Passion.12 (ครึ่งแรก)
ในความมืดมิดที่โรยตัวปกคลุมรอบบริเวณ ชายหนุ่มเดินสะเปะสะปะหันซ้ายแลขวาเหลียวมองรอบกายพบเพียงความเงียบว่างเปล่า สองมือป้องปากพยายามส่งเสียงกู่ร้องตะโกนแหวกฝ่าความสงัดเงียบออกไป หวังให้ใครหรือเสียงอะไรตอบกลับมาบ้าง
“ริสา ริสาอยู่ไหน เฮ้!”
วาเลนไทน์ตะเบ็งเสียงตะโกนฝ่าความเงียบเชียบ พลันปรากฏแสงสว่างวาบสาดส่องลงมาตรงหน้าพร้อมภาพอสูรกายขนาดเขื่องนัยน์ตาดุดันเยี่ยงสัญชาติญาณนักล่าที่จดจ้องมายังเขา วาเลนไทน์ผงะ ร่างกายชะงักงันอ้าปากค้าง ไม่เพียงเท่านั้น เมื่อปรากฏภาพนักล่าตัวแรก ภาพนักล่าตัวต่อๆมาก็พลันฉายปรากฏขึ้นต่อเนื่องรายรอบกาย ดวงตามาดร้ายต่างมองตรงมาที่เขาเป็นตาเดียว เสียงคำรามในลำคอเพชฌฆาตหน้าเหี้ยมดังขึ้น
ทุกตัว...ต่างพุ่งเป้าปรี่เข้ามาหาเขายังจุดเดียว
“ไม่!”
วาเลนไทน์สะดุ้งเฮือก ดวงตาคู่สวยลืมพรึบตื่นขึ้นทันที หัวใจเต้นกระหน่ำ สองมือกำผ้าปูที่นอนแน่น เหงื่อกาฬแตกพลั่กจากฝันร้ายที่ฝูงอสูรกายเลือดเย็นพุ่งเป้าเข้ารุมเล่นงานเขา ดวงตาตื่นตระหนกกวาดมองรอบกายจึงค่อยทุเลาลงเมื่อได้รับรู้ว่าตัวเขาได้ถูกนำมาวางไว้บนเตียงในห้องที่ตื่นขึ้นมาคราวแรก
แกร็ก
วาเลนไทน์หันขวับยังที่มาของเสียง ประตูห้องน้ำเปิดออกพร้อมการปรากฏกายของร่างสูงใหญ่แน่นหนั่นด้วยมัดกล้ามสวย แผงอกหนาพร่างพราวด้วยหยดน้ำจากเส้นผมเปียกลู่เกาะ ภีมพริษฐ์นุ่งเพียงผ้าเช็ดตัวผืนเดียวก้าวออกจากห้องน้ำ
“คุณภีม”
วาเลนไทน์ครางเรียกชื่อเสียงแผ่ว หากเจ้าของชื่อไม่ตอบ ภีมพริษฐ์ก้าวขายาวเข้ามานั่งตรงหน้าพร้อมมือหนาจับขาขาวแยกออกจากกันไม่มีปี่มีขลุ่ย
“ฮะ เฮ้ย!”
วาเลนไทน์ตกใจรีบตะปบมืออีกฝ่ายตามสัญชาติญาณทันที ร่างโปร่งเพิ่งเหลือบเห็นว่าตัวเองสวมเพียงตัวเชิ้ตตัวโคร่งตัวเดียวส่วนล่างเปลือยเปล่า
“คุณจะทำอะไร! คุณภีม!”
วาเลนไทน์ถามเสียงหวาดหวั่น สองมือละจากมือหนามาตะปบชายเสื้อคลุมท่อนล่างแน่น
“จะดูแผลเฉยๆ ยังไม่ทำอะไรหรอกน่า” เสียงเข้มพูดติดรำคาญเต็มประดา
“แผล?”
“แผลด้านหลังที่ทำให้นายไข้ขึ้นนั่นแหละ เข้าใจชัดแล้วก็ปล่อยมือ แล้วแยกขาให้ฉันดูแผลหน่อย”
ภีมพริษฐ์พูดเสียงเรียบเหมือนพูดเรื่องดินฟ้าอากาศแต่คนฟังถึงกับหน้าเห่อร้อนทันทีที่ได้ยิน วาเลนไทน์เม้มปากนั่งนิ่งไม่ยอมทำตาม คนจะดูแผลจึงจ้องเขม็ง
“จะแยกขาดีๆ หรือจะให้ฉันจับมัดติดกับหัวเตียง แต่จะบอกไว้ก่อน ถ้าฉลาดก็น่าจะรู้ว่าสุดท้ายนายก็ต้องแยกขาให้ฉันดูอยู่ดี”
ฝ่ายรุกรานเสียงเข้มอย่างคนถือไพ่เหนือกว่า วาเลนไทน์ขบฟันลงบนกลีบปากเบือนหน้าหนี จำใจต้องหยุดทุกการขัดขืนลง มือหนาจึงค่อยแยกขาออกดูรอยบาดแผล แก้มใสร้อนผ่าวซับสีเข้ม รู้สึกถึงสายตาคมที่จ้องมองยังช่องทางที่เคยถูกเขาล่วงละเมิดเข้าออกอย่างสุขสมอารมณ์
...อับอาย...
แม้รู้ทั้งรู้ว่าต่างก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน แต่กระนั้นวาเลนไทน์ก็อดรู้สึกกระดากใจไม่ได้จริงๆกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น
...ไม่ต่างจากผู้หญิงหยำฉ่าสักนิด...
สายตาคมร้อนแรงเหลือบขึ้นมองใบหน้าซับสีเลือดที่เบือนหนีด้วยความอับอายสมใจคิด ใบหน้าเนียนใสขึ้นสีริ้วฝาดเลือด ริมฝีปากสีธรรมชาติอ่อนๆถูกฟันขบจนเปลี่ยนเป็นสีเข้มขึ้น เมื่อได้เห็นหน้าชัดๆในระยะใกล้ชายหนุ่มจึงเพิ่งได้สังเกตใบหน้าขาวใสตามธรรมชาติของอีกฝ่าย จมูกโด่งปลายหยดน้ำ แพขนตาเรียงกันหนาเป็นตับจาก มองใกล้ๆจึงรู้ว่ายาวสวยแค่ไหน เพราะผู้ชายไม่แต่งหน้า ภีมพริษฐ์จึงได้เห็นใบหน้าแท้จริงของอีกฝ่าย
“สะ เสร็จหรือยังครับ”
เสียงนุ่มสั่นร้องถาม กลิ่นกายแฝงไอระอุร้อนแรงเฉพาะตัวทำให้วาเลนไทน์หายใจไม่ทั่วท้อง ยิ่งรู้สึกว่ากำลังถูกอีกฝ่ายจ้องมองก็ยิ่งประหม่า ภีมพริษฐ์ชะงักจากเสียงร้องท้วง ดวงตาคมเปลี่ยนเป้าหมายจากใบหน้าใสหลุบลงมองช่องทางจับจีบสีสวย เพราะวาเลนไทน์เป็นคนผิวขาว ยิ่งผิวในร่มผ้ายิ่งขาวจัดอมชมพูเนียนลื่นมือ ช่องทางจับจีบขึ้นสีเข้มจากการถูกเสียดสีรุนแรง ภีมพริษฐ์อดที่จะกลืนน้ำลายด้วยความเผลอไผลไม่ได้เมื่อช่องทางของวาเลนไทน์ขมิบตัวต่อหน้า เหมือนยั่วยวนทั้งที่เจ้าตัวเองก็ไม่ตั้งใจ ปลายนิ้วยาวยื่นแตะแผ่วเบายังผลให้ฝ่ายถูกแตะสะดุ้ง
“คะ คุณภีม! อ๊ะ!”
วาเลนไทน์ร้องเสียงหลงสะดุ้งโหยงอีกทั้งดิ้นขลุกขลัก เมื่ออีกฝ่ายยื่นปลายนิ้วมาสัมผัสจึงดีดตัวห่างออก ภีมพริษฐ์โถมร่างหนักลงทับตัวบาง ดวงตากวางคู่สวยสั่นไหวขณะสบตาตรงๆในระยะประชิดกับใบหน้าหล่อเหลาราวรูปสลัก ลมหายใจร้อนผ่าวเป่ารดใบหน้าขณะที่สายตาร้อนแรงจ้องไม่กระพริบ
“หนะ ไหนคุณบอกว่าไม่ใช่เกย์ไง”
วาเลนไทน์ท้วงเสียงตะกุกตะกัก ริมฝีปากสีธรรมชาติอยู่ในสายตาร้อนแรง ภีมพริษฐ์คุ้นเคยกับริมฝีปากเคลือบลิปสติกมาตลอด ความเป็นธรรมชาติตรงหน้าจึงดูทั้งเย้ายวนและท้าทายไม่น้อย ใบหน้าหล่อสะกดสายตาเคลื่อนเข้าใกล้ วาเลนไทน์ตาโต เผยอปากน้อยๆ ร่างเล็กกว่าพยายามดิ้นรน
“อื้อ!”
ริมฝีปากร้อนฉกวูบประกบจูบกับกลีบปากบาง บดเบียดเค้นคลึงให้เปิดปากรับปลายลิ้นชุ่มร้อนเข้าไปเกี่ยวกระหวัดกับปลายลิ้นเรียวภายในโพรงปากฉ่ำของคนไม่ทันตั้งตัว วาเลนไทน์พยายามขัดขืน ทั้งผลัก ทั้งดันร่างหนาหนั่นออก เรียวขาขาวชันขึ้นขยับตัว สะโพกบางส่ายไปมาอยากจะขยับหนียิ่งเปิดโอกาสให้ร่างหนาแทรกตัวเข้าตรงกลาง ปมผ้าเช็ดตัวคลายตัวเผยให้กลางกายทั้งคู่สัมผัสกันและกัน วาเลนไทน์หน้าร้อนกว่าเก่าเมื่อรู้สึกถึงบางสิ่งที่บดเบียดของเขา ยิ่งดิ้นก็ยิ่งรู้สึก ริมฝีปากสวยไม่สามารถหลุดเป็นอิสระจากแรงรุกล้ำ ถ้าตัดคำว่าผู้ชายด้วยกันออก รสชาติในโพรงปากนุ่มก็ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียวสำหรับภีมพริษฐ์ ปลายลิ้นร้อนเกาะเกี่ยวดูดชิมรสชาติหวานฉ่ำชุ่มลิ้นอย่างไม่ยอมผละออกง่ายๆ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก แอ๊ด
“คุณภีมครับ อาหารเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ”
ไอ้เกลี้ยงเปิดประตูเข้ามาในจังหวะเหมาะ เจ้าของผิวคร้ามเข้มผงะเล็กน้อยก่อนจะรายงานสิ่งที่เตรียมมาบอก ภีมพริษฐ์ถอนปากออกส่งสัญญาณให้ไอ้เกลี้ยงออกไป ก่อนจะก้มลงพูดใกล้กับริมฝีปากฉ่ำแดงยั่วยวนของคนใต้ร่าง
“มันไม่แปลกที่ฉันจะมีอะไรกับนายที่เป็นผู้ชายด้วยกันหรอกนะ คู่รักชายหญิงที่เขาสนุกกับประตูหลังมีให้ถมถืด แค่เปลี่ยนจากผู้หญิงมาเป็นนายมันก็แค่นั้น อย่าได้เข้าใจผิดว่าฉันจะชอบอะไรแบบนี้ ฟื้นแล้วก็ไปอาบน้ำ แล้วไปกินข้าว”
ร่างสูงผละออกพลางขยับลงเตียงตรงไปเปิดตู้เสื้อผ้าทั้งร่างเปลือยเปล่า วาเลนไทน์รีบยันตัวขึ้นลุกตรงเข้าไปห้องน้ำ
ปัง!
ร่างโปร่งปิดประตูห้องน้ำลงพร้อมแนบตัวยืนพิง ดวงตาเรียวโตจ้องมองตัวเองในกระจกตรงหน้า มือเรียวแตะริมฝีปากด้วยความสับสน รสจูบหมาดๆยังร้อนหวามในความรู้สึก แรงบดเบียดท่อนล่างเข้าด้วยกันยังชัดเจน
“แค่นายบำเรอทดแทนผู้หญิงของคุณสินะ คุณพริษฐ์” วาเลนไทน์แค่นยิ้ม
“แล้วเมื่อไหร่มันถึงจะจบกัน”
“ผมจะต้องหนีจากคุณให้ได้ไม่วันใดก็วันหนึ่ง”
ร่างโปร่งของชายหนุ่มปรากฏกายขึ้นริมสระน้ำหน้าบ้านพักหลังจากอาบน้ำเสร็จ ภีมพริษฐ์วางแท็บเล็ตในมือลงพลางยกแก้วไวน์ขึ้นจิบ ใบหน้าคมพยักหน้าให้อันวาดยกอาหารมาวาง มือหนาหยิบผ้าเช็ดปากที่อยู่ด้านซ้ายมาคลี่พาดบนหน้าตักพร้อมจับมีดกับส้อมลงมือจัดการกับสเต็กปลาตรงหน้าโดยไม่สนใจจะเอ่ยเชื้อเชิญอีกฝ่าย วาเลนไทน์ยืนมองท่าทีเฉยเมยไม่สนใจกันจึงตัดสินใจอัญเชิญตัวเองลงนั่งบนเก้าอี้บ้าง มือบางหยิบผ้าเช็ดปากคลี่วางพาดตักตามอย่างเจ้าบ้านพร้อมขยับปากพูดในเรื่องที่คิดไว้ตั้งแต่ตอนอาบน้ำ
“ผมอยากติดต่อกับพี่สาวแล้วก็เพื่อนๆบ้าง ปิดเทอมใหญ่หายเงียบไปเลย พวกนั้นคงแปลกใจ”
วาเลนไทน์เอ่ยพลางหยิบมีดกับส้อมหั่นสเต็กปลาเข้าปาก รสชาติดีนุ่มลิ้นจนอดที่จะเหลือบมองผู้ดูแลทั้งสองไม่ได้ว่า ใครกันคือพ่อครัวหัวป่าก์เจ้าของฝีมือระดับเชฟภัตตาคาร ให้เดาน่าจะเป็นพี่ผู้ชายหน้าออกฝรั่ง
“โทรศัพท์ของนายฉันเอาติดมาให้ด้วย เดี๋ยวจะเอาให้ อ้อ อีกอย่าง ฉันไม่ได้ห้ามการติดต่อโลกภายนอก เพียงแต่ถ้านายคิดหนี คนที่จะถูกจับตัวมาที่นี่ต่อก็คือพี่สาวของนาย”
ภีมพริษฐ์เอ่ยขณะยกไวน์ขึ้นจิบ วาเลนไทน์ชะงักกึกทันทีที่ได้ยิน
“ทำไมคุณจะต้องลากคนบริสุทธิ์ที่ไม่เกี่ยวข้องมาล้างมาผลาญชีวิตกันแบบนี้ด้วย ผมคิดว่าคุณจะมีเหตุผลกว่านี้เสียอีก”
วาเลนไทน์อดจะตำหนิด้วยความขุ่นใจไม่ได้
“ฉันไม่ใช่พ่อพระ เหตุผลมีให้สำหรับบางคน แต่ถ้าใครหน้าไหนที่มันกล้าทำลายความสุขของฉัน ฉันก็พร้อมจะยัดเยียดความทุกข์อย่างแสนสาหัสให้โดยไม่สนวิธี”
“คุณมันร้ายกาจ”
“บอกตัวเองก่อนไหม ก่อนจะตำหนิการกระทำของคนอื่น สิ่งที่พวกนายทำมันดีแล้วหรือไง ลักลอบเป็นชู้กันลับหลังน่ะ เคยคิดบ้างไหมว่า ในขณะที่ชายโฉดหญิงชั่วกำลังเริงรักกอดก่ายกันหน้าระรื่นอยู่บนเตียงมันไปทับอยู่บนหัวใครบ้าง”
ภีมพริษฐ์พรั่งพรูสิ่งที่อัดอั้นทับถมในใจยาวเหยียด วาเลนไทน์สะอึกเถียงไม่ออก แม้ไม่ใช่คนก่อเหตุแต่เรื่องแบบนี้เขาก็แย้งไม่ออกเหมือนกัน เมื่อเห็นปฏิกิริยาอีกฝ่ายภีมพริษฐ์ก็เดินหน้าใส่คืนเต็มที่
“หึ แล้วยังไงต่อ เรื่องตลกร้ายเซอร์ไพรส์ก่อนขอแต่งงานที่อยู่ๆก็มีเด็กป่องในท้องประจานความระยำตำบอน เหมือนพระเจ้ารับรู้ว่าความเลวทรามควรจะยุติลงได้แล้ว และคนหักหลังก็ควรจะได้รับผลของการกระทำเสียที ฉันไม่ใช่พระเจ้า แต่คนที่มันทำเรื่องระยำกับฉัน ฉันก็ไม่คิดจะปล่อยไปเหมือนกัน”
สายตาเคียดแค้นแผ่รังสีอำมหิตจ้องเขม็งยังร่างเล็กกว่า วาเลนไทน์จนด้วยคำพูดจะโต้แย้ง คนถูกหักหลังไม่มีใครที่ขำออกหรอก แต่คนที่ถูกป้ายสีก็รับเรื่องตลกร้ายไม่ทันเหมือนกัน
“แต่ผมไม่ได้ทำจริงๆ ทำไมคุณไม่สืบสาวราวเรื่องให้ดีก่อนจะจับแพะมา”
“แพะ? ต้องให้ฉันไปนั่งดูพวกแกขย่มกันบนเตียง โชว์ลีลาซาบซ่านเด็ดสะระตี่ให้เห็นจะๆอย่างนั้นน่ะหรือ? วาเลนไทน์ แล้วที่หายเข้าไปในห้องตั้งนานนมนั่นคืออะไร”
“ห้องพริมไฟดับ ผมก็แค่อยู่เป็นเพื่อน”
“เพื่อนนอนน่ะสิ เสร็จสมอารมณ์หมายแล้วจากนั้นก็ใส่เสื้อผ้าของฉันออกมาด้วย ไม่ได้รู้สึกตะขิดตะขวงใจเลยหรือไง หน้าด้าน ไร้ยางอาย ของมีให้กินฟรีๆเลยไม่มีสำนึกอะไรเลยสินะ สารเลว!”
กำปั้นหนักๆทุบปึงลงบนโต๊ะด้วยความร้อนรุ่มสุมแน่นในอก นัยน์ตาแข็งกร้าวเคียดแค้นจ้องอีกคนเขม็ง รูปถ่ายผู้ชายคนอื่นสวมชุดของเขาออกมาจากห้องของคนรักยามวิกาลตอกย้ำความโง่งมของฝ่ายที่ถูกหักหลังจนแทบคลั่ง
“จะให้ถามว่าเด็กในท้องเป็นลูกของใคร หึ ผู้หญิงของฉันคงมีใครต่อใครมากหน้าหลายตาสินะ จะบอกว่านายเองก็แค่เป็นหนึ่งในนั้น สนุกกันชั่วครั้งชั่วคราว เด็กอาจเป็นลูกของใครสักคนในนั้นที่เกิดพลาดถุงยางแตก ต้องให้ฉันตามจับตัวทุกคนมาเพื่อสอบสวนว่าใครเป็นพ่ออย่างนั้นหรือ ปาหี่แบบนี้ไม่ตลกสักนิด น่าสงสารเด็กที่กำลังจะเกิดมาจริงๆที่มีแม่ร่าน พ่อก็ไม่รู้ว่าคนไหน”
“พอเถอะคุณภีม! ขอผมได้พูดบ้าง”
วาเลนไทน์ร้องสวนเฮอริเคนอารมณ์ที่กำลังกระหน่ำเหมือนใครไปดึงสลักระเบิดออก ร่างใหญ่เจ็บยอกเสียดแปลบในอกทุกอณูที่กลั่นออกมาเป็นคำพูดด้วยความอดสู
“ขอโทรศัพท์ให้ผมต่อสายหาพริมตอนนี้เลย แล้วเปิดสปีกเกอร์ฟังความจริงพร้อมๆกัน ผมจะได้เป็นอิสระจากเรื่องนี้เสียที ปัญหาของพวกคุณสองคน ผมจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวด้วย”
วาเลนไทน์พูดช้า ชัด หนักแน่น ภีมพริษฐ์หันไปบอกคนดูแลให้นำโทรศัพท์มาให้ ระหว่างรอร่างสูงจ้องอีกฝ่ายเขม็งไม่วางตาโดยที่วาเลนไทน์เองก็จ้องตอบไม่มีหลบยืนยันในความบริสุทธิ์ของตนเอง
...ทุกอย่างจะต้องจบลงโดยเร็ว...
เกลี้ยงยื่นสมาร์ทโฟนให้กับผู้เป็นเจ้าของ วาเลนไทน์เปิดเครื่องพร้อมกดโทรออกโดยไม่ลืมเปิดสปีกเกอร์ให้อีกฝ่ายได้ยินด้วย
...เลขหมายที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้...
เสียงตอบรับอัตโนมัติดังขึ้นแทนน้ำเสียงหวาน วาเลนไทน์พยายามโทรอีกสองสามครั้งก็ยังเหมือนเดิม เดาว่าพริมรตาน่าจะปิดเครื่องหรืออยู่ที่ไหนสักที่ที่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์
“ติดต่อไม่ได้”
วาเลนไทน์เสียงอ่อยลดโทรศัพท์ในมือลงวางบนโต๊ะ
ติ๊ง
สายตาสองคู่หันไปมองต้นเสียงบนโต๊ะ แถบข้อความไลน์ปรากฏชื่อคนที่กำลังต้องการตัวมายืนยัน ภีมพริษฐ์ดึงสมาร์ทโฟนจากมือวางลงบนโต๊ะเปิดอ่านข้อความข้างในพร้อมกัน วันเวลาที่ส่งมาเป็นเมื่อคืนที่โทรศัพท์ของวาเลนไทน์ปิดเครื่อง
“คิดถึงไทน์จัง คิดถึงค่ำคืนแสนโรแมนติกใต้แสงเทียนคืนนั้นของเรา
อยากมีช่วงเวลาแสนวิเศษแบบคืนนั้นอีกครั้งจังค่ะ” “นี่น่ะหรือที่บอกว่าไม่มีอะไร ไปขย่มกันท่าไหนเข้าล่ะ ผู้หญิงถึงได้ติดอกติดใจส่งข้อความชวนอีกน่ะ”
ร่างสูงใหญ่เค้นเสียงเย็นลอดไรฟัน สมาร์ทโฟนเครื่องบางถูกปาลงกระแทกพื้นแตกกระจาย อารมณ์กรุ่นโกรธโหมกำลังปะทุดั่งลาวาเดือดพล่าน สติภีมพริษฐ์ขาดผึง
“ตรงไหนที่มันบอกว่าไม่มีอะไรน่ะ หา!”
อาหารบนโต๊ะถูกกวาดกระจายพร้อมคว่ำโต๊ะระเนระนาด วาเลนไทน์หน้าซีดถอยหลังกรูด
“ผะ ผมอธิบายเรื่องนี้ได้”
“ไปอธิบายในนรกเถอะ ไอ้คนตอแหล”
ร่างสูงใหญ่ปรี่เข้าหา วาเลนไทน์ถอยหลังหนี ก่อนจะรีบหมุนตัวออกวิ่ง ภีมพริษฐ์พร้อมคนดูแลออกไล่ล่าในทันที
แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก
ร่างโปร่งวิ่งกระเสือกกระสนไม่รู้ทิศรู้ทาง รอบกายมืดมิด พระจันทร์คืนเพ็ญถูกกลุ่มเมฆบดบัง เสียงคลื่นน้ำทะเลกระแทกตัวเข้าหาชายฝั่งโครมๆ ยินเสียงฝีเท้าหลายคู่ไล่ตามมา วาเลนไทน์สอดส่ายสายตามองหาที่ซ่อนตัวก่อนจะปลีกตัวไปซ่อนแถวพุ่มไม้
“โอ้ย!”
เคราะห์ซ้ำกรรมซัดเมื่อเท้าดันไปสะดุดลูกมะพร้าวล้มหน้าคะมำ วาเลนไทน์ล้มกลิ้งคลุกทราย ร่างบางรีบตะเกียกตะกายล้มลุกคลุกคลานหาที่หลบซ่อนกำบังตัว หัวใจเต้นกระหน่ำรัวเร็ว คิดหาทางออกกับสถานการณ์นี้ไม่เจอ
“ขืนอยู่ตอนนี้คุณภีมได้ฆ่าตายแน่”
วาเลนไทน์งึมงำทั้งหอบรัวขณะแฝงตัว ร่างบางรีบหลบวูบเมื่อแสงไฟฉายสาดกราดมาทางเขา
“เฮ้ย!”
ร่างโปร่งเผลออุทานเสียงหลงวิ่งออกจากที่หลบเมื่อบางอย่างกระโดดเข้าใส่ วาเลนไทน์ตกใจพยายามปัดเจ้าสิ่งนั้นออก ก่อนที่สิ่งมีชีวิตตัวนั้นจะกระโดดออกจากตัวเมื่อได้ยินเสียงผิวปากเรียก วาเลนไทน์ตัวเย็นเฉียบมองร่างใหญ่สามร่างยืนจังก้าสาดแสงไฟฉายมาที่เขา บนบ่าหนาของอันวาดมีลิงตัวเล็กนั่งอยู่
“เก่งมากณเดชน์”
อันวาดลูบหัวลูกลิง สายตามองยังจำเลยของเจ้านายเชือดเฉือนไม่ต่าง เพราะตัวเขาเองก็เกลียด “พวกลักกินขโมยกิน” เข้ากระดูกดำ
วาเลนไทน์แทบลอยละลิ่วตามแรงกระชากถูลู่ถูกังจากคนตัวใหญ่ ร่างเล็กกว่าถูกเหวี่ยงกระเด็นลงพื้นหาดทรายหน้าบ้านพัก
“ชู้อย่างนาย แค่ผู้ชายคนเดียวคงไม่พอ งั้นฉันเสนอให้สามคนเลยแล้วกัน”
ภีมพริษฐ์ใช้สายตาส่งสัญญาณบางอย่างกับคนสนิท ทั้งอันวาดและเกลี้ยงต่างย่างเข้าหาร่างที่กึ่งลุกกึ่งนั่ง
“ยะ อย่า ไม่นะคุณภีม”
วาเลนไทน์ตะเกียกตะกายวิ่งหนีลงทะเล ภีมพริษฐ์ปราดเข้ากระชากแขนเรียวลากกลับเข้าฝั่งพร้อมเหวี่ยงลงพื้นทรายอีกรอบก่อนจะโถมตัวลงทาบทับ สองมือหนากดข้อมือเล็กกว่าบดทราย ดวงตาคมกร้าวจ้องลึกในดวงตาคู่สั่นกลัว
“ฉันควรจะจับแกตัดตอนแล้วส่งไอ้นั่นของแกไปให้เมียของเราดูดีไหม อยากรู้นัก ยังจะมีอะไรในตัวแกให้ผู้หญิงกากีคนนั้นหลงได้อีก”
“อย่า ได้โปรด ผมไม่ได้ทำอะไรจริงๆ ไม่ได้ทำอะไรเลย” วาเลนไทน์อ้อนวอน
“โว้ย!”
ร่างโปร่งลอยโครมลงทะเล วาเลนไทน์สำลักน้ำดำผุดดำว่ายแต่ยังไม่คณามือร่างหนาหนั่นที่ตามมาเขย่าหัวสั่นหัวคลอนตะคอกกร้าวใส่หน้า
“ฉันเกลียด เกลียดคนอย่างพวกแก ไอ้พวกที่มีความสุขอยู่บนการย่ำยีความรู้สึกของคนอื่นมันควรจะมีจุดจบแบบแฮปปี้เอนดิ้งอย่างนั้นน่ะหรือ”
“อื้อ แค่ก แค่ก” วาเลนไทน์สำลักพรวดเมื่อถูกจับกดลงน้ำโดยไม่ทันตั้งตัว
“แล้วคนที่ถูกหักหลัง ถ้าคิดจะเอาคืนมันก็ต้องกลายเป็นผู้ร้ายหรือไง ตอบฉันมาสิ ตอบมา!”
ร่างบางชาหนึบที่ต้นแขนทั้งสองข้างที่ถูกบีบด้วยแรงอารมณ์ ฝ่ายกระทำอย่างภีมพริษฐ์ยิ่งโกรธแค้นมากเท่าไหร่ บาดแผลจากอดีตก็ยิ่งถูกฉีกรื้อฟื้นขึ้นมาทิ่มแทงมากขึ้นเท่านั้น
ภาพพ่อทอดทิ้งเขาและแม่ไปกับผู้หญิงคนใหม่ และแม่ที่เมามายหยำเปจนติดเหล้างอมแงมอย่างหนักไม่เป็นผู้เป็นคน ความเจ็บปวดทำให้แม่เที่ยวเตร่และจบลงที่...“ถ้าแกตอบไม่ได้ก็เป็นผีเฝ้าทะเลไปนี่ล่ะ ลดจำนวนคนทำเลวลงสักคน บาปมันคงจะไม่หนักหนานักหรอก!”
ร่างสูงขาดสติ ใบหน้าวาเลนไทน์ซ้อนทับกับใบหน้าผู้หญิงเจ้ามารยาคนนั้น ความแค้นคั่งโหมให้มือหนากดร่างอีกคนจมลงทะเล
“อื้อ แค่กๆ ไม่!”
วาเลนไทน์สำลักน้ำเข้าปากเข้าจมูก พยายามดิ้นรนตะเกียกตะกายหาอิสรภาพท่ามกลางพายุความโกรธเกรี้ยวที่ถาโถมเข้าหา
“คุณภีมพอเถอะครับ”
เกลี้ยงรีบดึงตัวคนขาดสติออกมาเมื่อเห็นท่าไม่ดี ร่างสูงไล่เลี่ยกันรีบกระโจนเข้าพยุงร่างอ่อนเปลี้ยจากการสำลักน้ำขึ้นจากทะเลพาเข้าบ้านก่อนจะช้ำคามืออีกคน เกลี้ยงไม่ต้องการให้คนที่มันรักถูกความแค้นบังตาจนถึงขั้นพลั้งมือฆ่าคนตาย
ภีมพริษฐ์ยืนแช่น้ำมองร่างกระปลกกระเปลี้ยที่มีเกลี้ยงช่วยพยุงเดินเข้าบ้านไป น้ำเสียงเจือความเจ็บปวดดังขึ้นถามอันวาดเบาๆ
“ไหนใครบอกว่าผู้หญิงชอบผู้ชายดีๆไง แล้วที่ฉันเป็น มันยังดีไม่พออีกหรือไง โว้ย! ทำไม! ทำไม! ทำไม!”
กำปั้นฟาดโครมๆลงผืนน้ำด้วยความคับแค้นสุมในอก ภาพครอบครัวที่พินาศในพริบตาวันที่พ่อเดินจากไปยังคงติดตา แม้แต่พลอยรัมภาเองก็ไม่เคยรู้ว่าพ่อแม่ปัจจุบันไม่ใช่พ่อแม่แท้ๆ
“ภีมอย่าทำอย่างพ่อนะลูก รักใคร คบใครก็จริงใจกับเขา อย่าทำร้ายกันเหมือนที่พ่อทำกับแม่ อย่าทำนะลูก แค่เรื่องนี้เรื่องเดียวที่แม่จะขอจากลูก ฮือ”“คนที่มีเมียยื่น “มีด” ให้ชู้ฆ่าผัวตัวเองแบบผม คงตอบคำถามนี้ของคุณไม่ได้หรอกครับ เพราะผมเองก็ไม่เคยเข้าใจ”
อันวาดตอบเสียงราบเรียบราวกับไม่รู้สึกรู้สาอะไร หัวใจของเขาเหมือนถูกโบกแล้วด้วยปูนปิดกั้นความรู้สึกทุกอย่างนับจากรอดจากคุกมาได้
“ในเมื่อเป็นคนดีแล้วมันไม่ได้อะไร ถ้าอย่างนั้น...คนอย่างฉันจะเลวให้ดู”
เสียงเรียบเอ่ยขณะมองร่างอ่อนแรงถูกพยุงหายลับเข้าบ้านไป
เกลี้ยงพาร่างกระปลกกระเปลี้ยเข้าไปในห้องน้ำ มือหนาเปิดฝักบัวรดศีรษะล้างคราบเกลือให้ วาเลนไทน์เสียขวัญตัวสั่นเป็นลูกนกกับพายุอารมณ์ที่ถล่มใส่หลายครั้งหลายคราโดยที่เขาไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไร
“ทำไมคุณภีมถึงโหดร้ายขนาดนี้ครับ”
วาเลนไทน์ถามเสียงสั่นเครือด้วยความเจ็บปวดที่ซึมซับผ่านความแค้นของคนๆนั้นมาที่เขา
“คนถูกหักหลังไม่มีใครขำออกหรอกครับ ความสามารถในการควบคุมอารมณ์จากความเสียของคนเราต่างกัน ไม่อย่างนั้นจะมีข่าวชิงรักหักสวาทฆ่าแกงกันด้วยเรื่องชู้สาวพาดตามหน้าหนังสือพิมพ์หรือครับ”
เกลี้ยงตอบเสียงเรียบ มือสาละวนกับการช่วยล้างเนื้อล้างตัวให้ร่างสั่นระริกจนดูน่าสงสาร แต่เมื่อนึกได้ว่านี่คือคนที่ทำให้คนที่เกลี้ยงรักเจ็บปวด คนที่เปิดบาดแผลที่ไม่เคยปิดได้สนิทปริฉีกอย่างรุนแรง เกลี้ยงเองก็เจ็บปวดด้วยไม่ต่าง
“ตะ แต่ผมไม่ได้ทำจริงๆนะครับ ได้โปรดเชื่อผม”
วาเลนไทน์บีบต้นแขนหนาส่งสายตาอ้อนวอน
“อะไรหลายๆอย่างมันมัดตัวคุณ ถ้าอยากให้คุณภีมเชื่อ คุณก็ต้องพิสูจน์ตัวเองให้เห็น”
“แล้วผมต้องทำยังไง พยายามอธิบายแล้วแต่ไม่เป็นผลเลย”
“อันนั้นตัวคุณเองต้องคิดเอาเองครับ ผมช่วยได้แค่คอยกันไม่ให้คุณภีมพลั้งมือฆ่าคุณ อนาคตคุณภีมจะต้องไม่แปดเปื้อนด้วยความมักมากของคน”
แววตาขี้เล่นเป็นนิจเปลี่ยนเป็นเรียบนิ่งเหมือนห้วงมืดขณะสบตาจำเลยตรงหน้า
“คุณอาบน้ำต่อเถอะครับ เดี๋ยวผมไปเตรียมเสื้อผ้ากับอาหารให้ใหม่”
เกลี้ยงผละออกไป สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดคือการทนมองคนที่รักทุกข์ทรมานโดยที่ตัวเราไม่สามารถยื่นมือเข้าไปช่วยบรรเทาบาดแผลได้เลย ทำได้ก็แค่เพียงอยู่ข้างๆให้รู้ว่าต่อให้คนทั้งโลกหันหลังให้ แต่คุณภีมจะมีเกลี้ยงอยู่ด้วยตลอดจนตัวตาย
ต่อด้านล่างค่ะ