CHAPTER No.14
สุดท้ายผมก็ต้องกลับมาสู่ขุมนรกเดิม ๆ อีกครั้ง
“ปล่อย จะไปทำกับข้าวให้กิน”
ผมบอกคนตัวสูง พี่ทัศน์คลายอ้อมแขนออกให้ ผมลุกไปอาบน้ำแต่งตัวลงไปทำอาหารให้พี่ทาน
ตอนแรกผมคิดว่าแม่พูดเล่นเรื่องที่พี่ไม่มีคนดูแล เพราะสภาพบ้านตอนกลับมานั้นนรกสุด ๆ
“ทำไมตอนผมไม่อยู่ไม่จ้างแม่บ้านมาทำ”
“รำคาญ”
ผมถอนหายใจแรง ถือถังขยะเก็บเศษขยะที่เกลื่อนเต็มพื้นบ้าน เสื้อผ้านี่วางเกลื่อนไปหมด ถุงเท้าอยู่หลังโซฟา กางเกงในอยู่ในครัว
เอาผู้หญิงมาฟัดกันในนี้รึไงฮึ
กว่าจะหมดทั้งบ้าน ผมแทบปาดเหงื่อ พอเก็บของในบ้านเสร็จก็มานั่งซักผ้าด้วยมืออยู่ที่พื้น ผ้าพวกนี้ลงเครื่องไม่ได้ เดี๋ยวผ้าเสียหมด
ผมปาดเหงื่อเบา ๆ นั่งขยี้ถุงเท้า ส่วนพี่ชายสุดประเสริฐมายืนเอ็กซ์ใส่เพียงกางเกงตัวเดียวไม่รูดซิป ในมือถือแป๊ปซี่กระป๋องพิงประตูมอง
ถึงจะรู้ว่าพี่ไม่ได้คิดอะไร แต่ผมรู้สึกร้อน ๆ บนหน้ายังไงพิกล บอกตามตรงว่าไม่ว่าพี่จะทำอะไรก็ทำให้ผมใจเต้นได้ตลอดสิพับผ่า
ขนาดพี่อิฐ ผมยังเฉย ๆ เลย
แต่นั่นพี่ชายนะไทม์
ผมพยายามสั่งใจตัวเองให้หยุดคิด
“เฮ้ย!!!”
ผมเผลอร้องตกใจเพราะอยู่ ๆ พี่ทัศน์ก็มานั่งยอง ๆ ตรงหน้า จิ้มฟองผงซักฟอกมาป้ายจมูก
“เล่นอะไร!”
ผมรีบปาดมันออกมองตาขวาง
“สนุกนักรึไง ซักผ้าด้วยมือแบบนี้ ทำไมไม่เอาเข้าเครื่อง”
“ผ้าพวกนี้มันซักเครื่องไม่ได้ เวลาซื้อชอบซื้อแต่เสื้อผ้าแนวซักยากมาทำไมล่ะ”
ผมบ่น มองกลับตาขวาง
พี่ทัศน์ยักคิ้วไม่แยแส
“ก็เห็นนั่งซักเหมือนสนุก”
“ลองซักเองดูสิ จะได้รู้ว่าสนุกหรือไม่สนุก”
คือผมกะจะประชด แต่พี่มันดันเอาจริง หยิบถุงเท้าในกะละมังยกดู ตั้งแต่ชีวิตเกิดมาเป็นคุณชายเนี่ย พี่ทัศน์ไม่เคยแตะของอะไรพวกนี้หรอก แต่ผมนี่ต้องทำทุกอย่าง ทั้งงานบ้านงานสวน
“ซักยังไง”
“อย่ามาล้อเล่น มันไม่เหมาะกับพี่”
ผมรีบดึงถุงเท้าจากมือพี่ทัศน์เอามาขยี้รวมกับอันแรกที่ถือไว้ เขานั่งยอง ๆ มอง
หน้าผมร้อนผ่าวยิ่งกว่าเดิม รู้สึกอึดอัดไม่เบาที่พี่มาอยู่ตรงนี้ ก่อนแหกปากร้องลั่นอีกรอบเพราะคนตัวสูงเอาฟองมาป้ายจมูกอีก ผมโมโหเลยเอาฟองที่ติดมืออยู่ไปป้ายหน้ากลับบ้าง ป้ายเยอะกว่าที่พี่ทัศน์ทำด้วย
“อยากเล่นนักใช่ไหม งั้นมานี่เลย!”
ผมหยิบถุงเท้ามาป้ายหน้าป้ายตัว พี่ทัศน์รีบลุกหนี
“เฮ้ย! นั่นมันถุงเท้านะเด็กบ้า”
พี่ทัศน์รีบหลบเป็นพัลวัน
“นี่แหละดีแล้ว มานี่เลย อยากแกล้งกันดีนัก”
ผมไล่แปะป้าย รายนั้นก็เดินอ้อมหนีไปมา
อยากเริ่มก่อนทำไมล่ะ
“เด็กบ้า ฉันป้ายนายนิดเดียวเองนะ”
“ไม่รู้ล่ะ”
ผมไม่ยอมแพ้ ไล่ต้อนจนพี่ทัศน์หลังติดกำแพง
เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าพี่ทัศน์กลัวถุงเท้าเปียก
ผมกะจะแกล้งเอาไปป้ายหน้าอีกรอบ แต่พี่ทัศน์จับสองมือผมไว้ มองหน้าผมนิ่ง ๆ
“ปละ ปล่อย ผมไม่แกล้งแล้ว”
ผมพยายามดึงมือกลับ พี่ทัศน์ปล่อยมือเพียงข้างเดียว เลื่อนอีกข้างมาแต้มฟองบนแก้มผมออก มันคงกระเด็นมาใส่ตอนผมแกล้งกลับ
หน้าผมร้อนผ่าวยิ่งกว่าเดิม
“ผะ ผมว่าพี่รีบไปอาบก่อนดีกว่า เดี๋ยวมันกัด”
ผมชักมือกลับ หันหลังเดินกลับไปนั่งชักผ้าต่อ แอบกุมหัวใจตัวเองเบา ๆ
เพราะแรงเต้นของมันตอนนี้มีเยอะจนเกินควบคุมแล้ว
อย่านะไทม์…
อย่ารู้สึกอย่างนั้นกับพี่ชายเด็ดขาด
..............................................40%...............................................
วันนี้แม่มาเยี่ยม พอเห็นบ้านสะอาดเอี่ยมก็ทำหน้าดีใจ แค่แม่ดีใจผมก็ดีใจแล้ว แม่ไม่สนใจผมเหมือนเดิม คุยแต่กับพี่ทัศน์ ผมได้แต่ยืนหั่นผลไม้เพื่อเอาให้ไปให้คนทั้งคู่ทาน
“เออนี่ไทม์”
“ครับ”
ผมรีบตอบรับทันทีด้วยความดีใจ
“พรุ่งนี้แต่งตัวดี ๆ หน่อยนะ จะพาไปกินข้าวด้วย”
ผมยิ้มทันทีที่แม่พูดจบ นี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่แม่ชวนไปกินข้าวด้วย เพราะปกติผมจะเป็นคนเดียวที่ไม่เคยถูกพาไปกินข้าวที่ไหนด้วยเลย
“กินที่ไหน แล้วทำไมไม่ชวนผมบ้าง”
พี่ทัศน์ออเซาะถามแม่
ผมดีใจจนแทบกลั้นยิ้มไม่อยู่แล้วตอนนี้
“ไม่ได้หรอกลูก แม่จะพาไทม์ไปดูตัว”
ผมหุบยิ้มลงทันที มองแม่อึ้ง ๆ
“ดูตัว? กับใครที่ไหนครับ”
พี่ทัศน์ถามในขณะที่ผมยังอึ้งอยู่
“เป็นลูกชายคนรู้จักแม่เองลูก เขาเคยเห็นแล้วชอบ จริง ๆ แม่ก็ไม่อยากยกให้หรอกเพราะกลัวเสียชื่อเสียง แต่ทางนั้นรบเร้ามา ฝั่งนู้นเป็นคนมีหน้ามีตากว่าเราอีก อยู่เฉย ๆ ก็ไร้ค่า เอาไปทำประโยชน์บ้างก็ดี ไหน ๆ ก็มาทางนี้แล้วนี่”
“แม่! แต่ไทม์ไม่ใช่...”
“หุบปากไปเลย!”
แม่ตวาดกลับมาเสียงดัง ผมเม้มปากแน่น แม่หันไปคุยกับพี่ทัศน์ต่อ ในขณะที่ผมหันหลังไปปลดปล่อยน้ำตาให้ไหลริน ผมกัดกรามกำมือแน่น หวังไม่ให้คลื่นน้ำอีกระลอกร่วงหล่นลงมา
“ได้รึยัง ช้าจริงเชียว หิวแล้วนะ”
“คะ ครับ”
ผมรีบปาดน้ำตา เดินถือของว่างเอาไปวางไว้บนโต๊ะ
“ทำตัวดี ๆ ล่ะ อย่าให้เสียมาถึงฉัน”
“ครับ แต่แม่ ไทม์ไม่ได้เป็น…”
“อย่าให้ฉันต้องพูดรอบสอง”
ผมหุบปากลงฉับ
“ครับ”
ก่อนหันหลัง เดินกลับเข้าครัวไป
แม่อยู่คุยกับพี่ทัศน์จนถึงสองทุ่มถึงได้กลับ แม่กอดพี่ทัศน์แน่น ผมอยากได้อ้อมกอดแบบนั้นบ้างจัง
มันจะอบอุ่นแค่ไหนนะ อ้อมกอดจากแม่
“ดีใจหรือเปล่า มีผู้ชายมาขอ อยากได้มานานแล้วนี่”
ผมชะงัก มองคนที่ยืนกอดอกพิงขอบประตูมอง ผมไม่พูดอะไร ถือของเดินเข้าบ้าน
“ถ้าได้แต่งงานจริง ๆ ทำเหมือนที่นอนกับฉันครั้งแรกนะ เขาจะได้ไม่รู้ว่านายน่ะผ่านมาเยอะ”
ผมหันกลับไปฟาดแก้มพี่ทัศน์สุดแรง ไม่พูดอะไร วิ่งลิ่ว ๆ กลับห้อง พี่ทัศน์เข้าห้องผมไม่ได้หรอก เพราะผมซื้อกลอนแบบล็อกจากภายในมาใส่ ต่อให้ไขกุญแจได้ก็เข้ามาไม่ได้ ผมทิ้งตัวลงนั่ง ปล่อยน้ำตาให้ไหลรินอีกรอบ
[80%]
วันนี้ผมแต่งตัวดีอย่างที่แม่บอก แต่ก็ไม่ได้ดีไปกว่าทุกวันหรอก เอาแค่ไม่ให้แม่ขายหน้าก็พอ
ผมเดินทางออกจากบ้านไปยังที่หมายตามที่แม่บอก ไม่ได้ไปพร้อมแม่หรอก ผมนั่งรถแท็กซี่ไปเอง ที่นัดหมายเป็นร้านอาหาร แม่นั่งอยู่ตรงนั้น พร้อมผู้หญิงคนหนึ่งที่อายุน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับแม่ และผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่งที่ผมไม่รู้จัก
ผมนั่งลงข้าง ๆ แม่ รู้สึกดีใจนิด ๆ ที่ได้ทำหน้าที่ลูกที่ดี ผิดแต่แทนที่จะได้เป็นเจ้าบ่าวกลับกลายมาเป็นเจ้าสาวแทนนี่แหละ
ทั้งที่แม่ไม่ชอบให้ผมเป็นแบบนั้นมาตลอด
แต่ทำไม...
หรือแม่แค่ต้องการผลักไสผมออกจากบ้าน ทั้งที่เพิ่งเรียกตัวผมกลับมาดูแลพี่ทัศน์เนี่ยนะ
“น้องไทม์น่ารักจังเลยครับ”
ผมยิ้มรับคำชมของคู่ดูตัวผม
“ถึงเป็นผู้ชาย แต่รับรองได้ว่าเป็นแม่บ้านที่ดีแน่ ๆ เพราะทำงานบ้านเก่งมาก ทำอาหารก็อร่อย”
แม่บอกอย่างภาคภูมิ ผมยิ้มอย่างรักษามารยาท แล้วหลังจากนั้นผู้ใหญ่ก็ปล่อยให้เราทั้งคู่ได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพัง
ผมนั่งนิ่ง ไม่ได้อยากสานต่อความสัมพันธ์แบบนี้เลยสักนิด
“วันหน้าไปทานข้าวกับพี่นะ” พี่ต๊ะชวน ผมยิ้มรับเพียงนิดเท่านั้น “อาจเร็วไปนิด แต่พี่เห็นไทม์มานานแล้ว ตั้งแต่สมัยไทม์ยังไม่น่ารักขนาดนี้”
ผมมองคนตรงหน้างง ๆ
“ไทม์อาจจำพี่ไม่ได้”
พี่ต๊ะยิ้ม
“ลูกหมูสามตัว”
ก่อนพูดอะไรสักอย่าง ผมมองงง ๆ ยิ่งกว่าเดิม แล้วเบิกตากว้าง
“ซูเปอร์แมน!”
คนตรงหน้ายิ้มอีกรอบ
“จำได้สักที”
ผมอ้าปากค้าง เพราะซูเปอร์แมนที่ผมรู้จัก เป็นเด็กผู้ชายแถวบ้าน แต่ก่อนอ้วนฉุ ไม่ได้หล่อลากขนาดนี้ พี่เขาจะเป็นคนที่มาช่วยผมประจำตอนโดนพี่ทัศน์รังแก ก่อนจะย้ายตามครอบครัวไปอยู่ต่างประเทศ
โธ่ ตอนแรกคิดว่าเป็นใครที่ไหนไกลตัวซะอีก
“พี่ก็ดูว่าเราจะจำกันได้ไหม สุดท้ายก็จำไม่ได้”
ผมอมลมเต็มแก้ม
“จะไปจำได้ยังไงล่ะ เล่นเปลี่ยนไปซะขนาดนี้”
“แต่พี่จำไทม์ได้ ยิ่งโตยิ่งน่ารัก”
ผมหน้าร้อนผ่าวไปกับคำชมของอีกคน
“แต่ไทม์เป็นผู้ชายนะ”
“พี่ไม่สนว่าไทม์จะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายนะ ชอบก็คือชอบ พี่ชอบไทม์มาตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ แล้ว พ่อแม่พี่ก็รู้ พี่เลยขอพวกท่าน ถ้าพี่เรียนจบเมื่อไหร่ ช่วยมาสู่ขอไทม์ให้พี่ที”
ผมมองคนพูดอึ้ง ๆ
“เอ่อ พี่ต๊ะเป็นเกย์?”
ผมถามหยั่งเสียง พี่ต๊ะส่ายหัว
“แต่คนที่พี่ชอบคือไทม์”
ผมมองคนพูดอึ้ง ๆ ยิ่งกว่าเดิม
“พี่ต๊ะมั่นใจได้ยังไงว่าไทม์จะตกลง”
“ไม่มั่นใจหรอก แต่ขอเข้าทางผู้ใหญ่ก่อน อะไร ๆ จะได้ง่ายขึ้น ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับเราแล้ว”
ผมมองตาคนตรงหน้า พี่ต๊ะเปลี่ยนไปมากจริง ๆ หล่อขึ้นเป็นกอง หล่อพอ ๆ กับพี่ทัศน์เลย
“ทัศน์ยังแกล้งไทม์อยู่ไหม”
พี่ต๊ะถามขึ้น ผมยิ้มเศร้า โดนแกล้งหนักยิ่งกว่าเดิมอีก
แต่คงพูดไม่ได้หรอก
“ไทม์ยังอยากได้ซูเปอร์แมนคอยปกป้องอยู่ไหม”
ผมมองตาคนถาม
บางที นี่อาจเป็นผลดีก็ได้นะ ได้หลุดออกมาจากอ้อมแขนพี่ทัศน์ ได้ตอบแทนบุญคุณพ่อกับแม่ด้วย
แล้วพี่อิฐล่ะ
จริง ๆ ผมน่าจะเลือกพี่อิฐ เพราะพี่เขามาก่อน แต่ผมก็สงสารแนน และอีกอย่าง ผมรู้สึกกับพี่อิฐแบบพี่ชาย ให้เป็นมากกว่านั้น ผมทำไม่ได้จริง ๆ
“ไทม์ไม่ใช่คนดีนะ”
ไม่บริสุทธิ์แล้วด้วย
“พี่ไม่ได้จีบเทวดาสักหน่อย แค่มนุษย์เดินดินกินข้าวแกงธรรมดา มีทั้งดีและเลว พี่เข้าใจ พี่ยังเคยเลวขนาดแย่งตุ๊กตาไทม์เลย”
“นั่นมันตอนเด็กแล้วพี่”
ผมว่างอน ๆ
“ให้โอกาสพี่นะ”
ผมมองตาคนตรงหน้า ก่อนพยักหน้าตอบรับ ผมตัดสินใจแล้ว ถึงจะเร็วไปหน่อย แต่นี่อาจเป็นทางเลือกที่ดีก็ได้
_____B.T._____
แวบมาอัพ
หนังสือ&ebook >>
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54068.msg3389162#msg3389162