|:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.48 : How do you feel?.:29.10.19:[END]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.48 : How do you feel?.:29.10.19:[END]  (อ่าน 148365 ครั้ง)

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
เดนนี่~เรารอนายอยู่

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6

ออฟไลน์ nofsnof

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
ไป!! สู้ก็สู้  o13 o13

ออฟไลน์ ณ ที่เดิม™

  • มากกว่าชีวิต...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1699
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-0
เดินทางไปเรื่อยๆโดยที่ไม่รู้ว่าบทสรุปจะเป็นยังไง
เป็นกำลังใจให้ไอติมกับแช๊คให้ผ่านช่วงนี้ไปให้ได้

อย่าได้ดีแตกก็แล้วกัน  :กอด1:

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8

Fall in lust - Chapter 44 :: Private show. (โชว์ส่วนตัว)





Special from Ice-cream



   ผมไม่เคยมีความรัก ไม่เคยมีแฟน ไม่เคยคบกับใคร ไม่เคยมีใครมาจีบ ไม่เคยคิดไปจีบใคร ไม่เคยชอบใครถึงขั้นอยากเป็นแฟนด้วย ในหัวและในความรู้สึกผมไม่เคยมีความคิดนั้นอยู่เลย แม้กระทั่งกับแซ็ค ผมก็ไม่ได้เริ่มต้นความคิดด้วยความชอบมากเกินกว่าความชอบของติ่งคนหนึ่งที่อาจจะชอบมากเกินไป จนถึงขั้นอยากเสียบริสุทธิ์กับเขา ผมคิดแค่นั้นจริง ๆ ไม่ได้คิดจะมาถึงขั้นที่ว่าความรู้สึกเราสองคนมันมากกว่านักแสดง (หนังโป๊) และแฟนคลับไปแล้ว
   

ผมไม่รู้หรอกว่าความรู้สึกนั้นมันเกิดขึ้นได้ยังไงและมาตอนไหน คือผมก็ใช้ชีวิตตามปกติ ไม่ได้ไปจับผิดความรู้สึกหรือจับตาความรู้สึกประหนึ่งเป็นกล้องวงจรปิด ผมรู้อีกทีก็คือรู้แล้วว่าความรู้สึกตัวเองเปลี่ยนจากแฟนคลับมาเป็นแนวหัวใจ หัวใจที่ชุ่มฉ่ำราวกับมีน้ำหล่อเลี้ยงไม่ขาดสาย เป็นดั่งกุหลาบสีแดงที่คู่รักมักให้กันในวันวาเลนไทน์ หรือเป็นความหวานเหมือนช็อคโกแล็ตที่ไม่ได้ผสมไวน์จนขม
   

ผมไม่รู้จะเปรียบเทียบยังไง เปรียบเทียบกับอะไร ก็หยิบสิ่งที่มันดูเกี่ยวข้องกับความรักมาเทียบ ๆ กันไปเรื่อย ไม่รู้จะบอกยังไงเพื่อให้รู้ว่านี่คือความรักที่มันเกิดขึ้นมาแล้ว แต่ผมไม่อยากปวดหัว ผมเลยคิดว่า ช่างเถอะ สิ่งสำคัญคือ มันเกิดขึ้นแล้วระหว่างเราสองคน และเราสองคนใจตรงกัน 
   

ที่ตลกคือเราสองคนต่างไม่เคยคบใครเป็นแฟนมาก่อน โอเค แซ็คอาจจะมีโมเม้นต์ความเป็นคู่มากกว่าผม แต่เขาก็ไม่เคยคบใครเป็นจริงเป็นจัง อันนี้ยืนยันได้จากแม่เขาเองอีกหนึ่งเสียง ซึ่งเป็นเสียงสำคัญมาก
   

ถ้าแซ็คเป็นโรคกลัวความรัก ผมก็คงเป็นโรคไม่รู้จักความรักในแบบหนุ่มสาว หนุ่มหนุ่ม สาวสาว หรือจะคู่แบบไหนก็ตามที่เป็นความรักสีชมพูทำนองนั้น ไม่รู้จักในที่นี้ไม่ใช่ว่าไม่รู้เลย ผมเคยเห็นคนคบกัน รักกัน มีความสัมพันธ์ต่อกัน เพียงแต่มันไม่เคยเกิดขึ้นกับผม ผมเลยไม่รู้ว่าจริง ๆ มันเป็นไง เคยได้แต่มองผ่านตาผ่านความทรงจำเท่านั้น
   

วันนี้พอมามีเองก็เป็นความรู้สึกกระชุ่มกระชวยหัวใจดี แม้ความสัมพันธ์ของเราสองคนจะแปลกประหลาดและรับไม่ได้สำหรับใครหลายคน แต่สำคัญกว่าใครหลายคนนั้นคือเราสองคนที่ต้องเข้าใจและตอบรับไปด้วยกันก่อน
   

“ฮะๆๆ ฮิๆ” ผมหลับตาหัวเราะเพราะโดนแซ็คดันน้ำในสระว่ายน้ำเข้าใส่ แม้จะพยายามสู้แต่ก็สู้พ่อฝรั่งกล้ามใหญ่ไม่ได้ ดันมาทีน้ำกระจายรดต้นไม้รอบสระหมดแล้ว (เว่อร์)
   

“พอแล้ว พอแล้ววว!” ผมยกสองมือปิดหน้าและร้องเสียงดัง จัมโบ้กับปีโป้ยืนเห่าอยู่ริมสระ สองตัวนั้นถูกสอนว่าไม่ให้ลงสระนี้ แต่จะมีสระสูบลมให้ลงเวลาสองพี่น้องร้อน
   

“สู้กลับสิ จะได้ออกกำลังกายไปในตัวด้วย”
   

“โอโห ก็เพิ่งกลับมาจากฟิตเนสมั้ยล่ะ” เราสองคนออกไปฟิตเนสข้างนอกบ้านมา เป็นฟิตเนสแถวบ้าน ขับรถจากบ้านไปก็สิบห้านาทีถึง เป็นอาคารเดี่ยวตั้งอยู่ในพื้นที่ส่วนบุคคล เราไปออกกำลังกายที่นี่เพราะน้าแพนเป็นหุ้นส่วนของที่นั่น พอกลับมาก็พากันมาลงสระเพื่อดับร้อน และให้ความสดชื่นแก่ร่างกาย
   

“วันนี้เทรนเนอร์สอนดีมั้ย” ผมมองคนถามแล้วก็หัวเราะ
   

“ดีมากเหมือนทุกวัน” แซ็คยิ้มกริ่ม
   

“แล้วนายชอบเขามั้ย”
   

“มากเลยละ” ผมหัวเราะอารมณ์ดี แซ็คยิ้มกว้าง เดินตรงเข้ามายืนตรงหน้าผมแล้วย่อตัวลงให้สูงเท่ากับผม
   

“ถ้าชอบมากก็คบเขาเป็นแฟนสิ” ผมย่นจมูกพร้อมกับเบ้ปาก เพราะเทรนเนอร์ที่ว่าก็คือเขาเองนั่นแหละ
   

“ไม่ละ เป็นอย่างนี้สบายดีแล้ว” แซ็คมองบนและทำหน้าเซ็ง
   

เขาขอผมคบเป็นแฟนหลังจากเราไปพบจิตแพทย์ในไทยเกี่ยวกับโรคทางใจที่เขาเป็นอยู่ ไม่รู้หมอหนุ่มคนนั้นแนะนำอะไรมา ถึงได้อ้อนขอผมเป็นแฟนมาสองอาทิตย์แล้ว ทั้ง ๆ ที่ตอนแรกก็ตกลงกันไปแล้วว่าจะอยู่ด้วยกันแบบไหน และอยู่ยังไงให้เราสบายใจกันที่สุด แต่จู่ ๆ ก็ไม่รู้คึกคักอะไรขึ้นมาถึงขอผมเป็นแฟนไม่เหนื่อยเลย
   

“ไม่อยากคบกับฉันเหรอ” ผมย่นคิ้ว
   

“เราก็เหมือนคบกันแล้วนะ”
   

“ก็เป็นทางการไง” ผมยิ้มขำแบบไม่เปิดปาก มองใบหน้าหล่อเหลาของเขาที่กลับมาสดใสเต็มอิ่มอีกครั้งหลังจากหยุดใช้กัญชาและกลับมาออกกำลังกายบวกกับกินอาหารที่ดีต่อร่างกาย ซึ่งผมก็ถือโอกาสนี้ดูตัวเองไปด้วย โดยมีเขาคอยช่วยดูแลเป็นอย่างดี
   

“ไม่ต้องมีคำนิยาม แค่เรา” ผมยกสองมือประกบแก้มของเขาแล้วบีบเข้าหากันจนปากเขายู่ แซ็คบึนปากและหลับตาลงหน้าตาคล้ายเด็กกำลังงอน ผมยิ้มกว้าง ยื่นหน้าไปหอมหน้าผากเขาหนึ่งครั้ง
   

“สถานะไม่ได้การันตีความรู้สึกหรือความสัมพันธ์ของเราสองคนซะหน่อย” แซ็คมองผมตาใสซื่อ
   

“ฉันรู้ แต่ถ้านายตอบตกลงคบกับฉัน เราก็เป็นแฟนกัน” ผมหัวเราะกับการเถียงหน้างอนของเขา
   

“ผมก็อยู่ข้างคุณ หน้าคุณ หลังคุณ รอบตัวคุณแบบนี้แหละ จะไปไหนล่ะ” ดวงตาสีเทาของแซ็คมองผมนิ่งเนิ่นนานจนผมรู้สึกเขินเลยเลิกคิ้วขึ้นและยิ้มปากเป็นเส้นตรง ในหัวคิดหาเรื่องคุยเพื่อจะได้หลุดจากสถานการณ์ตรงนี้
   

“คุณเป็นเทรนเนอร์ที่ดีได้เลยนะ ลองเอาเป็นอีกอาชีพมั้ย เผื่อรีไทร์จากหนังโป๊”
   

“จริงเหรอ ฉันเป็นเทรนเนอร์ที่ดีจริง ๆ เหรอ” ผมพยักหน้า
   

“ดีสิ ตัวคุณเองก็รูปร่างดี คงสร้างความเชื่อถือให้ลูกค้าได้มากเลยแหละ” แถมหน้าก็ดีอีกต่างหาก
   

“ฉันขอศึกษาให้มากกว่านี้ ตอนนี้ขอดูแลนายคนเดียวก่อนนะ” ผมยิ้มกว้างตาหยี
   

“ปากหวานอีกแล้ว”
   

“คนจีบกันต้องปากหวาน ๆ ไม่ใช่เหรอ” เขาพูดหน้าซื่อ เหมือนเด็กที่เพิ่งเรียนรู้กับความรู้อะไรใหม่ ๆ สักอย่าง
   

“ปากหวานไม่เท่ากับการกระทำนะ” แซ็คหรี่ตามอง
   

“หวังว่าคงไม่ได้จะสื่อถึงอะไรเป็นพิเศษ” ผมหัวเราะแล้วก็ส่ายหัวรัวๆ
   

“เปล่าสักหน่อย” แซ็คเบ้ปากแล้วยืดตัวขึ้นเต็มความสูง เผยให้เห็นกล้ามเนื้อของเขาที่กลับมาเติมเต็มเต่งตึงอีกครั้ง อาจจะยังไม่แน่นปึ้กเหมือนเดิม แต่ก็ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นตามระยะเวลา ซึ่งจากที่ผอมจนเนื้อแทบติดกระดูกแล้วเนื้อกลับมาขนาดนี้ภายในสองอาทิตย์ผมถือว่าเขามีวินัยมาก ๆ แล้ว
   

“ขัดจังหวะหวานแปบนึงนะจ๊ะ…” ผมที่ลอยคออยู่ในน้ำหันไปมองน้าแพนที่ยืนยิ้มอยู่ตรงกรอบประตูหลังบ้าน
   

“…มะรืนนี้น้องติมอยากทำบุญที่ไหนเป็นพิเศษหรือเปล่า”
   

“กับสัตว์พิการฮะน้าแพน น้องติมหาข้อมูลไว้แล้ว”
   

“ต้องซื้อของมั้ย” ผมพยักหน้า
   

“เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปซื้อกัน”
   

“Tomorrow is his birthday. We are talking about our plan on his day. (พรุ่งนี้วันเกิดของเขาน่ะค่ะ เรากำลังคุยกันเกี่ยวกับแพลนในวันของเขา)” แซ็คหันมามองผมด้วยความประหลาดใจ
   

“Why don’t you tell me? (ทำไมนายไม่บอกฉันล่ะ)”
   

“ผมไม่รู้จะบอกตอนไหน อีกอย่างไม่รู้จะบอกยังไง จู่ ๆ จะให้ผมพูดขึ้นมาเหรอว่าเดี๋ยวจะวันเกิดผมแล้ว”
   

“เคลียร์กันเอานะลูก” น้าแพนว่าขำ ๆ ก่อนหมุนตัวเดินจากไป
   

“นายพูดกับฉันตอนไหนก็ได้นี่ ฉันไม่ว่าหรอกน่า” แซ็คไม่ได้มีทีท่าโกรธเคืองหรือไม่พอใจ เขาพูดปกติธรรมดาแต่ก็หน้านิ่วคิ้วย่นอยู่เหมือนกัน
   

“ผมพูดไปก็เหมือนอยากได้ของขวัญนี่หน่า”
   

“ฉันอยากให้ วันเกิดแรกของนายที่เราอยู่ด้วยกันเลยนะ รู้กระชั้นชิดแบบนี้ฉันจะไปหาของขวัญที่ไหนให้ดีละ” ผมยิ้มด้วยความเอ็นดู ที่หน้านิ่วคิ้วขมวดเพราะเรื่องนี้สินะ
   

“ไม่ต้องให้สิ่งของก็ได้ เอาเงินมา เดี๋ยวผมไปซื้อเอง” ผมหัวเราะ แซ็คยิ้มขำตาม
   

“ฉันขอคิดก่อน ถ้าคิดไม่ออก เดี๋ยวเอาเงินให้ไปซื้อ แต่เงินไม่เยอะหรอกนะ ฉันต้องจ่ายค่าอพาร์ทเม้นต์อีก” ผมหัวเราะ และพยักหน้าด้วยความเข้าใจ แซ็คยื่นมือขวามาขยี้หัวผมเบาๆ
   

“ไปอาบน้ำกันเถอะ” แซ็คเดินนำไปขึ้นขอบสระ เขายื่นมือมาช่วยอุ้มผมขึ้นไปยืนด้านบน เราพากันไปอาบน้ำใต้ฝักบัวริมสระ เปลี่ยนเป็นนุ่งผ้าขนหนูคนละผืน เอาเสื้อผ้าเปียกตากบนราวหลังบ้านไว้ก่อนค่อยออกมาเก็บไปซักอีกที
   

“น้องติม อาบน้ำเสร็จแล้วลงมาหาน้าหน่อยนะ” ผมหันไปพยักหน้าให้น้าแพนที่โผล่หน้าออกมาจากห้องโฮมเธียเตอร์ของบ้านก่อนจะเดินขึ้นบันไดตามแซ็คไป
   

เราอาบน้ำด้วยกัน แต่ไม่ได้ล่วงเกินกันและกัน ไม่ใช่ว่าอารมณ์ทางเพศของผมที่มีต่อเขามันหายไปแล้ว มันยังมีอยู่ ยังคงไหลเวียนในเส้นเลือดผมเหมือนเดิม แค่ช่วงนี้พักเบรกเฉย ๆ แซ็คก็เพิ่งฟื้นฟูร่างกาย และสภาพจิตใจก็กำลังปรับไปตามคำแนะนำของจิตแพทย์ เขาบอกว่าเขาชอบหมอคนนี้มากกว่าหมอที่เขาเคยเจอตอนอยู่ที่โน่น ผมเลยรู้สึกว่าช่วงนี้เป็นช่วงปรับตัวให้สภาพความรู้สึกของเขามันเข้าที่เข้าทาง
   

“ผมลงไปหาน้าแพนก่อนนะ” ผมที่แต่งตัวเสร็จแล้วบอกแซ็คที่กำลังนั่งเช็ดหัว เขาพยักหน้ารับรู้ ผมเดินออกจากห้องนอนลงไปข้างล่าง เดินไปเคาะประตูกระจกห้องโฮมเธียเตอร์ก่อนที่จะเลื่อนเปิด เข้าไปก็เจอน้าแพนกำลังนั่งกินผลไม้และดูหนังอยู่
   

“มีอะไรเหรอน้าแพน” ผมเดินไปหยิบจานชมพู่ขึ้นมาวางบนตักแล้วหยิบชมพู่ที่หั่นแล้วเข้าปาก
   

“น้าคุยกับแม่แล้วเรื่อง…” น้าแพนสะบัดมือขวาขึ้นเป็นเกลียวสองสามที ผมขำกับการออกลีลาของน้า
   

“…ความสัมพันธ์ของเรากับแซ็ค เรื่องงานของติม แล้วก็เรื่องที่ติมจะมีหนังอย่างนั้นกับเขา” ผมเล่าทุกอย่างให้น้าแพนฟังละ มีแซ็คอยู่ด้วยตอนเล่า ไม่ใช่ว่าจู่ ๆ ผมก็ไปนั่งเล่าเอาแซ็คไปนินทา ส่วนตัวผมถือว่าอาการที่แซ็คเป็น ต้องได้รับการยินยอมจากเจ้าตัวก่อนว่าพูดได้หรือไม่ และที่ผมเลือกพูดให้น้าแพนฟังเพราะน้าจะได้เข้าใจเรื่องราวและช่วยพูดกับแม่ได้นี่แหละ
   

น้าแพนแสดงอาการตกใจน้อยมากเมื่อได้ยินเรื่องราวที่เกิดขึ้น แล้วก็ด่าเจค็อบไปสามสี่คำ ขนาดผมพูดถึงเรื่องเว็บไซต์ส่วนตัวของแซ็คแล้วก็การลงคลิปหนังของผมกับเขา น้าแพนยังเหมือนพยายามเค้นให้ตัวเองตกใจและช็อค ก่อนจะบอกกับผมว่า น้าแพนมีเดา ๆ ไว้บ้างว่าคงมีคลิปอะไรกันเพราะเดาจากสถานการณ์การทำงานของแซ็ค แล้วก็ความเป็นเด็กฟิล์มของผม แต่ไม่คิดว่าจะถึงขั้นอัปลงเว็บขายเป็นเงินจริงจัง
   

“แม่ว่าไงอะน้าแพน”
   

“หน้าซีด…” ผมยิ้มยิงฟันแบบแห้ง พยักหน้าด้วยความเข้าใจความรู้สึกของแม่


“…น้าพยายามไม่อ้อมโลกมาก แต่ก็ไม่ได้ว่าตรง ๆ เกินไป ให้ชีนึกออกเอง เรื่องความสัมพันธ์น่ะแม่เขาไม่ติด แล้วแต่ติม เรื่องงานแม่เขาก็ไม่ได้คิดขวางอะไรอยู่แล้ว แต่เรื่องมีคลิปด้วยกันแล้วลงขายในเว็บ แม่เขาคิดหนัก เขาเป็นห่วงติมนั่นแหละ กลัวว่าจะถูกมองไม่ดีนั่นนี่” 


“น้าแพนได้บอกมั้ยว่าคนเข้าไปดูต้องเสียเงิน” น้าแพนพยักหน้าพลางจิ้มสัปปะรดชิ้นพอดีคำเข้าปาก


“ก็บอกอย่างที่เราคุยกัน ชีก็โอเคนั่นแหละในจุดที่ติมทำแล้วได้เงิน แต่เนาะ ชีเป็นแม่อะ ก็ห่วงลูก”


“น้าแพนว่ายังไงดี เจ้านายติมเขาก็ถาม ๆ มา คือยังไม่เร่งรัดเอาคำตอบภายในเดือนนี้หรอก เพราะต้องรอแซ็คกลับไปถ่ายรูปลงเว็บอีก” น้าแพนถอนหายใจ วางจานผลไม้ไว้บนตัก หยิบน้ำผลไม้ขึ้นดื่มก่อนว่าต่อ


“น้าก็ใช่ว่าไม่คิดเยอะนะ คือน้ารู้แหละว่าเป็นแฟนกันมันต้องมีอะไรแบบนั้น แต่ไอ้เผยแพร่ให้คนอื่นดูด้วยนี่สิ น้าว่ามันก็สยิวกิ้ว” ผมอ้าปากยิ้มแล้วแลบลิ้นทะเล้น


“แต่ได้ตังค์นะน้าแพน สมาชิกรายเดือน เดือนนึงก็จ่ายเยอะอยู่ แล้วแซ็คเขามีฐานแฟนคลับรอซัพพอร์ตอยู่แล้วด้วย” น้าแพนพ่นลมหายใจอีกที สีหน้าคิดไม่ตกแต่ก็ไม่ใช่ว่าหน้าเครียดมากจนรู้สึกเครียดตามไปด้วย ผมหยิบชมพู่ขึ้นมากิน เพิ่งเห็นว่ามีพริกเกลือด้วยเลยโน้มตัวไปหยิบมาจิ้ม


“ถ้าติมยืนยันว่าติมไม่สนใจสายตาคนที่มองติมเวลาเขาจำติมได้จากคลิป ก็ทำไปลูก…” ผมอ้าปากแล้วยิ้มหน้าแช่มชื่น น้าแพนยกนิ้วชี้ข้างซ้ายขึ้น


“…แต่ว่า ต้องทำให้สำเร็จแล้วดัง ๆ เลยนะ ดังในที่นี้คือดังในวงการนั้น เป็นซูเปอร์สตาร์ไปเลย”


“โวะโฮ้ววว” ผมร้องด้วยความตื่นเต้นกับคำพูดของน้าแพน


“โกยเงินเยอะ ๆ ทำให้แม่เขาเห็นว่ามันเป็นสิ่งที่ให้เงินกับติมได้จริง ๆ ไม่ใช่แค่ทำเอาสนุก คึกคะนอง” ผมยิ้มทั้งที่ยังเคี้ยวชมพู่อยู่เต็มปาก


“ดาราเนอะ น้าแพน”


“เออ ดารา ถึงจะหนังโป๊แต่ก็ดาราล่ะวะ ทำให้ดีทำให้ดังนะ จะได้เชิดใส่พวกผีเจาะปากได้เริ่ดๆ”


“แต่น้าแพนไม่ต้องดูนะ น้องติมเขินอะ” น้าแพนหัวเราะขณะจิ้มแอปเปิ้ลเข้าปากหนึ่งชิ้น


“น้าไม่ต้องดูหรอก เชื่อสิ เดี๋ยวก็มีคนมารีวิวให้น้าฟังเอง” ผมยิ้มเขิน และคิดว่าหน้าคงกำลังค่อย ๆ แดงขึ้น


“ส่วนเรื่องเขากับเราน่ะ เอางี้แน่ใช่มั้ย” ผมเข้าใจสิ่งที่น้าแพนถาม เพราะประเด็นนี้น้าแพนยังเป็นกังวล ยังรู้สึกเป็นห่วงอยู่


“เอางี้แหละน้าแพน ก็ลองเรียนรู้กัน ถ้าเขาทำเกินหน้าที่ ทำเกินงานเมื่อไหร่ ก็แยกย้าย…” ผมเคี้ยวชมพู่จิ้มพริกเกลือหงับ ๆ แล้วพูดต่อ


“…อีกอย่าง น้องติมรักเขาไปแล้วอะ ต้นรักกำลังโตเลย รากแน่นมากด้วย” น้าแพนหัวเราะอ้าปากกว้าง


“ฮู้ยยย มีความรักกับเขาสักทีนะ นึกว่าจะไม่เอาใครแล้ว”


“แต่พอมีทีก็สีสันเลยเนอะ” ผมหัวเราะไปกับน้าแพน ในใจรู้สึกตลกกับสิ่งที่ตัวเองพูดจริง ๆ ไม่ได้ประชดหรือมะนาวหวานองุ่นเปรี้ยวใดๆ


“เป็นความรักอีกรูปแบบแหละ ฟังครั้งแรกอาจจะเฮ้ย อะไร แต่ฟังไปสักพัก ก็เออ ได้แหละ ถึงไม่ได้มันก็ได้ไปแล้ว และถ้ามันเจิดก็ยาวไป” น้าแพนไม่กีดกันหรือว่าพยายามดันออกให้ห่างจากตัวผม แต่น้าแพนเลือกที่จะคอยดูอยู่ห่าง ๆ อย่างห่วง ๆ ส่วนแม่ก็รู้ว่าระหว่างผมกับแซ็คเป็นยังไง แต่แม่ไม่รู้ดีเทลเท่าน้าแพน ไม่ใช่ว่าจะปิดบังแม่หรือกันแม่ออกนอกวงโคจร แต่อะไรที่จะส่งผลต่อความรู้สึกแม่ ผมก็ไม่อยากให้แม่รับรู้ เลือกให้แม่รับรู้ในสิ่งที่แม่ควรรู้จะดีกว่าในความคิดผมน่ะ


“ก็เดินไปด้วยกันเรื่อย ๆ ถ้าถึงจุดที่รู้สึกว่าควรหยุด ก็บอกตัวเอง แต่ถ้ามันไปได้ดี ก็มีความสุขกับมัน…” ผมยิ้มกริ่มพร้อมกับพยักหน้าลงหนึ่งครั้ง


“…แม่กับน้าอยู่ข้างติมเสมอ ทั้งข้าง ๆ และเข้าข้าง” ผมหัวเราะตาหยี น้าแพนขยิบตาซ้ายหนึ่งที


ก๊อกๆ


“เปิดเลยจ้า!” น้าแพนตะโกนบอกคนเคาะ ประตูกระจกสีดำเข้มถูกเลื่อนออกช้า ๆ แล้วร่างสูงใหญ่ของแซ็คก็ปรากฏให้เห็น


“ขอโทษที พอดีเห็นว่าไอศกรีมหายไปนาน เลยลงมาตามหาน่ะ”


“เอ้า แฟนมาตามแล้วพ่อหนุ่ม” ผมยิ้มกว้างพร้อมกับหัวเราะเอิ๊กอ๊าก

V
v
v

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
V
v
v


“Hey, buddy. (ว่าไงเพื่อน)” ผมหันไปมองแซ็คนั่งลงทักทายกับน้องหมาพันธุ์ไทยหูตั้งตัวสีน้ำตาลเข้มที่เสียตาไปทั้งสองข้าง แม้ว่าเจ้าหมาจะมองไม่เห็นแต่มันก็ส่ายหางเมื่อได้ยินเสียงของแซ็ค พอเขายื่นมือออกไปลูบหัวมัน เจ้าหมาน้อยก็เอาหัวถูกับมือของแซ็คด้วยความออดอ้อน


“เดี๋ยวผมเข้าไปจัดการเรื่องบริจาคของก่อน คุณนั่งเล่นอยู่กับหมาก็ได้” แซ็คพยักหน้าขณะที่กำลังเกาพุงเจ้าหมาตาบอดขี้อ้อน


เมื่อช่วงเช้าตรู่ผมทำบุญตักบาตรไปแล้ว พอสักเก้าโมงก็ออกจากบ้านมาที่มูลนิธิสัตว์พิการเพื่อเอาอาหารและของใช้จำเป็นต่อหมาแมวพิการทั้งหลายมาบริจาค ผมไม่ได้ทำแบบนี้ทุกปีหรอก บางทีก็แค่ทำบุญอย่างเดียวแล้วก็จบ ส่วนปีนี้ก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ แค่เห็นมูลนิธินี้ในอินเตอร์เน็ตเลยอยากมาทำ


“แม่ เงินที่น้องติมฝากไว้” แม่ผมหยิบซองสีขาวออกมาจากกระเป๋าแล้วยื่นมาให้ ผมตั้งใจเอาเงินส่วนหนึ่งที่ได้จากการทำงานกับลูคัสมาบริจาค คิดเอาเองว่าจะได้เป็นการเริ่มต้นที่ดี และต่อยอดให้ดีต่อ ๆ ไป ฮิๆ


“ขอบคุณมากเลยนะคะที่ร่วมทำบุญกับน้องๆ” พี่เจ้าหน้าที่หน้าตาใจดียื่นประกาศนียบัตรทำความดีกับมูลนิธิมาให้ ผมยิ้มกว้างแล้วรับไว้


“เราอุปถัมภ์น้องหมาได้มั้ยฮะ”


“ได้ค่ะ แต่ทางเราต้องขออนุญาตตรวจสอบประวัติผู้ที่จะอุปถัมภ์สักเล็กน้อยนะคะ เพราะบางคนมาเอาน้องไปแล้วใช่ว่าจะดูแลดี แถมบางคนยังทำไม่ดีกับน้องอีกทั้งที่น้องก็ไม่สมประกอบอยู่แล้ว” จู่ ๆ หัวใจผมก็แป้วและรู้สึกใจหาย ขนาดหมาเกิดมาไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ยังมีคนคิดทำร้ายซ้ำเติมอีกงั้นเหรอ


“น้องติมจะรับเลี้ยงหมาเหรอ” ผมหันไปมองน้าแพนกับแม่แล้วยิ้มบาง


“ถามดู เผื่อมีคนอยากรับไปเลี้ยง” ผมหันไปมองผ่านประตูกระจกสีทึบของตึกสำนักงานที่มองเห็นด้านนอกได้ แซ็คนั่งอยู่บนพื้นหญ้าและมีเจ้าหมาตัวนั้นนอนเอาคางเกยตักเขาอยู่และเขาก็กำลังใช้มือขวาลูบหัวมัน


“ถ้ารับไปก็เอาไปอยู่บ้านเรา แต่แม่แค่กลัวไอ้จัมโบ้มันกัดเขา ปีโป้น่ะมันไม่กัดหรอก”


“ถ้ามีหมาที่บ้านอยู่แล้ว ทางเราก็ต้องขอศึกษาพฤติกรรมหมาที่บ้านผู้อุปถัมภ์ด้วยน่ะค่ะ ว่าจะเข้ากับน้องใหม่ได้มั้ย” ผมหันไปยิ้มให้พี่พนักงานและพยักหน้าด้วยความเข้าใจ


หลังจากพนักงานผู้ชายของมูลนิธิขนกระสอบอาหารและของใช้ที่ผมนำมาบริจาคลงจากรถกระบะเพื่อนน้าแพนเสร็จเรียบร้อย ผมก็เดินเข้าไปเยี่ยมน้องหมาน้องแมวในสถานที่เลี้ยงของทางมูลนิธิ บางตัวต้องอยู่ในกรงเป็นพิเศษ แต่บางตัวก็ถูกเลี้ยงในลานกว้าง


“บางตัวอาการสาหัสมาก แต่ใจเขาก็สู้น่ะ ก็เลยอยู่รอดมาจนถึงทุกวันนี้” ผมหันไปพูดให้แซ็คฟังว่าพี่พนักงานพูดอะไร เขายิ้มบางและพยักหน้า


“ฉันดีใจที่ตัวเองสู้ไม่แพ้หมากับแมว จนรอดมาถึงตอนนี้เช่นกัน” ผมยิ้มให้กำลังใจ ยื่นมือซ้ายไปลูบต้นแขนขวาของเขา แซ็คยืนมองหมาตัวสีขาวแซมส้มที่ขาหน้าขาดทั้งสองขากำลังวิ่งเล่นกับเพื่อนตัวอื่นสนุกสนานแล้วคลี่ยิ้ม


“คุณเก่งมาก” แซ็คหันมามองหน้าผมด้วยสายตาอ่อนโยน


“ขอบคุณที่นายเข้ามาเป็นความหวังให้กับชีวิตฉัน”


“ไม่ใช่ผมหรอก ตัวคุณเองต่างหากที่มีหวัง ถึงได้ฮึดสู้และผ่านมันมา”


“แต่ถ้าไม่มีนาย ฉันก็คงไม่สู้ขนาดนี้” ผมยิ้มกว้าง


“โอเค ผมรับความดีนี้ไว้ก็ได้” ผมยักคิ้ว แซ็คขยับมุมปากสองขึ้นสูงจนหางตาย่น ผมหันกลับไปมองเจ้าหมาสองขาหน้าขาดหายไปที่ตอนนี้นั่งพักเหนื่อยลิ้นห้อยด้วยความเอ็นดู





“ผมเข้าไปได้หรือยังเนี่ย” ผมถามแซ็คทางโทรศัพท์


[โอเค! เข้ามาได้เลย] ผมขำคิกคักทั้งที่ยังไม่เห็นว่าเขาจะทำอะไรให้


เนื่องจากไม่มีเพื่อน ๆ คอยช่วยเหลือ แซ็คจึงบอกผมตรง ๆ ว่าจะเซอร์ไพรส์วันเกิด แต่จะไม่ให้ผมเห็นก่อนจนกว่าเขาจะอนุญาต ผมเลยต้องออกมานั่งดูหนังรอตรงพื้นที่เอนกประสงค์บนชั้นสองหน้าห้องพระ เมื่อกี้โทรเช็กกับเขาหลังจากรอเขาจัดการอะไรอยู่ในห้องนอนมาเกือบชั่วโมง


ก๊อกๆ


“ผมเข้าไปแล้วนะ” ผมตะโกนบอก ไม่มีเสียงตอบรับใด ๆ กลับมา ผมยืนรออีกอึดใจหนึ่งถึงบิดลูกบิดประตูและดันเข้าไปในห้องนอน


ภายในห้องมืดสนิท มีแสงสว่างเพียงจุดเดียวคือเทียนรูปตัวเลขอายุของผมที่ปักอยู่บนเค้ก แต่ที่ทำเอาผมผงะไปในแวบแรกคือหัวกระต่ายอันใหญ่สีขาวหูสีชมพู ตาโตสีฟ้าและยิ้มโชว์ฟันกระต่าย ใจผมหายวาบเพราะมันให้ความรู้สึกเหมือนหนังฆาตกรรมที่ฆาตกรจะใส่หน้ากากประหลาด ๆ แล้วตามฆ่าคน


“Happy birthday, bunny!” เสียงอู้อี้ดังมาจากในหัวกระต่าย ผมหัวเราะแล้วเดินเข้าไปยืนตรงหน้ากระต่ายยักษ์ ยิ้มขำเมื่อเห็นว่าสองมือที่กำลังถือเค้กอยู่นั้นใส่ถุงมือขนสีขาวอันใหญ่ไว้ด้วย แถมกระต่ายตัวนี้เซ็กซี่สุด ๆ ด้วยการผูกโบว์สีทองไว้ตรงคอและไม่ใส่เสื้อโชว์หุ่นล่ำให้ชวนน้ำลายไหล


“Oh, this bunny is so hot! (โอ้ว กระต่ายตัวนี้ฮ็อตจัง)” ผมแกล้งแซว


“Make a wish! (อธิษฐานสิ!)” ผมหลับตาลงและอธิษฐานไม่ยาวมากก่อนจะเป่าเทียนดับทีเดียว


“Yayyy!” เสียงกระต่ายร้องด้วยความดีใจ ผมหัวเราะแล้วยื่นหน้าไปหอมแก้มกระต่ายเป็นการขอบคุณ


“Thank you, big bunny. (ขอบคุณนะเจ้ากระต่ายตัวใหญ่)”


“Turn on the light. (เปิดไฟสิ)” ผมเดินไปเปิดไฟตามที่เขาว่าแล้วพอหันมาก็ต้องหัวเราะอ้าปากกว้างด้วยความรู้สึกหวิว ๆ ในท้อง


“Surprised!”


“อ้ากกก” ผมร้องด้วยความเขินกับภาพตรงหน้าที่เห็น แซ็คถือเค้กด้วยมือขวาแล้วกางแขนทั้งสองข้างออก เพราะเมื่อกี้อยู่ในความมืดผมเลยไม่ได้สังเกตว่าท่อนล่างเขาใส่แค่กางเกงชั้นในทรงสามเหลี่ยมสีทองมันเลื่อมตัวจิ๋วที่รัดเป้าเขาตึงแน่นเปรี๊ยะ ผมหัวเราะถูกอกถูกใจก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายภาพ กระต่ายตัวโตยืนเก๊กหล่อ (แม้ว่าไม่เห็นหน้า) ให้ผมถ่ายเต็มที่


“This is a video. Show your step a little bit. (อันนี้วิดีโอ เต้นหน่อยสิ)” พ่อกระต่ายตัวใหญ่เด้งเป้าขึ้นลงเบา ๆ หลายทีติดกัน ผมหัวเราะเอิ๊กอ๊าก กระต่ายตัวใหญ่เปลี่ยนเป็นหมุนเอวไปตามเข็มนาฬิกาซึ่งทำได้พลิ้วสมกับเป็นนักเต้นระบำเปลื้องผ้า


“คิๆๆๆ” ผมห่อไหล่เขินเมื่อกระต่ายตัวโตเดินเข้ามาหาผมแบบที่เดินไปด้วยเด้งเป้าไปด้วย จนกระทั่งเจ้ากระต่ายยักษ์เดินมาติดตัวผมชนิดที่เป้าตุง ๆ นั้นแนบไปกับต้นขาผมแล้ว


“ว้ากกก” ผมร้องด้วยความสยิวกิ้วเมื่อแซ็คถูเป้าขึ้นลงกับต้นขาผมช้า ๆ จนขนผมลุกชันไปทั้งร่าง สักพักก็เปลี่ยนเป็นจับผมหันหลังก่อนจะเด้งเป้าใส่ก้นผมแรง ๆ หลายทีติดกัน


“วะอะๆๆๆ” ผมหัวเราะอ้าปากกว้าง ตัวสั่นไปตามแรงเด้าของเขา


“Okay, okay, take some photo. (มา มา ถ่ายรูปกัน)” ผมหยุดถ่ายวิดีโอแล้วเปลี่ยนเป็นโหมดกล้องหน้า เดินไปเอาไม้เซลฟ์ฟี่มาจัดการใส่โทรศัพท์และเปิดสัญญาณเชื่อมกัน พอเสร็จเรียบร้อยก็เข้าไปยืนซ้อนหน้าพี่กระต่าย เอนตัวเอาหัววางบนไหล่ซ้ายของเขา กระต่ายตัวใหญ่ใช้แขนซ้ายโอบเอวผมไว้ ผมชี้ไปที่กล้อง ดวงตาสีฟ้าของเจ้ากระต่ายมองกล้องไม่กะพริบ เมื่อได้ภาพที่กว้างแบบเห็นกระต่ายถือเค้กและหัวกระต่ายไม่ขาดแล้ว ผมก็กดรีโมตเล็ก ๆ ของไม้เซลฟ์ฟี่ถ่ายภาพไปหลายภาพ


“Sexyyyy” ผมยิงฟันยิ้มกว้างแล้วก็กดถ่ายภาพคู่กับแซ็คในร่างพี่กระต่ายไปหลายช็อต ผมดึงโทรศัพท์ออกจากไม้เซลฟ์ฟี่แล้วก็ใช้แขนตัวเองถ่ายรูปแทนไม้ในมุมใกล้ไปอีกสี่ห้าภาพ


“Thank you, big bunny.” ผมลดแขนลง หันไปหอมแก้มกระต่ายทั้งสองข้าง พี่กระต่ายเอาเค้กวางบนโซฟาปลายเตียง ก่อนจับไหล่สองข้างของผมแล้วดันให้ไปนั่งอีกซีกของโซฟา ยกมือทำท่าบอกว่าให้ผมนั่งนี่ก่อนที่จะเดินไปตรงตู้เก็บของ เขาถอดถุงมือข้างขวาออกเพื่อใช้กดแม็คบุ๊กของผมที่วางอยู่กับลำโพงสีดำสองอัน


“Wowww!” ผมปรบมือเมื่อได้ยินเสียงดนตรี เป็นดนตรี EDM ที่ไม่ได้หนักหน่วงหรือเสียงแตกแบบในผับบางผับที่ผมเคยไปกะเดน อันนี้เป็นจังหวะกำลังดี เสียงทุ้มหนัก


“ฮะฮ้าวววว” ผมร้องด้วยความตื่นเต้นเมื่อแซ็คยกสองมือกระต่ายปุกปุยขึ้นจับหัวแล้วก็เด้งไปซ้ายทีขวาทีตามจังหวะเพลงอยู่เกือบนาทีก่อนที่เขาจะปล่อยมือออกจากหัว หยุดเด้งเป้าแล้วยืนหันหลังครู่หนึ่งก่อนจะย่อเข่าลง สองมือวางบนหัวอีกครั้ง เหมือนว่าพอเขาจับจังหวะเพลงได้ก็เด้งก้นแน่น ๆ งอน ๆ ใส่ผมตามจังหวะดนตรี


“อ๊า อะๆๆๆ” ผมหัวเราะไปปรบมือไปด้วยความถูกใจ สักพักแซ็คก็เปลี่ยนท่าด้วยการยังย่อเข่าไว้เหมือนเดิม แต่ปล่อยมือสองข้างออกจากหัว แล้วก็หมุนเอวไปด้านขวาเป็นวงกลมและค่อยหมุนมาหาผมทั้งที่เอวยังวนหวานไม่เลิก


“วู้วว วู้ว วู้ว!” แซ็คเด้งตัวยืนขึ้น ยกสองมือจับหัวอีกรอบ เด้งเป้าฝั่งละสองทีตามจังหวะดนตรีสลับกับที่สองเท้าก้าวเดินมาข้างหน้า เดินสลับเด้งอยู่เป็นนาที พี่กระต่ายก็มายืนตรงหน้าผม แล้วพี่กระต่ายก็ทำให้ผมร้องเสียงหลงตกใจ


“โว้ววว โฮ่ววว” พี่กระต่ายแกโดดขึ้นคร่อมผมบนโซฟา เป้าสีทองตุงมันเลื่อมอยู่หน้าผมพอดี แล้วสักพักพี่กระต่ายก็จับหัวผมไว้จากนั้นก็เอาเป้าถูไปรอบหน้าผมจนผมหัวเราะตาปิด


“อ๊าๆ อ้าๆๆๆ” ผมยกสองมือตีก้นของแซ็คหลายทีติดกันเพราะขำกับสิ่งที่เขาทำ เขาเอาเป้าถูหน้าผมอยู่เป็นนาทีถึงค่อยกระโดดลงไปยืนบนพื้นตามเดิม ตรงกับจังหวะที่เพลงหยุดเล่นพอดี ผมที่ยังหัวเราะหน้าแดงหน้าร้อนปรบมือให้เขารัว ๆ กระต่ายยักษ์โค้งหัวลงเป็นการขอบคุณ


“Bad ass!” แซ็คดึงหัวกระต่ายออกจากหัวตัวเอง เผยให้เห็นหน้ายิ้มแย้มของเขากับเส้นผมที่เปียกเหงื่อเบา ๆ ผมปรบมือดังขึ้นกว่าเดิม


“วุฮู้ววว”


“You like it? (ชอบมั้ย)” แซ็คถามตาเป็นประกาย ใบหน้าสดใส ผมพยักหน้ารัวๆ


“I love it!” แซ็คยิ้มกว้าง หมุนตัวเดินเอาหัวกระต่ายไปวางบนหลังตู้ข้างแม็คบุ๊ก และถอดถุงมือปุกปุยวางไว้ข้างกัน ผมยิ้มขำตาหยีกับโบว์สีทองตรงคอและกางเกงในตัวจิ๋วสีทองมันเลื่อมตรงเป้า


“ท่าเต้นอาจจะไม่เป๊ะมาก มีเวลาซ้อมไม่กี่ชั่วโมงเอง” เขาเดินมายืนเท้าเอวตรงหน้าผม เป้าสีทองตรงกับปากผมเป๊ะ และผมก็เห็นว่าเจ้าสิ่งนั้นขยายตัวใหญ่ขึ้นจนหัวโผล่ออกมานอกขอบกางเกงในแล้ว


“แค่นี้ผมก็ประทับใจมากแล้วพ่อกระต่ายตัวโต” แซ็คยิ้มกว้าง หันไปมองเค้กช็อคโกแล็ตที่วางอยู่บนโซฟาก่อนหันกลับมามองหน้าผม


“กินเค้กมั้ย” ผมพยักหน้า


“อื้อ เอาสิ กินด้วยกัน” แซ็คเดินไปหยิบเค้กขึ้นมาถือ เขานั่งคุกเข่าลงแทนที่เค้ก ผมหันไปเตรียมจะตักเค้กกิน แต่ก็ต้องอ้าปากหวอเมื่อแซ็คดึงกางเกงในลงจนแคร็อทที่แข็งตัวเด้งออกมา


“ฉันตักให้” แซ็คบอกเสียงแหบพร่า แววตาที่มองผมนั้นคมกล้า มือขวาลดเค้กลงมาอยู่ใต้แคร็อทอันเขื่อง มือซ้ายจับแก่นกายของเขาจิ้มลงไปบนหน้าเค้กช็อคโกแล็ตจนเป็นรู เขาใช้มือซ้ายจับตรงนั้นแล้วพยายามช้อนเค้กขึ้นมาจนได้เนื้อเค้กกับช็อคโกแล็ตติดส่วนหัวแคร็อทมาประมาณหนึ่ง


“กินสิกระต่าย” เขายกเค้กออกไป ผมสบตาเขาแล้วยิ้มกรุ้มกริ่ม เขายิ้มมุมปากพร้อมกับยักคิ้วขวาข้างเดียว ผมอ้าปากแล้วงับของโปรดตัวเอง ใช้ลิ้นเลียเค้กกับช็อคโกแล็ตที่ติดอยู่บนนั้น รูดปากเข้ารูดปากออกสักพักจนรู้สึกว่ากวาดเนื้อเค้กกับช็อคโกแล็ตหมดแล้วก็ถอนปากออก ผมเลียลิ้นรอบปากมองแคร็อทที่ยังมีช็อคโกแล็ตกับเศษเค้กติดอยู่ประปรายแล้วก็ยิ้ม


“ขอฉันชิมเค้กบ้างสิ” ผมเงยหน้าขึ้นมองแซ็ค เขาวางเค้กลงบนพนักพิงโซฟาก่อนก้มลงมาประกบปากกับผม ลิ้นของเขากวาดในปากผมเชื่องช้าราวกับกำลังเก็บรายละเอียดรสชาติเค้กที่ยังคลุ้งอยู่ในปากของผม


“อืม…” แซ็คดึงหน้าออกไป เรายิ้มให้กัน มีช็อคโกแล็ตติดริมฝีปากบนของเขาเป็นจุดเล็กๆ


“…หวานกำลังดีเลย” ผมคลี่ยิ้ม แซ็คยื่นสองมือมาถอดเสื้อยืดของผมออกจากตัว เขาก้าวเท้าลงจากโซฟาและลงไปนั่งคุกเข่าตรงหน้าผม ดึงกางเกงผมออกไปจนผมตัวเปลือยเปล่า


“เริ่มมีเต้านมแล้วนะ” เขายิ้มแซว ผมยิ้มเขิน แซ็คยื่นหน้าเข้ามาดูดนมข้างซ้ายของผมหนึ่งที แต่ก็เล่นเอาผมเสียววูบวาบ ผมยกสองแขนคล้องคอเขา แซ็คเอาสองมือวางลงบนโซฟาคร่อมตัวผมไว้ ก้มหน้าลงซุกไซ้คอผมอย่างอ่อนโยน ผมแหงนหน้าหลับตาพริ้ม ปล่อยให้ความรู้สึกอุ่นวาบแล่นไปทั่วตัว


“อืม…” ผมครางเสียงเบา ในหัวปลอดโปร่งโล่งสบาย หัวใจเบาหวิวราวกับไร้น้ำหนัก ปลดเปลื้องทุกอย่างออกไปแล้วปล่อยให้ใจไปตามความรู้สึกดี ๆ ที่กำลังเกิดขึ้น


แซ็คเลื่อนลงจากคอผมไปจูบที่กลางอก และไล่จูบลงไปเรื่อยจนถึงหน้าท้อง ลงต่ำไปอีกจนเจอไอติมแท่งตั้งแข็งตระหง่าน เขาจูบส่วนหัวสีแดงอ่อนหนึ่งครั้งแล้วก็จับผมนอนบนโซฟาครึ่งตัว ตรงก้นแอ่นขึ้น แซ็คใช้สองมือแหวกก้นผมก่อนก้มลงใช้ลิ้นเลียกลีบเนื้อสีน้ำตาลอ่อน


“Ha…” ผมครางเสียงแผ่ว หลับตาพริ้มอย่างรู้สึกดี ลิ้นสีแดงของแซ็คเลียกลีบเนื้อรัวต่อเนื่องกันอยู่นานก่อนที่เขาจะเปลี่ยนเป็นแยงลิ้นเข้าออกรูตรงนั้นจนมันเปิดเป็นโพรงเล็ก ๆ เขาตวัดสายตาขึ้นมองขณะที่ปลายลิ้นของเขาแหย่เลียอยู่ข้างในไม่หยุด ผมกัดริมฝีปากแล้วยิ้ม แซ็คยิ้มในดวงตาจนผมรู้สึกเขิน เขาทำแบบนั้นสักพักก็หยุดมองผลงานตัวเองแล้วคลี่ยิ้มพอใจ


“พร้อมแล้ว” ผมเม้มปากยิ้มเขิน แซ็คผละออกจากตรงนั้น จับขาขวาผมยกขึ้น ก้มลงจูบเนื้อต้นขาด้านใน ไล่จูบตามเนื้อขาไปเรื่อยจนกระทั่งไปถึงปลายเท้าเขาก็หยุดแล้วลืมตามองผมที่มองเขาด้วยความรู้สึกตื่นเต้น หัวใจเต้นตึกตัก เขาคลี่ยิ้มละมุนก่อนก้มจูบลงบนหลังเท้าของผมอย่างแผ่วเบาและเนิ่นนาน


“แซ็ค…” เขาลืมตามองผมและยิ้มอ่อน วางเท้าผมไว้บนไหล่ของเขา แซ็คหยิบเสื้อยืดผมไปเช็ดแคร็อทที่เปื้อนเค้กจนสะอาด จากนั้นเขาก็ถ่มน้ำลายใส่มือจนชุ่มแล้วเอาไปวนรอบหัวแคร็อท ทำอย่างนั้นอยู่สามครั้งจนแคร็อทเยิ้มไปด้วยน้ำลายแล้วเขาก็ยื่นมือขวามาหาผมพร้อมกับพยักหน้า ผมยกเท้าลงจากไหล่ของเขา เด้งตัวลุกขึ้นยืนพร้อมกับยื่นมือซ้ายไปจับมือเขา เดินเข้าไปหาแซ็คอีกแค่ก้าวเดียว จากนั้นก็อ้าขาคร่อมตัวเขา


“Don’t worry. I got you. (ไม่ต้องกังวล ฉันเอาอยู่)” เขาใช้มือซ้ายจับแก่นกายให้ตั้งมั่น ผมย่อตัวลงจนกระทั่งรู้สึกถึงส่วนหัวทิ่มอยู่ตรงทางเข้า ผมยกสองแขนโอบรอบคอของเขา เรามองตากัน แซ็คพยักหน้าหนึ่งครั้ง ดวงตาสีเทาเต็มไปด้วยความเร่าร้อนอันแสนละมุนละม่อม ผมกลืนน้ำลายลงคอขณะที่กลีบเนื้อของตัวเองค่อย ๆ กลืนกินแคร็อทของโปรดเข้าไปจนเต็มลำ ผมหายใจหอบอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็สงบลงเมื่อแซ็คยกมือขวาลูบหัวผมและจูบหน้าผากผมไปที


“Welcome back. (ยินดีต้อนรับกลับมา)” แซ็คกระซิบ ผมยิ้มไม่เห็นฟัน เรามองตากัน ส่งผ่านความรู้สึกมากมายผ่านสายตา หัวใจผมเต้นถี่รัว ผมเลื่อนมือขวาลงมาแนบบนอกซ้ายของแซ็ค หัวใจของเขาเต้นเป็นจังหวะเดียวกันกับผม


“Happy birthday, bunny.” ผมพยักหน้าตอบ แกล้งตอดรัดเขาไปหนึ่งทีจนแซ็คย่นคิ้วชวนให้หัวเราะแผ่วเบา แซ็คคลี่ยิ้มเมื่อเห็นผมหัวเราะ


“You are my first love. I love you so much. (นายเป็นรักแรกของฉัน ฉันรักนายมากนะ)” ผมหอมแก้มเขาไปข้างละทีก่อนที่จะกอดเขาไว้ และกระซิบข้างหูซ้ายของเขา


“You are my first love, too. I love you so much, too. (คุณเป็นรักแรกของผมเช่นกัน ผมรักคุณมากเช่นกัน)” แซ็คกอดผมแน่น ได้ยินเสียงหัวเราะทุ้มในลำคอ


“And I love your grammar so much. (และฉันก็รักแกรมม่าของนายมากเลย)”


“And I love my dick-tionary so much!” ผมหัวเราะคิกคักและตอดรัดเป็นสัญญาณว่าให้เขาเริ่มได้แล้วเพราะตอนนี้ท้องน้อยผมหน่วงเหลือเกิน








เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้





แฮปปี้เบิร์ทเดย์นะจ๊ะน้องกระต่ายของพี่แคร็อท ^____^ ได้ดูพี่อั้นเต้นแบบเอ็กซ์คลูซีฟเลยน้าาา

อีกสี่ตอนจะจบละเด๊อออ



เจอกันตอนหน้าค่า

 :mew1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-08-2019 03:00:31 โดย BaoBao »

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
แฮปปี้เบิร์ทเดย์ ไอติม

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
เป็นการป้อนเค้กที่...  :pighaun: :pighaun: :pighaun:

ออฟไลน์ manami1155

  • ~I Still Love You~
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1749
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +99/-1
ต่อไปนี้การชิมเค้กจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
เขินแทนน้องต่ายมากๆเลยค่ะ
แต่แอบงอนขุ่นเจ้แล้ว ตัดไปจบได้แบบค้างอารมณ์มากกก
กำลังอินกับตอนสวีทที่ห่างหายไปนานเลย
อีก4ตอนจะจบแล้วเหรอคะ ยังไม่อยากให้จบเลยยยย
ว่าแต่แดนนี่คนแซ่บจะมาทวงบัลลังค์พระเอกคนยังคะ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
พอทุกข์หายไป ก็ลัลลาเลยนะ ไอติม  :a3: :a11:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
 :pighaun: กว่าจะหมดเค้กก้อนนั้น

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
เป่าเค้กได้เอ็กซ์มาก

ออฟไลน์ Ti0590

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
มีความสุขนานๆนะ น้องติม นี่แหน่ะๆๆๆ :oo1:

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
ได้ของขวัญวันเกิดเป็นแครอทของโปรดด้วยน้าน้องติม  :impress2:

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
บีบหัวใจมาหลายตอนเลยค่ะ เอ็นดูไอติมมากเลย
ไอติมโตขึ้น และใจแข็งมากขึ้น เรียนรู้เยอะขึ้น
ไอติมเป็นห่วงแซ็ค เพราะรักมาก รักแรกด้วย
ต่อให้พยายามห่างยังไงก็ยังห่วง ยิ่งแซ็คเป็นแบบนี้ยิ่งห่วง

แต่ต้องยินดีที่แซ็คพยายามเพื่อไอติมและเพื่อตัวเองนะ
เสียใจนิดนึงที่แซ็คผิดสัญญาอีกแล้ว ตอนไอติมแวะซื้อของ
ตอนนี้ก็ทำได้ดีขึ้น พยายามหาอะไรทำ และมีกำลังใจดี
อดทนไว้นะ เพื่อตัวเอง เพื่อคนที่รักและหวังดี

สถานะที่ไม่ชัดเจน และตกลงกันชัดเจน เพื่ออนาคตที่สดใส

เจคร้ายกาจมาก เจครักแซ็คหรอ บ่อเงินบ่อทองก็เข้าใจ
แต่ถึงขั้นทำร้ายร่างกายกันแบบนี้ คือเกินคำว่าแย่ไปไกล
สภาพจิตไม่ปกติแล้ว เหมือนดิ่งลึก และต้องเอาคืนให้ได้น่ะ

ไอติมและแซ็คโชคดี ที่มีคนรักมาก ลูคัสและเจมส์มาถูกวัน
และโชคดีที่บอก จะได้มาช่วยกัน

ตลกเดน จะยังไงก็แล้วแต่ ไม่มีใครก็ยังมีเดน และให้เป็นเมื่อนนะ

น้าแพนคือคนที่เข้าใจทุกอย่างได้ดีและคอยช่วยเหลือตลอด
แอบสงสารแม่ ที่ไอติมเลือกบอก ก็รักอะเนาะ ไม่อยากให้เสียใจหรือคิดมากไป
แต่แม่ก็เข้าใจ ให้ไอติมเลือกทางเดินทางเอง แม่แค่ห่วง

ว้าววว เค้กนี้ดีจังเลยนะ เป็นวันเกิดที่สนุกสุด สุขสันต์สุดแล้วมั้งไอติม  :hao3:
แถมมีดาวเต้นมาโชว์พิเศษให้อีก ฟรีทุกรายการ และได้แต้มเบอร์แรงด้วยจ้า



ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Fall in lust - Chapter 45 :: You missed it. (พลาดแล้ว)







ก่อนปัจจุบัน
Castro Street, San Francisco




   
“Woohooo! Yeah! That’s right, Bryan!” ผมสีดำตัดอันเดอร์คัท ข้างบนซอยสั้นรับกับใบหน้าเรียวสวยแต่ไม่ใช่สวยแบบผู้หญิงกำลังยิ้มเริงร่า เต้นไปตามจังหวะเพลงอย่างสนุกสนาน หลายสายตาจากชายหนุ่มต่างชาติมองร่างสูงโปร่งตัวขาวสะอาดตาในเสื้อเชิ้ตขาวตัวใหญ่ทับในกางเกงยีนส์สกินนี่รัดรูปสีดำที่เนื้อผ้าขาดเป็นจุด ๆ ด้วยความสนใจ แต่เจ้าตัวไม่รู้ตัวเพราะสายตากำลังมองไปที่ฝรั่งตัวสูงล่ำใหญ่ที่ตอนนี้มีรอยสักบนแขนขวาเพิ่มอีกหนึ่งลายทำให้ดูมีความดิบขึ้นมาอีกนิด
   

ผู้ชายคนนั้นอยู่บนเวทีกับกางเกงชั้นในทรงสามเหลี่ยมลายทหาร ใส่รองเท้าคอมแบ็ทสีดำ บนหัวใส่หมวกแก๊ปลายเดียวกับกางเกงชั้นใน กำลังออกสเต็ปกับเพื่อนชายฝรั่งไซซ์ตัวล่ำบึ้กพอ ๆ กันไปตามจังหวะเพลงที่เปิด สีหน้าของหนุ่มอเมริกันตาสีเทาอ่อนบนเวทีเต็มไปด้วยเอเนอร์จี้แห่งความยั่วยวน ท่าเต้นแข็งแรง ยิ่งท่าเด้งเป้าก็ยิ่งแข็งแรง สายตาที่กวาดมองเกย์เก้งและสาว ๆ นั่นแพรวพราวยิ่งกว่าสมัยก่อน
   

“กรี๊ดดด!!! กรี๊ดดด!!!”
   

เสียงกรีดร้องดังขึ้นเมื่อหนุ่ม ๆ เหล่านั้นเดินไปคนละมุมของเวที แซ็คเดินมาตรงปลายเวทียาวแล้วค่อย ๆ ร่อนเอวลงไปคุกเข่าบนพื้นช้า ๆ จากนั้นแอ่นเป้ายั่วมือที่ยื่นมาไขว่คว้าลูบคลำ บางมือก็ยัดแบงค์สีเขียวตรงขอบกางเกงใน และบางมือก็ใจป้ำให้แบงค์เทาดำ แซ็คนั่งอยู่ตรงนั้นราวห้านาที พอลุกยืนอีกทีก็มีแบงค์เหน็บรอบขอบกางเกงจนเหมือนกำลังนุ่งกระโปรงบาน ๆ เขาถอดหมวกออกจนเผยให้เห็นทรงผมสั้นเกรียนเหมือนนายทหารในกองทัพ แซ็คโยนหมวกไปท่ามกลางฝูงชนที่ยื่นมือแย่งกันรับ จุ๊บใส่ฝ่ามือแล้วส่งจูบโปรยเสน่ห์ให้เหล่าเกย์และสาว ๆ กรี๊ดกันสนั่น เพื่อน ๆ ของเขาก็รวยไม่แพ้กัน มีเงินติดตามขอบกางเกงในกันทุกคน
   

“THANK YOU!”
   

หนุ่ม ๆ ทั้งเจ็ดคนยืนจับมือกันแล้วก็โค้งหัวลงพร้อมกันก่อนดึงตัวยืนตรงและชูมือขึ้น ไอติมหมุนตัวเดินออกจากบริเวณหน้าเวที แหวกฝูงชนจนกระทั่งหลุดพ้นออกมา ก้าวเท้าเดินไปทางห้องแต่งตัวด้านหลังเวที บอดี้การ์ดเอ่ยทักทายเขาด้วยความคุ้นเคย ไอติมทักทายกลับพร้อมกับรอยยิ้ม พอเดินถึงห้องแต่งตัวไอติมก็เดินไปตรงโต๊ะกระจกของแซ็ค หยิบโทรศัพท์มือถือทั้งของตัวเองและแซ็คขึ้นมาเช็ก ของเขามีอีเมลเข้ามาเกือบสิบฉบับ ส่วนของแซ็คมีสายไม่ได้รับจากเจค็อบ
   

“Hey, bunny!” เสียงคึกคักดังขึ้น ไอติมวางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะ หันตัวไปมองก็เห็นแซ็คยิ้มกว้างและอ้าแขนรออยู่แล้ว ติมหัวเราะคิกคักแล้ววิ่งเข้าไปหาแซ็คก่อนจะกระโดดกอดแซ็คไว้ สองขาเรียวแข็งแรงตวัดรอบเอวแซ็ค สองแขนคล้องคอเขาแน่น แซ็คใช้สองแขนโอบรอบเอวไอติมขณะที่เท้าก็ก้าวเดินไปอย่างไร้จุดหมายช้าๆ
   

“You are super-hot!” ไอติมบอกเสียงตื่นเต้น แซ็คคลี่ยิ้ม
   

“And are you horny when you watch it? (แล้วเงี่xนมั้ยตอนดู)” ไอติมยิ้มกริ่ม
   

“You are always turn me on dancer feet fire. (คุณทำให้ผมหงี่ตลอดแหละพ่อนักเต้นเท้าไฟ)” แซ็คหัวเราะกับฉายาตัวเองจากแกรมม่าของไอติม
   

“Let’s fire burn our bed then! (งั้นเดี๋ยวทำให้เตียงเราไฟลุกกัน!)” แซ็คฟาดมือขวาลงบนก้นเด้ง ๆ ของไอติมที่เขาปั้นให้กับมือ ไอติมแหงนหน้าหัวเราะและยิ้มเริงร่า แซ็คยื่นหน้าไปไซ้คอไอติมด้วยความมันเขี้ยว
   

“น้อย ๆ หน่อยน่า เดี๋ยวพวกฉันเกิดอารมณ์ขึ้นมา กระต่ายของแกจะโดนรุมจนแย่นะ” ไอติมมองหน้าบรูซแล้วหัวเราะกับประโยคของเขา บรูซขยิบตาให้ไอติม กระต่ายตัวจ้อยขยิบตากลับ
   

“เอาเลย เดี๋ยวฉันถ่ายคลิปให้ จะได้มีคลิปใหม่ไปลงเว็บ” แซ็คหัวเราะยิ้มกว้าง ไอติมแยกเขี้ยวใส่แซ็คแต่ก็ขำไปด้วย
   

“แกพูดแล้วนะ” บรูซยกมือชี้หน้าเพื่อน แซ็คหัวเราะพร้อมกับปล่อยไอติมลงไปยืนบนพื้น ไอติมหันไปยิ้มให้กับทีมเต้นของแซ็คคนอื่น ๆ ที่กำลังดึงเงินออกจากขอบกางเกงชั้นใน เห็นแบบนั้นเลยใช้มือดึงของแซ็คออกมาบ้าง
   

“โดนปล้นอีกตามเคยสินะ” บรูซแซว ไอติมยิ้มขำขณะที่ดึงเงินออกจากขอบกางเกงในตรงร่องก้น แซ็คแกล้งทำหน้าร้องไห้ ไอติมถือเงินทั้งหมดไว้ในมือแล้วก็จูบเงินไปหนึ่งที
   

“แม่คุมเงินเองจ้ะ” ไอติมขยิบตาให้แซ็ค ฝรั่งมองแล้วยิ้มก่อนจะอุ้มไอติมขึ้นในท่าเจ้าสาวแล้วพาเดินไปนั่งบนเก้าอี้ตรงหน้าโต๊ะกระจกของตัวเอง
   

“หยิบสร้อยให้ทีสิ” แซ็คบอกหลังจากนั่งลงบนเก้าอี้และมีไอติมนั่งตัก ไอติมยัดเงินลงไปในกระเป๋าเป้ของตัวเองก่อนหยิบสร้อยจี้กระต่ายสีทองอ่อนออกมาสวมใส่ให้กับแซ็ค เขาจะถอดออกทุกครั้งเวลาทำงาน ทั้งงานเต้น งานถ่ายหนัง (โป๊) หรือตอนไปเจอลูกค้าที่เจค็อบส่งมาให้ เพราะเขากลัวทำหาย
   

“เจค็อบโทรมา คงจะบอกนัดใหม่” แซ็คกลอกตา ไอติมยิ้มเบ้ปาก ยื่นมือซ้ายไปหยิบโทรศัพท์ของแซ็คมาเปิดดู หน้าจอของแซ็คเป็นรูปของไอติมใส่ชุดหูกระต่ายสีชมพูหันก้นขาว ๆ ที่มีจุกหางกระต่ายสีเดียวกับหูมาทางกล้อง สายตามองตากล้องรูปหล่อด้วยความเย้ายวน ไอติมเห็นทีไรก็ขำกับรูปนี้
   

“ว้าว รอบนี้สาวแม่ม่ายลูกสอง อู้ แซ่บน่าดูเลยนะ” ไอติมหันรูปผู้หญิงคนนั้นให้แซ็คดูหลังจากเปิดรูปในวอทสแอพที่เจค็อบส่งมาพร้อมกับข้อมูลของลูกค้าและวันเวลาที่นัด
   

“นายอย่าทำอย่างงี้น่าไอศกรีม” แซ็คพ่นลมหายใจแล้วก็ส่ายหัว ยกมือซ้ายขึ้นเสยผมหน้าไอติมขึ้นจนเห็นหน้าผาก แซ็คยื่นหน้าจูบหน้าผากไอติมหนึ่งที
   

“ผมไม่เป็นไรสักหน่อย ” ไอติมยิ้มพลางเลื่อนดูข้อมูลของผู้หญิงคนนั้นที่เจค็อบส่งมา
   

“แต่นั่นคือผู้หญิงที่ฉันกำลังจะไปนอนด้วย” สีหน้าของแซ็คไม่ค่อยสบายใจ ไอติมเงยหน้าขึ้นมอง
   

“ผมรู้ ผมอยู่กับคุณนะ วันที่คุณทำสัญญาฉบับนี้…” ไอติมหอมแก้มแซ็คและยิ้มให้ พยายามทำให้เขาสบายใจ
   

“…ผมช่วยตรวจสอบไงว่าเจคจะไม่ส่งโรคอะไรมาให้คุณเพื่อให้คุณมีแผลเพิ่มเติมจากจุดนี้” ไอติมชี้ไปที่แผลเป็นจากรอยบุหรี่จี้บนผิวของแซ็ค
   

“นายโอเคจริง ๆ ใช่มั้ย” แซ็คยังคงรู้สึกไม่สบายใจ ไอติมยิ้มให้กำลังใจแซ็ค
   

“แซ็ค นี่มันครึ่งทางของสัญญาแล้ว หนี้สินก็ลดลง และคุณเองก็จบกับพวกเธอจริงหลังจากเสร็จกิจกาม…” ไอติมย่นคิ้วพร้อมกับหรี่ตามองแซ็คที่กำลังทำหน้าเลิ่กลั่ก
   

“…ก็มีบ้างบางคนที่คุณอาจจะจบลงยากสักหน่อย แต่ก็ถือว่าทำได้ดี” ไอติมยิ้มเบ้ปากเล็ก ๆ แซ็คถอนหายใจแล้วก้มหน้าลงซุกอกไอติม
   

“แต่ฉันไม่เคยรักพวกเธอนะ”
   

“รักก็ได้ถ้าคุณอยาก ผมก็แค่ไป” แซ็คดึงหน้าขึ้นมองไอติมแล้วทำหน้ามุ่ยใส่ ไอติมยิ้มหัวเราะ
   

“ฝันไปเถอะ” ไอติมยิ้มขำ สองมือยกประกบหน้าของแซ็ค
   

“อย่าคิดว่าตัวเองไม่ดีน่า ผมก็ใช่ว่าจะดีไปกว่าคุณ” ช่วงแรกแซ็คมองหน้าไอติมนิ่ง แต่สักพักพอไอติมหันไปมองอีกทาง แซ็คก็หรี่ตาก่อนหันไปมองทางที่ไอติมมองแล้วก็เห็นว่าไอติมกำลังยิ้มให้บรูซที่ยิ้มตอบกลับมา แซ็คกลอกตาแล้วยกมือซ้ายดันหน้าไอติมให้กลับมามองตัวเอง
   

“บรูซมันชอบนายยิ่งกว่าเลโอ ฉะนั้นคือไม่” ไอติมยิ้มกว้าง
   

“แต่คุณก็ให้เลโอมีอะไรกับผมอีกรอบนะ เลโอก็ยังไม่ได้แย่งผมไปสักหน่อย”
   

“ไม่ ลูคัส บรูซ และไอ้เดนนี่ เป็นข้อห้าม ข้อห้ามที่อันตรายมากด้วย” แซ็คพูดสีหน้าจริงจัง ถ้าไอติมสกรีนผู้หญิงให้เขา เขาเองก็สกรีนผู้ชายให้ไอติมเช่นกัน แซ็ครู้ว่าคนไหนแค่นอนด้วยกัน ถ่ายคลิปด้วยกันแล้วจะจบแค่นั้น และรู้ด้วยเช่นกันว่าคนไหนจะมากกว่านอกเตียง กับไอ้เลโอเขารู้ว่ามันไม่ได้คิดกับไอติมเหมือนตอนไปเที่ยวด้วยกันแล้ว เขาจึงยอมให้เกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อตอนวันเกิดของมัน โดยที่เขาพาไอติมไปเซอร์ไพรส์มันเอง
   

“ทำอย่างกับเราคบกันแล้วงั้นแหละ” ไอติมแกล้งแซว และเป็นประเด็นที่พอแซวแล้วแซ็คจะฟึดฟัด ครั้งนี้ก็เช่นกัน แซ็คถลึงตาใส่ไอติมพร้อมกับตีก้นเขาไปที
   

“งั้นก็เป็นสิ ฉันขอนายคบมากี่ครั้งแล้ว” ไอติมเบะปากแล้วสั่นหัว แซ็คมองด้วยความหมั่นไส้ก่อนพุ่งหน้าซุกไซ้คอไอติมจนไอติมหัวเราะคิกคัก
   

“No!”
   

“Fuck!” แซ็คคำรามและขยี้จมูกลงบนเนื้อคอของไอติมแรงๆ



   





มันไม่ใช่สิ่งที่ไอติมกลัว ไม่ใช่สิ่งที่ไอติมคาดการณ์ไว้ หรือคิดเอาไว้ว่าจะต้องเกิดขึ้น ไอติมใช้ชีวิตในแต่ละวันของตัวเองเท่าที่อยากจะใช้ อยากกินก็กิน อยากนอนก็นอน อยากคิดงานก็คิด อยากทำอะไรก็ทำ แต่ถ้าวันไหนต้องทำงานก็ทำตามหน้าที่ของตัวเอง ไม่ได้มานั่งหวาดระแวงหรือนับวันรอว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่กับการที่แซ็คจะเกิดความรู้สึกพิเศษกับลูกค้าสักคนหนึ่ง
   

“คุณคิดว่าไงเหรอฮะแซ็ค”
   

“…” ไม่มีการตอบรับกลับมา ไอติมจึงหันหน้าจากจอแม็คบุ๊กไปมองอีกคนที่นอนเหยียดตัวยาวอยู่บนเตียงข้างกัน แซ็คกำลังพิมพ์ข้อความในโทรศัพท์
   

“แซ็ค…” แซ็คกดส่งข้อความก่อนหันไปมองไอติมหน้าตางุนงง ไอติมย่นคิ้วแล้วยิ้มมุมปาก
   

“…วันนี้รอบที่สี่แล้วนะที่ผมเรียกหรือถาม แล้วคุณจดจ่อกับการพิมพ์ข้อความในมือถือ” ไอติมไม่ได้พูดเสียงเหวี่ยง จับผิดหรือขุ่นเคือง พูดเหมือนประโยคปกติทั่วไป
   

แซ็คกะพริบตาพร้อมกับหลบตาไอติมแล้วค่อย ๆ ดันตัวลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงก่อนหันไปคุยกับกระต่าย “ว่าไง”
   

“ผมถามว่าทริปบาฮามาสช่วงซัมเมอร์นี้น่าสนใจมั้ย” ไอติมหันหน้าจอแม็คบุ๊กให้แซ็คดู หนุ่มฝรั่งมองรายละเอียดบนหน้าจอครู่หนึ่งก่อนเม้มปากและมีทีท่าลังเล
   

“วันที่ xx ฉันน่าจะยังอยู่มัลดีฟส์” ไอติมเลิกคิ้วขึ้น
   

“โอ้ว คุณจะไปมัลดีฟส์เหรอ” แซ็คมองหน้าไอติมด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วนแต่ก็พยักหน้าลงหนึ่งครั้ง ไอติมหรี่ตามองแซ็คแวบหนึ่งแล้วก็ยิ้มบาง
   

“ไปกับใครเหรอ” ไอติมไม่ได้จี้ถาม ไม่ได้ใช้น้ำเสียงใดเป็นพิเศษ ถามเหมือนถามทั่วไป
   

“คือ เธอซื้อเวลาต่อน่ะ แต่ขอเป็นนอกสถานที่บ้าง” ถึงแม้จะพูดอยู่บ่อย ๆ ว่าเข้าใจ แต่หัวใจไอติมก็กระตุกไปวูบหนึ่งจนรู้สึกเหมือนอกโล่ง ๆ ไป
   

“แม่ม่ายคนนั้นน่ะเหรอ” หัวใจไอติมเต้นเป็นจังหวะหน่วง ๆ ร่างกายเย็นเฉียบ แซ็คหลบสายตาไอติมแล้วก็พยักหน้าลงเป็นการยอมรับ ไอติมยิ้มอ่อน หันมองหน้าจอแม็คบุ๊กแล้วยิ้มมุมปากก่อนจะกดดีลีทแพลนทริปบาฮามาส
   

“งั้นบาฮามาสก็ไม่ต้องแล้ว แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมหาทริปใหม่”
   

“บันนี่” แซ็คเรียกเสียงแผ่ว ไอติมยกมุมปากทั้งสองข้างขึ้นเป็นรอยยิ้ม
   

“ฮึ? ว่าไง”
   

“มันยังคงเป็นงาน แค่เธอขอขยายเวลา และเปลี่ยนสถานที่ใหม่” ไอติมยิ้มอ่อนโยน
   

“แซ็ค ต่อให้คุณจะติดใจรสชาติของเธอคนไหน แต่คุณไม่เคยไปเที่ยวกับพวกเธอ และไม่เคยกดส่งข้อความทั้งวันแบบนี้…” ดวงตาของแซ็คสั่นไหว
   

“…ยังไงซะ เราก็ไม่ได้เป็นอะไรกันอยู่แล้ว ขอแค่คุณบอก ว่าคุณจะจริงจังกับเธอหรือไม่” แซ็คมีสีหน้าสับสน
   

“ฉันไม่รู้ แต่…” แซ็คมองไอติมด้วยความไม่แน่ใจ แต่พอเห็นว่าไอติมพยักหน้าเป็นเชิงบอกว่าให้พูดต่อก็เลยเปิดปากพูด
   

“…เหมือนอยู่กับแม่” ไอติมยิ้มขำน้อยๆ
   

“เพราะเธออายุเท่าแม่คุณหรือเปล่า โอ้ว มุกตลกน่ะ” ไอติมพับจอแม็คบุ๊กลงแล้วเอาไปวางบนโต๊ะทำงานที่เป็นโต๊ะไม้ฝั่งเตียงตัวเอง
   

เหมือนแม่ ผู้หญิงที่เขารักมากสินะ…
   

“บันนี่…”
   

“ไปเที่ยวให้สนุกเถอะแซ็ค และอย่าลืมป้องกันทุกครั้ง ต่อให้คุณจะรู้สึกพิเศษกับเธอแค่ไหน แต่ถ้ายังไม่ถึงขั้นตกลงปลงใจจริงจังต่อกัน ก็ต้องระวังไว้”
   

“ฉันยังสับสนอยู่” ใบหน้าของแซ็คยุ่งเหยิงตามความรู้สึก
   

“ตลอดระยะเวลาเกือบสามปีที่ผ่านมา คุณผ่านลูกค้าเจค็อบมามากมาย นี่เป็นคนแรกที่ทำให้คุณสับสน…” สีหน้าแซ็คหม่นลง แววตาหมองเศร้า ไอติมยังคง (พยายาม) ยิ้มเหมือนเดิม
   

“…ไปเที่ยวกับเธอครั้งนี้ รีบหาคำตอบให้ชัดเจนซะ”
   

“แล้วนายล่ะ” ไอติมทำหน้างง
   

“ผมทำไม?”
   

“นายจะยังไปเที่ยวไหนหรือเปล่า” ไอติมหัวเราะ แต่ครั้งนี้เป็นการหัวเราะที่ผสมความหงุดหงิดเอาไว้ด้วย
   

“ผมไปอยู่แล้วละแซ็ค แต่แค่ทริปนั้นไม่มีคุณด้วยไง” ไอติมว่าจบก็ล้มตัวลงนอน ดึงผ้านวมขึ้นมาห่ม แซ็คพ่นลมหายใจพร้อมกับพลิกตัวนอนหงาย โทรศัพท์ของเขาสั่นเพราะมีข้อความเข้า แซ็คกำลังจะกดพิมพ์แต่ก็ชะงักเพราะโคมไฟฝั่งไอติมดับวูบลง เหลือแสงโคมไฟฝั่งเขา แซ็ครีบพิมพ์ข้อความแล้วกดส่งก่อนจะปิดโคมไฟฝั่งตัวเอง และนอนหลับทั้งที่ไม่รู้สึกอยากจะหลับ



   






หลังจากคืนนั้นไอติมกับแซ็คก็คุยกันนับครั้งได้ ไอติมไม่ได้มึนตึงใด ๆ ใส่แซ็ค ยังคงทำตัวตามปกติ แต่ก็ยอมรับว่าเปิดปากพูดด้วยยากและลำบากใจจะพูดอย่างไรก็ไม่รู้ แซ็คที่เหมือนจะรู้ตัวว่าสถานการณ์เป็นยังไงจึงเงียบกว่าปกติ แต่ก็ชวนคุยบ้างตามเวลาและโอกาสที่หาได้ แต่ก็ไม่ใช่การคุยกันแบบแนบชิดสนิทนัก
    

ช่วงนี้แซ็คไม่มีถ่ายหนัง ทั้งของสตูดิโอและกับไอติม เว้นระยะมาก็เดือนแล้ว แต่ยังมีโชว์เต้นทุกสัปดาห์กับทีมเต้น ทั้งที่ร้านประจำและร้านใหม่ มีบินไปเวกัสบ้างในบางครั้ง และสิ่งที่เพิ่มเข้ามาเมื่อเขามีเวลาคือการไปอยู่กับเธอคนนั้น ไอติมไม่ได้ถามไถ่ต่อหรืออยากรู้อะไรเพิ่มเติมว่าเธอซื้อเวลาเพิ่มขนาดนี้เลยหรือว่ายังไง ไอติมปล่อยให้แซ็คใช้ชีวิตของเขา
   

“ผมดีใจมากที่คุณสองคนตอบรับเข้ามาเป็นนักแสดงของค่ายเรา” ไอติมพูดกับชายหนุ่มฝาแฝดรูปหล่อและหุ่นล่ำบึ้กตามมาตรฐานของค่ายด้วยความตื่นเต้น เพราะเขาเล็งคู่แฝดอเมริกันคู่นี้มานานแล้ว


ไอติมเจอแฝดคู่นี้ในอินสตาแกรม และให้ลูคัสจัดการคุยให้ก่อน ลูคัสใช้เวลาสามเดือนในการเข้าหาฝาแฝดคู่นี้ พูดคุยกันจนฝาแฝดยอมเปิดใจ และสุดท้ายก็ได้พามาคุยกับไอติมแบบยังไม่จริงจังนักเมื่อเดือนก่อน ไอติมพูดถึงคอนเซ็ปต์สำหรับสองคน จำนวนหนังที่ต้องแสดงในระหว่างที่มีสัญญากับทางค่าย และตอบคำถามที่ทั้งคู่สงสัย ไอติมถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีเพราะอย่างน้อยเขาก็ยอมรับฟัง แม้ว่าหลังจากคุยกันเสร็จพวกเขาจะขอเวลาตัดสินใจก่อนก็ตาม แต่ท้ายที่สุดพวกเขาก็ตอบตกลง
   

“ก็ต้องยอมรับว่าชีวิตเราสองคนอยู่ในช่วงวิกฤติน่ะ ได้งานนี้มาคงช่วยเราได้เยอะ แต่ถ้าข้อเสนอและคอนเซ็ปต์งานไม่น่าสนใจ เราก็ไม่ตอบรับหรอก จริงมั้ยล่ะ” ไอติมยิ้มด้วยความปลื้มใจ หันไปมองลูคัสที่นั่งอยู่ข้างกันด้วยสายตาขอบคุณ ลูคัสยิ้มมุมปากพร้อมกับยักคิ้ว
   

“Then welcome to BEEFFET studio. (งั้นก็ขอต้อนรับสู่สตูดิโอบีฟเฟ่ต์นะฮะ)” ไอติมยื่นสองมือออกไปข้างหน้า สองหนุ่มฝาแฝดยิ้มอย่างเป็นมิตรและยื่นมือคนละข้างมาเช็กแฮนด์กับไอติม
   

“วันนี้ก็ถ่ายพอร์ตเทรตตามที่บอกนั่นแหละ พร้อมนะ” หนุ่มแฝดรูปหล่อพยักหน้าพร้อมกันเป็นคำตอบให้กับคำถามของลูคัส
   

จากค่ายที่เริ่มต้นมีนักแสดงในสังกัดเพียงสามคน และทีมงานไม่ถึงสิบคน วันนี้ค่ายหนังของลูคัสขยายใหญ่มากขึ้น ด้วยการมีนักแสดงชายในสังกัดทั้งหมดสิบห้าคน และตอนนี้เพิ่มมาเป็นสิบเจ็ดคนแล้ว โดยที่ทุกคนเป็นพระเอกฝ่ายรุกทั้งหมด ซึ่งจริง ๆ สามารถมีได้มากกว่านี้ แต่เพราะเซ็กซ์ครีเอทีฟมีมาตรฐานในการเลือกพระเอกเข้าสังกัดค่อนข้างซับซ้อน


ไม่ได้สูง แต่เป็นซับซ้อน เพราะเลือกจากเซ้นส์จากความรู้สึกของเจ้าตัวล้วน ๆ ไม่ใช่เพียงมองแค่หน้าตาหรือรูปร่างแล้วจบ บางคนหน้าตาหล่อเหลามากแม้แต่ผู้ชายแท้ ๆ ด้วยกันยังชื่นชม แต่ครีเอฟทีฟก็ส่ายหัวปฏิเสธ เพราะไม่จับใจเขา ไม่มีอะไรดึงดูดได้อีกเลยนอกจากหน้า แม้จะเรื่องมากในการเลือก แต่ส่วนมากที่เซ็กซ์ครีเอทีฟคนเก่งของลูคัสเลือกมาก็มักจะเป็นที่นิยมชมชอบของคนดูจริง ๆ ลูคัสเลยแทบไม่เคยขัด เพราะผลงานของลูกสาวนั้นดีมากกว่าเสีย แม้ทุกวันนี้จะยังไม่เข้าใจว่าไอศกรีมเลือกจากจุดไหนกันแน่


ส่วนทีมงานจากไม่ถึงสิบคน ตอนนี้ก็มีสิบคนพอดี โดยอาศัยความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ใครว่างก็ไปช่วยอีกตำแหน่งแบ่ง ๆ กันไป เพราะจะได้เป็นการประหยัดงบของค่าย แม้จะขยายใหญ่ขึ้นแต่ก็ยังไม่ใช่ค่ายใหญ่มหาอำนาจเท่ากับของเจค็อบหรือค่ายที่อยู่มาเนิ่นนานแล้ว
   

แต่ไอติมก็พึงพอใจมาก ๆ แล้วกับสิ่งที่เป็นอยู่ ไม่เล็กไป ไม่ใหญ่เกิน อยู่ในระดับที่พอดี แต่มีแฟน ๆ ติดตามกันเหนียวแน่นด้วยเนื้องานและนักแสดงที่คัดมาอย่างดี เว็บไซต์ของค่ายหนังมีสมาชิกแบบทั้งจ่ายรายเดือนและจ่ายรายปีรวมกันแล้วก็เกินครึ่งหมื่นคน และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอีก
   

“เพื่อนเราที่เป็นเกย์การันตีว่าค่ายของคุณเจ๋ง มันเชียร์อัพให้เรามา ช่วยพวกคุณกล่อมเราอีกแรง” หนึ่งในฝาแฝดพูดขึ้นขณะที่กำลังถอดเสื้อผ้าออกจากร่างกาย
   

“ขอบคุณเพื่อนคุณคนนั้นเหลือเกิน” ไอติมยิ้มเป็นปลื้ม สองแฝดยิ้มหล่อ ชวนให้ไอติมใจเต้นตุบ ๆ หน้าตาทั้งสองไม่ใช่คนหล่อจัด แต่มองแล้วไม่เบื่อทั้งคู่ หุ่นลีนกำลังสวยงาม ลูบแล้วลื่นมือดั่งที่นึก
   

แต่ก็ใช่ว่าเซ้นส์ไอติมจะลงล็อค ถูกเป๊ะไปทุกครั้ง ถูกบ้างผิดบ้างสลับกันไป แต่ส่วนใหญ่จะได้ที่ถูกที่ใช่มา ที่สำคัญเลยคือไม่ใช่ทุกคนที่ไอติมเล็งหรืออยากได้มาเป็นนักแสดงจะตอบรับกับสายงานนี้ ซึ่งเมื่อเป็นแบบนั้นก็ต้องทำใจและปล่อยพวกเขาไป เดินหน้าหาหน้าใหม่ ๆ เข้ามาประดับค่ายและวงการหนังโป๊ ซึ่งไอติมยังคงยืนหยัดแนวคิดที่ว่า ค่ายนี้จะไม่มีฝ่ายรับ มีแต่ฝ่ายรุก นักแสดงชายคนไหนอยู่ในพาร์ทหนังเกย์ก็จะได้แสดงร่วมกับนักแสดงฝ่ายรับนอกสังกัดหรือพวกอิสระเท่านั้น เช่นเดียวกับพระเอกที่แสดงในพาร์ทหนังชายหญิงก็จะได้แสดงกับนักแสดงหญิงนอกสังกัดหรืออิสระ
   

และสิ่งนี้ทำให้ไอติมคิดถูกตรงที่มันเพิ่มมูลค่าและความน่าสนใจให้กับค่ายของลูคัส ในโลกวงการหนังโป๊ ค่ายลูคัสถือว่าเป็นค่ายขนาดกลางที่โดดเด่นไม่แพ้ค่ายใหญ่ ๆ ที่อยู่มานาน ไอติมดีใจที่ทุกคนพากันเดินทางมาถึงจุดนี้ พากันรอดมาจนได้ ไม่ได้ล้มลงกลางทางหรือว่าเจ๊งไปซะก่อนแบบที่กลัวกันไว้
   

“เดน มึงขึ้นไปยืนบนเตียงแล้วถ่ายเขาสองคนได้ป้ะ…” เดนนี่พยักหน้าให้กับคำบอกของเพื่อนและขึ้นไปยืนบนเตียง เล็งกล้องไปที่ฝาแฝดที่ตอนนี้ตัวเปลือยเปล่าไปทั้งตัวแล้ว
   

เดนนี่รับงานเป็นตากล้องทั้งภาพเคลื่อนไหวและภาพนิ่งให้กับค่าย เดนนี่ต้องปรับตัวเยอะมากกับการทำงานในวงการนี้ เพราะไม่เคยทำจึงทำให้ต้องเรียนรู้กันพักใหญ่ ประเด็นสำคัญที่เดนนี่พยายามเรียนรู้คือการห้ามไม่ให้เกิดอารมณ์ทางเพศระหว่างถ่ายนักแสดง แต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้ เดนนี่จึงปล่อยไป ครั้งไหนมันเกิดก็ให้มันเกิด แต่ครั้งไหนไม่เกิดก็สบายตัว


เดนนี่ยังไม่ใช่ตากล้องประจำเหมือนดัสติน เพราะเดนนี่ยังต้องช่วยกิจการของบ้านอยู่ ซึ่งลูคัสไม่ได้ติดขัด เพราะถึงยังไงก็ใช่ว่าจะมีถ่ายทุกวัน อาทิตย์นึงถ่ายมากสุดก็สี่เรื่อง นอกนั้นก็วันตัดต่อ คิดการตลาด และพักผ่อนตามอัธยาศัย


“ไบรอั้นมันไปมัลดีฟส์เหรอ” ลูคัสถามไอติมระหว่างที่เดนนี่กำลังถ่ายภาพพอร์ตเทรตให้ฝาแฝดตรงฉากแบ็คกราวด์สีขาว ไอติมหันไปยิ้มอ่อนให้ลูคัสแล้วพยักหน้าหนึ่งครั้ง


“ไปหนึ่งอาทิตย์ฮะ แล้วก็อาจจะไปต่อที่อื่นด้วย” ลูคัสมองไอติม เห็นว่าอีกฝ่ายมีสีหน้าเรียบเฉย สายตามองการทำงานตรงหน้าด้วยความปกติ


“เราไปเที่ยวกันมั่งมั้ยล่ะ ชวนกันทั้งค่ายนี่แหละ ใครว่างก็ไป ใครไม่ว่างก็ไม่เป็นไร” ไอติมหันไปยิ้มกว้างกับลูคัส


“ก็ดีนะฮะ แต่แซ็คก็ไม่ได้ไปด้วยน่ะเหรอ” ลูคัสเบะปาก


“ช่างหมอนั่นสิ ยังไงเขาก็ได้ไปเที่ยวมัลดีฟส์อยู่แล้วนี่”


“ใครไปมัลดีฟส์วะ” เดนนี่ที่เดินไปเช็กภาพบนหน้าจอแม็คบุ๊กโปรถามไอติมเป็นภาษาไทยโดยที่ไม่ได้มองหน้าคนถูกถาม สายตากำลังจับจ้องภาพของฝาแฝดบนจอ ไอติมหันไปหาสองแฝดแล้วบอกว่าเดี๋ยวจะไปถ่ายตรงฉากสีน้ำเงินอีกห้องหนึ่งแล้วก็สวนด้านนอก เจมส์เดินเอาผ้าขนหนูเข้าไปยื่นให้สองแฝดรับไปพันช่วงล่าง ไอติมหันกลับไปมองเดนนี่ที่ยืดตัวขึ้นสูงแล้วหันมามองเขาพอดี


“แซ็คอะ” เดนนี่ย่นคิ้ว


“อ้าว แล้วมึงไม่ไปกับเขาล่ะ”


“ไปได้ไงอะ เขาไปกับสาว” เดนนี่ย่นคิ้วอีกที หันไปมองฝาแฝดพากันเดินออกไปจากห้องแล้วหันกลับมาหาไอติม


“เดี๋ยวคุยกัน” เดนนี่เดินตามออกไป ไอติมหันไปหาลูคัส


“ผมสนใจเรื่องทริปนะฮะ ไปพักผ่อนก็ดีเหมือนกัน ถือว่าเป็นทริปทัวร์กับบริษัท”


“ดีล” ลูคัสยกมือซ้ายขึ้น ไอติมยื่นมือขวาไปแตะมือกับลูคัส เจ้านายไอติมกุมมือครีเอทีฟคนเก่งก่อนเดินจูงมือกันออกไปข้างนอก

V
v
v

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
V
v
v


“เดน แน่ใจเหรอ” สีหน้าของไอติมไม่แน่ใจตามคำถาม


“กูอะแน่ใจ มึงล่ะ”


“มันก็ได้แหละ ยังไงกูกับมึงก็ได้กันแล้ว แล้วก็ มึงก็ยังโสด กูก็ยังถือว่าโสดแหละมั้ง”


“มึงโสด มึงยังไม่ได้คบกับมันอย่างที่มึงบอกไง ถ้ามึงจะมีกูอีกคนก็ไม่เป็นไร มันยังมีเลย” เดนนี่พูดเสียงเข้ม สายตามองจอทีวีในอพาร์ทเม้นต์ของไอติมกับแซ็คตาวาววับราวกับจอทีวีตรงหน้าคือแซ็ค


“มึงยังไม่ลืมข้อเสนอนั้นอีกเหรอเนี่ย” ไอติมมองด้านข้างเดนนี่แล้วยิ้ม


“ไม่ลืม แซ็คมันเปิดโอกาสให้กูเอง ก็ทำให้มันรู้ไปเลยว่ามึงก็มีทางเลือก” ไอติมยิ้มขำ ยื่นหน้าไปหอมแก้มซ้ายของหนุ่มลูกครึ่ง เพื่อนสนิทของกระจ่ายตัวจ้อยหันมามอง


“ถามจริงเดน มึงชอบกูรึเปล่า” เดนนี่มองตาไอติมนิ่ง เดนนี่ไม่ตอบคำถามนั้นแต่ยื่นหน้าเข้าไปประทับริมฝีปากตัวเองลงบนริมฝีปากสีแดงของไอติมอย่างอ่อนโยน


แกร๊ก!


“Hey!” เสียงดังขึ้นจากตรงประตู ไอติมกับเดนนี่ผละออกจากกัน เดนนี่เงยหน้าขึ้นมอง ไอติมหันหลังไปมองก็เจอแซ็คยืนหน้าตึงก่อนใช้เท้าซ้ายถีบประตูดังปัง เจ้าของบ้านลากกระเป๋าเดินทางเข้ามาวางตรงตู้เย็น และวางกุญแจห้องไว้บนเค้าน์เตอร์บาร์แล้วก้าวเท้ามายืนใกล้กับโซฟาห้องโถง


“Why did you let him in, bunny? (ให้เขาเข้ามาได้ยังไงบันนี่)”


“Denny came to stay with me, (เดนนี่มาอยู่เป็นเพื่อนผม…)”


“While you were with another woman at Maldives. (…ช่วงที่คุณไปอยู่กับผู้หญิงคนอื่นที่มัลดีฟส์)” เดนนี่พูดแทรกประโยคจนจบและมองตาของแซ็คสงบนิ่งด้วยความไม่สะทกสะท้านใดๆ


แซ็คพ่นลมหายใจ สีหน้ายังตึง ๆ อยู่ “Then you can go back now. I’m already here. (งั้นก็กลับไปได้ละ ฉันกลับมาแล้ว)”


“He can’t. He will spend the night at here. (กลับไม่ได้หรอก เดนนี่จะนอนนี่)” ไอติมชิงพูดก่อนที่เดนจะพูด แซ็คขมวดคิ้วหน้าตาไม่พอใจ


“He has the car. Let him back to his brother’s dorm. (เขามีรถนี่ ให้เขากลับไปหอน้องชายเขาสิ)”


“I want to stay with my boyfriend. (ผมอยากนอนกับแฟนผม)” แซ็คชะงัก มองท่านั่งของทั้งสองคนให้ชัด ๆ ก็เห็นว่าไอติมนั่งพิงเดนนี่โดยที่เดนนี่กำลังกอดคอไอติม


“Boyfriend? What the heck? (แฟน? นี่มันห่าอะไรกัน)” แซ็คพูดด้วยความหงุดหงิดทั้งน้ำเสียงและหน้าตา ไอติมมองด้วยสายตาปราม แซ็คขบกรามแน่น พยายามระงับความขุ่นเคืองในอก


“You have that chic widow. Ice-cream has me. It’s a balance. (คุณมีเจ๊แม่ม่าย ไอติมมันก็มีผม มันคือความสมดุล)” ใบหน้าของแซ็คเรียบตึง


“ฉันไม่ได้มีเธอ เธอไปแล้ว ฉันขาดเธอได้ ไม่ใช่นาย ไอศกรีม” ไอติมยังคงนิ่ง ไม่มีอาการหวั่นไหวทั้งแววตาและสีหน้า ไอติมลุกขึ้นเดินไปยืนตรงหน้าแซ็คช้าๆ


“ถึงยังไงเดนนี่ก็จะอยู่ ผมตกลงคบกับเขาไปแล้ว ถ้าคุณรับไม่ได้ ผมยินดีออกไปอยู่กับเดน แต่ถ้าคุณโอเค เราจะอยู่ด้วยกันสามคน” แซ็คมองไอติมด้วยความตะลึง เลื่อนสายตาไปมองเดนนี่ที่ยักคิ้วกลับมา สีหน้าที่เรียบตึงตอนแรกของแซ็คเปลี่ยนเป็นความหงุดหงิดทันที


“ไอศกรีม นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นหรือประชดประชันนะ” ไอติมมองแซ็คตาไม่กะพริบ


“ผมไม่ได้ล้อเล่น และถ้าคุณรู้จักผมมากพอ คุณจะรู้ว่าผมไม่เคยประชดประชันคุณเลยสักครั้ง” แซ็คมองไอติมด้วยความสับสน หัวใจหล่นวูบไปไหนต่อไหน


“ไอศกรีม ฉันหาความชัดเจนเจอแล้วตามที่นายบอก แต่ทำไม…”


“…คุณควรรู้ไว้นะแซ็ค คุณไม่ใช่คนเดียวที่มีทางให้เลือกไป ไอติมมันก็มีเหมือนกัน และทางนั้นก็คือผม” เดนนี่พูดแทรกขึ้นน้ำเสียงราบเรียบ แซ็คไม่ได้มองเดนนี่เลย สายตาของเขามองไอติมด้วยความเจ็บปวดและความหวาดกลัว ไอติมหันมองทางอื่นเพื่อหลบสายตาของแซ็ค


“แล้วถ้านายคบกับหมอนั่น แล้วฉันล่ะ ฐานะอะไร” หัวใจไอติมวูบวาบ หันไปมองแซ็คที่มองกลับมาด้วยความเศร้า ไอติมตีหน้านิ่งแต่แววตานั้นสั่นไหว


“เราก็ยังเป็นเหมือนเดิม เรารักรัก ดูแลกัน หวังดีต่อกัน และยินดีต่อกันเมื่อใครเจอคนที่ใช่” แซ็คมองตาไอติมด้วยความหมดหวัง แววตาของเขาเป็นแววตาเดียวกันกับตอนที่เขาอยู่ในช่วงแย่ทั้งร่างกายและจิตใจ


“ทางเลือกฉันตอนนี้คือให้นายอยู่กับฉัน…” แซ็คพูดเสียงแผ่วเบา ขยับเท้าเข้าไปใกล้กับไอติมที่เบ้าตามีน้ำตาคลอ


“…ได้ ไอศกรีม เราจะอยู่ด้วยกันสามคน” แซ็คดึงไอติมเข้ามากอด หลับตาลงด้วยความเจ็บใจและต้องทำใจ พอลืมตาขึ้นก็มองสบตากับเดนนี่ที่นั่งนิ่งยักคิ้วเย้ยเขา แซ็คขบกราม สองมือกำแน่น อาการไม่ชอบขี้หน้าเพื่อนสนิทของกระต่ายตัวจ้อยพุ่งพล่านอยู่ในอก


เขาพลาดที่ไปดึงมันเข้ามาเองทั้ง ๆ ที่กันมันไม่ให้เข้าใกล้กระต่ายของเขาแทบตาย







เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้


 :mew5:


ออฟไลน์ atitayalnw

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
จุก คำนี้คงอธิบายความรู้สึกตอนนี้ได้ดีสุด
ว่าแล้วไงอิคลื่นใต้น้ำของคุณตอมพร้อมน็อคเราเสมอ
น้องติมต้องเจ็บจนชาขนาดไหน ถึงเป็นน้องติมที่โนสนโนแคร์ขนาดนี้
เหมือนถูกชกตรงลิ้นปี่ตอนแซ็คเปลี่ยนไปและหวั่นไหวต่อแม่ม่ายคนนั้น
มันอึดอัดไปหมด โชคดีที่น้องติมเข้มแข็งนี่เลยไม่ดิ่งมากเท่าไหร่
ไม่แปลกใจที่น้องติมเลือกคบกะเดนนี่ น้องไม่ได้ทำเพื่อประชดดูจากอาการแล้ว
คือน้องพร้อมเดินจากมาจริงๆ กลัวใจแทนแซ็ค เพราะไม่รู้ว่าน้องจะทนได้ถึงเมื่ิอไหร่
มันไม่มีสัญญาณเตือนใดๆทั้งสิ้น อารมณ์มันหลากหลายตีกันไปหมด. สงสารแซ็คนะ
แต่มันก็เป็นผลจากการกระทำของนางทั้งนั้น โอ๊ยหัวใจชั้น ปกติคือต้านทานต่อดราม่าต่ำมาก
พยายามไม่อ่านเรื่องดราม่า แต่พอเป็นนิยายคุณตอม. เออคุ้มที่จะเจ็บ รอตอนต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ poshbear

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
เราว่ามันไม่จบง่ายๆ แค่นี้แน่ รู้สึกว่ามันจะหนักกว่านี้55

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
เฮ้อ...ออออออออออออออออออออออออออออออออออ   :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ติมลูก  ลัลลาได้ตอนเดียว สลดอีกแล้วตอนนี้  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ Ti0590

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
พูดไม่ออกเลยยยยย

ออฟไลน์ Pamaipraewa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
แต่เรากลับมองอีกแบบแฮะ

รู้สึกว่าไอติมก็ไม่ได้มีความมั่นคงอะไรให้แซ็คเลยอ่ะ แซ็คขอคบก็ไม่ให้คบ แต่จู่ๆก็ไปตกลงคบกับเดนนี่เฉย งง ทำไมต้องปฏิเสธแซ็คตลอด

ถ้าไอติมยอมคบกับแซ็ค บางทีแซ็คอาจจะไม่ต้องไปหาความมั่นคงอะไรที่อื่นแล้วก็ได้

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
รอบนี้น้องหนู ทำได้ดีมาก :katai2-1:

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
ทางเลือกที่2คนเลือกมาแบบนี้นี่ได้แต่หวังว่าคือการดัดหลังแซคในตอนนี้ เพราะแซคมันก็กำลังหลงผญมากเกินทั้งๆที่สัญญาไว้กับไอติมแล้ว(อันนี้น่าตบ) จริงที่ว่าอาจทำให้แซคมันทุรนทุรายได้ แต่.....กลัวนะว่าระหว่างไอติมกับเดนนี่จะมีคนหนึ่งที่จริงจังกับความสัมพันธ์นี้ไม่อยากให้มีคนเจ็บปวดกับความรักเลย

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8

ปัจจุบัน

New York, South Manhattan เวลาตามไทม์โซน



   
“And are you going to leave me, at the end? (ท้ายที่สุดแล้ว นายจะไปจากฉันมั้ย)” น้ำเสียงที่ถามนั้นเบาหวิวจนแทบไม่ได้ยิน แต่เพราะคุยกันแค่สองคนจึงทำให้ไอติมได้ยินทุกคำ ไอติมยกยิ้ม เป็นยิ้มที่แซ็คเคยเห็นมาแล้ว
   

เห็นก่อนที่ไอติมจะเดินจากไปในตอนนั้น 
   

[We don’t know the future. (เราไม่รู้อนาคตหรอก)] แซ็คกลืนน้ำลายลงคอ รู้สึกในอกกลวงโบ๋ว่างเปล่าแปลกๆ
   

“I’m afraid again. (ฉันกลัวอีกแล้ว)” ไอติมกระตุกยิ้ม เป็นรอยยิ้มนิ่งสงบ แบบที่แซ็คเห็นแล้วก็รู้สึกนิ่งจนเหมือนเป็นเหน็บชาเพราะคำพูดของอีกฝ่าย 
   

“You should. (ก็สมควร)”
   

ไอติมกดตัดสัญญาณไปแล้ว ทิ้งความหนักอึ้งไว้ในสมองและในใจของแซ็ค เขานั่งนิ่งอยู่กับที่ครู่ใหญ่โดยที่ไม่ได้มีความคิดอะไรไหลผ่านในหัว ไม่ได้มีความรู้สึกนึกคิดอะไรเป็นพิเศษ เป็นการนั่งเพื่อปล่อยให้ทุกอย่างมันตกตะกอนแล้วก็รอเทออกทีเดียวเพื่อที่จะได้โล่ง
   

Ringgg!
   

มีสายเรียกเข้า แซ็คยกโทรศัพท์ในมือขึ้นมาดูก็เห็นว่าเป็นเจค็อบโทรมา แซ็คพ่นลมหายใจ สีหน้าออกอาการรำคาญ แต่ก็กดรับสายแล้วก็เปิดลำโพง วางโทรศัพท์ไว้ข้างตัวเอง
   

“มีอะไร”
   

[นายอยู่นิวยอร์กงั้นเหรอ]
   

“ใช่”
   

[ไปทำอะไรล่ะ] แซ็คยิ้มเยาะ
   

“ฟิตเนสที่นี่เชิญฉันมาเป็นเทรนเนอร์ระยะสั้น ต้องขอบคุณนายนะ ที่ทำให้ฉันมีชื่อเสียงขึ้นมา” แซ็คได้ยินอีกฝ่ายหัวเราะในลำคอ และเขารู้ว่าเจค็อบไม่ได้สะทกสะท้านนักหรอก
   

[งั้นฉันก็ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่มีส่วนทำให้นายโด่งดัง จากเทรนเนอร์ธรรมดา ๆ กลายมาเป็นเซเลบริตี้เทรนเนอร์ที่ฮ็อตที่สุดในตอนนี้] แซ็คยิ้มกริ่ม ไม่สะทกสะท้านกลับบ้าง
   

“ขอบคุณที่ปล่อยข่าวเรื่องฉันเล่นหนังโป๊ ทั้งที่นายรับปากไว้แล้วว่าจะไม่ทำเกินสัญญาที่เราคุยกัน” เสียงหัวเราะดังมาตามสาย เป็นเสียงหัวเราะสุขุมและยังคงสงบ
   

[ถ้าฉันไม่ปล่อยข่าวจนนายเกือบไม่มีคนจ้าง…] แซ็คยิ้มมุมปาก


[…แล้วพระเอกชื่อดังคนนั้นจะมาจ้างนายไปเป็นเทรนเนอร์ส่วนตัวจนนายโด่งดังขนาดนี้เหรอ] 
   

“ฉันถึงได้ขอบคุณนายอยู่นี่ไงล่ะเจค นี่ความดีความชอบของนายเลยนะ” แซ็คเบะปาก ทั้งนึกขอบคุณเจค็อบจริง ๆ และนึกเจ็บใจในเวลาเดียวกันกับสิ่งที่เขาทำ


ช่วงเวลานั้นไม่ได้หนักหนาเท่าไหร่ แต่ทว่าก็ไม่ราบรื่น แซ็คไม่ได้ว่าจำฝังใจ หรือปล่อยมันไป ก็เป็นเหตุการณ์หนึ่งในชีวิตที่เขาสามารถนำกลับมาพูดได้อย่างสบาย ๆ ไม่ได้จิตตก อาจเพราะเขาโชคดีที่ได้แฟนของแมท หนุ่มไทยคนหนึ่งที่เขาบังเอิญรู้จักตอนบินไปหาไอติมที่เมืองไทย ซึ่งแฟนของแมทเป็นพระเอกชื่อดังในวงการภาพยนตร์ฮอลลีวูด ตัวเขากำลังดิ้นรนอย่างหนักกับการเริ่มเต้นเส้นทางใหม่ แล้วก็ได้นักแสดงคนนั้นยื่นมือเข้ามาช่วย ด้วยการให้เขาเป็นเทรนเนอร์ส่วนตัว เลยทำให้เขาเป็นที่รู้จักและเป็นที่ต้องการ จากที่ต้องดิ้นรนสู้หนักหน่วงกลายเป็นว่ามันได้เปิดทางและโอกาสให้เขามากมาย


[ฉันขอรับความดีนี้ไว้ด้วยความยินดี] แซ็คยิ้มหึ นึกหมั่นไส้กับอาการชอบทำคูลทำเท่ของเจค็อบ แต่ก็ต้องยอมรับว่าเจค็อบเป็นพวกเก็บอาการได้เก่งและสติมั่นคงมาก แต่จิตใจนั้นไม่ค่อยจะปกติ 


“แล้วนายมีอะไร”


[ลูกค้าน่ะ]


“คนนี้พิเศษยังไงถึงขนาดต้องโทรมา”


[เขาเป็นคนสุดท้ายแล้ว พิเศษพอมั้ย] แซ็คชะงัก ในหัวเกิดอาการวิ้งประหลาด เหมือนมีอะไรกระแทกใส่หัวจนรู้สึกโงนเงน เขาคลำหาสติในหัวตัวเองสักพักจนเจอถึงได้พูดโต้ตอบกลับไปได้


“คนสุดท้ายแล้ว?”


[ใช่ ดีใจหรือเสียใจล่ะ…] แซ็คกำลังครุ่นคิด เพราะเขากำลังนึกได้ว่าตัวเองลืมจำวันเวลาของระยะเวลาสัญญา คือเขาจำได้ แต่ว่าเหมือนตัวเองจะไปจำว่ามันยืดออกไปกว่านี้


[…นายกำลังจะใช้หนี้หมด สัญญากำลังจะสิ้นสุด แต่ตัวนายจะสิ้นสุดไปตามสัญญาหรือเปล่าอันนี้แล้วแต่นายเลย] แซ็คเม้มปากแล้วพ่นลมหายใจแผ่วเบา ก่อนจะทำหน้าเอือมเมื่อได้ยินเสียงเจค็อบหัวเราะ


หัวเราะราวกับรู้ทัน


“ส่งข้อมูลมาตามเดิมนั่นแหละ” แซ็คตัดบท เพราะไม่อยากพูดกับจเค็อบยาวๆ


[ไม่ต้องหรอก นายคุ้นเคยกับเธออยู่แล้ว] แซ็คขมวดคิ้ว ความรู้สึกระแวงโอบล้อมตัว


“หมายความว่าไง”


[ก็เคยไปเที่ยวมัลดีฟส์ด้วยกันไม่ใช่เหรอ ครั้งนี้เธอจะไปเที่ยวไทยกับนายด้วย] แซ็คนิ่ง ใบหน้าอึ้งกิมกี่ ปากค้างราวกับคนใบ้พูดไม่ออกเพราะไม่รู้จะพูดอะไร


[แต่ถ้านายอยากปฏิเสธ ฉันก็ไม่ว่า แล้วแต่เลย ตัดสินใจเอาแล้วกัน ได้คำตอบยังไงโทรบอกเธอเอาเองนะ] เจค็อบวางสายไปแล้ว ทิ้งความรู้สึกหนักอึ้งไว้ให้แซ็คอีกรอบทั้งที่ก่อนหน้านี้เหมือนจะเทออกไปจากตัวจนหมดแล้ว




‘ฉันนึกว่าใจเธอจะตรงกับฉันซะอีก’


‘ผมเชื่อว่าเรารู้สึกดีต่อกันเหมือนกัน แต่…” แซ็คเม้มปาก ก้มหน้ามองพื้นครู่หนึ่งก่อนเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าสวยคมของหญิงสาวอายุคราวแม่ของเขา


'…ผมไม่ได้รักคุณ’


‘จริงเหรอ’ แซ็คสบตากับเธอแล้วเงียบ หญิงสาวมองกลับมาด้วยสายตาที่มองแล้วมักทำให้เขาอุ่นในใจอย่างประหลาด แต่เขาไม่ตอบคำถามของเธอ และไม่คิดทบทวนคำพูดนั้นของตัวเอง


เขาไม่อยากทบทวนมันซ้ำเพราะมันอาจจะได้คำตอบใหม่


‘เราพบกันเท่านี้แหละ’







“Hi, Lukas and Dustin. Welcome to Thailand! (สวัสดีฮะลูคัสแล้วก็ดัสติน ยินดีต้อนรับสู่ไทยแลนนนด์!)” กระต่ายตัวจ้อยกล่าวเสียงสดใสแล้วพุ่งตัวเข้าไปกอดดัสตินเป็นคนแรก ตากล้องหนุ่มกอดตอบแล้วตีก้นไอติมไปที


“ไอ้ไบรอั้นมันเก่งจริง ๆ ปั้นหุ่นให้นายซะน่ากินไปทั้งตัว” ดัสตินมองไอติมด้วยสายตาชื่นชมก่อนหันไปยกนิ้วโป้งให้แซ็คด้วยความชื่นชมเช่นกัน แซ็คยิ้มเท่และยักคิ้วสองข้าง


“Hi, daddy!” ไอติมหันไปทักคุณพ่อที่เป็นเจ้านายของตัวเอง ลูคัสอ้าแขนกว้างและย่อเข่าลง ไอติมหัวเราะแล้วพุ่งตัวเข้าไปกอดลูคัส หนุ่มกล้ามใหญ่โอบสองแขนรอบตัวไอติมแล้วยืดตัวขึ้นจนทำให้ไอติมลอยขึ้นไปด้วย


“I miss you so much, my daughter. (คิดถึงมากเลยลูกสาวพ่อ)” ไอติมยิ้มตาหยี ลูคัสหอมแก้มไอติมไปหนึ่งฟอด ไอติมหอมแก้มลูคัสกลับบ้าง


และแม้จะเห็นสองคนนี้ชอบแสดงความรักราวกับเป็นพ่อลูกกันจริง ๆ จนบ่อยแล้ว แต่แซ็คก็ยังคงกลอกตาและทำหน้าเอือมจนดัสตินขำ


“เฮ้ คุณพ่อพอได้แล้วมั้ง ให้สามีของลูกได้ทักทายภรรยาเขาบ้าง” ลูคัสหันมองแซ็คแล้วขำพร้อมกับปล่อยไอติมลงยืนบนพื้น ไอติมเดินยิ้มกว้างเข้าไปหาแซ็คแล้วยกสองมือขึ้นประกบแก้มของพ่อฝรั่งหน้าบึ้ง


“คุณได้บ่อยและเยอะกว่าสองคนนั้นอีก แบ่งกันบ้างน่า” ไอติมแกล้งแซว แซ็คเบะปากแล้วก้มลงจูบปากไอติมไปที ไอติมหัวเราะในลำคอเสียงเบา


“อ้าว เฮ้ อยู่ที่นี่ด้วยเหรอเดนนี่” แซ็คเงยหน้าขึ้นมองบุคคลที่เพิ่งเดินลงบันไดมาจากชั้นสองในสภาพเปลือยท่อนบน ด้านล่างใส่บ็อกเซอร์สีน้ำเงินขาสั้น และสภาพเส้นผมราวกับคนเพิ่งตื่น


“มาตั้งแต่เมื่อวานนี้น่ะ” เดนนี่ตอบดัสติน ตากล้องคู่หูคู่ใจ แต่กว่าจะกลายมาเป็นคู่หูและรู้ใจกันก็ผ่านการเรียนรู้สไตล์ของแต่ละคนและจังหวะใครจังหวะมันอยู่นานเช่นกัน


“ทริปนี้ลูกสาวฉันพกสามีไปทั้งสองคนเลยเหรอ” ไอติมยิ้มกว้าง ส่วนแซ็คหน้าบึ้งเหมือนเดิม


“ก็มีสองคนนี่ฮะ เอาไปคนเดียว อีกคนก็น้อยใจแย่” ไอติมไหวไหล่ขวาหนึ่งครั้งและทำหน้าประมาณว่าสวยเหลือเกินก่อนจะหัวเราะตัวเอง ทำเอาลูคัสและดัสตินหัวเราะไปด้วย


“เอาของขึ้นไปเก็บข้างบนมั้ย ผมจัดห้องไว้ให้แล้ว” เดนนี่บอก ลูคัสกับดัสตินตอบรับ ยกกระเป๋าเป้กับกระเป๋าเดินทางของตัวเองขึ้นมา


“กูกินข้าวก่อนนะ กูหิว” เดนนี่บอกไอติม เจ้าของบ้านพยักหน้าและเดินนำทั้งสามหนุ่มขึ้นบันไดไป แซ็คที่เดินรั้งท้ายมองหน้าเดนนี่ด้วยความเซ็ง เดนนี่ยิ้มมุมปากแล้วยักคิ้ว


“อะไรกัน อยู่ด้วยกันมาสองปีแล้วนะ ยังไม่เลิกเกลียดหน้าผมอีกเหรอ” แซ็คพ่นลมหายใจ


“อย่าเพิ่งขึ้นไป ฉันขอเวลาคุยกับไอศกรีมก่อน” เดนนี่ยักคิ้วพร้อมกับผายมือซ้ายไปทางบันได แซ็คเป็นคนเดียวที่เอากระเป๋าเป้ใบเล็กมาใบเดียว เพราะเขามีเสื้อผ้าและของต่าง ๆ เก็บไว้ที่บ้านไอติม


แซ็คเดินตามขึ้นไปบนบ้าน ไอติมกำลังแนะนำอีกสองหนุ่มที่เพิ่งเคยมาบ้านตัวเองว่าจะต้องทำอะไรยังไงบ้าง ลูคัสกับดัสตินนอนห้องเดิมที่เลโอเคยนอน แต่ดัสตินขอลงไปนอนข้างล่างเตียงเพราะไม่อยากเบียดกับลูคัสที่ตัวใหญ่จนแทบจะเกินครึ่งเตียง ดีที่ไอติมเตรียมเตียงปูพื้นไว้ให้อยู่แล้ว


“ถ้ามีอะไร ห้องผมอยู่ตรงข้ามนะครับ เคาะเรียกได้เลย แล้วก็ถ้าหิวข้าว ลงไปกินกับเดนนี่ได้ ผมเตรียมอาหารไว้แล้ว” ไอติมเดินกลับไปห้องนอนตัวเอง เปิดประตูเข้าไปก็เจอแซ็คนั่งพิงพนักโซฟามองเหม่อไปยังประตูระเบียง ไอติมเดินไปนั่งข้างแซ็ค พ่อฝรั่งหันมามองด้วยสายตาเอื่อยเฉื่อย ไอติมยกมือซ้ายขึ้นไปจัดทรงผมของแซ็คให้เป็นระเบียบ


“ทรงผมนี้เข้ากับคุณ” แซ็คแค่นยิ้ม ก้มหน้าลงมองตักตัวเอง


“ดูมีอะไรในใจนะ” แซ็คหันหน้าขึ้นมองไอติม สายตาเหม่อผ่านใบหน้าไอติมไปทางอื่นแล้วพึมพำเสียงเบา


“ลูกค้าคนสุดท้ายแล้ว…” ไอติมยิ้มอ่อนและพยักหน้า แซ็คเลื่อนสายตามองไอติมแล้วพูดต่อ


“…เป็นเธอคนนั้น อีกครั้ง” ไอติมนิ่งพักหนึ่งแล้วก็พยักหน้าอีกครั้ง


“แล้ว?”


“เธอจะตามมาที่เมืองไทย เราจะไปพบกันอีกครั้ง และเป็นครั้งสุดท้าย”


“ครั้งสุดท้ายในฐานะผู้ซื้อกับผู้ขาย แต่ไม่ใช่ในฐานะคนรักกัน” สายตาของแซ็คสั่นไหว


“บันนี่ ไม่ใช่”


“ผมไม่รู้หรอกว่าใช่มั้ย แต่จากตอนนั้นที่คุณเจอเธอจนถึงวันนี้ก็เกินปีแล้ว คุณยังดูหนักใจและไม่แน่ใจเรื่องเธออยู่เลย…” แซ็คกลืนน้ำลายลงคอ ไอติมมองแซ็คด้วยความนิ่งสงบ


“…นี่คือสิ่งที่เจค็อบต้องการให้เกิดขึ้น และมันเกิดขึ้นแล้ว คุณรักเธอ” แซ็คขมวดคิ้ว


“ไม่ ไม่ใช่ คือฉัน…” แซ็คสูดลมหายใจเข้าปอด สีหน้ากำลังนึกคิด คิดว่าจะบรรยายออกมายังไงดี


“…ฉันยอมรับว่าพอรู้ว่าจะได้เจอกับเธออีก ฉันรู้สึกหวั่นใจ ไม่แน่ใจอะไรหลายอย่าง แต่ฉันแน่ใจว่าฉันไม่ได้รักเธอ ไม่งั้นฉันจะผ่านช่วงเวลาสองปีกว่านั้นมาได้ยังไง!” แซ็ครู้สึกหงุดหงิดนิดหน่อย


“คุณกับเธอก็ไม่ต่างอะไรกับพวกถ่านไฟเก่านั่นแหละ ถ้าได้เจอกันอีกครั้ง ไฟก็ลุกท่วมอีกรอบ” แซ็คระบายลมหายใจออกทางจมูกยาวๆ


“ฉันแค่อยากระบายให้นายฟัง แล้วก็…” แซ็คมองไอติมด้วยสายตาหม่น แต่ริมฝีปากกำลังฝืนยิ้ม


“…ฉันอยากให้นายหึงฉันบ้าง” ไอติมที่ตีหน้าเรียบเฉยและแววตาไร้ความรู้สึกชะงักกึก มองแซ็คด้วยงุนงงปนความตะลึง แซ็คยกมุมปากขึ้นเป็นรอยยิ้มเศร้า


“นายเอาแต่บอกว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกัน ในขณะที่นายเป็นแฟนกับเดนนี่”


“เราเป็นคนที่รักกันไง” แซ็คยิ้มขื่น


“นายไม่เคยแสดงออกเลยว่าหึงและหวงฉัน แต่กับเดนนี่ แค่เขาเอ่ยปากว่าอยากเล่นหนังโป๊บ้าง นายก็โกรธเขาไปตั้งหลายวัน…” ไอติมกลับมานิ่งอีกครั้งและรอฟังแซ็คพูดต่อ


“…นายแข็งแรง แข็งแกร่ง แล้วก็แข็งกระด้างใส่ฉันมากรู้มั้ย”


“มันยากกับผมมากเหมือนกันรู้มั้ย…” แซ็คหันมองไอติม กระต่ายตัวจ้อยถอนหายใจ


“…ผมรักคุณ เพราะอะไรผมก็หาเหตุผลที่ชัดเจนไม่ได้ แต่ผมรัก ผมเข้าใจในอาชีพของคุณ แบบที่ผมเข้าใจจริง ๆ ในส่วนการทำงาน และผมก็เข้าใจเรื่องอาการทางใจของคุณด้วย…” ไอติมเม้มปาก มองเห็นสร้อยสีทองคล้องคอเขาแล้วก็ยิ้มมุมปากซ้าย


“…ผมหึงคุณสิ ขนาดบางทีถ้านางเอกคนไหนสวยจัด ๆ ผมยังลืมไปเลยว่าตัวเองเข้าใจการทำงานของคุณ…” แววตาของแซ็คสดใสขึ้นจากที่ช่วงแรกดูขุ่นมัว


“…แต่ถ้าผมแสดงออกว่าหวง คุณก็จะไม่ทำงานตามหน้าที่ และไม่ไปทำตามสัญญาของเจค็อบ และผมไม่รู้ว่ามันจะส่งผลอะไรกับจิตใจคุณหรือเปล่า ผมกลัวว่ามันอาจจะทำให้คุณหงุดหงิด หรือรู้สึกถูกกักขังแบบที่คุณเคยเจอมา แล้วมันก็จะวนกลับมาที่ว่าผมรักคุณ ผมเลยกลัวว่าคุณจะทิ้งผมไป” ตั้งแต่ตกลงปลงใจว่าความรู้สึกของทั้งสองคนคือรัก และตัดสินใจจะก้าวเดินไปด้วยกันจนมาถึงวันนี้ ไอติมไม่เคยแสดงออกเลยว่าอ่อนแอ กระต่ายตัวจ้อยยังคงเป็นกระต่ายตัวเดิม น่ารักเหมือนเดิม เพียงแต่ไม่เคยเห็นช่วงเวลาที่เขาอ่อนไหวเลยสักครั้ง น้ำตาของเขามีแค่คลอแต่ไม่เคยไหลออกมา ซึ่งน้ำตาคลอก็ยังไม่ถึงสิบครั้งเลยด้วยซ้ำ


“เหนื่อยรึเปล่า” แซ็คถามพร้อมกับยื่นมือขวาไปจับมือซ้ายของไอติม คนถูกถามส่ายหัว


“ไม่เหนื่อย”


“ต้องถึงขั้นอดทนมั้ย” ไอติมส่ายหัว


“ไม่ ผมอยู่ด้วยความเข้าใจ อยู่ไปตามปกติ ไม่อยากบังคับตัวเองหรือว่าใคร อยากทำอะไรก็ทำ แค่นั้นเอง” แซ็คยิ้มและบีบมือไอติม กระต่ายตัวจ้อยยิ้มตอบ


“ขอบคุณที่อยู่มาด้วยกัน” ไอติมระบายลมหายใจ


“เจค็อบสมหวังมั้ยกับสิ่งที่เขาอยากให้มันเกิดขึ้น กับการที่เขาปล่อยให้เวลาเป็นตัวตัดสินเราสองคน…” แซ็คเลิกคิ้วขึ้นนิดหนึ่ง


“…คุณรักเธอรึเปล่า” แซ็คถอนหายใจ


“ไปครั้งนี้ ฉันคงแน่ใจมากขึ้น” ไอติมพยักหน้า ยกมุมปากเป็นรอยยิ้ม แต่ก็เป็นยิ้มเศร้า


“จริง ๆ ไม่ใช่เธอคนนั้นหรอกที่จ่ายให้คุณอีกครั้ง เพราะช่วงที่ผ่านมา คุณก็ยังเป็นเพื่อนกับเธอมาตลอด เพียงแต่ไม่ได้พบกันเพื่อทำอะไรแบบนั้นอีก…” แซ็คพยักหน้าด้วยความรู้สึกอึน


“…เจค็อบคงอยากเล่นบทพระเจ้าอีกตามเคย ขึ้นอยู่กับคุณแล้วว่าจะตอบรับประสงค์ของพระเจ้ามั้ย” แซ็คบีบมือไอติม สบตากับไอติมอย่างแน่วแน่


“ฉันขอไปนะ” ไอติมพยักหน้าอย่างไม่มีลังเล ไอติมไม่เคยขัด ไม่เคยขวาง ไม่เคยงอน ไม่เคยสอบถามถึงหากวันไหนแซ็คไปพบกับลูกค้าเหล่านั้น ไอติมปล่อยให้มันหายไปจากชีวิตประจำวัน ไม่นับมันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต


“จะไปก่อนทริปหรือหลังล่ะ”


“ขอไปเที่ยวกับนายก่อนก็แล้วกัน” ไอติมพยักหน้าและยิ้มบางก่อนจะพ่นลมหายใจออกมายาว ๆ แซ็คบีบมือไอติมไว้ ไอติมบีบมือใหญ่ของฝรั่งตอบ


แกรก


“คุยกันเสร็จยัง?” รอยยิ้มแซ็คหุบลงแล้วกลอกตาไปที เดนนี่เบะปาก ปิดประตูห้องแล้วเดินไปนอนบนเตียง หยิบหมอนมาวางบนตักหนึ่งใบและเอาแม็คบุ๊กวางทับด้านบนอีกที


“สองคนนั้นลงไปกินข้าวป้ะ” เดนนี่พยักหน้า


“กินกันอยู่ข้างล่างอะ” เดนนี่ตอบพลางกดแป้นพิมพ์รัว ไอติมหันหน้าไปมองแซ็ค


“กินข้าวมั้ย” แซ็คพยักหน้าพร้อมกับลุกขึ้นและดึงให้ไอติมลุกตาม


“เดน กูพาแซ็คไปกินข้าวก่อนนะ” เดนนี่เงยหน้าขึ้นจากหน้าจอแม็คบุ๊กแล้วยิ้มเบ้ปาก


“ไปเถอะ เมื่อคืนกูตวงจากมึงแล้ว” เดนนี่ยักคิ้วให้แซ็ค หนุ่มอเมริกันมองหนุ่มลูกครึ่งด้วยความหมั่นไส้ เดนนี่พยายามกลั้นยิ้มขำ แซ็คจิ๊ปากแล้วพาไอติมที่ขำด้วยคนเดินออกไปจากห้อง

V
v
v

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
V
v
v


ทริปมาทะเลคราวนี้ไอติมมีเดนนี่คอยช่วยอีกแรง ไม่ต้องสรรหาข้อมูลด้วยตัวคนเดียว รอบนี้ไอติมกับเดนพาฝรั่งทั้งสามคนมาเที่ยวเกาะแห่งหนึ่งในจังหวัดกระบี่ อันเป็นเกาะที่สวยเลื่องชื่อลือชา และเป็นเกาะที่ไอติมเห็นรีวิว เห็นภาพในอินเตอร์เน็ตมานาน หาเวลามาหลายครั้งแต่ก็ยังไม่ลงตัว จนสุดท้ายก็ได้มาเพราะเจ้านายของไอติมอยากมาพักผ่อน อันที่จริงลูคัสชวนนักแสดงและทีมงานคนอื่นในค่ายมาเที่ยวด้วย โดยจะออกค่าที่พักให้พรี มีจะบินตามมาอีกเกือบสิบคน แต่ในเกือบสิบคนไม่มีเลโอมาด้วย เพราะอีกฝ่ายจองทริปไปดูแสงเหนือเอาไว้ก่อนจะเกิดทริปเมืองไทย 


“รอบนี้นายเป็นแค่ตากล้องพอ ฉันไม่ได้เจอกับไอศกรีมมาเดือนนึงแล้ว” แซ็คคุยกับเดนนี่เสียงเบาขณะที่กำลังเดินตามไอติมไปบนชายหาด โดยที่กระต่ายตัวจ้อยกำลังพูดกับกล้องหน้าของมือถือที่กำลังอัดวิดีโออยู่


“ไม่รับปาก” เดนนี่ตอบหน้าตาย แซ็คมองตาแทบจะขวาง เดนนี่ยักคิ้วและยิ้มมุมปาก สร้างความขุ่นเคืองให้กับหนุ่มอเมริกันจนคิ้วกระตุกตุบๆ


“เฮ้ สองหนุ่มนั้นทะเลาะอะไรกันอีกแล้วใช่มั้ย” ไอติมยกมือถือขึ้นไปจับภาพสองหนุ่มที่กำลังมีสีหน้าต่างกัน คนนึงบึ้งตึง อีกคนกำลังยิ้มขำ


แฟน ๆ ที่ติดตามแซ็คกับไอติมและเดนนี่จะคุ้นเคยกับภาพสองหนุ่มชอบทะเลาะกัน ใช่แล้ว ทุกคนรู้ว่าทั้งสองคนเป็นแฟนของไอติม ถึงแม้เบื้องหลังกล้อง เบื้องหลังคลิปส่วนตัวของพวกเขาทั้งสามคน ไอติมกับแซ็คจะยังไม่ได้เอ่ยปากคบกันเป็นแฟน แต่ทุกคนก็มองเห็นเป็นอย่างอื่นไม่ได้จากความสัมพันธ์ของทั้งสองคนที่ทุกคนเห็น ซึ่งเลยทำให้หลายครั้งแซ็คก็จะชอบตีเนียนว่าไอติมตอบตกลงคบกับตัวเองไปแล้ว


“มุมนี้ดูเงียบ ๆ คนไม่ผ่านมาดีนะ” ไอติมชี้ตรงกลุ่มโขดหินเกือบสุดหาดที่พวกเขาเดินมา มีต้นไม้แผ่กิ่งก้านให้ความร่มรื่น แต่ทว่าก็มีลำต้นไม้หักพาดลงน้ำ และตามโขดหินจนทำให้ดูรกรุงรัง


“ลองสำรวจดู” เดนนี่บอกพลางเปิดกล้องถ่ายวิดีโอ จับภาพไอติมที่กำลังมองสำรวจพื้นที่ที่จะใช้งาน


“ได้อยู่ แต่โอ๊ะ ถัดไปเหมือนจะมีหาดกว้างอยู่นะ” ไอติมว่าเสร็จก็เดินลุยทะเลเพื่อเดินผ่านกลุ่มโขดหินและเศษต้นไม้หักไปตรงหาดที่ว่า มีสองหนุ่มเดินตามหลัง เดนนี่หันกล้องไปหาแซ็ค หนุ่มอเมริกันสบถคำหยาบใส่หน้ากล้องเสียงเบา


“So rude. (หยาบคายมาก)” เดนนี่หัวเราะ แซ็คเบะปากและก้าวเท้าเดินตามไอติมไปจนถึงตัวกระต่ายที่กำลังยืนมองชายหาดขนาดเล็ก เลยหาดตรงนี้ไปก็เป็นกลุ่มต้นไม้ขึ้นแน่นขนัด


“ร้อนไปรึเปล่า” แซ็คถามและเดินเข้าไปยืนกอดไอติมจากทางด้านหลัง ก้มหน้าลงหอมแก้มขวาไอติมไปที


“เราทาครีมกันแดดมาแล้ว ไม่เป็นไรหรอก…” แม้ปากจะถามว่าร้อนไปรึเปล่า แต่แซ็คก็นั่งลงพร้อมกับดึงกางเกงขาสั้นของไอติมลงไปข้างล่าง ไอติมยกขาสองข้างขึ้นเพื่อให้แซ็คดึงกางเกงออกไปจากขา แซ็คโยนกางเกงของไอติมไปบนก้อนหิน และจับไอติมนั่งลงบนพื้นทราย


“…อ๊า เดี๋ยวทรายเข้ารูตูดนะ” ไอติมหัวเราะเพราะแซ็คจับเขานั่งลงใกล้กับพื้นทรายที่คลื่นซัดมาถึงพอดี แซ็คคลี่ยิ้มแล้วถอดกางเกงออกจนเห็นกางเกงว่ายน้ำสีขาวเนื้อด้านอีกชั้นที่ตอนนี้เป้าทั้งตึงและตุง


“เดนหามุมวางโทรศัพท์ให้ที” เดนนี่ที่กำลังยืนถ่ายวิดีโอทั้งสองคนอยู่ เดินไปหยิบโทรศัพท์มาจากมือไอติมแล้วเอาไปวางตรงก้อนหิน จัดวางจนโทรศัพท์ตั้งเห็นภาพเป็นมุมกว้างแล้วก็เดินกลับไปยืนถ่ายสองคนนั้นต่อ


“อื้อ ไบรอั้น…” ไอติมนั่งแบะขาคุกเข่าบนพื้นทราย สองมือขยุ้มผมแซ็คที่กำลังไซ้คอเขาอย่างอ่อนโยน นิ้วมือข้างขวาแหย่เข้าไปในรูก้นจนไอติมรู้สึกหน่วง แซ็คขยับปากขึ้นจากคอขาว ๆ ไปสู่ริมฝีปากสีแดง ไอติมเปิดปากให้แซ็คสอดลิ้นเข้าไปในปากและกวาดข้างในครู่หนึ่งก่อนที่ปลายลิ้นของทั้งสองคนจะคลอเคลียเกลี่ยไล้กันไปมาจนน้ำฉ่ำเยิ้ม


ซ่า ซ่า ซ่า…


แอว่ก แอว่ก อี้


เสียงคลื่นทะเลและเสียงนกนางนวลร้องดังเป็นแบ็คกราวด์มิวสิคขณะที่สองหนุ่มตัวต่างไซซ์กำลังดูดคลึงลิ้นของกันและกันอย่างอ่อนโยน มือขวาของแซ็คยกขึ้นแบมือไปตรงหน้าของเดนนี่ที่กำลังทำหน้าที่ตากล้องจับภาพทั้งสองคนนัวเนียกันอยู่


“What? I won’t give my dick to you. (อะไร ผมไม่ให้คxxคุณหรอก)” แซ็คหยุดใช้ปลายลิ้นเกลี่ยลิ้นของไอติมแล้วทำหน้าเซ็ง ไอติมที่หน้าแดงก่ำและหายใจแรงขึ้นก้มหน้าซุกไซ้คอแซ็คขณะที่หนุ่มอเมริกันกำลังทะเลาะกับหนุ่มลูกครึ่ง


“ฉันไม่คิดจะขอคxxนายหรอกน่า ของฉันก็มี ฉันจะขอเจลหล่อลื่น” เดนนี่หัวเราะเสียงทุ้มในลำคอ หยิบเจลหล่อลื่นออกมาจากกระเป๋ากางเกงของตัวเองแล้วยื่นให้แซ็ค พระเอกหนังผู้ใหญ่มองเดนนี่ด้วยความเอือม รับขวดเจลมาเปิดฝา บีบของเหลวลงบนฝ่ามือ ปล่อยให้ไอติมไซ้คอดูดคอตัวเองไปเรื่อย


“ขอบใจ” แซ็คยื่นหลอดเจลคืนเดนนี่ หนุ่มลูกครึ่งเก็บใส่กระเป๋าไว้ตามเดิม นั่งลงคุกเข่าถือกล้องถ่ายสองคนนั้นต่อไป แซ็คทาเจลหล่อลื่นลงบนแก่นกายตัวเอง และมีเอาไปทาให้ไอติมตรงช่องทางเข้าด้านหลัง แซ็คครางเสียงเบาตอนที่ไอติมดูดหัวนมข้างซ้ายในขณะที่เขาก็ยัดนิ้วชี้กับนิ้วกลางเข้าไปในรูของไอติม


“มึงไม่เห็นดูดนมให้กูมั่งเลยตอนเอากันล่าสุดอะ” เดนนี่พูดเป็นภาษาไทย ไอติมละจากนมแซ็คหันหน้าไปมองเดนนี่ที่ยิ้มกวน ไอติมแยกเขี้ยว


“กวนตีน”


“Yes ก่วนตีน” เดนนี่กับไอติมหัวเราะเมื่อแซ็คด่าเป็นภาษาไทยด้วยสำเนียงแปล่ง แซ็คเบะปากแล้วบอกให้ไอติมหันหลัง ไอติมทำตามที่บอก คนข้างหลังใช้สองมือดันเสื้อกล้ามขาวขึ้นไปถึงหน้าอก สองมือกอบกุมเต้านมน้อยของไอติมก่อนจะใช้นิ้วชี้ทั้งสองข้างขยี้หัวนมไอติม ในขณะที่ไอติมก็จับแท่งแคร็อทเคลือบเจลยัดเข้าไปในรูก้นตัวเองแล้วก็ดันก้นเข้าหาแซ็คจนแคร็อทเสียบรูมิดด้าม


“อ้า…” ไอติมครางหน้าพริ้ม แซ็คก้มลงดูดคอด้านขวาของไอติมครู่หนึ่งแล้วถอนออก กดหลังไอติมให้โน้มตัวไปข้างหน้า ไอติมก้มตัวลงไปใช้ข้อศอกสองข้างยันตัวเอง เดนนี่ลุกขึ้นยืนและกอดกางเกงออกจนของกลางลำตัวที่แข็งปักเด้งตัวออกมา


“เฮ้ ฉันบอกว่ารอบนี้ฉันขอคนเดียวไง” แซ็คหน้ามุ่ยแต่ก็เริ่มขยับเอวใส่ไอติม


“แค่อมน่า” เดนนี่ไม่รอแซ็คพูดต่อ นั่งลงตรงหน้าไอติม ของแข็งจ่อปากไอติมพอดิบพอดี ไอติมอ้าปากขำก่อนเสียงขำจะหายไปเพราะเดนนี่กดหัวไอติมลงจนแก่นกายอัดเข้าไปเต็มปากไอติม


“นึกถึงตอนเราเอากันบนชายหาดครั้งแรกเลยว่ามั้ย” แซ็คโน้มหน้าลงมาหอมแก้มขวาของไอติม กระต่ายตัวจ้อยปล่อยปากออกจากของเดนแล้วหันไปยิ้มกับแซ็ค


“คลิปนั้นเป็นที่นิยมมากเลย” แซ็คยิ้มกว้าง หอมหน้าผากไอติมไปที


“ไม่จูบปากนะ ไม่อยากได้รสชาติคxxหมอนี่” แซ็คเด้งตัวกลับขึ้นไป เดนนี่ขำเสียงทุ้ม


“ก็กินไปหลายครั้งแล้วป้ะวะ เวลาเงี่ยน ๆ แล้วไอติมอมควxผม คุณจูบมันต่อตั้งหลายหน” ไอติมหันไปมองเดนนี่แล้วหัวเราะ หนุ่มลูกครึ่งยักคิ้ว ไอติมหันกลับไปมองหนุ่มอเมริกันที่หน้าตาถมึงทึงแล้วยกมือขวาขึ้นคล้องคอแซ็คจากด้านหน้า


“โอ๋ววว พ่อแคร็อท อย่าหน้าบึ้งสิ เอาต่อนะ หยุดแบบนี้อารมณ์ไม่ต่อเนื่องเลย” แซ็คมองค้อนเดนนี่ไปทีแล้วก้มลงหอมแก้มไอติม ดึงไอติมออกจากแก่นกายเดนนี่ จับให้ไอติมนั่งข้างบน หันหน้าออกทะเล จากนั้นก็รัวเอวใส่ไอติมจนกระต่ายตัวจ้อยครางไม่เป็นภาษา


สองคนนี้ชอบเถียงกัน ทะเลาะกัน แต่ไม่เคยถึงขั้นชกต่อยแตกหักกัน แม้กระทั่งเอากันอยู่ก็ยังสามารถเถียงกันได้ เลยกลายเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่แฟน ๆ ชอบดู ชอบที่ได้เห็นทั้งสองคนแย่งความรักความสนใจจากไอติม แต่ไอติมก็ฉลาดมากพอที่จะไม่ใส่ไปทุกคลิป นาน ๆ ทีใส่ที แม้จริง ๆ บางคลิปจะมีเถียงกันจริง แต่เวลาตัดต่อไอติมจะตัดออกทุกครั้ง เพราะไม่งั้นคนจะเบื่อเอาได้


เว็บไซต์ส่วนตัวของแซ็คโด่งดังในโลกของหนังโป๊มาก ยอดสมาชิก ณ ปัจจุบันคือเกือบสามพันคนแล้ว รายได้จากเว็บไซต์นั้นเป็นไปด้วยดี แม้ค่าใช้จ่ายในการทำเว็บจะสูง แต่เพราะผลตอบรับออกมาดี เลยทำให้มีเงินหมุนเวียนตลอด ถือว่าปังและเป็นดาวเด่นเช่นที่น้าแพนเคยบอกกับไอติมไว้ว่าถ้าจะทำ ถ้าจะเดินทางนี้ก็ต้องเอาให้ดังและเด่น ซึ่งจากระยะเวลาเกือบห้าปีเต็มที่เปิดเว็บมา ไอติมคิดว่าน่าจะเด่นเป็นดาวพอสมควรแล้ว


ไอติมพยายามช่วยแซ็คต่อยอดแฟน ๆ ให้มากขึ้น ด้วยการพยายามครีเอทคลิปออกมาให้ดูมีเรื่องราวในแต่ละคลิปแบบที่ไอติมชอบ และพอมันเป็นเรื่องของพวกเขาเองเลยไม่ต้องคิดอะไรเยอะ นอกจากจะได้ดูพวกเขาเอากันแล้ว ยังเหมือนได้ดูฉากฟิน ๆ ในซีรีส์สักเรื่อง ซึ่งแต่ละฉากไอติมจะไม่ยัดเยียดมันลงไป ถ้าคลิปไหนไม่มีเลย ก็คือไม่มี


เว็บไซต์ของแซ็คมีคอนเท้นต์ไม่ถึงสิบคอนเท้นต์ มีคลิปแบบเดี่ยวของแซ็ค ทั้งคลิปแบบเบื้องหน้าและเบื้องหลัง มีภาพถ่ายแบบตามแต่ละคอนเซ็ปต์ให้แฟน ๆ ได้สะสม มีคอนเท้นต์แซ็คเอากับผู้หญิงซึ่งเป็นหนังของค่าย และคอนเท้นต์สุดท้ายอันเป็นห้องที่มีราคาสูงกว่าห้องอื่นก็คือคอนเท้นต์เรื่องราวส่วนตัวของทั้งสามคน


ในตอนแรกทาร์เก็ตคอนเท้นต์นี้ก็เป็นกลุ่มชายรักชายทั่วไป แต่หลังจากเข้าปีที่สี่มาได้สักระยะก็พบว่ามีสมาชิกเป็นสาว ๆ มากขึ้น และกลายเป็นทาร์เก็ตหลักไปเลย สองหนุ่มประหลาดใจว่าทำไมสาว ๆ ถึงเข้ามาดู ไอติมเลยอธิบายว่าส่วนมากเป็นสาววาย หรือสาว ๆ ที่ชอบเห็นผู้ชายกับผู้ชายรักกันและได้เสียกันคือยิ่งฟิน แล้วทั้งสามคนอยู่ด้วยกันแบบสามผัวเมียจึงยิ่งน่าสนใจชวนติดตาม


“อูม ออม…” ไอติมดูดเลียแท่งเนื้อสองแท่งสลับไปมาเพื่อดูดเลียน้ำสีขาวข้นของทั้งสองอันที่ติดอยู่ตามส่วนหัวและส่วนเนื้อ ไอติมเงยหน้ายิ้มให้กล้องในมือเดนนี่ทั้งที่รอบปากเลอะน้ำสีขาว แซ็คก้มลงอุ้มไอติมให้ยืนขึ้นแล้วหอมแก้มไอติมไปที เดนนี่หอมแก้มอีกข้างของไอติม กระต่ายตัวจ้อยยิ้มกว้าง เดินไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถือ


“Thank you for watching. I hope you will be enjoying,” ในขณะที่ไอติมกำลังพูด แซ็คก็เดินเข้าไปซ้อนหลังไอติมแล้วก็ดันแคร็อทเข้าไปในรูแดงฉ่ำอีกรอบ


“สองรอบได้ไงเนี่ย” เดนนี่ประท้วง ไอติมที่ตัวสั่นเพราะแรงกระแทกพูดปิดคลิปด้วยความทุลักทุเลแล้วหันตัวไปหาแซ็ค ยกแขนควาคล้องคอเขาไว้


“เดน มานี่สิ” ไอติมเรียกเสียงอ้อน เดนนี่ปิดกล้องแล้วเดินเข้าไปจูบปากกับไอติม และรอบที่สองของทั้งสามคนก็เริ่มต้นขึ้น






เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้



เหลืออีก 2 ตอนจบตอนหลักค่ะ





 :mew1:



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-08-2019 02:58:48 โดย BaoBao »

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
เราสองสามคนก้อดี..ไม่อยากให้เดนนี่เสียใจ   :mew2:

ออฟไลน์ nisaday

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 134
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
สุดท้ายแล้ว อยุ่กัน3คนแบบนี้อาจจะเวิคสุดก็ได้

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด