15.2
“วื้ดดด” เสียงพลังเวทก่อตัวเป็นออร่าสีฟ้าจางๆปกคลุมแขนและขาทั้งสองข้างของเร็กซ์
<นี่สินะเวทเสริมกำลัง> เป็นครั้งแรกที่ผมสังเกตเห็นชัดๆ
พวกเราสองคนพุ่งออกจากที่กำบังเพื่อเข้าหาศัตรู ทางนั้นเองก็รู้ตัวแล้วลุกขึ้นยืนตั้งท่าเตรียมต่อสู้ มันยกมือข้างหนึ่งขึ้นสูง ผมเตรียมเปิดใช้งานหินเวทเพื่อรับการโจมตีของมัน
“ซู่ๆๆๆๆๆ” น้ำในเขื่อนก่อตัวเป็นเกลียวสูงขึ้นมาหมุนวนกลางอากาศกลายเป็นลูกบอลน้ำขนาดใหญ่
“น้ำอย่างนั้นหรอ!!” ผมอุทานด้วยความตกใจ ร่างกายหยุดชะงัก <ไหนอาจารย์ว่าไว้ว่ามันสถิตธาตุดินไง หรือว่ามันใช้ได้สองธาตุ>
ระหว่างที่ผมกำลังประเมินสถานการต่อด้วยความสับสน เร็กซ์พุ่งตัวออกไปต่อด้วยความรวดเร็ว “เดี๋ยวก่อน..” แต่ผมเรียกมันไม่ทันแล้ว
“คุ้มกันด้วย” มันตะโกนกลับมา
ลูกบอลน้ำขนาดเล็กหลายลูกถูกยิงออกมาจากบอลน้ำขนาดใหญ่นั้นตรงมาที่เราทั้งสอง ผมใช้งานหินเวทดินเพื่อรับการโจมตีนี้ สองขาออกวิ่งตามเร็กซ์ไปเพื่อให้มันอยู่ในระยะเวทของผม เสาดินหลายต้นผุดขึ้นมาบิดโค้งเป็นหลังคาคอยคุ้มกันมันไว้ ก้อนดินพุ่งขึ้นมาจากพื้นยิงสวนขึ้นไปเพื่อสกัดบอลน้ำเหล่านั้น
ผมพยายามปกป้องมันอย่างสุดความสามารถ พร้อมวิ่งตามความเร็วที่เหนือกว่าของเร็กซ์ให้ทันเท่าที่จะทำได้ ใจจริงอยากจะดึงมันกลับมาวางแผนใหม่ก่อน การต่อสู้กับมอนสเตอร์ที่สถิตธาตุน้ำในสถานที่มีน้ำมากขนาดนี้อันตรายมาก ยิ่งมันพุ่งเข้าประชิดแบบไม่คิดหน้าคิดหลังแบบนี้ไม่ดีแน่
“ฟุบ” อัศวินหนุ่มอาศัยกำลังขาที่มากกว่าคนปกติหลายเท่า ถีบทะยานพื้นพุ่งตัวเข้าไปปิดระยะในครั้งเดียว สองมือง้างดาบเตรียมตวัดฟันศัตรู ระยะทั้งสองห่างกันไม่ถึงเมตร
“ซู่ว์” น้ำปริมาณมหาศาลผุดขึ้นมาเป็นน้ำพุจากพื้นใต้ตัวของเร็กซ์เข้ามาห่อหุ้มร่างนั้นไว้อย่างรวดเร็ว บัดนี้เขากำลังลอยตัวอยู่ในลูกบอลน้ำ สองมือกวัดแกว่งไปมาอย่างไร้ทางสู้
“บ้า เอ้ย” ผมสบถ แล้ววิ่งเข้าไปให้ได้ระยะเวทของผม ทิ้งไว้แบบนี้มันได้ขาดอากาศตายแน่
“ครืน” เสาดินต้นใหญ่พุ่งขึ้นมาใต้คุกน้ำนั่น พื้นดินทะลวงเข้าไปในชั้นน้ำยกร่างของอัศวินหนุ่มทะลุขึ้นมาด้านบน
“โครมมมม” ผมหักโค่นเสาดินไปทางศัตรู เสียงกระแทกดังสนั่น เหลือไว้แต่ส่วนบนที่เป็นฐานยืนพาร่างของเร็กซ์ลอยกลับมาหาผม
“แค่กๆๆ” มันไอสำลักน้ำ นี่แหละน้า ไม่ฟังกันบ้าง
เวทธาตุน้ำนั้นมีจุดเด่นด้านความหลากหลายในการใช้งานไม่ว่าจะโจมตีหรือป้องกันทั้งระยะใกล้หรือไกล และการเข้าจับกุมตัว ยิ่งถ้าเปลี่ยนเป็นน้ำแข็งได้พลังทำลายยิ่งสูงขึ้น แต่เท่าทีดูอีกฝ่ายน่าจะทำไม่ได้ จุดอ่อนของธาตุนี้คือจำเป็นต้องมีแหล่งน้ำให้ใช้ ไม่เช่นนั้นการเปลี่ยนพลังเวทในตัวเป็นน้ำหรือควบแน่นน้ำในอากาศจะกินพลังเวทมากจนเกินไป
“ซ่าห์ๆๆ” อีกฝ่ายใช้น้ำผลักเศษเสาดินของผมออกแล้วไม่รอช้า ส่งคลื่นน้ำลูกใหญ่ตรงมาทางผม
“ตู้มมม” ผมสร้างกำแพงดินขึ้นมารับแรงกระแทกไว้ แต่ด้วยธรรมชาติของน้ำ มวลน้ำไหลอ้อมมาพัดร่างของของเราสองคนกระเด็นไปคนละทิศคนละทาง ผมลุกขึ้นตั้งหลักได้ นึกขอบคุณโชคที่พวกเราทั้งสองไม่ถูกขังในคุกน้ำของมัน ท่าทางจะใช้ได้แค่ในระยะใกล้
<มันใช้แต่น้ำแบบนี้แล้วพลังธาตุดินที่พวกอาจารย์ว่าคืออะไรกัน หรือว่า...>
“รอส ข้างหลังเจ้า”
ผมยกดาบขึ้นมาแล้วหมุนตัวกลับไปด้วยสัญชาตญาณ
“เคร้ง” เสียงขัดสีโลหะดังบาดหู กรงเล็บแหลมคมหยุดอยู่ตรงหน้าผมไม่ถึงคืบ
เอลเดอร์วิวโลห์อีกตัวโผล่มาข้างหลังผมตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ตนนี้มีหน้ากากเป็นกะโหลกแพะ เขาทั้งสองข้างขดเป็นวงก้นหอย มือสองข้างมีกรงเล็บแหลมคมที่พร้อมจะกระชากร่างของผมออกเป็นชิ้นๆ
<เกือบไป>
ผมสร้างเสาดินขึ้นมาหวังกระแทกร่างของมันให้ออกห่างไป แต่มันกระโดดถอยหลังหลบได้ ตวัดฝ่ามือแล้วส่งเสาดินต้นนั้นมากระแทกผมแทน
“อึก” ร่างผมกระเด็นไปตามแรงกระแทก
“หมับ” เร็กซ์กระโดดมารับตัวผมไว้
“2 ตนเลยอย่างงั้นหรอ” มันพึมพำขณะช่วยพยุงให้ผมยืน
“คงเป็นเจ้าแพะนี่แหละที่เล่นงานพวกอาจารย์” ผมสังเกตบริเวณที่ผมยืนอยู่เมื่อครู่มีรูอยู่ตรงพื้นดิน คงมุดดินมาสินะ
รยางค์รากไม้ 2 เส้นที่หลังเอลเดอร์วิวโลห์หัวแพะกางออกมาพร้อมดอกไม้สีม่วงที่ปลาย ทันทีที่ดอกไม้บานออกเข็มพิษจำนวนมากก็พุ่งตรงมาที่พวกเราทั้งสองคน
“ฉึกๆๆ” กำแพงดินผุดขึ้นมาจากพื้นป้องกันพวกเราจากการโจมตีได้อย่างทันท่วงที เพื่อความแน่ใจ ผมสร้างกำแพงขึ้นอีกหลายชั้นจนเป็นปราการวงกตเล็กเพื่อถ่วงเวลาให้ผมได้วางแผน
ไม่ได้การ ตนหนึ่งใช้น้ำที่ป้องกันได้ยาก อีกตนหนึ่งใช้การเคลื่อนที่ใต้ดินและเข็มพิษ ถ้าสู้กันตรงๆ 2 ต่อ 2 แบบนี้น่าจะยาก คงต้องจับแยกให้ได้
“นี่เร็กซ์ ถ้าเจ้าสู้กับหัวแพะนั่น เจ้าจะหลบเข็มพิษพวกนั้นได้มั้ย”
“ถ้ามีที่กำบัง และใช้ความเร็วสูงสุดเพื่อเข้าประชิดตัวได้ก็น่าจะไหวอยู่”
“งั้นหรอ ถ้างั้นข้าจะช่วยลดภาระให้เจ้าด้วยการทำที่กำบังให้ก็แล้วกัน มันใช้การโจมตีที่จับต้องได้ข้าว่าน่าจะเหมาะกับเจ้า กันมันออกห่างจากข้าไว้ ส่วนเจ้าหัวกวางที่ใช้น้ำนั่นเดี๋ยวข้าจัดการเอง” ผมเริ่มออกอุบาย
“ฟังดูเข้าท่าดี”
“มันอาจจะน่ารำคาญตรงที่เจ้าหัวแพะมันมุดดินได้ แต่ข้าจะให้ทริคเล็กๆไว้ละกัน พยายามสังเกตแรงสั่นสะเทือนที่ผิวดิน” จากที่ผมเองก็ใช้ธาตุดินได้ ผมจึงพบว่าข้อสังเกตสำคัญของเวทดินคือแรงสั่นสะเทือนจากการเคลื่อนไหวของพื้นดิน นั่นทำให้การใช้เวทดินมักจะมีเวลาหน่วงระหว่างใช้งานอยู่เสี้ยววินาที
“รู้แล้วหน่า ไม่งั้นข้าจะจัดการเจ้าเมื่อคราวก่อนได้หรอ” มันยิ้มมุมปากเย้ยผม
“ให้มันเก่งให้ตลอดเถอะ เอาหล่ะลุยได้” ก่อนที่หินเวทดินผมจะหมดเวลา ผมระเบิดกำแพงผมออกเป็นชิ้นน้อยใหญ่กระจายไปทั่ว หินเวทลมส่องประกายสีฟ้า ผมเริ่มบีบอัดกระสุนอากาศไว้ที่มือ
เจ้าหัวแพะสร้างกำแพงดินขึ้นมาป้องกันเศษดินของผมไว้ แต่นั่นแค่ดึงความสนใจ ผมวิ่งฝ่าฝุ่นตลบอบอวนจนได้มุมเหมาะๆ ยิงกระสุนอากาศของผมใส่
“โผละๆ” รยางค์ไม้ที่หลังขาดสะบั้น ถือซะว่าเปนของแถมละกัน มันผงะถอยหลังเมื่อเห็นว่าเวทของผมเปลี่ยนไป ผมปล่อยให้เร็กซ์พุ่งเข้าปะทะมันต่อ
ไม่รอช้าผมใช้ลมรอบกายเร่งความเร็วพุ่งเข้าหาเจ้าหัวกวาง พลางอัดเวทลมให้ห่อหุ้มไปรอบดาบในมือขวาของผม เอลเดอร์วิวโลห์หัวกวางเริ่มยิงบอลน้ำใส่ผมอีกครั้งเมื่อเห็นผมตรงไปทางมัน
“ฉอก แฉก” ผมฟันบอลน้ำเหล่านั้นขาดกระจายอย่างง่ายดาย ดาบธรรมดาไม่มีผลกับน้ำ แต่ถ้ามีลมช่วยพัดกระจายน้ำพวกนี้แล้วหล่ะก็ การจะรับมือไม่ใช่เรื่องยาก
เจ้าหัวกวางเริ่มมีท่าทีลนลานอย่างชัดเจนเมื่อรูปแบบการต่อสู้ของผมเปลี่ยนไป มันสร้างบอลน้ำขนาดใหญ่ลูกใหม่ขึ้นมาและระดมยิงกระสุนน้ำมาอย่างต่อเนื่อง
ด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้น ม่านลมที่ห่อหุ้มรอบกาย และดาบที่สถิตธาตุลม ผมสามารถหลบหลีกและปัดป้องกระสุนน้ำเหล่านั้นได้อย่างง่ายดาย จนเมื่อเข้าถึงระยะที่ผมต้องการ ผมกระโดดหมุนตัวส่งแรงจากลำตัวไปที่แขนแล้วตวัดดาบ
“ฟ้าวววว” คลื่นลมแหวกอากาศพุ่งเข้าหาเจ้าหัวกวาง
“ฉัวะ” ไหล่ซ้ายที่ทำจากไม้เนื้อแข็งของเอลเดอร์วิวโลห์ถูกคลื่นอากาศผ่าเป็นร่องลึกเกือบขาด เขาของมันขาดกระเด็นไปข้างหนึ่ง มันผงะถอยหลังเอามือกุมไหล่ไว้
การผสานพลังธาตุของผมร่วมเข้ากับอาวุธเป็นเรื่องที่ผมพอจะทำได้บ้างแม้จะไม่ชำนาญนัก แต่มันสามารถเพิ่มพลานุภาพให้การโจมตีได้มากขึ้น ทว่าถ้าใช้มากๆอาวุธที่ไม่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อรองรับพลังเวทนี้โดยเฉพาะจะเสียหายเอาได้ง่ายๆ
“ชิ พลาดซะได้” คลื่นลมที่ผมปล่อยไปพลาดจากเป้าหมายที่ผมเล็งไว้ แต่เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้เพราะผมไม่ค่อยได้ฝึกให้คล่อง ทำยังไงได้หล่ะ ขืนฝึกมากๆก็หมดตัวเพราะค่าอาวุธพอดี อย่างไรก็ตาม ผมยังมีโอกาสอีก 2 ครั้งก่อนที่จะต้องอัดพลังเวทเข้าไปที่ดาบอีกรอบ
“อูวววววว” มันส่งเสียงคำรามอย่างเกรี้ยวกราด ประการสีฟ้าส่องสว่างจากเบ้าตา เจ้าหัวกวางกระโดดถอยหลังไปจนติดกับแหล่งน้ำ แล้วเริ่มใช้เวทน้ำของมันโต้ตอบกลับมา
“ซูว์” มันซัดคลื่นน้ำขนาดใหญ่มาที่ผมอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ผมเตรียมรับมือไว้แล้ว ผมบีบอัดบอลอากาศไว้ที่มือพร้อมพุ่งตัวฝ่าเข้าไป
“ตู้ม” บอลอากาศผมระเบิดคลื่นน้ำออกเป็นวงเล็กๆพอให้ผมพุ่งตัวผ่านไปได้โดยไม่ได้รับอันตรายๆ ผมตวัดดาบส่งคลื่นอากาศเข้าหาศัตรูอีกครั้ง
“ฉัวะ” คราวนี้แขนขวาที่ยกมากันลำตัวไว้ขาดกระเด็น
ผมรีบพุ่งตัวเข้าประชิดเพื่อปิดฉาก แต่แล้วดวงตาของเอลเดอร์วิวโลห์ก็สว่างวาบ
“ซ่าห์” น้ำพุ่งออกมาจากพื้นดินรอบๆตัวผมแล้วเข้าห่อหุ้มร่างกายผมไว้ มันคงคิดจะขังผมไว้ในคุกน้ำแบบเดียวกับที่เร็กซ์โดน แต่ว่า..
“ฟ้าววว” ม่านลมรอบตัวผมพัดกระจายน้ำออก แรงลมทำให้ร่างของเจ้าหัวกวางเซถอยหลัง ผมไม่รอช้าฟันดาบผ่ากลางลำตัวมันจนขาดเป็นสองท่อน ท่อนล่างทรุดดลงไปกองที่พื้น ท่อนบนหงายตกลงไปในน้ำ น้ำที่ลอยอยู่ตามการควบคุมของอีกฝ่ายร่วงกลับลงมาตามแรงโน้มถ่วง ทุกอย่างนิ่งสงบ
<เรียบร้อยแล้วสินะ> ผมหันหลังกลับเพื่อเตรียมตัวจะไปช่วยเร็กซ์ต่อ
“ตู้มมมม” น้ำข้างหลังผมระเบิดกระจายออกพร้อมหนวดปลาหมึกทำจากน้ำขนาดยักษ์ฟาดตรงมาที่ผม
“ยังไม่จบง่ายๆสินะ” ผมกระโดดหลบออกมาได้อย่างทันท่วงที
มวลน้ำยกสูงขึ้นมา 5-6 เมตรเป็นร่างกายใหม่ให้กับเอลเอดร์วิวโลห์หัวกวางที่กำลังลอยเป็นแกนกลางอยู่ มีรยางค์ขนาดใหญ่ทำจากน้ำอยู่รอบตัว หัวมันผงกไปมาราวกับกำลังหัวเราะเย้ยผมอยู่ มันเงื้อรยางค์ของมันเตรียมฟาดตรงมาที่ผม
แต่ขอโทษนะ ถ้ามีร่างสองที่เป็นแบบนี้นี่มันจะเข้าทางผมเกินไปแล้ว ผมเองก็แสยะยิ้มออกมา หินสีเหลืองเรืองแสงขึ้นมา ผมรวบรวมพลังเวทออกมาเป็นกระแสไฟฟ้าไว้ที่มือซ้ายดังเปรี๊ยะๆ แสงสีฟ้าจากเบ้าตากะโหลกกวางสว่างวาบ มันคงจะรู้ชะตากรรมแล้วสินะ อีกฝ่ายพยายามแหวกว่ายออกมาจากร่างน้ำนั่น แต่สายไปแล้ว..
“ลาขาดหล่ะที่นี้”
“เปรี้ยงงง” ไฟฟ้าเป็นสายพุ่งตรงจากมือผมไปที่ร่างน้ำขนาดใหญ่นั่น เสียงไฟฟ้าช๊อตดังเปรี๊ยะปร๊าวดังต่อเนื่องตลอดเวลาที่ร่างของเอลเอดร์วิวโลห์หัวกวางนั่นชักกระตุกอยู่ในร่างน้ำของมัน ในที่สุดกะโหลกและร่างไม้นั่นก็สลายเป็นผุยผง เผยให้ดวงแสงสีน้ำเงินที่เป็นแกนกลางพลังเวทย์ของมันอยู่ชั่วครู่ก่อนที่จะดับลงไป
“ฟู่ห์” ผมถอนให้ใจโล่งอกแล้วสงบพลังเวทสายฟ้าของผมลง เตรียมตัวหันหลังกลับเพื่อไปสมทบกับเร็กซ์ ไม่รู้ว่าถึงไหนแล้ว
แต่แล้วคำตอบก็พุ่งเข้ามาหาผมแบบตั้งตัวแทบไม่ทัน
“บรึ้ม” พื้นดินแตกออกมาพร้อมร่างเจ้าหัวแพะพุ่งขึ้นมา มันง้างกรงเล็บที่มือซ้ายที่เหลืออยู่ข้างเดียวหมายจะฉีกร่างของผม เขาหักไปข้าง ร่างกายที่เป็นเนื้อไม้มีรอยดาบเต็มไปหมด
ผมเตรียมจะใช้เวทเพื่อยิงสกัดไว้แต่ความรู้สึกบางอย่างบอกผมไม่ให้ยิงออกไป ผมจึงกระโดดหลบฉากออกมาแทน
“ฉึก” ปลายดาบพุ่งเข้ากลางอกของเจ้าหัวแพะจากข้างหลัง
“อยู่นี่นี่เอง” เป็นเร็กซ์นั่นเองที่พุ่งเข้ามาแทงศัตรู
ทั้งสองลอยไปตามแรงเฉื่อยไปหยุดอยู่ที่ริมผาฝั่งที่ไม่มีน้ำพอดี ร่างของเอลเอดร์วิวโลห์ตนสุดท้ายแน่นิ่งไป กิ่งและรากไม้ตามลำตัวเริ่มแหลกสลาย
“ไม่เลวนี่” ผมกล่าวชม เท่าทีดู นอกจากรอยขีดข่วนที่เกราะแล้วมันก็ไม่มีบาดแผลเลย
“มันแน่อยู่แล้ว เจ้ากำลังพูดอยู่กับใคร อ๊ะ..” พูดไม่ทันจบรยางค์ไม้ที่หลังของซากนั้นพุ่งเข้ารัดตัวอัศวินหนุ่มไว้
ดวงตาผมเบิกกว้างเมื่อเห็นมันทลายพื้นดินที่ทั้งคู่ยืนอยู่จนตกหน้าผาไป ผมพุ่งตัวออกไปหมายจะคว้ามันไว้ แต่ไม่ทันแล้ว
“เร็กกกกกซ์!!!”
..................................................................
ปล1. จริงๆไม่อยากจบตอนแบบนี้แต่มันยาวเกินไปแล้ว เลยขออนุญาตตัดละกันครับ
ปล2. Ref Elder willow จาก Leshen ใน The witcher ครับ
:
https://twitter.com/CruisingDog/status/1019846861446832128