ขอขอบคุณสำหรับทุกรีนะจ้ะ มาต่อให้แล้วค่า
***************************************************
วันจันทร์ มีนกลับไปทำงาน ส่วนผมอ่านหนังสือที่ห้อง ไปเรียนอาทิตย์ล่ะ 2 วัน บางวันชวนไผ่มาเล่มเกมส์เพลย์ที่ห้อง (เพราะพี่เอ๋ต้องฝึกงานเหมือนกัน แต่ฝึกงานในกรุงเทพฯ) หรือไม่ก็ไปเที่ยวกับไผ่ พอวันศุกร์มีนกลับมา บางครั้งไปมหา’ลัยบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะไม่ไปซะมากกว่า กิจกรรมซ้ำๆ เป็นแบบนี้มา 1 เดือน อีก 2 เดือน ถึงจะฝึกงานเสร็จ
ผมว่า ผมพอใจกับสิ่งที่เป็นอยู่ในตอนนี้ ผมไม่เคยเหงาหรือเบื่อ เพราะทุกครั้งที่มีนกลับมา ก็จะมาเอาใจผมตลอด และมันก็ได้รางวัลทุกครั้งที่กลับมาหาผม ถ้าผมเป็นผู้หญิงคงท้องไปแล้วมั้ง 55555
พักหลังๆ ผมเริ่มจับสังเกตมันมากขึ้น ช่วงเดือนที่2 จะมีโทรศัพท์เข้าหามันตลอด ไม่เว้นวันเสาร์อาทิตย์ มันเริ่มทำตัวเหมือนมีความลับกับผม แต่ผมจะทำนิ่งเฉยซะมากกว่า แต่ทำไมใจกลับไม่นิ่งตาม จนผมเริ่มทนไม่ไหวเพราะมันทำต่อหน้าผม
วันหยุด ผม มีน ไผ่ พี่เอ๋นัดกันไปหาอะไรกินและเดินเล่นที่ห้าง พวกเราเลือกที่จะกินสุกี้เพราะชอบเหมือนๆกัน
“ กินเยอะๆ มั่ง ผอมจนเห็นกระดูกแล้ว มึงนี่ไกลหูไกลตาหน่อยไม่ได้” มันพูดแล้วตักลูกชิ้น กุ้ง...ผัก และอื่นมาใส่ในชามผม
“จะยัดไม่ไหวแล้ว จะให้อ้วกออกมารึไง” ผมมองหน้ามันแบบเคืองๆ ใครมันจะไปกระเพาะควายอย่างมัน
“พี่ก็ว่าน้องเนทผอมไปนะ ยิ่งกว่าไผ่อีก” พี่เอ๋พูดแล้วตักที่อยู่ในหม้อให้ไผ่มั่ง ไผ่มันก็เบ้ปาก ทำเป็นไม่อยากกินเหมือนผม
“ไอ้เอ๋ยังเห็นมึงผอมลง นี่แสดงว่ากูไม่อยู่ คงกินข้าวแค่วันละมืออีกสิ” มันหันมาพูดใส่ผม แล้วเอาตะเกียบเค๊าะหัวผม
“ไอ้บ้า เล่นไรอะ” ผมหันไปแหววใส่มัน ถลึงตาให้อีกที มันกลับหัวเราะรวมทั้งพี่เอ๋และไอ้ไผ่ด้วย
“กินเข้าไปเยอะๆ....” มันยังหันมาย้ำผมอีก กูเซ็ง ><
ในที่สุดทุกอย่างในหม้อก็หายไปอยู่ในกระเพาะของเด็กหนุ่มทั้ง 4 เป็นที่เรียบร้อย ตอนนั้นพี่เอ๋ขอไปเข้าห้องน้ำก่อนจะเรียกพนักงานมาเรียกค่าเสียหาย
กำลังคุยกันสนุกๆ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกแล้ว เป็นเสียงเพลงเดิมที่ดังขึ้นประจำ เหมือนมีนมันต้องการตั้งให้ตัวเองรู้ว่าเสียงนี้เป็นเสียงใคร พอมันรับโทรศัพท์ มันปล่อยมือที่จับกุมตลอดเวลาที่เรานั่งกินข้าว
มันเอียงหันหน้าไปพูดอีกทาง ผมมองจ้องหน้าไผ่ บอกเป็นทำนองว่า มันเป็นอีกแล้ว เรื่องโทรศัพท์แปลกๆ ผมเล่าให้ไผ่ฟังเพราะผมเริ่มอึดอัดเต็มที
แล้วมันหันมาหาผม บอกว่าจะไปห้องน้ำ แต่ผมเหลือบเห็นว่า มันยังไม่ได้ตัดสาย ผมแค่ผยักหน้าให้มันเท่านั้น พอมันเดินออกไป ไผ่ถามผมทันที
“เป็นแบบนี้มานานยัง....” ไผ่ถามด้วยน้ำเสียงที่แสดงความเป็นห่วงเอามากๆ
“อืม....” ผมได้แต่ยักไหล่ มันพูดไม่ออกเหมือนมีก้อนเล็กๆ มาจุกที่คอ
“อย่าคิดมากนะ...อาจไม่มีอะไรก็ได้”
“เราก็พยายามอยู่ แต่พักหลังๆ มันเป็นบ่อยนะ มีธุระอะไรกันมากมายที่ต้องโทรมาคุย อีกอย่างมันไปฝึกงานที่นั่นหลายเดือน จะไม่มีอะไรทำให้มันเขวบ้างเหรอ” ผมพูดด้วยน้ำเสียงแทบจะอดกลั้นไม่ไหว
ใจผมร้อน ร้อนมากด้วย มันมาทำต่อหน้าต่อตาผม ผมรับไม่ได้ มีความลับกันเยอะนัก ทีผมแทบไม่มีเรื่องที่จะปิดบังมันได้ ผมยอมรับว่าให้ใจมันไปเกือบหมดแล้ว แต่นี่ผมต้องกลับมานั่งคิด นั่งเครียดเหรอ
“ทำไมไม่ถามพี่เขาตรงๆ”
“ไม่...” ผมส่ายหน้า “เราจะจับโกหกคน และจะจับให้ได้คาหนังคาเขาเลย” แน่นอนผมเริ่มมีความคิดนี้มาหลายวันแล้ว เพราะถ้ายังเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ผมจะแผลงฤทธิ์ให้ดู
สักครู่ใหญ่ๆ มันเดินกลับมาพร้อมกับพี่เอ๋ ตอนนั้นผมเรียกพนักงานมาคิดเงินแล้ว สรุปคือ มันกับพี่เอ๋เป็นคนจ่าย พอเดินออกจากร้าน ผมกับไผ่ก็ช้อปกันกระจาย ผมไม่เดินกับมันหรอก ผมเดินซื้อของกับไผ่ เข้าร้านไหน ถ้าถูกใจเป็นต้องซื้อ ผมไม่หันไปถามไอ้มีนหรอกว่าจะจ่ายให้ผมได้ไหม ผมมีปัญญาจ่ายเองได้ ส่วนไผ่ก็พี่เอ๋เป็นคนจ่ายอยู่แล้ว
มันคงเห็นพฤติกรรมของผม และคิดว่าผมงอนอะไรมันอีก มันพยายามเข้ามาบอกว่าจะจ่ายให้เอง แต่ผมปฏิเสธมันทุกครั้ง หน้านิ่งไม่ยิ้ม จนเริ่มไม่สนุกแล้ว ส่วนมันคงเริ่มหมดความอดทน จึงบอกพี่เอ๋ว่ามันกับผมจะกลับ ผมก็เงียบ พี่เอ๋คงจะรู้ล่ะนะ แกจึงขับรถมาส่งผมกับมัน
“มึงงอนอะไรกูอีก” พอเข้าห้องมาได้ มันเริ่มถามด้วยอารมณ์โกรธ
“เปล่า...” อย่ามาใส่อารมณ์กับกูนะ กูต่างหากที่ต้องโกรธมึง
“แล้วทำไมทำตัวแบบนี้....ซื้อบ้าซื้อบออะไรเยอะแยะ....” มันเดินเข้ามาหาผม และกระชากถุงใส่ของเขวี้งไปตรงหน้าตู้เสื้อผ้า
“แล้วจะทำไมล่ะ....เรื่องของกู เงินกู” ผมก็เริ่มโมโหขึ้นบ้างแล้ว
“มึงพูดงี้ จะบอกว่ากูไม่มีปัญญาซื้อให้มึงรึไง” มันเดินเข้ามากระชากแขนผม
“คิดบ้าไร.......ปล่อย......” ผมพยามสะบัดแขนให้หลุด
“จะดื้อไปถึงไหน....” มันพูดแล้วถอนหายใจ ทำไมต้องทำเสียงและท่าทางแบบนั้นด้วย
“ใครดื้อ...ปล่อยกูนะ....” ผมยกมืออีกข้างตีที่แขนมันหลายๆ ที มันยกมืออีกข้างมาป้องไว้
เสียงโทรศัพท์ของมันก็ดังขึ้นอีก ตอนนี้ปรอทวัดความอดทนผมเริ่มขึ้นสูงจนแทบแตก พอมันรับเท่านั้นแหละครับ ผมผลักมันแล้วแย่งมือถือ วิ่งเข้าห้องน้ำล็อคประตูทันที มันตบประตูพยายามเรียกผมให้เปิด
ผมแนบโทรศัพท์เข้ากับหูเพื่อฟังเสียง
~~ทำไมเงียบไปละค่ะ~~ เสียงผู้หญิง ผมมองดูเบอร์ว่าเป็นของใคร “เล็ก” คิดไว้ไม่มีผิด ผมแนบหูอีกครั้ง
~~งั้นพี่วางนะค่ะ เจอกันที่ทำงาน......~~ ผมกดตัดสายอีกฝ่ายนั้นทิ้งทันที แล้วหยิบมือตัวเองที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาเมมเบอร์นี้ในเครื่องผม จากนั้นผมเริ่มตามไล่ sms ในเครื่องมัน
เจอจนได้....ทุกครั้งผมว่ามันระวังเรื่องนี้เป็นอย่างดี เพราะถ้ามันเผลอผมก็จะกดดูเครื่องมันเหมือนกัน แต่คราวนี้คงไม่ทัน...ผมเริ่มเปิดอ่าน และเริ่มนับหนึ่งถึงสิบในใจ
แต่ละข้อความ ผมแทบอยากกระโดดต่อยหน้ามันมากๆ
- ตื่นรึยัง , ถึงกรุงเทพรึยัง, เรียนเหนื่อยไหม, กินอะไรรึยัง, ดูแลตัวเองดีๆ ............. -
ผมถามหน่อยว่า นี่เป็นข้อความที่เพื่อนเขาส่งถึงกันเหรอ มันไม่ตลกเลยสักนิด
ผมกำโทรศัพท์มันแน่น สูดหายใจลึก เปิดประตูเดินออกไปเผชิญหน้ากับมัน วันนี้เป็นไงเป็นกัน
มันนั่งนิ่งอยู่บนเตียง มองหน้าผมเครียดๆ กำลังจะอ้าปากถามผม แต่ผมเขวี้ยงโทรศัพท์ใส่มัน สีหน้ามันดูตกใจมาก ส่วนผมยืนกำมือแน่น...
“พี่ที่ทำงานเขาโทรมาหา....” มันเริ่มพูด
“ไม่มีอะไรนะ....เนทอย่าคิดมาก.....” มันพยายามจะเอื้อมมือมาจับผมไว้ แต่ผมสะบัดหนี ผมแทบน้ำตาร่วง เหมือนน้ำเสียงมันจะรับผิดแทนมัน
“หึ...แล้วไอ้แมสเซสบ้าๆ นั่นล่ะ...อย่าคิดว่ากูดูไม่ออก กูไม่โง่ กูไม่ใช่ควาย....”
“เนท....มันไม่มีอะไรจริงๆ...”
“อ้อ...อยากให้มีก่อนใช่ไหม แล้วค่อยบอกกู จะบอกกูตอนไหนมันก็เหมือนกัน”
“พูดอะไร....” มันทำเป็นขึ้นเสียงกับผม
“กูจะได้เตรียมใจไว้ไง ลืมไป มึงไม่ใช่เกย์นี่ จะกลับไปชอบผู้หญิง แล้วจะว่าอะไรมึงได้”
“เพ้อเจ้อไปกันใหญ่แล้ว....เลิกบ้าสักที....บอกไม่มีอะไรก็ไม่มีสิ” มันเดินเข้ามาหผม ใช้มือสองข้างจับแขนผมและเขย่าแรงๆ
“ปล่อยกูนะ ....ไอ้สัด.....กูพูดแทงใจมึงล่ะสิ.....” ผมสู้หน้ามันไม่ลดละเหมือนกัน
“อย่ามายั่วโมโหกู...”
“ใคร....คนที่น่าโมโหมันกู...” ผมพูดจบ มันบีบไหล่ผมแรงๆ
“ไอ้เชี้ย....” ผมตบหน้ามันแรงๆ ทีนึง มันหน้าหันเลย
“พอสักที.........นั่นมันพี่ที่ทำงาน.......กูไม่ได้คิดอะไร.........ส่วนเขาจะคิดกับกูยังไงกูไม่รู้ และไม่อยากรับรู้....แค่มึงคนเดียวกูก็เหนื่อยแล้ว” มันดึงกระชากตัวผมเข้าหาตัวมัน แล้วเขย่าแขนผม พูดใส่หน้าผมเสียงดังๆ
“เรื่องของมึง เรื่องของมึง ปล่อยกู” ผมดิ้นเพื่อที่จะให้หลุดจากมือของมัน
“นี่....ฟังกันมั่งสิ.....”
“ไม่ฟังโว้ย ไอ้คนโกหก ไอ้เชี้ย ปล่อยกู....” ผมดิ้น สะบัดตัวแรงๆ แต่ไม่หลุดจากแรงจับของมัน
“พูดไม่ฟังใช่ไหม.....” มันลากผมเดิน เดินเข้าไปในห้องน้ำ เหวี่ยงผมติดผนังห้องน้ำ เปิดน้ำรดตัวผม
“อะ........ไอ้เชี้ย.......มึงจะทำไร.........” ผมดิ้นแล้วทุบมัน มือไม้ปัดป้องจากแรงน้ำที่มันรดใส่ผม
“หายบ้ารึงยัง....ห๋า.......หายรึยัง..........” มันดึงแขนผมไว้ แล้วฉีดน้ำใส่หน้าผม
“แค่ก แค่ก....แค่ก” ผมสำลักน้ำทันที เอามือลูบหน้าตัวเอง แล้วผลักมันออกจากตัวผมเต็มแรง จนตัวมันเสไปเล็กน้อย ผมกำลังจะเดินออกจากห้องน้ำ มันกลับฉุดผมไว้ แล้วรั้งไว้กับตัว ผมดิ้นๆ เพื่อให้หลุดจากตัวมัน มันดันตัวผมติดผนังอีกครั้ง มันสอดขามันมาตรงกลางขาผม ดันไหล่ผมจนติดไปกับผนัง
“กูจะทำให้มึงหายบ้าเอง พูดแล้วไม่ฟัง กูจะทำให้มึงฟังกูแทน....” พูดจบ มันจูบเข้าที่ปากผม มือสองข้างจับหน้าผมแน่น ผมขยับไปไหนไม่ได้ ขามันกดขาผมไว้ ผมได้แต่ร้องอู้อี้อยู่อย่างนั้น ไม่ยอมให้มันจูบผมได้
มันรู้ว่าผมไม่ร่วมมือด้วย จึงสอดมือเข้ามาใต้เสื้อผมทั้งบีบทั้งลูบหน้าอกผม
“ไอ้.......เชี้ย.......มึงอย่า........” ขาผมแทบหมดแรง มันเอามือจับตรงเป้ากางเกงผม แล้วยังไงล่ะ เสื้อผมหลุดออกจากตัวไปตั้งแต่เมื่อไหร่ มันเริ่มจูบเม้มที่ซอกคอผม ผมผวาเฮือก เมื่อมือมันปลดกางเกงผมลง และลูบไปตรงก้นอยู่อย่างนั้น
“อะ.......” ผมเอามือทุบไหล่มัน แต่มันไม่รู้สึกสะทกสะท้านเลยสักนิด กลับเลื่อนลงมาดูดที่หน้าอกผมทั้งสองข้าง แล้วกัด กัดไปแทบทั้งตัว รู้สึกถึงรอยฟันที่กัดลงบนเนื้อผมตั้งแต่ไหล่ จนถึงท้อง...
พอมันหยุด มันกลับมาจูบปากผม
“ขนาดนี้ยังฤทธิ์มากอีกมึง.......” มันพูดแล้วบีบแก้มผม ฉกเข้าที่ปากผมอีกครั้ง คราวนี้มันสอดลิ้นเข้ามา ดูดดุนจนผมเริ่มหายใจไม่ออก มือมันยังคงป้วนเปี้ยนอยู่ตรงก้นผม
“ไม่เอา.......ออกไป........” ผมร้องขึ้น เพราะมือที่มันลูบก้นผม เปลี่ยนเป็นสอดนิ้วเข้ามาในก้นผม ผมดิ้นให้หลุดในทันที แต่มันกลับสอดมืออีกข้างเพื่อยกขาผมขึ้น
“อื้ออ....เจ็บ.....” ผมร้องเพราะความเจ็บที่อยู่ๆ นิ้วของมันสวนเข้าไปข้างในผม และต้องตกใจกับของที่มันแข็งขึ้นตรงหน้าขาผม
“ไม่เอา....ปล่อยกูนะ.....” ไม่เอานะ....นี่มันห้องน้ำ ไม่ตลกเลย ถ้าผมมีเซ็กซ์กับมันในห้องน้ำ ผมต้องตายแน่ๆ ผมรู้ว่าถ้ามันเกิดอยากขึ้นมา มันไม่สนใจอะไรทั้งนั้น
ยังไม่ทันคิดหาทางออก มันดึงนิ้วของมันออกจากก้นผม แล้วเปลี่ยนเป็นสิ่งที่มีขนาดใหญ่แทนเข้ามาในตัวผม
“อ๊ากกกกกก..............” ผมร้อง หน้านิ่วในทันที
“คราวนี้ มึงจะฟังกูได้ยัง.........” มันกระซิบเสียงเข้มๆ ข้างๆ หูผม ผมหลับตาแน่น เตรียมรับสิ่งที่มันกำลังจะทำกับผม มันสอดน้องชายของมันเข้ามาในตัวผมอย่างแรง แล้วเริ่มทำอย่างที่มันต้องการ ผมได้แต่กัดริมฝีปากไว้ กำมือแน่น อยู่ๆ มันยกขาอีกข้างผมขึ้น ผมผวากอดรอบคอมันทันที หลังผมชิดติดกับผนังห้องน้ำ
ผมได้ยินเสียงหายใจแรงๆ ของมันกับการสอดใส่ถี่ๆ จนรู้สึกชาไปทั้งขา อยู่ๆ มันก็หยุด แล้วอุ้มผมออกจากห้องน้ำทั้งท่านั้นอย่างทุลักทุเล
“กูไม่อยากให้มึงเจ็บ ไปที่เตียงดีกว่า.........” มันพูดแล้วจูบเข้าที่หน้าผากแรงๆ พาผมออกจากห้องน้ำ
“ตุ๊บ..” มันวางผมลงบนที่นอน แล้วเริ่มสอดเข้ามาในตัวผมอีกครั้ง
“อา........กูบอกว่าไม่มีอะไร......อะ..........มึงเชื่อใจกูนะ........อา.....อา.......กูไม่เอาใครนอกจากมึง......เข้าใจไหม” มันพูดไปก็ทำผมไป ตอนนั้นผมได้แต่ร้องอื้ออ้าอย่างเดียวล่ะครับ
“อา...........กูรักมึง......รู้ใช่ไหม........อะ........กูรักมึง.........จุ๊บ.......” มันพูดแล้วจูบผมอีกที แล้วหันมาสนใจกับกิจกามของมันต่อ........ส่วนผมเบลอไปหมดแล้ว ขาชาทั้งสองข้าง........มันกระแทกผมอีกสองสามครั้ง จนรู้สึกถึงของเหลวที่ไหลเข้ามาข้างในตัว
ความรู้สึกเริ่มลางเลือน มันถอนตัวออกจากผม แล้วลากผมเข้าไปกอด ได้ยินแต่ว่า “เชื่อใจกู” ส่วนผมก็หลับไปในทันที
รู้สึกตัวตื่นอีกที....มีแขนใหญ่ๆ มาเขย่าผม ก้มลงจูบที่แก้มผม “ถึงแล้วกูจะโทรมาหา” ผมเพียงขยับปาก และสั่นศีรษะเป็นการรับรู้
ผมรู้สึกตัวอีกที เพราะโทรศัพท์ในห้องดัง มีนโทรมาปลุกผมให้ตื่น แล้วมันก็โทรมาอีกตอนเที่ยง ตอนเย็น ตอนดึกๆ เป็นอยู่แบบนี้มาเป็นสัปดาห์ จนมันมาบอกว่า คงจะไม่กลับประมาณ 2 สัปดาห์ เพราะงานที่บริษัทมันเยอะ ผมเพียงแค่ตอบว่า “ได้..... เข้าใจแล้ว......” มันย้ำกับผมว่า ให้เชื่อใจมัน มันรักผม....โทรมาหาผมตลอดเวลา....
เมื่อมันต้องการให้ผมเชื่อ ผมก็จะเชื่อ ผมจะอดทน ถือว่า มันเป็นสิ่งวัดใจผมกับมัน ผมจะพยายาม.......
-------------------------------------------------------------------------------------