มาลงต่อแล้วนะ หวังว่าจะชอบกัน
ตอนที่11
พี่ต่ายนั่งหลับเอียงคอพาดกับโซฟา ไม่เมื่อยคอแย่เหรอพี่ ผมเลยไม่กล้า
เรียกเลยครับท่าทางจะเหนื่อยมาก ผมเลยเอาหมอนมาวางไว้ข้างๆกันพี่ตะแคงลงมา แต่ดูๆไม่มีแววตื่น ผมเลยไปนั่งบนโซฟาข้างๆพี่ต่าย
คราวนี้ผมเลยมีเวลามองพี่เค้าแบบชัดๆ วันนี้หวีผมเปิดหน้าแฮะ หน้าผากก็สวยดีไม่แคบจนเกินไป ผมว่าเปิดหน้าแบบนี้ดีกว่าเดิมอีก ทำให้ดูสดใสขึ้น
พี่เค้าถอดแว่นวางอยู่ที่โต๊ะครับ เลยเห็นขนตาดกดำหนาแต่ไม่ยาวเท่าไหร่ ถึงแม้ว่าพี่เค้าจะไม่ใช่คนตาโตเท่าไหร่แต่ก็ไม่เล็กนะครับ ผมว่ากำลังดี รับกับคิ้วเข้มๆ คางผ่าซะด้วยเพิ่งสังเกตเห็น เห็นเค้าว่าคนที่คางแบบนี้ชอบผจญภัยไม่รู้จริงหรือเปล่า
แล้วสายตาผมก็มาสะดุดกับเสื้อพี่เค้าครับ ก็มันเปิดกระดุมไว้อีกแล้ว แต่เพราะพี่เค้านอนอยู่เสื้อก็เลยแนบไปกับตัว หมดกันเลยไม่ได้ดูอกขาวๆเลย แต่คอที่โผล่ออกมาก็ขาวดี พอผมนึกอย่างนี้ได้ เลยอดขำตัวเองไม่ได้
“หึหึหึ ท่าจะบ้านะเรา”
“หน้าพี่ตลกมากเหรอ”
พี่ต่ายตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย อยู่ๆก็ถามผมขึ้นมา หน้าตางัวเงียแบบคนเพิ่งตื่น แต่ตาเชื่อมเลยครับ เอ่อ อย่ามาตาหวานใส่ผมซิพี่ ผมกลัว(กลัวห้ามใจไม่อยู่)
ผมเลยทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ไม่ตอบคำถาม แต่ถามกลับพร้อมส่งชาไปให้พี่ต่ายก่อนที่มันจะเย็นหมด
“พี่กระต่ายมีอะไรเหรอมาซะดึก”
พอพี่ต่ายได้ยินผมเรียกแบบนี้พี่เค้าแอบซ่อนยิ้ม ผมเห็นนะพี่
“พี่จะมาบอกโอมว่าพรุ่งนี้ให้ตามไปที่บริษัท....ที่พี่ทำอยู่กับติง”
“ว่างแล้วไม่ใช่เหรอ พี่ไปถามพี่มีนมาแล้ว”
พูดพลางจิบชาไปพลางเออ ปากก็สวยนะ รูปปากสวยดีเป็นกระจับเชียว ผมเผลอดูปากพี่ต่ายอยู่ คนไรว่ะนั่งกินชาธรรมดาๆก็ยังน่าดู
“อ้าวถามก็ไม่ตอบ แล้วนี่อั้มไม่อยู่เหรอ ไปไหนล่ะ”
พี่ต่ายถามขึ้นมาอีก ผมเลยตกใจตอบไปว่า
“ว่างแล้วพี่ แล้วมันอยู่ที่ไหนล่ะไอ้บริษัทนี้ แล้วต้องไปกี่โมงพี่ ผมต้องทำไรบ้าง แล้วติงยังอยู่ไม๊ อ้อพี่อั้มกลับบ้าน(ต่างจังหวัด) ผมอยู่คนเดียว”
ผมตอบส่งไปเป็นซีรีส์เลยครับรวดเดียวจบ
“เอ้อ ทีนี้ตอบมายาวเชียว แล้วถามมาเยอะขนาดนี้พี่เลยไม่รู้จะตอบอะไรก่อนดี ”
พี่ต่ายหัวเราะหึหึ หมู่นี้อารมณ์ดีจังนะพี่ แต่ก็ดีกว่าตอนองค์ลง ขอให้ดีๆแบบนี้
ไปนานๆเถอะ
“พรุ่งนี้พี่มารับซัก 7โมงแล้วกัน ไปด้วยกัน แล้วเดี๋ยวพี่แบ่งงานอีกที แล้วทำไมต้องถามถึงติงด้วย”
พี่ต่ายนี่เพิ่งชมอยู่ว่าอารมณ์ดี องค์ไหนมาลงอีกล่ะไม่ทันขาดคำ พูดจบปุ๊ปขมวดคิ้วปั๊ป
“ทำงานคนเดียวไม่ได้แล้วใช่ไม๊ ต้องอยู่กับแฟน”แฟนใครที่ไหนกัน ผมละงง
“แฟนใครพี่ ใครแฟนใคร” พี่พูดถึงใครล่ะ ได้โปรดอธิบาย
“ก็ติงไง แฟนโอมไม่ใช่เหรอ”
พี่ต่ายถามผมตรงๆ ผมเลยถึงบางอ้อ คราวก่อนที่ผมไปสร้างเรื่องเอาไว้ เอาไงดีว่ะ เฉลยไปเลยดีไม๊ ว่าผมยังโสดอยู่ (แต่ที่จริงผมก็เล็งติงไว้จริงๆแหล่ะ แต่ยังไม่ทันได้ยิง หึหึหึ) จะไถลเถลไปทางไหนดี แถไปก่อนละกัน แต่คิดไปคิดมาพี่ยังมีพี่คมเลย
“ผมไม่มีแฟนมีแต่เพื่อนทั้งนั้น ไม่เหมือนคนอื่นหรอกเที่ยวไปทิ้งเน็คไทไว้ห้องแฟน”
มันต้องอย่างงี้ซิไอ้โอม ปล่อยให้คนอื่นมาสอยเราฝ่ายเดียวได้ไง มันต้องสอยคนอื่นบ้างเอาให้ตกเลย รู้ซะบ้างนะพี่ต่าย
“ใครกันทิ้งเน็คไท แฟนใคร”
พี่ต่ายงงเล็กน้อยครับ แล้วแกคงนึกได้ ก็เลยพูดแล้วมองหน้าผม
“คมน่ะเหรอ เค้าเป็นลูกค้า พี่ไปทำงานแล้วมันร้อน เราก็รู้พี่ชอบถอดเน็คไท เวลาเลิกงาน เลยลืมไว้ที่ออฟฟิซลูกค้า ทำไมหึงพี่เหรอหึ หึ หึ”
ผมยังไม่ทันแก้ข้อกล่าวหา พี่ต่ายก็พูดต่อ
“ติงไม่ใช่แฟน ก็แสดงว่าจีบอยู่ซิ พี่รู้นะ ใช่ไม๊ละ”
พี่ต่ายมาถามผมกลับอีกละ ทำไมต้องจริงจังนักล่ะพี่ก็ นึกว่าพี่ลืมไปแล้วซะอีก ตอบว่าไงดี ให้ดูดี มีคุณค่าไม่เป็นพวกขี้หลีสาว แต่ให้พี่ต่ายรู้ว่ายังแคร์พี่อยู่
“เป็นเพื่อนสนิทพี่ อนาคตไม่รู้ แต่ตอนนี้ไม่มีอะไร”
“ตอนนี้ผมคิดแต่เรื่องงาน หรือพี่หวงผมเหรอ 555 ”
ผมพูดต่อ ไม่เว้นวรรคให้พี่ต่ายได้สวนทัน ไม่ใครก็ใครต้องหึงต้องหวงกันบ้างละว้า แต่ใครจะยอมรับ ก็เรามันเพศเดียวกันนี่ ผมไม่ยอมรับแน่ๆ ถึงแม้จะมีไขว้เขวไปบ้าง ผมว่าคำพูดผมคงไปโดนจุดระเบิดอะไรในเครื่องยนต์ของพี่ต่ายเข้า พี่เค้านิ่งไปเลยครับ
พี่ต่ายไม่ตอบคำถามผมแต่นั่งนิ่งเหมือนคนใช้ความคิด แล้วเขยิบมาใกล้ๆผม แล้วมองผมด้วยสายตาครุ่นคิด ถอนหายใจเฮือกนึง เหมือนคนกำลังลังเลว่าควรจะพูดดีหรือไม่
ผมก็ลุ้นจนลืมหายใจ พี่ไม่พูดหรือผมพูดเอง
“เอ่อ....”
เราเลยพูดพร้อมกันครับ เหมือนในอดีตครับ ถ้ายังจำกันได้ เหมือนตอนที่ตดในลิฟท์น่ะ เงียบสนิทเหมือนกำลังกลั้นลมหายใจ
แต่ผมสาบานคราวนี้ผมจะไม่ตดอีก ครั้งเดียวก็เกินพอ ผมอาบน้ำแล้ว ตัวออกจะหอม แต่ได้กลิ่นจากพี่ต่าย แต่ก็เป็นกลิ่นเหงื่อธรรมดาของผู้ชายครับไม่มีอะไรแปลก
“พี่พูดแล้วกัน พี่ก็ยังสับสนตัวเอง พี่ถึงอยากให้โอมไปทำงานกับพี่ ใกล้ชิดกับพี่ พี่เคยตรวจแต่บัญชี ไม่รู้เรื่องความรัก ไม่ว่าจะเป็นชายหญิง หรือชายกับชาย”
ผมก็เหมือนพี่ แต่ผมเคยมีแฟนเป็นผู้หญิงนะ แต่กับผู้ชายผมไม่เคย ผมไม่ได้พูดอะไรครับได้แต่นึกในใจ พี่พูดมาเหอะ เราคงคิดคล้ายๆกัน
“ พี่ไม่รู้ว่าเริ่มเป็นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ความรู้สึกแปลกๆที่อธิบายไม่ถูก จะถามใคร บอกใครก็ไม่ได้ โอมเป็นไม๊”
คำถามหรือคำรำพันพี่ คำถามนี้ผมต้องตอบไม๊
“พี่ก็แค่คิดถึงโอมบางเวลา มันแว๊บเข้ามาในใจ”
ที่เคยบอกว่าพี่พูดไม่เก่งผมขอถอนครับท่านประธาน สำนวนใช้ได้เลยพี่ เอาอีกๆๆๆชอบๆๆๆ
“แต่พี่ก็เดาใจโอมไม่ถูก ไม่รู้ว่าโอมคิดยังไง เรายังรู้จักกันไม่มากพอ”
“แล้วพี่ก็ว่าตัวเองไม่ใช่เกย์ เพราะพี่ไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใคร”
ผมก็เดาพี่ไม่ออก ตอนนี้องค์ไหนลงพี่อยู่นะ ผมก็ว่าผมไม่ใช่เกย์ เออคิดเหมือนกัน
“ในออฟฟิซ พี่ไม่รู้ว่ามีเกย์หรือเปล่า แต่ถึงมีก็คงไม่เปิดเผย”
“ พี่ไม่แน่ใจว่าจะมีใครยอมรับไม๊ แต่พี่ยินดีจะเสี่ยงที่จะลองสำรวจใจตัวเองดู โอมจะยินดีให้พี่เสี่ยงไม๊ล่ะ เพราะโอมเป็นส่วนนึงในเรื่องนี้นะ พี่ถือว่าให้ความเป็นสาระสำคัญมากกว่า80% เลยล่ะ”
มันเป็นศัพท์แบบเราๆเลยครับ ใช้เป็นเกณฑ์ในการตรวจสอบว่ามีความสำคัญพอไม๊ที่จะตรวจบัญชีนี้ โหพูดคนเดียวแบบนอนสต๊อปเลยครับ พูดได้ไง ตั้งแต่รู้จักกันมา ไม่เคยพูดยาวขนาดนี้
แล้วคราวนี้ผมต้องตอบไม๊ล่ะ แต่พี่เงียบๆแฮะผมชะโงกมองข้างๆพี่เค้า จับตัวพี่เค้าพลิกขยับไปมาเหมือนหาของที่พี่เค้าเอามาด้วยแต่แอบซ่อนไว้
“หาอะไรโอม”
เนียนๆนะพี่มาจับมือผมไว้นะ เออแต่ผมชอบ แกล้งทำเป็นไม่รู้ตัวแล้วกันพี่ต่ายคงสงสัยว่ามันเป็นอะไรไปละคราวนี้ เค้ากำลังซึ้งๆอยู่
“ผมหาเครื่องเล่นหรือ เครื่องบันทึกเสียง หรือบทพูด พี่พูดยาวมากจนผมไม่แน่ใจว่ามีเทปแล้วพี่ลิปซิงค์หรือเปล่าซิ หรือเตรียมบทมาเป็นอย่างดี หุหุหุ”
ทำเป็นตลกแก้เขินครับเลี่ยงไม่ตอบด้วย เอาไงดีว่ะกรู ตอบไงดี ถ่วงเวลาก่อน
“พี่ไม่ต้องอัดเทปหรือเขียนบทหรอก ก็มันอยู่ในหน่วยความจำในใจของพี่นี่”
ตอนนี้หน้ามันร้อนๆนะ ท้องไส้ปั่นป่วน เราเป็นไข้หรือปล่าวเนี่ย หน้ากรูแดงป่าวว่ะ คลื่นไส้นิดหน่อย ไม่ไหวล่ะ เดินหนีดีกว่า
แต่ผมไปไหนไม่ได้ครับอ้าวพี่ยังจับมือผมอยู่เหรอ มือแฉะเลยเหงื่อใครเนี่ยของพี่หรือของผม หรือของเราสองคน
“ไปเอาชามาให้พี่เพิ่มดีกว่า นะพี่นะ”
ผมพยายามดึงมือออก ทำไมมันเหนียวงี้ล่ะแอบเอากาวตราช้างมาติดรึเปล่าเนี่ย ผมขอไปอายไกลๆดีกว่าพี่ เหมือนพี่จีบผมอยู่เลย หรือผมคิดไปเอง หรือคนนี้เป็นพี่เต่า แฝดของพี่ต่าย พูดซะจนผมเริ่มเคลิ้มล่ะ คนละคนมั๊ง
“ไม่ต้องเพิ่มหรอก ตอนนี้ใจพี่มันชาพอแล้วโอม”
เอ่อ.....ไปไม่เป็นเลยครับ อยู่ไม่ไหวแล้วมั๊ง เอิ๊กๆๆ จะเป็นลม
**********************************************************************************