บทที่ 190 Hansel and Gretel
“ของกูเกรเทล”
เฟี๊ยตพูดด้วยเสียงไม่ดังเท่าไหร่นัก สายตาแหลมจับจ้องไปยังหญิงสาวในชุดบิกินี่นั่น เธอเอ่ยปากข่มขู่ก่อน น่าจะเป็นหน้าที่ของเขา
“งั้นของกูก็ไอ้ยักษ์ฮันเซลนั่นสินะ อะไรว๊า โคตรขี้โกง ตัวเองเอาผู้หญิงนุ่งน้อยห่มน้อย ปล่อยให้ชาวบ้านต้องมาสู้กับไอ้ยักษ์ตัวเท่ารถถัง”
ธันบ่นไปเรื่อยเปื่อย แต่แท้จริงแล้ว เขาชอบที่จะจัดการกับเจ้ายักษ์นี่มากกว่า การรับมือกับผู้หญิงที่ดูจะเต็มไปด้วยมารยาแบบนั้นท่าทางจะยากเกินไป
ปังงงงงงงงงงงงงงง
เสียงกระทบกันของวัตถุดังสนั่นขึ้นในจังหวะนั้นเอง เจ้าพี่ชายร่างยักษ์นั่นดูเหมือนจะคว้าขนมอะไรสักอย่างมาจากฝาผนังปามาที่บาเรียของพวกเขาอย่างเต็มแรง แต่มันก็ทำได้เพียงทำให้เกิดเสียงและลงไปนอนแน่นิ่งสิ้นฤทธิ์อยู่กับก้อนกระสุนที่เกลื่อนกลาดอยู่ก่อนแล้ว
“เรื่องมากนัก จะสลับกันก็ได้หวะ”
เฟี๊ยตพูดต่อโดยไม่ให้ความสนใจก้อนครัวซองยักษ์ที่เพิ่งกระแทกเข้าตรงบาเรียตรงหน้าของตนแม้แต่นิดเดียว
ปังงงงงงงงงงงงงงง
เสียงดังสนั่นดังขึ้นอีกครั้งแต่คราวนี้เป็นฝีมือของน้องสาวคนสวยที่หยิบปืนปลายกระบอกกว้างออกมาส่งกระสุนอีกครั้ง มากาฮองขนาดประมาณลูกเทนนิสวิ่งมากระทบกับกำแพงล่องหนห่างไปจากก้านคอของธันแค่นิดเดียว ก่อนจะกลิ้งลงไปนอนบนพื้นไปอีกราย
“ลูกผู้ชายคำไหนคำนั้นหวะ อิโธ่เอ๊ย”
ว่าที่สถาปนิกหนุ่มตอบอย่างยียวน โดยไม่ได้มีท่าทีสนใจก้อนขนมหวานสัญชาติฝรั่งเศสที่วิ่งเข้ามาจู่โจมเช่นกัน
“ฉันจะฆ่าแกให้ตาย ฉันจะฆ่าแกให้ตาย!”
เจ้าของชุดบิกินี่กรีดร้องมาอย่างเหลืออด เมื่อเห็นท่าทีว่าคู่ต่อสู้ทั้งสามนั้นประเมินฝีมือเธอไว้ต่ำมาก หญิงสาวปลดผ้าคลุมออก เผยให้เห็นแผ่นหลังที่มีบราวนี่ขนาดประมาณฝ่ามือร้อยต่อกันอยู่เป็นสาย มือเรียวงามนั่นประกอบสายของหวานนั้นเข้ากับปืนของเธอ ดูเหมือนว่าเจ้าปืนยาวนั่นจะกลายสภาพเป็นปืนกลในไม่ช้า
“พวกแกตายแน่ๆ พวกแกตายแน่ๆ”
เจ้ายักษ์นั่นก็แสดงอาการออกมาให้เห็นเช่นกัน มันบ่นพึมพำอะไรที่จับใจความไม่ค่อยได้เท่าไหร่ ท่าทีของมันดูหงุดหงิดงุ่นง่าน เพียงแค่อึดใจเดียว มันก็ใช้มือไปแตะที่ผนังของบ้านขนมหวาน และแทบจะทันทีทันใด ขนมเหล่านั้นก็เกินการเคลื่อนที่ไปมาราวกับมือของหวานเหล่านั้นถูกติดตั้งอยู่บนสายพานสำหรับใช้เคลื่อนที่
ปังงง ปังงง
แต่ยังไม่ทันที่เฟี๊ยตหรือธันจะได้ก้าวออกจากเกราะกำบังโปร่งใสนั่น เจ้าของบาเรียก็ได้หยิบปืนพกที่เสียบติดเอวไว้ตั้งแต่ช่วงฝึกวิชานั่นออกมาลั่นไกอย่างรวดเร็ว ลักษณะการยิงปืนของกันต์น่าสนใจเป็นอย่างมาก เพราะชายหนุ่มเลื่อนมือทั้งสองข้างเพื่อเล็งเป้าหมายพร้อมกันทั้งมือซ้ายและมือขวา แถมยังระเบิดกระสุนออกไปในช่วงจังหวะเดียวกันอีกด้วย ความสามารถดังกล่าวบ่งถึงความเฉียบคมในการแยกแยะประสาทสัมผัสของทนายความหนุ่มได้อย่างชัดเจน แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่มนุษย์จะสามารถเหนี่ยวไกได้เข้าเป้าทั้งสองจากทั้งมือซ้ายและขวาในเวลาพร้อมกัน ราวกับว่าร่างกายของกันต์จะมีระบบในการแยกการรับรู้อย่างใดอย่างนั้น เฟี๊ยตหรี่ตาน้อยๆ ด้วยความสนใจ ดูเหมือนว่าไม่ใช่แค่เขาและธันเท่านั้นที่ได้ใช้เวลาหลายสิบวันนั้นอย่างคุ้มค่า กันต์ก็ดูเหมือนจะพัฒนาตนเองขึ้นไปได้ไวไม่น้อยเหมือนกัน
ก๊าซซซซซซซซซซซซซซซ
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด
เสียงร้องดังมาจากสองพี่น้องคู่นั้นดังขึ้นอย่างเกรี้ยวกราด แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้แฝงไว้ด้วยความเจ็บปวดอยู่เลย ลูกปืนเหล่านั้นทะลุผ่านร่างของเจ้าสองอสูรไปเฉยๆ อย่างนั้น ไม่มีร่องรอยบาดแผลแสดงให้เห็นแม้แต่นิดเดียว
“กรรมการแจกคำใบ้ละ ผู้เข้าแข่งขันพร้อมลงสนามยัง” กันต์เอ่ยขึ้นพร้อมกับหันไปมองเพื่อนทั้งสองทีละคน
“คำใบ้มึงแห้งแล้งมากเลยหวะ ฮ่าฮ่า” เฟี๊ยตตอบอย่างนึกตลก
“ผู้ชายอะไร๊ ยิงปืนใส่ผู้หญิงก็ได้ด้วย ไม่เป็นสุภาพบุรุษเลยจริงๆ” ธันทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอเหมือนแกล้งจะหัวเสีย
“เดี๋ยวกูจะปรับแพ้ทั้งคู่ ตกลงพร้อมไม่พร้อม” กันต์ขัดความสำบัดสำนวนของเพื่อนทั้งสองคนอย่างหมั่นไส้
“พร้อม”
“พร้อม”
“เริ่ม!”
ปังงง ปังงง ปังงง ปังงง ปังงง ปังงง ปังงง ปังงง ปังงง ปังงง
เฟี๊ยตและธันกระโจนออกไปจากเกราะกำบังแห่งนั้น ในจังหวะเดียวกันกับที่เสียงกัมปนาทของการจู่โจมจากสองพี่น้องได้เปิดศักราชขึ้นอีกครั้ง ดูเหมือนมันจะเป็นช่วงเสี้ยววินาทีเดียวกันที่ทางฝ่ายนั้นตัดสินใจเข้าแลก
เฟี๊ยตมุ่งหน้าตรงไปทางหญิงสาวบนรองเท้าส้นสูงซึ่งเป็นเป้าหมายของเขา ตอนนี้อสูรสาวคนนั้นตั้งหลักรัวปืนส่งกระสุนบราวนี่ขนาดเท่าฝ่ามือใส่เขาแบบไม่หยุดหย่อน แต่จังหวะการโจมตีก็ผิดไปจากที่เขาคิดพอสมควร เพราะตอนแรกที่ดูจากจำนวนกระสุนที่พาดระโยงระยางอยู่ เฟี๊ยตคิดว่าน่าจะยิงได้ต่อเนื่องแบบปืนกล ในความจริงแล้ว หล่อนยิงได้ต่อเนื่องก็จริง แต่ก็อยู่ในระดับที่เร็วกว่าปืนทั่วไปไม่มากเท่านั้น อย่างไรก็ตาม กระสุนขนมสีน้ำตาลเหล่านั้นที่สาดออกมาก็มากมายพอที่จะทำให้เขาเคลื่อนไหวเข้าประชิดตัวได้ช้าลง
เฟี๊ยตเริ่มต้นวิ่งออกจากบาเรียคุ้มภัยแห่งนั้นตรงไปยังร่างของเกรเทลเพื่อจะเร่งปิดการต่อสู้ให้ไวกว่าเพื่อนรุ่นน้อง ชายหนุ่มรวบรวมจิตไว้ที่ดวงตาทั้งสองข้าง สายตาเขาเพ่งมองไปยังลูกกระสุนเหล่านั้นอย่างตั้งใจ เมื่อใช้จิตภาพที่เห็นก็จะยิ่งชัดเจนมากขึ้น ราวกับว่ากระสุนเหล่านั้นมันเคลื่อนไหวช้าลง
เภสัชกรหนุ่มเคลื่อนที่หลบกระสุนเหล่านั้นอย่างง่ายดาย เขาเพียงแค่ใช้การเบี่ยงซ้ายเบี่ยงขวาก็แทบจะเพียงพอจะหลบหลีกห่ากระสุนเหล่านั้นได้แล้ว ยิ่งเขารวมรวมจิตไว้ที่เท้ายึดกับพื้นให้แน่นมากขึ้นยามที่ต้องการจะหลบ และคลายจากพื้นให้มากขึ้นยามที่จะเคลื่อนไหว ความไวในการเคลื่อนที่เขาก็รวดเร็วขึ้นอย่างก้าวกระโดดไปอีกขั้น
ในขณะที่อีกฟากหนึ่ง ธันก็เคลื่อนตัวออกไปด้วยความรวดเร็วไม่แพ้กัน ต่างกันตรงที่ว่าธันไม่จำเป็นต้องรวบรวมจิตเช่นเฟี๊ยต เขาเพียงรวบรวมจักระไว้ที่เท้าก็เพิ่มความคล่องตัวได้อย่างมหาศาล เจ้ายักษ์นั่นไม่ได้พยายามจู่โจมเข้าด้วยระยะไกลอย่างเช่นที่ปีศาจน้องสาวทำ เขาไม่จำเป็นต้องหลบหลีกการจู่โจมอย่างทางอีกฟากหนึ่ง
แต่เหมือนว่าเจ้ารถถังย่อมๆ นั่นก็ไม่ให้เขาได้เปรียบเพื่อนร่วมแข่งขันอยู่นาน มันหันไปหยิบขนมอะไรสักอย่างที่เป็นแท่งยาวขนาดราวกับเสาหินมาจากผนัง อสูรฮันเซลหยิบมันขึ้นมาอย่างคล่องแคล่วราวกับว่ามันเป็นเพียงไม้จิ้มฟันอันเล็กๆ เท่านั้น ดูเหมือนว่าที่มันเคลื่อนย้ายขนมหวานในบ้านนี่จนมั่วซั่วไปหมดก็เพียงเพราะต้องการอาวุธซินนามอนทวิสต์ยักษ์ขนาดเท่าเสาบ้านมาจากอีกฟากนั่นเอง
เจ้ายักษ์นั่นมองมาที่เด็กหนุ่มอย่างหมายมั่นปั้นมือ อีกไม่กี่ช่วงตัว ศัตรูของมันก็จะเข้ามาอยู่ในระยะการจู่โจมแล้ว ถ้าโดนพลองขนาดยักษ์เข้าไป ท่าทางว่าไม่ตายก็คงจะเลี้ยงไม่โต!
“แก!”
เสียงของคู่ต่อสู้ของทางฝั่งเฟี๊ยตดังขึ้นอย่างขัดใจ เกรเทลตัดสินใจปลดกระสุนบราวนี่ออกในจังหวะนั้นเนื่องจากเห็นได้ชัดว่าไม่สามารถทำอันตรายใดๆ ให้กับชายหนุ่มคนนั้นได้เลย หญิงสาวหันไปหยิบถุงขนมอะไรสักอย่างที่กำลังเคลื่อนตัวมาใกล้มือพอดี หล่อนฉีกปากถุง ก่อนจะเทผงสีขาวเหล่านั้นลงในลำกล้องจากทางด้านข้างอย่างเร่งรีบ ดูเหมือนว่าปืนนั้นจะมีกลไกสำหรับจู่โจมได้หลายรูปแบบ
ฟู่ววววววววววววววว
เกรเทลตวัดปลายปืนนั้นก่อนจะยิงออกมาส่ายไปมาอย่างคล่องแคล่ว ผงสีขาวละเอียดประมาณมากมายฟุ้งกระจายออกมาราวกับจะเป็นปราการป้องกันไม่ให้ชายหนุ่มเข้าประชิดตัวอย่างใดอย่างนั้น ผงสีขาวบางส่วนที่ตกกระทบพื้นแล้วกลายสภาพเป็นของเหลวเหนียวหนืดสีน้ำตาลซึ่งยังไม่แน่ชัดนักว่ามีรูปแบบการทำร้ายคู่ต่อสู้อย่างไร
เฟี๊ยตเพ่งจิตประสานไปที่ดวงตาทั้งคู่ยิ่งขึ้น และเมื่อตั้งใจมองไปให้ชัดแล้วจะพบว่าในผงสีขาวปริมาณมากมายเหล่านั้น ไม่ใช่ทุกส่วนที่ประกอบขึ้นด้วยพลังหรือจักระที่จะประหัตถ์ประหารคู่ต่อสู้ลงได้ เหมือนว่าสองอสูรนี่ยังไม่ใช่อสูรระดับยอดฝีมือที่จะมีจักระอย่างไม่จำกัด เฟี๊ยตใช้จิตให้การฝ่าตัวผ่านไปทางด้านที่ผงสีขาวเหล่านั้นเป็นเพียงวัตถุธรรมดาได้อย่างง่ายดาย
ปึ้กกกกกกกกกกกกกก
เสียงกระทบกันระหว่างของแข็งสองชนิดดังลั่นขึ้นทั่วสมรภูมิรบนั่น บ้านขนมหวานสีสวยหลังนั้นดูจะสั่นไหวตามไปเลยทีเดียว เฟี๊ยตแอบชำเลืองไปมองทางอีกฝั่งเพียงชั่วครู่ก็ถึงกับต้องกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดๆ เมื่อเห็นที่มาของเสียงดังสนั่นนั่น
กระบองยักษ์นั่นฟาดโดนซี่โครงด้านขวาของธันอย่างเต็มรัก!
ท่าทางสองปีศาจในนิทานคู่นี้จะไม่ได้จัดการได้ง่ายอย่างที่คิด
ติดตามข่าวอัพเดตตอนใหม่ก่อนใคร :
www.facebook.com/allornonetheauthor