ฮิฮิ วิ่งแข่งไล่ปู้ชาย เค้าชอบจังเลยอ้า อุอุ
ขี้เกียจเม้นต์ล่ะ ต่อกานเลยละกัน
ตอนที่ 23 การแข่งขันของที่นี่ก็มีตั้งแต่สากเบือยันเรือรบ เอ้ย... มะช่าย ก็มีแข่งขันว่ายน้ำ วิ่งเปรี้ยวรอบศูนย์ฯ ขี่จักรยานช้าที่สุด (ห้ามล้มด้วย) แล้วก็แข่งกินขนม เป่าแป้งหาเหรียญอะไรพวกนั้นแหละ อิฉันก็ไม่แน่ใจว่ามันเรียกว่าอะไร เพราะตัวเองไม่ได้เล่นอะไรกะเค้าสักอย่าง
อันเนื่องมาจาก กำลังวิตกจริตอย่างแรงที่ต้องขึ้นเวทีคืนนี้ แต่ก็ไม่วายไปช่วยเชียร์หนุ่ม ๆ สาว ๆ เค้าแข่งขันกัน ผลสรุปออกมาว่า กลุ่มฉันแพ้ค่ะ อิอิ ก็มีแต่สาว ๆ กับแก่ ๆ จะเอาอะไรไปชนะเค้าล่ะคะ ชิมิคะ หุหุ
“ว้า.... ชวดของรางวัลไปตั้งหลายอย่าง เซ็งมั่กมาก ๆ” นังออมบ่น
“แหงล่ะ ดูทีมเราซิละ” ฉันตอบกลับไป
“แต่อย่าดูถูกนะค้า ทีมหญิงของเรายังชนะวิ่งไม่ใช่เหรอ” น้องที่มาฝึกงานด้วยพูดขึ้น (แต่รู้สึกจะไม่เรียกพี่เรียกน้องนะคะ เป็นเพื่อนกันซะมากกว่า)
“ถูกต้องที่สุด ก็ยังดีนะที่ชนะบ้าง”
“แล้วนี่จะไปเตรียมตัวกันตอนไหนอ่ะ” พี่แครงถามเรื่องการแสดงคืนนี้
“ก็คงจะเป็นแถว ๆ ห้องนิเวศน์แหละพี่” ฉันบอกไป
“อ๋อ....พวกพี่จะได้เตรียมของกัน”
“ได้เลย ๆ แต่ก่อนขึ้นเวที จืดของสักแก้วนะ แหะ ๆ”
“จะดีเหรอยะนังจืด” นังออมแอบแซว
“ดีสิยะ ของยังงี้ มันต้องย้อมใจกันหน่อยสิ”
“แก้วเดียวนะแก ระวังจะเมาล่ะ” เชอะ... ไม่เมาหรอก ต้องสองแก้วขึ้นไปนู่น ฮิฮิ
หลังจากตกลงกันเสร็จแล้ว ฉันก็เดินกลับไปที่บ้านเพื่ออาบน้ำแต่งตัวใหม่ มากินเลี้ยงตอนเย็นก่อนที่จะขึ้นแสดงคืนนี้ราว ๆ สองทุ่มกว่า ๆ และระหว่างนั้นก็จะมีการจับสลากของรางวัลด้วยแหละ ฉันเอาของอะไรไปแลกก็จำมะได้แล้ว
พอฉันอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้ว ก็เดินไปที่งานก่อนใครเค้าเลย ก็คนมันหิวอ้ะ ทำไงได้ ที่ซุ้มอาหารนะ โอ้โห... ของกินเพียบเลยล่ะ ทั้งกุ้งเผาปลาย่าง อาหารทะเลซะส่วนใหญ่ ซึ่งฉันก็ชอบเป็นพิเศษซะด้วย โดยเฉพาะหมึกย่างกับน้ำจิ้มรสแซ่บ อร่อยเหาะอย่าบอกใครเชียว
แล้วที่นั่นฉันก็พบกับแก๊งค์หนุ่มเท่ห์ (ตรงไหนคะ) โดยไม่รอช้า อิฉันก็สาระแนเดินแถเข้าไปหาทันที (เรียกว่าอะไรคะเนี่ย)
“แหม... มาไม่รอกันเลยนะ” ฉันแอบจิกกัดใครบางคน
“ต้องรอด้วยเหรอวะอิจืด” ไอ้ยะมันว่ามา
“ไม่ได้ถามมึง เจ๋อค่ะ”
“ดอกนะมึง จะแ-กอะไรล่ะ เด๋วกูตักให้”
“ว้าย... หัดเป็นสุภาพบุรุษตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะมึง กูไม่อยากจะเชื่อ” กัดมันเข้าไป
“อินี่... ไม่ต้องแ-กแล้วมั้งมึง” มันวีนมั่ง
“แหม... รักดอกจึงหยอกเล่น อย่าทำงอนไปหน่อยเลย ตักมาเถอะ กูกินหมดแหละ”
แล้วมันก็ต้องตักให้ฉัน อิอิ ตาเอกเดินเข้ามายืนข้าง ๆ ฉัน แล้วก็ถามว่า
“ได้ข่าวว่า คืนนี้จะแสดงเป็นสโนว์ไวท์เหรอ” แหม... ข่าวเร็วจังนะ ใครช่างไปปล่อยไก่ซะได้
“ใครบอกอ้ะ” ฉันถามกลับไป
“รู้มาก็แล้วกัน”
“เนี่ย เราน่ะ... กลั้วกลัวแหละ” ฉันเริ่มแอ๊บละ
“กลัวอะไรล่ะ” ตาเอกเริ่มงง
“ก็กลัวว่าจะไม่ฟื้นขึ้นมาน่ะสิ”
“ทำไมถึงไม่ฟื้นล่ะ” เหอะ... ตามไม่ทันจริง ๆ เหรอเนี่ยมัน
“ก็... ไม่มีเจ้าชายมาจุมพิศเค้าไงล่ะ” อิอิ ตาเอกถึงกับบางอ้อ แต่ว่า....
“อ๊วกกกกกก” ตาภูอ่ะดิ ดูมันทำ ชิชะ ส่วนคนอื่น ๆ ก็ขำ ๆ กันไป
“เป็นอะไรยะ แพ้ท้องเรอะไง” ฉันวีนมัน
“แพ้ความตอแหลของใครบางคนมากกว่า” ดูมันตอบ
“เออ... ไอ้คนไม่เคยตอแหล ฝากไว้ก่อนเหอะ อิยะ ตักเสร็จยังเนี่ย อ่อมอยู่นั่นแหละมึง”
“อ้าว อินี่ มึงไม่เห็นรึไง มันยังไม่สุก หรืออยากเป็นผีปอบ แ-กดิบ ๆ ล่ะ” เวรกรรม ด่าซะเจ็บเลยนะ
แล้วอิฉันก็ต้องหุบปากของตัวเอง แล้วก็เขม่นตาภูอย่างแรง ไอ้นี่เด๋วคุ้มดีคุ้มร้าย ชอบแดกดันกะเทยอย่างฉัน ฉันผิดตรงไหนที่เกิดมาไม่สวย ไม่รวย แต่มีเสน่ห์ (ยาแฝดเหรอ) เหอ ๆ ชักเริ่มจะบ๊องตื้นและฉัน
หลังจากที่อิยะย่างหมึกกะกุ้งเสร็จแล้ว มันก็ส่งส่วยมาให้ฉัน อิอิ ขอบคุณค่ะ พอได้กินแล้ว อารมณ์โมโหหิวมันก็หายไป สักพักพวก ๆ สาว ๆ ก็ตามมาถึงที่ซุ้มกัน พวกเรานั่งทานอาหารเย็นกันจนอิ่ม เพื่อที่จะเตรียมตัวโชว์กันในคืนนี้ (มีแต่แต่ฉันน่ะสิ ที่เค้าเห็นหน้าอยู่คนเดียว)
“ไม่ต้องกินเยอะนะจืด” นังออมบอกฉัน
“เอ๋... ทำไมล่ะออม”
“ก็... ระวังจะใส่ชุดไม่ได้ไงล่ะ” เหอ ๆ
“เว่อร์ไปแล้วย่ะ ฉันไม่ใช่คนอ้วนนะยะ” แอบจิกหางตาใส่ชี เพราะชีอ้วน คิคิ
“ย่ะ นังผอม... เด๋วต้องรีบไปแต่งตัวกันแล้วนะ นี่มันจะสองทุ่มแล้ว”
“นั่นสิ เราต้องแสดงตอนสองทุ่มครึ่งนี่”
“ถ้างั้นขอกินจานนี้หมดก่อนแล้วเราค่อยไปเตรียมตัวกัน”
“โอเค....”
และอีกไม่นานการแสดงที่พวกฉันตั้งใจซ้อมก็จะเริ่มขึ้นแล้วล่ะสิ (เหอ ๆ เค้าเต้นเหมือนกันหมด ยกเว้นฉันที่ต้องคิดท่าเอาเอง ห้ามเหมือน.... มีงี้ด้วย
)
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++