“เป็นการชกที่ยอดเยี่ยมมาก แมธ” ลอร์ดควีนสเบอรี่พูดขณะที่เขาเดินตามเอิร์ลหนุ่มเข้าไปในห้องพักนักกีฬา ลอร์ดโทรว์บริดจ์พยักหน้าให้เขาแล้วยิ้ม “ขอบคุณครับ นี่เป็นการชกครั้งแรกของผมและมันน่าประทับใจมาก”
หมอเข้ามาดูอาการและเย็บแผลที่คิ้วให้เขาใหม่ เลือดจากคิ้วไหลอาบเสื้อกล้มที่เขาสวมจนเปื้อนเป็นรอยแดง ลอร์ดจอร์จ เฟลตันลงความเห็นหลังจากหมอออกไปแล้ว “นายคงต้องตัดเสื้อกล้ามตัวนี้ทิ้งล่ะนะจอห์นนี่ ไม่อย่างนั้นเวลาถอดมันจะกระเทือนถึงแผลของนาย เพราะมันค่อนข้างพอดีตัวมาก”
ลอร์ดโทรว์บริดจ์ยกมือห้าม “ไว้ค่อยพูดถึงเรื่องนั้นเถอะจอร์จ แมดเนอร์เป็นไงบ้าง ฉันว่าเขาคงจะมึนอยู่ไม่น้อยแน่ ฉันเองยังมึนๆ อยู่เลย”
“ฉันยังนึกแปลกใจอยู่เลยที่เขายังลุกขึ้นมาได้ ภาษามวยเรียกอะไรนะ เมาหมัดใช่ไหม?” เขาหันไปถามโอลิเวอร์ ฝ่ายนั้นพยักหน้า
“ครับ ผมว่าแมดเนอร์เมาหมัด ที่จริงแล้วพวกคุณมีโอกาสจะน็อคฝ่ายตรงข้ามด้วยกันทั้งคู่เลย แต่ผมยังไม่เคยเห็นใครชกมวยด้วยท่าทางมีความสุขในช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนั้นเหมือนคุณเลยนะครับ นายน้อย”
“ฉันสนุกตลอดเวลาที่ยืนอยู่บนนั้นเลยล่ะ เขาเป็นคู่ต่อสู้ที่น่าประทับใจมาก” ลอร์ดโทรว์บริดจ์ดื่มน้ำอีกหลายอึก ก่อนจะยันตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ “ฉันน่าจะแวะไปเยี่ยมเขาหน่อย”
โอลิเวอร์หยิบเสื้อคลุมมาสวมให้เขา จากนั้นทั้งสามคนก็ออกจากห้องพัก
แมดเนอร์นั่งพักอยู่บนเก้าอี้ตอนที่ผู้จัดการส่วนตัวของเขาเปิดประตูให้ลอร์ดโทรว์บริดจ์ นักมวยหนุ่มรีบลุกขึ้นทันที
“โอ้... ท่านลอร์ด ความจริงคุณไม่ต้องมาที่นี่...”
ลอร์ดโทรว์บริดจ์ยกมือห้าม “ไม่ๆ ผมไม่ได้มาที่นี่เพื่อเยาะเย้ยถากถางคุณ ผมมาเพื่อกล่าวชื่นชมจิตวิญญาณการเป็นนักมวยของคุณจากใจจริง คุณทำให้การชกครั้งนี้ของผมวิเศษมาก มันเป็นการต่อสู้ที่น่าประทับใจที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตของผม”
“ขอบคุณครับ” แมดเนอร์พยักหน้า แผลบนคิ้วของเขาถูกเย็บและปิดด้วยผ้าก็อซเรียบร้อยแล้ว “แต่ผมไม่ได้หมายความว่าคุณมาที่นี่เพื่อถากถางผม ผมแค่อยากบอกว่า คุณไม่ต้องลำบากมาถึงนี่หรอกครับ ผมเสียอีกที่ควรจะเป็นฝ่ายไปหาคุณ คุณเพิ่งแสดงให้ผมเห็นว่าความเย่อหยิ่งและหยาบคายของผมที่แสดงออกไปมันไร้ค่าและน่าอายแค่ไหน โอ... ท่านลอร์ดครับ ผมไม่เคยเห็นใครมีความสุขกับการขึ้นชกบนเวทีในทุกยกเหมือนคุณมาก่อน คุณเดินหน้าปล่อยหมัดใส่ผมด้วยท่าทางเหมือนคนที่ค้นพบสิ่งใหม่ๆ ทุกครั้งที่ทำแบบนั้น คุณเป็นคนมีพรสวรรค์ด้านนี้มากนะครับ ผมจะแปลกใจมากถ้าคุณไม่ชกมวยต่อ”
“ผมชอบเล่นรักบี้มากกว่า ผมชอบกีฬาที่เล่นเป็นทีม” ลอร์ดโทรว์บริดจ์ตอบพลางยิ้ม “ความมั่นใจในตัวเองของคุณทำให้ผมรู้สึกนับถือนะ แต่มันคงไม่ดีต่อคุณนักในการที่จะแสดงความหยิ่งยโสออกมา ถึงอย่างนั้นผมก็รู้หรอกว่าคุณเป็นคนที่มีเกียรติและรู้จักยอมรับในเกียรติของคนอื่นเช่นกัน”
แมดเนอร์มองลอร์ดโทรว์บริดจ์แน่วนิ่ง ก่อนจะถอนหายใจแล้วยิ้มออกมาเป็นครั้งแรก “ผมแพ้ให้คุณหมดท่าเลย ท่านลอร์ด คุณเป็นคนแรกที่ทำให้ผมรู้สึกพ่ายแพ้จากใจจริง ผมไม่รู้สึกอยากจะแก้มือกับคุณเลยครับ คุณคือผู้ชนะตลอดกาลของผมไปแล้ว คำแนะนำของคุณทำให้ผมแสนจะละอาย ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ครับ และขอบคุณมากที่คุณกรุณาให้เกียรตินักมวยผู้แสดงท่าทางอันแสนโง่เขลาใส่คุณถึงเพียงนี้ การชกครั้งนี้ดีที่สุดตั้งแต่ผมเคยชกมา โปรดอภัยให้กับความหยาบคายของผมก่อนหน้านี้ด้วยครับ”
“ไม่เป็นไร ผมให้อภัยคุณ” ลอร์ดโทรว์บริดจ์ว่า ก่อนจะยื่นมือให้ฝ่ายนั้น “ผมยินดีมากที่ได้ชกกับคุณในวันนี้ ขอให้คุณประสบความสำเร็จในการชกมวยอาชีพนะ”
“ขอบคุณครับท่านลอร์ด เป็นเกียรติมากครับที่ได้ขึ้นชกกับคุณ”
-------------------------------------
ตอนที่ลอร์ดโทรว์บริดจ์กลับมาที่ห้องพักอีกครั้ง ลอร์ดควีนสเบอรี่ก็ยืนรออยู่กับลอร์ดบาธพ่อของเขาแล้ว ท่านมาร์ควิสเมื่อเห็นลูกชายก็เดินมาแสดงความยินดีทันที
“จอห์น วันนี้พ่อประทับใจในตัวแกมาก แกได้แสดงให้ทุกคนเห็นถึงความเป็นสุภาพบุรุษที่แท้จริง ตั้งแต่ตอนก่อนขึ้นเวที จนถึงตอนที่ลงจากเวที แกคือความภูมิใจของเราเลย”
“ขอบคุณครับ” ลอร์ดหนุ่มยิ้มให้พ่อของเขา “ผมดีใจมากที่พ่ออยู่ชมการชกตั้งแต่ยกแรก การชกมวยจริงต่างจากที่ผมคิดไว้นิดหน่อย แต่มันก็สนุกมากเลยครับ”
ลอร์ดควีนสเบอรี่หัวเราะ “ฉันยังไม่เคยเห็นใครชกมวยได้สนุกสนานเท่าเธอเลยแมธ เธอทำให้การชกวันนี้น่าจดจำที่สุด และมันคงจะถูกพูดถึงไปอีกนาน”
คนถูกชมหัวเราะเขินๆ พวกเขาคุยกันอยู่อีกพักใหญ่ๆ จึงปลีกตัวออกไป ลอร์ดจอร์จ เฟลตันพูดขึ้น
“เป็นการชกที่น่าประทับใจมากจอห์นนี่ ไม่ว่าใครก็ต้องรู้สึกแบบนี้ ฉันประกันได้ และแมดเนอร์เองก็น่าสนใจทีเดียว เขาไม่ใช่คนหยาบคายที่ไม่ฟังเหตุผลอะไร”
“ฉันรู้สึกตั้งแต่ครั้งแรกแล้วว่าเขาเป็นคนใช้ได้คนหนึ่ง เพียงแต่เขาเย่อหยิ่งไปหน่อย”
“ความยโสโอหังและมุทะลุดุดันเป็นเครื่องหมายของเขาเลยครับ” โอลิเวอร์พูดขึ้น “ที่จริงแล้วมันเป็นจุดเด่นที่ทำให้คนดูจดจำเขาได้ แต่เขาก็ได้แสดงออกแล้วว่ามีความเคารพในตัวคุณในฐานะนักสู้ด้วยกัน ผมประทับใจเขามากเลยครับ”
สิบนาทีต่อมา ลอร์ดโทรว์บริดจ์สวมเสื้อคลุมและปรากฏตัวอีกครั้งพร้อมกับแมดเนอร์ และลอร์ดควีนสเบอรี่ รวมถึงผู้ร่วมจัดมวยในครั้งนี้คนอื่นๆ ที่โต๊ะแถลงข่าว เพื่อถ่ายรูปและให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ เมื่อเขากลับเข้ามาภายในห้องพักอีกครั้ง เพื่อนๆ ก็รอกันอยู่แล้ว
“ยอดเยี่ยมมากเลยจอห์นนี่ นี่คือมวยที่ดีที่สุดเท่าที่ฉันเคยดูมาเลย”
“นายแสดงให้พวกเราเห็นว่านายมีพรสวรรค์ด้านกีฬาจริงๆ”
“พวกเราอยากจะแห่นายไปรอบๆ ฮอลล์นี้จริงๆ นายทำเรื่องที่น่าเหลือเชื่อที่สุด”
แจ็คสันเดินเข้ามาแสดงความยินดีเป็นคนท้ายๆ “ท่านลอร์ด ช่างเป็นเกียติสำหรับผมเหลือเกินที่ได้มาชมการชกมวยของคุณ ขอบคุณมากๆ นะครับ”
“ผมดีใจที่คุณมา” ลอร์ดโทรว์บริดจ์ว่า “ดีใจที่คุณชอบการชกมวยของผม”
เดวิดกล่าวขึ้นด้วยความตื่นเต้น “คุณเป็นสุภาพบุรุษมากเลยครับ คุณทำให้ผมอยากลองชกมวยสักครั้ง”
“มันเป็นกีฬาเจ็บตัวนะ” ลอร์ดโทรว์บริดจ์พูดพลางยิ้ม “ฉันยินดีจะให้เธอทดลอง ถ้านายจ้างของเธอจะอนุญาต”
กอร์ดอนหัวเราะ “เดวิด ฉันแน่ใจว่าการต่อยมวยไม่น่าจะเหมาะกับเธอ อย่าหาเรื่องเจ็บตัวดีกว่า” เขาพูดแล้วเงยมองลอร์ดหนุ่ม “คุณชกได้ดีมากครับ”
“อืม...”
ลอร์ดจอร์จ เฟลตันพูดขึ้นมา “ฉันว่าพวกเราน่าจะปล่อยจอห์นนี่ให้ไปอาบน้ำอาบท่าได้แล้ว เขาควรจะได้พักผ่อนหลังจากเหนื่อยมาหลายวัน”
พูดจบเขาก็พยายามดันเพื่อนๆ ออกไปจากห้องพัก เลดี้อีไลซ่า เบอร์มิ่งดูจะไม่เต็มใจที่สุด “แต่ฉันยังไม่ได้คุยกับท่านลอร์ดเลย”
“มีเวลาอีกถมถืดไป” ลอร์ดครอฟตันปรามน้องสาวตัวเอง “เธอรอให้เขาอาบน้ำให้เสร็จก่อนแล้วค่อยคุยกับเขาก็ได้ แต่พี่แน่ใจว่าจอห์นนี่คงไม่มีอะไรจะคุยกับเธอนักหรอก”
เดวิดหันมองนายจ้างของตัวเอง “คุณโอเดนเบิร์ก พวกเราจะกลับเลยรึเปล่าครับ?”
“อ้อ... อืม...” กอร์ดอนพยักหน้า แต่ลอร์ดโทรว์บริดจ์กลับพูดขึ้นมา
“คุณต้องอยู่จัดการเสื้อผ้าให้ผมก่อน” เขาพูด และใช้มือหยิบเสื้อกล้ามที่สวมอยู่ เดวิดมองอย่างงงๆ ก่อนจะพยักหน้า “อ้อ งั้นผมจะออกไปรอข้างนอกนะครับ”
ลอร์ดแมกซ์ เมอร์เรย์เดินตามเด็กหนุ่มออกไปเงียบๆ สุดท้ายภายในห้องจึงเหลือแค่กอร์ดอนกับลอร์ดโทรว์บริดจ์สองคน ช่างตัดเสื้อเงยหน้าขึ้นมองเขา
“คุณมีแผลที่หัวคิ้ว ผมว่าตัดเสื้อออกน่าจะดีกว่า จะได้ไม่กระเทือนแผล”
“แต่มันเป็นเสื้อที่คุณตัดให้ผม” ลอร์ดโทรว์บริดจ์พูด แล้วฉวยมือของช่างตัดเสื้อมากุมไว้ “ผมเป็นไงบ้างวันนี้?”
“ดูดีที่สุดเลยครับ” กอร์ดอนยิ้ม “ผมแน่ใจว่าทุกคนจะต้องพูดถึงเรื่องการต่อยมวยครั้งนี้ไปอีกหลายวัน มันเป็นการชกที่น่าประทับใจมาก”
เอิร์ลหนุ่มหน้าแดง “แล้วคุณล่ะ คุณคิดว่าไง คิดว่าผมเท่มั้ย?”
ช่างตัดเสื้อหัวเราะออกมา “แน่นอนครับ ผมใจเสียเหมือนกันนะ ตอนที่คุณโดนนับ ชกมวยนี่ดูเหนื่อยมากนะครับ แต่ผมก็รู้สึกว่าคุณมีความสุขตอนที่อยู่บนเวทีนั่น”
“แน่นอน ผมสนุกมาก โดยเฉพาะเมื่อผมคิดว่าคุณกำลังมองอยู่” ลอร์ดโทรว์บริดจ์ว่า “ตอนแรกเลย ผมตั้งใจจะให้คุณนั่งในที่ที่ผมมองหายาก แต่พอผ่านเรื่องเมื่อคืนวันเสาร์ ความคิดของผมก็เปลี่ยนไป ผมแน่ใจว่าตัวเองจะไม่เสียสมาธิถ้ามองเห็นคุณ ตรงข้าม ถ้าผมไม่เห็นคุณผมต้องกระวนกระวายแน่” เขาหยุดหัวเราะด้วยความขัดเขิน “ผมอยากแน่ใจจริงๆ ว่าคุณจะได้เห็นผมในทุกท่า อยากแน่ใจว่าคุณจะมองแค่ผม ผมออกจะมีความคิดพิลึกพิลั่นอยู่เหมือนกันนะ ว่าจะต่อยมวยอย่างที่ว่าคุณไม่อาจจะเบนสายตาไปมองใครได้อีกเลย”
กอร์ดอนหัวเราะออกมา “เพราะเหตุผลนั้นรึเปล่าครับ คุณถึงได้เดินหน้าเอาๆ จนพี่เลี้ยงข้างล่างวุ่นวายใจกันไปหมด ลอร์ดจอร์จบ่นเลยนะครับว่าคุณไม่ชกตามแผน”
ลอร์ดโทรว์บริดจ์มีสีหน้าขัดเขินกว่าเดิม “จอร์จคงรู้หรอกว่าผมอยากจะอวดคุณ เขาเคยบอกเองว่ามันเป็นนิสัยธรรมดาของผู้ชาย เวลาอยู่ต่อหน้าคนที่สนใจ”
กอร์ดอนถอนหายใจออกมา “โชคดีนะครับที่คุณเอาชนะได้ ผมหวั่นใจจริงๆ ในช่วงแรกๆ เพราะคุณไม่คุ้นกับการถูกต่อยแบบนั้น อาจจะพลาดท่าเอาได้ง่ายๆ”
“ใช่ ผมไม่คุ้นเลย มันค่อนข้างเจ็บอยู่นะ ถึงจะใส่นวมก็เถอะ แต่มันก็ทำให้ผมสนุกมาก” ลอร์ดโทรว์บริดจ์พูดอย่างร่าเริง “ผมไม่คิดว่าตัวเองจะแพ้เลย ที่จริงผมไม่คิดอะไรมากไปกว่าการมองหาเป้าในการชกไปเรื่อยๆ มันท้าทายมากเมื่ออยู่บนเวที โชคดีจริงๆ ที่ลอร์ดควีนสเบอรี่โน้มน้าวใจพ่อกับแม่ผมสำเร็จ ไม่อย่างนั้นผมคงไม่ได้มีโอกาสนี้ โชคดีมากๆ ด้วยที่วันนี้คุณมาดูผม มันทำให้นี่เป็นวันที่ผมมีความสุขมากที่สุด”
เขาบีบมือช่างตัดเสื้อเบาๆ “รอผมหน่อยได้ไหม ผมอาบน้ำเสร็จแล้วจะออกมาจูบคุณสักที ผมไม่อยากให้คุณเปื้อนเหงื่อผม”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ” กอร์ดอนรีบพูด “ถ้าผมยังอยู่ที่นี่นาน ทุกคนจะสงสัยเอาได้”
“แต่...” ลอร์ดโทรว์บริดจ์ยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อจากนั้น ริมฝีปากของกอร์ดอนก็แนบเข้ามา เขารีบรวบเอวของฝ่ายนั้นเอาไว้ แล้วจูบตอบด้วยความรู้สึกที่เอ่อท้น ทั้งคู่เคล้าริมฝีปากกันอยู่พักใหญ่ ก่อนจะผละออกจากกัน ลอร์ดโทรว์บริดจ์กระซิบเบาๆ
“จูบนี้ของคุณคือสิ่งที่ดีที่สุดของผมในคืนนี้เลย”
กอร์ดอนยิ้มเขินๆ “อาบน้ำเถอะครับ ผมจะช่วยตัดเสื้อให้ ผมเอากรรไกรติดตัวมาด้วย เพราะคิดว่าน่าจะต้องใช้”
“โอ...” ลอร์ดโทรว์บริดจ์เลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ ก่อนจะพูดต่อ “แต่ผมไม่อยากให้ตัดเลย ผมอยากจะเก็บเสื้อตัวนี้เอาไว้เป็นที่ระลึก คุณช่วยผมถอดมันออกดีกว่า”
“แต่...”
ลอร์ดโทรว์บริดจ์ก้มลงจูบปิดปากเขาทันที “เอาคืนที่คุณไม่ยอมให้ผมพูดเมื่อตะกี้” เขากระซิบพลางยิ้มเผล่ แล้วจูบช่างตัดเสื้อเบาๆ อีกครั้ง กอร์ดอนหน้าแดงด้วยความขัดเขิน
“พอเถอะครับ เดี๋ยวคนอื่นจะสงสัยเอา คุณไปอาบน้ำได้แล้วล่ะ”
“มันคงเป็นค่ำคืนที่วิเศษกว่านี้ ถ้าคุณจะไปอาบเป็นเพื่อนผมด้วย” ลอร์ดโทรว์บริดจ์พูดหลังจากกอร์ดอนช่วยเขาถอดเสื้อกล้ามออกมาแล้ว กอร์ดอนมองแผ่นอกกว้างๆ และรอยแผลเป็นตรงหัวไหล่ซ้ายของเขา ก่อนจะหัวเราะออกมา
“อย่าเลยจอห์น ผมว่ามันไม่น่าจะดีกับเราทั้งคู่นะครับ”
“คุณยังไม่ลองแล้วจะรู้ได้ไงว่ามันไม่ดี?” ลอร์ดหนุ่มพูดแล้วหน้าแดงขึ้นมาอีก “อาบเป็นเพื่อนผมนะ ผมจะช่วยถอดเสื้อให้คุณ”
“ไม่ได้ครับ ทุกคนต้องสงสัยแน่ ผมต้องไปแล้วล่ะ” กอร์ดอนพูดก่อนจะผละออก แต่ถูกลอร์ดโทรว์บริดจ์ดึงตัวกลับมาอีกครั้งและบดจูบแสนหวานลงไปบนริมฝีปากของเขา หลังจากจูบจนกอร์ดอนเกือบจะหายใจไม่ออก เอิร์ลหนุ่มก็ยอมผละริมฝีปากออก
“เอาล่ะ ผมอนุญาตให้คุณไปได้แล้ว ราตรีสวัสดิ์นะกอร์ดอน”
“ราตรีสวัสดิ์ครับ” กอร์ดอนพูดด้วยท่าทางเขินจัด ก่อนจะรีบออกจากห้องไป ลอร์ดโทรว์บริดจ์มองตามจนแผ่นหลังของช่างตัดเสื้อหายลับไป เขายกมือลูบหน้าของตัวเอง และค้นพบว่าไม่อาจหุบยิ้มได้เลย
--------------------------------------
(จบตอน)
***หูยย วันนี้มาอัพแบบเป็นผู้เป็นคนค่ะ วันก่อนอัพตอนง่วงสุดใจ ในที่สุดดิฉันก็เข็นจอห์นนี่ขึ้นสังเวียนได้สำเร็จ ตอนแรกตั้งใจว่าจะให้ขึ้นชกตั้งแต่ตอนที่แล้ว แต่ว่าบทสัพเพเหระมันเยอะแยะจนขึ้นชกไม่ทัน เลยต้องมาขึ้นชกในบทนี้แทน
ตอนนี้เป็นอีกหนึ่งตอนที่เราลบทิ้งไปหลายรอบมาก เรื่องนี้เป็นนิยายที่เราลบเนื้อหาที่เขียนทิ้งหรือเซฟเก็บไว้เป็นดราฟเยอะที่สุดเลยค่ะ ฮ่าๆ (ที่เซฟดราฟเพราะเนื้อหาน่าสนใจ แต่ว่ามันเป็นเหตุการณ์ที่นำไปสู่ตอนจบที่ไม่สวยเท่าไหร่) มีหลายจุดที่เราชอบมาก เช่น จุดที่เดวิดหลุดปากเรื่องจอห์นนี่จะขอกอร์ดอนแต่งงาน (คิดถูกแต่ไม่ควรพูดนะเดวิด ฮ่าๆๆ) จุดที่กอร์ดอนพาเดวิดไปดูลอร์ดโทรว์บริดจ์ชกมวย (อารมณ์เหมือนแม่พาลูกไปดูพ่อชกมวยด้วยความตื่นเต้น ฮ่าๆ <<มโนเองได้เสร็จ) และตอนนี้เหมือนจะเป็นตอนแรกเลยมั้งที่มีคนพูดออกมาว่าจอห์นนี่เป็นชายหนุ่มรูปหล่อจริงๆ ไม่ใช่หล่อด้วยทรัพย์ศฤงคารบ้านช่อง และคฤหาสน์อย่างเดียว
ระหว่างเขียนบทนี้ไป เรารู้สึกว่าจอห์นนี่เหมือนพระอาทิตย์ในฤดูหนาว เหมือนเทียนไขในที่มืด คือเป็นคนที่สว่างไสวมาก แบบเป็นผู้ชายที่อยู่ตรงไหนก็อุ่นใจ (เหมือนที่ลอร์ดจอร์จเคยพูดไว้) เป็นคนที่ไม่เคยแสดงความสลดออกมาให้ใครเห็น มีพลังงานชีวิตในด้านสว่างเหลือเฟือจนคนข้างๆ ดึงไปใช้ได้ (อย่างกับต่อไฟ ฮ่าๆ) เป็นคาแรคเตอร์ที่สว่างไสวสดใสมุ้งมิ้งที่สุดเท่าที่เราเขียนมาเลยค่ะ (หูย พักนี้หลงท่านลอร์ดหน้ามืดตามัว)
จบเรื่องชกมวยแล้ว น่าจะได้ทยอยเฉลยเรื่องของลอร์ดแมกซ์ เมอร์เรย์ และเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างท่านดยุกอ็อคฟอร์ดกับกอร์ดอนเสียที
ปล. อีกตอนที่เราชอบคือตอนที่จอห์นนี่คุยกับแคทเธอรีนค่ะ เราหาจังหวะเขียนบทของคู่นี้มาสักพักแล้ว หุๆๆ
ขอบคุณที่ติดตามอ่านค่ะ^^