และเหมือนคำขอของน้ำฟ้าจะได้ผล... เพราะจู่ๆก็ได้ยินเสียง...กริ๊ก...ดังขึ้นเบื้องหน้า... และภาพที่เห็นต่อมาก็ทำให้น้ำฟ้าแทบล้มทั้งยืนเมื่อเห็นผู้ชายร่างสูงใหญ่ในชุดเสื้อสูทที่มีรอยคราบเปื้อนเป็นบางแห่ง... กำลังยกมือข้างหนึ่งกดปืนจ่อเข้าข้างขมับชายไว้หนวดเครารุงรัง... และอีกมือก็ยกมาจับข้อมือข้างที่มีมีดจ่อคอน้ำฟ้าอยู่...ก่อนจะส่งเสียงเรียบๆออกมาว่า
"...เอาลูกปืนไปกินก่อนดีมั้ย..." รังสิมันต์ไม่รู้ตัวเลยแม้แต่นิดว่ามองชายคนร้ายด้วยสายตาหมายมาดให้ตายราวมัจจุราชจากยมโลกก็ไม่ปาน... แววตาสีเข้มจดจ้องมองมือข้างที่กดมีดจ่อน้ำฟ้าแล้วออกแรงดันลงเมื่อมันออกแรงขืนต้านไว้...
"มะ...มึง !! มาตั้งแต่เมื่อไหร่ว่ะ !!!" มันน่ากลัว...น่ากลัวเกินไปแล้ว !! มันเข้ามาทางข้างหลังโดยที่เขาไม่รู้ตัวเลยได้ยังไง... เขาไม่เคยโดนศัตรูเข้าใกล้ตัวได้มากขนาดนี้มาก่อน... แถมยังเข้ามาใกล้ชนิดเอาปืนจ่อหัวด้วยยิ่งไม่เคยใหญ่...
"มาเมื่อไหร่ไม่สำคัญ... ปล่อยมีดซะ... แล้วบอกฉัน... ใครส่งแกมา !" รังสิมันต์ขู่เสียงเหี้ยมจนแม้แต่น้ำฟ้าที่ค่อยๆโดนเอามีดออกห่างไปจากตัวยังต้องพยายามเงียบเสียงหอบและเสียงไอที่ประเดประดังเข้ามา... และเมื่อปลายมีดพ้นตัวลำขาเล็กๆก็ค่อยๆทรุดตัวลง ดีที่เอาสะโพกยันตัวเองกับขอบกำแพงต้นไม้ประดับได้...ร่างทั้งร่างจึงยังไม่ทรุดกองลงไปกับพื้น
เด็กหนุ่มพยายามจะไอออกมาแต่มันก็ไม่มีเสียง... และความเจ็บที่เริ่มรู้สึกอย่างรุนแรงมากขึ้นก็ทำให้เขาต้องเอามือข้างหนึ่งมากดทับปากแผลที่เริ่มมีเลือดหยาดไหลออกมาช้าๆเอาไว้...
"ฟ้าไหวมั้ย...!" รังสิมันต์ออกอาการลนเล็กน้อยเมื่อเห็นร่างบอบบางทั้งน้ำฟ้าและหนูลินค่อยๆทรุดลง... ร่างเล็กบางไม่ตอบเขานอกจากยกมือมากดที่ลำคอซึ่งเริ่มเห็นมีหยดเลือดซึมผ่านนิ้วขาวออกมาแล้ว... และเมื่อยิ่งเห็น..อารมณ์โทสะที่กดไว้ว่าจะไม่ฆ่ามันแต่จะเก็บเอาไว้รีดข้อมูลก็เริ่มจางหาย... ปลายกระบอกปืนกดลงศีรษะคนร้ายแน่นขึ้นพร้อมกับที่มืออีกข้างสับเข้าลงข้อมืออย่างไม่ออมแรงเพื่อให้มันปล่อยมีดลงพื้นซะ...
"อ๊าก !!" ชายคนร้ายร้องดังลั่น เมื่อความรู้สึกมันบอกว่าตอนนี้ที่ข้อมือเขาไม่กระดูกร้าวก็คงจะหักไปแล้วแน่ๆ...
แค่นั้นยังไม่พอ... รังสิมันต์จงใจจับลงเข้าบริเวณที่ถูกสับข้อมือเมื่อครู่แล้วบีบแน่นก่อนจับไขว้หลังเข้าหาตัวอย่างชำนาญ เมื่อร่างกายสูงใหญ่ของเขานำหน้าคนร้ายที่ออกจะหนาและเตี้ยกว่าเขาอยู่หลายเซนฯนัก...การจับบิดข้อมือแบบนี้จึงทำได้โดยง่าย เสียงร้องครวญครางบ่งบอกความเจ็บของคนร้ายไม่สั่นสะเทือนความรู้สึกของรังสิมันต์เลยแม้แต่นิด... ทว่ากับเสียงไอแผ่วเบาของน้ำฟ้าที่แว่วมากลับทำให้แววตาของชายหนุ่มหวั่นไหวไปได้อย่างชัดเจน... สายตาห่วงหาอาทรมองไปทางน้ำฟ้าแล้วขานชื่อเพื่อเรียกสติ...
"น้ำฟ้า... ทำใจดีๆไว้... มาคัส ! มาพาน้ำฟ้าไปดูอาการที...!!" รังสิมันต์ตะโกนบอกลูกน้องที่วิ่งเข้าไปช่วยพะยุงร่างของธาดาให้เข้ามาหลบในที่ปลอดภัยก่อน เมื่อตอนนี้ห่ากระสุนที่เงียบไปชั่วครู่เริ่มกระหน่ำซัดออกมาอีกครั้ง...
"ย๊าก...!!" และชั่วขณะที่แรงแขนรังสิมันต์อ่อนลงเล็กน้อย คนร้ายก็ถือโอกาสนั้นศอกเข้าที่แผงท้องแน่นตึงจนรังสิมันต์กระตุกตัวโค้งงอลงไป... แต่ทว่าตัวคนร้ายก็ไม่ทันสะบัดหลุดออกไปทั้งตัวเพราะรังสิมันต์อาศัยความไวกว่าคว้าตรงคอเสื้อแล้วกดทุ่มลงบนพื้น แล้วคราวนี้ก็เอาปืนจ่อหน้าผากก่อนจะสบถใส่หน้าเสียงดัง...
"...ฤทธิ์เยอะนักนะมึง...! อยากตายเร็วๆทำไมไม่บอก...จะได้ช่วยสงเคราะห์ให้แบบที่ไม่ต้องลำบากไง..." รังสิมันต์กัดฟันด่า... มือข้างหนึ่งกดเข้าตรงแอ่งชีพจรที่คอ ส่วนมือข้างที่ถือปืนจ่อตรงหน้าผากก็กดเสียแน่นแบบที่มั่นใจว่าถ้าเขาลั่นไกออกไปมันต้องตายอย่างเรียบร้อยไม่มีต้องทนทรมานมากแน่นอน...
"ถุ้ย ! ต่อให้กูตาย...มึงก็ไม่รู้หรอกว่าใครส่งกูมา..."
"...ไอ้ธรรณธรใช่มั้ย..." รังสิมันต์ถามกลับเสียงเย็น... แต่อีกฝ่ายกลับแสยะยิ้มแล้วหัวเราะออกมาแทน แต่ก็ไม่ยอมตอบอะไรมากไปกว่านั้น...
ชั่วขณะที่รังสิมันต์กำลังคิดหาทางง้างปากไอคนร้ายที่โดนเขากดเอาไว้ เบื้องนอกตรงถนนใหญ่ก็ได้ยินเสียงบิดเครื่องรถยนต์ดังกระหึ่มไปทั่วบริเวณ... ครู่เดียวก็เห็นรถเก๋งสีดำทั้งคันขับทับโครงเหล็กของซุ้มดอกไม้ทางเข้างานมาด้วยความเร็วสูว... และยิ่งเร่งความเร็วขึ้นไปอีกโดยไม่เกรงว่าเบื้องหน้าคือรถทหารสองคันที่หุ้มเกราะเอาไว้อย่างดีตั้งตระหง่านขวางทางไว้อยู่...
...บรื๊นนน...!! รถเก๋งคันดังกล่าวขับพุ่งเข้าชนรถทหารคันแรกแล้วดริฟท์แบบโดนัทหนึ่งรอบโดยจงใจให้รถทหารอีกคันโดนแรงเหวี่ยงจากปลายท้ายของรถเก๋งพุ่งเข้ากระแทก... เสียงร้องตะโกนวี๊ดว้ายดังมาพร้อมกับเสียงล้อรถบดกับพื้นถนนจนเสียดแก้วหู... และผลจากการชนก็ทำรถทหารทั้งสองคันโดนปัดจนหันไปคนลทิศคนละทาง... แต่ผลจากการคำนวณวงดริฟท์ของซึโยชิก็ถูกเผง... เมื่อรถทั้งสองคันเบี่ยงส่วนหน้ารถที่มีช่องเจาะเอาไว้เยอะที่สุดมาทางรถของเขา...
แล้วเมื่อหลังคารถเก๋งเปิดออก... ก็มีผู้ชายในแว่นตาดำคนหนึ่งยืนขึ้นพร้อมปืนยาวบรรจุกระสุนที่ต่อเชื่อมกับสายพานที่พาดบ่าเอาไว้... ชายคนดังกล่าวเมื่อยืนได้มั่นคงแล้วก็ลงมือสาดกระสุนเข้าใส่รถสองคันนั้นอย่างไม่ยั้ง...
...ปัง...ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ... เสียงกระสุนดังราวเสียงห่าประทัดจนน้ำฟ้าหูอื้อไปหมด... ร่างเขาทรุดลงแนบพื้น เด็กหนุ่มนั่งกอดเข่าสองมือยกขึ้นปิดหูตัวเองแล้วก้มหน้าชิดหนูลิน... ไม่รู้ตัวเลยจริงๆว่าน้ำตามันไหลออกมาเพราะแรงกดดันและความกลัวตั้งแต่ตอนไหน... เพิ่งรู้สึกตัวเองว่าอ่อนแอแค่ไหน ว่าเขาไม่มีกำลังเพียงพอจะปกป้องลูกได้ด้วยตัวเองจริงๆ...
"ฟ้า...ไม่เป็นไรนะ..."
แล้วจู่ๆเสียงทุ้มห้าวของใครบางคนก็ดังขึ้นข้างหู... พร้อมอ้อมกอดแข็งแรงมั่นคงที่สวมกอดมิดทั้งตัวเขาและหนูลิน... นอนห้องเดียวกันมาพักใหญ่ทำไมแค่กลิ่นอาฟเตอร์เชฟของผู้ชายคนนี้น้ำฟ้าจะจำไม่ได้...
"คุณ...รังสิมันต์...ฮึก...ฮือ........" อยากเงยหน้ามองเขาแต่ถูกกดให้ซบแน่นอยู่ที่บ่ากว้าง... และเหมือนเพิ่งรู้สึกว่าตัวเองกลับมาหายใจได้อีกครั้งน้ำฟ้าจึงปล่อยโฮโดยไม่สนใจใครอีก...
ใครว่าผู้ชายอ่อนแอไม่ได้...ไม่ใช่ทุกคนเสียหน่อยนี่ที่จะโดนมีดปาดคอแล้วจะยังนิ่งเหมือนไม่รู้สึกรู้สาอะไร... ผู้ชายบางคนเลือดไม่ออกด้วยซ้ำ...แค่โดนผู้หญิงบอกเลิกยังร้องไห้จะเป็นจะตายยิ่งกว่าเขาเสียอีก...
มือหนาอบอุ่นลูบหลังและไหล่ของเขาไม่หยุด... และเหมือนจะรู้สึกว่าตรงหน้าผากของเขาจะโดนจุมพิตแผ่วเบาปลอบขวัญอีกต่างหาก... แต่วินาทีนี้น้ำฟ้ารู้แล้วว่าใครที่จะมอบความปลอดภัยและมั่นคงให้กับตัวเองได้... เด็กหนุ่มจึงยอมร้องไห้อยู่นิ่งๆในอ้อมแขนของรังสิมันต์... ส่วนเจ้าตัวน้อยที่ร้องไห้เสียจนเสียงเริ่มแหบก็เหลือเพียงสะอึกสะอื้น... เมื่อมีมือใหญ่แข็งแรงแก้ปมผ้าด้านหลังของน้ำฟ้า แล้วยกตัวเขามากอดเอาไว้ที่ไหล่อีกข้าง... เด็กน้อยเกาะหนึบซบพวงแก้มลงบนลาดบ่าใหญ่แล้วก็ส่งเสียงครางฮือไม่ยอมหยุด... รังสิมันต์ถอนหายใจอย่างโล่งอกที่ตอนนี้เขาสามารถคว้าทั้งสองคนที่สำคัญสำหรับเขามาไว้ใกล้ตัวได้... มันรู้สึกทั้งโล่งใจและดีใจมากอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนเลย...
.
.
.
-----------------------------------------------------------------------------
...แห่ะๆ...เนื่องจากตอนนี้มีเหตุขัดข้องให้เค้าต้องรีบบินเร็วขึ้น...
...ทำให้การเรียนช่วงที่ผ่านมาและต่อจากนี้ไปอัดแน่นเต็มทั้งเจ็ดวัน
...ตอนแรกตั้งใจจะเขียนเรื่องนี้ให้จบก่อนไปอเมริกา...แต่ว่า -*- เหมือนจะไม่ทัน(รึเปล่า)
...แต่ถึงยังไงเรื่องนี้เค้าลงจนจบแน่นอนจ้าา... อาจจะนานๆมาทีแต่ก็ขอชดเชยด้วยตอนยาวๆละกันเนอะ...
...อาทิตย์หน้ามีสอบมิด... กร๊าซซซซ...ทำไม่ได้โฟร๊ย !!!
...เอาเป็นว่า...ต้องขอโทษนักอ่านทุกท่านด้วยนะที่มาลงไม่เป็นเวลา...เช้าบ้างดึกบ้าง...
...เหอๆ ถ้าว่างช่วงไหนเขาก็พยายามจะมาลงให้ช่วงนั้นอ่ะจ่ะ
...ปล. แต่ก็ขอบคุณนักอ่านทุกคนที่ยังเข้ามาอ่านมาคอมเมนต์กันนะ