ตอนพิเศษ เดทแรกของพี่ต้นกับน้องเดย์....กะเทยป่วงผมรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก...เหมือนกวางหนุ่ม....ที่กำลังเตลิดออกจากฝูง สู่ผืนป่ากว้าง อันเขียวขจี
.....งดงาม....ทว่าแฝงด้วยภยันตราย.....อุ๊บ๊ะ ช่างเปรียบช่างเปรยแท้หนอ
หลังจากลงทุนตื่นนอนแต่เช้ากว่าปกติ อาบน้ำแต่งตัวอย่างพิถีพิถันสุด ๆ หมุนตัวทำหล่ออยู่หน้ากระจกนานเป็นชั่วโมงอย่างกับสาวแรกรุ่น ทั้งลองเสื้อตัวเก่งเป็นสิบ ๆ ตัวแต่ก็ยังหาที่ถูกใจไม่ได้สักที จนมาลงเอยที่เจ้าโปโลเชิ๊ตสีเทาอ่อนกับกางเกงตัดขาเข้ารูปสีขี้ม้า(ต้องใส่กับรองเท้าหนังสีน้ำตาลกับหมวกทรงฟักทองถึงจะดูเท่ห์ กระชากใจ!!!) ผมบนหัวก็ปาดแล้วปาดอีก กว่าจะออกมาดูดีมีชาติตระกูล ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่ครั้งแรกซักหน่อย ที่นัดสาวไปกินข้าว......ว่าแล้วก็หยิบน้ำหอมขึ้นมาฉีด.....ให้หอมฟุ้งตรึงใจสาว
สาวเหรอ.......หึหึหึ อันที่จริงก็แค่ครึ่งเดียวเท่านั้นแหละ
อีกครึ่งหนึ่งพ่อคุณ.....อ่า.....เจ้าหล่อนก็ยังเป็นผู้ชายอกสามศอกอยู่เลยนี่นะ(ตอนย้ายห้องชมรม ไอ้หมอนี่แมนมาก ยกโต๊ะตัวยาวเองคนเดียวโดยไม่ยอมให้ใครช่วย.....มันบ้าพลัง หรือว่ามันหยิ่งวะ)
เดย์น้อยตัวโชกเหงื่อ.....หน้านิ่ง ๆ หยิ่ง ๆ น่าจับปล้ำทำเมียจริง ๆ นะครับ
“ฝนฟ้าตกตายเลยคุณ วันนี้ตาต้นตื่นแต่เช้า”
“นั่นลูกจะออกไปไหนน่ะ วันนี้วันอาทิตย์ ไม่นอนพักผ่อนอยู่กับบ้านบ้างล่ะลูก”
คุณพ่อกับคุณแม่เอ่ยทักผม พวกท่านกำลังยืนคุยกันไปอยู่ที่สวนหย่อมเล็ก ๆ หน้าบ้าน คุณพ่อของผมกำลังและเล็มกิ่งไม้ด้วยตัวเอง โดยมีคุณแม่ยืนให้กำลังใจอยู่ข้าง ๆ พวกท่านคงแปลกใจ เพราะว่าเรื่องนอนตื่นสายกับไม่ค่อยรักษาเวลานั้นเป็นข้อเสียอย่างหนึ่งของผม.....แล้วยิ่งวันหยุดแบบนี้ ผมจะตื่นก็โน่นล่ะ บ่ายสอง
ถึงในสายตาของพวกท่านผมจะดูเป็นเด็กขี้เกียจ แต่ในฐานะหัวหน้าชมรมดนตรีน่ะ....ผมเป็นคนที่ค่อนข้างเข้มงวดและมีวินัยน่ะเออ.....ก็นั่นน่ะมันเป็นสิ่งที่ผมรักนี่นา
“มีนัดกับว่าที่ลูกสะใภ้ครับผม” ผมตอบพวกท่านไปอย่างฉะฉาน ทุบอกตัวเองสามครั้ง แล้วชูมือขึ้นฟ้าอย่างแน่วแน่
ผมนัดน้องเอาไว้สิบโมงเช้า แต่นี่เพิ่งจะแปดโมงครึ่ง และร้านก็ยังไม่เปิด ผมยืนรออย่างใจเย็น ทั้ง ๆ ที่ปกติ เวลาที่นัดเดทกับพวกสาว ๆ เนี่ย ผมมาก่อนเวลาก็จริง แต่การรอคอยใครซักคน มันช่างเป็นเรื่องที่น่าเบื่อมาก ผมต้องปั้นสีหน้าให้เป็นปกติ เป็นชายหนุ่มมีมาดผู้แสนอบอุ่น เมื่อบรรดาคุณเธอเดินเข้ามาในร้าน หย่อนก้นลงนั่ง แล้วก็บ่นเรื่องนั้นเรื่องนี้ บ้างก็อ้างสาเหตุนู่นนี่นั่นที่ทำให้มาสาย ขณะที่สายตาก็เอาแต่จดจ่ออยู่กับเล็บมือที่ยังไม่แห้ง....นั่นแหละ สาเหตุที่แท้จริงของคุณเธอเค้าล่ะ!!!!
“พี่คะหนูยุ่งอยู่....เรานัดกันสิบโมงไม่ใช่รึ.....แค่นี้ก่อนนะคะ หนูต้องวางสายแล้ว”
น้ำเสียงรีบเร่ง ที่บ่งบอกว่าเจ้าตัว ‘ยุ่งจริง’ พูดตัดบท ก่อนจะตัดสายไป
จะว่าไปแล้ว กว่าผมจะนัดน้องได้เนี่ย.....นานหลายเดือนอยู่เหมือนกัน เพราะน้องฮ๊อตจัด ยิ่งวันอาทิตย์แบบนี้น้องเองยิ่งไม่อยากไปไหน น้องบอกต้องอยู่เป็นเพื่อนยาย ผมเองเคยไปเยี่ยมคุณยายของน้องสามครั้ง ท่านน่ารักแล้วก็เสียงดีไม่แพ้หลาน (สาว) ผมมักจะขอยืมแผ่นเสียงเพลงเก่า ๆ อาทิเช่น The Supremes , The Emotions, Earth Wind & Fire และอีกมากมายจากคุณยายน้องเดย์ เนื่องจากท่านเองก็เป็นนักฟังเพลงตัวฉกาจท่านหนึ่ง ท่านร้อยสร้อยหินให้ผมหนึ่งชิ้น ผมบอกว่าจะเอาไปฝากคุณแม่ คุณแม่เองก็ดูท่าทางจะชอบมันมาก.....ใส่ติดตัวอยู่ตลอด เอาเป็นว่าเค้าน่ารักกันทั้งยาย ทั้งหลาน......
ผมนั่งรออยู่ในร้าน ตอนนี้ผมกำลังตื่นเต้นกับการนั่งมองเข็มนาฬิกาบนผนัง......เข็มวินาทีเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็ว แต่เข็มสั้นกับเข็มยาวนั้นดูเชื่องช้า อ้อยอิ่งกว่าที่เคย
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
เสียงกรีดร้องของพนักงานเสิร์ฟ ตามมาด้วยเสียงถ้วยชาม และอาหารตกกระทบพื้น คนในร้านซึ่งค่อนข้างน้อยก็มีท่าทีเหมือนกับฮือฮากับอะไรซักอย่าง ผมหันหลัง.....แล้วมองไปที่กระจกหน้าร้าน
ชิบหายยยยยย!!!!!
น้องจัดเต็มมมมม
ไอ้เด็กเพี้ยนเคยคุยให้ผมฟังว่า รับจ๊อบเป็นตัวประกอบในหนังสยองขวัญ แต่ไม่นึกว่าน้องจะมาทั้งเครื่องแบบแบบนี้ ซอมบี้เอาหน้าแนบกับกระจกร้าน ดวงตาสีขาวขุ่นจากคอนแทคเลนดูน่าสยองนั้น เพ่งมองมาทางผม
ช่วย-----ด้วย------เค้า-------ไม่------ให้------เข้าร้าน
ผมพยายามอ่านปากของน้อง.....มันคงหมายความว่าอย่างนั้น เอฟเฟคบนหน้าน้องทำเอากระจกหน้าร้านเค้าเปื้อน
หมด.....หมดกัน ความสวยงามที่น้องเคยมี อนิจจัง
.
.....
.....................
...
.
“วันนี้ปิดกล้องแล้ว แล้วบทของหนูมันสำคัญมาก ถึงแม้ว่า ทั้งเรื่อง....หนูจะออกแค่เจ็ดนาทีก็เหอะ!!!! แต่ถ้าไม่มีตัวละครตัวนี้ หนังมันก็จะจบแบบแบน ๆ อ่ะนะ” น้องว่า พร้อมกับจ้องหน้าผม เนื่องจากน้องจัดเต็มอย่างที่บอก ผมก็เลยไม่รู้ว่าสีหน้าของเจ้าตัวเป็นอย่างไร รู้แต่ว่า มันเสียวสันหลังมาก ๆ ที่มีศพเดินได้กำลังจ้องหน้าผมอยู่ แถมห่างกันแค่คืบ....ให้ตายเหอะ มันสมจริงจนผมเผลอคิดไปว่า....น้องเป็น...
“อะไรคะ ก็หนูบอกพี่แล้ว ว่าหนูไม่ว่างเล้ย พี่ก็คะยั้นคะยอ นี่หนูถ่ายเสร็จก็บึ่งมาเลย กลัวจะมาไม่ตรงเวลานัด เดี๋ยวพี่จะคอยแย่”
ไอ้เด็กบ้า.....คราวหลัง ถ้าแกจะมาทั้งอย่างนี้ แกกลับบ้านไปอาบน้ำ ล้างหน้าเปลี่ยนชุดก่อนก็ได้มั้ง น้องเดย์(ตอนนี้มันไม่ใช่เดย์ไลท์ แต่เป็นเดย์ ออฟ เดอะ เดด) กัดพัฟไก่จนซอสไหลเยิ้ม และเจ้าหล่อนก็ใช้หลังมือป้ายปาดมันออก ยิ่งทำให้ดูเหมือนน้องกำลังกินเครื่องในมนุษย์ ยังไงก็ยังงั้น.....เด็ก ๆ ในสวนสาธารณะที่เห็นเจ้าหล่อน แหกปากร้องไห้ลั่น ผวาซบกับอกแม่ พวกที่โตหน่อย และค่อนข้างแก่นเซี้ยว ก็ทำใจกล้าอวดเพื่อน เดินเข้ามาจิ้ม ๆ ตัวน้อง....
“แฮ่~ฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮห์”
“ว๊ากกกกกกก”
แล้วเด็กใจกล้าก็สลายโต๋ ลืมบอกไปว่าผมเปลี่ยนแผนนิดหน่อย จากร้านอาหารสุดหรู ตอนนี้มานั่งฟาดมื้อกลางวันในสวนสาธารณะ....ซึ่งจะว่าไปแล้ว...ลมพัดเย็นดีแฮะวันนี้ ผมยาว ๆ และกระเซิงของน้องปลิวมาถูกหน้าผม.....แหม่....นี่ถ้าน้องมาแบบมนุษย์หน่อย มันก็คงจะ.....
“พี่ต้น”
“ครับ”
“หนูน่ะ.....อยากจะเป็นนางเอก....แต่ผู้กำกับเค้าไม่เอาหนู....เพราะหนูมันไม่ใช่ผู้หญิง.....”
“มันก็ควรจะเป็นแบบนั้นแหละครับน้อง” ผมเปล่ากวนตีนน้อง แต่ไม่รู้จะปั้นอะไรมาตอบ....แต่ดูเจ้าตัวก็จะไม่ค่อยสนใจผมซักเท่าไหร่ ปากซีดสีม่วงคล้ำนั้นกำลังขยับ....และพูด....พูด.....พูด พูดอย่างมีอารมณ์เสียด้วย
“ทำไมคะ.....ทำไมพี่ถึงพูดแบบนั้น.....พี่ไม่เคยดูหนังจีนกำลังภายในเหรอ เค้ายังเอาผู้หญิงมาเล่นเป็นผู้ชายเลย....แถมยังเป็นบทเด่นด้วย กะเทยอย่างพวกหนูน่ะ....เป็นได้แค่ตัวโจ๊กในวงการบันเทิงเท่านั้นรึ.....ความเสมอภาคอยู่ตรงไหนคะพี่ บลา....บลา....บลา”
น้องเริ่มบ่น ราวกับเก็บกดมานาน น้องเริ่มพูดไม่หยุด ผมฟังน้องพูดอยู่คนเดียวราวชั่วโมงกว่า โดยรวมแล้วน้องจะพูดถึงสิทธิของเพศที่สาม.....ทำไมพวกหนูถึงต้องถูกบริษัทปฏิเสธเวลาสัมภาษณ์งานคะพี่.....ไปจนถึง....ตอนแคสติ้งหนัง น้องบอกว่าตัวเองเล่นดีมาก แต่คนแคสบทแม่งตาถั่ว(อันนี้น้องพูดนะ)
น้องพูดเยอะเหมือนกัน....ผมเองก็เคยเดทกับสาวพูดเยอะ แต่แปลกที่ผมไม่รู้สึกรำคาญเลยซักนิด แถมยังแอบดีใจอยู่ลึก ๆ ที่น้องกล้าที่จะเปิดใจ....พูดทุกอย่างที่คิด กับผม ผู้ซึ่งเป็นแค่หัวหน้าวงของน้อง....
น้องเอ๊ย....แกมันน่ารัก รู้ตัวมั้ย แกถูกมองข้ามจนยังโสดอยู่ได้ยังไงน่ะนั่น
“พี่ต้นคะ”
“ครับ”
“ไม่ได้ฟังที่หนูพูดเลยใช่มั้ย”
“ฟังสิครับ น้องบอกว่าไปแคสบทนางเอกมา....”
“นั่นมันเมื่อสิบนาทีก่อนค่ะ....ไม่ได้ฟังจริง ๆ ด้วยสินะ ขอโทษที่ทำให้เบื่อ เรากลับกันเถอะค่ะ” ซอมบี้สาวพูดจบ ก็ลุกขึ้นและเดินอาด ๆ.....ย้ำว่าเดินอาด ๆ....จนผมอดขำไม่ได้....ผมไม่เคยเห็นตุ๊ดห้าว ตุ๊ดที่เป็นตุ๊ดจริง ๆ แบบน้องน่ะ....แอ๊บสาวหลุดจนแมนแตก
“เดี๋ยวสิครับ รอพี่ด้วย”
ว่าแล้วก็วิ่งไปดักหน้าคุณเธอ....แม่ผีสาวหยุดชะงัก แล้วนิ่งไป
“หนูเป็นคนที่น่าเบื่อมากเลยใช่มั้ยคะพี่....หนูเคยแล้ว หนูน่ะพยายามจะร่าเริงแล้ว แต่มันกลับทำให้หนูเจ็บปวด....แล้วนี่หนูจะบอกพี่ทำไมล่ะนี่”
“น้องเป็นของน้องแบบนี้แหละ พี่ว่าเจ๋งดีออก....เราน่ะ เป็นกะเทยที่เท่ห์โครตเลยรู้มั้ย ร้องเพลงก็เพราะ ถ้าวงเราได้เซ็นต์สัญญากับค่ายเพลง พี่สัญญาว่าจะให้เราเล่นเป็นนางเอกเอ็มวีตกลงมั้ย”
“กรี๊ดดดดดดด จริง ๆ นะคะพี่ต้น”
“อ่า.....ยิ้มหวานแล้ว....เฮ้อ วันนี้ตั้งใจจะชวนมาทานข้าวนะเนี่ย ล่มไม่เป็นท่าเลย วันหลังอย่ามาสภาพนี้อีกนะเรา”
“หนูขอโทษ หนูรีบมา ไม่อยากผิดนัด”
“เลทบ้างก็ได้นะครับ ถ้าจำเป็น....ดูสิ แล้วงี้เราจะไปเที่ยวไหนกันดีล่ะเนี่ย”
“เปลี่ยนเป็นดินเนอร์แทนได้มั้ยคะพี่ หนูขอไปอาบน้ำ เปลี่ยนชุดก่อน จะได้คุยเรื่องวงของเราด้วย.....หนูน่ะ อดใจรอวันนั้นแทบไม่ไหวแล้ว หนูจะขยันซ้อมกว่านี้สิบเท่า สัญญาเลย”
ว่าแล้วน้องก็เอื้อมมือมาแตะบ่าผม ฉีกยิ้มสุดชีวิต
“พี่รู้ตัวมั้ย....ว่าพี่เป็นหัวหน้าวงที่คูลมาก แล้วเจอกันนะคะ”
รู้สึกเหมือนน้องจะไม่ได้คิดอะไรกับผมนะนี่.....คุณเธอวิ่งตัวปลิวจากไป ท่ามกลางเสียงกรีดร้องอย่างแตกตื่นของผู้คนในสวนสาธารณะที่ดังขึ้นตามมาเป็นระลอก....เอาเหอะ....แล้วเจอกันเย็นนี้นะ ไอ้เด็กซ่าส์
แต่เดี๋ยวสิ.....น้องเป็นฝ่ายชวนผมไปดินเนอร์ไม่ใช่เหรอ
ว๊าววววววว!!!!
.................................................................................................
ว่าจะไม่ แต่ก็มาต่ออีกจนได้ กับตอนพิเศษ ใครที่อ่านแล้วรู้สึกว่าไม่น่ามาต่อเลย ก็ข้าม ๆ ไปนะคะ ยังไงก็ตาม สามพาร์ทสั้น ๆที่ลง มันก็สมบูรณ์ในตัวมันอยู่แล้ว แม้จะขาด ๆ เกิน ๆ อันเป็นสไตล์ของคนแต่ง เอิ๊ก ๆ เอาเป็นว่า ตอนแถมนี่ ขอให้เป็นน้ำจิ้มละกันเนาะ