:Love ♥ no boundaries: ตอนพิเศษส่งท้าย บ๊ายบาย [END] 22.09.18
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: :Love ♥ no boundaries: ตอนพิเศษส่งท้าย บ๊ายบาย [END] 22.09.18  (อ่าน 802188 ครั้ง)

ออฟไลน์ a_tapha

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4981
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +397/-1
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.32 100% :07.06.61:
«ตอบ #2340 เมื่อ08-06-2018 11:20:39 »

เอาใจช่วยวีให้ผ่านมันไปได้ อิยักษ์กับน้องแมทสู้ๆ :กอด1:

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.32 100% :07.06.61:
«ตอบ #2341 เมื่อ08-06-2018 23:40:07 »

เอ้าใครยิง ถึงจะอยากให้แฝดเป็นลูกแมทแต่แบบนี้มันไม่ใช่ๆๆๆๆ สงสารไวโอล่า

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.32 100% :07.06.61:
«ตอบ #2342 เมื่อ08-06-2018 23:54:55 »

ระแวงอยู่เชียว

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.32 100% :07.06.61:
«ตอบ #2343 เมื่อ09-06-2018 14:27:55 »

 :ling3:  โอ้ยยยยย ไม่ร้ายแรงมากใช่ไม๊ อย่าให้ถึงกับแฝดกำพร้าแม่เลยนะ(ถึงจะมีแม่แมทแล้วก็ตามเห่อะ)  :call:

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.32 100% :07.06.61:
«ตอบ #2344 เมื่อ10-06-2018 09:04:02 »

ใครมายิงวี โอ้ยยยย

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.32 100% :07.06.61:
«ตอบ #2345 เมื่อ10-06-2018 17:39:18 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Wipers

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.32 100% :07.06.61:
«ตอบ #2346 เมื่อ10-06-2018 21:39:36 »

 :serius2: ไม่นะ ไวโอร่า เทอต้องไม่เป็นอะไร ต้องอยู่กับสองแฝดไปนานๆนะ ตอนแรกนึกว่าสองแฝดฉี่ใส่วิกเตอร์ แต่พอได้ยินว่าไวโอร่าถูกยิง ตกใจเหมือนกัน

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.33 100% :11.06.61:
«ตอบ #2347 เมื่อ11-06-2018 19:13:21 »



Yours and Mine EP.33 :: Last hug. (กอดสุดท้าย) [100%]




    ผมเข็นรถของฝาแฝดเข้าไปในโรงพยาบาลด้วยความรู้สึกที่… หายไป

 

 

ผมจับความรู้สึกตัวเองไม่ได้ว่าตัวเองกำลังเป็นยังไงบ้าง หัวใจหยุดเต้นไปหรือยัง ความกลัวก่อนหน้านี้ที่ทำให้สติไม่อยู่กับร่องกับรอยมลายหายไป หัวใจที่สั่นไปด้วยความกลัวก่อนหน้านี้ ตอนนี้นิ่งสนิทจนคิดว่ามันหยุดเต้นตามคนที่จากไปแล้ว… 

 

 

‘เธอทนพิษบาดแผลไม่ไหวครับ’

 

 

ประโยคสั้นๆ และไม่ได้สื่อออกมาตรงๆ แต่ก็ก้องอยู่ในหัว และเข้าใจได้ว่า… ไวโอล่าจากเราไปแล้ว

 

 

วิคเตอร์ต้องจอดรถข้างทางในระหว่างที่รีบขับเข้ามาในลอนดอน เขาสั่นไปทั้งตัว แววตาที่หวาดกลัวมาตลอดทาง แปรเปลี่ยนเป็นความว่างเปล่า ผมนั่งร้องไห้เงียบๆ ยื่นมือซ้ายไปกุมมือขวาเขาไว้ วิคเตอร์บีบมือตอบ นั่งเหม่อลอยมองทางด้านหน้าอย่างไร้จุดหมาย แม้ไม่มีน้ำตา แต่แววตาและสีหน้าของเขาก็ราวกับคนไม่ชีวิตไปเลย

 

 

“เราจะพาแฝดไปหาแม่ของพวกเขา” หางเสียงผมสั่น ผมหันไปมองสองมิชลินที่นอนหลับปุ๋ยอยู่ในคาร์ซีทสีขาวตัดน้ำตาลสำหรับเด็กแรกเกิดอย่างปลอดภัย

 

 

ไวโอล่าคงอยากกอดลูกเป็นครั้งสุดท้าย แม้เธอจะไม่มีลมหายใจแล้ว

 

 

วิคเตอร์ตั้งสติเท่าที่จะทำได้ แล้วขับรถมาจนถึงโรงพยาบาลอย่างปลอดภัย ตลอดทางที่นั่งมามีแต่ความเงียบระหว่างเราสองคน ไม่มีคำพูดใดๆ ผมนั่งน้ำตาไหลเงียบๆ คิดถึงภาพเมื่อตอนเที่ยงก็ยิ่งสั่นเทิ้ม ภาพที่เธอจูบลูกชาย ใครจะไปรู้ว่านั่นจะเป็นจูบสุดท้าย…

 

 

 เราเดินเข้ามาพร้อมกัน ผมเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองแทบไม่มีเรี่ยวแรงก็ตอนเท้าแตะพื้น รู้สึกคล้ายจะเป็นลมแต่ก็ยังประคองตัวเองไว้ได้ วิคเตอร์นิ่งเงียบ เดินอยู่ข้างกันราวกับไม่มีตัวตน ดวงตาของเขาว่างเปล่าตั้งแต่ตอนนั้นจนมาถึงตอนนี้ สีหน้าราบเรียบไม่มีการตอบสนองใดๆ

 

 

ผมกำลังเป็นห่วงเขา เพราะชีวิตเขากำลังเผชิญกับการสูญเสียอีกครั้ง ความตายพรากคนที่เขารักจากไปอีกคน

 

 

“Hold my hand. (จับมือผมหน่อยสิ)” ผมยื่นซ้ายไปให้เขา มือขวาก็เข็นรถของแฝด วิคเตอร์หันมามองอย่างว่างเปล่า แต่ก็ยื่นมือขวามาจับมือผมไว้ ผมส่งยิ้มให้เขา วิคเตอร์ขยับมุมปากเพียงนิดเดียวจนแทบไม่เห็นว่าเป็นรอยยิ้ม

 

 

เราเดินมาจนถึงหน้าห้องห้องหนึ่งที่ออสตินกับไดอาน่ายืนรออยู่ ผมเห็นเสื้อยืดสีน้ำตาลของออสตินเปื้อนเลือด ใบหน้าของเขานิ่ง แต่ตาสีขาวแดงจางๆ ไดอาน่าที่ยืนอยู่ข้างๆ พยายามยิ้มให้แม้ใบหน้าของเธอจะแสดงออกถึงว่ากำลังจะร้องไห้ก็ตาม

 

 

“I’m sorry. I could not help her in time. (ขอโทษครับ ผมช่วยเธอไว้ไม่ทัน)” ออสตินก้มหน้าลง วิคเตอร์ยกมือซ้ายตบไหล่ขวาออสตินเบาๆ และกะพริบตาถี่ๆ เพื่อไล่น้ำตาออกไป

 

 

“It’s not your fault. (ไม่ใช่ความผิดนาย)” ผมหันไปมองหน้าห้องนั้น ห้องที่ทำให้ผมใจหายจนรู้สึกตัวเองจะไม่หายใจ

 

 

“Is she sleeps in there? (เธอนอนหลับอยู่ในนั้นใช่มั้ย)” ผมถามเสียงเบาหวิวจนแทบจะไม่มี น้ำตาที่หยุดไหลไปรื้นขึ้นมาที่ขอบตาแต่ผมก็พยายามห้ามมันไว้ ออสตินกับไดอาน่าพยักหน้า ผมปล่อยมือออกจากมือวิคเตอร์ ออสตินผลักประตูให้ผมเข็นรถแฝดเข้าไปด้านในห้องพร้อมกับวิคเตอร์

 

 

ความเย็นยะเยือกแล่นเข้าจับใจทันทีที่เข้ามาด้านใน ผมอาจจะเคยตัวสั่น ปากสั่น มือสั่น แต่มันไม่ใช่ในสถานการณ์ของการลาจากแบบนี้ ทุกย่างก้าวที่ก้าวไปมันคือการไปเจอกับความเป็นจริงที่เราต้องยอมรับกับการจากไปของใครคนหนึ่งที่เรารัก

 

 

“ฮึก…”  ก้อนสะอื้นแล่นขึ้นมาจุกที่คอ แล้วน้ำตาก็ทะลักออกมาเมื่อเห็นร่างของไวโอล่านอนอยู่บนเตียงเหล็กสีเงิน มีผ้าสีเขียวเข้มคลุมตั้งแต่ช่วงอกลงไป ผมเข็นรถแฝดมาหยุดตรงข้างเตียงของเธอ ใบหน้าไวโอล่าซีดเซียว ริมฝีปากเขียวคล้ำ ผมหลับตาลงด้วยความเจ็บปวด

 

 

“ไว… ไว” ผมพูดตะกุกตะกัก ริมฝีปากล่างสั่น น้ำตาไหลพราก ผมยกมือขวาที่แสนสั่นเทาขึ้นลูบหัวเธอ ก้มลงจูบหน้าผากเธออย่างแผ่วเบา น้ำตาผมไหลเปรอะหน้าตา และไม่อาจห้ามความเสียใจที่กำลังถล่มใจผมอยู่

 

 

“แฝดมาด้วยนะ…” เสียงผมหายไปในลำคอเพราะก้อนสะอื้น ผมยืดตัวขึ้น ใช้มือเช็ดน้ำตาที่ไหลเปรอะหน้าของเธออย่างอ่อนโยนแล้วหันไปอุ้มเฮคเตอร์ที่นอนมองตาแป๋วขึ้นมา ไดอาน่าที่น้ำตาไหลอาบแก้มช่วยอุ้มแฮคเตอร์ขึ้นมาอีกคน ผมเงยหน้าขึ้นมองวิคเตอร์ที่ยืนอยู่ตรงข้ามกัน เขาเอาแต่ก้มมองหน้าน้องสาว ดวงตาแดงก่ำ น้ำตาไหลออกมาเงียบๆ แบบที่ไม่ได้ยกมือมาเช็ด

 

 

เขาคงกำลังจดจำใบหน้าน้องสาวเอาไว้ ก่อนที่จะไม่ได้เห็นกันไปตลาดกาล

 

 

“Mommy is sleeping.” ผมกระซิบบอกเด็กน้อยและวางเฮคเตอร์ลงข้างๆ ร่างไวโอล่าฝั่งซ้ายมือของเธอ ไดอาน่าเดินอ้อมเตียงไปวางแฮคเตอร์ฝั่งขวามือของไวโอล่าและประคองเจ้าตัวน้อยไว้ สองแฝดจ้องมองผู้เป็นแม่ที่นอนหลับใหลอย่างไม่มีวันตื่นอย่างใสซื่อ ผมถือวิสาสะยกแขนที่เย็นเฉียบของไวโอล่าและประคองให้แฝดนอนลงข้างแม่ตัวเองก่อนที่จะเอาแขนเธอโอบกอดลูกน้อยของตัวเองไว้ ไดอาน่าทำแบบเดียวกับผม สองแฝดนอนซุกอกแม่ก่อนจะส่งเสียงอ้อแอ้เบาๆ เด็กน้อยทั้งสองยื่นมือไปจับหน้าอกของแม่และกำมือตามประสาเด็ก ทั้งสองคนขยับปากส่งเสียงงึมงำๆ ผมยืนร้องไห้ตัวสั่นกับภาพนั้น

 

 

เด็กๆ จำได้ด้วยความคุ้นเคยว่านั่นคือที่ที่ให้น้ำนมแสนอร่อยกับพวกเขา

 

 

“คุณแมทครับ…” ผมหันไปมองออสตินทั้งน้ำตา เขายื่นบางสิ่งบางอย่างมาให้ บางสิ่งที่ทำให้หัวใจผมร้าวมากกว่าเดิม

 

 

“…ไวโอล่าคงอยากตั้งใจจะให้คุณ”

 

 

‘ฉันอยากได้กล่องดนตรีที่มีเสียงเพลงที่เธอร้องให้แฝดฟัง…’

 

 

‘ฉันอยากให้เธอถูกใจของขวัญที่สุด…’

 

 

ผมร้องไห้โฮ ส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด กอดกล่องดนตรีไม้สีน้ำตาลไว้แน่น หัวใจเต้นเป็นจังหวะโดดไปโดดมาจนรู้สึกเหมือนหัวใจจะหยุดทำงาน ผมส่งเสียงร้องไห้ออกมาแบบไม่สนใจใคร ยิ่งมองภาพแฝดที่กำลังพยายามดึงผ้าลงจากอกแม่เพื่อจะดูดนมก็ยิ่งทำให้หัวใจของผมแตกสลาย

 

 

ความตายของคนที่เรารักมันร้ายกาจแบบนี้นี่เอง

 

 

“แมท… ชู่ววว” วิคเตอร์เดินมาหาผมตอนไหนไม่รู้ รู้ตัวอีกทีคือตอนที่เขาดึงผมเข้าไปกอด ผมกรีดร้องออกมาเพื่อระบายความเจ็บปวด สองแขนกอดกล่องดนตรีที่ไวโอล่าหามาให้ และเป็นสิ่งสุดท้ายที่เธอให้ผม

 

 

“มันเพราะผมรึเปล่า มันเพราะผมรึเปล่า” ผมกรีดร้องถามออกมาทั้งน้ำตา ถ้าเธอไม่ต้องไปซื้อกล่องดนตรีและอยู่บ้านกับแฝด เธอก็จะไม่จากไป

 

 

“ไม่ ไม่ใช่ ไม่ใช่” วิคเตอร์กระซิบบอกและยกมือลูบหัวผมเบาๆ ผมร้องไห้จนรู้สึกหัวตื้อ สะอึกสะอื้นจนหายใจทางจมูกไม่ทัน เลยต้องอ้าปากช่วยหายใจ ผมรู้สึกหมดแรง ค่อยๆ ทรุดตัวลงนั่งกองกับพื้น วิคเตอร์นั่งลงตาม ประคองผมไว้ในอ้อมกอด ผมซุกหน้าเข้ากับอกวิคเตอร์ นั่งครางฮือเสียงเบา ปล่อยน้ำตาไหลออกมาแบบไม่สนใจใดๆ

 

 

“ไม่เกี่ยวกับคุณแมทหรอกครับ มีกลุ่มเจ้าหน้าที่บุกจับกุมพวกกลุ่มคริสเตียน แต่พวกนั้นสู้ ไวโอล่าอยู่กับคริสเตียนพอดี พวกนั้นเลยใช้เธอเป็นตัวประกัน” เสียงออสตินเล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น

 

 

“แล้วไอ้คริสเตียนละ”

 

 

“นอนอยู่เตียงถัดไปจากไวโอล่า…” วิคเตอร์นิ่งเงียบ ผมดึงหน้าออกจากอกวิคเตอร์ แหงนหน้ามองออสตินด้วยความตะลึง

 

 

“…เขาพยายามปกป้องไวโอล่า” ผมมองหน้าออสตินอย่างเลื่อนลอย หัวใจเหมือนโดนกรีดจนด้านชา ผมค่อยๆ ลุกขึ้นยืน หันมองสองแฝดที่ยังนอนอยู่ข้างร่างของแม่ที่ไร้ลมหายใจ ผมวางกล่องดนตรีลงข้างเตียง ค่อยๆ อุ้มเฮคเตอร์ขึ้นมา ไดอาน่าเดินไปอุ้มแฮคเตอร์ขึ้นมาเช่นกัน ผมสะอื้นฮัก มองไปยังเตียงถัดไปของไวโอล่าก็เห็นผ้าสีเขียวเข้มคลุมร่างร่างนึงอยู่ ออสตินเดินนำไปทางเตียงนั้นแล้วร่นผ้าลงมาครึ่งอก ผมจัดการเก็บแขนทั้งสองข้างของไวโอล่าไว้ข้างตัวตามเดิม อุ้มแฝดเดินไปตรงเตียงเหล็กสีเงินของคริสเตียน ใบหน้าซูบผอมที่ผมเพิ่งเห็นเมื่อเช้านี้หลับสนิท บนหน้ามีบาดแผลจากการต่อสู้

 

 

เขาเพิ่งได้อยู่กับลูกชายทั้งสองคนเมื่อตอนพระอาทิตย์ของวันใหม่ขึ้น แต่เขาก็จากไปพร้อมกับพระอาทิตย์ที่หายไปของวันเดียวกัน และจากไปแบบไม่มีวันกลับมา

 

 

“Do you remember daddy? (จำคุณพ่อได้มั้ยครับ)” ผมหันไปมองเฮคเตอร์ และแฮคเตอร์ในอ้อมแขนไดอาน่าทั้งน้ำตา เฮคเตอร์มองหน้าผมด้วยความสงสัย เขายื่นมือมาแตะหน้าผมแปะๆ ราวกับจะเช็ดน้ำตาให้ ผมคลี่ยิ้มอย่างทรมานใจ

 

 

อย่างน้อยคริสเตียนก็ได้ป้อนนมลูกและได้กอดลูกชายทั้งสองของตัวเอง

 

 

“Do you want to hug daddy? (อยากกอดคุณพ่อมั้ยครับ)” ผมลูบหัวเฮคเตอร์หนึ่งทีแล้วก็ยื่นมือไปลูบหัวแฮคเตอร์อีกที แฮคเตอร์ทำท่าจะโผเข้ามาหา ผมเลยยกแขนซ้ายรับเขามาจากไดอาน่า สองหนุ่มหันหน้าซุกเข้ากับซอกคอผมและส่งเสียงออๆ แอๆ ตามประสาเด็ก ผมหลับตาลงพร้อมกับปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมา

 

 

“แล้วพวกเพื่อนของคริสเตียนล่ะ” วิคเตอร์ถามพลางเช็ดน้ำตา

 

 

“มีทั้งที่จับได้และหนีไปได้ครับ” ผมมองหน้าคริสเตียนแล้วก็นึกถึงตอนที่เราคุยกันเมื่อเช้านี้ พอคิดแบบนั้นผมก็ยิ่งรู้สึกหัวใจแกว่งไกว รู้สึกใจสั้นสะท้าน ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ไม่ทันข้ามวันด้วยซ้ำ ตอนเช้าทุกอย่างสดใสและดูเป็นไปในทางที่ดีขึ้น ไวโอล่าแจ่มใสเพราะได้เจอกับคนที่เธอรัก คริสเตียนได้เจอกับลูกแบบปกติหลังจากที่ต้องแอบย่องเข้าบ้านเพื่อมาหาลูก

 

 

มันเหมือนกับว่าเหตุการณ์นั้นไม่เคยมีอยู่จริง เป็นสิ่งที่ผมจินตนาการและสร้างขึ้นมาเท่านั้น

 

 

ผมไม่แน่ใจว่าตัวเองเข้าใจคำว่าชีวิตมันไม่แน่นอนมากพอรึยัง มันเกิดขึ้นแบบที่เราไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นในชีวิต ผมไม่คิด ไม่เคยคิด และไม่คิดที่จะคิด ผมรู้ว่าทุกชีวิตต้องมีวันจากไป แต่การจากไปแบบที่เราคุยกันว่าเดี๋ยวเย็นนี้ก็เจอกันตอนดินเนอร์ มันเป็นอะไรที่ล้มแล้วแทบยืนไม่ได้ อาการหัวใจล้มเหลวเป็นยังไงไม่รู้ แต่ตอนนี้ใจผมมันแย่เหลือเกิน

 

 

“ถ้าคุณพร้อมนะวิคเตอร์ ออกไปจัดการเรื่องศพนะ” คำว่าศพที่ออกมาจากปากไดอาน่ายิ่งทำให้ผมตัวสั่นเทิ้มน้ำตาไหลพราก ผมเขย่าตัวแฝดเบาๆ แหงนหน้าหลับตา น้ำตาไหลออกมาไม่หยุด ความทรงจำระหว่างผมกับไวโอล่าแล่นไหลอยู่ในหัว

 

 

‘ฉันอยากให้แฝดได้กินนมฉันครบหกเดือน แฝดจะได้แข็งแรง’ เธอพูดด้วยรอยยิ้มสดใสตอนที่กำลังอุ้มแฝดไว้ในอ้อมแขนและให้สองหนุ่มดูดนมดังจุ๊บๆ

 

 

แฝดได้กินนมเธอแค่ครึ่งทางเท่านั้นเอง…

 

 

“แมท วางเด็กๆ ลงก่อนมั้ย” ไดอาน่าเดินเข้ามาบอก ผมพยักหน้าทั้งที่น้ำตายังไหลพราก เธอช่วยอุ้มแฮคเตอร์ไปวางในรถเข็น ผมก้มตัวลงวางคนพี่ตามไป ยืดตัวขึ้นแล้วหันกลับไปมองใบหน้าซีดเซียวของไวโอล่า น้ำตาไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง วิคเตอร์เดินอ้อมไปฝั่งเดิม ยกมือซ้ายลูบหัวน้องสาวอย่างอ่อนโยนก่อนจะก้มลงจูบหน้าผากเธอแผ่วเบา

 

 

“Good bye, sister. (ลาก่อนนะน้องสาว)” น้ำตาของพี่ชายไหลเงียบๆ แต่แววตาเต็มไปด้วยความเสียใจ

 

 

“I will tell the twins how pretty of their mother are. (ฉันจะบอกแฝดว่าแม่พวกเขาน่ารักแค่ไหน)” ผมจับแก้มที่เย็นซีดเบาๆ มีมือซ้ายวิคเตอร์จับหัวเธอไว้

 

 

ผมอยากบอกว่าไม่จริง ไม่อยากยอมรับ แต่น้ำตาที่ไหลออกมามากมายมันก็ทำให้เราหลอกตัวเองไม่ได้จริงๆ

 

 

“วิคเตอร์ ดูแลคริสเตียนด้วยได้มั้ย” ผมเงยหน้ามอง เขาหันไปมองร่างคริสเตียนแล้วหันกลับมาพยักหน้า ผมพยักหน้าเบาๆ สองสามที แม้จะไม่แน่ใจว่าวิคเตอร์จะทำเรื่องให้คริสเตียนได้หรือไม่เพราะไม่ใช่ญาติกัน

 

 

เราเดินออกมาจากห้องเก็บร่างผู้เสียชีวิตของโรงพยาบาล ผมร้องไห้จนตาบวมตุ่ย แม้ไม่ส่องกระจกแต่ก็รู้ได้ด้วยตัวเอง ผมเดินกอดกล่องดนตรีอย่างเหม่อลอย มีไดอาน่าเข็นรถแฝดให้ วิคเตอร์กับออสตินไปจัดการเรื่องศพของทั้งสองคน ไดอาน่าพาผมมานั่งตรงโซฟาหน้าเค้าน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ของโรงพยาบาล

 

 

“เธอเอานมเด็กๆ มามั้ย” ผมหันไปมองหน้าไดอาน่าแล้วส่ายหัวเบาๆ เธอเองก็ตาช้ำเช่นกัน

 

 

“งั้นเสร็จแล้วเธอต้องกลับบ้านนะแมท พาเด็กๆ กลับไปกินนม พวกเขาคงหิว” ด้วยความที่ตอนนั้นสติหลุดๆ หายๆ ผมเลยไม่ได้หยิบตะกร้าขวดนมติดมือมาด้วย คว้าได้แต่จุกนมหลอกเด็กมาเท่านั้น ผมพยักหน้าเอื่อยๆ มองสองแฝดน้อยที่ตอนนี้ยังนอนตาใส ยังไม่งอแงหิวนม แต่เดี๋ยวก็ต้องร้อง เพราะกินไปตอนล่าสุดคือตอนก่อนรู้เรื่องประมาณหนึ่งชั่วโมง

 

 

ผมก้มลงมองกล่องดนตรีไม้ที่ไวโอล่าไปซื้อมาให้ มันเป็นทรงกลม บนฐานทรงกลมมีบ้านเดี่ยวหลังเล็กหนึ่งหลัง ลักษณะคล้ายบ้านของพวกเรา ข้างบ้านมีต้นคริสต์มาสสีทอง บนยอดประดับดวงดาวสีเดียวกับต้น ใต้ต้นคริสต์มาสมีกล่องของขวัญหลากสีวางเรียงราย ตรงกลางฐานวงกลมมีไม้กระดก ฝั่งนึงเป็นหมูสีชมพูตัวใหญ่ อีกฝั่งเป็นลูกหมูสีชมพูตัวเล็กๆ ที่มีลูกโป่งผูกติดกับขดหาง ถัดมาด้านหน้าสุดคือรั้วไม้เตี้ยๆ ที่มีดอกไม้ขึ้นหลากสีสัน สองริมรั้วมีเสาไฟทรงสูงตั้งอยู่

 

 

มันคือครอบครัวลูกหมู ที่นี่คือบ้านของลูกหมู

 

 

ผมขำทั้งน้ำตากับความช่างคิดของไวโอล่า สองมือค่อยๆ ยกกล่องดนตรีขึ้น  มือซ้ายจับฐานวงกลมไว้ มือขวาคลำหาปุ่มเปิดกล่องดนตรี เจออยู่ใกล้กับบ้านหลังน้อยสามปุ่ม ผมกดปุ่มแรก เสาไฟตรงรั้วบ้าน ไฟต้นคริสต์มาสสว่างขึ้นพร้อมกัน ผมกดปุ่มที่สอง ไม้กระดกที่ลูกหมูกับแม่หมูนั่งอยู่เลื่อนขึ้นลงแบบสลับฝั่งช้าๆ พอกดปุ่มที่สามเสียงเพลงก็ดังขึ้นมา และนั่นทำให้ผมชะงัก

 

 

มันเป็นเพลงที่เธอใช้กล่อมแฝดนอนทุกคืน เป็นเพลงที่ผมบอกว่าอยากได้มาเป็นเสียงกล่องดนตรี เอาไว้เปิดให้แฝดฟังเวลาที่เธอไม่สะดวกมาร้องเพลงกล่อมลูกตัวเอง

 

 

“แอ…” แฮคเตอร์ส่งเสียงร้องเบาๆ และขยับหัวหันมองมาทางผมที่กำลังนั่งฟังเสียงใสกริ๊งของกล่องดนตรีอย่างเหม่อลอย ผมขยับยิ้มน้อยๆ เลื่อนตัวลงจากโซฟา นั่งคุกเข่าตรงหน้าสองแฝด ถือกล่องดนตรีขึ้นมาตรงหน้าเขาทั้งสองคน สองหนุ่มมองกล่องดนตรีด้วยความสนใจ

 

 

“แอะๆ” เฮคเตอร์ส่งเสียงพร้อมกับชูกำปั้นอวบๆ ขึ้น ราวกับจะบอกว่าเพลงของพวกหนู ผมยิ้มด้วยความเอ็นดูทั้งน้ำตา ยิ่งนึกถึงตอนที่ไวโอล่ากล่อมลูกน้อยด้วยเพลงนี้ก็ยิ่งเจ็บปวดหัวใจไม่หยุดเสียที

 

 

“Your good night song, huh?” ผมกระซิบกับแฝด สองหนุ่มมองผมตาแป๋ว ขยับตัวดุ๊กดิ๊กในรถเข็น ท่าทางดูเพลิดเพลินกับเสียงพริ้งๆ ของกล่องดนตรีในเพลงราตรีสวัสดิ์ของตัวเอง ผมมองไฟต้นคริสต์มาสที่มีลูกเล่นตรงการเปลี่ยนการกะพริบของไฟอย่างล่องลอย เสียงเพลงจากกล่องดนตรีที่นิ่มนวลยิ่งทำให้ผมรู้สึกล่องลอยกว่าเดิม

 

 

‘เดี๋ยวคุณแม่กลับมานะคะ…’

           

 

เสียงสุดท้ายที่เธอพูดกับลูกชายก่อนจะไม่กลับมาหาพวกเขาอีกแล้ว

V
v
v

           

           


ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.33 100% :11.06.61:
«ตอบ #2348 เมื่อ11-06-2018 19:15:15 »


V
v
v


เรากลับบ้านหลังจากวิคเตอร์จัดการเรื่องต่างๆ เสร็จ สำหรับศพของคริสเตียนค่อนข้างเป็นเรื่องยากเพราะทางโรงพยาบาลไม่ปล่อยให้เราดำเนินการโดยที่ไม่มีหลักฐานแสดงความเกี่ยวข้องใดๆ กับผู้ตาย สิ่งที่วิคเตอร์ทำได้ดีที่สุดคือบอกกับทางโรงพยาบาลว่าถ้าไม่มีญาติเขาติดต่อมา ให้ติดต่อเขากลับไป เขาพร้อมจะทำเรื่องให้ถูกต้อง เพราะเขาต้องการฝังร่างทั้งสองคนไว้ใกล้กัน ผมเองก็ไม่แน่ใจว่าคริสเตียนมีญาติพี่น้องอยู่ที่ไหนอีกหรือไม่ เพราะก็ไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัว ได้แต่หวังว่าจะมีคนมาจัดการเรื่องให้เขาในเร็ววันนี้

           

 

“ค้างที่นี่เถอะไดอาน่า ค่อยกลับพรุ่งนี้เช้า” วิคเตอร์เอ่ยชวนเธอตอนที่เราเดินเข้ามาถึงห้องโถงของบ้าง ไดอาน่าพยักหน้ารับและมองมาที่ผมที่กำลังอุ้มแฝดออกจากรถเข็นลงนอนบนฟูกนอน สองหนุ่มหลับปุ๋ย วิคเตอร์วางถุงเสื้อผ้าของไวโอล่าลงบนโซฟา ออสตินเอากล่องดนตรีมาวางไว้ข้างแฝด

           

 

“ทุกคน วันนี้นอนด้วยกันที่นี่มั้ย” ผมเอ่ยชวนเสียงเบา ตัวก็คล้ายจะเบาไปด้วย ผมรู้สึกเคว้งคว้างอ้างว้าง อยากอยู่ท่ามกลางผู้คนเยอะๆ ไม่ใช่ผมไม่อุ่นใจที่มีวิคเตอร์อยู่ด้วย ผมแค่อยากให้มีคนอื่นเพิ่มเข้ามาในบรรยากาศโดยรอบของตัวเองในขณะนี้ ยิ่งเป็นช่วงเวลาก่อนเข้านอนแบบนี้ที่ผมต้องเจอกับไวโอล่าทุกคืนนับตั้งแต่ย้ายมาอยู่บ้านเดียวกันก่อนแยกกันไปนอน ผมยิ่งรู้สึกเคว้งในอก

           

 

“เดี๋ยวผมกับไดอาน่ามานอนด้วยก็แล้วกันนะครับ” ผมยิ้มอ่อน พยักหน้าให้ออสตินกับไดอาน่า ทั้งสองคนหมุนตัวเดินกลับไปทางห้องนอนออสติน ผมหันไปมองวิคเตอร์ก็เห็นเขากำลังมองผมด้วยสายตาเป็นห่วง

           

 

“หิวรึเปล่า” ผมส่ายหัว ยังไม่ทันได้คิดอะไรเป็นชิ้นเป็นอันน้ำตาก็ไหลออกมาจนต้องยกมือเช็ดออกจากแก้ม

           

 

“ผมคิดถึงไวโอล่า” วิคเตอร์น้ำตารื้น ย่อตัวลงนั่งข้างผม ยื่นมือซ้ายมาลูบหัวผมเบาๆ

           

 

“ฉันก็เหมือนกัน” ผมหลับตาและพยักหน้า เม้มปากแน่นเพื่อกลั้นเสียงสะอื้นเนื่องจากกลัวจะทำให้แฝดตกใจตื่นขึ้นมา

           

 

“ตอนที่คุณไม่อยู่ เราอยู่ด้วยกัน ผมตื่นมาก็เจอเธอ ก่อนนอนก็บอกฝันดีกัน” ผมเบะปาก หลับตาลงด้วยความสะเทือนใจ น้ำตาไหลออกมาแบบที่เกินจะห้ามจริงๆ

           

 

ผมยอมรับความจริงแล้วว่าเธอจากไป แต่ผมก็ยังทำใจไม่ได้ ตอนเช้าเราคุยกัน เราบอกว่าจะเจอกันตอนเย็น แต่นับตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป เราจะไม่ได้คุยโต้ตอบกันอีกแล้ว คำว่าตาย มันยอมรับได้ แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำใจกับมัน

           

 

“เดี๋ยวฉันไปหยิบหมอนกับผ้านวมก่อน” ผมพยักหน้า วิคเตอร์ลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไปจากห้องโถง ตรงไปทางห้องนอนของเรา ผมหันมองแฝดที่หลับปุ๋ยแก้มยุ้ยแล้วก็รู้สึกทั้งเอ็นดูและสงสาร ทั้งคู่เสียพ่อกับแม่ไปในเวลาเดียวกัน ถ้ามีแง่ดีให้คิดก็คือทั้งสองจากลูกๆ ตัวเองไปในตอนที่เขายังจำความอะไรไม่ได้ เด็กๆ ก็ไม่เสียใจมาก เด็กๆ ไม่ต้องมารับความรู้สึกสูญเสีย ต่อจากนี้คือหน้าที่ของคนอยู่ในการอธิบายว่าพ่อแม่พวกเขาไปไหน

           

 

ผมคลานเข่าไปตรงโซฟา หยิบเสื้อโค้ทที่ไวโอล่าใส่ไปเมื่อเช้าออกมาจากถุง ผมคลี่โค้ทสีชมพูอ่อน มองแล้วก็น้ำตารื้นไม่หยุด ผมคลานเข่ากลับมาหาแฝด ใช้โค้ทห่มร่างสองหนุ่มเอาไว้เพื่อกันอากาศหนาว

           

 

และให้รู้สึกเสมือนว่ามีคุณแม่กอดทั้งคู่อยู่ คุณแม่กลับบ้านมาตามที่บอก

           

 

ผมมองสองหนุ่มนอนหลับด้วยความรู้สึกเหงาหัวใจ นั่งมองพวกเขานิ่งเงียบ น้ำตาหยุดไหลแล้ว ตอนนี้คงทิ้งร่องรอยความบวมปูดให้ดูต่างหน้า นั่งมองหน้าแฝดแบบเอื่อยเฉื่อย ความคิดที่ว่าผมจะเลี้ยงเขาได้มั้ย ผมจะเลี้ยงเขาได้ดีหรือเปล่าอะไรทำนองนี้ก็ไหลเข้ามาในหัว ตอนมีไวโอล่า มันยังไม่ใช่งานที่หนักมาก เพราะเราสองคนช่วยกันดูแล แบ่งเวลากันว่าใครจะเลี้ยงแฝดช่วงไหน และหลายครั้งก็ดูแลพร้อมๆ กัน แต่ตอนนี้มีแค่ผมคนเดียว สองหนุ่มใหญ่ในบ้านก็ใช่ว่าจะโปรด้านการเลี้ยงเด็ก

           

 

“ไม่เปิดไฟต้นคริสต์มาสล่ะ” วิคเตอร์วางผ้านวมสีขาวกับหมอนสีเดียวกันลงบนพื้น ผมนั่งอึนไม่ตอบเขา วิคเตอร์เลยเดินไปเปิดไฟคริสต์มาสต้นใหญ่กลางห้องโถงเอง เขาจัดการปูผ้านวมลงบนพื้นใกล้กับต้นคริสต์มาส จัดการวางหมอนไว้ให้เรียบร้อย พื้นที่ฝั่งใกล้กับประตูกระจกที่ออกไปสวนคงเป็นของออสตินกับไดอาน่า ส่วนสองแฝดนอนคั่นตรงกลาง

           

 

“มานอนมา” ผมพ่นลมหายใจยาวๆ เป็นการระบายความอัดอั้นทั้งหลายที่อยู่ในอกออกมา แม้จะรู้ว่าก็แค่แปบเดียวแต่ก็รู้สึกดีที่ได้ทำ ผมคลานเข่าไปบนที่นอนชั่วคราวของเราสองคนแล้วล้มตัวลงนอน วิคเตอร์ดึงผมเข้าไปกอดจากทางด้านหลัง ผมเอาแขนขวาเกยแขนขวาของเขาและจับมือเขาไว้ สายตามองแฝดที่นอนอยู่บนฟูกนอนของตัวเอง

           

 

“ตอนที่เสียแม่และย่าไป มันเจ็บปวดขนาดไหนเหรอวิคเตอร์” ผมกระซิบถามในความมืดที่มีแสงสว่างจากไฟกะพริบของต้นคริสต์มาสลางๆ ลมหายใจอุ่นๆ ของวิคเตอร์รดลงกลางกระหม่อมของผม เขานิ่งเงียบอยู่พักหนึ่งก่อนจะตอบเสียงทุ้ม

           

 

“มันไม่เจ็บปวด แต่มันคือการที่โลกทั้งใบของฉันพังลง…” ผมบีบมือเขาแน่น วิคเตอร์สูดจมูกสองสามทีแล้วพูดต่อ

           

 

“…ใจฉันชา เหมือนไม่มีความรู้สึก แต่ก็ใช้ชีวิตอย่างทรมาน”

           

 

“คุณก้าวผ่านมันมาได้เก่งมาก”

           

 

“ไม่ ไม่เลย ฉันเกือบจะตายตามพวกเขาไป ไม่ใช่ร่างกาย แต่เป็นจิตใจ” ผมจำที่เอมิลี่กับเบนเนดิคท์บอกได้ว่าจิตใจของเขาโดนทำลายจนเปราะบางเพราะสูญเสียคนที่เขารักมากที่สุดในชีวิตไปไล่เลี่ยกัน ทุกวันนี้ผมยังไม่รู้ว่าแม่เขาเสียชีวิตได้ยังไง แต่ผมก็ไม่คิดถาม เพราะบางเรื่องเราก็ไม่ต้องรู้ก็ได้ถ้าเจ้าตัวเขาไม่สบายใจที่จะบอก

           

 

“ก่อนหน้านั้นฉันเสียลูกไป ฉันยังไม่ค่อยเข้าใจ แต่มันก็เริ่มสร้างความกลัวให้ฉันกับเรื่องของความตาย…” วิคเตอร์พ่นลมหายใจสั้นๆ หนึ่งที ผมมองแฮคเตอร์ที่กำลังบิดตัวน้อยๆ ก่อนจะกลับต่อ

           

 

“…ลูกตายในอ้อมกอดฉัน” เหมือนผมถูกดึงสติที่กำลังล่องลอยกลับมา ผมบิดหน้าไปมองเขา วิคเตอร์กำลังมองไปที่แฝด ผมไม่แน่ใจว่าช่วงเวลานี้ควรถามหรือควรพูดเรื่องนี้มั้ย จะยิ่งทำให้เขาเศร้าใจหนักกว่าเดิมหรือเปล่า ผมเลยเลือกที่จะเงียบ และคิดว่าถ้าเขาอยากจะเล่าเขาคงพูดต่อเอง

           

 

วิคเตอร์เงียบไปพักใหญ่เหมือนกำลังคิดว่าจะเล่าหรือไม่ ผมรอจนแน่ใจว่าเขาเลือกที่จะไม่พูดเลยหันหน้ากลับไปทางเดิมแบบที่ไม่คิดรบเร้าเขา

           

 

‘วิคเตอร์อุ้มแฝดให้หน่อย’ เขาสั่นหัวหน้าตั้งทันที

           

 

“เพราะแบบนี้หรือเปล่าคุณเลยไม่ค่อยอุ้มแฝด” มันอาจจะเป็นภาพเหตุการณ์อะไรสักอย่างที่ทำให้เขาฝังใจกับการอุ้มเด็ก

           

 

“ก็ด้วย…” เขาตอบเสียงเบา กดจูบลงบนหัวผมหนึ่งที

           

 

“…แต่เพราะไอ้ลูกหมูสองตัวมันอ้วน ฉันหนัก” ผมขำเบาๆ วิคเตอร์ขำในลำคอเสียงทุ้ม

           

 

“ผมจะผ่านความรู้สึกนี้ไปได้ยังไง”

           

 

“ฉันก็ตอบไม่ได้ แต่วีคงอยากให้นายดูแลสองลูกหมูแทนเธอ วีไว้ใจนายที่สุดนะ”

           

 

‘แมทเลี้ยงลูกได้ดีกว่าฉันอีกค่ะ…’ เสียงที่เธอตอบตีน่า ภรรยาใหม่ของคุณลุคดังขึ้นมาในหัว มันเป็นปกติหรือเปล่านะที่เมื่อคนที่เรารักจากไป ความทรงจำดีๆ มากมายก็จะไหลเข้ามาหาคนที่ยังมีชีวิตอยู่เรื่อยๆ

           

 

ผมคิดว่านั่นคือเรื่องปกติ เพราะเมื่อตัวเขาจากไป สิ่งที่ทิ้งไว้ให้คือความทรงจำ

           

 

“ตอนนี้แฝดไม่มีทั้งพ่อและแม่”

           

 

“เอาไว้ให้งานศพไวโอล่าผ่านไปก่อน…” วิคเตอร์พ่นลมหายใจแผ่วเบา

           

 

“…ฉันจะทำเรื่องรับสองคนนี้เป็นลูกของเรา” ผมบิดหน้าไปมองเขาอีกที ก่อนจะบิดทั้งตัวหันไปหาเขา

           

 

“วิคเตอร์…” ผมมองหน้าเขาด้วยความดีใจปนประหลาดใจ วิคเตอร์พยักหน้าหนึ่งทีเป็นการยืนยันคำพูดของเขาเมื่อครู่นี้

           

 

“…มันจะผ่านไปด้วยดีใช่มั้ย”

           

 

“อาดอมคงช่วยได้…” ผมยิ้มบางด้วยความดีใจ รู้สึกตื้นตันใจกับความใจดีของเขา วิคเตอร์พ่นลมหายใจและยักคิ้วขึ้นหนึ่งที

           

 

“…ไอ้ลูกหมูเหลือแต่เราสองคน และฉันคิดว่านายคงไม่อยากให้ไปอยู่กับพ่อฉัน”

           

 

“อย่าเลย เดี๋ยวคุณลุคก็มีลูกเป็นของตัวเอง ให้เขาดูแลลูกเขาให้เต็มที่เถอะ” วิคเตอร์เลื่อนสายตามองผม เราประสานสายตากัน เขาคลี่ยิ้มน้อยๆ แล้วก็ยื่นหน้ามาจูบหน้าผากผมหนึ่งที ผมขยับตัวซุกอกเขา วิคเตอร์กอดผมไว้ ความอบอุ่นแล่นไปตามร่างกายและหัวใจอันสั่นสะท้าน

           

 

“จุดไฟในเตาผิงมั้ยครับ” เสียงออสตินดังขึ้น ผมยกหัวขึ้นมอง ออสตินถือหมอนมาสองใบ ไดอาน่าเดินหอบผ้านวมไปตรงพื้นที่อีกฝั่ง

           

 

“จุดก็ได้” วิคเตอร์บอก ออสตินเดินเอาหมอนไปยื่นให้ไดอาน่า แล้วเดินกลับไปจัดการจุดไฟในเตาผิงที่ผมไม่ได้สนใจเลยตอนเดินเข้ามา ไมเคิลเดินผ่านพวกเราไปนอนบนโซฟาตัวยาว ส่วนฟอกซ์น้องชายของมันคงไปนอนห้องใต้หลังคาไม่ก็บนหลังคาบ้าน

           

 

“นอนกันเป็นคู่ๆ เลยสินะ” ไดอาน่าว่ายิ้มๆ พลางจัดการปูที่นอน ผมหันไปยิ้มให้เธอ ไดอาน่าเป็นไฮโซที่ไม่ทำตัวสูงส่งอะไรเลย ตระกูลของเธอโด่งดังมากในอังกฤษ ก็คล้ายๆ กับไฮโซบ้านเราที่ดังๆ นั่นแหละ แต่การกระทำของไดอาน่าคือปกติสามัญชนไม่ถือตัวเลยแม้แต่นิด ผมจะยินดีที่สุดหากทั้งสองคนแต่งงานกัน ตอนนี้ก็เอาใจช่วยให้ที่บ้านไดอาน่าตอบรับออสตินอยู่

           

 

“พรุ่งนี้คุณมานอนด้วยกันอีกก็ได้นะไดอาน่า” ผมเอ่ยชวน ไม่รู้เกี่ยวกันมั้ย แต่บรรยากาศคนเยอะแบบนี้ มันทำให้ผมไม่เหงาใจจนเกินไป มันช่วยทำให้ความคิดถึงไวโอล่าไม่เตลิดไปมากกว่านี้

           

 

“เดี๋ยวฉันจะหนีที่บ้านมาแล้วกันนะ” ผมกระตุกยิ้มและพยักหน้าน้อยๆ ออสตินที่จุดไฟในเตาผิงเสร็จแล้วเดินไปนอนข้างไดอาน่าโดยที่ไม่ได้กอดหรือใกล้ชิดกันแบบที่ผมกับวิคเตอร์ทำ ผมแอบขำที่ออสตินดูจะเป็นสุภาพบุรุษซะเหลือเกิน

           

 

“Good night.” ผมพูดกับทั้งสองคนแล้วพลิกตัวกลับมาทางเดิมเพื่อที่จะได้นอนมองแฝด แสงไฟคริสต์มาสส่องสว่างวูบวาบในความมืดของห้องโถง ผมนอนมองแฝดและยังคงคิดถึงไวโอล่า

           

 

หลับให้สบายนะไวโอล่า เพราะแฝดเองก็นอนหลับสบายดี

 

 

           

 

“แอ…” เสียงอ้อแอ้ของเด็กดังมาจากที่ไกลๆ ที่ไหนสักแห่ง แมทค่อยๆ ขยับเปลือกตาขึ้นแบบงัวเงีย ภาพตรงหน้าเลือนลาง มองเห็นแบบไม่ชัด หญิงสาวผมยาวสีทองที่คุ้นตาคนหนึ่งกำลังนั่งยิ้มแย้มอยู่เหนือฝาแฝด

           

 

“ไวโอล่า…” แมทพึมพำ เจ้าของชื่อเงยหน้าขึ้นมองและส่งยิ้มสดใสมาให้ แมทเปิดเปลือกตากว้างขึ้น แล้วค่อยๆ ดันตัวลุกขึ้นนั่ง มองคนที่เพิ่งจากไปด้วยสายตาหวั่นไหว

           

 

“ฝากแฝดด้วยนะ…” หญิงสาวยิ้มกว้าง ดวงตาเปล่งประกาย

 

 

“…ฉันสบายใจทุกครั้งที่แฝดอยู่กับเธอ” น้ำตาไหลอาบแก้มแมท แฝดน้อยยิ้มอ้อแอ้กับผู้เป็นแม่ แมทมองไวโอล่าก้มลงหยอกล้อกับลูกชายที่หัวเราะน่าเอ็นดู

 

 

“Good bye my marauder twins. I love you so much. Mama loves you so much baby. (ลาก่อนเจ้าแฝดตัวป่วนของแม่ แม่รักหนูมาก แม่รักหนูมากนะคะเจ้าตัวน้อย)” แมทนั่งน้ำตาไหลพราก หัวใจที่สงบไปในยามนอนสั่นสะท้านด้วยความหนาวเหน็บ ไวโอล่ายืดตัวขึ้นมองแมทและส่งยิ้มสุดท้ายให้ก่อนจะหายไปพร้อมกับที่แมทสะดุ้งตื่นขึ้นมา

 

 

 

 

ร่างเล็กเด้งตัวตื่นขึ้นมากลางดึก หันมองรอบตัวอย่างรวดเร็วแต่ก็ไม่พบกับคนที่กำลังคิดถึง แมทค่อยๆ ผ่อนลมหายใจให้อยู่ในระดับปกติ ก่อนจะคลานเข่าไปดูแฝด แล้วก็ต้องแปลกใจเมื่อแฝดกำลังลืมตาและยิ้มอ้อแอ้เหมือนที่เห็นในฝันเมื่อกี้นี้ แมทเงยหน้ามองรอบๆ ตัว น้ำตารื้นขึ้นมาด้วยความอ้างว้าง มือขวายื่นไปวางบนเสื้อโค้ทเพื่อกล่อมแฝด แต่ก็ต้องสะดุดกับบางอย่างในกระเป่าเสื้อโค้ทของไวโอล่า แมทเปิดกระเป๋าข้างของเสื้อดูก็เจอกับการ์ดหนึ่งใบ หน้าปกการ์ดเป็นรูปของตัวเองกับแฝดที่ไวโอล่าถ่ายไว้ให้มีประโยคสีขาวเขียนไว้หน้าการ์ดว่า

 

 

‘Happy Birth Day to God mother of twins!’

 

 

แมทเม้มปาก ยกการ์ดขึ้นมาแนบอก เงยหน้าขึ้นเพื่อไม่ให้น้ำตาไหลออกมา เสียงร้องแอะๆ ของแฝดทำให้ก้มลงไปมอง สองหนุ่มขยับปากแจบๆ เป็นสัญญาณบอกว่าหิวนม แมทคลี่ยิ้มปากสั่น เอื้อมมือไปหยิบตะกร้านมของแฝดก่อนจะลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องโถงเงียบๆ คนเดียว

 

 

พอเดินมาถึงครัว แมทก็หยิบถุงซิปล็อคใส่นมไวโอล่าออกมาวางไว้ด้านนอกสองถุง จัดการเอาน้ำใส่หม้อแล้วต้มน้ำให้เดือด รอไม่เกินห้านาทีน้ำก็เดือดเป็นฟอง แมทหันไปจัดการเทนมใส่ขวดด้วยความคล่องแคล่วแล้วก็เอาทั้งสองขวดแช่ลงไปในหม้อน้ำร้อน ระหว่างที่รอก็เปิดอ่านการ์ดที่ไวโอล่าทำให้

 

 

ถึงแมท แม่ทูลหัวของลูกชายฝาแฝดของฉัน

 

 

นี่เป็นวันเกิดแรกของเธอที่ฉันได้ให้ของขวัญกับเธออย่างเป็นทางการ ฉันอยากให้เธอมากเลยละ เพราะฉันไม่ค่อยได้ให้ของขวัญใครนักหรอก แม้แต่กับพี่ เพราะฉันไม่รู้จะให้อะไรเขา เนื่องจากพี่มีแทบทุกอย่างที่เขาอยากจะมีแล้ว มันเป็นเรื่องยากเหมือนกันนะ หรือแม้แต่กับแฟนฉัน ฉันยังเคยให้เขาแค่ครั้งเดียวเท่านั้นแหละ จากนั้นก็ไม่เคยให้อะไรกันอีกเลย แน่นอนว่ากับพ่ออย่าพูดถึง นอกเหนือจากคริสต์มาสก็ไม่เคยให้อะไรกันทั้งนั้นแหละ


 

 

แมทหยุดขำ น้ำตาเอ่อคลอตรงขอบตา รับรู้ความรู้สึกของเธอตอนเขียนการ์ดได้เลยว่าคงกำลังนั่งยิ้มขำอยู่คนเดียว

           

 

เรารู้จักกันไม่นานก็จริง แต่การที่ได้รู้จักเธอ ฉันก็ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมพี่รักเธอมาก ทำไมผู้ชายที่เคยคบผู้หญิงมาไม่กี่คนแต่นอนกับผู้หญิงมาหลายคนอย่างเขาจะรักเธอหัวปักหัวปำขนาดนี้ (อาจจะเว่อร์ แต่ฉันว่าจริงนะ) ฉันคิดว่าฉันเข้าใจเขาได้ เพราะฉันก็รักเธอ แต่ไม่ได้รักแบบพี่หรอกนะ รักแบบนั้นฉันคงโดนเขาโกงมรดกแน่ๆ

         

 

ไม่รู้สิ ฉันไว้ใจเธอ ฉันสบายใจที่ได้อยู่กับเธอนะแมท มันเป็นความโล่งอกโล่งใจอย่างหนึ่งของชีวิตเลยละเวลาที่อยู่กับเธอ ฉะนั้นพอฉันมีลูก ฉันเลยไม่ลังเลใจเลยถ้าลูกฉันจะอยู่ใกล้เธอ มีเธอคอยช่วยดูแล

 

 

และจริงๆ ฉันมีความลับอะไรจะบอกละ ก่อนแฝดจะเกิด พี่มาบอกว่าให้เธอช่วยดูแลแฝด ดึงเธอมาช่วยเลี้ยงแฝดให้ได้ เพราะเขาไม่อยากให้เธอทำงานนอกบ้าน ฉันก็ขำเขานะ แต่ฉันก็เห็นด้วยว่าถ้าได้เธอมาช่วยเลี้ยงฉันคงสบายใจมากแน่ๆ ฉันก็เลยตอบตกลงเขา และในที่สุดพี่ก็สมหวัง

         

 

เธอบอกว่าแฝดเป็นของขวัญวันเกิดของเธอ ฉันดีใจนะที่เธอรักแฝด และฉันก็ดีใจมากที่เธอกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเรา สุขสันต์วันอายุครบ 28 นะพี่สะใภ้!

         

 

Xoxo

         

 

Viola.

 

           

 

น้ำตาหยดลงบนการ์ดจนแมทต้องยกการ์ดหนีเพื่อไม่ให้น้ำตาตัวเองทำให้หมึกปากกาละลาย แมทปิดการ์ดใบนั้นและเอามันแนบกับอก เขายืนหลับตา ปล่อยให้ตัวเองร้องไห้แบบไม่คิดห้ามปราม หัวใจดวงน้อยสั่นสะท้านและรู้สึกร้าวรานกับการสูญเสียที่เพิ่งเคยเกิดขึ้นครั้งแรกในชีวิต เขาเคยคิดว่ามันเจ็บปวดแค่ไหน และเมื่อได้เจอกับมันจริงๆ มันก็เจ็บปวดกว่าที่คิดไว้มากจริงๆ

           

 

ขอบคุณนะไวโอล่า ขอบคุณความรักที่มีให้กัน

 

 



เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้


               R.I.P. Viola...

ออฟไลน์ wildride

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 105
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.33 100% :11.06.61:
«ตอบ #2349 เมื่อ11-06-2018 19:31:29 »

  :pig4:

 :hao5:   สำหรับวีที่นานๆจะปรากฎตัวสักที จะต้องโศกขนาดนี้เลย

   "เดี๋ยว - ก็กลับมาแล้ว.." .. มันเป็นประโยคบอกเล่าที่สะเทือนใจ
 

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.33 100% :11.06.61:
« ตอบ #2349 เมื่อ: 11-06-2018 19:31:29 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.33 100% :11.06.61:
«ตอบ #2350 เมื่อ11-06-2018 19:45:43 »

 :o12: :o12: :o12:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.33 100% :11.06.61:
«ตอบ #2351 เมื่อ11-06-2018 20:24:30 »

Nothing to say. Goodbye Viola

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.33 100% :11.06.61:
«ตอบ #2352 เมื่อ11-06-2018 21:03:41 »

 :impress3: :impress3:

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.33 100% :11.06.61:
«ตอบ #2353 เมื่อ11-06-2018 21:37:34 »

 :m15:

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.33 100% :11.06.61:
«ตอบ #2354 เมื่อ11-06-2018 22:12:13 »

น้ำตาท่วมมม แง้ๆๆๆ

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.33 100% :11.06.61:
«ตอบ #2355 เมื่อ11-06-2018 22:44:20 »

คิดอยู่แล้วว่าต้องมีเหตุให้วีไม่ได้กลับมา เพราะคำว่า แล้วเจอกัน แต่ไม่คิดว่า จะเศร้าได้ขนาดนี้ หวังว่า แฝดจะเป็นกำลังใจให้แมทอยู่ต่อไปอย่างเข้มแข็งนะ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.33 100% :11.06.61:
«ตอบ #2356 เมื่อ11-06-2018 23:01:48 »

 :mew2: :mew2: :mew2:

ออฟไลน์ farfarneenee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.33 100% :11.06.61:
«ตอบ #2357 เมื่อ12-06-2018 00:14:38 »

 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.33 100% :11.06.61:
«ตอบ #2358 เมื่อ12-06-2018 00:58:40 »

แอบกลัวว่าวีจะจากไปตั้งแต่ที่บอกจะยกแฝดให้แมทแรกๆแล้ว แต่ก็ไม่คิดว่าวีจะจากไปแบบนี้ สะเทือนใจมากเลย

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.33 100% :11.06.61:
«ตอบ #2359 เมื่อ12-06-2018 01:43:24 »

ร้องไห้ตามแมทไปเลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.33 100% :11.06.61:
« ตอบ #2359 เมื่อ: 12-06-2018 01:43:24 »





ออฟไลน์ a_tapha

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4981
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +397/-1
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.33 100% :11.06.61:
«ตอบ #2360 เมื่อ12-06-2018 08:33:32 »

สู้ต่อไปแมท และสู้ต่อไปคนอ่าน  :z3:

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.33 100% :11.06.61:
«ตอบ #2361 เมื่อ12-06-2018 10:13:57 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Wipers

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.33 100% :11.06.61:
«ตอบ #2362 เมื่อ12-06-2018 16:52:25 »

 :hao5: :mew4:การสูญเสียไม่ว่าจะสูญเสียอะไรมันก็ทำให้เราเศร้าได้ทุกที

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.33 100% :11.06.61:
«ตอบ #2363 เมื่อ15-06-2018 11:10:24 »


 :monkeysad:   :monkeysad:  มันมากกว่าคำว่าเสียใจ เป็นตอนที่อ่านแล้วร้องให้ไม่หยุด

ออฟไลน์ Elf_Carat

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.33 100% :11.06.61:
«ตอบ #2364 เมื่อ15-06-2018 11:30:40 »

 :a5: o22 ช็อคมากเลยอ่ะ ทุกอย่างกำลังจะดีมีความสุขแต่สุดท้ายก็ต้องแลกกับความสูญเสียอีกครั้งของวิคเตอร์ ขอให้มีความสุขเถอะนะ

ออฟไลน์ a_tapha

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4981
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +397/-1
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.33 100% :11.06.61:
«ตอบ #2365 เมื่อ19-06-2018 15:48:59 »

ดันๆ เข้ามาดัน  รอนะค่ะ :katai5:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.33 100% :11.06.61:
«ตอบ #2366 เมื่อ19-06-2018 16:38:29 »

 :katai5:

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.34 100% :21.06.61:
«ตอบ #2367 เมื่อ21-06-2018 18:54:57 »


Yours and Mine EP.34 :: In the memory of love. (ในความทรงจำแห่งรัก) [100%]



   ผมผ่านพ้นวันแห่งความเศร้ามาได้สองวันแบบเหงาใจ และยังคงรู้สึกเคว้งคว้างอ้างว้างในหลายๆ เวลา ถ้านิ่งเงียบนานๆ เมื่อไหร่ก็จะเริ่มน้ำตาคลอ ผมก็อยากจะหาอะไรทำให้ตัวเองไม่นิ่งไม่ว่าง แต่มันก็ไม่ได้มีอะไรให้ทำมากกว่า งานกวาดบ้าน ถูบ้าน ล้างจาน ซักผ้า งานบ้านจำพวกนี้ก็ใช่ว่ามันเป็นงานที่ต้องทำตลอด ก็มีการเลี้ยงแฝดนี่แหละที่ดูจะเป็นที่ต้องทำเกือบตลอด ได้พักนิ่งๆ สักสองสามชั่วโมง แล้วเอาเข้าจริงๆ ผมก็รู้แหละว่าถ้าหาอะไรทำให้ตัวเองไม่ว่างแบบนั้น มันก็เหมือนหลอกตัวเอง ก็เลยพยายามเยียวยาตัวเองแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่เร่งรีบ การปล่อยให้เวลารักษาใจเราไปตามกาลเวลาของมันน่าจะดีกว่า แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะไม่สู้เพื่อตัวเองเลย ผมคิดว่าร้องไห้ได้ เสียใจได้ แต่ก็ไม่ใช่ทุกช่วงเวลา เราต้องช่วยเวลารักษาตัวเราด้วย ปล่อยให้เวลาเป็นสิ่งเดียวที่รักษา ผมว่าก็อาจจะไม่พอ

           

 

“แอ แอ๊ แอ๊ แอออออ้”

           

 

“อัยยยย แอออออ แออออ๊”

           

 

สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมคลายเศร้า คลายความเหงาใจไปได้คือสองแฝดมิชลิน ความใสซื่อและความน่ารักของเด็กน้อยตัวจ้ำม่ำทั้งสองคนทำให้หัวใจผมหายห่อเหี่ยว ซึ่งตอนนี้สองหนุ่มกำลังนอนชูคออยู่บนผ้านวมในห้องโถงและกำลังสื่อสารกันสองคนในภาษาที่เข้าใจกันเอง ช่วงนี้ชูคอได้นานก็แข่งกันโชว์สกิลให้ผมดูกันใหญ่ คิดว่าตอนนี้คงกำลังเบ่งกันอยู่หรือเปล่าว่าฉันชูได้นานกว่าแก แกชูได้น้อยกว่าฉัน

           

 

“แฝดคุยอะไรกัน แมทคุยด้วยได้ไหมครับ” ผมนอนคว่ำหน้าบนผ้านวมตรงหน้าแฝด สองมิชลินมองผมตาแป๋วสักแปบก่อนจะคลี่ยิ้ม

           

 

“แอออ๊ / แอออ แอออ” ผมหัวเราะเบาๆ ด้วยความเอ็นดู

           

 

“อ๋อ แมทคุยด้วยได้เหรอ มีคำแปลมั้ยครับ” สองแฝดหันมองหน้ากันราวกับจะสื่อสารกันว่าทำยังไงดี ผมนอนขำกับตาโตๆ หน้าตื่นๆ ของทั้งสองคน

           

 

“แอว๊ แอออ๊ๆๆ” เฮคเตอร์ยื่นมือไปจับหัวน้องชายและปัดไปปัดมาก่อนจะคว่ำหน้าลงไปบนผ้านวม ผมขำไม่หยุด ดูท่าทางคงไม่อยากแพ้ เลยพยายามกดหัวน้องลงมาพร้อมกัน ไอ้คนพี่นี่แวววิคเตอร์สุดแล้ว

           

 

“เฮคเตอร์ หนูจะเหมือนลุงยักษ์แต่เด็กแบบนี้ไม่ได้นะลูก มันอันตราย” ผมลูบหัวสีน้ำตาลแซมทองของแฝดพี่เบาๆ

           

 

“คุยไรกันวะไอ้ลูกหมู” พูดถึงก็มาพอดี วิคเตอร์ออกไปจัดการเรื่องพิธีงานศพมา ทั้งเรื่องการจองโบสถ์ เรื่องหลุมฝังศพ และอื่นๆ ตามศาสนาของทางคริสต์ที่ศาสนาพุทธอย่างผมก็ไม่ได้รู้ละเอียดมาก ปล่อยให้วิคเตอร์เป็นคนจัดการ สำหรับคริสเตียน พ่อเขาติดต่อมาแล้ว วิคเตอร์คุยกับทางนั้นให้เข้าใจตรงกันว่าอยากจะขอให้ร่างของทั้งสองคนฝังใกล้กัน ทางฝั่งพ่อคริสเตียนไม่ติดขัดอะไร และยินดีที่จะให้ทำพิธีทั้งคู่พร้อมกันด้วย

           

 

‘I know he loves this girl so much. (ผมรู้ว่าเขารักผู้หญิงคนนี้มากแค่ไหน)’

           

 

ผมเพิ่งรู้ (แน่ละว่าต้องเพิ่งรู้) ว่าครอบครัวคริสเตียนไม่ได้มีฐานะเท่าไหร่ แม่เขาเสียไปแล้ว เขาอยู่กับพ่อแค่สองคน และตอนนี้พ่อเขาก็อายุมากด้วย ผมยังนึกเป็นห่วงเลยว่าเขาจะอยู่ได้ยังไง แต่วิคเตอร์บอกว่าทางพ่อคริสเตียนดูจะโอเคกับการอยู่คนเดียว ผมคิดว่าเขาคงเสียใจมากกว่าผมอยู่แล้ว ยิ่งคิดว่าจากที่เขาเคยมีลูกชาย แต่ตอนนี้เขาไม่เหลือใคร เขาจะเป็นยังไงบ้าง จะเหงาและเคว้งคว้างมากกว่าผมแค่ไหนกัน ผมภาวนาว่าอย่างน้อยขอให้เขายังมีญาติห่างๆ หรือเพื่อนบ้านคอยดูแลเขาแทนลูกชาย

           

 

“ฉันจะตั้งศพแค่พรุ่งนี้วันเดียว…” วิคเตอร์นั่งลงบนโซฟา ผมดันตัวลุกขึ้นนั่ง มองหน้าเขาด้วยความสงสัยนิดหน่อย วิคเตอร์ถอนหายใจก่อนจะว่าต่อ

           

 

“…มะรืนนี้ก็ปีใหม่แล้ว ฉันไม่อยากให้เราเริ่มต้นปีด้วยความเศร้าไปมากกว่านี้ วีก็คงคิดแบบฉัน” ผมพยักหน้าด้วยความเข้าใจ เป็นการส่งท้ายปีที่เศร้าเหลือเกิน

           

 

“แล้วพ่อคุณล่ะ”

           

 

“เขาก็โทษเราสองคนว่าทำให้วีตาย ฉันอธิบายไปแล้ว แต่ดูเขาจะไม่สนใจ ฉันเลยไม่อยากพูดอีก เขาจะมาเอาไอ้ลูกหมูกลับไปอยู่ด้วยให้ได้ เขากลัวว่าเราจะทำให้เด็กๆ ตามแม่ไป” ผมขมวดคิ้ว สัญชาตญาณความผูกพักและความหวงพุ่งขึ้นมาทันที

           

 

“ไม่ได้ ผมไม่ให้ ครั้งนี้ผมไม่ยอมพ่อคุณจริงๆ นะ” ไวโอล่าไว้ใจให้ผมดูแลลูกเธอแล้ว ผมจะทำลายความไว้ใจนั้นด้วยการยกให้คนอื่นได้ยังไง แม้คนๆ นั้นจะเป็นปู่ของแฝดก็เถอะ

           

 

“แล้วฉันจะรับไอ้ลูกหมูสองตัวนี้เป็นลูกบุญธรรมเราไปทำไมล่ะ” วิคเตอร์เลิกคิ้วขึ้น ผมยังคงหน้าบึ้งนิดๆ

           

 

“อาดอมก็บอกแล้วว่าข้อความในการ์ดใช้เป็นการยืนยันในการรับแฝดเป็นลูกเราได้ พ่อคุณเอาแฝดไปไม่ได้หรอก” ผมให้วิคเตอร์อ่านการ์ดใบนั้น แล้วเขาก็เอาไปปรึกษากับดอมินิกเรื่องการรับแฝดเป็นลูกบุญธรรม เพื่อที่เราจะได้มีสิทธิ์ในตัวแฝดเต็มที่ อาดอมบอกว่าข้อความที่ไวโอล่าเขียนถือว่าใช้ได้ในการยื่นทำเรื่องดูแลแฝด เพราะข้อความระบุไปในทางที่ว่าคนเป็นแม่ไว้ใจ และยินยอมกลายๆ หากผมจะเป็นคนดูแลแฝดทั้งสองคน ซึ่งเดี๋ยวจะต้องมีการพิสูจน์อย่างอื่นอีก ผมก็ไม่วอรี่ ทะเบียนผมก็จดกับวิคเตอร์เรียบร้อยแล้ว ถามเรื่องอะไรเกี่ยวกับแฝดผมก็พร้อมตอบ

           

 

“หวงมันจังนะ หวงมากกว่าฉันอีกเนี่ยตอนเนี้ย” วิคเตอร์มองผมด้วยความหมั่นไส้ ผมมุ่ยหน้า ยังคงรู้สึกไม่พอใจพ่อวิคเตอร์อยู่นิดๆ

           

 

“แอออ้!” คิ้วที่ขมวดกันอยู่คลายออกจากกันเมื่อแฮคเตอร์ตั้งคอขึ้นแล้วส่งเสียงร้องพร้อมกับมองไปทางวิคเตอร์ ผมหลุดหัวเราะทันที

           

 

“อะไรไอ้หมู” แฮคเตอร์ชูคอมองหน้าลุงยักษ์สักแปบก่อนจะหันกลับมามองผมแบบงงๆ

           

 

“ลุงยักษ์เขาว่าหนูอยู่ครับ” แฮคเตอร์ขยับปากแหงบๆ แล้วหันไปมองพี่ชายก่อนจะส่งเสียงเรียกพี่ตัวเอง

           

 

“แออออ๊ แอ๊ววว” แล้วผมก็ต้องหัวเราะต่อเนื่องเพราะเฮคเตอร์ผงกหัวขึ้นฟึบมองหน้าน้องชาย แล้วที่ทำเอาผมขำเสียงดังมากในรอบสามวันที่ผ่านมาคือการที่แฮคเตอร์หน้านิ่วคิ้วขมวด เหมือนกำลังดุพี่ชายว่าไม่รู้เรื่องอะไรเลย

           

 

“อืออๆ อือออ แอะๆ” สามวันก่อนผมร้องไห้ด้วยความเสียใจ รู้สึกปวดใจ แต่ตอนนี้ผมกำลังน้ำตาไหลด้วยความตลกและเอ็นดูแฝดลูกหมูของลุงยักษ์

           

 

“ฮื่อออๆ ฮื่อออ!”

           

 

“ฮ่าๆๆ” ผมหัวเราะที่เฮคเตอร์คำรามและยกสองมือปาดน้ำตาออกจากแก้ม

           

 

“ขู่เก่งนักนะ เดี๋ยวจะโดนเตะ” วิคเตอร์เลื่อนตัวลงมานั่งข้างล่าง เขาอุ้มเฮคเตอร์ให้ยืนขึ้น สองมือจับใต้รักแร้ของมิชลินเบอร์หนึ่งเอาไว้ ผมขยับตัวไปอุ้มให้แฮคเตอร์ขึ้นมายืนบ้าง ด้วยความที่ยังไม่ถึงวัยตั้งไข่ แฝดเลยทำท่าจะล้มลงอยู่ตลอด จึงต้องประคองเอาไว้ไม่ให้ล้มลงไปกองกับพื้น

           

 

“อยากโดนไล่ออกจากบ้านเหรอ”

           

 

“อั๊ยๆๆๆ” ผมหัวเราะต่อเนื่องไปยาวๆ เมื่อเฮคเตอร์ส่งเสียงเถียงลุงยักษ์ ไอ้ยักษ์มัดผมจุกเบิกตากว้างมองหลาน

           

 

“อะโห ปากเก่งแต่เด็ก เก็บไว้ไม่ได้แล้วมั้ง”

           

 

“แอ๊ะ!” แฮคเตอร์ช่วยพี่ชายเถียง ผมจับใต้รักแร้เขาไว้เบาๆ ทั้งที่นั่งขำจนตัวสั่น สองแฝดดีดขาไปมา เด้งตัวโยงโย่โยงโหยะแบบเด็กที่ขายังไม่แข็งแรงแม้แต่จะตั้งไข่ได้

           

 

“คิดผิดซะแล้วมั้งที่จะรับแกสองคนเป็นลูกฉันกับเมียฉันเนี่ย” วิคเตอร์หรี่ตามองแฝดทั้งสองคน สองลูกหมูของลุงยักษ์กะพริบตาปริบๆ และหันมองหน้ากันแบบงงๆ ก่อนจะสื่อสารกันเองอีกรอบ

           

 

“แอ๊วววๆ อิ้ววว / อ้าาา อึมมมๆๆ” ผมหยุดหัวเราะไม่ได้ น้ำตาก็ไหลไม่หยุด ขำยิ่งกว่าดูตลกสิบคณะรวมกันได้แล้วมั้งตอนนี้ คิดไม่ผิดเลยที่แต่งตั้งให้แฝดเป็นองครักษ์พิทักษ์ผม

           

 

“คิดจะสองรุมหนึ่งงั้นเหรอ ฉันไม่กลัวพวกแกหรอกนะ” เฮคเตอร์ทำท่าโผเข้าหาวิคเตอร์ แต่เขาดันตัวหลานเอาไว้ไม่ให้เข้าไปหา เฮคเตอร์เลยร้องไห้จ้าขึ้นมา แต่พอลุงยักษ์พลิกตัวหันหลังแล้วพานั่งตัก เจ้าตัวดีก็เงียบทันทีแล้วก็แหงนหน้าขึ้นมองลุงยักษ์ด้วยความฉงนสงสัย

           

 

“เด็กขี้โกหก” ผมเอาแฮคเตอร์นั่งตักบ้าง คนน้องดูไม่เฮี้ยวเท่าคนพี่ แต่ก็พร้อมเป็นกำลังเสริมหรือตัวยุตลอดเวลา ก็น่าจะพอกัน แค่แสบคนละสไตล์ โตขึ้นลุงยักษ์จะต้านไหวรึเปล่าเถอะ

           

 

“มันกินนมกันรึยังเนี่ย” วิคเตอร์ถามพลางปล่อยให้หลานกำนิ้วมือตัวเอง เฮคเตอร์พิงตัวลุงยักษ์เเอ้งเม้งอย่างสบายใจ

           

 

“กินแล้ว…” ผมยกมือขึ้นปาดน้ำตาเพราะหัวเราะหนักมากเมื่อกี้ทิ้งก่อนจะยิ้มอย่างเศร้าสร้อย หัวใจที่เบิกบานเมื่อครู่แทบจะกลับมาห่อเหี่ยวทันทีเมื่อพูดถึงเรื่องนี้

           

 

“…นมไวโอล่าสองถุงสุดท้ายเพิ่งหมดไปเมื่อเช้า ไม่มีนมเธอเหลืออีกแล้ว” หัวใจผมกระตุกวาบแล้วก็กลับมาเต้นในจังหวะที่ไม่ค่อยจะปกติ

           

 

แฝดเพิ่งดูดนมแม่สองถุงสุดท้ายไปเมื่อเช้า ผมนั่งป้อนไปร้องไห้ไป เพราะความใจหายที่หลังจากนี้จะไม่มีนมแม่ที่แฝดโปรดปรานให้พวกเขาได้กินกันอีก ไม่มีใครมานั่งคั้นตุนไว้ในตู้เย็นให้อีกแล้ว บวกกับความคิดถึงที่คงไม่หายไปจากความคิดและความรู้สึกก็ยิ่งทำให้ผมน้ำตาไหลออกมา ถึงแม้ผมกับไวโอล่าจะฝึกให้แฝดกินนมผงแล้ว แต่ผมยังคงความรู้สึกเดิมที่ว่าแฝดดูจะชอบนมแม่มากกว่านมผง แต่จากนี้ไปคงต้องช่วยแฝดปรับตัวให้กินนมผงให้ได้เหมือนที่กินนมแม่ ผมเป็นกังวลกลัวว่าถ้านมไม่ถูกปากน้ำหนักจะลดลงแล้วป่วยหรือเปล่า ได้แต่คิดในแง่ดีว่า สามเดือนที่ได้รับนมแม่เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์นั้นจะทำให้แฝดสุขภาพร่างกายแข็งแรงดี

           

 

“แต่กินนมอย่างอื่นได้นี่”

           

 

“กินได้ แต่ก็คงไม่เหมือนนมแม่…” ผมเอ่ยด้วยความรู้สึกเศร้าใจ ยกมือลูบหัวแฮคเตอร์เบาๆ

           

 

“…ผมอยากไปขอนมแม่ลูกอ่อนมาสักคนด้วยซ้ำ ผมอยากให้แฝดได้รับนมแม่ครบหกเดือนอย่างที่ไวโอล่าตั้งใจเอาไว้” วิคเตอร์ขมวดคิ้วพลางเขย่าขาให้ตัวเฮคเตอร์เด้งดึ๋งๆ มิชลินเบอร์หนึ่งนั่งแก้มยุ้ยให้ลุงยักษ์เขย่าตัวเอง

           

 

“แล้วจะไปหานมแม่นั้นมาจากไหนล่ะ แถวนี้เราก็ไม่รู้จักใคร คนใกล้ตัวพวกเราก็ไม่มีใครท้องเลยสักคน” ผมถอนหายใจเบาๆ ด้วยความรู้สึกเศร้าๆ นอยด์ๆ ที่แฝดจะไม่ได้กินนมแม่ ผมก็รู้แหละว่านมผงที่หมอแนะนำมานั้นก็ดีแล้ว แต่เหมือนตอนนี้ผมเอาความรู้สึกไวโอล่ามาฝังในตัวไปแล้วว่าอยากให้แฝดได้กินนมแม่ครบหกเดือน

           

 

“ถ้าไม่มีก็คงต้องปรับให้แฝดกินนมผงจนคุ้นเคย”

           

 

“เชื่อฉันสิ ไอ้ลูกหมูมันกินได้สบายมาก” ผมพยักหน้าเบาๆ ทำหน้ายอมรับอย่างจำใจด้วยความจำยอม เพราะก็ไม่รู้จะไปเสาะหานมคุณแม่ลูกอ่อนจากที่ไหนมาให้แฝดกินจริงๆ

           

 

“พวกคุณเบนเดินทางมาถึงแล้วนะครับ แต่พวกเขาจะนั่งรถกันมาเอง” ผมหันไปมองออสตินที่เดินเข้ามายืนเอามือกุมกันไว้ด้านหน้าแบบที่ไม่หลุดมาดบอดี้การ์ด

           

 

“ไอ้อันเดรคงนำทางมาได้” ออสตินหันมามองทางผมแล้วก็มีสีหน้าอึดอัดเล็กน้อยจนผมประหลาดใจ

           

 

“มีอะไรเหรอออสติน”

           

 

“ผมขอโทษที่เสียมารยาท แต่ผมได้ยินเรื่องหานมแม่ให้แฝดกินน่ะครับ…” ผมทำปากว่าอ๋อและพยักหน้าหงึกๆ

 

 

“…พอดีภรรยาของเจ้าของหมาที่ไมเคิลชอบอยู่ เขาเพิ่งคลอดลูก ผมเลยคิดว่าอาจจะลองถามเขาให้ดูได้น่ะครับ” ผมอ้าปากค้างด้วยความรู้สึกตื่นเต้น

           

 

“จริงเหรอ?!”

           

 

“ผมไม่รับปากนะครับ แต่ผมจะลองถามเขาดูก่อน” ผมพยักหน้าแรงๆ ด้วยความดีใจ มีความหวังแม้เพียงน้อยนิดก็ยังดีกว่าไม่มีเลย

           

 

“ฝากถามเขาหน่อยนะ ถ้าเขาไม่สะดวกก็ไม่เป็นไร…” แต่ใจผมก็หวังให้เขาสะดวกแหละ แต่ก็ไม่รู้หรอกว่าคุณแม่คนนั้นจะผลิตน้ำนมได้เยอะมากแค่ไหน ถึงผลิตได้เยอะเธอก็อาจจะอยากเก็บเอาไว้ให้ลูกตัวเองก็ได้

           

 

“…แล้วไมเคิลกับสาวตัวนั้นล่ะเป็นไงบ้าง”

           

 

“ก่อนที่ไวโอล่าจะ เอ่อ…” เขาก้มหน้าลง สีหน้าอึกอัก

           

 

“ไม่เป็นไรหรอก” ผมยิ้มบางให้เขา ออสตินพ่นลมหายใจเบาๆ

 

 

“ก่อนจะเกิดเรื่องขึ้นผมพาไมเคิลไปหาเธอมา ทั้งคู่ก็มีปฏิสัมพันธ์กันไปแล้ว” ผมคลี่ยิ้มขำกับการเลือกใช้คำของออสติน ใช้คำสุภาพเชียว ผมหันไปมองวิคเตอร์ที่ไหวไหล่กลับมาแบบชิลๆ

 

 

“ขอบใจมากออสตินที่หาเมียให้ไมเคิลมันจนได้” วิคเตอร์ว่ายิ้มๆ พ่อบอดี้การ์ดหัวเกรียนกระตุกยิ้มน้อยๆ

 

 

“คุณก็อย่าน้อยหน้านะ ไดอาน่ารออยู่” เป็นอีกครั้งที่ผมได้เห็นออสตินหน้าแดง เขาไม่ตอบอะไร ทำเพียงก้มหน้าลงนิดหนึ่งก่อนจะเดินผ่านเราสองคนไปทางครัว ผมมองเขาแล้วยิ้มตาม อีกใจก็นึกหมั่นไส้ ต่อหน้าวิคเตอร์ล่ะไม่มีจิกกัดผมสักแอะ ลับหลังกัดจนแหวะไปหมด แต่อย่าคิดฟ้องไอ้ยักษ์เลย เข้าข้างน้องชายต่างสายเลือดอยู่ดีแหละ

 

 

“อ้าว หลับ” วิคเตอร์ก้มลงมองเฮคเตอร์ที่ตอนนี้นั่งเอนหลังหลับอยู่บนตัวลุงเตอร์แบบสบายกายจ้ำม่ำๆ นั่นเหลือเกิน เห็นแก้มแดงๆ ย้อยจนยุ้ยแล้วก็มันเขี้ยว

 

 

“ค่อยๆ อุ้มเขาออกมานอนนะ” วิคเตอร์ค่อยๆ ใช้สองมือยกตัวอ้วนๆ ของมิชลินเบอร์หนึ่งออกจากตักตัวเอง ผมดึงฟูกนอนของเฮคเตอร์มาให้ วิคเตอร์วางเจ้าตัวเล็กที่หลับปุ๋ยลงบนนั้น ผมก้มลงมองแฮคเตอร์ ขานี้ยังนั่งเล่นน้ำลายสนุกสนานอยู่

 

 

“คุณหลับบ้างมั้ย ออกจากบ้านไปแต่เช้าเลย” วิคเตอร์พยักหน้าน้อยๆ ก่อนจะลุกขึ้นชันเข่าแล้วบิดขี้เกียจ เขาคลานเข่าขึ้นไปนอนบนโซฟา ผมหยิบฟูกอีกอันมาวางไว้ตรงหน้าแล้วอุ้มแฮคเตอร์ให้นอนลงบนนั้น อีกสักพักเดี๋ยวก็หลับตามพี่ชายไปเอง ผมมองหากล่องดนตรีที่ไวโอล่าซื้อให้ มันวางอยู่บนโต๊ะญี่ปุ่นข้างโซฟาที่วิคเตอร์นอนอยู่ ผมหยิบมากดเปิดให้แฝดฟังเพื่อขับกล่อมให้นอน (กลางวัน) หลับสบาย เสมือนว่ามีไวโอล่ามาขับกล่อมอยู่ข้างๆ กัน

 

 

“It may not beautiful as mommy voice as you hear every night, but I think it’s okay, hmmm? (มันอาจไม่เพราะเท่าเสียงคุณแม่ที่หนูได้ยินทุกคืน แต่แมทคิดว่ามันก็โอเคนะ หื้มมม)”

 

 

“อ้อววว แอววว” ผมคลี่ยิ้มพลางลูบหัวมิชลินเบอร์สองที่ยังนอนมองผมตากลมแล้วก็คลี่ยิ้มหวาน ผมโน้มตัวลงหอมแก้มยุ้ยสีแดงอย่างแผ่วเบา

 

 

“I miss your mommy so much.” ผมกระซิบ แฮคเตอร์ดีดแขนในอากาศ เปลือกตาขยับอ่อนๆ กระบอกตาผมร้อนผ่าว เสียงลมหายใจเริ่มสั่นเบาๆ พอกะพริบตาหนึ่งครั้งน้ำตาก็หยดลงบนพุงเสื้อยืดสีขาวของแฮคเตอร์ ผมรีบยกมือซ้ายเช็ดน้ำตาออกจากแก้ม นั่งก้มหน้าลูบหัวแฮคเตอร์เพื่อกล่อมให้เขาหลับ สายตาผมเหม่อไปเรื่อย ในหัวคิดถึงแต่ไวโอล่าแล้วก็มีคริสเตียนแทรกเข้ามาบ้าง

 

 

‘ฉันมีเรื่องจะให้ช่วย’

 

 

ผมนึกถึงสิ่งที่คริสเตียนเอ่ยปากขอให้ช่วยก่อนจะจากไป นิ่งครุ่นคิดสักแปบว่าจะทำยังไงดี เดี๋ยววิคเตอร์ตื่นแล้วคงต้องปรึกษากัน มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตหรือลึกลับ แค่มันเกินกำลังผมเท่านั้นเอง

 V
v
v

 

 

 

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.34 100% :21.06.61:
«ตอบ #2368 เมื่อ21-06-2018 18:56:57 »

V
v
v

 “เธอและเขาได้กลับคืนสู่อ้อมกอดของพระผู้เป็นเจ้า…”  เสียงของหลวงพ่อพูดปิดท้ายอย่างนุ่มทุ้มอยู่ตรงหน้าหลุมศพสองหลุม

 

 

ผมยืนอุ้มเฮคเตอร์ในชุดเสื้อแขนยาวสีขาวกับเอี๊ยมสียีนและมีเสื้อกันหนาวคลุมอีกชั้น ไดอาน่าอุ้มแฮคเตอร์ในชุดที่เหมือนกัน สองหนุ่มมองเหตุการณ์ตรงหน้าแบบงงๆ ผมยืนมองพวกวิคเตอร์ช่วยกันนำโลงศพสีดำของไวโอล่าลงไปในหลุมช้าๆ ด้วยน้ำตา ขอบตาผมบวมแล้วบวมเล่า ตาสีขาวแดงก่ำเพราะร้องไห้ติดกันหลายชั่วโมง

 

 

“อือ” เฮคเตอร์หันมามองผม ตาสีฟ้าอมเทาของเขาเลื่อนขึ้นเลื่อนลงมองผมงงๆ ผมกระตุกยิ้มขำ เจ้าตัวน้อยยื่นนิ้วชี้ขวามาแตะแก้มผมเบาๆ ผมหลับตาแล้วยิ้ม

 

 

“Thank you.” ผมหอมแก้มเขาหนึ่งทีแล้วยกมือซ้ายขึ้นลูบหัวเขาเบาๆ

 

 

“No. Matt can’t hold both of you at the same time. (ไม่จ้ะ แมทอุ้มหนูสองคนในเวลาเดียวกันไม่ไหวหรอกนะ)”

 

 

“อื้ออ อือออ!” ผมหันไปมองไดอาน่าในชุดเดรสสีดำเรียบหรู แฮคเตอร์เบะหน้าจะร้องไห้ ยื่นมือซ้ายป้อมๆ มากำตรงหน้า

 

 

“It’s okay, Diana. (ไม่เป็นไรไดอาน่า)” ผมเบี่ยงตัวไปด้านซ้าย แฮคเตอร์กางสองแขนออกแล้วโผตัวเข้ามาหา ผมอ้าแขนซ้ายรับตัวเขาเข้ามาอุ้มไว้ แม้จะหนักเหมือนเคย แต่ผมก็อยากให้แฝดรู้สึกอุ่นใจในเวลานี้ ตอนแรกผมอุ้มไว้ด้วยกันแหละ แต่สักพักก็เริ่มล้าเลยให้ไดอาน่าช่วยอุ้ม

 

 

“Sleep tight, Viola.” ผมพึมพำพลางมองดินที่ถูกโกยลงหลุม เสียงดินกระทบกับแผ่นฝาโลงศพนั้นทำให้ใจผมสั่นคลอน ผมยืนน้ำตาไหลเงียบๆ วิคเตอร์ในชุดสุทสีดำเรียบร้อยเดินกลับมาหาผม เขาเองก็ตาแดงจางๆ แฮคเตอร์ที่เห็นลุงยักษ์ก็หันไปมอง ผมเลยส่งเจ้าคนน้องให้เขาไปช่วยอุ้ม เจ้าหน้าที่ของโบสถ์ช่วยกันโกยดินใส่หลุมทั้งสองจนเสร็จเรียบร้อย ผมมองป้ายหินสีขาวทั้งสองอันบนหลุมศพด้วยความรู้สึกมึนชา

 

 

วันนี้มีคนไม่เยอะมาก มีพวกเบนเนดิคท์มาร่วมงานทุกคน เพราะทุกคนรู้จักไวโอล่าหมด อาดอมินิกก็มากับภรรยา เพราะทั้งคู่เห็นไวโอล่ามาตั้งแต่เด็ก เพื่อนไวโอล่าก็มา ซึ่งผมเพิ่งเคยพบเพื่อนเธอก็วันนี้ เธอมีเพื่อนสนิทอยู่สามคนเท่านั้น แต่ก็คงจะเป็นเพื่อนแท้ของเธอ และวันนี้ผมก็ได้เห็นพ่อคริสเตียน เขาอายุมากแล้ว แต่ท่าทางยังดูแข็งแรงอยู่ เขามากับผู้ชายอายุน้อยกว่าผม ทราบว่าเป็นเด็กข้างบ้านที่ชอบมาเล่นกับเขาตั้งแต่เด็กและนับถือเขาเป็นคุณลุงคนหนึ่ง รู้แบบนั้นผมก็สบายใจ

 

 

และแน่นอนว่าคุณลุคกับตีน่าก็มา ลิซ่าก็มาด้วย แต่เราไม่ได้คุยกันหรอก มีแค่ตีน่าที่ท้องนูนขึ้นเยอะเข้ามาทักทายและเล่นกับแฝด ผมเองก็ไม่ได้ปรารถนาจะคุยกับสองคนนั้น

 

 

ทุกคนที่มาเป็นคนที่รู้จักและรักไวโอล่า ทุกอย่างเรียบง่ายแต่ก็อบอุ่น

 

 

“Flowers. (ดอกไม้ครับ)” ออสตินเดินเอาดอกกุหลาบสีแดงที่เลาะหนามออกแล้วมายื่นให้วิคเตอร์กับผม เรารับมาถือไว้ในมือ แบ่งให้แฝดถือคนละดอก เด็กน้อยก็กำตามสัญชาตญาณโดยไม่รู้หรอกว่านั่นคือดอกไม้ให้ผู้เป็นแม่

 

 

“Give it to mommy. (ยื่นดอกไม้ให้คุณแม่สิครับ)” ผมนั่งคุกเข่า อุ้มแฝดในท่าช้อนก้น แขนซ้ายโอบตัวเขาไว้กันหล่น เฮคเตอร์เหวี่ยงดอกไม้ขึ้นลง

 

 

“อั๊ย อั๊ย อั๊ย” ผมหัวเราะทั้งน้ำตากับเสียงร้องของเด็กวัยสามเดือน ทั้งตลกและทั้งเศร้ากับความบริสุทธิ์ของเจ้าตัวเล็กที่ไม่รู้ว่าแม่ของตัวเองนอนหลับไหลไปตลอดกาลอยู่ใต้พื้นดินอันเย็นเยือกนี้

 

 

“It’s your mommy favorite flower. (ดอกไม้ที่คุณแม่ชอบไงครับ)” ไวโอล่าชอบดอกกุหลาบสีแดง ผมเคยถามว่าทำไม เธอบอกว่าเป็นดอกไม้ดอกแรกที่คริสเตียนมอบให้ตอนออกเดทกัน ตอนนั้นเธอมองว่ามันเห่ยมากกับดอกไม้ชนิดนี้ แต่รู้ตัวอีกทีเธอก็ชอบไอ้ดอกไม้แสนเห่ยนี้ไปซะแล้ว

 

 

“Put it down, piggy. (วางลงสิลูกหมู)” วิคเตอร์บอกแฮคเตอร์ที่ยื่นดอกไม้มาข้างหน้าอย่างกับจะเอามาตีพี่ชายตัวเอง

 

 

“Say ‘Mommy I love you’. (บอกคุณแม่ซิครับว่าผมรักแม่)” ผมกระซิบบอกเฮคเตอร์ มิชลินเบอร์หนึ่งปล่อยดอกกุหลาบแหมะลงบนฐานแผ่นป้ายหินเหนือหลุมศพที่มีเศษหิมะติดอยู่ แล้วพอเห็นพี่ชายปล่อยแหมะ เจ้าน้องชายก็เลยปล่อยลงบ้างเช่นกัน ผู้คนที่ยืนดูอยู่ส่งเสียงหัวเราะเบาๆ

 

 

“งึมมมๆ อึมมมมๆๆๆ / อ๊ะ!” สองแฝดทำท่าโผเข้าไปหาแผ่นหิน ผมกับวิคเตอร์เลยอุ้มทั้งสองเข้าไปใกล้ๆ สองหนุ่มตีแผ่นหินดังแปะๆ และยิ้มเอิ๊กอ้ากกันสองคน ผมยกแขนซ้ายขึ้น ก้มหน้าลงเช็ดน้ำตากับชุดสูทสีดำ พอเห็นว่าแฝดเริ่มนิ่งแล้วก็วางดอกไม้ของตัวเองตามลงไปก่อนจะอุ้มแฝดไปที่หลุมศพของคริสเตียนที่อยู่ข้างกัน

 

 

“Dady is here, too. (คุณพ่อก็อยู่นี่นะครับ)”

 

 

“ฮึ” เฮคเตอร์แหงนหน้าขึ้นมองผมงงๆ ผมยิ้มขำกับน้ำเสียงที่ทำอย่างกับผู้ใหญ่ ผมยัดดอกไม้ใส่มือเฮคเตอร์ วิคเตอร์ก็ทำแบบนั้น คราวนี้ไม่เสียเวลาเหวี่ยงเล่น กำไว้แปบเดียวสองหนุ่มก็ปล่อยแหมะลงบนฐานป้ายหินทันที แล้วก็ส่งเสียงงึมงำๆ กันสองคนในลำคอ สงสัยสื่อสารกับพ่ออยู่

 

 

“Take care twin’s angel for us please. (ดูแลนางฟ้าของแฝดให้พวกเราด้วยนะ)” ผมกระซิบบอกเหนือหลุมศพคริสเตียนพร้อมกับวางดอกกุหลาบลงบนนั้น วิคเตอร์อุ้มแฮคเตอร์ขึ้นเดินนำออกไปก่อน ผมค่อยๆ ลุกขึ้นตาม ยืนมองหลุมศพทั้งสองที่อยู่ใกล้กันด้วยความคิดถึงจับใจ แล้วก็หมุนตัวเดินออกมาเพื่อให้คนอื่นได้วางดอกไม้เช่นกัน

 

 

ผมจับสองหนุ่มกลับลงไปในรถเข็น เพื่อจะได้ไม่ต้องปะทะกับอากาศเย็นจัดนาน ก่อนจะเริ่มพิธีฝัง มีหิมะตกลงมาบางๆ ดีที่ว่าตอนนั้นเราทำพิธีอยู่ตรงบริเวณโบสถ์กันอยู่เลยมีที่หลบ ผมไม่ใช่คริสต์ แต่ก็หันไปภาวนากับพระเจ้าในโบสถ์ว่าขอให้หิมะหยุดตกสักแปบเพื่อความสะดวกในการทำพิธี แม้มันจะดูสวยดีที่ฝังศพท่ามกลางหิมะ แต่มันก็ไม่สะดวกเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าท่านช่วยหรือหิมะมันตกลงมาแค่นั้น ผ่านไปเกือบสองชั่วโมงมันก็หยุดเอง

 

 

“We are going to have new year party, okay? (เราจะมีงานเลี้ยงปีใหม่นะ โอเคมั้ย)” วิคเตอร์หันมาบอก ผมพ่นลมหายใจยาวๆ แล้วพยักหน้า

 

 

“But not too much. No alcohol please. (แต่อย่าเยอะไปนะ แล้วก็ไม่มีเหล้าเถอะ)” วิคเตอร์พยักหน้า เขาคงไม่อยากให้บรรยากาศมันเศร้าไปมากกว่านี้ และตอนนี้เพื่อนๆ ทุกคนก็อยู่กันครบ เขาก็คงอยากจะจัดปาร์ตี้ข้ามปี มันเร็วไป แต่พี่ชายที่รู้จักน้องสาวดีอย่างวิคเตอร์ก็บอกว่า ไวโอล่าไม่คิดขัดขวางหรือน้อยใจหรอก ถ้าสื่อสารกันได้ เธอคงบอกให้จัดตามสบายได้เลย

 

 

ผมยืนมองคนอื่นๆ ไปวางดอกไม้ไว้อาลัยให้กับไวโอล่าและคริสเตียน ส่วนมากก็เป็นดอกกุหลาบ แล้วก็มีดอกลิลลี่สีขาวปนมาบ้าง เพื่อนสนิทของไวโอล่ากอดคอกันร้องไห้อยู่ตรงหน้าหลุมศพของเธอ คุณลุคที่แม้จะเจ้าอารมณ์ แต่วันนี้ก็มีทีท่าที่สงบลง ผมไม่รู้ว่าตอนเขารู้ข่าวเขามีปฏิกิริยายังไง ก็คงเสียใจตามประสาคนเป็นพ่ออยู่แหละ

 

 

“วิคเตอร์ คริสเตียนเขาฝากให้ช่วยบางเรื่องก่อนเขาจะจากไป” ผมพูดขึ้นมาทันทีที่นึกขึ้นได้ วิคเตอร์หันมามองงงๆ

 

 

“ไปคุยกันตอนไหน”

 

 

“ก่อนเขาจะออกไปจากบ้านพร้อมไวโอล่าสักพัก ตอนที่คุณไม่อยู่”

 

 

“มันมีอะไรให้ช่วย” ผมกระแอมคอเบาๆ แล้วค่อยพูด

 

 

“คริสเตียนถูกเพื่อนโกงเงินไป เงินอันนั้นเขาตั้งใจทำงานเก็บไว้ให้แฝด เขาพยายามตามหาเพื่อนคนนั้นแล้วทวงเงินคืน แต่ก็ยังไม่สำเร็จ เขาเลยคิดว่าคุณน่าจะช่วยได้” วิคเตอร์ขมวดคิ้ว

 

 

“เงินที่มันได้มาจากการขายยาน่ะเหรอ”

 

 

“แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ตั้งใจหาเงินเพื่อแฝดนะ เขาบอกว่านอกจากแบ่งให้พ่อเขาใช้แล้ว เขาก็แบ่งให้แฝดด้วย”

 

 

“นี่ ฉันไม่ได้จะใส่ร้าย หรือมองมันในแง่ร้ายหรอกนะ เราจะรู้ได้ยังไงว่าเงินนั้นน่ะของมันจริงๆ เกิดมันเป็นเงินที่เป็นปัญหาระหว่างมันกับเพื่อนเอง แต่ใช้ไอ้ลูกหมูมาอ้างเพื่อให้เราช่วยมันได้เงินคืน เราไม่แย่หรอกเหรอ”

 

 

“แต่คุณก็น่าจะเห็นแล้วนะว่าคริสเตียนเขาไม่ใช่คนเลวร้ายขนาดนั้น”

 

 

“เราก็รู้ในส่วนที่เรารู้ แต่ในสิ่งที่เราไม่รู้ล่ะแมท อีกอย่างนะ เงินนั้นน่ะ ได้มาอย่างผิดกฎหมาย ต่อให้เจตนามันดี ทำเพื่อลูกจริงๆ แต่สิ่งที่ทำให้มันได้เงินมาก็ไม่ถูกต้องอยู่ดี…” ผมไม่ได้รู้สึกโกรธหรือไม่พอใจกับสิ่งที่วิคเตอร์พูด ผมแค่รู้สึกเหมือนโดนกระเทาะเปลือกที่หุ้มความจริงเอาไว้อยู่

 

 

“…แต่ผมสัญญากับเขาไว้ว่าเงินนั้นจะเก็บไว้เป็นทุนการศึกษาแฝดอย่างที่เขาตั้งใจ” วิคเตอร์สั่นหัวช้าๆ สีหน้าเขาดูเอือมเล็กน้อย

 

 

“เราเลี้ยงไอ้ลูกหมูได้ แค่มรดกจากไวโอล่าก็น่าจะมากกว่าเงินที่คริสเตียนหามาแล้ว ฉันไม่ได้ดูถูก แต่มันคือเรื่องจริง เงินนั้นน่ะมันเป็นเงินอันตราย ต่อให้มันไม่ได้มีเจตนาแอบแฝง เป็นเงินที่ทำเพื่อลูกมันจริงๆ แต่เราก็ไม่ควรไปยุ่ง” ผมคิดได้นะตอนที่คุยกับคริสเตียน แต่ตอนนั้นผมกำลังหวั่นไหวกับความรักที่เขามีให้ลูก ผมเลยตอบตกลงเขาไป

 

 

“จะไม่เป็นไรใช่มั้ยถ้าผมผิดสัญญากับเขา”

 

 

“มันไม่ลุกขึ้นจากหลุมมาหักคอนายหรอกน่ะ ถ้ามันรักลูกจริง มันต้องเห็นสิว่าไอ้ลูกหมูอยู่กับเราก็ไม่ได้ลำบากอะไรที่จะไม่ใช้เงินมัน” ผมพ่นลมหายใจแล้วพยักหน้ายอมรับ ที่วิคเตอร์ว่าก็จริงหมด พูดเป็นภาษาไทยก็เรียกได้ว่ามันเป็นเงินร้อน จับแล้วไม่เดือดร้อนก็อยู่อย่างไม่สงบร่มเย็นแน่ๆ

 

 

“คริสเตียนมันคงอยากมีส่วนร่วมในการดูแลลูกบ้าง ฉันรู้ แต่มันต้องไม่ใช่แบบนี้…” ผมพยักหน้าเบาๆ วิคเตอร์หันกลับไปมองทางหลุมศพ ทุกคนกำลังยืนคุยกัน บนป้ายหลุมศพมีดอกไม้วางไปจนถึงครึ่งของป้ายหิน

 

 

“…แค่มันพยายามปกป้องไวโอล่าจนตายตามไปด้วย แค่นั้นฉันก็นับถือน้ำใจมันมากแล้วล่ะ”

 

 

 

 

 เป็นอีกช่วงเวลาที่ทำให้ผมคลายเศร้าได้เมื่อมีคนรวมตัวกันอยู่เยอะๆ แบบนี้ พวกเราทุกคนช่วยกันทำอาหารและเครื่องดื่มผลไม้สำหรับปาร์ตี้ปีใหม่ที่จัดกันอย่างเรียบง่าย ไม่ได้หวือหวาหรือรื่นเริงใดๆ มีเสียงเพลงอคูสติคเปิดคลอเบาๆ ฟังสบายๆ ไม่รบกวนการพูดคุยของทุกคน เป็นบรรยากาศอบอุ่นที่เกิดขึ้นภายในบ้าน (นอกบ้านจัดไม่ได้ หิมะตก) สองแฝดนอนอยู่บนฟูกที่ประจำของตัวเอง มีเบนเนดิคท์กับอันเดรคอยมาเล่นด้วยเหมือนกับผลัดเวรกันไป สองแฝดดูจะชอบเพื่อนคุณลุงสองคนนี้ เห็นหัวเราะอ้อแอ้อยู่เรื่อยๆ

 

 

“อ่านอะไรอยู่น่ะแมท สีหน้าไม่ดีเลย” เอมิลี่ที่นั่งดื่มน้ำพันช์อยู่ข้างๆ ถามด้วยสีหน้าเป็นห่วง

 

 

“อ่านข่าวเด็กอายุสิบสี่ที่เป็นเกย์ แต่โดนเพื่อนรังแกบ่อยๆ จนฆ่าตัวตายน่ะครับ…” ผมระบายลมหายใจเบาๆ พลางวางไอแพดลงบนตัก รู้สึกสงสารเด็กน้อยที่จิตใจอาจไม่สตรองมากพอจึงต้องจบชีวิตตัวเองลง ด้วยความที่ผมเพิ่งผ่านการสูญเสียมา ผมเลยยิ่งรู้สึกดิ่งกับการจากไปของเด็กคนนี้

 

 

“…อ่านที่คุณพ่อเขาออกมาเขียนในเฟซบุ๊ค แล้วรู้สึกเสียใจไปกับครอบครัวของเขามาก น้องเป็นเด็กเรียนเก่ง เป็นเด็กกิจกรรม เขาดูมีอนาคตที่ดีน่ะครับ” เอมิลี่มองผมอย่างเข้าใจ

 

 

“ฉันถึงคิดว่าโปรเจ็คต์อดัมเป็นโปรเจ็คต์ที่ดีมาก รายได้จากการเข้าชมภาพถ่ายของเขา หักค่าใช้จ่ายแล้ว เขาก็จะยกให้องค์กรการกุศลสำหรับกลุ่ม LGBT หมดเลย” ผมกระตุกยิ้มน้อยๆ

 

 

“ผมก็อยากจะช่วยเหลือพวกเขา เพราะผมก็เคยโดนคนพวกนี้ทำร้ายมาก่อน” ผมเคยคิดจะเปิดองค์กรช่วยเหลืออะไรทำนองนี้เหมือนกันนะ แต่ตอนนี้แค่ดูแลแฝดก็น่าจะเหนื่อยมากแล้ว ซึ่งผมได้พิสูจน์มาแล้วว่าผมไม่สามารถทำอะไรสองอย่างและหลายอย่างพร้อมกันได้ ถ้าแฝดโตขึ้นดูแลตัวเองได้ในระดับที่หายห่วง ความคิดนี้อาจจะกลับมาอีกครั้ง

 

 

“ยังมีเพศที่สามอีกหลายคนที่ยังโดนคุกคาม โดนทำร้ายอีกมากมาย ฉันไม่เข้าใจเลยว่าจะจงเกลียดจงชังอะไรกันนักหนา”

 

 

“ผมก็ไม่เคยเข้าใจ พยายามเข้าใจแล้วแต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี…” ผมพ่นลมหายใจ นอกจากน้องผู้ชายอายุสิบสี่คนนี้แล้ว ยังมีเพศอย่างผมอีกหลายคนที่อยู่ทั่วทุกมุมโลกที่อาจจะกำลังเผชิญกับความเลวร้ายของการโดนคุกคามและล้อเลียนนี้อยู่

 

 

“…ไวโอล่าเคยบอกผมนะว่าทำยังไงเราก็เปลี่ยนความคิดคนพวกนี้ไม่ได้ ผมก็ไม่คิดเปลี่ยนหรอก และไม่คิดไปยุ่ง แต่ดูคนพวกนี้จะอยากยุ่งกับพวกเราซะเหลือเกิน” เมื่อรู้ตัวว่าไม่ชอบ ทำไมถึงยังอยากจะเข้าไปวุ่นวายกับชีวิตคนอื่นเขานักนะ ปล่อยให้เราใช้ชีวิตกันไปในแบบที่เรามีความสุขไม่ได้เหรอ ถ้าเราไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน แล้วจะมาเป็นเดือดเป็นร้อนกับการเป็นตัวตนของเราทำไมกัน

 

 

“ระบบสมองกับระบบจิตใจของพวกนั้นอาจมีการขัดแย้งกันอยู่ละมั้ง” ผมเลิกคิ้วขึ้นแว้บหนึ่ง รู้สึกเหนื่อยและท้อขึ้นมาซะงั้น

 

 

“ต่อให้เราเก่งและมีความสามารถมากแค่ไหน แต่หลายคนกลับเลือกที่จะมองว่าเราเป็นอะไรมากกว่าเราทำอะไรได้” ผมพูดด้วยความเศร้าใจ

 

 

มันเป็นแบบนั้นจริงๆ นะ มันคือสิ่งที่ยากที่สุดในการคอนโทรลความคิดคนอื่น เพราะขนาดเรายังไม่อยากให้ใครมาคอนโทรลความคิดเราเลย คอมเม้นหยาบคาย คำพูดร้ายๆ ที่มีต่อเพศอย่างผมนั้นไม่เคยหมดไปแม้ว่าเพศอย่างผมหลายๆ คนจะประสบความสำเร็จในชีวิตมากมาย แต่สุดท้ายเขาก็มองว่าเราไม่ใช่ผู้ชายปกติ เราผิดแปลก เราแตกแยก เราไม่ถูกต้องตามธรรมชาติ

 

 

“รูปปั้นบางอัน สวยงามมาก สง่างามมาก แบบที่เรียกได้ว่าไร้ที่ติ ปั้นด้วยช่างที่มีฝีมือดีที่สุดของโลก แต่ก็จะต้องมีคนที่บอกว่า สวยแค่ไหน แต่รูปปั้นนี้ก็พูดไม่ได้” ผมแค่นยิ้ม แต่ก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย

 

 

“แมท แฝดอึ” เบนเนดิคท์ที่เล่นอยู่กับหลานเงยหน้าขึ้นบอกพลางทำจมูกฟุดฟิดๆ ผมยิ้มขำ วางไอแพดไว้บนโซฟา เลื่อนตัวลงไปจัดการเก็บกวาดให้แฝด

 

 

ขอให้เพศอย่างผมทุกคนที่กำลังเผชิญหน้ากับคนเลวร้ายและความเลวร้ายจากคนเหล่านั้นมีความสุขในชีวิตมากพอที่จะเป็นภูมิคุ้มกันต้านมันออกไปจากชีวิตแบบที่ผมมี

 

 

เราต้องไม่ให้ใครมาทำลายชีวิตของเราเพียงเพราะคนเหล่านั้นไม่ชอบในสิ่งที่เราเป็นเด็ดขาด

 

 

 


เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้


               You will be in our memory forever, Viola.

               เคลียร์หนังสือเสร็จเรียบร้อย (เหลือรอคนที่ไม่ได้ไปรอบนัดรับติดต่อกลับมาและคนที่หนังสือตีกลับมาหาคนเขียนติดต่อกลับมา) จะกลับมาเขียนพี่แซ็คกับน้องฮุนต่อแล้ว ช่วงก่อนหน้านี้ตอมบ่นในเพจและทวิตบ่อยๆ ว่า ค่อนข้างเครียดกับการแพ็คหนังสือเลยไม่มีสมาธิในการเขียนนิยาย ตอนนี้ดีขึ้นแล้วค่ะ พ้นช่วงเวลารับแจ้งปัญหาแล้ว จะขอกลับมาโฟกัสการเขียนนิยายต่อ ก่อนหน้านี้โฟกัสหนังสือจนไม่อยากหยิบจับทำอะไรเลย ใครรอพี่แซ็คกับน้องฮุนอยู่ จะกลับมาเจอกันแล้วนะคะ พี่แซ็คอาจจะมาวันพรุ่งไม่ก็มะรืน ต้องดูก่อนว่าเขียนเสร็จวันไหน แต่ถ้าเสร็จแล้วจะมาต่อแน่นอนค่ะ และน้องฮุนก็จะตามมาค่า

               ส่วนพี่ยักษ์ คนที่ได้รับหนังสือแล้ว ส่วนมากคงอ่านจบไปเรียบร้อย ส่วนใครที่ไม่ได้พรีฯ หนังสือ ในเว็บลงจนจบเรื่องตามปกติเลยนะคะ เว้นตอนพิเศษสิบตอน กับภาคพิเศษหกตอนค่า สำหรับหนังสือพาร์ทนี้ ขอพักก่อนนะคะ ยังไม่เปิดพรีฯ ใดๆ พักกายพักใจแปบ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.34 100% :21.06.61:
«ตอบ #2369 เมื่อ21-06-2018 19:52:55 »

 :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด