Bear in mind ...ผมไม่ร้ายนะครับ [YAOI] [ep.31] [25.08.2018 : 21.20]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Bear in mind ...ผมไม่ร้ายนะครับ [YAOI] [ep.31] [25.08.2018 : 21.20]  (อ่าน 18047 ครั้ง)

ออฟไลน์ มายซินนี่

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
 :m15:***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************

สารบัญ

       บทนำ   episode1  episode2  episode3  episode4  episode5  episode6  episode7  episode8  episode9  episode10
episode11
episode12
episode13
episode14
episode15
episode16
episode17
episode18
episode19
episode20
episode21
episode22
episode23
episode24











[บทนำ]


"แม่ดาครับ!! แม่ดา!!" เด็กชายผิวสองสี ผมตัดสั้นทรงนักเรียนวิ่งกระหืดกระหอบโกนโหวกเหวกมาจากด้านนอก

"มีอะไรโต้ง โวยวายเสียงดังเชียว" ดาริณสาววัยกลางคนเอ่ยเอ็ดเด็กชาย

"ที่หน้าบ้านมีเด็กมาอีกแล้วครับ" โต้งบอกพร้อมกับชี้ไปทางประตูรั้ว

"ไหน นำไปสิ้" ดาริณว่าแล้วเดินตามเด็กชายโต้งไปอย่างไม่ตกใจกับการที่จะมีเด็กๆมาถูกทิ้งที่หน้าประตูรั้ว ก็ที่นี่คือบ้านเด็กกำพร้าทอตะวัน ไม่แปลกหรอกที่มีเด็กๆถูกทิ้งไว้ที่นี่ไม่เว้นแต่ละวัน แต่วันนี้กลับแปลกออกไป...

"มีซองเอกสารนี่มาด้วยครับแม่ดา" เด็กชายโต้งยื่นซองเอกสารสีน้ำตาลให้กับดาริณ ดาริณหยิบมันมาแล้วเปิดดู แล้วเธอก็ต้องตกใจกับสิ่งที่อยู่ในซอง

'สูติบัตร'



ในเอกสารนั้นบอกข้อมูลทั้งหมดที่ควรจะมีอยู่ มีทั้งชื่อพ่อแม่ และชื่อโรงพยาบาล



...แปลก แปลกที่จะเอาลูกมาทิ้งพร้อมกับเอกสารสำคัญขนาดนี้...



ดาริณกำลังจะเก็บเอกสารเข้าซองก็พบว่าในซองนั้นมีกระดาษแผ่นเล็กๆที่มีข้อความไม่ยาวนักเธอจึงหยิบมันออกมาอ่าน



'ฉันรู้ว่าเธอต้องตามหาฉันจากข้อมูลในสูติบัตร อย่าตามหาให้เหนื่อยเปล่าเลย...ยังไงก็ไม่เจอฉันหรอก หวังว่าเอกสารฉบับนี้จะเป็นหลักฐานยืนยันตัวตนของเด็กคนนี้ได้ดี...ว่าเขาเป็นเด็กกำพร้า เพราะฉันจะไม่มีตัวตนอีกต่อไปแล้ว'



ดาริณรู้สึกว่าครั้งนี้มันแปลกกว่าครั้งก่อนๆมาก ทั้งเอกสาร ทั้งกระดาษโน๊ตแผ่นเล็กนี่ เธอพยายามไม่คิดอะไรต่อ อุ้มเด็กน้อยที่หลับสนิทมาไว้ในอ้อมกอดพลางพิจารณาหน้าตาผิวพรรณของเด็กน้อย

"น่ารักน่าชังเสียจริงเลยน้า" ดาริณเอ่ยขึ้นมาอย่างนึกเอ็นดูกว่าคนอื่นๆ หรือเป็นเพราะเธอรู้ดีว่าเด็กคนนี้มีอะไรไม่เหมือนคนอื่นกันแน่ ในระหว่างที่เธอคลี่ผ้าห่อตัวหนูน้อยออกให้พ้นก็ต้องสะดุดกับสร้อยเส้นเล็กๆที่มีจี้ห้อยติดพันอยู่กับข้อมือข้างขวาของเด็กน้อย ในทีแรกที่ไม่ทันสังเกตเห็นคงเป็นเพราะสายรัดข้อมือที่มาจากโรงพยาบาลบังเอาไว้...

"อยู่ที่นี่ด้วยกันนะครับหนูน้อย อยู่เป็นเพื่อนเล่นเจ้าสองคนนั้นเนอะ แม่จะเป็นมั้งพ่อและแม่ชั่วคราวให้หนูเอง" เธอกล่าวกับเด็กน้อยอย่างเอ็นดูและพาเดินเข้าไปด้านใน



ดาริณ...อาจารย์สอนภาษาในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง แต่เธอเลือกที่จะออกมาเปิดบ้านทอตะวันให้กับเด็กเร่ร่อนที่ไม่มีที่อยู่ เธอคิดว่าเธอทำอะไรได้มากกว่าการสอนเด็กมหาลัย เธอสามารถให้โอกาสกับเด็กพวกนี้ได้ เริ่มจากมีเด็กเพียงแค่สองสามคน มีเธอเป็นพี่เลี้ยงและสอนหนังสือเพียงคนเดียว ...หลายปีเข้าก็มีเด็กเพิ่มขึ้น มีพี่เลี้ยงเพิ่มขึ้น เด็กที่นี่เก่งภาษาเป็นอย่างมากเพราะเธอเป็นคนสอนเอง เธอส่งเสียให้เด็กพวกนี้ได้เรียนหนังสือจนสจบมีงานการที่ดีทำ จนมีกลุ่มเศรษฐีใจบุญเข้ามาบริจาคสิ่งของและให้ทุนการศึกษากับเด็กในบ้านทอตะวัน ...จากที่มีแค่สองสามคนก็กลายเป็นหลายสิบคน โต้งเองก็เป็นหนึ่งในสองสามคนนั้นที่ประสบความสำเร็จไปนานมากแล้ว ...ที่ผ่านตลอดเกือบยี่สิบปีเธอทำให้เด็กกำพร้าเหล่านั้นหลุดจากคำครหาและการถูกเหยียดหยามต่างๆนาๆจากสังคม เธอเป็นยิ่งกว่าผู้มีพระคุณของเด็กๆเหล่านั้น...เด็กทุกคนรักเธอ และเธอเองก็รักเด็กๆเหล่านั้นเช่นกัน...







สวัสดีเดือนสิ้นปีนะคะทุกคน

นี่เป็นนิยายเรื่องแรกที่แต่ง แล้วก็เป็นครั้งแรกด้วยกับการลงในเล้าฯ
ยังไงก็ฝากงานเขียนเรื่องนี้ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจของนักอ่านทุกคนด้วยนะคะ :impress2:
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-08-2018 21:20:38 โดย มายซินนี่ »

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
Re: Bear in mind ...ผมไม่ร้ายนะครับ [YAOI]
«ตอบ #1 เมื่อ18-12-2017 01:15:04 »

รอติดตามนะจ๊ะ

ออฟไลน์ มายซินนี่

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
Re: Bear in mind ...ผมไม่ร้ายนะครับ [YAOI]
«ตอบ #2 เมื่อ18-12-2017 01:16:00 »

[Episode 1]




"หวัดดีครับแม่ดา...น้ำกลับมาแล้ว" เสียงใสเอ่ยคำทักทายพร้อมกับยกมือไหว้คนที่ตัวเองเรียกว่า 'แม่' 

"ทำไมวันกลับช้าจังเลยล่ะน้ำ" คนถูกเรียกว่าแม่เอ่ยถามเมื่อคนที่เป็นเหมือนดั่งลูกชายกลับช้า เพราะปกติธาราเองจะกลับมาไม่เคยเกินหนึ่งทุ่มเลย แต่นี่มันสองทุ่มครึ่งเข้าไปแล้วก็เลยอดที่จะถามไม่ได้

"ก็วันนี้ที่ร้านพี่เล็กเขาลูกค้าเยอะนิ่ครับ อีกอย่างพี่พนักเขาขอลากลับก่อน น้ำก็เลยต้องทำแทน" คนตัวเล็กวางกระเป๋าสัมภาระเสร็จก็ย้ายตัวเองมานั่งลงกับพื้นตรงหน้าดาริณแล้วก้มหน้าซบลงบนตัก

"เหนื่อยมั้ย หื้ม" ดาริณวางหนังสือในมือลงไว้ข้างตัวแล้วยกมือขึ้นลูบหัวทุยเบาๆ

"ไม่เท่าไหร่หรอกครับ สบายมาก" เขาเงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มหวานให้กับดาริณ

"ยิ้มสวยจังน้าเรา" ดาริณส่งยิ้มกลับพร้อมกับเลื่อนมือลูบใบหน้าสวย

"สวยอีกแล้ว น้ำเป็นผู้ชายแม่ดาต้องชมน้ำว่าหล่อสิ่" คนถูกชมว่าสวยทำหน้ายู่น้อยๆอย่างน่ารัก ทำให้ดาริณหัวเราะออกมาเบาๆ

"ไปอาบน้ำได้แล้วไป เดี๋ยวต้องอ่านหนังสืออีกไม่ใช่หรอ หื้ม" ดาริณเอ่ยขึ้นมา

"ครับ ต้องอ่านอีกเยอะเลยครับ ...น้ำกลัวสอบเข้าคณะแพทย์ไม่ได้จังเลยครับ" คนตัวเล็กทำหน้าหงอยลงเมื่อคิดถึงเรื่องที่จะต้องสอบเข้าคณะแพทย์อีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ 

"งั้นก็ไปอ่านหนังสือได้แล้ว เดี๋ยวไม่เก่งเอาน้า" ดาริณบอกอีกครั้ง ทำให้ธาราลุกขึ้นส่งยิ้มหวานให่ก่อนจะเดินหายเข้าไปข้างใน  ...ดาริณรู้ดี ว่าธาราต้องทำได้อย่างแน่นอน ธาราเป็นเรียนเก่ง หัวไว จบมัธยมปลายด้วยเกรดที่สูงมาก สูงถึง 3.83 แต่ถึงเกรดมากก็ไม่ทำให้ธาราลดความกังวลลงเลยสักนิดเดียว

"สู้หน่อยนะน้ำ อีกนิดเดียวก็จะได้เป็นนักศึกษาแพทย์แล้ว" หลังจากเข้ามาอาบน้ำเสร็จคนตัวเล็กจึงเดินมาที่โต๊ะหนังสือของตัวเองและเอ่ยให้กำลังใจตัวเองก่อนจะนั่งลงอ่านหนังสือ

หนังสือของเขามีหลายวิชามากทั้งคณิตฯ เคมี ฟิสิกส์ ชีววิทยา จุลชีวะ กายวิภาคและสรีรวิทยา แถมยังมีหนังสือเกี่ยวกับภาษา มีทั้งอังกฤษ เยอรมัน และจีน ที่เขาอ่านได้ก็เป็นเพราะตอนเด็กๆแม่ดาจะเปิดหรือไม่ก็อ่านหนังสือการ์ตูนหลายๆภาษาให้เด็กๆฟัง ที่แม่ดาสามารถอ่านได้หลายภาษาก็เพราะแม่ดาเคยเป็นอาจารย์สอนภาษามา ก่อนจะผันตัวมาดูแลสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าทอตะวัน ...ใช่ ธาราอยู่บ้านเด็กกำพร้า ตั้งแต่เขาจำความได้เขาก็อยู่ที่นี่มาตลอด เขาถูกทิ้งให้อยู่ที่นี่พร้อมชื่อที่ถูกพ่อแม่ที่แท้จริงตั้งไว้ และสร้อยคอ มีจี้ตัว 'N' ข้างหลังสลักอักษร 'BK' ตัวเล็กๆไว้ เขาไม่รู้ความหมายของมัน แม่ดาเองก็ไม่รู้ และเขาก็โตแล้ว เริ่มที่ไม่อยากจะรู้ไม่อยากจะถามแล้วว่าพ่อแม่ที่แท้จริงของเขาคือใคร

...ธาราถูกชมมาตั้งแต่เด็กๆว่าผิวพรรณดีมากขาวเนียนละเอียด หน้าตาน่ารักน่าชัง ยิ่งพอโตมากขึ้นเรื่อยๆเขาก็ยิ่งถูกชมว่าสวยบ้างล่ะ ว่าน่ารักบ้างล่ะ ทั้งจากพี่ๆในบ้านและพี่เลี้ยงบ้านทอตะวัน บางคนก็บอกว่าผมคงมาจากตระกูลผู้ดีแม้แต่แม่ดาเองก็ยังบอกเขาแบบนั้น แต่ถ้ามาจากตระกูลผู้ดีจริงพ่อแม่เขาคงไม่เอาเขามาทิ้งไว้แบบนี้หรอก ธาราได้แต่คิดในใจแบบนี้ ...แรกๆเขาก็ค้าน พอมาเดี๋ยวนี้เขาเริ่มพิจารณาอย่างจริงจังแล้วเขาก็พบว่าตัวเองมีหน้าตาและผิวพรรณกระเดียดไปทางผู้หญิงซะมากกว่า เพราะฉะนั้นตอนนี้เขาก็น้อมรับคำชมเหล่านั้นไว้แต่โดยดี จนบางทีเขาก็คิดนะว่าพ่อแม่เขาต้องหล่อและสวยมากแน่ๆ

เขาสะบัดหัวไล่ความคิดต่างๆออกจากหัวและตั้งหน้าตั้งตาแลกเชอร์เนื้อหาสำคัญๆลงในสมุดเล่มหนา เขาอ่านหนังสือหนักทุกวันตั้งแต่ขึ้นมัธยมปลายมา เขาตั้งเป้าหมายไว้แล้วเขาก็ต้องทำให้ได้ด้วย

"ไปนอนได้แล้วนะน้ำ" เมื่อเห็นว่าดึกมากแล้วดาริณจึงเดินมาดูในห้องหนังสือที่ยังมีแสงไฟลอดออกมา เห็นธารานั่งอ่านหนังสืออย่างขมักเขม้น แต่กลัวว่าเจ้าตัวจะนอนไม่เต็มที่ เพราะตอนเช้าต้องออกไปทำงานอีก เขาจึงเอ่ยปากบอกธาราไป

"ครับ" ธารารับคำอย่างว่าง่าย เก็บหนังสือเข้ากระเป๋าของตนเอง บางเล่มที่ไม่ใช่ของเขาก็นำมันไปเก็บไว้ที่ชั้น หนังสือบางส่วนก็มาจากผู้บริจาคบางส่วนก็มาจากรุ่นพี่ที่ออกจากที่นี่ไปแล้วนำมาให้ เมื่อเห็นว่าธารารับคำเก็บของแล้วดาริณจึงเดินไปยังห้องพักของตนเอง

...สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าบ้านทอตะวันมีเด็กค่อนข้างเยอะแต่คนดูแล พี่เลี้ยงเด็กก็เยอะด้วยเช่นกัน ที่นี่ไม่เคยขาดการดูแล มีคนใจดีเข้ามาบริจาคไม่ขาดสาย เด็กที่นี่เลยถูกเลี้ยงดูอย่างดี มีความสุขเหมือนเด็กปกติทั่วไป

...ที่นี่จะมีห้องแยกออกไปอีกสำหรับรุ่นพี่ที่ขึ้นมัธยมปลายเพราะต้องการความเป็นส่วนตัวสำหรับอ่านหนังสือ ห้องนึงจะนอนได้สองถึงสี่คนและตัวธาราเองก็นอนรวมกับเพื่อนๆอีกสองคน เด็กที่มาที่นี่ทุกคนจะได้เรียน เพราะมีโรงเรียนคอยรองรับอยู่ จะได้เรียนฟรีตลอดจนจบมัธยมศึกษาตอนปลาย บางคนที่จบแล้วก็เลือกเรียนต่อมหาลัย ส่วนบางคนไม่เรียนก็เลือกที่จะผันตัวมาเป็นพี่เลี้ยงเด็กของที่นี่แทน

"ยังไม่นอนกันอีกหรอครับ" เมื่อธาราเดินเข้ามาในห้องเห็นเพื่อนร่วมห้องอีกสองคนยังไม่นอนก็เลยเอ่ยทักไป

"ยังอ่านไม่รู้เรื่องเลยจะนอนได้ไง" เพื่อนร่วมห้องที่ชื่อโจ้บอกพร้อมกับยืดตัวบิดขี้เกียจ

"สู้ๆนะครับโจ้ ...แล้วธามไปไหนครับเนี่ย" น้ำบอกให้กำลังใจโจ้แล้วส่งยิ้มน้อยๆไปให้ แล้วเอ่ยถามถึงเพื่อนร่วมห้องอีกคนที่น่าจะอยู่กลับไม่อยู่ เห็นแต่กองหนังสือวางเอาไว้ โจ้ยิ้มตอบพลางคิดไปด้วยว่าไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ยังพูดเพราะตลอดแถมยังยิ้มน่ารักอีกต่างหาก

"มันออกไปต้มมาม่ามากิน นู่นๆมาพอดี" โจ้ตอบยังไม่ทันขาดคำก็พยักเพยิดหน้าไปทางประตูห้องที่มีอีกคนเดินถือถ้วยมาม่าเข้ามา

"กลิ่นหอมมาเชียวครับธาม" คนตัวเล็กเอ่ยแซวเพื่อนร่วมห้องพร้อมกับหัวเราะออกมาเบาๆ

"แน่นนอน เออน้ำ เราขอยืมหนังสือฟิสิกส์หน่อยสิ่" ธามเอ่ยขอยืมหนังสือวิชาสำคัญกับน้ำ แต่มือก็ง่วนอยู่กับการคีบเส้นมาม่าเข้าปาก

"เอาเล่มไหนครับ" น้ำจึงเดินไปที่ชั้นหนังสือของตัวเองแล้วหยิบออกมาดูแล้วเอ่ยถามคนขอยืมไปเพราะตัวเองมีอยู่สามเล่ม

"เอามาทั้งหมดอ่ะ" ธามบอกเสร็จน้ำก็หยิบหนังสือมาให้ "ไปนอนได้แล้วน้ำ เดี๋ยวต้องตื่นแต่เช้าไปทำงานอีกไม่ใช่หรอ" โจ้ว่า

"งั้นเราไปนอนก่อนนะ สู้ๆกันนะครับ" เขายิ้มส่งท้ายให้กับเพื่อนร่วมห้องทั้งสองคนก่อนจะเดินขึ้นเตียงแล้วหลับไปในที่สุด...



.



.



"น้ำ!! เข่งนี้ของป้าใจ ลังโฟมนั่นของตาน้อยตลาดปลา" เวลานี้เวลาเกือบๆจะตีห้าครึ่ง เสียงของคนวัยกลางคนตะโกนสั่งเด็กที่เรียกว่า 'เด็กเข็นผัก' ให้นำของไปส่งตามแผงขายต่างๆตามรายการ ...ใช่ และเด็กเข็นผักนี่ก็เป็นงานหนึ่งของน้ำ

"ครับ" น้ำรับคำเสร็จก็หันไปยกของตามที่สั่ง เห็นตัวเล็กๆแบบนี้แต่ก็มีแรงใช่น้อย แรกๆมาหลายๆคนก็มองว่าเขาจะไหวหรอ เขาทำงานได้ขัดกับหน้าตาและร่างกายเป็นอย่างมาก พ่อค้าแม่ขายในตลาดต่างทึ่งไปตามๆกัน ดูคล่องแคล่วทะมัดทะแมง ส่งไวตามเวลาไม่เคยเลท พูดจาเพราะ เคารพผู้หลักผู้ใหญ่และอ่อนน้อมถ่อมตนเป็นที่สุด ทำให้น้ำกลายเป็นขวัญใจเด็กเข็นผักของพ่อค้าแม่ขายในตลาดไปแล้วก็ว่าได้ "ไหวมั้ยเนี่ย" ชายวัยกลางคนเอ่ยถามอย่างเป็นห่วงเกรงว่าคนตัวเล็กหุ่นแบบบางนี่จะยกไม่ไหวและทำข้าวของเสียหายเอาได้

"ไหวครับน้า" แต่เปล่าเลย คนตัวเล็กกลับยกลังได้สบายๆ

"โอเค งั้นน้าฝากด้วยละกัน" เขาพยักหน้ารับคำเสร็จเขาก็เข็นไปยังร้านป้าใจทันที

"ลงตรงไหนดีครับป้าใจ" เมื่อมาถึงคนตัวเล็กก็เอ่ยถามเจ้าของแผงผักทันที

"นี่ๆ ยกเข้ามานี่เลย" ป้าใจกวักมือเรียกให้ยกของเข้าไปข้างใน คนตัวเล็กไม่รอช้ารีบยกเข้าไปให้อย่างทะมัดทะแมง

"ขอบใจมากนะหนูน้ำ" เขารับเงินค่าแรงจากป้าใจมาก็เข็นไปยังอีกที่นึง ถึงแม้ป้าใจจะเรียกเขาอย่สงแปลกๆแต่เขาก็ชินไปเสียแล้ว

"มาแล้วครับลุงน้อย" เมื่อมาถึงอีกที่หมายก็เอ่ยบอกลุงเจ้าของแผงปลา

"ยกมาวางข้างบนเลย" ลุงน้อยบอกพร้อมกับชี้จุดที่จะให้วาง น้ำก็ไม่รีรอที่จะยกให้ตามคำบอก เสร็จปุ๊ปก็รับเงินค่าแรงแล้วเดินกลับทางเดิมเพื่อนำรถเข็ญไปเก็บเพราะนี่เป็นจ๊อบสุดท้ายของวันนี้ นี่ถือว่าเสร็จไวกว่าวันอื่นๆเพราะวันอื่นบางทีก็หกโมงกว่าบ้างเกือบเจ็ดโมงบ้าง แต่วันนี้แค่หกโมงเอง เสร็จแล้วเขาก็เดินออกมาทางหน้าตลาดเพื่อซื้อของกินสำหรับมื้อเช้า แต่พอเดินออกมาตรงหัวมุมเขาก็เจอกับผู้ชายร่างสูงคนนึงยืนเกาหัวพร้อมกับสบถอะไรสักอย่าง ก้มมองกระดาษแผ่นเล็กที่ถืออยู่ในมือแล้วก็มองเข้าไปยังตลาดสลับไปมา น้ำเห็นท่าทางเหมือนผู้ชายร่างสูงหน้าตาดีคนนั้นเหมือนจะมีปัญหาอะไรสักอย่างที่แก้ไม่ตกอยู่ จึงเดินเข้าไปเพื่อจะถาม แต่ดันได้ยินร่างสูงสบถขึ้นมาก่อน 

"เชี่ยเอ๊ย และกูจะซื้อยังไงวะ เคยเดินที่แบบนี้ซะที่ไหน ม้านะม้า" สบถเสร็จก็ทึ้งหัวตัวเองอย่างหัวเสีย หลังจากน้ำได้ยินคำที่ร่างสูงสบถออกมาก็แน่ใจทันทีว่าผู้ชายคนนี้กำลังมีปัญหา

"เอ่อ มีอะไรให้ช่วยมั้ยครับ" น้ำถามออกไปอย่างไม่แน่ใจ พอร่างสูงได้ยินก็เงยหน้าขึ้นมามอง

...น่ารักจังวะ...



"คุณครับ..." เมื่อน้ำเห็นว่าอีกฝ่ายเอาแต่จ้องเขานิ่งเขาจึงออกเสียงเรียกอีกครั้ง

"ครับๆ" ร่างสูงรับคำสุภาพอย่างลืมตัว

"มีอะไรให้ช่วยมั้ยครับ" น้ำถามย้ำอีกครั้ง

"เอ่อ...พอดีแม่ฉันให้มาซื้อของที่นี่ แต่ฉันไม่เคยมาเลย ก็เลย..." ร่างสูงพูดไปพร้อมชูกระดาษที่จดรายการซื้อของให้ดู แต่พูดไม่ทันจบก็เหมือนกับเขาจะเขินกับการที่คนตัวเล็กตรงหน้าเขาเอาแต่จ้องหน้าเวลาเขาพูด จึงยกมือขึ้นเกาท้ายทอยแก้เก้ออย่างทำอะไรไม่ถูก น้ำเห็นเช่นนั้นว่าร่างสูงตรงหน้าคล้ายกับว่าจะเขินกับการที่เขาจะบอกว่าเขาเดินตลาดไม่เป็นเพราะดูจากผิวพรรณ รูปร่างหน้าตาที่ดูหล่อและมีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถู และการแต่งตัวที่ดูดีจนเหมือนกับนายแบบก็พอจะรู้ว่าคงเป็นลูกคนรวยแน่ๆแล้วก็ไม่แปลกเลยที่จะเดินตลาดไม่เป็นแบบนี้ คนตัวเล็กจึงยิ้มออกมาพร้อมกับเอ่ยบอกอีกฝ่ายอย่างมีน้ำใจ 

"ให้ผมช่วยพาไปมั้ยครับ"

...อ่า ให้ตายสิ่ยิ่งยิ้มก็ยิ่งน่ารัก และกูจะเขินเขาทำห่าไรวะเนี่ย...



ร่างสูงคิดในใจแล้วเอามือขยี้หัวตัวเองแรงๆ

"งั้นรบกวนพาไปหน่อยแล้วกัน อ่ะ ตามรายการนี้เลย" คนตัวเล็กหยิบกระดาษรายการอาหารขึ้นมาดู ซึ่งมันเยอะมาก 

"งั้นไปกันเลยมั้ยครับ" ร่างสูงพยักหน้ารับแล้วก้าวเดินตามคนตัวเล็กไป ระหว่างเดินไปเขาก็เกิดหิวขึ้นมาเพราะเขายังไม่ได้กินอะไรเลยและนี่ก็เป็นเวลากินข้าวเช้าประจำของเขาด้วย

"คุณครับ ผมขอแวะซื้อน้ำเต้าหู้แปปนึงได้มั้ยครับ พอดีผม...ยังไม่ได้ทานอะไรเลย" ร่างสูงพยักหน้ารับ

"อืม ได้สิ" 

"คุณจะเอาด้วยมั้ยครับ" น้ำที่กำลังจะสั่งให้ตัวเองก็ไม่ลืมหันไปถามคนข้างหลัง

"เอา สั่งมาให้ผมด้วย" ร่างสูงบอกอย่างนึกอยาก เมื่อก่อนเขาก็กินบ่อยเพราะต้องตื่นไปเรียนเช้า พอมาตอนนี้ไม่ได้กินเลยเห็นก็เลยนึกอยาก

อ่า ให้เขาสั่งให้หรอและคนอย่างเขาจะกินแบบไหนกันนะ หวานน้อย หวานมาก แต่ดูแล้ว...แบบนี้แล้วกัน

"ของผมเอาธรรมดาหวานน้อยหนึ่ง แล้วก็...งาดำหวานน้อยไม่เครื่องหนึ่ง ซาลาเปาทอดสิบบาทครับ" คนตัวเล็กสั่งไปไม่เบานักพอที่ร่างสูงจะได้ยินแล้วก็แอบตกใจเล็กน้อย เมื่อกี้เขาลืมบอกไปว่าเขาจะเอาอะไร แต่หันมาอีกทีคนตัวเล็กก็สั่งไปซะแล้ว

...สั่งไปเหมือนรู้เลยแหะ ว่าเราชอบกินงาดำหวานน้อยไม่ใส่เครื่อง...



"ได้แล้วครับ" คนตัวเล็กบอกพร้อมกับยื่นถุงน้ำเต้าหู้งาดำมาตรงหน้าร่างสูงพร้อมกับหลอด ร่างสูงรับไปเจาะดูดแล้วเอ่ยถามคนตัวเล็กขณะที่กำลังออกเดินไปยังร้านแรกที่ต้องซื้อของตามรายการ

"ทำไมถึงสั่งแบบนี้ให้ผม" 

"เอ่อ คุณไม่ชอบหรือครับ" พอโดนถามแบบนั้นรนตัวเล็กก็อดที่จะหน้าเสียไม่ได้ ก็เขาเล่นสั่งไปแบบไม่ไถ่ไม่ถามคนกินเลยสักคำ

"เปล่า" ร่างสูงส่ายหัวแล้วดูดน้ำเต้าหู้ในถุงต่อ

"ก็ดูจากหุ่นคุณแล้วน่าจะเป็นคนรักสุขภาพ ก็เลยสั่งงาดำให้น่ะครับ แล้วอีกอย่างมันหอมดีด้วย ขอโทษด้วยนะครับที่ไม่ได้ถามคุณก่อน" คนตัวเล็กบอกขอโทษไปพร้อมกับส่งยิ้มแห้งๆไปให้อย่างรู้สึกผิด

"ไม่เป็นไร ผมชอบกินงาดำพอดี"  "อ๋อครับ" บทสนทนาระหว่างคนทั้งคู่ก็จบลง เป็นเวลาเดียวกับที่เดินมาถึงแผงขายผักพอดี

"ถึงแล้วครับ คุณซื้อผักตามที่แม่คุณสั่งได้เลย" เขาเอ่ยเบาๆแล้วยื่นกระดาษใบเล็กไปให้คนร่างสูง

"จัดการให้หน่อยได้มั้ย ผมเลือกไม่เป็น" แล้วคนร่างสูงก็ตอบกลับมา

"อ่า...ได้ครับ" คนตัวเล็กรับคำก็จัดการเลือกผักอย่างคล่องแคล่ว เขาเดินซื้อมาเรื่อยๆ ทั้งผัก ผลไม้ เครื่องปรุง เนื้อสัตว์ และของทะเล พอเสร็จแล้วก็พากันหิ้วของกลับมาที่รถ

"คุณเดินตลาดเก่งจัง" ขณะที่ร่างสูงกำลังเก็บของเข้าท้ายรถก็เอ่ยขึ้นมาเบาๆ

"อ๋อ ผมเข็นผักในตลาดน่ะครับ ก็เลยเดินคล่อง" คนตัวเล็กตอบและส่งยิ้มให้

...โม้ไปหน่อยแล้ว งานเข็นผักในตลาดหนักจะตายขนาดเพื่อนเขาตัวใหญ่กว่านี้ยังแทบตาย...



คนร่างสูงพยักหน้าตอบออกไป เปิดกระเป๋าตังหยิบแบงค์พันออกมายื่นไปตรงหน้าคนตัวเล็ก คนตัวเล็กทำหน้างงเล็กน้อยก่อนจะถาม

"ยื่นมาทำไมครับ" 

"ค่าเหนื่อยที่พาเดินกับค่าน้ำเต้าหู้" คนตัวเล็กเบิกตากว้างรีบปฏิเสธโบกไม้โบกมือเป็นพัลวัน

"ไม่เป็นไรครับไม่เป็นไร เรื่องเล็กน้อยเอง" 

"คุณเหนื่อยมันก็ต้องได้ค่าเหนื่อยสิ่ รับไว้เถอะ" คนตัวสูงเอ่ยอย่างรู้ทันคน กี่รายๆก็บอกแบบนี้สุดท้ายก็รับไป คนตัวเล็กได้ฟังก็ขมวดคิ้วมุ่นอย่างไม่ชอบใจ แต่ก็ไม่ได้ติดใจอะไรมาก

"ถ้าคุณจ้างผมก็จะรับไว้อย่างไม่อิดออด แต่เมื่อกี้มันคือน้ำใจของผม...ซึ่งคุณพึ่งดูถูกน้ำใจของผมไปด้วยแบงค์พันใบนี้" พูดจบเขาก็ส่งยิ้มหวานจ๋อยไปให้คนตรงหน้าอย่างจริงใจ

...รู้สึกเหมือนตบหน้าชะมัดเลย...



"ผม...ขอโทษ" เขารู้ว่าเขาผิดในเมื่อผิดเขาต้องขอโทษ

"ไม่เป็นไรครับ" คนตัวเล็กยิ้มรับ

"ยังไงผมก็ขอบคุณคุณมาก ถ้าไม่ได้คุณผมคงแย่"

"ยินดีครับ" คนตัวเล็กส่งยิ้มให้อีกครั้ง ร่างสูงก็ยิ้มตอบกลับมาให้อีกฝ่ายเช่นกัน ก่อนจะขึ้นรถแล้วขับออกไป

...อ่า แค่เขายิ้มใจก็เต้นซะแรงเลยนะเรา...







...100%...

...To Be Continued...

ออฟไลน์ มายซินนี่

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
Re: Bear in mind ...ผมไม่ร้ายนะครับ [YAOI] [ep.2]
«ตอบ #3 เมื่อ18-12-2017 01:20:20 »

[Episode 2]



"นี่ค่าแรงนะน้ำ วันนี้น้ำทำเลยเวลามาป้าให้สี่ร้อย" ป้าจุกเจ้าของร้านขายข้าวแกงยื่นเงินค่าแรงของวันนี้ให้กับน้ำ

"ขอบคุณมากครับป้าจุก" น้ำรับเงินนั้นมาด้วยรอยยิ้ม

...พนักงานเสิร์ฟร้านข้าวแกง เป็นอีกงานนึงของน้ำ ร้านนี้อยู่ใกล้ๆกับบริษัทหลายๆบริษัท และยังอยู่ใกล้กับโรงเรียนเขาอีกด้วย ทำให้ร้านนี้ขายดีคนแน่นตลอด หลังจากน้ำเข็นผักที่ตลาดเสร็จในตอนเช้า ช่วงสายของวันเขาก็จะเข้ามาทำงานที่ร้านนี้ ทำตั้งแต่เก้าโมงเช้ายันบ่ายสามโมง ถ้าช่วงที่โรงเรียนเปิดเขาทำเฉพาะวันเสาร์อาทิตย์ แต่ตอนนี้ปิดเทอมแล้วเขาเลยทำได้ทุกวัน ป้าเจ้าของก็ใจดี วันไหนที่เขาต้องอยู่ทำจนเกินเวลาป้าจุกก็จะเพิ่มค่าแรงให้ตามเวลาที่เกินมา

"น้ำจะกลับเลยรึเปล่าลูก" ป้าจุกเอ่ยถาม

"ครับ ป้าจุกมีอะไรให้น้ำช่วยรึเปล่าครับ" ก็เพราะน้ำเป็นแบบนี้ ใครหลายๆคนถึงได้เอ็นดูซะเหลือเกิน

"ไม่มีหรอก ป้าแค่ถามดู" ป้าจุกบอกด้วยรอยยิ้มเต็มหน้า พลางคิดในใจว่า ถ้ามีลูกแบบน้ำสักคนคงดีไม่น้อย...

"งั้นน้ำลากลับก่อนนะครับ สวัสดีครับป้าจุก พี่ๆสวัสดีครับ" เขาไหว้ลาป้าจุกแล้วก็ไม่ลืมที่จะหันไปไหว้ลาพี่ๆพนักงานทุกคน ทุกคนก็ยิ้มส่งให้กับน้ำ ถึงแม้น้ำจะเป็นลูกรักของป้าจุกขนาดไหนก็ไม่มีใครเคยอิจฉา มีแต่คนบอกว่าสมแล้วที่ได้รับความเอ็นดูขนาดนี้ และทุกคนที่เห็นน้ำก็ต่างบอกเหมือนๆกันว่า ดูไม่เหมือนคนกำพร้าพ่อกำพร้าแม่เลย...

.


.


"หวัดดีครับพี่นุ่น แม่ดาไปไหนหรอครับ" กลับมาถึงสถานที่ที่เขาเรียกว่าบ้าน ก็เจอกับพี่นุ่นพี่เลี้ยงเด็ก แต่ไม่เจอแม่ดาก็เลยถามพี่นุ่นไป

"แม่ดาออกไปทำธุระที่ธนาคารจ้ะ พอดีมีเรื่องด่วนก็เลยต้องไป เดี๋ยวก็คงกลับ" นุ่นตอบด้วยรอยยิ้ม

"ขอบคุณมากครับ งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ" ยกมือไหว้ลานุ่นก็เดินมายังห้องพักของตัวเองกะว่าจะนอนสักงีบ ก่อนออกไปทำงานต่อที่ร้านชายสี่หน้าปากซอย

"อ้าวน้ำกลับมาแล้วหรอ" พอเปิดประตูห้องเข้ามาคนตัวเล็กก็เจอกับเพื่อร่วมห้องทั้งสองคน แต่โจ้เป็นเอ่ยทักเขาขึ้นมาก่อน

"ครับ" เขายิ้มตอบกลับไปให้ "ทำงานหลายอย่างขนาดนี้ไม่เหนื่อยบ้างหรอน้ำ" เป็นธามที่เอ่ยถาม

"ไม่ล่ะครับ" เขาตอบกลับไปพร้อมรอยยิ้มเช่นเดิม ก่อนจะเข้าไปยังฝั่งเตียงนอนของตนแล้ววางสัมภาระเก็บเข้าที่

"วันนี้ได้มาเท่าไหร่" โจ้ถาม

"สี่ร้อยครับ" 

"เก็บอีกแล้วล่ะสิ่ ไม่เอาไว้ไปเที่ยวบ้างหรอ" ธามจากที่นอนๆอยู่ก็ผุดลุกขึ้นมานั่งจ้องหน้าถามเพื่อนตัวเล็กอย่างสงสัย เพราะเขาเห็นแบบนี้มาตั้งแต่น้ำขึ้นมอหนึ่งแล้ว น้ำจะมีกระปุกออมสินสองใบและสมุดหนึ่งเล่ม ทุกครั้งที่กลับมาจากโรงเรียนน้ำจะยอดกระปุกสีเขียวที่เป็นรูปกบ ส่วนเงินที่ได้มาจากการทำงานพิเศษ เขาจะเอาไปหยอดใส่กระปุกสีแดงพอเต็มก็เอาไปฝาก และทุกๆครั้งที่เงินเข้าหรือออกจากกระปุกไปเจ้าตัวจะจดลงสมุดเล่มเล็กนั่นทันที

"ก็อยากเที่ยวครับธามเลยนั่งเก็บตังไว้เที่ยวตอนอยู่มหาลัยไง" น้ำตอบออกไปยิ้มๆ

...ทำไมเขาจะไม่เคยเที่ยว เขาน่ะก็เที่ยวก็กินอย่างวัยรุ่นทั่วไปแต่ไม่ได้บ่อยอย่างมากก็เดือนหรือสองเดือนครั้ง ห้างเขาก็เคยไปเดินเล่น หนังเขาก็เคยไปดูสวนสนุกเขาก็เคยนั่งรถไปเที่ยวกันกับกลุ่มเพื่อนม.ปลาย คงมีอย่างสองอย่างที่เขายังไม่เคยทำแบบคนอื่นๆและคิดว่าคงไม่ทำแน่นอนถ้ายังไม่ถึงเวลา นั่นคือเรื่องแอลกอฮอร์และผู้หญิง แอลกอฮอร์นี่เพราะว่าไม่แตะเองมากกว่า สถานบันเทิงตัดไปได้เลยเพราะคนตัวเล็กอายุไม่ถึง ...ส่วนเรื่องผู้หญิงที่ไม่มีเข้าหาเขาเลยคงเป็นเพราะเขาดูน่ารักมากกว่าหล่อล่ะมั้งผู้หญิงเลยไม่ชอบ แล้วอีกอย่าง...เขาก็คิดว่าตัวเองคงไม่ได้ชอบผู้หญิง...มั้ง

"เราสงสัย ทำไมน้ำถึงมีกระปุกออมสินสองกระปุก" โจ้ถามออกมาแล้วเดินมาดูที่โต๊ะตัวเล็กเล็กที่มีสองกระปุกตั้งอยู่

"นั่นดิ่ เราก็สงสัย เห็นมาตั้งแต่ตอนมอหนึ่งแล้ว" ธามสมทบ

"สีเขียวนี่เงินที่เอาไว้ใช้เวลาฉุกเฉินน่ะครับ สีแดงผมเก็บไว้ใช้ตอนอยู่มหาลัยน่ะครับ เพราะค่าใช้จ่ายมันค่อนข้างสูง" คนตัวเล็กอธิบาย

"นี่คือเหตุผลที่ต้องทำงานตั้งแต่มอหนึ่งใช่ปะน้ำ" โจ้ถามออกมาอย่างตกใจ

"ใช่แล้วครับ" น้ำขำหน่อยๆกับท่าทางเพื่อนทั้งสองคน

"เรานี่ดูแย่ไปเลยอ่ะ จ้องแต่จะเอาทุนๆ" ธามถอนหายใจดังเฮือกพร้อมกับทิ้งร่างลงบนที่นอน

"เราก็อยากใช้ทุนนะ แต่เรากลัวเกรดต่ำกว่าเกณฑ์แล้วทุนจะเป็นโมฆะเอา" น้ำว่าไปอย่างนั้น ทำให้เพื่อนร่วมห้องทั้งสองคนถอนหายใจออกมาพร้อมกัน

"ถ้าน้ำเรียนแล้วได้เกรดต่ำกว่าเกณฑ์พวกเราก็คงไม่ผ่านเกณฑ์ตั้งแต่ต้นแล้วล่ะน้ำ" โจ้ว่าอย่างเอื่อยๆ พลางคิดไปว่า...นี่น้ำไม่รุ้จริงๆว่าตัวเองเก่งมากแค่ไหนหรือเพราะน้ำรู้แต่น้ำถ่อมตัวกันแน่วะ

"ไม่จริงหรอก โจ้กับธามเก่งกว่าน้ำอีก" น้ำพูดอย่างถ่อมตัว

"เอาเถอะๆ แล้วเย็นนี้ไปทำงานที่ร้านก๋วยเตี๋ยวหน้าปากซอยอีกป้าว" โจ้บอกปัดไป แล้วเปลี่ยนเรื่องทันที เพราะชมเจ้าตัวไปก็เท่านั้น

"ครับ แต่ว่าจะงีบสักหน่อย โจ้กับธามจะไปไหนรึเปล่าครับ" น้ำถามเพื่อนทั้งสองคนที่ปกติแล้ว สองคนนี้ไม่ค่อยอยู่ติดห้องกันสักเท่าไหร่

"ว่าจะอ่านหนังสืออยู่ห้องนี่แหละ" ธามตอบขึ้นมา "งั้นตอนห้าโมงครึ่งช่วยปลุกเราทีนะครับ" น้ำบอกออกไปอย่างเช่นทุกวันที่กลับมางีบและสองคนนี้อยู่ห้องพอดี

"ได้เลย น้ำนอนเถอะ" โจ้บอกพร้อมกับส่งยิ้มให้ พอได้ยินเพื่อนร่วมห้องรับคำเสร็จเจ้าตัวก็ล้มตัวลงนอน ....ต้องนอนเอาแรงสักหน่อย เพราะต้องทำงานและกลับมาอ่านหนังสืออีก สู้หน่อยนะน้ำอีกนิดเดียว...

"น้ำ พักก่อนก็ได้ เราเห็นน้ำท่องไอ้นี่มาทั้งวันแล้วนะ" โจ้ว่าขึ้นมาพลางชี้ไปที่สมุดแล็กเชอร์เล่มหนา

"ครับ" น้ำเงยหน้าขึ้นมามองก็เห็นสายตาเป็นห่วงจากเพื่อนทั้งสองส่งยิ้มน้อยๆไปให้แล้วฟุบลงเอาหน้าแนบกันสมุดแล็กเชอร์อย่างเหนื่อยอ่อน ยิ่งใกล้วันสอบก็ยิ่งต้องอ่านให้มากๆ ที่เขาอ่านได้ทั้งวันแบบนี้เพราะเขาขอลาหยุดจากงานที่เขาทำอยู่ทั้งหมดด้วยเหตุผลที่ว่าขอเวลาเตรียมตัวเพื่อไปสอบหมอ นายจ้างแสนใจดีเหล่านั้นไม่ได้ว่าอะไรกับการที่เขาขอหยุดทั้งอาทิตย์ แถมยังอวยพรขอให้เขาได้เรียนเป็นหมอสมใจ

.


.


"แม่ดา อวยพรให้น้ำหน่อยสิ่ครับ" แล้วในที่สุดวันที่เขาต้องไปสอบก็มาถึง วันนี้เขาตื่นแต่เช้าเตรียมอุปกรณ์ทุกอย่างเพื่อที่จะไปสอบยังมหาลัยที่เขาจะเข้าเรียน เขาต้องไปก่อนเวลาเพื่อหาตึกคคะ ตรวจสอบรายชื่อและห้องที่จะสอบ แต่ก่อนออกไปเขาก็ไม่ลืมที่จะเข้ามาขอพรผู้ใหญ่ที่พอจะเป็นกำลังใจให้แก่เขาได้บ้าง

"เอาพรอะไรล่ะ หื้ม ...น้ำเก่งอยู่แล้วน้ำทำได้แน่นอนเชื่อในฝีมือของตัวเองหน่อยสิ่เรา" ดาริณเมื่อเห็นเด็กขี้กังวลทำหน้าหงอยก็ยื่นมือออกไปลูบหัวทุยเบาๆ อย่างให้กำลังใจพร้อมกับส่งยิ้มเอ็นดูไปให้

"ครับ น้ำจะเชื่อมั่นในตัวเอง งั้นน้ำไปก่อนนะครับ" เขายกมือไหว้แล้วเดินออกไป สวนกับเพื่อนร่วมห้องทั้งสองคนตรงสนามด้านหน้า

"สู้ๆนะน้ำ" โจ้บอกออกมา

"ทำได้อยู่แล้ว ไว้เจอกันตอนเปิดเทอมแล้วกัน" ธามบอกพร้อมกับส่งยิ้มจางๆมาให้ โจ้กับธามไปสอบมาก่อนน้ำแล้วเมื่อสามวันก่อนและเขาทั้งสองคนก็รู้ผลแล้ว คือพวกเขาได้ทุนคณะวิศวะกรรมมอเดียวกันกับน้ำ 

"ครับ หวังว่าคงจะได้เจอกัน" น้ำส่งยิ้มกลับไปให้ก่อนจะเดินออกไปขึ้นรถเมล์หน้าปากซอย ในกรุงเทพถึงแม้จะรถติดคนเยอะ แต่เวลาเช้ามากแบบนี้คนไม่ค่อยมี รถก็ไม่ติด แต่ถ้าออกมาสายกว่านี้ รับรองเขาคงไปถึงที่หมายสายแน่นอน

.

.

มหาลัยกว้างเกินกว่าที่น้ำจะหาตึกคณะเจอ เดินเข้ามาก็ผ่านตึกคณะหลายคณะแล้วแต่ยังไม่เห็นว่าจะเดินเจอตึกคณะแพทย์เลย ชัตเติ้ลบัตหลายคันเริ่มวิ่งผ่าน แต่เขาขึ้นไม่เป็นเนี่ยสิ่ ตอนนี้เขาหยุดยืนอยู่หน้าคณะดังคณะนึงนั่นก็คือคณะวิศวะกรรม ภายในลานกว้างมีเด็กใส่ชุดมัธยมปลายเต็มไปหมดแทบทั้งหมดนั่นเป็นผู้ชาย บ้างมากับเพื่อนบ้างมากับครอบครัวบ้าง แต่เขามาคนเดียว

"จะเข้าวิศวะหรอ" เขายืนอยู่สักพักก็มีเสียงทุ้มเอ่ยถาม เขาหันกลับมามองเจ้าของเสียงแล้วห็ต้องตกใจ เพราะคนที่มาถามเขาคือผู้ชายร่างสูงที่เขาช่วยพาไปซื้อของในตลาดวันนั้น เขาอยู่ในชุดเสื้อช็อปสีแดงเลือดหมูกับกางเกงยีนส์ขาดเข้าพับขาเล็กน้อย รองเท้าคอนเวิร์สสีขาว

...อ่า...เขาเรียนวิศวะที่นี่งั้นหรอ...

ร่างสูงนามว่าผา เห็นคนคุ้นน่ายืนอยู่ที่หน้าคณะมาสักพักนึงแล้ว แต่คราวนี้แปลกตาไปเมื่อคนตัวเล็กที่เขาจำได้ดีอยู่ในชุดนักเรียนกางเกงขาสั้นสีดำเลยเข่ามาหน่อย ยืนอยู่แบบนั้นแต่ไม่ยอมเดินเข้ามาด้านใน

...ยังน่ารักเหมือนเดิม มากกว่าเดิมด้วยซ้ำ...

"เอ่อ คุณ" เขาเอ่ยได้เพียงเท่านี้จริงๆ การแต่งตัววันนี้กับเมื่อวันนั้น แต่งต่างกันโข แต่ก็ไม่ได้ลดความดูดีลงเลย

"ว่าไง" อีกฝ่ายถามย้ำ "เปล่าครับ คือผมจะไปคณะแพทย์ แต่ไม่รู้ว่า...ต้องไปทางไหน" ท้ายประโยคคนตัวเล็กเอ่ยออกมาเสียงอ่อย พร้อมกับส่งยิ้มแหยๆไปให้คนถาม กิริยานั้นมันช่างดูน่ามองสำหรับร่างสูงเหลือเกิน

...น่ารัก น่ารักอีกแล้ว...

"มาสอบใช่มั้ย" ร่างสูงสบัดไล่ความคิดออกแล้วเอ่ยถาม

"ครับ" คนตัวเล็กตอบ

"งั้นเดี๋ยวผมไปส่ง" ร่างสูงบอกจบก็หมุนตัวจะเดินออกไปแต่คนตัวเล็กคว้าเข้าที่แขนเขาไว้ก่อน เขาหันกลับไปมาหลุบตามองไปยังแขนตัวเองที่มีมือคนตัวเล็กจับอยู่

คนตัวเล็กเห็นคนตรงหน้ามองมาก็นึกว่าร่างสูงไม่พอใจจึงรีบปล่อยมือออกแล้วเอ่ยขอโทษ

"ขอโทษครับ" 

"ไม่เป็นไร"  "คุณบอกทางผมมาก็ได้ครับ เดี๋ยวผมไปเอง" คนตัวเล็กว่าต่ออยางเกรงใจ

"รออยู่นี่เดี๋ยวไปส่ง" คราวนี้พูดจบแล้วก็ไม่รอคำทักท้วงใดๆจากคนตัวเล็กอีกเลย  น้ำยืนรอร่างสูงอยู่ไม่ถึงห้านาที ซุปเปอร์คาร์คันสวยก็มาจอดเทียบฟุตบาทที่เขายืนอยู่ กระจกลดลงมากึ่งนึงทำให้เห็นว่าภายในมีคนขับคือคนร่างสูงเมื่อกี้

"ขึ้นมาสิ่ อีกชั่วโมงนึงก็จะถึงเวลาสอบแล้ว" พอได้ยินว่าเหลือเวลาเท่าไหร่คนตัวเล็กก็รีบเปิดประตูเข้าไปนั่งทันที

"คุณมาคนเดียวหรอ" คนร่างสูงเอ่ยถามระหว่างที่ขับรถไปยังคณะแพทย์

"ครับ" น้ำพยักหน้ารับ ร่างสูงไม่ได้พูดอะไรต่อทั้งรถก็เลยเงียบจนแทบจะได้ยินเสียงลมหายใจของตัวเอง...แต่ในความเงียบกลับไม่มีความอึดอัดของคนทั้งสองเลย

"ถึงแล้ว รีบไปสิ่" พอจอดรถร่างสูงก็ยกมือขึ้นดูเวลาแล้วเอ่ยเตื่นร่างเล็กออกไป

"ครับ ขอบคุณมากนะครับ" น้ำบอกร่างสูงรัวเร็วพร้อมกับยกมือขึ้นไหว้อีกคนก่อนขะเปิดประตูลงแล้ววิ่งหายเข้าไปในตึกขนาดใหญ่ของคณะแพทย์

...ขอให้ได้สอบติดก็แล้วกัน...






...100%...

...To Be Continued...

ออฟไลน์ มายซินนี่

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
Re: Bear in mind ...ผมไม่ร้ายนะครับ [YAOI] [ep.3]
«ตอบ #4 เมื่อ18-12-2017 01:32:45 »

[Episode 3]




ครืดด ครืดด ครืดด

เสียงสั่นครืดคราดของสมาร์ทโฟนที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงร่างสูง เขาหยิบมันขึ้นมาดูชื่อที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอ

‘พุ่ม’

หน้าจอปรากฏชื่อเพื่อนสนิทในกลุ่มของเขา และเขารู้ดีว่าถ้าหากไม่กดรับสายของเพื่อนคนนี้ มันคงกระหน่ำโทรมาจนสายแทบไหม้

“ว่า” เมื่อกดรับแล้วก็กรอกเสียงไม่สบอารมณ์ส่งไปยังปลายสายทันที

“แหม รับสายกูนี่เสียงห้วนเชียวนะมึง” ปลายสายแซวออกมาอย่างไม่สนใจ

“มีไรล่ะ” ร่างสูงถาม

“กูก็จะถามมึงน่ะสิว่ามึงอยู่ไหน”

“คณะแพทย์” ร่างสูงตอบออกไปพร้อมกับถอนหายใจเฮือก

“ห้ะ!! มึงไปทำห่าไรวะผา’ ปลายสายถามออกมาอย่างตกใจ อย่าว่าแต่ปลายสายเลยที่ตกใจเขาเองก็ยังแปลกใจอยู่เหมือนกัน ไม่รู้อะไรดลใจให้เขาเปลี่ยนเสื้อช็อปเป็นเสื้อนักศึกษาเดินตามคนตัวเล็กเข้ามายังใต้ตึกคณะแพทย์ จนตอนนี้เขามายืนอยู่หน้าห้องสอบแล้วด้วยซ้ำ

“อย่าบอกนะ เด็กม.ปลายที่มึงพาขึ้นรถมาสอบแพทย์”  ปลายสายถามอย่างรู้ทัน ทำให้ร่างสูงจำใจตอบรับไป

“อืม”

“และมึงอยู่เฝ้าหรอวะ เพราะนี่แม่งสอบกันไปสองชั่วโมงละนะ” ปลายสายยังคงจี้คำถามออกอย่างต่อเนื่อง

“อืม”

“คุณพี่ผาครับ คุณพี่ผาจะไม่มาดูน้องดูนุ่งในคณะคุณบ้างหรอครับ”

“เออ เดี๋ยวกูกลับ” ผาตอบปัดๆไป

“เด็กมึงหรอวะ” ปลายสายยังถามต่อออกมา จนร่างสูงชักเริ่มรำคาญเพื่อนตัวดี

“ไม่ใช่ ...แค่นี้แหละเดี๋ยวกลับ” เขาบอกปลายสายเสร็จก็จัดการตัดสายทันที เพราะเขาเห็นเด็กที่อยู่เข้าไปสอบอยู่ในห้องทยอยเดินออกมาบ้างแล้ว ที่พุ่มโทรตามให้เขากลับไปช่วยก็เพราะวันนี้พวกเขาที่อยู่ปีสามจะต้องมาช่วยกันดูแลอำนวยความสะดวกให้กับเด็กที่จะมาสอบกับผู้ปกครอง …แต่เขากลับออกมาอยู่คณะแพทย์มารอคนตัวเล็กสอบ ซึ่งแม้แต่ชื่อยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ ตอนนี้เขาก็ยังไม่หายสงสัยตัวเองว่าจะตามมาทำไม...หรือบางทีอาจจะเพราะคนตัวเล็กนั่นมาคนเดียวก็ได้หรืออาจะเป็นเพราะว่าเมื่อคราวก่อนที่ตลาดที่คนตัวเล็กมาช่วยเหลือเขาไว้เขาก็เลยอยากแสดงน้ำใจตอบแทนบ้าง...ก็เท่านั้น ...เขาหยุดคิดเรื่องราวต่างๆในหัว เพราะเขาเห็นคนตัวเล็กเดินออกมาจากห้องสอบแล้ว

...น้ำที่เดินออกมาจากห้องสอบ เห็นบรรยากาศหน้าห้องสอบที่เต็มไปด้วยญาติผู้ใหญ่ของเด็กนักเรียนที่มาสอบ เห็นแล้วก็อดที่จะนึกถึงตัวเองไม่ได้ว่าถ้าเขามีพ่อแม่หรือญาติสักคนมาคอยให้กำลังใจเขาบ้างก็คงดี แต่คิดได้เท่านั้นก็รีบเบือนหน้าหนีไปทางอื่นแล้วหาที่นั่งรอเรียกชื่อเข้าสัมภาษณ์ต่อ

วันนี้เขาต้องสอบสองอย่างด้วยกัน คือสอบข้อเขียนที่พึ่งเสร็จไปเมื่อกี้แล้วก็สอบสัมภาษณ์ที่กำลังจะสอบอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า เมื่อได้ที่นั่งแล้วเขาก็หยิบพอร์ตขึ้นมาเช็คความเรียบร้อย กิจกรรมหลากหลายที่เขาทำมันมีผลต่อการเรียนต่อในช่วงมหาลัยมากพอสมควร ที่เขามีอยู่ถ้าเทียบกับรุ่นเดียวกันที่มาสอบแฟ้มสะสมผลงานเขาถือว่าบางไปเลย ในแฟ้มของเขามีแค่เกียรติบัตรการแข่งขันวิชาการ มีทั้งได้เหรียญทองแดงยันเหรียญทอง และก็ภาพกิจกรรมที่ทำกับโรงเรียนอีกนิดหน่อย ตัวเล็กคงเพลินกับการตรวจเช็คดูภาพกิจจกรมในแฟ้มของตัวเองจนไม่ได้สังเกตเลยว่าเวลานี้มีร่างสูงมายืนอยู่ตรงหน้าแล้ว

“นี่...” เสียงเรียกนั้นทำให้น้ำเงยหน้าขึ้นไปเพื่อจะมองไปยังต้นเสียงว่าคนๆนั่นเรียกใคร แต่ก็ต้องตกใจกับคนที่อยู่ตรงหน้า

“คุณ! ทำไมมาอยู่ที่นี่ล่ะครับ” น้ำเอ่ยถามร่างสูงออกออกไปอย่างตกใจ

“นั่งด้วยสิ” ร่างสูงไม่ตอบแต่กลับขอนั่งด้วย

“ครับ” น้ำยกกระเป๋าจากที่วางอยู่บนเก้าอี้ข้างตัวขึ้นวางบนตัก ร่างสูงจึงนั่งลงที่เก้าอีกตัวนั้น

“เป็นไงบ้าง...สอบน่ะ” ร่างสูงหันมาถาม

“เอ่อ...ก็พอทำได้ครับ” ถึงจะแปลกใจเล็กน้อยที่เจอร่างสูงอยู่ที่นี่ทั้งๆที่เขาน่าจะไปอยู่ที่วิศวะ และไหนจะคำถามนั่นอีก ที่ถามออกมาเหมือนให้กำลังใจ

“แล้วนี่รออะไร” ร่างสูงยังคงถามต่อ

“รอสัมภาษณ์ครับ” น้ำตอบออกไปถึงแม้คนตัวเล็กอยากจะเปลี่ยนคำตอบเป็นคำถามก็ตามที

“อืม เต็มที่นะ ฉันไปละ” เมื่อร่างสูงเอ่ยให้กำลังใจคนตัวเล็กเสร็จก็กล่าวลาแล้วเดินออกมาทันที ปล่อยให้น้ำนั่งงงและสงสัยต่อไป ...ถ้าอยู่ใต้ตึกจะไม่แปลกใจเท่าไหร่ แต่นี่มันหน้าห้องสอบที่มีแต่ผู้ปกครองและก็เด็กนักเรียนที่มาสอบ ถึงแม้น้ำจะสงสัยมากแค่ไหน แต่น้ำก็อดที่จะรู้สึกดีกับคำพูดให้กำลังใจนั้นไม่ได้ ผาเองถึงแม้จะรู้สึกอยากอยู่ต่อแต่รู้ดีว่าอยู่ไม่ได้ เขารู้ว่าคนตัวเล็กก็ดูจะสงสัยที่เขามาอยู่ที่นี่ แต่เขาเองก็สงสัยอยู่เหมือนกันว่า ความรู้สึกไหนกันที่พาเขามาอยู่ที่หน้าห้องสอบคณะแพทย์ได้...





“กว่าจะมาได้นะไอ้เสือ” ผาที่กลับมาคณะแล้วก็เดกินเข้ามายังโต๊ะประจำที่มีพวกเพื่อนนั่งรออยู่ก่อนแล้ว เสียงพูดอันดังแบบนี้คงเป็นใครไม่ได้นอกจากพุ่ม

“เห็นไอ้พุ่มบอกมึงมีเด็ก” ผานั่งได้ไม่ถึงห้าวินาทีเพื่อนเพื่อนเจ้าเนื้อของเขาก็ยิงคำถามใส่ร่างสูงทันที

“มึงเงียบไปเลยไอ้วัช” ผมว่าไปไม่เบานัก พร้อมกับมองหน้าพวกมันทีละตัว เอ้ยโทษๆ ทีละคนๆ

“ไม่ปฏิเสธแสดงว่าจริงอ่ะดิ่” ไม่เว้นแม้แต่ว่าน ชายเงียบของกลุ่มก็ยังเอ่ยแซวร่างสูงยิ้มๆ

“เปล่า” ร่างสูงเลือกที่จะปฏิเสธไป

“เปล่าอะไรมึง...ไอ้ว่านมึงต้องเห็นแบบพวกกูเวลาที่มันมองน้องคนนั้นนะ หืม...ตานี่อย่างเยิ้ม โอ๊ย!! ไอ้สัสผา ตบกูทำเชี่ยไรเนี่ย” แล้วร่างสูงก็หมดความอดทนกับความเผือกของเพื่อนตัวดี ยื่นมือไปไปโบกหัวเพื่อนไม่เบาแรงนักอย่างนึกหมั่นไส้

“หมั่นไส้” ผาพูดใส่หน้า

“แหมกูพูดเรื่องจริงล่ะทำเป็นรับไม่ได้” พุ่มที่ไม่ถือกับการตบหัวหยอกเล่นของเพื่อนนั้นว่าต่อ

“ถ้ากูเป็นไอ้ผากูก็เยิ้มวะ แม่งน่ารักชิบหาย” วัชเอ่ยขึ้นมาพร้อมกับทำหน้าเคลิ้มตาม เมื่อนึกถึงคนตัวเล็กที่เขาเจอยืนคุยอยู่กับร่างสูงเมื่อเช้านี้

“ผู้หญิง?” ว่านที่นั่งฟังอยู่นานเอ่ยถามอย่างสงสัย ทำให้เพื่อนเขาทั้งสามคนส่ายหน้าไปมาพร้อมกัน

“ผู้ชาย” และเป็นผาที่เป็นคนพูดเฉลยให้หายข้องใจ ว่านดูตกใจเล็กน้อย เมื่อเช้าเขาไม่ทันเห็นหรอกเพราะเขามัวแต่ช่วยงานลงทะเบียนอยู่ใต้ตึก

“น้องเขาชื่อไรวะผา” พุ่มยื่นหน้ามาถามร่างสูงอย่างอยากรู้ชนิดปิดไม่มิด หรือไม่คิดจะปิดก็ไม่รู้

“ไม่รู้” ผาตอบออกไปเสียงอ่อย

“ถามจริง!!” อาการตกใจของทั้งวัชและพุ่มทำให้เสียงมันดังกว่าปกติ จนคนทั้งลานหันมามองที่กลุ่มเขาแล้วก็ผละไป ว่านเองก็ตกใจอยู่เหมือนกัน

“มึงจะเสียงดังทำเชี่ยไรเนี่ย เขามองมึงกันหมดแล้วเนี่ย” ผาหันไปถลึงตาใส่เพื่อนอย่างเอาเรื่อง

“มึงยังไม่ชิน ? มึงนั่งเฉยๆเงียบๆทั้งหญิงทั้งชายยังกรี๊ดกันให้รึ่ม” พุ่มว่าพร้อมกับเบะปากใส่ร่างสูงอย่างนึกหมั่นไส้

“เวอร์ๆ”

“ไม่เวอร์ล่ะ ทั้งหล่อ ทั้งเพอร์เฟค เจ้าของบริษัทส่งออกชิ้นส่วนซุปเปอร์คาร์ยักษ์ใหญ่ มึงนั่งเฉยๆเก้งกวางบ่างชะนีก็มากองตรงหน้ามึงหมดแล้วไอ้ผา” ชายเงียบอย่างว่านถึงกับเอ่ยประโยคยาวเหยียดถึงคุณสมบัติที่ใครๆก็อยากมีของร่างสูงออกมา

“นี่ไอ้ว่านพูดเลยนะมึงไอ้ผา ฮ่าๆ” พุ่มหันมาตบบ่าร่างสูงสองสามทีแล้วว่าอย่างขำๆและก็พากันขำให้ครืนกันทั้งกลุ่ม

...ผาเป็นชายหนุ่มร่างสูงผิวขาว ตาคมดูดุรับกับคิ้วเข้มเรียวสวย จมูกโด่งเป็นสันดูลงตัวกับปากหยักสีชมพูคล้ำจากการสูบบุหรี่ ภายใต้เสื้อยี่ห้อดีปิดบังกล้ามท้องที่มีแพ็คเรียงตัวอย่างสวยอยู่หกก้อนกับหลังแกร่งที่มีกล้ามเนื้ออย่างคนออกกำลังกาย ทุกอย่างดูลงตัวและเพอร์เฟค ทั้งรูปร่างหน้าตาและฐานะที่เป็นถึงทายาทบริษัทผลิตและส่งออกชิ้นส่วนซุปเปอร์คาร์ยักษ์ใหญ่ ...ยากเหลือเกินที่ทุกคนจะปฏิเสธ ทั้งๆที่มีข่าวว่าผามีแฟนแล้วแต่พวกเธอก็ไม่เคยหยุดเข้าหาร่างสูงเลยเพราะกี่ทีๆแฟนที่ใครๆเขาพูดกันไม่เคยออกมาแสดงตัวเลยสักครั้ง ไม่ว่าจะหญิงหรือชายก็ยอมพลีกายให้กับเขาเพื่อให้ขึ้นชื่อว่าเป็นเด็กของเขา ...แต่กับผาแล้ว ไม่มีใครได้เป็นเด็กของเขาทั้งนั้น สถานะที่เขาให้กับคนพวกนั้นก็แค่คู่นอน เขาให้เวลากับคนเหล่านั้นไม่ทันข้ามคืนด้วยซ้ำ...แต่พวกเธอก็ไม่บ่นเพราะได้ค่าตอบแทนหลังจากจบความร้อนแรงเหล่านั้นลงไป ผารู้ดี...แค่มีเงินทุกอย่างก็จบ แต่เขาก็รู้อีกว่ามันใช้แก้ปัญหาได้กับแค่บางเรื่องเท่านั้นโดยเฉพาะกับความรัก... เขาถูกพูดถึงต่างๆนาๆ ทั้งหยิ่งบ้าง เสือผู้หญิงบ้าง ฟันแล้วทิ้งบ้างอะไรบ้าง แต่เขาก็ไม่คิดจะสนใจกับอะไรที่มันไม่เป็นความจริงอยู่แล้ว เขาแค่คิดว่า ...ไม่รู้จักกันแต่อยู่ๆจะให้เดินเข้าไปทักไปทายมันคือสิ่งที่คนปกติเขาทำกันหรอ... เขาเป็นยังไงตัวเขาเท่านั้นรู้ดีที่สุด ครอบครัวและเพื่อนรู้จักตัวตนของเขา ...ส่วนคนอื่นจะคิดยังไงเขาไม่ได้สนใจอยู่แล้ว

‘เห้ยมึงแม่งเด็กที่ไหนวะ’

‘สัส น่ารักเหี้ยๆอ่ะ’

‘จะมาเรียนวิศวะหรอวะ กูจีบแน่มึง’

‘ผู้ชายอะไรจะน่ารักปานนี้วะ’

‘เอาจริงๆผู้ชายอย่างกูยังหวั่นไหวอ่ะสัส’

....บลาๆๆๆๆ....

อยู่ๆทั้งลานเกียร์ก็มีเสียงคุยกันจนเซ็งแซ่ไปหมดบางกลุ่มที่นั่งอยู่ถึงกับมองกันตาเป็นมัน 

“เห้ยพวกมึง แม่งน่ารักสัส” แล้วพุ่มก็กึ่งลุกกึ่งนั่งชะเง้อคอมองไปยังทางเดินของลานเกียร์

“เออไอ้เหี้ย ผู้ชายอะไรน่ารักได้ขนาดนี้วะ ไอ้ผาๆๆ” วัชลุกขึ้นยืน ส่งมือสะกิดร่างสูงให้หันไปมอง เพราะร่างสูงนั่งหันหลังให้กับทางเดินจึงไม่เห็นว่าใครกำลังถูกพูดถึงอยู่

“แม่งเดินมาทางนี้ด้วยว่ะ ฉุดได้มั้ยวะ” พุ่มพูดขึ้นอีกครั้ง

“เหมือนน้องเขามองหาใครเลยว่ะ สงสัยมองหากู อิอิ” วัชว่าแล้วนั่งลง

“อะไรของพวกมึงวะ” ร่างสูงถามออกไปอย่างขำๆกับท่าทางของเพื่อนตัวแสบ

“มึงก็หันหลังไปมองสิ่ไอ้ห่า” พุ่มว่า ร่างสูงตัดสินใจหันกลับไปมอง แล้วก็แทบหยุดหายใจ


...ให้ตายเถอะ...


ร่างสูงสบถออกมาเบาๆแล้วลุกขึ้นเดินออกไปหาเจ้าของเสียงแซวทั้งลานเกียร์ทันทีโดยไม่ฟังเสียงทักท้วงของเพื่อนๆในกลุ่ม

“มาทำไรที่นี่” พอถึงตัวก็เอ่ยถามทันทีอย่างไม่ดังนัก ทั้งลานเงียบกริบจนแทบจะได้ยินเสียงหายใจ ร่างสูงเหลือบมองพวกที่นั่งอยู่ตามโต๊ะม้าหิน มองคนตัวเล็กนี่ให้ตาเป็นมันกันหมด วิศวะก็แบบนี้

“เห้อ...เจอสักทีนะครับ” คนตัวเล็กหันกลับมาพร้อมกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

“หาฉัน?” ร่างสูงชี้นิ้วเข้าหาตัว

“ครับ” คนตัวเล็กส่งยิ้มให้

‘อ่า...ยิ้มทีแม่งกูแทบละลาย’

‘เอาใจกูไปเลย น่ารักชิบหาย’

‘เหมือนกูกำลังจะขาดใจตายเลยมึง’

‘รอยยิ้มแอคแทค’

.....บลาๆๆๆ.....

แล้วเสียงเพ้อของชายโฉดของวิศวะก็ดังขึ้นมาอีกระรอกคนตัวเล็กคนตัวเล็กรู้ดีว่าเป็นที่จับต่อมอง...แต่เขาไม่คิดจะสนใจอะไรอยู่แล้ว

“งั้นไปนั่งที่โต๊ะก่อแล้วค่อยคุย” ร่างสูงบอกไปพร้อมกับถือวิสาสะจับแขนให้คนตัวเล็กเดินตามมา


...คราวที่ก่อนมือว่านุ่มแล้ว แขนนี่ยิ่งนุ่มเข้าไปใหญ่ จะตะบะแตกมั้ยไอ้ผาเอ๊ย...


‘เชร้ดดดดด ไอ้สัสผาเอาไปแดก’

‘พี่ผ๊าาาาาาา!’

‘คนหล่อเอาไปแดก คนไม่ได้แดกคือคนไม่หล่อ’

‘พี่ผาครับ นิ่มมากมั้ยผมอยากรู๊!!’

...บลาๆๆๆ....


เสียงโหยหวนก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง...แต่ก็ไม่มีใครจริงจังกับการแซวกันเล่นๆครั้งนี้ แต่เรื่องน่ารักนี่ยอมรับจริงๆ

พอมาถึงโต๊ะ พวกเพื่อนนั้นก็มองกันตาปริบๆ พุ่มนี่เข้าขั้นเคลิ้มไปแล้ว

“นั่งก่อน” ร่างสูงนั่งที่เก้าอี้ตัวเดิมแต่เขยิบชิดไปอีกฝั่งแล้วบอกให้คนตัวเล็กนั่งตาม คนตัวเล็กก็ว่าง่ายบอกปุ๊บนั่งปั๊บ

“ไอ้ว่านๆเนี่ยแหละคนเมื่อเช้า” พุ่มหันไปกระซิบกับว่านที่นั่งข้างกัน แต่เรียกว่ากระซิบก็คงผิดไปเพราะได้ยินกันทั้งโต๊ะ

“เชี่ย... เมื่อเช้าเห็นไกลๆกูว่าน่ารักแล้วนะ พอมาใกล้ๆนี่แม่งโคตร” วัชว่า

“อย่าไปสนใจพวกแม่งนี่เลย ...บอกว่าหาผมมีอะไรรึเปล่า” ร่างสูงหันไปถามคนตัวเล็กข้างๆ เพราะเห็นมองซ้ายทีขวาทีอย่างทำอะไรไม่ถูก

“อ้อครับ คุณทำกระเป๋าตังหายรึเปล่าครับ” ร่างสูงตบๆไปตามกางเกงยีนส์ตัวโปรดทันที แต่ก็ไม่เจอ

“สงสัย ทำไม?” ร่างสูงถาม ไม่คิดว่าคนตัวเล็กนี่จะมาหาเขาเพราะเรื่องแค่นี้

“ตอนที่ผมจะเข้าห้องสอบเห็นกระเป๋าตังใบนี้มันอยู่บนเก้าอี้ที่คุณนั่งอ่ะ ตอนแรกไม่แน่ใจก็เลยถือวิสาสะเปิดดู ขอโทษด้วยนะครับ” คนตัวเล็กว่าจบก็หยิบกระเป๋าตังหนังสีดำออกมายื่นให้ตรงหน้าร่างสูง แค่เป็นลักษณะภายนอกร่างสูงก็จำได้แล้วว่าใบนี้ของเขา

“ไม่เป็นไรขอบใจมาก” ร่างสูงรับมาแล้วเก็บเข้ากระเป๋ากางเกงด้านหลังทันที

“คุณไม่ดูหน่อยหรอครับ” คนตัวเล็กแย้ง

“ไม่ล่ะ” ร่างสูงบอกปัดไป

“คุณเก็บกระเป๋าตังแบบนั้นเดี๋ยวก็หล่นอีกหรอกครับ” คนตัวเล็กหลุบตามองไปยังกระเป๋ากางเกงด้านหลังของผม

“ก็ฉันไม่รู้จะเก็บมันไว้ไหน เก็บไว้กระเป๋าหน้ามันตุงน่าเกลียด” และอีกอย่างนั่งแล้วมันรู้สึกอึดอัด... ผาคิดในใจ

“ก็อย่าพกเงินสดเป็นฟ่อนขนาดนั้นสิครับ หายขึ้นมาจะเดือดร้อนเอา”

“คนอย่างมันไม่เดือดร้อนหรอกครับน้อง รวยล้นฟ้าขนาดนั้น” พุ่มบอกออกมา ทำให้คนตัวเล็กหน้าจ๋อยลงไปหน่อยอย่างรู้สสึกผิดที่จุ้นจ่านกับร่างสูงมากเกินไป

“อ่าขอโทษนะครับที่ยุ่งไม่เข้าเรื่อง” คนตัวเล็กเงยหน้าบอกขอโทษร่าวสูงอย่างรู้สึกผิด

“ตายๆๆ เป็นกูโดนทำหน้ารู้สึกผิดใส่ขนาดนั้นกูตายแน่ๆ แม่ง” พุ่มพึมพำเบาๆกับว่าน วัชที่ได้ยินก็พยักหน้าเห็นด้วย ร่างสูงเองก็อยากจะพยักหน้าอยู่เหมือนกัน เล่นทำหน้าใส่กันแบบนี้

...น่ารักเป็นบ้า มีแต่คำว่าน่ารักๆๆเต็มไปหมด...


“ไม่เป็นไร" ร่างสูงบอกปัดไปพร้อมกับเบือนหน้าหนี

“ชื่ออะไรล่ะเรา” เป็นว่านผู้นั่งเงียบมาตลอดเอ่ยถาม

“น้ำครับ” คนตัวเล็กบอกพร้อมส่งยิ้มหวานไปให้ แม้แต่ว่านเองยังเบือนหน้าหนีและกระแอมขึ้นมาเบาๆ

“อ่ะๆ ไอ้ที่นั่งข้างน้องอ่ะไอ้ผา ส่วนไอ้อวบนั่นชื่อวัช ไอ้เงียบนี่ชื่อว่าน ส่วนพี่สุดหล่อชื่อพุ่มจ้ะน้องน้ำ อ่อๆพี่อยู่วิศวะปีสี่กันนะ” คนตัวเล็กยิ้มรับก่อนจะยกมือขึ้นไหว้ทุกคนรอบโต๊ะ

“สอบสัมภาษณ์เป็นไงมั่ง” ร่างสูงถามจบคนตัวเล็กก็หน้าหงอยลงทันที

“ยากมากเลยครับ ผมว่าไม่ติดแหงเลย” คนตัวเล็กว่าออกมาอย่างกังวล

“มั่นใจหน่อยสิ ...และจะกลับยัง” คนตัวเล็กยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูแล้วทำหน้าตกใจเล็กน้อย

“อ๊ะ เดี๋ยวรถหมด ขอตัวกลับก่อนนะครับ สวัสดีครับ” พูดออกมารัวเร็ว ยกมือไหว้เสร็จก็วิ่งออกไปทันที ไม่ฟังเสียงเรียกเสียงทัไกท้วงใดจากรุ่นพี่ร่วมโต๊ะเลย

“ไอ้ผา!! มึงไม่บอกไปส่งน้องเขาวะ” พุ่มผลักไหล่ร่างสูงแรงๆ พร้อมกับทำหน้าขัดใจ

“แม่งถ้าติดหมอนะ กูว่าคนขายขนมจีบตรึม” วัชว่า ร่างสูงเองก็คิดแบบนั้น ดูได้จากตอนทีเดินเข้ามา สายตาแต่ละคนที่มองคนตัวเล็กนั่น

“มึงก็จีบดิ่ไอ้ผา ถ้าเป็นมึงกูว่าได้” พุ่มว่าต่อ

“กูว่าเอาให้ติดก่อนเถอะ หมอที่นี่เขาว่ากันว่าเข้ายากชิบหาย” ชายเงียบแห่งกลุ่มพูดขึ้น ร่างสูงยิ้มให้กับคำพูดของมันอย่างเห็นด้วย


...ขอให้ติดก่อนแล้วกัน ส่วนเรื่องจีบ...ค่อยมาว่ากันอีกที...




...100%...

...To Be Continued...

ออฟไลน์ มายซินนี่

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
Re: Bear in mind ...ผมไม่ร้ายนะครับ [YAOI] [ep.4]
«ตอบ #5 เมื่อ18-12-2017 01:40:32 »

[Episode 4​]







"ยังไม่ประกาศผลอีกหรอน้ำ" ในขณะที่คนตัวเล็กกำลังรีเฟรชหน้าเว็บคณะแพทย์เพื่อรอผลที่จะประกาศตอนสองทุ่มโจ้เพื่อนร่วมห้องก็เอ่ยถามออกมา

"ใช่ครับ ตอนสองทุ่มนี่แหละ" น้ำตอบโจ้ไปแต่ตาก็ยังคงเพ่งอยู่กับหนเาโน๊ตบุ๊คของธามที่ยืมมาใช้เพื่อดูผลการสอบ หลังจากที่ไปสอบนี่ก็ผ่านมาสองอาทิตย์ได้แล้ว บรรยากาศความกดดันในห้องสอบเป็นยังไงน้ำยังจำมันได้ดี...รวมถึงคนบางคนด้วย

"ประกาศแล้วๆๆ" น้ำที่รีเฟรชทุกๆนาทีก็ร้องออกมาอย่างตกใจเมื่อเห็นประกาศอันใหม่แปะอยู่บนบอร์ดหน้าเว็บ

"ไหนๆๆ เข้าไปดูเลยๆ" โจ้เองก็พลอยตื่นเต้นไปด้วย เจ้าของโน๊ตบุ๊คเองก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน แต่เจ้าตัวดันขอไปอาบน้ำก่อนแม้จะบอกว่าจะอาบอย่างไวแต่ก็ยังไม่ทัน

...มือบางเลื่อนไปคลิกที่ประกาศการเป็นนักศึกษาแพทย์รุ่น xx ทันทีแล้วไล่อ่านลงมาไม่ไกลนัก

...อันดับ 4 นายธารา นันทปภากร...



"เย่!! มีชื่อน้ำด้วยโจ้ น้ำจะได้เป็นหมอแล้วๆ" คนตัวเล็กวางโน๊ตบุ๊คลงกับเตียงนอนแล้วกระโดดดีใจเป็นเด็กๆ

"เห้ยๆ เสียงดังไรกัน" ธามที่เดินเข้ามาเอ่ยถามอย่างงุนงงกับเสียงที่ดังทะลุออกไปข้างห้อง

"น้ำติดหมอแหละธาม" คนตัวเล็กเข้าไปเขย่าแขนธามอย่างดีใจ

"เห้ยจริงดิ่" เขาถามคนตัวเล็กออกมาอย่างตกใจไม่แพ้กัน คนตัวเล็กพยักหน้ารับพร้อมกับรอยยิ้มกว้างที่ประดับอยู่บนใบหน้าสวย

"ดีใจด้วยนะน้ำ" ธามบอกคนตัวเล็กอย่างดีใจ

"ไม่รีบไปบอกแม่ดาหรอน้ำ" โจ้หันมาถาม

"เออใช่น้ำลืมเลย เดี๋ยวมาน้า" พอนึกขึ้นได้ก็รีบวิ่งออกไปจากห้องทันที เพื่อนร่วมห้องสองคนส่ายหน้าให้กันยิ้มๆเกรงว่าเพื่อนข้างห้องจะออกมาโวยเอาได้

"แม่ดาครับ" เดินเข้ามาถึงในห้องโถงกว้างก็ส่งยิ้มไปให้ดาริณที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่

"ว่าไงเรา" ดาริณวางหนังสือลงแล้วหันมามองลูกชายคนโปรดอย่างเต็มตา

"น้ำจะได้เป็นหมอแล้วนะครับ" น้ำทิ้งตัวลงนั่งข้างๆดาริณพร้อมกับโถมตัวกอดแล้วเอ่ยออกมาเสียงสั่นเครือ

"เก่งมากๆเลยครับน้ำ" ดาริณเอ่ยพร้อมกับกอดตอบคนตัวเล็กเบาๆ ยกมือขึ้นลูบหัวทุยอย่างปลอบประโลม เพราะคนตัวเล็กในอ้อมกอดเขาเหนื่อยมามากจริงๆ

...เขาอยากให้วันนั้นมาถึงไวๆ วันที่เด็กดีในอ้อมกอดของเขาประสบความสำเร็จและมีทุกอย่าง...



ดาริณได้แต่ภาวนาในใจ ไหล่บางสั่นน้อยๆ แต่ไม่มีเสียงสะอื้นใดๆหลุดออกมา

"น้ำดีใจมากเลยครับ น้ำดีใจ" คนตัวเล็กพร่ำบอกแต่ประโยคเดียววนไปวนมา

"อย่าร้องไห้สิครับเด็กดี ไปนอนพักผ่อนดีกว่าวันนี้เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว" ดาริณลูบหัวทุยไปด้วยบอกกับคนในอ้อมกอดไปด้วย หลังจากที่สอบเสร็จ น้ำก็กลับมาทำงานเหมือนเดิม แทบไม่ได้หยุดพัก

"น้ำขอบคุณแม่ดามากเลยนะครับ ที่เลี้ยงน้ำมาอย่างดี ...ขอบคุณครับที่เป็นทั้งพ่อทั้งแม่ให้น้ำ รักแม่ดานะครับ" คนตัวเล็กยังคงกอดดาริณแน่นพร่ำบอกความในใจให้คนในอ้อมแขนเล็กที่ตนเรียกว่าแม่อย่างเต็มเปี่ยมไปด้วยรัก ดาริณกอดตอบคนตัวเล็ก ลูบหัวทุยเบาๆอย่างปลอบประโลม

...ที่เขาร้องไห้มันไม่ใช่เพราะว่าเขาเสียใจแต่มันคือความดีใจและยินดี...

...ยินดีที่จะให้พ่อแม่ทิ้งเขาไปเพื่อให้ท่านมีชีวิตที่สุขสบายกว่าการที่จะมีเขาอยู่ เขายินดีที่จะให้พ่อแม่เขาสอนการใช้ชีวิตที่แข็งแกร่งด้วยการจากเขาไปและเขาดีใจที่พ่อแม่เขายังอยากให้เขามีชีวิตอยู่...

...เขาไม่เคยคิดจะโกรธจะเคืองพวกท่านเลยแม้แต่น้อย มีบ้างที่คิดน้อยใจในโชคชะตาของตัวเอง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากจะใช้ชีวิตที่มีอยู่ให้มีคุณค่าที่สุด

...เขามีความหวังเล็กๆว่าสักวันในที่แห่งหนึ่งเมื่อพ่อกับแม่เห็นเขาและจะจำเขาได้ อาจจะไม่ใช่เพราะหน้าตา แต่ก็ขอให้พวกท่านจำสร้อยเส้นนี้ที่พวกท่านให้ไว้กับเขาได้ ขอแค่ได้เจอ...สักครั้งก็ยังดี

.



.



.



"ไอ้โจ้มึงเสร็จยังเนี่ย!!" เสียงธามตะโกนขึ้นเรียกเพื่อนร่วมห้องอีกคนที่แต่งตัวช้าเกินกว่าเหตุ

"เออๆเสร็จแล้ว มึงจะรีบไปไหนวะห้างมันไม่หนีมึงไปไหนหรอก" โจ้ที่แต่งตัวเสร็จทีหลังเพื่อนก็เดินหิ้วรองเท้าออกมานอกห้องหน้ามุ่ยพร้อมกับประโยคสวนกลับเพื่อนร่วมห้องที่มาเร่งเขา ...น้ำยังไม่เห็นบ่นสักคำ

...วันนี้พวกเขาสามคนตั้งใจว่าจะไปห้างกันเพราะมีหลายๆอย่างที่ต้องซื้อเพื่อใช้ในมหาลัย ทั้งเสื้อผ้า ของใช้จำเป็นอย่างเช่นโน๊ตบุ๊คและโทรศัพท์ที่น้ำยังไม่เคยมีเป็นของตัวเอง

"ทำไมซื้อแค่สามชุดเองน้ำ น้อยไปเปล่า" โจ้ถามขึ้นเมื่อพวกเขากำลังจ่ายตังอยู่ตรงหน้าเค้าท์เตอร์

"ใครจะไปซื้อครบห้าวันอย่างมึงวะโจ้" ธามที่จ่ายตังเสร็จแล้วพูดแขวะเพื่อนอย่างกวนๆ จริงๆพวกเขาสองคนก็สนิทกันนะ แต่ค่อนไปทางคู่กัดกันซะมากกว่า

"ก็กูขี้เกียจซักทุกวันนี่หว่า" โจ้โพร่งความจริงออกมาหน้าเค้าท์เตอร์ ทำให้พนักงานที่ยืนอยู่บริเวณนั้นถึงกับหลุดขำออกมาเบาๆ รวมทั้งเพื่อนอีกสองคนของเขาก็ด้วย

"เอาเถอะครับ เราว่าไปหาอะไรกินกันดีกว่าครับ" น้ำว่ายิ้มๆแล้วเดินนำออกไป ให้สองคนนั้นเดินตีกันตามหลังมา เขาชินซะแล้วล่ะ ก็สองคนนี้ตีกันประจำ พูดแหย่นู่นกวนนี่แกล้งนั่นแต่ก็ไม่เคยทะเลาะกันสักครั้ง แกล้งกันแต่ก็ขำๆกัน ในบ้านผมจะสนิทกับเขาสองคนนี้มากสุดเพราะอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ยังจำความไม่ได้ โตมาก็เป็นรูมเมทกันและคงสนิทขึ้นไปอีกเพราะได้อยู่มหาลัยเดียวกัน

"กินไรดีวะ เยอะแยะไปหมด" เมื่อมาถึงศูนย์อาหารธามก็บ่นออกมาอย่างอ่อนใจที่ไม่รู้ว่าจะเลือกกินอะไรดี ที่เขาเลือกมาศูนย์อาหารมันก็แน่นอนอยู่แล้วที่พวกเขาไม่อยากสิ้นเปลืองไปกับร้านอาหารหรูๆแพงๆพวกนั้น กินที่นี่ก็อิ่มได้เหมือนกัน...

"มึงยังคิดไม่ออกมึงไปนั่งจองโต๊ะตรงมุมนู้นไป เดี๋ยวกูซื้อเสร็จกูตามไป" โจ้ว่าพลางชี้มือไปที่โต๊ะทานข้าวตัวนึงติดกระจกที่มองเห็นชั้นล่างได้ ธามพยักหน้าแล้วเดินไปยังโต๊ะที่โจ้บอก

"น้ำ ได้ข้าวยัง" โจ้เดินไปหาน้ำที่ยืนอยู่หน้าร้านก๋วยเตี๋ยว

"ได้แล้วครับ โจ้ล่ะครับ" น้ำหันมาตอบโจ้เสร็จก็หันกลับไปหาพนักงานเพื่อยื่นบัตรเงินสดของทางศูนย์อาหารให้

"ยังเลย ไอ้ธามก็ยัง" โจ้บอกพลางมองชามก๋วยเตี๋ยวที่น้ำรับมา

"งั้นก็ไปหาสิครับ หิวแย่เลย" แน่นอนพวกเขาหิวเพราะตั้งแต่เช้าจนตอนนี้เกือบเที่ยงเขายังไม่ได้กินอะไรกันเลยเพราะตกลงกันว่าจะมาหาอะไรทานกันที่นี่

"ไอ้นี่อะไรอ่ะ ดูน่ากินจัง" โจ้บอกพร้อมกับชี้ไปที่ชามก๋วยเตี๋ยวของน้ำที่กำลังปรุงอยู่

"อ่อ เล็กต้มยำหมูสับน้ำข้นไข่ยางมะตูมครับ" น้ำหันมาบอกยิ้มๆ

"เอาอันนี้สองชามครับ" แล้วโจ้ก็หันไปบอกกับพนักงานที่มองดูบทสนทนาอยู่ก่อนแล้ว พนักงานยิ้มรับน้อยๆก่อนจะลงมือทำ

"อ่ะของมึง" โจ้ดันชามก๋วยเตี๋ยวไปตรงหน้าธามที่นั่งจองโต๊ะเอาไว้พร้อมกับแก้วน้ำขนาดใหญ่

"น่ากินจังวะ" ธามว่าพร้อมกับยกชามมาวางตรงหน้าตน
"กินกันเถอะครับ" น้ำนั่งลงพร้อมกับแก้วน้ำขนาดใหญ่ที่พึ่งเดินไปซื้อมา พอได้ยินน้ำพูดแบบนั้นทั้งสองคนก็ลงมือกินกันทันทีแบบไม่ต้องรอให้พูดรอบสอง

"เออน้ำ จะอยู่หอในหรือหอนอก" ธามที่กินไปกว่าครึ่งเงยหน้าขึ้นถามคนร่างเล็กที่ก้มหน้าก้มตากินของตรงหน้าอยู่

"ว่าจะอยู่หอนอกนะครับ หอในต้องแชร์กับอื่นกลัวมีปัญหากันเรื่องเวลา" ที่พวกเขาต้องอยู่หอก็เพราะว่าจากบ้านทอตะวันกับมหาลัยมันค่อนข้างจะไกลกันพอสมควร ใช้เวลาเดินทางมากและก็ลำบากด้วย

"จะทำงานอีกล่ะสิ" โจ้ว่าขึ้นอย่างรู้ทัน

"ก็...ถ้าไหวก็จะทำดูน่ะครับ" น้ำยิ้มแหยๆไปให้ โจ้คิดไว้อยู่แล้วเชียวว่าคนตัวเล็กนี่จะต้องไปหางานทำแหงๆ

"เราว่านะ ไม่ไหวหรอกลำพังเรียนหมอเขาก็ว่าหนักพออยู่แล้วนะน้ำจะทำงานอีก การเรียนน้ำแย่แน่ๆเพราะน้ำคงไม่มีเวลาอ่านหนังสือทำการบ้านหรอก" ธามที่เป็นห่วงว่าเพื่อนตัวเล็กของเขาจะโหมทำงานไปด้วยจึงยกเรื่องเรียนแย่เพราะทำงานมาขู่ เห็นคนตัวเล็กมีท่าทีอ่อนลงก็พอใจ

"อืม เราก็เห็นด้วยกับไอ้ธามนะ เรียนให้เต็มที่ ปิดเทอมค่อยทำ" โจ้ว่าสมทบ

"เอางั้นก็ได้ครับ" คนตัวเล็กว่าอย่างจำยอม พอมาคิดดูจริงๆจังๆ ถ้าทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยเขาก็คงเรียนแย่จริงๆนั่นแหละ กว่าจะเลิกงานก็ดึกๆดื่นกลับมาต้องมาอ่านหนังสือทำการบ้าน กว่าจะได้นอนคงเช้าพอดี

"ดีมาก งั้นรีบกินดีกว่าอยากไปดูโน๊ตบุ๊คกับโทรศัพท์ให้น้ำและ" โจ้ว่ายิ้มๆแล้วหันไปสนใจกับก๋วยเตี๋ยวที่ถูกเมินมานานจนอืดเช่นเดียวกันกับธาม...

.



.



.



"ตัดสินใจได้ยังน้ำ" ธามถามขึ้นมาเพราะเห็นคนตัวเล็กจ้องโทรศัพท์เครื่องหรูสองรุ่นอยู่นานแล้ว จับๆดูๆแต่ไม่พูดอะไร...

"มันแพงมากเลยนะครับ" น้ำว่าเสียงอ่อยๆ ใจเขาก็อยากได้เพราะหลายๆอย่างทั้งสเปคเครื่องระบบการใช้งานมันดีกว่าเครื่องราคาถูกที่เขาจะเอาตั้งเยอะ แต่ที่ยังลังเลเพราะว่าราคาที่สูงมากของมัน

"มันแพงแต่มันใช้งานได้นานมันก็คุ้มนะน้ำ น้ำจะเอาเครื่องถูกแต่ใช้งานได้แปปเดียวน้ำก็ต้องซื้อใหม่อยู่ดีอ่ะเราว่า" โจ้ให้เหตุผล เพราะตัวเขาเองก็เก็บเงินซื้อยี่ห้อนี้มาใช้เหมือนกัน

"อืม เห็นด้วยกับโจ้มัน ตัดสินใจดีๆ" ธามเอ่ยสมทบ ทั้งสองคนช่วยคนตัวเล็กตัดสินใจเต็มที่ ตอนซื้อโน๊ตบุ๊คเมื่อกี้ก็แบบนี้ กว่าจะซื้อได้ตัดสินใจอยู่นาน ดีที่มีพี่พนักงานมาช่วยแนะนำน้ำก็เลยตัดสินใจได้ไว

"งั้น...เอาเครื่องนี้แหละครับ" น้ำบอกพนักงานไป

"ลูกค้าจะเอาสีไหนดีคะ ทางเรามีให้ลูกค้าเลือกทั้งหมดสี่สีด้วยกันค่ะ" พนักงานนำสมาร์ทโฟนทั้งสี่สีขึ้นมาวางตรงหน้าเพื่อให้คนตัวเล็กเลือกสีที่ถูกใจ

"สีนี้แล้วกันครับ" คนตัวเล็กชี้ไปที่ตัวเครื่องสีเทาสเปซเกรย์ พนักงานรับทราบแล้วก็หันไปจัดการให้ตัวเล็กทันที ชำระเงินเสร็จก็เดินนำออกจากร้าน สองคนที่เดินตามหลังมาก็ยังมีเรื่องให้ตีกันตลอดเวลา...อยู่ด้วยกันทีไรเป็นต้องหาเรื่องมารตีมาแกล้งกันตลอด แต่ก็ดีไปอย่าง...น้ำจะได้ไม่เหงา



ปึ้ก!!

"อ๊ะ! ขอโทษครับ" แม้จะเจ็บที่จมูกหน่อยๆที่เดินไปชนกับคนตรงหน้าแต่ก็ยังเอ่ยคำขอโทษไปให้

"ไม่เป็นไร" ร่างสูงตรงหน้าเอ่ยขึ้นมาทีแรกก็คิดหงุดหงิดเล็กๆที่คนตรงหน้าเดินไม่ดู แต่พอเห็นว่าเป็นใคร ก็อมยิ้มทันที ทั้งๆที่ค่อนข้างเป็นคนยิ้มยากนะแต่ทำไมเจอกันทีไรเขาก็จะยิ้มออกมาง่ายๆตลอดเลย คนตัวเล็กรู้สึกว่าน้ำเสียงคุ้นหูจึงเงยหน้าขึ้นมอง ตาเบิกกว้างอย่างตกใจ

"คุณ..." เอ่ยเสียงเรียกคนตรงหน้าเบาหวิว แต่ร่างสูงก็ได้ยินมันชัดเจน

"มาทำอะไร" ร่างสูงเอ่ยถาม แล้วหลุบตามองไปยังถุงของสองสามถุงที่คนตัวเล็กถืออยู่

"อ่อ ผมมาซื้อชุดนักศึกษากับของใช้นิดหน่อยน่ะครับ แล้วคุณล่ะครับ" ตอบออกไปพร้อมกับรอยยิ้มสวย

"มาซื้อโทรศัพท์น่ะ เครื่องเก่าพัง" ร่างสูงพูดพร้อมกับชูถุงที่มีกล่องสี่เหลี่ยมอยู่ข้างใน

"อ่อครับ"

"อ่าวพี่ผา สวัสดีครับ" ธามกับโจ้ที่เดินตามมาทีหลัง พอเห็นว่าเพื่อนกำลังยืนคุยกับใครก็ยกมือไหว้ทันที

"อืม หวัดดี ...ติดหมอแล้วล่ะสิ"  ในประโยคแรกพูดกับเพื่อนทั้งสองของคนตัวเล็ก แล้วเอ่ยถามกับตัวเล็กยิ้มๆ จนเพื่อนน้ำทั้งสองคนยังแปลกใจหันไปกระซิบกระซาบอะไรกันสองคนเพราะไม่อยากให้น้ำกับผาได้ยิน

"ครับติดแล้ว" คนตัวเล็กว่ายิ้มๆอย่างดีใจกับเรื่องที่สอบติดหมอ

"หึหึ จมูกแดงเชียว ขอโทษที" ร่างสูงหัวเราะออกมา พร้อมกับยกมือขึ้นมาจิ้มจมูกรั้นที่ขึ้นสีแดงเรื่อเบาๆ อย่างหมั่นเขี้ยว คนตัวเล็กถึงกับชะงักไป...

"มะ ไม่เป็นไรครับ" น้ำยกมือขึ้นมาจับจมูกตัวเอง รู้สึกได้ว่าหน้าตัวเองร้อนแปลกๆและก็รู้สึกด้วยว่าตอนนี้มันไม่ได้แดงแค่จมูกแต่มันกลับขึ้นสีชมพูระเรื่อไปทั่วทั้งหน้าลามไปถึงใบหูเล็กทั้งสองข้าง เป็นอาการที่ร่างสูงเห็นแล้วก็นึกเอ็นดูแปลกๆ

"หน้าแดงขนาดนี้ ยังจะบอกว่าไม่เป็นไรได้ไง" ร่างสูงเอ่ยแซวคนตัวเล็กยิ้มๆ ผารู้อยู่แล้วว่าคนตัวเล็กนี่คงจะเขินเขาอยู่แต่เขาก็ยังอยากจะแซวให้คนตัวเล็กได้เขิน...ก็พอเวลาคนตัวเล็กเขินมันน่ารักน้อยซะที่ไหน...

...อยากจะแซวให้เขินแบบนี้ทุกวันจัง..

"อะ เอ่อ..." คนตัวเล็กยกมือขึ้นจับแก้มตัวเอง ความรู้สึกบอกว่าหน้าเขามันกำลังร้อน และก็กำลังจะร้อนขึ้นเรื่อยๆ

"ฉันชอบนะเวลาที่นายหน้าแดงแบบนี้...มันเหมือนกับว่านายกำลังเขินฉันอยู่ แล้วก็..." ร่างสูงก้มลงกระซิบข้างใบหูเล็ก แล้วหยุดไปในท้ายประโยค ...นั่นทำให้คนตัวเล็กสงสัยว่าร่างสูงกำลังจะพูดอะไร

"ละ แล้วก็อะไรครับ..." ถึงจะหน้าจะร้อนจนแทบจะระเบิด แต่ความอยากรู้มันก็มีมากกว่าจึงถามออกไป

"...น่ารักดี ฉันชอบ"



บึ้ม!!

คนตัวเล็กรู้สึกเหมือนหัวใจมันเต้นเร็วเกินไปจนมันระเบิดออกมา...มือที่ยังคงจับแก้มอยู่ก็รับรู้ได้ถึงไอความร้อนที่เพิ่มมากขึ้น

ร่างสูงพูดจบก็ยืดตัวขึ้นเต็มความสูงส่งยิ้มไปให้กับคนตรงหน้าที่คงจะไม่เห็นที่เอาแต่ก้มหน้าหลบตาเขาอยู่

"งั้นฉันไปก่อนนะ...เจอกันเปิดเทอมนะมึงสองคนน่ะ" ร่างสูงบอกน้ำเสร็จก็เดินไปหาโจ้กับธามตบบ่าสองทีแล้วเดินออกไป...

"รู้จักพี่เขาด้วยหรอน้ำ" โจ้เดินเข้ามากอดคอน้ำที่เอามือขึ้นมาจับแก้มตัวเองพาเดินออกไป

"ก็...ไม่เชิงหรอกครับ" โจ้ได้ฟังก็ไม่คิดจะถามอะไรต่อ ระหว่างที่เดินก็มีบทสนทนาของคู่กัดให้ได้ยินตลอด แต่มันไม่ได้ทำให้น้ำละความสนใจไปจากสัมผัสที่ยังติดอยู่ตรงจมูกและคำพูดที่ร่างสูงพูดออกมานั้นไม่ได้เลยแม้แต่น้อย คำพูดกับสัมผัสเพียงแค่นิดเดียวทำให้ใจเต้นเตลิดไปไกล รู้สึกหน้าเห่อร้อนขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่

"น้ำ น้ำ! ไอ่น้ำ!!" ธามที่เห็นคนตัวเล็กเงียบไปนานก็เรียกขึ้นมาอย่างเป็นห่วง เห็นหน้าแดงๆมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้วก็พาลคิดไปว่าคนตัวเล็กไม่สบาย

"หะ ห้ะ" คนตัวเล็กหลุดออกจากภวังค์แล้วหันมาหาธาม

"ไม่สบายหรอ หน้าแดงๆ" ธามถามพลางแตะมือไปที่หน้าเล็กเพื่อวัดอุณหภูมิพบว่ามันแค่อุ่นๆแต่ไม่ถึงกับร้อน

"ปะ เปล่าครับธาม เราแค่...แค่..." คนตัวเล็กอ้ำๆอึ้งๆอย่างไม่รู้จะตอบยังไง

"ช่างมันเถอะ ไม่เป็นไรก็ดีละ กลับกันเถอะ ปะ" โจ้ขัดขึ้นมาพลางกอดคอน้ำเดินนำธามออกไป



...เราแค่...นึกถึงตอนที่เขาแตะลงมาตรงปลายจมูกเรา แล้วก็...ตอนที่เขาบอกว่า น่ารักดี...ฉันชอบ เท่านั้นเองครับธาม...ส่วนที่หน้าผมแดงก็คงเพราะ ธามไม่ต้องห่วงเราเลยครับ เราแค่...รู้สึกเขิน...มั้ง...







...100%...

....To Be Continued...

ออฟไลน์ มายซินนี่

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
Re: Bear in mind ...ผมไม่ร้ายนะครับ [YAOI] [ep.5]
«ตอบ #6 เมื่อ18-12-2017 01:49:50 »

[Episode 5​]









"น้ำ ...อันนี้ให้เอาไว้ตรงไหน" โจ้ธามขึ้นมาทั้งๆที่ยังแบกลังหนังสือเอาไว้อยู่

"ตรงนั้นเลยครับโจ้" น้ำชี้ไปยังข้างเตียงที่มีชั้นวางหนังสือเตี้ยๆอยู่

"ไอ้ธาม! มาช่วยกูจัดหนังสือเข้าชั้นดิ้ ไม่ทำห่าไรเลยนะมึงน่ะ" โจ้ตะโกนเรียกเพื่อนอีกคนที่เอาแต่นั่งดูโทรทัศน์อยู่ปลายเตียง

"อย่ากวนได้ปะล่ะโจ้ หนังสือแค่นั้นกูเชื่อมึงจัดเองได้" ธามหันมาส่งยิ้มกวนๆให้กับโจ้

"ไม่เป็นไรครับ โจ้ไปพักเถอะเดี๋ยวเราจัดเอง แค่นี้ก็ขอบคุณมากแล้วครับ" น้ำบอกยิ้มๆพลางเดินเข้าไปดันเพื่อนให้เดินไปนั่งที่เตียงกับธาม โจ้ก็นั่งลงอย่างว่าง่ายเพราะขนของเข้าหาน้ำก็ใช่น้อยๆ ส่วนใหญ่จะเป็นพวกหนังสือเรียน เตรียมสอบ ติวเข้มอะไรพวกนี้ อีกไม่ถึงอาทิตย์พวกเขาก็จะเปิดเทอมกันแล้ว น้ำมาดูหอไว้ตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว เกือบไม่ได้ที่นี่เหมือนกันยังดีที่เหลือสามห้องสุดท้าย...ที่นี่ห้องใหญ่กว่าที่อื่นอยู่มาก ความปลอดภัยก็ค่อนข้างดี บรรยากาศก็ดี สะดวกสบายของกินหาง่ายและใกล้มหาลัย ราคาเกือบๆสี่พันอาจจะดูแพงไปแต่ก็ถือว่าคุ้ม ห้องเขาอยู่ชั้นสิบสองจากทั้งหมดสิบห้าชั้น ในห้องมีเฟอร์นิเจอร์ให้พร้อม เปิดเข้ามาเตียงอยู่ทางขวามือแต่ไม่ชิดกำแพง ...ข้างๆเตียงสองข้างมีชั้นวางหนังสือเล็กๆอยู่ ปลายเตียงเป็นโต๊ะวางของขนาดกำลังพอดี โทรทัศน์ติดผนังขนาดยี่สิบสองนิ้ว ข้างๆโต๊ะเป็นตู้เย็นหลังเล็กสีดำ ถัดเข้าไปด้านในก็จะเป็นห้องน้ำและก็มีระเบียงเอาไว้ตากผ้า...มีที่สำหรับวางเครื่องซักผ้าถ้าใครสะดวกเอามา แต่น้ำไม่มีเลยคงต้องไปซักเครื่องใต้หอแทน

"หิวแล้วอ่ะน้ำ ไปหาไรกินกัน" หลังจากนั่งดูหนังไปจนจะจบเรื่องธามก็บอกน้ำขึ้นมาเสียงอ่อยๆ พลางเอามือลูบท้องตัวเองป้อยๆ มองน้ำตาปริบๆ

"ไปครับ เราจัดเสร็จพอดี" น้ำบอกขึ้นมาอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะเดินหายเข้าไปในห้องน้ำเพื่อล้างมือ

"วันอาทิตย์โจ้กับธามจะมานอนกับเราใช่มั้ยครับ" ระหว่างที่นั่งรอข้าวที่ร้านข้าวให้หอน้ำก็ถามถึงเรื่องที่คุยกันไว้สองสามวันก่อนว่าวันแรกของการเปิดเรียนเขาสามคนจะไปมหาลัยพร้อมกัน

"เรามา มึงอ่ะไอ้ธาม" โจ้เงยหน้าจากโทรศัพท์ขึ้นมาบอกน้ำแล้วหันไปไปถามธามที่นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ข้างๆ

"มาดิ่ อยากมาสักอาทิตย์นึงเลยด้วยซ้ำ" ธามเงยหน้าขึ้นมาบอก

"เอาสิครับ เราไม่อยากไปมอคนเดียว" คนตัวเล็กพยักแรงๆอย่างดีใจที่มีเพื่อนคิดเหมือนกันกับเขา เพราะว่าอาทิตย์แรกคงยังไม่มีกลุ่มเพื่อนหรอก ให้ไปมอคนเดียวก็ต้องไปนั่งแกร่วแน่ๆ

"ไปพร้อมกันได้แค่สองวัน วันพุธเรามีแค่บ่ายพฤหัสกับศุกร์สิบโมงครึ่ง" โจ้บอกพร้อมกับยื่นโทรศัพท์ที่เปิดตารางเรียนในเว็บไซต์ของมหาลัยมาให้คนตัวเล็กดู

"โหย เรามีเรียนเช้ายันเย็นตลอดเลย" น้ำบอกอย่างเซ็งๆ แล้วเปิดตารางเรียนของตัวเองส่งไปให้เพื่อนดูบ้าง;

"ตายแน่น้ำ และยังคิดจะทำงานอีกนะ" โจ้เอ็ดคนตัวเล็กเบาๆ

"สุกี้ทะเล กะเพราหมูย่าง ข้าวผัดกุนเชียง ได้แล้วครับ" เสียงเด็กเสิร์ฟดังขึ้นมา ทำให้บทสนทนาหยุดลง

"กินกันเหอะ เรื่องอื่นค่อยว่ากัน" ธามว่าขึ้นมาลงมือคนสุกี้ในถ้วยตรงหน้าอย่างไม่รีรอ

"อดอยากมาจากไหนวะมึง" โจ้แขวะขึ้นมาอย่างนึกหมั่นไส้ คนตัวเล็กได้แต่มองเพื่อนสองคนตีกันขำๆ ก็ตีกันประจำ ตีกันเป็นกิจวัตร ถ้าวันไหนไม่ตีกันนี่วันนั้นคงมีใครสักคนไม่สบาย

"ไอ้ธาม! ตื่น! ไอ้สัสตื่นดิ้ แม่งเดี๋ยวสาย" โจ้ทั้งเขย่าทั้งถีบเพื่อนที่นอนอยู่บนพื้นข้างเตียง แต่คนนอนดึกเพราะเล่นเกมส์ก็ไม่ยอมตื่น"

"โจ้ไปอาบน้ำก่อนเถอะครับ เดี๋ยวธามเราปลุกต่อเอง" น้ำที่ตื่นอาบน้ำตั้งแต่หกโมงครึ่งเดินเช็ดหัวมาตรงปลายเตียงด้วยชุดนักศึกษาเกือบเรียบร้อย

"โอเคๆ ฝากมันด้วย แม่ง!" โจ้ว่าอย่างหัวเสียที่เพื่อนตัวดีจะทำตัวเองสายตั้งแต่คาบแรก ...เดี๋ยวถ้ามึงทำกูสายนะไอ้ธาม มึงเจอกูแน่ พอโจ้เดินเข้าไปในห้องน้ำ คนตัวเล็กก็เดินเข้ามาจะปลุกธามที่นอนนิ่ง



พรึ่บ!!

"แกล้งโจ้อีกแล้วนะครับ"คนตัวเล็กว่าอย่างขำๆ เพราะรู้อยู่แล้วว่าธามต้องแกล้งโจ้แน่ๆ

"รู้ทันๆ" ธามว่ายิ้มๆ

"ก็แกล้งโจ้แบบนี้ประจำ"

"มันก็ไม่เคยจำ" ธามว่า ในขณะที่เขาลุกขึ้นเก็บที่นอนเข้าตู้เสื้อผ้าโจ้ก็ออกมาจากห้องน้ำในชุดนักศึกษา

"ไอ้สัสธาม แกล้งกูอีกแล้วนะมึง" โจ้ว่าออกมาหน้ายุ่งๆ

"หึๆ ก็มึงมันเป็นซะอย่างเงี้ย" ธามว่าออกมากลั้วหัวเราะ และเดินเลี่ยงจะเข้าไปอาบน้ำบ้าง โจ้ได้แต่นึกหงุดหงิดธามอยู่ในใจที่แกล้งเขาได้ทุกทีไปแล้วยิ่งมาแกล้งเขาเรื่องเวลาแบบนี้อีกเขาก็นึกหงุดหงิดเข้าไปใหญ่ ถึงจะแกล้งประจำก็เถอะ และเขาเองก็มักจะหงุดหงิดเป็นประจำเช่นกัน... ตัวธามเองพอเห็นคนโดนแกล้งหงุดหงุดก็หัวเราะลั่นอย่างคนมีความสุขที่ได้แกล้ง



.



.



"เดี๋ยวเดินไปส่งน้ำก่อน" โจ้หันไปบอกกับน้ำที่ทำหน้างงตอนที่กำลังจะเดินข้ามถนนไปอีกฝั่ง คณะแพทย์กับวิศวะอยู่ตรงข้ามเยื้องๆกันหน่อย ต้องเดินข้ามถนนไปทางฝั่งหอประชุมกลางน้ำ เดินตรงไปก็ถึงแล้ว จะนั่งชัตเติ้ลบัตก็อ้อมเกินไป เห็นทีว่าเดินคงเร็วกว่า

"ขอบมากนะที่เดินมาส่ง" น้ำเอ่ยขอบคุณเพื่อนทั้งสองคนที่อุตส่าห์เดินมาส่งถึงหน้าคณะ

"เออน้ำ ตอนเย็นพี่ๆเรียกรวมอ่ะ น้ำไปรอตึกคณะเราก็ได้นะ" ธามบอกเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเรียนเสร็จรุ่นพี่เรียกรวม

"ราก็เรียกครับ ถ้าเราเสร็จก่อนเดี๋ยวเราเดินไปหาก็ได้ครับ" น้ำบอกออกมา โจ้กับธามพยักหน้ารับ โบกมือให้แล้วเดินออกไป เขาก็กำลังจะเดินขึ้นไปห้องเรียนเขาบ้างถ้าไม่ติดว่า...

"เห้ย! มีเสียงทุ้มเรียกใครไม่รู้ดังขึ้นมาเขาจึงหันไปมองยังต้นเสียงและก็พบผู้ชายร่างสูงหน้าตาดีคนนึงยืนมองคนตัวเล็กอยู่

"ผม?" คนตัวเล็กมองไปรอบๆก็ไม่พบใคร จึงชี้นิ้วเข้าหาตัวเองและถามออกไป

"ก็มึงนั่นแหละจะใคร ปีหนึ่งปะ" เขาพูดพลางก้าวขาเข้ามาใกล้ๆแล้วถาม

"ครับ" เขาตอบออกไปอย่างงงๆ"

"รู้ปะว่าเรียนห้องไหน" ผู้ชายตรงหน้ายังคงถามต่อ

"ครับ"

"ครับเป็นอย่างเดียวรึไงวะ ...รู้ก็นำไปดิ่ไม่อยากสาย" ในประโยคแรกคนตัวเล็กได้ยินไม่ถนัดเหมือนจะพึมพำกับตัวเอง ได้ยินร่างสูงบอกแบบนั้นก็เดินนำออกไปยังห้องเรียน คนตัวเล็กไม่ถือสาอยู่แล้วกับพูดห้วนๆแบบนี้ ธามกับโจ้เองก็พูดกันแบบนี้ประจำอยู่แล้วไหนจะเพื่อนที่โรงเรียนอีก หยาบกว่านี้เขาก็มีถมไป

ตลอดทั้งวันตั้งแต่เรียนคาบเช้าพักกลางวันเรียนคาบบ่ายเขาอยู่กับผู้ชายร่างสูงนั่นตลอด ตอนเรียนคนตัวเล็กสังเกตเห็นคนร่างสูงนั่นแลคเชอร์ถี่ยิบจดแทบทุกคำพูด เขาเป็นคนพูดน้อยออกจะเงียบๆด้วยซ้ำ ถึงอยู่กันมาตลอดทั้งวันแต่ก็ยังไม่รู้จักชื่อกันเลย แต่เขาไม่ถือหรอกมาวันแรกมีเพื่อนเรียนเพื่อนกินข้าวก็ดีเกินคาด

"น้องๆมาครบกันยังครับ!" เสียงรุ่นพี่ดังขึ้นไปทั่วทั้งโถงของตึกๆหนึ่ง

"พี่ชื่อพี่ด้วง ปี 2 นะครับ ขอต้อนรับน้องๆนักศึกษาแพทย์ รุ่น xx ทุกคนเข้าสู่คณะแพทย์ของเรานะครับ!" รุ่นพี่ปีสองพูดจบทุกคนก็พร้อมใจกันปรบมือเสียงดัง แล้วรุ่นพี่ปีสองก็ทยอยกันแนะนำตัวไปเรื่อยๆ

"ที่พี่เรียกรวมในวันนี้ รู้มั้ยเอ่ยว่าพี่จะแจ้งเรื่องอะไร" ด้วงถาม น้องๆทุกคนส่ายหัวไปมาอย่างไม่รู้

"เรื่องที่หนึ่ง คือเราจะทำการจับสายรหัสกันวันนี้ และเรื่องที่สองเป็นเรื่องของการคัดดาวเดือนคณะแพทย์กัน โดยปีนี้เราจะให้น้องๆเลือกกันเองภายในสองอาทิตย์นี้น้องจะต้องได้ดาวกับเดือนให้พี่นะครับ ในสองอาทิตย์นี้น้องก็สังเกตกันเอานะครับว่าใครเหมาะกับตำแหน่งดาวเดือน" ทุกคนเริ่มฮือฮาและมองหน้ากันไปมา หลังจากที่รุ่นพี่ผู้ชายพูดเสร็จแล้วก็มีรุ่นพี่อีกกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาพูดถึงเรื่องระเบียบการแต่งกายให้ถูกระเบียบ ซึ่งรุ่นพี่กลุ่มนี้เป็นพี่ปีสามที่เรียกกันว่า 'พี่ระเบียบ' หลังจากที่พูดเรื่องระเบียบการเสร็จแล้วรุ่นพี่กลุ่มเดิมก็กลับมาพร้อมกับแจกป้ายคล้องคลอและปากกาเคมีให้เขียนชื่อตัวเองลงไปและให้ห้อยคอไว้ตลอดเวลายกเว้นตอนเรียน คนตัวเล็กเลยรู้ว่าเพื่อนโหดทค่นั่งข้างๆเขาชื่อ 'อิ่ม'

"เอาล่ะครับน้องๆ พี่ว่าตอนนี้เรามาจับสายรหัสกันดีกว่า ...พี่ให้เวลาน้องๆหนึ่งเดือนในการหาสายตัวเองให้เจอนะครับ" ด้วงพูดจบก็มีรุ่นพี่คนอื่นๆเข้ามาจัดแถวให้ไปจับโค๊ท

"มึงได้โค๊ทไรน้ำ" อิ่มเดินเข้ามาถามหลังจากไปจับโค๊ทมา

"เนี่ย" น้ำยื่นกระดาษแผ่นเล็กๆไปให้เพื่อนใหม่ดู

'ที่ชื้นๆ แฉะๆ นะน้องนะ'

"หึ ง่ายจะตาย เรียนชีวะมามึงน่าจะรู้" อิ่มบอกขำๆ

"ตะไคร่น้ำ?" น้ำบอกอย่างกวนๆ

"หึ ตลก" อิ่มกระตุกปากขึ้นเล็กน้อย แค่ไม่ถึงวันเขาก็นึกเอ็นดูเพื่อนตัวเล็กขึ้นมาซะงั้น คนตัวเล็กที่พอเห็นอิ่มยิ้มก็หัวเราะออกมาอย่างชอบใจ พาลให้คนรอบข้างหันมามองอย่างสนใจ มองมากเข้าๆจนคนตัวเล็กรู้ตัว จึงรีบเอ่ยขอโทษทันทีเพราะคิดว่าคงเสียงดังจนรบกวนคนอื่น

"หวัดดีน้ำ อิ่ม เราพราวนะ" ผู้หญิงร่างเล็กที่ส่งยิ้มหวานมาให้น้ำกับอิ่มเอ่ยทักและแนะนำตัว

"หวัดดีๆ เราเบทนะ" ยังไม่ทันที่น้ำจะตอบรับ ผู้ชายหน้าหล่ออีกคนก็เดินเข้ามาทัก

"หวัดดี เราน้ำ นี่อิ่ม คนตัวเล็กถือโอกาสแนะนำเพื่อนข้างตัวไปด้วยเพราะเพื่อนใหม่อย่างอิ่มคงไม่แนะนำเป็นแน่

"คงเป็นเพื่อนกันได้ใช่ปะ" เบทถามขึ้นมายิ้มๆ พราวเองก็พยักหน้าเห็นด้วย น้ำหันไปมองกหน้าอิ่มเล็กน้อย ก็เห็นอิ่มพยักหน้าให้

"ได้ครับ" น้ำตอบพร้อมกับส่งยิ้มหวานไปให้ ทำให้พราวกับเบทถึงกับนิ่งไปหลายวิ พวกเขาสี่คนนั่งคุยทำความรู้จักเพื่อนใหม่กันสนุก ทุกคนก็ต่างคิดเหมือนๆกันว่าคงไม่มีเพื่อนแน่ๆ แม้กระทั่งอิ่มเองที่นิ่งๆยังคุยกับเพื่อนใหม่ตั้งเยอะ น้ำเองที่กังวลว่าจะไม่มีเพื่อนก็เบาใจไปเยอะ พวกเขานั่งเล่นคุยกันไป หัวเราะบ้างอะไรบ้าง แต่ที่รู้สึกได้คือคนตัวเล็กเป็นเป้าสายตาให้คนอื่นมองมาอยู่บ่อยๆแล้วก็อดที่จะชื่นชมน้ำในใจไม่ได้ รอยยิ้มของน้ำนั้นมักเผื่อแผ่ความสดใสไปถึงคนรอบข้างได้เสมอ เวลามองแล้วเหมือนต้องมนต์สะกดอะไรสักอย่างให้ยิ้มตามไปอย่างง่ายดาย



.



.



"ไปวันแรกก็ได้เพื่อนมาคุยแชทซะแล้วเพื่อนเรา" โจ้เอ่ยแซวแล้วส่งยิ้มล้อๆไปให้ ก็ตั้งแต่กลับห้องมาตัวเล็กแชทเด้งตลอด ...ก็ก่อนจะกลับบ้านพวกเขาสี่คนแลกเบอร์แลกไลน์กันเผื่อมีธุระจะได้คุยสะดวก และเบทก็เป็นคนสร้างกลุ่มแชทเอาไว้แล้วก็เป็นเบทที่สร้างบทสนทนาชวนคุยนู่นคุยนี่ไปเรื่อย

"และโจ้กับธามยังไม่มีเพื่อนหรอครับ" คนตัวเล็กถาม คืนนี้เป็นคืนสุดท้ายที่โจ้กับธามจะนอนด้วยพรุ่งนี้ก็ขนของกลับไปอยู่หอตัวเองแล้ว"

"ก็มีแหละ แต่แม่งจะชวนแดกเหล้า" ธามว่า

"ไม่ไปล่ะครับ" น้ำถามขึ้นมา เขาก็พอได้ยินเขาพูดๆกันมาว่าสังคมวิศวะ มีเหล้าเป็นส่วนประกอบเสมอ ขึ้นชื่อเสือผู้หญิง ฌอฮาปาจิงโก๊ะ

"ยังไม่อยากเมาตั้งแต่เปิดเทอมวันแรกน่ะ" ธามเงยหน้าขึ้นมาบอก น้ำส่ายหัวให้อย่างรู้ทัน พอคุ้นเคยกันแล้วทั้งสองคนก็คงไปทุกวันแหงๆ

'แม่ง พี่ผาแกนี่จริงๆเลยว่ะ เปลี่ยนหญิงเป็นว่าเล่น กูล่ะยอมใจ" โจ้พูดเปิดประเด็นใหม่ขึ้นมา พร้อมกับยื่นหน้าจอโทรศัพท์มาวางบนเตียง

"ใช่คนที่มานั่งเฝ้าเมื่อเย็นปะวะ" ธามถามแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูแล้วว่า น้ำเห็นว่าธามวางโทรศัพท์แล้วจึงหยิบขึ้นมาดูบ้าง"

"ไม่ใช่ว่ะ เมื่อเย็นผมสั้น นี่ผมยาว" โจ้ว่า

'The NewsZapp SSU : เอาอีกแล้วจ้า พี่ผาของชาว SS เมื่อตอนเย็นผมสั้น ตกกลางคืนผมยาวจ้า!! เสน่ห์แรงจริงจริ๊งงง!! ก็อย่างว่าอะนะ ทั้งรูปหล่อพ่อรวยแบบนั้น เป็นเจ๊เอง เจ๊ก็คงพลีกาย...พลีใจให้นั่นแหละ ป้องกันบ้างอะไรบ้างนะจ้ะพี่ผาของน้อง อ่ะเจ๊แซวเล่นน้าาา ฮิฮิ (*รูปนั่งหันหลังเห็นหน้าด้านข้างของทั้งคู่มือผาวางพาดกับพนักโซฟาเหมือนโอบผู้หญิงอยู่ในผับสักที่*)

likes 3,546 comments 1,324


พี่พุ่ม นะเออ : แหมเพื่อนกู เพลาๆบ้างไรบ้าง @Nakin Pha พวกมึงโุไอ้เสือมันควงเด็กไม่บอกเราว่ะ @Wan Wanin @วัช ตัวอ้วน

Bennzy : มึง..กูล่ะอยากเป็นหนึ่งในสต็อคของพี่เขาบ้าง  :sad4: @Giff ssu

หนูน้อย กลอยใจ : พี่ผาของน้องงง!!  :hao5:

เจ๊ฟ้า หน้าสวย : อิพี่ผา! มึงเอากูไปไว้ไหน กะเทยปวดใจ กระซิกๆ  :mew5:

วัช ตัวอ้วน : น้องนิเทศผมสั้นเมื่อเย็นไปไหนแล้วล่ะ หรือกินหมดแล้ว กิ๊วๆ

Nakin Pha :ไอ้พวกเชี่ยนี่แม่ง :ruready @พี่พุ่ม นะเออ @วัช ตัวอ้วน @Wan Wanin

Wan Wanin : อยู่เฉยๆกูยังโดน . . .

...บลาาาๆๆๆ...



"เรานอนก่อนนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นสาย" น้ำยื่นโทรศัพท์คืนให้โจ้แล้วคลานไปนอนที่ตัวเอง"

"เป็นไรปะวะน้ำ" ธามถาม

"เปล่าครับ แค่ง่วงๆน่ะ ฝากปิดไฟด้วยนะครับ" คนตัวเล็กว่าแล้วล้มตัวลงนอน

"เคๆ ขอดูหนังอีกพักนึง ดังไปบอกนะ" โจ้ว่าพร้อมกับเดินไปปิดไฟรอบห้องเหลือเพียงแสงจากโทรทัศน์

"ครับ" เขาตอบรับออกไปแล้วหลับตาลง เหมือนว่าหลับแต่จริงๆแล้วไม่ได้หลับหรอก ในสมองคิดอะไรเต็มไปหมด...

...ทำไมจะต้องเก็บเอามาคิดให้รกสมองด้วยนะน้ำ แค่คนเจ้าชู้คนนึง และคนๆนั้นเราก็บังเอิญรู้จัก และคงไม่ได้เจออีกแล้ว ควรนอนนะน้ำนะ ไร้สาระถึงขนาดเก็บเรื่องคนอื่นมาคิดนี่ไปใหญ่แล้วนะ....



น้ำบอกตัวเองในใจ เพราะความที่เกลียดคนเจ้าชู้เข้าไส้เลยทำให้เผลอคิดอะไรที่มันไม่ควรออกไป เขาไม่ได้มีประสบการณ์ตรงหรอก แค่เห็นและรับรู้จากเพื่อน จากสังคมรอบข้างมาบ้างก็เท่านั้นเอง ...น้ำส่ายหัวเฝือกับหมอนใบนุ่มไปมาเพื่อไล่ความคิดที่ไม่ดีออกไป ...เขาจะไม่ตัดสินใครเพียงเพราะว่าได้เห็นแค่รูปแล้วอีกอย่างน้ำก็ยังไม่รู้จักผามากเกินพอที่จะไปตัดสินอะไรได้ น้ำพลิกซ้ายพลิกขวานอนคิดนู่คิดนี่อยู่นานกว่าจะหลับแต่ในที่สุดความง่วงก็ครอบงำจอบผล็อยหลับไปในที่สุด



.



.



"ที่พี่เรียกรวมรู้มั้ยครับว่าเรื่องอะไร..." พี่ด้วงที่รับหน้าที่พิธีกรเอ่ยถามเสียงดัง วันนี้หลังจากที่ร้องเพลงเชียร์เสร็จแล้วรุ่นพี่ก็เรียกรวมเพราะมีเรื่องจะแจ้ง

"จำได้มั้ยครับเมื่อสองอาทิตย์ที่แล้วพี่ขอคำตอบจากน้องเรื่องอะไร" รุ่นพี่ปีสองคนเดิมยังคงเอ่ยปากถามต่อ

"ดาวเดือนค่ะ/ครับ" ทุกคนตอบพร้อมกันอย่างพร้อมเพรียง ต่างคนมองหน้ากันเลิกลัก

"แล้วได้กันยังคะ" รุ่นพี่อีกคนถามขึ้นมา

"ขอประชุมกันก่อนได้มั้ยคะ" ผู้หญิงตัวเล็กยกมือขึ้นขอกับรุ่นพี่

"สิบนาทีค่ะ" รุ่นพี่บอกเวลาเสร็จ พวกปีหนึ่งทั้งหมดก็นั่งล้อมกันเป็นวงกลม คนตัวเล็กกับเพื่อนใหม่อย่างอิ่มยืนอยู่วงนอก เพื่อนๆว่าไงเขาก็ว่าตาม

"พี่ด้วงคะได้แล้วค่ะ" ผู้หญิงคนเดิมยกมือขึ้นแล้วพูดออกมา

"ครับ"

"ฟ้ากับน้ำค่ะ" คนตัวเล็กได้ยินชื่อนั้นก็ไม่ได้แปลกใจอะไรเพราะน้ำผู้ชายมีอยู่สามคน คงไม่ใช่เขาแน่ๆ

"น้ำไหนล่ะหญิง มีตั้งหลายน้ำ" พราวที่ยืนอยู่กลุ่มเดียวกับคนตัวเล็กถามขึ้น

"น้ำสวยกลุ่มพราวนั่นแหละ" หญิงว่า ทุกคนหันมามองหน้าคนตัวเล็กที่เหวอไปแล้ว"

"ระ เรา เราเนี่ยนะ" น้ำถามออกไปอย่างตกใจ

"ใช่!" ทุกคนตอบพร้อมกันและส่งยิ้มมาให้

"เราไม่เหมาะหรอก เลือกคนอื่นเถอะ" น้ำบอกปฏิเสธไปอย่างลำบากใจ แต่เขาว่าเขาไม่เหมาะจริงๆ

"น้ำนั่นแหละจ้ะ" หญิงบอกพร้อมกับเอื้อมมือมาจับแขนตัวเล็กไว้"

"พราวก็ว่าน้ำนั่นแหละ" พราวว่าออกมามองหน้าเพื่อนตัวเล็กยิ้มๆ"

"พราวก็รู้..." คนตัวเล็กหันไปโอดครวญ ที่ว่าก็รู้นี่คือ ก็รู้ว่าเขาเป็นเด็กกำพร้า..."

"กูว่ามึงนั่นแหละ" อิ่มพูดขึ้นมานิ่งๆ

"อิ่มก็พูดได้นิครับ" คนตัวเล็กหันไปทำหน้ามุ่ยใส่เพื่อนตัวเอง คนมองมาแม้แต่รุ่นพี่เองก็ยังว่าน่ารัก

"ตกลงว่าไงครับ" พี่ด้วงเดินเข้ามาถาม"

"คือ...ผมว่าพี่เลือกใหม่เถอะครับ" คนตัวเล็กว่าอย่างเกรงๆ

"ทำไมล่ะน้ำ" รุ่นพี่คนสวยเดินเข้ามาถาม

"น้ำไม่เหมาะหรอกครับ น้ำไม่มีอะไรเลย น้ำไม่มีอะไรเลยสักอย่างเดียว... น้ำเป็นตัวแทนคณะไม่ได้จริงๆครับ" คนตัวเล็กพูดไปก็นึกน้อยใจ จะให้เขาพาคณะไปขายขี้หน้าได้ยังไง เขาไม่มีอะไรเลย ฐานะ รูปร่างหน้าตา ชาติตระกูล...หรือแม้กระทั่งพ่อแม่

"ผิดแล้วน้ำ น้ำมีมากกว่าพวกเราเยอะ ความมีน้ำใจของน้ำเวลาเพื่อนเดือดร้อน ไม่ว่าจะงานกลุ่มงานเดี่ยวน้ำทำได้น้ำก็อาสามาช่วยทำอยู่ดึกๆดื่นๆทั้งๆที่ไม่ใช่กลุ่มตัวเอง แค่เอ่ยปากขอให้น้ำช่วยน้ำก็ช่วย ความรับผิดชอบน้ำก็สูง เรียนก็เก่งควิซได้ท็อปตลอด ...น้ำ น้ำเหมาะสุดแล้ว" หญิงร่ายความดีของคนตัวเล็กออกมา ทุกคนก็พยักหน้าเห็นด้วย แม้แต่รุ่นพี่ที่ยืนฟังอยู่ก็เห็นด้วยกับสิ่งที่หญิงกล่าว

"ถ้าให้พวกพี่เลือกกันเองพี่ก็คุยกับพี่ปีสูงมาแล้วว่าน้ำเนี่ยแหละ เหมาะสมสุดแล้ว" ร่างสูง ใบหน้าหล่อเหลาคมเข้ม ก้าวเข้ามาพาดแขนบนไหล่บางแล้วเอ่ยออกมาพร้อมกับเสยผมไปข้างหลังทำให้เห็นใบหน้าชัดขึ้น

...ใช่ว่าพี่ปีสูงที่ไม่ค่อยได้ลงมาดูเพราะเรียนหนักแต่พวกเขาก็รู้เพราะรุ่นน้องปีสองปีสามมาเล่าให้ฟังตลอด และที่วันนี้ลงมาดูก็เพราะชื่อเสียงความน่ารักของเจ้าตัวเล็กนี่ถูกพูดถึงมากในหมู่พวกปีสูง วันนี้จึงพากันลงมาดู ทีแรกว่าจะแอบๆดูอยู่ห่างๆ แต่เหมือนกำลังจะมีปัญหาที่เคลียร์กันไม่ลงตัวก็เลยเข้ามาเผื่อช่วยให้คลี่คลายได้

"อ่าว 'พี่ใหม่' พี่ๆสวัสดีครับ/ค่ะ" รุ่นพี่ปีสองที่ยืนอยู่ต่างยกมือไหว้ปีสามที่เพิ่งเข้ามา ใหม่ส่งยิ้มส่งยิ้มหล่อไปให้ แต่ทุกคนรู้ดีเห็นยิ้มหล่อๆอย่างนี้ก็เถอะเนี่ยมันหมอเถื่อนคาสโนว่าตัวพ่อของชาว SS เชียวอย่าว่าแต่ SS เลย ตัวพ่อทุกสถาบันน่าจะถูกกว่า

"ว่าไงตัวเล็ก" ใหม่ที่รู้สึกเหมือนมีคนมองอยู่ก็หันกลับมามองสบตาคู่สวย คนตัวเล็กที่มองมาก่อนแล้วอยู่นานสองนาก็ถึงกับสะดุ้งน้อยๆ"

"อะ เอ่อ สวัสดีครับ" คนตัวเล็กยกมือไหว้

"ว่าไงตำแหน่งเดือนน่ะ" ใหม่ถามออกมาน้ำเสียงอ่อนโยน ที่พาลให้คนที่ได้ยินทั้งหลายจะละลาย

"ถ้าทุกคนเห็นว่าเหมาะ น้ำก็เคารพการตัดสินใจของเพื่อนๆและพี่ๆครับ" น้ำพูดออกมาสีหน้าดูโล่งใจมากขึ้น

"ดีมากครับคนเก่ง" ใหม่ว่าอย่างอ่อนโยนแล้วยกมือขึ้นขยี้หัวทุยเบาๆอย่างหมั่นเขี้ยว แล้วผละออกไป

...น่ารัก น่ารักมากกว่าที่ได้ยินมาซะอีก...



"ดูมึงจะสนใจน้องเขานะไอ้ใหม่" พอเดินออกมาจนพ้นโถงกลางเพื่อนสนิทในกลุ่มก็เอ่ยแซวขึ้นมา"

"ไม่สนใจสิบ้า" ใหม่ว่ายิ้มๆพลางนึกถึงหน้าคนตัวเล็ก

"แล้วมึงจะเอาไง"

"มึงก็รู้" ใหม่ว่ายิ้มชอบใจ

"มึงมันร้ายไอ้ใหม่" ใหม่ยักไหล่อย่างไม่แคร์

...หวังว่าคงจะจีบไม่อยากนะตัวเล็ก...





...100%...
...To Be Continued...

ออฟไลน์ มายซินนี่

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
Re: Bear in mind ...ผมไม่ร้ายนะครับ [YAOI] [ep.6]
«ตอบ #7 เมื่อ18-12-2017 02:00:14 »

[Episode 6​]






ครืดดด ครืดดด ครืดดด

คนตัวเล็กรู้สึกได้ถึงแรงสั่งอย่างต่อเนื่องในกระเป๋าจึงขอตัวเพื่อนๆและรุ่นพี่ออกมาเพื่อรับสาย คงไม่ธามก็โจ้แน่นอน...

'โจ้'

"ครับ" คนตัวเล็กกดรับสายแล้วกรอกเสียงลงไป

'น้ำเสร็จยัง' โจ้ตะโกนถาม เพราะปลายสายค่อนเสียงดัง

"ครับใกล้เสร็จแล้วครับ" น้ำบอกไป เพราะหลังจากที่เขายอมรับตำแหน่งเดือนคณะแต่โดยดี พวกรุ่นพี่ก็เตรียมตัวปล่อยกลับบ้านแล้ว

'เสร็จแล้วเดินมาที่ตึกเรานะ ท่าจะอีกนาน' โจ้บอก เสียงรอบข้างก็ยังคงดังโหวกเหวกโวย

"ครับ อีกสักพักพวกพี่เขาก็ปล่อยกันแล้วล่ะครับ"

'งั้นรีบมานะ จำได้ปะเนี่ยวันนี้มีนัด' โจ้ย้ำ

"ครับๆ จำได้ครับ" น้ำตอบกลับไป พลางนึกถึงเรื่องที่คุยกันเมื่อสองสามวันก่อนว่าวันนี้นัดกันไปทำอะไรกินกันที่หอเขา

'โอเคๆ เจอกัน' โจ้ตัดไปแล้วเขาก็เดินกับมาร่วมวงที่กำลังคุยกันอยู่ ผลสรุปเป็นเอกฉันท์คือน้ำถูกรับเลือกเป็นเดือนคณะ ส่วนดาวก็คือฟ้า สาวสวยตัวเล็กอัธยาศัยดี ก่อนจะปล่อยกลับ



"ก็ฟ้าอยากไป พาฟ้าไปด้วยไม่ได้หรอคะ" คนตัวเล็กกำลังจะก้าวออกจากตึก หูก็เกิดแว่วได้ยินชื่อเหมือนกับคนที่เขาเพิ่งรู้จักไปเมื่อไม่นานมานี้

"เดี๋ยวฟ้าไปก็งอแงกลับอีก" เสียงทุ้มนั่นทำให้คนตัวเล้กหันไปมอง เห็นเพียงข้างหลังแต่ก็รู้ได้ไม่ยากเลยเพราะเสื้อช็อปสีแดงเลือดหมูปักตัวอักษรสีเหลืองว่า 'วิศวะเครื่องกล' อะไรดลใจไม่รู้ให้คนตัวเล็กหยุดยืนอยู่ตรงนั้น

"ไม่งอแงแล้วฟ้าสัญญา" คนตัวเล็กมองดาวคณะแพทย์หมาดๆ ยื่นมือที่ชูนิ้วก้อยไปตรงหน้าร่างสูงอย่างออดอ้อน

"หึหึ ถ้างอแงต้องโดนทำโทษ รู้ใช่มั้ยคะ" ร่างสูงหัวเราะ ยื่นมือไปขยี้ผมสวยอย่างเอ็นดู...สาวร่างเล็กยิ้มรับอย่างร่างเริง น้ำที่ยืนดูอยู่นานก็ยิ้มให้กับภาพความรักตรงหน้าแล้วเดินออกมาก่อนที่สองคนนั้นจะเห็น

"อ้ะ น้ำนี่นา ดูรีบๆแหะ" ร่างสูงหันหลังกลับไปมองตามสายตาของฟ้าแล้วก็พบกับแผ่นหลังบางที่เขาจำได้ดี "รู้จักเขาด้วยหรอคะ" ผาหันกลับมาถามสาวร่างเล็กตรงหน้า

"รู้จักสิคะ น้ำนี่แหละที่เป็นเดือนแพทย์ปีนี้" ฟ้าบอกร่างสูงยิ้มๆ ร่างสูงหันกลับไปมองแผ่นหลังบางที่แทบจะลับสายตาอีกครั้ง

"แล้วจะกลับไงคะวันนี้" ร่างสูงหันกลับมาถาม

"วันนี้คนที่บ้านมารับค่ะ ผาไม่ต้องไปส่ง" สาวร่างเล็กยกมือขึ้นดูนาฬิกา

"โอเค งั้นเดี๋ยวสามทุ่มผาไปรับ ห้ามโป๊" ผาหันมาบอก น้ำฟ้าส่งยิ้มสวยมาให้แล้วพยักหน้ารับ ผาหันหลังขึ้นรถแล้วขับกลับคณะตัวเองไป



"เสร็จแล้วหรอ" น้ำที่มาถึงลานเกียร์ก็เข้ามาหาที่นั่ง สักพักโจ้กับธามก็เดินเข้ามา สภาพเหงื่อท่วมตัวดูมอมแมมไม่น้อยเลย วิศวะก็รับน้องหนักแบบนี้ตลอดแต่ก็คงจะสนุกน่าดู

"ยังหรอก นี่ให้พักรอพี่ปีสามมาวันนี้มีเฉลยสาย" ธามว่าออกมาหอบๆ

"ไปทำอะไรกันมาครับเนี่ย เหงื่อท่วมเลย" คนตัวเล็กเอ่ยถามพร้อมกับหยิบห่อทิชชูยื่นไปให้

"ไอ้โจ้ชวนคุยตอนประชุมเชียร์อ่ะดิ เลยโดนสั่งให้วิ่งรอบต้นไม้" ธามบอกพร้อมกับหันไปมองหน้าเพื่อนตัวดี

"มึงนั่นแหละไอ้ธามไม่ต้องมาโทษกู" โจ้เถียงกลับอย่างไม่ยอม และกำลังจะตีกันแต่ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาก่อน

"ปีหนึ่ง!!!" ได้ยินเพียงเท่านั้นโจ้กับธามก็รีบวิ่งไปทันทีไม่เอ่ยลาคนตัวเล็กสักคำ คนตัวเล็กได้แต่ส่ายหน้ายิ้มๆให้กับเพื่อนสองคน เขาเลยถือโอกาสนี้นั่งดูการประชุมของวิศวะไปในตัว...เขาอยากเห็นพี่ว้าก...

"สิบแถว!! ...ช้าครับ!!" น้ำได้แต่มองระบบว้ากอย่างทึ่งๆ แค่สองประโยคแต่ดูรุ่นน้องนับร้อยกระตือรือร้นที่จะทำมัน

"หนึ่ง! สอง! สาม! .... สิบ!" คนที่เป็นหัวแถวนับอยางไว ที่เหลือก็ทยอยกันเข้าแถวอย่างไวเช่นกัน

"ไวกว่านี้อีกได้มั้ยครับ!!" รุ่นปีไหนคนตัวเล็กไม่รู้แต่คนตัวเล็กรู้ดีว่าคนๆนี้เป็นพี่ว้ากชัวร์

"ครับ!!" ทุกคนตอบพร้อมกันเสียงดัง

"วันนี้จะเป็นวันเฉลยสาย ใครรู้แล้วก็แยกไปหาสายตัวเอง ใครที่ไม่รู้เดี๋ยวพี่คุณจะมาหาคุณเอง ทราบ!!" รุ่นพี่คนเดิมยังคงตะโกนบอก

"ทราบ!!" ตอบรับเสร็จทุกคนก็แยกย้ายออกไปหาสายปี่สองของตัวเอง เห็นโจ้กับธามแยกไปหารุ่นพี่ผู้ชายหน้ทหล่อตัวเล็กนึง พูดคุยกันแค่แปบเดียวก็วิ่งแยกออกมาทางที่คนตัวเล็กนั่งอยู่

"ทำหน้างสงสัยอะไรเบอร์นั้นน้ำ" ธามที่นั่งลงก่อนถาม เพราะเห็สีหน้าที่สงสัยแบบไม่ปิดบังนั่นมาตั้งแต่เขาผละออกมาจากพี่รหัส

"โจ้กับธามมีพี่คนเดียวกันหรอครับ" 

"อืม ปีนี้น้องเยอะกว่าพี่ พี่เขาบอกให้จับคู่กับเพื่อนเอา เรากับไอ้โจ้ก็เลยเลือกอยู่ด้วย" ธามอธิบาย

"อ๋อ" คนตัวเล็กพยักหน้าเข้าใจ

"ไปกันเถอะ หิวละ" โจ้ว่าหลังนั่งพักเหนื่อยมานานน้ำกับธามพยักหน้าเก็บสัมภาระแล้วสามคนก็ลุกเดินไป

"เดี๋ยว!" ทั้งสามคนหันไปทางต้นเสียง แล้วก็เห็นกลุ่มพวกผานั่งอยู่ ...นั่งอยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ยักจะเห็น คิดในใจอย่างสงสัย

"ครับ" ธามตอบ

"พวกมึงอ่ะ น้องไอ้ไผ่รึเปล่า" พี่คนที่พูดขึ้นมาถ้าจำไม่ผิดคงเป็นพี่วัชเพราะเขาจะเจ้าเนื้อหน่อยๆ

"ครับ!!" โจ้กับธามตอบออกมาพร้อมกัน

"ไอ้ไผ่มันบอกมึงรึเปล่าว่าสามทุ่มให้ไปเจอกันที่ซี๊ด" โจ้กับธามมองหน้ากันก่อนจะหลุบตามองคนตัวเล็กที่ยืนอยู่ตรงกลางที่เหมือนจะมีอาการงงเล็กน้อย

"พี่เขาให้เราไปผับ" โจ้ที่เห็ว่าตัวเล็กงง ก็ก้มลงกระซิบข้างหูเล็ก ผาที่มองคนตัวเล็กอยู่ก่อนแล้วก็เหมือนจะหงุดหงิดขึ้นมาจนพุ่มสังเกตเห็น

"ยังไง ปรึกษาแฟนหรอมึง" พุ่มเอ่ยถามแซวๆ

"ครับ วันนี้ผมนัดกันกินข้าวไว้ด้วย" โจ้ตอบออกไปทำให้พุ่มหน้าเสียไปนิด ทุกคนในโต๊ะเงียบกันหมด โจ้ก้มมองคนตัวเล็ก นึกว่าคนตัวเล็กจะทำหน้าตกใจแต่เปล่าเลยคนตัวเล็กกลับส่งยิ้มบางๆมาให้เขา ตอนมัธยมก็แบบนี้ ใครเข้ามาจีบโจ้ก็จะออกตัวเป็นแฟนน้ำให้ตลอดเพราะน้ำไม่ชอบให้ผู้ชายพวกนั้นเข้ามายุ่ง ทุกครั้งที่โจ้บอกแบบนั้นไปน้ำจะมีสีหน้าลำบากใจให้เห็น แต่คราวนี้กลับไม่เป็นแบบนั้น 

"งั้นมึงก็พาแฟนมึงไปด้วย" ผาที่นั่งเงียบอยู่นานพูดโพล่งขึ้นมา แล้วมองสบตาคนตัวเล็กตรงๆ คนตัวเล็กที่ถูกมองด้วยสายตาทรงเสน่ห์นั่นก็ถึงกับนิ่งไปชั่ววินาที โจ้แล้วหันมามองหน้าธาม

"พี่ๆนัดรวมสายกัน คงไม่ดีถ้าผมจะไปด้วยหรอกครับ" คนตัวเล็กบอกอย่างเกรงใจ เขาเองก็อยากไปนั่นแหละ แต่นี่เขาไปกับสายรหัสคนตัวเล็กก็กลัวว่าไม่เหมาะ

"พี่แค่อยากกินเหล้ากันเฉยๆเลยชวนสายไปด้วยกัน หลายๆคนสนุกดี เราก็ไปด้วยกันสิ เพื่อนก็ไปด้วยตั้งสองคนไม่ต้องกลัวพวกพี่หรอก" ชายเงียบของกลุ่มเอ่ยประโยคยาวเหยียดขึ้นมา ว่านอยากเห็นอีกมุมนึงของคนตัวเล็กนี่ ว่านแค่เกิดความสงสัยว่าคนอะไรจะพูดจะจาหรือทำอะไรก็ดูเรียบร้อยเจียมตัวไปหมด ...แอลกอฮอล์คงช่วยได้ น้ำเงยหน้ามองเพื่อนทั้งสองคนอย่างขอความเห็น

"อยากไปก็ไป ถือว่าเปิดประสบการณ์ครั้งแรกเมาได้เดี๋ยวแบกกลับเอง" โจ้แซวคนตัวเล็กอย่างขำๆ ทำคนตัวตัวเล็กยู่หน้าใส่

"อย่าเมาตั้งแต่สี่ทุ่มละกัน" ธามก็สมทบแซวด้วยอีกคน

"โอเคงั้นตกลงตามนี้ สามทุ่มเจอกันที่ซี๊ด" พวกเขาสามคนตอบรับพร้อมกัน ยกมือไหว้ลาพี่ๆทุกคนแล้วเดินออกไป





21.13 น. @ZeeD

ตอนนี้พวกเขาสามคนเขามาในผับแล้วเสียงเพลงบีทหนักๆดังขึ้นตังแต่อย่างก้าวเข้ามา แค่สามทุ่มคนก็เริ่มเยอะแล้ว ส่วนใหญ่ก็เด็กมหาลัย โจ้ต้องเดินกอดคอน้ำเอาไว้ตลอดเพราะน้ำเป็นเป้าสายตาตลอดตั้งแต่เดินเข้า ธามเดินนำเข้าไปด้านในแล้วพาขึ้นไปชั้นสองโซนวีไอพีตามที่พุ่มโทรแจ้งกับธามไว้

"มาแล้วครับ" ธามเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับรายงานตัวกับพี่ๆที่นั่งอยู่ พอคนตัวเล็กที่เดินตามเข้ามาทุกคนก็รวมสายตาไปที่น้ำคนเดียว ...ยีนส์ดำขาดเข่าสองข้างพับขากางเกงขึ้นโชว์ข้อเท้าขาว รองเท้าผ้าใบคอนเวิร์สแจ็คสีกรม เสื้อยืดสีขาวคอกว้างเล็กน้อย เผยผิวขาวและไหปลาร้าสวย ที่คอมีสร้อยเงินประดับไว้ทำให้คอขาวระหงส์นั่นดูหน้ามองเข้าไปอีก ผมที่ไม่ได้เซ็ตมาถูกเสยขึ้นในเวลานี้ ทำให้เจ้าตัวดูเซ็กซี่แบบไม่รู้ตัว ปากอิ่มกระจับแดงระเรื่อเผยอขึ้นน้อยๆเพื่อหายใจเอาอากาศเข้าปอด

...ผู้ชายอะไรจะเซ็กซี่ปานนี้วะ...

"เอ่อ สวัสดีครับพี่ๆ" น้ำที่สังเกตเห็นว่าพี่ๆที่นั่งอยู่ในห้องเงียบผิดปกติแล้วก็เอาแต่จ้องเขาก็เลยเอ่ยสวัสดีไปอย่างตะกุกตะกัก

"อืมๆ ไปนั่งๆ" ว่านตบโซฟาข้างๆตัวที่เป็นโซฟาตัวยาว แล้วน้ำก็ได้เห็นว่าโซฟาสำหรับสองคนนั่งมีชายหญิงคู่หนึ่งจับจองอยู่ ...พี่ผากับน้ำฟ้า... ผาอยู่ในชุดเสื้อยืดสีดำ กางเกงยีนส์สีเข้มรองเท้าหนังหุ้มข้อ ...ดูดี ดูดีมาก จะใส่จะแต่งอะไรก็ดูดีไปหมด น้ำคิดในใจไปถึงทุกครั้งที่เจอกับร่างสูง ทุกชุดร่างสูงไม่เคยไม่ดูดีเลย

"เอาอะไรดีล่ะเรา" ว่านเอ่ยถามคนตัวเล็กที่เข้ามานั่งข้างเขาถัดไปก็เป็นโจ้ธาม อีกฝั่งก็มีแค่วัชกับพุ่ม

"แบบพี่แล้วกันครับ" ว่านไม่รีรอที่จะชงให้ เพราะเหล้าที่เขาดื่มเข้มพอสมควร ทั้งๆที่มาครั้งแรกดูไม่ตื่นเต้นวางตัวดี มองสำรวจไปทั่วทั้งผับอย่างไม่น่าเกลียด

...วางตัวดีเกินไป ว่านคิดในใจ เขายื่นแก้วที่บรรจุน้ำแข็ง น้ำเมาสีอำพันเติมโซดาให้เพียงนิดเดียว คนตัวเล็กรับไปส่งเข้าปากตัวเอง ถึงจะเป็นครั้งแรกที่ดื่มเจ้าน้ำเมาสีอำพันนี่แต่เขาก็ไม่ได้ยี่หระต่อรสชาติขมปร่าแต่นุ่มลึกของมันเลย

...เขากำลังหงุดหงุด หงุดหงิดกับอะไรก็ไม่รู้ และถ้าเขาหงุดหงิดเขาจะนิ่ง...นิ่งมาก นัยน์ตาว่างเปล่า... อาการที่แสดงออกมาหลายคนอาจจะไม่เห็นแต่กับว่านผู้ที่ชอบสังเกตเขาเห็นอาการที่แปลกไป...เขายกยิ้มน้อยๆอย่างชอบใจ เขาชอบดูนิสัยแต่ละด้านของคน บางคนเขาก็มองออกแค่ปรายตามอง...แต่กับรุ่นน้องข้างๆนี่ เขามองไม่ออกสักอย่าง เขาชอบที่น้ำเป็นคนจริงใจน่ารักแบบนี้...แต่เขาก็อยากเห็นอีกด้านนึงของคนตัวเล็กนี่ด้วย ...น่าค้นหาชะมัด หนุ่มเงียบคิดในใจ พลางรับแก้วที่คนตัวเล็กยื่นมาให้

"รบกวนอีกแก้วนะครับพี่ว่าน" คนตัวเล็กเอ่ยออกมา เขาแอบทึ่งนิดๆนะที่คนตัวเล็กไม่แสดงอาการมึนออกมาเลย 

"ไม่มีปัญหาครับ" ว่านบอกพร้อมกับยื่นแก้วคืนให้

"ไงพวกมึง" ผู้ชายหน้าตาดีจัดกลุ่มหนึ่งเปิดห้องเข้ามาแล้วเอ่ยทัก ผู้ชายกลุ่มนี้ มี 'ดิน' ที่เป็นเพื่อนสนิทกับผาอยู่

"หวัดดีครับพี่ดิน" พวกรุ่นพี่ปีสามยกมือไหว้ น้ำเองก็ยกมือขึ้นไหว้ตาม คนที่ตัวเล็กได้ยินคนในโต๊ะเรียกว่า พี่ดิน หันมาสบตากับเขา เขาชะงักไปนิดนึงกับสายตาเจ้าชู้ที่ส่งมาให้

"ไอ้ว่านกูขอนั่งด้วยนะ" ร่างสูงของดินเดินเข้ามานั่งแทรกระหว่างว่านกับน้ำทันทีที่พูดเสร็จ

"คิดจะทำอะไรอีกล่ะเพื่อนกู" เพื่อนในกลุ่มของดินที่มาด้วยกันพูดขึ้นมาอย่างรู้ทันเพื่อนจอมเจ้าชู้ของตัวเอง

"เงียบๆแล้วไปหาที่นั่งไปมึง" ดินหันไปบอกเพื่อนอย่างเอาเรื่อง แล้วหันกลับมามองคนตัวเล็กข้างๆนี่อย่างถูกชะตา

"ชื่ออะไรครับ" ดินถามออกไป น้ำหันกลับมามองร่างสูงที่เพิ่งเข้ามานั่งแทรกแล้วตอบไป

"น้ำครับ" คนตัวเล็กส่งยิ้มบางๆไปให้แล้วยกแก้วในมือขึ้นกระดกเป็นแก้วที่สามแล้ว

"ปีหนึ่งหรอ พี่ไม่เคยเห็นน้ำเลย" ดินถามออกมา

"น้ำเรียนแพทย์น่ะครับ พี่เลยไม่เคยเห็น" คนตัวเล็กตอบออกมาพร้อมกับส่งยิ้มหวานไปให้   ดินมองสำรวจใบหน้าขาว แก้มแดงด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ ที่ดูสวยเกินชาย ปากกระจับแดงระเรื่อ สร้อยเงินเส้นสวยที่ทำให้คอขาวน่ามอง...คนข้างๆจะรู้ตัวมั้ยว่าตัวเองเซ็กซี่และมีเสน่ห์ขนาดไหน

"ชื่อเล่นชื่อน้ำชื่อจริงนี่เกี่ยวกับน้ำด้วยมั้ยเนี่ย" ดินถามออกมาเพื่อจะชวนคนตัวเล็กคุย ถึงจะยิ้มจะตอบ แต่คนตัวเล็กก็ยังดูนิ่งมากอยู่ดี

"ครับ รู้ได้ไงครับ" คนตัวเล็กหันกลับมามองอย่างตกใจ

"อ่า... แค่เดาเอาน่ะ" ร่างสูงตอบออกมานิ่งๆ สายตาแพรวพราวยังส่งมาไม่หยุด เขาเผลอจ้องมองเข้ากับดวงตากลมโตตรงหน้าเข้าให้อย่างจัง แล้วมันก็ทำให้ยากที่จะดึงสายตาและสติกลับมา

"ผม...พูดอะไรผิดไปรึเปล่าครับ" คนตัวเล็กถามออกไปอย่างเป็นห่วง เพราะเห็นว่าดินเอาแต่จ้องตัวเองนิ่ง

"เปล่า แค่...ตาสวยดี" ดินพูดออกมาเหมือนกับคนละเมอ คำพูดที่ดินพูดออกมาตรงๆแบบนั้น ไม่ยากเลยที่จะทำให้คนตัวเล็กของเราเขินจนหน้าขึ้นสี เสหลบตาอย่างช่วยไม่ได้

ผาที่มองเหตุการณ์มาตั้งแต่ต้นก็นึกหงุดหงิดใจกับภาพที่เห็น...คุยกัน ยิ้มให้กัน แถมยังเขามือลูบหัว เขาดูก็พอจะรู้ว่าเพื่อนสนิทเขาสนใจคนตัวเล็กนี่ไม่น้อยเขายกแก้วกระดกเหล้าเข้าปากไม่ขาดพลางคิดในใจ

ดินเองรับรู้ได้ถึงอาการผิดปกติของเพื่อนสนิทที่นั่งฝั่งตรงข้ามมาสักพักแต่ก็ไม่ได้คิดอะไร จนมาตอนนี้เขาเองก็พอจะรับรู้ได้แล้วว่าไอ้เพื่อนตัวดีของเขาเป็นอะไร ...ท่าทีที่ดูหงุดหงิดร้อนรนจนแทบปิดไม่มิดนั่น เขารู้ดีว่ามันเป็นเพราะอะไร...แต่ก็อย่างว่าแหละนะเด็กมันเสน่ห์แรง ในห้องนี้ก็ไม่ใช่แค่เขาหรือผาหรอกที่คิดแบบนั้น ...ใครดีใครได้ ดินยิ้มให้กับตัวเองเล็กน้อยก่อนจะขอตัวลุกไปรมกลุ่มกับสายรหัสของตัวเอง ...วันนี้ปล่อยไปก่อนแล้วกัน ยังต้องเจอกันอีกนาน



...หึ เสน่ห์แรงจริงๆ ไหนจะไอ้โจ้ ไหนจะพี่ดินอีก เห็นว่าไม่ทำอะไรคงจะไม่ได้กาล...

"น้ำ พอได้แล้วมั้งเดี๋ยวเมาหรอก" โจ้หันมามองคนตัวเล็กที่ตอนนี้นั่งกระดกแก้วที่ห้าหรือหกไปแล้ว ก็ไม่รู้ แล้วแต่ละแก้วที่พี่ว่านชงให้เบาซะที่ไหน เขายังไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนตัวเล็กนี่ไม่เคยดื่มมาก่อน ถ้าไม่ได้อยู่ด้วยกันทุกวันบอกให้ตายไงก็ไม่เชื่อ...

"ขอน้ำเหอะ สัญญาจะไม่เมา" คนตัวเล็กบอกนิ่งๆ โจ้กับธามเองสังเกตคนตัวเล็กมาตั้แต่มาถึงแล้วว่าคนตัวเล็กนี่นิ่งกว่าปกติ เขารู้ทันทีว่าคนตัวเล็กกำลังหงุดหงิดแต่เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าไปหงุดหงิดอะไรใครมา

"ไปหงุดหงิดใครมาล่ะ" โจ้ก้มลงไปกระซิบข้างหูคนตัวเล็กเพราะไม่อยากให้ใครได้ยิน และรู้ว่าคนตัวเล็กนี่กำลังหงุดหงิด "น้ำก็ไม่รู้เหมือนกัน" คนตัวเล็กยืดตัวขึ้นแล้วกระซิบข้างหูโจ้  การกระทำใกล้ชิดแบบนี้ผามองมันอยู่ตลอดและชักเริ่มที่จะรู้แล้วว่าอะไรที่ทำให้เขาหงุดหงิด...



ปึก!!

"ชงดิ่" ผากระแทกเหล้าลงกับโต๊ะตรงหน้าว่านเสียงดังจนทุกคนในโต๊ะหันมามอง โจ้กับน้ำก็ผละออกมามอง ผามองสบตาคนตัวเล็กนิ่งๆ คนตัวเล็กเองก็มองกลับไม่ถอยเช่นกัน ว่านและเพื่อนของคนตัวเล็กสัมผัสได้ถึงความคุกรุ่นของคนทั้งสอง

"ไปโมโหใครมาไม่ทราบ" พุ่มที่เริ่มจะกรึ่มๆเอ่ยถาม

"นั่งกินไปเงียบๆเหอะมึง" เป็นวัชที่ตอบขึ้นมาแทน

"มองใครเกรงใจฟ้ามั่งสิคะ" น้ำฟ้าที่เห็นร่างสูงข้างๆมองเพื่อนเดือนของเธอก็ยืดตัวกระซิบเอ็ดข้างหูเบาๆ

"หวงหรอ" ผาถามยิ้มๆ

"หวงซี่" น้ำฟ้าทำหน้ายู่เชิดขึ้นอย่างน่ารัก การแสดงออกที่คนทั้งคู่กำลังทำต่อกันอยู่ใครที่มองมาก็ต่างมองว่ามันเป็นอะไรที่น่ารัก น่าอิจฉามาก ผาอยู่กับคนอื่นไม่เคยยิ้มและพูดขนาดนนี้...แต่กลับผู้หญิงคนนี้กลับทำให้ผายิ้มและพูดออกมาโดยไม่ฝืนเลยสักนิด ...จากที่คนตัวเล็กหงุดหงิดอยู่กลับยิ่งหงุดหงิดขึ้นไปอีก

"ไปเข้าห้องน้ำนะ" คนตัวเล็กหันไปบอกกับโจ้แล้วกำลังจะลุกขึ้น

"เดี๋ยวค่อยไปไอ้ธามมันเข้าอยู่" โจ้ว่า

"งั้นเดี๋ยวไปเข้าข้างนอก" ว่าจบตัวเล็กก็เดินออกไปทันที เขาไม่ได้รู้ทางดีอะไรขนาดนั้นแค่ตอนขึ้นมาแล้วบังเอิญเห็นว่าอยู่สุดทาง ห้องน้ำชั้นสองไม่ค่อยถูกใช้มากนักเพราะภายในห้องวีไอพีจะมีห้องน้ำอยู่ในตัวอยู่แล้ว ที่นี่จึงไม่มีคนเข้าเลย ทางเดินก็เปิดไฟสลัวๆเสียงเพลงบีทหนักๆดังลอดเข้าหู ร่างเล็กรู้ตัวดีว่าตัวเองเริ่มมึนแล้ว



ซ่าา!!

คนตัวเล็กเดินไปที่เค้าท์เตอร์อ่างล้างมือ เปิดน้ำแล้ววักลูบหน้าตัวเองเพื่อดับอารมณ์หงุดหงิด เขาไม่เข้าใจว่าจะหงุดหงิดทำไม...ไม่เข้าใจตัวเองจริงๆ เมื่อกำจัดอารมณ์หงุดหงิดของตัวเองได้แล้วก็เดินออกมา

หมับ!

"อ๊ะ! คุณ!..." คนตัวเล็กร้องออกมาอย่างตกใจ ร่างสูงที่โอบเอวคนตัวเล็กให้เข้ามาใกล้ก็มองพิจารณาใบน่าน่ารักที่กำลังตกใจอย่างเอ็นดู เขาเห็นคนตัวเล็กเดินออกมาจากห้องเขาก็เลยตามออกมาบ้างอ้างกับเพื่อนว่าจะออกไปสูบบุหรี่ข้างนอก แล้วก็มาดักรอคนตัวเล็กตรงทางเดินหน้าห้องน้ำนี่

"อืม ฉันเอง" ร่างสูงว่ายิ้มๆ นึกขำกับใบหน้าที่ตกใจของคนตัวเล็กนี่ขึ้นมา

"ปล่อยครับ" คนตัวเล็กพยายามดันออก ร่างสูงพิงกำแพงแล้วกระชับอ้อมแขนแน่นขึ้นทำให้คนตัวเล็กขยับมายืนตรงหว่างขาของร่างสูงอย่างช่วยไม่ได้

"ผอมกว่าที่คิด" ร่างสูงไม่ว่าเปล่าแต่ยังเอามือมาจับเอวคนตัวเล็กเอาไว้อย่างถือวิสาสะ

"อ๊ะ! ปล่อยผมเถอะครับ" คนตัวเล็กพยายามดิ้นและหันซ้ายหันขวาอย่างกลัวใครมาเห็น

"ไม่มีใครมาหรอก" ร่างสูงว่า

"ปล่อยผมเถอะครับคุณผา" คนตัวเล็กขอดีๆ ร่างสูงขมวดคิ้วอย่างไม่ชอบใจ

"ทำไมไม่เรียกฉันว่าพี่อย่างที่เรียกคนอื่น" ผาถามออกไป

"ไม่รู้ครับ" ร่างเล็กตอบพร้อมกับมองหน้าร่างสูง ผาเงียบไป น้ำเองก็หยุดดิ้นแล้วเพราะเหนื่อย แถมมึนๆหัวด้วย ...ผามองปากกระจับนั่นที่ขยับบอกให้เขาปล่อยอย่างชอบใจ 

"...อยากจูบ" ผาก้มลงไปกระซิบชิดข้างหูใบหูเล็ก สัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนที่รดอยู่กับใบหู ทำให้คนตัวเล็กย่นคอหนี ใบหน้าร้อนผ่าวจนต้องก้มหน้าหนีสายตานั่นจนคางเกือบชิดอก แล้วเอ่ยถามออกมาอย่างไม่เข้าใจ

"ทำไม"   ...ก็แฟนนั่งอยู่ในห้องนะ มาขอจูบคนอื่นแบบนี้ได้ไง...

"...อยากจูบ" ร่างสูงพูดออกมาอีกครั้งคนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมามองหน้าร่างสูงอย่างไม่ชอบใจ

"แฟนคุณอยู่ในห้องนะครับ ปล่อยผม อื้อ!" ร่างสูงไม่รอให้คนตัวเล็กพูดจบก็ประกบปากลงไปที่ปากกระจับแดงระเรื่อนั่นที่ขัยบยั่วอย่างหมดความอดทน คนตัวเล็กเบิกตากว้างอย่างตกใจ กำลังจะผลักออก แต่ร่างสูงกลับดูดเม้มริมฝีปากล่างของเขาไปมาอย่างหยอกเย้า ทำให้คนตัวเล็กเผลอเคลิ้มตามไป แต่คนตัวเล็กก็ยังไม่ยอมเปิดปาก ร่างสูงจึงผละออกมา พูดชิดริมฝีปากน่าจูบนั่น

"อยากชิม.."

ฉ่า!

คนตัวเล็กรู้สึกได้ทันทีถึงเลือดที่สูบฉีดไปที่ใบหน้า เขาเขิน...เขินจนใบหน้าขึ้นสีแดงระเรื่ออย่างหน้ามอง...ทั้งๆที่รู้ว่าไม่ควรแต่ก็ยังจะรู้สึก

คนตัวเล็กไม่ได้ตอบอะไรแต่ช้อนตามองร่างสูง ไม่ได้มีเจตนาจะยั่วหรืออะไร แต่ร่างสูงคิดไปแล้ว ร่างสูงจัดการผลิกตัวเล็กติดกำแพงแล้วเริ่มประกบจูบอีกครั้ง เขากำลังจะหงุดหงิดเพราะคนตัวเล็กไม่ยอมตอบโต้และเปิดปากให้เขา เขากำลังจะผละออก แต่ก็ต้องตกใจ เพราะคนตัวเล็กยกมือขึ้นโอบรอบคอเขาไว้แล้วเม้มดูดปากเขาอย่างที่เขาเคยทำกับคนตัวเล็กไป ถึงมันจะเงอะๆงะๆแต่เขากลับชอบ  คนตัวเล็กเผยอปากออกเล็กน้อยเขาจึงสอดเรียวลิ้นเข้าไป ดูดดึงเกี่ยวกระหวัดจนน้ำสีใสไหลเลอะมุมปากสวย คนตัวเล็กจูบตอบอย่างไม่ประสา ทำตามที่ร่างสูงชักนำ...ทั้งๆที่ไม่ควรทำแต่ก็ยังทำ แต่ทำให้คนร่างสูงอารมณ์เตลิดไปไกล  ...หวาน หวานมาก...

ร่างสูงคิดในใจพร้อมกับมือที่ลูบวนอยู่ตรงเอวก็เลื่อนขึ้นมาหายเข้าไปในเสื้อยืดตัวบาง ร่างเล็กที่มีสติครบถ้วนเบือนหน้าหนีแล้วรีบตะครุบมือหน้านั้นไว้ 

"ทำไม" คนร่างสูงถามอย่างไม่เข้าใจ

"แฟนคุณ" ร่างเล็กว่า

"...ใครสน" ร่างสูงขมวดคิ้วและเงียบไปนานก่อนจะเลื่อนใบหน้าคมดุมากระซิบตอบชิดใบหูเล็ก คำตอบนั้นทำให้คนตัวเล็กตกใจไม่น้อย คิดไม่ถึงว่าคนตรงหน้าจะเป็นแบบนี้...

"ช่วยปล่อยผมด้วยครับ" น้ำพยายามดันร่างสูงออกแต่ก็ไม่เป็นผล

"ฉันจะจีบนาย..." น้ำไม่ได้รู้สึกเขินเลยกลับคำบอกเล่านั้นของร่างสูง แต่กลับรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก

"ปล่อย!" ร่างเล็กที่เริ่มจะคุมอารมณ์ไว้ไม่อยู่ ก็เริ่มใช้เสียงที่ดังขึ้นมา ร่างสูงผละออกมามองหน้าคนตัวเล็ก แล้วก็พบกับสายตาว่างเปล่าที่ดูเย็นชาไร้ความรู้สึกนั่น



...ว่างเปล่าจนน่ากลัว...

ร่างสูงรู้สึกอึดอัดขึ้นมาในอกอย่างไม่เคยเป็น มองสายตาว่างเปล่าของคนตัวเล็กนั่นอย่างทำอะไรไม่ถูกจึงปล่อยคนตัวเล็กออก

หลุดออกมาได้ก็กลับโต๊ะ นั่งดื่มต่อเงียบๆ ร่างสูงก็เดินตามกลับเข้ามาแล้วนั่งคุยกับน้ำฟ้าต่อราวกับว่าเมื่อครู่นี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ร่างสูงมองหน้าคนตัวเล็กบ่อยจนรู้สึกอึดอัด แทบอยากจะเดินหนีหายออกไปแต่ก็ทำไม่ได้



...น้ำ แกมันน่าสมเพชชะมัดเลยนะรู้มั้ย...

คนตัวเล็กกระตุกยิ้มมุมปากให้กับตัวเองพร้อมกับเงยหน้าขึ้นสบตากับร่างสูง รอยยิ้มที่ให้ตัวเองถูกส่งไปยังอีกคน ไม่ใช่แค่ผาเท่านั้นที่เห็นรอยยิ้มนั้น ว่านและเพื่อนทั้งสองของตัวเล็กเองก็เห็นมันด้วยเช่นกัน และเขาก็คิดเหมือนกันว่ามันดูน่ากลัวแปลกๆ เพียงแค่แสงไฟหลากสีส่องกระทบเพียบวินาทีเดียวรอยยิ้มเย็นนั่นก็หายไปเหลือเพียงใบหน้าสวยยามปกติ ที่กำลังกระดกดื่มน้ำสีอำพันลงคอ





...100%...

…To Be Continued…



งุ้ยยยย~ วันนี้เอามาฝากก่อน 6 ตอน เป็นอะไรยังไงก็ติชมกันได้นะเจ้า บ่ต้องเกรงใจ แน่นอนว่าคนเขียนมือใหม่อย่างเราคงต้องการคอมเม้น คำติชม จากคนอ่านอยู่แล้ว เนอะ ขอให้สนุกกับการอ่านน้า~

ปล.  ตอนนี้เขาจูบกัน ฮริ๊งงงง เขิล  :oni2:

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
Re: Bear in mind ...ผมไม่ร้ายนะครับ [YAOI] [ep.6]
«ตอบ #8 เมื่อ18-12-2017 12:50:00 »

หื้มมม นายเอกเหมือนจะมีมุมดาร์กหลบซ่อนอยู่ข้างในนะเนี่ย ก็หวังว่านายเอกจะดาร์กในทางที่ดีไม่ใช่ดาร์กแบบสายยั่วไปล่อหลอกให้ใครๆมาหลงนะ ถ้าเป็นแบบนั้นเราคงผิดหวังแย่

เรื่องสนุกดีค่ะ คิดว่าผาน่าจะเป็นพระเอกนะแต่พฤติกรรมก็น่าตบมากเช่นกัน รอติดตามค่ะ

ออฟไลน์ หนูน้อยหมวกแดง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: Bear in mind ...ผมไม่ร้ายนะครับ [YAOI] [ep.6]
«ตอบ #9 เมื่อ18-12-2017 13:40:00 »

เรื่องน่าสนใจดีค่ะ หวังว่าน้ำจะไม่หวั่นไหวง่ายๆนะ พี่ผาดูเจ้าชู้มากก  :katai5: :katai5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Bear in mind ...ผมไม่ร้ายนะครับ [YAOI] [ep.6]
« ตอบ #9 เมื่อ: 18-12-2017 13:40:00 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ มายซินนี่

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
Re: Bear in mind ...ผมไม่ร้ายนะครับ [YAOI] [ep.7]
«ตอบ #10 เมื่อ18-12-2017 14:22:44 »

[Episode 7​]





"เห้อ..." เสียงถอนหายใจรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ของวัน สองสามวันมานี้เขาเอาแต่คิดถึงเรื่องที่ผับคืนนั้นไม่หยุด เรียนก็ไม่มีสมาธิจนต้องยืมแลคเชอร์อิ่มมาลอก คนตัวเล็กดูนิ่งกว่าปกติ จนพราวกับเบทต้องคอยชวนคนตัวเล็กคุยตลอด อยากถามว่ามีปัญหาอะไร แต่ก็ยังไม่สนิทพอที่จะเข้าไปก้าวก่าย

"มีเรื่องเครียดอะไรกันน้ำ" โจ้กับธามมองหน้ากัน แล้วก็เป็นโจ้ถามออกมาอย่างอดเป็นห่วงไม่ได้ เพราะเห็นน้ำมีอาการแบบนี้ตั้งแต่วันที่ไปผับ หลายวันมานี้เขาทั้งสองคนเป็นห่วงคนตัวเล็กมาก อยากจะถามแต่ก็ไม่กล้าแต่คิดว่าปล่อยให้นานกว่านี้คงไม่ดีแน่ๆ

"เปล่าครับ" น้ำตอบปัดไปแล้วกลิ้งตัวนอนคว่ำหน้าลงกับเตียง คนตัวเล็กรู้ดีว่าเพื่อนทั้งสองเป็นห่วงเขา ตั้งแต่วันอาทิตย์โจ้กับธามก็มาอยู่เพื่อนเขาตลอด ...ธามมองไปยังคนตัวเล็กที่นอนคว่ำหน้าอยู่พลางนึกถึงไปวันที่ไปผับ...แล้วพยายามปะติดปะต่อเรื่องราวจากการที่เขาสังเกตเห็นความผิปกติมา เขาเป็นคนไม่ค่อยยุ่งเรื่องอะไรของใครอยู่แล้ว แต่กับเพื่อนตัวเล็กของเขานี่คือข้อยกเว้น

"เรื่องที่ผับเมื่อวันศุกร์ใช่มั้ย" ธามนั่งลงปลายเตียงแล้วถามเสียงจริงจัง คนตัวเล็กเงียบไม่ตอบอะไร...นั่นแสดงว่าใช่ ธามเป็นคนตรงๆอยากรู้อะไรก็ถาม ใครถามอะไรก็ตอบ...คนตัวเล็กก็เช่นกัน เขาสามคนมักคุยกันตรงๆตลอด จึงไม่แปลกถ้าธามจะถามอะไรไปตรงๆแบบนี้

"...พี่ผารึเปล่า" ธามยังคงว่าต่อ

"อือ" คนตัวเล็กครางรับเสียงอู้อี้ ...ข้อสันนิษฐานเขาคงไม่ผิด

"...ตอนที่น้ำออกไปเข้าห้องน้ำ เกิดอะไรขึ้นรึเปล่า" คนตัวเล็กที่ได้ยินคำถามนั้นก็ตกใจลุกพรวดขึ้นมา เห็นโจ้กับธามจ้องมาด้วยสายตาจริงจัง ...คนตัวเล็กเม้มปากแน่นก่อนจะหลบสายตาแล้วพยักหน้าลงตอบคำถามของธาม

"...เขาทำ ...อะไรน้ำ" โจ้ถามออกมาบ้าง เขาสามคนสนิทกันจึงไม่ค่อยมีเรื่องอะไรที่จะปิดบัง ...ถ้าไม่เต็มใจบอกเขาจะไม่บังคับกัน

"ไม่บังคับ..." ธามว่าต่อ คนตัวเล็กเม้มปากแน่นก้มหน้าจนคงแทบชิดอก

"...เขา คือ...เขา เขา...จูบเรา แล้วบอกว่าจะ... จะ จีบ" คนทั้งสองที่ได้ฟังมองหน้ากันทันที คิดไว้อยู่ว่าพี่ผามองน้ำแปลกๆแต่ก็ไม่คิดว่าจะทำแบบนี้ แต่ก็ยังตกใจอยู่ดี

"...แล้วน้ำคิดไง" ธามถามเพราะเห็นท่าทีหลายวันมานี้คนตัวเล็กตัวเล็กคิดไม่ตกเลย

"น้ำ...ไม่ชอบเลยธาม ไม่ชอบที่เขาทำแบบนี้กับเรา..." คนตัวเล็กว่าพลางเอาหัวมาพิงกับไหล่ของธาม เวลาเครียดคิดอะไรไม่ออกน้ำก็จะขี้อ้อนขึ้นมาเหมือนเด็กๆ...จะไม่ให้เอ็นดูยังไงไหว

"แล้วน้ำรู้สึกยังไงกับเขา" โจ้ถามแล้วเดินเข้าไปนั่งปลายเตียงข้างๆน้ำ

"...ไม่รู้" คนตัวเล็กเงียบคิดไปนิดนึงก่อนจะตอบออกมา ธามกับโจ้มองหน้ากันอีกครั้งแล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ

"คิดดูแล้วหรอที่ตอบมาเนี่ย" โจ้ถาม

"น้ำไม่ได้คิดอะไรจริงๆ แค่ไม่ชอบที่เขาทำแบบนี้ เขามีแฟนแล้วนะโจ้ก็เห็น แล้วแฟนพี่เขาก็เพื่อนในคณะ ฟ้าเป็นเพื่อนน้ำ โจ้จะให้น้ำรู้สึกดีหรอ จะให้น้ำดีใจหรอที่เขามาจูบและก็มาบอกว่าจะจีบเราเราแบบนั้น..." คนตัวเล็กโพร่งออกมาหมดเปลือกพร้อมกับเอาหัวทุยเฝือไปกับไหล่ธาม...พอบอกไปแล้วก็รู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก ทั้งสองคนได้ฟังก็นึกถึงวันที่ไปผับ...พี่ผาเอาผู้หญิงสวยไปด้วยคนนึง หรือว่านั่นจะเป็นแฟนตัวจริงที่เขาลือกันวะ

"งั้นก็ไม่ต้องคิดมากแล้ว" ธามบอกพร้อมกับยกมือขึ้นขยี้หัวทุยเบาๆ

"ไม่คิดไม่ได้หรอก เจอหน้าฟ้าทุกวัยเลย...รู้สึกผิดยังไงไม่รู้" คนตัวเล็กบอกพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมา

"ถ้าน้ำไม่ได้รู้สึกอะไรกับพี่เขา น้ำไม่ต้องรู้สึกผิดหรอก...หรือว่าน้ำรู้สึกอะไรกับพี่เขา" ธามบอกยังไม่ทันจบประโยคดีคนตัวเล็กก็ส่ายหัวทันที

"คนแบบนั้นน้ำไม่รู้สึกอะไรด้วยหรอก" คนตัวเล็กบอกอย่างจริงจัง...เขาไม่ชอบคนเจ้าชู้

"ดีมาก งั้นไปหาไรกินเหอะ หิวละเนี่ย" ธามยื่นมือไปขยี้หัวคนตัวเล็กแรงๆก่อนจะลุกเดินออกไปจากห้องเป็นคนแรก

"สงสัยจะหิวจัดนะมึง" โจ้ว่าพร้อมกับส่ายหัวเอือมๆส่งไปให้ เรื่องกินขอให้บอกไอ้ธามเถอะ



.



.



.



มาถึงร้านข้าวทุกคนก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นระหว่างรอข้าวมาเสิร์ฟ คนตัวเล็กเองก็หยิบขึ้นมาเล่นบ้าง เขายังเล่นไม่คล่องนักหรอกแต่ธามกับโจ้ก็บอกว่าเล่นบ่อยๆจะได้คล่อง แต่เขาว่ามันจะติดมากกว่านะ ...พอเขาเปิดสัญญาณอินเตอร์เน็ตสมาร์ทโฟนของเขาก็สั่นอย่างบ้าคลั่ง ทั้งเฟสบุ๊ค อินสตราแกรมและทวิตเตอร์ เขากดเข้าดูเฟสบุ๊คเป็นอันแรก เขาก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าการแจ้งเตือนคำขอเป็นเพื่อนมากจนน่าตกใจ เขาเลื่อนดูแล้วกดเข้าแอพพลิเคชั่นอื่นต่อ ยอดฟอลโล่ในอินสตราแกรมก็พุ่งสูงขึ้นมากเหมือนกัน ในนั้นมีรูปเขาแค่สองสามรูปและมันก็มียอดถูกใจพุ่งทะลุพันไปแล้ว...อะไรกันเนี่ย!?

"น้ำ...เมื่อสิบกว่านาที" โจ้ว่าแล้วยื่นสมาร์ทโฟนมาให้ คนตัวเล็กหยิบขึ้นมาดูอย่างงงๆ


'The NewsZapp SSU : ข่าวใหม่ ข่าวสด ข่าวด่วนค่าาา~ เดี๊ยนพึ่งได้มาสดๆร้อนๆส่งตรงจากแพทย์เลยจ้า ดาวเดือนแพทย์ปีนี้แซ่บเวอร์ ดาวว่าแซบแล้วเดือนนี่แซ่บกว่า แอร๊ยยย! คนพูดถึงกันเยอะยะทั่ว SS ของเราเลยทีเดียวเชียวกับน้องน้ำ ธารา ว่ากันว่านางเป็นขวัญใจชาวแพทย์เด้อ เป็นที่รักที่เอ็นดู ที่สำคัญนางน่ารักมากกก ก.ไก่ล้านตัว นิสัยก็ดีเวอร์ เรียนก็เก่งเวอร์ รูปร่างหน้าตาผิวพรรณ โอ๊ย ดูดีไปโม๊ดดดด~ แต่สายสืบของเราบอกมาว่านางเป็นเด็กพี่ใหม่หมอเถื่อนนาจา เห็นกอดคอส่องหน้ายิ้มหวานให้กันอยู่เด้ อ่ะไปดูรูป ปล.รูปเมื่อวันศุกร์ที่แล้วนะคะลูกเพจ

*รูปข้างหลังใหม่กอดคอน้ำ, รูปเห็นหน้าน้ำมองใหม่อยู่, รูปใหม่กับน้ำมองหน้ากัน*

likes 5,501 comments 2,674

ญ.หญิง โสภา : เพื่อนเราเอง บอกเลยใครอยู่ใกล้ก็หลง

PinkProw : โอ้ย พึ่งจะเห็นสายตาพี่ใหม่ ละมุนอะไรเบอร์นั้นคะ มาดูเพื่อนสุดน่ารักของพวกเธอสิ @เบท ผู้น่ารัก @ไออิ่มเอม

ปุยฝ้าย : ช็อตนี้กะเทยยอมค่ะ*กระอักเลือด*

โกโก้ครั้น : สาบานว่านี่ผู้ชาย*ร้องไห้* อิผิงมึงมาดู @pingping
พี่พุ่ม นะเออ : ภาพสวยเนอะ ว่ามั้ย*กระตุกยิ้มมุมปาก* @วัช ตัวอ้วน @Wan Wanin

ปิงสุดหล่อเองครับ : นี่มันเพื่อนตัวเล็กสุดน่ารักของมึงปะวะ @Joejarukit @Time thanin

นี่ติ๊กไง จำไม่ได้หรอ : สายตามึงนี่นะ @MaiSarun

นางฟ้าตัวน้อย : แอดไม่มีเฟสน้องหรอ fc เลย *ร้องไห้*

เบท ผู้น่ารัก : @PinkProwไม่เรียกน้ำมาดู @Nam Thara

Mai Sarun : ยังไม่ใช่ แต่กำลังจะเป็น...  @นี่ติ๊กไง จำไม่ได้หรอ

วัช ตัวอ้วน : รีบๆมาดู @Nakin Pha

Nakin Pha : ก็ดูอยู่ตลอด @วัช ตัวอ้วน

นี่ติ๊กไง จำไม่ได้หรอ : เหยดดด จริงจังแค่ไหนถามใจมึงดู @Mai Sarun


.....บลาๆๆๆๆ......


คนตัวเล็กยื่นโทรศัพท์คืนให้โจ้ พลางคิดไปถึงสิ่งที่แอดมินโพสต์ และสิ่งที่คนอื่นๆเข้ามาเม้นกัน...รวมถึงคนๆนั้น

"เก็บเงียบเชียวนะ" คนตัวเล็กเงยหน้ามองโจ้ที่พูดมาเหมือนจะบอกว่างอนอยู่ แต่คนตัวเล็กรู้ดี โจ้แค่แกล้งเขาเล่นแค่นั้น

"แหะๆ ขอโทษครับ จริงๆก็กะจะบอกตั้งแต่วันศุกร์แล้ว...แต่แผนเปลี่ยน ก็เลย..." คนตัวเล็กเกาหัวแกรกๆ วันนั้นถ้าไม่เปลี่ยนแผนที่จะไปหอเขาเป็นไปผับแทนเขาก็คงจะบอกอยู่หรอก

"ช่างมันเหอะ ไม่ได้โกรธแค่ตกใจมีเพื่อนเป็นถึงว่าที่เดือนมหาลัย" โจ้ว่าออกมาขำๆ

'ได้ที่โหล่มากกว่า เราไม่ได้หวักซะหน่อย" คนตัวเล็กว่า ...แค่เดือนคณะนี่ก็เหนือความคาดหมายมากแล้ว

"หวังหน่อยก็ดี" ธามแซวออกมาอีกคน

"ไม่ดีหรอกครับ" ทำหน้ายู่ใส่

"นี่ต้องเก็บตัวด้วยปะ" โจ้ถามออกมาอย่างสงสัย เพราะเข้าประชุมวันนี้ได้ยินเพื่อนเดือนพูดแว่วๆ

"ครับ อีกสองอาทิตย์"

"นานปะ"

"เห็นพี่เขาบอกว่าอาทิตย์นึงนะธาม" ธามพยักหน้ารับแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรต่อเพราะข้าวที่พวกเขาสั่งไว้มาเสิร์ฟแล้ว

"ตอนนี้เขาจิ้นน้ำกับคนในรูปยกใหญ่เลยอ่ะ" โจ้บอกพลางตักข้าวเข้าปากอีกมือนึงก็เลื่อนหน้าจอสมาร์ทโฟนเพื่อดูความเคลื่อนไหว ...คนตัวเล็กเองก็ไม่ใช่ว่าไม่รู้ว่าอะไรคืออะไร

"ไม่ชอบเลยง่า" ยกฝ่ามือขึ้นปิดหน้าส่ายหัวไปมาอย่างกังวล...มีใครเขาอยากให้จิ้นกับผู้ชายบ้างเล่า

"ทำหน้างี้อีกและ ฮ่าๆ" โจ้ที่มองหน้าคนตัวเล็กที่เลิกเอามือปิดหน้าแล้วก็อดจะขำไม่ได้

"กินข้าวไปเลยโจ้น่ะ" คนตัวเล็กว่าขึ้นมาทั้งๆที่ยังหน้างออยู่

"หึๆ" ธามมองแล้วก็ต้องหัวเราะออกมา...น้อยครั้งที่จะหลุดลุคที่คีพมา นี่ถ้าไม่ใช่เพื่อนกันคงจีบอยู่

"ธามก็ด้วยครับ" ถ้าคนอื่นมาเห็นนี่คงไม่อยากเชื่อว่าคนตัวเล็กมีมุมแบบนี้กับเขาด้วย แต่ทั้งสองคนเห็นมาทุกมุมแล้ว...ก็นะอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เกิด

"โอเคๆ ฮ่าๆ ไม่แกล้งแล้ว ไม่แกล้งๆ หึหึ"โจ้กลั้นขำเพื่อบอกคนตัวเล็กจนตัวเกร็ง

"ก็ถ้าโจ้จะขำขนาดนั้น" คนตัวเล็กว่าแล้วตักข้าวคำโตเข้าปากเคี้ยวจนแก้มตุ่ย และก็ไม่สนใจเสียงหัวเราะคิกคักๆของเพื่อนสองคนนั่นอีก...ใครว่าสองคนนี้ไม่แกล้งเขากันล่ะ อย่าให้มีโอกาสเชียว



.



.



.



หลังจากกินข้าวเสร็จแล้วทั้งสามคนก็กลับขึ้นมาเล่นเกมส์ที่ห้องคนตัวเล็กเหมือนเดิม คนตัวเล็กที่นอนคว่ำอยู่บนเตียงมองพวกเขาเล่นเกมส์ เขาก็เล่นเป็นนะแต่ไม่โปรเหมือนสองคนนี้หรอก ส่งบอลยังส่งให้ผิดทีมอยู่เลย

ไม่รู้เมื่อไหร่ที่เสียงพวกนั้นหายไปจากโสตประสาทของคนตัวเล็ก ธามเห็นว่าคนตัวเล็กเงียบไปผิดปกติพอดีที่จบเกมส์จึงหันกลับไปดูพบว่าคนตัวเล็กหลับไปแล้ว หลับไปทั้งที่ยังไม่อาบน้ำ หลับไปทั้งที่ยังไม่ได้หันกลับไปนอนดีๆเลย

"หลับง่ายนี่แก้ไม่เคยหาย" ธามว่ายิ้มๆ ก็เพื่อนตัวเล็กของเขาหลับง่ายจริงๆนั่นแหละ บทจะหลับก็หลับถ้าเงียบไปนี่ไม่ต้องสงสัยว่าไปไหนเพราะหลับ หลับง่ายก็ตื่นง่ายเช่นกัน หรือถ้าเงียบอีกอย่างคือหงุดหงิดไม่ก็โกรธ

"ปลุกปะ ให้อาบน้ำก่อน" โจ้หันกลับมามองอีกคน

"นี่ยังไม่ทุ่มดีเลย สามทุ่มค่อยปลุก...ให้พักไปก่อน" ธามมองด้วยสายตาเอ็นดูพลางส่งยิ้มบางๆไปให้

"เอ็นดูจริงนะมึงน่ะ" โจ้แขวะเพือนข้างตัวอย่างหมัานไส้

"ว่าแต่กู...ทีมึงล่ะ จมูกดีเป็นหมา กลิ่นไม่ดีหน่อยนี่เห่าไม่หยุด" ธามว่ากลับ ถ้าเปรียบเพื่อนสองคนนี่ธามก็คงเป็นพ่อที่อยู่ห่างๆอย่างห่วงๆ ส่วนโจ้นี่เรียกว่าจงอางหวงไข่เถอะ

"แหม่...มึงไม่ดูเพื่อนมึงมั่งล่ะ มันน่าหวงน้อยเสียที่ไหน หน้าก็สวยปานนั้น นิสัยก็ดีปานนี้ แถมโคตรระ อื้อ!!" ก่อนที่โจ้จะได้พูดจบประโยคก็โดนมือธามมาปิดปากเอาไว้ซะก่อน

"มึงจะพูดอะไรของมึงไอ้โจ้!" ธามกระซิบรอดไรฟันถาม

"อ่อยอูไอ้อัด" (ปล่อยกูไอ้สัด) โจ้พูดเสียงอู้อี้ๆอยู่ในลำคอ ธามที่พอฟังออกว่าเพื่อนตัวดีพูดว่าอะไรก็ปล่อยมือออก

"ปากหมาจริงๆ" ธามว่า

"กูขอโทษได้มั้ยล่ะ" โจ้ว่าออกมาหน้าบึ้ง

"มึงจะเล่นมั้ยเกมส์น่ะ พูดมากอยู่นั่น" ธามถอนหายใจฮือกใหญ่ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องไป...

"น้ำอ่ะ ทำแลปได้ตลอดเลย" พราวผู้หญิงคนเดียวของกลุ่มเดินบ่นหน้ายุ่งออกมาจากห้องเรียนแลป

"ไม่ขนาดนั้นหรอก" คนตัวเล็กว่าขึ้นขำๆเพราะสีหน้าของพราวที่ยู่เหมือนโดนใครขัดใจมา

"ไม่ต้องเลยน้ำ สองครั้งก่อนน้ำก็ทำได้" พราวยังว่าต่อ

"เถียงกันพอยัง กูหิว" แล้วก็เป็นอิ่มที่พูดขึ้นมายุติการเถียงของเพื่อนตัวเล็กสองคน พราวหันมาแลบลิ้นใส่น้ำแล้วเดินเข้าไปดึงแก้มคนตัวเล็กอย่างหมั่นเขี้ยว

"นิ่มจังน้า แก้มน้ำเนี่ย หึ่ย! หมั่นเขี้ยว" พราวว่าก่อนจะผละออกไป

"ไหนๆๆ ขอจับมั่งดิ" เบทที่ยืนเล่นเกมส์อยู่ข้างๆอิ่มกำลังจะพุ่งเข้าไปหาน้ำแต่ดีที่อิ่มคว้าคอเสื้อไว้ได้ก่อน

"ไปแดกข้าวกับกูนี่" อิ่มว่าแล้วลากคอเสื้อเพื่อนเดินออกไป

"ไอ้อิ๊มมมม! ไอ้สัดปล่อยกู" เบทส่งเสียงร้องโหยหวนไปตลอดทาง ทำให้พราวกับน้ำที่เดินตามหลังไปหลุดขำกับภาพที่เห็นอย่างห้ามไม่อยู่



.



.



.



"น้องน้ำ! เจอพอดีเลย" ระหว่างที่คนตัวเล็กนั่งคุยอยู่กับเพื่อน ก็มีกลุ่มพี่ปีสองเดินเข้ามาทัก เขาจำได้ดีเพราะมีประธานรุ่นอย่างด้วงเดินเข้ามาด้วย

"สวัสดีครับพี่ๆ" เบทพูดทักทายรุ่นพี่ทั้งๆที่ยังเคี้ยวขนมอยู่เต็มปาก

"อี๋อิเบท มึงช่วยกลืนก่อนจะพูดได้มั้ยน่ะห้ะ" รุ่นพี่ใจสาวคนหนึ่งพูดขึ้นมา

"นั่งก่อนครับ" น้ำส่งยิ้มไปให้ก่อนจะลุกขึ้นเพื่อให้พี่ๆนั่ง กลุ่มรุ่นพี่ก็อดที่ชื่นชมนิสัยน้ำไม่ได้ ที่มีมารยาทและสัมมาคาราวะกับรุ่นพี่เสมอ

"พี่จะมาคุยเรื่องโชว์อ่ะ ฟ้าเขาเสนอโชว์เขามาเองพี่ก็เลยอยากมาถามเราและอีกอย่างจะได้จัดหาอุปกรณ์ไว้ด้วย ถ้ามีน่ะนะ" ด้วงว่าออกมาอย่างไม่รีรอ น้ำลังเลนิดหน่อยว่าจะบอกรุ่นพี่ดีมั้ยว่าจะเขาพอร้องเพลงได้...แต่คนตัวเล็กก็กลัวเกินกว่าจะบอก

"น้ำร้องเพลงเพราะมากเลยครับ" แล้วก็มีเสียงคุ้นหูโพร่งออกมา น้ำหันไปดูก็พบว่าเป็นโจ้กับธามที่เดินเข้ามาพร้อมกับยกมือไหว้รุ่นพี่เขา

"โจ้ครับ" คนตัวเล็กปราม

"จริงหรอ" พี่ชายใจสาวชะโงกหน้ามาถามเขา

"จริงครับ ผมเคยอัดคลิปน้ำตอนร้องไว้ด้วย" โจ้ว่าออกมาอย่างกระตือรือร้นพลางหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมากดหาไฟล์ที่ว่ามาเปิดแล้วไปวางไว้กลางโต๊ะ

*And my mates are all there trying to calm me down ‘Cause I’m shouting your name all over the town I’m swearing if I go there now I can change her mind turn it all around

(เพื่อนๆฉันทุกคนพยายามทำให้ฉันใจเย็นลง เพราะฉันตะโกนเรียกชื่อเธอไปทั่วเมือง ฉันสาบานเลยว่าถ้าฉันออกไปตอนนี้ ฉันจะเปลี่ยนใจเธอได้… และเปลี่ยนเรื่องนี้ใหม่ทั้งหมด)

And I know that I’m drunk but I’ll say the words And she’ll listen this time even though they’re slurred Dialed her number and confessed to her I’m still in love but all I heard Was nothing

(ฉันรู้ว่าฉันยังเมาอยู่ แต่ฉันจะพูดมันออกไป แล้วเธอจะฟังฉัน ถึงฉันจะพูดไม่ชัดก็เถอะ ฉันโทรหาเธอ และสารภาพกับเธอไป ว่าฉันยังรักเธออยู่ แต่สิ่งที่ฉันได้ยินคือ…ไม่มีคำตอบใดๆกลับมา)


ภาพที่ขึ้นแสดงบนหน้าจอสมาร์ทโฟนเป็นคนตัวเล็กเองที่กำลังนั่งบนพื้นเอนหลังพิงปลายเตียงมีกีต้าร์วางอยู่บนตักคนตัวเล็กจำได้ดีว่ามันไม่กี่วันก่อนนี่เอง ...โจ้มานอนที่หอพร้อมกับธามที่แบกเอากีต้าร์คู่ใจมาด้วย น้ำเองที่พอเล่นได้บ้างก็เลยขอลองเล่นดู แต่ไม่รู้เลยว่าถูกถ่ายคลิปเอาไว้ ...เสียงเกากีต้าร์กับเสียงร้องที่เปล่งออกมาทำให้คนทั้งโต๊ะนิ่งไป สำเนียงภาษาอังกฤษที่เปล่งออกมาก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสำเนียงมันดีมาก

"พี่ด้วง พี่กรีน พี่ทรายสวัสดีค่ะ" ขณะที่ทั้งโต๊ะกำลังอึ้งกับเสียงร้องของคนตัวเล็กอยู่นั้นเสียงใสๆของน้ำฟ้าก็เอ่ยทักทายรุ่นพี่ขึ้นมาพร้อมกับส่งยิ้มร่าเริงมาให้ ...คนตัวเล็กที่เห็นว่าใครเป็นคนเข้ามาจากที่เขินกับการที่ทุกคนกำลังฟังตัวเองร้องเพลงอยู่นั้นก็ถึงกับหน้าเจื่อนลงไป...รู้สึกผิด

"กำลังดูอะไรกันอยู่หรอคะ ฟ้าดูด้วยได้เปล่า" น้ำฟ้าว่าขึ้นมาอย่างสดใสแล้วยื่นหน้าเข้ามาดูสมาร์ทโฟนที่วางอยู่กลางโต๊ะที่ยังคงเล่นวีดีโออยู่

"น้ำหรอ" น้ำฟ้าหันมามองหน้าคนตัวเล็กพร้อมกับส่งสีหน้าสงสัยสุดขีดมาให้

"อ่า ใช่ครับ" น้ำตอบออกไปตะกุกตะกัก

"น้ำร้องเพราะมากเลยรู้ตัวปะ" น้ำฟ้าฉีกยิ้มกว้างออกมาแล้วยกสมาร์ทโฟนขึ้นมาดู

"อ่า ขอบคุณมากครับฟ้า" คนตัวเล็กเขินกับคำชมที่ได้รับ

"ใช่ พี่ก็ว่ามันเพราะมากเลยนะ แถมยังเล่นกีต้าร์เป็นอีก" ด้วงเอ่ยสมทบความคิดของน้ำฟ้า ทุกคนในโต๊ะพยักหน้าอย่างเห็นด้วย

"อิด้วงกูว่านะ...ให้น้องร้องเพลงเหอะ เสียงก็ดี สำเนียงก็ดี หน้าตาก็น่ารัก เพอร์เฟคสุดๆอ่ะ กูว่าคงจะได้มาสักตำแหน่งสองตำแหน่ง" กรีน พี่ชายใจสาวหนึ่งเดียวหันไปพูดกับด้วง ซึ่งด้วงเองก็เห็นด้วยเป็นอย่างมาก

"งั้นการแสดงของน้ำก็เอาเป็นร้องเพลงนี่แหละเล่นกีต้าร์ด้วย โอเคมั้ย" ด้วงหันมาพูดกับน้ำ

"เอ่อ คือว่า...ผม" คนตัวเล็กอึกอัก อยากจะค้านแต่ก็ไม่กล้า อยากจะร้องแต่ก็กลัว

"มีอะไรรึเปล่าน้ำ" ด้วงเห็นคนตัวเล็กดูมีท่าทีกังวลก็เลยถามออกมากลัวว่าสิ่งที่เขาตัดสินไปเป็นการบังคับคนตัวเล็กให้ทำ น้ำเม้มปากแน่นหลุบตามองมือทั้งสองข้างของตัวเองที่วางประสานกันอยู่บนโต๊ะอย่างกังวล

"คืออย่างงี้ครับพี่... น้ำอ่ะเคยร้องเพลงแล้วโดนเพื่อนล้อ เพื่อนแซวซึ่งมันก็ค่อนข้างรุนแรงแล้วหลังจากนั้นน้ำก็เลยไม่กล้าร้องให้ใครฟังอีกเลย มีแต่ตอนที่อยู่กับพวกผมนี่แหละครับ บางทีพวกผมก็ขอให้เขาร้องให้ฟังบ้างแบบในคลิป" โจ้โพร่งออกมาให้ทุกคนหายสงสัยกับอาการกังวลของคนตัวเล็ก ทุกคนพยักหน้าเข้าใจกับความรู้สึกนั้นดี พราวยื่นมือไปบีบมือคนตัวเล็กเบาอย่างให้กำลังใจ อิ่มเองที่นั่งเงียบๆฟังทุกอย่างก็ยกมือขึ้นลูบหลังพร้อมกับส่งยิ้มหาดูได้ยากไปให้

"พี่ไม่บังคับน้ำก็แล้วกัน เอาที่น้ำสบายใจดีกว่าพี่ไม่ได้บังคับอะไร...แต่ถ้าร้องได้ก็จะดีมากยังไงพรุ่งนี้ค่อยให้คำตอบพี่ก็แล้วกัน ไม่ต้องเครียดเนาะ" ด้วงส่งยิ้มให้กำลังใจไปให้ พลางยื่นมือเข้าไปลูบหัวคนตัวเล็กฝั่งตรงข้ามอย่างเอ็นดู คนตัวเล็กพยักหน้ารับ แล้วส่งยิ้มบางๆกลับไปให้...รู้สึกโล่งใจที่ทุกคนเข้าใจและไม่ว่าอะไรเขา

"ผมจะลองไปคิดดูนะครับ ขอโทษด้วยครับ" คนตัวเล็กยกมือขึ้นไหว้ขอโทษอย่างรู้สึกผิดที่เป็นเหมือนตัวปัญหาเพิ่มภาระความลำบากให้รุ่นพี่อีก

"ไม่เป็นไรๆ อย่าเครียดก็พอ พี่ไปก่อนนะ วันนี้ไม่ต้องเข้าประชุมรู้ใช่มั้ย" ด้วงลุกขึ้นแล้วหันมาถาม

"ครับ/ค่ะ" ทั้งโต๊ะตอบรับพร้อมกัน

"งั้นก็กลับบ้านได้แล้ว พี่ไปก่อน"

"สวัสดีครับ/ค่ะ" ทั้งกลถ่มยกมือไหว้ลารุ่นพี่

"จะกลับเลยมั้ยน้ำ" พราวถามอย่างเป็นห่วงเพราะเห็นสีหน้าที่ยังเป็นกังวลของเพื่อนตัวเล็กอยู่

"ครับ และพวกพราวล่ะ จะกลับเลยมั้ย" คนตัวเล็กสะพายกระเป๋าขึ้นหลังแล้วหันไปมองหน้าเพื่อนทั้งสามคน

"พราวว่าจะกลับเลย"

"กูลับเลย"

"เดี๋ยวเบทไปรับพี่สาวที่ห้างก่อนค่อยกลับอ่ะ"

"ครับ งั้นกลับดีๆนะครับ ...โจ้ ธามครับ" คนตัวเล็กว่าแล้วลุกขึ้นโบกมือส่งไปให้ก่อนจะหันไปเรียกเพื่อนที่กำลังยืนพิงต้นไม้เล่นเกมในมือถืออย่างเมามันส์ โจ้กับธามพยักหน้ารับแล้วเดินตามออกมา ส่วนน้ำฟ้ากลับก่อนพวกเขาไปสิบนาทีแล้ว

"ไอ้ธาม กูลืมแล็คเชอร์กับสมุดงานมึงไว้ที่ห้องเรียนเมื่อบ่ายว่ะ" โจ้โพร่งขึ้นมาเสียงดัง

"ไอ้สัดโจ้ มึงรีบไปเอาดิ่ป่านนี้ปิดห้องไปแล้วมั้ง" ธามว่าขึ้นมา...ไอ้เพื่อนตัวดี

"ไปกับกูหน่อย นะๆๆ" โจ้หันมาเกาะแขนเขย่าไปมาเหมือนเด็กๆ

"มึงนี่มันจริงๆเลย ...น้ำเดินออกไปรอหน้ามอเลยเดี๋ยวตามไป" ธามส่ายหัวเอือมให้กับไอ้เพื่อนตัวดีแล้วหันมาบอกคนตัวเล็กก่อนที่จะวิ่งออกไปยังตึกคณะตัวเอง คนตัวเล็กมองยิ้มๆแล้วเดินผละออกมาอีกทางที่จะออกไปหน้ามอ

"คุณ..." เดินมาได้เพียงแค่สามก้าวคนตัวเล็กก็เจอกับคนที่เขาไม่ค่อยอยากเจอ

"อ่าห้ะ" ร่างสูงส่งยิ้มมาให้

"ขอตัวนะครับ" คนตัวเล็กส่งยิ้มบางๆกลับไปให้แล้วกำลังจะก้าวเดินออกไป หมับ

"อ๊ะ!" คนตัวเล็กร้องออกมาอย่างตกใจเมื่อโดนร่างสูงคว้าเข้าที่แขนแล้วออกแรงกระชากเบาๆให้เข้าไปใกล้

"ฉันอยากให้นายร้องเพลงนะรู้มั้ย... นายรู้ดีอยู่แล้วว่านายไม่ได้แย่นายรู้ดีอยู่แล้วว่านายทำได้...นายกำลังกังวลสิ่งที่มันไม่น่ากังวล..." ร่างสูงก้มลงกระซิบบอกเบาๆที่ข้างหู

"คุณรู้...ได้ยังไง" คนตัวเล็กถามออกไปเสียงเบาหวิว เขาตกใจไม่น้อยที่ร่างสูงพูดแบบนี้...พูดออกมาเหมือนกับรู้ว่าตอนนี้เขาต้องการกำลังใจ ...คนอื่นอาจจะมองว่าสำออยบ้างเรื่องแค่นี้ทำเป็นคิดมาก ทำเป็นจิตตก...แต่ถ้าทุกคนเป็นแบบเขาอยู่ในสถนะเดียวกันกับเขา ทุกคนก็จะรู้และเข้าใจว่าทุกอย่างมันเซ็นซิทีฟกับคนอย่างเขามากแค่ไหนกัน... คนตัวเล็กไม่กล้าเงยหน้าขึ้นสบตาร่างสูง กลัวว่าร่างสูงจะเห็นน้ำตาที่กำลังปริ่มอยู่ขอบตาแล้วจะหัวเราะเยาะ...กลัวว่าสิ่งที่ร่างสูงพูดมามันคือสิ่งล้อเล่น...เขาเจอมาเยอะแล้วกับคำปลอบโยนให้กำลังใจแบบหลอกลวง

"พอดีมาทำธุระแถวนี้เลยได้ยิน" ร่างสูงยังคงกระซิบบอกอยู่ข้างหูเล็ก คนตัวเล็กที่ได้ยินร่างสูงบอกว่ามาทำธุระที่คณะแพทย์ก็ฉุกคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

"ปล่อยผมก่อนครับ เดี๋ยวฟ้ามาเห็น" คนตัวเล็กกระพริบตาถี่ๆเพื่อไล่น้ำตาให้ไหลกลับไปแล้วพยายามบิดแขนออกจากการเกาะกุมจากมือใหญ่

"เกี่ยวอะไรกับฟ้า" ร่างสูงสบตาคนตัวเล็กทำหน้าไม่เข้าใจ

"ผมเป็นเพื่อนฟ้า ฟ้าเป็นแฟนคุณ...อย่าทำให้ฟ้าเข้าใจผมผิดเลย แค่เรื่อง...วันนั้นผมก็รู้สึกผิดกับฟ้าจะแย่อยู่แล้ว" คนตัวเล็กเป็นตรงไปตรงมาอยู่แล้วเลยไม่คิดที่จะปิดบังความคิดของตัวเองกับร่างสูงเลยแม้แต่น้อย

"ถ้าฉันไม่ปล่อย..." ร่างสูงก้มหน้าเข้ามากระซิบข้างหูเล็ก

"ทำอะไรกันอยู่คะ ...นี่น้ำกับผารู้จักกันด้วยหรอ" ผายังไม่ทันพูดจบก็มีเสียงใสว่าขึ้นมา คนตัวเล็กได้ทีจึงบิดแขนออกมาจนหลุดจากการกอบกุมนั่น

"ใช่/เปล่า" ทั้งสองคนตอบออกมาพร้อมกันคงไม่ต้องบอกเลยว่าใครตอบอะไร

"ตกลงมันยังไงคะผา" สาวสวยไม่เข้าใจกับคำตอบของคนทั้งสองที่ไม่ตรงกันจึงเลือกที่จะหันไปถามคนที่สนิทสนมกันมานานมากกว่า

"น้ำไปก่อนนะฟ้า" คนตัวเล็กแทรกขึ้นมาโบกมือส่งไปให้น้ำฟ้าแล้ววิ่งออกไปทันที ปล่อยให้น้ำฟ้าไม่เข้าใจต่อไป หันกลับมาหาร่างสูงเห็นสายตาคมมองร่างเล็กไปจนแทบละสายตาอย่างแสนเสียดายก็พอจะเดาอะไรออก

"ผาคิดอะไรกับเพื่อนฟ้าหรอคะ" สาวสวยถามออกมาอย่างรู้ทัน ร่างสูงพยักหน้าให้แทนคำตอบ

"ไม่บอกฟ้าผาคิดว่าฟ้าโง่หรอ" น้ำฟ้าโวยออกมาเบาๆอย่างไม่ชอบใจนัก

"โอ๋นะคะคนดีไม่โกรธผานะฟังผาก่อน" ผายกมือขึ้นลูบผมสวย

"ว่าคำแก้ตัวมาค่ะ" หญิงสาวกอดอกเชิดหน้าขึ้นอย่างงอนๆ

"ผาไม่ได้คิดว่าฟ้าโง่นะ" ร่างสูงว่ายิ้มๆ เขารู้ดีว่าน้ำฟ้าฉลาดกว่าใคร ดูเขาออกทั้งหมดแบบไม่ต้องบอก

"แล้วน้ำรู้มั้ยคะว่าเราเป็นอะไรกัน" คิ้วสวยยังขมวดแน่นอยู่ไม่คลาย

"แฟนค่ะ" ร่างสูงตอบน้าหงอยๆ

"นี่เพื่อนฟ้านะ"

"แล้วถ้าผาจะขอให้ช่วย..."

"ฟ้าก็ต้องช่วยสิ เห้อ...มีผาเป็นพี่ชายนี่ฟ้าเหนื่อยจริงๆเลย กลับมาจากเมกาแทนที่จะได้เรียนสบายๆก็ต้องมาช่วยพี่ชายตัวดีจัดการผู้หญิงผู้ชายเห็นแก่เงินพวกนี้อีก ...ให้แกล้งเป็นแฟนผาแต่ฟ้าไม่มีแฟนมันไม่ยุติธรรมเลยนะ คอยดูเถอะฟ้าจะให้น้ำแกล้งผาให้หนักๆเลย" คนตัวเล็กว่าอย่างคาดโทษ

"ไหนบอกจะช่วยไง" ผาโอดครวญ

"ไม่ได้บอกจะช่วยทั้งหมดซะหน่อย" น้ำฟ้าว่าออกมาอย่างเหนือกว่า

"มีน้องสาวกะเขาทั้งคนก็ใจร้ายซะเหลือเกิน" ร่างสูงแสร้งทำเป็นน้อยใจ

"โนสนโนแคร์ค่ะคุณพี่ชาย ...กลับบ้านฟ้าจะฟ้องป๊ากับม้า" น้ำฟ้าว่าจบก็กอดอกเชิดหน้าเดินนำออกไปที่รถ

ฟ้า น้ำฟ้า วัชรเดชากุล เป็นน้องสาวคนเดียวของผา เพิ่งกลับมาจากอเมริกาหลังจากไปอยู่ที่นั่นมาตั้งแต่มอหนึ่ง น้อยคนนักที่จะรู้ว่าผามีน้องสาว ตัวน้ำฟ้าเองก็ไม่ค่อยออกสื่ออยู่แล้วก็เลยไม่เป็นที่รู้จัก พอน้องสาวกลับมาก็มาเป็นตัวกันท่าพวกเห็นแก่เงินทั้งหลายให้ ...เขาไม่ได้ใช้แต่น้องสาวเขาอาสาที่จะทำมันเองบอกแค่เพียงว่ารำคาญ อยากมีพี่สะใภ้ดีๆ เอาง่ายๆคือหวงพี่ชายสุดหล่ออย่างเขานี่เอง ...ทุกคนบอกว่าน้ำฟ้าคือแฟนเขาบ้างคือตัวจริงของเขาบ้าง เพราะว่าผาแสดงออกกับน้ำฟ้าไม่เหมือนกับที่แสดงออกกับคนอื่นสักนิด...เลยทำให้ทุกคนเข้าใจผิดกันไปหมดว่าเขามีแฟน เลยไม่ค่อยมีคนเข้ามายุ่งวุ่นวายกับเขามากนักเหมือนเมื่อก่อน...นั่นถือเป็นเรื่องที่ดีมากๆ ถ้าไม่ติดที่ว่าคนที่เขาสนใจเข้าใจผิดไปด้วย เข้าใจผิดธรรมดายังพอว่า แต่นี่น้องสาวเขากับคนที่เขาสนใจเป็นเพื่อนกันอีก...มันแย่มากเลยนะ

...งานยากแล้วมึงไอ้ผาเอ๊ย ภาวนาขออย่าให้น้ำใจแข็งนักเลย...

.


.


.




...100%...

…To Be Continued…

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
Re: Bear in mind ...ผมไม่ร้ายนะครับ [YAOI] [ep.7]
«ตอบ #11 เมื่อ18-12-2017 17:55:49 »

ชอบตัวนายเอกอ่ะ เป็นตัวละครที่มีมุมหลายมุมดี ทำให้การดำเนินเรื่องมีมิติ +เป็ดให้จ๊ะ

ออฟไลน์ มายซินนี่

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
Re: Bear in mind ...ผมไม่ร้ายนะครับ [YAOI] [ep.8]
«ตอบ #12 เมื่อ19-12-2017 20:50:20 »

[Episode 8​]




"บ้าจริงๆเลย" คนตัวเล็กหยุดวิ่งเมื่อเห็นว่าไกลออกมามากพอแล้วสบถออกมาไม่เบานัก

"ตัวเล็ก!" น้ำได้ยินจึงหันไปมองทางต้นเสียง ถ้าเขาจำไม่ผิดคงเป็นเพื่อนผาที่ชื่อดินแน่ๆ ดิน ที่เจอคนตัวเล็กโดยบังเอิญก็ถึงกับดีใจอย่างปิดไม่มิด

"สวัสดีครับพี่ดิน" คนตัวเล็กเมื่อพิจารณาแล้วว่าใช่คนที่ตัวเองรู้จักก็ยกมือไหว้ทักทายทันที

"จำได้ด้วยหรอเรา" ดินว่ายิ้มๆ แล้วเดินเข้ามาหา...อะไรไม่รู้ทำให้น้ำรู้สึกสบายใจแปลกๆ

"ก็...ครับ"

"แล้วทำอะไรมาเหงือแตกพลั้กเชียว" ดินที่สังเกตเห็นอาการหอบน้อยๆเสื้อชื้นเหงื่อไหนจะไรผมที่เปียกชุ่มนั้นก็อดจะถามไม่ได้ว่าไปทำอะไรมา จะบอกว่าร้อนก็ไม่ใช่

"วิ่งมาน่ะครับ" คนตัวเล็กตอบ

"รีบไปไหนล่ะ" ดินยังคงถามต่อด้วยความสนใจ

"ไม่ได้รีบครับ แค่กะจะวิ่งออกไปรอเพื่อนหน้ามอ" คนตัวเล็กว่าพลางกระพือเสื้อระบายความร้อน ...หน้าชุ่มไปด้วยเหงื่อผมหน้าม้าที่เปียกชุ่มถูกเสยขึ้นเผยให้เห็นใบหน้าขึ้นสีแดงระเรื่อ ดินมองกิริยาของคนตัวเล็กอย่างไม่วางตา รอยยิ้มแห่งความดีใจเผยชัดขึ้นทุกขณะ



...ยิ่งมองก็ยิ่งน่ารัก ไม่ว่ายังไงพี่ไม่ปล่อยเราแน่ๆตัวเล็ก...



"พี่ดินครับ พี่ดิน!" คนตัวเล็กที่เห็นว่าคนตัวสูงเอาแต่มองเขาแล้วก็ยิ้มอยู่อย่างนั้นจึงเรียกคนตัวสูงพลางส่งมือโบกไปมาตรงหน้าคนตัวสูง มองขนาดนี้ก็อดที่จะเขินไม่ได้

"ไปนั่งรอหาอะไรดื่มกันข้างในมั้ย ยังไงเพื่อนก็ต้องผ่านร้านนี้อยู่ดี" คนตัวเล็กหันไปมองด้านหลังคนตัวสูงก็เห็นว่าที่ที่ตัวเองหยุดพักเป็นคาเฟ่หน้ามอ เขาพยักหน้าแล้วเดินตามคนตัวสูงเข้าไปในร้าน...

"วันนี้รับอะไรดีคะดิน" พอเดินมาถึงหน้าเค้าท์เตอร์พนักงงานสาวก็เอ่ยถามคนตัวสูงอย่างสนิทสนม

"กินอะไรดีตัวเล็ก" ดินยกแขนขึ้นพาดบ่าคนตัวเล็กไว้แล้วถาม คนตัวเล็กไม่ได้ขัดขืนอะไรเพราะไม่ได้รู้สึกว่าถูกคุกคามแต่กลับรู้สึกสบายใจและรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก และดินเองก็ไม่ได้มีเจตนาไม่ดีหรือต้องการจะแต๊ะอั๋งลวนลามแต่อย่างใด

"ชาเขียวปั่นหวานน้อยครับ" น้ำเงยหน้าบอกกับคนตัวสูง ...เมนูโปรดเขาล่ะ

"อย่างที่ได้ยินนั่นแหละ ของฉันก็เอาเหมือนเดิม" คนตัวสูงสั่งยิ้มๆ

"เอ่อ...ผมขอบลูเบอร์รี่ชีทเค้กชิ้นนึงด้วยครับ" พนักงานสาวยิ้ม

"โต๊ะเดิมยังว่างนะคะดิน" พนักงานสาวเอ่ยบอกแล้วผายมือไปยังโต๊ะที่ตั้งติดกระจกมุมในสุดของร้านที่ดูเป็นส่วนตัวกว่าโต๊ะอื่นๆ

"ขอบคุณมากครับ" คนตัวสูงยิ้มรับแล้วแล้วเดินตรงไปยังโต๊ะตัวประจำทันที โซนนี้เป็นโซนที่เขาชอบนั่งเพราะเป็นส่วนตัวดี มีโต๊ะให้ลูกค้านั่งแค่สามตัวเท่านั้น พอคนตัวเล็กนั่งลงก็ไม่ลืมที่จะส่งข้อความไปบอกเพื่อนว่าตัวเองอยู่ไหน และก็เป็นธามที่ตอบกลับมาว่าจะเข้ามาหาในร้าน

"ได้แล้วค่ะดิน" พนักงานสาวคนเดิมยิ้มยกถาดเข้ามาเสิร์ฟ

"ขอบคุณครับ" พนักงานสาวจัดวางของบนโต๊ะเสร็จก็ขอตัวออกไป

"ขนมมาแล้วอย่ามัวแต่ก้มหน้าเล่นโทรศัพท์สิ" เขาแกล้งแหย่คนตัวเล็กที่เอาแต่นั่งจิ้มโทรศัพท์

"อ่า ...ขอโทษด้วยครับที่เสียมารยาท" คนตัวเล็กรู้ตัวว่ากำลังเสียมารยาทบนโต๊ะอาหารกับรุ่นพี่ปีสูงก็รีบเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋าแล้งเอ่ยขอโทษทันที

"เห้ย พี่แค่แหย่เล่นอย่าซีเรียสดิ" คนตัวสูงที่เห็นน้ำทำหน้ารู้สึกผิดก็รีบบอกทันที

"แต่น้ำ อ่า...แต่ผมก็ต้องขอโทษอยู่ดี ...คือพอดีส่งข้อความบอกเพื่อนน่ะครับว่าอยู่นี่เดี๋ยวจะหากันไม่เจอ" คนตัวเล็กยังคงรู้สึกผิดอยู่ ที่เผลอคุยกันจนลืมตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่ ...แถมเขายังเผลอเรียกแทนตัวเองออกไปอีก...เด๋อจริงๆเลยเรา

"บอกว่าอย่าซีเรียส" ดินว่าออกมาขำๆมองดูอาการรู้สึกผิดของคนตัวเล็กอย่างเอ็นดู

"ครับ" คนตัวเล็กรับคำแล้วหยิบแก้วชาเขียวขึ้นมาดูด

"ชอบกินบลูเบอร์รี่ชีทเค้กหรอ" คนตัวสูงชวนคุย

"ครับ เปรี้ยวๆหวานๆอร่อยดีครับ ลองชิมดูมั้ยครับ" คนตัวเล็กเลื่อนจานไปตรงหน้าของดินซึ่งทำหน้าแหยๆอยู่

"ไม่ล่ะพี่ค่อยไม่ค่อยชอบบลูเบอร์รี่อ่ะถ้าเป็นสตอเบอร์รี่จะดีกว่านี้"

"เหมือนกันเลยครับ แต่วันนี้มันหมดผมเลยเอาบลูเบอร์รี่มาแก้ขัดไปก่อน" คนตัวเล็กว่า พลางตักบลูเบอร์รี่ชีทเค้กเข้าปากไปยิ้มไป...คนตัวเล็กยอมรับว่าเวลาอยู่กับดินแล้วรู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูกตั้งแต่ที่ผับแล้ว...ไม่ได้รู้สึกในเชิงชู้สาวแต่รู้สึกอุ่นใจเหมือนอยู่กับธามกับโจ้มากกว่า

"จะแทนตัวเองว่าน้ำแล้วเรียกพี่ว่าพี่ดิน พี่ก็ไม่ว่านะ" คนตัวสูงว่าออกมายิ้มๆอย่างนึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านี้คนตัวเล็กเผลอแทนตัวเองออกมาแบบนั้นจึงเอ่ยอนุญาต...อย่างที่ไม่เคยอนุญาตใครมาก่อน เขาค่อนข้างถือตัว กลุ่มเขาค่อนข้างเลือกคบคน ไม่ใช่ฐานะรวยหรือจนแต่พวกเขามักให้ความรู้สึกแรกตัดสินเสมอ...และคนตัวเล็กนี่ดินก็รู้สึกเอ็นดูมากเป็นพิเศษ อาจจะเป็นเหตุผลบางอย่าง...ที่เขารอให้มันเป็นจริง และเขายิ่งได้เห็นยิ่งได้เข้าใกล้แบบนี้...ดินก็ยิ่งมั่นใจไปอีกว่าน้ำต้องเป็นคนนั้นของเขาแน่ๆ คนตัวเล็กพยักหน้ารับพร้อมกับรอยยิ้มเต็มแก้มส่งไปให้...ทำให้ดินที่มองอยู่ถึงกับชะงัก ใจเขากระตุกไปวูบหนึ่งเมื่อคิดได้ว่า รอยยิ้มนี้เหมือนใคร เหมือนมากจริงๆ ...ดวงตาประกายสวยกับรอยยิ้มหวานแบบนี้...เหมือนกันมากกจริงๆ





ครืดดด ครืดดด ครืดดด

ดินหยิบสมาร์ทโฟนเครื่องที่สั่นอยู่ในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาดูจึงกดรับทันที

"ครับปู่...เลิกแล้วครับ...ได้ครับ ดินจะรีบเข้าไป...ครับสวัสดีครับ"

"พี่ต้องไปก่อนนะตัวเล็ก นั่งรอคนเดียวได้ใช่มั้ยเรา" ดินถามคนตัวเล็กอย่างเป็นห่วง เพราะนี่ก็เริ่มจะเย็นมากแล้ว

"ได้ครับ" คนตัวเล็กรับคำ

"พี่ขอโทษด้วยนะชวนมานั่งแต่ต้องมาทิ้งให้นั่งคนเดียว" ดินว่าอย่ารู้สึกผิดและเสียดายที่ไม่ได้นั่งคุยกับน้ำต่อ

"ไม่เป็นไรครับพี่ดินสบายมาก" คนตัวเล็กส่งยิ้มไปให้

"โอเค พี่ไปและ เจอกัน" คนตัวสูงเก็บของแล้วผละออกไปไม่ทันที่คนตัวเล็กยกมือไหว้ลา คนตัวเล็กหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นฆ่าเวลารอเพื่อนอีกสองคนที่ดูจะไปนานเกินเหตุ



"นั่งด้วยคนได้มั้ยครับ" คนตัวเล็กละจากหน้าจอมือถือเงยหน้าขึ้นมองไปยังต้นเสียงแล้วชะงักไปเล็กน้อย

"คุณ..." เอ่ยเรียกคนตรงหน้าเสียงเบาแทบไม่ได้ยิน

"ขอนั่งด้วย" ร่างสูงก็หย่อนตัวลงนั่งฝั่งตรงข้ามไม่รอคำอนุญาตจากคนตัวเล็กเลย

"ผมยังไม่ได้อนุญาตเลยนะครับคุณผา" คนตัวเล็กว่าออกมาหน้าบึ้ง...รู้สึกผิดอยู่บ้างที่ต้องทำนิสัยไม่ดีแบบนี้กับคนตรงหน้า...แต่เขาคงจะรู้สึกผิดกว่านี้แน่ถ้าทำให้เพื่อนสาวอย่างน้ำฟ้าเข้าใจเขาผิด

"ใจร้ายจังเลยน้า" ผาแสร้งพูดตัดพ้อคนตัวเล็ก พร้อมกับวางหนังสือลงบนโต๊ะ...และก็เป็นสิ่งที่เรียกสายตาของคนตัวเล็กได้ไม่น้อย

"ก็คุณนั่งแล้วนี่ครับ" คนตัวเล็กว่าออกมาอย่างยอมแพ้

"ก็จงใจมานั่ง ไม่ได้นั่งก็คงแปลก" ร่างสูงยักใหล่ส่งไปอย่างกวนๆ

"มีอะไรรึเปล่าครับ" คนตัวเล็กวางโทรศัพท์ลงแล้วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง

"มันโดนไอ้พุ่มลากไปช่วยงาน ฉันจะมาคาเฟ่พอดีมันเลยฝากมาบอกว่าให้กลับก่อน แบตโทรศัพท์มันก็หมดเลยไม่ได้ตอบไลน์" ร่างสูงร่ายยาวพลางหยิบหนังสือเรื่องโปรดขึ้นมาเปิดอ่าน...เห็นเขาอย่างนี้เขาก็ชอบอ่านหนังสือนะ

"เอ่อ...ขอโทษนะครับ หนังสือนิยายฝรั่งเศษเล่มนั้นของคุณหรอครับ" คนตัวเล็กที่สนใจตั้งแต่ร่างสูงวางมันลงแล้วก็เอ่ยถามขึ้นมา

"อ่าใช่...รู้ภาษาฝรั่งเศสด้วยหรอ" ผาถามออกมาอย่างแปลกใจ

"ก็...รู้บ้างนิดหน่อยครับ" ตอบไปแต่สายตาก็ยังไม่ละออกจากหนังสือ เขาสนใจพวกวรรณกรรม นิยายหรือไม่ก็หนังของต่างประเทศอยู่แล้ว เขาเคยได้อ่านบ้างจากหนังสือของแม่ดาแต่ก็เคยอ่านแค่ภาษาอังกฤษเท่านั้น

"เรียนจากไหน ...พิเศษหรอ" ผาถามออกมาอย่างสงสัย

"ก็...ประมาณนั้นครับ" ตอบแบบนี้ก็คงไม่ผิดนักเพราะแม่ดาก็สอนเขามาเองกับมือ

"สนใจแนวนี้หรอ...มันค่อนข้างอ่านยากอยู่นะ" แม้ร่างสูงจะชอบแนวสืบสวนแต่บางครั้งก็ยังไม่เข้าใจเลย คนตัวเล็กอายุแค่สิบแปดเองนะ...

"ครับ" ร่างสูงสัมผัสได้ถึงความสุขที่สั่นระริกอยู่ในแววตาสวยนั่น...

"เล่มนี้เล่มโปรดฉันเลยนะ ...พิมพ์สองภาษา อังกฤษกับฝรั่งเศส เล่มนี้ซื้อให้เป็นของขวัญตัวเองเมื่อปีที่แล้วตอนที่ไปเที่ยวน่ะ...อยากลองอ่านมั้ย" ร่างสูงเห็นแววตาวาวทอประกายความสุขนั่นก็อดออกปากที่จะให้ยืมอ่านไม่ได้ คนตัวเล็กรับหนังสือเล่มหนามาจากร่างสูงด้วยรอยยิ้มเต็มแก้ม...เขาอยากอ่านเรื่องนี้ที่ตีพิมพ์ฝรั่งเศสไม่ไหวแล้ว

"ขอบคุณครับ" คนตัวเล็กยิ้มจนตาหยี เปิดหนังสืออ่านและจมอยู่กับมันไม่สนใจรอบข้างอีกเลย...แม้แต่ตอนที่ร่างสูงเอามือถือขึ้นมาถ่ายรูปคนตัวเล็กไปสิบกว่ารูปแล้วก็ยังไม่รู้ตัว



"น้ำ...กลับมั้ยมืดแล้วนะฝนก็จะตกแล้วด้วย" คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือมองผ่านกระจกออกไปเห็นท้องฟ้าเริ่มมืดและยังมีเมฆสีดำทะมึนที่พร้อมตกตลอดเวลาลอยอยู่เหนือหัว

"คุณกลับก่อนก็ได้ครับ พวกโจ้ยังไม่มากันเลย" คนตัวเล็กว่าออกมาอย่างกังวลวันนี้ไม่มีใครพกร่มมาเลย

"เดี๋ยวไอ้พุ่มมันไปส่งที่คอนโดฉัน มันโทรมาเมื่อกี้" ร่างสูงว่าพลางเก็บเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะมาถือไว้

"แล้วผม..." คนตัวเล็กเก็บของลงกระเป๋าบ้าง

"ไปอยู่คอนโดฉันก่อน" ร่างสูงว่าจบก็ลุกขึ้นเดินออกขากร้านมายังรถคันหรูที่จอดอยู่แล้วขึ้นประจำที่นั่งคนขับทันที คนตัวเล็กเองก็ไม่รอช้ารีบตามขึ้นไปนั่ง ในทีแรกคนตัวเล็กก็สงสัยว่าทำไมถึงต้องไปคอนโดก่อนด้วย...แต่พอมาถึงปากซอยที่จะเข้าคอนโดของร่างสูงเขาก็รู้ทันทีว่าหอเขาแค่ข้ามสะพานลอยไปก็ถึงแล้ว

"ถึงแล้ว" ร่างสูงบอกเรียบๆเมื่อรถจอดสนิทในที่จอดรถของคอดโด คนตัวเล็กรวบกระเป๋าเป้ขึ้นสะพายแล้วลงเดินตามร่างสูงเข้าลิฟต์ไป ลิฟต์ตัวนี้พาเขามายังชั้นที่ยี่สิบเอ็ด เขาเดินตาร่างสูงออกมาจนมาหยุดอยู่หน้าห้องๆหนึ่ง ร่างสูงจัดการรูดบัตรแล้วไขกุญแจเข้าไป

"เข้ามาสิ" ห้องถูกเปิดไฟขึ้นจนสว่าง คนตัวเล็กก้าวตามเข้าไปตกตะลึงกับความสวยของห้องหรูขนาดใหญ่ ตรงหน้าเขาคือชุดโซฟากำมะหยี่สีกรม มีทีวีจอใหญ่ติดผนัง ข้างกันมีประตูไม้สีขาวที่คาดว่าน่าจะเป็นห้องๆหนึ่ง ขวามือเขาเป็นบาร์ห้องครัวขนาดไม่ใหญ่มากนัก มีอุปกรณ์ครบมือ ข้างหลังชุดโซฟามีประตูสีขาวอยู่สองบานเขาเดาว่าน่าจะเป็นห้องนอนถัดจากห้องนอนเข้าไปเป็นพื้นที่โล่งกว้างพอสมควร มีโต๊ะคอมตั้งอยู่ อีกมุมหนึ่งเป็นโต๊ะขนาดกลางมีหนังสือและชีทกองเต็มไปหมด ตลอดแนวยาวของผนังอีกแถบเป็นกระจกใสแทบทั้งหมดที่สามารถเปิดออกไปยังระเบียงข้างนอกได้

"ตรงโต๊ะทำงานฉันมีชั้นวางหนังสืออยู่ ไปดูได้นะ" คนตัวเล็กมองตามสายตาร่างสูงไป

"ครับ" คนตัวเล็กที่ยังไม่เห็นมีชั้นวางหนังสือเลยก็เดินไปดูตามที่ร่างสูงบอก แล้วก็จอเข้ากับผนังห้องที่ถูกทำเป็นช่องยาวๆมีหนังสือวางอยู่เป็นไปหมด หนังสือถูกจัดออกเป็นหมวดๆเพื่อให้ง่ายต่อการค้นหา มีหลายภาษามากทั้งอังกฤษ จีน ฝรั่งเศส ไทย ...ถึงว่าทำไมเขาถึงไม่เห็น

"หยิบเอามาอ่านได้นะ" ร่างสูงมองอาการดีใจนั้นด้วยความเอ็นดู

"ขอบคุณครับ" คนตัวเล็กหันกลับไปส่งยิ้มตาหยีให้อย่างน่ารักแล้วคนมองเองก็ว่ามันน่ารักมากเสียด้วยสิ



...จะน่ารักไปไหนวะ...





ครืดดด ครืดดด ครืดด

ร่างสูงเดินไปหยิบมือถือที่สั่นอยู่บนโซฟาขึ้นมากดรับ

"ว่าไงคะฟ้า" ร่างสูงกรอกเสียงถามปลายสายอย่างอ่อนโยน...น้ำที่กำลังหยิบหนังสือออกมาดูก็ถึงกับชะงักเก็บหนังสือเข้าที่ไปทันที แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ในที่ที่ไม่ควรจะอยู่ที่สุด...เมื่อคิดได้ก็รวบกระเป๋าขึ้นสะพาย เดินผ่านหน้าร่างสูงแล้วยกมือไหว้พร้อมกับเอ่ยเบาๆกับร่างสูง

"ขอตัวกลับก่อนนะครับ" คนตัวเล็กหันหลังแล้วเดินออกมา ...ทั้งๆที่ประตูอยู่ใกล้แค่นี้ทำไมมันดูเหมือนเดินไปไม่ถึงสักทีนะ...

"เดี๋ยวก่อนน้ำ! น้ำ!" ร่างสูงกดตัดสายไปแล้วเดินตามมาขวางหน้าจับแขนคนตัวเล็กไว้

"ครับ" คนตัวเล็กหยุดเดินแล้วเบี่ยงตัวออกจากมือร่างสูงนั่นเล็กน้อย

"จะรีบไปไหน" ร่างสูงยอมปล่อยแล้วเอ่ยถามอย่างสงสัย เมื่อกี้ยังยืนอ่านหนังสือดีๆอยู่เลย

"กลับหอครับ" คนตัวเล็กว่าแล้วเดินเลี่ยงร่างสูงออกไปทางประตู



หมับ!



 "เป็นอะไรน้ำ" ร่างสูงจับเข้าที่แขนคนตัวเล็กก่อนจะเดินไปถึงประตู

"เปล่าครับผมแค่จะกลับห้องผมเฉยๆ" น้ำพูดออกมาทั้งๆที่ยังหันหลังให้ร่างสูงอยู่

"อยู่นี่ก่อนก็ได้" ร่างสูงว่าออกมาเสียงอ่อน...



...อยู่ดีๆคนตัวเล็กก็อยากจะกลับหอแบบนี้เขาทำอะไรผิดอีกแน่ๆเลย...



"มันใช่ที่ที่ผมควรจะอยู่หรอครับ" คนตัวเล็กดึงแขนตัวเองออกเบาๆแล้วหันกลับมามองร่างสูงอย่างจริงจัง

"ทำไมจะอยู่ไม่ได้" ร่างสูงยอมปล่อยมือออกจากแขนคนตัวเล็ก

"นี่คุณไม่รู้จริงๆหรือแกล้งไม่รู้กันแน่ครับ" คนตัวเล็กถามออกมาอย่างเหลืออด

"รู้อะไร" ร่างสูงที่ยังไม่รู้จริงๆว่าตัวเองไปทำอะไรให้คนตัวเล็กโกรธถามออกมาอย่างสงสัย

"ช่างเถอะครับ ผมจะกลับห้อง" คนตัวเล็กหันหลังกลับไปเปิดประตูเตรียมจะเดินออก



ปัง!!



ร่างสูงตามมาปิดประตูลงเสียงดัง จับคนตัวเล็กให้หันกลับมาแล้วใช้แขนคร่อมคนตัวเล็กเอาไว้ ...เขาเองก็ชักเริ่มจะหงุดหงิดกับคนตัวเล็กนี่ขึ้นมาบ้างแล้ว

"อยู่คุยกันให้รู้เรื่องก่อนจะได้มั้ย" ร่างสูงเอ่ยออกมาเสียงเรียบ

"ทะ...ทำไมต้องคุยด้วยครับ ผมไม่เห็นความจำเป็นเลย" คนตัวเล็กพยายามคุมเสียงตัวเองไม่ให้สั่นก็อยู่ใกล้กันจนลมหายใจแทบจะเป็นลมเดียวกันขนาดนี้ไม่สั่นก็แปลกแล้ว...

"เพราะฉันบอกว่าจะจีบนายไงมันถึงจำเป็น"

"คุณคิดรึเปล่าครับก่อนจะพูดออกมา... คุณพูดแบบนี้มากี่คนแล้วครับ บอกว่าจะจีบคนนู้นคนนี้มากี่คนแล้วครับ..." คนตัวเล็กว่าออกมาอย่างเหลืออด

"ฟังฉันก่อนได้มั้ย" ร่างสูงพยายามจะอธิบาย

"ไม่จำเป็นต้องฟัง ...คุณก็มีแฟนอยู่แล้ว แล้วบอกจีบคนอื่นไปทั่วแบบนี้ไม่กลัวแฟนคุณเขาเสียใจบ้างหรอครับ..."

"น้ำ..."

"แล้วแฟนคุณนั่นก็ฟ้าเพื่อนผมนะ ...คุณยังจะทำกับผมแบบนี้อีก ปล่อยผมกลับเถอะครับ...ผมไม่สบายใจเวลาอยู่กับคุณ ไม่สงสารผมก็สงสาร อื้อ!"
เส้นความอดทนของร่างสูงขาดลงไปพร้อมกับก้มลงประกบปิดปากคนตัวเล็กที่ขยับไปมาอย่างล่อตาล่อใจ... คนตัวเล็กเบิกตากว้างอย่างตกใจปากที่เผยออยู่เล็กน้อยนั่นก็เหมือนกับเปิดทางให้ร่างสูงสอดลิ้นเข้ามาฉกชิมความหวานไปอย่างง่ายดาย...คนตัวเล็กเล็กได้สติกลับคืนมาใช้กำปั้นน้อยๆทุบไปบนแผ่นอกแกร่งเพื่อให้ปล่อย แต่ร่างสูงไม่สะทกสะท้านแม้แต่น้อย ใช้มือข้างหนึ่งขึ้นมาประคองท้ายทอยเอาไว้ให้แหงนรับองศาที่ร่างสูงจู่โจมลงไปได้ถนัด มืออีกข้างก็จัดการรวบเข้าที่เอวเล็กกระชับแน่นเข้าหาตัวจนแทบจะรวมเป็นหนึ่งเดียว ...ปลายลิ้นไล่ความไปทั่วโพรงปากหวาน ไล่ต้อนดูดดึงปลายลิ้นเล็กอย่างหยอกล้อ คนด้อยประสบการณ์คล้อยตามไปไม่ยากนัก จากมือที่คอยทุกก็เปลี่ยนมาเป็นขยุ้มเข้าที่เสื้อของร่างสูงแทน ...ร่างสูงขบเม้มริมฝีปากนิ่มสลับกับดูดึงปลายลิ้นเล็ก น้ำเองก็ตอบรับอย่างไม่ประสา ทำให้ร่างสูงแทบจะไม่อยากหยุดอยู่แค่นี้ ...ร่างสูงผละออกมาช้าๆ มองดูริมฝีปากที่เจ่อบวมขึ้นกว่าเก่าด้วยฝีเขาเล็กน้อยอย่างภูมิใจ กดจูบย้ำๆซ้ำๆ จนคนตัวเล็กใจเต้นระรัวใบหน้าเห่อร้อนขึ้นสีชมพูระเรื่ออย่างน่ารัก ...ร่างสูงยกมือขึ้นเกลี่ยแก้มนวลแผ่วเบาแล้วกดจมูกลงไปสูดเอาความหอมเข้าไปเต็มปอดเสียฟอดใหญ่

"ทีนี้จะฟังพี่ได้รึยัง"



...ฉ่า...

ร่างสูงกระซิบถามข้างใบหูด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนจนคนตัวเล็กแทบจะระเบิดอยู่แล้วไหนจะสรรพนามแทนตัวเองที่เปลี่ยนไปนั่นอีก

"...พี่กับฟ้าเป็นพี่น้องกัน" คนตัวเล็กได้ยินแบบนั้นก็เงยหน้าขึ้นมามองอย่างตกใจ

"พี่น้อง?" คนตัวเล็กถามออกมาอย่างสงสัยกับคำแก้ตัวของร่างสูง

"ใช่...พี่น้องแท้ๆพี่น้องท้องเดียวกัน พ่อแม่เดียวกันใช้นามสกุลเดียวกัน...ไม่เชื่อลองไปถามฟ้าดู" ร่างสูงเอ่ยออกมาพร้อมกับส่งยิ้มหล่อไปให้ ยิ่งทำให้ ...นั่นยิ่งทำให้น้ำสงสัยหนักเข้าไปใหญ่

"...แล้วทำไม"

"พี่ไม่เคยบอกใครเลยนะว่าพี่กับฟ้าเป็นแฟนกัน...มีแต่คนคิดไปเองทั้งนั้น คนอื่นปล่อยให้คิดแบบนั้นน่ะดีแล้ว...แต่กับน้ำพี่ว่าคงไม่ดีแน่นอน" ร่างสูงยังยิ้มไม่หยุด เพราะหน้าตาขี้สงสัยของคนตัวเล็กนี่มันน่ารักมากซะจนแทบอดใจเอาไว้ไม่อยู่...เสียงฟ้าร้องดังกระหึ่มพร้อมกับสายฝนที่โปรยลงมาอย่างบ้าคลั่งนั่นไม่อาจจะกลบเสียงหัวใจดวงน้อยๆของน้ำที่เต้นระรัวอยู่ในอก...เขาดีใจจนเผลอยกยิ้มขึ้นมาน้อยๆ

...ทำไมต้องดีใจขนาดนี้ด้วยนะน้ำ...



จุ๊บ

"ทีนี้จะให้พี่จีบได้ยัง" ร่างสูงก้มลงกดจูบริมฝีปากเจ่อน่าจูบหนึ่งที

"เอ่อ..."



จุ๊บ

"ได้มั้ยครับ..." ร่างสูงก้มลงกดจูบอีกครั้งอย่างหมั่นเขี้ยว ...คนตัวเล็กที่เขินจนทำอะไรไม่ถูกได้แต่ยืนอ้ำๆอึ้งๆ

จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ

"อ๊ะ! โอเคครับๆ" คนตัวเล็กยกมือขึ้นปิดปากร้ายกาจของร่าสูงทันทีที่กำลังจะก้มลงมาระดมจุ๊บเขาอีกครั้ง...จะให้เขินตายให้ได้เลยใช่มั้ย

"โอเคอะไรครับ หื้ม" ร่างสูงถามออกมากระชับกอดเอวบางเข้ามาชิดตัวก่อนจะจับมือเล็กที่ปิดปากเขาออก

"ก็...คือ ก็...ก็บอกว่าจะจีบไม่ใช่รึไงเล่า" คนตัวเล็กทำหน้ายู่ใส่เขาปกปิดอาการเขินของตัวเอง...แต่แก้มที่ขึ้นสีชมพูระเรื่อนั่นร่างสูงก็ยังเห็นชัดเจนอยู่ดี

"คบเลยไม่ได้หรอ" ร่างสูงกระซิบถามเสียงพร่าข้างหูแล้วก้มลงกดจูบคนตัวเล็กอีกครั้ง

จุ๊บ

"งื้อออ~ อย่าแกล้ง" คนตัวเล็กยกมือขึ้นปิดหน้าเพราะทนเขินไม่ไหวแล้ว

"หึๆ โอเคๆ ไม่แกล้งแล้ว ไหนเงยหน้ามาดูหน่อยซิ" ร่างสูงหัวเราะชอบใจ ยกมือขึ้นจับมือนคนตัวเล็กที่ปิดหน้าอยู่ออก

"เขินพี่หรอ...หน้าแดงเชียว" ร่างสูงเชยคางคนตัวเล็กให้เงยหน้าขึ้นมา แล้วเอ่ยแซวชิดใบหูเล็ก

"หื่ออ~บอกว่าอย่าแกล้งผมไง" คนตัวเล็กก้มหน้าลงอีกครั้งเพราะแก้มเห่อร้อนเจียนแทบจะระเบิด

"ต่อไปนี้แทนตัวเองว่าน้ำนะ...เรียกพี่ว่าพี่ด้วย" ร่างสูงกระซิบบอก...

"ค ครับ..." คนตัวเล็กเงยหน้าบอก



ติ๊งต่อง!

คนตัวเล็กสะดุ้งเฮือกหันหลังกลับไปมองทางประตู

"สงสัยไอ้พุ่มมา" ร่างสูงก่อนจะเปิดประตูออก ก็เห็นโจ้กับธามยืนอยู่กับเพื่อนของผาอีกสามคน พุ่ม วัช และว่านต่างส่งสายตาและรอยยิ้มกรุ้มกริ่มไปให้ผาที่ยืนยิ้มไม่หุบอยู่ในห้อง คนตัวเล็กยืนแอบอยู่ข้างหลังร่างสูงพอเห็นเพื่อนสองคนมาก็ส่งยิ้มดีใจไปให้ โจ้กับธามที่เห็นคนตัวเล็กโผล่หน้าออกมาก็ถึงกับต้องหันมามองหน้ากัน...ก็เพื่อนตัวเล็กของเขาหน้าแดงหูแดงขนาดนั้นแถมปากยังเจ่อๆผิดปกติอีก ไม่ต้องบอกเด็กอนุบาลยังรู่เลย

"เข้ามาก่อน" ร่างสูงถอยเข้ามาพร้อมกับเปิดประตูกว้างขึ้น

"ทำอะไรให้กินทีดิหิวไส้จะขาด ...กูแวะซื้อของสดมาแล้ว" พุ่มว่าแล้วกวักมือให้โจ้กับธามถือถุงซุปเปอร์มาร์เก็ตเข้าไปวางในครัว

"ภาระกูอีก ...จะแดกอะไรล่ะ" ผาหันไปถาม พวกมันมาทีไรก็แบบนี้ทุกทีต้องเป็นพ่อครัวใหญ่จัดการเรื่องของกินให้พวกมันตลอด

"ต้มแซ่มกระดูกหมู" พุ่มว่า

"ผัดเปรี้ยวหวาน" ว่าน

"กระดูกหมูทอดกระเทียม กับผัดคะน้าน้ำมันหอย" สุดท้ายคือวัช พูดกันจบก็ยกโขยงกันออกไปนั่งรอที่โซฟา

"ให้ผม...เอ่อ ให้น้ำช่วยมั้ย" คนตัวเล็กที่ยืนฟังรายการอาหารที่ถูกสั่งเมื่อสักครู่ก็อาสาช่วย

"ทำเป็นหรอ" ร่างสูงเริกคิ้วถามอย่างแปลกใจ

"โหพี่ผา น้ำทำโคตรอร่อยอ่ะ" โจ้ที่จัดของเข้าตู้เย็นอยู่หันมาบอ

"ดีเลย ...งั้นมาช่วยพี่หน่อยนะ" ร่างสูงหันมายิ้มหล่อให้คนตัวเล็กที่มองมาก็ถึงกับเขิน ธามกับโจ้ที่ยังอยู่ก็ลอบมองปฏิกิริยาแปลกๆของสองคนนี้เงียบๆแล้วหันมาพยักหน้าให้กันแล้วพากันเดินออกไป

"ถ้ายังไงวันนี้พี่ขอเป็นลูกมือน้ำดีกว่า ไอ้พวกนั้นคงเบื่อฝีมือพี่แย่แล้ว" ร่างสูงเดินเข้ามาล้างมือ เปิดตู้ด้านบนหยิบผ้ากันเปื้อนสีดำออกมาแล้วใส่คล้องคอให้กับคนตัวเล็กแล้วเอื้อมไปมือไปผูกเชือกข้างหลังให้
"ข ขอบคุณครับ" ร่างสูงยิ้มตอบพลางมองแก้มของคนตัวเล็กที่ขึ้นสีชมพูระเรื่องอย่างน่ารักนั่นไม่วางตา
"แล้ว...คุณ เอ่อ...พี่ผา อยากกินอะไรเป็นพิเศษรึเปล่าครับ" คนตัวเล็กที่หยิบวัตถุดิบออกมาตามเมนูอาหารที่สั่งไว้ออกมาพลางนึกถึงเมนูที่ร่างสูงอยากกิน...แต่ไม่มี

"ยำวุ้นเส้น" ร่างสูงมองการเคลื่อนไหวที่คล่องแคล่วแล้วยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่อยู่

"ครับ ...พี่ผาหุงข้าวได้มั้ยครับ เดี๋ยวสุกไม่ทัน" คนตัวเล็กรับคำแล้วหันกลับมาบอก ร่างสูงพยักหน้ารับก่อนจะจัดการหุงข้าวตามที่น้ำบอก พอหุงข้าวเสร็จแล้วเขาก็มายืนพิงโต๊ะทานอาหารมองคนตัวเล็กที่หยิบนั่นจับนู่นดูคล่องแคล่วน่ามอง...แล้วเขาก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เขาหยิบสมาร์ทโฟนเครื่องหรูขึ้นมา ถ่ายรูปคนตัวเล็กที่หันหลังให้เขาอยู่





Nakin Pha : กับข้าวมื้อนี้อร่อย

*รูปน้ำชุดนักศึกษาใส่ผ้ากันเเปื้อผูกหลังสีดำยืนหันหลังให้กล้อง*

Likes 743 comments 92 . . .

พี่พุ่ม นะเออ : กับข้าวหรืออะไรครับมึงที่อร่อย ฮิ้ววววว @Nakin Pha

Wan Wanin : ยืนมองละยิ้ม...ยังไง*รูปด้านข้างผาที่กำลังมองคนตัวเล็กด้วยรอยยิ้ม* @Nakin Pha

วัช ตัวอ้วน : แม่งเอาจริงว่ะเห้ย @Nakin Pha




...ก็ไม่ได้บอกว่าจะเล่นซะหน่อย...







...100%...

…To Be Continued…



ออฟไลน์ wanirahot

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
Re: Bear in mind ...ผมไม่ร้ายนะครับ [YAOI] [ep.8]
«ตอบ #13 เมื่อ19-12-2017 22:55:26 »

สนุกมากเลยค่ะ รอๆๆ

ออฟไลน์ มายซินนี่

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
Re: Bear in mind ...ผมไม่ร้ายนะครับ [YAOI] [ep.9]
«ตอบ #14 เมื่อ20-12-2017 14:39:07 »

[Episode 9​]





...ตือดึ๊ง!...

เสียงแจ้งเตือนดังมาจากโทรศัพท์ของน้ำ หยิบขึ้นมาดูก็พบว่าเป็นผาที่ทักไลน์มาหาเขาแต่เช้า

ผา : เสร็จหรือยัง

ตั้งแต่หลังจากกลับมาจากคอนโดของผา จนเกือบจะได้อาทิตย์แล้วผาก็ทักเขามาแล้วบอกว่าจะมารับทุกเช้าแต่คนตัวเล็กก็ปฏิเสธ บ่ายเบี่ยงที่จะให้ผามารับตลอด ตอนแรกเขาก็ตกใจอยู่เหมือนกันที่อยู่ๆผาก็ทักมา แถมยังมีเบอร์เขาอีก พอถามว่าเอามาจากไหนผาก็ไม่ยอมบอกเขา

น้ำ : เสร็จแล้วครับ

ผา : เดี๋ยวพี่ไปรับ

น้ำ : ไม่เป็นไรครับ เกรงใจ

ผา : อยู่หน้าหอแล้ว

น้ำอ่านข้อความนั้นแล้วก็ถึงกับคิดไม่ตก คิดหาทางออกว่าจะปฏิเสธผายังไงดี ก็ใครมันจะไปกล้าไปกับคนที่ประกาศว่าจะจีบเขากันเล่า

"เป็นอะไร หน้ามุ่ยแต่เช้าเชียว" โจ้ที่ตื่นมาพร้อมกันกับน้ำเอ่ยถามคนตัวเล็กที่นั่งหน้ามุ่ยใส่โทรศัพท์อยู่ น้ำไม่ตอบแต่ยื่นโทรศัพท์ให้โจ้ดู

"ถ่ายรูปหน้าหอส่งมาด้วย" โจ้ว่าแล้วยื่นโทรศัพท์คืนน้ำไป

"ทำไงดี" น้ำเงยหน้าขึ้นถามโจ้ที่ยืนแต่งตัวอยู่หน้าตู้เสื้อผ้า ส่วนธามเพิ่งลุกเข้าไปอาบน้ำเมื่อกี้นี้เอง

"ทำไมถึงไม่อยากไปอ่ะ" โจ้หันหลังกลับมาถาม

"...ไม่รู้" เขาหมายความตามที่พูดจริงๆนั่นแหละ ไม่รู้จริงๆว่ารู้สึกยังไงเหมือนกัน...คงทำตัวไม่ถูกแหละ

"โจ้ว่าก็ดีนะ...พวกเราจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงน้ำ ยิ่งช่วงนี้ต้องกลับดึกๆดื่นๆอีก" โจ้บอกกับคนตัวเล็กไป ที่ว่าต้องกลับดึกๆก็เพราะอาทิตย์นี้น้ำจะต้องอยู่ซ้อมอยู่เก็บตัวเดือนมหาลัยนู่นนี่นั่นอีก ถ้ามีใครสักคนมาดูแลก็คงจะดีพวกเขาจะได้ไม่ต้องห่วงน้ำมาก...พี่ผาคงไว้ใจได้ประมาณนึงแหละมั้ง

"มันจะดีหรอครับ" น้ำถามออกมาอย่างลังเล

"โตแล้ว น้ำตัดสินใจเองได้...แล้วอีกอย่างน้ำฉลาดพอที่จะรู้ความรู้สึกของตัวเอง ใช่มั้ย" โจ้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่จริงจังมากขึ้น

เขารู้ดีน้ำไม่ใช่คนที่ตัดสินใจอะไรเองไม่ได้ น้ำไม่ใช่คนโง่ที่จะไม่รู้อะไรเลยน้ำเป็นคนตรงไปตรงมากับความรู้สึกตัวเองเสมอ...แต่น้ำเป็นเลือกที่จะพูดเลือกที่จะแสดงออก น้ำรู้ดีว่าสิ่งไหนเหมาะสมไม่เหมาะสม อะไรควรหรือไม่ควร น้ำไม่ได้มองว่าคำพูดของโจ้เมื่อกี้ดูแรงเกินไปแต่น้ำกลับเข้าใจมันได้เป็นอย่างดีว่าโจ้ต้องการจะสื่ออะไร เพราะพวกเขามักจะพูดกันตรงๆแบบนี้อยู่แล้ว

"ครับ" น้ำส่งยิ้มบางๆไปให้โจ้เป็นเชิงบอกว่าเข้าใจแล้ว

"ลองเปิดใจดูก็ไม่เสียหาย แต่ถ้าเสียใจ...เดี๋ยวจัดการให้เอง" โจ้ยื่นมือไปลูบหัวทุยอย่างเอ็นดู

"กลัวมันจะไม่เวิร์ค ...แล้วยิ่งมีคนพูดถึงเขาในแง่แบบนั้น" น้ำบอกความกังวลของตัวเองออกมาให้โจ้รับรู้ ...ไม่ใช่ว่าน้ำไม่รู้ว่าตัวเองรู้สึกยังไง เพียงแต่ว่าเขากลัว...นี่เป็นครั้งแรกของเขา เขาเลือกที่จะกลัวการเริ่มต้นครั้งแรกแบบนี้ก็คงไม่ผิดสักเท่าไหร่

"โจ้ไม่รู้ว่าน้ำกลายเป็นคนตัดสินคนจากคำพูดของคนอื่นไปตั้งแต่เมื่อไหร่" โจ้นั่งลงข้างๆน้ำแล้วพูดออกมา

"...ก็ทุกๆอย่างมันดูเป็นความจริงไปซะทุกอย่างเลย" น้ำว่าออกมาหน้างอ จริงๆเขาก็ไม่อยากจะคิดแบบนี้ แต่ทุกครั้งที่ผาถูกพูดถึงก็มีประเด็นที่เจ้าตัวเป็นคาสโนว่าเจ้าชู้ประตูดินอยู่ตลอด

"ของแบบนี้ลองหาคำตอบมันด้วยตัวเองคงเป็นทางออกที่ดีที่สุดนะ เราว่า"

"...ลองเปิดใจดู ถ้ามันไม่ดี ไม่โอเคก็ปิดมันกลับมาอย่างเดิม" ธามที่เดินออกมาจากห้องน้ำพูดสมทบ บทสนทนาเขาก็ได้ยินมันทั้งหมดนั่นแหละ ก็อยู่กันแค่นี้ผนังห้องน้ำก็บางจะได้ยินก็คงไม่แปลก

"...ครับ" น้ำพยักหน้ารับคำธามแล้วก้มลงตอบไลน์ของผาที่รัวส่งสติ๊กเกอร์มาอย่างบ้าคลั่ง น้ำตัดสินใจแล้วว่าเขาจะลองเปิดใจดู...ถ้ามันไม่โอเคจริงๆก็แค่กลับมาที่เดิมแบบที่ธามบอก

"งั้น...น้ำไปก่อนนะ" น้ำบอกพร้อมกับสะพายเป้ เดินออกไปใส่รองเท้าหน้าประตู

"เย็นๆจะแวะไปหา นิเทศฯใช่มั้ย" ธามถามแต่ไม่ได้หันมามองเพราะสารวนอยู่กับการทาครีมอยู่

"ครับ" น้ำรับคำแล้วกึ่งเดินกึ่งวิ่งขึ้นลิฟต์เพื่อลงไปข้างล่าง พอออกมาหน้าตึกก็พบกับรถคุ้นตาที่จอดรออยู่ก่อนแล้ว ผาที่แทบจะถอดใจเมื่อเห็นคนตัวเล็กเดินออกมาจากตึกแล้วมองมาที่รถเขาก็ยกยิ้มขึ้นมาอย่างดีใจ ผาจึงลดกระจกลงแล้วเอ่ยเรียกคนตัวเล็ก

"สวัสดีครับ" น้ำที่พอเห็นว่าผาลดกระจกลงเรียกตัวเองก็เปิดประตูรถขึ้นมานั่งทันทีก่อนจะกล่าวคำทักทาย

"นึกว่าจะไม่ยอมไปด้วยกันซะแล้ว" ผาว่าออกมายิ้มๆก่อนจะเคลื่อนรถออกไป

"..." น้ำไม่ตอบอะไรกลับไป ทำเพียงแค่ก้มหน้าลงไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมามองอะไรทั้งนั้น

"เรียนเช้าแบบนี้ทุกวันเลยหรอ" ผาหันมองคนด้านข้างที่ไม่ได้ตอบอะไรกับเขา แล้วเอ่ยถามเพื่อชวนคุยกลัวว่าถ้าหากปล่อยให้เงียบไปกลัวว่าคนตัวเล็กจะอึดอัดเปล่าๆ

"ครับ...ทุกวัน" คนตัวเล็กอ้อมแอ้มบอก เงยหน้าขึ้นมามองหน้าผาที่สายตมจับจ้องไปยังถนน แต่คนตัวเล็กก็ต้องเบือนหน้าหนีหันออกมองวิวข้างทางแทน...ร้อนๆยังไงไม่รู้แหะ

"แล้ววันนี้เลิกกี่โมง" ผายังคงชวนคุยต่อ

"สี่ทุ่มครับ" คนตัวเล็กตอบออกมาทั้งๆที่ยังคงหันหน้ามองข้างทางอยู่อย่างนั้น ผาที่เห็นอาการแบบนั้นก็คิดว่าตัวเองคงทำให้น้ำอึดอัดและลำบากใจไม่น้อยที่ต้องมากับตนแบบนี้

"งั้นเดี๋ยวพี่มารับ" ถึงจะคิดแบบนั้นแต่ก็ยังคงพยายามชวนคนตัวเล็กคุยต่อเพื่อคลายความอึดอัดลง

"เอ่อ...ไม่เป็นไรครับ" น้ำรีบหันมาปฏิเสธ มองหน้าผาได้เพียงแวบเดียวเรื่องราวครั้งก่อนที่ห้องของผาก็กลับย้อนขึ้นมาทำให้หน้าของคนตัวเล็กร้อนวูบจนทำให้ต้องเบือนหน้าหนีมองทางตรงหน้าอย่างช่วยไม่ได้ ผาที่เห็นอาการแบบนั้นจากทางหางตาก็ชะงักไปเล็กน้อย...ไม่คิดว่าการมากับเขาจะทำให้คนตัวเล็กรู้สึกอึดอัดขนาดนี้

"อ่าหะ" ผาจึงตอบออกไปเพียงเท่านั้นแล้วไม่พูดอะไรต่ออีกเลย...ทำให้ตลอดทั้งทางในรถมีแต่เพียงความเงียบจนได้ยินเสียงแอร์ในรถที่กำลังทำงานอยู่ น้ำเองที่เห็นว่าผาเงียบไปก็เหลือบมองเห็นสีหน้าผาเรียบนิ่งสนิท แววตาดูว่างเปล่าแบบที่คนตัวเล็กไม่เคยได้เห็นมาก่อน พาลให้คิดไปว่าเขาทำอะไรผิดไปหรือเปล่า น้ำนั่งคิดแบบนั้นมาตลอดทั้งทางจนรถจอดสนิทตรงหน้าตึกคณะของเขาก็ยังคิดไม่ออก ภายในรถก็ยังคงเงียบอยู่อย่างนั้น...จากตอนแรกที่ไม่ได้อึดอัดก็เริ่มมีขึ้นมาบ้างแล้วตอนนี้ ผาไม่ได้หันกลับมามองน้ำเลยแม้แต่น้อย เขาคงจะใจเสียเป็นแน่หากต้องหันมาเจอกับสีหน้าอึดอัดลำบากใจของคนตัวเล็ก



...ก็อย่างว่าจะไม่ให้อึดยังไงไหว วันนี้คนตัวเล็กมากับเขาก็จริง แต่เหมือนมาเพราะเขาบังคับมาซะมากกว่า เกมโอเวอร์แล้วผา...



"...พี่ผาครับ" คนตัวเล็กที่ทนกับเงียบน่าอึดอัดนี่ไม่ไหวหันกลับมามองผาก่อนจะเอ่ยเรียกเสียงไม่เบานัก

"พี่ขอโทษนะ ที่ทำให้เราอึดอัดและลำบากใจที่ต้องมากับพี่แบบนี้" ผาหันมาส่งยิ้มบางๆให้กับน้ำ คนตัวเล็กที่ได้ยินก็อ๋อขึ้นมาในใจอย่างรู้ได้ทันทีว่าที่ผาเงียบไปคงเป็นเพราะตัวเองนิ่งก่อนเองต่างหาก



...เปล่าอึดอัดซะหน่อย แต่มันเขินต่างหากเล่า...



"...ผมไม่ได้อึดอัด" น้ำที่เงียบไปจนผาใจหาย...เขาคิดนะว่ามันอาจจะไปได้ไม่สวย แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะจบไม่สวยแบบนี้ด้วย...มันไม่สวยก็ตรงที่ทำให้คนตัวเล็กรู้สึกอึดอัดเวลาที่อยู่กับเขาเนี่ยสิ

"..." ผาไม่ได้ตอบอะไรกลับไปทำได้เพียงเอนหลังพิงเบาะรถแล้วมองหน้าคนตัวเล็กนิ่งๆ

"...ผมแค่เขิน" คนตัวเล็กตัดสินใจบอกออกไปว่าตลอดทางที่เขาเงียบมันเป็นเพราะอะไรก่อนจะเบือนหน้าหนีมองผ่านออกไปนอกกระจก ...ผาที่ได้ยินแบบนั้นก็ถึงกับตกใจเด้งตัวขึ้นมาเขานึกว่าเขาหูฝาดไปแต่หลักฐานชิ้นดีที่ทำให้เขารู้ว่าคนตัวเล็กพูดว่าเขินเขาเป็นเรื่องจริงนั้นมันอยู่ที่ใบหูเล็กที่แดงแจ๋นั่น คำพูดที่ดูตรงไปตรงมาจนทำให้ผาอดที่จะเผยรอยยิ้มกว่างออกมาไม่ได้

"จริงหรอ" ผาถามออกไปอย่างอยากได้ยินคำตอบนั้นชัดๆอีกสักครั้ง

"ถ้าอยากมารับ...ห้องประชุมนิเทศฯตอนสี่ทุ่มครับ แต่ถ้าไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณครับ" น้ำพูดออกมาอย่างรัวเร็วจนผาแทบจะฟังไม่ทัน พูดจบก็เปิดประตูรถลงมาแล้ววิ่งหายเข้าไปในตึกอย่างไว ขืนอยู่ต่อผาต้องเห็นหน้าเขาแดงแน่ๆ



...พูดอะไรออกไปวะเนี่ยน้ำ...



ผาที่นิ่งค้างไปแล้วกับคำพูดของคนตัวเล็กนั้นก็ทำได้เพียงแค่ยิ้มกว้างออกมาอย่างดีใจ คิดไปเองคนเดียวอยู่ตั้งนานสองนานว่าคนตัวเล็กคงจะอึดอัด แต่ที่ไหนได้คนตัวเล็กแค่...เขิน



...เขินอะไรกัน เขาสิ่ต้องเขิน คนอะไรตรงชะมัดเลย...



และนี่ก็คงเป็นนิสัยอีกอย่างของน้ำที่เขาพอจะรับรู้ได้ว่าเป็นคนตรงไปตรงมากับความรู้สึกของตัวเองมากๆคนนึง...นึกแล้วก็โล่งใจไปที่มันผ่านไปได้ด้วยดี

.



.



.



.



"น้องๆมากันครบทุกคณะแล้วเนาะ พี่ขอชี้แจงเลยแล้วกันนะว่าที่พวกเราต้องมีการเก็บตัว คือจะให้ดาวเดือนทุกคณะเนี่ยมีการแสดงละครด้วยกัน เพื่อให้ท่านผู้บริหารระดับสูงได้รับชม ส่วนเรื่องรายละเอียดของบทละครจะแจงให้ทราบกันอีกที" น้ำที่กำลังยืนฟังการชี้แจงรายละเอียดของกิจกรรมการเก็บตัวดาวเดือนอยู่ก็รู้สึกหิวขึ้นมาตะหงิดๆ เมื่อกลางวันเขากินข้าวไปได้นิดเดียวเองเพราะคาบเช้าปล่อยเลททำให้เวลาพักกินข้าวมีเพียงนิดเดียวก็ต้องขึ้นเรียนคาบบ่ายต่อ แถมเรียนเสร็จก็ต้องรีบมารายงานตัวที่ตึกนิเทศน์ฯอีก...



.



.



"เอาล่ะค่ะ รู้กันแล้วว่าเล่นเป็นอะไรก็มารับบทไปท่องก่อนได้เลยค่ะ" พี่ผู้หญิงปีสองของนิเทศฯคนหนึ่งพูดขึ้นมาหลังจากที่แคสตัวละครจบไปแล้วและเขาก็ได้รับบทเป็น...เพื่อนพระเอก ดีที่ได้บทไม่เด่นมา ทุกคนทยอยเดินเข้าแถวไปรับบทตามตำแหน่งตัวละครแต่แล้วเสียงฮือฮาของเหล่าพี่เลี้ยงปีสูงของนิเทศฯก็ดังขึ้นมาทั่วทั้งห้องประชุม คนตัวเล็กหันกลับไปมองประตูทางเข้าก็เห็นร่างสูงคุ้นตาของใครบางคนที่มาด้วยกันเมื่อเช้า ...เขาถือถุงอะไรบางอย่างมาด้วย น้ำยิ้มออกมา แต่ก็ต้องหุบยิ้มลงไปทันทีเพราะร่างสูงของผาเดินเข้าไปหาพี่ผู้หญิงสวยคนหนึ่ง คนตัวเล็กหันกลับมามองแถวข้างหน้าของตนอีกครั้ง นึกไม่ชอบใจตัวเองขึ้นมาเสียดื้อๆ



...ดีใจอะไรของแกน้ำ เขาไม่ได้มาหาแกซะหน่อย ดีใจทำไม ยิ้มทำไม...

"น้องน้ำคะ มีคนมาหาน่ะค่ะ" พี่ผู้หญิงคนที่ผาเดินเข้าไปหาเดินมาสะกิดน้ำแล้วกระซิบบอก พร้อมกับชี้ให้น้ำมองไปยังผาที่ยืนส่งยิ้มบางๆมาให้เขา

"เขาบอกรึเปล่าครับว่ามาหาทำไม" ถึงคนตัวเล็กจะรู้สึกดีใจขึ้นมาหน่อยแต่ก็ยังเก็บอารมณ์เอาไว้

"รับบทแล้วไปถามเจ้าตัวเองดีกว่านะคะ" พี่ผู้หญิงคนนั้นพูดกับเขายิ้มๆแล้วเดินออกไป พอดีกับที่ถึงคิวคนตัวเล็กรับบท คนตัวเล็กยืนฟังรายละเอียดเสร็จเรียบร้อยก็เดินตรงไปหาผาที่นั่งอยู่ที่โต๊ะหลังห้อง ผาส่งยิ้มมาให้คนตัวเล็กที่กำลังเดินเข้ามาหา

"มีอะไรหรือเปล่าครับ" พอเดินมาถึงตัวน้ำก็ถามออกมาทันที

"ก็มารับ" คนตัวเล็กขมวดคิ้วมุ่น ยกข้อมือขึ้นมาดูเวลา...นี่พึ่งจะสองทุ่มครึ่งเอง

"ผม...น้ำเลิกสี่ทุ่มนะครับ" คนตัวเล็กที่กำลังพูดก็ต้องเปลี่ยนสรรพนามแทนตัวเองใหม่แทบไม่ทันเพราะร่างสูงที่นั่งฟังอยู่ขมวดคิ้วส่งมาให้ ผาที่เห็นว่าน้ำเปลี่ยนสรรพนามตามที่ตนเคยบอกก็ยิ้มหล่อส่งไปให้อย่างพอใจ

"ยังไม่ได้กินอะไรเลยไม่ใช่รึไง" ผาไม่ตอบและยังถามกลับพร้อมกับยกถุงขึ้นมาตรงหน้า

"ผาคะ จะมาทำไมไม่บอกเหมยเลยละคะ" ยังไม่ทันที่น้ำจะได้พูดอะไรกับร่างสูง เหมยปีสามอดีตดาวคณะนิเทศฯก็เดินเข้ามากอดแขนผาแล้วพูดอย่างออดอ้อน ผาได้แต่ยืนนิ่งเพราะไม่รู้จะทำยังไง

"ก็ผ่านมาเลยแวะมาดูน่ะ เลยไม่ได้บอก" ผาตอบออกไป ...แต่ไม่ได้รู้เลยว่าคำตอบนั้นไปทำลายความรู้สึกของใครเข้าอย่างจังที่เมื่อเพิ่งจะรู้สึกดีใจที่ผามาหา...แต่สงสัยคนตัวเล็กคงคิดผิดไป...เขาคงคิดไปเอง

"อ้ะ มีขนมมาเต็มเลย เหมยกำลังหิวพอดีเลยค่ะ ...ผานี่รู้ใจเหมยดีจังน้า" เหมยยื่นมือไปหยิกแก้มผาไม่แรงนักก่อนจะหยิบถุงขนมจากมือผาแล้วเปิดดูอย่างถือวิสาสะ

"งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ" น้ำส่งยิ้มบางๆให้ผา หยิบข้าวกล่องแล้วเดินไปนั่งรวมกลุ่มกับเพื่อนดาวเดือนด้วยกันอีกฟากนึงของห้อง

"โจ้กลับรึห้องรึยัง" พอน้ำกินข้าวเสร็จก็ต่อสายหาโจ้ทันที

'ยังๆ ทำไมน้ำมีอะไรรึเปล่า ได้กินข้าวยังเห็นพี่ผาซื้อข้าวไปบอกจะไปให้น้ำอ่ะ' โจ้ว่าออกมา เพราะอยู่ดีๆผาก็มาถามกับเขาว่าน้ำชอบกินอะไรแล้วก็ใช้ให้เขาไปซื้อมาแล้วก็ขับรถออกไปเลย

"อะ...เอ่อ เขาไม่ได้มาหาเราหรอกครับโจ้" คนตัวเล็กว่าแล้วชำเลืองตามองไปยังผาที่กำลังยืนคุยกับเหมยอยู่...ถึงจะบอกว่าแค่จีบแต่ก็อดเสียความรู้สึกรู้สึกไม่ได้

...เนี่ยนะที่บอกว่าจะจีบ...


'ทำไม'

"อ่อ ...เขามาหาพี่เหมยน่ะครับ"

'ไม่เป็นไรใช่มั้ยน้ำ' โจ้ถามอย่างเป็นห่วงเพราะน้ำเสียงดูจะไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่

"ไม่เป็นไรครับ ถ้าเสร็จแล้วรอกลับพร้อมกันได้นะ ถึงตอนนั้นน้ำคงหิวอีกแน่ๆเลย" น้ำเปลี่ยนเรื่องไปเพราะไม่อยากให้โจ้จับได้ว่าตัวเองก็รู้สึกไม่ดีอยู่ตอนนี้...กลัวโจ้จะเป็นห่วงเขาอีก ส่วนโจ้เองเห็นเพื่อนตัวเล็กเปลี่ยนเรื่องก็ไม่ได้เซ้าซี้ถามอะไรต่อเพราะเจ้าตัวคงจะไม่พร้อมเล่าอะไรให้เขาฟังตอนนี้ พวกเขาคุยต่ออีกนิดหน่อยแล้วก็ขอวางสายไป

"แก พี่เหมยกับพี่ผานี่น่ารักเนอะ" พี่สตาฟคนนึงในโต๊ะเปิดประเด็นขึ้นมา"

"เออ ฉันว่านะพี่ผาคงหยุดที่พี่เหมยเนี่ยแหละ พี่เหมยทั้งสวยทั้งรวยโปรไฟล์เลิศอ่ะ" อีกคนเสริมสมทบ

"คนเจ้าชู้แบบพี่ผานี่จะหยุดได้จริงหรอวะ ยิ่งกว่าเสือซะอีก"

"ก็ถ้าเสือแบบนี้ฉันก็จะยอมเป็นเยื่อให้เขาล่าเอง" พูดไปก็ทำหน้าเคลิ้มไป... ทั้งการกระทำที่เห็นและทั้งจากคำพูดของคนอื่นอีก...ควรทำยังไง ควรทำยังไงดี

...ผารู้สึกเหมือนว่าเขากำลังทำอะไรผิดเข้าสักอย่าง เขาไม่ได้เดินตามน้ำไปเพราะอยากให้คนตัวเล็กได้กินข้าวได้มีเวลาคุยเล่นกับเพื่อนต่างคณะบ้าง อีกอย่างก็ข้าวที่เขาซื้อมาให้ก็มีคนเอาไปแล้ว แถมยังเกาะแขนเขาหนึบแบบนี้อีก...

...เชี่ย! ชิบหายแล้วมึงไอ้ผา...



ผาสบถในใจสะบัดแขนออกจากเหมยไม่แรงนักแล้วรีบเดินเร็วๆไปยังโต๊ะที่น้ำนั่งกินข้าวอยู่อย่างร้อนใจ

หมับ!

เดินมาถึงก็จับแขนน้ำแล้วกระตุกเบาๆให้ลุกขึ้นมาก่อนจะหันไปพูดกับสตาฟที่นั่งอึ้งกันอยู่

"พี่ขอตัวน้ำแปบนึงนะครับ" พวกสตาฟในโต๊ะพยักหน้ารับอย่างงงๆ ส่วนนน้ำไม่ได้ตอบอะไรออกไปผาจึงดึงให้คนตัวเล็กตามตัวเองออกมานอกห้อง เมื่อเห็นว่าออกมาไกลมากพอแล้วจึงเดินผาหยุดเดินน้ำเลยถือโอกาสบิดแขนออกทันที

"น้ำโกรธพี่รึเปล่า" ผาถาม

"น้ำไม่ได้โกรธอะไรพี่เลย" ...น้ำเสียความรู้สึกต่างหาก คนตัวเล็กพูดประโยคนี้ต่อในใจ...เพราะมันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะพูดออกไปให้ร่างสูงตรงหน้าเขาได้ยิน

"ถ้าน้ำกำลังเข้าใจเรื่องระหว่างพี่กับเหมยในแง่อื่นที่มากกว่าเพื่อน...น้ำกำลังเข้าใจผิดอยู่นะ" ผาพยายามจะอธิบาย

"ผมเข้าใจอะไรผิดหรอครับ" น้ำตอบกลับไปเสียงเรียบสีหน้าและแววตาไม่ได้แสดงออกถึงความรู้สึกที่มีอยู่และเริ่มกลับมาใช้สรรพนามเดิมดูห่างเหินจนผานึกไม่ชอบใจ

"พี่กับเหมยตอนนี้เราเป็นแค่เพื่อนกัน" ผาอธิบายต่ออีกอย่างใจเย็น

"ตอนนี้ ...แล้วตอนอื่นล่ะครับ" น้ำเริ่มตีรวน ผาเองที่เป็นคนใจร้อนรู้ดีว่าเขาจะใจร้อนกับคนตรงหน้านี่ไม่ได้

"ไม่ได้เป็นอะไรกันทั้งนั้น...พี่เคลียร์ทุกอย่างแล้ว มันจบไปนานแล้ว"

"ครับ...ผมเข้าใจ"

"เข้าใจว่าอะไร" ผารู้สึกเหมือนโดนคนตรงหน้านี่กวนอารมณ์ตัวเองอยู่ยังไงบอกไม่ถูก...ประโยคที่บอกว่าเข้าใจนั่นดูไม่เข้าใจเหมือนคำพูดเลยสักนิด

"เข้าใจว่าพี่เคลียร์แล้ว" น้ำหันกลับมาสบตากับร่างสูงตรงหน้า

"น้ำกำลังกวนพี่อยู่ใช่มั้ย" เข้าไปจับแขนคนตัวเล็กเอาไว้แล้วกระตุกเล็กน้อยทำให้คนตัวเล็กเซปะทะกับอกแกร่งอย่างไม่ทันตั้งตัว ผาเริ่มยั๊วะที่เขาบอกไปคนตัวเล็กไม่เข้าใจเลยทั้งๆที่เขาพูดไปมันเป็นเรื่องจริงว่าเขากับเหมยจบกันไปแล้ว

"ผมไม่ได้กวน"

"...แต่น้ำไม่ได้ฟังที่พี่พูดเลย น้ำไม่มีเหตุผล" หลังจบประโยคนั้นเส้นอารมณ์โมโหของคนตัวเล็กก็ขาดผึง น้ำสะบัดแขนออกจากการเกาะกุม แล้วจ้องตาร่างสูงเขม็ง

"อะไรที่บอกว่าผมไม่เข้าใจ อะไรที่มาบอกว่าผมไม่มีเหตุผล" น้ำเสียงนื่งเรียบแววตาเย็นชานั่นทำให้ผารู้สึกเกรงอยู่ไม่น้อยเพราะไม่คิดว่าคนตัวเล็กจะมีอีกด้านที่เขาไม่เคยคิดว่าจะมีอยู่ในตัวของคนตรงหน้านี่

...น้ำไม่เคยไม่มีเหตุผล ที่เขาพูดว่าเข้าใจเขาก็คิดที่จะเข้าใจกับสิ่งที่ร่างสูงพูดจริงๆในเมื่อเขาคิดจะเปิดใจให้กับคนตรงหน้านี่แล้วเขาก็อยากจะลองดูในทุกๆอย่าง...แต่ตอนนี้ที่โดนร่างสูงว่าออกมาแบบนั้นบอกไม่ถูกจริงๆว่ากำลังรู้สึกอะไรอยู่...ถึงคนตรงหน้าจะบอกเขาว่าแค่จะจีบ แต่เขาที่รู้สึกไปแล้วพอเจอแบบนี้ก็อดที่จะรู้สึกผิดหวังและเสียความรู้สึกไม่ได้

"ผมบอกว่าผมเข้าใจคือเข้าใจ และผมมีสิทธิ์ที่จะไม่เชื่อคำพูดคุณเพราะสิ่งที่คุณแสดงให้ผมเห็นมันทำให้ผมยากที่จะเชื่อ..." น้ำยังคงพูดออกมาด้วยท่าทีแบบเดิม

"มันจบไปแล้วน้ำ"

"คำพูดพี่ที่บอกกับผมว่ามันจบไปแล้วแต่การกระทำของพี่มันไม่ได้บอกผมเลยว่ามันจบไปแล้ว...ผมขอตัวนะครับ ที่บอกว่าจะมารอรับไม่ต้องแล้วนะครับผมกลับกับโจ้" พูดเสร็จคนตัวเล็กก็หันกลับเดินออกไปไม่รอฟังผาอีกเลย ...ผาฟังประโยคของคนตัวเล็กแล้วก็ลองนึกทบทวนการกระทำของตัวเองดูแล้วมันก็จริงอย่างที่คนตัวเล็กว่าออกมาว่าการกระทำเขามันบ่งบอกแบบนั้นจริงๆ...ความสัมพันธ์ของผากับเหมยตอนนี้มันเหลือแค่เพื่อนกันจริงๆ ถึงจะย้อนไปตอนนั้นเขาสองคนก็เป็นเพื่อนกันอยู่ดี เป็นเพราะกิจกรรมที่ต้องเก็บตัวการประกวดดาวเดือนด้วยกันเลยทำให้ใกล้ชิดกันและเป็นกระแสว่าคบกันในที่สุด เขาไม่คิดที่จะแก้ข่าวพวกนั้นตัวเหมยเองก็คิดแบบเขา เพราะยังไงเขากับเหมยคงได้แค่เพื่อนกันและก็คงไม่เป็นมากกว่านั้นแน่นอน...เพราะอะไรทำไมถึงมั่นใจว่าไม่มีทางเป็นอย่างอื่นแน่นอนน่ะเหรอ...ก็เพราะว่าเหมยเป็นดี้น่ะสิ

"งานยากล่ะสิ" ผาหันไปทางต้นเสียงก็เจอเข้ากับว่านที่เดินล้วงกระเป๋าเดินมาทางเขา

"มาได้ไง" ผานั่งลงกับที่นั่งตามแนวระเบียง

"มาตามมึงนั่นแหละ" ว่านนั่งลงข้างกับผาแล้วตบบ่าให้กำลังใจสองสามที

"มึงเห็นใช่มั้ย" ผาหันไปถาม

"อืม" ว่านพยักหน้าตอบไป เขาเห็นทุกอย่าง เห็นแววตาสับสนนั่นแต่ก็อดทึ่งไม่ได้ที่เก็บอารมณ์ได้มิดชิดขนาดนั้น

"งานยากอย่างที่มึงพูดจริงๆว่ะ" ผาพูดออกมาแล้วถอนหายใจเฮือก

"จะถอยมั้ยล่ะ"

"ไม่ว่ะ" ผาส่ายหน้ายิ้มๆ

"มึงดูจริงจังนะ" ว่านขมวดคิ้วมุ่นอย่างสงสัย ก็แค่มันบอกว่าจะจีบน้องเขาก็ตกใจมากพอแล้ว...ทั้งชีวิตมันเคยจีบใครก่อนที่ไหนแล้วนี่โดนเมินโดนเย็นชาใส่ขนาดนี้อีก

"ก็จริงจังไง"

"..."

"กูถอยไม่ได้แล้วว่ะ...กูชอบไปแล้ว ไม่เหมือนใครและคงไม่มีใครเหมือน" ผาตอบไปยิ้มไป เขาไม่ได้นึกโกรธหรอกที่น้ำพูดกับเขาแบบนั้น ดีซะอีกที่ได้เรียนรู้ว่าคนตัวเล็กมีด้านไหนบ้าง...พร้อมที่จะเรียนรู้กันไปเรื่อยๆแบบนี้แหละ

"คนอย่างมึงเนี่ยนะ" ว่านพูดเสียงกลั้วหัวเราะ ผาหันกลับมามองหน้าเพื่อนสนิท เตรียมจะเอาเรื่องแต่ก็ต้องเงียบไปเพราะสายตาไร้แววขี้เล่น เต็มไปด้วยความจริงจัง อย่างน้อยครั้งนักที่เพื่อนคนนี้จะใช้สายตาแบบนี้มองเขา

"..."

"มึงไปจัดการตัวมึงให้มันดีก่อน ...ถ้ามึงจัดการได้มึงค่อยลากน้องมันเข้ามาในชีวิตมึง" ​ว่านตบบ่าเพื่อนสองสามทีอย่างไม่เบาแรงนัก

...ว่านเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวในกลุ่มที่มองเขาขาดที่สุด รู้ใจเขาดี รู้ความคิดเขาดี และยังมองคนอื่นทะลุปุโปร่งเหมือนกับมีญาณทิพย์ก็ไม่ปาน ว่านเตือนอะไรเขา เขามักจะนิ่งฟังและเก็บมาคิดทบทวนเสมอ

...ที่ผ่านมาเขาไม่เคยผูกสัมพันธ์กับใครอันนี้ทุกคนในกลุ่มรู้ดี แต่ว่านจะเป็นคนที่รู้ดีที่สุดว่าเขามันก็แค่ผู้ชายทั่วไปที่ตอบสนองต่อสิ่งสวยๆงามๆล่อตาล่อใจ แต่ก็ไม่ใช่กับทุกคน แต่ก็นั่นแหละ ไม่ใช่ว่าจะน้อยจนเอานิ้วนับได้ และเขาก็ได้ทั้งหญิงและชาย ขอให้คนๆนั้นถูกจริต ถูกใจเขาก็เป็นพอ

...และกับน้ำเขาก็รู้สึกว่าเขาถูกใจ...จนมันกลายเป็นอะไรที่มากกว่านั้น เป็นอะไรที่เรียกว่า ชอบ...










...100%...

…To Be Continued…




ขอบคุณทุกเม้น และทุกคนที่กดเป็นให้ซินนี่น้า :impress2: ขอบคุณมากๆเลย ยังไงก็ฝากนิยายเรื่องนี้ด้วยน้า~ รับรองว่าจะไม่ทำให้ผิดหวัง


ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
Re: Bear in mind ...ผมไม่ร้ายนะครับ [YAOI] [ep.9]
«ตอบ #15 เมื่อ20-12-2017 15:22:29 »

ขอสมัครเป็นfcพี่ผา จ้าาา

ออฟไลน์ มายซินนี่

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
Re: Bear in mind ...ผมไม่ร้ายนะครับ [YAOI] [ep.10]
«ตอบ #16 เมื่อ20-12-2017 16:18:48 »



Episode 10​







"โว๊ยยยย!!" ผาตะโกนออกมดังลั่นไปทั้งลานเกียร์ ยกมือขึ้นทึ้งหัวตัวเองอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน นี่ถ้าไม่ใช่เวลาเย็นแบบตอนนี้เขาคงตกเป็นเป้าสายตาไปนานแล้ว และที่เขาต้องมานั่งโวยวายอยู่แบบนี้ก็เป็นเพราะคนตัวเล็กที่เขาบอกจะจีบไง ก็เมื่อวานไปทำเรื่องไม่ดีเอาไว้กับเขา ตอนกลับก็รอรับกลับแต่คนตัวเล็กก็เอาแต่ปฏิเสธและกลับไปกับเพื่อนสนิททั้งสองคน ทั้งไลน์ไปก็ไม่ตอบเขาโทรไปก็ไม่รับแถมหนักๆเข้าก็ปิดเครื่องอีก ผามีอาการหงุดหงิดงุ่นง่านใจมาทั้งวัน ไม่รู้จะทำยังไงดี 

"มึงเป็นอะไรของมึงวะไอ้ผา" ผาเงยหน้าขึ้นมองพุ่มเพราะด้วยน้ำเสียงที่ดูจริงจังกว่าทุกทีที่พูดกัน

"ป่าว..." ผาตอบแล้วเสตาหลบไป เขาไม่อยากให้เพื่อนรู้กลัวถูกหัวเราะเยาะ

"มันเป็นอะไรไอ้ว่าน ...มึงไม่ต้องโกหกช่วยมันนะ เมื่อวานมึงอยู่กับมันตลอด" พุ่มหันไปหาว่านพร้อมกับชี้หน้าคาดโทษ ว่านที่เห็อย่างนั้นก็เลยเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดเมื่อวานให้พุ่มกับวัชฟังเพราะว่านเองก็นึกห่วงผาอยู่ลึกๆเหมือนกัน

"มึงนี่น้า...ให้ตายเหอะ" วัชว่าพร้อมกับส่ายหน้าเอือมๆ

"จะว่ากูไม่มีน้ำยารึไง" ผาว่าออกมาอย่างหัวเสีย

"นั่นก็มีส่วน...แต่กูจะบอกว่ามึงอ่ะใจร้อนเกินไป" พุ่มบอก ผาทำหน้างงขมวดคิ้วเป็นปม

"ยังไง"

"มึงรู้ปะว่าน้องมันไม่เคยมีแฟนมาก่อน" วัชถาม ผาส่ายหน้า...คิดว่าน่ารักเรียบร้อยดีแต่ไม่ได้คิดว่าไม่เคยมีแฟนมาก่อน

"มึงนี่มันมึงจริงๆ ...และมึงไปเอาเบอร์เอาไลน์น้องเขามาจากไหน" พุ่มถาม ผาทำหน้าสงสัยพุ่มรู้ดีว่าเพื่อนไม่ได้เรื่องนี่กำลังสงสัยอะไรจึงตอบไป

"กูถามไอ้โจไอ้ธามมา และมันก็เล่าให้กูฟังถึงวีรกรรมของมึง...จะตอบกูได้ยัง" พุ่มว่าก่อนจะหยุดไปพักนึกแล้วพูดเร่งเอาคำตอบจากผา

"...น้องกู" พากันถอนหายใจเฮือกใหญ่กับความไม่ได้เรื่องของเพื่อนหน้าหล่อ 

"กูสมน้ำหน้ามึงได้มั้ยวะ" พุ่มว่าออกมายกมือนวดขมับ เขารู้ว่าผามันไม่เคยจีบใครมาก่อนแต่ก็ไม่คิดว่ามันจะทำอะไรใจร้อนแบบนี้

"กูทำอะไรผิดวะ" ผาถามออกมาอย่างไม่เข้าใจ เขาว่าเขาก็ไม่ได้ทำอะไรผิดไปนะ ...เบอร์กับไลน์ก็ขอมาจากน้ำฟ้าน้องสาวเขาเอง แถมยังเป็นเพื่อนกันด้วย

"โถ่ไอ้ผา ...มึงรุกน้องเขาหนักขนาดนั้นเป็นกูกูก็ตกใจตั้งตัวไม่ทัน ไลน์เขาเบอร์เขามึงก็ไม่ขอจากเขา แถมขอไปรับไปส่งเขาแบบแกมบังคับอีก ...และอีกอย่างน้องมันไม่เคยเปิดใจให้ใครเลย มึงก็ค่อยๆเป็นค่อยๆไปหน่อยไม่ได้หรอวะ" วัชว่า

"และที่ไอ้ว่านเล่าให้ฟังอีก ที่มึงไปว่าเขามึงรู้จักเขาดีแล้วหรอ อีกอย่างเมื่อวานมึงผิดนะไอ้ผา...เป็นกูกูต่อยหน้าแตกไปแล้ว มีอย่างที่ไหนบอกจีบเขาแค่ไม่มีความชัดเจนอะไรให้เขาเลย แม่ง!" พุ่มว่าออกมาอย่างเหลืออด ผาคิดตามที่เพื่อนๆตัวเองพูดมันก็จริง...เขารีบร้อนและเร่งรัดน้ำมากไปจริงๆนั่นแหละ

"กูควรทำไงดีวะ" ผาฟุบหน้าลงกับโต๊ะอย่างเหนื่อยอ่อน รู้ว่าคนตัวเล็กนั่นคงโกรธเขาอยู่ไม่น้อย ไม่รู้หรอกว่าโกรธอะไรยังไงบ้างแต่เขาสัมผัสได้ว่าคนตัวเล็ก...โกรธเขา

"สิ้นลายตั้งแต่ยังไม่ได้เป็นแฟนเลยว่ะ หึ" ว่านว่าออกมาเสียงกลั้วหัวเราะแล้วเอื้อมมือไปตบหลังเป็นเชิงให้กำลังใจอยู่สองสามทีอย่างไม่เบาแรงนัก

"มึงจะทำไงต่อนั่นคือมึงต้องคิดเอง ...น้องมันไม่เคยเจอแบบนี้ น้องมันอุตส่าห์เปิดใจให้มึง มึงก็ให้เวลาน้องมันปรับตัวกับมึงหน่อยดิ่วะ" พุ่มให้คำแนะนำ

"และมึงก็ต้องชัดเจนกับน้องเขานะ ...บรรดาเด็กเก่าๆมึงอ่ะจัดการหมดยัง" วัชว่า

"ทำอย่างกับกูมีเยอะ" ผาเบะปากมองไปยังเพื่อนตัวอ้วนอย่างกวนเส้น

"กูอยากจะแหมให้ถึงบ้านมึงจริงจริ๊ง อย่าคิดว่ากูไม่รู้นะไอ้ผา กูแค่ไม่พูด ...คนอื่นกูไม่ห่วงหรอกแต่แฟนเด็กนิเทศฯมึงอ่ะ" วัชว่าต่ออย่างหมั่นไส้

"กูเป็นแค่พี่น้องกันเหอะ"

"จ้า...พี่น้อง พี่น้องเหี้ยไร อย่าให้กูพูด" วัชว่าออกมาอย่างหมั่นไส้ พุ่มกับว่านก็พยักหน้าหงึกหงักอย่างเห็นด้วย

"เออนน่า มึงจะอะไรกับน้องมันวะ" ผาขมวดคิ้วมุ่นว่าออกมาอย่างไม่ชอบใจ

"เอ้า ก็น้องมันเป็นอย่างนั้นจริงๆใครเขาก็รู้กันทั้งนั้น มึงอย่ามาทำเป็นไม่รู้" วัชยังว่าต่อ

"ทำไมวะ ถูกใจขนาดนั้นเลยหรอวะ" พุ่มเสริม

"มึงสองตัวหุบปากไปเลย" ผายกมือขึ้นชี้หน้าวัชอย่างเอาเรื่อง

"ปกป้องกันจริ๊ง มึงก็เปิดเผยกันไปเลยดิ้ ไม่ต้องเสียเวลามาจีบน้องน้ำด้วย" พุ่มเอ่ยออกมาอย่างประชดประชัน กระตุกยิ้มมุมปากอย่างกวนเส้น

"กู จะ จีบ ใครจะทำไม" ผาพูดออกมากระแทกเสียงทีละคำ

"เออ และกูจะคอยดู" วัชเอ่ยขึ้นมาอย่างคาดโทษ ...ผาไม่สนใจที่จะตอบอะไรกลับไป กระแทกกระเป๋าลงแล้วลุกเดินฟึดฟัดออกไปมินิมาร์ทเพื่อหาอะไรกิน

"กูจริงจัง"

"แต่ถ้ามึงไม่จัดการของมึงให้ดีก่อน น้องมันจะลำบากนะกูขอเตือน" พุ่มมองหน้าเเพื่อน

"กูว่าน้ำต้องกระเด็นในอีกวันสองวันนี้แน่เลยว่ะ ภาวนาอย่างเดียวอย่าให้ถึงขั้นเจ็บเนื้อเจ็บตัวเล๊ย" วัชว่าพลางยกมือขึ้นไหว้เหนือหัวปลกๆ

"กูก็คิดไม่ตกเลย บอกไอ้สองคนนั่นไว้และว่าให้ดูแลน้ำดีๆ" พุ่มว่าเสริม

"...กูว่ากระเด็นยากว่ะ หึๆ" ว่านพูดกลั้วหัวเราะออกมาอย่างมั่นใจ

"ไมมึง...ดูมั่นใจจังวะ" วัชถามออกมาอย่างสงสัย มองหน้าว่านที่กำลังแสยะยิ้มอย่างหวาดๆ พุ่มที่ขมวดคิ้วมุ่นอย่างสงสัยในคำพูดของเพื่อน พยักหน้าหงึกๆอย่างเห็นด้วยกับคำถามของเพื่อนตัวอ้วน

"ถ้ามึงเห็นน้ำเมื่อวานด้วยตาของมึงเอง มึงก็จะพูดแบบกู" ว่านพูดออกมาเสียงเนิบพลางคิดไปถึงเหตุการณ์เมื่อวานที่ตนเห็นมา ...แววตา สีหน้า คำพูด ทุกการกระทำ ทุกอิริยาบทดูร้ายกาจเย่อหยิ่งและเด็ดขาด ถึงอารมณ์จะปะทุขึ้นมากเพียงใดน้ำก็ยังเก็บอารมณ์ได้เป็นอย่างดีอย่างที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน...

"ยังไง" พุ่มถาม

"...ดูร้ายกาจและเด็ดขาดอยู่ในที ก่อนหน้านี้มึงเห็นเป็นแมวเมื่อวานก็คงจะเป็นเสือ" ว่านยกยิ้มมุมปากอย่างนึกชอบใจ สองคนที่ฟังอยู่ก็นึกภาพตามว่าลูกแมวน้อยอย่างน้ำจะกลายเแนเสือไปได้ยังไง

"หือ...ขนลุกเลยสัส' วัชพูดขึ้นมาหน้าตื่นพร้อมกับยกแขนขึ้นมาให้เพื่อนดูหลักฐาน

"มึง...กลัวน้องมันหรอวะ" พุ่มถามหน้าแหยๆ"

"กูปวดขี้ไอ้เหี้ย!"ว่าเสร็จก็ลุกขึ้นวิ่งไปเข้าห้องน้ำทันที

"ไอ้วัช! ไอ้เหี้ย! มึงแม่ง...หึ่ย!" พุ่มตะโกนด่าเพื่อนอย่างหัวเสียว่านก็ทำแค่นั่งมองแล้วขำออกมาเบาๆ ...กวนตีนแม่งให้ได้ตลอดเวลาสิน่า



.



.



.





"พักได้ค่ะทุกคน!" เสียงพี่ปีสูงจากนิเทศฯดังขึ้นท่ามกลางการวุ่นวายของการซ้อมการแสดงโชว์ในวันประกวดดาวเดือนที่จะถึงในอีกไม่กี่วันนี้ ทุกการกระทำหยุดลงอยู่แค่นั้นทยอยกันลงจากเวทีการแสดงไปยังหลังห้องโถงใหญ่เพื่อรับของว่างมารับประทาน

"น้ำ! น้ำลูก มีคนมาฝากของไว้ให้น่ะ" พี่ปีสูงสาวประเภทสองที่เรียกกันว่าพี่รี่ตะโกนเรียกเขาพร้อมกับกวักมือเรียกให้เข้าไปหา เขารับถุงนั้นมา หาที่นั่งแล้วเปิดดูข้างในถุง มันคือ...ขนม ขนมอีกแล้ว ใช่เลย มันมาอีกแล้ว

...ตั้งแต่วันนั้นที่เขาเถียงกับผาไปก็ผ่านมาจนเกือบจะครบอาทิตย์แล้ว เขาก็ไม่เจอร่างสูงอีกเลย แต่ทุกๆเวลาพักเขาจะได้รับถุงขนมพร้อมกับโพสอิสที่เขียนข้อความสั้นๆแปะเอาไว้กับขนม และวันนี้ก็แปะไว้กับกล่องสตอเบอร์รี่ชีสเค้กของโปรดของเขา

...ตั้งใจซ้อมนะ...

...ผา...

ที่เขามั่นใจว่าของที่ส่งมาทุกวันเป็นของร่างสูงก็เพราะโพสอิสที่แนบมานี่แหละ ถ้าไม่แนบมาเขาเองก็คิดไม่ออกเหมือนกันว่าจะมาจากใคร

...จากวันนั้นเขาก็ได้บทเรียนชิ้นสำคัญมา ประสบการณ์ด้านความรักของเขามันเป็นศูนย์ พอมีเข้ามาก็ไม่รู้ว่าจะจัดการกับอารมณ์ของตัสเองยังไง...วันนั้นเขายอมรับว่าเขาทำพลาดไปจริงๆ มีอะไรอีกหลายๆอย่างที่เขายังต้องเรียนรู้อีกเยอะ และเขาก็ตัดสินใจแล้วว่าจะให้ใครสอนมันให้กับเขา

...ประสบการณ์หรือสัญชาตญาณของแต่ละคนที่มีต่อแต่ละด้านมันมีไม่เท่ากันทุกคนหรอก บางคนอาจจะจัดการได้ดีในเรื่องนี้ แต่บางคนก็ไม่สามารถจัดการกับสิ่งนั้นได้เลย ...ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยเจอการเข้าหาแบบเดียวกันกับผามาก่อนเลย แต่เป็นเพราะเมื่อก่อนโจ้กับธามจะออกโรงกันท่าให้ตลอด เพราะเขาก็ไม่คิดอยากจะอะไรกับใครแบบนั้นในตอนนั้น พอมาตอนนี้เขาเลือกที่จะเปิดใจให้กับใครสักคนดู เขาก็กลับจัดการอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง...แย่จริงๆเลย

"วันนี้มาลงคุมซ้อมเดือนเองเลยหรอจ้ะใหม่" เสียงของเชอร์รี่ดังขึ้นทำลายความคิดของคนตัวเล็กลงไปก่อนจะหันไปตามสายตาที่พี่เขามองอยู่ก็เห็นใหม่ที่เดินถือถุงอะไรพรุงพรังเข้ามา

"ก็เผื่อเดือนต้องการกำลังใจ" ใหม่ตอบก่อนจะส่งรอยยิ้มหล่อมาให้น้ำ น้ำไม่ได้โง่ขนาดที่ไม่รู้ว่าที่ใหม่กำลังพูดถึงตนเองอยู่ จึงทำได้แค่ยิ้มบางๆตอบกลับไป

"และแกจะหอบอะไรมาเยอะแยะ เอามาเลี้ยงพวกฉันรึไงยะ" เชอร์รี่กอดอกถาม

"เอามาฝากเดือน" ใหม่ตอบยิ้มๆ สายตาเจ้าเล่ห์ปิดไม่มิด

"แหม~ น้องน้ำเขาไม่เอารองเดือนอย่างแกหรอกนังใหม่ ต้องเดือนตัวจริงอย่างผาสุดหล่อนู้น" ใหม่ได้ยินเชอร์รี่พูดถึงคนที่เขาไม่อยากได้ยินชื่อมากที่สุดก็ถึงกับหันขวับกลับไปมองตาขวาง

"ใจเย็นไอ้ใหม่ ...รี่มึงก็รู้ จะแหย่มันก็เอาชื่ออื่นเหอะ" ต้นเพื่อนสนิทของใหม่ที่มาด้วยกันเข้าไปจับตัวใหม่เอาไว้ไม่ให้ทำอะไรวู่วาม เพราะเขารู้ดีว่าเพื่อนรักคนนี้อารมณ์ขึ้นง่ายขนาดไหน

"ฉันไม่ได้แหย่ย่ะ เรื่องจริงทั้งนั้น" เชอร์รี่เบะปากใส่อย่างหมั่นไส้...จะแกล้งให้หัวปั่นเลยเถอะคอยดู เชอร์รี่แสยะยิ้มในใจอย่างนึกสนุก

"อะไร" ใหม่พยายามสะบัดตัวออกจากมือของต้นที่จับเขาอยู่แล้วเอ่ยถามออกมาอย่างสนใจ ต้นมองด้วยสายตาบอกไม่ถูกแต่ก็ยอมปล่อย

"ก็ผามันเทียวเอาน้ำเอาขนมมาส่งให้น้ำเป็นอาทิตย์และแต่มันบอกห้ามบอกใคร ฉันเห็นแกอยากรู้นะเนี่ยฉันเลยยอมผิดสัญญาบอกแก" เชอร์บอกจบก็เชิดกน้าเดินออกมาอย่างหมั่นไส้ ไม่สนใจใหม่ที่กำลังยืนอารณ์ขึ้นอีกเลย

"ไอ้เหี้ยผา หึ" ใหม่กำถุงขนมที่ตัวเองซื้อมาแน่น พร้อมกับแสยะยิ้มร้ายกาจออกมา...ก่อนจะหันกลับไปมองน้ำที่นั่งกินขนมอยู่ ...แววตาที่มองไปไม่บ่งบอกถึงความรู้สึกใดๆ

"กูกลับเลยแล้วกัน" ใหม่หันกลับมาบอกกับคนที่ตัวเองนับเป็นเพื่อนสนิท วางถุงขนมลงที่โต๊ะใกล้ตัว แล้วเดินออกไปทันทีไม่หันกลับมามองต้นที่ยืนมองด้วยสายตาเดียวกันกับหลายปีที่ผ่านมา

"หาเรื่องอีกแล้วมึงไอ้ใหม่" ต้นว่ากับตัวเองเบาๆ พร้อมกับส่ายหัวยิ้มๆแล้วเดินตามใหม่ออกไปติดๆ



.



.



.



"เลิกกองค่า~" เสียงสวรรค์ของเชอร์รี่ตะโกนะบอกลั่นโถงประชุม ทุกคนพร้อมใจกันเฮดังลั่นแล้วแยกย้ายกันไปเก็บอุปกรณ์

"วันนี้ทุกคนทำดีมากเลย ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือกันเป็นอย่างดีน้า ...เดินทางกลับหออย่างปลอดภัยนะคะคุณลูก" เธอบอกพร้อมโบกมือลา

"สวัสดีค่ะ/ครับ" ดาวเดือนต่างยกมือไหว้ลาพี่สตาฟนิเทศฯก่อนจะแยกย้ายกันกลับบ้านไป...และวันนี้น้ำต้องกลับคนเดียว ล่าสุดคุยกับธามกับโจ้ไว้ในกลุ่มก็บอกเขาไว้ว่าจะขอพักเอาแรงสักหน่อยถ้าเสร้จแล้วให้โทรไป...แล้วใครจะกล้าไปโทรกวน เดินกลับเองบ้างก็ดี คิดได้แบบนั้นก็ตรงดิ่งกลับห้องทันที

...เขาเดินไปตามทางบนฟุตบาทที่เคยเดินกลับกันสามคนกับธามกับโจ้ช่วงระหว่างมหาลัยจนเกือบถึงสะพานลอยข้ามไปหอเขามันจะเป็นเขตก่อสร้างมันก็เลยดูมืดๆเปลี่ยวๆ ทุกวันที่เขาเดินกลับกันสามคนก็รู้สึกสบายใจดีไม่ได้รู้สึกถึงอันตรายอะไร แต่วันนี้เขารู้สึกแปลกๆไป เขารู้สึกเหมือนคนเดินตามเขาอยู่ตลอดเวลา เขาพยายามคิดแล้วนะว่าคงเป็นคนที่เดินสวนไปสวนมาตามปกติที่ควรจะเป็น...แต่เขาก็รู้สึกแปลกไปจริงๆนั่นแหละ .

..น้ำเร่งฝีเท้าขึ้นอีกเพื่อให้ไปถึงสะพานลอยให้ไวขึ้น ถ้าไปถึงแถวนั้นก็จะมีคนพลุดพล่านหน่อย



ตึกตึกตึก ตึกตึกตึก

เสียงฝีเท้าหนักๆ เท่าที่จับใจฟังได้มีสองคู่ คือเขา...และไอ้คนที่เดินตาม เขารีบเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นอีกหน่อยแต่ก็ไม่เร็วมากจนคนที่เดินตามรู้ตัวว่าเรารู้ตัวแล้วว่าโดนตามอยู่ ...สองมือกำสายกระเป๋าสะพายแน่น ในใจพลางคิดไปเรื่อยว่าจะทำไงดี

...โทรศัพท์ใช่โทรศัพท์! เมื่อนึกขึ้นได้เขาจึงรีบล้วงมือลงไปในกระเป๋ากางเกงหยิบมันขึ้นมาเตรียมจะปลดล็อค

หมับ! เคร้ง!

เฮือก!!

เขาถูกใครไม่รู้เข้ามาล็อคคอจากทางด้านหลัง สะดุ้งตกใจจรปล่อยโทรศัพท์ร่วงจากมือไปนอนหงายอยู่ที่พื้น แต่เขาก็ไม่ได้ละความสนใจไปจากวัตถุบางอย่างที่จ่ออยู่ชายโครงด้านหลังเขาอยู่

...กลิ่นเหงื่อเหม็นสาปคละคลุ้งตีขึ้นจมูก มือหยาบกร้านบีบเข้าที่คางไม่เบาแรงนักดันให้เอียงคอไปอีกทางก่อนจะก้มหน้าที่เต็มไปด้วยหนวดเคราลงมาแนบกับลำคอของเขาพร้อมกับสูดหายใจเพื่อสูดดมกลิ่นกายอย่างหยาบคาย...

"หอม อ่าห์~" เสียงแหบต่ำเปล่งเสียงออกมาอย่างน่าขยะแขยง

...เขากำลังจะร้องตะโกนขอความช่วยเหลือแต่...เขาเห็นแสงสว่างจากสมาร์ทโฟนที่หล่นอยู่บนพื้นที่เขาหลี่แสงลงจนสุด...โจรหยาบนั่นไม่ทันสังเกต เขาตั้งสติพยายามเพ่งดูรายชื่อที่โทรเข้ามา

...พี่ผา...

เห็นรายชื่อนั้นเต็มตา ก็ทำให้ใจที่สั่นกลัวกลับเต้นระรัวด้วยความดีใจ แต่...จะทำยังไงถึงจะรับสายได้ เขาพยายามคิดอยู่พักนึงจนสายตัดไป ตอนนั้นน้ำหัวใจหล่นวูบไปอย่างหมดหวัง

...ไอ้โจรหื่นกามเริ่มไล้มือไปตามลำตัวเขาอย่างหยาบโลน พยายามดิ้นเท่าไหร่ก็ไม่เป็นผล คนตัวเล็กน้ำตารื้นขึ้นมาอย่างหมดหวัง

"ชะ..."

"อย่าตะโกนเชียวนะมึง" เขาตะโกนได้ไม่ถึงคำด้วยซ้ำวัตถุปลายแหลมที่จี้อยู่ที่ชายโครงด้านหลังก็ถูกกดลึกลงมาจนคนตัวเล็กรู้สึกเจ็บร้าวไปทั้งแถบ จนไม่กล้าตะโกน

...คนตัวเล็กกำลังจะหลับตายอมรับชะตากรรม เนื้อตัวสั่นเทาไปด้วยความหวาดกลัวและเสียขวัญ แต่คนตัวเล็กก็เหลือบเห็นแสงหน้าจอสว่างขึ้นมาอีกครั้ง คนตัวเล็กใจเต้นระรัวอย่างดีใจอีกครั้ง...เขาตัดสินใจยืนนิ่งๆ ข่มอารมณ์และความกลัวเอาไว้ ตั้งสติให้คงที่ ปล่อยให้มันลวนลามได้ตามอำเพอใจ แม้ใจจะนึกสั่นกลัวเพียงใดก็ตาม

เขาค่อยๆถอดรองเท้าออกแล้วค่อยๆเอาเท้าแตะหน้าจอเพื่อสไลด์รับสายอย่างใจเย็น ยอมให้ไอ้โจรโรคจิตนี่ดมนู่นสูดนี่ไป หลังจากพยายามเลื่อนรับอยู่สองสามทีปรากฎว่ารับสายได้...พอรับสายได้เขาจึงเอาเท้าไปวางไว้บริเวณส่วนบนของจอเพื่อให้แสงหน้าจอดับลง น้ำได้ยินเสียงปลายสายดังแว่วๆเรียกชื่อเขาออกมา

"ปะ ปล่อยผมไปเถอะครับ!" น้ำรวบรวมความกล้าพูดออกมาเสียงดังตะกุกตะกักเพื่อให้คนปลายสายรับรู้ว่าตัวเองอยูในสถานะการณ์ที่ไม่ปกติ

"เงียบปากซะ!" โจรหยาบตวาดออกมาเสียงกร้าว แล้วกระชากตัวน้ำให้ถอยหลังตามมันไป

"ช่วยดะ อึก!" น้ำตัดสินใจตะโกนให้ปลายสายรับรู้ว่าต้องการความช่วยเหลือแต่ก็ต้องจุกจนพูดไม่ออกเพราะโดนต่อยเข้าที่ท้องอย่างจังจนล้มพับลงไป

...คนตัวเล็กยกมือขึ้นกุมท้องตัวเองอย่างเจ็บปวด หน้าแดงก่ำ อ้าปากค้างเพราะที่โดนต่อยมานั้นมันจุกเสียจนคนตัวเล็กแทบขาดอากาศ ...น้ำตาไหลอาบสองแก้มอย่างหวาดกลัวกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไป เขาไม่สามารถรอดจากตรงนี้ไปได้แน่ๆ ยิ่งคิดก็ยิ่งพาลน้ำตาไหลหนักกว่าเดิม  เนื้อตัวสั่นเทาอย่างห้ามไม่ได้ ที่ชายโครงขวาด้านหลังก็ปวดหนึบขึ้นมาในฉับพลันที่พลิกตะแคงไปแถบนั้น ...ตอนนี้ในหัวเขามันคิดอะไรเต็มไปหมด คิดไปต่างๆนาๆ ยิ่งคิดถึงสิ่งที่จะเกิดก็ยิ่งพาลให้น้ำตาไหล



"น้ำ!!" ผาร้องเรียกคนตัวเล็กที่ล้มลงไปต่อหน้าเขาเสียงดัง

...น้ำที่สติแทบเตลิดไปไกลพอได้ยินเสียงเรียกที่คุ้นเคย น้ำตาที่ไหลมากอยู่แล้วก็พาลไหลออกมามากมายอย่างห้ามไม่อยู่...เขามา เขามาจริงๆ

"พะ พี่...ผา อึก!" คนตัวเล็กขดตัวเอามือกุมท้อง เอ่ยเรียกชื่อเขาทั้งๆที่ยังไม่เงยหน้าขึ้นมามองด้วยซ้ำ

...ที่เขามาถึงไวขนาดนี้ก็เพราะเขาขับตามดูคนตัวเล็กกลับหอทุกวัน แต่วันนี้เขามาช้าหรือเพราะคนตัวเล็กเลิกเร็วกันแน่เขาก็ไม่แน่ใจ...แล้วโจ้กับธามไปไหนอันนี้เขาก็ยังสงสัย เขามาจอดรถรออยู่หน้ามหาลัยสักพักได้แล้วแต่เห็นว่าไม่ออกมาสักทีก็เลยขับรถวนเข้าไปดูปรากฎว่าเชอร์รี่บอกว่าเลิกไปสักพักแล้วเขาก็เลยรีบโทรหาแต่คนตัวเล็กก็ไม่ยอมรับ...จนมารับสายเขาอีกทีก็ได้ยินเสียงคนตัวเล็กพูดแปลกๆเขาก็เริ่มเอะใจ ว่าต้องเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นแน่ๆ จึงรีบขับรถตามเส้นทางกลับหอของคนตัวเล็กเรื่อยๆหูฟังที่คนตัวเล็กพูด ตาคอยมองข้างทางตลอด เพราะค่อนข้างมืด และในที่สุดเขาก็เจอ...

"มึงเป็นใคร!!" ไอ้โจรหยาบหันวัตถุปลายแหลมชี้มาทางผาแล้วเอ่ยถามเสียงกร้าว

"ส่งคนของกูมา!" ผาไม่ตอบแต่กลับบอกไปเสียงเครียดอย่างไม่กลัว

"ไม่!!"

ฉึบ! ผลัก! ผลัวะ! ผลัวะ!

มันตะโกนออกมาอย่างเกรี้ยวกราดก่อนจะกระโจนเข้าใส่ผาพร้อมกับจ้วงแทงมีดมาทางร่างสูงด้วย แต่ผาไวกว่าหลบได้แล้วเตะสวนเข้าที่ท้องก่อนจะตะบันหมัดใส่หน้าไปอีกหลายหมัดจนมันล้มนอนกองลงไป

"น้ำ! น้ำ!" เขาเดินเข้าไปหาน้ำ พยุงคนตัวเล็กขึ้นนั่งพิงตัวเขา คนตัวเล็กน้ำตาเปื้อนหน้าเลอะเทอะไปหมด เอาแต่ขดตัวมือกุมท้องตัวสั่นไปหมดทั้งตัว

...เขากอดน้ำเอาไว้หลวมๆพร้อมกับลูบหัวปลอบเบา

...เขาหันกลับไปหาไอ้โจรใจหยาบนั่นด้วยดวงตาลุกวาวประคองน้ำให้เอนตัวลงเบาๆ ก่อนจะเดินเข้าไปซัดไอ้โจรนั่นไม่ยั้งจนไม่มีแรงจะผงกหัวขึ้นมา ก่อนที่เขาจะยกโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาตำรวจ ไม่นานเกินรอตำรวจก็แห่กันมาเขาให้ปากคำเพียงเล็กน้อยแล้วปล่อยให้ตำรวจเคลียไปเพราะไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้วเนื่องจากรู้จักกันกับคุณพ่อของเขาเอง หลังจากจัดการเสร็จก็ไม่รอช้า รีบอุ้มคนตัวเล็กเข้ารถแล้วขับเลี้ยวเข้าคอนโดของเขาไป

"กะ กลับ...ห้อง พี่ผา" เขาเตรียมจอดรถแล้วก็มีเสียงแหบเจือเสียงสะอื้นของคนนั่งข้างๆดังขึ้น เขาไม่ตอบแต่วนรถออกไปยังหอของคนตัวเล็กทันที ...จอดรถเสร็จเขาก็ลงมาอุ้มคนตัวเล็กไว้ในอ้อมกอดแล้วเดินเข้าไปภายใน ถามเลขที่ห้องคนตัวเล็กก็ตอบออกมาแต่โดยดีไม่ได้ขัดขืนอะไร

"อยู่เฉยๆนะ" ร่างสูงวางน้ำลงบนเตียงแล้วบอกเบาๆก่อนจะผละออกไป กลับมาอีกทีพร้อมกะละมังใส่น้ำ ผ้าผืนเล็ก และกล่องปฐมพยาบาลวางจัดเตรียมไว้ที่โต๊ะข้างเตียงส่วนตัวผาเองนั่งตรงพื้นที่ว่างข้างๆคนตัวเล็กที่นอนอยู่

...ผาเอาผ้าจุ่มน้ำบิดพอหมาดแล้วเช็ดหน้าที่เลอะคราบน้ำตาของคนตัวเล็กเบาๆ

...ไม่มีคำพูดใดๆออกมาจากปากทั้งสองคน มีเพียงสองสายตาที่ประสานสบกันเนิ่นนาน ทำให้คนตัวเล็กน้ำตารื้นขึ้นมาอีกรอบ ผาบรรจงค่อยๆไล้นิ้วโป้งเช็ดน้ำตานั้นออกไปอย่างแผ่วเบาก่อนจะโน้มหน้าลงไปจุมพิตที่หน้าผากมนอย่างอ่อนโยนพร้อมกับลูบหัวทุยเบาๆเพื่อปลอบประโลมคนขวัญเสีย...คนตัวเล็กที่ถูกทำแบบนี้ก็รู้สึกอุ่นวาบในใจขึ้นมาเอียงเข้าหาสัมผัสอันอ่อนโยนที่ผามอบให้ คนตัวเล็กรู้สึกปลอดภัย รู้สึกอบอุ่นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

"พี่ถอดเสื้อนะครับ" ผาพูดขออนุญาต ก่อนจะอื้มมือไปปลดเนคไทด์ และกระดุมออกทีละเม็ดจนหมด แวกเสื้อออกจนเห็นกายขาวผ่องอยู่ตรงหน้ามีรอยช้ำม่วงเป็นวงใหญ่อยู่กลางท้องขาว ...เม็ดเล็กๆอมชมพูกลางอกที่ชูชันเด่นหราเพราะความเย็นของแอร์และผ้าชุบน้ำที่เช็ดตัวนั่นทำให้ผาถึงกับต้องลอบกลืนน้ำลาย ก่อนจะเสตามองไปที่อื่น แต่ตาก็ไปสะดุดเข้ากับรอยเลือดที่ซึมจนเปื้อนทะลุเสื้อนักศึกษาออกมาทางแถบชายโครงด้านหลังทางขวา

"น้ำไปโดนไรมา" ผาถามออกมาอย่างตกใจพลางค่อยๆช้อนตัวน้ำขึ้นมาพิงอกตนไว้...คนตัวเ็กร้องซี๊ดออกมาเบาๆเพราะเจ็บระบมไปทั้งตัว

"น่าจะ...โดนมันเอา...มีดกดลงมา...ครับ" คนตัวเล็กตอบออกมาเสียงขาดๆหายๆ ร่างสูงจัดท่านั่งให้คนตัวเล็กหันหน้าเข้าหาเขาเอนหัวพิงไหล่เขาดีๆแล้วค่อยถอดเสื้อออก

...รอยแดงเป็นจ้ำๆตามแขนตามตัวอีกนับไม่ถ้วน บางจุดเป็นสีม่วงๆช้ำๆดูน่ากลัวเพราะไอ้ระยำนั่นไม่ได้ออมแรงแม้แต่น้อย

...เขาเอื้อมไปหยิบกล่องปฐมพยาบาลมาแล้วบรรจงทำแผลให้น้ำอย่างอ่อนโยน เมื่อทำแผลเสร็จแล้วเขาก็เช็ดตัวให้จนเสร็จ แล้วทายาแก้ฟกช้ำตามจุดฟกช้ำที่มีประปรายอยู่ตามเนื้อตัว

...คนตัวเล็กยังคงใส่กางเกงสแล็คดำตัวเดิมอยู่ด้วยที่ร่างสูงไม่รู้จะเปลี่ยนให้ยังไงดี กะจะเปิดตู้เอาแค่เสื้อมาใส่ให้ แต่เขาก็ดันเห็นเสื้อเชิ้ตนักศึกษาตัวใหญ่โคร่งของใครไม่รู้แขวนอยู่ในตู้จึงหยิบออกมาใส่ให้คนตัวเล็กเพราะเขาจะได้เปลี่ยนกางเกงให้ด้วย

"พี่ถอดกางเกงออกนะครับ" ด้วยเสื้อที่ตัวใหญ่มากจึงปิดลงมาถึงหน้าขา ...เขาค่อยปลดกระดุมออกและค่อยๆรูดซิบลงมา

...ในตอนนี้ทั้งน้ำทั้งผาเองคงมีจะมีสีหน้าไม่ต่างกันนัก ผาที่เห็นขาขาวอยู่ตรงหน้าก็แทบกระโจนเข้าใส่สะกัดกลั้นอารมณ์ตัวเองจนเลือดพลุ่งพล่านร้อนไปทั่วตัว ใบหูที่แดงแจ๋ของผาน้ำเห็นมันได้อย่างชัดเจน ...น้ำเองก็อยากจะขัดขืนและปฏิเสธการกระทำของร่างสูงที่กำลังทำอยู่ แต่ก็รู้ดีว่าร่างกายตัวเองไม่เอื้ออำนวยสักเท่าไหร่ และเพราะการกระทำแสนอ่อนโยนนั้นทำให้ใบหน้าหน้ารักขึ้นริ้วแดงไปทั่วทั้งปรางค์แก้มนวลอย่างเขินอาย...ที่ให้ทำแบบนี้เป็นเพราะเขาไม่มีแรงที่จะขยับทำอะไรจริงๆ

...เมื่อถอดกางเกงเสร็จแล้วหาก็เตรียมตัวลุกขึ้นเอาของไปเก็บที่

หมับ!

"หื้ม?" เขาหันมามองมือที่ถูกคนตัวเล็กจับเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย ดวงตาสั่นระริก มีน้ำใสเอ่อคลอเต็มหน่วย

"ยะ อย่าเพิ่งไป...ได้มั้ยครับ" คนตัวเล็กว่าออกมาก่อนจะเสตาหลบไปทางอื่น ...ผาที่ได้ยินแบบนั้นก็เผยยิ้มกว้างออกมาในรอบหลายวันที่ไม่ได้เจอกับคนตัวเล็ก

"เดี๋ยวมาครับ เอาของไปเก็บก่อน" ผาบีบมือเล็กกลับไปเบาก่อนจะเอื้อมมือไปลูบหัวทุยอย่างปลอบปละโลม แล้วผละออกไปเอาอุปกรณ์ไปเก็บแล้วกลับมานั่งที่ว่างบนเตียงที่เดิม ก่อนจะยกผ้าห่มคลุมคนตัวเล็กเอาไว้

จุ๊บ~

"ฝันดีครับ" ผาโน้มหน้าเข้าไปฝากจุมพิตที่หน้าผากมนก่อนจะผละออกมาบอกฝันดีพร้อมกับยังลูบหัวทุยยังไม่หยุด คล้ายจะขับกล่อมให้คนตรงหน้านี้ลืมเรื่องร้ายๆแล้วนอนหลับฝันดี

"คือ...ถ้าผมหลับ...พี่ผาจะกลับเลยรึเปล่าครับ" คนตัวเล็กถามออกมา

"แล้วน้ำอยากให้พี่กลับมั้ยครับ" ผาย้อมถาม คนตัวเล็กส่ายหัวช้าๆ

"โอเค งั้นนอนเนอะ" ผาว่าออกมาอมยิ้มอย่างเอ็นดูในความขี้อ้อนของคนตรงหน้า

...น้ำจับมือผาไว้ทั้งอย่างนั้นตลอดจนเข้าสู้ห้วงนิทราไปก็ยังไม่คลาย ...คนตัวเล็กไม่รู้เลยว่าผานั่งมองหน้าตัวเองแล้วยิ้มออกมานานนับชั่วโมงก่อจะทรุดตัวลงนั่งข้างเตียงแล้วหลับตามคนตัวเล็กไปในที่สุด...

...บางทีก็ดูร้าย บางทีก็ดูน่ารัก และบางทีก็ขี้อ้อนแบบที่เจออยู่ตอนนี้ แต่ไม่ว่าแบบไหน...เขาก็คงชอบอยู่ดี หรือบางทีมันอาจจะมากกว่าชอบไปแล้วก็ได้...









...100%...

...To Be Continued...






ออฟไลน์ Chise

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Re: Bear in mind ...ผมไม่ร้ายนะครับ [YAOI] [ep.9]
«ตอบ #17 เมื่อ20-12-2017 16:20:25 »

เกลียดคนเจ้าชู้อะ ถ้าผายังเคลียร์ตัวเองไม่ได้ก็อย่าเพิ่งมายุ่งกับน้องเลย  น้องนำ้ก็ต้องใจแข็งไว้ก่อนนะ

ออฟไลน์ มายซินนี่

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
[Episode 11]





...เช้าวันใหม่ที่ไม่ค่อยจะสดใสสักเท่าไหร่สำหรับคนตัวเล็ก เจ็บร้าวระบมไปทั่วทั้งตัว จนไม่อยากจะขยับตัวตื่น แต่เป็นเพราะกลิ่นอะไรที่มันหอมมากๆ มากถึงกับทำให้เขาตื่น มากจน...ทำให้กระเพาะเขาทำงาน ส่งเสียงร้องประท้วงว่าหิวแล้ว ...ร่างสูงที่ยืนกอดอกมองคนตัวเล็กขยับจมูกดมกลิ่นฟุดฟิดๆแต่ไม่ยอมลืมตาหรือขยับแม้แต่น้อย อยู่ข้างเตียงก็ถึงกับกลั้นยิ้มไว้ไม่อยู่

...อยู่ใกล้ทีไร กลายเป็นคนยิ้มง่ายทุกที ให้ตายเถอะ...

ผาอยากจะแกล้งยืนดูเงียบๆอย่างนี้อีกสักพักแต่นี่มันก็ปาไปจะเก้าโมงแล้ว เขามีเรียน 11 โมง ที่จริงก็ไม่ได้เรียนหรอก ไปเสนอความคืบหน้าโปรเจคจบซะมากกว่า ปีสี่แล้วก็แบบนี้ไม่ค่อยได้เรียนหรอก หัวหมุนอยู่แต่กับโปรเจค วันๆก็หมกตัวอยู่แต่กับโปรเจค  นอนก็ไม่ค่อยได้นอน...มีเมื่อคืนเนี่ยแหละที่ได้นอนเต็มอิ่มหน่อย

"อ้ะ! ซี๊ด~" สงสัยเขาคงคิดอะไรเพลินไปหน่อยเลยไม่ทันสังเกตว่าคนตัวเล็กที่นอนอยู่ขยับตัวตื่นแล้ว "เจ็บมากมั้ย ค่อยๆลุก" ผาเข้าไปจับแขนช่วยประคองน้ำให้ลุกขึ้นนั่ง เอาหมอนวางหนุนหลังให้พิงกับหัวเตียงสบายๆ ...น้ำผงะไปเล็กน้อยเมื่อเห็นคนที่กำลังช่วยประคองเขาอยู่เป็นใคร เขานึกว่าจะเป็นโจ้หรือไม่ก็ธามซะอีก คนตัวเล็กนึกไปถึงเมื่อคืนตอนเกิดเรื่องแล้วความทรงจำทุกอย่างก็หลั่งไหลเข้ามา

'พี่ถอดเสื้อนะครับ'

'พี่ถอดกางเกงออกนะครับ'

จุ๊บ~

'ฝันดีครับ'


...เหตุการณ์เมื่อคืนไหลเข้ามาไม่มีหยุด ใบหน้าร้อนฉ่าเหมือนจะระเบิด น้ำนั่งนิ่งขืนตัวไม่ยอมขยับหน้าขึ้นสีแดงระเรื่อไปทั่วทั้งปรางค์แก้มนวล จนคนมองนึกเป็นห่วงกลัวไม่สบาย

"ไม่สบายรึเปล่าน้ำ" ผาใช้หลังมืออังที่แก้มของน้ำแล้วเอ่ยถามออกมาเพราะมันร้อน

"อะ เอ่อ...ไม่ครับ" คนตัวเล็กตอบออกมาก่อนจะค่อยๆบิดแขนออกมาจากการกอบกุมของร่างสูง

...ผาที่เห็นปฏิกิริยาที่คนตัวเล็กมีต่อตอนเองนั้นก็นึกขึ้นได้ว่าครั้งก่อนทำอะไรแย่ๆไว้กับคนตัวเล็กนี่ ...ทันทีที่นึกขึ้นได้ว่าจัวเองทำอะไรแย่ๆไว้กับน้ำผาก็ปล่อยแขนคนตัวเล็กออกแล้วนั่งลงบนเตียงกับน้ำ ...ทั้งสองคนต่างก็เงียบใส่กัน ที่ผาเงียบเพราะเขารู้สึกผิดกับเรื่องที่เขาทำไว้ เขาอยากจะขอโทษอยากจะอธิบายทุกๆอย่างให้ฟังแต่มันก็ไม่ทีโอกาสเลยสักครั้ง...เห้อ ...คนตัวเล็กได้ยินผาถอนหายใจก็หน้าเสีย คิดไปว่าตัวเองทำอะไรผิดอีกรึเปล่า พาลทำให้นึกถึงเรื่องวันนั้นที่ตัวเองอารมณ์เสียใส่ร่างสูงไปแบบไม่มีเหตุผลจริงๆอย่างที่ร่างสูงว่าไว้

...พี่ผาคงโกรธเขาอยู่เป็นแน่...

พรึ่บ

"ยังไงก่อนไปพี่ขอทำแผลให้ก่อนก็แล้วกันถ้าไม่ทำตอนนี้มันจะอักเสบเอา เดี๋ยวพี่จะบอกให้โจ้กับธามมาอยู่เป็นเพื่อน" ผาลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะว่าออกมาแล้วเดินไปหยิบกล่องอุปกรณ์ทำแผลมา เตรียมอุปกรณ์ทุกอย่างที่จะใช้แล้วเอ่ยขึ้นมาเบาๆ

"หันหลังมาหน่อยครับ" ผาบอกพร้อมกับช่วยประคองให้น้ำค่อยๆหมุนตัวหันหลังให้เขา  น้ำทำตามอย่างว่าง่ายแต่ก็ยังเงียบเหมือนเดิม หยิบหมอนขึ้นมาไว้บนตักแล้วกอดเอาไว้ ในหัวตีกันให้ยุ่งไปหมด ไม่รู้จะพูดกับร่างสูงยังไงดี

"ปลดกระดุมเสื้อออกหน่อย..." คนตัวเล็กสะดุ้งเบาๆ สงสัยอยู่เล็กน้อยว่าทำไมต้องให้ปลดกระดุมด้วย

"เอ่อ...คือ..."

"หรือจะให้พี่ ถกเสื้อเราขึ้นมาดี หื้ม?" พอคนตัวเล็กได้ยินร่างสูงบอกแบบนั้นก็คิดได้ว่าตังเองใส่เพียงแค่กางเกงในแค่ตัวเดียวถ้าถกหมดคงเห็นอะไรต่อมิอะไรของเขาหมดแน่ เลยรีบปลดกระดุมออกจนเกือบหมด

"ปะ...ปลดแล้วครับ"  ...ผาค่อยๆแหวกเสื้อให้ล่นลงมากองอยู่ตรงบริเวณข้อศอกคนตรง จนเห็นผ้าก็อตสีขาวมีเลือดซึมปิดทับแผลอยู่บริเวณชายโครงด้านขวา

...ลาดไหล่ขาว แผ่นหลังเนียนละเอียดที่กระทบกับแสงแดดที่ส่องเข้ามา ทำให้ผาลอบกลืนน้ำลายไปอึกใหญ่ เอวคอดเล็กน้อยในแบบผู้ชายตัวเล็กหุ่นดี ผาสะบัดหัวไปมาเพื่อขับไล่อารมณ์บางอย่างที่กำลังก่อตัวขึ้นมาก่อนที่จะห้ามไม่ได้ ...ผาค่อยๆแกะผ้าก็อตออก แล้วลงมือทำแผลอย่างเบามือ แต่สงสัยคงเบาไม่มากพอเพราะคนตัวเล็กสะดุ้งอยู่บ่อยๆ

"พี่ทำเจ็บหรอ" ผาหยุดมือแล้วเอ่ยปากถามอย่างเป็นห่วง

"ก็...นิดหน่อยน่ะครับ" น้ำตอบเสียงเบา

"ทนหน่อยนะ เดี๋ยวก็เสร็จแล้ว" ผาบอกพร้อมกับค่อยๆแต้มยาฆ่าเชื้อลงไป ก่อนจะปิดแผลด้วยผ้าก็อตที่เตรียมไว้ ...ผาเลื่อนเสื้อขึ้นไปคลุมหัวไหล่เนียนไว้อย่างเดิมก่อนจะจับไหล่คนตัวเล็กไว้ทั้งสองข้าง

"หันหน้ามาหน่อยครับ" คนตัวเล็กค่อยๆหันมาอย่างว่าง่าย ...ก้มหน้าซ่อนริ้วแดงบนแก้มนวลเพราะความเขินอายกับความอ่อนโยนที่ร่างสูงมอบให้ ...ผาหยิบหมอนที่คนตัวเล็กกอดอยู่ไปวางอิงกับหัวเตียง แล้วค่อยๆดันตัวน้ำให้เอนตัวพิงหมอนใบนุ่ม ก่อนจะแหวกสาบเสื้อออกเพื่อจะทายาให้ที่รอยฟกช้ำวงใหญ่ที่ม่วงช้ำอยู่กลางหน้าท้องเรียบแบน ...แต่คนตัวเล็กที่ไม่ได้คิดว่าร่างสูงตรงหน้าจะทายาให้ก็ทำหน้าเหลอหรา ขยับตัวยุกยิก

"อยู่เฉยๆก่อน พี่จะทายาให้" คนตัวเล็กนิ่งไปทันที กัดปากล่างเพื่อเก็บอาการเขิน แต่หูกับแก้มนวลที่ขึ้นสีแดงเรื่อหนักกว่าเก่าก็ไม่อาจะพ้นสายตาผาไปได้ กิริยาที่คนตัวเล็กเป็นอยู่นี่ทำให้ผาหลุดยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่อยู่

"ยิ้มอะไรครับ" คตัวเล็กขมวดคิ้วเชิดหน้าถาม

"ก็คิดอะไรอยู่ล่ะ" ผาว่าออกมายิ้มๆ พร้อมกับป้ายยาลงบนรอยฟกช้ำ

"ผม...ไม่ได้คิดไรสักหน่อย" คนตัวเล็กอ้อมแอ้มตอบ ก่อจะหลุบตามองมือผาที่กำลังทายาให้ตนอยู่ ...ความรู้สึกผิดที่มีอยู่แล้วก็เหมือนจะยิ่งมีเพิ่มมากขึ้นไปอีกเพราะการดูแลอย่างดี และความอ่อนโยนที่ร่างสูงมอบให้ คนตัวเล็กเม้มปากเข้าหากันแน่น พร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองหน้าผาที่กำลังตั้งใจทายารอยฟกช้ำตามตัวเขา ...เขาไม่รู้ว่าความรู้สึกที่มันเกิดขึ้นมามันจะไวไปมั้ย เขาไม่รู้ว่าควรทำตัวยังไง จะเริ่มต้นยังไง...ทำไมทุกอย่างถึงดูยากไปหมด ผิดไปหมด

"เป็นอะไรรึเปล่าน้ำ" ผาที่เห็นว่าคนตัวเล็กเอาแต่นิ่งเงียบมองหน้าเขามาสักพักแล้วเอ่ยทักขึ้นมา แต่คนตัวเล็กก็ยังนิ่งอยู่

...ถ้าเขาจะขอโทษเรื่องวันนั้นในวันนี้มันจะสายไปรึเปล่านะ...

"น้ำ..." ผาเรียกคนตัวเล็กอีกครั้งเพื่อที่จะเอ่ยขอโทษกับเรื่องราววันนั้น

"น้ำ...ขอโทษ" พูดจบก็หลุบตามองต่ำ ผานิ่งคิดไปสักพักก่อนจะถามออกมา

"ขอโทษเรื่องอะไร"

"ก็...เรื่องวันนั้น" ผามองหน้าคนตัวเล็กนิ่ง...ทั้งๆที่น้ำไม่ได้ผิดด้วยซ้ำ ยังเอ่ยคำขอโทษก่อนเขาที่เป็นคนผิดเสียอีก

"น้ำไม่ได้ผิด น้ำไม่จำเป็นต้องขอโทษอะไรพี่เลย" ผาเก็บหลอดยาเข้ากล่องแล้วหันกลับมาติดกระดุมเสื้อให้คนตัวเล็ก

"แต่น้ำพูดไม่ดี น้ำไม่มีเหตุผลจริงๆอย่างที่พี่บอก" น้ำเงยหน้าขึ้นมาสบตากับผาแล้วเอ่ยออกมา

"น้ำมีสิทธิที่จะทำแบบนั้น เพราะพี่ไม่ชัดเจนเอง...พี่ไม่พูดให้เคลียร์ พี่ไม่ได้ให้ความมั่นใจกับเรา พี่ควรจะอธิบายตั้งแต่วันนั้น" ผามองสบดวงตาสวยด้วยแววตาจริงจัง

"น้ำมีสิทธิหรอ" น้ำถาม เพราะเขารู้สถานะดีว่ามันไม่ใช่สถานะของคนที่มีสิทธิที่จะทำอะไรแบบนั้นได้

"น้ำมีสิทธิในตัวพี่ทุกอย่าง" ผามองสบตาพร้อมกับจับมือคนตัวเล็กสอดประสานและบีบเบาๆ คล้ายกับบอกให้น้ำฟังและเชื่อในสิ่งที่เขาพูด

"ยังไง...ครับ" น้ำถามเพื่อความมั่นใจ

"ตั้งแต่วันนี้พี่จะไม่จีบน้ำแล้ว..." น้ำเม้มปากแน่นจนเป็นเส้นตรง คนตัวเล็กไม่เข้าใจในสิ่งที่ผาพูด เขาไม่เข้าใจกับสิ่งที่ผากำลังจะสื่อ ไหนบอกว่าเขามีสิทธิทุกอย่าง แล้วมาบอกกันแบบนี้...มันคืออะไร

"ผม...ไม่เข้าใจ" "คบกับพี่นะ" ทุกอย่างเหมือนหยุดอยู่กับที่ เวลาเหมือนหยุดเดินไปเสียดื้อๆ แววตาสั่นไหว เต็มไปด้วยความดีใจและกังวลใจไปพร้อมๆกัน ผายังไม่รู้ว่าเป็นใครอะไรยังไง ถ้าผารู้ว่าเขาเป็นแค่เด็กกำพร้าไม่มีอะไรเลย...ผาจะยังขอเขาคบแบบนี้อยู่หรือเปล่า แล้วถ้าคบกันแล้ว ไม่วันใดก็วันหนึ่งผาก็ต้องรู้ แล้วถ้ารู้แล้ว...เขากับผาจะยังคบกันอยู่มั้ย แล้วทางครอบครัวของผาจะรับได้หรือเปล่า

"มันอาจจะไวไป แต่พี่อยากให้เราเชื่อใจพี่ เรียนรู้กันไปเรื่อยๆ ทีละเล็กทีละน้อย ตัวตนของน้ำพี่อยากจะเรียนรู้มันทุกอย่าง และพี่ก็อยากให้น้ำได้เรียนรู้ในตัวตนพี่ด้วยเหมือนกัน ...ได้หรือเปล่า" ผาบีบกระชับมือคนตัวเล็กเบาๆพร้อมกับยิ้มอ่อนโยนไปให้ ...ที่ผ่านเขาไม่เคยคิดจะจริงจังกับใครเลย ไม่เคยคิดอยากให้ใครเข้ามาก้าวก่ายชีวิตส่วนตัว แต่กับน้ำเขากลับไม่ได้คิดแบบนั้น ความรู้สึกที่เขามีมันมากกว่าทุกคนที่ผ่านมา เขาก็ยังไม่แน่ใจร้อยเปอร์เซ็นต์หรอกว่าเขาสามรถรักน้ำได้จริงๆ ความรู้สึกลึกๆมันบอก ว่าลองดูก็ไม่เสียหาย เขาไม่รู้หรอกว่าความรักแบบนี้จะไปกันรอดรึเปล่า แต่เขามั่นใจว่าเขาจะไม่ทำให้น้ำเสียใจเพราะเขาแน่นอน... ...น้ำหลุบตามองต่ำ เม้มปากแน่น ความรู้สึกหลากหลายประเดประดังเข้ามาในหัวไม่หยุด หัวใจเต้นระรัว จนกลัวว่าคนข้างนอกจะได้ยินมันหรือเปล่า

"พี่แน่ใจแล้วหรอครับ" น้ำถามเพื่อความมั่นใจ

"แน่ใจ..."

"เป็นแฟนพี่นะ" หลังจากได้ยินคำถามอีกครั้งก็เงียบไปอึดใจก่อนจะตอบออกมา

"ครับ..." คนรอฟังคำตอบถึงกับยิ้มกว้างออกมาอย่างดีใจ บีบกระชับมือแน่นยิ่งขึ้น ก่อนจะค่อยๆเอามือขาวนั้นขึ้นมาทาบตรงบริเวณหน้าอกด้านซ้ายของตน คนตัวเล็กที่สัมผัสได้ก็ถึงกับหน้าแดงด้วยความเขินอาย...เพราะอะไรน่ะหรือ ก็เพราะว่ามันเต้นรัวเร็วแบบเขาไม่มีผิด

"พี่จะไม่สัญญาอะไรทั้งนั้น เพราะพี่จะทำมันให้เราเห็น และตัดสินใจเอง..."

"น้ำ เป็นไงบ้าง..." เสียงเปิดประตูที่ดังขึ้นมาพร้อมกับเสียงของโจ้ทำให้ทั้งสองคนหันไปมองจนคอแทบหัก น้ำรีบชักมือกลับมาไว้กับตัวอย่างเดิมทันที จากที่หน้าแดงอยู่แล้วก็แดงมากขึ้นไปอีกเพราะสายตาล้อเลียนที่โจ้ส่งมาให้นั่นแหละ ...ในขณะที่ผาก็กำลังนั่งสงสัยอยู่ว่าไอ้สองแสบสองตัวนี่มันเข้ามาได้ยังไง เพราะเขาว่าเขาล็อคห้องไว้ และก่อนที่จะสงสัยอะไรไปมากกว่านี้ไอ้แสบตัวที่หนึ่งนามว่าโจ้ก็ยกมือขึ้นมาเผยให้เห็น...กุญแจ นั่นสินะ ถ้าเขาล็อคไว้ ทางเดียวที่จะเข้ามาก็คือต้องมีกุญแจเท่านั้นแหละ เขาไม่คิดสงสัยอยู่แล้วว่าทำไมพวกมันถึงมีกุญแจ น้ำมีเพื่อนสนิทสุดๆก็สองตัวนี่แหละ

"กูบอกมึงแล้วใช่มั้ยว่าเดี๋ยวค่อยขึ้นมา ฟังกูมั่งสิ" ธามกระซิบเสียงลอดไรฟัน

"เออน่า ไหนๆก็มาแล้วเนี่ย แดกข้าวมั้ยล่ะมึงกูหิว" โจ้ไม่สนอะไรทั้งนั้น เดินดุ่มๆเข้ามาในห้อง กางโต๊ะญี่ปุ่นนั่งกันตรงพืืนที่ว่างหน้าโทรทัศน์แบบไม่เกรงใจแม้แต่พี่ปีสี่ที่มองอยู่ ...ผามองแล้วได้แต่ส่ายหัวเอือมๆกับพวกมันสองตัว

"วันนี้โจ้กับธามไม่ไปเรียนหรอ" น้ำถามด้วยความสงสัย ทีแรกที่ผาบอกจะให้โจ้กับธามมาอยู่เป็นเพื่อนก็คิดว่าคงจะใส่ไม่ก็เตรียมชุดนักศึกษามา...แต่นี่มัน ชุดพร้อมนอนชัดๆเลย

"อาจารย์ยกคลาส วันนี้เลยว่างทั้งวัน ...อ่ะ ของมึง" ธามหันมาตอบน้ำเสร็จก็หันกลับไปหยิบกับข้าวออกจากถุงส่งให้โจ้ที่นั่งฝั่งตรงข้าม 

"รู้ได้ไงวะ ของโปรดกูเลย" โจ้รับไปแกะอย่างดีใจ เพราะนานๆจะได้เป็ดย่างจากร้านนี้สักที...หนึ่งล่ะคนเยอะ สองล่ะตังไม่มี จบข่าว

"ของที่มึงอยากแดกมันจะมีอยู่สักกี่อย่างกันวะ" ธามว่าพร้อมกับแกะกับข้าวใส่จานไปด้วย

"ซื้อมาแต่ของชอบกู ...คิดอะไรกับกูปะเนี่ย" โจ้ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ พร้อมกับฉีกยิ้มกว้างล้อดลียนคนตรงหน้าเต็มที่ ธามมองกลับนิ่งๆ สบสายตากลับด้วยแววตาจริงจัง ไร้แววขี้เล่นอย่างที่ควรจะเป็นจนโจ้เองรู้สึกได้

"อืม...คิด" เขแค่พูดเล่นแต่คำตอบและสายตาที่ส่งมาให้เขามันไม่มีแววล้อลเ่นเลยแม้แต่นิดเดียว อึ้ง ...แต่โจ้ก็อึ้งได้แค่นั้น ก่อนจะถูกธามใช้มือผลักหัวอย่างไม่เบานัก จนแทบหงายท้อง

"คิดว่าเมื่อไหร่จะหยุดกวนตีน แล้วแดกข้าวสักที กู! หิว!" พูดจบก็ตักข้าวเข้าปาก ตักนู่นกินนี่ไม่สนใจแม้แต่โจ้ที่มัวแต่นั่งคลำหน้าผากตัวเองป้อยๆ เสียงหัวเราะแว่วๆดังมาจากบนเตียงเลยหันไปส่งค้อนให้หนึ่งที ...แม่ง กูนี่ก็ขี้ลืมจริงเนาะ ไอ้ห่านี่ยิ่งขี้โมโหหิวอยู่ บุญละที่กูไม่โดนแม่งฆ่า... โจ้คิดในใจ ก่อนจะลงมือกินข้าวบ้าง

"งั้นพี่ไปก่อนนะ เรื่องซ้อมพี่บอกรี่มันไปและว่าเราจะหยุดสักสองสามวัน กินข้าวหมดแล้วอย่าลืมกินยาล่ะ จะได้หายไวๆ" ผายื่นมือไปยีผมตัวเล็กเบาๆอย่างเอ็นดู ก่อนจะลุกขึ้นเอากล่องยาไปเก็บ

"มึงสองตัวดูแลแฟนกูดีๆนะ ถ้าไม่ดี...มึงโดนกูซ่อมแน่" ก่อนจะไปก็ไม่ลืมที่จะหันมาสั่งไอ้เสือแสบสองตัวพร้อมกับชี้หน้าคาดโทษ

"ค้าบๆ" สองซี้เงยหน้าขึ้นมาตอบพร้อมกัน ผาหันมาส่งยิ้มให้กับน้ำก่อนจะเดินออกจากห้องไป ...ทั้งโจ้และธามเพิ่งรู้เรื่องที่น้ำถูกทำร้ายจนบาดเจ็บก็เมื่อเช้าตอนที่ผาโทรไปตามเขามาดูนั่นแหละ คราแรกก็ตกใจอยู่ไม่น้อยเพราะคิดว่าคงถูกทำร้ายจนเจ็บหนัก พอรู้ว่าแผลไม่ได้ใหญ่อะไรมากก็ค่อยเบาใจขึ้นมาหน่อย อีกอย่าง...มีคนดูแลดีขนาดนั้นเขาก็เบาใจไปได้เยอะ ยิ่งตอนนี้เพื่อนตัวเล็กของเขามีสถานะแบบนี้ก็หายห่วงไปได้เลย "เป็นไงบ้าง" หลังจากที่กินข้าว เก็บของกันเสร็จแล้วก็เข้ามายืนถามไถ่คนไข้ที่กำลังหยิบยาขึ้นมากินอยู่ข้างๆเตียง

"ก็...ดีขึ้นเยอะแล้วล่ะ เหลือแต่แผลข้างหลังที่ยังเจ็บอยู่นิดหน่อย" น้ำตอบ

"ก็พยาบาลดีขนาดนั้น ไม่ดีขึ้นก็บ้าแล้ว" โจ้อดแซวให้คนตัวเล็กเขินไม่ได้ และเพื่อนตัวเล็กของเขาก็เขินจริงๆ

"มึงก็ไปแซวน้ำ...ดูดิหน้าแดงหมดแล้วเนี่ย" ธามว่าต่อ ประโยคดูเหมือนจะต่อว่าโจ้นะ แต่ถ้าดูที่เจตนาก็แซวเหมือนๆกันนั่นแหละ

"มึงอ่ะตัวดีเลย" โจ้ชี้หน้าธาม

"ทั้งสองคนนั่นแหละครับ ไม่ต้องแซวเลย" น้ำขมวดคิ้วหน้ามุ่ยอย่างน่ารัก จนโจ้ทนไม่ไหว หยิกแก้มไปทีจนคนโดนหยิกถึงกับซี้ดปาก

"คบกันแล้วอ่ะดิ" โจ้ถาม พร้อมกับทิ้งตัวลงนั่งตรงพื้นที่ว่างปลายเตียง น้ำก้มหน้าลง เม้มปากแน่น ก่อนจะพยักหน้าหงึกๆ

"เคลียร์กันรู้เรื่องหมดแล้ว?" ธามถามต่อ

"...ครับ" น้ำอ้อมแอ้มตอบ

"ก้มหน้าทำไม...เราไม่ได้จะว่าอะไรน้ำซะหน่อย มองหน้ากันก่อนเร็ว" โจ้ว่า น้ำจึงค่อยๆเงยหน้าขึ้นมา มองหน้าโจ้กับธามที่ส่งยิ้มให้อยู่ก่อนแล้ว น้ำจึงส่งยิ้มกลับไปให้บ้าง

"โอเค พักผ่อนๆ จะได้หายไวๆ ตำแหน่งเดือนรออยู่" โจ้ลุกขึ้นจากเตียง ช่วยจัดที่นอน ส่วนธามก็ช่วยประคองให้น้ำนอนถนัดๆ จะได้ไม่ทับแผลเดี๋ยวจะอักเสบจนเป็นหนักกว่าเดิมเอา

"เดี๋ยวบ่ายๆพวกอิ่มมันจะเข้ามา" ธามบอก

"ไปอีกทีคงเรียนไม่รู้เรื่องแน่ๆเลย" น้ำว่าออกมาอย่างกังวล สีหน้าบ่งลอกถึงความเครียดที่มี

"จะกังวลทำไม น้ำซะอย่างสองสามวันสบายอยู่แล้วน่า ใช่มั้ยไอ้ธาม" ธามพยักหน้าเห็นด้วย

"นอนเถอะ พวกนั้นมาค่อยตื่นมาคุยกันใหม่" โจ้ว่าพร้อมกับยีหัวน้ำเบาๆ แค่ครู่เดียวที่ทั้งห้องไร้บทสนทนาคนตัวเล็กก็จมดิ่งสู่ห้วงนิทราแสนหวานไป



"มึงว่า...จะไปกันรอดปะวะ" เป็นโจ้ที่เปิดประเด็นขึ้นมา

"ไม่รู้ว่ะ ขอซับพอร์ตอยู่ห่างๆแล้วกัน" ใช่ว่าธามไม่เป็นห่วงกับความสัมพันนี้นะ แต่ก็เข้าไปยุ่งอะไรมากไม่ได้ คนสองคนให้เขาตัดสินใจกันเองจะดีกว่า

"แต่ถ้าน้ำเสียใจนะ ปีสี่ก็ปีสี่เถอะ" 

"มึงจะไปทำไรเค้า เอาตัวมึงให้รอดก่อนเถอะโจ้" 

"กูดูแลตัวเองได้น่า พูดมาก เดี๋ยวนี้บ่นเป็นพ่อกูเลยนะมึง" โจ้ว่าพร้อมทำท่าเอานิ้วแคะหู

"ที่พูดไม่ใช่กูกลัวมึงไปเพิ่มภาระให้วัดพระบาทน้ำพุเขา" 

"ไอ้สัสธาม!" โจ้เผลอด่าออกมาเสียงดัง

"อ๊ะๆ ถ้าน้ำตื่นมาตอนนี้กูจะฟ้องน้ำนะว่าเมื่อคืนมึงไม่กลับหออ่ะ"

"ไอ้สัส มึงหุบปากไปเลย" โจ้ชี้อย่างเอาเรื่อง

"หึ กลัวหรอ" ธามกลั้วหัวเราะถาม

"ถ้ากูบอกมึงเป็นพ่อ นั่นก็แม่ปะวะ" โจ้ว่าพร้อมทำหน้าแหยๆ อย่าให้เพื่อนตัวเล็กเขาได้บ่นเชียว หูดับกันไปข้างนึงอ่ะเอาเถอะ








...100%...

...To Be Continued...



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-01-2018 23:34:36 โดย มายซินนี่ »

ออฟไลน์ มายซินนี่

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
[Episode 12​​]







"หายดีแล้วหรอ ถึงมาเรียนเนี่ย" พราวเอ่ยทักน้ำและเพื่อนเขาทั้งสองคนที่เดินเข้ามายังโต๊ะประจำที่เขานั่งอยู่อย่างตกใจ เมื่อสองวันก่อนเขายังไปหาที่ห้อง ยังนอนป่วยอยู่เลย

"หายแล้ว" น้ำตอบ ส่งยิ้มหวานไปให้พร้อมนั่งลงที่ว่างข้างอิ่ม อิ่มหันมามองหน้าน้ำนิ่งๆ

"ฝากดูแลน้ำหน่อยนะพราว" โจ้ว่าขึ้นมายิ้มๆ ก่อนจะขอตัวกลับคณะไป ตลอดทั้งเวลาที่น้ำหยุดไปโจ้กับธามอยู่ดูแลเขาตลอดเลย ทั้งๆที่เขาก็ดูแลตัวเองได้แล้ว แต่ทั้งสองคนก็ยังดูแลไม่ห่าง ราวกับลูกก็ไม่ปาน

"เบทยังไม่มาหรอพราว" น้ำหันไปถามถึงสมาชิกอีกคนที่ยังไม่เห็นหน้า

"ใกล้ถึงละ" เป็นอิ่มที่ตอบขึ้นมาแทน พร้อมกับโชว์หน้าจอแชทล่าสุดที่เพิ่งเด้งขึ้นมาบอกว่าใกล้ถึงแล้ว ...สีหน้าน้ำดูดีขึ้นกว่าเมื่อสองวันก่อนตอนที่พวกเขาเยี่ยมที่หออยู่มากโข ตอนนั้นทั้งดูซึมๆและก็ดูโทรมๆลงไปแต่ยังไงก็ยังดูดีมากอยู่ดี ตั้งแต่น้ำเดินเข้ามาไม่รู้เจ้าตัวรู้ตัวรึเปล่าว่าถูกสายตาหลายสิบคู่มองตามทุกก้าวอย่างชื่นชมอยู่ในใจ พราวเองยังแซวน้ำอยู่ทุกวันว่าเป็นผู้ชายที่น่ารัก ยิ้มสวยกว่าเธอทีทเป็นผู้หญิงซะอีก

...เสียงกรี๊ดกร๊าดดังแว่วๆมาจากทางหน้าคณะ พวกเขาทั้งสามคนหันไปมองทางต้นเสียงพร้อมกัน เห็นเบทเดินเข้ามาพร้อมถุงพะรุงพะรัง

"ไม่ต้องมองๆเขากรี๊ดเราเอง" เบทบอกพร้อมกับตบอกสองสามทีเก๊กท่าหล่อ พอเดินเข้ามาถึงโต๊ะก็โดนอิ่มฟาดหัวไปหนึ่งที

"พูดมาก" พราวยิ้มขำกับเพื่อนสองคนที่ต้องมีเรื่องตีกันทุกวัน

"งั้นไม่ต้องแดก" เบทพูดพร้อมกับจะเอื้อมมือหยิบถุงข้าวเช้าที่เอามาด้วยแต่ก็ช้ากว่าอิ่มที่หยิบไปได้ก่อน

"หึ แขนก็สั้นเท่านั้น" อิ่มแค่นเสียงหัวเราะออกมาอย่างหน้าหมั่นไส้ 

"เชี่ยนี่ กวนตีนกูแต่เช้าเลยแม่ง" เบทสบถออกมาหน้าบูด มองค้อนไอ้คนกวนตีนไปที  แล้วหยิบข้าวของตัวเองออกมากิน เดี๋ยวอิ่มแล้วค่อยว่ากัน...

...เสียงกรี๊ดกร๊าดเงียบลงไปบ้างแล้ว และพวกเขาก็ไม่ได้สนใจอีก น้ำกำลังจะลุกไปซื้อขนมปังกินรองท้องไปก่อน แต่ก็ตกชะงักเพราะมีถุงผ้ายื่นมาตรงหน้าของตัวเอง  ...น้ำเงยหน้าขึ้นมองก็พบว่าคนที่ยืนอยู่ข้างหลังเป็นผา

"ข้าวเช้า" ผาว่าพร้อมกับยกยิ้มมุมปากมาให้วางถุงลงข้าวลงพร้อมกับหย่อนตัวหันหลังใช้ศอกเท้าโต๊ะตรงพื้นที่ว่างข้างๆน้ำ

"เอ่อ...ไม่ต้องลำบากขนาดนี้ก็ได้ครับ" น้ำบ่นอุบอิบ

"ไม่ได้ลำบาก" 

"..."

"เอามาให้แฟน...ลำบากตรงไหน" คนตัวเล็กก้มหน้าหงุดเพื่อหลบซ่อนจากสายตาของคนทั้งโต๊ะที่กำลังพุ่งเป้ามายังตน ...ทั้งสามคนที่กำลังกินข้าวอยู่ ได้ยินประโยคเด็ดจากรุ่นพี่สุดฮ็อตก็ถึงกับชะงักค้างตาโต อิ่มที่กำลังจะตักข้าวเข้าปากก็เป็นอันต้องชะงักกลางอากาศเอาไว้

"พี่ไปละนะ กินข้าวด้วย ...ตั้งใจเรียนล่ะ" ผาเอื้อมมือมาขยี้ผมคนตัวเล็กเบาๆ ยกยิ้มให้อย่างอ่อนโยนก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงมือทั้งสองซุกอยู่ในกระเป๋าเสื้อช็อป รอบข้างที่เห็นถึงการกระทำนั้นก็กับระทวย บ้างก็ยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายเก็บเอาไว้ แต่ยังไม่ทันที่ผาจะเดินออกไปพ้นโต๊ะด้วยซ้ำ ก็มีคนเดินตรงเข้ามาเหมือนกับจะมาทักทาย...แต่ผารู้ดีว่ามันไม่ใช่

"ไง...ลมอะไรผอบมึงมาคณะกูได้ล่ะเนี่ย" ใหม่และก็เพื่อนอีกสองคนเดินตรงเข้ามาดักทางผาไว้ ทั้งโต๊ะที่นั่งอยู่ยกมือไหว้รุ่นพี่ปีสูงของตัวเองอย่างเกรงๆ

"หึ" ผาทำเพียงกระตุกยิ้มมุมปาก แล้วส่งเสียงในลำคอ "ไม่เจอกันนานกวนตีนเหมือนเดิมเลยนะมึง" เรียกได้ว่าทั้งตึกเงียบกันหมดเหมือนรอฟังบทสนทนาจากทั้งคู่ก็ไม่ปราน

"มีอะไรก็รีบๆว่ามา" ผาเอ่ยขึ้นมาเสียงเย็น

"แหม กูก็แค่อยากเข้ามาทักทายแค่นี้เอง ไม่ได้หรอวะ" ใหม่พูดออกมาอย่าต้องการจะกวนอารมณ์

"เสร็จแล้วก็ถอย"

"เห้ย ได้ไงกูยังไม่ได้ทักทายรุ่นน้องกูเลยนะ...น้ำของกูออกจะน่ารักขนาดนี้" ใหม่ว่าจบก็เอื้อมมือเข้ากอดคอน้ำ...แต่ผาที่ไวกว่าก็เอื้อมมือไปปัดแขนใหม่อย่างเบาแรงนัก ใหม่ที่โดนกระทำแบบนั้นก็หน้าตึงพุ่งตัวเข้ามาประชิดจนตัวแทบติดกัน จริงๆใหม่เองก็ไม่ได้จะเข้ามากวนมันแบบนี้หรอกเขาแค่จะเข้ามาทักคนน่ารักนี่​ ...ในคราแรกที่เห็น ใหม่นึกว่าผาเข้ามาหาพราว  ...แต่เขาคิดผิด! มันไม่ได้มาหาพราว แต่มันมาหาคนน่ารักที่เขาเล็งไว้อยู่ต่างหาก!



...หึ มึงอีกแล้วหรอไอ้ผา จะแข่งกับกูให้ได้ทุกเรื่องสินะ...



ไม่รู้ว่าถึงตึกเงียบสนิทไปตั้งแต่ตอนนไหน คงเพราะบรรยากาศมาคุที่แผ่กระจายออกมาจากตัวของทัสองคนที่ยืนประจันหน้ากันอยู่ตอนนี้ที่ทำให้ทุกคนต้องจับตามองไม่กล้าทำอะไร

"น่าสนุกชะมัด หึ" ใหม่เหยียดยิ้มบางๆ สายตาเกรี้ยวกราดที่ส่งมาอย่างต้องการจะสื่ออะไรบางอย่างกับคนตรงหน้า...และผาก็รับรู้ได้ทันทีถึงสิ่งที่มันกำลังจะสื่อกับเขา

"อย่า ยุ่ง กับ น้ำ" ผาเค้นเสียงรอดไรฟันออกมาเน้นทีละคำอย่างชัดเจน สายตาดุดันที่คนมองอย่างน้ำหรือคนรอบข้างถึงกับรู้สึกว่ามันน่ากลัว

"หึ มึงรู้ดีอยู่แล้วผา...กูน่ะมันพวกเอาแต่ใจ ...พี่ไปก่อนนะ" ใหม่กระตุกยิ้มเหยียดส่งไปให้คนตรงหน้า ก่อนจะหันกลับมาบอกน้องๆในโต๊ะ ละสายตามาหยุดอยู่ที่น้ำ สายตาที่มองมาพร้อมกับรอยยิ้มอ่อนโยนนั้นเหมือนต้องการจะสื่ออะไรบางอย่าง...ก่อนที่ใหม่ขจะยกมือขึ้นขยี้ผมนุ่มเบาๆแล้วพละออกไป... แต่ก็ไม่วายหันไปส่งสายตาอาฆาตให้กับร่างสูงในเสื้อช็อปสีเข้ม

...ผาหันหน้ากลับมามองคนตัวเล็กที่มองเขาอยู่ก่อนแล้ว สีหน้าไม่สู้ดีนัก ผาเดินเข้าไปหาพร้อมกับยกมือเกลี่ยปอยผมที่ปรกหน้าผาก การกระทำที่สุดแสนจะอ่อนโยนที่ไม่มีใครเคยเห็นผาทำเช่นนี้กับใคร ทำเอาคนเห็นถึงกับระทวย แอบกรี๊ดอิจฉากันอยู่ห่างๆ



"อย่ายุ่งกับมัน อย่าให้มันยุ่งกับเรา" เสียงพูดที่เบาแต่หนักแน่นและจริงจัง เพื่อให้ได้ยินกันแค่สองคน ...แก้มใสขึ้นสีเป็นริ้วแดง ลามไปถึงใบ ถึงจะเขินแต่ไม่ได้ละสายตาไปไหนจากคนตรงหน้า ...ถึงจะไม่รู้เรื่องราวระหว่างคนตรงหน้ากับรุ่นพี่คณะตัวเองเลยแต่เขาไม่ใช่คนโง่ ที่ไม่รู้สถานการณ์อะไรเลย ...น้ำพยักหน้าตอบไปเพราะเห็นสีหน้าและแววตาที่ดูจริงจังกว่าปกติ ถึงเขาจะสงสัยกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่แต่เขาก็เลือกที่ไม่ถาม

​...น้ำรู้ดี ว่าสายที่พี่ใหม่มองมายังเขานั้นมันหมายความอะไร แต่เขาเลือกที่จะไม่เก็บเอามันมาคิด เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นจริง เขาคงรู้สึกไม่สบายใจกับการที่เขากับพี่ใหม่เป็นสายรหัสกันแน่ๆ และท่าทางของสองคนเมื่อกี้นี้ ทำให้คนตัวเล็กคิดไปว่า ถ้าหากพี่ผารู้ว่าเขากับพี่ใหม่เป็นสายรหัสร่วมกัน...จะเกิดอะไรขึ้นรึเปล่า





ผากลับไปได้สักพักแล้ว แต่เหมือนในโต๊ะเขายังไม่กลับสู่สภาวะปกติ จนน้ำเงยหน้ามองเจอทั้งสายตาล้อเลียนและเต็มไปด้วยคำถามที่ดูแล้วอยากรู้สุดๆ และถ้าเขาไม่บอกคงจะโดนฆ่าหมกคณะแน่ๆ

"ยังไงเรา มาทีก็เซอร์ไพรส์กันเลยนะ" เป็นพราวที่เอ่ยเปิดประเด็นก่อน น้ำทำปากยู่ก้มหน้าหลบสายตาจับผิดล้อเลียนของทั้งสามคน...แม้แต่อิ่มเองก็ยังเอากับเขาด้วยเลย

"เป็นอะไรกัน...กับพี่ผาน่ะ" เบทถาม คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมองเพราะน้ำเสียงที่จริงจังที่เจ้าตัวเอ่ยมา...แต่น้ำคิดผิดไปถนัด พอเงยขึ้นมาเท่านั้นแหละ ไอ้หน้าตาล้อเลียนนั่นมันคืออะไรกัน ...เอาห้าวินาทีเมื่อกี้ของน้ำคืนมาเดี๋ยวนี้เลยนะ...

"ก็...คือ ...เอ่อ..." น้ำอึกๆอักๆพูดไม่ออก แถมหูยังขึ้นสีแดงแจ ประจักแก่สายตาของเพื่อนทั้งโต๊ะ ต่อให้ไม่ตอบก็รู้มั้ยล่ะ

"โอเคๆ ไม่ต้องตอบ เรารู้แล้ว"

"ห้ะ!?" น้ำร้องออกมาอย่างงงๆกับคำพูดของเพื่อนสาวที่พูดออกมายิ้มๆ

"ก็พี่ผาแกเล่นพูดออกมาชัดเจนซะขนาดนั้นนี่นะ ฮ่าๆ" เบทก็ด้วยอีกคน

"แซวน้ำมันทำไมวะ ...ก็แค่มีแฟนแล้ว" อิ่มพูดออกมาบ้าง รูปประโยคเหมือนจะดี...แต่สายตาและรอยยิ้มกรุ้มกริ่มนั่นเป็นตัวบ่งบอกได้อย่างดีว่าตั้งใจจะแซวเขา

"น่าอิจฉาเนอะ ดูดิ...มีเอาข้าวมาให้ด้วยอ่ะ" แพรวเอื้อมหยิบถุงข้าวที่วางอยู่บนโต๊ะมาเปิดดู

"ฮืออ~ เลิกแกล้งเราได้แล้วน่า" น้ำที่นั่งฟังอยู่นานก็เกิดทนไม่ไหว ทำหน้ายู่อย่างงอนๆ ก่อนจะยกมือขึ้นปิดหน้าแล้วฟุบลงไปกับโต๊ะ หน้าเห่อร้อนขึ้นสีแดงเรื่อไปหมด รู้เลยว่ามันต้องแดงลามไปถึงใบหุแน่ๆ ฮือ~ เขิน



.



.



"ไปกินข้าวกานนน" เบทลุกขึ้นบิดขี้เกียจ หลังจากที่คาบเรียนในตอนเช้าจบไปแล้วเมื่อไม่กี่นาทีก่อน

"ไปกินไหนดี โรงอาหารกลางมั้ย ตอนนี้คนน่าจะซาแล้ว แต่คณะเราเนี่ย คนคงเยอะ" พราวเสนอความคิดเห็นพร้อมกับสะพายกระเป๋าเตรียมพร้อม  ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงครึ่งแล้ว คณะเขาคนน่าจะเยอะอย่างที่บอกเพราะส่วนใหญ่ก็เลิกเรียนในเวลานี้ ส่วนคณะอื่นหมดคาบเช้ากันไปตั้งแต่ชั่วโมงก่อนแล้วถึงได้บอกว่าโรงอาหารกลางคนจะบาง

"ปะ" อิ่มเก็บของเสร็จแล้วก็ลุกเดินมากอดคอคนตัวเล็กเดินตามพราวกับเบทไปยังโรงอาหารกลาง

"เออน้ำ น้ำเข้าไปดูเฟสน้ำบ้างรึยัง" ระหว่างที่กำลังเดินไป เบทก็หันกลับมาพร้อมกับส่ายสมาร์ทโฟนตัวเองไปมา

"ยังอ่ะ" น้ำส่ายหน้าช้าๆ

"มีอะไรรึเปล่า" คนตัวเล็กเลิกคิ้วถาม เป็นกิริยาที่ดูแล้วน่ารักไม่หยอกจนอิ่มอดเอามือขร้นมาขยี้หัวทุยๆ ให้คนเตี้ยกว่าหันกลับมาทำหน้ายู่ใส่อย่างไม่ชอบใจ

"มันมีการโหวตคิวท์บอยประจำเพจมหาลัย และน้ำเป็นหนึ่งในคิวท์บอยที่แอดมินเลือก ตอนนี้ยอดไลค์น้ำตามเด็กนิเทศฯอยู่ไม่ถึงห้าสิบไลค์เอง" เบทยื่นโทรศัพท์ให้คนตัวเล็กดู ระหว่างที่เดินไปก็อธิบายให้คนตัวเล็กฟังไปด้วย



ซุป'ตาร์ cute boy'ss : และแล้วก็มาถึงการโหวตคิวท์บอยคนใหม่ประจำปีนี้กันแล้วนะคะทุกท่าน คนที่คุณคิดว่าเขาน่ารักนั้นจะมีอยู่ในลิสที่แอดเตรียมไว้รึเปล่า เราคัดสรรมาอย่างดี จากเฟรชชี่ทั่วทุกคณะ เตรียมกดไลค์กันไว้ให้ดีๆ ไปพบกับรายชื่อหนุ่มสุดคิวท์ประจำปีนี้กันได้เลยค่า~



คนตัวเล็กเลื่อนดูลงมาเรื่อยๆ มีจากทั่วทุกคณะอย่างที่แอดมินบอกจริงๆ แล้วก็เลื่อนมาจนถึงคณะนิเทศน์ฯ ที่ตอนนี้ได้ไลค์ปาไปพันสองร้อยไลค์แล้ว...ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงได้ไลค์ถึงเยอะขนาดนี้ รอยยิ้มธรรมชาติที่ส่งให้เจ้าของรอยยิ้มน่ารักแบบไม่มีใครเกิน ถัดมาจากนั้นก็เป็นคณะแพทย์ มีสองคนคือเขา และเพื่อนชั้นปีอีกหนึ่งคน รูปที่เอามาลงคือรูปที่ทางคณะจัดถ่ายให้เพื่อส่งรูปไปยังกองประกวดดาวเดือนมหาลัย เป็นรูปที่คนตัวเล็กใส่ชุดนักศึกษาถูกระเบียบเรียบร้อย นั่งอยู่ที่ม้าหินหน้าคณะ ผมปล่อยให้ตกเป็นหน้าม้าตามธรรมชาติ มองและส่งยิ้มไปให้กล้องอย่างเขินๆ เผยให้เห็นรอยบุ๋มที่ข้างแก้มเนียน...ยอดไลค์เขาห่างจากนิเทศน์ฯเพียงนิดเดียวเท่านั้น...แต่เขาไม่ได้อยากได้ไลค์เยอะ เขาไม่รู้จะชนะไปทำไม

"ขนาดลงไปแค่เมื่อคืนเองนะเนี่ย ดังใหญ่แล้วน้า~" เบทรับโทรศัพท์คืนจากเพื่อนตัวเล็ก ก่อนว่าออกมายิ้มๆ



.



.





'มึง...นั่นมันน้องน้ำเดือนแพทย์ปะวะ'

'เออ เนี่ยแหละตัวจริงเสียงจริง'

'เชี่ยย น่ารักโคตร'

'คิวท์บอยปีนี้ เดือนแพทย์แน่เลยว่ะกูว่า'

'ผู้ชายจิ้มลิ้มได้ขนาดนี้เลยหรอวะ'

'มึงก็จีบเลยดิ น้องเขายังไม่มีแฟน'

'น้องหมอเดือนแพทย์อ่ะแก'

'แก...น้องเขาน่ารักกว่าผู้หญิงอีกอ่ะ'

'ผู้หญิงอย่างฉัน คงต้องยอมแพ้ผู้ชายอย่างน้องหมดใช่มั้ย ฮืออ'



เสียงซุบซิบนินทา ดังขึ้นทั่วทั้งบริเวณที่คนตัวเล็กเดินมาถึง ...เขาจะไม่อะไรเลย ถ้าคำพูดพวกนั้นมันไม่ได้หมายถึงเขา ไหนจะสายตาที่มองมายังเขา ส่วนใหญ่ที่เห็นก็มีแต่สายตาชื่นชม...เขามีอะไรให้ชมกันล่ะเนี่ย

"เป็นอะไร" อิ่มกระซิบถามคนที่อยู่ในวงแขนที่เอาแต่เดินก้มหน้า แทบจะเอาหัวเข้ามาซุกอกเขาเต็มแก่ ...ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่โรงอาหารกลางแล้วและกำลังมองหาที่นั่งกันอยู่ ส่วนสาเหตุที่ทำให้ไอ้เพื่อนตัวเล็กของเขาเป็นแบบนี้ก็เพราะสายตาที่มองมาอย่างอยากรู้ และคำพูดคุยกันที่มันดังซะจนไม่ได้ยินกันแค่ในโต๊ะอีกต่อไป...ยังดี ที่มันมีแต่คำชม ลองด่าดูสิ...

"โอเค...งั้นเงยหน้ามามองกูก่อน" อิ่มบอกพร้อมกับเอามือดันหัวเบาๆ แต่คนตัวเล็กก็เอาแต่ส่ายหัว

"เร็ว" อิ่มย้ำด้วยเสียงดุๆ จนทำให้อีกคนเงยหน้าขึ้นมอง ทำหน้ายู่ใส่อีกคนอย่างขัดใจ...



'อื้อหือไอ่เหี้ย กูอยากได้'

'โอ้ยย หน้าโคตรอ้อนอ่ะ'

'แค่มองกูก็หลงแล้วอ่ะ'

'น่ารักกว่าเมียกูที่เป็นผู้หญิงอีก'



"กูว่าแล้วเชียวว่าแม่งฮือฮาถึงดือนแพทย์กันทำไม ...นู่นมึง ยืนหาที่นั่งอยู่นู่น" พวกผาเองที่พึ่งจะเสนอโปรเจคเสร็จก็ลงมาหาไรกินกัน แต่นั่งได้แค่เพียงแป๊บเดียวเท่านั้น เสียงฮือฮาก็ดังขึ้นมาจากทางหน้าโรงอาหาร เป็นเหตุให้พุ่มหันไปดูอย่างอดไม่ได้ ก่อนจะพูดออกมาพาให้เพื่อนทั้งกลุ่มหันไปมอง

"เด็กมึงนี่หว่าไอ้ผา" วัชว่าออกมาแล้วก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อ ทั้งกลุ่มยังไม่มีใครรู้ว่าเลากับคนตัวเล็กเป็นแฟนกันแล้ว...แต่เขาก็จะบอกให้รู้เดี๋ยวนี้แหละ

"เคลียร์โต๊ะไว้ด้วยนะพวกมึง" ผาว่าพร้อมกับลุกออกจากโต๊ะ

"เคลียร์ทำไมวะ" วัชถามอย่างไม่เข้าใจ

"เดี๋ยวมีคนมานั่ง"

"ใครวะ"

"นู้น..." วัชมองตามมือที่ผาชี้ไป

"แฟนกู"





"น้ำ" เสียงเรียกของผาทำให้ทั่วทั้งบริเวณที่มีเสียงฮือฮาเมื่อสักครู่ลดลงไปถนัดตาและทำให้คนตัวเล็กนี่เงยหน้าขึ้นมามองน้ำเสียงคุ้นหู

"พี่ผา..." พอเห็นว่าเป็นใครก็ส่งยิ้มหวานไปให้อย่างลืมตัว อิ่มที่กอดคอคนตัวเล็กอยู่ก็ลดมือลงเพราะสายตาของคนตรงหน้าที่ส่งมาให้ตั้งแต่ลุกออกจากโต๊ะแล้ว

"อ่าวพี่ผา สวัสดีค่ะ" พราวกับเบทที่กำลังมองหาโต๊ะว่างด้านในโรงอาหารอยู่หันมายกมือไหว้ ผาหันไปมองพร้อมกับค้อมศรีษะรับไหว้เล็กน้อย

"ไปนั่งกับพี่ดิ" ผาใช้นิ้วโป้งชี้ไปทางด้านหลังตัวเอง น้ำมองตามไปเห็นบรรดาเพื่อนๆของผานั่งโบกมือให้เขาอยู่ไกลนัก

"แต่...เพื่อนพี่นั่งอยู่" "ไม่เป็นไร ที่เหลือเฟือ" "รบกวนพวกพี่เค้าเปล่าๆ เดี๋ยวพวกน้ำนั่งแถวนี้เอาก็ได้ครับ" น้ำว่าออกมาอย่างเกรงใจ พลางมองไปรอบๆตัวที่ตอนนี้มีที่ว่างบ้างแล้วเนื่องจากคนก่อนหน้านี้ลุกไปแล้ว ...เมื่อผาเห็นว่าพูดกับคนตัวเล็กนี่คงจะไม่ได้การ จึงหันไปพูดกับเพื่อนน้ำแทนเพื่อขอความเห็น

"พวกเราไปนั่งโต๊ะเดียวกับพี่นะ ...โอเคมั้ย" ฟังดูเหมือนประโยคคำถามธรรมดาๆ แต่ถ้าอยู่ในเหตุการณ์จะรับรู้ว่ามีรังสีบังคับอยู่กลายๆ

"โอเคค่า" พราวตอบออกมาพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง เบทกับอิ่มเองก็พยักหน้ารับน้อยๆอย่เห็นด้วย ไม่สนอะไรทั้งสิ้นแล้ว ตอนนี้หิวจนไส้จะขาด ...เมื่อทุกคนตกลงพร้อมใจกันจะนั่งกับเขาแล้ว เขาก็ชี้บอกจุดที่พวกเขานั่งอยู่ทันทีก่อนจะหันมายักคิ้วให้กับคนตัวเล็กสองทีกวนๆ

"ขี้โกง" คนตัวเล็กทำหน้ายู่พร้อมกับบ่นอุบอิบใส่ผา

"ไม่ได้โกงสักหน่อย ...ไปได้แล้ว" ผาบอกกับคนตัวเล็กปนขำเอ็นดูกับกิริยาขัดใจ ก่อนจะวาดแขนขึ้นกอดคอและพาเดินไปยังโต๊ะ ทำเอาคนตัวเล็กตกใจจนตัวเกร็งไปหมด

"ม..ไม่กอดคอ ได้มั้ยครับ" คนตัวอ้อมแอ้มถาม

"ทำไม... ทีเพื่อนเรายังทำแบบนี้ได้ตั้งนาน" ผาขมวดคิ้วอย่างไม่ชอบใจ พลางมองหน้าคนเตี้ยกว่าที่มองเขาอยู่ก่อนแล้ว

"ก็นี่...แฟนนี่ครับ" คนตัวเล็กเสมองไปข้างหน้าก่อนจะพูดออกมาเสียงเบาแต่ก็ทำให้ร่างสูงได้ยินเต็มสองหู...และถ้าน้ำยังมองเขาอยู่ก็คงได้เห็นรอยยิ้มกว้างอันมีเสน่ห์ของผาเป็นแน่

"ก็แฟนอยากกอดคอแฟนนี่ครับ ไม่ได้หรอ หื้ม" ผาถามยิ้มๆ

"ไม่ได้ครับ"

"ไม่ได้ แต่ก็จะกอด" คนตัวเล็กหันขวับมามองคนตัวสูงกว่าตาโต แต่ร่างสูงกลับยักคิ้ว ส่งยิ้มกวนๆให้เขา เป็นเชิงบอกกับน้ำว่า ยังไงเขาก็ไม่ปล่อย

"น้ำเพิ่งรู้อีกอย่างหนึ่งว่า ...พี่ผาเป็นคนเอาแต่ใจ" น้ำพูดออกมาไม่ได้จริงจังก่อนจะเสมองกลับไปทางเดิม

"แล้วรับได้รึเปล่าล่ะ" ผายังเหย้าต่อ

"...ไม่ได้" คำตอบนั้นทำให้ผาก้มมองคนตัวเล็กเพราะน้ำเสียงที่ดูจริงจังเกินจะล้อเล่น  ยิ่งมาเจอสายยาที่บ่งบอกว่าจริงจังในคำพูดก็พาลให้หัวใจเขาหล่นไปอยู่ตาตุ่ม แต่แล้วคนตัวเล็กก็พูดต่อ...

"ไม่ได้...รับไม่ได้ซะหน่อย" แล้วน้ำก็ส่งยิืมกว้างจนเห็นรอยบุ๋มข้างแก้มไปให้ ทำเอาผายกมือขึ้นทาบหน้าอกถอนหายใจเฮือกอย่างโล่งใจ หันมามองคนเตี้ยกว่าที่ยังยิ้มขำเขาไม่หยุดจึงยื่นมือไปหยิกแก้มขาวๆนั่นเบาๆอย่างหมั่นเขี้ยว

"พี่ก็พึ่งรู้ ว่าเราจะกวนได้ขนาดนี้...มันน่าหมั่นเขี้ยวนัก" 

"แบร่~" คนตัวเล็กยื่นหน้าขึ้นไปแล้วแลบลิ้นใส่อย่างน่ารัก ก่อนจะพละออกไปจากวงแขนเขาเพราะถึงโต๊ะแล้ว ผายืนส่ายหัวยิ้มๆ เอามือขึ้นเสยผมอย่างไม่รู้จะทำยังไงกับตัวแสบแสนน่ารักน่าหยิกนั่นดี...เห็นทีคงจะลำบากแล้วว่ะผา



.



.





"เลิกกี่โมงครับวันนี้" ผาถามขึ้นมาหลังจากที่เดินมาส่งคนตัวเล็กที่ใต้ตึกคณะ

"เลิกห้าโมงครับ...พี่ผาล่ะ" น้ำถามกลับ เขากล้าพูดกล้าคุยมากขึ้นแล้ว...ถึงแม้จะมีเขินๆไม่กล้าสบตาอยู่บ้างก็ตาม แต่ก็ถือว่าดีขึ้น

"วันนี้ต้องเข้าประชุมเชียร์น่าจะเลิกหกโมงเดี๋ยวพี่แวะมารับเราก่อน" อีกอย่างที่คนตัวเล็กยังไมรู้...เขาเป็นพี่ระเบียบเรียกสั้นๆง่ายๆพี่ว้ากนั่นแหละ

"ไม่ต้องลำบากก็ได้ครับ" 

"มารับแฟน ลำบากที่ไหน" ผาพูดยิ้มๆ

"ต้องเข้าประชุมเชียร์ไม่ใช่หรอครับ" คนตัวเล็กถามแต่ตาเสมองไปทางอื่น แต่หูเล็กๆสองข้างขึ้นสีแดงแจ๋นั่นก็ไม่รอดสายตาคมไปได้

"เข้าครับ...แต่อยากมารับแฟน อยากอยู่กับแฟนเยอะๆ แฟนพี่จะได้เลิกเขินพี่สักที" ผาเอื้อมมือไปเขี่ยใบหูเล็กอย่างแซวๆ ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มกวนๆ

"ฮืออ อย่าแซวน้ำ" คนตัวเล็กยู่หน้าคิ้วขมวด แต่แก้มกลับขึ้นสีแดงเรื่อเป็นริ้ว...ปกติก็เขินอยู่ พอโดนแซวก็รู้สึกว่าหน้ามันเห่อมันร้อนมากขึ้นกว่าเดิม

"หึหึ เขินหรอ หื้ม" ผายังคงแซวไม่หยุด ค้อมตัวลงให้สายตาอยู่ในระดับเดียวกัน ส่งยิ้มกรุ้มกริ่มพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นข้างนึงอย่างกวนๆ นั่นยิ่งทำให้คนตัวเล็กหน้าแดงเข้าไปใหญ่และผาเองก็ชอบใจที่จะแกล้งให้คนตรงหน้าเขินเขาไม่หยุด...น่ารักดีออก

"ทำไมต้องเป็นคนขี้แกล้ง" น้ำพูดเหมือนต่อว่า แต่ไม่ได้จริงจังอะไรนัก ทั้งๆที่เขินจนหน้าหูแดงไปหมด แต่ก็ยังทำพูดปกปิดอาการเขิน...แต่มันไม่มิดเอาซะเลย

"ก็แฟนพี่น่าแกล้งนี่ครับ" 

"ไม่คุยด้วยแล่ว แบร่~" คนตัวเล็กแลบลิ้นให้ก่อนจะเดินไวๆไปหาเพื่อนที่ยืนรออยู่

"เลิกแล้วไลน์มาด้วย" ผาตะโกนตามหลังไป

"ไม่ครับ" คนตัวเล็กหันกลับมาบอก แลบลิ้นใส่ให้อีกที แล้วก็วิ่งเข้าไปหากลุ่มเพื่อนตัวเองที่รออยู่ ...ผาส่ายหน้ายิ้มๆ ก่อนจะหันหลังเดินออกมาจากตัวคณะแฟน เพื่อกลับคณะตัวเอง ...ที่เป็นอยู่ตอนนี้มันดีกว่าที่เขาคิดไว้ซะอีก เขาว่าน้ำคงไม่เปิดรับเขาง่ายๆอย่างนี้ ที่เป็นอยู่อย่างตอนนี้มันก็ดีมากแล้ว เขาไม่รู้ว่าเขาจะทำได้ดีเท่าไหร่...แต่เขาก็จะทำมันให้เต็มที่ที่สุดก็แล้วกัน

"หน้าแดงมาเชียวมึง" อิ่มพูดมาพร้อมกับเอื้อมมือไปเสยผมหน้าม้าเปิดเหม่งคนตัวเล็ก ทำให้พราวกับเบทที่ยืนมองอยู่ก่อนแทบกลั้นขำไม่อยู่

"ฮื่ออ~ พอกันเลย ชอบแซว" น้ำบ่นอุบอิบ เอาหน้าผากไปอิงไว้กับไหล่อิ่มเฝือไปมาเพื่อกลบความเขิน อิ่มยกมือขึ้นขยี้หัวทุยอย่างหมั่นเขี้ยว...จะว่าเพื่อนเขาเหมือนเด็กก็คงไม่ผิด

"โอเคๆ ไปเรียนๆ" อิ่มว่าตัดบท ผลักหัวน้ำออกอย่างไม่แรงนักแล้วเดินกอดคอเบทเดินขึ้นบันไดไป ไม่สนคนที่ยืนตีหน้ายุ่งอยู่ข้าวหลัง

"ฮ่าๆ จะไม่ให้แกล้งน้ำก็แปลกแล้ว" พราวว่าออกมาพร้อมควงแขนน้ำเดินตามอิ่มขึ้นไป



.



.



.



"แหม~ มารับถึงที่ขนาดนี้ นี่เป็นไรกันมิทราบยะ" เชอร์รี่อดจะเอ่ยเหน็บแนมคนหล่อที่เทียวรับเทียวส่งหนุ่มน้อยน่ารักของเขาไม่ได้ เมื่อเย็นก็ไปรับกันมาจากคณะแพทย์ พามาส่งที่นิเทศน์ฯ ดีจริงๆ ...คนถูกพูดพาดพิงทำเพียงส่งยิ้มหล่อๆไปให้

"ผามาแล้วหรอคะ" เสียงหวานๆที่มาพร้อมกับร่างเพรียวบเดินเข้าไปเกาะแขนผา

"หนิหล่อน หยุดแสดงละครก่อนได้มะ เดี๋ยวคนหล่อเขาได้มีปัญหากับแฟนเค้าพอดี" เชอร์รี่ว่าให้เหมยก่อนจะเข้าไปแกะดึงตัวออกมาให้ห่างจากผา

"พูดอย่างกับผามีแฟน" เหมยสะบัดตัวออกหันไปพูดเย้ยๆใส่เชอร์รี่

"ก็เออน่ะสิ" เชอร์รี่ว่าเอือมๆ พร้อมกับทำหน้าเหม็นเบื่อใส่เพื่อนหนึ่งที

"หา? ผามีแฟนหรอ" ตาโต อ้าปากค้างพร้อมกับค่อยๆหันไปถามผาที่ยืนส่งยิ้มหล่อมาให้ ก่อนที่คนถูกถามจะพยักหน้าน้อยๆ

"ไอ้บ้า! หนีฉันไปมีแฟนตั้งแต่ตอนไหนเนี่ยหา!" เหมยซึ่งไม่รู้เรื่องมาก่อนก็ถึงกับเท้าสะเอวแหวใส่ ต้องลำบากเชอร์รี่ยกมือขึ้นตะครุบปากเพื่อนตัวเองแทบไม่ทัน

"จะโวยวายทำซากอะไรเนี่ย ...หัดดูซะมั่งสิในเพจเขาลงกันให้รึ่ม" เชอร์รี่ปล่อยมือออก หยิบโทรศัพท์เปิดเข้าเพจแล้วส่งให้ดู เหมยเลื่อนดูเรื่อยๆก็เห็นถึงความน่ารัก ในภาพที่ปรากฎมีทั้งใต้ตึกแพทย์ ในโรงอาหารกลาง กำลังขึ้นรถ...แค่นี้มันก็ยืนยันได้เป็นอย่างดี คอมเม้นท์มีทั้งชอบและไม่ชอบแต่ส่วนใหญ่ไปในทางที่สนับสนุนคนทั้งคู่ มีคนติดแฮชแท็กเป็นทีมทั้งฝ่ายเพื่อนเขาและแฟนเพื่อนเขา ถ้าาเป็นคนอื่นเขาคงจะค้านไม่ก็เฉยๆไป แต่กับคนนี้ เขาเชียร์และก็ขออยู่ทีมนั้นด้วยคน

"น้ำกลับก่อนนะครับพี่ๆ สวัสดีนะครับพี่เชอร์รี่ พี่เหมย" คนที่เดินมาสวัสดีเขานี่ไงล่ะที่เขาจะขออยู่ทีมด้วย...เดือนคณะแพทย์ที่สุดจะน่ารัก ทั้งหน้าตา นิสัยและกิริยา ขอถวายตัวเป็น #ทีมธารา เลยแล้วกัน

"เป็นบ้างซ้อมวันนี้" หลังจากออกรถมาพ้นมหาลัยได้เพียงนิดเดียว ผาก็ถามถึงการซ้อมวันนี้เพื่อชวนคุยเพราะคนข้างๆดูเหมือนพร้อมจะหลับได้ทุกเมื่อ

"เหนื่อยนิดหน่อยครับ" หันกลับมาตอบเสียงอ่อย ผาส่งยิ้มให้พร้อมกับเอื้อมไปลูบหัวทุยเบาๆอย่างให้กำลังใจ ก่อนจะกุมมือคนข้างตัวเอามาไว้บนตัก ทำให้ที่นั่งมาข้างๆกันเขินขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกแต่ก็กระชับมือกลับไปเช่นเดียวกัน

"สู้ๆนะแฟน" เขาพูดเท่านั้นก็ทำหน้าที่ขับรถมือเดียวต่อด้วยรอยยิ้มบางๆ น้ำหันหน้าหน้าหนีมองออกไปยังข้างนอกเพื่อซ่อนความเขินที่กำลังพุ่งขึ้นก่อนจะพึมพำกับตัวเองหน้ายุ่ง แต่ก็ยังมีรอยยิ้มปรากฎอยู่บนดวงหน้าสวย

"...ชอบทำให้เขินอยู่เรื่อยเลย"



.


.


.



...100%...

...To Be Continued...




CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ fahsai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 815
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-2
 เรื่องนี้น่ารักสุดๆ #ทีมธารา

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ตายค่ะตายช็อตนี้ตายแน่ๆ

ออฟไลน์ มายซินนี่

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0

[​Episode 13​]







"ไอ้สัส มึงมานี่เลย มาให้พวกกูซักฟอกซะดีๆ" ผาเดินเข้ามายังลานเกียร์ยังไม่ทันได้นั่งที่ดีๆพุ่มก็เข้ามาล็อคคอผาเอาไว้

"เออ ไอ้สัดซุ่มเงียบนะมึง" วัชพูดต่อ พร้อมชี้หน้าคาดโทษ

"อะไรของพวกมึง" ผาทำหน้างงๆส่งไป ก่อนจะแงะแขนหนักๆของพุ่มออกจากคอ...ไอ้พวกห่านิ

"เมื่อวาน...มึงทำอะไร" พุ่มหรี่ตาถามอย่างกับจ้องจับผิด

"หลายอย่าง...มึงถามทำไม" ผาตอบไปงงๆว่าพวกนี้มันจะถามเขาทำไม เมื่อวานเขาก็ทำหลายอย่าง 

"จะถามมันอ้อมๆทำไม มึงก็ถามไปสิว่ามันกับน้ำเป็นอะไรกัน" ว่านที่นั่งก้มหน้าเล่มเกมส์เอ่ยขึ้นมาพร้อมกับทำหน้าเหม็นเบื่อ...

"เออๆ ตามที่ไอ้ว่านพูดเลย ...มึงกับน้ำเป็นไรกัน" พุ่มเป็นคนถามย้ำอีกที

"แฟน" ...ถามมาตรงๆก็สิ้นเรื่องไปนานและไอ้พวกห่านี่

"เหยดดด"

"เชี้ยยย!" จะตกใจอะไรกันเบอร์นั้นวะ แต่อย่างว่าแหละตั้งแต่ผมคบกับน้ำมาผาก็ไม่ได้บอกอะไรพวกมันเลย...เมื่อวานก็ไม่ได้บอกไหนจะงานไหนจะกิจกรรมนู่นนี่นั่นสารพัดเลยไม่มีเวลาให้พวกนี้มันซักฟอกผมเท่าไหร่

"ตอนไหนวะ" ว่านที่ดูจะตกใจน้อยสุดถามขึ้นมา

"เมื่อวันศุกร์" 

"มึงแน่ใจแล้วหรอวะ" ไอ้ว่านยังถามผมต่อ

"อืม...กูแน่ใจแล้ว" หลังจากที่เกิดเหตุการณ์วันนั้น ผาก็รู้แล้วว่าผาต้องการให้มันเป็นแบบไหน...ตอนที่เห็นสภาพน้ำเป็นแบบนั้น ในใจผามันแทบบ้าให้ได้...เขาทั้งห่วง ทั้งหวง ทั้งอยากดูแลและอยากปกป้องอย่างอธิบายไม่ถูก...มันอาจจะยังไม่รักก็จริงแต่เขาเชื่อว่าความรู้สึกที่เขามีอยู่ตอนนี้มันพัฒนาไปได้อีกแน่นอน...แต่จะพัฒนาไปในทางไหนก็ต้องรอดูต่อไป

 "เออ มึงแน่ใจแล้วก็จับให้มั่นแล้วกัน ...อ่ะ" วัชว่า พร้อมกับส่งมือถือของตัวเองมาให้

...หน้าจอแสดงเป็นรูปของน้ำที่ถูกถ่ายแบบที่เจ้าตัวไม่รู้ตัว มันถูกอัพลงในอินสตราแกรมของใครสักคนที่เป็นเพื่อนในกลุ่มของเจ้าตัวนั้นแหละ แต่ประเด็นมันอยู่ที่ว่า โพสนั้นถูกแคปมาโพสในเพจดังประจำมหาลัย ยอดไลค์พุ่งกระฉูด คอมเม้นอีกเป็นร้อยเป็นพัน แต่ละอย่างก็ทำให้ผมนี่เลือดขึ้นหน้า...ผู้หญิงมาเม้นยังไม่ค่อยเท่าไหร่...แต่นี่มีตัวผู้มาเม้นแซว คือยังไงวะ...พวกมึงแม่งต้องการเหี้ยไรจากแฟนกูกันวะเนี่ย

"และมึงดูนี่..." ไอ้พุ่มส่งมาให้ผมดูอีกคน

...อ่า ผมนี่สงสัยจะเจองานยาก เรียกว่าของสูงคณะแพทย์ก็คงไม่ผิดมั้งวะเนี่ย นั่นเพจมหาลัย นี่เพจคิวท์บอยของมหาลัย คนที่ได้เป็นนี่ก็คล้ายๆกับพวกเดือน พวกดาวเลยเถอะ และดูยอดไลค์ ยอดแชร์ดิ โห...30k ยอดแชร์อีกเป็นหลักหมื่น และดูเม้น...แม่ง


'ผมเป็นรุ่นพี่เขาน่ะครับ น้ำน่ารักมาก นิสัยดีสุด ไม่ถือตัวอะไรเลย #ของสูงคณะแพทย์'

'เนี่ยๆ วันนั้นเจออยู่หน้ามอ เรายิ้มให้ นางก็ยิ้มตอบ โอ้ยยยตอนนั้นนะ จะเป็นลม'

'น้องน้ำคือของสูงของแพทย์ปีนี้เลยนะครับ ใครคิดจะทำอะไรก็คิดดีๆน้า'

คิดดีแล้วเว้ย

'น้องเขามีแฟนและปะ?'


เออ...มีแล้ว

'เมื่อวานเห็นมาที่โรงหารกลาง น่าจะกำลังยืนหาที่นั่งกันอยู่มั้ง แต่น้องเขาหันไปงุ้งงิ้งๆใส่เพื่อนคนที่ยืนกอดคอ บอกเลยว่าเมื่อวานนะตายกันทั้งโรงหาร วิศวะผมตายเกลื่อน555555'

'ตายตอนนั้นยังพอว่า แต่มาตายตรงที่สุดหล่อวิศวะเดินกอดคอมาเนี่ยอ่ะดิ'




ผาอ่านไปคิ้วขมวดไป ...ทำไมคนถึงพูดถึงเยอะกันขนาดนี้วะ เฮ้อ...

"ถึงกับถอนหายใจเลยหรอวะ ฮ่าๆ" พุ่มพูดพากันหัวเราะกันทั้งกลุ่ม

"ไม่เครียดดิมึง ได้ของสูงคณะแพทย์เชียวนะมึง ฮ่าๆๆ" ไอ้เสริมขึ้นมาอีกคน ไอ้ว่านก็หัวเราะไปกับเขาด้วย เอาเหอะพวกมึง...เอาที่พวกมึงสบายใจกันที่สุดเลยครับเพื่อน ...แม่ง

...หลังจากที่นั่งคุยนู่นคุยนี่กันไปพวกเขาก็พากันขึ้นเรียน เรียนเสร็จก็เข้าคิวเสนอความคืบหน้าโปรเจ็ค แก้กันจนไม่รู้จะแก้ยังไง นี่ขนาดพึ่งเริ่มต้นนะ ไหนเดือนหน้าพวกต้องไปฝึกงานอีก...เพราะฉะนั้นภายในเดือนนี้โปรเจ็คพวกเขาต้องผ่าน และแน่นอนมันเหลือไม่ถึงสองอาทิตย์

...วันนี้ผาไม่ได้ไปรับน้ำเพื่อไปส่งที่ตึกนิเทศน์เพื่อฝึกซ้อมการเดิน การแสดงเหมือนเดิม พอเสร็จแล้วผาจะไปรับเขาไปส่งที่หอเอง และอีกสิบนาทีข้างหน้านี้แหละเขาก็ต้องไปรับแล้ว



...ผาขับรถมาถึงหน้าหอประชุมที่น้ำฝึกซ้อมแล้ว แต่ไม่ได้ลงเข้าไปข้างใน เบื่อสายตา เบื่อเสียงซุบซิบนินทา และตอนนี้ก็กำลังเบื่อ...เซ็งด้วย เป็นคุณ คุณไม่เซ็งหรอมีแฟนดัง มีแฟนเป็นเป้าสายตา อาจจะไม่มีใครรู้...เขามันพวกขี้หวง

...ผาไถหน้าจอแอพตัวเอฟไปเรื่อยๆ แล้วก็หยุดอยู่ที่โพสๆหนึ่งที่มาจากเชอร์รี่ ซึ่งเขาจะไม่อะไรเลยหากว่าคนในรูปไม่ใช่แฟนของเขา



Cherry yippy : พี่ขอโทษก็บอกไม่เป็นไรๆ ไม่เป็นไรที่ไหนข้อเท้าบวมขนาดนี้ ทำไมหนูต้องเป็นเด็กดีด้วยคะลูก เจ็บตัวเพราะความไม่ระวังของพี่แท้ๆ

*รูปน้ำนั่งบนเก้าอี้ กำลังมองผู้ชายคนนึงกำลังพันขาให้ตัวเองอยู่*



มันเป็นใครวะ!! ใส่ช้อปวิศวะสีเดียวกับกูอีก!! แม่ง!! กูไม่อยู่แป๊บเดียวใครมันมาดอดทำคะแนนกับกูวะ!! โว้ยยย

...เขาเก็บโทรศัพท์เดินจ้ำอ้าวเข้าไปในตัวตึกทันที ภาพที่เห็นทำเอาแทบอยากจะกระโจนใส่ ก็ไอ้ตัวผู้นั่นแม่งไม่ใช่ใครเลย...ไอ้ดิน ...และเขาก็จะไม่อะไรเลยถ้ามันไม่มองน้ำแบบเดียวกับที่เขามอง และไอ้ดินเองก็รู้ว่าเขาคิดยังไงแต่มันก็เลือกที่จะมาทำแบบนี้เนี่ยนะ เพื่อนกันมั้ยวะแม่ง และนั่นแม่งทำไร ลูบหัวแฟนกูทำไม นั่นหัวแฟนกู กูลูบได้คนเดียวเว้ย

หมับ!

ผาเข้าไปจับมือดินลดลง ทั้งสองคนมองหน้ากันไปมา...สุดท้ายเป็นดินที่ยอมถอยให้ผาได้เข้าไป แต่ก็ยังมองไม่วางตา ไม่ได้มีมีแววโกรธเคืองกันแต่เป็นสายตาที่กำลังสำรวจปนเป็นห่วงคนตรงหน้า

"น้ำ...เป็นไงบ้าง ไปโดนไรมา" ผาถามพร้อมกับนั่งยองลงไปตรงหน้า ค่อยๆจับขาขึ้นมาวางบนเข่าตัวเอง เพราะเมื่อกี้ดินยังพันไม่เรียบร้อยดี

"คือ...น้ำซุ่มซ่ามไปหน่อยน่ะครับ ไม่ทันมอง ตอนเดินลงบันไดเวทีก็เลยพลัดตกลงมา" น้ำเอ่ยตอบเสียงอ้อมแอ้ม...แฟนผมนี่น้า โกหกไม่เนียนเลย ผาคิดในใจก่อนจะยกยิ้มน้อยๆ ทำเอาเหล่าดาวทั้งหลายส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดเบาๆ ผาเงยหน้าขึ้นมองเชอร์รี้ที่ยืนสำนึกผิดอยู่ด้านหลังน้ำ พอเห็นผามองเข้าเจ้าตัวก็เลยรีบอธิบายให้ผาฟัง

"คือ...รี่ผิดเองแหละผา รี่เล่นมากไปหน่อยเลยไม่ทันดูว่าน้องกำลังลงบันได...รี่ก็เลยชน...จนน้องตกลงมา" ผาส่งสายตาดุๆไปให้เชอร์รี่ นางก็ก้มหน้าหงุดๆอย่างยอมรับความผิด

"ปะ กลับกับผาเนอะ" ผาส่งยิ้มไปให้ ส่งมือไปยีหัวทุยเบาๆ ก่อนจะช้อมร่างบางขึ้นอุ้มไว้ในอ้อมแขน

"เหวอ~" น้ำร้องขึ้นมาเบาๆพร้อมยกแขนเกี่ยวรอบคอเขาเอาไว้อย่างตกใจ ผาหันไปมองดินพยักเพยิดไปทางกระเป๋าของคนในอ้อมแขนเพื่อขอให้ช่วยถือไปส่งที่รถ





"กูกับน้ำ...คบกันแล้ว" หลังจากที่ผาอุ้มน้ำมาไว้ที่รถ เขาสตาร์ทรถเอาไว้ให้คนบนรถ แล้วหันกลับมาเปิดประเด็นกับเพื่อนตัวเอง ดินพยักหน้าขึ้นลงช้าๆสองสามทีเป็นเชิงบอกว่าเขารับรู้

"แล้ว?" เลิกคิ้วถามผา ถึงมันจะดูเหมือนกวนแต่ก็เปล่าเลย

"...มึงควรจะเลิกมองน้องแบบเดียวกันกับที่กูมอง" ผาสบตาเพื่อนตรงหน้านิ่งๆ เพื่อบอกว่าเขาไม่ได้มาพูดเล่นๆ

"ถ้ามึงมองดีๆ มันแตกต่างกันเยอะนะ" ดินว่าออกมายิ้มๆกอดอกแล้วเดินเข้าไปใกล้เพื่อนตัวเองมากขึ้นก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าเป็นจริงจังไม่มีแววล้อเล่นเหมือนอย่างก่อนหน้านี้

"มึงจัดการตัวมึงเองเรียบร้อยดีแล้วใช่มั้ย" ผานึกงงกับคำถาม ทำไมมีแต่คนถามเขาแบบนี้...แม้แต่ไอ้ดินเองยังถาม เขาไม่ได้มีลูกมีเมียหรือคบกับใครอะไรอยู่สักหน่อย

"ทำไมแม่งมีแต่คนถามกูแบบนี้วะ" ผาขมวดคิ้วแน่น ถามออกไปด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์

"กูก็แค่อยากแน่ใจ ว่ามึงจริงจังกับน้องเขาจริงๆ"

"กูจริงจัง"

"ก็ดี...อย่าให้เกิดเรื่องปวดหัวล่ะ" ดินตบบ่าเพื่อนสองสามทีก่อนจะเดินไปที่รถของตัวเองแล้วขับออกไปก่อนจะต่อสายหาผู้อาวุธโสของตระกูล...



...ผาโล่งอกที่เพื่อนคนนี้เข้าใจอะไรได้ง่าย ถึงเขาจะไม่ค่อยเข้าใจกับสิ่งที่ดินต้องการสื่อก็ตาม แต่เขาก็จะเก็บเอาคำพูดเหล่านั้นมาคอยเตือนตัวเองเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาแน่นอน

...เขากับดินสนิทกันพอสมควร อยู่กลุ่มเดียวกันนี่แหละไปไหนไปกันตลอด แต่พอมาปีสี่ เขากับดินก็ไม่ค่อยได้เจอกัน แล้วไหนมันจะต้องรับช่วงต่อธุรกิจที่บ้านอีกเลยทำให้ไม่ค่อยเห็นมันสักเท่าไหร่ พักกลางวันก็หายไปที่บริษัท เลิกเรียนถ้าไม่มีงานต้องทำที่มหาลัยมันก็หายเข้าบริษัท ...เขาเปิดประตูรถแทรกตัวเข้าประจำที่ เพราะนี่ก็ 2 ทุ่มกว่าเข้าไปแล้วคนตัวเล็กที่ทั้งขาเจ็บแล้วก็ยังไม่ได้ทานอะไรหิวแย่



ก็อกๆๆ

เสียงเคาะกระจกทางด้านเขาทำให้เขาต้องชะงักมือที่กำลังขาดเข็มขัดแล้วหันไปดู เขาลดกระจกลงให้คนนอกรถที่ยืนยิ้มสวยส่งมาให้เขา

"ว่าไงเรา..." ผาส่งยิ้มกลับไปให้

"เต้ยเอาขนมมาฝากพี่ผาครับ..." คนที่มาหาก้มตัวลงมาให้มองเห็นคนในรถ แต่ก็ต้องชะงักไปเพราะวันนี้...มีคนนั่งมาด้วย รอยยิ้มที่มีให้ค่อยๆเจื่อนลง เพราะว่าวันนี้เขากะว่าจะมาขอติดรถร่างสูงกลับด้วย

"ขนมอีกแล้ว...คราวหลังไม่ต้องก็ได้พี่เกรงใจ"

"ไม่คิดจะแนะนำคนข้างๆให้เต้ยรู้จักบ้างเลยหรอครับ" เขาเกาะประตูรถถาม พลางมองไปที่น้ำแล้วส่งยิ้มสวยไปให้ น้ำจึงหันมาส่งยิ้มตอบกลับไปเช่นกัน

"นี่น้ำ แพทย์ ปี1...น้ำนี่เต้ย นิเทศน์ฯ ปี1 เหมือนกัน" น้ำยังคงยิ้มเหมือนเดิมค้อมหัวลงเล็กน้อยเป็นเชิงทักทาย...เขาว่าเต้ยหน้าคุ้นๆนะ

"เดือนแพทย์นี่นา ตัวจริงน่ารักกว่าในรูปอีกนะเนี่ย" เต้ยพูดออกมาจากความรู้สึกจริงๆ ว่าน้ำน่ารักมากจริงๆ เขาได้ยินคนในคณะเขาพูดถึงกันให้รึ่มไปหมด แถมยังดังไปทั่วโซเชียลอีกต่างหากว่าเป็นเด็กคนใหม่ของพี่ผา...และเขาก็ไม่พลาดหรอกที่จะมาทำความรู้จัก คนตัวเล็กตอบกลับพร้อมรอยยิ้มสวย

"น้ำดังมากเลยนะ มีแต่คนพูดถึงน้ำเต็มไปหมดเลยอ่ะ" เต้ยยังคงยิ้มให้

"ไม่ขนาดนั้นหรอกครับเต้ย" คนตัวเล็กส่งยิ้มเขินๆ เขาก็พอรู้อยู่หรอกว่ามีคนพูดถึงเขาเยอะ...เขาไม่เห็นจะน่าสนใจอะไรให้คนมาพูดถึงสักหน่อย

"ฮ่าๆ ถ่อมตัวจังน้า ...แล้วนี่ทำไมมาด้วยกันได้ครับเนี่ย" เต้ยหัวเราะออกมาก่อนจะเบนสายตาไปถามผาบ้าง...เขาได้ยินคนพูดมาบ้างว่าพี่ผาของเขาเทียวรับเทียวส่งเดือนแพทย์มาเป็นอาทิตย์แล้ว...ตั้งแต่เขารู้จักกับพี่ผามาก็หลายปีแล้ว เขายังไม่เคยเห็นพี่ผาสนใจผู้ชายคนไหนมาก่อนเลย...จะมีก็แต่คนๆนี้ คนที่ยิ้มน่ารักคนนี้...

"ทำไมพี่จะมากับแฟนพี่ไม่ได้" ผายื่นมือไปยีหัวรุ่นนี้อย่างเอ็นดูก่อนจะขอตัวกลับ...น้ำกำลังโบกมือลาเต้ยที่ถอยออกไปยืนห่างรถชะงักไปครู่หนึ่งเมื่อเห็นอะไรบางอย่างที่มันแปลกไปก่อนที่ผาจะปิดกระจก...คงไม่ใช่หรอกมั้ง

"กินไรดี" ผาหันมาถามน้ำหลังจากออกรถมาได้สักพัก แต่น้ำกลับนิ่ง คิ้วขมวดเข้าหากันเหมือนกำลังมีเรื่องอะไรให้คิด

"เป็นอะไรรึเปล่า" เมื่อรถจอดติดไฟแดงผาก็เปิดประเด็นถามขึ้นมาอีกครั้ง เพราะตั้งแต่ออกรถมาก็ยังไม่ได้พูดอะไรกับเขาเลย เขาถามไปก็ยังไม่ได้คำตอบ

...น้ำหันกลับมามองหน้าผา คำถามอะไรต่างๆนาๆก็พุ่งเข้ามามากมาย อยากจะถามอะไรเยอะแยะไปหมดแต่ไม่รู้ว่าเขาจะถามมันได้มั้ย พี่ผาจะโกรธเขามั้ยถ้าเขาถามออกไป...มันจะดูงี่เง่าไปรึเปล่า ...แต่พอเขานึกถึงสายตาที่เปลี่ยนไปของเต้ย เขาก็ตัดสินใจถาม

"น้ำขอถามอะไรพี่ผาหน่อยได้รึเปล่าครับ"  น้ำเม้มปาก หลุบตาลงต่ำ ก่อนจะช้อนตาขึ้นมองผาอีกครั้งอย่างไม่แน่ใจ ผาพยักหน้ารับไป เขานิ่งรอฟังคำถามจากน้ำ ไม่ได้เร่งรัดอะไร เพราะดูน้ำค่อนข้างลำบากใจที่จะถามเขา

"พี่ผากับเต้ยรู้จักกันมานานแล้วหรอครับ" อ่า...ไม่คิดว่าน้ำจะถามแหะ  ...ความมั่นคงในน้ำเสียงที่เอ่ยถามเขาออกมานั้นไม่เหลือแววของความลังเล หรือไม่แน่ใจอะไรเลย ตากลมโตมองสบกับเขาเพื่อบอกให้รู้ว่าเขาต้องการคำตอบ

"สองสามปีได้" นึกๆไล่ย้อนกลับดู ก็คงราวๆสองสามปีก่อน 

"รู้จักกันได้ยังไงครับ" น้ำยังคงถามต่อ เขายังไม่ได้ตอบทันทีเพราะสัญาณไฟตรงหน้าเปลี่ยนสีเป็นสีเขียว

"เต้ยเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกับน้ำฟ้าตอนมัธยม เวลาทำงาน ช่วงสอบก็มาให้พี่ติว เลยมีโอกาสเจอกันบ่อย" ขับรถมาได้ไม่ถึงห้าสิบเมตรก็ต้องจอดสนิทเพราะการจราจรที่ติดขัดจากอุบัติเหตุ แถมตอนนี้ฝนก็ยังเริ่มโปรยเม็ดลงมาอีก

"พี่ผา...ไม่ได้คิดอะไรกับเต้ยใช่มั้ยครับ" ผาถึงกับเหวอ ใช่...ไม่ผิดหรอก เขาเหวอจริงๆ อะไรกัน...ทำไมถึงถามแบบนี้ น้ำกำลังจะเป็นคนไม่มีเหตุผลจริงๆใช่มั้ย ...นั่นรุ่นน้องเขานะ แถมยังเป็นเพื่อนกับน้ำฟ้าอีก ถึงตอนนี้จะห่างๆกันไปแล้วก็เถอะ...

"ทำไมถึงถามแบบนี้" เขาเอามือขึ้นลูบหน้าตัวเองเพื่อเรียกสติเพราะเมื่อกี้เผลอทำเสียงแข็งแถมยังขมวดคิ้วใส่ไปอีก...แต่เขาไม่เข้าใจ เขาไม่ได้แสดงท่าทีอะไรในทำนองให้คิดแบบนั้นเลย...

"ขอโทษด้วยครับ" น้ำเอ่ยขอโทษ เสหน้ามองออกไปนอกตัวรถ...เขาไม่คิดจะถามอะไรอีก เพราะท่าทีที่แสดงออกของผาเมื่อกี้มันดูหงุดหงิดอยู่ในที...แฝงความไม่ชอบใจในคำถาม...เขามีอะไรในใจถ้าเขาให้คำตอบตัวเองไม่ได้เขาก็เลือกที่จะถาม แต่ถ้าถามแล้วไม่ได้คำตอบเขาก็จะไม่ถาม...เขาไม่ใช่พวกถามอะไรเซ้าซี้ จู้จี้จุกจิกให้มากความ ถ้าตอบด้วยคำพูดไม่ได้...การกระทำมันก็เป็นอีกหนึ่งคำตอบที่ดีเช่นกัน...อย่างตอนที่จอดรถนั่นไง

...เขามองดูจากภายนอกเขาก็เห็นถึงความน่ารักขอกอีกคนนแล้ว ทั้งยิ้ม ท่าทางและคำพูด ไม่แปลกหรอกที่ใครๆก็จะมองด้วยสายตาเอ็นดูแบบนั้น...แบบที่ผามอง แต่เขาก็เห็นเพียงแค่นั้น แต่สายตาของอีกฝ่ายที่มองกลับมา...มันกลับไม่ใช่สายตาแบบที่น้องชายมองพี่ชายที่เป็นที่รัก แต่มันกลับเป็นสายตาของคนๆนึงที่กำลังมองคนที่ตนรัก...

...เขายังนั่งเถียงกับตัวเองเงียบๆว่าเขาอาจจะมองผิดไป แต่พอพี่ผาสถานะของเขาไป...สายตาที่มองเขาอย่างเป็นมิตรในคราแรกก็แปลเปลี่ยนเป็นนิ่งสนิทราวกับเป็นสายตาจากคนละคน...นั่นก็เลยทำให้เขามั่นใจ ว่าสิ่งที่เขารู้สึกมันคือเรื่องจริง ...เขาไม่ถามเต้ยหรอก เพราะเรื่องความรู้สึกมันห้ามกันไม่ได้ และอีกอย่าง...คำตอบที่เขาต้องการคือจากแฟนเขา ...แต่กลับให้คำตอบไม่ได้...นี่แค่เริ่มต้นเองนะ ยังส่อแวววุ่นวายขนาดนี้ แต่ก็อย่างที่บอก...การกระทำมันจะบอกทั้งหมดเอง

"ขอบคุณมากนะครับ" เขากล่าวขอบคุณร่างสูงที่พาเขาส่งถึงหน้าห้อง

"ไม่ป็นไร ...พักผ่อนเยอะๆ อย่าลงน้ำหนักมาก เดี๋ยวจะหายไม่ทันวันงาน" ผาส่งยิ้มน้อยๆมาให้พร้อมกับส่งถุงกับข้าวที่แวะซื้อก้อนเข้าหอเมื่อกี้นี้...ต้องซื้อเผื่อโจ้กับธามด้วย สองคนนั้นเห็นบอกว่ากำลังมา

"ครับ...ขับรถกลับดีๆนะครับ" คนตัวเล็กเข้าไปในห้องแล้ว แต่ผาก็ยังไม่ได้เดินห่างออกไปจากที่ตัวเองยืนเลย ...เขาควรจะอธิบายไม่ใช่หรอ เขาควรจะตอบคำถามนั้นให้มันเคลียร์ไม่ใช่หรอ



ก๊อกๆๆ

เสียงเคาะประตูดังขึ้นทำให้น้ำต้องละมือจากการแกะถุงกับข้าวลุกเดินไปที่ประตู...สงสัยโจ้กับธามคงจะมากันแล้ว

"พี่ผา..."

หมับ!

จู่ๆผาก็แทรกตัวเข้ากอดเขาเอาไว้หลวมๆ เพราะหน้าที่ซุกเข้าที่อกคนตัวสูงพอดี ทำให้ได้กลิ่นอาฟเตอร์เชพอ่อนๆ...ถึงไม่ใกล้ขนาดนี้ก็ได้กลิ่นทุกวัน กลิ่นประจำตัว ถึงจะผ่านมาทั้งวันกลิ่นก็ยังคงอยู่...คิดอะไรของแกวะเนี่ยน้ำ และมากอดกันแบบนี้ได้ไง เขินง่า~

"ปิดประตูก่อนสิครับ" เขาเตรียมจะผละออกเพื่อไปปิดประตู ผากลับยังกอดเขาไว้เหมือนเดิมแต่ใช้เท้าตวัดไปปิดประตูแทน...กอดแบบนี้นานๆเขาก็เขินแย่สิ เกิดใครผ่านมาเห็นอีก

...ผายังคงยืนกอดเขาอยู่แบบนั้นร่วมนาทีก็ยังไม่ยอมปล่อย ไม่ยอมเอ่ยพูดอะไรออกมาทั้งสิ้นจนเป็นเขาเองต้องเอ่ยปากถาม "เป็นอะไรรึเปล่าครับ" เขาใช้มือแตะลงไปเบาๆที่แผ่นหลังกว้าง

"...ไม่โกรธพี่ใช่มั้ย" เงียบไปอึดใจก่อนจะพูดออกมาเสียงเบา น้ำขมวดคิ้วไม่เข้าใจกับที่ผาพูด...เขาไปโกรธพี่ผาตอนไหนกัน

"เรื่องอะไรครับ...ปล่อยแล้วมาคุยกับน้ำดีๆก่อน" เขาบอกไปก็พยายามจะผละออกมาแต่ผาก็ยังไม่ยอมปล่อย

"ยืนนานๆน้ำเจ็บขาแล้วนะ" เขาลองพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนๆดู...ผาเลยแล้วคลายกอดเปลี่ยนเป็นอุ้มเขาไปนั่งที่ปลายเตียง

"ตกลงมีอะไรครับ" เขาเงยหน้าถาม แววตากลมโตมองสบกับสายตาคม

"...พี่ไม่ได้คิดอะไรกับเต้ย เต้ยเขาเป็นรุ่นน้องแค่นั้น ไม่มีอะไรทั้งนั้น" ผาเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงมั่นคงแววตาจริงจังพร้อมกับจับมือทั้งสองข้างของน้ำเอาไว้กระชับเบาๆคล้ายกับเป็นนัยให้เชื่อที่เขาพูด ทำให้คนฟังร้องอ๋อในใจ เขาไม่คิดว่าผาจะมาพูดเรื่องนี้อีก เพราะเขาเองเขาก็ไม่คิดจะถามอีกเช่นกัน...เพราะคำตอบของคำถามที่ดีที่สุดสำหรับเขาคงเป็นการกระทำมากกว่า

"พี่คิดว่าพี่ชัดเจนแล้ว...แต่พี่ชัดเจนแค่กับตัวเอง แถมยังหงุดหงิดใส่เราอีก...น้ำไม่โกรธพี่ใช่มั้ย" ผาย่อตัวลงนั่งบนส้นเท้า มือทั้งสองข้างกุมมือของคนตัวเล็กเอาไว้ไม่ปล่อย

"ไม่ครับ...น้ำไม่โกรธ ถ้าพี่ผาชัดเจนกับตัวเองการกระทำของพี่ก็จะเป็นคำตอบของน้ำเอง" เขาตอบร่างสูงไปพร้อมกับรอยยิ้มสวย

...ผาที่ได้ฟังคำตอบก็นึกทึ่งในใจ ทั้งๆที่การกระทำของเขามันน่าจะทำให้เป็นเรื่องทะเลาะกันได้แต่คนตรงหน้าเขาก็ไม่มีแม้แต่แววของความไม่พอใจออกมาเลย แถมยังมีเหตุผลอีก...หรือเป็นเพราะเป็นผู้ชายเหมือนกันเลยเข้าใจอะไรๆได้ง่ายแบบนี้กันนะ...

"แต่...พี่ผารู้ใช่มั้ยครับ ว่าเต้ยเค้าคิดกับพี่มากกว่าพี่ชาย" ที่เขาถาม เพราะสายตาคู่สวยที่มองมายังผา มันให้ความรู้สึกเหมือนเวลาที่เรามองใครสักคนที่เรารัก...อย่างปิดไม่มิด

...ผาที่ฟังคำถามก็ไม่แปลกใจหรอกที่คนตรงหน้าเขาจะสังเกตมันได้...เพราะเต้ยเองก็ไม่เคยคิดจะปิดบังอะไรใครอยู่แล้ว

"พี่รู้...แต่พี่ไม่ได้คิดอะไรแล้ว เพราะตอนนี้พี่มีคนที่พี่คิดอะไรด้วยแล้ว" ผาตอบออกมาพร้อมกับรอยยิ้มมุมปากและส่งสายตาพราวระยับไปให้คนตรงหน้าได้เขินเล่น...และแน่นอนไม่ต้องรอให้เสียเวลา แก้มใสก็ขึ้นสีแดงระเรื่อจนเห็นได้ชัด กัดปากล่างตัวเองเพื่อสะกัดกลั้นอารมณ์เขิน แต่หารู้ไม่ว่าการกระทำนี้มันไปกระตุ้นอะไรบางอย่างในตัวของผาเข้าให้อย่างจัง...น่าจับมาฟัดให้ช้ำเสียจริง ร่างสูงคิดในใจ

"ฝะ ฝนตกหนักแล้ว พี่ผารีบกลับเถอะครับ" น้ำหันหน้ามองออกไปข้างนอกห้อง เอ่ยเปลี่ยนเรื่องเสียงตะกุกตะกัก

"หึๆ เปลี่ยนเรื่องเก่งนี่ พี่ควรจะรู้ไว้ด้วยใช่มั้ย หื้ม" ผาว่าออกมาเสียงกลั้วหัวเราะ ก่อนจะยื่นมือไปดึงแก้มนิ่มทั้งสองข้างส่ายไปส่ายมา ส่วนตัวเองก็ทำหน้าหมั่นเขี้ยวไปด้วย

"ฮื่อ~ น้ำเจ็บ" ดึงจนพอใจแล้วก็ปล่อย คนตัวเล็กจึงเอามือขึ้นมาลูบแก้มทั้งสองข้างตัวเองเบาๆ...แดงแน่ๆเลย

"ก็อย่าทำตัวน่ารักนักสิ" ผายื่นมือไปเกลี่ยแก้มนิ่มที่ขึ้นรอยแดงเพราะฝีมือเขาเบาๆอย่างต้องการจะปลอบ...ส่วนคนที่โดนปลอบก็ได้แต่นั่งน่าแดง ไม่ใช่เพราะพี่ผาดึงแก้มเขาหรอกเป็นเพราะพี่ผาทำเขาเขินต่างหากเล่า...เขาเป็นผู้ชายนะ มาชมเขาว่าน่ารักได้ไงเล่า คิดในใจแต่ทำหน้ายู่ใส่ผาไปแล้ว 

"จะกลับแล้วนะ" ผายืนขึ้นเต็มคงามสูงพร้อมกับบอกออกมายิ้มๆ

"กะ ก็ไปสิครับ ดึกแล้ว" คนตัวเล็กเอ่ยบอกเสียติดๆขัดๆ สายตาลอกแลกๆ ผามองปฏิกิริยานั้นยิ้ม ก่อนจะก้าวเดินห่างออกมาแต่ก็ตัดสินใจหมุนตัวกลับไปหาคนตัวเล็กอีกครั้ง

ฟอดดดด!
อ่า...ชื่นใจชะมัดเลย


...คนตัวเล็กอ้าปากค้างตาโต ค่อยๆยกมือขึ้นกุมแก้มตัวเองอย่างตกตะลึง ...นะ นี่ นี่เราโดนพี่ผา หะ หอม หอมแก้ม หอมแก้ม!? หอมแก้ม!!

...ผาที่โน้มตัวลงมาใช้แขนทั้งข้างเท้ากับเตียงคร่อมตัวน้ำไว้ เห็นสีหน้าตกใจของคนตัวเล็กแล้วก็แทบจะกลั้นขำไม่อยู่ อะไรกันเนี่ย...สงสัยต้องทำบ่อยๆซะแล้ว น้ำจะได้ชินกับเขาสักที

"พี่ผาอ่า กลับไปเลย" ทำหน้ายู่ใส่ ชี้มือไปที่ประตู

"เขินอะไร มากกว่านี้กะ..." ยังไม่ทันพูดจบว่ามากกว่าหอมแก้มก็เคยมาแล้ว มือเล็กๆก็เข้ามาตะครุบปากเขาไว้เสียก่อน

"หยุดเลย! ไม่เอาไม่พูด ...พี่ผาอ่าเลิกแกล้งน้ำซักทีซี่~" ตอนแรกก็พดูเสียงเข้มอยู่หรอก แต่รู้ว่าสู้อะไรไม่ได้ก็ทำเสียงอ่อน ปล่อยมือออกก่อนจะทิ้งหัวไปพิงไหล่กว้างเพื่อซ่อนอาการเขินแทน...หนีไปไหนไม่ได้ก็ซุกมันตรงนี้นี่แหละ หอมดี ฮือ~ คิดอะไรของแกเนี่ยน้ำ

"หึๆๆ โอเคๆพี่ไม่แกล้งแล้ว กลับจริงๆแล้ว" ผาพูดกลั้วหัวเราะพลางลูบหัวทุยเบาๆอย่างเอ็นดู ก่อนจะผละออกไปไม่แกล้งอะไรน้ำอีกอย่างที่บอกเอาไว้...แต่ก็กว่าจะเลิกแกล้งเขาได้เล่นเอาซะเขาเขินจนเหนื่อย

...ผาหันกลับมายิ้มให้คนตัวเล็กที่นั่งหน้ายุ่งอีกครั้งก่อนจะเปิดประตูออกไป ปล่อยให้คนขี้เขินยังนั่งเขินอยู่ที่เดิม กับคงกับข้าวเย็นชืดหมดแล้ว เห็นทีคงจะให้เพื่อนสองคนเขาอุ่นกันเอา...นึกถึงเพื่อนสองคน เสียงเปิดประตูก็ดังขึ้นพร้อมเสียงพูดคุยกันเสียงดังของเพื่อนทั้งสอง...คงไม่พ้นเถียงอะไรกันแน่ๆ

"ก็กูบอกว่าเดี๋ยวกูถือๆ มึงก็ไม่ฟัง ผลสุดท้ายมึงก็เปียกแบบเนี้ย และมึงถูกกับฝนซะที่ไหน" เสียงโจ้ที่เดินนำเข้ามาก่อน วางสำภาระลงหน้าโทรทัศน์เสื้อผ้าเนื้อตัวเปียกหมด แต่คงไม่เท่าธามที่เปียกลงมาตั้งแต่หัว

"น้ำขอยืมผ้าเช็ดตัวหน่อย" โจ้หันมาขเสียงหงุดหงิด เขาจึงพยักหน้าให้ ก่อนที่โจ้จะเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าเพื่อหาผ้าขนหนูผืนใหม่

"มึงจะไรนักหนา บ่นกูมาตั้งแต่ข้างล่างละนะ" ธามทำหน้าเอือมๆ ใส่ โจ้เลยนิ่งไป

"โอเคๆ กูขอโทษ" จากที่จะเดินเอาผ้าขนหนูไปให้ก็เอาวางลงแค่บนเตียงข้างๆคนตัวเล็กแทน ก่อนจะหมุนตัวเตรียมเดินเข้าห้องน้ำไป

"ไอ้โจ้หยุด" ธามสั่ง ทำให้โจ้หยุดเดินแต่ไม่ได้หันกลับมามองธามที่กำลังเดินเร็วๆเข้าไปหา ...อ่า บรรยากาศดูตึงๆชอบกลแหะ และเขากลายเป็นส่วนเกินตั้งแต่เมื่อไหร่กันละเนี่ยน้ำงง

"กูไม่ได้รำคาญมึง" ธามพูดออกมาเสียงนิ่ง

"โอเค มึงไปอาบน้ำไป กูเปียกไม่มากเดี๋ยวอาบทีหลัง" โจ้บอกพร้อมกับหันหลังเดินกลับเข้ามา แต่ธามดึงเอาไว้ก่อน

"มึงให้กูอาบก่อนได้ไง มึงไม่ชอบอาบต่อคนอื่นไม่ใช่รึไง"

"เออๆแม่ง กูอาบก่อนเอง มัวแต่เถียงกันอยู่นี่แหละแม่ง ปอดบวมตายกันพอดี" บ่นอุบอิบๆ มองค้อนให้ธามไปอีกทีก่อนจะเดินเลี่ยงไปทางห้องน้ำ

"เดี๋ยว" ธามรั้งไว้

"อะไรของมึงอีก" โจ้หันมาทำหน้าเหม็นเบื่อเต็มทน

"มึงไม่ได้โกรธกูใช่มั้ย" 

"ปัญญาอ่อนปะไอ้ธาม กูจะโกรธมึงเพื่อ? ...ถ้ากูออกมาแล้วกับข้าวไม่พร้อมให้กูแดกนะ คราวนี้กูจะโกรธ โกรธแม่งทั้งสองคนนี่แหละ โมโหโว้ย! โมโหหิวอ่ะเข้าใจป้ะ!" ประโยคยาวเหยียดที่ถูกพ่นออกมาอย่างกวนๆก่อนจะปิดประตูห้องน้ำดังปั้งให้สองคนในห้องเกาหัวกันแกรก

"อยู่เฉยๆก็จะโดนโกรธเฉยเลย" น้ำทำหน้างงใส่ธาม ธามยักไหร่ไม่รู้เรื่องเพราะเขาเองก็งงไม่ต่างอะไรจากน้ำเลย..อะไรของมันวะ ที่บ่นๆมานี่คือโมโหหิวหรอก โถ่คนก็นึกว่าเป็นห่วง









...100%...

...To Be Continued...





ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
โหหห พี่ผาไวเว่อร์ขอคบน้องแล้ว เพิ่งจะ 12 ตอนแต่คบกันแล้วแสดงว่าหลังจากนี้คงมีเรื่องให้ทั้งคู่จับมือฝ่ากันไปแน่ ไหนจะอดีตกิ๊กของผาคนที่ว่าแรงนั่นอีก ไหนจะอิพี่ใหม่อีก ส่วนดินนี่เราว่าต้องเป็นพี่ของน้ำแน่ๆเลยอะ

ออฟไลน์ มายซินนี่

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0


[Episode...14]






"มาค่ะลูก ซ้อมเสร็จแล้วจะได้ไปเตรียมตัวแต่งหน้า" เชอร์รี่ปรี่เข้ามาประคองคนตัวเล็กที่กำลังเดินลงบันไดของเวทีมา

"น้ำหายเจ็บแล้วนะครับพี่เชอร์รี่" น้ำยิ้มรับน้อยๆอย่างเกรงใจ 

...จากวันที่เขาเกิดอุบัติเหตุ ก็ผ่านมาถึงวันประกวดดาวเดือนมหาลัยแล้ว เขาต้องมาที่นี่ตั้งแต่เช้าเพื่อมาซ้อมใหญ่ ทั้งซ้อมละครที่จะแสดง และก็การเดินที่จะต้องมีการมาร์คจุดโพสจุดยืนต่างๆ จนตอนนี้เวลาล่วงเลยมาเกือบจะบ่ายสี่โมงเย็นแล้ว เขาเหลือเวลาแต่งตัว เตรียมตัวในส่วนของตัวเองประมาณสองชั่วโมง 

...หลังจากที่เขาบาดเจ็บไปวันนั้นพี่สตาฟก็ดูแลเขาอย่างกับไข่ในหิน พี่ผาก็ตามรับตามส่งเขาแจ เฝ้าตลอดไม่ห่างเลย จนเขาจะเดินไปไหนไม่ได้อยู่แล้ว เดินไปไหนก็มีแต่คนพูดถึงมีแต่คนมอง...น้ำไม่ชิน

"น้ำ...ชุดมาแล้ว" เสียงโจ้ดังมาตั้งแต่หน้าประตูทางเข้าห้องพักดาวเดือน ตามหลังมาก็ธามนั่นแหละ พร้อมกับหอบถุงอะไรไม่รู้มาเต็มสองมือ

"ครับ ...แล้วธามถืออะไรมาเยอะแยะเลยเนี่ย" น้ำถามพลางเข้าไปช่วยโจ้ถือชุดของตนที่มีถุงคลุมสีเทาคลุมอยู่

"ก็ของกินน้ำนั่นแหละ" ธามตอบเขาก่อนจะเดินเข้าไปที่โต๊ะประจำของดาวเดือนคณะแพทย์  ซึ่งข้างหลังเวทีที่มีพื้นที่กว้างมาจะถูกจัดแบ่งเป็นโซนๆ เป็นคณะๆไป และโต๊ะนั้นก็มีน้ำฟ้ากับพี่ผานั่งอยู่ก่อนแล้ว เพราะต้องพาน้ำฟ้ามาแต่งหน้าแต่งตัวแล้วเหมือนกัน... พอเขาเดินมาถึงยังไม่ทันได้ทักทายใครก็ถูกลากตัวไปเปลี่ยนชุดทันที

...น้ำยังไม่ได้กินอะไรเลยนะพี่ด้วง ...ชุดแรกที่เขาจะต้องใส่คือชุดไปรเวทที่เหมือนชุดเที่ยวทั่วๆไปนั่นแหละ แต่มันก็ต้องดูดีกันนิดนึง

"คนดังวิศวะมานั่งเฝ้าอะไรตรงนี้จ้ะ ร้อยวันพันปีไม่เคยจะโผล่มา" เสียงกระแนะกระแหนของเชอร์รี่ที่ดังมาก่อนตัวจะโผล่มา ทำให้ผาเหล่ตาไปมองอย่างเอือมๆ...จะมาเงียบหน่อยไม่ได้รึไงวะ

"แล้วจะทำไม" ผาเลิกคิ้วถามอย่างกวนๆ

"แหม ไม่ได้เลยนะเดี๋ยวนี้ ยอกย้อนๆ" เชอร์รี่กรอกตาปะหลำปะเหลือกใส่ ผาก็ยักใหล่ให้อย่างโนสนโนแคร์ 

...เมื่อก่อนไอ้หล่อนี่มันเคยจะโผล่หน้าไปกิจกรรมที่ไหน แต่พอมาตอนสิ...ไม่ต้องถามหรอก ไปยืนมองจากดาวอังคารยังรู้เลย ชัดเจนขนาดนี้...แต่เขาก็สงสัยอยู่เหมือนกัน ตั้งแต่รู้จักกันมา ผาเคยสนใจผู้ชายเสียที่ไหนกันล่ะ อ่า...แต่จะว่าไม่สนก็ไม่ใช่ซะทีเดียวสินะ เขาเข้ามาตามจีบมันเป็นปีๆ ถ้ามันไม่สนใจมันคงไล่ตะเพิดไปแล้ว และจะบอกว่าไม่รู้ ก็คงไม่ใช่...ผาฉลาดจะตาย แต่ก็เอาเหอะ ถึงกับขั้นเปิดเผยขนาดนี้ เขาก็หวังแค่เพียงว่า...ผาคงจะคิดมาดีแล้ว

...หลังจากที่หายไปนานเกือบสิบห้านาทีได้ด้วงก็จูงมือคนตัวเล็กออกมาจากห้องแต่งตัวทางด้านหลัง ชุดที่คนตัวเล็กใส่เป็นเสื้อเชิ้ตสีขาวพับแขนถึงข้อศอก กางเกงขายาวสกินนี่สีดำที่ถูกพับขึ้นมาเล็กน้อยพอให้เห็นข้อเท้าสวย รับกับรองเท้าหนังสีน้ำตาล

...คนตัวเล็กทรุดนั่งลงเพื่อให้ช่างเข้ามาแต่งหน้าทำผมให้ ผมถูกเซ็ตให้อยู่ในที่เป็นธรรมชาติ ใบหน้าถูกแต่งแต้มด้วยรองพื้นเพียงเล็กน้อย ก่อนจะลงลิปมันบนริมฝีปากอวบอิ่ม พอเสร็จแล้วคนตัวเล็กก็มายืนเช็คความเรียบร้อยที่กระจกเต็มตัว ช่างแต่งหน้าไม่ต้องเหนื่อยที่จะต้องทำอะไรกับคนตัวเล็กนี่เลย ผิวขาว เนียนละเอียดจนน่าอิจฉา...อยากจะรู้จริงๆว่ามีเคล็ดลับอะไร

...กิริยาที่หมุนไปหมุนมาอย่างไม่มั่นใจอยู่หน้ากระจกนั้น แต่เจ้าของร่างบางก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย ว่าการกระทำเหล่านั้นเป็นจุดสนใจของคนในห้องนี้มากขนาดไหน ถ้าทั้งสามรางวัลจะตกเป็นของคนตัวเล็กนี่คนเดียวคงไม่มีใครแปลกใจอะไร ทั้งรูปร่างหน้าตา และนิสัยใจคอที่ได้สัมผัสตลอดการอยู่ร่วมกันมา...มันดีไปหมด

"ดูดีแล้ว" ผาที่ทนเห็นแฟนตัวเล็กเป็นเป้าสายตาได้ไม่นานก็เดินเข้ามาใกล้ๆพลางกวาดสายตามองไปรอบๆ ทำให้คนเหล่านั้นหลบตากันแทบไม่ทัน...ก็ผาน่ะเวลาโมโหก็เอาเรื่องใช่น้อยที่ไหน

"จริงหรอครับ" คนตัวเล็กหันมาเลิกคิ้วถาม ด้วยรอยยิ้มเขินๆ

...สายตาของคนรอบข้างก็ยังมองมาไม่มีหยุด จนผาจับมือแล้วกระตุกเบาๆให้คนตัวเล็กเดินตามเขามาจนมาถึงห้องแต่งตัวข้างหลัง...คนตัวเล็กขมวดคิ้วอย่างงงงวยว่าพี่ผาจะลากเขามาตรงนี้ทำไม ไม่ใช่คนตัวเล็กสงสัยหรอก ทั้งสตาฟทั้งเพื่อนร่วมห้องก็สงสัยกันทั้งนั้น แต่ไม่มีใครเอ่ยทักท้วงอะไร

"เป็นอะไรรึเปล่าครับ" หลังจากที่ผาปล่อยมือเขาแล้ว ก็อดที่จะถามไม่ได้เพราะสีหน้ายุ่งยากใจของร่างสูง

"ก็เรานั่นแหละ" ผาถอนหายใจเฮือกใหญ่ ยกมือขึ้นขยี้หัวตัวเองอย่างหงุดหงิด 

...ไม่ชอบเลยแม่ง ไม่ชอบเลยไอ้สายตาพวกห่านั่นน่ะ

"น้ำ? น้ำทำอะไรครับ" พอรู้สาเหตุว่าร่างสูงเป็นแบบนี้ก็งงหนักเข้าไปใหญ่...เขาไปทำอะไรให้ไม่พอใจเมื่อไหร่กัน หรือว่าเขาแต่งตัวแล้วดูแย่กันนะ พี่ผาถึงไม่พอใจเขาแบบนี้

"เฮ้อ...ก็เราน่ะ"

"..."

"อย่าน่ารักมากได้มั้ยเล่า" ผาดึงน้ำเข้าไปกอดไว้หลวมๆ



...โดนชมว่าน่ารักมาตั้งนานจนชิน แต่มันจะไม่ชินก็เพราะคนตรงชมกันซึ่งๆหน้าแบบนี้นี่แหละ แถมยังมากอดไว้อีก ฮื่อ หน้าร้อนจนจะไหม้อยู่แล้วนะ...



"รู้มั้ยว่ามีแฟนขี้หวง"

"..."

"มีแต่คนมองเต็มไปหมดไม่รู้เลยรึไง หื้ม แฟนผาผามองด้วยสายตาแบบนั้นได้คนเดียว แฟนผาผาก็หวงปะวะ" ...กะจะฆ่าให้ตายกันด้วยคำพูดเลยรึไงนะ

"มองยังไง...เขามองเพราะว่าน้ำดูไม่ดีมากกว่า" ถามมาได้ว่ามองยังไง ไอ้พวกเสือไบนี่มองกันเหมือนยังกะจะลากเข้าห้องไปปู้ยี่ปู้ยำ โว้ยยย...คิดแล้วน่าหงุดหงิดชะมัด

"ไม่รู้แหละ ไม่ต้องประกวดมันและเดี๋ยวไปบอกเชอร์รี่ให้ หาคนใหม่ตอนนี้ก็ทัน" ผาผละออกมาหันหลังเตรียมกลับเข้าไปคุยกับเชอร์รี่จริงๆ น้ำตกใจจนต้องรีบคว้าแขนเอาไว้เพราะพี่จะไปคุยให้เขาจริงๆแน่

"ดะ เดี๋ยวๆ ครับพี่ผา ไม่เห็นต้องขนาดนั้นเลยนี่ครับ" 

"มีแต่คนมองน้ำ พี่จะบ้าตายเอา" ไม่มีใครเข้าใจอารมณ์ของคนขี้หวงหรอกจริงๆ ลองคนเยอะๆมองแฟนคุณด้วยสายตาอยากลากแฟนคุณเข้าห้องดูสิ...

"เขามองก็ไม่เห็นเป็นไรเลยนิครับ" น้ำว่าเสียงอ้อนๆ เพื่ออยากให้พี่ผาเย็นลงกว่านี้หน่อย...คนพวกนั้นมองเขาก็จริง แต่ก็ได้แค่มองนิ

"เฮ้อ...ไม่ชอบเลยวะ" น้ำยิ้มออกมาน้อยๆ อย่างน้อยคนตรงหน้าก็เย็นลงบ้างล่ะนะ

"รู้แล้วครับว่าไม่ชอบ..." น้ำเอียงคอมองสบกับนัยตาคมพร้อมกับยิ้มให้ก่อนจะเอ่ยประโยคต่อมาที่ทำให้ผาแทบจับมาฟัดให้จมเขี้ยว

"พวกเขามองน้ำ...แต่น้ำมองผาคนเดียวนะ"



...ดาเมจโคตรรุนแรง รุนแรงมากจริงๆ แค่ประโยคๆเดียวทุกอย่างหายวับไปกับตา ...เหมือนหัวใจมันหยุดเต้นไปชั่วขณะ ให้ตายสิ...



...ฮื่อ พูดอะไรออกไปวะเนี่ย พูดเองเขินเองหน้าร้อนวาบ...แต่พี่ผานี่สินิ่งไปเลยอ่ะ ทำไงดีๆๆ ฮื่อ~



"อะ เอ่อ..."



จุ๊บ~

"บอกแล้วไงว่าอย่าน่ารัก"
เขายังพูดไม่ทันจบผาก็ชิ่งจุ๊บปากเขาไวๆแล้วเอ่ยคำชมออกมา เลยเอาหัวทุยๆไปพิงไว้กับอกแกร่งอย่างไม่รู้จะเอาใบหน้าที่เห่อร้อนนี่ไปหลบซ่อนไว้ตรงไหน ผาไม่ได้ว่าอะไรกลับยกมือขึ้นลูบผมนิ่มแล้วหัวเราะออกมาอย่างเอ็นดู



...ทำไมกันนะ ทำไมเขาถึงรู้สึกกับคนตัวเล็กนี่ได้ขนาดนี้กันนะ...



.



.



.



...หลายวันที่ผ่านมาเขามีโอกาสได้อยู่ด้วยกันบ่อยมากขึ้น มีเวลาเรียนรู้ซึ่งกันและกันหลายอย่าง สำหรับน้ำความรู้สึกก็ยิ่งเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ จนมันกลายเป็นมากกว่าคำว่าชอบไปแล้วถึงมันจะเป็นเวลาเพียงน้อยนิดสำหรับใครหลายๆคน แต่สำหรับน้ำมันนานมากเลยนะ...เพราะว่ามันเกิดขึ้นมานานมากแล้ว

"สวัสดีค่ะชาว SS ทั้งหลาย และแล้ววันที่เรารอคอยกันก็มาถึง ดิฉันเชอร์รี่ กรกันต์ นิเทศศาสตร์ปี 4 และ แจง จิดาภา นิเทศศาสตร์ปี 4 ผู้ดำเนินการประกวดในวันนี้ค่า" เสียงกรี๊ดวี๊ดว๊ายดังไปทั่วทั้งห้องโถงใหญ่หลังจากที่พิธีกรที่ยืนอยู่กลางเวทีใหญ่แนะนำตัวเสร็จ

"วันนี้ทุกคนมาเชียร์ใครกันบ้างค้า~" พิธีกรหญิงอีกคนถาม พร้อมกับยื่นไมค์ไปข้างหน้า



"แพทย์ค่า"

"วิศวะ!"

"เกษตรรรร~"

"แพทย์"

"ผู้ชายย~"

"แพทย์"



เสียงขานรับดังอื้ออึงไปทั่วทั้งโถงใหญ่ น้ำที่อยู่ด้านหลังเวทีก็ชักจะตื่นเต้นขึ้นมาเมื่อชื่อคณะตัวเองดังลอดมาเข้าหู

"ถามเลยดีกว่า ...ไหนใครเชียร์วิศวะคะ" เชอร์รี่เป็นคนถามพร้อมกับยื่นไมค์ออกไป เสียงกรี๊ดดังระงมจนกลัวว่ากระจกจะแตกเอา เชอร์รี่ยื่นไมค์ถามไปเรื่อยๆจนมาถึง...

"คณะนี้ได้ยินดังมากตอนที่แจงถาม... ใครเชียร์แพทย์ค้า~" เสียงกรี๊ดดังมาก ดังพอๆกับวิศวะเลยด้วยซ้ำ นั่นยิ่งทำให้คนที่ตื่นเต้นอยู่แล้วก็ตื่นเต้นหนักเข้าไปอีก

...ในเมื่อกองเชียร์มาเชียร์คณะเขามากขนาดนี้ ในฐานะตัวแทนอย่างเขาและน้ำฟ้าจะกลัวว่าทำผิดพลาดจนเสียชื่อคณะก็ไม่แปลก เหมือนทุกคนฝากชื่อเสียงของคณะไว้ที่เรา กิจกรรมอื่นเขาไม่เคยกลัว...แต่การโชว์ความสามารถ เขาไม่มั่นใจเอาซะเลย...เพราะคิดแบบนี้เลยทำให้เผลอทำหน้าวิตกออกมาจนน้ำฟ้าและเพื่อนทั้งสองคนเห็น ส่วนพี่ผาออกไปตั้งแต่สิบนาทีก่อนแล้ว...บอกว่าจะไปคอยเชียร์เขาอยู่หน้าเวที ถ้าประกวดเสร็จแล้วจะรีบมาหา

"เป็นไรไปน้ำ" เป็นธามที่ทรุดตัวลงนั่งตรงหน้าเขา เฉยคางเขาขึ้นมาสบตากัน เขาเม้นปากแน่น ความกังวลเริ่มมีมากขึ้น

"ไม่มั่นใจเลยธาม..." ยิ่งนึกถึงเสียงเชียร์เมื่อกี้ยิ่งกลัว

"ไม่มั่นใจอะไร" ธามจับมือข้างนึงเอาไว้ อีข้างน้ำฟ้าก็จับเอาไว้บีบกระชับเบาๆ ส่วนโจ้ก็เข้ามาบีบไหล่เขาอย่างให้กำลังใจ

"ทุกอย่าง...ทั้งเรื่องตัวเอง และเรื่อง...โชว์" เม้มปากแน่นหลุบตามองปลายเท้าตัวเอง...อยากจะถอนตัว

"เหมือนทุกคนฝากความหวัง ฝากชื่อเสียงของคณะไว้ที่น้ำ..." 

"ใช่...มันคือความหวัง มันคือชื่อเสียง แต่ทุ่ทุกคนมา ไม่ได้มากดดันน้ำนะ ทุกคนมาให้กำลังใจ ทุกคนมาบอกกับน้ำว่าให้ทำเต็มที่ ...น้ำจะดูถูกกำลังใจพวกเขางั้นเหรอ น้ำจะบอกว่าเสียงเชียร์พวกนั้นคือเค้ากำลังกดดันน้ำงั้นเหรอ...เสียงเชียร์ข้างนอกนั่นคือกำลังใจของน้ำนะ เค้าไม่ได้มีเจตนาจะกดดันน้ำ...ไม่กดดันตัวเองนะ เดี๋ยวกำลังใจหน้าเวทีเขาจะเสียใจ"

"..."

"รวมถึงผาด้วย"

"..."

"พี่จะเชียร์เราอยู่ข้างหน้านะ สู้ๆครับ" ไม่ใช่เสียงของโจ้ ไม่ใช่เสียงของธาม แต่เป็นเสียงของพี่ผา ที่ดังมาจากสมาร์ทโฟนของน้ำฟ้าที่เปิดสปีกโฟนแล้วยื่นมาตรงหน้าเขา ไม่รู้ว่าไปโทรหากันตั้งแต่ตอนไหน...แต่ที่แน่ๆตอนนี้กำลังใจมีขึ้นมาเป็นกอง เขาส่งยิ้มและเอ่ยขอบคุณปลายสายไปก่อนที่น้ำฟ้าจะกดวางสายไป เพราะพี่สตาฟเรียกคณะแพทย์ไปสแตนบายเตรียมขึ้นไปเดินโชว์ตัวบนเวที ทุกย่างก้าวที่น้ำเดินจับมือกับน้ำฟ้าไปมันเต็มไปด้วยความมั่นใจและไร้ความกังวล ก่อนจะขึ้นไปบนเวทีเขาหันกลับมาชูสองนิ้วให้กับเพื่อนทั้งสองคนแล้วเดินออกไปตามคำประกาศเรียก

"คณะต่อไป คณะแพทย์~" เขาเดินควงคู่กันไปยืนตรงกลางเวทีที่มีไมค์ตั้งอยู่ น้ำฟ้าเอ่ยแนะนำตัวไปพร้อมกับได้รับเสียงปรบมือและเสียงกรี๊ดกลับมา

"สวัสดีครับ น้ำ ธารา พงษ์ภากร คณะแพทย์ครับ" เสียงปรบมือ เสียงกรี๊ดดังมากจนคนตัวเล็กแอบตกใจ แถมยังมีคนเรียกชื่อเขาอีก...เขิน ทุกคณะก็จะได้รับเสียงกรี๊ดแบบนี้กันหมด ไม่รู้ว่าคนอื่นจะเขินเฟมือนเขาไหม แต่เล่นเรียก 'น้องน้ำ' เสียงดังแบบนี้เขาเขินเหมือนกันนะ

...หลังจากที่ทุกคณะแนะนำตัวเสร็จกันหมดแล้ว ต้องมาเปลี่ยนชุดเพื่อทำการแสดงรวมของดาวเดือนเพื่อให้อธิบดีและคณะกรรมการทุกท่านได้ชมกัน แล้วนี่ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการให้คะแนนผู้เข้าประกวดดาวเดือน ...เขาไม่ได้หวังจะชนะอยู่แล้ว เรื่องนี้เขาพูดเอาไว้กับพวกรุ่นพี่ในคณะไว้แล้ว เรื่องโชว์ความสามารถ ใครๆก็ทำได้ ตอบคำถามเขาก็คงจะตอบได้ไม่ดีนักหรอก ส่วนการแสดงที่แสดงอย่ตอนนี้บทก็ไม่ได้ช่วยให้กรรมการให้คะแนนเขาขึ้นมาได้หรอก

...พอเสร็จจากการแสดงละครพวกเขาเหล่าดาวเดือน ก็ทะยอยกันมาเปลี่ยนชุดเป็นชุดนักศึกษาถูกระเบียบตามคณะใครคณะมัน...และต่อจากนี้ก็เป็นการโชว์ความสามารถของผู้เข้าประกวดแต่ละคน คณะแพทย์ได้ทำการแสดงเป็ลำดับที่ห้า จากทั้งหมดสิบคณะ...ก็ถือว่ากลางๆ กำลังดี ไม่ต้นไปไม่ท้ายไป ...เขากับน้ำฟ้าไม่ได้แสดงร่วมกัน เพราะกรรมการอยากดูความสามารถของดาวกะบเดือนอย่างชัดเจนโดยที่ไม่มีฝ่ายหนึ่งฝ่ายบดบังความสามารถซึ่งกันและกัน

...ระหว่างที่รอคิวก็หยิบกีต้าร์ขึ้นมาซ้อมดีดเพลงที่จะนำขึ้นโชว์ และนั่งคุยกับโจ้ธามไปพลางๆ ...แต่ก็นึกถึงคนที่บอกว่าจะออกไปเชียร์ตัวเองอยู่ข้างหน้าขึ้นมาดื้อๆ ก็จะไม่ให้นึกถึงได้ยังไงก็ตั้งแต่เขาบอกว่าจะออกไปดูอยู่ข้างหน้า...จนตอนนี้ก็ยังไม่เห็นเลย หรือว่าเรามองไม่เห็น



...จะว่าไปเพลงนี้เขาก็อยากให้พี่ผาได้ฟังเขาร้องเหมือนกันนะ...



"ดาวคณะแพทย์สแตนบายด้วยครับ" เสียงสตาฟที่เรียกน้ำฟ้าให้ไปสแตนบายรอขึ้นโชว์ความสามารถก็ทำให้หลุดจากภวังค์ เขาหันไปจับมือกับน้ำฟ้าเพื่อให้กำลังใจ...น้ำฟ้าขึ้นไปแล้ว ต่อไปก็เป็นเขา...ว่าจะไม่ตื่นเต้น ใจก็เต้นโครมครามๆจนแทบจะกระดอนออกมา ...เขานั่งลงทำสมาธิอยู่พักเดียวก็มีเสียงจากสตาฟคนเดิมเรียกให้เขาขึ้นเวทีเป็นรายต่อไป

"สวัสดีครับ น้ำ จากคณะแพทย์ครับ" เสียงกรี๊ดเสียงปรบมือที่ดังขึ้นมาเล่นเอาใจสั่นมือสั่นไปหมด แต่เขาก็ต้องทำมันให้สำเร็จ

"วันนี้น้ำจะมาโชว์ร้องเพลงกับเล่นกีต้าร์ให้พี่ๆเพื่อนๆทุกคนได้ฟังกันนะครับ...ถ้าทุกคนร้องได้ คงไม่ลำบากใช่มั้ยครับถ้าจะให้ร่วมร้องไปกับน้ำด้วย" ทุกคนตอบรับกลับมาเป็นเสียงเดียวกันว่าได้ ...น้ำนั่งลงบนเก้าอี้ทรงสูง จัดท่านั่งวางกีต้าร์ลงไปตามที่ถนัด และเริ่มดีดกีต้าร์ตามท่วงทำนองของเพลง น้ำหลับตาลงเพื่อไม่ให้ตัวเองมองภาพตรงหน้าจนตื่นเต้น



"วันหนึ่ง..."

กรี๊ดดดดดด~ เสียงนุ่มเอื้อนเอ่ยคำร้องออกมาอย่างไพเราะ จนได้รับเสียงกรี๊ดทั่งทั้งโถงใหญ่ พร้อมกันกับที่น้ำลืมตาขึ้นมาแล้วสบเข้ากับดวงตาคมของใครบางคนที่เขานึกค่อนขอดในใจ เขาเผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัวตัว ก่อนจะร้องในท่อนต่อไป

"ตื่นขึ้นมา ด้วยความรู้สึกใหม่โลกที่มอง ช่างสวยกว่าเดิมมากมายตั้งแต่ เมื่อฉันได้เจอเธอ...
สายตาเมื่อเธมองมา มันทำให้ใจสั่น ดอกไม้ใบไม้เปลี่ยนสีจากเดิม ทุกอย่างรอบกาย ฉันมีแต่ความงดงาม"




เนื้อเพลงที่ถูกถ่ายถอดออกไปทำให้อดนึกถึงวันนั้นไม่ได้...วันที่เขาตื่นขึ้นมาพบกับพี่ชายใจดี



"สัมผัสของเธอทำให้ฉันกลายเป็นคนพิเศษ ไออุ่นของเธอ เทรกในส่วนลึกของวิญญาณ เธอคือฝัน ที่เป็นจริง ที่ใจของฉันคนนี้ใฝ่หามานาน เธอมีความรัก ที่คงอยู่ไปชั่วกาล จับมือฉันให้นาน...เพราะฉันเป็นของเธอ"



ท่วงทำนองและคำร้องยังคงถูกถ่ายทอดด้วยอารมณ์ความรู้สึกลึกๆของน้ำออกมาได้อย่างดีเยี่ยม เหตุการณ์ทั้งหมดวนเวียนเข้ามาให้นึกย้อนกลับไป เขาเผยยิ้มออกมาอย่างเปี่ยมสุขเมื่อนึกถึงมัน...เขาต้องตื่นขึ้นพบกับความอ้างว้างกี่วันกัน และเมื่อไหร่กันที่ความอ้างว้างเหล่านั้นถูกเติมจนเต็ม...โลกที่มืดมนของเขา ได้ถูกหยิบยื่นโอกาสมากมายจนมันกลายเป็นโลกที่สว่างสดใสแต่กระนั้น...มันก็ยังไม่สวยงาม จนกระทั่งมีสิ่งพิเศษเข้ามา...เมื่อได้เจอกับใครบางคน ในตอนนั้นมันเป็นแค่เพียงฝัน...และฝันในตอนนั้น มันก็กลายเป็นจริงในตอนนี้...แต่มันจะเป็นจริงได้นานแค่ไหนกันนะ

...เขาจะขอพรสักข้อหนึ่งได้หรือเปล่า...ขอให้มันเป็นแบบนี้ ขอให้ไม่ต้องกลับไปฝันอย่างตอนนั้นอีก จะได้รึเปล่า



"น้ำ! น้ำร้องเพราะมากเลยนะ"

​"ใช่ๆ นึกว่าต้นฉบับมาเอง"

​"ชนะแน่งานนี้"

​"ตอนอยู่บนเวที น้ำมีเสน่ห์โคตรๆอ่ะ"

​"ไปฝึกร้องมาตอนไหนเนี่ย ไม่เห็นรู้เลย"



เสียงตอบรับที่ดีทั้งจากผู้ที่มาเชียร์อยู่ทางด้านหน้า เพื่อนๆและสตาฟข้างหลังเวที ทำให้เขาลบล้างเรื่องในอดีตไปได้อย่างหมดจด เขามั่นใจมากขึ้นกล้าที่จะทำมันมากขึ้นโดยที่ไม่ต้องกลัวอีกต่อไปแล้ว

เขาได้พักหายใจอยู่ด้านหลังเวทีเพียงแค่สิบนาทีก็ต้องกลับขึ้นไปบนเวทีอีกครั้งเพื่อที่จะทำตามขั้นตอนสุดท้ายคือรับดอกไม้จากกองเชียร์เพื่อคัดเลือกอยู่ในตำแหน่งป๊อปปุล่าโหวตหรือขวัญใจมหาชนและตอบคำถามเพื่อชิงตำแหน่งดาวเดือนมหาลัย

"เอาล่ะค่ะ ในที่สุดก็เดินทางมาถึงช่วงสุดท้ายกันแล้วนะคะ แหมทุกคนก็ไม่ค่อยจะเตรียมพร้อมกันเลยนะคะ ในมือนี่ทั้งดอกไม้ทั้งลูกโป่งเลยนะคะ ...สตาฟคะพร้อมรับดอกไม้จำนวนมหาศาลรึยังคะ ถ้าพร้อมแล้ว...เชิญเลยค่ะ!!" หลังจากที่เชอร์รี่ให้สัญญาณว่าให้ทุคน นำดอกไม้และลูกโป่งมาให้ผู้เข้าประกวดที่ตัวเองเชียร์ได้แล้ว ทุกคนก็แทบจะรับดอกไม้และลูกโป่งไม่ทัน ตอนแรกน้ำไม่ได้คาดหวังไว้เลยว่าตัวเองจะได้มากขนาดนี้แต่ตอนนี้ต้องเปลี่ยนความคิดใหม่แล้ว...ว่าดอกไม้ ลูกโป่งเหล่านี้มาจากไหนกันเยอะแยะ เขาจำหน้าผิดกันรึเปล่า หันไปมองข้างๆกันที่มาจากคณะวิศวะก็ไม่ต่างกันเลย นิเทศก็อีกสตาฟแทบจะเข้ามารับไปไม่ทัน ข้างหลังวุ่นวายกันมากเพราะต้องมีการเรียกสตาฟมาช่วยกันขนไป เขาหันเอาดอกไม้ไปส่งให้กับสตาฟด้านหลังยังตกใจเลยที่คนมารับไปเป็นโจ้ ตอนนี้คนที่เข้ามาให้ดอกไม้เพื่อเป็นคะแนนป๊อปปุล่าโหวตเริ่มทยอยออกไปกันแล้ว ผมเลยลุกขึ้นยืนเพื่อกลับไปยังจุดยืนของตัวเอง แต่ก็ต้องชะงักไปกับกับเสียงเรียกชื่อของตัวเองที่ทแสนจะคุ้นหู

"น้ำ" ...พี่ผา เสียวเรียกที่พี่ผาเอ่ยออกมาทำให้ความวุ่นวายเมื่อกี้เงียบเสียงลงไปถนัดพร้อมใจกันแหวกทางให้ผาเดินมาถึงหน้าเวที ยิ่งใกลเวทีก็ยิ่งเห็นชัดเจนว่าไม่ได้มาตัวเปล่า แต่ผามาพร้อมกับช่อกุหลาบขาวช่อเบอเร่อ มันไม่ได้มีการจัดช่อสวยงามอะไร เป็นแค่กระดาษสีน้ำตาลห่อมาแล้วผูกด้วยโบสีขาวเท้านั้นเอง ...ทั้งๆที่เรียกแค่ชื่อ ทั้งๆที่คนอื่นๆอาจจะชื่อเหมือนกัน...แต่ขาเขากลับก้าวไปยังจุดเดิมที่เขานั่งรับดอกได้เมื่อกี้นี้อย่างห้ามไม่ได้

...ดอกกุหลาบขาวช่อโตที่มีสัญลักษณ์ของการประกวดนี้ถูกยื่นออกมาตรงหน้าเขา มันยื่นมาพร้อมกับรอยยิ้มหล่อ ที่คนยิ้มยิ้มแบบเต็มที่ จนเห็นเขี้ยวและรอยบุ๋มข้างแก้ม...อ่า หน้าเขาต้องแดงมากแน่ๆเลย น้ำย่อตัวลงไปรับช่อนั้นไว้ในอ้อมแขน

"แหมๆ ช่อโตขนาดนี้ กี่ดอกคะเนี่ยคุณนคินทร์" เชอร์รี่เอ่ยแซวออกไม ทำให้ทุกคนเงียบรอฟังคำตอบ บ้างก็เอามหือถือมาถ่านยรูปบ้างก็เอามาถ่ายวิดีโอ คนที่อยู่ไกลๆมองไม่เห็นก็ยืนบนเก้าอี้บ้าง...

"...101 ดอก" ผายิ้มก่อนจะตอบพี่เชอร์รี่กัลบไป

"มีความหมายมั้ยคะเนี่ย" เชอร์รี่แกล้งแซวต่อ

"ฉันจะมีเพียงเธอคนเดียวเท่านั้น ค่า!!" เสียงตะโกนของผู้หญิงคนนึงที่ดังขึ้นอีกฟากนึงของโถงใหญ่ คำตอบนั้นทำให้เกิดเสียงวี๊ดวิ้ว กรี๊ดกันระงมจนน้ำเขินหน้าแทบไหม้

"พอๆ น้ำกลับมาที่ค่ะ ฉันล่ะหมั่นไส้จริงๆ" คราวนี้เป็นแจงบ้างที่เดินมาลากตัวน้ำกลับมาที่เดิมแล้วโบกมือไล่ผาให้ไปไกลๆ ทุกคนโห่ออกมาอย่างเซ็งๆที่ไม่ได้ดูคนจีบกันต่อ แต่ก็เป็นการแซวกันเล่นๆเท่านั้น

"เรามาต่อกันที่ช่วงตอบคำถามกันนะคะ คำถามปีนี้เราจะใช้ระบบคำถามคู่นะคะ คือดาวเดือนคณะนั้นๆจะต้องเลือกหนึ่งคำถาม และต้องตอบคำถามเดียวกันแยะตอบนะคะคำตอบใครคำตอบมัน และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเรามาเริ่มกันที่คณะแรกกันเลยค่ะ คณะมนุษศาสตร์~" คำถามที่แต่ละคู่เจอก็มีแต่คำถามยากๆทั้งนั้นมีทั้งวิชาการ ทั่วไป ดินฟ้าอากาศหรือแม้แต่การนำเสนอเรื่องราวในชีวิตของตัวเอง ทุกคู่ทุกคณะตอบออกมาได้ดีทั้งนั้นจนคณะกรรมการเอ่ยชม และในที่สุดก็มาถึงคิวของคณะเขา และที่เขาได้มามันไม่ใช่คำถามแต่มันคือ



'ความรักที่ยิ่งใหญ่'

​น้ำฟ้าเป็นผู้ที่เริ่มตอบก่อน เธอเล่าถึงความรักในครอบครัวของเธอ ทั้งพ่อแม่ ปู่ย่า และพี่ชายของเธอ น้ำฟ้าเล่าออกมาได้อย่างอบอุ่นและนิ่งใหญ่จริงๆ จนเขากังวลและก็...กลัว ความกลัวเริ่มกลับเข้ามาเกาะกุมหัวใจเขาอีกครั้ง...น้ำก้มหน้ามองช่อกุหลาบช่อใหญ่ในอ้อมกอดที่สตาฟไม่ได้เอาไปเก็บก่อนจะเงยหน้ามองไปยังจุดที่พี่ผายืนล้วงกระเป๋าเสื้อช้อปอยู่ ตรงนั้นมีทั้งเพื่อนที่คณะแพทย์ของเขา ทั้งโจ้และธาม และเพื่อนๆของพี่ผา เขาได้รับรอยยิ้มแรกจากผา...และหลังจากนั้นก็ได้รับรอยยิ้มให้กำลังใจจากคนทั้งกลุ่ม...รชน่าประหลาดใจ แค่เพียงไม่กี่รอยยิ้มก็สามารถปัดเป่าความกลัวให้หายไปได้...ตอนนี้น้ำฟ้าพูดจบแล้วและเธอก็กำลังยื่นไมค์มาให้กับเขา...และเขาก็รับมันมา ถุงจะกลัวคำกล่าวหา ดูถูกเหยียดหยามมากมาย...แต่เขาก็ต้องเผชิญกับมัน



"ผม...เป็นเด็กำพร้า"

เสียงกรี๊ดในขณะที่เขารับไมค์เมื่อสักครู่นี้เงียบลง จนน้ำรู้สึกใจแป้วแต่เขาก็รวบรวมความกล้าแล้วพูดต่อ

"ตั้งแต่ผมจำความได้ผมก็อยู่ที่บ้านเด็กำพร้ามาโดยตลอด ไม่มีมีพ่อแม่อยู่เคียงข้างผม ไม่เคยได้สัมผัสความรู้สึกนั้นเพราะฉะนั้นผมมิอาจตอบได้ว่าความรักของพ่อแม่ที่มีให้ลูกนั้นยิ่งใหญ่ขนาดไหน ตลอด18ปีที่ผ่านมา ผมอยู่มาได้โดยไม่ได้เป็นเด็กมีปัญหาหรือทำตัวเป็นภาระของสังคม...เพราะผมรักตัวเอง รักมากพอที่จะดูแลชีวิตตัวเองให้ดีจนมาถึงจุดนี้ได้ เพราะถ้าตอนนั้นผมไม่รักตัวเองก็คงไม่มีผมในวันนี้...เพราะฉะนั้นความรักที่ยิ่งใหญ่สำหรับผมนั้น คือการรักตัวเอง"

"อาจารย์มุทิตามีคำถามค่ะ"

"เคยคิดโกรธเกลียด หรือน้อยใจอะไรพวกท่านบ้างหรือเปล่า...ที่ท่านทิ้งคุณไว้แบบนี้"

"ผมอาจจะมีความคิดที่แปลกจากคนอื่นนะครับ ...ตอนเด็กๆผมก็รู้สึกแบบนี้อยู่ไม่น้อยเลยครับ ไม่เข้าใจอะไรหลายๆอย่าง และก็ไม่คิดจะทำความเข้าใจกับมันด้วย แต่พอโตมาประมาณนึงผมเข้าใจอะไรมากขึ้น ความรู้สึกพวกนั้นมันก็จางหายไป แต่กลับกลายเป็นความดีใจแทน... ดีใจที่ผมไม่ต้องไปเป็นตัวถ่วงชีวิตของพวกท่าน ไปเป็นภาระให้พวกท่านหนักใจ การที่พวกท่านไม่มีผมในชีวิตมันอาจจะทำให้ชีวิตพวกท่านดีขึ้น ...หรือบางทีพวกท่านอาจจะต้องการสอนผมก็ได้ สอนให้ผมเข้มแข็งสอนให้ผมอดทน สอนให้ผมรู้จักทำมาหากิน สอนให้ผมรู้จักใช้ชีวิตได้โดยไม่เป็นภาระของสังคม"

"ถ้าพวกท่านฟังอยู่ ...มีอะไรอยากจะฝากถึงพวกท่านมั้ย"

"ผมไม่รู้ว่าพ่อกับแม่จะได้ยินผมมั้ย ถ้าพ่อกับแม่อยากให้ผมเป็นคนที่เข้มแข็งตอนนี้ผมเป็นให้แล้ว อยาให้ผมเป็นคนดีไม่เป็นภาระของสังคมผมเป็นให้แล้ว ทุกๆอย่างที่พ่อกับแม่จะหวังให้ลูกสักคนนึงเป็นให้ ผมทำได้หมดแล้ว แต่มีสิ่งนึงที่ผมยังเป็นไม่ได้...คือเป็นลูกของพ่อกับแม่ ผมเชื่อมาตลอดว่าพ่อกับแม่เฝ้าดูผมอยู่เพราะสร้อยเส้นนี้ที่พ่อกับแม่ทิ้งไว้ ...ขอบคุณครับ" เสียงปรบมือดังขึ้นอีกครั้ง ท่ามกลางน้ำตาที่ไหลลงมาเพราะความทราบซึ้งและสงสารอยู่ในที แม้แต่คณะกีชรรมการและพิธีกรเองก็ถึงกับน้ำตาซึมไปด้วย และหนึ่งในผู้คนที่เสียน้ำตาให้กับเรื่องที่ได้ฟังนั้น มาจากผู้อาวุธโสท่านหนึ่งบนที่นั่งชั้นลอย ที่มีแต่ผู้บริหารระดับสูง



...เคยได้ยินไหมที่เขาว่ากันว่า มีพบ ก็ต้องมีพราก มีจาก ก็ต้องมีเจอ...




.



.



.


...100%...

...To Be Continued...




...มายซินทอล์ค...

ฮืออ~ ถูกใจกันมั้ยคะคนอ่านทั้งหลาย งงมั้ยอ่า555 แอบกังวล อะไรผิดพลาดโปรดบอก มือใหม่แห่งวงการนักเขียนจริมมๆ
จริงๆตัวคนเขียนเองมีสต็อคไว้ เลยลงได้รัวๆ
ที่คบกันเร็วอย่าตกใจไปว่ามายซินจะใส่ม่า ให้คนอ่านน้ำตานองหน้านะ มีนิดๆหน่อยๆ เรียกว่าพอให้ใจกระตุกดีกว่า555555
ยังไงก็ฝากติดตาม อ่านกันเยอะๆ เม้นให้กำลังใจก็จะดีมว๊ากกกก ขอบคุณทุกเม้นน้าค้าาา จะไม่ทำให้ผิดหวังค่า :a2:



ออฟไลน์ มายซินนี่

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0

[Episode 15]





"น้ำไม่ไปไม่ได้หรอธาม" คนตัวเล็กที่กำลังเกาะแขนธาม มองหน้าโจ้ให้ช่วยเห็นใจ

"ไม่ได้...ไปแต่งตัวเลย ทำไม...เป็นแล้วหยิ่งหรอ ห้ะ?" โจ้พูดแซวเพื่อนตัวเล็กขำๆ น้ำหันไปทำหน้ามุ่ยใส่โจ้อย่างขัดใจก่อนจะหันกลับมามองหน้าธามเพื่อขอความเห็น แต่ก็ได้รับเพียงรอยยิ้มเอ็นดูและการส่ายหัวปฏิเสธกลับมา ทำให้คนตัวเล็กยู่หน้าใส่แล้วเดินเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำแต่งตัว ธามกับโจ้หันมามองหน้ากันยิ้มๆแล้วส่ายหัว...คนไม่สนิทน่ะ ไม่รู้หรอกว่าเดือนมหาลัยปีนี้น่ะ ขี้อ้อน ขี้งอแงขนาดไหน

...จากเมื่อวานที่มีการประกวดดาวเดือนกันไป ไม่ต้องถามไม่ต้องสงสัยกันก็คงรู้กันสำหรับตำแหน่งเดือนมหาลัย การตอบคำถาม การแสดงความสามารถ กิริยามารยาท ทุกคำพูดที่พูดออกมาด้วยความจริงใจ จนกรรมการและเหล่าบรรดากองเชียร์เห็นพ้องต้องกันว่าตำแหน่งปีนี้...น้ำ เดือนคณะแพทย์เหมาะที่สุดแล้ว

...เมื่อได้ตำแหน่ง แน่นอนพี่ๆเขาดีใจ และมันจะต้องมีการ...ฉลอง และน้ำไม่อยากไปเลย พอมีตำแหน่งแบบนี้มาค้ำคอ...การวางตัว การเข้าสังคมเขาก็ต้องมีมากขึ้น...เขาไม่เหมาะกับสังคมแบบนั้น แต่เลาก็รู้ว่าเขาควรจะวางตัวยังไง อะไรควรทำไม่ควรทำ เขาก็ไม่ใช่ว่าจะเปลี่ยนไป พี่เชอร์รี่บอกกับเขาไว้ว่าอย่าเป็นเหมือนบางคน..ที่ได้ตำแหน่งไปแล้วเหลิง เพราะคิดว่าตัวเองดังตัวเองเด่น ...แต่สำหรับเขาก่อนหน้านี้เขาเป็นยังไง หลังจากนี้เขาก็ยังคงเป็นอย่างนั้น



"ไปเปลี่ยนเสื้อ" ธามเอ่ยขึ้นมาหลังจากที่เพื่อนตัวเล็กของเขาใส่เสื้อสีขาวคอกว้างมาใส่

"ทำไมอ่า" 

"บางก็บาง คอก็กว้าง เห็นไปถึงไหนต่อไหน" โจ้พูดขึ้นมาพลางเข้าไปดึงๆที่คอเสื้อของคนตัวเล็กจนมันกว้างออกเห็นทะลุลงไปยันปลายเท้า

"น้ำก็ผู้ชายเหมือนกันมั้ยล่ะ" น้ำเถียง

"อย่าให้โจ้ต้องพูดว่าทำไม" 

"ก็มันทำไมเล่า" ขมวดคิ้วใส่

"ถ้าไม่คิดว่าจะมีตัวผู้ตัวไหนมาทำอะไรรุ่มร่ามให้พี่ผาตามหวงก็ตามใจ" ธามถอนหายใจก่อนจะพูดออกมา...ใครว่าเพื่อนเขาน่ารักกัน ดื้อก็เท่านั้น ธามคิดในใจ

...คนตัวเล็กที่ได้ยินธามพูดเช่นนั้นก็คิดตาม เมื่อวานเขาก็เห็นฤทธิ์ความขี้หวงของอีกฝ่ายไปแล้ว และน้ำก็รู้ดีนั่นน่ะเพียงแค่ส่วนนึงเท่านั้น พอคิดได้ก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไร ไปหยิบเสื้อตัวใหม่มาเปลี่ยนทันที จากเสื้อคอกว้างสีขาว คนตัวเล็กก็เปลี่ยนมาเป็นเสื้อคอปีนโอเวอร์ไซส์ลายขวางขาวดำแทน เข้ากันดีกับกางเกงยีนส์สีดำพอดีตัวมีรอยขาดเข่าสองข้างและรองเท้าผ้าใบคอนเวิร์สแจ็คสีขาวคู่เก่าที่เช้าตัวเก็บตังซื้อตั้งแต่อยู่มอหก



.



.





21.56 @ซี๊ด

"ไม่เห็นบอกกันก่อนเลยว่าจะมาด้วย" ทีแรกน้ำก็นึกว่าจะแค่นั่งแท็กซี่มาส่งที่ไหนได้ เดินเข้ามาด้วยกันซะงั้น

"ก็ไม่ได้ถาม"

"โจ้ก็กวนน้ำให้ได้ตลอดสิน่า" จบประโยคนั้นก็หันไปขำเบาๆกันสองคน

...จริงๆแล้วโจ้กับธามถูกพี่ๆนัดที่นี่ไว้เหมือนกัน เนื่องจากเป็นวันเกิดของพุ่ม เขาสองคนเดินเข้ามาส่งที่โต๊ะที่เป็นที่นัดหมายของน้ำก่อน...เขารู้ได้ไงน่ะเหรอ ก็เพราะพราวกับเบทโบกมือให้พวกเขาตั้งแต่เห็นกัน พอเห็นแบบนั้นก็เลยรีบเดินเบียดเสียดผู้คนเข้ามา ธามต้องกอดคอน้ำเอาไว้ตลอดทางโจ้เดินประกบอีกข้าง เพราะถ้าปล่อยให้เดินคนเดียว คงโดนฉุดไปตั้งแต่ประตูทางเข้า...จะมองอะไรกันขนาดนั้นธามเองก็ไม่เข้าใจ รู้ดีว่าเพื่อนเขาน่ารัก แต่บางทีก็แปลกใจว่าจะดึงดูดเพศเดียวกันได้ขนาดนี้เลยหรอ นี่ขนาดใส่เสื้อผ้ามิดชิดแล้วนะ ไม่อยากนึกสภาพเลยถ้าเพื่อนเขายังจะดึงดันใส่เสื้อตัวนั้นมา...ทีเวลาไอ้โจ้ไม่เห็นจะมีเพศผู้มองมันงี้มั่งวะ เอ๊ะ หรือว่าจะมี ธามคิดในใจ

พอมาถึงโต๊ะ เขาก็ยกมือไหว้บรรดารุ่นพี่กลุ่มประธานที่นั่งกันอยู่

"จะไปไหนบอกพี่เขาด้วย...มีอะไรก็บอกไอ้อิ่มมันไม่ก็โทรมา พวกธามจะนั่งอยู่ตรงนู้น" ธามชี้ไปยังโต๊ะมุมหนึ่งที่มีพวกวิศวะกำลังเฮฮากันอยู่

"ครับๆ...น้ำไม่ใช่เด็กสักหน่อย" น้ำยู่ปากใส่

"ไม่ใช่เด็กนี่แหละตัวดีเลย"

"โจ้เดินไปโต๊ะโจ้เลยก็ได้ครับ" น้ำชี้มือไปยังโต๊ะที่พวกเขาจะไปนั่ง...ไล่ได้สุภาพมาก โจ้คิดในใจ แต่ก็รู้ว่าน้ำกวนเขาไปอย่างนั้นเอง

"โอเคๆ อย่าดื่มเยอะ รู้ลิมิตใช่มั้ย" โจ้รับคำก่อนจะย้ำ

"รู้ครับ" รับคำเสร็จเพื่อนสองคนก็เดินเข้าไปคุยอะไรกับพวกอิ่มสองสามคำแล้วก็เดินออกไปยังโต๊ะตัวเอง

...อิ่มกวักมือเรียกเขาให้เข้าไปนั่งข้างตัวเองที่ยังมีที่ว่างอยู่

"ดื่มมั้ย" อิ่มถาม เขาพยักหน้าตอบ ...ไม่ใช่ว่าเขาดื่มไม่ได้หรือว่ามาเพื่อที่จะดื่มเป็นหลัก แต่มาแบบนี้จะมานั่งสั่งนมปั่นมาดื่มก็คงไม่ใช่ และจากครั้งก่อนเขาก็ดื่มได้ไม่เป็นไรแต่ก็คงไม่ดื่มจนเมาเละเทะ เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูสายเรียกเข้าที่สั่นอยู่ในกระเป๋ากางเกงมาสักพักนึงแล้ว เห็นชื่อปรากฎอยู่ก็กดรับทันที

"ครับ..." เขาป้องปากพูด ตอนนี้ยังพอคุยได้อยู่เพราะเพลงที่เปิดไม่ได้หนักมาจนถึงกับขั้นต้องลุกไปคุยข้างนอก แต่ถ้าดึกกว่านี้...คุยกันข้างนอกแน่นอน

'ถึงแล้วหรอ' ปลายสายถาม

"ครับ...พี่ผามารึยัง" ถามไปพลางเหล่ไปมองโต๊ะวิศวะไป

*'กำลังไป...ใกล้ถึงแล้ว เดี๋ยวไปหา'*

"พี่ขอนั่งด้วยคนสิ" 

"อ๊ะ.." น้ำผงะเอนตัวหลบใบหน้าหล่อของใหม่อย่างตกใจที่อยู่ๆก็ชะโงกเข้ามาพูดข้างหูเขา อิ่มจึงดึงตัวเขาเข้าไปชิดตัวจนเหลือที่นั่งข้างๆเขาพอที่อีกคนนั่งได้

...ปลายสายที่ได้ฟังประโยคและเสียงแปลกๆก็ถึงกับเหยียบเร่งความเร็วเพื่อที่จะได้มาถึงจุดหมายไวๆ

'อยู่กับใคร' ผาถามเสียงเข้มขึ้นจนน้ำจับอาการได้ จึงยกมือไหว้รุ่นพี่ที่มาใหม่แล้วหันไปบอกอิ่มว่าจะขอเข้าห้องน้ำ 'อยู่ไหน' พอเสียงเบาลงกว่าเดิมผาจึงเอ่ยถามขึ้นมา

"ห้องน้ำครับ"

*'เมื่อกี้นั่งอยู่กับใคร'* 

"นั่งอยู่กับอิ่ม และก็พวกเพื่อนๆ และก็พวกพี่ด้วงครับ" คนตัวเล็กอธิบาย

'และที่ได้ยินเมื่อกี้เสียงใคร'

"เสียง...พี่ใหม่ครับ" เขานึกย้อนไปเหตุการณ์ใต้ตึกคณะวันนั้น ท่าทางของคนทั้งสองคนที่ไม่น่าจะถูกแล่นวาบเข้ามาในหัว จนทำให้เขาลังเลที่จะบอกกับผาไปในตอนแรก

'จำที่พี่บอกวันนั้นได้รึเปล่า' ประโยคที่พี่ผาพูดที่ใต้ตึกวันนั้นเขายังจำได้ดี...แต่จะให้ทำไงได้ ในเมื่อเป็นสายรหัสเดียวกัน

"จำได้ครับ...แต่มันเลี่ยงได้ที่ไหนกัน" คนตัวเล็กบ่นอุบอิบ...ก็มันจะเลี่ยงได้ยังไง สายรหัสเดียวกัน

*'โอเค งั้นออกมารับหน่อย'*

"หือ?" คนตัวเล็กทำหน้างง

'เลี้ยวซ้ายมาจะเห็ประตู เปิดมาก็เจอแล้ว'

"ครับ" รับคำเสร็จก็วางสายไปก่อนจะเดินแยกไปทางซ้ายมือ อยู่แค่ประตูกั้นจะให้เขาออกไปรับทำไม

เปิดประตูออกมาก็เจอคนหล่อวิศวะยืนพิงกำแพงหันข้างมาทางประตู ที่บอกว่าหล่อก็หล่อจริงๆนั่นแหละ เขาเคยบอกแล้วใช่มั้ย พี่ผาน่ะอยู่ในชุดไหนก็หล่อ วันนี้แต่งตัวเหมือนนัดกันมา...เขาใส่เสื้อโอเวอร์ไซส์อีกฝ่ายก็ใส่โอเวอร์ไซส์มาแต่เพียงของอีกฝ่ายเป็นสีดำ กางเกงยีนส์สีเข้มกับรองเท้าหนังหุ้มข้อสีน้ำตาล...น้ำมัวแต่ยืนมองพิจารณาคนตรงหน้าจนไม่รู้ตัวว่าตอนนี้ผาเข้ามาใกล้เขาเพียงแค่ฝ่ามือกั้น

"วันนี้แต่งตัวน่ารักจัง" เขายื่นหน้าเข้ามากระซิบข้างใบหู แกล้งเอาจมูกเฉียดผ่านออกมา ทำให้ใบหูเล็กขึ้นสีแดงเรื่ออย่างน่ารัก...ทำไมเขาถึงมองว่าน่ารักได้มากขนาดนี้กันนะ

"...จริงๆไม่เห็นต้องให้น้ำออกมารับเลย" ผาส่ายหัวยิ้มๆกับการเปลี่ยนเรื่องดื้อๆเพื่อกลบเกลื่อนความเขินของตัวเอง

"ก็อยากให้แฟนมารับ...ไม่ได้รึไง" 

"จะเข้ายังครับ" คนตัวเล็กทำหน้ายุ่งอย่างขัดใจ แกล้งให้เขินกันอยู่นั่นแหละ

"เขินพี่หรอ" ผายังแกล้งต่อ ยื่นมือไปเขี่ยๆแก้มนิ่มเบาๆอย่างหยอกล้อ

"ฮื่อ หยุดแกล้งน้ำได้แล้ว~" คนตัวเล็กจับมือผาหันหลังให้ก่อนจะออกแรกลากพี่ผาให้เดินกลับไปทางประตู...

"ไปไหน...มาเข้าข้างหน้านี่" ผากระตุกมือกลับเบาๆแล้วคว้ามือเล็กมาจับไว้แทน ก่อนจะพาเดินไปทางประตูหน้า...แล้วเขาจะค้านอะไรได้ล่ะเนี่ย



...พอเลยสี่ทุ่มมาบรรดานักท่องราตรีก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ และทางที่เขาต้องเดินไปนั้นมันต้องผ่านเคาท์เตอร์บาร์ ผ่านฟลอ แน่นอนว่าคนที่ออกมาแดนซ์ออนเดอะฟลอเยอะมากจนแทบจะเดินไปไม่ได้

...ตั้งแต่คนหล่อเดินเข้ามา ก็มีผู้หญิงอกตู้ม ร่างเพรียวเดินเข้ามาชวนพี่ผาไปดริ้งมาตลอดทาง เขาคงจะไม่ชอบใจถ้าพี่ผาไม่ปฏิเสธคำชวนเหล่านั้นไป

...พี่ผากอดคอเขาเข้ามาในตอนแรกแต่เพราะด้วยความที่คนมันเบียดเสียดกันผาจึงดันให้คนตัวเล็กขึ้นมาเดินข้างหน้าแทน...และเขาจะไม่อะไรเลยถ้าสองแขนแกร่งไม่โอบเอวเขาอยู่

"...มีคนมองเราเยอะเลย" ผาก้มลงไปพูดที่ข้างหู คนตัวเล็กจึงแหงนหน้าขึ้นมองแล้วเขย่งปลายเท้าเพื่อให้ตัวเองสูงขึ้นแล้วบอกอย่างหมั่นไส้

"มองพี่ผามากกว่า อ้ะ!" ผากระชับแขนแน่นขึ้นจนคนตัวเล็กตกใจร้องออกมา

"มองเรานั่นแหละ...พี่จะบ้าอยู่แล้ว" เสียงนุ่มทุ้ม ลมหายใจอุ่นรินรดอยู่ที่ใบหู ทั้งการกระทำ คำพูด...ทำให้ใจของคนตัวเล็กเต้นไม่เป็นส่ำ จากที่เต้นหนักหน่วงไปตามบีทหนักๆของเพลงก็กลายเป็นเต้นระรัวนำเพลงจนรู้สึกหนักในอก...ใจเต้นแรงจนมันจะกระดอนออกมานอกอกเขาอยู่แล้ว

...ยิ่งนับวัน ความรู้สึกมันกลับยิ่งเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ และมันก็ไม่มีทีท่าว่าจะลดน้อยลงเลย ...เขาไม่รู้ว่าที่เป็นอยู่แบบนี้ มันจะจบลงไปตอนไหน...เพราะน้ำรู้ดีว่าความรักในรูปแบบนี้มันไม่ได้โรยไว้ด้วยกลีบดอกไม้ มันอาจจะเกิดอะไรขึ้นก็ได้ทุกเมื่อในขณะที่เราก้าวเดินไปด้วยกัน...ไม่รู้ว่าทั้งหมดจะจบลงเพราะตัวเขาเองหรือคนที่เดินไปด้วยกัน

...สาวๆมากมายที่เข้ามาทักทายพี่ผาอย่างคุ้นเคย มันเป็นเครื่องเตือนสติได้เป็นอย่างดี ว่าพี่ผาเป็นผู้ชาย และที่ผ่านมาพี่ผาก็มีแต่ผู้หญิงเข้ามาในชีวิตตลอด...น้ำยอมรับอย่างไม่อายว่าความเป็นจริงข้อนี้ทำให้เขานึกกังวลและหวั่นใจอยู่ไม่น้อย...ก็ในเมื่อเขาเป็นคนที่รู้สึก แต่ก็นั่นแหละ...มันเป็นเรื่องที่ยังมาไม่ถึง



.



.



"ไปนั่งกับพี่มั้ย" ผาถามขึ้นมาหลังจากที่หลุดออกมาจากพื้นที่คนเบียดเสียดแล้ว

"ไม่เอาหรอกครับ" คนตัวเล็กสายหน้าหวือ ขืนไปได้โดนพวกเพื่อนๆพี่ผาแซวตายแน่

"โอเค อย่าดื่มเยอะ" เขาบอกแค่นั้นวางมือบนหัวโยกไปมา พวกอิ่มที่เห็นว่ารุ่นพี่แฟนเพื่อนมาก็รีบยกมือไหว้ ผาพยักหน้ารับแล้วยิ้มให้เตรียมจะเดินกลับไปโต๊ะตัวเอง แต่ติดตรงที่ใหม่เข้ามากอดคอดึงน้ำเข้าไปประชิดตัว

"ทำไมน้ำต้องไปนั่งกับมึงด้วยวะ" ใหม่ตะโกนถามแข่งกับเสียงเพลงพร้อมกับส่งยิ้มเหยียด

"ไม่เสือกดิมึง" 

"ไอ้เหี้ยนี่!" ใหม่ผละออกจากคนตัวเล็กอย่างโมโหกับคำพูดกวนโมโหของผา เตรียมจะพุ่งเข้าใส่ผาเต็มที่ แต่น้ำก็มือไวพอที่จะคว้าแขนใหม่เอาไว้ได้ก่อนที่ใหม่จะพุ่งไปถึง 

ผาตีหน้านิ่งอย่างเคย...แต่ใครๆก็รู้ดีๆว่ามันสงบก่อนพายุลูกใหญ่จะเข้า ถ้าหากโดนกวนประสาทจนความอดทนหมด คงได้รู้กัน ...สีหน้า ท่าทางและคำพูดของทั้งสองคนเรียกสายตาและความสนใจของผู้คนบริเวณใกล้ๆ รวมถึงดึงสายตาจากกลุ่มวิศวะที่มองมาตั้งแต่ทั้งสองคนเดินเข้ามากันแล้ว แต่น้ำก็ผิดคาดไปที่พวกนั้นไม่ได้ลุกฮือกันมาตะลุมบอนกันให้วุ่นวาย มีเพียงแค่พี่พุ่มที่ลุกขึ้นยืนและมองมายังเขาที่มองไปเพื่อขอความช่วยเหลือ...

ผาทำแค่เพียงแสยะยิ้มแล้วหันหลังเดินออกไปจากโต๊ะ เป็นเวลาเดียงกับที่อิ่มมาสะกิดเขาให้เข้าไปนั่งชิดกับพราวแล้วตัวเองเป็นฝ่ายนั่งกั้นระหว่างน้ำกับพี่ใหม่เอาไว้ จนพี่ใหม่หันกลับมามองหน้าอิ่มอย่างเอาเรื่อง...แต่อิ่มซะอย่างเคยสนอะไรใครที่ไหน

...น้ำนั่งดื่มไปคุยกับพวกพี่บ้าง คุยกับเพื่อนเขาบ้าง ตั้งแต่นั่งดื่มมาจนตอนนี้เที่ยงคืนกว่าเข้าไปแล้ว มีผู้หญิงเดินเข้ามาขอชนแก้วกับเบทไม่ขาดสาย อย่าถามว่าทำไมอิ่มไม่เห็นจะมีทั้งๆที่ก็หล่อโคตรแบบนั้น...ก็เจ้าตัวเล่นเย็นชาซะขนาดนั้น สาวไหนเข้ามาถามก็ไม่ตอบ พอถามมากๆเข้าก็ถอนหายใจใส่อย่างเบื่อหน่าย แบบนี้ใครจะกล้าเข้ามากันล่ะ





"พราว เดี๋ยวน้ำไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ ...อิ่มเดี๋ยวน้ำมานะ" เพื่อนทั้งสองคนพยักหน้ารับแล้วเขาจึงเดินเลี่ยงออกมาที่ห้องน้ำ หลังจากที่เขาเข้ามานั่งที่โต๊ะนั้งแล้ว

ตลอดสองชั่วโมงที่ผ่านมาเขาไม่ได้คุยกับใหม่เลย ทุกคนพยายามชวนใหม่คุย แต่ใหม่ก็ได้แต่ถามคำตอบคำ นั่งกรอกเหล้าเข้าปากยังกับน้ำเปล่าจนเขาเอง หรือแม้แต่พวกเพื่อนๆพี่ใหม่เอง ยังไม่อยากจะถามเพราะไม่อยากไปกวนอารมณ์เพิ่ม ...น้ำลุกออกไปได้สักพัก ใหม่ก็ลุกตามออกไปบ้างตั้งใจว่าจะออกไปสูบบุหรี่ข้างนอกเพื่อให้อารมณ์ขุ่นมัวภายในใจมันสงบลงแล้วค่อยกลับเข้ามาใหม่

"จะตามน้ำไปหรอครับ" เสียงเรียบๆที่ค่อนข้างคุ้นหูดังขึ้นระหว่างทางไปห้องน้ำ เนื่องจากว่าห้องน้ำอยู่ทางด้านหลังและมีประตูกระจกปิดไว้จึงทำให้เสียงเพลงอึกทึกกลายเป็นเสียงที่คล้ายกับดังมาจากที่ไกลๆ จึงทำให้ได้ยินเสียงได้อย่างชัดเจนโดยที่ไม่ต้องตะโกนให้เจ็บคอ ...ใหม่หันหลังกลับไปกระชากคอเสื้ออีกฝ่ายหนึ่งเข้ามา จากอารมณ์ที่กำลังจะเงียบสงบก็โหมกลับเข้ามาใหม่เพราะฝีรุ่นน้องที่นั่งคั่นกลางเขากับน้ำ

"ไม่ใช่เรื่องของมึง!" ใหม่กัดฟันพูดอย่างโมโห...ทำไมพวกมันถึงต้องมายุ่งกับเขานักวะ

"เขาคบกันแล้ว ...คิดจะทำอะไรก็ทบทวนมันให้ดีๆนะครับ" อิ่มบอกนิ่งๆ ด้วยความที่มีส่วนสูงพอๆกัน อิ่มจึงมองเข้าไปในตาวาวโรจน์ได้พอดีอย่างไม่กลัว พร้อมกับค่อยๆปลดมือทั้งสองข้างของใหม่ที่กำคอเสื้อเขาออกแล้วหันหลังเดินกลับเข้าไปด้านใน ไม่หันกลับมามองใหม่เลยแม้แต่น้อย...

ใหม่กำลังจะเดินออกไปสูบบุหรี่ด้านนอกเพื่อดับอารมณ์ที่พลุ่งพล่านของตัวเอง แต่เสียงเหมือนคนกำลังร้องขอให้ช่วยที่ดังออกมาจากทางห้องน้ำหยุดขาของเขาเอาไว้ก่อน...เขาจะไม่สนใจหรอกถ้าเสียงนั่นไม่ใช่เสียงเดียวกับรุ่นน้องที่เขา...ชอบ ...ใหม่รีบก้าวเข้าไปยังที่เป็นต้นเสียง หากแต่เข้ามาใกล้ๆเสียงนั้นกลับเงียบไป เขาผลักประตูเข้าไปถึงกับทำอะไรไม่ถูก ...ผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่พอๆกันกับตัวเขาดันให้รุ่นน้องของเขาติดกับกำแพงแล้วกำลังซุกไซร้ต้นคอขาวอย่างกระหาย แทนที่น้ำจะผลักไส กลับยืนเฉยหายใจหอบถี่ จนกระทั่งน้ำหันมาเห็นเขา...

"พี่ใหม่...ช ช่วยน้ำที" เสียงที่ดังออกมาราวกับเสียงกระซิบจนแทบจะกลืนหายไปกับอากาศ แต่นั่นมันก็ชัดเจนพออยู่แล้วว่าน้ำไม่ได้เต็มใจ...แต่น้ำกำลังถูกพิษของยาอะไรบางอย่างเล่นงาน

"มึงทำอะไรน้องกูวะไอ้เหี้ย!!" เสียงสบถดังลั่นไปทั่วห้องน้ำก่อนที่ใหม่จะพุ่งเข้าไปกระชากตัวผู้ชายคนนั้นออกมาจนเซออกไปแล้วปล่อยหมัดใส่อีกคนอย่างไม่พูดพร่ำทำเพลง

ผลัวะ! ผลัวะ!

เสียงหมัดหนักๆซัดเข้าที่ใบหน้าหล่อของอีกคนไม่ยั้ง... ใหม่คงจะไม่หยุดมือเป็นแน่ถ้าหากน้ำไม่ทรุดตัวลงไปเสียก่อน

"น้ำ!!" ใหม่รีบเข้าไปประคองน้ำเอาไว้ ตัวน้ำเริ่มร้อนขึ้นมา ใบหน้าขาวขึ้นสีแดงเรื่อ ตาสวยปรือปรอยน้ำตาใสเอ่อคลอ ตัวสั่นน้อยๆพร้อมกับเสียงหอบหายใจ ...ไอ้ผู้ชายร่างสูงคนนั้นพอได้สติดีก็ลุกขึ้นมาจะเอาเรื่องแต่ก็ต้องชะงักก่อนจะรีบวิ่งหนีหายออกไปจากห้องน้ำ...ถ้าเป็นพี่หมอเถื่อนคนนี้ล่ะก็เขาจะถือว่าฟาดเคราะห์ไปก็แล้วกัน

...น้ำนั่งกอดเขาแน่นไม่ยอมปล่อย เสียงสะอื้นเล็ดลอดออกมาเบาๆอย่างพยายามอดกลั้น

"น้ำ ค..ควรทำยังไงดี อึก" เสียงสั่นๆเอ่ยออกมาอย่างต้องการระบายความรู้สึกบางอย่างทีกำลังแล่นขึ้นมาทีละนิด ...เขาไม่รู้ว่าเขาเป็นแบบนี้ได้ยังไง เขาไม่ได้รับแก้วจากคนแปลกหน้าอย่างที่โจ้กับธามบอก

"น้ำ!!" เสียงเรียกคนตัวเล็กดังขึ้นเหนือหัว พร้อมกับแรงกระชากที่ไหล่ของใหม่ แล้วแทนที่ตัวเองเข้าไป ...ผาจับดูความผิดปกติไปทั่วตัวแฟนตัวเองอย่างร้อนใจ

"อิ่ม!!" เขาไม่ได้มาคนเดียวทั้งกลุ่มผากลุ่มน้ำมากันหมด เขาเรียกเสียงเข้มเจ้าของชื่อรู้ตัวก็รีบเข้ามาพาคนตัวเล็กออกไป

"มึงทำเหี้ยอะไร!" ผาเข้าไปกระชากคอเสื้อใหม่ขึ้นมาอย่างเดือดดาล

"กูว่าน้ำโดนยาตัวใหม่" ใหม่เอ่ยออกมาเรียบๆแต่นั่นทำให้คนฟังดวงตาวาวโรจน์

"มึงว่าอะไรนะ" ไม่ใช่ผา...แต่เป็นดินที่เดินตามเข้ามาทีหลัง ...ทุกคนเงียบหมด ไม่มีใครพูดอะไรออกมา...

...ยาตัวใหม่ที่ว่านี่จัดว่าเป็นสารเสพติด เพียงแค่ได้สูดดมกลิ่นเข้าไปตัวยาก็จะออกฤทธิ์กล่อมประสาท กระตุ้นอารมณ์ คล้ายกับยาปลุกเซ็กส์แต่จะไม่ออกฤทธิ์เทียบเท่ายาปลุกเซ็กส์แต่จะถูกนำพาอารมณ์ได้ง่าย ที่พวกเขารู้ไม่ใช่ว่าพวกเขาใช้ แต่ที่นี่เป็นสถานเริงรมณ์ เป็นที่ที่เหมาะกับเรื่องคาวโลกีทั้งหลายอยู่แล้ว ...ถึงจะมีข้อห้ามข้อบังคับมากมาย แต่มันก็ยังมีพวกชอบแหกกฎ ลักลอบเอายาพวกนี้เข้ามาขายและใช้กันเป็นบางกลุ่ม...ถ้าหากทางผับรู้ เจ้าของก็จะดำเนินการอย่างถึงที่สุด...

"หวังว่าคงไม่ใช่มึงไอ้ใหม่" ดินจ้องอีกฝ่ายไม่วางตาใหม่เองก็จ้องกลับไม่หลบเช่นกัน เห็นแบบนั้นดินจึงเดินเลี่ยงเข้าไปหาคนตัวเล็กที่ซบอยู่กับอกของเพื่อนหน้าหล่อ...ถึงใหม่จะมีความคิดที่จะทำอะไรบางอย่าง แต่เชื่อเถอะว่าเขาไม่ได้คิดร้ายกับคนตัวเล็กนี่แน่นอน

...แม้คนตรงหน้าใหม่นั้นมันจะแสดงออกว่าโกรธแค้นเขามากสักแค่ไหนก็ตาม แต่ความเป็นห่วง ความเป็นกังวลจากสายตาคนตรงหน้าก็ปิดไม่มิด...

"มึงพาน้ำกลับไปเถอะ ...ทางนี้กูจัดการเอง" ใหม่แกะมือที่จับเสื้อเขาออกแล้วเดินออกไปเพื่อกลับเข้าไปจัดการไอ้สารเลวตัวนั้น พวกพุ่มหันมามองหน้าผาเชิงบอกว่าจะตามไปจัดการด้วย เขาพยักหน้ารับแล้วเดินเข้าไปหาคนที่ซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของดินแทนอิ่ม



"น้ำ...ไหวมั้ย" น้ำตัวสั่นไม่หายตัวร้อนหนักขี้นกว่าเดิมมาก น้ำตารื้นคลอเบ้าใบหน้าขาวตอนนี้ขึ้นสีแดงเรื่อ...กัดปากแน่นพื่อระงับอารมณ์ การกระทำทุกอย่างผารู้ดีว่าคนตัวเล็กไม่ได้ตั้งใจ แต่มันจะผิดมากมั้ยที่เขาจะคิดว่ามันดู...เซ็กซี่ เขารู้ว่านี่ไม่ใช่เวลาที่จะคิดแบบนี้แต่มันก็คิดไปไกลแล้ว ...น้ำพยักหน้ารับ ก่อนจะเดินมาหาร่างสูงแล้วซบลงกับอกกว้างมือเล็กกำชายเสื้อผาไว้แน่น จนผาต้องยกมือขึ้นลูบหัวทุยเพื่อปลอบปะโลม

"อึก..น้ำอยากกลับ...พาน้ำกลับ ฮึก!" ร่างสูงช้อนตัวน้ำขึ้นในท่าเจ้าสาวก่อนจะเดินออกไป ...เพียงไม่นานรถยนต์คันหรูก็แล่นออกจากผับมุ่งหน้าไปยังคอนโดของเขา

...ถ้าถามว่าเขาไปเจอคนตัวเล็กได้ยังไง คงต้องตอบว่าความสนใจทั้งหมดอยู่ที่น้ำตั้งแต่เข้ามามากกว่า เขาแทบจะไม่ละสายตาไปจากน้ำเลย เขาจึงเห็นว่าคนตัวเล็กลุกออกไปจากโต๊ะตอนไหน มีใครตามไปบ้าง...จนอิ่มกลับมา เขาก็ยังไม่เห็นว่าน้ำจะกลับมาด้วย...จนมันนานผิดปกติ อิ่มเองก็รู้ว่ามันนานเกินไปจึงเดินเข้ามาบอกกับเขา...และที่สำคัญคนที่จ้องจะแทงข้างหลังเขาเมื่อที่มีโอกาสยังไม่กลับมา ...เขาคิดว่าใหม่เป็นคนทำแต่พอเขาลองคิดดูดีๆกลับคิดผิดไปเยอะ ...ถ้าเขาไม่ได้มันช่วยน้ำเอาไว้เขาก็ยังไม่รู้ว่าใจเขาจะบ้าขนาดไหน

...คนตัวเล็กที่นั่งข้างกันเริ่มกระสับกระส่ายมากขึ้นทุกขณะ กัดปากแน่นไม่ยอมคลาย ความรู้สึกหวาดกลัว รังเกียจ ขยะแขยงผสมปนเปมั่วกันไปหมด เขาไม่รู้ว่าเขาเผลอไผลไปกับสัมผัสนั้นได้อย่างไร สัมผัสน่ารังเกียจยังติดแน่นอยู่ตามร่องรอยที่ผู้ชายคนนั้นสัมผัส 

...เขาควรทำยังไงดี เขาควรจะทำยังไงดี ...พี่ผาจะรังเกียจเขามั้ย พี่ผาจะเข้าใจเรื่องนี้ยังไง ในสมองคนตัวเล็กคิดสะระตะไปไกลกับท่าทางที่ผานั่งนิ่งคิ้วขมวดใบหน้าไม่สบอารมณ์มาตลอดทางไม่ยอมพูดจากับเขาเลยแม้แต่น้อย...

...เมื่อถึงคอนโดพี่ผาลงจากรถจะมาอุ้มเขา แต่เขาก็ปฏิเสธไปว่าเดินเองได้ น้ำเดินตามพี่ผาไปจนเข้ามาในห้องร่างสูง แต่น้ำไม่ยอมขยับเดินตามผาเข้าไป จนผาต้องหันกลับมาจูงมือคนตัวเล็กให้เดินตามเข้าไป



[มีต่อนะจ๊ะ]

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-01-2018 23:38:58 โดย มายซินนี่ »

ออฟไลน์ มายซินนี่

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
[ต่อจ้า]



"ฮึก...อึก" เสียงสะอื้นเบาๆที่น้ำพยายามสะกดกลั้นเอาไว้ดังเล็ดลอดออกไป จนทำให้คนที่เดินนำหน้าอยู่หลุดออกจากภวังค์หันกลับมามอง...ก็ต้องตกใจกับคราบน้ำตาที่ไหลออกมาจากดวงตาคู่สวย

...เขายื่นมือไปเช็ดคราบน้ำตาให้ แต่คนตัวเล็กึกลับผงะถอยหลังหนีสัมผัสเขา แล้วสะอื้นออกมาหนักกว่าก่อนหน้านี้จนตัวโยน พยายามบิดข้อมือออกจากฝ่ามือเขาที่จับอยู่...

"น้ำ...ร้องไห้ทำไมครับ" น้ำเสียงอ่อนโยนที่เปล่งออกไปทำให้ท่าทางขัดขืนของน้ำอ่อนลง ผาจึงยื่นมือไปเช็ดราบน้ำตาให้อีกครั้ง

"ป ปล่อย ฮึก...ปล่อยผมเถอะครับ" น้ำพูดขอร้องพร้อมกับพยายามบิดข้อมือจนขึ้นเป็นปื้นสีแดง

"ไม่เอาน้ำ น้ำเป็นอะไรบอกพี่ก่อน" 

"ฮึก...ม ไม่เอา อย่ากอด! ผมน่ารังเกียจ! ฮือ..ไม่เอา ปล่อยผมสิ ฮือๆ...อย่ากอดผมได้โปรด..." ผาดึงคนตัวเล็กเข้ากอดเอาไว้แน่น แต่คนตัวเล็กก็ขืนตัวพยายามดิ้นออกแต่สุดท้ายก็นิ่งไปเพราะหมดแรงที่จะดิ้น ความรู้สึกอุ่นชื้นตรงอกบ่งบอกได้ดีว่าคนตัวเล็กยังคงร้องไห้อยู่...ผายกมือขึ้นลูบหัวทุยเบาๆพร้อมกับโยกตัวไปมาอย่างต้องการจะปลอบประโลมคนตัวเล็ก ให้ใจเย็นลง...

"ฮึก น้ำน่ารังเกียจ น่าขยะแขยง ฮือ...มัน จ จูบน้ำ ฮือๆ มัน..อึก ฮือ... ทำไปทั่วตัว ฮือๆๆ น้ำเกลียด! ผมเกลียด! ผมเกลียดตัวเอง! ฮือๆ" น้ำตะโกนออกมาจนลั่นไปทั่วทั้งห้องกว้าง พยายามดิ้นหนีอีกครั้ง แต่ผากอดไว้แน่นไม่ยอมปล่อย

"ชู่วว...ไม่เอาครับคนดี ฟังผาก่อน" ผายกมือลูบหัวลูบหลังให้ใจเย็นลง คนตัวเล็กค่อยๆหยุดดิ้นแล้วซุกหน้าลงกับอก ปล่อยน้ำตาของความผิดหวังในตัวเอง

"ให้ผากอดเนอะ...ผาอยากกอด ...คนดีไม่ได้น่ารังเกียจเลย คนที่น่ารังเกียจคือคนที่ทำกับน้ำมากกว่า..." เขาพูดมาถึงตรงนี้ก็รู้สึกอยากจะฆ่าไอ้คนที่มันอย่างนี้กับคนในอ้อมกอดเสียจริงๆ

"ผา...ฮึก ผาไม่เกลียดน้ำหรอ" จากที่ร้องไห้ก็หลงเหลือเพียงแค่เสียงสะอื้นเบาๆให้ได้ยิน

"ไม่ครับ...ผาไม่เกลียดแฟนตัวเองหรอก ผารู้ ว่าแฟนผาไม่ทำแบบนั้นหรอก ใช่มั้ยหื้ม?" ผาดันตัวน้ำออก เฉยคางขึ้นมาสบตา

"...ไหน มันทำอะไรตรงไหนบ้าง" ผาจับหน้าคนตัวเล็กให้เอียงเผยให้เห็นคอขาว ผาล่นคอเสื้อทรงคอปีนลงเล็กน้อย เผยให้เห็นรอยแดงจางๆอยู่...พอมองสำรวจดีๆ ริมฝีปากบางก็เจ่อบวมอยู่หน่อยๆทำให้คิ้วผากระตุกยิกๆอยากจะฆ่ามันให้ตาย ทำให้หายสาปสูญแบบไม่มีใครพบเจอมันได้อีก...นี่แฟนกู กูยังไม่ได้ทำ มึงเป็นใครวะ!! ผาคิดอย่างคับแค้นอยู่ในอก

"ให้ผาลบให้นะ ...ได้มั้ยครับ" น้ำเสียงนุ่มทุ้มเปล่งออกมาอย่างอ่อนโยน สัมผัสแผ่วเบาที่ส่งผ่านปลายนิ้วโป้งมายังริมฝีปาก จนทำให้คนที่สบตาอยู่ถึงกับหน้าขึ้นสีแดงเรื่อ ความรู้สึกไม่ดีมากมายที่ถั่งโถมเข้ามาหาเขาในคราแรกกลับถูกแทนที่ด้วยความเขิน...และแทนที่เขาจะปฏิเสธ แต่เขากลับพยักหน้าส่งไป หลับตาลงซบใบหน้าเข้ากับฝ่ามือใหญ่ที่ประคองใบหน้าเขาไว้ก่อนหน้านี้

...ผาโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้ จนเห็นแพขนตายาวที่เรียงตัวสวย ลมหายใจอุ่นผสานกัน...กลิ่นตัวหอมอ่อนๆในแบบที่เขาอยากจะสูดดมเข้าไปให้หมดกลิ่น...ริมฝีปากหนาหยักลึกประกบลงกับกลีบปากนิ่มสีชมพูเรื่อของคนคนสุขภาพดีอย่างแผ่วเบา เขานิ่งค้างไว้ครู่หนึ่งก่อนจะค่อยๆไล่ดูดดึงไปทั่วทั้งบนและล่าง ลิ้นร้อนค่อยๆแตะที่เรียวปากเบาๆเป็นเชิงขอก่อนทึ่รนตัวเล็กจะเผยอริมฝีปากออก ให้เรียวลิ้นร้อนเข้ามากวาดชิมความหวานได้อย่างถนัด เรียวลิ้นเล็กตอบโต้กลับไปอย่างเงอะๆงะๆ สติกระเจิงหายไปตั้งแต่ตอนไหนไม่อาจรับรู้ได้ ก้อนเนื้อในอกเต้นหนักหน่วงจนแทบจะกระดอนออกมานอกอกอยู่รอมร่อ เสียงครางต่ำในลำคอผาหลุดออกมาอย่างพอใจในการกระทำของน้ำ นั่นทำให้น้ำได้ใจไล่ต้อนกลับคืน ทำอย่างที่ผาทำให้กับเขาบ้าง เรียวแขนทั้งสองข้างยกขึ้นโอบรอบลำคอเพื่อหาที่ยึด 

...สัมผัสอ่อนโยนเริ่มแปลเปลี่ยนเป็นดุดันจนแทบหายใจไม่ทัน ผาปล่อยให้ผละออกแค่ชั่ววินาทีแล้วก็ไล่มางับปากเขาต่อ คนตัวเล็กเคลิบเคลิ้มไปกับรสจูบที่ผาป้อนให้จนไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองลอยขึ้นจากพื้นโดยอ้อมแขนของร่างสูง...ผาอุ้มคนตัวเล็กขึ้นมาทั้งๆที่ยังจูบอยู่แบบนั้น ทำให้น้ำเป็นฝ่ายที่อยู่สูงกว่าและคล้ายกับว่าเป็นฝ่ายจูบผาเสียเอง...แต่ก้มได้ไม่นานเขาก็รู้สึกว่าหลังของเขามาติดอยู่กับพื้นที่นิ่มๆ

...ในจังหวะที่ผาละริมฝีปากออกทำให้น้ำรู้ทันทีว่าตอนนี้เขานอนอยู่บนเตียงกว้างของผาแถมอีกฝ่ายยังคร่อมทับอยู่บนตัวเขาอีก แต่น้ำก็รับรู้ได้แค่นั้นก่อนที่สติจะหายไปกับการกระทำวาบหวามของผา ...ลิ้นร้อนลากไล้ไปทั่วลำคอระหงส์ ก่อนจะค่อยๆดึงคอเสื้อลงมาเล็กน้อยแล้วขบเม้มซ้ำรอยสีอ่อนให้กลายเป็นสีกุหลาบ ฝากฝังร่องรอยของเขาเอาไว้แทนที่ไอ้ชั่วนั่น...ฝากเอาไว้เพื่อให้คนใต้ร่างนึกถึงแค่สัมผัสของเขาเพียงคนเดียว

"อ๊ะ!" เสียงครางหลุดออกมาเพราะความเจ็บจี๊ดที่ต้นคอแล่นริ้วขึ้นมา ถึงจะมีความรู้สึกเจ็บ...แต่น้ำกลับรู้สึกว่าชอบที่ผาทำกับเขาแบบนี้...เขาจะดูโรคจิตมากมั้ยนะ ถ้าเขาอยากให้ผาทำกับเขาแบบนี้บ่อยๆ

"เจ็บหรอ" ผาถามเสียงพร่า คนตัวเล็กส่ายหน้าช้าๆส่งไปอย่างขวยเขิน

"รังเกียจผารึเปล่า" น้ำกัดปาก หลุบตาลงต่ำมองหน้าอกแกร่งก่อนจะส่ายหัวให้ไปเหมือนเดิม ผายิ้มออกมาใช้มือเกลี่ยแก้มใสที่ขึ้นสีเรื่อเบาๆ ใช้นิ้วโป้งไล้ขอบตาบวมช้ำจากการร้องไห้อย่างอ่อนโยน ก่อนจะก้มลงกระซิบที่ใบหู

"ชอบมั้ย" น้ำพยักหน้าตอบกลับไปช้าๆ

"คนดีจะไม่ตอบให้พี่ชื่นใจหน่อยหรอ หื้ม"



ปึก!

"แกล้งน้ำอีกแล้วนะ!" น้ำทุบอกแกร่งไปทีเมื่อรู้ตัวว่าถูกผาแกล้งเอา

"แล้วชอบมั้ยล่ะ" ผาถามยิ้มๆ

"ชอบ!" น้ำทำหน้ามุ่ยใส่เพื่อกลบเกลื่อนความเขิน

"ฟอด! ...หึๆ คืนนี้นอนกับผาเนอะ" ร่างสูงฉกหอมแก้มไวๆข้างนึงก่อนจะเอ่ยขอแกมบังคับ จนน้ำต้องยกมือปิดแก้มตัวเองทั้งสองข้าง จนทำให้ปากยื่นออกมา...



จุ๊บ!

การกระทำที่แสนจะอ่อนโยนทั้งๆที่วันนี้เขาโวยวายงี่เง่าไปเยอะ และแถมยังถูกผู้ชายคนนั้นทำอะไรมาตั้งเยอะที่แฟนคนนึงจะโกรธหรือเกลียดไปเลยก็ได้...แต่ผากลับไม่โกรธ ไม่เกลียดเขา...

"พี่ผา...ไม่เกลียดน้ำหรอ" เขาตัดสินใจถามออกไป ถ้าเขาจะหวังคำๆนึงมันจะผิดรึเปล่านะ

"ไม่หรอก...พี่ไม่เกลียดน้ำหรอก ...ตรงข้ามกันเลยด้วยซ้ำ" ผาตอบพร้อมกับส่งยิ้มอ่อนโยนมาให้

...คงจะไวไปสินะที่คิดหวังจะได้ยินคำๆนั้น

...สำหรับผาแล้วถึงมันจะยังไม่ใช่คำว่ารัก...แต่มันก็เข้าใกล้เข้าไปทุกขณะ เขาไม่อยากเชื่อตัวเองเหมือนกันว่าจากที่แค่คิดอยากจะลองกลับกลายเป็นว่าคนในอ้อมกอดเขาคนนี้กลับเป็นรนที่ทำให้เขารู้สึกมากกว่าคนไหนๆ ทำให้เขารู้สึกแตกต่างจากคนอื่นที่ผ่านมา...ทำให้เขารู้ว่าถ้าเขารักคนๆนี้ ความรักที่ผ่านมาในอดีตมันคงจะเทียบอะไรกันไม่ได้เลยกับรักครั้งนี้...



.


.


.



...100%...
...To Be Continued...



ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :pig4:

ติดตาม

ออฟไลน์ มายซินนี่

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
[Episode 16​]






"ไอ้ใหม่...เมื่อไหร่มึงจะเคลียร์กันสักทีวะ"

"..."

"พวกกูอึดอัด เรียกรวมทีไรมันไปมึงไม่ไปมึงไปมันไม่ไป เล่นห่าอะไรกันเป็นเด็กๆ"

"..."

"มึงฟังกูอยู่ปะวะ!!" ไหล่คนที่เอาแต่เงียบถูกกระชากอย่างแรงให้หันกลับก่อนที่จะเอื้อมมือไปถึงประตูรถ

...เหตุการณ์ชุลมุนเมื่อคืนใหม่ไปจัดการรุ่นน้องต่างมหาลัยที่ลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาใช้ในผับเรียบร้อยแล้วโดยการแจ้งตำรวจจับมันไป และก็สาวไปจนถึงต้นตอของมัน...เรื่องนั้นน่ะจบไปแล้ว จบไปด้วยดีแต่เหมือนจะเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องใหม่ จริงๆมันก็ไม่ใหม่ เรื่องมันผ่านมาตั้งแต่ 3 ปีที่แล้ว...เหมือนมันจะเลือนหายไปจากสมองแล้วแต่มันกลับฝังแน่นอยู่ภายในใจเขาแทน

...และตอนนี้เขาพยายามจะเดินหนีตัวการกำลังรื้อฝื้นเรื่องนี้ขึ้นมา

"แม่งมึงอย่าเล่นเป็นเด็กๆกันได้ปะวะ" 

"ทำไมมึงไม่ไปพูดกับมันมั่งวะ!! มึงถามถึงแต่มันที่อยู่อีกฟากนึงของโลก!! แล้วกูล่ะไอ้เหี้ย!! กูที่อยู่กับมึง มึงไม่เคยคิดจะถามกูเลยหรอวะไอ้พุ่ม!" คนถูกตะโกนใส่นิ่งไป เพราะมันก็จริงอย่างที่อีกคนพูดนั่นแหละ...ที่ผ่านมาพวกเขาเอาแต่เร้าหรือให้มันคุยกับอีกฝ่ายเคลียร์กับอีกฝ่าย แต่เขาลืม...พวกเขาลืมถามไถ่ความรู้สึกของเพื่อนคนนี้ไปเสียสนิท

"กู...ขอโทษ ...แต่มันก็กลับมาแล้วนี่ไง มันมาอยู่ใกล้มึง มึงไม่คิดจะเคลียร์หน่อยหรอวะ" ใหม่หันหลังให้เดินไปเปิดประตูรถแล้วสอดตัวเข้าไปนั่ง พุ่มเดินตามเข้ามารั้งประตูรถไม่ให้อีกฝ่ายปิดมันลง

"ตลอด 3 ปีที่ผ่านมาพวกมึงอาจจะไม่รู้ว่ากูพยายามจะเคลียร์กับมันแค่ไหน...กูอุตส่าห์แบกหน้าบินไปหามันถึงที่ทุกเดือน แต่มันกลับไล่กูกลับมาอย่างไม่ใยดีทุกครั้ง...ที่ผ่านมามึงอาจจะยังไม่คิดอะไร แต่ตอนนี้กูอยากจะขอร้องมึง ขอร้องพวกมึงทุกคนให้ช่วยคิด..."

"..."

"...คิดดูดีๆว่าเรื่องที่ผ่านมาทั้งหมด เพื่อนมึงคนนี้ผิดมากนักหรอวะ!! กูผิดมากนักรึไงที่กูรู้สึก และกูใช่มั้ยที่เป็นคนผิดที่ปล่อยให้แม่งมาล้อเล่นกับความรู้สึกกู!!" ใหม่เข้าไปกระชากคอเสื้อของพุ่มเอาไว้แน่นอย่างโมโห ยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธ โกรธจนทำให้น้ำตารื้นขึ้นมาที่กระบอกตา...บ้าชะมัด ใหม่ปล่อยมืออกก่อนจะผลักพุ่มออกไปอย่างไม่เบาแรง เปิดประตูรถสอดตัวเข้าไปนั่งก่อนจะปิดลงอย่างแรง และออกรถไปไม่สนใจรถที่วิ่งสวนไปมา

...หลายคนอาจจะพอรู้แล้วจากเหตุการณ์เมื่อครู่  ...ใหม่มีกลุ่มเพื่อนสนิทที่คบกันมาจะเป็นสิบปีคน นั่นคือตัวเขาเอง ไอ้พุ่ม ไอ้วัช ไอ้ว่าน ไอ้ผา ไอ้ดิน และยังมีอีกคนหนึ่งที่เป็นเพื่อนสนิทกันมากกว่าสิบปี ...แต่เขาไม่อยากจะพูดถึงมัน ...พวกเขามารวมกลุ่มสนิทกันตอนขึ้นมัธยมต้น ในช่วงมัธยมปลายตัวเขา ไอ้ดิน ไอ้ผา และมัน...ต้องไปเรียนไฮสคูลที่เมกาด้วยกันเพราะพ่อแม่พวกเขารู้จักกันและตัดสินใจร่วมกันว่าจะให้พวกเขานั้นไปเรียนที่นู่นและพวกท่านต้องการให้เรียนรู้ธุรกิจของครอบครัวที่นู่นไปในตัวด้วย ตอนนั้นพวกเขาไม่ได้คิดอะไร คิดว่าได้ไปก็ดีเหมือนกันได้ประสบการณ์ใหม่ๆ

...แต่เขาไม่รู้ว่ามันจะทำให้พวกเขากลับมาไม่พร้อมกัน ทำให้พวกเขาต้องแตกกันไปคนละทิศละทาง ต่อยกันปางตายเพราะปัญหามันหนักจนเกินจะแก้ แล้วมันก็ยิ่งแย่ลงไปทุกทีๆ...จนทำให้เขากับผาต้องแตกคอกันไปจริงๆ ซึ่งเรื่องทั้งหมดที่มันต้องพังแบบนี้ก็เป็นเพราะเขากับ...มัน

...เขาพยายามจะเคลียร์เรื่องราวทั้งหมด เพื่อให้ทุกอย่างกลับมาเป็นเหมือนเดิม แต่มันก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมา...จนเขาเลิกพยายามที่จะทำมัน และปล่อยให้มันเป็นไปตามที่มันควรจะเป็น



.



.



.



"ขอบคุณครับพี่ผา" คนตัวเล็กส่งยิ้มหยีไปให้คนขับรถสุดหล่อ ที่พักนี้ขับรถมารับมาส่งเขาทุกวันไป ทุกวันที่ว่านี่ก็ตั้งแต่ที่เกิดเรื่องที่ผับนั่นแหละจนตอนนี้ก็สองอาทิตย์มาแล้ว ที่สำคัญพี่ผาก็ต้องฝึกงานอยู่ทุกวัน บอกว่าไม่ต้องมารับมาส่งก็ไม่ยอมท่าเดียวเพราะพี่ผาบอกว่าฝึกกับที่บริษัทของตัวเองใกล้กันนิดเดียว เห้อ...น้ำละเหนื่อยใจ ก็ดูสภาพตอนนี้สิ กางเกงนอนขายาวกับเสื้อยืดสีขาว ผมเผ้าไม่เป็นทรง ...งานที่บริษัทก็เยอะแถมยังงานที่มหาลัยอีกเวลาพักผ่อนก็แทบจะไม่มี ยังจะมารับมาส่งเขาอยู่ได้

"วันนี้ไม่มีรางวัลให้ผาหรอ" ผาพูดเสร็จก็ยื่นหน้าหลับตาพริ้ม...เป็นแบบนี้ทุกวันตั้งแต่วันแรก ขอรางวัลเขาบ้างล่ะ ให้เขาให้รางวัลบ้างล่ะ แรกๆเขาก็เขินจนตัวจะแตก กลัวคนเห็น แต่ตอนนี้เขาเริ่มจะชิน เขินน้อยลง และไม่ต้องกลัวคนจะเห็น เขามาส่งอใกล้ๆก็เห็นแค่เงาลางๆเอง...จะติดทึบไปไหน

*จุ๊บ!*

คนตัวเล็กยื่นหน้าเข้าไปจุ๊บที่ริมฝีปากผาไวๆหนึ่งที

"มอนิ่งคิสครับ" ผาลืมตาขึ้นมามองคนขี้เขินตรงหน้าก่อนจะค่อยๆคลี่ยิ้มหล่อออกมา เท่านั้นแหละคนขี้เขินที่เหมือนจะไม่เขินก็หูแดงจมูกแดงไปหมด น่ารักจริงๆ น่าจับฟัดซะให้จมเขี้ยว

"แฟนใครน่ารักจัง" ผาก้มลงจุ๊บที่ปลายจมูกที่ขึ้นสีแดงเรื่ออย่างหมั่นเขี้ยว

"ก ก็แฟนผานั่นแหละ" ผายิ้มกว้างอย่างพอใจ

...พอมีเวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้นอะไรๆมันก็ดีขึ้น ช่องว่างที่เคยมีในตอนแรกก็ถูกเติมเต็มขึ้นมาทีละนิดๆ จากที่ไม่ค่อยพูดคุยบยกัน จากที่เกร็งๆ ก็ค่อยๆปรับค่อยๆจูลจนมันดีขึ้นมาเป็นกอง ผารู้ดีว่าตัวเองเปลี่ยนไปมากแค่ไหน จากเมื่อก่อนที่ไม่เคยจะคิดจริงจังกับเรื่องแบบนี้อีก ก็เปลี่ยนไป...เขาเคยกลัวความรู้สึกแบบนี้ กลัวความสัมพันธ์แบบคนรักที่ทำให้เจ็บปวดเจียนตาย และกลัวว่าตัวเองว่าจะรู้สึกกับเพศเดียวกัน แต่ตอนนี้เขามิยักจะกลัวมันเลยแม้แต่น้อย เขากลับดีใจด้วยซ้ำว่าคนที่เขารู้สึกเป็นน้ำ ตัวเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าอะไรที่ทำให้ตัวเองมั่นใจกับความสัมพันธ์ในรูปแบบนี้ แต่ตอนนี้เขาเชื่อว่าคนตัวเล็กนี่จะไม่ทำให้เขาเจ็บปวดอีกอย่างแน่นอน

...ตอนนี้เขาเริ่มฝึกงานแล้วเวลาที่จะอยู่ด้วยกัน เวลาเจอกันก็แทบไม่มี เขาถึงต้องเจียดเวลาเช้าเย็นเพื่อที่จะได้มีเวลาอยู่กับคนตัวเล็กบ่อยๆ ถึงจะได้แค่รับส่งก็เถอะ ถ้าเขาไม่ทำนี่คงหมาแน่ๆล่ะ ก็ตั้งแต่ได้เป็หนุ่มคิ้วท์บอยพ่วงเดือนมหาลัยมานี่ก็เนื้อหอมชะมัด ไอ้พวกตัวผู้ทั้งหลายก็ขยันขายขนมจีบกับแฟนเขาเสียจริง...น่าหงุดหงิดเป็นบ้า

...ดีที่เขาได้ฝึกงานกับบริษัทที่เป็นธุรกิจครอบครัวเขาเองที่อยู่ไม่ไกลมากนักเขาจึงไม่ต้องห่วงเรื่องการที่ต้องเร่งรีบอะไรมากนัก แต่ก็นะโดนป๊าใช้งานจนคุ้มเกินคุ้มเลยล่ะ...แต่เขาก็ต้องทำ เพราะนี่คือสิ่งที่ป๊าปูทางเพื่อให้เขาขึ้นแทนเป็นผู้บริหารในอนาคต ถึงจะเหนื่อย แต่ก็ไม่เคยบ่นเพราะคนที่เหนื่อยมากกว่าเขาคือป๊าม้านั่นแหละและอีกอย่าง...มีกำลังใจดีทำให้หายเหนื่อยทุกวัน

"ตั้งใจเรียนนะครับ เดี๋ยวเย็นนี้พี่มารับ" ผายกมือขึ้นลูบหัว คนตัวเล็กพยักหน้ารับอย่างเขินๆ แล้วเปิดประตูลงไป โบกมือบ๊ายบายแล้วหันหลังเดินเข้าตึก ผามองส่งคนตัวเล็กเดินเข้าตึกไปจนลับสายตาแล้วจึงขับรถออกไป

น้ำเองที่เดินเข้ามาก็ใช้เสาบังตัวเองเอาไว้มองดูผาขับรถออกไปจนลับตา ถึงได้หมุนตัวเดินเข้าไปกลุ่มเพื่อนตัวเองที่โต๊ะประจำ และวันนี้ก็คงโดนแซวอีกตามเคย จากที่สองอาทิตย์ก่อนเขาเขินจนตัวแทบระเบิด แต่มาตอนนี้เขาเหมือนกลายเป็นคนหน้าด้านเข้าไปทุกที...ประมาณว่า แซวมาเถอะ ก็เรื่องจริงอ่ะ ...ใกล้สัตว์สงวนเข้าไปทุกทีเลยเรา



.



.



.



"ปะ ไปกินข้าวกัน พราวหิวแล้วอ่า" พราวหญิงสาวคนเดียวในกลุ่มออกแรงลากแขนเขากับเบทให้เดินออกจากห้อง หลังจากที่เรียนวิชาภาคเช้าเสร็จแล้ว อิ่มเดินตามหลังออกมาส่ายหัวให้อย่างเอือมๆ

เขาเลือกมาหาไรกินกันที่โรงอาหารกลาง เพราะว่าตอนนี้โรงอาหารคณะเขาคงแน่นขนัดไปด้วยนักศึกษาแพทย์ทั้งหลาย ที่พึ่งจะถูกปล่อยให้พักเวลาเดียวกัน

ทันทีที่เท้าเหยียบพื้นโรงอาหารกลางเสียงฮือฮาของนักศึกษาที่นั่งทานข้าวอยู่ก็ดังขึ้นมา มันไม่ง่ายสักนิดเลยที่น้ำจะใช้ชีวิตได้แบบปกติเหมือนก่อน...เหมือนตอนที่เขายังไม่ได้เป็นเดือนมหาลัยกับตำแหน่งคิวท์บอยประจำปีนี้ เขาคิดมาตลอดว่าทุกคนที่คงจะไม่ชอบเขา รังเกียจเขาเป็นแน่...แต่เปล่าเลย ทุกคนรอบตัวดีกับเขามาก ไม่ได้แสดงท่าทีว่ารังเกียจในสิ่งที่เขาเป็น...เด็กกำพร้าและยากจนอย่างเขาน่ะ โดนดูถูก เหยียดหยามมาตั้งแต่เด็ก จนมันชินไปเสียแล้ว แต่ตอนนี้เขาเหมือนได้รับการยอมรับจากสังคมแล้ว แต่เหมือนจะได้รับการยอมรับมากไปหน่อย ผู้ชายทั้งหลายถึงเวียนเข้ามาขายขนมจีบคนตัวเล็กนี่ทุกวัน มีขนมนมเนยมากมายมาเสิร์ฟเช้ากลางวันเย็น...จนผาแทบจะเผามหาลัยทิ้งอยู่แล้วทุกวันนี้

"วันนี้จะมีหนุ่มคนไหนเอาขนมมาให้น้ำบ้างน้า" พราวพูดขึ้นมามองหน้าน้ำล้อๆ หลังจากที่หาที่นั่งกันได้แล้ว

"ไม่มีแล้วมั้ง เขาก็แค่เห่อกันเท่านั้นแหละน่า" คนตัวเล็กว่าอย่างนั้น วางของแล้วเดินตามอิ่มไปสั่งข้าว ระหว่างที่นั่งกินข้าวกันไปคุยกันไปก็เป็นอย่างที่พราวว่าไว้นั่นแหละ ผลัดกันเดินเอาขนมมาให้เขาบ้าง ขอถ่ายรูปบ้าง แวะมาขายขนมจีบบ้าง จนอิ่มต้องออกปากขอเวลาให้คนตัวเล็กได้มีเวลากินข้าวบ้าง ทุกคนก็ได้กินข้าวอย่างสงบสุขจนใกล้ถึงเวลาขึ้นเรียน ทุกคนเก็บของเตรียมลุกออกไปจากโต๊ะแต่ก็โดนขัดเอาไว้เสียก่อน

"อย่าเพิ่งไปสิคะ พี่ขอถ่ายรูปกับน้องน้ำก่อน" เสียงใสๆพร้อมกับใบหน้าสวยหุ่นเพรียวในชุดนักศึกษาฟิตเปรี๊ยะสามคน เดินเข้ามาหาคนตัวเล็กที่กำลังลุกขึ้นยืน

"อ่า ได้ครับ" คนตัวเล็กตอบรับเสร็จ หญิงสาวที่เป็นคนพูดขอในตอนแรกก็ยื่นโทรศัพท์มือถือให้เพื่อนแล้วเขยิบมายืนใกล้ชิดกับคนตัวเล็ก

"น้องน้ำน่ารักมากเลยนะคะ" หญิงสาวเอ่ยชม...แต่เขาว่ามันแปลกๆ

"อ่า ขอบคุณครับ" เขาก้มหัวให้เล็กน้อย หยิบสัมภาระขึ้นมาเตรียมจะออกไปจากโต๊ะ เขาก็ไม่อยากเสียมารยาทหรอกนะ แต่เหลืออีกแค่สิบห้านาทีคลาสบ่ายก็จะเริ่มแล้ว แต่ก็ยังไม่ทันได้ขยับเท้าออกไปไหน...

"แต่ไม่น่าทำตัวแบบนี้เลยนะคะ" น้ำเสียงเย้ยหยันพร้อมกับประโยคแปลกๆถูกพูดออกมาเบาๆจากคนเดียวกันกับที่ขอเขาถ่ายรูป

"อะไรนะครับ"

"เปล่าจ้ะ พี่ชื่อลูกหยีนะ ปีสามบริหาร บอกเอาไว้เผื่อน้องไม่รู้" รอยยิ้มหวานถูกจุดขึ้นมาบนใบหน้าสวยก่อนจะเดินจากไป พวกเขาทั้งสี่คนก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะคนที่เข้ามาแบบนี้ก็มีเยอะอยู่เหมือนกัน



ในตอนเย็นหลังจากที่เลิกคลาสแล้วคนตัวเล็กก็มานั่งรอตรงม้าหินหน้าคณะเพื่อรอผามารับเช่นทุกวันที่ผ่านมา รอเพียงไม่นานออดี้สีขาวก็มาจอดเทียบฟุตบาทห่างจากที่เขานั่งไม่มาก

"จะพาน้ำไปไหนหรอ" หลังจากที่รถออกตัวมาสักพักน้ำก็เอ่ยถามสารถีสุดหล่อถึงจุดหมายปลายทางทันที

"ห้าง...พี่หิว" น้ำพยักหน้าหงึกหงัก ไม่ได้สนใจอะไรต่อ คงอีกกว่าจะถึงเพราะการจราจรในตอนเย็นแบบนี้รถติดไม่ใช่เล่นๆเลย  คนตัวเล็กนั่งชวนผาคุยนู่นนี่บ้างเป็นบางครั้งก่อนจะแย้มยิ้มออกมาอย่างน่ารักเมื่อดีเจของคลื่นเพลงสากล จัดเปิดเพลงโปรดของคนตัวเล็กขึ้นมา

...คนตัวเล็กหลับตาพริ้มร้องเพลงตาม โยกตัวตามจังหวะเพลงไปมา การกระทำที่เป็นธรรมชาติ ทำให้คนข้างตัวยิ้มตามได้ไม่ยาก ความน่ารักนั้นทำให้ผาอดไม่ได้จะหยิบโทรศัพท์ตัวเองกดเข้าแอพพลิเคชั่นดังกดถ่ายวิดีโอแล้วอัพลงสตอรี่พร้อมแคปชั่น 'น่ารัก' เพลงเปลี่ยนไปแล้วแต่คนตัวเล็กยังคงร้องตามได้อย่างไม่ผิดเพี้ยน จนผาเองนึกแปลกใจในสำเนียงที่ชัดเจนนั่น

ใช้เวลาไปเกือบชั่วโมงกว่าจะฝ่าด่านการจราจรในยามเย็นมาถึงห้างได้ แต่แทนที่ผาจะตรงไปยังร้านอาหาร แต่กลับเดินเข้ามายังโซนของสดแทน สีหน้าที่แสดงออกถึงความสงสัยทำให้ผาอยากจะขำออกมานัก แต่ก็เลือกที่จะยิ้มออกมาแทนแล้วหันไปบอกเพื่อไขความข้องใจ

"พี่อยากกินฝีมือเรา..." คำเฉลยที่ทำให้คนฟังร้องอ๋อในใจ คลายสีหน้าที่แสดงความสงสัยลง แล้วเอ่ยถามร่างสูงถึงเมนูที่อยากทาน

"พี่ผาคะ..." ระหว่างที่กำลังยืนเลือกของ อยู่ก็มีเสียงเล็กใสเอ่ยทักร่างสูง ทำให้คนทั้งสองต้องหันไปมองทางต้นเสียง

"...ลูกหยี" ผาเองเงียบไปนานก่อนจะเอ่ยเรียกชื่อหญิงสาวตรงหน้าออกมา จนทำให้น้ำนึกแปลกใจ น้ำจำได้ดีว่าหญิงสาวตรงหน้าคือคนที่ขอถ่ายรูปกับเขาเมื่อกลางวันนี้

"พี่ผามาทำอะไรที่นี่คะ ลูกหยีโทรหาไม่เห็นรับสายเลย" น้ำเสียงออดอ้อนพร้อมกับตรงเข้ามากอดแขนร่างสูงเอาไว้อย่างแสดงความเป็นเจ้าของ

"มีอะไรหรือเปล่า" ผาถามออกไปเสียงเรียบ พยายามแกะมือที่รัดแขนเขาออก หันไปมองคนตัวเล็กที่ขยับห่างออกไปเล็กน้อยแล้วมองมานิ่งๆ

"ทำไมคะ เดี๋ยวต้องมีอะไรถึงโทรหาได้เหรอคะ" หล่อนยอมปล่อยแขนออกแล้วเอ่ยออกมาไม่พอใจในน้ำเสียง

"เราไม่ได้เป็นอะไรกัน ไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องติดต่อมา" น้ำเสียงเรียบนิ่งยังคงเปล่งออกมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับขยับตัวเข้าหาน้ำที่ยืนมองเหตุการณ์อยู่นิ่งๆ

หญิงสาวนึกโมโหอยู่ในใจที่ผาแสดงท่าทางปฏิเสธเธออย่างไร้เยื่อใยแบบนี้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาก็ยังดีอยู่แท้ๆ ..ที่เปลี่ยนไปขนาดนี้คงเป็นเพราะ...

"ถึงรสนิยมพี่ผาจะเปลี่ยนเป็นแบบนี้ แต่ลูกหยีก็ไม่คิดว่าพี่ผาจะคิดสั้นเอาไอ้เด็กกำพร้าไม่มีหัวปลายเท้านี่มา" น้ำเสียงเย้ยหยัน พร้อมกับท่าทางกอดอกเชิดหน้าอย่างดูถูกกันเต็มที่

"พูดจาให้มันดีๆหน่อยลูกหยี" ผากดเสียงต่ำเข้มขึ้นอย่างเริ่มไม่สบอารมณ์กับคำพูดของหญิงสาว น้ำเองไม่ได้มีทีท่าตกใจกับคำพูดที่จงใจว่ากล่าวตัวเองนั้นแม้แต่น้อย 

"ก็มันจริงนี่คะ อีกไม่นานพี่ผาก็จะได้รับช่วงต่อจากคุณพ่อของพี่ หน้าตาทางสังคมต้องมีมากอยู่แล้ว พี่ผาไม่คิดบ้างหรอคะว่าคบคนไม่มีหัวนอนปลายเท้าแบบนี้จะทำให้พี่ดูแย่ขนาดไหน และพ่อแม่ของพี่อีกล่ะคะ ลูกหยีแค่อยากเตือนน่ะค่ะ ลูกหยีหวังดี ขอตัวก่อนนะคะ" ในขณะที่เธอกำลังจะเดินผ่านร่างเล็กไปก็กระซิบบางอย่างทิ้งท้ายเอาไว้ให้คนตัวเล็กเริ่มคิดไม่ตก

"เด็กกำพร้าอย่างแกน่ะ คงไม่ได้เข้าไปทำให้ชีวิตใครเจริญขึ้นหรอก มีแต่ไปเป็นตัวถ่วง" หญิงสาวเดินจากไปพร้อมกับความคิดที่ว่าจะทำให้คนทั้งเลิกยุ่งกันไป ด้วยการใช้คำพูดบีบบังคับคนทั้งคู่

คำพูดมากมายหลั่งไหลเข้ามาในหัวของคนตัวเล็กไม่มีหยุด หลังจากที่เขาพูดไปในงานวันประกวดดาวเดือนเขากะเอาไว้ว่าจะคุยกับผาจริงจังในเรื่องนี้ แต่มันก็มีหลายเรื่องที่เข้ามาทำให้เขายังไม่เคยเปิดใจคุยเรื่องนี้เลย แถมผาเองก็ไม่ได้มีท่าทีอะไรทำให้ตัวเขาเองก็ลืมที่จะพูดเรื่องนี้ไปเสียสนิท จนมาถึงวันนี้...วันที่ผู้หญิงคนนั้นพูดออกมา ทำให้เขาคิดได้...ครอบครัวผาร่ำรวย มีหน้ามีตาในสังคม แต่เขาเป็นแค่เด็กกำพร้า เป็นแค่เด็กไม่มีหัวนอนปลายเท้า ไม่ได้มีฐานะร่ำรวย ไม่ได้มีหน้ามีตาในสังคม ...แม้แต่พ่อแม่ก็ยังไม่มีด้วยซ้ำไป คิดแล้วก็พาลโกรธตัวเองที่คิดได้ใจจนลืมว่าตัวเองเป็นใคร มีฐานะต่ำเตี้ยเรี่ยดินขนาดไหน ถึงแม้จะรู้อยู่ข้างในแต่ก็ยังพยายามกดเอาไว้จนลืมนึกถึงความเป็นจริงข้อนั้นไปเสียสนิท...แทนที่จะโกรธ กลับอยากขอบคุณคำพูดเหล่านั้นด้วยซ้ำไปที่เข้ามาเตือนสติ ทำให้เขารู้ว่าต่อจากนี้เขาควรจะทำอย่างไรต่อไป...

"น้ำอย่าไปสนใจคำพูดพวกนั้นเลยนะ..." ผาจับไหล่ทั้งสองข้างคนตัวเล็กเอาไว้ เขย่าเบาๆเพื่อเรียกสติของคนที่นิ่งเงียบไป สายตาที่เป็นห่วงและกังวลส่งผ่านมายังคนตัวเล็กด้วยตาคู่คมนั่น มันทำให้คนตัวเล็กต้องยิ้มกว้างๆตอบกลับไปเพื่อให้อีกคนสบายใจ

"น้ำไม่คิดมากหรอกครับ ไปจ่ายตังกันดีกว่าได้ของครบแล้ว...ขืนช้ากว่านี้พี่ผาหิวแย่เลย" คนตัวเล็กพูดด้วยน้ำเสียงสดใสร่าเริง จนร่างสูงที่นึกกังวลพอคลายลงไปได้บ้าง

หลังจากที่มาถึงคอนโดผาแล้ว คนตัวเล็กก็ลงมือทำอหารเมนูง่ายๆที่ผารีเควสมาว่าอยากกิน นั่งกินกันจนอิ่มก็ย้ายตัวเองมาที่โซฟาหน้าโทรทัศน์เพื่อนั่งย่อย

"น้ำ" ร่างสูงเอ่ยเรียกคนตัวเล็กที่นั่งจ้องโทรทัศน์ ถึงจะจ้องแบบนั้นแต่ผาก็รู้ดีว่าความสนใจมันไม่ได้อยู่ที่หน้าจอเลย

"ครับ" คนตัวเล็กหลุดออกจากภวังค์หันกลับมามองคาต้นเสียง ...ผาประสานมือลงไปมองสบดวงตากลมโต อย่างต้องการจะค้นอะไรบางอย่าง

"คิดอะไรอยู่...บอกพี่ได้มั้ย" เมื่อไม่เจอสิ่งที่ต้องการจะรู้ เขาจึงเลือกที่จะถามมันออกไป ก่อนหน้านี้เคยตกลงกันไว้แล้วว่ามีอะไรให้พูด ให้ถามกันตรงๆ

"ก็...คิดเรื่องทั่วๆไปแหละครับ ไม่มีอะไรหรอก" คนตัวเล็กแย้มยิ้มจางๆ

"ไหนบอกว่ามีอะไรจะคุยกันตรงๆไง" 

"..." คนตัวเล็กเลือกที่จะไม่ตอบ เม้มปากแน่นสนิทก่อนจะเบือนหน้าหนีออกไป...ความคิดบางอย่างที่วนเวียนคิดมาอยู่พักใหญ่ยังไม่ตกตะกอนดี เขาจึงไม่อยากพูดมันออกไปในตอนนี้

"มองหน้าพี่หน่อย เร็ว..." ผาเชยคางมนที่เสหน้าหลบไปให้หันมามองหน้ากันตรงๆ คนตัวเล็กหันมา ยอมมองสบตากันตามคำบอก ปลายนิ้วแกร่งไล้เกลี่ยไปตามริมฝีปางแดงสดที่คนตัวเล็กขบเม้มไว้เพื่อบอกว่าให้คลายมันออก 

"มีอะไรจะถามกันมั้ย" สายตา น้ำเสียงหรือแม้กระทั่งการสัมผัสที่อ่อนโยนเสียจนคนตัวเล็กใจเต้นตึกตักไม่เป็นจังหวะเหมือนเคย ความอ่อนโยนเหล่านั้นเป็นตัวช่วยกล่อมความคิดที่มันกำลังฟุ้งกระจายไปทั่วให้สงบลงได้อย่างน่าประหลาด และทำให้คนตัวเล็ตัดสินใจได้ว่าควรจะเปิดใจคุยกันจริงๆเสียที

"ตอนนี้พี่ผา...รู้สึกยังไงกับน้ำ" เป็นคำถามที่ทำให้คนตรงหน้าเผยรอยยิ้มอบอุ่นออกมา ก่อนจะขยับหันเข้าหากันทั้งตัว แต่ปลายนิ้วก็ยังคงประสานกันอยู่

"...ชอบ ชอบมาก ...เราน่ารัก พี่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ" สายตาที่ทอดมองมาสื่อสารได้เป็นอย่างดีว่าคนพูดรู้สึกเช่นนั้นจริงๆ 

คำตอบที่ได้ไม่เกินไปกว่าที่คาดเดาไว้ ก็ทำให้คนตัวเล็กตกตะกอนความคิดที่ฟุ้งซ่านเมื่อกี้ลงได้ 

ภาพที่เห็นคนตรงหน้าที่อยู่ไกลออกไปค่อยๆเคลื่อนเข้ามาจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจ ก่อนจะสัมผัสได้ถึงความนุ่มหยุ่น ความอุ่นร้อนของริมฝีปากที่ทาบทับลงมาอย่างแผ่วเบาและอ่อนโยน มือข้างหนึ่งช้อนเข้าที่ท้ายทอยเพื่อปรับองศาให้ทำการได้ถนัด ริมฝีปากสีเข้มค่อยๆเริ่มขยับดูดดึงริมฝีปากล่างสีสดเบาๆ ก่อนจะส่งลิ้นร้อนไล้เลียไปทั่วกลีบปากแดงเป็นเชิงขออนุญาตเข้าไปลิ้มรสความหวาน แขนเรียวที่รู้สึกว่ามันเกะกะจึงยกขึ้นโอบรอบคอร่างสูงเอาไว้  ลิ้นร้อนค่อยๆเข้าไปกวาดต้อนทุกมุมก่อนจะหันมาสนใจเรียวลิ้นเล็กที่หลบหลีกไปมา จากที่ตวัดดูดดึงอย่างนุ่มนวลก็แปลเปลี่ยนเป็นเร่าร้อนรุนแรง จนเขาแทบละลายหายไปจากตรงนี้ เสียงชื้นแฉะดังขึ้นมาอย่างน่าอาย ทำให้คนตัวเล็กรู้สึกร้อนขึ้นมาที่หน้าอย่างห้ามไม่ได้ อดที่จะยอมรับไม่ได้ว่ารู้สึกดี...รู้สึกดีเกินไป

"...อื้อ" คนที่อ่อนประสบการณ์ร้องท้วงออกมาเมื่อตนเริ่มหมดอากาศจะหายใจ ร่างสูงจึงทำได้เพียงค่อยๆผละออกมาอย่างเสียดาย แต่ก็ยังแนบชิดอยู่เช่นนั้นกดจูบย้ำลงบนริมฝีปากสีสดที่เจ่อเพราะเหตุการณ์เมื่อครู่พร้อมกับกดหอมแก้มนุ่มอีกฟอดใหญ่อย่างนึกหมั่นเขี้ยว

เขาอยากทำมากกว่านี้ แต่ก็รู้ดีว่าอีกคนยังไม่พร้อม และเขาก็อยากรอให้คนตัวเล็ก...รู้สึกรักในตัวเขาเสียก่อน ส่วนตัวเขาเอง เขาก็อยากจะมั่นใจในตัวเองว่าเขาทำไปเพราะความรักคนตรงหน้านี่จริงๆ ไม่ใช่ทำไปเพียงเพราะแค่ความอยากได้ตามอารมณ์ดิบภายในตัว ที่ผ่านเขาก็ไม่ใช่คนดีอะไรแต่เขาก็ไม่เคยบังคับฝืนใจใคร...

ความอ่อนโยนที่ได้รับเมื่อสักครู่ทำให้คนตัวเล็กนึกอยากเป็นคนเห็นแก่ตัวเก็บเอาไว้คนเดียวตลอดชีวิตให้พ้นจากมือของคนอื่น...แต่เขารู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ และจะไม่มีวันเป็นไปได้

ด้านนอกฝนเริ่มโปรยลงมา จนคนตัวเล็กต้องเอ่ยขอตัวกลับหอ ก่อนที่ฝนจะลงเม็ดหนักมากกว่านี้

ผาต้องจำใจเดินกางร่มมาส่งคนตัวเล็กที่สะพานลอย เพราะเนื่องจากว่าคนตัวเล็กไม่ยอมให้ขับรถไปส่ง และสุดท้ายผาก็อดไม่ได้ที่จะเดินข้ามมาส่งคนตัวเล็กถึงหน้าหอ

"อย่าลืมอาบน้ำสระผมด้วยนะรู้มั้ย เดี๋ยวไม่สบาย" ผาเอื้อมมือไปโยกหัวทุยเบาๆ

"ครับ พี่ผาก็เหมือนกันนะ ดูแลตัวเองดีๆด้วย"

"อืม ...ฝันดีนะ" 

"เช่นกันครับ ...ขอบคุณมากๆนะครับ ขอบคุณทุกๆอย่าง" ผาเดินออกไปแล้ว แต่คนตัวเล็กยังยืนมองจนผาหายไปจากระยะสายตา จึงหันหลังเดินเข้าตึกไป

คนที่หยุดยืนอีกฝากถนนเพื่อมองไปยังตึกสูงที่เห็นอยู่ไกลๆ ที่เป็นที่พักของคนที่เขาเพิ่งเดินไปส่งมา ผารู้สึกได้ว่าอีกคนมีบางอย่างที่อยู่ภายในใจ แต่เขาก็ไม่อยากถามกลัวอีกฝ่ายจะรำคาญเอาได้ แต่เขาก็อยากรู้อยู่ดี ...เขาเดินมาจนถึงห้องตัวเอง ยังไม่ทันที่จะได้ถอดรองเท้าออกด้วยซ้ำ เสียงเตือนข้อความจากแอพพลิเคชั่นฮิตก็ดังขึ้นมา เขากดเปิดอ่านทันทีเมื่อรู้ว่ามันถูกส่งมาจากคนที่เขาเพิ่งจะไปส่งมา

ร่างสูงยิ้มออกมาไม่หยุดเมื่อข้อความดังกล่าวมีแต่ข้อความที่บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าอีกคนเป็นห่วงเขามากแค่ไหน

เขากำลังจะพิมพ์ตอบกลับไปว่าทำไมวันนี้ดูเป็นห่วงเขาเสียเหลือเกิน ก็มีข้อความหนึ่งเด้งขึ้นมาเสียก่อน 

เป็นข้อความที่มีไม่กี่คำ แต่เป็นคำตอบของคำถามทั้งหมด ว่าทำไมวันนี้คนตัวเล็กดูมีอะไรให้คิดอยู่ตลอดเวลา เหมือนมีบางอย่างอยู่ในใจ เป็นเพียงไม่กี่คำที่ทำให้ผาถึงกับลืมภายใจไปชั่วขณะหนึ่ง



ตือดึ๊ง!!

'เราเลิกกันเถอะนะครับ'

.



.



.


...100%...

...To Be Continued...





ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด