กฏเล้าประกาศ 22/9/2019 จะลบนิยายที่ไม่มาต่อจนจบทิ้งทั้งหมดเล้าเป็ดรณรงค์ ให้ใช้เรียกนักเขียน นักอ่านแทน ไรท์เตอร์ รีดเดอร์ เพื่อให้เป็นเอกลักษณ์ของเว็บเรากันนะคะ
สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ
ชอบมากเลยอะ อยากอ่านตอนพิเศษมากๆเลย นิยายสนุกมากๆๆๆๆ บทที่ 70 ตราบชั่วนิรันดร์ องค์เดเมี่ยนถูกนำตัวไปทำแผล แม้แผลจะไม่ลึกมาก แต่ก็เป็นแผลที่ยาว หมอพอลจึงทำการเย็บปิดปากแผลโดยมีมิคาเอลนั่งมองด้วยความเป็นห่วงอยู่ข้างๆ ไม่ยอมไปไหน และองค์เดเมี่ยนก็จับมือของมิคาเอลไว้ตลอดเวลาเช่นกัน แผลกรีดยาวที่หน้าอก กลับไม่ได้ทำให้องค์เดเมี่ยนรู้สึกเจ็บเลยสักนิด ในตอนนี้ พระองค์มีความสุขมากเสียจนไม่ว่าอะไรก็คงจะทำให้พระองค์โกรธไม่ได้ ตรงกันข้ามพระองค์กลับอารมณ์ดีอย่างไม่น่าเชื่อ พระองค์ยิ้มออกมาหลายต่อหลายครั้ง ทำเอาคนรอบข้างที่เห็นต่างพากันตกใจ และหลงใหลในรอยยิ้มของพระองค์ “เจ็บมากไหมครับ” มิคาเอลถาม“ไม่เจ็บเลยสักนิด ตราบที่มีเจ้าอยู่ตรงนี้ ต่อให้มากกว่านี้ เราก็ไม่กลัว” ทรงตรัส“แค่นี้ ผมก็แทบทนไม่ได้แล้ว” มิคาเอลตอบ ดูราวกับจะร้องไห้“เราไม่เป็นอะไรหรอก เจ้าอย่ากังวลเลย เราต่างหาก ที่ต้องขอโทษเพราะเรา จึงมีคนคิดจะทำร้ายเจ้า เจ้าพวกกบฏมันทำอะไรเราไม่ได้ คงคิดจะทำกับเจ้าแทน” ทรงตรัส ยกมือของมิคาเอลขึ้นมาจุมพิตเบาๆ“ผมรักพระองค์ ผมไม่กลัว ผมต้องการอยู่เคียงข้างพระองค์ครับ” มิคาเอลกล่าวแอบกลัวว่าพระองค์จะไม่ยอมให้เขาอยู่เคียงข้างอีก“เราจะปกป้องเจ้าเอง อย่าหนีไปจากเรา อย่าลืมเราอีก เข้าใจไหม” ทรงกำชับ มิคาเอลน้ำตาไหลออกมาอีก เสียใจกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น หัวใจบีบรัดจนปวดร้าว เขารักเจ้าชายเดเมี่ยนจนหมดหัวใจ พระองค์เอื้อมมือมาเช็ดน้ำตาให้“อย่าร้องไห้สิ เรากำลังทำแผลอยู่ เรายังกอดเจ้าไม่ได้” ทรงตรัส“องค์เดเมี่ยนครับ ผมรักพระองค์ รักมากเหลือเกิน รักพระองค์ที่สุด” มิคาเอลกล่าวขยับเข้ามาใกล้ ซบใบหน้าลงกับต้นแขนของพระองค์“เรารักเจ้ามากกว่าสิ่งใด มิคาเอล” ทรงตรัส ยกมือขึ้นลูบศรีษะลูกแมวขี้อ้อนของพระองค์ หมอพอลมององค์เดเมี่ยนอย่างหมันไส้นิดๆ แต่ก็ไม่พูดอะไร ด้วยเพราะรู้ว่าองค์เดเมี่ยนทรงรักมิคาเอลมากเพียงไหน และมิคาเอลก็รักพระองค์ไม่ได้น้อยไปกว่ากัน ทั้งสองผ่านพ้นอุปสรรคมากมายมาด้วยกัน อุปสรรคที่พยายามจะแยกคนทั้งสองออกจากกัน ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่รักแท้ก็ได้พิสูจน์ว่าสามารถเอาชนะทุกสิ่งทุกอย่างได้ ทั้งสองเอาแต่สวีทหวานกันอยู่ตลอดเวลา จนหมอพอลเริ่มรู้สึกเป็นส่วนเกิน เมื่อทำแผลเสร็จองค์เดเมี่ยนก็พามิคาเอลกลับวิลล่า เป็นเพราะพระองค์ถูกลอบทำร้ายอีกครั้ง องค์นาธานเนียลจึงเสด็จมาเยี่ยมด้วยพระองค์เองเมื่อมาถึงก็พบมิคาเอลนั่งอยู่เคียงข้าง ป้อนอาหารให้องค์เดเมี่ยนที่นอนอยู่บนเตียง องค์นาธานเนียลก็รู้สึกเป็นห่วงพระเชษฐาขึ้นมา และรู้สึกผิดที่ใช้งานพระองค์หนักเกินไป “นาธานเนียล” องค์เดเมี่ยนทัก“พระองค์เป็นอย่างไรบ้าง” ทรงตรัสถาม มิคาเอลเห็นองค์นาธานเนียล เข้ามาจึงลุกขึ้น ทำความเคารพและพยายามจะเดินออกไป“เดี๋ยวมิคาเอล” องค์นาธานเนียลรั้งเอาไว้“องค์นาธานเนียลต้องการอะไร หรือครับ” มิคาเอลถามอย่างตกใจ ปกติองค์นาธานเนียลไม่ค่อยชอบเขาเสียเท่าไหร่“ขอบใจมาก ที่พยายามปกป้องเสด็จพี่เดเมี่ยน และดูแลพระองค์อย่างดี เจ้าในตอนนี้ก็เสมือนครอบครัวของเรา เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิด เราขอโทษที่เคยทำไม่ดีกับเจ้าไว้” องค์นาธานเนียลทรงตรัส“ขอบคุณครับ ผมรักองค์เดเมี่ยนครับ ผมสัญญาว่าจะทำทุกอย่างเพื่อพระองค์ครับ” มิคาเอลกล่าวยิ้มออกมา“พอได้แล้ว มิคาเอล เจ้าไม่จำเป็นต้องสนใจใครนอกจากเรา” องค์เดเมี่ยนตรัสไม่พอใจ ที่น้องชายมายุ่งวุ่นวายกับมิคาเอล แต่มิคาเอลก็ขอตัวออกไป “เราจะพักสักระยะ เจ้าคงไม่บังคับให้เรากลับไปทำงานหรอกใช่ไหม”องค์เดเมี่ยนรีบตรัส พระองค์อุตส่าห์เล่นละครทำเป็นว่าเจ็บหนัก“ผมเข้าใจครับ พระองค์พักผ่อนจนกว่าแผลจะหายเถอะครับ”องค์นาธานเนียลกล่าว“ขอบใจ เจ้ากลับไปได้แล้ว เราอยากอยู่กับมิคาเอล ไม่ต้องการคนอื่น”ทรงตรัสไล่ องค์นาธานเนียลหัวเราะ และลากลับไป หลังองค์นาธานเนียลกลับไป องค์เดเมี่ยนก็เอาแต่ใจอีกครั้ง ด้วยการพามิคาเอลแอบหนีขึ้นเครื่องไป ชาร์โตว์ เดอ ลาเบลล อีกครั้ง โดยพระองค์ไม่ได้บอกกับเขาว่าทำไม “เรามาที่นี่ทำไมหรือครับ” มิคาเอลอดถามไม่ได้พระองค์ไม่ตอบ พาเขาเดินเข้าไปในคฤหาสน์ ทุกที่ในชาร์โตว์ล้วนประดับตกแต่งด้วยดอกกุหลาบ ส่งกลิ่นหอมอบอวนไปหมด เมื่อเข้ามาในห้องโถงซึ่งเป็นห้องขนาดใหญ่ใช้ในการจัดงานเต้นรำ มิคาเอลก็ต้องแปลกใจ เมื่อกลางห้องมีรูปของเขาและรูปของพระองค์ ถูกประดับตกแต่งอยู่เต็มไปหมด มีทั้งรูปที่เขาถ่าย และรูปที่คนอื่นถ่าย แต่ทุกรูปล้วนเป็นภาพที่ทั้งเขาและองค์เดเมี่ยนดูมีความสุขเหลือเกิน มิคาเอลเดินดูรูปอย่างสนใจ แต่เมื่อหันกลับมาองค์เดเมี่ยนกลับจ้องมองมาที่เขา “มิคาเอล เรารู้ว่า เราอาจจะไม่ใช่คนที่ดีที่สุด เราอาจจะทำเรื่องไม่ดีมามากมาย เราอาจจะเคยทำให้เจ้าเสียใจมาหลายต่อหลายครั้ง แต่เราสัญญาว่าจากนี้ไป เราจะรักเจ้าให้มากที่สุด เท่าที่คนๆ หนึ่งจะสามารถรักคนอีกคนหนึ่งได้ เราสัญญาว่าเราจะรักเจ้าตราบจนลมหายใจสุดท้าย เราจะชราไปพร้อมๆ กับเจ้า เราจะอยู่ที่ตรงนี้ เคียงข้างเจ้าเสมอ ไม่ว่ายามสุข หรือยามทุกข์ ไม่ว่าจะเจ็บป่วย หรือแข็งแรง เราจะคอยดูแล และรักเจ้า อ้อมกอดของเรา จะเป็นบ้านของเจ้า ทั้งหมดของเรา เป็นของเจ้า คนเดียว เราอยากให้เจ้าเป็นเจ้าของเรา ปรารถนาให้ทุกรูปของเรามีเจ้าอยู่ในนั้น อยากให้เจ้าเป็นดั่งแสง และเราจะเป็นดั่งเงา อยู่เคียงข้างกันตลอดไป” องค์เดเมี่ยนกล่าว คุกเข่าลงตรงหน้าของมิคาเอล “ได้โปรด เป็นชายา เพียงหนึ่งเดียว ของเราจะได้ไหม” ทรงตรัสถาม แหวนวงเดิมที่มิคาเอลคืนให้องค์เดเมี่ยน ถูกเอาออกมาอีกครั้ง มาพร้อมกับแหวนหมั้นที่มีเพชรสีน้ำเงินขนาดใหญ่สีเดียวกับดวงตาของมิคาเอลเพิ่มขึ้นมาอีกวง มิคาเอลน้ำตาไหลออกมาอีกครั้ง“ครับ ฝ่าบาท ผมรักพระองค์ครับ รักมากที่สุด และจะรักตลอดไป”มิคาเอลกล่าว องค์เดเมี่ยนสวมแหวนให้ มิคาเอลก็โผเข้ากอดพระองค์อย่างรักใคร่ หัวใจบีบรัด ความปิติยินดีเอ่อล้น องค์เดเมี่ยนกอดมิคาเอลเอาไว้ ก้มลงจุมพิตคนตัวเล็กเนิ่นนาน กระซิบข้างหูคนตัวเล็ก “เรารักเจ้า มิคาเอล รักตลอดมา และจะรักตลอดไป” ทรงตรัส“ผมก็รักองค์เดเมี่ยนครับ รักมากที่สุด รักพระองค์เพียงคนเดียว ตลอดไป” มิคาเอลกระซิบตอบน้ำตาแห่งความสุขไหลริน หลังจากการปราบกบฏครั้งใหญ่ในคานาเดีย คานาเดียก็กลับมาสงบสุขอีกครั้ง แต่เพราะภาพหลายต่อหลายภาพที่แสดงถึงความโหดเหี้ยมของเจ้าชายเดเมี่ยนถูกเผยแพร่ออกไป ทั้งภาพที่ใบหน้าของพระองค์เปื้อนเลือด ภาพที่พระองค์ต่อยคนร้ายจนสลบ พร้อมกับมือที่เปื้อนเลือด และอื่นๆ อีกหลายภาพ ซึ่งภาพเหล่านั้น ส่งผลกระทบต่อทั้งชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของทั้งพระองค์และราชวงศ์ จนองค์นาธานเนียลรับสั่งให้แก้ไขภาพลักษณ์โดยด่วน องค์เดเมี่ยนดูขัดใจ แต่มิคาเอลก็เสนอให้ตีพิมพ์หนังสือภาพเล่มหนึ่งที่มิคาเอลเป็นคนถ่าย หลังจากที่หนังสือถูกตีพิมพ์ ภาพลักษณ์ของพระองค์ ก็ดูดีขึ้นมาก ภายในหนังสือเล่มนี้ มีภาพในอริยาบทต่างๆ ขององค์เดเมี่ยนที่คนทั่วไปไม่เคยมีโอกาสได้เห็น ทั้งภาพทรงงานหนัก ภาพออกกำลังกาย ภาพใบหน้าอันหล่อเหลาในระยะใกล้ และภาพพิเศษสองภาพ ที่เป็นที่พูดถึงมากที่สุด คือภาพที่องค์เดเมี่ยนทรงยิ้มอย่างกว้างขวาง จนแทบละลายหัวใจของผู้คนที่พบเห็น และภาพที่ถูกถ่ายด้วยพระองค์เอง เป็นภาพคู่ของพระองค์และว่าที่พระชายามิคาเอล แม้จะเป็นภาพธรรมดาของคู่รักภาพหนึ่ง แต่ไม่เคยมีใครเห็นภาพ ที่พระองค์จุมพิตหน้าผากของว่าที่พระชายาอย่างอ่อนโยน และรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุขของว่าที่พระชายา ยิ่งเข้าใกล้วันอภิเษกสมรสของทั้งคู่ ภาพๆ นี้ก็ถูกนำมาพูดถึงกันอย่างกว้างขวาง จนหนังสือภาพนี้ต้องถูกตีพิมพ์เพิ่มอีกหลายต่อหลายครั้ง ชื่อของหนังสือที่ถูกตั้งโดยมิคาเอล กลายเป็นฉายาใหม่ขององค์เดเมี่ยนไปโดยทันที และมิคาเอลก็ได้รับฉายาเช่นกัน “The Dark Prince by White Angel” งานอภิเษกสมรสถูกจัดอย่างยิ่งใหญ่ในโบสถ์อันเก่าแก่ของคานาเดีย อันเป็นสถานที่เดียวกับที่กษัตริย์นาธานเนียลและพระชายาได้อภิเษกสมรส แขกสำคัญหลายพันคนถูกเชิญใหมาเป็นสักขีพยานรักแก่คู่รักทั้งสอง ภายในโบสถ์ถูกประดับประดา ตกแต่งด้วยดอกไม้สีขาวอย่างวิจิตรบรรจง นับจากหน้าประตู ไปจนถึงแท่นทำพิธี ดอกกุหลาบสีขาวถูกจัดตกแต่งใส่แจกัน พุ่มแขวน ช่อดอกไม้หลากหลายขนาด รวมไปถึงซุ้มดอกไม้ขนาดใหญ่เหนือแท่นพิธี ส่งกลิ่นหอมไปทั่ว มิคาเอลแต่งกายในชุดขาวทั้งชุด ดูงดงามราวกับทูตสวรรค์ เดินเข้ามาตามทางเดินที่โรยด้วยกลีบดอกกุหลาบสีขาว ทางเดินทั้งสองข้างถูกประดับตกแต่งด้วยต้นไม้สีขาวประดับไฟ เทียนไขจำนวนมากถูกนำมาใส่ในแจกันใสวางไว้ขนาบสองข้างทางเดิน จุดให้แสงสว่างนำทางไปสู่แท่นพิธี ที่สุดปลายทาง มีเจ้าชายเดเมี่ยนที่แต่งกายในชุดดำ ที่ขับเน้นความคมเข้มหล่อเหลา ยืนรอรับเขาอยู่ มิคาเอลจ้องมองชายตรงหน้าอย่างรักใคร่ เขาไม่เคยคิดว่าเขาจะสามารถรักใครได้มากขนาดนี้ ทั้งร่างกาย ทั้งหัวใจ และชีวิตนี้ของเขา เป็นของเจ้าชายเดเมี่ยนเพียงพระองค์เดียว องค์เดเมี่ยนจ้องมองมาที่มิคาเอล คนๆ ที่พระองค์รักยิ่ง คนๆ นี้ได้นำแสงสว่างเข้ามาสู่ชีวิตของพระองค์ เป็นความสุขเพียงหนึ่งเดียวของพระองค์ เป็นความรักอันมั่นคงหนึ่งเดียวของพระองค์ เป็นดั่งแก้วตาและดวงใจ เป็นทุกๆ สิ่งที่คนๆ หนึ่งจะต้องการได้ มิคาเอลงดงามหมดจด ดุจเทพสวรรค์สีขาวบริสุทธิ์ แสงสว่างอันอบอุ่นสาดส่องมาเพื่อพระองค์เพียงคนเดียว พระองค์ยื่นมือออกไปรับมิคาเอลเข้ามายืนเคียงข้าง จับมือ และเริ่มกล่าวคำปฏิญาณรัก ต่อคนที่พระองค์รักจนหมดหัวใจ “เรา เจ้าชาย แห่ง คานาเดีย เดเมี่ยน เดอ ลา จูลิโอ คลอเดียส ขอรับมิคาเอล มิลลส์ เป็นพระชายา เพียงหนึ่งเดียวตลอดไป ด้วยแหวนวงนี้เราขอสัญญาว่า เราจะใช้ชีวิตนี้ เพื่อเจ้า ทุกลมหายใจของเรา เป็นของเจ้า ร่างกาย และ หัวใจนี้ของเรา จะเป็นของเจ้า เพียงคนเดียว เราจะดูแล และรักเจ้า ตราบชั่วนิรันดร์” องค์เดเมี่ยนปฏิญาณรัก แล้วจึงสวมแหวนลงบนนิ้วนางข้างซ้ายของมิคาเอล “ผม มิคาเอล มิลลส์ ผมขอรับ เจ้าชายแห่งคานาเดีย เจ้าชาย เดเมี่ยน เดอ ลา จูลิโอ คลอเดียส เป็นพระสวามี เพียงหนึ่งเดียวตลอดไป ด้วยแหวนวงนี้ผมขอสัญญาว่า ผมจะใช้ชีวิตนี้ เพื่อพระองค์ ทุกลมหายใจของผม เป็นของพระองค์ ร่างกาย และ หัวใจนี้ของผม จะเป็นของพระองค์ เพียงพระองค์เดียว ผมจะดูแล และรักพระองค์ ตราบชั่วนิรันดร์” มิคาเอลปฏิญาณรักต่อชายที่เขารักจนหมดหัวใจ ก่อนจะสวมแหวนให้กับพระองค์ ด้วยน้ำตาที่คลอหน่วง "กระหม่อมขอประกาศให้ทั้งสองเป็นพระสวามี และพระชายาจูบพระชายาได้แล้วขอรับ” บาทหลวงกล่าวขึ้น อย่างยินดี องค์เดเมี่ยนรั้งมิคาเอลเข้ามาหา ก่อนจะก้มลงจุมพิตเนิ่นนานจนหลายต่อหลายคนอิจฉา ก่อนพระองค์จะช้อนร่างเล็กของมิคาเอลขึ้นท่ามกลางเสียงตบมือยินดีต่อทั้งสอง มิคาเอลโอบกอด The Dark Prince ของเขาเอาแนบแน่น เจ้าชายที่โหดร้ายพระองค์นี้ คือเจ้าชายที่เขาจะรัก และอยู่เคียงข้างตลอดไป ชั่วนิจนิรันดร์----จบบริบูรณ์----นิยายเรื่องนี้ได้รับการตีพิมพ์ กับ สนพ นานานาริส ค่ะหากใครสนใจก็สั่งจองได้จนถึง 9 เมษานะคะNanaNarisYBooks
เสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังไปทั่ว พระสนมคนใหม่ขององค์เดเมี่ยน กลับเต้นรำยั่วยวนอยู่กลับองค์รัชทายาทราฟาเอล
ตลอดเวลามิคาเอลคอยช่วยเหลืองานอย่างใกล้ชิด แต่แม้จะใกล้ชิด และอยู่ด้วยกันแทบตลอดเวลา แต่มิคาเอลกลับเย็นชาและไม่ยอมทำดีกับองค์เดเมียนอีกเลยนับตั้งแต่ในวันที่ไปเที่ยวในลอนดอน
มิคาเอล อยู่ในวิลล่าขององค์ราฟาเอลมาได้เดือนกว่าแล้ว องค์ราฟาเอลดูแลเขาเป็นอย่างดี พระองค์ทำดีกับเขาทุกอย่าง เข้าใจ และ อ่อนโยนต่อเขาเสมอ แต่กระนั้นมิคาเอลก็ยังห่างไกลจากคำว่า มีความสุข มากนัก แม้เขาจะพยายามจะทำตัวร่าเริงแต่มันกลับเป็นการฝืนทำต่อหน้าองค์ราฟาเอลเท่านั้น เมื่อองค์ราฟาเอลไม่อยู่ มิคาเอลก็เอาแต่นั่งเหม่อลอย และยังคงเฝ้าคิดถึงเจ้าชายอีกพระองค์หนึ่ง แม้มิคาเอลจะพยายามจะตัดใจ แต่เขาก็ยังไม่อาจจะทำได้ และตราบเท่าที่เขายังรู้สึกครึ่งๆ กลางๆ แบบนี้ เขาคงไม่อาจเปิดใจรับองค์ราฟาเอลได้