::: อาทิตย์อัสดง ::: บทที่ 14 "จบ" UP 18/1/55
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ::: อาทิตย์อัสดง ::: บทที่ 14 "จบ" UP 18/1/55  (อ่าน 146324 ครั้ง)

ออฟไลน์ RoseBullet

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1027
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
Re: ::: อาทิตย์อัสดง ::: บทที่ 11 "" UP 18.5/1/55
«ตอบ #210 เมื่อ19-01-2012 02:14:27 »

เฮ้ย แอบตกใจว่าจะจบแล้วเหรอเนี่ย
ถ้าพรุ่งนี้จบงั้นพรุ่งนี้ลงซักสิบตอนนะคะ ฮ่าๆๆ

ออฟไลน์ tuek

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +214/-3
Re: ::: อาทิตย์อัสดง ::: บทที่ 11 "" UP 18.5/1/55
«ตอบ #211 เมื่อ19-01-2012 02:56:53 »

อะไรอะ...พรุ่งนี้จบแล้วมันจะเร็วไปไหมอะ
ยังไม่มีฉากหวานๆเลยอะ

ออฟไลน์ กุหลาบเดียวดาย

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 812
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-2
Re: ::: อาทิตย์อัสดง ::: บทที่ 11 "" UP 18.5/1/55
«ตอบ #212 เมื่อ19-01-2012 10:17:35 »

จะจบแล้ว .... ดราม่าแน่เลยตอนจบ

 :pig4: :3123:

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
Re: ::: อาทิตย์อัสดง ::: บทที่ 11 "" UP 18.5/1/55
«ตอบ #213 เมื่อ19-01-2012 10:21:59 »

อะไรอะ...พรุ่งนี้จบแล้วมันจะเร็วไปไหมอะ
ยังไม่มีฉากหวานๆเลยอะ
มันเป็นหนังใหญ่ฉายตามโรงอ่ะครับ ไม่ใช่ละครเลยไม่ยาว

อาทิตย์อัสดง บทที่ 12

คนขายของในร้านบอกว่าไม่มีโทรศัพท์ พยุตม์จึงหันไปแสดงท่าทางเพื่อส่งสัญญาณให้คนที่ยืนรออยู่หน้าร้านได้รู้แล้วหันกลับมาสั่งซื้อสินค้าและบอกให้ไปส่งที่เรือยอท์ชซึ่งจอดเทียบอยู่ที่สะพานเรือ ขณะที่กำลังจ่ายเงิน พยุตม์เงยหน้าขึ้นมองโทรทัศน์ซึ่งเจ้าของร้านเปิดเอาไว้ ขณะนี้เป็นรายการข่าวภาคค่ำ สิ่งที่อยู่บนจอทำให้เขาต้องยืนนิ่ง
ผู้ประกาศข่าวกำลังรายงานข่าวการหายตัวไปของนักร้องหนุ่มดาวรุ่งผู้ได้รับเลือกให้ร้องเพลงประกอบภาพยนต์ฮอลลีวู้ดซึ่งถ่ายทำในประเทศไทยเกือบครึ่งเรื่อง ภาพประกอบข่าวเป็นรวมภาพผลงานต่างๆ ของนักร้องหนุ่มคนนั้นทั้งขณะที่กำลังร้องเพลงอยู่บนเวที ขณะให้สัมภาษณ์ และขณะที่ปรากฎตัวท่ามกลางแฟนเพลงที่รุมล้อมแสดงความชื่นชอบ
พีช พิชญ!
อดีตผู้เข้าประกวดการร้องเพลง The Superstar 10 และได้ถอนตัวจากการประกวดก่อนรอบชิงชนะเลิศ
พิชญถูกผู้จัดการประกวดฟ้องร้องเป็นเงินหลายล้านบาทเพราะไปเซ็นสัญญากับบริษัท GM Recordsของสหรัฐอเมริกาเพื่อร้องเพลงประกอบภาพยนต์ฮอลลีวู้ดซึ่งนำแสดงโดยดาราชั้นแนวหน้า ส่วนสถานีโทรทัศน์ Channel One ก็ฟ้องร้องพิชญด้วย นอกจากนั้นยังมีกรณีภาพอื้อฉาวของพิชญถูกนำออกมาเผยแพร่ รวมถึงประเด็นความขัดแย้งกับผู้ให้คำชี้แนะ (คอมเมนเตเตอร์) ประจำการประกวด The Superstar 10 และผู้ชนะเลิศการประกวด
ขณะนี้ไม่มีใครรู้ว่า พีช พิชญอยู่ที่ใด แต่ผู้จัดการส่วนตัวของพิชญชื่อปานฤทัยให้สัมภาษณ์ว่าพิชญกำลังพักผ่อนอยู่ในจังหวัดแห่งหนึ่งไม่ไกลจากกรุงเทพมหานครและจะเดินทางไปสหรัฐอเมริกาเพื่อบันทึกเสียงเพลงประกอบภาพยนต์ทันแน่นอน พร้อมทั้งปฏิเสธข่าวที่ว่าบริษัท GM Records จะยกเลิกการเซ็นสัญญาให้เป็นนักร้องในสังกัดหากยังหาตัวไม่พบ
พยุตม์แย้งอยูในใจว่า พิชญไม่ได้พักผ่อนอยู่ในจังหวัดแห่งหนึ่งใกล้ๆ กรุงเทพฯ แต่ยืนหน้ามุ่ยอยู่หน้าร้านขายของชำบนเกาะปะดีห่างไกลจากกรุงเทพฯ มาก
มิน่า ถึงร้องเพลงเพราะมาก และที่ดูหงุดหงิดมากก็เพราะไม่ได้กลับกรุงเทพฯ ตามกำหนด แล้วที่หลบมาพักบนเกาะห่างไกลขนาดนี้ก็เพราะปัญหาความขัดแย้งต่างๆ เหล่านี้เอง
พีช พิชญ นักร้องดาวรุ่งของประเทศไทยซึ่งทุกคนรู้จักดี และกำลังจะดังมากกว่านี้อีกหลายเท่า
แต่เขาไม่รู้จักเพราะกำลังแล่นเรือรอบโลกและใช้ชีวิตอยู่บนเรือมาได้เกือบหนึ่งปี
พยุตม์เดินออกมาที่หน้าร้านช้าๆ สายตาจับอยู่ที่ร่างของพิชญ ชายหนุ่มดึงปลายหมวกลงและก้มหน้าลงเล็กน้อย ท่าทางเหมือนพยายามหลบหน้าคน แต่พิชญคงดังทั่วประเทศไทยจริงๆ ไม่เว้นแม้แต่เกาะห่างไกลขนาดนี้เพราะพยุตม์เห็นเด็กสาวสามคนเดินผ่านมาและเมื่อเห็นพิชญก็แสดงอาการดีใจมาก เด็กสาวทั้งสามปรี่เข้ามาหาพิชญและขอลายเซ็น นักร้องหนุ่มชื่อดังหันมามองพยุตม์แวบหนึ่งแล้วหันกลับไปยิ้มและแจกลายเซ็นให้ 'แฟนคลับ' พยุตม์ยืนอยู่เงียบๆ ห่างจากพิชญเล็กน้อยจนกระทั่งเด็กสาวทั้งสามจากไปจึงพูดขึ้นว่า
“ไปกันเถอะครับ คุณพีช”
“ผมไม่ได้ชื่อพีช” พิชญพูดแล้วเดินลิ่วตรงไปที่สะพานเทียบเรือ
“ผมคงหูฝาด” พยุตม์รีบเดินตามมา
“ตาฝาดด้วย” พิชญพูดแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่
“ทำไมคุณไม่บอกผม” พยุตม์ถาม
“ไหนของที่คุณบอกว่าไปซื้อ” พิชญไม่ตอบ กลับถามเรื่องอื่น
“เขาจะเอาไปส่งที่เรือ”
“อีกนานไหม”
“ไม่นานครับ” พยุตม์ส่ายหน้า “แต่น้ำมันคงใช้เวลาครับคุณพีช”
“อย่ามาเรียกผมว่าพีชนะ ผมไม่ชอบ”
“คนอะไรไม่ชอบชื่อตัวเอง”
“พีชไม่ใช่ชื่อผม คนเขาเรียกกันเอง”
“แล้วคุณชื่ออะไรครับ” พยุตม์ถามเสียงเรียบ
“คุณจะรู้ไปทำไม”
“ทำไมนะหรือ” พยุตม์ก้มลงมองคนที่เดินอยู่ข้างๆ เขาแล้วยิ้มยางๆ “ผมก็อยากเรียกให้ถูก จะได้ถูกใจคุณ อีกอย่าง คุณก็ไม่ใช่คนธรรมดานะสิครับ คุณได้ร้องเพลงซาวด์แทร็คหนังฮอลลีวู้ด อีกหน่อยก็ดังไปทั่วโลก”
“ทำไมคุณรู้” พิชญหยุดนิ่ง
“ผมเห็นประกาศคนหายในร้านขายของชำ” พยุตม์พูดเสียงราบเรียบ “ทำไมคุณไม่บอกผมก่อนหน้านี้ครับ ผมจะได้ไปส่งคุณตั้งแต่วันนั้น”
“แล้วทำไมต้องบอก”
“คุณกลัวว่าถ้าผมรู้ว่าคุณเป็นใครแล้วผมจะปฏิบัติต่อคุณเปลี่ยนไปงั้นหรือครับ”
“เปล่า”
“ผมไม่ใช่พวกเห่อดารา”
“ผมไม่ใช่ดารา”
“ผมไม่ใช่พวกเห่อนักร้องคนดัง” พยุตม์พูดใหม่
“เห่อไม่เห่อก็ช่างคุณ”
“มิน่า คุณถึงได้โกรธที่ผมบอกว่าจะให้สองพันสำหรับการร้องเพลงให้ฟังหนึ่งเพลง” พยุตม์ส่ายหน้า
“อย่ามารื้อฟื้น อย่ามาชวนทะเลาะนะคุณ”
“ตั๋วคอนเสิร์ตชมการแสดงของคุณราคาเท่าไหร่ครับ” พยุตม์ถาม
“ไม่รู้ ผมยังไม่เคยเปิดคอนเสิร์ต ผมเพิ่งจะเริ่มเป็นนักร้อง แล้วก็แค่ขึ้นร้องเป็นนักร้องรับเชิญตามแต่เขาจะเชิญ” พิชญยักไหล่
“นักร้องดาวรุ่ง” พยุตม์พูด “พอคุณร้องเพลงซาวด์แทร็คหนังฟอร์มใหญ่ขนาดนั้นและถ้าหนังเรื่องนี้ออกฉาย...”
“ไม่ใช่ ถ้า คุณพูดผิดแล้ว หนังมันได้ฉายแน่ๆ” พิชญพูดแทรก
“ครับๆ” พยุตม์พยักหน้า “หลังจากที่หนังออกฉาย ทั่วโลกก็จะเห็นคุณทาง MTV”
“รู้จักกับเขาด้วยหรือ”
“ผมไม่ใช่กบในกะลา”
“ใครไปว่าคุณเป็นกบในกะลา” พิชญเบ้ปาก “เรียกว่าปลาวาฬในทะเลน่าจะถูกกว่า”
หรือไม่ก็ท่อนซุงในทะเล ตอนนี้ไม่สงสัยแล้วว่าทำไมตอนเห็นเราเขาไม่ได้แสดงท่าทางว่ารู้จักเราเลย ก็เพราะเขาเดินทางรอบโลกมาน่าจะเกือบปีแล้วนี่ไง
“ที่คุณเห็นในข่าว อาจจะไม่จริงทั้งหมดก็ได้นะ บางทีข่าวก็รายงานไม่ตรงกับสิ่งที่เกิดขึ้น” พิชญพูดเสียงราบเรียบ ตามองตรงไปข้างหน้า ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ
“ผมเป็นคนฟังหูไว้หู”
“ดีแล้ว”
“แต่คู่กรณีคุณเยอะเหมือนกันนะครับ ที่ผมถามคุณตอนอยู่บนเกาะว่าคุณหลบอะไรมาแล้วคุณไม่ตอบ ก็เพราะเรื่องนี้ใช่ไหม”
“เรื่องอะไร”
“เรื่องที่อยู่ในข่าวทีวี”
“ผมไม่รู้ว่าคุณฟังข่าวอะไร ใครรายงาน หรือช่องไหน ถ้าเป็น Channel Oneก็ไม่ต้องพูดถึง เขากะจะเหยียบผมให้จมดินอยู่แล้ว”
“ทำไม” พยุตม์พึมพำเบาๆ ประหนึ่งพูดกับตัวเอง
“อย่าให้เล่าเลย พูดแล้วอารมณ์เดือด คุณก็เลิกซักผมได้แล้ว” พิชญพูดแล้วก้าวขึ้นเรือ
พยุตม์ยืนกอดอกอยู่บนสะพาน รอคนที่ร้านขายสิ้นค้าเบ็ดเตล็ดมาส่งของที่ซื้อเอาไว้ ในใจคิดถึงเรื่องระหว่างเขากับพิชญ
เดิมทีพยุตม์ตั้งใจเอาไว้ว่าเมื่อไปส่งชายหนุ่มเจ้าอารมณ์ถึงฝั่งเขาจะถามชื่อและขอหมายเลขโทรศัพท์ให้ได้ และคิดว่าคงได้ทำความรู้จักกันต่อหลังจากที่เขากลับจากซิดนีย์ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางสุดท้ายของการแล่นเรือรอบโลกของตัวเอง แต่การที่ได้รู้ว่าชายหนุ่มคนนี้คือใครและกำลังจะเดินทางไปสหรัฐอเมริกาและอาจกลายเป็นนักร้องระดับโลกทำให้เขาต้องคิดใหม่อีกรอบ
หากพิชญดังระเบิด ทุกอย่างคงไม่เหมือนเดิม การเป็นนักร้องระดับโลก หรือแม้แต่เป็นนักร้องดังระดับเอเชียหรือระดับประเทศก็คงยุ่งอยู่กับการแสดงและการปรากฎตัวตามงานต่างๆ ยามค่ำคืน
วิถีชีวิตของเขากับพิชญคงแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

ทุกอย่างพร้อม พยุตม์กับพิชญเดินทางออกจากเกาะปะดีเมื่อเวลาเกือบหนึ่งทุ่ม ทั้งสองตกลงกันว่าจะกลับไปนอนที่บ้านบนเกาะและออกเดินทางสู่กระบี่ตั้งแต่เช้า
“คืนนี้ผมยกเตียงให้คุณ” พยุตม์พูดขึ้นเบาๆ
“ไม่ต้องครับ ขอบคุณ ผมจะนอนโซฟา” พิชญตอบ
“คุณนี่ยังไง พอผมอยากนอนเตียงคุณก็จะแย่ง พอผมให้นอนคุณก็ไม่เอา”
“ไม่ต้องคิดว่าเพราะผมเป็นนักร้องดังแล้วจะให้ผมได้อภิสิทธิ์หรอก” พิชญพูดเสียงเบา
“ผมไม่ได้คิดแบบนั้น”
“คิดสิ คุณคิด ตั้งแต่คุณรู้ว่าผมเป็นใคร ปฏิกิริยาคุณก็เปลี่ยนไป”
“เปลี่ยนไปยังไง” พยุตม์เอียงหน้า เลิกคิ้วถามพิชญ
“เปลี่ยนก็แล้วกัน ผมรู้สึกได้ เพราะฉะนั้น พยายามกลับมาทำตัวเหมือนเดิมให้หน่อยนะ”
“ผมก็ทำตัวเหมือนเดิม ผมขอยืนยัน”
“ไม่เหมือน คุณสุภาพขึ้น” พิชญจ้องหน้าพยุตม์
“เอ๊ะ นี่เป็นคำชมหรือคำด่า” พยุตม์ขมวดคิ้วก่อนจะอมยิ้ม
“ผมง่วงแล้ว” พิชญพึมพำแล้วลุกขึ้นจากที่นั่งข้างคนขับเรือ เดินไปเกาะกรอบหน้าต่างห้องควบคุมเรือ มองออกไปยังความมืดเบื้องนอกแล้วพูดว่า “คิดๆ ไปก็ไม่อยากกลับกรุงเทพฯ”
“อ้าว ไหงเป็นงั้น นี่คุณจะเอายังไงกันแน่ครับ” พยุตม์พูดขึ้น
“ผมแค่บอกว่า คิดๆ ไปก็ไม่อยากกลับ ไม่ได้หมายความว่าจะไม่กลับ คุณฟังอะไรให้ดีๆ หน่อยสิ”
“ผมก็ว่าผมฟังดีแล้วนะ”
“คุณรู้หรือเปล่า มีอะไรรอผมอยู่ที่นั่นเยอะเลย ทั้งสิ่งดีทั้งสิ่งไม่ดี ทั้งพวกที่รอรุมเหยียบกับทั้งคนที่รอดันผมให้ดัง”
“ผมว่าคุณอย่าไปสนใจพวกรอรุมเหยียบจะดีกว่า การคิดถึงสิ่งที่เป็นลบจะฉุดรั้งคุณไว้” พยุตม์ให้กำลังใจ
“ผมคิดถึงสิ่งที่เป็นจริง ก็เพราะมันมีจริงๆ นี่นา ยังไงผมก็ทำเหมือนว่ามันไม่ได้เกิดขึ้นไม่ได้ เฮ้อ นี่ไม่รู้จะเจอหนักขนาดไหน”
“ผู้จัดการคุณคงช่วยได้ ชื่อก็บอกว่าเป็นผู้จัดการ”
“น่าสงสารพี่ปานจะตาย ป่านนี้คงรับเละ” พิชญถอนหายใจ
“เอาเถอะน่า ทุกอย่างก็คงจะดีขึ้น ยังไงคุณก็ต้องเอาชนะมันได้ อย่าเพิ่งกังวลมากนักเลย ตอนนี้กลับบ้านนอนพักก่อน” พยุตม์ปลอบ
“ก่อนถึงบ้าน คุณจอดให้นอนดูดาวซักหน่อยได้ไหม” พิชญหันมาพูดกับพยุตม์
“เดี๋ยวได้หลับคาเรือ ตื่นสายมาอีกทีก็คงมาโทษผมว่าไม่ปลุก” พยุตม์ทำหน้ามุ่ย
“ก็คุณไม่ปลุกจริงๆ”
“ผมก็ตื่นพร้อมๆ กับคุณนั่นล่ะครับ ทำไงได้”
“ตื่นสาย”
“คุณตื่นเช้านักนี่”
“นะ ตกลงนะ ลอยเรืออยู่ซักชั่วโมงแล้วค่อยขึ้นเกาะ นะครับ” พิชญขอร้อง คราวนี้ทำเสียงขอร้องจริงๆ
“ครับๆ” พยุตม์รับปาก
“เอ แล้วเราจะขึ้นเกาะยังไง ตอนลงเรือก็ห้อยตัวลงมาจากหน้าผา ตอนขึ้นนี่ผมปีนเชือกขึ้นไปไม่ไหวนะจะบอกให้”
“เถอะน่า อย่าห่วงเลย ผมมีวิธีพาคุณขึ้นเกาะก็แล้วกัน ผมจะรับผิดชอบพาคุณไปส่งจนถึงเตียงนอนให้ได้” พยุตม์ยิ้มบางๆ
“ทะลึ่ง”

พยุตม์ดับเครื่องยนต์แล้วเดินออกมาจากห้องควบคุมเรือ เห็นพิชญนอนหงายอยู่บนพื้นเรือ ตามองขึ้นไปบนท้องฟ้า กำลังชื่นชมกับดวงดาวที่พร่างพราว
“คุณจะรู้ไหมว่ามีดาวกี่ดวง”
“ถามแบบนี้ผมกระโดดลงน้ำแล้วกลั้นใจตายดีกว่า” พยุตม์หัวเราะเบาๆ
“ตอบว่าไม่รู้ก็พอแล้ว”
“พิชญ...” พยุตม์เรียกเบาๆ
“หือ” พิชญตอบ ตายังคงมองท้องฟ้า
“คุณเอ่อ...” พยุตม์ลังเล
“อยากฟังเพลงซักเพลงไหม ผมจะร้องให้ฟัง” พิชญพูดขึ้น
“ฟรีใช่ไหมครับ”
“ฟรีสิ ไม่ต้องมาประชดนะ หรือคุณอยากจะเสียเงิน”
พยุตม์หัวเราะเบาๆ แล้วเอนตัวนอนลงข้างๆ พิชญหันมามองแวบหนึ่งแล้วขยับตัวออกห่างเล็กน้อย จากนั้นจึงเริ่มร้องเพลงเบาๆ ด้วยน้ำเสียงสะกดคนฟัง
Picture the sky that is how high I reach
So far alive none have been right for me
But your love, is a chance I'd like to take
With each breath in me I wait
If it brings you back to me

Because I'm free and I'm young
I'm the loneliest star from the sun
But I feel that I'm close to the one
Who will stop me from coming undone
'Cause I'm free
I have been closed
I have been almost near
(who do you really want to make it, who do you want to kill)
But city light
But nothing quite like here
(who do you really want to be right here)
And your love, (your love) is a light that binds us both, (your love)
With each breath in me I hope
We won't throw it all away...
 (เพลง Loneliest Star โดย Seal)

“เศร้าจัง...” พยุตม์พูดขึ้นเมื่อพิชญหยุดร้อง “แต่คุณร้องไม่จบ”
“อย่าบ่นนักเลย ฟังฟรีนะจะบอกให้”
“แสดงว่าถ้าเสียเงินถึงจะได้ฟังจนจบเพลงใช่ไหมครับ” พยุตม์ 'เย้า' พิชญแล้วหัวเราะเบาๆ
“อย่าเริ่มนะครับ อย่าเริ่ม” พิชญพูดแล้วหันหน้าไปอีกด้าน แอบอมยิ้ม
“เปล่า” พยุตม์ปฏิเสธ หัวเราะเบาๆ แล้วเปลี่ยนเป็นนอนตะแคง ยกมือขึ้นหนุนคอตัวเอง มองใบหน้าของพิชญ
“พิชญครับ เราจะพบกันอีกหรือเปล่า”
“เรียกผมว่า นี่คุณ เหมือนเดิมดีกว่า คุณเรียกชื่อผมแล้วมันฟังดูแปลกๆ ยังไงไม่รู้”
“จริงด้วย” พยุตม์หัวเราะ “เหมือนเรียกคนแปลกหน้า”
“แต่ความจริงเราก็เป็นคนแปลกหน้ากัน” พิชญหันหน้ามาสบตากับพยุตม์
“แม้เราจะไม่รู้จักชื่อกันเลยมาตั้งสิบหกวันทั้งที่อยู่บ้านเดียวกัน แต่ผมไม่รู้สึกว่าเราเป็นคนแปลกหน้า อย่างน้อยก็ตั้งแต่...” พยุตม์นิ่งไป พิชญเองก็นิ่ง รออีกฝ่ายพูดต่อ แต่เมื่อพยุตม์ไม่พูดอะไรพิชญจึงถามขึ้นมาว่า
“คุณชื่ออะไรครับ”
“ทำไมตอนนี้อยากรู้จักชื่อผมแล้ว”
“ก็จนขนาดนี้ยังจะมาทำท่านั้นท่านี้ทำไมอีก คุณรู้จักผมแล้ว ผมยังไม่รู้ชื่อคุณ แบบนี้ไม่แฟร์นี่นา”
“ใช่ ยังจะมาทำท่านั้นท่านี้ทำไมนะ” พยุตม์พึมพำแล้วก้มหน้าลงมาใกล้และพูดว่า “ผมชื่อพยุตม์”
“พยศ”
“พยุตม์ครับ พยุตม์” พยุตม์หัวเราะเบาๆ
“พยุตม์” พิชญอมยิ้ม มองตาพยุตม์ซึ่งกำลังส่องประกายวิบวับเหมือนกับแสงดาวบนท้องฟ้าและทันใดนั้นใบหน้าคร้ามเข้มของพยุตม์ก็ก้มต่ำลงมากกว่าเดิม ปากร้อนผ่าวของพยุตม์ทาบลงบนปากของพิชญ
“อือ” พิชญส่งเสียงเบาๆ แต่พยุตม์ยังคงตรึงใบหน้าของเขาไว้ด้วยการบดริมฝีปากหนักๆ ก่อนจะผ่อนคลายให้หายใจ
“โอ๊ย” เสียงของพยุตม์ร้องเบาๆ เมื่อพิชญกำมือชกเข้าที่ท้องของเขา “อะไรกันนี่คุณ”
“ฉวยโอกาส”
“ทำลายบรรยากาศหมดเลย”
“อย่ามาทำกับผมแบบนี้นะ” พิชญทำเสียงเข้ม
“ผมเปล่านะพีช”
“ผมไม่ได้ชื่อพีช ชื่อนั้นคนเขาพากันเรียกเองเข้าใจไหม ผมไม่มีชื่อเล่น”
“ผมไม่ได้ฉวยโอกาสแบบที่คุณกำลังคิด ไม่ใช่ว่าเพราะคุณเป็นนักร้องดังผมก็เลย...”
“ไม่ต้องอธิบายหรอกครับ” พิชญพูดแทรก
“ผมจูบคุณเพราะผมอยากจูบ เพราะเป็นคุณ ไม่ใช่เพราะคุณเป็นพิชญนักร้องดัง” พยุตม์ทอดเสียงอ่อนโยน
“ช่างเถอะ” พิชญเมินหน้าหนี
“ผมขอโทษ”
“คุณจะทำแบบนั้นทำไมก็ไม่รู้” พิชญพูดเสียงเบา น้ำเสียงราบเรียบแล้วลุกขึ้นนั่งกอดเข่า หลุบตาลงมองพื้นเรือ
พยุตม์ถอนหายใจเบาๆ รู้สึกแปลบๆ ในอก พยายามทำความเข้าใจกับอารมณ์ของพิชญ
'คุณจะทำแบบนั้นทำไมก็ไม่รู้'
เขาทำแบบนั้นเพราะหัวใจมันบอกให้ทำ พยุตม์ตอบอยู่ในใจ
ชายหนุ่มทั้งสองต่างนั่งเงียบกันอยู่นานจนในที่สุดพิชญก็เอนตัวลงและนอนมองดูดาวต่อไป ส่วนพยุตม์ลุกขึ้น เดินไปนั่งบนเก้าอี้แล้วมองออกไปนอกเรือ ปล่อยให้เวลาผ่านไปช้าๆ
“ผมคงไม่ได้อยู่เมืองไทยอีกนาน” จู่ๆ พิชญก็พูดขึ้นมา
“ครับ” พยุตม์ตอบรับ
“พอไปถึงอเมริกาก็บันทึกเสียงเพลง The End of Time แล้วก็ถ่าย MV เสร็จก็เข้าห้องอัดเริ่มทำอัลบั้มแรก คงยุ่งไปเป็นปี”
“คุณจะออกอัลบั้ม”
“ตอนนี้ข่าวออกไปแค่ว่าผมจะได้ร้องเพลงประกอบหนังเรื่อง The End of Time แต่ที่จริงเรื่องทำอัลบั้มเพลงเตรียมกันมาตั้งแต่ผมถอนตัวจากการประกวด The Superstar แล้ว ที่จะได้ร้องเพลงซาวด์แทร็คเป็นแผนโปรโมทนักร้องขั้นแรกเท่านั้นเอง”
“ที่คุณถอนตัวก็เพราะแบบนี้”
“The Superstar ฟ้องผม กล่าวหาว่าผมโกหก ทำผิดเงื่อนไขการประกวดเพราะเซ็นสัญญาเป็นนักร้องกับบริษัทอื่นขณะที่กำลังประกวดอยู่ ความจริงไม่ใช่ ผมยังไม่ได้เซ็น แค่คุยกัน แต่เขาพยายามจะเอาผิดผมให้ได้ แมวมองจากอเมริกาเห็นผมร้องเพลงเลยสนใจ โชคก็เข้าข้างที่แมวมองคนนั้นรู้จักอาจารย์ผมด้วย”
“แล้วไงต่อครับ” พยุตม์อยากรู้
“มีคนอิจฉาและพยายามทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ ตอนแรกผมจะรอจนจบการประกวด แต่พอทะเลาะกับหลายๆ คนผมก็เลยถอนตัวซะเลย ยังไงก็ไม่ชนะอยู่แล้วนี่ เสียเวลาทำไม”
“คุณร้องเพลงเก่ง น่าจะชนะ”
“ร้องเพลงเก่งอย่างเดียวชนะรายการ The Superstar ไม่ได้นะครับ” พิชญเบ้ปาก
“หน้าตาก็ดี”
“มันมีอะไรมากกว่านั้น อย่าให้เล่าเลย หน้าตาดีร้องเพลงแค่ใช้ได้ก็ไม่ชนะเหมือนกัน” พิชญถอนหายใจ
“ผมว่าคุณร้องเพลงเก่ง” พยุตม์ชม
“คุณไม่เคยเห็นผมร้องเพลงบนเวที จะมาชมว่าร้องเก่งได้ยังไง จริงใจหรือเปล่าเนี่ย”
“โธ่ คุณนี่ก็นะ ถ้าไม่เก่งแมวมองจากอเมริกาจะติดต่อให้ร้องเพลงทำอัลบั้มหรือครับ นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ โอกาสแบบนี้น่าจะหนึ่งในร้อย”
“ดูถูก”
“ดูถูกอะไรอีกคร้าบ” พยุตม์สงสัย
“หนึ่งในแสนหรือหนึ่งในล้านมั๊ง”
“หนึ่งในสองล้านก็ได้เอ้า”
“ผมฝันอยากเป็นนักร้องดังระดับโลกมานานแล้วตั้งแต่เรียน ม. ปลาย ผมถึงได้ไปเรียนต่อทางด้านดนตรี”
“ฝันของคุณกำลังจะเป็นจริง”
“คุณมีความฝันหรือเปล่า” พิชญถามพยุตม์
“มีสิครับ หนึ่งในนั้นคือสร้างบ้านสวยๆ บนเกาะสวยๆ และแล่นเรือรอบโลกคนเดียว” พยุตม์พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“คุณกำลังบอกว่าฝันของคุณใกล้จะเป็นจริงแล้วหนึ่งอย่าง”
“เป็นจริงแล้วหนึ่งฝันครับ ฝันที่สองกำลังจะเป็นจริงอีกภายในหนึ่งเดือนครึ่ง” พยุตม์หัวเราะเบาๆ “นี่คุณก็ยังคงคิดว่าบ้านหลังนั้นกับเกาะนั่นไม่ใช่ของผมงั้นหรือ”
“ถ้าไม่มีหลักฐานก็ไม่เชื่อ” พิชญเปลี่ยนท่าเป็นนอนตะแคง หันหน้ามาทางพยุตม์ “คุณรู้ไหม ผมกลัวมากที่กำลังเดินตามฝันของตัวเอง ผมไม่รู้ว่าจะเจอกับอะไรบ้าง”
“แค่เตรียมตัวให้ดีและเดินทางด้วยความระมัดระวัง ผมแล่นเรือรอบโลกก็ใช้หลักการนี้ล่ะ”
“แต่น้ำมันจะหมดถังที่เกาะนี้นี่นะ”
“แหม อุปสรรคมันก็เกิดขึ้นได้ แต่เราก็ต้องเอาชนะมัน” พยุตม์ยักไหล่ อมยิ้ม
“น่าอิจฉาที่คุณเห็นอะไรมาเยอะแยะ”
“น่าอิจฉาคุณด้วยที่กำลังจะเป็นนักร้องไทยที่ได้ร้องเพลงประกอบหนังฮอลลีวู้ด”
“คนแรกด้วยนะเออ” พิชญทำเสียงภาคภูมิใจ
“นักร้องเอเชียคนแรกด้วยหรือเปล่าครับ”
“ไม่รู้สิ คงงั้นมั๊ง”
“ขอแสดงความยินดีด้วยครับ” พยุตม์พูดเสียงนุ่ม
“ผมฝันไกลถึงเวทีออสการ์ด้วยล่ะ ผมฝันว่าเพลงจะได้เข้าชิงรางวัลผมก็จะได้ร้องเพลงบนเวที ถ้าเพลงได้รางวัลด้วยก็ยิ่งดี ผมนึกถึงซิงเกิ้ลแรกจากอัลบั้มชุดแรกติดชาร์ตบิลบอร์ด ได้เสนอชื่อเข้าชิงรางวัลอเมริกันมิวสิคอวอร์ดและแกรมมี่”
“อืม” พยุตม์พยักหน้า “ชาร์ตบิลบอร์ดกับแกรมมี่คืออะไรครับ”
“บ้าจริงคุณนี่” พิชญโวยวาย “เป็นปลาวาฬในทะเลจริงๆ ด้วย”
“อะไรนะ”
“ช่างเถอะ” พิชญกระแทกเสียงแล้วนอนหงายมองดูดาวต่อ รู้สึกฉุนพยุตม์ยิ่งนัก
“ใครจะไปรอบรู้หมดทุกอย่าง” พยุตม์พึมพำแล้วเดินไปที่ห้องควบคุมเรือและส่งเสียงถามพิชญ
“กลับกันได้หรือยังครับ คุณจะได้นอนพักสบายๆ พรุ่งนี้ต้องเดินทางแต่เช้า”
“ออกสายๆ ก็ได้ ไหนๆ ก็ผิดเวลาตั้งสามวันนี่นา”
“ประชดผมหรือเปล่า”
“เปล่า” พิชญตอบเสียงเย็น “ผมนะหรือจะประชดใครเป็นเหมือนคุณ”
“เห็นด้วย” พยุตม์พูด บิดกุญแจติดเครื่องยนต์และขับเรือมุ่งไปยังเกาะไทรงาม ที่พักซึ่งเขาจะได้อยู่กับพิชญสองต่อสองเป็นคืนสุดท้าย

::: End of chapter 12:::

ออฟไลน์ ooopimmyooo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 401
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
Re: ::: อาทิตย์อัสดง ::: บทที่ 11 "" UP 18.5/1/55
«ตอบ #214 เมื่อ19-01-2012 10:33:15 »

จะจบแล้วหรอ-0-

เร็วจังอ่า....

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: ::: อาทิตย์อัสดง ::: บทที่ 11 "" UP 18.5/1/55
«ตอบ #215 เมื่อ19-01-2012 10:54:07 »

พยุตฒ์ น่ารักกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
Re: ::: อาทิตย์อัสดง ::: บทที่ 11 "" UP 18.5/1/55
«ตอบ #216 เมื่อ19-01-2012 14:39:14 »

ในที่สุด  ก็เปิดใจกันได้เสียที  ยังไม่อยากให้จบอะ!!!!!

member

  • บุคคลทั่วไป
Re: ::: อาทิตย์อัสดง ::: บทที่ 11 "" UP 18.5/1/55
«ตอบ #217 เมื่อ19-01-2012 16:21:09 »

อ้าวววว จะจบแล้วววว ไวจัง อยากอ่านเรื่องนี้นานๆ ถึงพิชยจะเถียงเก่งไปหน่อยยย แต่พยุตย์คือที่สุดดดดด  :o8:


เข้ามารอตอนจบจ้า

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1912
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
Re: ::: อาทิตย์อัสดง ::: บทที่ 11 "" UP 18.5/1/55
«ตอบ #218 เมื่อ19-01-2012 16:38:28 »

น่าสงสารพระเอกเรา อยากให้อยู่ด้วยกันนนน

ออฟไลน์ THiiCHA

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-4
Re: ::: อาทิตย์อัสดง ::: บทที่ 11 "" UP 18.5/1/55
«ตอบ #219 เมื่อ19-01-2012 16:43:55 »

... จิ้ม บวก ที่ 2222 ....

โน้วววววววววววววววว   อย่าเพิ่งจบ 
:serius2: :serius2: :serius2:

น่ารักกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว

2 คนนี้ไม่เถียงกันซักวัน ท้องคงอืด ถ่ายไม่ออก :laugh:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ::: อาทิตย์อัสดง ::: บทที่ 11 "" UP 18.5/1/55
« ตอบ #219 เมื่อ: 19-01-2012 16:43:55 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






yayee2

  • บุคคลทั่วไป
Re: ::: อาทิตย์อัสดง ::: บทที่ 11 "" UP 18.5/1/55
«ตอบ #220 เมื่อ19-01-2012 16:46:11 »

จะรออ่านตอนจบ ไม่ว่าจะจบออกมาในรูปแบบใดก็จะรอ
เพราะจะอย่างไรๆ ตอนนี้พยุตม์ ก็ได้แง้มหัวใจออกมาให้พิชญได้รับรู้บ้างแล้ว
แค่ได้แง้มความรู้สึกของตนเอง ให้อีกฝ่ายรู้ก็น่าจะพอใจแล้วล่ะตอนนี้น่ะ(เราคนอ่านก็โล่งด้วยนะ ณจุดนี้)
และพยุตม์เอง เมื่อรู้ถึงความฝันของพิชย์ และเส้นทางที่พิชญจะเดินไป
เขาก็คงไม่คาดหวังอะไรมากนัก(ใช่รึเปล่าก็ไม่รู้ แกไปคิดแทนเขาได้ไงยัยยาหยี)
และทางเดินกับความฝันของพิชญก็ช่างแตกต่างเหลือเกินกับความฝันของพยุตม์

ออฟไลน์ LalaBam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2864
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-2
Re: ::: อาทิตย์อัสดง ::: บทที่ 11 "" UP 18.5/1/55
«ตอบ #221 เมื่อ19-01-2012 17:42:22 »

แล้วมันจะจบยังไงล่ะเนี่ย  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ k00_eng^^

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 647
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-2
Re: ::: อาทิตย์อัสดง ::: บทที่ 12 "" UP 18.5/1/55
«ตอบ #222 เมื่อ19-01-2012 18:08:12 »

ไม่เหมือนคนแปลกหน้ากันเลยอ่ะ
ทะเลาะกันขนาดนี้ระวังจะได้ลูกหัวปีท้ายปีนะเออ

alterlyx

  • บุคคลทั่วไป
Re: ::: อาทิตย์อัสดง ::: บทที่ 12 "" UP 18.5/1/55
«ตอบ #223 เมื่อ19-01-2012 18:45:50 »

ชะอุ้ยๆๆๆๆ แอบเห็นว่า ชื่อเกาะไทรงาม  :a5:

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
Re: ::: อาทิตย์อัสดง ::: บทที่ 12 "" UP 18.5/1/55
«ตอบ #224 เมื่อ19-01-2012 18:58:53 »

อาทิตย์อัสดง บทที่ 13

หลังจากอาบน้ำเสร็จ พยุตม์เดินออกจากห้องนอนแต่ไม่เห็นพิชญอยู่ที่โซฟาจึงเดินหาและพบว่าชายหนุ่มนอนเล่นอยู่บนเก้าอี้เอนที่ระเบียงหลังบ้าน พยุตม์เดินเข้าไปนั่งอยู่ข้างๆ แล้วพูดขึ้นมาว่า
“นี่คุณ ดึกแล้วนะครับ ทำไมไม่นอนเสียที”
“ผมกำลังดูดาว” พิชญตอบ
“เมื่อกี้บนเรือก็ดูแล้ว”
“ก็ผมอยากดูอีก คุณง่วงก็นอนไป ผมอยู่คนเดียวได้”
“ผมเป็นห่วง” พยุตม์พูดเสียงอ่อนโยน
“ทำไม” พิชญถามเบาๆ
“พรุ่งนี้คุณต้องเดินทาง ถึงกรุงเทพฯ ก็ต้องเจออะไรอีกเยอะแยะไม่ใช่หรือ”
“ตอนนี้ผมกำลังทำใจ” พิชญตอบแล้วถอนหายใจเบาๆ
“คงไม่หนักหนาเกินไปหรอก”
“คงงั้นมั๊ง ยังไงก็คงต้องผ่านมันไปให้ได้ ผมไม่ยอมแพ้หรอก ไม่มีทาง” พิชญพูดเสียงหนักแน่น
“ผมก็ว่างั้น ท่าทางคุณไม่ยอมแพ้ใคร”
“ประชดผมหรือเปล่าเนี่ย”
“เปล่า อย่าแปลความหมายคำพูดของผมเป็นอย่างอื่นสิครับ ผมหมายความว่าท่าทางคุณเป็นคนเข้มแข็ง ไม่ยอมแพ้ต่อปัญหาง่ายๆ”
“เมื่อกี้คุณพูดว่าท่าทางผมไม่ยอมแพ้ใคร”
“ก็ใช่ไหมล่ะ” พยุตม์เลิกคิ้ว
“คุณบอกเป็นนัยว่าผมเป็นคนดื้อรั้น ชอบเอาชนะ” พิชญทำหน้ามุ่ย
“คุณแปลความหมายผมผิด” พยุตม์โวยขึ้นมาเบาๆ
“ซึ่งที่จริงแล้วก็มีส่วนถูกนะ”
“อ้าว...” พยุตม์โคลงศีรษะ
“คุณก็เหมือนกัน เคยยอมให้ผมที่ไหน” พิชญหันมาหรี่ตามองพยุตม์
“ยอมสิ” พยุตม์แย้ง “ไม่สังเกตหรือว่าหลังๆ มานี่ผมยอมให้คุณกว่าตอนแรกๆ ที่เจอกัน”
“จะลองคิดย้อนหลังดู” พิชญพูดเบาๆ แล้วหันไปมองดวงดาวบนท้องฟ้าต่อ
เวลาผ่านอย่างเชื่องช้าๆ พิชญนอนนิ่ง มองดาวบนท้องฟ้าอย่างหลงไหล ส่วนพยุตม์เอาแต่นั่งมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของพิชญ
“แต่คุณก็กวนประสาทอย่างคงเส้นคงวา เรื่องเรือนี่ล่ะเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนทีเดียว” จู่ๆ พิชญก็พูดขึ้นมา พยุตม์หัวเราะเบาๆ ไม่ตอบโต้อะไร พิชญจึงพูดต่อว่า “แต่ก็ขอบคุณนะครับที่จะไปส่ง”
“ไม่ได้ส่งฟรีนะครับ ขอบอก”
“รู้แล้วน่า เงินค่าจ้างนิดเดียวผมมีจ่าย”
“ไปนอนเถอะ” พยุตม์ชวนอีกครั้ง
“ดาวสวยจริงๆ ผมอยากดูนานๆ นี่กลับกรุงเทพฯ คงไม่ได้เห็นอะไรแบบนี้”
“ถ้าอยากดูอีก คราวต่อไปค่อยมาดูอีกก็ได้” พยุตม์พูดเสียงนุ่ม
“ผมสงสัยอยู่ว่าตัวเองจะมีเวลานั่งหรือนอนเฉยๆ แล้วดูดาวแบบนี้อีกหรือเปล่า” พิชญถอนหายใจ “เวลากลางคืนของผมถ้าไม่อยู่กลางแสงสีก็คงอยู่ในห้องนอนเพราะทำงานจนหมดแรง”
“ตอนแรกคุณอาจจะยุ่งมาก แต่พอทุกอย่างเข้าที่เข้าทางก็ต้องมีเวลา เชื่อผมสิ อย่าเพิ่งกังวลเกินไป ปวดหัวเปล่าๆ แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้คุณต้องเข้านอน คืนนี้คุณนอนในห้อง ผมจะนอนโซฟาเอง”
“ไม่ ผมจะนอนโซฟา” พิชญลุกขึ้น
“คุณจะได้นอนให้สบายไงเล่า”
“ผมอยากนอนโซฟานุ่มๆ” พิชญยืนกรานและเดินเข้าไปในบ้าน ตรงไปที่โซฟา พยุตม์เดินตาม มองพิชญยิ้มๆ
“คุณน่าจะพูดแบบนี้ตั้งแต่มาถึงวันแรก”
“ความจริงผมก็ชอบนอนโซฟานี่นะ แต่เห็นคุณชอบนอนเตียงผมเลยอยากนอนเตียง” พิชญพูด
“แบบนี้ล่ะที่เรียกว่าชอบเอาชนะ” พยุตม์ส่ายหน้า
“คุณนอนเตียงไปเถอะ เตียงของคุณไม่ใช่หรือ”
“คุณยอมรับแล้วใช่ไหมล่ะว่านี่คือบ้านของผม”
“ผมประชดหรอก” พิชญเบ้ปากแล้วทิ้งตัวลงบนโซฟา จากนั้นจึงดึงหมอนมากอด
“วันนี้อากาศค่อนข้างเย็น ผมจะไปเอาผ้าห่มมาให้”
“ไม่ต้องครับ ขอบคุณ” พิชญส่ายหน้า
“แน่ใจนะ” พยุตม์เลิกคิ้ว พิชญพยักหน้า ขยับตัวยุกยิกแล้วหลับตา พยุตม์จึงเดินไปปิดประตูและปิดไฟ ก่อนจะเดินมายืนอยู่ข้างโซฟาและกล่าวราตรีสวัสดิ์ พิชญพูดตอบเบาๆ ครางอืออาในลำคอ แล้วซุกหน้าเข้ากับหมอน พยุตม์ยืนมองพิชญต่ออีกครู่ใหญ่แล้วเดินเข้าห้องนอนเงียบๆ
เมื่ออีกฝ่ายเข้าห้องนอนไปแล้ว พิชญจึงลืมตา มองออกไปในความมืดและถอนหายใจแรงๆ
เขารู้ว่าพยุตม์รู้สึกอย่างไร และเขาเองก็รู้ว่าตัวเองรู้สึกอย่างไรเช่นกัน
แต่จะดีกว่าหากต่างคนต่างนอนและไม่ผูกพันกันไปมากกว่านี้

แสงแดดยามเช้าสส่องลอดเข้ามาตามช่องกระจก ภายในห้องสว่างไสว เสียงคลื่นซัดหาดทรายและโขดหินดังเป็นจังหวะประสานกับเสียงนกที่บินโฉบอยู่เหนือท้องทะเล พิชญบิดกาย ค่อยๆ ลืมตา จากนั้นจึงพลิกตัวแต่ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่าตัวเองไม่ได้นอนอยู่บนโซฟา
นี่เขาดิ้นตกโซฟาอีกแล้วหรือเนี่ย คราวนี้ไม่ได้ปีนกลับขึ้นไปเหมือนทุกคืน
“อรุณสวัสดิ์ครับ” เสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหู พิชญหันไปด้านขวา เห็นพยุตม์นอนตะแคงมองอยู่ด้วยสายตาพราวระยับ ไม่เหมือนคนเพิ่งตื่นนอนใหม่ๆ เลยแม้แต่น้อย
“คุณมาตอนอยู่ตรงนี้ได้ยังไง” พิชญถาม
“ผมกลัวคุณหนาว เลยเอาผ้าห่มมาให้” พยุตม์ตอบ
“นั่นไม่ได้ตอบคำถามเลยนะ”
“แต่คุณก็นอนดิ้นจนผ้าห่มหลุดลุ่ย ผมเลยต้องนอนเฝ้า  คอยลุกมาห่มผ้าห่มให้คุณ”
“พูดเว่อร์ไปแล้ว” พิชญพลิกตัวหันหน้าเข้าหาโซฟา
“ผมนอนไม่หลับ” พยุตม์พูดขึ้นเบาๆ “แต่พอย้ายมานอนบนพื้นใกล้โซฟากลับหลับเป็นตาย”
“ถ้าหลับเป็นตาย แล้วใครลุกขึ้นมาห่มผ้าห่มให้ผมล่ะ คุณพูดวกไปวนมา ไม่เป็นเหตุเป็นผลกัน”
“ผมละเมอลุกขึ้นมาห่มให้มั๊ง” พยุตม์ยิ้มบางๆ
“คุณไม่น่าทำแบบนี้” พิชญพูดพึมพำ
“ทำไมจะทำไม่ได้” พยุตม์ตอบเสียงนุ่ม
“ช่างเถอะ ผมจะลุกไปอาบน้ำแล้วล่ะ” พิชญพูดแต่กลับไม่ขยับตัวเพราะรู้สึกได้ว่าคนที่นอนอยู่ข้างๆ ขยับเข้ามาใกล้เกือบจะเบียดเขาติดกับโซฟา
“ขอผมอาบก่อนนะ จะได้ออกมาทำอาหารเช้าให้ คุณอาบน้ำเสร็จจะได้กินเลย” พยุตม์กระซิบ
“จะให้รีบๆ ไปใช่ไหมล่ะ”
“คุณรีบกลับกรุงเทพฯ ไม่ใช่หรือ”
“ผมจะลุกแล้ว” พิชญเปลี่ยนเรื่อง
“ผมก็จะลุกเหมือนกัน”
ต่างคนต่างพูดแต่กลับไม่มีใครลุกขึ้นจากพื้นที่ปูด้วยผ้าห่มผืนใหญ่ และในที่สุดพิชญก็พูดขึ้นมา
“นี่คงสายแล้ว”
“ผมว่าคงประมาณเจ็ดโมง มีเวลาถมเถ ผมไปส่งคุณทันแน่นอน” พยุตม์รับรอง
“ผมยังไม่ได้ซื้อตั๋วเครื่องบิน”
“ถ้าพลาดเที่ยวบินสุดท้าย ผมจะไปส่งให้ถึงท่าเรือคลองเตยก็ยังได้”
“ผมไม่ใช่สินค้านะจะบอกให้” พิชญตวัดเสียง “อีกอย่าง กว่าจะถึงคงอาทิตย์หน้าพอดี คุณต้องอ้อมมาทางอ่าวไทย พูดออกมาได้”
“ไม่อยากนั่งเรือเล่นนานๆ หรือครับ” พยุตม์หัวเราะในลำคอ
“นี่คุณ...” พิชญเรียกอีกฝ่าย “ลุกซะทีจะได้ไหม”
“ครับๆ” พยุตม์หัวเราะเบาๆ แล้วพลิกตัวนอนหงาย บิดตัวพร้อมกับครางก่อนจะยันตัวลุกขึ้น
“บ้า ทะลึ่ง” พิชญพูดเสียงสะบัดเมื่อหันไปมองแล้วเห็น 'การตื่นตัวยามเช้า' ของอีกฝ่ายในกางเกงบ๊อกเซอร์
“ช่วยไม่ได้ครับ มันเป็นเรื่องของธรรมชาติ” พยุตม์หัวเราะแล้วเดินหายเข้าไปในห้องนอน
“แล้วผมจะต้องเก็บที่นอนหรือเนี่ย”
“ใช่” พยุตม์ตะโกนตอบจากในห้อง
“ไม่รู้จะออกมานอนที่นี่ทำไมให้มัน...” พิชญบ่นพึมพำแล้วถอนหายใจ นิ่งไปครู่หนึ่งแล้วพูดต่อในใจว่า...
ให้มันมีความทรงจำแบบนี้ทำไมก็ไม่รู้

การเดินทางจากเกาะไทรงามถึงกระบี่ใช้เวลากว่าห้าชั่วโมง ตลอดทางทั้งพยุตม์และพิชญคุยกันค่อนข้างน้อย พยุตม์ลอบมองพิชญอยู่บ่อยๆ จึงเห็นว่าฝ่ายนั้นนั่งเหม่อหลายครั้งสลับกับการนอนพักผ่อน และเมื่อมองเห็นฝั่งอยู่ลิบๆ พิชญจึงเดินเข้ามานั่งข้างๆ พยุตม์ในห้องเดินเรือ
“คุณปิดกระจกห้องนี้ให้หมดแล้วจอดเทียบที่ปลายสุดของสะพานนะครับ” พิชญพูด
“ปิดกระจกแล้วผมจะมองเห็นได้ยังไง” พยุตม์แย้ง
“กระจกมันใส ทำไมจะมองไม่เห็น”
“แล้วถ้างั้นจะปิดกระจกทำไมล่ะครับ”
“ฮื่อ” พิชญทำเสียงไม่ชอบใจอยู่ในคอ หันมามองพยุตม์ตาขวางแล้วพูดขึ้นว่า “งั้นคุณก็รีบจอด รีบให้ผมลง แล้วก็รีบไป”
“ผมเข้าใจ” พยุตม์พยักหน้า “คุณไม่อยากให้ใครเห็นว่าผมมาส่ง”
“ใช่” พิชญพยักหน้าเช่นกัน “ผมไม่อยากให้คุณกลายเป็นบุคคลในข่าวด้วย”
“ผมไม่ใช่คนดังอะไร ผมไม่...”
“เดี๋ยวชีวิตคุณก็ไม่สงบสุข อยากมีชีวิตที่วุ่นวายเพราะถูกปาปารัซซี่คอยตามหรือไง”
“ตามได้ก็ตามสิ ผมขับเรืออยู่ในทะเลนี่ล่ะ” พยุตม์ยักไหล่
“แล้วก็มาว่าแต่ผมว่าดื้อรั้น” พิชญถลึงตาใส่พยุตม์
“เถอะน่า อย่ากลัวนักเลยครับ คงไม่มีช่างภาพที่ไหนหรอก ที่ผมจะเอาเรือไปจอดเป็นมารีน่า ไม่ค่อยมีคน”
“ที่ผมพูดนี่ก็เพื่อตัวคุณนะคุณพยุตม์ ไม่ใช่เพราะผมเป็นนักร้องแล้วกลัวจะเป็นข่าว” พิชญพูดเสียงราบเรียบ “ตั้งแต่เข้ามาในวงการได้ไม่กี่เดือน ผมเจอข่าวแย่ๆ ไปเยอะมากถ้าเทียบกับคนอื่น ผมคิดว่าอีกหน่อยก็คงจะชิน ผมต้องหัดให้ชิน แต่อย่างคุณที่ชอบความสันโดษ คุณคงไม่ชินหรอก ที่ผมพูดนี่คุณเข้าใจไหม”
“เข้าใจครับ” พยุตม์นิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบออกมาเบาๆ
“เข้าใจก็ดีแล้ว”

โชคดีที่ท่าเรือกระบี่มารีน่านั้นเงียบมากพิชญจึงรู้สึกคลายความกังวลไปได้มาก เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ด้านข้างของเรือ รอจนพยุตม์เทียบเรือเสร็จเรียบร้อยจึงลุกขึ้น ลากกระเป๋าของตัวเองเดินไปที่กราบเรือด้านซ้ายช้าๆ แต่เมื่อเห็นพยุตม์เดินออกมาจากห้องเดินเรือจึงรีบหันไปบอกให้กลับเข้าไป
“ท่าเรือมันร้างขนาดนี้ คุณจะกลัวอะไร” พยุตม์แย้งแต่ก็ยอมนั่งอยู่ในห้องเดินเรือ
“ใครจะรู้ อาจมีคนที่รู้จักผมอยู่แถวๆ นี้ เดี๋ยวนี้ทุกคนมีมือถือที่ถ่ายรูปได้กันทั้งนั้น คุณไม่รู้หรอกว่าปาปารัซซี่สมัยนี้ไม่ใช่เป็นแค่นักข่าวประจำของสำนักพิมพ์” พิชญอธิบาย
“ผมแค่จะลาคุณ”
“งั้นก็...ลาก่อนนะครับ” พิชญพูดเบาๆ
“ไม่ใช่ลาก่อนนะครับพิชญ แค่แยกกันตอนนี้เท่านั้น” พยุตม์พูดเสียงอ่อนโยน
“คุณหมายความว่า...”
“หวังว่าเราคงจะได้เจอกันอีก”
“อือ” พิชญพยักหน้า
“แล้วก็...เอ่อ...” พยุตม์อึกอัก
“อะไรครับ” พิชญถาม
“เอ่อ...”
“อะไรอีกล่ะ” คนที่มีความอดทนน้อยขมวดคิ้ว ทำเสียงไม่สบอารมณ์
“ค่าจ้าง”
“บ้าจริง คุณนี่ เอาจริงๆ หรือ” พิชญโวยแล้วควักกระเป๋าเงินออกมา
“ไม่ใช่เงินครับ” พยุตม์หัวเราะเบาๆ
“ถ้าไม่เอาค่าจ้างเป็นเงินก็เอาค่าจ้างเป็นคำขอบคุณก็พอ ใช่ไหมล่ะ”
“เบอร์โทรศัพท์ กับอีเมล์” พยุตม์ตอบ “ผมจะเดินทางต่อให้ถึงซิดนีย์ เผื่อแวะที่ไหนจะได้ทักทายคุณบ้าง”
“ผมไม่มีนามบัตร”
“ผมมีปากกา” พยุตม์ยื่นปากกาให้
“กระดาษ” พิชญพูดเบาๆ
“ไม่มีครับ แต่เขียนลงบนเสื้อผมก็ได้” พยุตม์ชี้เข้าหาหน้าอกตัวเอง
“เสีอดายเสื้อขาว อุตส่าห์ใส่เสื้อทั้งที”
“แล้วคุณคิดว่าผมใส่เสื้อทำไมล่ะ” พยุตม์อมยิ้ม “พิชญ...นะครับ ค่าจ้างมาส่งใกลขนาดนี้ไม่ถือว่าแพงหรอก”
พิชญเดินเข้าไปใกล้ประตูห้องควบคุมเรือ พยุตม์ยืดตัวขึ้นตรง ส่งสายตาอ่อนโยนให้อีกฝ่ายแล้วดึงเสื้อให้ตึง
“คุณจะจำผมได้ใช่ครับ” พยุตม์พูดขึ้นเบาๆ ขณะที่พิชญกำลังจะเขียนหมายเลขโทรศัพท์ลงบนเสื้อของเขา
“คนอย่างคุณใครจะลืมได้ลง” พิชญก้มหน้า พูดเบาๆ เช่นกัน
“ผมก็ลืมคุณไม่ลง”
“ถ้าลืมกันล่ะน่าดู” พิชญกระแทกปากกาแรงจนพยุตม์ร้องคราง “พอใจหรือยัง ล่ะที่นี้ ได้ไปทั้งเบอร์โทร ทั้งอีเมล์”
“เกินจะพอใจ” พยุตม์พยักหน้าและหัวเราะเบาๆ
“ให้ไปแล้วอย่าให้มันหายล่ะ แล้วเสื้อนี่ก็ไม่ต้องซัก ถ้าหายไปอย่าหวังว่าจะได้อีกเป็นครั้งที่สอง”
“ครับ รู้แล้วครับ”
“แล้วนี่คุณจะกลับที่เกาะจริงๆ หรือครับ” พิชญเงยหน้าขึ้นมาถามพยุตม์
“ผมจะกลับไปนอนเล่นซักอาทิตย์แล้วถึงจะออกเดินทาง ถึงปีนังผมจะติดต่อไป ถึงสิงคโปร์ ถึงบาหลี ถึง...”
“พอๆ แล้ว” พิชญยกมือห้าม
“ผมคงเหงาถ้าไม่ได้เถียงกับคุณ” พยุตม์ยิ้มมุมปาก
“หาคนเถียงด้วยซักคนสิ”
“ไม่อยากเถียงกับคนอื่น” พยุตม์ตอบเสียงนุ่ม
“ผมคงไม่มีเวลาเถียงกับคุณเท่าไหร่หรอก เพราะถึงกรุงเทพฯ ผมก็จะยุ่งมาก ต้องเจอสารพัดเรื่อง”
“ผมเข้าใจ” พยุตม์พยักหน้า
“อาจจะได้รับโทรศัพท์หรือไม่ได้รับ ส่วนอีเมล์ก็เหมือนกัน บางทีก็อาจตอบช้า”
“ผมเข้าใจ”
“เอ้า แถมเฟซบุ๊ค” พิชญเขียนข้อความลงบนเสื้อของพยุตม์อีกครั้ง
“เฟซบุ๊คคืออะไร”
“บ้าจริงๆ คุณนี่ แบบนี้ไม่ให้เรียกปลาวาฬในทะเลจะให้เรียกว่าอะไร”
“ผมล้อเล่น ผมรู้จักหรอก” พยุตม์หัวเราะ
“ฮึ รู้จัก” พิชญเบ้ปาก “แต่ไม่รู้จักผม”
“คุณต้องเข้าใจนะ ผมแล่นเรือรอบโลกมาตั้งเกือบสิบเอ็ดเดือน แล้วชีวิตผมก็ค่อนข้างแยกออกมาจากผู้คน”
“รู้แล้วว่ารักสันโดษ” พิชญพูดแล้วนิ่งไปชั่วครู่ ก่อนจะพูดขึ้นมาเบาๆ ว่า “และคุณก็คงพอจะนึกภาพออกว่าชีวิตของผมเป็นยังไง ผมเป็นบุคคลสาธารณะ ถ้าคุณมาพัวพันกับผม คุณก็อาจจะไม่เหลือความเป็นส่วนตัว”
“ผมรู้”
“ชีวิตของเราสวนทางกัน” พิชญมองตาของพยุตม์ พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบจริงจัง
“ผมก็รู้อีกนะแหละ”
“ผมไปก่อนนะครับ ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง” พิชญอำลาพยุตม์อีกครั้ง
“เช่น...” พยุตม์เลิกคิ้ว
“ดวงดาวที่เต็มท้องฟ้ามั๊ง” พิชญยักไหล่
“และปลาโลมา” พยุตม์อมยิ้ม
“และที่สุดของที่สุดคือเรือยอท์ชลำนี้” พิชญแกล้งกระแทกเสียงและทำหน้าบึ้งตึงแล้วเปลี่ยนเป็นยิ้มกว้าง”
“ผมจะจดจำทุกอย่าง” พยุตม์พูดเสียงนุ่ม ส่งสายตาอาลัยอาวรณ์
“ประสบการณ์แบบที่เราสองเจอคงลืมไม่ลงหรอก” พิชญตอบแล้วเดินจากไปช้าๆ พยุตม์ล้วงมือลงไปในกระเป๋ากางเกง กำมือแน่น ถอนหายใจเบาๆ มองตาคนที่ลากกระเป๋าเดินลงจากเรือด้วยความรู้สึกโหยหา
เมื่อพิชญลับสายตาไปแล้ว พยุตม์ก้มลงมองหน้าออกของตัวเองซึ่งมีลายมือโย้เย้ของพิชญเขียนหมายเลขโทรศัพท์และตัวหนังสือภาษาอังกฤษบอกอีเมล์และเฟซบุ๊ค แต่เมื่อเห็นว่าล่างสุดนั้นเป็นตัวหนังสือภาษาไทยเล็กๆ เรียงกันเป็นประโยคพยุตม์จึงถอดเสื้อออกมาเพื่ออ่านประโยคนั้น
สิ่งที่พิชญเขียนทำให้อมยิ้ม
'ขอบคุณสำหรับพระอาทิตย์ตกทะเล ผมชอบมาก อยากดูกับคุณอีกหลายๆ ครั้ง'
::: End of chapter 13:::

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
Re: ::: อาทิตย์อัสดง ::: บทที่ 12 "" UP 18.5/1/55
«ตอบ #225 เมื่อ19-01-2012 19:10:30 »

กรี๊สสส ตอนจบแล้ว

'ขอบคุณสำหรับพระอาทิตย์ตกทะเล ผมชอบมาก อยากดูกับคุณอีกหลายๆ ครั้ง'
อยากจะกรี๊สสสสดังๆ ให้ประโยคนี้ มันเป็นพิชญอย่างมากกกกกก น่าร๊ากกกกก

พี่คฑาคนเก่ง พี่คฑาสุดหล่อ มีตอนพิเศษอีกสักสิบยี่สิบตอนมั้ยคะ อยากอ่านนนนนนนนนนนนนนน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-01-2012 21:18:19 โดย JJHJJH »

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1912
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
อืมม...อ่ะนะ รู้สึกว่าจะเศร้านะเนี่ย เฮ้อออออออ
ทำไมไม่ตามกลับมาอยู่ด้วยยยยกานนนนอ่ะ :เฮ้อ:

tonkhaw

  • บุคคลทั่วไป
เกาะทรายงาย เกาะไทรงาม
มาผิดจริงๆด้วยพ่อคุณ
อ่านคอนนี้แล้วเศร้าป่นสุขยังไงไม่รู้
แต่อย่างน้อยก็คงได้เจอกันอีกอ่ะเน้อออ

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
ทุกคนมีความฝันของตัวเองกันทั้งนั้น
 :pig4:

ออฟไลน์ LalaBam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2864
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-2
แล้วจะได้พบกันอีกเมื่อไหร่ล่ะ :เฮ้อ:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ THiiCHA

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-4
ขอกรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดให้ลั่นเกาะ

เป็นบทสรุปที่ถูกใจที่สุดเท่าที่เคยพานพบ

ไม่หวานแต่ก็ไม่ห้วน ไม่หักมุมแล้วที่สำคัญคือ....ไม่แห้ว

ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ลุ้นตอนพิเศษ นะๆๆๆๆๆ  :impress: 

member

  • บุคคลทั่วไป
 :o8: :o8: :o8:

 :serius2: :serius2:

 o13 o13

ออฟไลน์ zakimi

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
ให้ตายเถอะนักเขียน  พึ่งเคยอ่านนิยายYที่อ่านแล้วรู้สึก โรแมนติกขนาดนี้อ่ะ  มีต่ออีกไหมเนีย

wdaisuw

  • บุคคลทั่วไป
อ่านตอนจบแล้วบอกไม่ถูกเลย
รู้สึกเหงาๆ

แต่ก็เชื่อว่า คนสองคนพบเจอกันด้วยพรหมลิขิต
และคงได้กลับมาเจอกันอีก

อยากให้มีตอนพิเศษหวานๆเหลือเกินค่ะ
ได้โปรดเถอะ  :L2:

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
หวังว่าคงจะมีต่ออีกสักตอนนะคะคุณคนแต่ง   :pig4:

ออฟไลน์ ooopimmyooo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 401
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
ง่า
จากกันแล้วหรอ

ออฟไลน์ tuek

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +214/-3
 :pig4: ขอบคุณคะ
จะมีตอนพิเศษมาให้อ่านไหมคะ

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
จบได่เศร้าปนสุข.  เฮ้อออออ. ชีวิต

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
::: End of chapter 13:::

สแดงว่าแค่จบตอนเดะ ใช่ป่าววว

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด