ตอนพิเศษ ลมหนาว
แทนก็จำไม่ได้เหมือนกันว่าครั้งสุดท้ายที่เขาได้เที่ยวช่วงวันหยุดเทศกาลนั้นผ่านมานานเท่าไหร่แล้ว เพราะชีวิตส่วนใหญ่ก็อยู่แค่คอนโดกับบริษัท มีกิจกรรมยามว่างคือการอ่านหนังสือและออกกำลังภายในห้องฟิตเนสส่วนตัว เขาไม่ได้มีความคิดอยากจะไปท่องเที่ยวอย่างคนอื่น เนื่องจากไม่ชอบความวุ่นวายและรังเกียจที่จะไปยืนใกล้ชิดเบียดเสียดแบ่งลมหายใจกับผู้คนจำนวนมหาศาลในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม
แต่ปีใหม่ปีนี้แตกต่างจากปีก่อนๆ แทนนั้นไม่ได้อยู่ในห้องสี่เหลี่ยมคุ้นเคย ไม่ได้นั่งตากลมเย็นจากเครื่องปรับอากาศเช่นวันวาน ตอนนี้เขาอยู่ท่ามกลางต้นไม้น้อยใหญ่ ดอกไม้สีสวย และยืนรับลมหนาวจากจุดชมวิวในวนอุทยานแห่งหนึ่งทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กลิ่นชื้นของหมอกกับกลิ่นดินลอยมาตามสายลมพาให้รู้สึกสดชื่นอย่างบอกไม่ถูก
“กาแฟครับแทน” ระหว่างที่กำลังเหม่อมองทะเลหมอกข้างหน้าอยู่นั้น เสียงทุ้มนุ่มที่แทนชอบฟังก็เอ่ยเรียกให้ชายหนุ่มหลุดจากภวังค์
“ขอบใจ” แทนยื่นมือไปรับแก้วกาแฟมาถือไว้แล้วยกจิบพลางมองใบหน้าของครูซที่ขึ้นสีแดงตามแก้มกับจมูกจากความหนาวเย็นของอากาศ
“หนาวมากเหรอ” แทนถามออกไปด้วยความสงสัย เพราะเห็นครูซเอาสองมือถูกันไม่หยุด ทั้งที่อีกฝ่ายก็ใส่เสื้อมาไม่ต่ำกว่าสามชั้น แตกต่างจากเขาที่ใส่เพียงเสื้อคอเต่าแขนยาวสีขาวเพียงตัวเดียวกับผ้าพันคอสีน้ำตาลอ่อนที่อีกฝ่ายบังคับให้ใส่
“มากเลยครับ ขนาดใส่เสื้อมาหนาแล้วนะ” ครูซบ่นแล้วกระชับเสื้อกันหนาวให้แน่นขึ้นเพื่อกันลมที่พัดผ่านมาเป็นช่วงๆ
“มายืนด้านนี้”
“ครับ?” แม้จะไม่ค่อยเข้าใจแต่ครูซก็เดินไปข้างซ้ายของแทนตามคำสั่ง
หมับ
แขนซ้ายโอบไหล่ร่างโปร่งดึงให้ตัวแนบชิดกันจนแทบไม่มีช่องว่างระหว่างเขาสองคน ครูซหันไปมองด้วยรอยยิ้ม แต่แทนกลับทำหน้านิ่งยกแก้วกาแฟขึ้นจิบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“เอาตัวมาบังลมให้ผมแบบนี้ไม่หนาวเหรอ” เมื่อลมหนาวพัดมาอีกครั้งก็ทำให้ครูซเข้าใจในการกระทำของแทนขึ้นมาทันที
“ทนหนาวไม่ได้แล้วจะพามาทำไม” แทนไม่ตอบแต่ถามครูซกลับ
“แทนชอบนี่”
“...” แทนเบนสายตาจากวิวทิวทัศน์ข้างหน้ามามองครูซที่ยกมือสองข้างขึ้นมากุมข้อมือเขาบนไหล่ตัวเอง มือเรียวเย็นมากจนแทนต้องกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นเพื่อแบ่งความอุ่นในร่างกายตนให้อีกคน
“แล้วอีกอย่างความหนาวก็ไม่ได้แย่ ผมเองก็ชอบ” เพราะทุกครั้งเวลาคนหน้านิ่งเห็นเขาหนาว ก็มักจะทำอะไรที่คาดไม่ให้ถึงให้เห็นตลอด เป็นความห่วงใยที่แสดงออกมาได้อย่างน่ารักเสมอในสายตาครูซ ทั้งถอดเสื้อเปลี่ยนให้ ทั้งโอบกอดให้คลายหนาว แต่ละวิธีน่ารักทั้งนั้น
“หึ” แทนหัวเราะในลำคอเมื่อฟังเหตุผลของครูซจบ มืออีกข้างถือกาแฟจ่อปากครูซเป็นการบังคับให้ดื่ม ครูซอ้าปากดื่มอย่างว่าง่ายแม้จะไม่ชอบกาแฟดำเลยก็ตาม ความขมแผ่ซ่านไปทั่วทั้งโพรงปาก ครูซเบ้หน้าขึ้นมาทันทีเมื่อกลืนลงคอจนหมด
“มันช่วยให้อุ่น”
“ครับ” ครูซพยักหน้ารับ เข้าใจความหวังดีของแทน หลังจากพักจนหายเหนื่อยทั้งคู่ก็เดินทางต่อ วนอุทยานแห่งชาติที่ครูซเลือกมาในครั้งนี้ เป็นวนอุทยานที่เปิดรับคนเข้าจำกัด ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวไม่หนาแน่นเท่าที่อื่น มีความเป็นส่วนตัวและไม่วุ่นวาย ธรรมชาติของป่ายังคงมีความอุดมสมบูรณ์อยู่มาก สองฝั่งระหว่างทางเดินเท้ามีต้นไม้ ดอกไม้หน้าตาสวยงามและประหลาดมากมายที่คนในเมืองไม่สามารถเห็นได้ตามสวนประดับ แต่สิ่งที่ชายหนุ่มสองคนดูจะชอบที่สุดคงเป็นสัตว์ป่าที่ใช้ชีวิตตามธรรมชาติ นกนานาชนิดที่โผบินไปมาเหนือต้นไม้ใหญ่ กระรอกที่วิ่งกระโดดไปมาตามกิ่งไม้ หรือจะเป็นรอยเท้าสัตว์ ที่มีทั้งหมูป่าและกวางป่าตามคำบอกเล่าของเจ้าหน้าที่วนอุทยานซึ่งเป็นผู้นำทาง
ทั้งคู่เพลิดเพลินกับบรรยากาศรอบตัวจนในที่สุดก็มาถึงที่หมายโดยใช้เวลาทั้งหมดเกือบ 6 ชั่วโมง ตอนนี้เป็นเวลา 5 โมงเย็นพอดี ซึ่งบริเวณลานกว้างมีนักท่องเที่ยวหลายกลุ่มเริ่มจับจองพื้นที่กางเต็นท์นอนแล้ว แต่ครูซกับแทนนั้นจองบ้านพักรับรองเอาไว้จึงไม่ต้องกางเต็นท์นอนด้านนอก เพราะถึงจะชอบบรรยากาศธรรมชาติขนาดไหนแต่แทนไม่นึกชอบใจกับการไปใช้ชีวิตใกล้ชิดคนอีกเกือบร้อย ไหนจะห้องน้ำรวมที่ต้องยืนต่อแถวเข้า แทนไม่คิดว่าจะทำใจยอมรับเรื่องพวกนี้ได้แม้อาการป่วยทางจิตจะดีขึ้นมากแล้วก็ตาม
“หากพรุ่งนี้ต้องการคนนำทางอีก ไปติดต่อที่ศูนย์บริการได้ตลอดเวลาเลยนะครับ”
“ขอบคุณมากครับ”
“ไม่เป็นไรครับ ผมขอตัวก่อน”
เมื่อเจ้าหน้าที่เดินจากไป ครูซก็ไขกุญแจบ้านพักขนาดเล็กเข้าไปด้านในโดยมีแทนเดินตามหลังเข้ามา ภายในบ้านพักมีเพียงเตียงเดี่ยวสองเตียง ตู้เสื้อผ้าหนึ่งตู้ และเก้าอี้กับโต๊ะเล็ก ๆ ให้เท่านั้น ห้องน้ำก็ไม่ได้แยกส่วนระหว่างที่อาบน้ำกับชักโครก แทนมองด้วยความไม่คุ้นชินกับขนาดที่ค่อนข้างแคบ
“อาบน้ำเลยไหม” ครูซถามแทนที่ก้มหาของในกระเป๋า
“อื้ม”
“งั้นเข้าไปอาบเลยครับเดี๋ยวเก็บเสื้อผ้าให้” ครูซหยิบกระเป๋าอุปกรณ์อาบน้ำพร้อมผ้าเช็ดตัวให้แทน ร่างสูงรับมาแล้วเดินเข้าไปอาบน้ำทันที แม้จะอากาศหนาวแทบไม่มีเหงื่อแต่แทนก็อยากล้างสิ่งสกปรกที่ติดตัวมาตลอดทั้งวันออกอยู่ดี ใช้เวลาจัดการธุระส่วนตัวไม่นาน ชายหนุ่มก็พันผ้าเช็ดตัวไว้รอบเอวออกมาจากห้องน้ำ มือข้างซ้ายจับผ้าซับน้ำจากเส้นผม
“สระผมด้วยเหรอ” ครูซถามด้วยความเป็นห่วง เพราะถึงแทนจะชอบอากาศเย็นสักเท่าไหร่แต่สระผมในอุณหภูมิ 3 องศาก็น่าเป็นกังวลอยู่ไม่น้อย
“ไดร์อยู่ไหน” แทนพยักหน้ารับส่ง ๆ มองหาไดร์เป่าผม
“แต่งตัวก่อน” ครูซยื่นเสื้อสีดำแขนยาวกับกางเกงขายาวสีเทาให้แทนใส่ แล้วหยิบไดร์บนโต๊ะไปเสียบปลั๊กไฟ
“มานั่งนี่ครับเดี๋ยวเป่าให้” ครูซชี้ที่เก้าอี้ แทนก็เดินมานั่งไม่พูดอะไรปล่อยให้มือเรียวสางผมเปียกชื้นของตนเบาๆ ใช้เวลานานกว่าปกติพอสมควรกว่าผมสีนิลจะแห้งสนิทเพราะมีความชื้นในอากาศมาก
“เราไปหาอะไรทานกันเถอะจะหกโมงเย็นแล้ว” ครูซยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูแล้วดึงแขนแทนให้ลุกขึ้น ทั้งคู่เดินไปยังจุดร้านค้าที่มีอยู่ด้วยกันสี่ร้าน สองร้านแรกเป็นอาหารตามสั่ง อีกสองร้านเป็นร้านหมูกระทะ ครูซเลือกร้านสุดท้ายที่มีลูกค้าน้อยกว่าสามร้านแรกเพราะรู้จักนิสัยแทนดี ต่อให้อร่อยสักแค่ไหนแต่ถ้าให้ไปนั่งเบียดเสียดกับคนอื่น คนหน้านิ่งได้อารมณ์เสียแน่ ๆ
“สวัสดีค่ะ รับอะไรดีคะ” หญิงสาวรูปร่างผอมบางเดินเข้ามารับเมนูด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เธอสะดุดตาชายหนุ่มสองคนตั้งแต่เดินมาถึงจุดบริการที่พักแล้ว หน้าตาทั้งคู่ดูดีมาก โดดเด่นมีออร่าอย่างกะพวกดาราในทีวี
“เอาขนาดกลางครับ น้ำเปล่าสอง” ครูซก้มมองเมนูในมือแล้วสั่งคนเดียวเสร็จสรรพ ไม่ได้ถามคนตรงหน้าที่นั่งกอดอกมองเตาที่มีกระทะวางอยู่ด้านบน แทนไม่เคยเห็นจึงรู้สึกแปลกตากับการปิ้งย่างเนื้อบนเตาแล้วหยิบเข้าปากแบบนี้ ปกติเวลาเขาทำอาหารทุกอย่างจะผัดปรุงรสจนเสร็จแล้ววางจัดใส่จาน ไม่ได้ทำไปกินไปเหมือนที่โต๊ะอื่นกำลังทำ
“อะไร” เมื่อพนักงานสาวเดินจากไป แทนก็หันมาถามครูซด้วยความสงสัย
“ไม่เคยกินหมูกระทะเหรอครับ” ครูซเลิกคิ้วสูงเมื่อเห็นสีหน้าของแทน
“ไม่...แล้วข้าวอยู่ไหน” แทนถามต่อเมื่อทุกโต๊ะคีบหมูจากกระทะเสร็จก็เอาเข้าปากไม่ได้กินกับข้าวสวย เหมือนคนพวกนี้กำลังกินกับอย่างเดียว
“เขากินแต่หมูกับผักครับ” ครูซก็ไม่รู้จะอธิบายให้แทนฟังอย่างไรจึงตอบไปเท่าที่อีกฝ่ายถาม
“แล้วจะอิ่มเหรอ”
“ก็อิ่มอยู่นะ”
“อืม” แทนเป็นคนเข้าใจง่ายจึงไม่ได้ถามอะไรต่อ ครูซชวนแทนคุยเรื่องธรรมชาติเรื่องสัตว์ป่าที่เจอมาในวันนี้ ทั้งคู่พูดคุยกันด้วยความสนุกสนานแม้ส่วนใหญ่จะเป็นครูซที่พูดมากกว่า แต่แทนก็รับฟังแล้วชวนต่อหัวข้อสนทนาไม่ได้เงียบจนเกินไป ผ่านไปไม่นานเนื้อสัตว์กับผักนานาชนิดก็มาเสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มสุกี้ แทนทำไม่เป็นจึงนั่งมองครูซที่อาสาทำให้ดูก่อน เนื้อหมูถูกวางลงบนเตาย่าง ส่วนผักก็ใส่ตรงร่องที่มีน้ำซุปน้อย ๆ รอบเตา เมื่อพลิกเนื้อหมูทั้งสองข้างจนสุกหมด ครูซก็คีบเนื้อจุ่มน้ำจิ้มสุกี้แล้วยื่นไปป้อนแทนที่นั่งมองวิธีการทำอย่างตั้งใจ แทนอ้าปากรับค่อย ๆ เคี้ยวละเมียดละไมรสชาติของเนื้อหมูกับน้ำจิ้ม
“อร่อยไหม” ครูซยกยิ้มเมื่อเห็นสีหน้าพึงพอใจของแทน
“ก็ดี” แทนพยักหน้าแล้วลงมือทำกินเองบ้าง ทั้งคู่ผลัดกันคีบให้ แทนป้อนบ้างครูซป้อนบ้างตามความเคยชิน โดยไม่ได้คิดสนใจกับสายตาคนรอบข้างที่จับจ้องมาที่พวกเขาเลยแม้แต่น้อย
“อันนั้นเขาไม่นิยมกินกันครับ” ครูซเอ่ยขัดขึ้นมาเมื่อเห็นแทนกำลังจะคีบมันหมู
“ทำไม” ถ้ามันกินไม่ได้จะใส่มาทำไมให้เปลืองพื้นที่ แทนนึกสงสัย
“มันหมูเอาไว้ทาไม่ให้เนื้อติดกระทะเฉย ๆ” ร่างสูงทำหน้ายุ่งยากใจก่อนเปลี่ยนปลายตะเกียบไปคีบเนื้อไก่มาจุ่มน้ำจิ้มสุกี้แล้วเอาเข้าปากแทน
หลังจากทั้งคู่ทานเสร็จก็จ่ายเงินตามปกติ แต่ก่อนจะกลับหญิงสาวเจ้าของร้านก็เอ่ยขอถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก ซึ่งตอนแรกครูซจะบอกปฏิเสธเหมือนทุกครั้งแต่น่าแปลกที่แทนกลับเป็นคนพูดอนุญาตเสียเอง ชายหนุ่มสองคนจึงถ่ายรูปกับหญิงสาวตรงป้ายชื่อร้านก่อนเดินกลับที่พัก
“ทำไมถึงยอมล่ะครับ”
“ก็เขาบอกที่ระลึก...ถ้าวันไหนกลับมาที่นี่อีกครั้งผมจะได้ระลึกถึงครั้งแรกที่เรามาด้วยกัน...ระลึกว่าผมมีความสุขแค่ไหนที่ได้มากับครูซ” ถ้าร้านนั้นยังไม่ปิดไป รูปของเขากับครูซก็คงยังติดอยู่บนฝาผนังร้าน มันคงรู้สึกดีไม่น้อยถ้าได้มาเห็นอีกครั้ง
“แทนฟ้า ผมยอมแพ้” ครูซใช้มือสองข้างปิดหน้าตัวเองเมื่อรู้สึกได้ถึงความร้อนที่สูบฉีดไปทั่วร่างกาย เวลาแทนพูดมากขึ้นมาเมื่อใดมักทำเอาเขาตั้งรับไม่ทันทุกที ความคิดที่แสนน่ารักแบบนี้...ครูซพ่ายแพ้อย่างหมดรูป
เขาเขินจริง ๆ นะให้ตายเถอะ
“เด็กน้อย” แทนยิ้มใช้มือขยี้หัวครูซด้วยความเอ็นดูแล้วใช้แขนกอดคอครูซพาเดินกลับไปยังบ้านพัก
“ผมอาบน้ำก่อนนะ” ครูซถอดเสื้อออก พับเก็บใส่ถุงผ้าที่เอาไว้แยกชุดที่ใส่แล้ว ความหนาวเย็นที่ปะทะเข้ากับผิวกาย ทำให้หนุ่มลูกครึ่งห่อไหล่ ขนลุกชันไปทั่วตัว
“อาบด้วย” แทนถอดเสื้อถอดกางเกงออกจนเหลือเพียงชั้นในสีดำเพียงตัวเดียว
“เพิ่งอาบก่อนไปเองยังไม่สกปรกหรอกครับ” ครูซหยิบผ้าเช็ดตัวไปคลุมตัวให้แทนเพราะกลัวอีกฝ่ายจะหนาว
“ไม่ชอบกลิ่น” แทนทำจมูกฟุดฟิดดมกลิ่นของควันหมูกระทะตามแขนตัวเอง
“งั้นไม่ต้องสระผมนะเดี๋ยวไม่สบาย”
“...อืม” ถึงจะไม่เห็นด้วยแต่เมื่อถูกดวงตาสีน้ำตาลอ่อนจ้องมองมาด้วยความเป็นห่วง แทนก็ปฏิเสธไม่ลง ชายหนุ่มสองคนเข้าไปอาบน้ำด้วยกันตามปกติ ไม่ได้มีความขัดเขินอยู่เลยแม้แต่น้อย ต่างคนต่างอาบ จะมีแค่หยิบยื่นสบู่ให้กันก็เท่านั้น ถึงน้ำจะอุ่นแต่ครูซก็รู้สึกหนาวอยู่ดีจึงรีบอาบน้ำสระผมด้วยความรวดเร็วโดยไม่ลืมเร่งแทนที่มัวแต่ขัดถูตัวใต้ฝักบัวให้รีบออกมาด้วย เมื่อแต่งตัวเป่าผมเสร็จก็พากันไปยืนดูดาวตรงชานระเบียงบ้านที่มีเก้าอี้ไม้เล็กสองตัว บรรยากาศรอบด้านมืดสงบ ได้ยินเสียงแมลงร้องดังตลอดเวลา ลมพัดมาให้รู้สึกเหน็บหนาวเป็นพัก ๆ แต่ท้องฟ้าที่สวยเกินคำบรรยายทำให้ทั้งสองคนยอมทนนั่งมองด้วยความชื่นชม
“ตอนเด็ก ๆ ผมชอบนั่งมองดาวอยู่นอกระเบียงบ้าน เมื่อก่อนอยู่ต่างจังหวัดเวลากลางคืนเลยเห็นดาวชัดมาก ดาวจะกระจายเป็นจุดเหมือนกากเพชรเลย”
“อืม” แทนตอบรับเบา ๆ ในลำคอกับคำบอกเล่าของครูซ
“แทนชอบหรือเปล่า” ครูซที่เงยหน้ามองท้องฟ้าอยู่หันมาถามแทนที่นั่งข้างกัน
“เกลียด...แต่ตอนนี้ก็ไม่ได้แย่อะไร” แทนไม่ชอบท้องฟ้าตอนกลางคืน ไม่ชอบทะเล เพราะมันทำให้เขานึกถึงเรื่องที่ถูกน้าสาวลักพาตัวไปตอนเด็ก บ้านไม้คับแคบสภาพทรุดโทรม เพดานที่พังจนเป็นรูขนาดใหญ่ เขานอนดูมันทุกคืนพร้อมกับการถูกทรมาน อาจจะเป็นความคิดแบบเด็กๆ แต่ตอนนั้นเขาเฝ้าภาวนาขอพรจากดวงจันทร์กับดวงดาวให้มีใครสักคนมาช่วยฉุดเขาให้หลุดพ้นจากสภาพนั้นสักที แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มี มันเลยกลายเป็นความฝังใจที่ทำให้เขาเกลียด...เกลียดเพราะทำให้ผิดหวัง
“แต่ไม่เกลียดแล้วเพราะดูกับผมใช่ไหม” ครูซไม่อยากทำให้แทนรู้สึกแย่จึงพยายามพูดหยอกล้อเมื่อรับรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังจมดิ่งไปกับความคิดของตัวเอง
“ใช่เพราะดูกับครูซ ผมเลยชอบ” แทนยิ้มให้ครูซบาง ๆ แม้ครูซจะถามเพื่อเบี่ยงเบนประเด็นแต่แทนนั้นตอบออกไปตามความรู้สึกที่แท้จริงของตน
สำหรับเขาครูซเป็นข้อยกเว้น
ข้อยกเว้นสำหรับทุกอย่างที่เขาเคยเกลียด
“ใจเต้นเลย” ครูซจับมือแทนสอดเข้าไปในเสื้อตัวเอง วางไว้บนอกซ้ายที่หัวใจเต้นรัวจนสัมผัสได้
“หึ” แทนแสยะยิ้มก่อนแกล้งสะกิดตุ่มไตเล็กข้างในจนยอดอกแข็งชูชันสู้มือ ครูซสะดุ้งเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้พูดห้ามนั่งนิ่งเฉยให้นิ้วมือแทนบีบคลึงไปทั่วตัว
“ครูซ” แทนดึงให้ครูซลุกขึ้นยืนอยู่ระหว่างขาตน กดจูบหน้าท้องผ่านเสื้อหลายชั้นที่อีกฝ่ายใส่อยู่แล้วช้อนตามองครูซที่ยกยิ้มเจ้าเล่ห์มองตอบกลับมา
“ครับ”
“ตั้งใจยั่วใช่ไหม”
“ฮ่าๆ รู้ทันด้วยเหรอครับ” ครูซหลุดหัวเราะออกมาจนตาปิด มือเรียวลูบแก้มแทนเป็นการปลอบโยนที่แกล้งกระตุ้นอารมณ์อีกฝ่ายเล่น
“ฮึ่ม! อย่าคิดว่าผมไม่กล้าทำ”
“ผมรู้ว่าแทนกล้า...แต่มันหนาวนะครับ ผมไม่อยากถอดเสื้อ”
“ก็ไม่ต้องถอด”
“พรุ่งนี้ต้องเดินลงเขาอีก ลำบากแย่เลย...เอาเป็นตรงนี้ได้ไหมครับ” ครูซจับมือแทนขึ้นมาจ่อที่ปากแล้วแลบลิ้นเลียจนนิ้วมือเปียกชุ่ม แทนมองภาพตรงหน้าด้วยความหลงใหล
“ครูซ...คุณมันร้าย”
“ร้ายแค่กับแทนฟ้าคนเดียว” ครูซก้มไปกระซิบข้างหูแทน แหย่ลิ้นเข้าไปโลมเลียภายในหูจนแทนตัวอ่อนหอบหายใจแรงเมื่อถูกจู่โจมจุดอ่อนไหวง่าย
จุ๊บ
“เข้าข้างในเถอะครับ” แทนเดินตามแรงดึงของครูซเข้าไปภายในห้องอย่างว่าง่าย ทันทีที่ร่างสูงนั่งลงตรงปลายเตียง ครูซก็คุกเข่าลงระหว่างขาแทนทันที มือเรียวลูบแก่นกายที่ตื่นตัวผ่านกางเกงนอนแล้วใช้มือล้วงเข้าไปควักท่อนเนื้อร้อนออกมาข้างนอก แทนกัดปากแน่นมองครูซใช้ฟันขบกัดเบา ๆ ตามความยาวก่อนใช้ลิ้นนุ่มแตะลงปลายยอดมน แทนสะดุ้งหลุดครางออกมาด้วยความเสียวซ่าน
“อ้า! ครูซ” ครูซช้อนตาขึ้นมามองใบหน้าของแทนที่แดงก่ำ ดวงตาสีนิลคลอไปด้วยน้ำตา ครูซอ้าปากครอบแท่งร้อนลงไปจนสุดคอก่อนขยับเข้าออกเป็นจังหวะ แม้จะพยายามเอาเข้าไปให้ลึกที่สุดก็ได้แค่เพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น ครูซจึงใช้ทั้งมือและปากช่วยปรนเปรอความต้องการให้แทน
“อืม...อะ อ้า!” โพรงปากครูซทั้งร้อนทั้งนุ่ม ความเสียวสะท้านที่ได้รับทำให้แทนระบายออกด้วยการจิกผมนิ่มของครูซเต็มแรง น้ำตาที่คลออยู่ไหลออกมาเป็นทางยาวอย่างห้ามไม่ได้ รู้สึกดีจนตัวงอ ยิ่งยามที่ลิ้นนิ่มตวัดเลียที่ปลายมนยิ่งทำให้เขาเสียวจนตัวสั่น
“ครูซ...ครูซ” แทนมองกลีบปากบางที่มักแดงช้ำทุกครั้งเวลารับท่อนร้อนของเขาเข้าไปภายใน ร่างโปร่งทำไปสักพักจนปากแตกแทนจึงจิกผมให้อีกฝ่ายหยุดกลืนกินท่อนเอ็นร้อน แม้จะชอบความอุ่นนุ่มมากมายขนาดไหนแต่รู้ดีว่าตัวเองเป็นคนเสร็จยาก แทนจึงกระชากผมนิ่มให้เงยหน้ามารับจูบดูดดื่มรสชาติของเลือดที่ไหลตามริมฝีปากแล้วดึงให้ครูซลุกขึ้นมานั่งคร่อมตักเขาไว้ มือขาวล้วงเข้าไปภายในกางเกงนอนดึงแกนกลางของครูซมาแล้วจับรวบไว้กับท่อนร้อนของตน
“อืม~ แทนเจ็บ” ครูซสะบัดหน้าหนีจูบแสนป่าเถื่อนของแทนที่ทำเอาเลือดไหลกบปาก แม้จะชอบยามอีกฝ่ายขบกัดแต่อากาศที่หนาวเย็นทำให้เขารู้สึกเจ็บตามร่างกายง่ายกว่าปกติ
“หันมา! อย่าทำให้ทนไม่ไหว” แทนกัดฟันพูดอย่างอดกลั้น เขาไม่ได้ไม่ชอบการขัดขืน เขาชอบท่าทางแบบนั้นมากต่างหากถึงบอกให้ครูซหยุดทำ ไม่อย่างนั้นเรื่องมันไม่จบลงแค่ที่ปากกับมือแน่ ๆ
“อือ!” ครูซหันกลับไปประกบจูบกับแทนอย่างเชื่อฟัง มือเรียวข้างหนึ่งกอดรอบคอแทนไว้เพื่อพยุงตัวส่วนอีกข้างช่วยชักรูดแกนกลางทั้งสอง เสียงจูบและเสียงขยับเสียดสีดังก้องไปทั่วทั้งห้อง จนอารมณ์ใกล้มาถึงช่วงจุดแตกหัก
“อ้า...ครูซ...เร็วหน่อย” แทนครางบอกเสียงสั่น ครูซจึงเอามือทั้งสองข้างชักรูดท่อนเนื้อเข้าด้วยกันสาวขึ้นสุดลงสุดโคนด้วยความเร็ว แทนจิกผมครูซให้ก้มลงมาประกบปากจูบแลกลิ้นกันอย่างดุเดือด กลิ่นคาวเลือดกลิ่นเหงื่อ กระตุ้นให้ทั้งคู่ทนไม่ไหวกระตุกตัวปลดปล่อยออกมาพร้อมกัน น้ำคาวขุ่นเลอะเปรอะเปื้อนเสื้อผ้าจนเปียกชุ่มไปหมด
สงสัยคงได้ลุกไปอาบน้ำอีกรอบ
ครูซมองร่องรอยแล้วถอนหายใจทิ้งตัวใส่แทนอย่างหมดแรง ร่างสูงยกยิ้มแล้วโอบรอบเอวกอดอีกฝ่ายไว้แน่น
“กลับไปไม่จบแค่มือกับปากแน่” แทนพูดจบก็ฟัดแก้มครูซอย่างนึกหมั่นเขี้ยว
“ตามใจแทนเลย” ครูซตอบยิ้ม ๆ ซบหน้ากับซอกคออุ่นอย่างเอาใจ วันนี้นอกจากความสุขที่เขาได้มาเที่ยวต่างจังหวัดกับแทนเป็นครั้งแรกโดยไม่มีเรื่องงานมาเกี่ยวข้องแล้วยังทำให้ครูซเข้าใจบางอย่างเพิ่มมาอีกข้อหนึ่งด้วย
ถ้ารู้สึกหนาวอีกเมื่อไหร่
เขามีวิธีที่ทำให้อุ่นขึ้นมาแล้วล่ะ
Fin
*ขอบคุณทุกความคิดเห็นนะคะ อ่านแล้วชื่นใจมากเลย