รักรสแซ่บกับภรรยาสุดแสบ : by katesnk
“ว้าก !!!!....”
ผมร้องลั่น ราวกับควายถูกเชือด เมื่อมองบัตรนักเรียนในมือ ซึ่งผมเจอมันหล่นออกมาจากกระเป๋าสตางค์ตรงหัวเตียง ของคนที่ยังนอนนิ่งอยู่บนเตียงนอนนุ่มของผม เสียงร้องที่ดังก้องจนห้องแทบสะเทือนปลุกให้ร่างเพรียวบาง ผิวขาวนวลลุกขึ้นมาอย่างงัวเงีย พอเขาเห็นร่างเปลือยของผมที่ยืนจังก้าอยู่กลางห้องถนัดตา ก็ถลาลงจากเตียงแล้วแหกปากสวนออกมา
“เฮ้ย อ้ายบ้า อ้ายฝรั่งแก่ลามก แกเป็นใครวะ ออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้นะ”
ผมรีบตะครุบตัวคนที่ร้องโวยวาย ดึงมากอดไว้ในวงแขน และเอามือแข็งแรงปิดปากเขาไว้
“ใจเย็นๆไว้ไอ้หนู แหกปากอยู่ได้ ดูดีๆเสียก่อน นี่มันห้องฉันนะ ใช่บ้านเธอเสียที่ไหน แล้วอีกอย่าง ฉันก็อายุ แค่30 เอง ยังไม่ถึงขั้นแก่ ถึงฉันไม่ได้หล่อมากมายเหมือนดาราหนัง แต่หน้าตาก็ไม่แย่จนทรยศอายุไปไกลขนาดนั้นหรอก เรามานั่งคุยกันอย่างสงบดีกว่า”
เด็กนั่นจ้องตาผมเขม็ง คงทั้งแปลกใจที่เห็นฝรั่งอย่างผมพูดไทยได้ปร๋อ และคงตกใจไม่แพ้ผมที่ต้องตื่นมาในสภาพที่เปลือยเปล่า โดยมีคนแปลกหน้าอยู่ในห้องด้วย ในสภาพที่เดาออกได้เลยว่าเมื่อคืนเราสองคนได้มีกิจกรรมเข้าจังหวะทำร่วมกันอย่างลึกซึ้งแค่ไหน
“อูย”
คนร่างบาง ร้องอุทานออกมาอย่างเจ็บปวด เมื่อนั่งลงไปบนเตียง เขากระโดดโหยง มองผมอย่างงุนงง ผมมองหน้าเขา แล้วตวัดสายตากลับไปที่เตียงอย่างรวดเร็ว มีเลือดแห้งๆเปรอะเปื้อนอยู่บนผ้าปูเตียงสีขาวนั่น คราวนี้ผมร้องขึ้นมาบ้าง ตาเหลือกค้างหนักกว่าเก่า สำนึกได้ว่า ผมได้ยุ่งเกี่ยวกับเด็กบริสุทธิ์เข้าไปเสียแล้ว มิน่าเจ้าเด็กนั่นถึงกับนั่งไม่ได้เอาเลย
“เฮ้ย ไมค์ เด็กที่พามาให้ฉันเมื่อคืนนี้ แกพามาจากไหนวะ”
ผมกรอกเสียงขุ่นลงไปในโทรศัพท์ ขณะถามเจ้าไมค์เพื่อนตัวดี ที่ส่งเด็กชายอายุ 15 ปีมาเป็นของขวัญวันเกิดให้ผม คนที่ผมเข้าใจผิดคิดว่าเขาบรรลุนิติภาวะแล้ว คนเอเชียนี่ดูยากจริงๆ เด็กนั่นอายุนิดเดียว แต่ตัวสูงพอสมควร เพียงแต่รูปร่างเท่านั้นที่ดูบอบบางอ้อนแอ้นเหมือนผู้หญิง ด้วยความที่ผมเมาแล้วก็เริ่มจะหื่นกามแล้วเลยทำให้ไม่ทันสังเกตคนที่ตัวเองปล้ำอยู่เมื่อคืนนี้
“ข้างสวนลุม เห็นนั่งอยู่คนเดียว ท่าทางเมาๆ สงสัยเป็นพวกเด็กขายว่ะ ฉันก็เลยลากขึ้นรถมา แล้วเจ้าเด็กนั่นก็ไม่เห็นพูดอะไร เอาแต่งัวเงีย เหมือนจะหลับท่าเดียว แล้วเป็นไง เปิบพิศดารรอบดึก เด็ดดวงไหมเล่า”
เพื่อนผมตอบกลับมา ท้ายประโยคทำเสียงหยอกเย้า แต่ผมไม่มีอารมณ์ไปกับมันด้วย
“ดีกับผีอะไรเล่า รู้หรือเปล่าวะ ว่าแกจะทำให้เราสองคนติดตาราง ข้อหาทำอนาจาร และพรากผู้เยาว์ 2 คดีเชียวนะโว้ย เด็กนั่นน่ะ อายุ แค่ 15 กำลังเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนเดียวกับที่ฉันจะไปสอนภาษาอังกฤษเดือนหน้านี้ด้วย ซวยจริงๆ ดันล่อว่าที่นักเรียนของตัวเองเข้าไปแล้ว”
“อ๊ะ เป็นยังงั้นได้ไงวะเจฟ โหย ฉันไม่ได้ตั้งใจทำให้นายเดือดร้อนนะ แค่อยากให้นายมีความสุขในวันเกิด แล้วเมืองไทย ก็ได้ชื่อว่ามีเด็กขายน่ากินเยอะ พอไปเจอเด็กนี่เข้า ฉันก็เข้าใจว่าเป็นพวกอย่างว่า เลยพามาหานายไง แล้วตอนนี้เด็กนั่นอยู่ไหนล่ะ กลับไปแล้วเหรอ”
ไมค์ขอโทษขอโพยผม คงไม่ได้ตั้งใจจริงๆ คืนนั้นมันกับผมเมาด้วยกันทั้งคู่ คงจะตาลายกันบ้างล่ะ
“กลับอะไรล่ะ นี่ยังนอนซมอยู่ในบ้านฉันอยู่เลย เป็นไข้ตัวร้อนจี๋ ลุกไม่ขึ้น เมื่อคืนนี้ฉันเผลอทำรุนแรงกับเขามากไปหน่อย เพราะเชื่อแกนั่นแหละ ไอ้เพื่อนตาถั่ว นึกว่าเด็กขาย เลยอัดเสียไม่ยั้งเลย ถ้าฉันติดคุก ก็อย่าลืมไปเยี่ยมฉันแล้วกัน หาข้าวหาน้ำ ที่ฉันชอบ มาให้กินด้วยนะ”
ผมแว้กใส่มัน ก่อนจะวางสายลง แล้วล้มตัวลงนอนบนเตียง ข้างๆ ร่างบอบบางที่นอนครางหนาวสั่นอยู่ใต้ผ้าห่ม
“นี่ตาลุงฝรั่ง........”
หนอยเจ้าเด็กแสบ พอฟื้นไข้ หน้าตาสดใส เพราะผมคอยดูแลป้อนยาป้อนข้าวให้ ก็เนรคุณด้วยการเรียกผมอย่างนี้เชียว นี่หาว่าผมแก่หรือไง รู้ไหมเนี่ยว่ามันเป็นปมด้อย ฝรั่งอย่างผมอิจฉาคนเอเชียก็ตรงที่ตัวเล็กแล้วก็ดูแก่ช้า ไม่เหมือนคนทางแถบบ้านผม ซึ่งดูหน้าตาจะไปไวกว่าอายุเหลือเกิน
“บอกแล้วไง ว่าอย่าเรียกลุง ฉันอายุน้อยกว่าพ่อแม่เธอเสียอีก ชื่อฉันก็มี ออกเสียงได้ไหม พ่อนักเรียน”
“ก็ได้ ....เจฟ ....เจฟ ....เจฟ .....พอใจไหม”
คนตรงหน้าทำปากยื่น เรียกชื่อผมหลายครั้ง อย่างประชดประชัน
“อื้อดี สำเนียงใช้ได้ เอ้ามีอะไรก็ว่ามา”
“แม่บอกว่า คุณได้ผมแล้ว ต้องรับผิดชอบด้วยการแต่งงานกับผม ไม่อย่างนั้นจะแจ้งความดำเนินคดี”
“หา อะไรนะ”
ผมอุทานเสียงหลง รู้สึกเหมือนถูกก้อนหินตกใส่หัวอย่างไม่ยั้ง จนมึนแล้วมึนอีก หน้าอ่อนเยาว์นั้นเกลื่อนไปด้วยรอยยิ้ม เขากำลังนั่งอยู่บนโต๊ะอาหารในห้องผม และแกว่งเท้าไปมา ตั้งแต่วันที่ไมค์พาเขามาที่บ้านของผม เจ้าเด็กนี่ก็ยังไม่ได้กลับบ้านเลย เพราะดันมาป่วยเสียก่อน แล้วนี่ก็เพิ่งหายได้ไม่กี่วันเอง
“มีที่ไหนกัน ที่พ่อแม่ จะยินยอมให้ลูกชายของตัวเองแต่งงานกับผู้ชายด้วยกัน อย่ามาอำเลยไม่สำเร็จหรอก บอกว่าหมาออกลูกเป็นช้าง ฉันยังจะเชื่อมากกว่า”
ผมแค่นยิ้ม พยายามจะคิดว่านี่คือเรื่องตลก ที่เจ้าเด็กนี่กุขึ้นมาเพื่อแกล้งให้ผมตกใจเล่น แก้แค้นที่ผมบังอาจไปผลาญพร่าพรหมจรรย์ของเขา
“พ่อแม่ผมไง เขารู้ตั้งแต่ผมเป็นเด็กแล้ว ว่าผมเป็นเกย์ แล้วเขาสองคนก็รับได้ ที่จริงแล้วเขาหาคนที่จะมาดูแลผมไว้แล้วด้วย เป็นลูกบุญธรรมของพ่อแม่ เราถูกเลี้ยงดูมาด้วยกัน เขาเป็นเกย์ แล้วผมก็เป็นเกย์ เขารักผม แล้วผมก็รักเขา แต่แม่บอกว่า ผมเสียตัวให้กับคุณไปแล้ว ก็ควรจะมีแค่ชายเดียวเท่านั้น มีหลายคนไม่ดี จะถูกหาว่าสำส่อน มั่วไม่เลือก”
โอ๊ยจะบ้าตาย เกิดมาเพิ่งเคยได้ยินนี่แหละ ว่ามีพ่อแม่แบบนี้อยู่ในโลกด้วย ดีใจแทนเจ้าเด็กนี่ ที่มีพ่อแม่ที่เข้าใจ แถมเป็นธุระเรื่องคู่ครองให้เสร็จ แต่ทำไมต้องเป็นผมด้วย ผมไม่ได้ตั้งใจเสียหน่อย แค่อยากมีเซ็กส์ชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น ไม่อยากผูกมัดลงเอยด้วยการแต่งงานกับใครนี่นา
“ตกลงหรือเปล่า ถ้าไม่ตกลงผมจะได้โทรไปบอกพ่อกับแม่ ท่านรอฟังคำตอบอยู่ในรถที่จอดอยู่หน้าบ้านคุณตอนนี้ ถ้าคุณตกลงท่านสองคนจะเข้ามาหาคุณในบ้าน แต่ถ้าไม่ตกลง ท่านก็จะเรียกตำรวจมาจัดการกับคุณ รับรองคุณหมดอนาคตแน่”
ทำเป็นขู่เสียอีก เด็กน้อยนี่ ไม่ธรรมดาเสียแล้ว
“ว่าไง มัวแต่คิดช้าอยู่นั่นแหละ คนแก่ก็งี้ งุ่มง่าม ไม่ทันโลก คิดช้า เดี๋ยวเจอคุกหรอก”
ดูพูดเข้าสิ เกินเด็กไปหน่อยมั๊ง อะไรก๊านนนนนนนน........นี่ผมถูกมัดมือชกหรือเปล่าเนี่ย อยู่ดีๆทำไมพ่อแม่เจ้าเด็กบ้านี่ถึงมาอยู่ที่หน้าบ้านผมได้ เขาแอบโทรไปหาพ่อแม่ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย สงสัยเมื่อวานตอนที่ฟื้นขึ้นมาแน่ๆ คงจะเล่าอะไรให้ฟังไปเยอะแยะ พ่อแม่เลยยกกันมาจะถล่มผม แล้วอย่างนี้ ผมจะปฏิเสธได้ไง ระหว่างติดคุกในประเทศไทย กับแต่งงานกับเด็กแสบนี่ ผมเลือกอย่างหลังดีกว่า
_________________