นเพื่อนกันไว้ซึ่งไมโลเรียนคณะเดียวกับผม ผมก็เคยเห็นหน้าอยู่หรอกเวลาเรียนแต่ผมไม่ค่อยได้สนใจ ส่วนโอ้ มันเรียนคณะบริหาร
วันนี้ผมก็ไปเข้าประชุมเรื่องการเลือกคนส่งประกวด ดาว และเดือน มหาลัยครับซึ่งผมก็ขอบายไปเลยครับเพราะไม่ค่อยชอบกิจกรรมแบบนี้เท่าไรครับผมก็นั่งฟังแต่ละคนเสนอกันอย่าเมามันบางคนก็เอาฮา แต่บางคนนี่มาสวยจริง หล่อจริงครับส่วนก็นั่งมองนิ่งๆและทำสายตาไห้ว่างเปล่าผมเป็นคนที่เก็บความรู้สึกไม่มีใครสามารถอ่านออกได้ว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่
“เอาล่ะน้องๆ พี่ลงมติกันแล้วว่าปีนี้เราจะหาเดือนเป็นผู้หญิงและดาวเป็นชายนะครับ”จะทำให้มันยุ่งยากเพื่อ??? ผมล่ะงงกับความคิดรุ่นพี่เค้าเหลือเกินและผมว่ามันประสาทกลับกันยกปีซะมั้งและผมก็หันไปเห็นคนที่ไม่อยากเห็นครับ ไอ้พี่วิน มันยิ้มแบบมีเลศนัยมาอีกแล้วเสียวเลยครับมันยิ้มมาแบบนี้ทีไร มีเรื่องได้ตลอดเลยจริงๆ
“แต่ แต่ แต่ พวกพี่ก็เห็นตรงกันอีกว่า จะหาเฉพาะดาวคณะซึ่งนั้นหมายถึงน้องๆแต่ละคณะต้องส่งตัวแทนเป็นผู้ชายมาแต่งตัวเป็นผู้หญิงประกวดครับ งั้นพี่ขอเริ่มจากคณะ คหกรรม ก่อนแล้วกันนะครับ” น่านไงซวยแล้วผมพยายามนิ่งที่สุดและทำไห้ตัวเองตัวเล็กที่สุดเลย
“พี่คะ ไม่ต้องถามหรอกค่ะ คณะหนูมีผู้ชายคนเดียวค่ะ” เฮ้ยยยยย ไม่เอานะเว้ย
“ขอชื่อด้วยครับ”
“ชื่อ เฟียร์ ค่ะ” เมื่อเธอคนนั้นพูดชื่อผมจบทุกคนก็หันหน้ามามองผมและเสียงก็ดังฮือฮาขึ้นทั้งหอประชุมทันที โอ้ยวันอะไรวะเนี่ยซวยชะมัด
เมื่อการประชุมเสร็จคณะไหนที่ไม่มีคนประกวดจะโดนซ่อมเป็นระยะเวลา สองเดือนเต็มหรือพูดไห้ถูกคือ จนกว่าจะปิดเทอมแรก ส่วนผมตอนแรกก็ค้านหํวชนฟ้าเลยครับเพราะไม่อยากแต่เพราะเพื่อนในคณะพูดหว่านล้อมมากๆ ก็เลยต้องเลยตามเลยครับ
เมื่อวันงานมาถึงเป็นวันที่ผมไม่อยากไห้มาถึงที่สุดเพราะผมต้องแต่งตัวเป็นผู้หญิงขึ้นไปยืนบนเวทีโชว์ความหน้าหนาของตนเองผมคิดแล้วก็ท้อใจยิ่งมองเห็นตัวเองในกระจกแล้วผิวขาวเนียน หน้าที่หวานจนผู้หญิงหลายคนยังอาย ตัวเล็กๆเอวคอดกิ่ว ใส่วิกผมลอน เห้อ นี่กูเกิดเป็นผู้ชายทำไมเนี่ย ชุดแซ็กสีดำที่ตัดกับสีผิวผมรองเท้าส้นสูงอีกเกือบห้านิ้วเพื่อนในคณะผมก็ช่วยกันหามาได้เนอะแต่ผมนี่สิ ถ้างานไม่เริ่มไม่ออกจริงๆอ่ะ
ผมนั่งรอจนงานเริ่มคณะแรกที่ออกไปคือคณะบริหารครับโหแม่งตัวอย่างควายใส่เดรสสีแดงด้วย กล้ามเป็นมัดๆ ส้นสูงที่ใส่เดินก็เป๋ๆ เห็นแล้วก็อดขำไม่ได้ยิ่งพูดกันทีเนี่ยนะโหยยยควายหลุดมาจากไหนเลยแหละครับและชื่อคณะที่ไม่อยากได้ยินก็มาถึง
“ต่อไปนะคะ คณะคหกรรมค่ะ นาย เฟียร์ รัตธิโรดม ค่ะ” เมื่อจบเสียงก็ฮือฮาขึ้นทันทีครับ เอาวะเป็นไงเป็นกันถอยไม่ได้แล้วนี่เมื่อผมเดินย่างก้าวออกมา
“ฮิ้ววววววว”
“วู้วววววววว”
ผมเดินส้นสูงเกือบห้านิ้วอย่างคล่องเพราะไมโลช่วยสอนในการเดินตลอดเห็นเรียน คหกรรมกันนึกว่าจะแม่ศรีเรือนเปล่าเลยพวกชีเปรี้ยวกันยิ่งกว่ามะนาวซะอีก
“แนะนำตัวเลยค่ะ”
“สวัสดีค่ะ ดิฉัน นาย เฟียร์ รัตธิโรดม จากคณะคหกรรม ค่ะ ขอไห้ทุกคนช่วยโหวตไห้น้องเฟียร์ด้วยนะคะ ปิ้งงง” เหอะๆ ตอนนี้โหมดด้านครับด้านมากๆ แถมด้วยการส่งสายตาวิ๊บวับไปอีกครับต่อไปก็รอโชว์ความสามารถพิเศษครับ