บทที่ 18
แตกเป็นแตก (ความลับไม่ได้มีในโลก)
“มึงไม่มีสมาธิเลยนะไอ้รวย เป็นอะไรของมึงวะ?” หลังจากช่วงซ้อมเสร็จผมถูกพี่ๆ ในทีมตำหนิเรื่องฟอร์มการเล่นของผมวันนี้ ซึ่งมันเป็นอย่างที่พี่ๆ พูดไม่มีผิดผมยอมรับเลยว่าผมไม่ค่อยมีสมาธิกับกิจกรรมตรงหน้าสักเท่าไหร่ เพราะในหัวของผมมันยึดติดกับความฝันรวมถึง...ท่าทางแปลกๆ ของเฮียบิ๊กกับสิ่งที่พี่คิมถามผมวันนี้ มันดูทุกอย่างเชื่อมโยงกันหมดจนหน้าประหลาด ผมไม่ค่อยฝันซักเท่าไหร่แต่ถ้าผมฝันเรื่องทุกอย่างที่ฝันมันมักจะเป็นเรื่องจริงเสมอ
“ขอโทษครับพี่ ผมไม่ได้ตั้งใจ” มีเพียงแค่คำว่าขอโทษเท่านั้นที่ผมจะสามารถพูดออกไปได้ ไม่มีข้อแก้ตัว สายตาของพี่ๆ ในทีมมองผมด้วยความผิดหวังเพราะเมื่อก่อนผมไม่เคยเป็นแบบนี้ สิ่งที่ผมโฟกัสมากที่สุดคือฟุตบอลเพียงแต่ว่าตอนนี้มันไม่ใช่
“ไม่ได้อยากจะก้าวก่ายแต่ถ้าเป็นเพราะเรื่องส่วนตัวโค้ชก็คงต้องพิจารณามึงใหม่เรื่องตัวจริงในการแข่งครั้งหน้า นี่มันไม่ใช่ครั้งแรก ไอ้คิมมึงเตรียมตัวลงแทนไอ้รวยมันด้วยหละ” โค้ชทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก่อนจะเดินออกไปทิ้งให้ผมนั่งพิจารณาอยู่กับตัวเองที่เดิม
“ไง?” ผมเงยหน้าขึ้นก่อนจะเห็นว่าเป็นพี่คิมที่ทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ ผม “มึงคิดมากอะไรวะ”
“ไม่มีครับ”
“ถ้าเป็นเรื่องที่กูพูดมึงก็อย่างใส่ใจเพราะกูก็พูดไปอย่างนั้น หรือว่าเรื่องที่กูพูดมันดันไปตรงกับเรื่องของมึงอย่างนั้นเหรอ?” ผมมองหน้าพี่คิมอย่างไม่เข้าใจกับคำถามที่ถามผม
“ไม่มีอะไรหรอกครับพี่ ผมไปก่อนนะ” ผมยันตัวลุกขึ้นก่อนจะเดินออกจากสนามตรงไปที่ห้องเปลี่ยนชุดแต่ผมกลับต้องหยุดชะงักเพราะคำพูดของพี่คิม
“กูบอกตามตรงว่ากูไม่ชอบมึงตั้งแต่เข้ามาเป็นตัวจริง จนกระทั่งถึงตอนนี้กูก็ยังไม่ชอบ อะไรที่มันทำให้มึงล้มได้กูก็ทำ..แต่ไม่มคิดว่ามันจะไวขนาดนี้....” ผมว่างานนี้พี่คิมเกี่ยวด้วยเต็มๆ แต่มันจะตรงกับความฝันของผมไหมก็ต้องมาตามสืบกันอีกที
“ถ้าผมล้มผมไม่ยอมล้มคนเดียว” ผมทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก่อนจะเดินออกมาจากสนามโดยไม่สนใจสายตาของพี่คิมที่มองตามผมมาเรื่อยๆ
“เด็กอวดดี” ถ้าถามว่าอะไรคือความเกลียดที่เขามีต่อเด็กที่ชื่อมารวยก็คงเป็นเพราะ..ความมั่นใจที่ไม่ได้ออกผ่านทางคำพูดแต่มันออกมาจากการกระทำและแววตา วันแรกที่มารวยถูกคัดเข้ามาเล่นเป็นตัวแทนของมหาลัย เขายอมรับเลยว่าฝีมือของเด็กคนนี้ไม่ธรรมดา แต่สิ่งที่ทำให้เขาไม่พอใจก็คือ
‘คิมเดี๋ยวให้รวยลงแทนมึงนะ เป็นตัวสำรองไปก่อน..’
‘แต่โค้ชบอกว่าผมเป็นกองหน้าที่เก่งที่สุดไม่ใช่เหรอครับ? แล้วทำไมถึงไว้ใจเด็กใหม่ในแมตใหญ่ๆ แบบนี้’
‘ให้โอกาสน้องมันหน่อยก็แล้วกัน’ มันคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขามีอคติกับเด็กคนนี้ แต่ยังคงสงวนท่าทีเอาไว้ไม่ให้ใครรู้ แต่แล้วเขาก็มองเห็นโอกาสเมื่อเพื่อนโง่ๆ อีกคนของเขากำลังอยากจะสนุกเขาก็มีอะไรสนุกๆ ให้มันทำโดยใช้เด็กที่เขาต้องการจะกำจัดเป็นเครื่องมือ ยอมรับว่าเลวแต่..อยากบอกว่าเลวได้มากกว่านี้ ไม่เชื่อคอยดู
Say’ s talk
ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมถึงมีบทพูดให้ตัวประกอบอย่างผม ผมเซย์ อย่างที่ทุกคนรู้ดีว่าผมเคยชอบมารวยแต่ตอนนี้มันไม่ใช่อีกต่อไปเพราะคนที่ผมชอบคือคนที่ผมเคยเกลียด ไม่ใช่แค่ผมแต่เป็นมันด้วยที่เกลียดผมเหมือนกัน
“ไอ้บุ๊คมึงไม่กินผักอีกแล้วนะ” หลังจากเลิกซ้อมผมตรงมาที่ร้านข้าวที่นัดกับไอ้บุ๊คไว้ ใช่ครับเรื่องของผมกับไอ้บุ๊คมันค่อนข้างยาวมากเอาไว้ถ้ามีโอกาสผมจะมาเล่าตั้งแต่ต้นจนจบให้ฟังนะครับ
“เสือกจัง งั้นก็แดกให้กู” ไอ้บุ๊คตักผักในจานของมันมาใส่ในจานของผมด้วยสีหน้าหงุดหงิด ไอ้บุ๊คมันมีความสามารถพิเศษอยู่หนึ่งอย่างครับคือการมีสีหน้าหงุดหงิดอยู่ตลอดเวลา
“กินเหล้ากันไหมคืนนี้” ไอ้บุ๊คเงยหน้าขึ้นมามองผมทันทีที่ออกปากชวนมัน
“นึกไงชวน?”
“ตกลงไหมละ กูเลี้ยง”
“ก็ไม่ขัด” ไอ้บุ๊คยักไหล่ด้วยท่าทางเหมือนไม่สนใจแต่มุมปากของมันแอบยิ้มเล็กน้อย ไอ้นี่มันขี้เหล้าครับถ้าอยากเอาใจก็แค่เอ่ยปากว่าจะเลี้ยงเหล้าเท่านั้นจากหน้ามือจะเปลี่ยนเป็นหลังตีนเลยครับ “ชวนไอ้รวยไหม มันน่าจะอยู่ห้องคนเดียวช่วงนี้เฮียกูกลับดึก”
“ทำไมกลับดึก”
“ไม่เสือกดิ”
“แต่มึงพูดให้อยากรู้นะไอ้บุ๊ค” ถ้าอยู่กับไอ้บุ๊คได้เกินหนึ่งชั่วโมงคุณจะมีความสามารถในเรื่องของการฝึกความอดทนไปในตัว แต่ก็ใช่ว่าผมจะไม่เคยโมโหกับมันนะแต่ถ้าอยากได้มันก็ต้องใจเย็น “เออ จะบอกว่าช่วงนี้รวยมีเรื่องไม่สบายใจอะไรหรือเปล่า เห็นตอนซ้อมไม่ค่อยมีสมาธิเท่าไหร่” ผมนึกขึ้นได้ถึงเรื่องเมื่อเย็นที่รวยโดนโค้ชว่าก็เพราะโค้ชคาดหวังกับรวยเอาไว้มากๆ เขาก็คงไม่อยากให้รวยโฟกัสเรื่องอื่น
“เฮียกูมั้ง โดนเอาแล้วคงระแวงกลัวโดนทิ้ง”
“แล้วมึงกลัวกูทิ้งไหม ที่โดนกูเอา”
เคร้ง!
“ถ้าไม่อยากเลือดออกก็แดกไป อย่าทำให้กูโมโหไอ้เหี้ยเซย์”
“ก็พึ่งรู้ว่ามึงโมโหแล้วหน้าแดง”
“สัด!!” ก็อย่างนี้แหละครับอย่างที่โบราณเขาว่าทะเลาะบ่อยๆ ลูกจะดกความรักจะยืนยาวแม้ว่าตอนนี้มันจะยันปากแข็งอยู่ก็ตาม แต่ผมรู้ว่ามันอะก็เริ่มมีใจให้ผมบ้างแล้วไม่ได้เข้าข้างตัวเอง แต่ผมดูออก “ไอ้เซย์ผู้หญิงโต๊ะหลังมองมึงนานละ ไปคุยให้จบๆ ไปกูรำคาญ”
“แน่ใจว่าอยากให้กูไป?”
“ก็ถ้าไปมึงจะรู้ว่ากูอยากหรือเปล่า”
“กูไม่ไปหรอก หึ” ไม่อยากเสี่ยงครับเคยเจอมันต่อยจนเลือดกบปากมาหลายครั้งแล้วแต่ก็ไม่อยากจะเจออีก เก็บไว้ให้มันต่อยตอนทำมันเจ็บดีกว่าคุ้มกว่าเยอะ
“งั้นกูไปพร้อมไอ้รวยนะ มึงไปเจอที่ร้านเลย” หลังจากที่กินข้าวเสร็จผมกับไอ้บุ๊คก็เตรียมตัวกันแยกย้าย โดยที่ไอ้บุ๊คมันจะกลับไปอาบน้ำที่หอส่วนผมก็จะกลับไปอาบน้ำที่หอของตัวเอง
“ได้”
“ไอ้เซย์” ผมหันกลับไปมองไอ้บุ๊คหลังจากที่ผมเตรียมคร่อมมอเตอร์ไซต์ขับกลับหอ
“ว่า?”
“มึงอย่าขับเร็วนะ..เอ่อ กูไปละ” และแล้วไอ้คนปากอย่างใจอย่างก็รีบหันหลังเดินหนีไป ก็อย่างนี้แหละครับก็ต้องให้เวลากันไป ผมรู้ว่าเรื่องแบบนี้มันทำใจยอมรับยากโดยเฉพาะคนที่ไม่เคยคิดว่าจะได้คบกับผู้ชายด้วยกันอย่างไอ้บุ๊ค
@KJH Bar
ผมมาก่อนพวกนั้นเพราะต้องมาจองโต๊ะเดี๋ยวจะไม่มีที่นั่งขนาดผมมาเร็วแล้วโต๊ะยังเกือบเต็ม ทำให้ผมต้องมานั่งแถวๆ มุมอับของร้าน ปรกติถ้าเลี่ยงได้ผมจะไม่นั่งตรงนี้เพราะหาเหยื่อยากแต่ช่วงนี้ผมจำศีลเลยไม่ค่อยแคร์เรื่องโลเคชั่นเท่าเมื่อก่อน
“เดี๋ยว..เซย์ ไอ้บุ๊คกูงง” ทันทีที่รวยเห็นผมจึงหันกลับไปมองหน้าเพื่อนสนิทของตัวเองด้วยความสงสัย ในสายตารวยผมกับไอ้บุ๊คคือคนที่ไม่กินเส้นกันซักเท่าไหร่
“เออ เดี๋ยวบอก” ไอ้บุ๊คดันหลังรวยให้นั่งลงบนเก้าอี้ส่วนมันเองก็นั่งลงข้างๆ รวยอีกที “เอาไร เบียร์หรือเหล้า”
“เหล้า เบียร์เดี๋ยวลงพุง” ผมตอบไอ้บุ๊คก่อนที่มันจะลุกออกไปจัดการกับเครื่องดื่มที่บาร์อีกด้าน ทำให้ตอนนี้เหลือเพียงแค่ผมกับรวยสองคน
“เซย์บอกเราที เราไม่เข้าใจ”
“คือ..เราไม่รู้ว่าบุ๊คบอกอะไรรวยไปบ้าง แต่ถ้าบุ๊คพูดประมาณว่าช่วงนี้หายไปไหนก็คือมาอยู่กับเรา” ผมเองตอบกั๊กเอาไว้เพราะผมไม่รู้ว่าไอ้บุ๊คมันบอกอะไรรวยไปบ้าง แต่ที่แน่ๆ ปฏิกิริยาของรวยตอนที่เห็นผมนั่งอยู่ก็เดาได้ไม่ยากว่าไอ้บุ๊คน่าจะไม่ได้บอกว่ามันหายไปกับผม
“อย่าบอกนะว่าเซย์คือคนที่ทำให้ไอ้บุ๊คร้องไห้?”
“ห้ะ? เดี๋ยวอันนี้เราไม่รู้”
“คือ...ช่างเถอะเดี๋ยวเราถามไอ้บุ๊คเอง” อันนี้เป็นความรู้หใม่เลยก็ว่าได้ว่าผมทำไอ้บุ๊คร้องไห้เพราะต่อหน้าผมไม่ว่ามันจะเจ็บแค่ไหนผมก็ไม่เคยได้เห็นน้ำตาของมัน..
“มาแล้ว ของมึงไอ้รวยเอาให้เต็มที่ไอ้เซย์เลี้ยง กูแดกเบียร์ไปเหล้ามันแพง” ผมมองหน้าไอ้บีคยิ้มๆ แต่ก็ไม่ได้พูดขัดอะไร จนกระทั่งดนตรีสดในร้านเริ่มเล่น ผมก็ไม่รู้นะว่าทำไมร้านเหล้าชอบเปิดเพลงเศร้าๆ แต่ที่แน่ๆ เพื่อนของผมคนหนึ่งแม่งอินไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ
สุดท้ายแล้วเธอไม่โกหกแต่ลืมบอกกันว่าไม่รัก ฉันโดนหลอกเธอบอกกันเธอใจร้าย
สุดท้ายแล้วเป็นไง เธอทิ้งตัวฉันไป แต่อันที่จริงฉันไม่รักเธออยู่แล้ว
“เนื้อเพลงแม่งโดนฉิบหาย!” ตั้งแต่สามปีที่เป็นเพื่อนหรืออยู่ทีมเดียวกับรวยมาผมไม่เคยได้ร่วมวงกินเหล้ากับรวยเลยสักครั้ง นี่ถือเป็นครั้งแรกที่เห็นว่ารวยค่อนข้างที่จะปล่อยอารมณ์ผมผสมแอลกอฮอล์แบบนี้ “ไอ้บุ๊คไปเอามาให้กูอีก”
“ไอ้รวยเบาก่อนยังไม่ค่อนคืนเลย” บุ๊คเอ่ยปรามเพื่อนรัก
“เดี๋ยวเราไปเอาให้”
“ไอ้เซย์!” ผมยักไหล่อย่างไม่สนใจก่อนจะเดินไปเอาเบียร์มาเพิ่มอีก แต่แล้วสายตาผมดันเหลือบไปเห็นใครบางคนที่มีหน้าตาคล้ายกับไอ้บุ๊คอย่างไม่มีผิด โดยที่ข้างๆ ของเขามีผู้ชายหน้าตาดีนั่งอยู่ด้วย...
“พี่ไอ้บุ๊คนี่หว่า” เมื่อมองดีๆ แล้วผู้ชายคนนั้นคือพี่ชายของไอ้บุ๊คที่ผมเคยเจออยู่หลายครั้ง ส่วนมากจะเจอในรูปแบบที่ไม่ค่อยจะเป็นมิตรสักเท่าไหร่ แต่ที่แน่ๆ สีหน้าตอนนี้ของพี่ชายไอ้บุ๊คอมทุกข์ไม่ต่างจากรวยสักเท่าไหร่ อย่าบอกนะว่าสองคนนี้มีเรื่องกันอย่างนั้น
“เบียร์สามขวดครับ” ผมรับขวดเบียร์มาถือไว้ก่อนจะเดินกลับโต๊ะไปด้วยความสงสัยแต่ผมก็ไม่ได้บอกทั้งสองคนว่าผมเจอพี่ชายของไอ้บุ๊ค
“แต๊ง!” รวยคว้าเบียร์ในมือของผมยกขึ้นกระดก “กูเกลียดฉิบหายไอ้รุ่นพี่เหี้ยๆ ต่อหน้าคนอื่นทำดีกับกู มาสอนมาแนะนำสุดท้ายแม่งก็ต้องการให้กูล้ม กูบอกแล้วถ้ากูล้มมึงก็ต้องล้ม สัด!” ผมกับไอ้บุ๊คมองหน้ากันอึ้งๆ เมื่ออยู่ๆ รวยอีกเวอร์ชันที่ผมไม่เคยเห็นก็ปรากฏอยู่ตรงหน้า
“มึงเครียดอะไร ไหนบอกกู” ไอ้บุ๊คขยับเข้าไปใกล้ๆ ก่อนจะโอบคอของมารวยและดึงเข้ามาใกล้ๆ ตัวมัน ยอมรับว่าไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่แต่พยายามจะเข้าใจก็แล้วกัน
“ไอ้เหี้ยคิม...ไอ้เหี้ยนี่มันไม่ชอบกู”
“แล้วอย่างไงต่อ” ผมนั่งฟังในสิ่งที่รวยพูดออกมา เขาบอกว่าคนเมามักจะไม่โกหกผมว่าผมพอจะเข้าใจก็วันนี้ สรุปใจความจากเรื่องที่รวยเล่าก็คือพี่คิม พี่ในทีมพูดกับรวยในช่วงเย็นประมาณว่าไม่ชอบรวยตั้งนานแล้ว อันนี้ผมก็พอจะรู้จากสายตาที่พี่คิมมองรวย แต่รวยเป็นคนที่มองโลกในแง่ดีเลยไม่สนใจสายตาหรือท่าทางของพี่คิมสักเท่าไหร่ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นเพราะเรื่องหลังจากนั้น
“กูว่าพี่คิมกับเฮียบิ๊กต้องมีอะไรปิดบังกูสักอย่าง”
“เกี่ยวอะไรกับเฮียกูวะ?”
“ก็กูฝันว่าเกี่ยว”
“ไอ้รวยเลอะเทอะแล้วมึง” ไอ้บุ๊คตบหัวรวยเบาๆ แต่สิ่งที่ผมเหลือบไปเห็นต่อจากนี้คือพี่คิม..เดินตรงไปหาพี่ชายของไอ้บุ๊คก่อนที่พี่ชายของไอ้บุ๊คจะลากพี่คิมออกไปด้านนอก
“ไอ้บุ๊ค นั่น” ผมชี้ไปด้านหลังทำให้ไอ้บุ๊คหันไปมองก่อนที่มันจะกลับมามองมารวยที่ตอนนี้ฟุบหน้าไปกับโต๊ะเป็นที่เรียบร้อย
“ไปกับกู” ไอ้บุ๊ครีบลุกขึ้นเดินตามหลังพี่ชายมันไปติดๆ ก่อนที่ผมจะรีบเดินตามไปด้วย จังหวะที่ไอ้บุ๊คจะโผล่หน้าออกไปผมรั้งคอเสื้อมันไว้ก่อน
“ทำไม? กูจะไปถามเฮียกูให้รู้เรื่อง”
“เชื่อกูว่าฟังตรงนี้ก่อน” ผมลากไอ้บุ๊คที่ใจร้อนมาหลบอยู่อีกฝั่งแต่สามารถได้ยินบทสนทนาของพี่ชายมันได้ ตอนนี้พี่คิมจุดบุหรี่สูบก่อนจะยื่นไปให้พี่ชายให้บุ๊คอีกตัว
“ไอ้คิมมึงตามกูมาทำไม” พี่ชายไอ้บุ๊คเป็นฝ่ายเปิดหลังจากที่รับบุหรี่ขึ้นมาสูบด้วยสีหน้าเครียดๆ “กูว่ากูบอกมึงไปชัดแล้วนะ”
“กูไม่ตกลงไง” พี่คิมตอบ
“มึงต้องการอะไร”
“ทำอย่างไงก็ได้ให้ไอ้เด็กนั่นเลิกเล่นฟุตบอล”
“.....!!!” ไม่ใช่แค่พี่ชายไอ้บุ๊คที่ตกใจผมกับไอ้บุ๊คเองก็ตกใจไม่แพ้กันที่พี่คิมพูดออกมาแบบนั้น ตอนนี้ผมเริ่มปะติดปะต่อกับสิ่งที่มารวยพูดออกมาก่อนหน้า
“แต่รวยรักฟุตบอล...”
“มึงเคยรั้งให้มันโดดซ้อมตั้งหลายครั้งแล้วไม่ใช่เหรอ..อย่ามาบอกว่าตอนนี้ทำไม่ได้” อย่าบอกว่าที่ผ่านมาพี่ชายไอ้บุ๊คเป็นต้นเหตุให้มารวยโดดซ้อม..ผมก็คิดไม่มีผิดเพราะปรกติรวยไม่ใช่คนแบบนี้
“ไอ้คิมแค่นี้กูก้รู้สึกผิดจะแย่แล้ว ถ้าให้กูทำแบบนั้นอีกกูทำไม่ได้จริงๆ”
“งั้นมึงก็เลิกกับมันซิ เลิกกับมันให้กูดูแล้วกูจะหยุดทุกอย่าง”
“แต่กูรักมารวย กูรักมารวยจริงๆ ไอ้คิม!” พี่ชายไอ้บุ๊คตะโกนใส่หน้าพี่คิมด้วยความเหลืออด แต่สิ่งที่ผมรับรู้ได้ตอนนี้คือไอ้บุ๊ค.. “กูรักมารวยคือเรื่องจริงได้ยินไหม!”
“เฮียกู..กับไอ้พี่คิมนั่นมันอย่างไงวะ” คือไม่บุ๊คยังไม่เข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“รอดู.....” ยังไม่ทันที่ผมพูดจบพี่คิมกลับยื่นหน้าเข้าไปจูบพี่ชายของมารวยทันทีโดยที่อีกฝ่ายไม่ทันได้ตั้งตัว แต่แล้วพี่คิมก็ถูกผลักกระเด็นออกมา
“เหี้ย......” ผมกับไอ้บุ๊คอุทานออกมาพร้อมกันทันทีที่เห็นแบบนั้น ด้วยความที่ผมมีสติมากกว่ารีบเอามือปิดปากไอ้บุ๊คเอาไว้ก่อนที่มันจะตะโกนออกไป
“ไอ้คิมเรื่องของกูกับมึงมันจบไปแล้ว! มึงมีแฟนกูก็มีแฟนแล้ว!!!” พี่ชายไอ้รวยกระชากคอเสื้อของพี่คิมแรงๆ ก่อนจะดันหลังพี่คิมไปติดกับกำแพง “เราสองคนไม่เคยรักกันมันแค่..สนุกตอนนั้น โอเคกูขอโทษที่กูมักง่ายแต่มันก็แค่ครั้งนั้นป่าววะ”
“ไอ้บิ๊กมึงเหี้ยเนอะ! ตอนมึงทะเลาะกับแตมมึงก็มาเอากับกู ขอร้องให้กูอยู่ด้วย..แต่พอมึงสนุกกับไอ้เด็กนั่นมึงทิ้งกูง่ายๆ อย่างนั้น?”
“มึงไม่ใช่เหรอที่แนะนำรวยให้กู”
“.....”
“กูเหี้ยเองไอ้คิม ให้มันจบแค่นี้เถอะกูขอร้อง จะทำอะไรก็มาลงที่กูอย่ายุ่งกับรวย” พี่ชายของไอ้บุ๊คกำลังจะเดินออกมาทางนี้ทำให้ผมรีบดึงไอ้บุ๊คให้หลบไปอีกทาง
พรึบ!
“ไอ้บิ๊ก...กูว่ากูรักมึง” ทุกอย่างมันซับซ้อนมากกว่าที่พวกผมคิด..เมื่ออยู่ๆ พี่คิมวิ่งมากอดเอวพี่ชายของไอ้บุ๊คเอาไว้ พี่คิม..ที่ผมไม่เคยคิดว่าพี่เขาจะเป็นแบบนี้เพราะภายนอกพี่คิมโคตรแมนแถมยังมีแฟนเป็นผู้หญิงที่โคตรสวยแล้วทำไมถึงมาอ้อนวอนพี่ชายของไอ้บุ๊คอย่างไร้ศักดิ์ศรีแบบนี้
“แต่กูไม่ได้รักมึง...” ผมว่าตอนนี้มีคนช็อคหนึ่งอัตราแล้วครับ ใครก็ได้ช่วยผมลากไอ้บุ๊คไปเก็บที งานนี้มีแตกแน่นอนผมรับประกัน
Book’ s talk
ถ้าถามว่าผมรักเฮียบิ๊กมากแค่ไหนผมตอบเลยว่ารักมาก แต่การที่ผมได้ยินและรับรู้ในเรื่องเมื่อสักครู่บอกได้คำเดียวว่าผิดหวัง ผมผิดหวังกับเฮียมากๆ ผมผิดหวังที่ผมไว้ใจและเคยยืนยันกับไอ้รวยว่าเฮียบิ๊กไม่มีทางหลอกมัน แต่แล้วคำพูดของผมมันก็เชื่อไม่ได้เพราะเฮียบิ๊กคนนี้ไม่ใช่เฮียที่ผมเคยรู้จัก เฮียบิ๊กเลวมากกว่าที่ผมคาดคิด ถ้าเฮียบิ๊กมาขอโทษบอกได้เลยว่าผมไม่ให้อภัยกับสิ่งที่ทำไว้กับเพื่อนผมอย่างแน่นอน ไอ้รวยมันเป็นคนดีเกินกว่าที่จะต้องมาเจอเรื่องเหี้ยๆ แบบนี้ ผมว่าผมเจอเรื่องที่เหี้ยแล้วแต่มันยังไม่ถึงครึ่งกับสิ่งที่ไอ้รวยเจอเลย
“มึงจะเอาไงไอ้บุ๊ค” ผมกลับมาที่โต๊ะพร้อมกับไอ้เซย์มองดูไอ้รวยที่ยังคงฟุบอยู่กับโต๊ะไม่รู้เรื่อง
“ไอ้เซย์ถ้าสมมติว่ามึงกับกูได้เป็นแฟนไอ้รวยจริงๆ อย่างที่เราหวัง มันคงไม่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้มึงว่าไหม?” และสิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกผิดคือผมควรแย่งไอ้รวยกลับมาไม่ควรปล่อยให้ไอ้รวยต้องเจอกับสิ่งที่เลวร้ายแบบนี้ ผมว่าผมเป็นเพื่อนที่เหี้ยแต่ผมคงเป็นแฟนหรือคนรักที่ดีของมันได้
“บุ๊ค..มึงอย่าทิ้งกูดิ เมื่อก่อนกูชอบรวยอันนี้จริง แต่ตอนนี้กูชอบมึง”
“ไม่ใช่เวลามาพูดความในใจไหมไอ้สัด เครียดอยู่” ผมทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้อย่างใช้ความคิดว่าควรจะทำอย่างไรต่อไปดี แต่อยู่ๆ โทรศัพท์ของไอ้รวยดังขึ้นก่อนจะเห็นว่าเป็นเฮียของผมเองที่โทรเข้ามา
“กูรับดีไหม?” ผมถามคนตรงหน้าเพื่อขอความคิดเห็น
“รับดิ ทำเหมือนมึงไม่รู้เรื่อง”
“โอเค” ผมสุดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะกดรับสายแทนไอ้รวย “ผมเองเฮีย ไอ้รวยเมาหลับไปแล้ว”
(ห้ะ?? เด็กบื้ออยู่กับตี๋เหรอ? อยู่ที่ไหนทำไมไม่บอกเฮีย) ผมกัดฟันเพื่อระงับอารมณ์ของตัวเองที่ตอนนี้อยากจะตะโกนด่าเฮีย..ไม่ซิผมอยากต่อยให้เลือดชั่วๆ ของเฮียไหลออกมาเพื่อลบล้างสิ่งที่ทำกับเพื่อนของผม
“อยู่ KJH เฮียจะมารับมันไหม”
(เอ่อ.. เดี๋ยวเฮียไปรับนะ ตี๋อยู่กับรวยก่อน)
“เฮียอยู่ไหน”
(เฮียอยู่...) ถ้าเฮียโกหกผม.. (เฮียอยู่หอ)
“ครับ” ขอโทษนะ..เฮียเลือกที่จะโกหกผมเอง ตอนนี้ผมก็ไม่สามารถช่วยอะไรเฮียได้ แต่สิ่งที่ผมช่วยได้คือพาไอ้รวยออกมาจากชีวิตเฮีย
“ไอ้บุ๊คใจเย็น นั่นพี่ชายมึง” ไอ้เซย์เลื่อนมือมากุมมือของผมเอาไว้เบาๆ พยายามเตือนสติและให้ผมระงับอารมณ์โกรธของตัวเองให้ได้ “กูรู้มึงโกรธแต่ถ้ามึงโกรธตอนนี้มันไม่ช่วยอะไรนอกจากมึงจะได้แค่ความสะใจ”
“....”
“มึงร้อน..กูจะเย็นให้มึงนะ” ก็บอกแล้วไงว่าอย่ามาทำซึ้งทำโรแมนติกแถวนี้ ไอ้ฉิบหายเอ้ย! กูจะร้อนมากกว่าเก่าก็เพราะมึงนี่แหละ แต่เอาเถอะครับแค่คำพูดกับมือที่สัมผัสกันเบาๆ มันทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นมาเล็กน้อย และรอเวลาให้เฮียบิ๊กมารับไอ้รวยกลับ ผมอยากดูหน้าคนตอแหลครับว่าเฮียผมมันจะตอแหลได้เนียนขนาดไหน
“เฮียทำอะไรผิดหรือเปล่า ทำไมตี๋มองหน้าเฮียแบบนั้น?” หลังจากที่เฮียบิ๊กแสร้างว่าอยู่หอกำลังมารับไอ้รวย พอมาถึงผมก็ไม่ได้พูดอะไรได้แต่มองเฮียนิ่งๆ ก็เท่านั้น “แล้วมึงมาได้ไง” เฮียชี้ไปที่ไอ้เซย์ที่นั่งอยู่ข้างๆ ผม
“พาไอ้รวยกลับไปก่อนเฮียอย่าพึ่งถามมาก” ผมพยายามคุมเสียงของตัวเองแล้ว แต่มันไม่ได้จริงๆ จนกระทั่งไอ้เซย์เอื้อมมือของมันมากุมมือของผมไว้ใต้โต๊ะแล้วเขี่ยเบาๆ ให้ผมใจเย็น
“อืม งั้นเฮียไปก่อนนะ” เฮียบิ๊กอุ้มไอ้รวยเดินออกไปแต่สายตาของเฮียยังมองมาที่ไอ้เซย์อย่างไม่ไว้ใจ
“เฮียมึงมองหน้ากูเหมือนอยากเข้ามาต่อยอะ ถ้ารู้ว่ากูกับมึง...”
“พอได้แล้วไหม แล้วก็ไม่ต้องมาจับมือกู” ผมสะบัดมือของมันออกก่อนจะยกเหล้าที่เหลือขึ้นมาดื่มให้เมา เผื่อมันจะได้ลืมความเครียดนี้บ้าง
แต่ใครจะไปรู้ว่าน้ำตาของคนที่แสร้งว่าไม่รู้เรื่อง ปล่อยให้ทุกคนคิดว่าเมากลับไหลออกมาอย่างไม่หยุดจนกระทั่ง....
“เฮียรักเราจริงๆ นะครับเด็กบื้อ”
ทันทีที่สัมผัสจากริมฝีปากประทับลงมาบนหน้าผากของเขาเบาๆ สมองสั่งการว่ายังไหว แต่ใจตอนนี้เต็มไปด้วยแผล..
#ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่หว่าเฮียบิ๊ก
#ส่วน เซย์บุ๊ค อาจจะมา...............( มั้ง)