ภารกิจร้าย พ่ายประตูหลัง ตอนที่ 84(ตอนจบ) (21/1/2559)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ภารกิจร้าย พ่ายประตูหลัง ตอนที่ 84(ตอนจบ) (21/1/2559)  (อ่าน 162565 ครั้ง)

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
 :pig4: ขอบคุณช่วงยาวพิเศษ

ได้แบบนี้บ่อยๆ จะดีมากเลยค่ะ  :mew1:

ว่าแต่ อิเนนนนนนนนน!!! เมื่อไหร่แกจะเลิกซึนซักที  :beat:

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
ฉัตรเริ่มกระตุ้นเนแล้วแฮะ
เนอย่ายอมแพ้ศาสตร์นะ!
อย่ามัวแต่เอาใจสาวดิ -*-
รอน้า

ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5
ฉัตรอ่ะร้าย

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ lnwboomgo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 19
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
มาต่อไวๆนะ สนุกมาก เมื่อไรจะเลิกปากหนักกันชะที  o13

ออฟไลน์ newannlyf7

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ musddmp

  • อิอิ คริคริ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 155
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-0
ภารกิจร้าย พ่ายประตูหลัง
         
ตอนที่ 66


          วัฒน์เหลือบมองเพื่อนร่วมงานที่ยืนหน้านิ่งมองร้านดอกไม้ที่อยู่ตรงถนนอีกฟาก ท่าทางของเนดูเหม่อและง่วงเหงาหาวนอน ซึ่งหนุ่มใหญ่ก็ไม่ได้แปลกใจนัก เพราะเขาได้ยินจากรุตว่ากว่าเนจะกลับมาถึงบ้านก็เกือบหกโมงเช้าแล้ว ซึ่งที่จริงเขาก็บอกเด็กหนุ่มว่าวันนี้ให้พักอยู่กับบ้านก็ได้ แต่พอหนุ่มใหญ่บอกว่าจะพาศาสตร์ไปด้วย จากที่ทำท่าจะฟุบแหล่ไม่ฟุบแหล่ ถึงกับอัดกาแฟดำจนตาค้างเลยทีเดียว ซึ่งว่ากันตามตรง นั่นก็ทำให้วัฒน์อดดีใจไม่ได้ทั้งที่รู้ว่าไม่ควร

          แต่ก็แค่นั้นนั่นล่ะ

          ตั้งแต่ที่เนรู้ว่าเขากับศาสตร์คบกัน อีกฝ่ายก็ไม่ได้แสดงอาการกระฟัดกระเฟียดหรือหงุดหงิดใส่เขากับศาสตร์ หรือกับโค้กเหมือนเมื่อก่อน เรียกว่าเฉยเลยก็ว่าได้ ทั้งยังเว้นระยะจากเขาอีก ถึงจะเพราะอยู่กันคนละห้อง แต่ปกติก็ไม่ค่อยได้ชวนคุยอะไรกันเท่าไหร่ด้วย อีกทั้งได้ยกเลิกสัญญาว่าด้วยการขึ้นเตียงอีก เลยไม่มีเหตุให้ต้องคุยกันเท่าไหร่นัก

          แต่เล่นเมินและทำตัวเหมือนไม่รู้จักกันนั่นล่ะที่ทำให้หนุ่มใหญ่หงุดหงิด

          วัฒน์พยายามข่มอารมณ์ของตนและละสายตากลับไปมองสิทธิ์ที่เดินตัวลอยแต่นิ่วหน้าออก มาจากร้านขายดอกไม้ ทำเอาดับอารมณ์หงุดหงิดได้ชะงักนัก

          “เป็นอะไรหรือเปล่าครับ” วัฒน์ถามขึ้นด้วยสีหน้าเรียบนิ่งทั้งที่ยังนึกขำไม่เลิก และแอบหยิกเนที่พยายามกลั้นหัวเราะ “หรือว่าเขาไม่เล่นด้วย”

          “อะไรกัน เป็นไปไม่ได้หรอก คุณสิทธิ์หล่อจะตาย นี่ไม่นับเรื่องรวยด้วยนะ ขี้คร้านสาวๆจะตามก้นต้อยๆแทบไม่ทันน่ะสิ” หลังจากหายขำ เนก็เริ่มต้นรายการอวดรุ่นพี่ที่ชื่นชมอย่างออกนอกหน้านอกตาและไม่อายฟ้าดิน แต่วัฒน์เองก็คิดเหมือนกัน เลยไม่ได้แสดงอาการอ้วกแตกใส่แต่อย่างใด

          “ก็...เด็กนั่น...มันเป็นผู้ชายน่ะสิ”

          “หา!” ทันทีที่ได้ยินคำตอบ เนก็เผลอร้องดังเสียจนคนสูงวัยที่อยู่ใกล้เกือบหูหนวกชั่วคราว “พูดจริงน่ะ สวยอย่างนั้นเนี่ยนะผู้ชาย โอ๊ย บ้าแล้ว”

          วัฒน์เหลือบมองท่าทีเหมือนเห็นโลกแตกของเน ก่อนจะลอบถอนใจ

          ก็นั่นสินะ ขนาดสวยกว่าผู้หญิงยังรับไม่ได้เลยนี่

          “...ขนาดนายยังดูไม่ออกเลยสินะ...” สิทธิ์เอ่ยอย่างกลุ้มใจ “ให้ตายเถอะ ฉันก็นึกว่าผู้หญิง ออกจะตรงสเป็กฉัน...”

          “แล้วเอาไงดีล่ะครับ” วัฒน์ถามอย่างหวั่นใจ

          “...ก็เหมือนเดิม แผนเดิมไม่เปลี่ยน”

          “หา!!!!!”

          คราวนี้ร้องประสานเสียงเป็นลูกคู่เลยทีเดียว

          “แต่...อีกฝ่ายเป็นผู้ชายนะครับ” เนร้องก่อนจะหยุดพูดแล้วสะดุ้ง สายตาคมเหล่มองไปยังเพื่อนร่วมงานด้วยสีหน้าอีหลักอีเหลื่อ แต่วัฒน์กลับจ้องใส่อย่างเคียดแค้น ก่อนจะทำเมินไปทางอื่น

          ทั้งที่รู้อยู่แล้วแท้ๆว่าอีกฝ่ายนอนกับตนด้วยเหตุผลอะไร แต่พอได้ยินตรงๆแบบนี้มันก็อดหงุดหงิดไม่ได้อยู่ดี

          ก็นั่นสินะ สำหรับนายมันก็แค่เซ็กซ์ มันไม่ได้มีความหมายอะไรมากไปกว่านี้เลยนี่

 

          “คุณไม่คิดจะพูดอะไรบ้างหน่อยหรือ”

          วัฒน์ปรายตามองเนที่นั่งคุกเข่าอยู่ข้างโซฟาในห้องวีไอพีชั้นสองในบาร์ของมีน บนโซฟานั้นมีสิทธิ์นอนเมาพับไปหลังจากแพ้ให้กับการดวลเดือดด้วยเหล้ากับวิน สีหน้าและแววตาของเด็กหนุ่มเต็มไปด้วยการตำหนิติติงจนคนมองของขึ้น

          พูดอย่างกับว่าเขาอยากจะเห็นสิทธิ์มีสภาพแบบนี้ แต่จะให้ทำยังไงในเมื่อวินกับสิทธิ์ก็ทะเลาะกันด้วยเรื่องไร้สาระแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว และถ้าถามวัฒน์ เขายอมให้ทั้งสองมาทะเลาะหรือแข่งอะไรแปลกๆอย่างเช่นยัดเหล้าแข่งกันจนกว่าใครจะอ้วก ดีกว่าต้องไปเจอกับสนามรบเมื่อครั้งก่อนจม

          ไม่รู้เลยใช่ไหมว่าฉันรู้สึกยังไงตอนเห็นแกจะตาย

          “ทำไมฉันต้องทำตามที่นายพูดด้วย” วัฒน์ย้อนใส่อย่างหัวเสีย “แล้วคิดหรือว่าอย่างฉันต้องรอให้นายมาบอก ฉันน่ะเตือนคุณสิทธิ์ไปไม่รู้ตั้งกี่ครั้งแล้ว แต่คุณสิทธิ์ฟังที่ไหน ถ้าอยากห้ามก็ห้ามเองบ้างสิ ไม่ต้องมาบอกฉัน”

          เด็กหนุ่มชักสีหน้าใส่ “แล้วทำไมคุณต้องอารมณ์เสียใส่ผมด้วย”

          “ฉันไม่ได้อารมณ์เสีย!” แต่ฉันอยากชกหน้านายว้อย! “นายพยุงข้างซ้าย ฉันจะพยุงข้างขวาไว้ เร็วๆ อย่ามัวแต่ยืนใบ้”

          เนทำท่าเหมือนจะเถียงต่อ แต่สุดท้ายก็ยอมทำตามอย่างเสียมิได้ ทั้งสองลากสังขารเจ้านายจากบาร์ของมีนกลับมายังห้องนอนของสิทธิ์กันอย่างทุลักทุเล ถึงเนจะแข็งแรงพอจะแบกเจ้านายไหว ทำให้วัฒน์สบายไปเยอะ แต่เพราะตัวใหญ่กว่าคนแบกจม หนุ่มใหญ่เองก็ต้องช่วยประคองเอาไว้บ้างไม่ให้เนเดินเอียงไปเอียงมาจนพา สิทธิ์ไปชนโน่นชนนี่ กว่าจะพาขึ้นเตียงก็เล่นเอาเหนื่อยหอบกันทั้งคู่

          “ให้ตาย” หนุ่มใหญ่สบถขึ้นมาหลังจากจัดแจงถอดเสื้อเชิ้ตของสิทธิ์ออกมาโยนใส่ตะกร้าผ้าที่อยู่ติดกับกำแพงตรงปลายเตียง

          “คุณวัฒน์”

          เจ้าของชื่อหันหลังมองคนที่เพิ่งยันตัวขึ้นมาจากข้างเตียง และยืนรอฟังอีกฝ่ายเงียบๆ

          “มีความสุขไหมครับ คบกับคุณศาสตร์เขา”

          จากที่กำลังหงุดหงิดถึงกับหน้าเหวอออกมาแบบไม่มีกั๊กเลยทีเดียว

          “ก็ดี...” วัฒน์ตอบอย่างไม่แน่ใจนักก่อนจะกัดฟันแน่น รู้สึกร้อนไปทั้งหน้า ทั้งยังไม่กล้าจะสบตาอีกฝ่ายนัก “แล้วนายล่ะ ได้ระบายบ้างหรือเปล่า”

          ทั้งที่มันเป็นเรื่องปกติของเด็กหนุ่มแท้ๆ แต่พอได้ยินคำถามนั้นจากปากของหนุ่มใหญ่ เนกลับอารมณ์เสียขึ้นมา

          “ทำไมต้องพูดแต่เรื่องนั้นด้วย ชีวิตผมไม่ได้มีแต่เรื่องพรรค์นั้นสักหน่อย”

          “...แต่เมื่อก่อนนายเป็นแบบนั้นนี่ อยู่ไม่ได้ถ้าขาดเซ็กซ์ เหตุผลที่เรานอนด้วยกันไม่ใช่เพราะแบบนั้นหรือไง”

          จากที่ตั้งท่าจะเถียงถึงกับชะงัก

          นั่นสินะ...จริงๆก็เพราะเหตุผลนั้นแท้ๆ

          วัฒน์นิ่งมองอีกฝ่ายที่ยืนหน้าเสีย ก่อนจะมุ่นคิ้วอย่างไม่พอใจนัก

          “แล้วตอนนี้นายมีความสุขหรือเปล่า”

          เด็กหนุ่มเงยหน้า ท่าทางเหมือนไม่ค่อยจะแน่ใจนัก ก่อนจะฉีกยิ้มกว้างจนชวนสยอง

          “ก็ต้องมีอยู่แล้วสิครับ ชีวิตผมไม่ได้มีเรื่องน่ากลุ้มอะไรสักหน่อย”

          “งั้นหรือ...งั้นก็ดีแล้ว” วัฒน์เอ่ยเสียงเบาก่อนจะถอนหายใจ พยายามระงับอารมณ์ภายในที่พลุ่งพล่านทุกคราที่มองหน้าอีกฝ่าย “ฉันก็สบายใจถ้านายสบายดี”

          น่าแปลกที่เด็กหนุ่มกลับรู้สึกแย่ที่ได้ยินประโยคเหล่านั้น ทั้งที่อีกฝ่ายไม่ได้ใช้น้ำเสียงประชดประชันใส่เลยก็ตาม

          แต่เพราะมันทำให้เขารู้ว่าอีกฝ่ายเองก็สบายดีหากไม่มีตน เนถึงได้รู้สึกแย่

          “แล้วนี่จะออกไปไหนหรือเปล่า” หลังจากเดินกันออกมาจากห้อง วัฒน์ก็เอ่ยถามขึ้นทั้งที่ยามนี้เองก็ดึกมากแล้ว

          “คงไม่แล้วล่ะครับ ทำไมหรือ”

          วัฒน์เหลือบมามองด้วยใบหน้าแดงก่ำแต่ท่าทางกระสับกระส่ายจนเด็กหนุ่มเผลอนิ่วหน้า

          “ถ้าอย่างนั้นฉันขอออกไปข้างนอกละกัน คงจะกลับมาตอนแปดโมงเช้านะ”

          เนยืนค้างนิ่ง รู้สึกเหมือนหน้าชาไปหมด

          “มันจะดีหรือครับ”

          “ถ้าเป็นเรื่องคุณสิทธิ์ นายไม่ต้องห่วงหรอก ลองว่าเราเคยเฝ้ากันตั้งเยอะยังไม่เกิดอะไรขึ้น ก็คงไม่มีใครคิดจะบุกเข้ามาเพียงแค่ฉันไม่อยู่แค่คนเดียวหรอก” น้ำเสียงของหนุ่มใหญ่นั้นราบเรียบ ไร้ซึ่งความกังวลใดๆ “และนายเองก็อยู่ด้วย ฉันเชื่อว่านายจัดการทุกอย่างได้อยู่แล้ว”

          เนมองหน้าอีกฝ่ายค้างไปนาน ก่อนจะยิ้มเจื่อน

          “นั่นสิครับ ผมนี่กังวลไม่เข้าเรื่องเลยจริงๆ” เด็กหนุ่มว่าทั้งที่หน้าเสีย “ถ้างั้นก็ระวังตัวด้วยนะครับ”

          วัฒน์พยักหน้าให้ ก่อนจะหันหลังเดินออกไปด้านนอก ส่วนเนก็เดินกลับไปยังห้องพักของตน

          ทั้งที่เราเป็นคนทำให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้แท้ๆ

          เด็กหนุ่มทิ้งตัวลงบนเตียงเล็กก่อนจะถอนหายใจออกมาเสียยาวเหยียด ความรู้สึกที่คุอยู่ในใจยังคงไม่จางหาย หากแต่กลับจะเพิ่มทวีคูณทุกครั้งที่รับรู้ความจริงว่าวัฒน์ไม่มีทางจะอยู่ กับตนเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว

          เขาคงไปหาคุณศาสตร์…

          ใบหน้าเรียวขึ้นสีเมื่อคิดว่าอีกฝ่ายกำลังไปหาคนรักใหม่ที่กำลังหวานชื่นกัน ความรู้สึกภายในปั่นป่วนจนไม่อาจห้ามเอาไว้ได้

          คงจะทำแบบนั้นกันด้วย...ไม่สิต้องทำอยู่แล้วล่ะ ไม่งั้นจะไปหากันตอนกลางค่ำกลางคืนทำไม...

          มือทั้งสองกำผ้าห่มแน่นพร้อมกับกัดปากจนชา เมื่อคิดว่าศาสตร์เองก็จะได้เห็นสีหน้าของวัฒน์ที่ทรมานเพราะได้รับความสุขจากสัมผัสทางกายจนสำลัก และเผลอๆอาจจะได้เห็นมากกว่าที่เขาซึ่งเป็นเพียงคู่นอนชั่วคราว

          ทำไมล่ะ...ทำไมเราถึงต้องรู้สึกแบบนี้ด้วย...

          ทำไมเราต้องหวงเขาถึงขนาดนี้ด้วย

 

          แมวกับเอมพากันมองหน้ากันอย่างอีหลักอีเหลื่อ สาวๆเลื่อนสายตาลงมองอาหารและจานข้าวของตนเองบนโต๊ะอาหารในครัวก่อนจะออก อาการพะอืดพะอม ทั้งที่อาหารตรงหน้านั้นเพิ่งจะทำเสร็จใหม่ๆ กลิ่นกรุ่นหอมอบอวลนั้นชวนกระตุ้นความอยากอาหารภายในเสียเหลือเกิน เพียงแต่บรรยากาศในครัวยามนี้กลับทำให้พวกเธอรู้สึกกลืนข้าวไม่ค่อยจะลง

          ซึ่งต้นเหตุก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นเนที่นั่งเหมือนผีตายซากอยู่ฝั่งตรงข้ามของพวกเธอนั่นเอง

          “พี่เนเป็นอะไรหรือเปล่าคะ” แมวเอ่ยถามเป็นครั้งที่สาม หวังไว้ว่าจะได้คำตอบจากคนที่เอาแต่เหม่อ

          คราวนี้ดูเหมือนเนจะตื่นจากภวังค์เสียที ท่าทางของเด็กหนุ่มดูจะแปลกใจพอสมควรเมื่อพบว่าตนไม่ได้อยู่บนโต๊ะอาหารเพียงลำพัง เขาเพียงแต่ส่ายหน้าให้ ก่อนจะนั่งนิ่งเหมือนรูปปั้นอีกครั้ง แต่คราวนี้เหมือนกำลังใช้ความคิดอยู่เสียมากกว่า

          “พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพี่เป็นอะไร” คำตอบทำเอาสาวๆพากันนิ่วหน้า “แค่รู้สึกแย่จนกินข้าวไม่ค่อยจะลง”

          แมวกับเอมหันมามองหน้ากัน ซึ่งเอมเพียงแต่พยักหน้าให้ ส่วนแมวก็หันกลับมาหาเด็กหนุ่มแล้วยิ้มอย่างมีเลศนัย

          “เอ หรือว่าพี่เนกำลังหลงรักใครอยู่หรือเปล่าคะ”

          คำถามนั้นทำเอาคนที่กำลังห่อเหี่ยวถึงกับตื่นตระหนกและหน้าแดงเรื่อ จนสาวๆเผลอยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ใส่

          “ฮั่นแน่ ใช่แหงๆเลยสินะคะ” แมวเอ่ยแซวแล้วหัวเราะคิกคัก

          “ทำไมคิดแบบนั้นล่ะ พี่ไม่ได้เป็นแบบนั้นสักหน่อย” และเพราะไม่เชื่อว่าตนเองจะรู้สึกแบบนั้น จึงได้ปฏิเสธและย้อนถามออกไปเป็นเชิงคาดคั้น

          “ไม่รู้สิคะ...เห็นพักนี้พี่บ่นว่ากินไม่ได้นอนไม่หลับ หนูก็เลยอดคิดไม่ได้ว่าเพราะพี่กำลังนั่งคิดถึงใครอยู่หรือเปล่าน่ะสิ”

          จากที่หน้ากำลังแดงอยู่แล้ว ถึงกับแดงหนักจนร้อน เพราะเขากำลังเป็นแบบนั้นอยู่จริงๆ

          “พี่ขอตัวก่อนนะ”

          ว่าแล้วก็ลุกพรวดขึ้นจากโต๊ะแล้วก็ผลุนผลันออกไปจากห้องครัวทันที ปล่อยให้สาวๆได้แต่มองหน้ากันด้วยความประหลาดใจกับท่าทีแปลกๆของเด็กหนุ่ม




________________________________________


ตอนหน้า.....


ปล. ตอนนี้กำลังสอบถามความสนใจในการรวมเล่ม(แต่ยังไม่ได้รวมเร็วๆนี้)อยู่ หากใครสนใจ รบกวนทำแบบสอบถามที่อยู่ในเฟสด้วยเน้อ =w=\

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
ในที่สุดก็ตามอ่านจนทัน ฮึ่ยย ขัดใจจริงๆอุตส่าห์เลิกเข้าใจผิดเรื่องสายกันแล้วแต่ยังมาปากแข็งใส่กันอีกโดยเฉพาะเน หึ เป็นไงล่ะผลักไสลุงแกดีนักลุงแกเลยไปคบกับศาสตร์เลย มันน่าสมน้ำหน้ำมั้ยละ หือๆๆๆ

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
ลุงแกออกไปไหนกันแน่อ่ะ ไปหาศาสตร์เหรอ?
เนรีบรู้ตัวเร็วๆ หน่อยย คนลุ้นจะตายแล้วค่าา

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
สายซึนแบบแข็งเลยซินะ  :z3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ musddmp

  • อิอิ คริคริ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 155
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-0
ภารกิจร้าย พ่ายประตูหลัง
         
ตอนที่ 67


          เพราะหน้าที่ในช่วงนี้มีแค่เฝ้าสิทธิ์ กับจัดการงานนิดๆหน่อยสำหรับแผนบ้าๆบอๆของสิทธิ์ และก็มีเรียบเรียงเอกสารจากบริษัทและกิจการทั้งหมดของเจ้านายซึ่งเป็นหน้าที่ประจำปลายเดือน เนจึงไม่ต้องไปทำงานที่บริษัท สำหรับเขา การที่ไม่ต้องแต่งตัวชวนอึดอัดไปอยู่ในห้องแคบๆแล้วฟังต้นคอยโม้นั้นถือเป็นเรื่องที่ดี หากแต่ในตอนนี้ การอยู่ในบ้านนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่ทำให้เขาสบายใจนัก ครั้นจะออกไปจากบ้านก็ละทิ้งหน้าที่สำคัญไม่ได้ เด็กหนุ่มจึงได้แต่เดินวนไปวนมาอยู่ในบริเวณรั้วบ้านนี้เพียงเท่านั้น

          ยิ่งพยายามลืมคิดถึงเรื่องที่ไม่ควรคิด มันก็กลับผุดขึ้นมาเต็มหัว โดยเฉพาะเรื่องที่คุยกับแมวเมื่อตอนเช้า

          เขาเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงได้สับสนขนาดนี้ ทั้งที่ตนเองก็เคยคบกับคนอื่นมาบ้าง แต่ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่ทำให้เขาเหมือนคนบ้าได้ขนาดนี้

          “เน”

          เจ้าของชื่อสะดุ้งโหยงก่อนจะหันกลับมาหาเจ้าของเสียง ใบหน้าร้อนวูบขึ้นมาอย่างไม่ควรก่อนจะหันหลบไปมองต้นหูกวางที่อยู่ด้านหลังของตน

          “กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่หรือครับ” เด็กหนุ่มเอ่ยถามอึกอัก ยังคงไม่กล้ามองหน้าอีกฝ่ายตรงๆนัก และพยายามระงับความตื่นเต้นด้วยการนับใบหูกวางที่อยู่บนพื้น

          “เมื่อกี้นี้เอง เห็นแมวบอกว่านายมาเดินเฝ้าอยู่นอกบ้านเลยมาหา พอดีมีเรื่องจะให้ช่วยหน่อยน่ะ” เสียงทุ้มเอ่ยอย่างราบเรียบ แต่ฟังแล้วห่างเหินจนชวนใจหาย ก่อนจะกวักมือให้เด็กหนุ่มเดินตามเขาไปยังห้องนอนของตน

          เนรู้สึกใจเต้นไม่เป็นส่ำ ทั้งที่ตนก็เคยอยู่ในห้องนี้มาก่อนแท้ๆ แต่ในคราวนี้กลับรู้สึกเหมือนนี่ไม่ใช่ห้องที่ตนคุ้นเคยมาก่อน อีกทั้งยังรู้สึกคิดถึงเหมือนจากกันไปนานมากทั้งที่จริง เด็กหนุ่มย้ายออกไปไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์เสียด้วยซ้ำ นั่นทำให้เนสัมผัสถึงระยะห่างของตนกับอีกฝ่าย ที่กำลังห่างออกไปเรื่อยๆทุกที

          “นี่จัดการหมดเรียบร้อยแล้วหรือ” หลังจากดูกองเอกสารบนโต๊ะ ก็หันมาถามด้วยสีหน้าประหลาดใจ จนคนที่กำลังหงอยถึงกับหน้าเบี้ยว

          “กับไอ้แค่เอกสาร หลับตาทำก็ยังได้เลยครับ” เด็กหนุ่มโพล่งออกมาอย่างลืมตัว ก่อนจะนึกด่าตัวเองที่ห้ามปากไม่เคยจะได้สักที

          “ฮะๆ ไอ้ขี้โม้”

          แต่นอกจากวัฒน์จะไม่ได้โกรธอะไรตน ยังหัวเราะใส่อีก และทั้งที่มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่กลับปัดเป่าความหมองหม่นไปได้จนปลิดทิ้ง

          “ฉันไปจัดการเรื่องน้องคุณวินมาแล้ว ถ้าคุณสิทธิ์จะไปหา ให้ไปหลังหกโมงนะ เพราะช่วงเช้าเหมือนคุณวินจะไปหาน้องเขา” วัฒน์ว่าก่อนจะล้วงเอกสารออกมาจากกระเป๋าถือของตนแล้วยื่นให้กับเด็กหนุ่ม “แล้วถ้าคุณสิทธิ์ไป ก็ฝากนายไปกับโค้กทีนะ”

          “แล้วคุณละครับ”

          “ฉันมีธุระนิดหน่อยน่ะ เลยไปด้วยไม่ได้”

          ทั้งที่อีกฝ่ายก็ไม่ได้บอกว่าจะไปทำอะไรแท้ๆ แต่หน้าของศาสตร์กลับลอยขึ้นมาเสียอย่างนั้น

          “ครับ...” เด็กหนุ่มตอบเสียงค่อย “ขอให้โชคดีนะครับ”

          วัฒน์มองคนที่เดินแกมวิ่งออกไปจากห้อง ใบหน้าของคนสูงวัยเต็มไปด้วยความหงุดหงิดขึ้นมา จากนั้นก็ถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน

          ไอ้บ้า

 

          “โอ๊ย น่าเบื่อจัง”

          โค้กพูดประโยคนี้เป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วเนก็จำไม่ได้ เด็กหนุ่มเพียงแต่เงียบและมองร้านดอกไม้ที่อยู่ตรงถนนอีกฝั่งผ่านกระจกรถ ในตอนนี้พวกเราต้องมาคอยเฝ้าระวังในระหว่างที่คุณเจ้านายดำเนินการแผนจับลูกกวางน้อยของนายแว่นไว้ในกำมือ ดวงตาเรียวเอ่อล้นไปด้วยความสงสัยปนขุ่นเคืองเมื่อนึกถึงคนที่ควรจะอยู่กับตนมากกว่าจะเป็นโค้ก ในหัวก็เอาแต่คิดไม่หยุดว่าอีกฝ่ายกำลังทำอะไรอยู่

          “นี่ๆ นายว่ามันใจร้ายไหม”

          อยู่ๆโค้กก็เอ่ยชวนคุยขึ้นด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย เนหันไปมองคนที่ทำท่าจะหลับแหล่มิหลับแหล่อยู่บนเบาะรถที่นั่งคนขับ เขาเพียงแต่เงียบ เพราะไม่เข้าใจคำพูดของอีกฝ่าย

          “ก็ตั้งแต่ไอ้ศาสตร์คบกับอาวัฒน์เนี่ย แทบจะลืมเพื่อนอย่างฉันไปเลยล่ะ ใจร้ายไหมล่ะ”

          “งั้นหรือครับ...” เด็กหนุ่มตอบเสียงแข็ง “ก็ไม่มั้งครับ คุณศาสตร์เขาก็รอมานานแล้ว ช่วงแรกๆก็คงเป็นแบบนี้กันล่ะครับ”

          “เอ๋ แต่ฉันไม่เคยลืมเพื่อนเหมือนอย่างมันเลยนา” โค้กร้องก่อนจะถอนหายใจ ชายหนุ่มเหลือบมองคนที่ไม่ยอมแม้แต่จะหันมาคุยดีๆด้วย “แถมยังไม่เกรงใจใครอีกต่างหาก อย่างเมื่อวานเงี้ย ฉันไปหามันที่บ้าน เล่นเอาฉันไม่กล้าเปิดประตูไปกวนเลย”

          โค้กนึกสนุกเมื่อเห็นเด็กหนุ่มหันขวับกลับมาอย่างรวดเร็วโดยที่ยังมุ่นคิ้วจนแทบจะชนกันเป็นเส้นเดียว ก่อนจะเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ หากแต่ใบหน้ากลับยังคงยิ้มไม่หยุด

          “คืองี้ บ้านฉันกับบ้านไอ้ศาสตร์มันอยู่ใกล้กันไง แล้วพ่อแม่เราก็สนิทกัน บางทีฉันไม่ก็มันจะโดนใช้ให้เอาอาหารหรือของฝากไปให้ ทีนี้เมื่อวานฉันไปหามันที่บ้าน พ่อกับน้องสาวมันไม่อยู่ ไอ้เราก็นึกว่าอยู่คนเดียว พอได้ยินเสียงแปลกๆออกมาจากห้องนอนมันเท่านั้นล่ะ อ๊า ไม่อยากจะคิดให้ปวดใจเลยน้า...”

          “เขาจะทำอะไรก็เรื่องของพวกเขาสิครับ”

          แม้น้ำเสียงทุ้มที่ดังออกมาจะเป็นไปด้วยความหงุดหงิดและน่ากลัว แต่โค้กก็ไม่ได้นึกหวั่นอีกฝ่ายที่เอาแต่บึ้งหน้าใส่แต่อย่างใด ซ้ำยังพูดต่อออกมาอย่างทีเล่นทีจริงอีก

          “แหม ก็เคยแอบรักนี่นา มาเจอแบบนี้ ใครจะไปทนรับไหวกันเล่า ต่อให้เป็นเพื่อนกันก็เถอะ พอคิดว่าไม่สมหวังแล้วมันก็อดเสียใจไม่ได้นี่หว่า เนอะ”

          เนเพียงแต่เงียบ โค้กก็เลิกพูดต่อ ส่วนหนึ่งเพราะเจ้านายออกมาจากร้านพร้อมกับเดียร์แล้ว จึงต้องขับรถตามไป อีกส่วนเพราะชายหนุ่มยั่วโมโหอีกฝ่ายจนสาแก่ใจแล้วด้วย

          ก็หมั่นไส้นี่หว่า ขอสักหน่อยเหอะ

 

          วัฒน์เดินถอนหายใจไปตามทางเดินไปยังบ้านของสิทธิ์อย่างเอื่อยเฉื่อย รู้สึกเหนื่อยอย่างบอกไม่ถูก ไอ้เรื่องงานนั่นก็ใช่ แต่เรื่องใจนี่สิที่ทำเอาจะแย่

          แต่ในเมื่ออีกฝ่ายไม่ได้คิดอะไรกับเขาเลยนี่ แล้วจะให้ทำอย่างไรได้ ก็มีแต่ต้องตัดใจเท่านั้นล่ะ และควรจะตัดใจให้เร็วที่สุดด้วย จะได้ไม่ต้องมาเจ็บช้ำเหมือนครั้งก่อนอีก แถมคราวนี้ก็ไม่ได้มีแค่เขาที่จะเจ็บคนเดียวด้วย

          หนุ่มใหญ่สะดุ้งนิดหน่อยเมื่อเปิดประตูเข้าบ้านแล้วพบว่าเนกำลังนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นทั้งที่ปิดไฟสนิทในเวลาเกือบเที่ยงคืน ดวงตาคมเพ่งมองอย่างไม่แน่ใจนัก บนโต๊ะก็ไม่มีแก้วหรือขวดเหล้า หรือกระทั่งเอกสารงานเลย เหมือนเนเพียงแค่นั่งอยู่เฉยๆเท่านั้น และเพราะความมืด เขาจึงไม่เห็นสีหน้าของเด็กหนุ่มเลย จึงไม่เข้าใจเลยว่าเนจะมานั่งนิ่งอยู่ตรงนี้ทำไม

          “ยังไม่นอนอีกหรือ” แม้จะบอกตัวเองว่าให้ตัดใจ แต่เห็นอีกฝ่ายดูผิดปกติขนาดนี้เขาก็อดถามเพราะเป็นห่วงไม่ได้

          “กลับบ้านดึกจังเลยนะครับ”

          แต่เด็กหนุ่มเอ่ยถามกลับแทน วัฒน์เลิกคิ้วมองอย่างแปลกใจ เพราะถึงจะมองไม่เห็น แต่น้ำเสียงนั้นแหบต่ำและชวนระคายหูเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งนั่นทำให้เขาหงุดหงิดจนออกนอกหน้าแบบไม่มีกั๊ก เพราะคิดว่ายังไงเสียอีกฝ่ายก็คงจะมองไม่เห็นสีหน้าของตนเหมือนกัน

          “ก็แล้วไงล่ะ ฉันจะไปไหนมันก็เรื่องของฉันนี่” วัฒน์กระแทกเสียงใส่ ก่อนจะเดินผ่านไปหมายจะขึ้นบันไดไปยังชั้นสองพลางนึกหงุดหงิดที่เสียเวลาเป็นห่วง หากแต่เดินเข้าบ้านไม่ถึงไหน เด็กหนุ่มก็ลุกขึ้นมาขวางเขาไว้เสียก่อน

          “อะไรของนาย” วัฒน์เอ่ยอย่างหัวเสีย ก่อนจะเบี่ยงตัวหนี แต่เด็กหนุ่มก็ตามมาขวางติดๆ “เฮ้ ถ้าคิดจะมากวนกันล่ะก็...”

          น้ำเสียงทุ้มขาดห้วงไปเมื่ออยู่ๆอีกฝ่ายก็เข้ามาประกบปากตนเสียอย่างนั้น ครั้นจะดิ้นหนี แขนบางแต่แข็งแกร่งเข้าโอบรัดร่างเสียแน่น จนหนุ่มใหญ่แทบหายใจไม่ออก วัฒน์พยายามครองสติของตนและดิ้นรนสุดตัว แต่จะถอยหนีก็มีข้อจำกัดแค่ส่วนหัว ซึ่งเจ้าบ้าตรงหน้าก็ตามติดอย่างไม่มีลดละ แถมยังใช้มือจับหัวเขาเอาไว้อีก จะผลักดันขืนหนีก็แรงไม่มากพอจะสู้ไหว จะกัดลิ้นก็กลัวอีกฝ่ายหน้ามืดหนักกว่าเดิม แต่จะร้องห้ามก็ไม่สามารถพอ อีกทั้งสติสตังก็ไม่เหลือจะต่อต้าน ไหนจะขาด้านล่างของเด็กหนุ่มที่สอดเข้ากลางขาตนแล้วกระทุ้งกระตุ้นจุดอ่อนไหวเบาๆจนสะดุ้งโหยงอีก

          “อึก...” น้ำเสียงทุ้มดังครางออกมาจากลำคออย่างแผ่วเบา แรงต่อต้านก็หดหายลงไปจนสิ้น เหลือเพียงแต่ความกระสันที่เฝ้าคิดถึงมานานแสนนาน

          ไม่สิเฮ้ย จะยอมให้มันทำแบบนี้ได้ไงละฟะ!

          “อึก...หยุดนะ...” พออีกฝ่ายถอนจูบออก วัฒน์ก็โพล่งเสียงเขียวพร้อมกับดันอีกฝ่ายออกไปแม้จะไม่ได้ผลเลยก็ตาม โชคดีเหลือเกินที่ในยามนี้มืดสลัว อีกทั้งตอนนี้ก็เกือบเที่ยงคืนแล้ว ไม่ต้องกลัวว่าอีกฝ่ายจะเห็นใบหน้าแดงก่ำของตน “ทำอะไรของนาย ฉันมีแฟนแล้วนะเฮ้ย!”

          แต่เหมือนพูดกับสัตว์ป่ายังไงยังงั้น เพราะนอกจากจะไม่ตอบ ยังไม่ฟังที่พูดอีกต่างหาก

          เนยกตัวคนที่สูงพอๆกันแล้วผลักลงไปนอนยังโซฟายาวที่อยู่ไม่ห่าง เด็กหนุ่มขึ้นคร่อมร่างตรงหน้าโดยไม่สนว่าอีกฝ่ายจะพยายามดิ้นรนร้องห้ามแต่อย่างใด มือทั้งสองจัดการกระชากเสื้อจนกระดุมหลุดกระเด็นกระดอนไปทั่ว จากนั้นก็เข้าลูบไล้ไล่ไปทั่วร่างกายอย่างหิวกระหาย แรงกดและแรงขยำทำเอาหนุ่มใหญ่ระบมไปหมด แต่ครั้นจะร้องก็ร้องไม่ออกนักเมื่อโดนใบหน้าเรียวซุกไซ้ไล่เรียงไปตามซอกคอและใบหน้าของตน ลมหายใจอุ่นร้อนรดผิวกายจนรู้สึกเสียววาบและปั่นป่วนไปหมด

          หรือเพราะร่างกายและจิตใจมันร่ำร้องเรียกหา ใจมันถึงได้ไม่พยายามห้ามเด็กหนุ่มเอาเสียเลย

          “...หยุดนะ...” วัฒน์เอ่ยเสียงสั่น ก่อนจะพยายามดันคนที่คร่อมตนสุดฤทธิ์ หนุ่มใหญ่บ่ายหน้าหนีหลบไปทางอื่น กลัวจะโดนอีกฝ่ายปิดปากตนด้วยการจูบอีก ใจจริงนึกอยากจะตะโกนให้สุดเสียง แต่ไม่รู้ทำไมกลับร้องไม่ออกเสียอย่างนั้น “นายจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ...ฉันมีแฟนแล้วนะ”

          “ถ้างั้นบอกมาสิครับว่าเกลียดที่จะทำแบบนี้กับผม”

          หนุ่มใหญ่ชะงักเมื่อได้ยินเสียงทุ้มเอ่ยบอกอย่างแผ่วเบาอยู่ข้างหู ดวงตาเรียวเลื่อนไปมองเด็กหนุ่มตรงหน้า ความมืดสลัวนั้นทำเอาวัฒน์มองไม่เห็นสีหน้าของเนเลยแม้แต่น้อย หากแต่ร่างที่นอนทาบกับตนนั้นสั่นระริกจนสัมผัสได้

          “ทั้งหมดมันเป็นเพราะคุณนั่นล่ะ”

          จากที่กำลังหวั่นกลัวถึงกับชักสีหน้าที่โดนกล่าวหากันดื้อๆ แต่ครั้นจะโพล่งเถียง เสียงกลับไม่ยอมออกมาเสียอย่างนั้น ยิ่งโดนมือที่สั่นเทาของเด็กหนุ่มลูบเข้าที่แก้ม ทั้งน้ำเสียงและสติก็หายไปจนหมด

          “ถ้าคุณไม่พูด ผมจะทำ ผมไม่สนแล้วว่าคุณจะคบกับใคร”

          ยังไม่ทันจะได้เตรียมใจ เจ้าเด็กบ้านี่ก็ลงมาซุกเข้าซอกคออีกครั้ง วัฒน์พยายามถอยหนี แต่ช่างไร้ประโยชน์เสียเหลือเกิน แม้สัมผัสที่ได้รับจะรุนแรงและหนักหน่วงจนแทบจะแตกเป็นเสี่ยงๆ แต่กระนั้นมันก็ยังไม่มากพอที่จะเอาชนะความคิดถึงและโหยหาอีกฝ่ายได้เลย

          ไม่นะ แค่แยกกันอยู่คนละห้องแท้ๆ...ทำไมถึงได้คิดถึงมันขนาดนี้...

          “อย่านะ...” เสียงทุ้มดังอ้อนวอนอย่างแหบแห้ง ทั้งที่จะหยุดอีกฝ่ายนั้นก็แสนง่าย เพียงแค่ทำตามที่อีกฝ่ายบอกเท่านั้น

          แต่เพราะรักนี่ จะให้บอกว่าเกลียดได้ยังไง!

          เด็กหนุ่มจัดการปลดปราการด่านล่างของอีกฝ่ายอย่างทุลักทุเล และแม้วัฒน์จะพยายามขัดขืนเต็มแรง แต่สุดท้ายก็โดนเนชักกางเกงออกจากตัวจนได้

          “เน…หยุดเถอะ…” วัฒน์เอ่ยอ้อนวอนอย่างสิ้นหวัง มือทั้งสองพยายามดันร่างของอีกฝ่ายออกไป แต่มันช่างไร้ประโยชน์เสียเหลือเกิน เด็กหนุ่มไม่ฟังเขาเลย และไม่คิดจะหยุดสักนิด “เน…”

          ไม่นะ…อย่าทำแบบนี้…

          ยังไม่ทันที่เนจะได้ชักอาวุธออกมา ร่างของเด็กหนุ่มก็โดนกระชากออกมาเสียก่อน จากนั้นก็โดนชกเข้าท้องอย่างจังจนเนถึงกับถอยไปเสียไกล

          วัฒน์รีบลุกขึ้นจากโซฟาแล้วเบิกตามองเหตุการณ์ตรงหน้า รีบดึงกางเกงกลับเข้าที่ทันควันด้วยความตกใจ เพราะความมืด ทำเอาเขาเพ่งอยู่นานกว่าจะรู้ว่าเป็นศาสตร์ที่เข้ามาช่วยตนเอาไว้

          “ไม่เป็นอะไรนะครับ” หนุ่มหน้านิ่งปรี่เข้ามาถามอาการอย่างเป็นห่วง “เฮ้ย!”

          ศาสตร์เผลอร้องออกมาเมื่อคนที่เขาเพิ่งปล่อยหมัดมายืนอยู่ข้างหลัง ทีแรกชายหนุ่มนึกว่าอีกฝ่ายจะสวนเขากลับเสียแล้ว แต่เนได้ทำในสิ่งที่ทั้งวัฒน์และเขาอึ้งยิ่งกว่า

          “เฮ้ย!” คราวนี้เป็นเสียงร้องของวัฒน์ เพราะโดนเนพุ่งเข้ามาปล้ำตนอีกแล้ว แถมยังไม่สนใจคนที่ชกหน้าเด็กหนุ่มเลยแม้แต่นิดเดียว “ไอ้บ้านี่…เอ๊ย!! หยุดเดี๋ยวนี้นะว้อยย”

          ศาสตร์ถึงกับนิ่งเพราะทำอะไรไม่ถูกไปหลายวินาที ก่อนจะกระชากเนที่เอาหน้าซุกวัฒน์อยู่บนโซฟา แต่รอบนี้เด็กหนุ่มเล่นกอดรัดอีกฝ่ายเสียเหนียวหนึบอย่างกับปลาหมึกก็ไม่ปาน ทำให้ศาสตร์ไม่กล้าจะใช้แรงมากเพราะจะกระเทือนไปถึงวัฒน์ เลยต้องใช้วิธีแกะมือออกมาแทน

          “ไอ้บ้าเอ๊ย” ชายหนุ่มตะคอกใส่ก่อนจะปาเด็กหนุ่มลงกับพื้นอย่างแรง และเป็นจังหวะเดียวกับที่ไฟในบ้านเปิดขึ้น พร้อมกับเหล่าคนใช้สายบู๊ที่วิ่งเข้ามาในห้องนั่งเล่นพร้อมอาวุธครบมือ

          “อ๊ะ!” แมวร้องก่อนจะลดปืนกล็อกในมือตนลงพร้อมกับเบิกตาโตอ้าปากค้างมองภาพตรงหน้า จากนั้นก็เอามือที่ยังว่างปิดตาแบบเว้นตาเอาไว้

          “อะไรวะเนี่ย” รุตนิ่วหน้าอย่างงงงวย เมื่อเห็นแต่พวกเดียวกัน “ศาสตร์ เกิดอะไรขึ้น”

          เจ้าของชื่อเพียงแต่ทำหน้าตื่นก่อนจะหันไปหาวัฒน์ที่ยังนั่งอยู่บนโซฟา แม้จะไม่ได้เป็นอะไร แต่เสื้อเชิ้ตก็ทั้งขาดและกระดุมบินออกไปหมด หนุ่มใหญ่พยายามจัดเสื้อของตนให้เข้าที่ แม้สภาพมันจะใช้ไม่ได้แล้วก็ตาม

          “ไม่มีอะไรแล้ว ทุกอย่างปลอดภัยดี” วัฒน์บอกเสียงแหบแห้ง ก่อนจะชี้ไปที่เน “ฝากเอาเนไปทำแผลที”

          “เฮ้ย แล้วนายไม่เป็นอะไรหรือ” เห็นสภาพเสื้อเละเทะของอีกฝ่ายแล้ว รุตก็เอ่ยถามอย่างลนลาน

          “ไม่…ไม่เป็นอะไรทั้งนั้น” เขารีบบอกก่อนจะใช้มือจับเสื้อมาปิดร่างและคอตน ถึงจะไม่บาดเจ็บ แต่เมื่อกี้เนก็ทั้งดูดทั้งกัดมาเสียเยอะ เขาก็กลัวว่าจะเกิดรอยต้องสงสัยขึ้น แล้วคราวนี้เรื่องจะยาวและใหญ่โตโดยใช่เหตุเสียเปล่าๆ “...เดี๋ยวฉันออกไปข้างนอกกับศาสตร์นะ”

          ประโยคนั้นทำเอาคนที่นอนอยู่กับพื้นพยายามจะลุกขึ้นมาเหมือนซอมบี้โดนปลุกชีพ หากแต่ศาสตร์ที่อยู่ใกล้ๆรีบเตะดับสติอีกฝ่ายก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์บ้าบอกับวัฒน์อีก

          “โทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ เส้นเอ็นมันกระตุก” ศาสตร์บอกเสียงนิ่งเมื่อรุตกับแมวพากันสะดุ้งที่เห็นเนสลบคาเท้าชายหนุ่ม “รีบพาเขาไปทำแผลเถอะครับ”

          ไปโรงพยาบาลดีกว่ามั้ง...รุตและแมวได้แต่คิดแบบนั้น แต่เพราะเนก็ไม่ได้มีบาดแผลภายนอกรุนแรงด้วย เลยทำตามที่อีกฝ่ายว่าโดยไม่เถียงอะไร

          “โอเคค่ะ งั้นอารุตมาช่วยหนูเอาพี่เนไปที่บ้านด้านหลังทีสิคะ”

          รุตหันมองเด็กสาวแล้วนิ่วหน้า ที่จริงเขาอยากจะถามเรื่องเสื้อผ้าของวัฒน์ แต่เพราะโดนเด็กสาวเรียกรั้งไว้ อีกทั้งวัฒน์เองก็เดินลิ่วออกไปจากบ้านทั้งในสภาพนั้นทันทีด้วย หนุ่มร่างท้วมเลยได้แต่เก็บคำถามเอาไว้ในใจ แล้วจัดแจงแบกเด็กหนุ่มตามแมวไปหลังบ้านแทน

          วัฒน์เดินแกมวิ่งออกมาจนถึงหน้ารั้วบ้าน มือทั้งสองยังคงกุมเสื้อของตนแน่น เสียงลมหายใจที่หอบดังระรัวค่อยๆกลับมาเป็นปกติ แต่ใจยังคงเต้นแรงไม่เปลี่ยน ใบหน้าเองก็ยังคงร้อนเหมือนโดนไฟลน ยิ่งนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตน ภายในสมองมันก็ปั่นป่วนไปหมด

          ทำไมล่ะ...ทำไมถึงทำแบบนี้...ก็ไหนว่าไม่ได้คิดอะไรไง...

          หนุ่มใหญ่ได้แต่ทวนถามตัวเองเช่นนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า มือที่กำเสื้อเอาไว้บีบแน่นมากขึ้นจนสั่นระริก ใบหน้าเรียวบิดเบี้ยวคล้ายกับจะร้องไห้ หากแต่กลับไม่มีน้ำตาออกมาสักหยด

          “อาวัฒน์ครับ...”

          เจ้าของชื่อหันไปมองชายหนุ่มที่อยู่ด้านหลัง แม้สีหน้าของศาสตร์จะดูเรียบนิ่ง แต่วัฒน์ก็รู้ว่าอีกฝ่ายรู้สึกอย่างไร เขาจึงก้มหลบลงเพราะสู้หน้าไม่ได้

          “พอดีอาลืมมือถือไว้บนรถ ผมเลยกะจะเอามาคืน...” ชายหนุ่มว่าก่อนจะล้วงมือถืออกมาจากกระเป๋ากางเกงยีนส์ของตน “ผม...ผมสมควรทำแบบนี้หรือเปล่า...”

          วัฒน์ก้มหน้านิ่งอยู่นานมาก กว่าจะเปิดปาก

          “สมควรสิ” เสียงทุ้มดังแหบพร่าและเต็มไปด้วยความหงุดหงิด “จริงๆเรายังทำน้อยไปด้วยซ้ำ น่าจะกระทืบมันให้ตายๆไปเลย”

          “อยากให้ผมทำแบบนั้นจริงๆหรือครับ”

          หนุ่มใหญ่เงยหน้ามองอย่างลืมตัว เมื่อเห็นสายตาเรียวที่จ้องกลับมา วัฒน์ก็ได้แต่หลบดวงตาที่เต็มไปด้วยความโกรธนั้น

          “ถ้าอาให้ทำ ผมก็จะทำ” ชายหนุ่มบอกเสียงกร้าว “ขอเพียงแค่อาบอก”

          สิ้นประโยค ทุกอย่างกลับมาอยู่ในความเงียบงัน ศาสตร์มองคนที่เอาแต่ยืนนิ่ง แต่เขาก็รู้คำตอบดีอยู่แล้ว

          “ไปกันเถอะครับ” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นก่อนจะถอนหายใจ “ผมไม่ทำจริงๆหรอกครับ ถึงผมจะไม่ชอบไอ้เด็กนั่น แต่ผมไม่มีทางทำให้คุณสิทธิ์กับอาวัฒน์เสียใจหรอกครับ”

          “ขอโทษนะ” วัฒน์เอ่ยโดยที่ยังก้มหน้านิ่ง “ขอโทษที่ทำให้เราต้องมาเจอเรื่องแบบนี้”

          ชายหนุ่มหันมองคนที่ดูจะรู้สึกผิดเสียเต็มประดา ก่อนจะมุ่นหน้าด้วยความหงุดหงิด

          “ผมไม่เคยนึกเสียใจหรอกนะครับ เพราะนี่เป็นสิ่งที่ผมตัดสินใจเอง” ศาสตร์ตอบฉะฉาน “แถมผมเองก็ได้กำไรตั้งเยอะจนอาไม่มีเหตุผลอะไรต้องมารู้สึกผิดเลยด้วยครับ”

          วัฒน์เงยหน้ามองเด็กหนุ่มที่บึ้งหน้าใส่ตนเหมือนกำลังตำหนิ ทำเอาความหม่นหมองในใจหายไปจนสิ้น

          “ขอบใจนะ”



______________________________________


เราเชื่อว่าตอนนี้น่าจะทำให้คนกรี๊ดหลายคนและหลายๆเหตุผล =w=\

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-10-2015 10:53:59 โดย musddmp »

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
โฮ่ นี่เขาเรียกอาการหึงจนหน้ามืดสินะเนถึงได้จะปล้ำลุงหนักขนาดนี้ เฮ้ออ ก็ถ้าชอบลุงแกจริงๆก็น่าจะบอกไปตรงๆได้แล้วนะเนเลิกซึน เลิกปากแข็งสักที ระวังมันจะไม่ทันเอาจริงๆนะแล้วจะเสียใจไม่รู้ด้วย

ออฟไลน์ lnwboomgo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 19
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
โหยๆๆ คัดใจจริงเลย ค้างงงงง ตื่นเต้นมากเลยตอนนี้ มาต่อเร็วๆนะ

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
 :serius2: มาร มารจริงๆ    :z6: ศาสตร์ซะเลย

เค้าอยากจะเห็นอาวัฒน์โดนเนกดอีก  :ling1:

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
กรีดร้องงง
ศาสตร์เข้ามาขัดทำม้ายยย T[]T!
เนมันหึงจนหน้ามืดตามัวแล้วเนี่ย แต่ยังซึนไม่เลิกอี๊กกก
รอน้า

ออฟไลน์ musddmp

  • อิอิ คริคริ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 155
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-0
ภารกิจร้าย พ่ายประตูหลัง
         
ตอนที่ 68


          ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะ...เราไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย...

          “อ้าว ฟื้นแล้วเรอะ…” รุตเอ่ยทักอย่างประหลาดใจเพราะไม่คิดว่าเด็กหนุ่มจะฟื้นตัวเร็วมากหลังจากโดนลูกเตะของศาสตร์เข้าไป แต่พอหันไปเห็นก็สะดุ้งแล้วถอยหลังไปติดกำแพงทันทีเพราะเนลุกพรวดออกมาจากเตียงด้วยใบหน้าค้างนิ่ง และยิ่งชวนหวาดยิ่งกว่า เมื่อเด็กหนุ่มค่อยๆหันมาหาตนด้วยสีหน้าเดิม “…จำได้หรือเปล่าว่าเกิดอะไรขึ้น”

          เนหน้าเบี้ยวเมื่อรู้สึกปวดคอและขมับ เด็กหนุ่มกลอกตามองไปรอบๆ ในตอนนี้เขาอยู่ในห้องนอนของตน และมีรุตอีกคนที่อยู่ด้วย เนพยายามนึกถึงเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ใบหน้าเรียวซีดเซียวลงทันควัน ทำเอารุตชักเป็นห่วงขึ้นทุกที

          “ไปโรงพยาบาลดีกว่าไหม” หนุ่มใหญ่ร่างท้วมแนะขึ้นอย่างกังวล แต่อีกฝ่ายเพียงแต่ส่ายหัวให้เบาๆ

          “คุณวัฒน์ละครับ”

          ทีแรกรุตกะว่าจะถามถึงเหตุการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้น แต่เด็กหนุ่มกลับชิงถามก่อนด้วยสีหน้าร้อนรนเป็นกังวลเสียจนรุตได้แต่กลืนความสงสัยของตนกลับลงไปแทน

          “ไปกับศาสตร์น่ะ”

          ทันใดนั้น ใบหน้าของเด็กหนุ่มก็เปลี่ยนสี ยิ่งทำให้คนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยชักกังวลและร้อนใจขึ้นมา สงสัยเสียเหลือเกินว่าตนพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า เนถึงได้หน้าเสียขนาดนี้

          “นั่นสินะ…”

          “อ้าว จะไปไหนน่ะ” รุตท้วงถามเมื่อเห็นคนที่น่าจะยังเจ็บลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินออกไปจากห้องของตัวเอง
         
          “ผม…ผมจะไประบาย”

          รุตได้แต่นิ่วหน้าอ้าปากค้าง ก่อนจะพยักหน้าด้วยความเลื่อมใสกับความมุ่งมั่นของเด็กหนุ่ม ที่แม้จะยังเจ็บตัว แต่ก็ยังมีความพยายามในการปลดปล่อยเสียเหลือเกิน

 

          “โอ้ ว่างาย มาซะป่านนี้จะมาช่วยเก็บกวาดให้หรือไงจ๊ะ....เฮ้ย!”

          ฉัตรร้องเสียงหลง เมื่ออยู่ๆเนที่เดินดุ่ยเข้ามาในบาร์ก็พุ่งหมัดใส่ตนที่กำลังยืนตรวจบัญชีอยู่ หน้าเคาท์เตอร์ ทำเอาปาล์มและต่อที่กำลังเก็บกวาดอยู่บริเวณนั้นพากันสะดุ้ง แม้หนุ่มใหญ่ร่างยักษ์จะรับหมัดของอีกฝ่ายทันก่อนจะมาถึงหน้าของตนก็ตาม

          “อยู่นิ่งๆแล้วขอผมต่อยสักทีเหอะ” เนว่ายังคงกดแรงใส่อีกฝ่ายไม่เลิกทั้งที่ไร้ประโยชน์ “แค่หมัดเดียวเองน่า”

          “อย่ามาขออะไรแบบนี้กันง่ายๆ สิวะ” ฉัตรย้อนเสียงขุ่นอย่างเหนื่อยใจ ก่อนจะรับอีกหมัดที่พุ่งเข้ามา และเพียงไม่นานก็ผุดยิ้มบางออกมา “อารมณ์เสียอะไรมาจากบ้านหรือเปล่าจ๊ะ”

          คำตอบคือแรงควายที่ดันเข้ามาจนแขนฉัตรสั่น

          “โอ้โห ไม่ใช่เล่นเลยนี่หว่า” หนุ่มใหญ่ร่างยักษ์ยังคงหยอกเย้าไม่เลิก “แต่ถึงจะชกฉันไป มันก็ไม่ช่วยให้แกหายโกรธร้อก”

          “ไม่ลองก็ไม่รู้นี่ครับ” เนว่าก่อนจะสะบัดมือออกมาจากอีกฝ่าย

          ทีแรกฉัตรนึกว่าเจ้าเด็กตรงหน้ามันจะต่อยกสองอีกรอบ แต่เนกลับแค่ยืนนิ่งๆแล้วเดินไปยังเคาท์เตอร์แทน

          “ขอที่แรงที่สุด” เนหันไปสั่งกับต่อเสียงเข้ม ทั้งที่ในตอนนี้ก็ปิดร้านและกำลังเก็บกวาดกันอยู่ แต่กระนั้นต่อกลับไม่ได้ห้ามหรือว่าอะไรนอกจากทำตามอย่างรวดเร็ว และทันทีที่รับแก้วมาก็กระดกลงคออย่างกับดื่มน้ำเปล่า “อีก”

          ซึ่งต่อก็ส่งให้แบบไม่กังวลว่าอีกฝ่ายจะเมาแล้วอาละวาดแต่อย่างใด ทำเอาปาล์มถึงกับหน้าซีดและดึงไหล่ต่อที่กำลังจะยื่นอีกแก้วที่ทำเตรียมรอเอาไว้แล้ว

          “เอาน่า...มันเป็นการเรียกขวัญและกำลังใจ”

          ปาล์มได้แต่นิ่วหน้ามอง และยังไม่ทันไร เจ้าคนเมาก็เดินเข้าไปหาพ่อของตัวเองอีกแล้ว

          “เฮ้ยๆ ถ้าจะตีกันอย่ามาตีในร้านนะโว้ย พวกฉันขี้เกียจจะเก็บกวาดใหม่นะ” ปาล์มร้องเสียงตื่นก่อนจะเผ่นออกมาจากเคาท์เตอร์หมายจะห้ามทัพ แต่แล้วก็ต้องชะงักเมื่อเนไม่ได้วิ่งเข้าไปต่อยบิดาตน อีกฝ่ายเพียงแค่ยืนประจันหน้ากับฉัตรเท่านั้น

          ฉัตรเลิกคิ้วมองคนตรงหน้าด้วยความสงสัย เพราะไม่รู้ว่าจะมาไม้ไหนอีก เลยระวังตัวด้วยการเว้นระยะและสังเกตท่าทีของอีกฝ่ายเอาไว้ก่อน แต่เนก็ไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากยืนนิ่งๆด้วยใบหน้าเหมือนหมาหงอยอย่างเดียว

          หนุ่มใหญ่ได้แต่ถอนหายใจ ใช่ว่าเขาจะไม่รู้ว่าทำไมคนตรงหน้าถึงมีอาการแปลกๆเช่นนี้ ท่าทางคงไม่พ้นไปจากเรื่องวัฒน์กับศาสตร์นักหรอก แต่ในเมื่อทำตัวเองทั้งนั้น แล้วเขาจะทำอะไรได้ ขนาดว่าพยายามช่วยพูดให้แล้วแท้ๆ…จริงๆนะเออ

          “ไปคุยกันข้างบนหน่อยไหม”

          เนจ้องอีกฝ่ายด้วยดวงตาแดงก่ำ ก่อนจะพยักหน้าให้ หนุ่มใหญ่จึงเดินนำไปยังชั้นสามโดยไม่พูดอะไรสักคำ

          “อะไรของมันวะ” หลังจากฉัตรกับเนเดินหายขึ้นไปชั้นสาม ปาล์มก็ร้องขึ้นด้วยความรำคาญปนสงสัย “นายว่าพักหลังนี้มันทำตัวแปลกๆไปหรือเปล่าวะ”

          “ยังไงหรือ...”

          “ก็ทำตัวเหมือนคนบ้า...” ปาล์มตอบกำกวม ท่าทางเหมือนไม่ค่อยจะแน่ใจนัก “ไอ้เรื่องมาจีบผู้หญิงแล้วหิ้วออกไปฉันยังพอเข้าใจ แต่ทำตัวโอเวอร์เกินเหตุเหมือนคนเมากัญชาฉันไม่เข้าใจว่ะ ไหนจะยังชอบมองป๋าเหมือนหาเรื่องชอบกล...หรือปกติมันทำตัวแบบนั้นล่ะ”

          “อ๋อ...ไม่เคยเลย...” ต่อยังคงตอบด้วยน้ำเสียงยานคาง “คงกำลังสับสนในชีวิตอยู่มั้ง ช่วงนี้มันเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของหมอนั่นน่ะ”

          ว่าจบก็หันไปเก็บแก้วบนเคาท์เตอร์ ปล่อยให้เพื่อนหน้าหวานได้แต่นิ่วหน้าด้วยความสงสัยอยู่เช่นนั้นต่อไป

 

          ฉัตรเหลือบมองคนที่ตามหลังมา ท่าทีเหงาหงอยผิดกับตอนไม่ได้ดื่มเหล้าลิบลับจนน่าแปลก แต่นั่นกลับทำให้เขายิ้มกว้าง

          “นั่งสิ” หนุ่มใหญ่พยักเพยิดไปทางโซฟาด้านในห้องพักพนักงาน แต่อีกฝ่ายกลับยังคงนิ่งเฉยเหมือนไม่ได้ยินที่เขาพูด “เฮ้ย!”

          แล้วเจ้าเด็กบ้านั่นก็แจกหมัดใส่เขาอีกแล้ว และก็โดนเขาจับเอาไว้ทันเช่นเคย

          “น่าครับ แค่แป๊บเดียวก็จบแล้ว” เนว่า ยังคงดึงดังไม่เลิก

          “จะบ้าเรอะ ใครมันจะยอมให้ชกกันง่ายๆวะ” ฉัตรร้องใส่อย่างเหนื่อยหน่ายปนรำคาญ “ถ้าแกยังคิดจะชกฉันอีก ฉันจะอัดแกให้สลบเหมือดไปเลยนะเว้ย”

          “งั้นขอเอาแทนก็ได้”

          “หา…เฮ้ย!!”

          เพราะไม่ทันตั้งตัวกับคำขอที่บ้าที่สุดตั้งแต่เกิดมา ทั้งอีกฝ่ายยังผ่อนแรงดันและดึงตัวของเขาด้วย เลยกลายเป็นตนโผเข้าไปหาอีกฝ่ายเสียเอง

          “เฮ้ย!”

ฉัตรร้องเสียงหลงเมื่อเนกอดตนเอาไว้เสียแน่นจนอึดอัด และไม่รู้ว่าเพราะคำขอเมื่อครู่ บวกกับเจ้าเด็กบ้ามันหายใจรดต้นคอ แรงต่อต้านมันเลยหดหายไปดื้อๆเสียอย่างนั้น

          “เฮ้ๆๆ” หนุ่มใหญ่ร้องเสียงหลง “ฉันไม่ใช่ไอ้วัฒน์นะเว้ย”

          “แทนกันได้อยู่ครับ”

          ไอ้ห่า มันใช่ประเด็นเรอะ!

          ก่อนที่ทุกอย่างจะเกินเลยไปมากกว่านี้ ฉัตรก็รวบรวมแรงกายทั้งหมดผลักร่างเจ้าเด็กบ้านั่นออกจากตัวเองอย่างรวดเร็ว และทั้งที่ไม่ได้หนักหนาสาหัสอะไรเลยแท้ๆ แต่ฉัตรกลับหอบหายใจแทบไม่ทัน

          เด็กหนุ่มไม่ได้ดึงดันจะเข้ามาปล้ำตนเหมือนก่อนหน้า แต่สีหน้าท่าทางนั้นยังดูไม่น่าไว้ใจเท่าใดนัก ฉัตรจึงยังคงจับไหล่ทั้งสองของอีกฝ่ายเอาไว้แน่นเพื่อดูท่าทีไปก่อน

          “ถ้าคุณไม่ยอม งั้นผมจะไปปล้ำไอ้ปาล์มมัน”

          ฉัตรถึงกับสำลักน้ำลายตัวเอง และพอเผลอ เจ้าเด็กบ้านี่ก็สะบัดตัวหนี ทำท่าเหมือนกำลังจะวิ่งไปปล้ำลูกชายตัวเองจริงๆ

          “ไม่งั้นผมก็จะกลับบ้านไปหาแมว…ไม่ก็แถมป้านางด้วยเลย”

          “เฮ้ยๆ ชักจะเยอะไปแล้วนะเว้ย” ฉัตรเริ่มอารมณ์เสียเมื่อโดนเล่นถึงเมียและลูกสาว แต่พอเห็นอีกฝ่ายเอาแต่ก้มหน้านิ่ง จากที่คิดจะด่าบวกกับแจกหมัดให้สักโหลสองโหล เลยเป็นอันต้องพับโครงการนี้ทิ้งไปแทน “…เกิดอะไรขึ้นล่ะ ถึงได้หน้ามืดมาขอปล้ำฉันตอนตีสองเนี่ย หืม”

          เด็กหนุ่มเงยหน้าเบี้ยวๆคล้ายกับจะร้องไห้ขึ้นมา ก่อนจะก้มกลับไปอีกครั้ง

          “ผมไม่เข้าใจ...ทั้งที่ผมคิดว่าถ้าคุณวัฒน์คบกับคนอื่น ไอ้ความรู้สึกบ้าๆนี่มันจะหายไปแท้ๆ…แต่สุดท้ายมันกลับไม่ยอมหายไปเลย แถมยังจะมากขึ้นอีก” เสียงทุ้มเล็ดรอดออกมาจากไรฟันราวกับคั่งแค้นเสียเต็มประดา “ทำไมผมต้องหัวปั่นเพราะเขาแบบนี้ด้วย”

          “โอ๊ย ยังจะต้องงงอีกเรอะ ก็แกรักไอ้วัฒน์มันน่ะสิวะ”

          “ไม่ใช่สักหน่อย”

          ปากแข็งไม่เลิกงี้ พ่อง้างปากแล้วเลาะฟันหน้าออกมาสักสี่ห้าซี่ได้ไหมเนี่ย

          “ผมเองก็เคยคบกับคนอื่น แต่ไม่เห็นจะเป็นเหมือนกับคุณวัฒน์เลย” แต่ก่อนที่ฉัตรจะขยับตัว เนก็โพล่งออกมาโดยที่ยังไม่รู้ถึงภยันตรายที่เข้ามาใกล้ “ผมรักคุณวัฒน์นะ…แต่มันไม่ใช่แบบนั้น…ไม่เหมือนกับคนที่ผมเคยคบมาก่อนเลยสักนิด…”

          ฉัตรเลิกคิ้วมองคนที่ทำท่าเหมือนจะร้องไห้ แต่ก็ยังไม่ยอมร้องออกมาเสียที ก่อนจะถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย

          “งั้นกับคุณสิทธิ์ล่ะ” หนุ่มใหญ่ยกชื่อเจ้านายขึ้นมา เขาได้ยินจากวัฒน์ว่าอีกฝ่ายเป็นรุ่นน้อง ทั้งยังยอมมาทำงานเป็นผู้ติดตามทั้งที่ไม่อยาก ก็คงให้ความสำคัญกับสิทธิ์น่าดู

          “ผมไม่ได้รักคุณสิทธิ์สักหน่อย ผมเคารพและนับถือเขาต่างหากล่ะครับ”

          “อ้าว ถ้างั้นกับวัฒน์ก็น่าจะเหมือนกันนี่”

          เด็กหนุ่มชะงักก่อนจะนึกขึ้นมาได้

          “ก็เพราะนายไม่เคยรักใครมาก่อนน่ะสิ ถึงไม่รู้ว่ารักไอ้วัฒน์มัน” หนุ่มใหญ่ว่าพลางเกาหัวตัวเองด้วยความเบื่อหน่ายและรำคาญ “นายไม่เคยรักใครเลย ไม่เคยแม้แต่จะรู้ว่าความรักมันมีหลายแบบ เพราะงั้นนายถึงไม่รู้เลยว่าระดับความรักที่นายมีให้กับวัฒน์มันอยู่ในขั้นไหนยังไงล่ะ ใช่ไหม”

          เนเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง แต่คราวนี้เต็มไปด้วยความสงสัยแทน

          “ผมไม่เห็นจะเข้าใจเลย”

          “ก็ไม่ต้องเข้าใจร้อก ไอ้ของแบบนี้น่ะ ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัวเปล่าๆ” ฉัตรพูดเหมือนปัดความรับผิดชอบ ทำเอาเนถลึงตาใส่ “เอาง่ายๆเลยนะ ตอนนี้นายก็เลือกเอาว่าจะฝืนคิดว่าไม่ได้รักวัฒน์แบบคู่รักแล้วทรมานแบบนี้ไปเรื่อยๆ หรือจะยอมรับว่ารักมันก็เท่านั้น”

          “แต่เขาคบกับคุณศาสตร์แล้ว…”

          “เรื่องนั้นไม่เห็นจะเกี่ยว ฉันแค่ให้แกเลือกว่าจะไม่ยอมรับ หรือจะยอมรับแล้วบอกมันออกไปให้หมดเรื่องก็เท่านั้น” หนุ่มใหญ่ร่างยักษ์เอ่ยอย่างไม่ยี่หระ “อีกอย่าง คบได้ก็เลิกได้ กลัวอารายว้า สงครามมันเพิ่งจะเริ่มเอ๊ง”

          น้ำเสียงกวนช่วงหลังทำเอาคนที่กำลังหดหู่ได้แต่หน้าเบี้ยว ถึงอีกฝ่ายจะดูไร้แก่นสาร แต่เนก็ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าฉัตรจะกล้าแนะนำอะไรแบบนี้ให้

          “ก็อย่างที่บอก อย่าไปเสียเวลาทำความเข้าใจเล้ย เอาง่ายๆนะ ถ้าอยากให้ไอ้ความรู้สึกบ้าๆนี่ออกไป นายก็แค่ทำในสิ่งที่นายไม่ยอมรับแล้วหนีมันมาตลอดก็พอ ถึงตอนนั้นถ้ามันยังไม่ช่วยให้นายหายจากความรู้สึกบ้าๆนี่อีก ฉันยอมให้นายเอาเลยเอ้า”

          อาจเพราะน้ำเสียงและสีหน้าที่ไม่ได้มีความจริงจังหรือจริงใจแม้แต่น้อย เลยทำให้เนไม่อยากจะทำตามนัก

          “ฉันบอกได้แค่นี้ล่ะ เลือกเองเถอะว่าจะทำยังไง” ฉัตรถอนหายใจเมื่อเห็นเจ้าลูกแมวเอาแต่จ้องหน้าตนไม่เลิก “ถ้ายังลีลาเอาแต่หนีไม่เลิกแล้วมาขออะไรบ้าๆเหมือนวันนี้อีก ฉันจะเอาแกไปถ่วงทะเล…อย่าให้ฉันรู้นะว่าแอบดอดไปทำอะไรสาวๆที่บ้าน ไม่งั้นเมิงตายแน่”

          เนนิ่วหน้า ไม่ยอมรับหรอกว่าที่ขาตนสั่นเพราะกลัวคำขู่ของอีกฝ่าย

          “อย่าคืนคำละกัน” เห็นเด็กหนุ่มชี้หน้าใส่ด้วยท่าทีที่มุ่งมั่นและจริงจัง ทำเอาคนที่พลั้งเอ่ยปากสัญญาชักกลัวขึ้นมาตงิดๆ “…ว่าแต่…ผมถามอะไรอีกได้ไหม”

          ใจจริงก็เบื่อจะฟัง แต่ถ้าเพื่อได้แกล้ง…เอ๊ย ได้ช่วยให้เรื่องมันจบได้สักที ก็ยอมพยักหน้าให้อย่างช่วยไม่ได้

          “คุณ…ไม่รู้สึกอะไรบ้างหรือครับ…ที่คบกับคนอายุมากกว่าตั้งเยอะ…”

          ที่ฉัตรทำหน้าเหยเกไปพักหนึ่งเพราะเพิ่งนึกได้ว่าเจ้าเด็กบ้านี่มีรสนิยมเดียวกับตน ถึงจะคนละเพศก็เถอะ

          “ถ้าบอกว่าไม่รู้สึกอะไรเลยก็คงโกหกละน้า ใครรู้แม่งก็ล้อบ้าง ถากถางบ้าง ทำอย่างกับพวกมีปม” ฉัตรเอ่ยพลางทำท่านึกอย่างกระหยิ่มยิ้มย่องจนดูไม่เหมือนกำลังรำลึกถึงเรื่องแย่ๆ “แต่ระหว่างเสียงคนเยาะเย้ยนินทากับสิ่งที่รัก ฉันให้ความสำคัญกับอย่างหลังมากกว่าน่ะ”

          เนเพียงแต่นิ่วหน้ามอง ท่าทางเหมือนคิดไม่ตกนัก ทำเอาคนตอบชักเริ่มหวั่นกลัวเจ้าเด็กบ้านี่จะอายจนคิดจะเปลี่ยนใจแทน ยิ่งอีกฝ่ายหันตัวแล้วผลุนผลันออกจากห้องไปแบบไม่มีล่ำลา ยิ่งชวนให้หนุ่มใหญ่กังวลจนคิ้วชนกันเป็นเส้นเดียว

          แต่ยังไม่ทันจะได้กังวลไปมากกว่านี้ เจ้าเด็กบ้ามันดันกลับมาเปิดประตูผางใส่หน้า ทำเอาฉัตรถึงกับสะดุ้ง

          “ลืม ขอบคุณนะครับ”

          จากนั้นก็ทิ้งให้คุณลุงได้แต่ค้างไปกับคำพูดเหล่านั้นอยู่ในห้องเพียงลำพัง


_____________________________________________

ปล. หากใครสนใจรวมเล่ม รบกวนทำแบบสอบถาม ใกล้ถึงความจริงละ >w< ตามลิ้งนี้เลยงับhttp://goo.gl/forms/uhq9nHazgK

ตอนนี้ ถ้ากะหน้าคร่าวๆ บวกลบ ของแถมในเล่ม  ราคาตอนนี้ อาจจะอยู่ราวๆ 700-800 โดยประมาณนะงับ(ยังไม่แน่นอน อาจจะน้อยกว่านั้น)


อีกเรื่อง ตอนหน้าอาจจะมาลงอีกทีตอนกลางๆเดือนหน้านะงับ ;w; ติดงานนิดหน่อย



ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
จิ้ม

ข้อตกลงแบบไหนกันที่ว่าจะยอมโดนเอาวะคะฉัตร!? 5555555
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-10-2015 17:48:48 โดย boboman »

ออฟไลน์ qilarsy39

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
เน เอาลุงกลับมาให้ได้นะ  :hao7:

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
 :a5: เนมันคิดอะไรของมันเนี่ยะ ขอเอาฉัตร OMG

ออฟไลน์ lnwboomgo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 19
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ลุ้นมากมาย

เอ้าๆๆ เนจะเอาอาวัฒน์กลับมายังไงน๊าาา

รอคอยยยยยยยยยยยยยยย :hao7: :ling1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
 o22 o22 เงิบกับเนแป๊บ ค้างจากน้องมาขอเอาพี่ซะงั้นดีแค่ไหนลุงฉัตรไม่ยันโครมเข้าให้ ฮาา ละลุงแกแนะขนาดนี้แล้วก็เปิดใจยอมรับสักทีเหอะเน คนอ่านลุ้นจนเหนื่อยละนะ  :hao4:

ออฟไลน์ destiny_dr

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
สนุกมากกกกกก เลาอ่านรวดเดียวจบเลย ขอเม้นรวบยอดทีเดียวเลยนะคะ ㅠㅠㅡㅠㅠ
ตอนแรกๆลุ้นมากว่าเมื่อไหร่ลุงกับนังน้องเนจะเลิกเข้าใจอีกฝ่ายผิดสักที
ต่างคนต่างคิดไปเอง โมเมไปเอง แล้วก็เขม่นกันไปเอง5555
พอต่างฝ่ายต่างเข้าใจกันถูก(ถึงลุงจะช้าไปหน่อยก็เถอะ) นี่ว่าลุงน่ารักขึ้นเย้อออเลย น่าเอ็นดู๊น่าเอ็นดู น่าปล้ำเช้าปล้ำเย็น คึคึ
แต่นังน้องเนมันวาสนาไม่ถึง บุญมีแต่กรรมบัง พอลุงเขาเปิดใจให้ยอมรับว่ารักนัง นังดันปากแข็ง ดันซึนไปอี๊ก
จ้า นังคนคิดเยอะ จ้าาาาา สมน้ำหน้านังมาก ลุงล่ำกับพี่โค้กน่าจะรวมหัวกันแกล้งซะให้เข็ด หมั่นมากกก
เอาให้หึงจนอกแตกตายไปเลย 5555
แต่ว่าเลาทีมนังน้องเนนะ ถึงจะหมั่นนางแต่ก็เชียร์นาง เชียร์ให้ได้กะลุง555555
เอ้อ แอบคาใจเล็กๆ คือๆๆๆ


คือลุงยังไม่ปั่มป๊ามกับพี่ศาสตร์ใช้มั้ยยยย ใช้มั้ยคนเขียน ฮื่ออ
สงสารนังน้องเนมันเนาะ ให้ลุงเป็นของนังคนเดียวพอเนาะ plzzzz

รอตอนต่อไปนะคะ กลางเดือนหน้าใช่เป่า ฮึบ รอ ❤️

ปล.ผ่านเรื่องแบบนั้นก็หลายทีแล้ว แต่คือ คือว่ามันแบบ มันมีแต่ถ้าพื้นฐานเนาะ แบบ เราก็อยากให้ลุงออนท็อปบ้างง่ะเธอ กรั่กๆๆๆ เอาไว้หลังนังน้องเนยอมรับใจตัวเองก็ได้ นะๆ คิคิ

ออฟไลน์ musddmp

  • อิอิ คริคริ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 155
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-0
ภารกิจร้าย พ่ายประตูหลัง
         
ตอนที่ 69


          ทำสิ่งที่ไม่ยอมรับน่ะหรือ

          เนนั่งนึกนอนนึกมาทั้งคืน แม้จะไม่พอใจที่ต้องทำตามคำพูดของฉัตร แต่ในเมื่อมันเป็นหนทางเดียวที่จะช่วยให้ตนหลุดพ้นจากอาการน่ารำคาญนี้ได้ เขาจึงลองยอมรับว่าสิ่งที่ฉัตรพูดเป็นความจริง ซึ่งแม้จะทำให้รู้สึกประหลาดและหวาดหวั่นชวนเวียนหัวหน้ามืดอย่างบอกไม่ถูก แต่ก็ไม่ได้รู้สึกแย่เหมือนก่อนหน้าเลย

          รักน่ะหรือ

          เมื่อก่อนไม่เคยนึกสนใจหรือให้ความสำคัญกับคำๆนี้เลยแท้ๆ แต่พอมีวัฒน์เข้ามาเกี่ยวข้อง หัวใจมันกลับเต้นไม่เป็นจังหวะ ร่างกายก็ร้อนจนเหมือนคนเป็นไข้เสียอย่างนั้น

          ทั้งที่ไม่อยากหลวมตัวไปรักตาลุงหน้าบูดเลยแท้ๆ แต่พอลองยอมรับว่ารู้สึกแบบนั้นกับอีกฝ่ายก็ทำให้ความว้าวุ่นในใจหายไปได้อย่างน่าประหลาด แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกแย่ไปด้วย สาเหตุก็เพราะต้องไปเอ่ยความในใจที่เพิ่งจะรู้ตัวทั้งที่สายไปแล้ว อีกสาเหตุก็เพราะตัวเขาที่ดันหน้ามืดไปปล้ำวัฒน์เมื่อคืนนั่นล่ะ

          ก่อนอื่นเลยก็ต้องขอโทษก่อนนั่นล่ะ

          แม้จะแทบไม่ได้นอนมาเลยก็ตาม เนกลับไม่รู้สึกง่วงเลยแม้แต่น้อย ยิ่งคิดว่าจะต้องไปเจอหน้าวัฒน์ด้วยแล้ว ยิ่งตาค้างใจสั่นแบบไม่ต้องอัดคาแฟอีนเลยทีเดียว

          พอประตูบ้านเปิดเข้ามา เนก็แทบจะกระโดดออกมาจากโซฟา แต่พอเห็นวัฒน์เผลอถอยกลับด้วยสีหน้าตื่นตระหนก จากที่กำลังลิงโลดถึงกับหดตัวลงอย่างห่อเหี่ยวทันควัน

          และยังไม่ทันจะได้อ้าปากพูด หนุ่มใหญ่กลับเมินเขาเสียอย่างนั้น ไม่มองหน้าไม่พอ เดินหนีขึ้นไปยังชั้นสองอีกต่างหาก

          เนได้แต่เม้มปาก ใช่ว่าเขาจะไม่เข้าใจที่อีกฝ่ายหวั่นกลัวจนหนีเขา เอาเข้าจริงๆโชคดีเสียด้วยซ้ำที่วัฒน์ไม่ปรี่เข้ามาเป่ากะโหลกตนเสียทันทีที่เห็นหน้า

          เอาเถอะ ก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสได้เจอหน้ากันเสียหน่อย ยังไงก็ทำงานด้วยกัน มีโอกาสขอโทษเยอะแยะ

          แต่ทั้งอย่างนั้นวันนี้ทั้งวันเขากลับไม่มีจังหวะจะขอโทษได้เลย เพราะเป็นเรื่องที่ไม่ควรจะเอ่ยในที่แจ้งนัก เนเลยรอโอกาสที่จะได้อยู่กันตามลำพัง แต่สุดท้าย ถ้าไม่ใช่เพราะต้องอยู่กับสิทธิ์ วัฒน์ก็มักจะอยู่กับใครสักคนราวกับจงใจทุกที

          ก็คงกลัวว่าถ้าอยู่กับเราแค่สองคนแล้วจะโดนปล้ำอีกกระมัง...แต่อย่าคิดว่าจะหนีได้ตลอดนะเฟ้ย!

          “คุณวัฒน์ครับ!” เนเอ่ยรั้งเสียงตื่นก่อนจะยื่นมือไปจับแขนอีกฝ่ายแน่นอย่างลืมตัวเพราะกลัวอีกฝ่ายจะหนีไปอีก แม้ในตอนนี้จะไม่ได้อยู่กันลำพัง แต่อยู่ในบริษัท หน้าประตูห้องทำงานของวัฒน์ โดยที่ยังมีพนักงานเดินขวักไขว่กันไปทั่ว แม้จะเลยเวลาเลิกงานไปแล้วก็ตาม และเพราะโพล่งเรียกเสียงดัง คนอื่นๆเลยพากันหันมองกันเป็นตาเดียว

          “มีอะไร”

          ถือเป็นครั้งแรกของวันที่วัฒน์ยอมหันมาสบตาตรงๆสักที เล่นเอาหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ยิ่งเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้แสดงอาการโมโหโกรธาออกมาให้เห็น มือไม้ก็พานสั่นจนอยู่ไม่ได้เสียอย่างนั้น จึงรีบดึงมือออกเพราะกลัวอีกฝ่ายจะรู้ว่าตัวเองกำลังหวาดหวั่นอยู่

          “เอ่อ...ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณน่ะครับ...ถ้ายังไงไปหาที่ส่วนตัวคุยกันได้ไหม...”

          “ไม่”

          เสียงเฉียบปัดเป่าความตื่นเต้นของเด็กหนุ่มออกไปจนหมด ทิ้งไว้แต่อาการตื่นตะลึงกับคำตอบและน้ำเสียงดื้อดึงของอีกฝ่าย

          “ถ้ามีอะไรจะพูด พูดตรงนี้” แม้น้ำเสียงจะดุ แต่สีหน้ากลับไม่ได้เจือความโกรธออกมาเลยสักนิด

          เนได้แต่อ้าปากค้างเบิกตาโพลง เพราะไม่ว่าจะเรื่องแรกหรือเรื่องหลังก็ไม่ใช่เรื่องน่าป่าวประกาศต่อหน้าสาธารณะชนเลยสักนิดนี่

          “เดี๋ยวสิ...เอ่อ...มันเป็นธุระสำคัญนะครับ...คุยตรงนี้คงไม่สะดวก”

          “ถ้าส่วนตัวคุยตรงนี้เลย”

          ปกติมันต้องไปหาที่คุยกันเงียบๆสิฟะ!

          เนนิ่วหน้ามองอีกฝ่ายที่ดูจะดึงดังและไม่ยอมเอามากๆทีเดียว ที่จริงเขาจะใช้กำลังบังคับไปก็ได้ แต่คงไม่เป็นผลดีต่อการขอโทษของตนแน่ เด็กหนุ่มได้แต่อ้ำอึ้งเพราะนึกไม่ออกว่าจะทำอย่างไรดีให้หนีจากสถานการณ์ นี้โดยที่ยังสามารถเอ่ยขอโทษได้อย่างสะดวกโยธิน

          แต่เวลาและจังหวะมันก็ไม่ยอมให้เขาได้ขอโทษง่ายๆเอาเสียเลย

          “อาวัฒน์ครับ”

          เสียงเจ้านายที่ดังแทรกขึ้นมาจากอีกทางทำเอาเนเผลอเม้มปากแน่นอย่างเสียดายเป็นที่สุด แม้อีกส่วนจะแอบโล่งใจที่ไม่ต้องเอ่ยเรื่องน่าหวาดเสียวกลางที่สาธารณะก็ตาม

          แต่พอเห็นสีหน้าของวัฒน์เท่านั้นละ ถึงกับหน้าซีดเลยทีเดียว

          เอ้า จะโกรธตูทำไมฟะเนี่ย

          “มีอะไรหรือครับ” วัฒน์เพียงแต่หันไปถามสิทธิ์ด้วยใบหน้าและน้ำเสียงที่นิ่งเรียบ ก่อนจะสะบัดมือและเดินเข้าไปหาเจ้านายด้วยท่าทีที่ปกติ ในขณะที่เนยังคงช็อกเพราะไม่เข้าใจว่าหนุ่มใหญ่โกรธอะไรตน

          “เดี๋ยววันเสาร์หน้านี้ผมจะไปเที่ยวกระบี่กับเดียร์ ฝากอาช่วยจัดการเรื่องตั๋วเครื่องบินกับบ้านพักที่โน่นให้ทีนะครับ” สิทธิ์ว่าพลางเหล่มองเนก่อนจะกลับมาหาคู่สนทนา “มีอะไรกันหรือเปล่าครับ”

          “ไม่ครับ ไม่มี...คือเอาไว้ทีหลังก็ได้” หนุ่มใหญ่ว่าก่อนจะเหล่มองเหมือนหงุดหงิดเอาการ จนเด็กหนุ่มได้แต่งง “เดี๋ยวผมจัดการให้ คุณสิทธิ์ก็รีบเคลียร์งานให้ทันก่อนก็แล้วกัน”

          เจ้านายแสนดีได้แต่ยิ้มหน้าเจื่อน ก่อนจะเดินตัวปลิวพร้อมกับกระเป๋าสะพายเพื่อขึ้นไปห้องประชุมที่ชั้นบนต่อ

          “เน มานี่”

          เด็กหนุ่มสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อโดนเรียก ก่อนจะเข้าไปหาอย่างกล้าๆกลัวๆ เพราะคนเรียกยังปั้นหน้ายักษ์ใส่ไม่เลิก ทำเอาเขากลัวจะโดนงับหัวก่อนจะได้เปิดปากขอโทษ

          “ไปบอกพี่นางเรื่องที่คุณสิทธิ์จะไปกระบี่แล้วไปช่วยเขาเตรียมตัว” วัฒน์บอกก่อนจะยื่นกุญแจรถให้ ซึ่งดูไปดูมาเหมือนทำท่าจะกัดเขาจริงๆ “เดี๋ยวฉันกับคุณสิทธิ์เอารถบริษัทกลับบ้านนายไม่ต้องห่วง รีบๆไปจัดการ”

          โดนดักคอเสียขนาดนี้แล้วจะทำอย่างไรได้นอกจากเก็บปากแล้วทำงานงกๆไปแต่โดยดี ในใจก็หวังเอาไว้เพียงแต่คงจะหาโอกาสเอ่ยปากได้เอง

          แต่ไปๆมาๆไอ้โอกาสที่ว่ากลับยากกว่าที่คิดนี่น่ะสิ

          ทั้งที่ครั้งแรกเหมือนอีกฝ่ายจะรอฟัง แต่หลังจากนั้น วัฒน์โกรธเขาออกหน้าออกตาชนิดที่ว่าพร้อมจะงับหัวเขาได้ทุกเมื่อทันทีที่เด็กหนุ่มตั้งใจจะพูดด้วย ทั้งยังจงใจหนีเขาหรือไม่ก็อยู่กับคนอื่นตลอด แถมทั้งตัวเขาเองและวัฒน์ก็ต้องยุ่งอยู่กับการจัดการแผนบ้าบอของเจ้านายอีก ทำเอาจากที่เด็กหนุ่มกำลังนึกหวั่นกลัวอีกฝ่ายจะไม่ยอมยกโทษให้ กลายเป็นหงุดหงิดแล้วอยากวิ่งเข้าไปตะบันหน้าสักทีสองทีแทน

          เล่นงี้ใช่ไหม ได้!

          หลังจากกลับมาจากกระบี่พร้อมกับเจ้านาย เนก็พุ่งนำเข้าบ้าน ควานหาตัวเป้าหมายทันที ทำเอาสิทธิ์ที่เพิ่งลงจากรถได้แต่เลิกคิ้วมองกับความเร่งรีบของลูกน้อง

          เนแทบจะวิ่งไปทั่วบ้าน แต่แล้วก็ไม่พบคนที่ต้องการเลย ทั้งที่ตอนนี้ก็ปาเข้าไปสองทุ่มแล้วและพอกำลังจะเดินวนไปที่หลังบ้านอีกรอบ เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขัดขึ้น ทำเอาคนร้อนรนหยิบออกมาจากกระเป๋าอย่างรำคาญ แต่พอเห็นเบอร์เท่านั้นล่ะ ถึงกับลนลานกดรับแทบไม่ทัน

          “เป็นไงบ้าง”

          เด็กหนุ่มรู้สึกเหมือนมีอะไรดันออกมากระจุกอยู่ที่ลำคอ เพียงแค่ได้ยินเสียง ความหงุดหงิดทุกอย่างก็โดนปัดออกไปจากใจจนหมด

          “เอ่อ...แผนล้มเหลวครับ” เด็กหนุ่มเอ่ยอ้อมแอ้มพูดถึงเรื่องแผนปล่อยตัวน้องชายของวินหนีไปจากเงื้อมมือของเจ้านายตนที่ล้มเหลวไม่เป็นท่า กลัวจะโดนด่าเสียเหลือเกิน

          “เรื่องนั้นฉันรู้จากก้องแล้ว แต่ที่ฉันถาม หมายถึงนายกับคุณสิทธิ์ปลอดภัยใช่ไหม”

          นี่เป็นการยกโทษให้ทางอ้อมใช่ไหมเนี่ย! ตาลุงบ้านี่

          “ครับ” จากที่กำลังโกรธๆกลัวๆ ถึงกับระงับอาการดีใจไม่อยู่ “คุณวัฒน์ครับ ตอนนี้อยู่ที่ไหนหรือครับ ผมมีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย...”

          เสียงในสายเงียบไปพักใหญ่กว่าจะยอมตอบกลับมา

          “อยู่ที่บ้านศาสตร์น่ะ”

          กำลังใจเมื่อครู่ฝ่อลงทันควัน

          แต่ถ้าจะให้ยอมถอยแล้วทรมานใจแบบนี้ไปตลอดชีวิตก็ไม่เอาเหมือนกันโว้ย!!

          “งั้นดีเลยครับ ผมเองก็มีเรื่องคุยกับเขาเหมือนกัน”

          “หา เดี๋ยวสิ...เฮ้ยๆ” วัฒน์ร้องเสียงหลงก่อนจะยกมือถือออกจากหู เขากดโทรหาเด็กหนุ่มอีกครั้งแต่เนก็ไม่รับสายเขาแล้ว “บ้าจริง”

          “ทำไมหรือครับ”

          หนุ่มใหญ่นั่งมองศาสตร์ที่ยืนพิงหน้าประตูห้องครัว แม้สีหน้าของชายหนุ่มจะเรียบนิ่งไร้อารมณ์แต่โทนเสียงที่ถามมานั้นกลับฟังดู ดุดันเหมือนพร้อมจะเอาเรื่อง

          “...เนจะมาหา...บอกว่ามีเรื่องจะคุยกับพวกเรา”

          หนุ่มหน้านิ่งเพียงแต่มุ่นคิ้ว แต่นั่นกลับทำให้วัฒน์หวั่นจนนั่งไม่ติด

          “ใจเย็นๆก่อนนะ บางทีเขาอาจจะอยากขอโทษเราเรื่องก่อนหน้านั้นก็ได้” หนุ่มใหญ่พยายามมองโลกในแง่ดี ทั้งที่จริงน้ำเสียงของเนฟังดูเหมือนหาเรื่องสุดๆก็ตาม แต่ลองขืนบอกตามตรงไป มีหวังศาสตร์ได้ตะบันหน้าเนทันทีที่เจอกันแน่

          “ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดีครับ” ศาสตร์ตอบโดยที่คิ้วยังเป็นเส้นเดียว “ผมว่าอามากกว่าที่น่าเป็นห่วง”

          จากที่กำลังออกอาการลนลานกลับมาสงบนิ่งลงจนเหมือนสลด พอนึกถึงเจ้าต้นเหตุที่ทำให้เรื่องมันวุ่นวายไม่เข้าท่าแบบนี้ ก็ยิ่งรู้สึกเหมือนน้ำตาจะไหลออกมาให้ได้ แต่ความแค้นที่สุมอยู่ในอกก็ทำให้เขาชักอยากจะวิ่งไปเป่าเจ้าเด็กบ้านั่นให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย เรื่องทุกอย่างมันจะได้จบๆไปเสียที

          “ถ้าอาไม่กล้า ให้ผมช่วยไหม”

          หนุ่มใหญ่เงยหน้ามองอีกฝ่าย ใบหน้าของศาสตร์นั้นยังคงนิ่งเรียบ และคิ้วก็ยังมุ่นเข้าหากัน นั่นทำให้คนมองไม่รู้สึกดีเอาเสียเลย กลัวว่าความช่วยเหลือของอีกฝ่ายอาจจะทำให้คนที่กำลังจะมาหาได้ไปปรภพเสียมากกว่าจะช่วยจริงๆ

          “ไม่ได้หรอก” วัฒน์เอ่ยปฏิเสธเสียงอ่อน “นี่เป็นเรื่องที่ฉันตัดสินใจเอง ฉันก็ควรจะทำมันด้วยตัวเอง”

          คราวนี้สีหน้าของศาสตร์เต็มไปด้วยความหงุดหงิดอย่างชัดเจน

          “ถ้าไม่ใช่เพราะมัน อาก็คงไม่ต้องมานั่งกลุ้มแบบนี้” ไม่ว่าเปล่ามีหักนิ้วอีก ยิ่งทำให้วัฒน์เริ่มนั่งไม่ติด ถึงแม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าถ้าศาสตร์จะไปสังหารเน เขาก็ห้ามไม่อยู่

          “เอาเถอะ ที่จริงมันก็เป็นเพราะความขี้ขลาดของฉันด้วยนั่นล่ะ” วัฒน์ว่าพลางถอนหายใจด้วยความเหนื่อยหน่ายกับตัวเอง…และอีกส่วนก็โล่งใจที่ศาสตร์ดูใจเย็นลงแล้ว

          ในขณะที่ยังคิดไม่ตก เสียงรถพร้อมกับแตรที่บีบอยู่หน้าบ้านก็ทำเอาคนที่อยู่ด้านในต้องเดินออกไปด้วยความหงุดหงิด

          “ไอ้...” วัฒน์พูดแค่นั้นแล้วค้างไปเพราะทันทีที่เปิดประตูออกมา เนก็แผ่นแผล็วลงมาจากรถแล้วพุ่งเข้ามาด้วยสีหน้าขึงขัง ทั้งยังเร็วเสียจนน่ากลัว “เฮ้ยๆๆ”

          หนุ่มใหญ่ร้องเสียงหลงเพราะพอเนพุ่งเข้ามา ศาสตร์ก็เข้ามาขวางทันที ทำเอาคนแก่หัวใจจะวายเพราะคิดว่าสองคนนี่จะมีเรื่องกันจริงๆ แต่เนหยุดก่อนที่จะมาถึงระยะหมัดของศาสตร์พอดิบพอดี และเนก็ไม่ได้ทำอะไรไปมากกว่านี้ ศาสตร์เองก็ไม่ได้ขยับเขยื้อนแต่อย่างใด ทั้งสองเพียงแค่ยืนจ้องตาขวางใส่กันเท่านั้น

          “คุณศาสตร์”

          เจ้าของชื่อมุ่นคิ้วใส่พลางมองเด็กหนุ่มที่ออกอาการเหมือนจะทำร้ายตนแต่ก็ไม่ยักจะพุ่งเข้ามารับหมัดตนสักที

          “ขอบคุณนะครับ”

          จากที่ศาสตร์กำลังหงุดหงิดและวัฒน์กำลังหวาดหวั่น ถึงกับพากันอึ้งกับประโยคที่ไม่ได้คาดคิดของเนไปตามๆกัน

          “ถ้าคุณไม่เข้ามาห้ามเมื่อคืนนั้น ผมคงเผลอทำร้ายคุณวัฒน์ไปแล้ว” เด็กหนุ่มบอกเสียงแหบแห้งและเบาบาง จากนั้นก็เบือนหน้าหนีไปทางอื่นคล้ายกับกระดากใจจะเอ่ยถึงนัก “ขอบคุณจริงๆนะครับ และก็ขอโทษที่ทำให้เดือดร้อนด้วย”

          ศาสตร์ถึงกับแปลกใจออกมาอย่างออกนอกหน้า ทั้งยังกระอักกระอ่วนทำตัวไม่ถูก ไม่คิดว่าเด็กหนุ่มจะมาถึงนี่เพื่อพูดดีๆกับตน

          “แต่ว่าเรื่องที่ผมจะพูดกับคุณวัฒน์ก็อีกเรื่องนะครับ”

          แม้จะยังแอบอยากชกหน้าสักทีสองที แต่ในเมื่อเนไม่ได้มาหาเรื่อง ศาสตร์ก็ได้แต่นิ่งและหันไปมองวัฒน์แทน

          “ทำไม” หนุ่มใหญ่เอ่ยถามขึ้นเมื่อโดนพูดถึง ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดหวั่นและระแวง ทั้งยังยืนอยู่ด้านหลังของศาสตร์เหมือนเดิมเพราะยังกลัวว่าอีกฝ่ายอาจจะหน้ามืดมาปล้ำตนกลางที่สาธารณะอีก

          เด็กหนุ่มค้างไปเล็กน้อยแล้วเม้มปากแน่น ดวงตาเรียวเหล่มองคนที่ยืนขวาง ก่อนจะตะโกนออกมาแบบไม่อายฟ้าดิน หรือกลัวว่าใครจะมาได้ยิน

          “ผมรักคุณ!” เสียงดังลั่นทำเอาวัฒน์สะดุ้งโหยง “มันอาจจะสายไปแล้ว แต่ผมแค่อยากจะบอกให้คุณรู้...ไม่สิ ผมยังไม่ยอมแพ้หรอกนะ ต่อให้ต้องใช้เวลาทั้งชีวิตผมก็จะตื๊อคุณไปจนกว่าคุณจะลงโลงนั่นล่ะ!”

          ใจจริงแค่อยากจะบอกความรู้สึกเฉยๆ แต่อาจจะเพราะไอ้ความอยากเอาชนะที่มันยุตนไม่เลิก เด็กหนุ่มถึงได้พลั้งปากเลยเถิดไปจนแม้แต่ตัวเองยังงงว่าพูดให้ตัวเองเดือดร้อนโดยใช่เหตุไปทำไมกัน

          แต่เอาเข้าจริงๆ เขาก็ไม่อยากจะแค่บอกแล้วจบกันนักหรอก

          วัฒน์เบิกตามองเด็กหนุ่ม ใบหน้าแดงเรื่อนั้นดูจะไม่เชื่อคำพูดของตนเลยสักนิด

          “สับสนอะไรอะไรของนายหา ถึงได้หน้ามืดมาพูดแบบนี้กับฉัน”

          เนก็ไม่แปลกใจนักหรอกที่จะโดนสวนกลับแบบนั้น

          “ผมก็เคยคิดแบบนั้น” เด็กหนุ่มไม่ปฏิเสธ ทำเอาวัฒน์ซึ่งกำลังเขินๆถึงกับชักสีหน้าใส่ “ผมพยายามคิดมาตลอด คิดว่าผมไม่ได้คิดอะไรกับคุณแบบนั้น คิดว่าเห็นกับคุณเป็นแค่ผู้ใหญ่น่าเคารพ...แต่ยิ่งนานไป ผมก็ยิ่งเจ็บ ยิ่งเห็นคุณอยู่กับคุณศาสตร์ผมก็โมโหจนทนไม่ได้...ถ้ามันไม่เป็นเพราะผมรักคุณ แล้วมันจะเป็นเพราะอะไรล่ะ...ทั้งที่ผมเองก็ไม่ได้อยากจะรักคุณเลยแท้ๆ แต่ไม่ว่าจะพยายามหนีแค่ไหน ผมก็ทำไม่ได้เลย...”

          หนุ่มใหญ่ยืนเงียบมองเด็กหนุ่มที่หลังจากพูดจบก็ก้มหน้าลงหลับตาแน่น ใบหน้าแดงก่ำเหมือนคนเป็นไข้ ร่างกายก็สั่นระริกเสียจนน่าสงสาร ก่อนจะเลื่อนสายตาไปยังคนที่ยืนขวางเพราะเป็นห่วงตนแล้วหลับตาแน่น รู้สึกเจ็บปวดที่จะต้องทำร้ายจิตใจคนเสียจริง

          แต่เราตัดสินใจไปแล้วนี่นา

          “ขอโทษนะ”


________________________________


กลับมาแล้วข่า <3

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
จิ้ม
มาแล้ววว
--------
ค้างงงงงง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-11-2015 14:08:42 โดย boboman »

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
คำว่า "ขอโทษนะ" จากปากวัฒน์นี่เหมือนลางไม่ดีเลยอ่ะ  :z3:

เนท่าจะลำบากต่อไป  :mew5:

ออฟไลน์ Tennyo_Y

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 739
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
อร๊าย อาวัฒน์ ขอโทษใครคะอา ฮืออออ

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
ลุงขอโทษทำม้ายยยยยย เนมันอุตส่าห์ยอมรับใจตัวเองแบบนี้แล้วนะลุงจะไม่เอามันจริงๆเหรอ ถ้าลุงเลือกศาสตร์เนมันไม่น่ายอมแพ้นะคงตื้อลุงอย่างที่มันบอกแน่ๆอะ ฮึ่ยย เมื่อไหร่เด็กเมะเคะแก่คู่นี้เค้าจะหวานกันสักที

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
ลุงอย่าทำอย่างนี้......

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6

ออฟไลน์ lnwboomgo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 19
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :jul1:

"ขอโทษนะ" อัลไลลลลลลลลลล  :ling1:

ค้างง่าาาาาาาาาา

ลุง ๆ

on top บ้างนะลุง  :mew1:

อิอิอิอิ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด