พระลอตามไก่
ตอนที่ ๒o
“อาลอ...อาลอจ๋า...”ศตายุเชิดคอแอ่นกายรับยามปลายลิ้นชื้นเกี่ยวกระหวัดเม็ดบัวเม็ดน้อยกลางอก ความสะท้านแล่นริ้วจนเสียดเสียวไปทั่วสรรพางค์กายก่อนจะแล่นไปรวมกันที่ท้องน้อยไล่วนไปจนถึงกลางกายจนดุนดันเนื้อผ้า ลลิตภัทรไม่ได้ปราณีเด็กน้อยเลยซักนิด คล้ายจะลงโทษหากทว่าแฝงความกลั่นแกล้งอยู่ในที เสื้อนักเรียนสีขาวยับย่นไปกองอยู่ที่ข้อพับแขนยิ่งส่งให้คนเด็กดูเย้ายวน คล้ายดอกไม้แรกแย้มที่ค่อยๆเผยกลีบให้เห็นเกสรด้านในหลอกล่อแมลงภู่ผึ้งให้เข้าไปดอมดมชิมรสน้ำหวานสีใส ลลิตภัทรลูบคลำเค้นคลึงไปทุกสัดส่วน ปลายจมูกสูดดมความหอมของเนื้อเด็ก อดไม่ได้ที่จะตีตราประทับความเป็นเจ้าของที่สีข้างหากทำเพียงรอยจางๆด้วยดึงสติตัวเองกลับมาได้ว่าตนไม่ควรทำให้ลูกเจี๊ยบมีริ้วรอยใดใดทั้งสิ้น
“อารักหนูนะคะ รักมากๆ”ยืดตัวขึ้นมามอบจูบแสนหอมหวานเก็บเกี่ยวทุกหยาดหยดราวค้นพบรวงผึ้งฉ่ำหวาน ปลายลิ้นเสาะสำรวจราวพรานไพรที่จะไม่ยอมให้ของล้ำค่าลอดสายตาไปได้ ลลิตภัทรลากไล้ริมฝีปากรวบร่างหลานให้ขึ้นมานั่งคร่อมตักสูดดมความหอมหวานราวเสพติด ลูกเจี๊ยบคล้องคออาลอไว้เพื่อนยึดเหนี่ยวร่างกายที่อ่อนปวกเปียก ดวงตาฉ่ำปรือขึ้นก่อนจะเป็นฝ่ายประคองใบหน้าหล่อเหลาของอาลอไว้ด้วยสองมือของตัวเอง
“หนูก็รักอาลอจ้า อย่าพูดว่าหนูไม่เคยรักอาลออีกนะจ๊ะ หนูรักจนจะขาดใจตายอยู่แล้ว แค่คิดว่าอาลอไม่รักหนู หนูก็นอนไม่หลับเรียนไม่รู้เรื่องเลย รู้สึกเหมือนจะตายเอาจริงๆ มันน่ากลัวมากเลยรู้มั้ยจ๊ะ”เด็กน้อยจ้องลึกในดวงตาของลลิตภัทรด้วยดวงตาใสแจ๋ว ลลิตภัทรผุดยิ้มด้วยความเอ็นดูชายหนุ่มลูบผิวแก้มใสของหลานด้วยความเบามือ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นประคองสองแก้มฟูไว้ด้วยความทะนุถนอม
จริงๆแล้วเขาโกรธมาก โกรธแดนดิน แต่เพราะเป็นเจ้าลูกเจี๊ยบบนตักนี้ อารมณ์เดือดพล่านของเขาจำต้องทำให้เย็นลงอย่างรวดเร็ว อย่างน้อยนั่นก็เป็นพ่อของลูกเจี๊ยบ หากเขาพูดกลับตอบโต้ด้วยคำพูดรุนแรงย่อมทำร้ายใจเด็กที่รักและเทิดทูนพ่อเหนือใครบนโลก เขาไม่อยากให้ลูกเจี๊ยบถูกสร้างรอยแผลซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เขารักและอยากปกป้องรอยยิ้มสวยๆนี้ไว้ให้นานที่สุด
จริงอยู่ว่าอีกหน่อยลูกเจี๊ยบก็จะต้องโตเป็นผู้ใหญ่ จะต้องเจออะไรมากมาย หากแต่ว่าถ้าทางเดินในอนาคตของลูกเจี๊ยบจะมีอันตรายสิ่งเหล่านั้นจะต้องผ่านลลิตภัทรไปก่อน ชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะใช้ปลายจมูกของตนเองชนกับปลายจมูกเจ้าเด็กขี้ดื้อ ถูไปมาเรียกเสียงหัวเราะคิกคักให้กับคนหลาน บรรยากาศต่างจากตอนที่ทะเลาะกันลิบลับ
ลลิตภัทรชอบเวลาที่ศตายุสดใสร่าเริงแบบนี้มากกว่าตอนที่ร้องไห้โวยวายน้ำตานองหน้าแบบเมื่อกี๊
“อาลอ...นั่งนิ่งๆแป๊บนะจ๊ะ” อยู่ๆคนเด็กก็ประคองต้นคอเขานิ่ง ดวงตากลมจับจ้องเขาไม่หลบไปไหนก่อนจะนั่งด้วยเข่าสูงขึ้นจนยอดอกลอยเด่นยั่วยวนอยู่ตรงหน้า อยู่ๆความรู้สึกคันๆบนหัวก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
“หือ...อาลอ”เจ้าลูกเจี๊ยบร้องครางเสียงต่ำก่อนจะนั่งลงจนเสมอกันในปลายนิ้วชี้กับนิ้วหัวแม่มือเหมือนถืออะไรบางอย่างอยู่
“อะไรคะ?”ส่งเสียงถามอย่างสงสัย ศตายุยื่นมือมาตรงหน้าสิ่งที่เห็นทำให้อารมณ์คึกคักราวม้าศึกห่อเหี่ยวลงทันตา
“ผมหงอกจ้า อาลอมีผมหงอก”ลลิตภัทรล่ะอยากจะจับเจ้าลูกเจี๊ยบคว่ำหน้าพาดกับขาแล้วตีตูดแรงๆนัก
มันเป็นยังไงชอบทำตัวขัดเวลากำลังจะเข้าด้ายเข้าเข็มตลอด อะไรที่คึกคักโป่งพองก็แฟ่บอย่างน่าอัศจรรย์ ที่สุดตอนแรกว่าจะละเลียดผิวเด็กอีกซักพักก็ถูกเปลี่ยนเป็นสงครามผมหงอกเมื่อเจ้าเจี๊ยบดึงหัวเขาไปสำรวจหาผมหงอกเส้นอื่นๆแล้วบอกให้เขาเตรียมตัวไปหาร้านย้อมสีผมได้เลย
เด็กหนอเด็ก มาตื่นเต้นอะไรเอาตอนนี้วะคะ
ในที่สุดหลังจากปลุกปล้ำกับหนังหัวของเขาเสร็จลลิตภัทรก็พาเจ้าเด็กขี้งอแงไปกินชาบูแล้วพาไปส่งถึงบ้าน
แดนดินยืนถมึงทึงอยู่บนขั้นสุดท้ายของบันไดบ้านหน้าหงิกหน้างอเป็นม้าหมากรุก ส่วนเจ้าเจี๊ยบน้อยนั้นมีสีหน้าเกรงๆพ่อของตัวเองที่ยืนจ้องลูกชายไม่วางตาอยู่
และเขาท้าทายอำนาจมืดด้วยการร้องเรียกชื่อหลานเบาๆ
“เจี๊ยบ พรุ่งนี้ไปติวกับอานะ จะสอบแล้วอาไม่อยากให้ขาดตอน”ลูกเจี๊ยบหันขึ้นไปมองพ่อด้วยท่าทางประหม่าก่อนจะตอบรับ ชายหนุ่มโบกมือลาลูกเจี๊ยบแล้วจึงขับรถกลับบ้าน
อย่างน้อยการที่เขาพาหลานมาส่งแดนดินก็คงรู้แล้วว่าแผนปั่นหูของตัวเองนั้นไม่ได้ผล ป่านนี้คงกำลังระแวงว่าเขาจะมาไม้ไหน จะงัดอะไรขึ้นมาตอบโต้
ยังหรอก ยังไม่ถึงเวลาสนุกลลิตภัทรจะปล่อยไปก่อน รอเวลาดีหรือแดนดินมายั่วอารมณ์เขาจะตีให้หมอบจนต้องร้องขอชีวิตเลยล่ะ
หลายวันมานี้แดนดินรู้สึกกระสับกระส่ายนอนไม่ค่อยหลับกินข้าวก็ไม่ใคร่อร่อยคล้ายกับว่ามีใครคอยแช่งชักหักกระดูกหรือจับตามองอยู่เรื่อยๆ แม้อากาศจะค่อนข้างเย็นแต่กำนันหนุ่มกลับร้อนอบอ้าว ร้อนอกร้อนใจจนต้องให้แก้วเจ้าจอมลูกรักเอาขันน้ำแช่ช่องฟรีซละลายน้ำใส่กระติกแล้วลอยดอกมะลิกินน้ำเย็นจัดจนเสียวฟันให้ชื่นใจ
“พ่อกำนันจ๋าเป็นอะไรจ๊ะ?”แก้วเจ้าจอมเห็นหน้าพ่อไม่ค่อยสเบยก็เอ่ยทักอย่างเป็นห่วงเป็นใยสีหน้ามีแววหนักใจเป็นนักเป็นหนา แก้วเจ้าจอมรักพ่อปกติพ่อจะมีรอยยิ้มประดับใบหน้าอยู่ตลอดเวลาแต่พักนี้พ่อจ๋าทำหน้าเหมือนหมาที่เจ้าของไม่ให้กระดูกแก้วเจ้าจอมก็เป็นห่วง อย่างเช่นตอนนี้ที่พ่อจ๋ามีท่าทางเหม่อลอยนั่นอีกเห็นแล้วก็หนักอกหนักใจ หรือพ่อจ๋าจะปวดท้อง ไขข้อเสื่อมสภาพ สมรรถภาพทางเพศเสื่อมถอย หรือแม่จ๋าไม่ยอมให้กัดคอพักหลังๆพ่อกับแม่ทำท่าตึงๆใส่กันออกจะบ่อย
“พ่อจ๋า...”ลองหยั่งเชิงเรียกเมื่อเห็นพ่อเอาแต่เขวี้ยงก้อนดินลงในนา เรียกหรือถามอะไรก็ไม่หือไม่อือ มันน่าน้อยใจนัก เหมือนตำแหน่งลูกรักชักจะสั่นคลอน
พ่อจ๋าไม่สนใจหนู หนูต้องโตไปเป็นเด็กมีปัญหาแน่ๆเลย
หนูต้องติดยา
กลายเป็นเด็กแว้น
แล้วก็ท้องไม่มีพ่อ
เจ้าจอมคิดได้ดังนั้นก็เศร้านัก
เจ้าจอมไม่อยากโตไปเป็นเด็กมีปัญหาเป็นขยะสังคมเจ้าจอมจะต้องเรียกร้องความสนใจจากพ่อจ๋าให้จงได้
“พ่อกำนันเมื่อยมั้ยจ๊ะเดี๋ยวจอมนวดให้”ว่าจบก็บีบไหล่พ่อตามแรงที่เด็กพอจะมีได้ อยากเอาอกเอาใจ จอมไม่อยากเห็นพ่อจ๋าเครียดเดี๋ยวพ่อจ๋าเส้นเลือดในสมองแตกจอมต้องมาป้อนข้าวป้อนกล้วยบด คงลำบากพิลึก จอมเคยเห็นย่าโฉมป้อนกล้วยบดน้องคุณเลอะเทอะน่าดูเชียว
“เฮ้อ...”กำนันถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
“เจ้าจอม ถ้าวันใดวันหนึ่งพ่อกับแม่เลิกกันเจ้าจอมจะอยู่กับใคร?”อยู่ๆความคิดนี้ก็แวบเข้ามาในหัว หากแต่ลูกชายคนเล็กส่ายหน้าพรืด
“พ่อจ๋าพูดอะไรไม่เป็นมงคล ใครจะเลิกกันไม่มีทางหรอกหนูไม่ให้เลิก”
“พ่อแค่สมมติ”
“สมมติก็ไม่ได้หนูไม่ชอบเลย “เด็กน้องว่าพลางต่อยไปที่หลังพ่อแรงๆหนึ่งที แดนดินไม่ได้เจ็บเลยซักนิด แรงเท่ามดต่อยชายหนุ่มลูบหัวลูกชายอย่างอ่อนโยน
“ไม่ทำหน้าหงิกสิ เดี๋ยวแม่มาเห็นจะเอ็ดหาว่าพ่อแกล้งอีก”
“ก็พ่อพูดไม่ดี หนูไม่ชอบฟัง มีอย่างที่ไหนมาสมมติว่าบ้านจะแตก แม่จ๋ารักพ่อกำนัน พี่เจี๊ยบพี่เจ้าขากับเจ้าจอมก็รักพ่อกำนันแบบนี้บ้านเราจะแตกได้ยังไงล่ะจ๊ะ แล้วเรื่องมันก็ไม่ได้เกิดขึ้นซักหน่อยพ่อจ๋าจะไปคิดทำมไร้สาระจริง”
“พ่อคงคิดมากเกินไป นั่นสิเนอะบ้านเรารักกันจะตาย ต่อให้มีควาย((อย่างไอ้ลอ))มาลากก็ไม่มีทางแตก เจ้าจอมพูดจาดีปลอบใจพ่ออยากได้อะไรก็บอกพ่อมาเดี๋ยวพ่อจะให้”กำนันหนุ่มยิ้มออกมาได้ในรอบหลายวันหลังจากใส่สีตีไข่พระลอให้ลูกเจี๊ยบฟังเมื่อคืนนั้น เขาเองก็ไม่ได้สบายใจเลยซักนิดยิ่งคืนนั้นที่ลลิตภัทรมาส่งลูกเจี๊ยบ เขาอยากถามลูกใจจะขาดว่าทำไมถึงกลับมาพร้อมลลิตภัทรแต่ลูกก็เดินเลี่ยงเข้าห้องแถมล็อกเสร็จสรรพ
เขาคิดว่าลูกเจี๊ยบจะไม่ไปข้องแวะกับลลิตภัทรอีก แต่ว่าเขาคิดผิด นอกจากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงหลังจากนั้นลูกเจี๊ยบก็ข้ามกลับไปเรียนพิเศษกับลลิตภัทรตามเดิม เขาจะห้ามก็ไม่ได้เพราะจิ๊บมักจะบอกสมอว่าลูกเรียนจะไม่ทันเพื่อนถ้าพ่ออย่างเขาเอาแต่ขัดขวางด้วยเรื่องงี่เง่า
ผิดไปหมด แผนที่วางไว้ล้มเหลวไม่เป็นท่า แถมจะเสียคะแนนแบบเทหน้าตักให้ลลิตภัทรอีกต่างหาก
เฮ้อ....กำนันเซ็ง!!!
เช้าวันนี้ศตายุไปช่วยลลิตภัทรขนของขึ้นรถตั้งแต่ตะวันยังไม่ขึ้นพ้นขอบน้ำดี ชายหนุ่มแต่งตัวด้วยเสื้อเชิ้ตสีเข้มปล่อยชายออกนอกกางเกงยีนส์ ลูกเจี๊ยบเพิ่งสังเกตว่าหลายเดือนมานี้ที่ลลิตภัทรอยู่บ้าน ไม่มีวันไหนที่ชายหนุ่มจะแต่งตัวไม่ดี
กลายเป็นความแปลกแยกในหมู่ชาวบ้านที่ส่วนมากก็ใส่เสื้อที่แถมมากับยาฆ่าแมลงหรือกระป๋องสี ไม่ก็เสื้อแจกยามมีเลือกตั้งอะไรซักอย่าง ลลิตภัทรเหมือนคุณชายที่หลงทางมามากกว่าเป็นผู้ใหญ่บ้านของชนบทแห่งนี้
“ตั้งใจสอบนะคะ เดี๋ยวปิดเทอมหาเวลาว่างๆอาจะพาไปเที่ยวด้วยคอนโดอากว้างมีสระว่ายน้ำสวยๆเจี๊ยบอยากเห็นมั้ยคะ”ชายหนุ่มปิดท้ายรถแล้วหันมาคุยกับหลาน ลูกเจี๊ยบน้อยตาเป็นประกาย ดวงตาซุกซนเป็นประกายแข่งกับเงาระยิบระยับบนผิวน้ำ
“อยากจ้า หนูอยากเห็นที่ๆอาลออยู่ที่กรุงเทพ”น้ำเสียงกระตือรือร้นตอบรับในทันที
“งั้นก็ตั้งใจสอบนะคะ อาไปไม่กี่วันก็กลับมืดๆจะโทรมาหานะคะ”ลลิตภัทรโยกหัวหลานไปมาอย่างเอ็นดู นี่หากอยู่กันเพียงลำพังเขาคงไม่ทำแค่นี้ คงจะรวบร่างนุ่มนิ่มมากอดมาหอมให้แก้มช้ำแล้วค่อยไป
“ขับรถดีๆนะจ๊ะ”เด็กน้อยช้อนตาขึ้นมองทำให้ลมหายใจคนมองแทบจะขาดห้วง
น่ารักน่าชังน่าเอ็นดูน่าดูเอ็นเหลือเกินหนูจ๋า...
“รีบกลับมานะจ๊ะ”เสียงหวานเอ่ยปากฉอเลาะ ริมฝีปากยิ้มเยื้อนอ่อนหวาน
“หนูคิดถึง...”ได้ฟังน้ำคำฉอเลาะลลิตภัทรก็อยากจะโทรไปบอกเพื่อนว่าไม่ไปแล้วได้มั้ยวะ ไม่อยากให้หลานคิดถึง
เด็กมันอ้อนเสียเหลือเกิน
ลลิตภัทรขับรถถึงกรุงเทพก็เกือบเที่ยงแล้วเพราะแวะนู่นแวะนี่ไปเรื่อยด้วยเพราะไม่เร่งรีบ เขตที่ชายหนุ่มอยู่เป็นพื้นที่เศรษฐกิจถนนหนทางแออัดไปด้วยรถชายหนุ่มเคาะนิ้วตามทำนองเพลงอย่างระบายความหงุดหงิด พอกลับไปอยู่บ้านนานๆลลิตภัทรก็ติดการใช้ชีวิตแบบสโลวไลฟ์ไปไหนก็ไม่ต้องเร่งรีบเผื่อเวลามากมายเหมือนยามอยู่ที่กรุงเทพ กว่าจะถึงคอนโดก็เกือบเที่ยง ลลิตภัทรหิ้วของฝากขึ้นมาบนห้องสองถุง เก็บของเสร็จก็เดินไปห้องข้างๆเคาะไม่กี่ทีเจ้าของห้องก็เปิด เป็นครอบครัวพนักงานบริษัทที่มาเช่าอยู่ชายหนุ่มเอาถ่านไม้และกล้วยเบรกแตกที่ให้ชาวบ้านตั้งกลุ่มทำเป็นผลิตภัณฑ์โอทอปมามอบให้ เอ่ยถามไถ่สารทุกข์สุขดิบกันอีกหลายคำก็แวะไปห้องถัดไป เมื่อแจกของฝากเสร็จอีกนานกว่าจะถึงเวลานัดกับเพื่อนๆลลิตภัทรจึงกลับห้อง ดูความเรียบร้อยของทุกอย่าง ข้าวของอยู่ครบก็โทรหาป้าลำพึงแม่บ้านที่เขาจ้างไว้ดูแลห้องเอ่ยขอบคุณและบอกกล่าวเรื่องของฝากที่เขาเอามาให้ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพิมพ์ข้อความหาคนเด็กก่อนจะเคลิ้มหลับไปในที่สุด
ห้าโมงเย็นลลิตภัทรอาบน้ำอาบท่าฉีดน้ำหอมจนฟุ้งไปทั่วห้อง เสื้อเชิ้ตและกางเกงสีดำถูกนำมาสวมช่วยส่งให้ผิวขาวจัดของชายหนุ่มยิ่งสว่างชัด พระลอจัดแต่งทรงผมอีกเล็กน้อยก็ส่งยิ้มให้กับเงาของตัวเอง
“ใครวะ หล่อชิบหาย หล่อวัวตายควายล้ม”จัดการเสยผมอีกรอบก็ต้องชะงักเมื่อสายตาเห็นสิ่งแปลกปลอมบนหัว
“แม่ง...”สบถออกมาเบาๆก่อนกวาดสายตาหากรรไกรอันเล็กๆบนโต๊ะเครื่องแป้งจัดการตัดผมสีขาวออกให้พ้นไปจากชีวิต
“ไงมึงไอ้ผู้ใหญ่บ้าน หายหน้าหายตาไม่เจอกันเลยตั้งแต่ลอยกระทง แดดที่บ้านมึงแรงไม่พอที่จะทำให้มึงดำขึ้นเลยเหรอวะแม่ง”ลลิตภัทรเข้าไปทักทายบรรดาเพื่อนๆที่มารวมตัวกันที่ร้านอาหาร เพื่อนของลลิตภัทรจองห้องวีไอพีเพราะไม่อยากได้ยินเสียงเพลงดังวุ่นวายจนกลบเสียงคุยจึงมีเพียงการเปิดเพลงคลอเบาๆเท่านั้น ชายหนุ่มตบหัวไอ้เอ็มเพื่อนสนิทที่เอ่ยทักเสียงดังก่อนจะโดนดันไปนั่งด้านในติดกับอริตาที่นั่งส่งยิ้มกว้างรออยู่ก่อนแล้ว
“แอนรอลอตั้งนานทำไมเพิ่งมาคะ?”หญิงสาวจัดการชงเหล้าให้ลลิตภัทรอย่างรู้งาน ลลิตภัทรส่งยิ้มหวานไปให้ดวงตาแพรวพราวอย่างคนบริหารเสน่ห์หากแต่ในใจไม่ได้มีความคิดพิศวาสลึกซึ้งอะไรแล้ว ตั้งแต่งานคราวก่อนที่แอนไปบ้านแล้วเจ้าตัวน้อยกระเง้ากระงอดจนถึงขั้นถอดเสื้อประชดเขาก็ไม่มีใจแกว่งหรือแบ่งไปให้ใครอีก อริตาพยายามรื้อฟื้นเรื่องราวสมัยก่อนมาพูดมาคุยกับลลิตภัทรหากแต่ชายหนุ่มทำเหมือนฟังเสียงแมลงหวี่คือฟังหูซ้ายทะลุหูขวา
“ตกลงเรื่องหุ้นของมึงเอาไงวะลอ?”
“กูไม่ขายว่ะ ยังไงก็เป็นบริษัทที่ร่วมกันทำมาแต่ต้นกูก็อยากร่วมหัวจมท้ายไปกับพวกมึง กูคิดแล้วลงเงินแล้วนอนกินกำไรอยู่กับบ้านก็สบายดีได้มากได้น้อยแต่ก็เงินเหมือนกันมึงก็ช่วยดูแลให้กูด้วย ถ้ามีงานอะไรให้กูทำก็ติดต่อไปกูนั่งทำอยู่กับบ้านก็ได้”
“เออ มึงว่ายังงั้นพวกกูก็สบายใจ เอ้ามาๆชนแก้วๆ”เอ็มเอ่ยเรียกบรรดาเพื่อนๆให้ยกแก้วขึ้นมาชนกับที่พอดีว่าโทรศัพท์ของลลิตภัทรดังขึ้นเมื่อเห็นชื่อที่ปรากฏอารามรีบร้อนชายหนุ่มก็เผลอทำเหล้าในแก้วหกใส่อาริตาที่ยื่นมาให้อย่างพอดิบพอดี หญิงสาวร้องอย่างตกใจกับพอดีที่ลลิตภัทรกดรับสายลูกเจี๊ยบโดยไม่ทันตั้งใจ
“ลอคะ ลอช่วยแอนหน่อยสิคะ”อาริตาดึงแขนลลิตภัทรที่ยกมือขอโทษขอโพยหล่อนไว้
“แอน แป๊บนะครับผมขอรับโทรศัพท์ก่อน”
“อย่าเพิ่งไปค่ะ ลอต้องรับผิดชอบที่ทำให้แอนเปียกไปทั้งตัวก่อนสิคะ”ลลิตภัทรมองตามคำว่าเปียกทั้งตัวของอริตาก่อนทำหน้าล้อเลียนว่าเจ้าหล่อนนั้นพูดปดเพราะรอยเปียกมีเพียงตรงอกอวบอึ๋มสะบึมบึ้มเพียงนิดหน่อยเท่านั้น
“งั้นก่อนไปลอช่วยรูดซิปให้แอนก่อนสิคะ “หญิงสาวยังคงต่อรองเมื่อลลิตภัทรทำท่าจะเดินออกไปจนชายหนุ่มต้องนั่งลงเพื่อช่วยหล่อนตามที่หญิงสาวร้องขอ เพราะยังไงซะเขาก็เป็นคนทำให้อริตาเปียกแหละนะ
ศตายุขมวดคิ้วฉับเมื่อได้ยินเสียงสนทนาที่ดังเข้ามาในสาย ดวงตาของเด็กน้อยฉายแววกรุ่นโกรธละไม่พอใจเต็มที่
ไหนอาลอบอกเจี๊ยบว่าไปคุยงานกับเพื่อนไงจ๊ะ
แล้วยัยป้าแอนนมยานไปอยู่กับอาลอได้ยังไง
อะไรคือช่วยรูดซิป? ซิปอะไร?
อาลอกับป้าแอนกำลังทำอะไรกันอยู่ หรือว่า?...ดวงตาของเด็กน้อยโตเท่าไข่ห่านเมื่อนึกจินตนาการกิจกรรมที่ลลิตภัทรกำลังทำกับอริตา มืออูมกำโทรศัพท์ราวกับจะบี้ให้พังคามือ
อาลอนะอาลอ ไหนบอกว่ารักหนูคนเดียวไง แล้วนี่อะไรจ๊ะ ไปนอนกับป้าแอนนมเปลี้ยนั่นได้ยังไง
เกลียดนักคนเจ้าชู้!!!
ลลิตภัทรหันไปมองอริตาที่กำลังพยายามรูดซิปกระเป๋าสะพายที่ติดแล้วคว้ามาช่วย ชายหนุ่มใช้เวลาไม่กี่นาทีก็เปิดออกได้ อริตาเอาผ้าเช็ดหน้าซับคราบสุราที่เปียกเนินอกดังชายหนุ่มขอโทษหล่อนอีกครั้งแล้วจึงหยิบโทรศัพท์ที่หน้าจอดับไปแล้วเดินออกไปด้านนอกร้านกดโทรกลับทันทีที่หามุมสงบได้
เสียงสัญญาณดังขึ้นไม่นานลูกเจี๊ยบก็กดรับสาย
“ฮัลโหลค่ะเจี๊ยบขอโทษนะคะที่รับช้าพอดีอาเพิ่งเดินออกมานอกร่ะ...”
“ไม่คุยกับคนเจ้าชู้!!!”ลลิตภัทรยังไม่ทันจะพูดจบประโยคเสียงลูกเจี๊ยบน้อยที่เกรี้ยวกราดก็ดังสวนกลับมาจากนั้นสัญญาณก็ถูกตัดไป ทิ้งชายหนุ่มไว้กับดินแดนอันแสนเวิ้งว้าง
กูทำอะไรผิดวะ?
ก้มลงมองหน้าจออีกครั้งอย่างงงๆก่อนจะกดโทรกลับไปอีกครั้งหากแต่คราวนี้ลูกเจี๊ยบปิดเครื่องไปแล้ว
อ๊าว...
ไรอ่ะ??
อะไรวะ
งงเด้!!!
อาไปเจ้าชู้กับใครตอนไหนคะเนี่ย?!!
ลลิตภัทรแทบอยากจะเหาะกลับบ้านถ้าไม่ติดว่าอีกวันต้องไปร่วมงานแต่งของเพื่อน ชายหนุ่มพยายามโทรหาลูกเจี๊ยบอีกหลายครั้งแต่โทรศัพท์ของลูกเจี๊ยบคงโคฟเวอร์เป็นสากกะเบือไปแล้วเพราะมีแต่เสียงตอบรับอัตโนมัติให้ได้หงุดหงิดเล่น ชายหนุ่มกลับเข้ามาในร้านมองอริตาอย่างเคืองๆ ยอมรับล่ะว่าเขาพาล
"ไอ้เอ็มมึงขยับไปนั่งข้างแอนดิ๊"ผลักเพื่อนสนิทเพื่อจะแย่งที่นั่ง อรรถพลงงนิดหน่อยแต่ไม่เข้าใจมากๆหากแต่ก็ยอมย้ายตูดไปแต่โดยดี แก้วเหล้าถูกเปลี่ยนมาใหม่ตามปกตินิสัยของลลิตภัทรที่หากทิ้งโต๊ะไปแล้วจะไม่ดื่มแก้วเดิม
"ลอคะทำไมไม่กลับมานั่งที่เดิมล่ะคะ?"อริตาทำเสียงกระเง้ากระงอด ส่ายอกเต่งตึงไปมาราวกับตุ๊กตาลมหน้าปั๊มน้ำมัน
"นั่งแบบนี้ดีกว่าครับแอนพอดีแฟนลอเค้าขี้หึง"ลลิตภัทรตอบลลิตภัทรตอบเสียงเรียบพลางยกแก้วเหล้าขึ้นมาจิบทำเป็นเมินสายตาที่หันขวับมาจับจ้องเขา เห็นไอ้เอ็มทำหูผึ่งก็นึกขำ
ลลิตภัทรหวงชีวิตโสด เรื่องนี้เพื่อนๆในกลุ่มรู้ดี แม้ชายหนุ่มจะขึ้นชื่อว่าเป็นเพลย์บอยคนหนึ่งแต่สิบกว่าปีที่ผ่านมาลลิตภัทรไม่เคยใช้คำว่าแฟนกับใครแม้แต่อริตาที่ดูจะโปรดปรานกว่าคู่นอนคนไหนก็ตาม หญิงสาวที่คิดมาตลอดว่าตัวเองพิเศษกว่าคนอื่นแทบจะลุกขึ้นมากระทืบเท้าเร่าๆแบบในละครหากแต่หล่อนระงับจิตระงับใจตัวเองไว้ หญิงสาวสูดหายใจเข้าลึกๆ
หากหล่อนโวยวายไปตอนนี้มีแต่เสียกับเสีย
"มึงไปมีแฟนตอนไหนวะทำไมพวกกูไม่รู้?"เพื่อนคนที่นั่งตรงข้ามเอ่ยถาม ลลิตภัทรมีสายตาเป็นประกายวูบหนึ่งยามนึกถึงแก้มฟูๆที่มีกลิ่นแป้งเด็กติดอยู่ให้ได้ชื่นใจยามฝังปลายจมูก สายตาที่อริตาไม่เคยได้รับ สายตาที่เพื่อนๆทุกคนไม่เคยเห็น
"ซักพักแล้วว่ะ"ชายหนุ่มตอบอย่างอารมณ์ดี
"สวยมั้ยวะ?"ใครๆก็รู้ว่าลลอตภัทรไม่เคยควงคนหน้าตาไม่โดดเด่น ทั้งผู้หญิงและผู้ชายที่เพื่อนของเขาเคยควงแต่ละคนล้วนแล้วแต่หน้าตาดีราวคัดเกรดมาแล้วทั้งนั้น
"ไม่สวยว่ะ"ชายหนุ่มชายหนุ่มหยุดคิดนิดหนึ่งริมฝีปากกระตุกยิ้มยามนึกถึงเจ้าของปากงุ้ยๆแก้มป่องๆขี้เถียงๆของคนที่กำลังงอนเขาอยๆแ่อนที่จะเอ่ยประโยคต่อมาด้วยน้ำเสียงเปี่ยมสุข
"แต่น่ารักชิบหายเลย น่ารักแบบที่กูไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิต"
สามวันต่อมาลลิตภัทรก็กลับมาถึงบ้าน ชายหนุ่มหอบของฝากมาจนเต็มรถ บัวบูชากับบุญรักษาได้ตุ๊กตาคนละตัวเด็กหญิงเด็กชายกระโดดกอดอาหนุ่มอย่างดีอกดีใจจนขวัญชีวาต้องเตือนลูกให้ไหว้ขอบคุณอาลอเสียก่อน
"ไปกรุงเทพแค่นี้ต้องย้อมผมกลับมาด้วยเหรอวะ"พระลักษณ์เอ่ยเซวน้องชายที่กลับมางวดนี้หล่อขึ้นไปอีกโขด้วยผมที่ตัดมาใหม่และลงทุนไปนั่งให้ช่างรุมทึ้งหลายชัวโมง ตอนแรกช่างจะทำสีเทาไม่ก็บลอนด์สว่างๆให้เขาแต่ชายหนุ่มท้วงไว้เพราะเขาเป็นผู้ใหญ่บ้านเวลามีประชุมจะไปนั่งหัวทองกลางดงผมหงอกก็ดูไม่เหมาะจึงสรุปกันที่น้ำตาลประกายส้มซึ่งยิ่งขับกับผิวขาวจัดของเขาได้เป็นอย่างดี
"อิจฉาล่ะสิผมทำแล้วหล่อ"ชายหนุ่มยักไหล่ใส่่ชาพี่ชายคนรแงแล้ววางตะกร้าเสื้อผ้าเด็กผู้ชายที่ซื้อมาฝากน้องคุณหลานคนเล็ก
"มีแต่ของฝากหลานๆแล้วของพ่อๆมันล่ะวะ?"พระรามแกล้งถามเมื่อเห็นแต่ของฝากลูกๆหลานๆ
"อยู่หน้ารถพี่ นุ่มลิ้นอย่างนี้เลย"ชายชายหนุ่มเดินกลับไปทีไปที่รถกลับมาพร้อมขวดไวน์และเหล้านอกหลายกล่อง พระรามกับพระลักษณ์ตบเข่าฉาดอย่างชอบอกชอบใจที่ไอ้น้องครกษกมันรู้ใจพี่ๆ ลลิตภัทรฝากขวดเหล้าไว้ที่พี่ๆแล้วไปหยิบของของกินต่างๆไปให้แม่ที่นั่งทำกับข้าวกับนิดาและขวัญชีวาในครัว ใบบุญกับใบบัวนั่งเล่นตุ๊กตาอยู่ไม่ห่าง
"พี่ขวัญครับเดี๋ยวรบกวนหากับแกล้มให้หน่อยนะครับวันนี้ว่าจะดื่มกัน"
"ได้ๆลออยากได้อะไรพิเศษมั้ยจะได้ทำให้เลย"พี่สะใภ้คนโตเอ่ยถาม
"งั้นขอแหนมซักจานนะครับ ผมซื้อมาแล้ว"ชายหนุ่มวางถุงของลงหน้าพี่สะใภ้
"อันนี้ซื้อมาฝากแม่ พอดีเพื่อนเปิดร้านมันลดราคาให้"พระลอยื่นกล่องกำมะหยี่สีแดงให้แม่ เมื่อเปิดออกมาด้านในเป็นกำไลทองฝังเพชรเม็ดเล็กๆกับต่างหู ย่าโฉมยิ้มแก้มแทบแตก ลลิตภัทรรู้ว่าแม่ชอบทองกับเพชรปกติชายหนุ่มกับพี่ๆจะหุ้นกันซื้อให้แม่ทุกปี
"ท่าทางจะชอบ"ขวัญชีวาพยักเพยิดกับนิดาเอ่ยแซวแม่สามีย่างเอ็นดูคนแก่ที่เอาของขึ้นไปเก็บด้วยตัวเอง
"งั้นเดี๋ยวผมแวะเอาของไปฝากบ้านนู้นหน่อยนะครับ"พระลอขอตัวแยกออกไป คิดถึงลูกเจี๊ยบใจจะขาด อยากเจอหน้าจะแย่ หลายวันมานี้เหมือนถูกลูกเจี๊ยบเหวี่ยงออกนอกโลกชายหนุ่มขับรถมาจอดหน้าบ้านแดนดิน จิ๊บโผล่หน้าออกมาดูจากหน้าต่างครัว
"อ้าว ลอ กลับมาแล้วเหรอ? ขึ้นมานั่งบนบ้านก่อน แล้วนั่นหอบอะไรมาเยอะแยะ"ลลิตภัทรหิ้วถุงของฝากขึ้นมาบนบ้าน จันทร์เจ้าขายกมือไหว้สวัสดีชายหนุ่ม
"เจ้าขา อันนี้อาซื้อมาฝากหนูนะคะ"ลลิตภัทรยื่นถุงกระดาษลายน่ารักให้เด็กสาว จันทร์เจันทร์เจ้าขายกมือไหว้ขอบคุณเมื่อเปิดดูด้านในเป็นชุดกระโปรงสีชมพูอ่อนๆสวยหวานน่ารักเหมาะกับเจ้าขา เด็กสาวยิ้มกว้างอย่างถูกอกถูกใจ
"อันนี้ของจิ๊บ ตัวนี้ใช้ดีมากช่วยบำรุงผิวลดริ้วรอย"
"ลอว่าเราแก่เหรอ?"จิ๊บรับถุงเครื่องสำอางค์จากลลิตภัทรพลางเอ่ยกระเซ้าเย้าแหย่
"แหม...เธอก็สามสิบกว่ามันก็ต้องบำรุงกันหน่อยมั้ยครับคุณจิรนันท์ ส่วนนี่น้ำหอม กลิ่นไม่ฉุนมากเราซื้อมาฝากผัวเธอ"จิรนันท์หัวเราะเสียงใสเมื่อได้ยินสรรพนามที่ลลิตภัทรใช้เรียกบุคคลที่สามอย่างแดนดิน
"ดูพูดเข้า ลอนี่จริงๆเลย"
"แล้วนี่เจี๊ยบกับเจ้าจอมไปไหนล่ะ?"
"เจี๊ยบเข้าเมืองไปกับพ่อเค้าน่ะ ส่วนเจ้าจอมไปจับปลากับทิดชัยที่ท้ายนา"หล่อนชี้ไปที่ท้ายนาลิบๆเห็นกลุ่มคนจับปลากันอยู่ไกลๆ
"งั้นเดี๋ยวเราไปหาหลานก่อน พวกของกินแช่ตู้เย็นจะไว้ได้นานนะ อร่อยดีลองดู"
"อื้อ ขอบใจนะ อุตส่าห์นึกถึง"
"ไม่เป็นไร เราไปก่อนนะ"ชานหนุ่มไม่รอให้จิรนันท์ได้ตอบกลับก็ขับรถไปจอดใกล้ๆกับที่เจ้าจอมจับปลาอยู่ เพ่งสายตาดูไม่นานก็เห็นแก้วเจ้าจอมตัวคลั่กไปด้วยโคลนกำลังจับปลาอย่างสนุกสนาน
"เจ้าจอม"ลลิตภัทรส่งเสียงร้องเรียก เมื่อเด็กน้อยได้ยินก็รีบเงยหน้าดูก่อนจะยิ้มร่าทิ้งตะข้องที่ใส่ปลาวิ่งมาหาลูกพี่ทันที
"อาลอ อาลอกลับมาแล้วเหรอจ๊ะ"เอ่ยทักเสียงอ่อนเสียงหวาน ลลิตภัทรเปิดท้ายรถหยิบกล่องของเล่นกล่องใหญ่ออกมาอย่างรู้งาน
คราวนี้เขาจะใช้ประโยชน์จากแก้วเจ้าจอมของเซ่นไหว้ก็ย่อมต้องไม่ธรรมดา
"โห!!! อาลอ"แก้วเจ้าจอมตาโตเมื่อเห็นของฝากมือน้อยๆจะ่นไปรับหากแต่คนเป็นอากลับดึงออกให้ห่างมือ
"อาจะให้ แต่เจ้าจอมต้องช่วยอะไรอาหน่อย"
"ช่วยอะไรเหรอจ๊ะ บอกมาเลยหนูจะทำสุดความสามารถเลย"
"ช่วยอาง้อพี่เจี๊ยบหน่อย"ชายหนุ่มตอบพลางกดยิ้ม ดวงตาเป็นประกาย
ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนตร์ก็ต้องเอาของเล่นเข้าล่อนี่แหละ
,...................