ต่อ
อย่างที่พี่ป้องพูด มันถูกต้องที่สุด ในส่วนลึกข้างใน ผมยังอยากเริ่มต้นใหม่กับคุณหมอ อยากให้เรากลับมาเป็นเหมือนเดิม ผมอยากมีคุณหมออยู่ข้างๆ เหมือนที่เคยมี แม้ความหวังมันจะริบหรี่ก็ตาม นนท์บอกผมว่าน้องเนยคนนั้นคือผู้หญิงที่ครอบครัวคุณหมออยากได้มาเป็นลูกสะใภ้ ครอบครัวของทั้งสองรู้จักและสนิทสนนมกันมาตั้งแต่รุ่นพ่อแม่
นนท์รู้เพราะนนท์จำน้องเนยได้จากภาพถ่ายของพี่ฝุ่นกับเพื่อนพี่ฝุ่น ตอนที่ไปเที่ยวต่างประเทศด้วยกัน แล้วในหลายๆ ภาพนั้นมีน้องเนยรวมอยู่ด้วย น้องเนยเป็นลูกพี่ลูกน้องกับเพื่อนของพี่ฝุ่น นนท์เลยให้พี่ฝุ่นสืบมาให้ถึงได้รู้เรื่องทั้งหมด
“ขี้แยอีกแล้วนะเรา” คำพูดแบบเดิมที่ผมเคยพูดกับตาม ย้อนกลับมาหาผมแล้วครับ ไม่รู้น้ำตามันไหลตอนไหน
“ขอบคุณครับ” พี่ป้องส่งทิซซู่มาให้ แกเลี้ยวรถเข้าไปจอดในลานจอดรถพอดี
“จะซื้อของไหวไหม”
“ไหวครับ” ผมยิ้มให้พี่ป้อง
“แต่เรื่องเมื่อกี้ พี่พูดจริงนะ พี่ไม่อยากเห็นเราเสียใจ ตอนนนท์ก็ทีหนึ่งแล้ว พี่ว่าอยู่เป็นโสดอย่างพี่ดีกว่า ไม่ต้องมีเรื่องให้ปวดหัว” พี่ป้องว่า คิดแบบนี้ละมั้ง พี่ป้องถึงไม่ยอมมีแฟนสักที
“โสดที่ไหนกัน เห็นอยู่ว่ามีแฟนแล้ว ควงกันไปซื้อซะด้วย” ผมแกล้งพูด กะจะเล่นมุกขำๆ ประมาณว่า ผมนี่แหละคือแฟนของพี่ป้อง แต่พี่ป้องกลับแก้ตัวเสียงหลงทันที
“คนนั้นไม่ใช่น่ะ นั่นก็แค่เด็กที่พี่บังเอิญช่วยเขาเอาไว้ แล้วเขาก็แค่....เอ่อ....แค่น่ารัก...แต่ แต่พี่ไม่ได้ชอบผู้ชายนะ” ท้ายประโยคแกเสียงเบาลงมาก
“หา?” เล่นเอาผมงง ลืมเรื่องเศร้าของตัวเองไปเลยทีเดียว
“อ้าว?...”พี่ป้องทำหน้าเก้อ ยกมือลูบศีรษะ
“นั่นแน่ มีความลับใช่ไหม เด็กคนนั้นเป็นใคร เป็นผู้ชายใช่ไหม” ผมชี้หน้าคั้นเอาคำตอบ เมื่อกี้หลุดออกมาแล้วว่า ไม่ชอบผู้ชาย แสดงว่าเด็กคนนั้นเป็นผู้ชาย แล้วที่ไม่เรียกชื่อออกมา น่าจะเป็นเพราะเป็นคนที่ผมไม่รู้จัก
“ไม่มีอะไรหรอก ไปๆ ลงไปซื้อของได้แล้ว นั่งคุยกันทำไมอยู่ตั้งนาน เสียเวลาเปล่าๆ” พี่ป้องปัดมือผมทิ้ง เฉไฉเปลี่ยนเรื่อง แล้วรีบลงจากรถไปทันที ผมไม่ได้เซ้าซี้อะไรมากเพราะไม่ใช่นิสัยอยู่แล้ว แต่รับรองว่าไม่นานเรื่องต้องหลุดออกมาจากปากพี่ป้องแน่ๆ แกเป็นพวกเก็บความลับไม่อยู่ ให้เหล้าเข้าปากคงได้คลายความลับออกมา เอ๊ะ! ลืมไปครับ พี่ป้องไม่ดื่มเหล้า นอกเสียจากจะมีคนมอมแก
.
.
.
“พี่ฟ้า”
ยีนถือถาดเข้ามาในครัว ผมกำลังร่อนแป้งทำขนมเค้กอยู่ ตั้งแต่ซื้อของเสร็จแล้วกลับมาที่ร้าน ผมก็หมกตัวอยู่ในครัวตลอด ไม่ได้ออกไปข้างนอก เหตุผลเพราะคุณหมอยังอยู่ในร้าน ถ้าผมไม่เข้าข้างตัวเองมากเกินไป ผมคิดว่าคุณหมอนั่งรอเพื่อจะขอพูดกับผม แต่ผมก็เดินหนีเข้าครัวมาครับ ไม่พร้อมเผชิญหน้ากับคุณหมอเลยจริงๆ
“คุณหมอกลับไปหรือยัง?”
“กลับไปแล้วค่ะ” ยีนบอก พลางล้างจานในอ่างไปด้วย
“อืม...” สองทุ่มแล้วนี่นา คุณหมอนั่งอยู่ในร้านผมตั้งแต่ตอนสิบเอ็ดโมงจนถึงสองทุ่มเลยเหรอ ยีนบอกผมครับว่าตั้งแต่ที่คุณหมอเข้ามาในร้านกับคุณเนย แม้ว่าคุณเนยจะกลับออกไปแล้ว คุณหมอก็ยังนั่งอยู่ที่เดิม ผมดีใจนะ ดีใจที่คุณหมอทำแบบนี้ มันเหมือนว่าคุณหมอกำลังง้อผม
“พี่ฟ้า...” ยีนเรียกผมอีกครั้ง หลังจากล้างจานเสร็จ เดินมานั่งเท้าคางมองหน้าผม
“ตอนที่พี่ป้องจะกลับ ไม่รู้ว่าเดินไปพูดอะไรกับคุณหมอ ยีนเห็นคุณหมอทำหน้าเศร้าไปเลยค่ะ”
“.....”
ผมรู้สึกหมดแรงตอนที่ยีนบอก เดาได้เลยว่าพี่ป้องพูดอะไรกับคุณหมอ ทีนี้คุณหมอเข้าใจผมผิดไปเต็มๆ แน่ ทำไงดีครับ ผมไม่อยากให้คุณหมอเข้าใจผิด ผมควรไปหาคุณหมอแล้วบอกความจริงไหม แต่มันจะได้อะไรขึ้นมา ความจริงที่คุณหมอต้องแต่งงานกับคนที่ครอบครัวเลือกให้ก็ยังคงมีอยู่ต่อไป คนอย่างคุณหมอคงเลือกครอบครัวมากกว่าเลือกผม คุณหมอเป็นคนดี ครอบครัวคงต้องมาเป็นที่หนึ่ง หรือบางทีสาเหตุที่เลิกกับคุณลมอาจเป็นด้วยเรื่องนี้ก็ได้
แล้ว...
แล้วทำไมต้องมายุ่งกับผมด้วย...
ไม่ใช่สินะ...
เป็นผมเองต่างหากที่เข้าไปยุ่งกับคุณหมอก่อน เรื่องคืนนั้นผมเป็นฝ่ายเริ่ม เรื่องมันถึงได้เลยเถิดมาจนถึงทุกวันนี้
“อย่าร้องสิคะพี่ฟ้า” ยีนแตะหลังมือผมเบาๆ แล้วลุกเดินออกไปด้านนอก
“.....” ผมกำลังร้องไห้? ผมไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำจนกระทั่งยีนพูดขึ้นมา
“ฟ้า...ร้องไห้ทำไม?” เสียงนนท์ดังมาจากด้านหลัง ผมยิ่งร้องหนักขึ้นเมื่อนนท์เดินเข้ามาสวมกอด ผมกอดนนท์ไว้แน่น เวลานี้นนท์เป็นที่พิงที่ดีที่สุดสำหรับผม ผมมองข้ามไหล่นนท์ เห็นแดนกับยีนอยู่ตรงนั้น ก่อนที่ทั้งสองจะเดินถอยหลังออกไป
“ร้องเยอะไปแล้วนะฟ้า ร้องมาตั้งสี่ห้าวัน ไม่เหนื่อยบ้างหรือไง” นนท์พูดดุๆ แต่ผมรู้นะครับว่านนท์พูดเพื่อปลอบผมมากกว่าจะดุจริงจัง
“.....” ผมส่ายหน้า ร้องหนักขึ้น ร้องอย่างไม่อายอะไรทั้งนั้นแล้วตอนนี้ ตามกับดาวก็กลับไปแล้ว ยีนกับแดนก็เป็นเหมือนคนในครอบครัวที่ผมไม่จำเป็นต้องปิดบังความอ่อนแอนี้ไม่ให้รู้
“ ตอนนนท์ ไม่เห็นร้องหนักขนาดนี้นะ เสียใจนะเนี้ย” นนท์ประคองหน้าผมขึ้นมาพูดด้วย
“ก็มันไม่เหมือนกันนี่” ผมเถียงทั้งน้ำตา
“ไม่เหมือนยังไง?”
“ไม่รู้ รู้แต่ไม่เหมือนกัน” มันยากจะอธิบายครับ ผมรู้แค่ว่าความรู้สึกมันต่างกันมาก ระหว่างนนท์กับคุณหมอ ตอนนนท์ ผมรู้สึกกลัว กลัวว่าจะไม่มีนนท์อยู่ในชีวิต นนท์เป็นเหมือนครอบครัวของผม ครอบครัวที่ผมไม่อยากให้แตกสลายไปไหน แต่กลับคุณหมอ ผมรู้สึกว่ากำลังถูกบังคับไม่ให้หายใจ มันทรมานมาก ผมรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ น้ำตาของผมถึงไหลไม่ยอมหยุด เหนื่อยไปหมดแล้วตอนนี้ จนนนท์ต้องพยุงให้นั่ง
“ความจริงนนท์ก็รู้ว่ามันไม่เหมือนกัน เลิกร้องเถอะ” นนท์ว่า มือก็เช็ดน้ำตาให้ผมไปด้วย
“ฟ้าไม่ได้อยากร้องนะนนท์ แต่น้ำตามันไหลเอง ห้ามไม่ได้ด้วย”
“แล้วจะขับรถกลับคอนโดไหวไหม ถ้าไม่ไหวเดี๋ยวนนท์ขับส่ง” นนท์ยังเป็นนนท์คนเดิม ห่วงใยผมเสมอ เรื่องที่ลงมือชกคุณหมอวันนั้นก็เพราะโกรธคุณหมอแทนผม ผมห้ามนนท์ไว้ไม่ทัน กว่าจะดึงตัวนนท์ออกมาได้ คุณหมอก็โดนไปหลายหมัด คุณหมอไม่ได้สู้นนท์เลย ปล่อยให้นนท์ต่อยอยู่ฝ่ายเดียว ของเดิมที่ชกกับพี่ชายตัวเองยังไม่หายดี โดนนนท์ต่อยซ้ำไปอีก ผมเป็นห่วงแต่ทำอะไรได้ไม่มากไปกว่าห่วงอยู่ในใจเท่านั้น
“ไม่ต้องหรอก ฟ้ากลับเองได้” ผมบอก พยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล นนท์จะได้ไม่เป็นห่วง
“พี่นนท์”
“มีอะไร?” นนท์หันไปถามยีนที่เดินทำหน้ายุ่งเข้ามา
“แดนกลับไปแล้วนะคะ ยีนห้ามแต่แดนไม่ฟัง” ยีนพูดจบ นนท์หน้านิ่งไปเลย ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ บอกตามตรง ผมดูนนท์ไม่ค่อยออกหรอกครับ คบกันมาตั้งแต่เด็กก็จริง
“ขอบใจมากยีน” นนท์นิ่งไปนานถึงจะหลุดคำพูดนี้ออกมาได้ พักหลังๆ มานี่ นนท์กับยีนญาติดีกันแบบที่เรียกว่า หน้ามือเป็นหลังมือทีเดียวครับ
“จะกลับก็ได้นะนนท์ ไม่ต้องห่วงหรอก ฟ้าทำเค้กเสร็จก็จะกลับแล้วล่ะ” ผมบอกนนท์
“กลับไปง้อแดนเถอะค่ะพี่นนท์ เมื่อกี้หน้าเหมือนหมาเหงาเลยค่ะ” ยีนที่กำลังเปิดตู้เอาของมาทำเค้กหันมาบอก
“อยู่ได้แน่นะ” นนท์ทำท่าลังเล แต่ผมว่าใจคงไปอยู่ที่แดนแล้วมั้งครับ
“อืม...อยู่ได้” ผมยิ้มให้นนท์ น้ำตามันหยุดไหลไปแล้ว
“ยีนดูแลพี่ฟ้าให้ดีนะ ถ้าร้องไห้อีกก็โทรตามพี่เลย” นนท์สั่งทิ้งท้ายเอาไว้ ก่อนจะเดินเร็วๆ ออกจากห้องครัวไป ยีนเดินตามออกไปด้วย เพราะต้องไปล็อคประตูหน้าร้านหลังจากที่นนท์ออกไปแล้ว
ผมเริ่มลงมือทำเค้กอีกครั้ง สั่งตัวเองไม่ให้ร้องอีก ไม่อยากให้ทุกคนเป็นห่วง
.
.
.
ผมขับรถกลับคอนโดตอนห้าทุ่มนิดๆ ปวดหัวมาเลยครับตอนนี้ ความจริงผมรู้สึกปวดหัวตั้งแต่ตอนที่ทำเค้กอยู่ในร้านแล้ว แต่ไม่แสดงอาการอะไรมาก กลัวยีนรู้ ยีนรู้เท่ากับทุกคนต้องรู้ ผมเลยฝืนทำเค้กให้เสร็จ พอก้าวลงจากรถ เดินต่อไม่ไหวต้องพิงตัวรถไว้ก่อน ร่างกายผมคงต้องการพักผ่อนเป็นอย่างมาก หลายคืนมาแล้วที่ผมนอนไม่หลับ ร่างกายเลยได้พักผ่อนน้อย ประกอบกับที่ผมร้องไห้ติดต่อกันมาหลายวัน ร่างกายมันคงเหนื่อยจริงๆ
“เอาน่า ไม่อีกกี่ก้าวก็ถึงห้องแล้ว อดทนหน่อยฟ้า” ผมสูดลมหายใจเข้าปอดแรงๆ เรียกพลังที่เหลืออยู่น้อยนิดออกมาให้หมด แล้วเริ่มก้าว แต่ละก้าวมันช่างหนักหนาคล้ายกับว่ามีหินก้อนโตๆ ผูกติดกับเท้าทั้งสองของผม กว่าจะเดินมาหยุดอยู่หน้าห้องได้ เหงื่อผุดขึ้นเต็มหน้า เนื้อตัวข้างในก็ร้อนๆ หนาวๆ สลับกันมา ปวดหัวมากด้วยแทบพยุงตัวไม่อยู่ แค่จะเปิดประตูเข้าห้อง มือผมก็สั่นเหมือนคนไม่มีแรงเลยครับ
เฮ๊ะ…..!!
วินาทีที่ประตูถูกเปิดเข้าไป ห้องที่ควรจะมืดกลับมีแสงสว่างเปิดรอผมอยู่แล้ว
วินาทีแรกผมตกใจ แต่วินาทีต่อมาความรู้สึกมันถาโถมเข้าสู่หัวใจของผม วินาทีที่คนๆ หนึ่งลุกจากโซฟา เดินตรงเข้ามาหาผม
แล้ววินาทีต่อไป ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะทุกอย่างมันมืดและดับวูบไปทันที เมื่อคุณหมอรวบตัวผมเข้าไปกอด พร้อมกับคำพูดที่ว่า
“ผมคิดถึงคุณ”
>>>>>>>>>>>>> Happy Na Ka <<<<<<<<<<<<<
คนเขียนขอคุย ::
เอาเป็นข้อๆ เลยนะคะ อิอิ
1. ขอโทษทุกคนนะคะที่หายไปนานมากกกก นับนิ้วแล้วยี่สิบกว่าวันแระเนอะ ขอโทษจริงๆ ค่ะ พอดีงานเข้า (แบบว่าทำงานส่งหัวหน้าไม่ทัน T^T) อย่าหนีกันไปไหนน้า
2. ห้ามใครจิ้นป้องกะตามน้า >__< เพราะพี่ปกป้อง กับ น้องตามใจ มีคู่ของเขาอยู่แล้ววว อิอิ
3. ตอนนี้สั้นอีกแล้ว (แต่ก็ไม่มากน้า) แล้วก็ไม่แน่ใจว่ามัน ดราม่ามากไหม (คนเขียนว่าไม่มากเท่าไหร่น่า //ผิวปากเบาๆ ก้มหน้ามองแป้นพิมพ์ ไม่กล้าสบตาใครเล๊ย) แต่แอบบอกว่าตอนต่อไปจะชักชวนให้คุณหมอกับคุณฟ้าดีกันให้ได้ค่ะ ยืนยัน!! (แต่ก็ขึ้นอยู่กับคุณฟ้าจะใจอ่อนหรือเปล่า แล้วคุณหมอจะทำอะไรให้ชัดเจนกว่านี้ไหม ไม่ใช่คนเขียนน้า >___<)
4. ขอบคุณสำหรับการต้อนรับคู่ของ ‘ยะกับพี’ นะคะ คู่นี้จะเขียนแยกเช่นกันค่ะ เหมือนเรื่องของนนท์กับแดน หนึ่งกับอิง น่ะค่ะ ไม่ว่ากันน่า แต่อาจจะไม่ยาวมาก....มั้ง (ถ้าควบคุมไม่ให้ออกทะเลได้ T^T)
5. ขอบคุณสำหรับทุกคลิก ทุกคอมเม้นท์ที่ให้กับเรื่องนี้ และยังรอเรื่องนี้กันอยู่นะคะ อิอิ ดีใจ มีคนอ่านมาทวงนิยาย (ดีใจจริงๆนะ)
6. ขอบคุณข้อแนะนำของคุณทะเลหัวใจนะคะ เดี๋ยวคนเขียนจะกลับไปแก้เรื่องสรรพนามระหว่างหมอนุกับคุณอิงใหม่นะคะ เอาให้ชัดเจน อิอิ แบบว่า มันเผลอลืมไปนะคะ ไม่โกรธค่ะ ไม่โกรธอะไรเลย ดีๆ ค่ะ ชอบคำแนะนำ คนเขียนจะได้เอาไปแก้ไข แล้วก็ขอบคุณที่ชวนมาฟิชเจอริ่งกันนะคะ ^__^ แต่การเขียนของคนแต่งยังอ่อนด้อยอยู่เลย T^T
บายนะคะทุกคน ขอไปปั่นเรื่องสั้น (ผมมันคนถูกทิ้งต่อก่อน ตามไปอ่านกันได้นะคะ)
ขอบคุณมากๆ ค่ะ
สีเหลืองอ่อน // aeaw