“..............................”
รูปของมีนเป็นรูปที่พี่บุ้งกับมีนยิ้มให้กันและหอมแก้มแบบหยอกล้อกันดูน่ารัก
“.............................”
รูปของเฮียและพี่วิเชียร เป็นรูปที่เฮียหอมแก้มพี่วิเชียร ซึ่งคงเป็นรูปที่หาดูได้ยาก และถ้าหากใครอยากได้ข่าวใหญ่ก็ควรมาปล้นโทรศัพท์พี่วิเชียรไปซะ เพราะว่าไม่เคยมีใครได้เห็นคุณวิษณุ ผู้กว้างขวางแห่งภาคตะวันออก มีกิริยาท่าทางแบบเป็นกันเองและสบาย ๆ ได้ถึงขนาดนี้
“....ของผมไม่มีหรอก พีทหลับจนถึงเช้า” หัวหน้าแผนกขาย พูดออกไปด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ของผมหนักกว่า ไอ้พี่แก๊ปหาว่าผมบ้าถ่ายรูป เท่านั้นยังไม่พอ มันยังหาว่าผมจะถ่ายรูปประชดมันด้วย”
น้องพู่ ผู้ที่ไม่เคยได้อะไรอย่างใจ ต่างฝ่ายต่างบ่น บางคนสมหวัง แต่บางคนผิดหวัง และยูกิที่เดินยิ้มร่ามาหาพวกพี่ ๆ ก็มีของฝากชิ้นใหม่มาให้ดู
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า พี่ พี่ดูพี่บาสดิ หน้าตาโคตรฮาอ่ะ แม่งขำว่ะ ดู ดู โคตรจี้เลยว่ะ”
ยูกิไม่เคยรู้ถึงปัญหาหนักใจของสมาคมแม่บ้านแผนกขนส่งที่กำลังเกิดเรื่องระส่ำระสายภายในครอบครัว
มาถึงก็เปิดโทรศัพท์ให้ดู รูปถ่ายรูปใหม่ที่เพิ่งอัพเดทมาสด ๆ ร้อน ๆ
..............สุรชาติกับสิบแอ็คชั่นไม่ซ้ำกัน.............. ทั้งชูสองนิ้ว ทั้งแลบลิ้น ทั้งทำหน้าแบ๊ว ทั้งทำหน้าโหด
หน้าเฉย และอีกสารพัดหน้า................
“มีน เอารูปพี่บุ้งมาดูบ้างดิ๊ จะดูว่าหน้าใครฮากว่ากัน ระหว่างพี่บุ้งกับพี่บาส”
ง่า........... เอิ่ม......... ของแบบนั้นจะไปมีได้ยังไง...........
“เอ่อ....เดี๋ยวลองค้น ๆ ดูก่อนนะ” ลองค้นไม่ใช่ว่าจะค้นเจอ แต่เป็นการค้นที่ไม่รู้ว่าค้นดูอะไร
“พี่วิเชียรก็ได้ เอาหน้าเฮียแบบเวอร์ชั่นตลก ๆ มาดูหน่อยดิพี่ มีของฮา ๆ แล้วไม่แบ่งกัน”
ไอ้.............ยูกิ มึงคิดว่ารูปกูกับเฮียถ่ายแก้มแนบแก้ม มันได้มาง่าย ๆ หรือไงวะ แล้วมึงจะเอารูปตอนเฮียทำหน้าตลกเนี่ยนะ..............มึงงงงงงงงงงงงงงงงงง
“เอ่อ พี่มีงานว่ะ เดี๋ยวต้องไปขึ้นรถก่อน เดี๋ยวจะไปแล้ว”
วิเชียรไร้ซึ่งข้อแก้ตัว แต่หาข้ออ้างชิ่งหนี และก็เหลือหัวหน้าแผนกขาย และน้องพู่ ที่กำลังรู้สึกปวดหัวจี๊ดขึ้นมาจนแทบจะระเบิด
“ของพี่ ไม่มีแม้กระทั่งรูปหวาน ๆ จะเอาที่ไหนมามีรูปตอนพีททำหน้าตลก” บรรยากาศเริ่มมาคุ หลอน และวังเวง
“ผมมีเพียบเลย รูปไอ้พี่แก๊ปอ่ะ ตอนมันกินก๋วยเตี๋ยวแล้วเส้นก๋วยเตี๋ยวกระเด็นไปอยู่บนหัว แล้วยังมีตอนมันเอาเปลือกส้มโอมาทำเป็นหมวกอีก และที่สำคัญ พี่ดูหน้าพี่แก๊ปดิ แม่งน้ำลายยืดอ่ะ ผมถ่ายเอาไว้ตอนมันนอนหลับตอนพักกลางวัน”
น้องพู่.........
“มีรูปตอนมันหาวนอนจนน้ำตาไหลด้วยนะ แล้วก็มีตอนที่มันกำลังเกาตูดด้วย อันนี้เป็นรูปตอนพี่แก๊ป มันกินฝรั่งแล้วเม็ดติดฟัน แล้วก็อันนี้....................”
อีกร้อยแปดรูปซึ่งไร้คำบรรยาย
“มึงเป็นพวกชอบถ้ำมองเหรอพู่.........” ความสงสัยของยูกิ
“ทุกอิริยาบถขนาดนี้ ไม่คิดว่ามันเกินไปหน่อยเหรอวะ” มีน ผู้ชักจะไม่ค่อยไว้วางใจว่าตัวเองเผลอไปมีรูปอุบาทว์แบบนั้นให้พี่บุ้งถ่ายเก็บไว้หรือเปล่า
“พีทไม่เคยทำอะไรแบบนั้นให้เห็นนะ” อ้น หัวหน้าแผนกขาย ที่มีความเข้าใจว่า วิโรจน์เป็นคุณชายน้อยที่ได้รับการอบรมสั่งสอนมาอย่างดีในเรื่องมารยาท
“เฮียกูมีท่าเดียว นั่งไขว่ห้างอ่านหนังสือพิมพ์ ไม่ก็ดูข่าว แล้วก็ทำหน้าเครียด มีแค่นั้น”
วิเชียรผู้อึ้งกับภาพถ่ายแนวชีวิตประจำวันของน้องพู่อย่างถึงขีดสุดเช่นกัน
“ก็ผมชอบมองพี่แก๊ปนี่หว่า........ให้ผมทำยังไงล่ะ พี่ต้องเข้าใจผมนะ สำหรับผม ก็มีแค่สายตาที่เอาไว้มอง ทำอย่างอื่นไม่ได้ ทำได้ก็แค่นี้ บางทีเห็นแล้วมันก็ยิ้ม ๆ อารมณ์ดี ถึงบางทีมันจะหงุดหงิดก็เถอะ” รันทดชีวิตที่สุด ว่าที่เมียไอ้แก๊ป
“คิดมากเดี๋ยวมันก็เป็นของมันไปเองแหละ ไอ้แก๊ปมันรั่ว ๆ แบบนั้นมันก็คงมีคิดบ้างแหละวะ จะไม่คิดเลยได้ยังไง”
ไม่รู้สิพี่ ผมจะไปรู้เหรอว่าพี่แก๊ปมันคิดยังไง
“เฮ้ยยยยยยยยย ของอย่างนี้อย่าไปคิดมาก ได้แค่ไหนเอาแค่นั้นก่อน ไม่ต้องรีบ...อย่างน้อยพี่แก๊ปก็ไม่หวงตัวเหมือนพี่บาสป่าววะ รายนั้นมึงอย่าหวังจะแตะแม้ปลายเล็บนะ ถ้าไม่ยอมขึ้นมา มีตบกูหัวทิ่มได้เลยด้วย ขนาดนอนด้วยกัน แม่งยังบังคับให้กูสวดมนต์แผ่เมตตาก่อนนอนทำใจให้สงบ แล้วให้กูสาบานด้วยว่าจะไม่สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้ในระหว่างนอน”
ยูกิ ผู้มีชะตากรรมชีวิตที่รันทดยิ่งกว่า
“ขนาดนั้นเลยเหรอวะกิ” มีนที่อึ้งกับสิ่งที่ได้ยินแบบสุด ๆ
“นอนด้วยกัน แต่ไม่เคยเอากันซักครั้ง ตายห่าเหอะแบบนั้น” วิเชียรผู้อึ้งยิ่งกว่า
“ถ้าไม่แตะตัวกันขนาดนั้น แล้วกิทนได้ยังไง” ความสงสัยของอ้น หัวหน้าแผนกขาย
“ไม่เคยไปค้างด้วยกันว่ะ เลยไม่รู้ แต่ถ้าค้างคงได้รู้ แต่พี่แก๊ปคงไม่บังคับให้กูสวดมนต์แผ่เมตตาทำใจให้สงบก่อนนอนหรอกนะ สภาพแบบนั้นไม่น่าใช่”
น้องพู่ ผู้เจอผู้ที่รันทดกว่าเข้าให้แล้ว
“.............ผมเคยคิดจะปล้ำพี่บาสนะ แต่แม่งโดนไล่ให้ไปนอนนอกห้อง แถมบอกว่าถ้าทำแบบนี้อีก จะไม่ให้ค้างด้วย”
โคตรโหดว่ะ
“กิ........มึงโคตรน่าเห็นใจเลยว่ะ” ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกัน ก่อนจะตบไหล่ของยูกิเป็นการปลอบใจ
และต่างกำลังจะเริ่มแยกย้ายกันไปทำงาน
“สู้ว่ะกิ มันต้องมีซักวันแหละที่พี่บาสใจอ่อน” มีนผู้เคยประสบชะตากรรมแบบนั้นมาแล้วและผ่านมาได้อย่างสวยงาม
“มัดซะอย่าให้หนีแค่นี้ก็หมดเรื่อง” อ้น หัวหน้าแผนกขาย ผู้ใช้เทคนิคขั้นสุดยอดแบบนี้กับวิโรจน์มาแล้ว
“แม่ง.....เล่นตัวขนาดนี้ ลักหลับแม่งเลยเหอะ เชื่อกู” วิเชียรผู้คว่ำหวอดในวงการเรื่องบนเตียงมาอย่างโชกโชน
“ด่าแม่งให้สำนึก ถ้ายังไม่สำนึกอีก เลิกแม่งซะเลยดีมั้ย”
น้องพู่ ที่ชักเริ่มใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล และเอาปัญหาชีวิตคู่ของตัวเองเป็นบรรทัดฐาน
“...............กิ..............”
หันไปมองตามเสียงเรียก และยูกิ ก็เห็นว่าพี่บาสที่อยู่บนรถเปิดกระจกหน้าต่างออกมาทักทาย และส่งยิ้มหวาน ๆ มาให้
“จ๋า” แล้วยูกิก็ขานรับ และโบกไม้โบกมือให้
“เดี๋ยวพี่ซื้อหนมมาฝากนะ” ช่างเป็นการพูดจากันแบบน่ารัก หวานแหววจนคนรอบข้างนึกอิจฉาขึ้นมาอีกแล้ว
“จ่ะ” ยูกิ พยักหน้ารับ และพี่บาสก็ปิดกระจกและขับรถออกไปแล้ว
ปัญหาตอนนี้ไม่ใช่เรื่องไม่ได้เอากัน แต่เป็นปัญหาที่......... ทำไมพวกกูถึงไม่มีแบบนี้บ้างวะ
“.......ไปทำงานก่อนนะ” อ้นปวดหัวจี๊ดขึ้นมาอีกแล้ว
“ข้าวกล่องเฮียก็ให้แม่บ้านจัดให้ทุกวัน ขนมก็มีใส่กล่องมาให้ไม่งั้นก็ผลไม้ แล้วกูจะไปเอาขนมของฝากจากเฮียที่ไหนมาวะ”
วิเชียรเริ่มบ่นพึมพำคนเดียว
“ขนมเหรอ อย่าได้ฝัน แม่งไม่เคยคิดจะซื้อให้หรอก แถมมาแย่งกูแดกอีกต่างหาก ไอ้พี่แก๊ป โมโหโว้ยยยยยยยยย”
น้องพู่ เดินเสียจริตจากไปเรียบร้อยแล้ว
และ........มีน ผู้กำลังหงอยเหงากำลังก้มหน้าด้วยความเศร้า
เก่าแล้วสินะ พักนี้พี่บุ้งถึงไม่เคยซื้อขนมอะไรจากข้างนอกมาฝากเลย
“ทำไรกันอ่ะ”
พี่บุ้ง..........
“อยากได้ขนม” ตอบออกไปด้วยน้ำเสียงซึมเศร้า และบุ้งก็ยิ้มร่าหน้าบาน
“อยู่บนโต๊ะไง พี่หามีนไม่เจอ เลยวางไว้ให้ ว่าจะมาถามว่ากินหรือยัง”
จริง ๆ เหรอ เงยหน้าขึ้นยิ้ม และเป็นรอยยิ้มที่สดใสที่สุดของวัน ที่ทำให้บุ้งหัวเราะออกมาได้
“เป็นอะไรหรือเปล่า อยู่ดี ๆ นึกอยากได้ขนม ก็ซื้อให้บ่อย ๆ แล้วไง เห็นหลังๆ บ่นว่าเบื่อแล้วไม่ชอบกินของหวานพี่เลยไม่รู้จะซื้ออะไรดี”
ตอนนี้ไม่บ่นแล้วก็ไม่เบื่อแล้วนะ
“นึกว่าเบื่อแล้ว เก่าแล้วเลยไม่สนใจแล้วซะอีก” เฮ้ยยยยยยยยย ไปกันใหญ่แล้ว คิดมาก
“โห อะไรเนี่ย คิดมากนะเรา อยากได้อะไรก็บอกพี่ บางทีพี่ก็ยุ่ง ๆ ไง ไม่ค่อยมีเวลา ก็อาจจะลืม ๆ บ้างก็มี พี่ก็ยอมรับ”
ไม่ใช่แค่พูดแต่หัวหน้าแผนกขนส่งยังแตะเบา ๆ ไปที่เส้นผมของมีนด้วย
และนั่นก็ทำให้.........ยูกิ.........เริ่มเฉา....
“ไปทำงานก่อนนะ” บอกและหันหลังเดินจากไปแล้ว ท่ามกลางสายตาของบุ้งและมีนที่มองอย่างนึกสงสาร
“พี่บาสทำไมไม่ทำอะไรซักทีล่ะพี่ กิ มันเฉาแย่แล้ว”
เรื่องนั้นพี่ก็ไม่รู้หรอกนะ แต่ก็คงไม่ต่างจากพี่หรอก ถ้ารู้จักพี่บาสนาน ๆ จะพอรู้ว่าพี่บาสเขาคิดยังไง
“เขารักมันมาก เลยอยากใช้ช่วงเวลาแบบนี้กับมันไปก่อน คนที่ไม่แน่ใจไม่ใช่พี่บาสหรอก แต่เป็นกิ พี่บาสเขากลัวกิ มันจะมาเสียใจภายหลังที่เลือกเขา เขาเลยไม่แตะมัน จนกว่าเขาจะแน่ใจว่ากิ มันจะไม่ไปไหนแล้วแน่ ๆ แต่มันคงไม่เข้าใจคิดนั่นคิดนี่ไปเรื่อย...........เราก็ไม่รู้จะช่วยยังไงนะ มันก็เป็นปัญหาของเขา”
ไม่เคยรู้มาก่อนเลยจริง ๆ
“รักมากก็เลยห่วงมาก เข้าใจแล้ว”
ใช่ รักมากก็เลยห่วงมาก เลยต้องคิดให้มาก ๆ
“แล้วนี่ทำอะไรอยู่” ก็ไม่ได้ทำอะไรหรอกพี่บุ้ง
“ขีดเส้นในสมุดให้พี่บุ้งแหละ เห็นว่าตารางเก่าที่ลงสมุดมันหมดแล้ว เลยขีดเส้นเพิ่ม จะได้มาเทียบเวลากับคอมพิวเตอร์ได้”
ใจดีจังวะเมียกู
“ขอบคุณคร้าบบบบบบบ”
ไม่เป็นไรครับ เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ น่า ช่วยกัน แล้วอีกอย่างที่ผมช่วยขีดเส้นให้พี่บุ้ง..........ก็เพราะผมทำให้ด้วยความเต็มใจ
TBC.