น้องกันต์จัดให้ครั้งที่ 55.2หลังจากเตรียมตัวกันเรียบร้อยแล้วคินก็อุ้มน้องกันต์ไปที่รถโดยมีพัทธ์เดินถือกระเป๋าของน้องกันต์ตาม ก่อนที่รถเบนซ์คันสวยจะแล่นออกจากบ้านโดยมีคินเป็นคนขับ ส่วนน้องกันต์ก็นั่งตักพัทธ์ที่นั่งอยู่เบาะข้างคนขับ¬¬
ใช้เวลาบนรถในช่วงเวลาตอนเช้าไปชั่วโมงกว่าๆ รถเบนซ์สีขาวก็เลี้ยวเข้าคอนโดแห่งหนึ่ง คินส่งบัตรประชาชนให้เพื่อแลกบัตรเข้าไปข้างใน บรรยากาศบริเวณรอบๆ ถือว่าโอเคทีเดียวเพราะมีต้นไม้ใหญ่ค่อนข้างเยอะ แต่ถ้าเทียบกับคอนโดที่คินและพัทธ์เคยอยู่ก่อนที่จะย้ายมาอยู่บ้าน คอนโดนี้ก็เล็กกว่ากันเยอะทีเดียว
คินขับรถไปจอดเอาไว้บริเวณที่จอดรถด้านหน้าของอาคารก่อนที่พวกเขาจะเดินเข้าไปด้านในด้วยกัน และทันที่ที่เดินเข้ามาเขาก็พบกับคุณศรัณย์ที่นั่งรออยู่บริเวณล็อบบี้ของคอนโดพอดี ชายหนุ่มรีบลุกขึ้นแล้วเดินมาหาน้องกันต์
“สวัสดีครับคุณพ่อ” น้องกันต์ยกมือไหว้แบบไม่ต้องให้ใครบอก
“สวัสดีครับน้องกันต์ สวัสดีครับคุณพัทธ์ คุณคิน” ศรัณย์ทักทายน้องกันต์ก่อนจะหันมาทักทั้งสองคน ซึ่งทั้งสองหนุ่มก็ส่งยิ้มและทักทายกลับไป
“คุณศรัณย์อยู่ที่นี่คนเดียวเหรอครับ” พัทธ์ถาม
คนถูกถามพยักหน้ารับพร้อมกับรับกระเป๋าเป้ที่ใส่เสื้อผ้าของน้องกันต์มาถือเอาไว้ “ครับ ผมอยู่คนเดียว”
“ถ้ามีอะไรก็โทรหาผมได้นะครับ” พัทธ์บอก
“ครับ ผมจะดูแลน้องกันต์ให้ดีที่สุด แล้วถ้ามีอะไรด่วนผมจะรีบโทรหาทันทีครับ” พอได้ยินแบบนั้นทั้งพัทธ์และคินก็เบาใจขึ้น
ทั้งสองคนบอกลาน้องกันต์เล็กน้อยก่อนจะพากันเดินกลับออกมานอกคอนโด ให้น้องกันต์อยู่กับพ่อของเขา ซึ่งเจ้าตัวเล็กก็ไม่ได้ร้องไห้งอแงอะไร อีกทั้งยังยกมือโบกให้
“พัทธ์ทำถูกแล้วใช่ไหมครับพี่คิน ที่เปิดโอกาสให้น้องกันต์ได้รู้จักกับพ่อแท้ๆ ของน้อง” พัทธ์หันมาถามคนที่นั่งอยู่ที่ตำแหน่งคนขับรถ
มือหนาที่ใช้นวดแป้งทำขนมทุกวันยื่นมากุมมือของพัทธ์เอาไว้ “น้องกันต์ควรที่จะได้รู้จักพ่อของเขา เรารู้ที่อยู่ รู้ชื่อ รู้เบอร์โทร รู้ทุกอย่างของคุณศรัณย์แล้ว ถ้าหากเขาคิดไม่ดีจริงๆ เราก็จัดการกันได้ไม่ยากหรอกครับ”
“ครับ พี่คินพูดถูก” พัทธ์ส่งยิ้มให้ “ผมเองก็ไม่อยากจะตัดสินคุณศรัณย์เพราะเรื่องในอดีต ถ้าหากเขารักและดูแลน้องกันต์ได้ผมก็ไม่ว่าอะไร แต่ถ้าหากเขาคิดที่จะหลอกพวกเรา ผมก็ไม่ปล่อยเอาไว้เหมือนกัน”
“ใช่แล้วครับ แบบนั้นแหละ”
ส่วนทางฝั่งน้องกันต์หลังจากที่ยืนส่งพ่อคินและคุณมัมแล้วคุณศรัณย์ก็พาเจ้าตัวเล็กขึ้นไปบนห้อง แบบห้องเป็นแบบหนึ่งห้องนอน พื้นที่ภายในจัดสัดส่วนได้อย่างลงตัวเหมือนอย่างคอนโดทั่วไป การตกแต่งเป็นโมเดิร์นสไตล์ พื้นที่ภายในเหมาะสำหรับการใช้ชีวิตคนเดียวในเมืองหลวง โทนสีที่ใช้ก็เป็นแนวสีเข้ม เทา ขาว เฟอร์นิเจอร์มีไม่มากนักมีเท่าที่จำเป็นสำหรับเขาแค่นั้น
“ห้องคุณพ่อคล้ายๆ ห้องพ่อคินเลยยยย” น้องกันต์บอกพร้อมกับหันมองไปรอบๆ ห้อง
“อ้าว… แล้วบ้านที่อยู่ตอนนี้ละครับ” ศรัณย์ถาม พาน้องกันต์เดินไปนั่งที่โซฟา
“บ้านพ่อคินฮะ ก่อนย้ายน้องกันต์ก็อยู่คอนโดกับมัม แล้วก็พ่อคินโด้ย แต่พ่อคินบอกกะมัมว่าคอนโดเล็กไป” เจ้าตัวเล็กเล่าเสียงเจื้อยแจ้วไม่หยุด เหมือนกับได้อวดซึ่งก็คงเป็นนิสัยของเด็กหลายๆ คน “น้องกันต์ชอบบ้าน มีสนามหญ้า น้องกันต์วิ่งเล่นได้ อิอิ”
ศรัณย์ได้แต่ยิ้มแล้วก็ยกมือขึ้นลูบผมน้องกันต์ ในใจมองเห็นถึงความแตกต่างระหว่างตัวเองกับคินและพัทธ์ เขาคงไม่มีปัญญาซื้อบ้าน ถึงจะใช้ชีวิตตัวคนเดียวแต่ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันก็ไม่ได้น้อย สู้อุตส่าห์เก็บเงินซื้อห้องนี้ได้ก็เกินคาดแล้ว
“แล้วน้องกันต์ชอบห้องนี้ไหมครับ”
น้องกันต์พยักหน้ารับกับคำถามนั้น “ชอบฮะ น้องกันต์ชอบ~~”
“ดีแล้วครับ วันนี้น้องกันต์อยากทำอะไรครับ” ศรัณย์ถาม
“น้องกันต์มีการบ้าน” เจ้าตัวเล็กบอกก่อนจะชี้นิ้วไปที่กระเป๋าเป้ที่วางอยู่บนโต๊ะหน้าโซฟา
ศรัณย์พยักหน้ารับก่อนจะหยิบกระเป๋ามาเปิดแล้วหยิบเอาแฟ้มที่น่าจะใส่การบ้านของน้องกันต์เอาไว้ออกมา “อย่างนั้นน้องกันต์ทำการบ้านก่อนเนอะ แล้วเดี๋ยวเสร็จแล้วค่อยเล่นกัน ดีไหมครับ”
“ครับ!” น้องกันต์พยักหน้า รับเอาสมุดการบ้านมาถือแล้วย้ายตัวเองไปนั่งคุกเข่าอยู่ที่โต๊ะหน้าโซฟา
“ถ้าตรงไหนทำไม่ได้ก็ถามพ่อได้นะ”
“ครับผม” น้องกันต์หันมายิ้มกว้างให้ แล้วลงมือทำการบ้าน ซึ่งก็เป็นการบ้านง่ายๆ อย่างคัดคำศัพท์ภาษาไทยแล้วก็คำศัพท์ภาษาอังกฤษแค่นั้น
ศรัณย์นั่งมองลูกชายตัวเองทำการบ้านอย่างตั้งอกตั้งใจก็ยิ้มอย่างชอบใจ ความรู้สึกนี้เป็นความรู้สึกที่เขาอยากรู้มากโดยตลอดหลังจากที่คิดได้และเลิกใช้ชีวิตอย่างเสเพล
เกือบปีที่เขาเคว้งคว้างหาทางออกไม่ได้และทำตัวเรื่อยเปื่อยเข้าทำงานที่ไหนก็อยู่ได้ไม่นาน ใช้ชีวิตอย่างไม่มีแก่นสาร ไม่มีเป้าหมาย จนกระทั่งวันหนึ่ง…
วันที่เขาได้เจอเด็กตัวน้อยๆ ที่กำลังหลงทาง วันที่เขาได้ช่วยเหลือเด็กคนนั้นจนพบกับพ่อแม่ที่พลัดหลงกัน วันที่เขาได้รับคำขอบคุณทั้งน้ำตาจากแม่ของเด็ก พวกเขาดูเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์และมีความสุขทั้งๆ ที่อายุของพ่อแม่ของเด็กคงอายุน้อยกว่าเขาแน่นอน วันนั้นเขาให้เขานึกถึงเรื่องของตัวเอง มองย้อนกลับไปว่าในขณะที่คนอื่นเขาใช้ชีวิตเพื่ออะไรสักอย่างในชีวิต ผิดจากเขาที่ไม่ได้เป้าหมายอะไรเลยสักอย่าง
และวันนั้นทำให้เขานึกถึงพราว ผู้หญิงที่รักเขาจนยอมมีปัญหากับครอบครัวเพื่อที่จะมาอยู่กับเขา ใช้ชีวิตกับเขา ผู้หญิงที่ทำเพื่อเขาทุกอย่าง แต่เขากลับเลือกที่จะทอดทิ้งผู้หญิงคนนั้นไปในวันที่เขาลำบากโดยไม่ได้คิดเลยว่าพราวเองก็ลำบากไม่ต่างกัน
การได้นึกถึงพราว และลูกของเขา มันทำให้เขามีเป้าหมายในชีวิตอีกครั้ง เขาอยากมีครอบครัวที่ดี มีคนรักที่ดี มีลูกที่น่ารัก เขาจึงเริ่มต้นชีวิตใหม่ หางานทำ เก็บออมเงินเท่าที่จะทำได้เพื่อที่สักวันเขาจะได้กลับไปหาพราว และสร้างครอบครัวด้วยกันกับพราว
แต่โชคชะตาก็เล่นตลก วันที่เขามีโอกาสที่จะได้เจอพราวอีกรอบ กลับเป็นวันที่ทำให้เขารับรู้ความจริงว่าทุกอย่างมันสายไปแล้ว…
พราวทิ้งเขาไปแล้ว…แต่พราวก็ยังมีสิ่งสำคัญเหลือเอาไว้ให้เขา นั่นก็คือ น้องกันต์ เขาจึงอยากที่จะเลี้ยงดูลูกของเขาคนนี้ให้ดีที่สุด เพื่อที่น้องกันต์จะได้ไม่เป็นแบบเขา
ศรัณย์ไม่ได้นึกรังเกียจคนรักร่วมเพศ แต่เขาก็ไม่อยากให้ลูกชายคนเดียวของเขาต้องเป็นแบบนั้นเช่นกัน
“เสร็จแล้วฮะ~~~~” น้องกันต์หันมาร้องบอกหลังจากที่ทำการบ้านเสร็จแล้ว ให้คนที่นั่งคิดเรื่องของตัวเองรู้สึกตัว หันไปมองเวลาจึงพบว่าตัวเองนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยเป็นชั่วโมงเลยทีเดียว
“ไหนครับ เอามาให้พ่อดูหน่อย”
“นี่ฮะ” เจ้าตัวเล็กส่งสมุดการบ้านให้ ซึ่งศรัณย์ก็รับไปเปิดดูก่อนจะส่งยิ้มกว้างให้ ยื่นมือมายีผมลูกชายของตัวเองแล้วเอ่ยชมให้น้องกันต์ยิ้มกว้างอย่างดีใจ
“เก่งมากเลยครับ ทำถูกหมดทุกข้อเลย อย่างนั้น... เดี๋ยวพ่อพาไปกินของอร่อยๆ ดีไหมครับ”
พอได้ยินคำว่าของอร่อยเจ้าตัวเล็กที่ชอบกินก็พยักหน้ารับทันทีจนหัวสั่นหัวคลอนไปหมด เห็นแล้วก็น่าเอ็นดูไม่น้อยจนศรัณย์ต้องอุ้มน้องกันต์มานั่งตักแล้วหอมแก้ม “อย่างนั้นเราไปกันดีกว่าครับ”
รถญี่ปุ่นสีดำของศรัณย์ขับออกจากคอนโดตรงไปยังห้างสรรพสินค้าที่อยู่ไม่ไกลมากนัก ตั้งใจจะพาน้องกันต์มาหาของอร่อยๆ กินกัน หรืออาจจะซื้อของเล่นให้น้องกันต์สักชิ้น เพียงแค่คิดก็ทำให้ต้องยิ้มออกมา
“อยากกินอะไรครับน้องกันต์ กินไก่ทอดดีไหมครับ หรืออยากกินอะไร” ศรัณย์หันมาถามน้องกันต์ที่นั่งอยู่เบาะข้างๆ
น้องกันต์พยักหน้ารับ “หม่ำๆ น้องกันต์อยากหม่ำคุณไก่ คุณพ่อให้น้องกันต์หม่ำๆ นะ”
“โอเคครับ ไก่ทอดเนอะ” ศรัณย์ตอบรับ เลี้ยวรถเข้าไปในห้าง วนหาที่จอดรถอยู่ไม่นานก็ได้ที่จอดใกล้กับประตูทางเข้าห้าง เพราะวันนี้เป็นวันธรรมดารถเลยยังไม่เยอะเหมือนตอนเย็นหรือวันหยุดสุดสัปดาห์
ทั้งสองคนพ่อลูกเดินจูงมือกันเข้าไปห้าง ก่อนจะพากันไปที่ชั้นโซนร้านอาหารเพื่อพาน้องกันต์ไปกินไก่ทอดอย่างที่บอกเอาไว้
ศรัณย์อุ้มน้องกันต์ขึ้นเหนือเคาน์เตอร์สั่งอาหารเพื่อให้น้องกันต์ได้มองเห็นเมนู “อยากกินอะไรครับ”
“เอาอันนี้ฮะ” น้องกันต์บอกพร้อมกับชี้นิ้วไปที่ไก่ทอดในเมนู
“โอเคครับ” ศรัณย์รับก่อนจะสั่งชุดไก่ทอดตามที่น้องกันต์บอก
“คุณพ่อๆ น้องกันต์ลง” ศรัณย์ปล่อยน้องกันต์ให้ยืนกับพื้น เจ้าตัวเล็กกระตุกชายเสื้อแล้วชี้นิ้วไปที่โต๊ะนั่ง “น้องกันต์ไปจองโต๊ะนะ” พูดจบก็วิ่งดุ๊กดิ๊กไปที่โต๊ะที่หมายตาเอาไว้ทันที
ศรัณย์คอยหันมองน้องกันต์เป็นระยะเพื่อดูว่าไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นจนกระทั่งได้ไก่ทอดชิ้นโตหลายชิ้น จึงได้ยกถาดมาที่โต๊ะที่น้องกันต์นั่งอยู่ เขาตั้งใจที่จะป้อนไก่ทอดให้น้องกันต์แต่เจ้าตัวเล็กก็ส่ายหน้าแล้วบอกว่าจะกินเอง
“กินเองได้นะครับ”
“ได้ฮะ พ่อคินสอน” น้องกันต์พยักหน้ารับ หยิบส้อมพลาสติกมาถือเอาไว้แต่ก็ไม่ได้ถือมีด “คุณพ่อหั่นๆ ให้น้องกันต์หน่อย”
“โอเคครับ เดี๋ยวพ่อหั่นให้นะ”
น้องกันต์กินไก่ทอดเองได้อย่างที่พูดจริงๆ แม้ปากจะเลอะไปบ้างจนต้องคอยเช็ดให้ก็ตาม ศรัณย์ได้แต่ยิ้มแล้วนึกชื่นชมพัทธ์กับคินในใจที่เลี้ยงน้องกันต์ได้เก่งจริงๆ เขาเคยเห็นลูกของคนที่ทำงานหลายคนอายุก็พอๆ กับน้องกันต์แต่ก็ยังทำอะไรได้ไม่เก่งเท่าน้องกันต์เลย
หลังจากที่จัดการกับไก่ทอดมื้ออร่อยเสร็จแล้วศรัณย์ก็พาน้องกันต์ไปเดินเล่น ตั้งใจว่าจะซื้อของเล่นให้จึงได้พาน้องกันต์ไปโซนขายของเล่น
“อยากได้ของเล่นอะไรไหมครับ หุ่นยนต์ไหม ตัวนี้สวยนะ” ศรัณย์ถามพร้อมกับหยิบหุ่นยนต์ที่ตั้งโชว์อยู่บนชั้นมาให้ดู
“ตัวนี้น้องกันต์มีแล้ว พ่อคินซื้อให้” เจ้าตัวเล็กส่ายหน้า
“อย่างนั้นเหรอครับ แล้วรถบังคับละอยากได้ไหม”
เจ้าตัวเล็กส่ายหน้าอีกรอบ “คุณตาก็ซื้อให้น้องกันต์แล้วฮะ”
“อ่า...” ศรัณย์พยักหน้ารับ ก่อนจะปล่อยให้น้องกันต์เลือกของเล่นเอง ซึ่งเจ้าตัวเล็กก็เดินวนไปมาอยู่สักพักก็ไปถูกใจเข้ากับเลโก้เซ็ตไดโนเสาร์
“คุณพ่อน้องกันต์อยากได้อันนี้” เจ้าตัวเล็กวิ่งอุ้มกล่องเลโก้กลับมาหาศรัณย์ที่ยืนดูของเล่นอยู่อีกฝั่ง
“โอเคครับ อย่างนั้นเอากล่องนี้นะ”
“ขอบคุณฮะ” เมื่อได้ถุงของเล่นมาถือเจ้าตัวเล็กก็ยกมือไหว้ขอบคุณทันที ก่อนจะเดินกอดถุงที่ใส่กล่องเลโก้เอาไว้ตลอดทาง พอศรัณย์จะถือให้เจ้าตัวก็ไม่ยอมแถมมีการกอดแน่นขึ้นแล้วเบี่ยงตัวหลับไปมาอีกต่างหาก
เดินเล่นกันต่ออีกสักพักก็พากันกลับ โดยไม่ลืมที่จะแวะซื้อมื้อเย็นเตรียมเอาไว้ด้วย ศรัณย์ถึงแม้จะอยู่คนเดียวแต่ก็ทำอาหารอะไรไม่เป็นนอกจากนำของสำเร็จรูปเข้าไมโครเวฟแค่นั้น เขาจึงเลือกซื้อกลับไปเลย
เมื่อกลับมาถึงคอนโดของศรัณย์ ทั้งสองคนก็นั่งต่อเลโก้ด้วยกันจนแทบจะลืมเวลา น้องกันต์เองก็สนุกจนเผลอลืมเวลาแล้วก็พ่อคินกับคุณมัมไปเสียสนิท ขนาดมื้อเย็นที่แม้จะไม่มีข้าวผัดคุณหมี หรือพุดดิ้งอร่อยๆ เจ้าตัวเล็กก็ไม่ได้สนใจเลย อาจจะเป็นเพราะกำลังสนุกที่ได้อยู่กับคุณพ่อคนใหม่
“น้องกันต์ครับ ดึกแล้วเข้านอนกันดีกว่า” ศรัณย์เรียกน้องกันต์ที่กำลังนั่งเล่นเลโก้อยู่ให้เข้านอน
“ฮะคุณพ่อ” น้องกันต์รับคำ ก่อนจะเก็บของเล่นให้เรียบร้อยแล้วจึงเดินไปหาคนเป็นพ่อ “คุณพ่อ... คุณหมีของน้องกันต์”
“ครับ คุณหมีอะไรกันหือ”
น้องกันต์ไม่ตอบแต่วิ่งกลับไปเปิดกระเป๋าเป้แทนแล้วหยิบเอาตุ๊กตาตัวโปรดออกมากอดแล้ววิ่งกลับไปหาศรัณย์ใหม่ “นี่คุณหมีของน้องกันต์”
“น้องกันต์ชอบตุ๊กตาเหรอครับ” ศรัณย์ถาม คิ้วขมวดเข้าหากัน เขารู้ว่าเด็กๆ มักจะมีของที่ติดเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว แต่ตุ๊กตา... ส่วนใหญ่เด็กผู้ชายจะไม่ติดหรือเปล่า หรือถ้ามีก็น่าจะเป็นตุ๊กตาหุ่นยนต์หรือตุ๊กตาซุปเปอร์ฮีโร่มากกว่าตุ๊กตาหมีหน้าตาน่ารักแบบนี้
เจ้าตัวเล็กพยักหน้า “ฮะ ชอบ มัมซื้อให้น้องกันต์เต็มเลยพ่อคินก็ด้วย คุณตาคุณยายก็โด้ย”
“แต่พ่อว่าน้องกันต์โตแล้ว เลิกกอดตุ๊กตาดีกว่าไหม”
“ไม่เอา น้องกันต์ชอบ” เจ้าตัวเล็กว่าพร้อมกับกอดตุ๊กตาตัวโปรดเอาไว้แน่น
“แต่ว่าตุ๊กตาหมีแบบนี้เด็กผู้ชายเขาไม่กอดกันนะ ตอนพ่อเด็กๆ พ่อก็ยังไม่กอดเลย”
“ไม่เอา น้องกันต์จะกอด น้องกันต์ชอบ”
ศรัณย์ถอนหายใจ พยายามที่จะพูดเพื่อให้น้องกันต์เลิกกอดตุ๊กตาหมีแต่เจ้าตัวเล็กก็ส่ายหน้าไม่ยอมอย่างเดียว แล้วพอเขาพูดมากขึ้นเรื่อยๆ ดวงตากลมโตนั้นก็เริ่มปริ่มน้ำก่อนที่น้ำตาจะไหลออกมา “ไม่เอา อึก... น้องกันต์จะกอดคุณหมี น้องกันต์จะกอด ฮืออ...”
คนที่ไม่เคยเลี้ยงน้องกันต์ ไม่เคยรับมือตอนน้องกันต์ร้องไห้ก็เริ่มทำอะไรไม่ถูกจนได้แต่ยอมให้น้องกันต์กอดตุ๊กตาหมีนอนเจ้าตัวเล็กถึงได้คลายสะอื้นลงไปบ้าง
“โอ๋ๆ พ่อขอโทษครับ น้องกันต์กอดตุ๊กตานอนก็ได้ นอนกันดีกว่านะเดี๋ยวจะไม่สบาย” ศรัณย์อุ้มน้องกันต์ พาเดินไปมาในห้องเพื่อปลอบให้น้องกันต์หยุดร้องไห้
จนสุดท้ายก็กลายเป็นเจ้าตัวเล็กร้องไห้จนเหนื่อยแล้วหลับไป เขาจึงได้พาน้องกันต์ไปนอนที่เตียงดีๆ ห่มผ้าให้เรียบร้อยก่อนที่จะเข้านอนบ้าง
************************************************
น้องกันต์มาอยู่กับศรัณย์แล้วค่ะ วันแรกผ่านไปได้ แต่วันต่อๆ ไปจะผ่านไปได้หรือเปล่าอันนี้ก็ต้องรอดูกันต่อไปนะคะ ตอนนี้ยังไม่เท่าไหร่ แต่ตอนหน้าสำหรับใครที่ร้องไห้ง่ายหรืออ่อนไหวง่ายฟางแนะนำให้เตรียมกระดาษหรือผ้าเช็ดหน้าเอาไว้ก็ดีค่ะ เอาไว้ใช้ซับน้ำตาเนอะ
ส่วนตอนนี้เจอกันแค่นี้ค่า ช่วงนี้เหนื่อยและอ่อนเพลียงานเยอะแต่แทบไม่ได้ทำงานเลย เมื่อวานก็ประชุมทั้งวันตั้งแต่สิบโมงเช้า ยันห้าโมงเย็น วันนี้ก็ไปบ้านลูกค้าที่ต่างจังหวัด ฮืออออ เหนื่อย แอนด์ เพลีย แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ทำได้แค่ขอคอมเมนต์กำลังใจจากทุกคนแค่นั้นแหละค่ะ
แล้วก็...ขอโฆษณาค่ะ ตอนนี้เรื่อง My Mom ; รักของมัม น้องกันต์จัดให้ เปิดจองแล้วนะคะ สามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดกันได้นะคะ ยังไงก็ฝากเอาไว้ด้วยค่ะ สนับสนุนกันหน่อยน๊า ^^
+++ รายละเอียด เปิดจองรวมเล่ม My Mom ; รักของมัม น้องกันต์จัดให้ +++
แล้วเจอกันใหม่ค่ะ
อ่านแล้วอย่าลืมคอมเมนต์นะคะ คอมเมนต์กันหน่อยนะ อย่าเงียบค่ะ ใจไม่ดีเลยยยยย
สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi
สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC
เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)
รักน้องกันต์ เอ็นดูน้องกันต์กันเยอะๆ นะคะ กดเฟบ กดเมนต์ กดโหวด กดแชร์ แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้น้องกันต์นะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ