ตอนที่ 8มีคนหลายคนที่มักจะนั่งอยู่เฉยๆกับที่แล้วบ่นอย่างท้อใจเสมอๆว่า'ทำไมชีวิตมันช่างน่าเบื่อ'คนเหล่านั้นช่างน่าอิจฉาเหลือเกินสำหรับผม....
ตลอดมาการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขเหมือนกับคนธรรมดาคือสิ่งเดียวที่ผมเฝ้าใฝ่ฝันอยู่ตลอดดังนั้นนามสกุลของผมจึงเป็น สมิธ แทนที่จะเป็น กุลวัฒ....แม้จะเป็นลูกคนเดียวผู้มีสิทธิสืบทอดตระกูลก็ตาม
และแล้วโชคก็เข้าข้างผมโดยการส่งผู้หญิงคนนั้นเข้ามาในชีวิตของพ่อตอนที่ผมอายุได้ 4 ปี และพวกเขาให้ดำเนิดทายาทออกมาอีกสามคนทั้งหมดล้วนเป็นชาย....
จนเมื่อผมอายุได้ 15 แม่ของผมก็เสียจากการตรอมใจทิ้งผมเอาไว้ในคฤหาสน์ที่ไม่ต่างกับนรก แต่เนื่องจากยังมีคนสำคัญของผมอยู่ในนั้นผมจึงยังคงอดทนอยู่ต่อไป
เมื่อายุได้ 18 น้องชายต่างมารดาที่ผมให้ความสำคัญมากราวคนในครอบครัวตัวเองได้ตัดสินใจทิ้งทุกอย่างเอาไว้แล้วหนีออกจากบ้าน เด็กคนนี้อายุได้ 15 เท่านั้น
และนั่น...คือจุดเปลี่ยนของชีวิตผม
ชีวิตธรรมดาอย่างคนทั่วไปคือสิ่งที่ผมเฝ้าใฝฝันถึงมันมาตลอด....
และแล้วในวันเกิดอายุครบสิบแปดปีของผม ทุกอย่าง...ก็เป็นความจริง...
ก่อนที่มันจะเปลี่ยนไปอีกครั้งอย่างที่ผมไม่ได้คาดฝันเอาไว้เลยแม้แต่น้อย...
"นี่คือสรุปรายการงบประมาณในโครงการของคุณ%^*%&^$%"
"ผมขอกาแฟแก้วหนึ่ง"วันนี้ยังคงเป็นเหมือนทุกๆวันผมทำงานไปตามปกติราวกับว่าไม่เคยมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้น....
แต่ว่าแม้ทุกอย่างจะดูปกติดีในด้านการงาน...แต่ดูเหมือนว่าชีวิตของผมจะตกอยู่ภายใต้อำนาจของคนคนนั้นอย่างถาวรเสียแล้ว
หลังจากที่ผมถูกทรมาณจนสลบเมื่อวันพุธของอาทิตย์ก่อน ผมก็มาตื่นเอาอีกทีในวันศุกร์พร้อมกับคนที่ผมไม่คิดว่าจะได้เจอ...คุณศรวัฒน์
เขายังคงมีใบหน้าที่นิ่งเฉยจนดูเย็นชาจะต่างออกไปก็เพียงผมที่ปล่อยให้ปรกหน้าเป็นบางส่วน
"ทำไมมือถือของผมไปอยู่กับคุณได้"เมื่อเห็นว่าผมลืมตาแล้ว คุณศรวัฒน์ก็เอ่ยถามทันทีด้วยใบหน้าที่เคร่งเครียดขึ้นมาเล็กน้อย
"ผมไม่...."กำลังจะตอบว่าผมไม่รู้ แต่ความคิดบางอย่างที่วิ่งเข้ามาสกิดใจทำให้ผมชะงักค้างถือโอกาสเรียบเรียงข้อมูลอีกครั้ง
เมื่อวานนี้โอกาสที่มือถือจะสลับกันได้มีเพียงแค่ช่วงเดียว คือช่วงที่ผมเดินออกมาแล้วชนกับป้าอิ่มป้าแม่บ้านที่ทำงานอยู่ที่นั่นจนข้าวของกระจายแถมผมยังเซเกือบล้ม โชคดีได้คุณศรวัฒน์ช่วยไว้....
ปัญหาอีกอย่างคือมันจะบังเอิญขนาดนั้นเชียวหรือที่คุณศรวัฒน์จะบังเอิญพกมือถือออกมาพอดีแถมยังเป็นรุ่นเดียวกันสีเดียวกัน แถมอีกฝ่ายยังต้องไม่ได้ใช้มือถือเลยแม้แต่ครั้งเดียวจึงไม่รู้ว่าที่อยู่กับตัวเองนั่นมันของคนอื่น
นอกจากนี้ผมเองก็ทราบตำแหน่งโต๊ะทำงานแล้วจากที่รัตน์เป็นคนแนะนำลวกๆตอนเข้ามาไม่มีความจำเป็นที่จะต้องให้คนพาไปที่โต๊ะ...
แล้วการที่ป้าอิ่มเพิ่งจะเอามือถือมาคืนหลังจากมันหล่นหายไปสองชั่วโมงมันก็น่าสงสัยอยู่ไม่น้อย....
"ผมคิดว่าบางทีมือถือของเราอาจจะสลับกันตอนที่ผมเกือบล้ม"แต่นั่นก็เป็นแค่ข้อสันนิฐานของผมซึ่งอาจจะจริงหรือไม่ก็ได้"อีกอย่างผมเพิ่งจะรู้ว่ามือถือหายไปก็ตอนจะกลับบ้านแล้วป้าอิ่มเอามาให้"
ผมจงใจบอกข้อมูลตรงนี้ให้กับอีกฝ่ายไปเพื่อดูปฏิกริยา คุณวัฒน์มีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นเล็กน้อยก่อนจะกลับมาเป็นปกติ
"ผมเป็นคนไม่ค่อยได้เล่นมือถืออยู่แล้วดังนั้นจึงไม่ได้เอะใจสงสัยอะไรว่านั่นจะเป็นมือถือของผมจริงๆหรือเปล่า"
"ผมเองก็ไม่ค่อยได้ยุ่งกับมือถือในช่วงทำงานแต่ก็มักจะพกติดตัวไปไหนมาไหนด้วยตลอด"คุณวัฒน์กล่าวเกริ่น"ในมือถือนั้นเต็มไปด้วยข้อมูลสำคัญหลายอย่างที่คนของผมมักส่งมาเพื่อให้ผมพิจรณา"
"ดังนั้นมันจึงมีโอกาสมากที่จะมีหลายๆฝ่ายต้องการข้อมูลในมือถือของผม...."คุณวัฒยื่หนน้ามาใกล้ๆผมจ้องมองดวงตาของผมโดยไม่สื่ออะไร"คุณรูไหม ตอนที่ผมเก็บมือถือขึ้นมาจากพื้น...."
"บนพื้นนั้นมีมือถือเพียงเครื่องเดียว!"เขาผลักผมลงแนบกับเตียง ก่อนจะเปลี่ยนท่าจากนั่งบนเตียงลุกขึ้นมาคร่อมร่างของผมไว้
"พองานผมเสร็จผมจึงเปิดมือถือเช็คข้อความเข้า ตอนนั้นแหละที่ผมทราบว่ามือถือของผมถูกขโมยไปเรียบร้อยแล้ว"เขาเคลื่อนหน้าลงมาต่ำกว่าเดิม"คนที่น่าสงสัยมีอยู่สองคน"
"คนหนึ่งตรวจสอบได้ แต่อีกคน..."
ดวงตาคมปลาบจ้องลึกลงมาในดวงตามือเชยคางของผมขึ้นให้สบตากับตรงๆ
"มีข้อมูลจำนวนมากที่ขาดหายและถูกปกปิด"เสียงทุ้มเย็นกระซิบแผ่วเบาที่ข้างหู"ห้องของคุณมีของหลายอย่างที่คนธรรมดาไม่น่ามี และตัวคุณเอง...ก็มีหลายอย่างที่น่าสงสัย..."
"ผมจึงทดลองดู"
ผมตาสว่างวาบ เรื่องเมื่อก่อนที่ผมจะสลบไปเป็นเพียงการทดลองเท่านั้น
"ผลทดลองออกมาว่า คุณไม่ธรรมดาเลยแม้แต่นิดเดียว"
อุก!
มือที่เชยคางอยู่เมื่อครู่เปลี่ยนมาบีบคางผมแน่นดวงตาทรงอำนาจเปล่งประกายวาบจนผมตัวชาคิดอะไรไม่ออกไปครู่หนึ่ง
"ไหนตอบมาซิ อะไรที่คุณหวาดกลัวมาที่สุด"
หัวสมองของผมโล่งโจ้งว่างเปล่า ภาพในสมองมีเพียงดวงตาเปี่ยมอำนาจ ปากจึงตอบไปอย่างไม่ทันยั้งคิด
"เซ็กส์..."แม้เสียงตอบจะเบาหวิวแต่ก็ทำให้ดวงตาคมเปลี่ยนเป็นฉงนได้ชั่วครู่ และนั่น...ทำให้ผมรู้แล้วว่าตัวเองพลาดไปถนัด!!
"งั้นทีนี้คุณตอบผมมา....คุณเป็นใคร!"
มือหยาบเปลี่ยนจากการบีบคางของผมเป็นการลูบไล้เบาๆไปตามร่างกาย ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ที่ผมใส่อยู่ตอนนี้เป็นจังหวะดวงตาคมยังคงกดดันผมอย่างวัดใจ
ผมเม้มปากแน่น ใจเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ...ด้วยความหวาดกลัว....
มีคนที่ผมจ้างมาคนหนึ่งเคยถามผมว่าจ้างหนุ่มขายบริการมาแล้ว...แต่ทำไมถึงไม่ใช้บริการให้เต็มที่
ตอนนั้นผมเพียงบอกไปว่าผมแค่เหงาใจเท่านั้นไม่ใช่ร่างกาย....
แต่ก็คงมีแค่ผมเท่านั้น...ที่รู้
sex addition เชื่อว่าต้องมีหลายคนเคยได้ยินอาการเช่นนี้ อา...ถูกต้องผมเป็นผู้เสพติดเซ็กส์
แต่ขึ้นชื่อว่า addition มันก็สามารถเลิกได้...ถ้าไม่ไปกระตุ้นมันขึ้นมาล่ะก็นะ
นั่นคือเหตุผลที่ทำให้ผมหลักเลี่ยงมันมาตลอด แต่นั่นก็เป็นแค่เหตุผลข้อหนึ่ง เหตุผลหลักที่ผมหลีกเลี่ยงอีกข้อคือผมไม่สามารถลืมความรุนแรงจากครั้งแรกของตัวเองจนเกิดความกลัว...ครั้งแรกของผมไม่ใช่การร่วมรักแต่เป็นการข่มขืน!
แม้หลังจากนั้นจะเป็นการยินยอมด้วยความกล้ำกลืนก็ตาม
"ไม่!"ผมดิ้นขลุกขลักดิ้นแรงที่สุดเท่าที่ร่างกายจะเอื้ออำนายเพื่อหนีจากสภาพที่ผมไม่ต้องการ แต่ด้วยร่างกายที่ไม่พร้อมและแรงมหาศาลของคนที่กดผมอยู่ทำให้มันเป็นการออกแรงที่เสียเปล่า
"ถ้ากลัวมากนักก็ตอบคำถามของฉัน"ผมถลึงตาอย่างที่ไม่ค่อยได้ทำบ่อยๆพยายามบิดขาปัดป่ายมือที่กอกบกุมท่อนเนื้อของผมเอาไว้
ถ้าผมตอบคำถามได้ผมก็ตอบไปนานแล้ว!!แต่ดันถามคำถามที่ต่อให้ตายก็ตอบไม่ได้!มันน่าโมโหนัก
ผมไม่สามารถพูดเรื่องอะไรที่เกียวกับตระกูลได้เพราะถ้าหากมีใครสักคนรู้เรื่องนี้แล้วเรื่องหลุดไปถึงหูของน้องชายต่างมารดาคนโตสุดขึ้นมา หมอนั่นคงจัดการเก็บผมอย่างจริงจังเป็นแน่...
"อื้อ!"คุณศัวัฒน์เริ่มขยับมือแล้ว เขาเก่งมากทีเดียว เก่งเสียจนความทรงจำไม่ดีที่กดเอาไว้ด้วยสติแล่นริ้วเข้ามาในหัว
'พี่รู้ว่าเกลรักพี่เพราะฉะนั้นเลิกดิ้นได้แล้ว!!'
'เกล..นี่เพื่อนพี่วันนี้ช่วยดูแลเข้าหน่อยนะ'
'เกลวันนี้ไม่ต้องไปมหาลัย เดี๋ยวจะมีเพื่อนพี่มาอีก'
อึก!!
น้ำตาที่ไม่เคยไหลลงมาอีกเลยนับตั้งแต่จบเรื่องเมื่อคราวนั้นไหลลงมาเงียบๆพร้อมประสาทรับรู้ถึงความตึงแน่นบริเวณช่องทางที่ไม่ได้เปิดรับใครนานแสนนานมาแล้ว
นับว่าอีกฝ่ายยังเมตตาอยู่มากที่ค่อยเป็นค่อยไปไม่ใช่แทงพรวดเดียวเหมือนอย่าง....
อุบ!!
มือที่ไม่รู้เป็นอิสระตอนไหนต้องเผลอยกขึ้นมาปิดปากที่เริ่มรู้สึกข่มกล้ำกลืนก้อนเหนียวลงลำคอไปอย่างยากเย็น
"ใครส่งคุณมา"ดูเหมือนรู้แล้วว่าจะไม่ได้รับคำตอบจากคำถามแรก คุณศรวัฒน์ที่กำลังง่วนอยู่กับการค่อยๆยัดท่อนเนื้อใหญ่ของเขาเข้ามาจึงเปลี่ยนคำถาม
แต่ตอนนี้ผมไม่ว่างจะตอบเพราะท้องน้อยรู้สึกจุกแน่น ความเจ็บบริเวณช่องทางแล่นริ้วขึ้นมาจนน้ำตาไหลพรากๆหนักกว่าเดิม เนื้อตัวสั่นระริก ท้องไส้มวนหนักด้วยความรู้สึกหวาดกลัวปากที่อ้าออกพยายามจะพูดจึงต้องปิดลงด้วยต้องกลืนความขมจากช่องท้องลงไป
คุณศรวัฒน์เริ่มต้นขยับหลังจากแช่เอาไว้นานพอสมควร เขาไม่ปรานีผมเลยแม้แต่น้อย เล่นขยับแรงตามปราถนาจนผมรู้สึเหมือนร่างจะฉีกออกเป็นสองส่วน!!
สติผมไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเสียแล้ว ผมจำไม่ได้ว่าคุณศรวัฒน์ถามอะไรผมอีกบ้าง รู้เพียงแต่ร่างกายทำตามสัญชาติญาณโดยที่สมองไม่ได้ควบคุม
ผมรู้สึกว่าเวลาผ่านไปนานมากทีเดียวก่อนที่ผมจะรู้สึกได้ถึงร่างของคุณศรวัฒน์ที่ลุกออกไปจากตัวผมก่อนที่สติของผมจะดับวูบไปด้วยความเหนื่อยอ่อน
ผมจะไม่สามารถรักษาชีวิตธรรมดาๆเอาไว้ได้แล้วจริงๆน่ะหรือ....>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
เลือดของจริงมาแล้ววว
ท่านประธานโห๊ดโหดเนอะ
เรื่องนี้SMแค่ตอนแรกๆเท่านั้นแหละค่ะ ฮี่ๆๆๆ
ที่อาร์มบทหมดก็เพราะว่าน้องเขาเป็นแค่ตัวประกอบไงค่ะ :z1:บทน้อย
ขอบคุณทุกๆคอมเมนท์นะค่ะ