( จบแล้ว ) Throw UP #ผับชั้นสาม :: {ตอนพิเศษ: up! 31-12-62} #หน้า 58
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ( จบแล้ว ) Throw UP #ผับชั้นสาม :: {ตอนพิเศษ: up! 31-12-62} #หน้า 58  (อ่าน 484361 ครั้ง)

ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
นับวันคุณอารยะยิ่งท็อปฟอร์ม
เขินตัวแตกไปสิ ฮึ่ยยยย

ออฟไลน์ A_Narciso

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 879
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
 :กอด1:หวานกันมากๆ  พี่อาฟชนะเลิศ!!

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ wildride

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 105
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
  :pig4:

 รักกันไปให้โลกอิจฉาเลย แสรดด  :o8:

 

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
เขินกันไป

ออฟไลน์ konfaibint

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
รักมากมาย น้องเมดน่ารัก :haun4:

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
 :L1:ในแบบอาาาาาราาาาายะะะะะะ :z1:

ออฟไลน์ New_atcha

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
หวานเวอร์มากอารยะโหมดนี้ชนะขาดจริงๆ  :mew1:

ออฟไลน์ smilepengy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
คุณอารยะ เค้าน่ารักนะคะ 555

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
จองไม่ทันแล้วสินะ  คงต้องรอวางขายเลยทีเดียว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ airicha

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
หวานกันจริงๆคู่นี้
น้องเมดกับพี่อาฟ

ออฟไลน์ AgotoZ

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 406
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
สนุกอ่ะ  ชอบมากเลยค่าาาา.  :mew1:

ออฟไลน์ Nobodylove

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 291
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:  :katai1: :katai1: :katai1: ชอบบบบบบบบบบ มากกกกกก แต่อยากอ่านเรื่องของน้องเดย์ รู้สึกว่าน้งเกย์ต้องน่ารักมากกกกกกแน่ๆ

ออฟไลน์ sk_bunggi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
อารยะก็ยังเป็นอารยะ 5555 น่ารักทั้งคู่เลย  :hao3:

แต่สะเทือนใจฉากอาฟไปเจอเมดอยู่กับบินหลังจากกลับมาจากสิงคโปร์ อาฟเตอร์เก๋าร้องไห้เยยยย  :hao5:

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
5555 คนซึนก็แบบนี้แหละเนาะ แค่นี้ก็ยิ้มแก้มปริแล้ว
ไม่ต้องมากมาย แค่ทำให้ด้วยใจ มันดีที่สุดแล้ว

อารยะก็บ้าบอ เนียนแอบฟังเด็กน้อย แถมเอาความคิดน้องมาเล่นด้วย
ไม่ธรรมดาเลยนะ มีพัฒนาแล้วคนเรา จังหวะมันได้ ฟีลกำลังพอดี
น่ารักมาก บ้าบอมาก อยากกรีดร้องแข่งกับเมดเลย น้ำตาซึมเลย

เมดก็น่ารักไม่แพ้กันเลยนะ ทำดี ทำเนียน ก็ไม่อะไรหรอก
ก็แค่วันวาเลนไทน์ เลยสั่งดอกไม้มาให้อารยะ ให้เข้าบรรยากาศ

ขอบคุณมากนะคะ ถ่ายทอดได้ดีมากเลยค่ะ ยิ้มแก้มเบียดหมดแล้วเรา


ออฟไลน์ lipure

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
  จิง ยีนส์และบิน อ่านแล้วให้ความรู้สึกว่า นี่มัน คนจังรายย มาเจอกันจริงๆ แต่ละคน โดยเฉพาะบิน อิจังไรแมน มีเมียแล้วยังเอาเพื่อนสนิทเมีย แล้วไม่เล่นหนึ่งน่ะ ฮีขอสอง แล้วคบทั้งสามคนมาถึงสี่ปี บร๊ะเจ้า จนมาความแตกถึงคิดได้ ซึ่งจริงๆ มันน่าจะคิดได้ตั้งนานแล้วมั้ย ซึ่งถึงจิง และยีนส์จะเลวที่เอากะสามีเพื่อน แต่ความจังไรเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้น ถ้าบินมันรู้จักห้ามใจแลไม่เห็นแก่ตัว  :katai1:
ส่วนเมดน่ะ โชคดีแล้วที่หลุดวงโคจรออกมาได้ และยังได้มาเจอกับเฮียอาฟ สุดหล่อสายเปย์ :z1:  ถึงหนูจะมีกรรม แต่ก็ยังมีบุญน่ะ

:pig4: :pig4: :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-11-2019 19:41:06 โดย lipure »

ออฟไลน์ kurorri

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ชอบมากเลยค่ะ  :-[

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
Special of Special

Throw up #ผับชั้นสาม


[ ลงทะเบียนบัณทิตยังเมด ]

ข้อความของโปรแกรมแชทที่เชื่อมกับมือถือแจ้งเตือนขึ้นมา ตรงหน้าจอเล็กๆของมุมขวาจอคอมพิวเตอร์ ผมชะงักมือที่กำลังตั้งสมาธิกับตัวเลขบัญชีในวันปิดงบช่วงสิ้นเดือนไปแทบจะทันที ก่อนจะเลื่อนเม้าส์กดขยายหน้าจอแจ้งเตือนนั้นให้มันขยายใหญ่ ผมพิมพ์ตอบรับ ฝ้าย เพื่อนในมหาลัยคนเดียวที่ยังคุยกันอยู่บ้าง

[ ยังเลย ] ผมตอบ

[ อีกสามวันแล้วนะ หรือว่าเมดจะไม่เข้ารับปริญญา ]

[ ไม่รู้เลยว่ะ กำลังคิดอยู่เหมือนกัน ]

[ แล้วทำไมจะไม่รับ รับเถอะน่า เรียนจบแล้วนะ ] ผ่อนลมหายใจออกมากับข้อความนั้น เพราะมันก็คือข้อความที่ผุดขึ้นในสมองของผมเหมือนกัน

ตั้งแต่วันที่เปิดให้เริ่มลงทะเบียนจนถึงตอนนี้ที่อีกสามวันสุดท้ายจะปิดรับ ผมก็ยังคิดมาตลอด และคิดไม่ตกถึงเรื่องที่ว่า จะรับพระราชทานปริญญาบัตรดี หรือว่าไม่รับดี

ก่อนหน้านี้มหาลัยของอาฟก็มีงานรับปริญญาเหมือนกัน แต่ทั้งอาฟทั้งเจ ก็ปฎิเสธการรับไป ด้วยเหตุผลที่ว่า ขี้เกียจ และไม่ชอบความวุ่นวายอะไรแบบนั้น ซึ่งแน่นอนว่าผมเองก็คิดไว้ว่ามันต้องเป็นแบบนี้ แม้จะพูดว่าเดี๋ยวไปช่วยถือของ  จะไปเป็นเบ๊ให้เองอีกฝ่ายก็ไม่มีทีท่าจะเปลี่ยนใจ และแม้จะเอาพ่อกับแม่มาอ้างว่าจะได้มีรูปมันในวันรับปริญญาติดไว้ที่บ้าน แต่ถึงอย่างงั้นคุณอารยะก็ยังคงปฎิเสธ ' ภาพกูมีเยอะแยะ อยากจะติดภาพไหนก็เอาไปติดสิ ’

[ ไว้เดี๋ยวถ้าตัดสินใจว่ารับแล้วจะบอกนะ ] สติกเกอร์ตอบกลับว่าโอเคถูกส่งกลับมาให้หลังจากที่เธอได้อ่าน ผมผ่อนหายใจออกมาก่อนจะพิงหลังลงกับเก้าอี้ที่นั่ง

เอากันตรงๆ ถ้าถามตัวเองก็อยากจะเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรมั้ย คำตอบในตอนนี้ก็คือ ไม่เชิง มันไม่ถึงกับอยากรับหรือว่าไม่อยากรับ แต่เป็นความรู้สึกที่ว่า มันจะรับก็ได้ไม่รับก็ได้ ถ้าพ่อมาบังคับผม บอกว่าต้องรับ ผมก็คงรับ แต่ประเด็นคือพ่อ ก็พูดแค่ว่า ตามใจ ก็แล้วแต่ความรู้สึกของเมด

อาจเป็นเพราะ พ่อรู้เรื่องของผมที่มันโคตรวุ่นวาย กับเพื่อนอดีตเพื่อนอีกสองคนรวมถึงบิน มันเลยเป็นเหตุผลง่ายๆที่พ่อไม่บังคับกัน และก็คงเข้าใจดีว่าทำไมผมถึงไม่อยากเข้ารับ เค้าเลยปล่อยให้ผมตัดสินใจด้วยตัวเอง


ก๊อก ก๊อก ก๊อก

เสียงเคาะประตูชวนให้ผมที่กำลังคิดอะไรคนเดียวเหลือบสายตาหันไปมอง แล้วตอนนั้นก็พบว่าคุณอารยะกำลังยืนพิงตัวเองอยู่กับขอบประตูของห้องด้วยท่าทางที่เท่เสียเหลือเกิน

“ รู้สึกว่ากูจะไม่ได้จ้างมาให้มึงมานั่งใจลอย ” ผ่อนหายใจออกมาตอนที่ฟังประโยคนั้น ท่าทางหน่ายๆของผมชวนให้ร่างสูงยกยิ้ม อาฟเดินเข้ามาใกล้กันก่อนจะหย่อนตัวลงนั่งตรงขอบโต๊ะ “ เหม่ออะไร หิวเหรอ ”

“ หิวเหี้ยอะไรละ เพิ่งจะกินข้าวหน้าปลาไหลก่อนจะเข้าผับมาจำไม่ได้เหรอวะ ”

“ จำได้ ” อาฟตอบ ก่อนจะยื่นมือมาหยิกแก้มผม “ แต่ใครจะรู้ บางทีคนตกละอย่างมึงอาจจะหิวอีกแล้วก็ได้ ”

“ ส้นตีน ไม่หิวเว้ย ” ปัดมือออกไปก่อนจะเหลือบมองมันที่ก็ยกคิ้วท้าทายกันแบบที่ไม่รู้สึกถึงความผิดใด
 
“ แล้วเป็นเหี้ยอะไร ”

“ แล้วอะไรคือเป็นเหี้ยอะไร ” เหลือบมองอีกคนที่จ้องมองกัน ผมที่ยังคงปิดปากเงียบแม้จะรู้ว่าที่อีกคนถามมันหมายถึงอะไร สายตาที่จ้องมองอีกฝ่าย มีความรู้สึกลึกๆแค่ว่าอยากจะดัดสันดานมันสักหน่อย คนเหี้ยอะไร พูดจาไม่เคยดี

แต่ก็นั่นแหละ

เหมือนว่าอาฟมันจะรู้ตัว สายตาคมที่จ้องมองผม แล้วเอาแต่ยกยิ้มแบบนั้นก่อนเลยค่อยๆลดใบหน้าเข้ามาใกล้กันจนปลายจมูกของเราเกือบสัมผัสกัน แล้วในตอนนั้นผมก็เบี่ยงตัวออก ปลายจมูกนั้นเกลี่ยแก้มผมเบาๆ เสียงทุ้มกระซิบ “ เมดครับ ”

“ อะไร ” ผมถามกลับอีกคนก็ยกยิ้ม

“ คิดเหรอครับ ว่าถ้าเงียบแล้วกูจะพูดดีๆออกมา บอกเลยนะ ว่าไม่ได้ผล ”

“ ไอ้สัด ” สบถออกไปอีกคนก็เอาแต่หัวเราะ เป็นคนเหี้ยที่แค่ได้แกล้งผมก็เหมือนจะมีความสุขไปทั้งวัน

“ แล้วตกลงมีเรื่องอะไร ”

“ ไม่บอก ใครจะไปบอกคนอย่างมึง ” ผมว่า ก่อนจะเลื่อนเก้าอี้ตัวที่นั่งเข้าไปใกล้โต๊ะ พยายามที่จะทำเป็นไม่สนใจแล้วทำงานต่อ แต่เหมือนคนที่รู้จักกันดี จะไม่ปล่อยให้ทุกอย่างมันเป็นอย่างงั้น

“ ไม่บอกก็ดี ” ว่าแบบนั้นก่อนจะทำทีเป็นไม่สนใจ อาฟเดินมานั่งลงตรงเก้าอี้ของตัวเอง เปิดคอมพิมเตอร์ของมันขึ้นมา เราเงียบให้กันอยู่สักพัก จนอีกคนทำทีเป็นหันไปมองนาฬิกา “ สั่งอะไรมากินหน่อยแล้วกัน ปู่ไข่ดองน่าจะดี ”

“ จะสั่งปู่ไข่ดองเหรอ ” หลุดถามออกไปด้วยความรู้สึกอยากกิน แล้วนั่นก็เหมือนกับว่าจะเป็นหลุมพลางที่ผมตกลงไปแบบเต็มๆ อาฟมองเหล่กัน อีกคนยิ้ม

“ ไหนบอกไม่คุยกับกู ”

“ มึงแม่ง..มึงอะ ” ผมโวย “ มึงแม่งเอาจุดอ่อนกูมาเล่น มึงก็รู้ว่ากูอยากกินปูไข่ดองเพราะกูพูดมาสองวันแล้ว มึงอะทุกทีเลย ”

“ มึงควรหงุดหงิดตัวเองมากกว่ามั้ย ที่มันตะกละจนได้เรื่อง ” ยกยิ้มให้กันมือหนาที่ยื่นมาหยิกแก้มกันนั้น เรียกรอยยิ้มให้อีกคน “ นี่..”

“ อะไร ” ผมถามกลับ แล้วอยู่ๆเจ้าของสายตาคมที่มองกันก็แบบแปลกไป อาฟเหลือบไปมองทางอื่น มันไม่ได้มองผม เสียงทุ้มนั้นค่อนข้างอ้อมแอ้มคล้ายกับไม่อยากจะพูดเท่าไหร่

“ อยากรู้ ” คนตรงหน้าพูดเสียงเบา “ มีเรื่องอะไร ”

“ ไอ้สัดเอ้ย ” หลุดยิ้มออกมากับท่าทางอย่างงั้น ก็แค่จะถามว่ามีอะไรยังฟอร์มเยอะ เชื่อเค้าเลย

“ ว่ามา ตกลงมีอะไร ”

“ ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่ฝ้ายมันส่งข้อความมาถามเรื่องลงทะเบียนเข้ารับปริญญา แต่กูไม่รู้ว่าจะเข้ารับดีมั้ย ” คำถามนั้นทำให้คนฟังเลิกคิ้ว อาฟพิงหลังลงกับเก้าอี้ที่นั่งรวมถึงผมด้วย

“ แล้วทำไมถึงคิดว่าจะไม่เข้ารับ ” คำถามนั้นทำให้ผมนิ่ง “ จะเลียนแบบกูเหรอ ”

“ เลียนแบบเหี้ยอะไรละ ” ผมสวนกลับก่อนจะถอนหายใจ “ กูแค่รู้สึกไม่อยากจะจัดการอะไรหลายๆ เพราะมันยุ่งยากไหนจะช่างแต่งหน้า แล้วคนถ่ายรูปอีกละ ชุดที่ต้องใส่ รองเท้า คือทุกอย่างมันมีรายละเอียด แล้วกูมันพวกต้องเป๊ะกับทุกอย่าง กูเลยแบบ ไม่รับดีมั้ย ตัดปัญหาไม่อยากจะจัดการ ทุกอย่างมันก็แค่นั้น ”

“ แค่นั้นเหรอที่มึงคิดว่ายุ่งยาก ” คิ้วหนาที่ยกขึ้นถาม ผมก็คิด

“ ก็มีอย่างอื่นอีก ” ผมพูดเสียงเบา

“ คือ ”

“ คือมันต้องมีคนไปกับกูแล้วคนคนนั้นก็ต้องลำบาก ร้อนก็ร้อน คนก็เยอะ แล้วมันก็ตั้งหลายชั่วโมงที่ต้องไปคอย ไม่นับเรื่องเล็กน้อยอีกเยอะมาก กูเลยไม่ค่อยอยากจะรับ อีกอย่างคือ กูติดนิสัยมึงไปแล้ว เหมือนพอรู้ว่าต้องยุ่งยากก็เริ่มที่จะไม่อยากทำ ”

“ ขี้เกียจเอง แล้วโทษกูมันได้เหรอ ” คำถามของคนตรงหน้าทำให้ผมหลุดยิ้มก่อนจะเม้มปากตัวเองแล้วทำทีเป็นมองไปทางอื่นแบบคนไม่รู้ไม่ชี้

“ อาฟ ถามจริงนะ ถ้าเป็นมึง มึงรับมั้ย ”

“ รับ ” อีกคนตอบสั้นๆ

“ ตอแหลไอ้สัด ขนาดของตัวเองยังไม่รับ แล้วมาบอกว่าถ้าเป็นกูจะรับ ”

“ มึงเองก็อยากรับแค่ทำทีเป็นถามกูว่ารับดีมั้ย เพื่อให้กูบอกว่า ไปเถอะ ไปรับ ให้ความมั่นใจกับมึง ” อาฟมันว่า “ มึงเองก็คิดว่าพ่อคงอยากมีรูปรับปริญญาของมึงติดอยู่ที่ฝาบ้าน แม้เค้าจะพูดว่า ตามใจมึง แล้วที่มึงไม่อยากรับ มันไม่ใช่เพราะความยุ่งยากแบบที่มึงพูดมาเลย มึงรู้ว่ากูซัพพอร์ตมึงอยู่แล้ว แต่ที่ทำให้มึงไม่ค่อยอยากรับ เพราะมึงคิดมากกว่าว่ามันคงไม่สนุก เพราะมึงไม่มีใครอีกแล้วในมหาลัยนั่น ไม่มีเพื่อนเก่าที่เคยร่ำเรียนมาด้วยกัน คนที่จะมาถ่ายรูปสนุกๆกับมึงในวันเรียนจบ เหมือนแค่มารับ แล้วก็จบ กลับบ้านนอน ”

“ รู้ได้ไงวะ ” พูดออกไปเสียงเบาๆ คนที่รู้จักกันดีก็ยกยิ้ม อาฟลุกขึ้นเต็มความสูงก่อนจะหันมามองกัน

“ ก็มันไม่ใช่เมื่อวานที่กูรักมึงจริงมั้ย ” ประโยคคำถามสั้นๆที่เหมือนคิดแล้วพูดออกมาทันทีนั้น ชวนให้คนที่เหมือนจะพลั้งปากถึงกับเหลือบไปมองทางอื่นด้วยท่าทางที่ดูตกใจ ความรู้สึกที่เหมือนจะหาข้ออ้างเหมือนทุกทีนั้นชวนให้ผมหลุดยิ้ม “ ยิ้มเหี้ยอะไร ”

“ เปล๊า ” พูดเสียงสูงแต่ก็ยังหยุดยิ้มไม่ได้อยู่ดี อาฟที่ถอนหายใจออกมา มันมองไปทางอื่น

“ ถ้าจะไปก็บอก กูให้ลาหยุด ”

“ แล้วมึงจะไปด้วยมั้ย ” คำถามนั้นทำให้อีกคนนิ่ง ผมรู้อยู่แล้วว่าอาฟต้องไปแน่นอน มันไม่มีทางปล่อยให้ใครไปกับผมหรอก แต่ถึงอย่างงั้นก็ยังอยากจะถามออกไปอยู่ดี ขอรู้หน่อยเถอะ ว่าอีกคนจะอ้างว่ายังไง

“ ถ้าว่างก็จะไป ”

ตอบว่าอย่างงั้น  แต่หลังจากนั้นไม่นานเมื่อบอกออกไปว่า ตกลงว่าจะเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรนะ คนที่ตอบกลับมาสั้นๆว่า ‘ อื้ม ’ อย่างไม่ใส่ใจนั้น ก็คือคนเดียวกันกับที่กำลังนั่งเล่นกล้องถ่ายรูปที่เพิ่งซื้อมาเมื่อไม่กี่วันก่อนอยู่ตรงโซฟาในคอนโดของเราอย่างมุ่งมั่น


แชะ!

เหลือบมองเสียงที่ดังอยู่ไม่ไกล ผมหลุดยิ้มตอนที่เห็นว่าเลนส์ของกล้องหันมาทางผม กล้องที่ดีไซน์ออกมาในรูปแบบวินเทจดูเข้ากับคนถือมันอยู่ เสื้อยืดสีขาวตัวที่ใส่กับกางเกงสีดำส่งให้อีกคนดูเท่มากขึ้นไปอีก

“ แอบถ่ายกูอีกแล้วนะ ”

“ แค่ภาพมุมนี้มันสวย ” กล้องที่ถืออยู่นั้นถูกลดลง คนปากแข็งยังคงไม่สารภาพอะไรออกมาเหมือนเดิม แม้ว่าในกล้องถ่ายรูปนั้น ภาพทั้งหมดจะมีแค่ผม ที่อยู่ในทุกอริยาบทก็ตาม

“ สวยเหรอ ไหนมาดู ” หย่อนตัวลงนั่งข้างอีกคนก็ดึงกล้องจากมืออีกคนขึ้นมาดู ผมเผลอบึนปากอดรู้สึกชื่นชมไม่ได้เลยถึงความมีพรสวรรค์ของอีกฝ่าย ในขณะที่ผมถ่ายแค่กล้องมือบางภาพยังออกมาเบลอ แต่ไอ้สัดนี่เรียนด้วยตัวเองอยู่ไม่กี่วัน  ถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ และเล่นแสงเป็นแล้ว “ เออ สวยจริง ”

“ มันแน่อยู่แล้ว ” พูดแบบนั้นอาฟก็ดึงกล้องออกไปจากมือผม กดปรับอะไรอยู่สองสามอย่าง ก่อนจะกดถ่ายภาพกันในมุมที่โคตรใกล้

“ ถ่ายเหี้ยอะไรของมึง กกหูเหรอ ”

“ มึงเห็นอะไรนี่มั้ย ” อาฟดึงกล้องมาให้ผมดู ภาพบนหน้าจอนั้น เหมือนจะเป็นส่วนปากแล้วก็แก้มของผม

“ อะไร ”

“ ความอ้วน ”

“ ไอ้สัด ” แทงศอกเข้าตรงท้องอีกคนก็เอาแต่ยิ้มมีความสุข ในตอนนั้นผมทำได้แค่ผ่อนลมหายใจออกมาก่อนจะตีหน้านิ่ง

“ เออ ลืมบอกมึงไปเลย เดี๋ยววันซ้อมแล้วก็วันจริง วิวจะไปเป็นเพื่อนกูนะ มึงไม่ต้องไปก็ได้ ” คำพูดนั้นทำให้คนที่กดดูภาพอยู่ชะงักไป แม้แต่รอยยิ้มนั้นก็ด้วย อาฟหันมามองกัน ด้วยสายตาที่เหมือนจะไม่เข้าใจ “ คือกูหมายถึงว่า มึงไปถ่ายรูปกับกูแล้วก็กลับก็ได้ ไม่ต้องนั่งเฝ้าหรอก เดี๋ยวให้วิวมันนั่งคอยกูเอง มันนาน อีกอย่างมันร้อนด้วย คนก็เยอะ โคตรวุ่นวาย มึงไม่ชอบหรอก เดี๋ยวก็หงุดหงิดเปล่าๆ ให้คนเสนอตัวทำด้วยหัวใจแบบน้องวิวทำก็ได้ ”

“ อื้ม ”

ตอบกันแบบนั้นแค่สั้นๆพร้อมกับคิ้วที่ยกขึ้น ดูเป็นการตอบรับที่เหมือนไม่มีอะไร ทั้งๆที่ในใจผมก็รู้ว่าอีกคนคงอยากจะพูด ว่าไม่เป็นไร ก็เดี๋ยวมันจัดการทุกอย่างให้เอง แต่อาฟก็คืออาฟ มันไม่มีทางที่จะทำแบบนั้น ส่วนผมก็คงต้องคอยดูต่อไป ว่าคนอย่างคุณอารยะจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไง

.................................

ทุกอย่างถูกจัดการไว้อย่างเรียบร้อย วันนี้เป็นวันซ้อมใหญ่เพื่อนสนิทของน้องวิวคนที่เป็นช่างแต่งหน้าจะทำหน้าที่แต่งหน้าให้ผม และแน่นอนว่า ก็ขอกันไปว่า หล่อขึ้นแบบธรรมชาติที่สุด ไม่เอาแบบตั้งใจแต่งเหมือนตื่นมาก็คือหล่อเลย ซึ่งเป็นโจทย์ที่ยากมาก เรานัดหมายกันตั้งแต่ตีสี่ ซึ่งแน่นอนว่าปกติก็เป็นเวลาเข้านอนของผมพอดี

“ แล้วนี่พี่อาฟไปไหน ” คนน้องที่นั่งกินขนมปังอยู่ตรงข้ามโต๊ะกันเอ่ยถามหาเจ้าของห้องอีกคน หลังที่เข้ามาสักพักแล้วแต่ยังไม่เห็นหน้ากัน ผมเชิดหน้าไปที่ชั้นบนตอนที่ได้จังหวะ วิวเงยมองตรงห้องนอนนั้น มันพยักหน้ารับ “ ยังนอนอยู่อีกเหรอวะ ”

“ ใช่ ”

“ แล้วนี่พี่อาฟจะไปงานซ้อมรับปริญญาพี่เมดเปล่า หรือว่าจะไปวันจริงทีเดียว ” คนเป็นน้องถาม ผมก็หลุดยิ้มออกมา “ ทำไม ”

“ มันไปนั่นแหละมึง แต่แม่งคือฟอร์มเยอะชิบหาย ”

“ ยังไงวะ” วิวถาม

“ ก็ตอนกูตัดสินใจจะรับปริญญา มันก็บอกว่า ถ้าว่างแล้วจะไป แต่พี่ท่านก็ไปซื้อกล้องถ่ายรูปมาเรียบร้อยนะ  แถมยังชวนกูไปเดินสวนสาธารณะทั้งๆที่ร้อยวันพันปีไม่เคยมีโมเม้นท์นี้เกิดขึ้นเลย บอกกู เออ พกกล้องมาพอดี งั้นถ่ายรูปหน่อยแล้วกัน ”

“ คือ ทั้งๆที่เตรียมกล้องมาตั้งแต่ต้นอะนะ ”

“ เออ ” ผมพยักหย้ารับ “ คือมันดูออกมากอะว่าเตรียมตัวมาพร้อมแล้วนะ แต่จะให้พี่ยอมรับออกมาตรงๆ ว่าพี่จะไปแน่นอน ซ้อมถ่ายรูปให้แล้วเนี้ย ก็ดูจะไม่ใช่ทางของมันสักเท่าไหร่ ”

“ สมเป็นพี่อาฟ ฮ่าๆ ” น้องผมว่าพลางส่ายหน้าหัวเราะ

“ นี่กูยังคิดอยู่เลยว่ามันจะมาไม้ไหนกับการที่จะไปส่งกูที่มหาลัย ”

“ ตื่นพอดีเปล่า ” วิวมันเชิดหน้าไปทางลงบันได ซึ่งแน่นอนว่าตอนนั้นผู้ชายที่บอกว่า ถ้าว่างจะไป และการซื้อกล้องนี้ไม่ได้มีการซื้อกล้องมาถ่ายรูปผมแต่อย่างใด ก็แค่อยู่ๆ อยากซื้อไว้เฉยๆมันก็เท่านั้น อาฟเดินลงมาจากห้องด้วยชุดใหม่ที่ก็พร้อมแล้วสำหรับการออกไปข้างนอก พร้อมกับกล้องตัวแพงที่สะพายอยู่บนไหล่

“ หล่อสุด ”

ก็อย่างที่วิวบอก เสื้อสีขาวที่อีกคนใส่เป็นเสื้อตัวที่ผมไม่เคยเห็นเลยซึ่งแน่นอนว่า คงไปอบซื้อมาใหม่ มันเป็นเสื้อทรงเชิ้ตคอกลมเล่นลายด้วยเชือกสองข้างเป็นแถบยาว เข้ากันได้อย่างดีกับกางเกงสีดำและผมเปิดหน้าผากที่อีกคนทำทุกวัน มันหล่อจนน้องคนที่แต่งหน้าให้ถึงกับนิ่งชะงัก

“ มึงๆ ผัวพี่กู ” วิวมันสะกิดเพื่อน จนคนโดนทักถึงกับหันขวับไปยิ้มให้เพื่อนแล้วหันมาส่ายหน้าดุ๊กดิ๊กให้ผม

“ ไม่ได้คิดอย่างง้านนนนนนนน ”

“ คิดได้ แต่ไม่ให้จริงจังนะ ” ผมแซวน้อง ในตอนนั้นอาฟที่เดินผ่านไปแอบเหลือบมองกันด้วยรอยยิ้มน้อยๆ มันคล้ายว่าจะแซว “ มองแล้วยิ้มแบบนั้นหมายความว่าไงวะ ทำไม มึงจะแซวอะไรกูอีกไอ้สัดอาฟ ”

“ ก็ดูทรงว่าท่าทางน่าจะแต่งยาก ” มันพูดสั้นๆ เราสามคนก็ได้แต่ขมวดคิ้ว “ ไม่แปลกใจว่าทำไมต้องตื่นมาแต่งกันตั้งแต่ตีสี่ เพื่อนมึงมีความสามารถนะวิว แต่แต่งซาลาเปาให้กลายเป็นคนได้ด้วย ”

“ หน้าเหี้ย ”  ด่าอีกคนแบบไม่ออกเสียง จนน้องคนที่แต่งหน้าให้ถึงกับหลุดขำ “ แล้วนั่นจะไปไหน แต่งตัวหล่อตั้งแต่เช้า ”

“ ไปส่งมึงไง ” มันพูดแค่สั้นๆ พร้อมกับหยิบกาแฟที่วันนี้มันชงด้วยตัวเองขึ้นมาดื่ม “ กูแค่ตื่นพอดี มันนอนต่อไม่หลับ ”

“ อื้ม ” พยักหน้ารับคำพูดนั้น ก่อนจะหันไปมองวิวที่ก็ยิ้มออกมา มันหันมากระซิบผม

“ เหมือนที่คิดไว้เลยว่าต้องประโยคนี้ ”

“ แล้วมึงมีปัญหาอะไร ” อาฟถาม น้องผมก็หันไปมองก่อนจะยิ้มกว้าง

“ ไม่มีจ้า ใครจะกล้ามีปัญหากับพี่อาฟ ว่าแต่นะนี่จะอยู่ทั้งวันเลยมั้ย ”

“ ดูก่อน ”

“ ฮะๆ คือเป็นดูก่อนที่ดูออกมากอะ ” มันมันเหลือบมองผม “ ว่าจะอยู่ทั้งวัน ” 

ประโยคนั้นทำให้ผมได้แต่ยิ้มกว้าง ก่อนจะถอนหายใจออกมา พลางมองคนที่กำลังก้มหน้าก้มตากับกล้องถ่ายรูปของตัวเองที่ก็แน่นอนว่า ก่อนหน้านี้คงแอบถ่ายภาพผมตอนแต่งหน้าไปหลายรูปแล้ว


....................................

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27


เราเดินทางออกจากบ้านหลังจากที่แต่งหน้าแต่งตัวกันเสร็จ ทุกอย่างถูกเช็คว่าไม่มีของสำคัญอะไรที่ผมห้ามลืมเด็ดขาด ส่วนคนขับรถที่พามาวันนี้ก็ยังเป็นคนเดิมกับที่คอยมารับมาส่งกันที่ในช่วงปลายเทอมสองของปีสี่ เป็นคนเดิมที่อ้างว่า มีเรียนอยู่แล้วก็เลยจะไปส่งทั้งๆที่จริงก็ไม่มี

ส่วนวันนี้ก็คือ ตั้งใจจะมาอยู่แล้ว แต่ก็บอกตามสไตส์ ว่า แค่ตื่นนอนมาแล้ว และนอนต่อไม่หลับ

“ ทำอะไร ” หันไปถามคนที่ไม่ยอมปล่อยมือถือ แถมยังกดยุกยิกอยู่ตลอดเวลาในตอนที่ติดไฟแดง

“ คุยกับสัดเจ ” ว่าแบบนั้น ก่อนจะเอื้อมมือมาจับมือผมที่วางนิ่งไว้อยู่ “ วิวฝากบอกมึงด้วยว่า เดี๋ยวมันจะมาพร้อมเจเลย ”

“ โอเค ” พยักหน้าตอบรับก่อนจะเหลือบมองมือนั้น “ แล้วจับมือกูทำไม ”

“ กูจับมือแฟนกู มึงมีปัญญหาเหรอ ”

“ ไม่มีหรอก เพราะกูนี่แหละสัด แฟนมึง ”

 รถของเราเคลื่อนตัวเข้าสู่มหาลัยหลังจากที่ขับมานาน  ซึ่งวันนี้แน่นอนว่าที่จอดรถเป็นอะไรที่หายากมากกว่าปกติหลายเท่าตัว และมันไม่ต่างอะไรกับการเล่นเก้าอี้ดนตรีเลยสักนิด “ กูคิดว่าเรามาเช้าแล้วนะ แต่ก็ยั๊งไม่มีที่จอดรถอยู่ดี ”

“ แล้วมึงคิดเหรอว่าคนอื่นเค้าจะไม่คิดเหมือนมึง เรื่องมาให้เร็วกว่าปกติจะได้มีที่จอด ”

“ เออ นั่นก็จริงของมึง ” ผมผ่อนลมหายใจออกมาก่อนสายตาจะเหลือบไปเห็นที่จอดว่างตรงหน้าคณะพอดี “ เชี้ย อาฟ นั่นๆที่จอดรถ ไปเร็วมึง ว่างแล้ว มันต้องเป็นของเรา ”

“ ประสาท ” อีกคนว่ายิ้มๆ ก่อนจะขับขึ้นไปแล้วจอดลงตรงที่ว่างหนึ่งเดียวตรงนั้นที่มี ช่องแคบๆที่อีกคนจอดได้อย่างเชี่ยวชาญซึ่งแน่นอนว่าถ้าเป็นผมก็คงต้องไปจอดที่อื่น ปลดเข็มขัดนิรภัยก่อนจะถอนหายใจโล่งออกมา แน่นอนว่า เพราะไม่ต้องเดินไกลให้เมื่อย แล้วนั่นคือสิ่งที่ดีที่สุด

“ มึงโทรบอกเจด้วยสิ ว่าถ้าจะมากันหลายคน ให้มาด้วยกันให้หมด เพราะมันไม่มีที่จอด ยัดๆกันมาเลย ในรถคันเดียวนั่นแหละ ”

“ แล้วมึงคิดว่าใครมันจะมาเหรอครับ ” คำถามนั้นทำให้ผมนิ่ง ประโยคนึงผุดขึ้นมาในสมองอย่างฉับพลัน ‘ เออ ลืมไปเลยว่าไม่มีเพื่อนแล้ว ’ แต่ทว่าคนที่พูดเองก็ไม่ต่างกัน อาฟมันนิ่งไปนิดหน่อย ก่อนจะยกมือขึ้นจับหัวผม “ แต่ก็ไม่แน่หรอก ” อาฟว่าแบบนั้นก่อนจะก้มหน้าลงพิมพ์อะไรสักอย่างลงไปในมือถือของตัวเอง บนหน้าจอนั้นเป็นไลน์กลุ่มเหมือนจะเป็นที่รวมตัวของทุกคน ไม่ว่าจะเป็น เอม เจ น้องเดย์ น้องอัยย์ ผมเห็นมันพิมพ์ข้อความลงไปบนนั้น ‘ มาให้ได้ครบทุกคนนะไอ้สัด ’

เผลอยิ้มออกมาในตอนที่เห็น มันก็เป็นแบบนี้ แคร์ทุกความรู้สึกกันมากจริงๆ เลยไม่ว่าจะเล็กน้อยแค่ไหน อาฟก็ใส่ใจกัน

“ งั้นกูไปลงทะเบียนก่อน มึงอยู่ตรงนี้นะ ”

“ อื้ม ” ใบหน้าคมพยักหน้ารับ ผมก็เดินไปจัดการเรื่องลงทะเบียนรับปริญญาของตัวเอง ทักทายเพื่อนร่วมคณะที่วันนี้จัดหนักจัดเต็ม รวมถึงฝ้ายที่ก็เดินเข้ามาชวนคุยแล้วก็ขอถ่ายรูปไปเสียหลายรูป ซึ่งแน่นอนว่าตากล้องของเธอก็จัดหนักจัดเต็มอีกเช่นกัน เมื่อดูจากขนาดกล้องแล้ว ของผมดูธรรมดาไปเลย

“ วันนี้ใครมาถ่ายรูปให้เมด ถ้าไม่มีถ่ายกับฝ้ายได้นะ ”

“ ไม่เป็นไร ” ผมปฎิเสธ “ อาฟมาถ่ายให้น่ะ ”

“ สุดยอดแฟนแห่งปี ทำเพื่อคนที่รักได้ทุกอย่างจริงๆ ” อีกคนแซวก่อนจะถอนหายใจออกมา “ แต่ในที่สุดก็เรียนจบสักทีเนอะ ดีใจกับเมดด้วยนะ สำหรับเกียรตินิยมอันดับสอง ”

“ ขอบคุณมากครับ ”

“ เออ มีอะไรจะบอกอย่างนึง ” ดวงตาสวยที่เบิกขึ้นนิดหน่อยเหมือนกับอีกคนคิดอะไรขึ้นมาได้ ฝ้ายยิ้ม “ ไม่รู้มีใครบอกเมดยัง แต่เห็นว่ายีนส์มันไม่เข้ารับนะ เพื่อนลือๆกันใหญ่ ”

“ เหรอ ” ตอบออกไปแค่นั้น ก่อนที่บทสนาทนาของเราจะถูกขั้นด้วยการที่ต้องแยกย้ายกันไปลงทะเบียนเพราะถึงคิว ผมผ่อนลมหายใจออกมาในตอนที่ทำเรื่องต่างๆ รวมถึงการสั่งกรอบรูปสำหรับเอาไว้ติดที่บ้านเรียบร้อย

อดคิดถึงความรู้สึกในที่ได้เข้าเรียนครั้งแรกที่นี่ไม่ได้เลย ผมมองไปรอบๆอาคารหลังจากที่เดินออกมานั้น ถอนหายใจ ผ่อนความเศร้าที่ฝังอยู่ลึกๆ

พอเอาเข้าจริงก็คงเหมือนกับที่อาฟบอก เหตุผลที่ผมไม่อยากจะเข้ารับปริญญา ไม่ใช่ความยุ่งยาก แต่เพราะมันไม่ได้สนุกขนาดนั้นอีกแล้ว เพื่อนสนิททั้งสามคนที่เราเคยดีใจตอนเข้าเรียนที่นี่ด้วยกัน คนพวกนั้นไม่อยู่ข้างกันอีกแล้ว ไม่ว่ายังไง ก็ยังเสีดายอยู่ลึกๆอยู่ดี กับความเป็นเพื่อนที่หายไปนั้น

ภาพที่เคยถ่ายไว้ตอนเรียนจบม.ปลายถูกลบหายไปจากความรู้สึก ภาพที่เราเคยบอกกันว่า ถ้าเรียนจบจะหิ้วชุดครุยไปถ่ายตรงจุดเดิม  แต่พอวันนี้มาถึงจริงๆ เรากลับทำอะไรแบบนั้นไม่ได้แล้ว ก็เสียดายอยู่เหมือนกัน สำหรับความสัมพันธ์และคำว่า เพื่อน ที่จะไม่มีวันกลับมาอีกนั้น

“ พี่เมด ยินดีด้วยจ้า!!! ” เสียงดังที่ดึงสติของผมที่กำลังก้มหน้าก้มตาคิดอะไรบางอยู่ถึงกับต้องเงยหน้าขึ้นมามองด้วยความตกใจ เจ้าเด็กแสบบาร์เทนเดอร์สองคน รวมถึงน้องชายผม เอม แล้วก็เจ ยืนอยู่ตรงหน้านั้นข้างๆกับคุณอาฟเตอร์ อาระที่ยิ้มให้กัน ในมือของทุกคนมีทั้งดอกไม้ช่อใหญ่ รวมถึงถูกโป่งสวยๆ

“ ปี๊ด ปี๊ด ” ผมหลุดหัวเราะออกมาตอนที่น้องเดย์หยิบแตรของเล่นเด็กคนมาเป่า และดูเหมือนเสื้อวันนี้ทุกคนจะธีมกันมาในแบบที่เรียกว่า สีสันแสบตาที่ใส่กันมาไม่ต่างอะไรกับเวทีลูกทุ่งเลสักนิด

“ เหี้ยอะไรกันเนี้ย ” ถึงกับต้องพูดออกไป แต่น้องเดย์ก็แค่ยื่นลูกโป่งมาให้กัน

“ ก้มาแสดงความยินดีกับพี่เมดไงครับ เรียนจบแล้วน้า ยินดีด้วยนะครับพี่สะใภ้คนสวยของน้องเดย์ที่ก็อยากจะเป็นผัวมากกว่าน้องเขย ”

“ จ้า ” ผมตอบรับก่อนจะรับลูกโป่งนั้นมา แต่ยังไม่ทันที่น้องอัยย์จะเข้ามา เสียงกรีดร้องของน้องเดย์ก็ดังขึ้น แน่นอนว่ามันจากคุณอารยะของผม ที่ก็ถีบน้องชายตัวเองเข้าไปเต็มแรง

“ นี่ก็หวงไม่เลิกจริง ” เจมันบอกก่อนจะเชิดหน้าไปทางไอ้อัยย์ “ ตามึงแล้วสัดอัยย์ ”

“ โอเค นี่ครับ ซ้อเมดคนสวยของผม “ ตุ๊กตาน่ารักถูกยื่นมาให้ “ น้องไม่อยากจะเป็นผัวซ้อ แต่แน่นอนว่าได้ก็ดี ”

“ พวกมึงที่ก้วอนตีนมัน ” ผมว่าก่อนจะหันไปรับของจากเจกับเอม ที่ก็ยื่นมาให้ทั้งถุง แล้วพอเปิดดูก็พบว่ามันเป็นของขวัญที่อยู่ในกล่องอีกที “ ขอบคุณครับ ”

“ พี่เมด อันนี้จากวิวนะ ” ของที่วิวให้มันเป็นเคสมือถือที่ก็เหมือนว่าอีกคนจะออกแบบเอง ผมรับมันมาก่อนจะดึงอีกคนเข้ามากอด

“ ขอบคุณนะครับ ”

“ อะไรกันน่ะ ” น้องเดย์ท้วง “ น้องเดย์ก็ให้พี่เมดนะ แต่พี่เมดกอดแค่เด็กแรด ทำไมพี่เดย์ไม่กอดน้องเดย์ละครับ แบบนี้มันหมายความว่าไง รักน้องไม่เท่ากันเหรอ แบบนี้ก็ได้เหรอ ”

“ เออๆ มาๆ ” ดึงวิวออกจากตัวก่อนจะเรียกอีกคนเข้ามา คนน้องที่ได้แต่เบิกตากว้าง ก่อนจะหันไปเหลือบมองพี่ชายตัวเอง

“ สัดพี่ พี่เมดพูดเองนะ กูไม่ได้ร้องขอมากมายเลยด้วยซ้ำ บ้าจริงนี่ไม่ได้อยากกอดอะไรเลย เกรงใจหรอก ” เดย์ดึงตัวเองเข้ามากอดผม สองแขนที่กอดเอวรัดกันแน่นเหมือนได้ทีก็ขอแบบจัดหนัก

“ ยินดีด้วยนะครับพี่เมดของน้องเดย์ เรียนจบแล้ว ”

“ ขอบคุณนะครับ ” พยักหน้ารับเจ้าเด็กที่ไม่รู้จักโต ผมเรียกน้องอัยย์เข้ามา “ น้องอัยย์ก็มาด้วยสิ ”

“ พี่เมดเรียกนะ กูบริสุทธิ์ กูบริสุทธิ์ ” อีกฝ่ายตะโกนก่อนจะเดินมากอดผมไว้แน่นเหมือนกัน ทั้งสองคนเอียงตัวเองไปมาในตอนที่เรากอดกันอยู่แบบนั้น และเหมือนว่ามันจะแนบชิดเกินไปหรือไม่ก็อาจจะนานไป ทางฝ่ายคนที่ถือกล้องแล้วยืนนิ่งก็เลยพูดขึ้น

“ นานไปแล้ว ”

“ ยังไม่ถึงห้านาทีเลยมั้ง ” เอมมันว่าก่อนจะเหลือบมองเจที่ก็ยักไหล่

“ ขี้หวงตามสไตส์แหละไอ้สัดพูดยาก เรื่องนี้มันเรื้อรัง ”

“ K ” อาฟบอกปัด ตอนนั้นไอ้เด็กแสบก็ดึงตัวเองออกจากผมพอดี น้องมันก็เลยหันไปอวด

“ พี่เมดก็คือตัวห๊อมหอม อยากจะหอมสักฟอดสองฟอด ”

“ แต่ถ้าตายกูไม่ช่วยน้า ” เจยกมือขึ้นทั้งสองมือคล้ายกับห้าม หน้าตาที่ออกจะตกใจชวนให้เราทุกคนหลุดหัวเราะออกมา ก่อนที่เอมจะหันไปมองเพื่อนตัวเอง

“ แล้วมึงไม่ให้อะไรเมดมันหน่อยเหรอสัดอาฟ ”

“ ต้องเหรอ ” คำถามพาซื่อหลุดออกมาจากปากคุณอารยะ ที่ก็เลิกคิ้วขึ้นเหมือนว่าตัวมันไม่เห็นจะรู้เรื่องอะไร  “ กูก็มาแล้วนี่ไง ไม่พอเหรอ ”

“ กูละเชื่อมึงเลย ” เจบอกพลางส่ายหน้า “ ทั้งๆที่ก็ทำตัวเหมือนไม่อยากมา แต่ชวนกูไปซื้อเสื้อใหม่ ซื้อกล้องใหม่ แถมยังสั่งให้พวกกูมาอีก แล้วก็ต้องมาให้ได้ด้วยนะ ”

“ แหมมม เค้าก็อยากให้คนที่เค้ารักมีความสุขที่สุดในวันที่เรียนจบ ” เอมมันเสริมเราต่างคนก็ได้แต่หันไปทางอื่น

“ พูดมาก ” อาฟว่าเสียงเบาในตอนที่ทุกคนหันมามองมัน ใบหน้าคมถอนหายใจ “ เพื่อนเหี้ย ”

“ งั้นก็ถ่ายรูปกันหน่อยมั้ย พี่อาฟกับพี่เมดน่ะ ” วิวมันบอกกในตอนนั้นเอมมันก็ดึงกล้องที่อีกคนถืออยู่ไปถือไว้เอง แถมยังรวบรับตัดความอีกฝ่ายด้วยการเชิดหน้ามาทางผม

“ ไปยืน จะถ่ายให้ ”

“ ใครอยากถ่าย ” เอ่ยถามเพื่อนตัวเองแบบหาเรื่อง ในตอนนั้นเจมันก็ยิ้ม

“ เอาน่า ถ้ามึงเขิน ก็คิดซะว่าพวกกูบังคับ ” ก้าวเดินออกมายืนข้างผมในตอนที่เจบอก อาฟที่หน้าแดงไปหมดถอนหายใจออกมา แล้วตอนที่มันเผลอสบตากันนั้น อีกฝ่ายก็บอก

“ กูโดนบังคับมา ”

“ จ้า เชื่อได้มากเลยอารยะ ” บอกอีกคนแบบนั้น แต่อยู่ๆเราก็เหมือนเกร็งต่อกันซะมากมาย ก็ใช่ว่าไม่เคยถ่ายรูปด้วยกัน เราเคยถ่าย และก็ถ่ายบ่อยมากเลยด้วย แต่เหมือนจะไม่ใช่ภาพที่ดูจริงจังอะไรแบบนี้ เป็นแค่ที่ถ่ายเล่นๆ พวกอารมณ์ที่ซบกันแต่เห็นแค่ช่วงคาง ไม่ก็ครึ่งหน้า และถ้าเห็นหน้าเต็มๆ ก็เหมือนว่าจะเป็นแค่ภาพอีกคนเดี่ยวๆ ไม่มีหรอกที่เราจะถ่ายด้วยกันแบบจริงจังอย่างงี้

“ คือเกร็งเหมือนไม่เคยได้กันมาก่อน ” วิวมันว่า ทุกคนในที่นั้นก็หลุดหัวเราะ “ เอาไงดีพี่ช่างภาพ ”  ท้ายประโยคที่ถามเอมอีกคนก็นิ่งคิด

“ เอาแบบนี้แล้วกัน พวกมึงยืนเอียงนิดๆ แล้วก็มองหน้ากัน

“ เค ” ผมตอบรับในตอนนั้นน้องเดย์น้องอัยย์ก็วิ่งเข้ามาหา

“ เอาของมานี่ก่อน มันรก เดี๋ยวภาพไม่สวย ”

“ ขอบคุณครับ ”

“ ค้าบบบบบบ ” เสียงของเด็กน้อยที่ขานรับแล้วก็วิ่งออกไปพร้อมกับของขวัญ  ผมเหลือบมองอาฟหลังจากนั้นแต่เหมือนอาการเขินจะแพร่สู่กันอย่างรวดเร็ว หูของผมร้อนจัดแม้แต่ในท้องก็เหมือนจะวุ่นวายไปหมด คล้ายว่ามีพายุอยู่ในนั้น เราถอนหายใจใส่กันเหมือนอัดอัด 

“ เขินกันชิบหาย ตอนเอากันสัดพี่กับพี่เมดคือเขินกันแบบนี้มั้ยวะ ” น้องเดย์ถาม คนพี่ก็ส่ายหน้า

“ ไม่นะ ทั้งๆท็เปิดไฟเอากัน ”

“ ไอ้สัด แล้วมึงจะพูดทำเหี้ยอะไร ” สบถออกไปยิ้มๆ อีกคนก็หันมายิ้มให้กันอย่างคนกวนตีนแหมือนทุกครั้ง และในตอนนั้นที่เสียงชัตเตอร์ดังขึ้น

ในตอนนั้นผมรู้สึกเลยว่า ตอนเถียงกันนี่แหละ คือภาพคู่ที่คงดูเป็นเรามากที่สุด

“ น่าร๊ากกกกก ” วิวเอ่ยบอกตอนที่เอมมันกดดูภาพที่เราสองคนเพิ่งถ่ายกันไป “ ถ่ายอีกพี่มึง เอาแบบว่า หยิกแก้มมั้ย ”

“ เดี๋ยว ” ผมสั่งเบรคก่อนจะเอื้อมมือไปจับคอเสื้อของอาฟที่เหมือนจะอยู่ในลักษณะที่มันไม่สวยสักเท่าไหร่ “ โอเค เสร็จแล้ว ”

“ ถ่ายแล้ว ” เอมบอกก่อนจะหัวเราะ แล้วหลังจากนั้นผมก็อาฟก็ถ่ายรูปคู่กันไปหลายรูป ทั้งท่ายืน ท่านั่ง ตามคำสั่งของเพื่อนที่ก็พยายามมากให้ภาพคู่ของเรามันออกมาในรูปแบบที่ไม่เกร็ง และดูว่ารักกันอย่างที่สุด และปิดท้ายเซ็ตสุดท้ายด้วยการถ่ายภาพคู่กับผมแบบเรียงคนและแน่นอนว่าภาพพวกนี้คุณอารยะคนที่เตรียมตัวมาตลอดเป็นคนกดถ่ายให้ โดยที่น้องเดย์น้องอัยย์บอกว่า จะเก็บไว้บูชาอย่างดี เนื่องจากเป็นอะไรที่หาได้ยากยิ่งมาก

“ ถ่ายรูปหมู่กัน ” วิวเอ่ยพูดตอนที่เรามายืนเบียดกันเป็นก้อนๆและแน่นอนว่าผมที่ได้ยืนอยู่ตรงกลาง เหมือนว่าจะเด่นกว่าใครเลย

เวลาสนุกสนานและรอยยิ้มเคลื่อนตัวไปเรื่อยจนเราไม่รู้ เวลาที่ผมต้องเข้าหอประชุมมาถึงแล้วประกาศของทางมหาลัยที่ดังอยู่ในขณะนั้น ผมตัดสินใจมือถือ พร้อมกับเงินจำนวนนึงในกรณีถูกบูมจากรุ่นน้องในตอนที่ออกจากหอประชุม

“ งั้นเดี๋ยวกูเข้าหอประชุมก่อนนะ ”

“ งั้นพวกเรารอแถวๆนี้นะพี่เมด ” น้องเดย์บอกในตอนนั้นอาฟก็ขมวดคิ้ว มันหันไปถามน้อง

“ พวกมึงจะรอทำไม ”

“ อ้าว แน่นอนว่าพี่เมดออกจากหอประชุม เราก็ต้องไปกินข้าวกันไง เลี้ยงบัณทิต ”

“ ค่อยเลี้ยง ” ร่างสูงว่าแบบนั้นก่อนจะบอกปัด “ กลับไปได้แล้วพวกมึงน่ะ ”

“ เชี้ย แม่งโคตรไล่ ไม่เหมือนเมื่อวานเลย ” เอมมันเสริมก่อนจะปั้นหน้าขรึมแบบที่อาฟชอบทำ “ พวกมึงต้องมาให้ได้นะ งานรับปริญญาเมด ใครมากูเลี้ยงเหล้าไม่อั้น ”

“ กูก็คิดว่าที่มา รักพี่กูกัน เปล่าจ้า แดกเหล้าล้วน ” วิวมันพูดยิ้มๆ “ กูเป็นพี่เมดกูดีใจตายเลย ”

“ แหมเด็ก มึงก็ต้องคิดด้วยนิดนึง พวกกูกว่าจะเลิกงานมันกี่โมงไปแล้ว ต้องตื่นเช้าแบบนี้ ความน่ารักของพี่เมดเป็นแรงจูงใจห้าสิบเปอร์เซ็นก็จริง แต่แน่นอนว่า เหล้าก็เป็นแรงจูงใจอีกห้าสิบเปอร์เซ็นด้วยเช่นกัน ” น้องอัยย์บอกพลางยักคิ้วให้น้องผมที่ก็ถอนหายใจออกมา

“ เหล้ากินได้ที่ throw up เลย ลงบิลกูไว้ ส่วนข้าวถ้าอยากแดกก็รอวันจริง เดี๋ยวเลี้ยงทีเดียว มีพ่อแม่กู แล้วก็พ่อแม่เมดด้วย ” อาฟว่า “ รับเสร็จก็คงเหนื่อยแล้ว มึงจะให้พาไปต่อไหนอีก ”

“ ห่วงใยเก่ง ” เจมันว่า

“ แต่นั่นก็จริงนะ ” น้องเดย์ว่า ก่อนจะเหลือบมองคนที่เหลือ “ งั้นพวกเราก็กลับก็ได้มั้ง แต่ใครจะรอพี่เมดละ ”

“ กูไง ” วิวมันยกมือ ในตอนนั้นร่างสูงก็แค่ยกมือพลางปัดแบบไล่

“ มึงก็กลับไป กูอยู่เอง กูว่าง ”

“ อ๋อ คือไม่ได้อยู่หรอกใช่ปะ แต่ว่าง ก็เลยอยู่แหละ เค เก็ต ” ยักไหล่ในประโยคท้ายซึ่งดีแค่ไหนแล้วไม่โดนไอ้อาฟถีบ “ งั้นวิวกลับกับพี่เจก็ได้ เราไปหาอะไรกินกันเนอะลุง ”

“ ง่ายๆงี้เลย ” คนที่โดนวิวกอดพูดยิ้มๆ “ งั้นก็ตามนี้ สัดอาฟรอเมดเนอะ เพราะว่าง ” หลุดหัวเราะออกมากับคำแซว ผมมองมันยิ้มๆ

“ มึงไปได้แล้วเมด ”

“ งั้นขอบคุณทุกคนที่มานะ เดี๋ยวเสร็จงานเราหาวันว่างกัน พี่เมดเลี้ยงข้าวเอง โอเค๊ ” ผมบอกทุกคนก็พยักหน้ารับพร้อมกับโบกมือบ๊ายบายให้กัน

“ ตั้งใจซ้อมน้าพี่เมดของน้องเดย์ ”

“ ของน้องอัยย์ด้วย ”

“ ครับผม ” ตอบรับเด็กๆไปแบบนั้น ผมหันมองอาฟ มันที่ยกนิ้วเป็นหูโทรศัพท์ขึ้นมา

“ โทรมาแล้วกัน ”

“ โอเค งั้นไปละ ” หันหลังเดินเข้าไปในหอประชุมหลังจากที่พูดประโยคนั้น

พิธีการเริ่มต้นขึ้นไม่นานหลังจากที่ทุกอย่างเรียบร้อย ผมนั่งสัปหงกอยู่หลายครั้งก่อนจะมาตื่นเต้นอีกครั้งในตอนที่ถึงคิวตัวเอง แต่ทุกอย่างก็ผ่านมาอย่างราบรื่น โชคดีที่ซ้อมรับมาแล้วจากที่บ้านก็เลยผ่านฉลุยไม่มีต้องซ้อมใหม่ จนสุดท้ายทุกอย่างก็จบลง

ผมเดินออกมาจากหอประชุมหลังจากที่ถูกปล่อยตัว และสิ่งแรกที่ทำก็คือการหยิบเอามือถือมาโทรหาคนที่รอกันอยู่เสียงรอสายดังอยู่นาน ก่อนที่อาฟจะกดรับ

“ อยู่ไหน ”

“ ข้างคณะมึง ” อีกคนตอบแบบนั้นผมก็ได้แต่ถอนหายใจ เพราะมันก็ไกลมากอยู่จากที่ที่ตอนนี้ผมยืนอยู่

“ มึงก็เล่นไปซะไกล ”

“ เร็วๆ ” อาฟมันเร่ง ผมก็ได้แต่พยักหน้ารับ

“ คร้าบบบบ จะไปเดี๋ยวนี้แหละคุณ ” เก็บมือก่อนจะก้าวเดินออกไปเรื่อยตามทาง

บรรยากาศของความสุขและเสียงหัวเราะดังอยู่ทั่วบริเวณ ทุกมุมที่ว่าสวยถูกจับจองถ่ายรูป ไม่ต่างจากเก้าอี้ดนตรีที่พอคนนึงถ่ายเสร็จ อีกคนก็เข้ามาถ่ายแทนที่ ผมยิ้มกับบรรยากาศโดยรอบตัว พลางคิดถึงเรื่องราวในตอนที่ตัวเองเป็นนิสิตปีหนึ่งของที่นี่ ความสุขในตอนที่สอบติดในวันนั้นผมรู้สึกว่ามันไม่ต่างจากวันนี้เลย มันเป็นทั้งความสุขและความภาคภูมิใจในตัวเองอยู่ลึกๆ

“ หล่อมากเลยเนอะ แฟนใครไม่รู้ ” เสียงที่สาวที่เดินผ่านผมเรียกความสนใจให้หันไปมอง ก่อนหันกลับมาเดินต่อแล้วก้าวตรงไปข้างหน้า ผมหยุดยืนอยู่ที่หน้าคณะ ที่ตอนนี้มีคนจับจองพื้นที่เป็นที่นัดหมายกันไว้แบบชนิดที่เต็มทุกโต๊ะ สายตาที่มองซ้ายมองขวาแต่กลับไม่เจอกับคนที่บอกว่ารอกันอยู่ ผมขมวดคิ้วก่อนจะหยิบมือขึ้นมาอีกครั้ง ผมโทรออก

“ จะโทรไปไหน ” เสียงทุ้มที่คุ้นชิน แต่พอหันไปด้านหลังกับพบช่อดอกไม้สีแดงถูกยื่นออกมาตรงหน้า ในช่วงวินาทีนั้นผมหุบยิ้มไม่ลงเลย แต่มันคงต่างกับอีกคนที่ยื่นมันมาให้ คุณอารยะหูแดงไปหมด ก่อนจะพูดสั้นๆ ทั้งๆที่หันไปมองทางอื่น “ รับไปสิ ”

“ ขอบคุณนะครับ ” ว่าแบบนั้นก่อนจะรับมันมา “ ก็ว่าทำไมไล่เพื่อนกลับไปหมด เพราะเค้ามีของขวัญนี่เอง ” แกล้งเย้ามันเล่นๆ พร้อมกับรับช่อดอกสีแดงช่อโตนั้นเข้ามากอด แต่เหมือนคนตรงหน้าจะยังเขินไม่เลิก คนหลายคนหันมามองมัน

“ คนแม่งจะมองกูทำไมเยอะแยะ ”

“ ก็แฟนกูหล่อ ” ยักคิ้วให้ อีกคนก็หันมามองกัน อาฟถอนหายใจในตอนที่มองผม

“ รู้มั้ย ว่านี่คือดอกอะไร ”

“ กุหลาบ ” ตอบแบบไม่มั่นใจเท่าไหร่เพราะมันก็เหมือนจะใช่แล้วก็เหมือนจะไม่ใช่ รูปทรงไม่ใช่กุหลาบแบบตอนที่ใครๆได้รับตอนวันวาเลนไทน์เท่าไหร่

“ อื้ม กุหลาบพันปี ”

“ มีความหมายมั้ย ”

“ ไม่รู้ ” อาฟยักไหล่ ก่อนจะหันไปทางอื่นอีกคนถอนหายใจ พร้อมกับรวบรวมความกล้าทั้งหมดเพื่อพูดอะไรสักอย่างกับผม “ เมด ”

“ ว่าไง ” ตอบแบบนั้นก่อนจะเอื้อมมือไปจับมือมัน สายตาคมนั้นเหล่มองกัน

“ กูไม่รู้ความหมายของกุหลาบพันปีนะ แต่โทรไปปรึกษาแม่มา แม่บอกว่ากุหลาบคือตัวแทนของความรัก แม่ให้ซื้อดอกกุหลาบให้มึง เพราะงั้นกูคิดว่ากุหลาบพันปีน่าจะดีที่สุด เผื่อเราจะได้รักกันไปถึงพันปี ”

“ เหรอ ”

“ ดีใจด้วย ที่เรียนจบ ” ว่าแบบนั้นด้วยหูที่แดงไปหมด ผมพยักหน้ารับอีกคนก็หันมามองกัน “ ไม่กอดอะ ”

“ กอด ?  กอดทำไม ”

“ มึงทำแบบนั้น ตอนที่ไอ้เดย์ ไอ้อัยย์ แล้วก็ไอ้วิวให้ของขวัญมึง ”

“ มึงแม่ง” ดึงตัวเองเข้าไปกอดอีกคน ในตอนนั้นอาฟที่จูบลงที่ไหล่ของผม เรายิ้มกว้างให้กันแบบที่ต่างฝ่ายก็ต่างไม่ให้ใครได้เห็น “ ขอบคุณนะครับ สำหรับทุกอย่างเลย ”

“ อื้ม ”

“ ว้ายยยยยยย  เราเห็นแล้วละ” เสียงดังที่ผสานกันของคนที่คิดว่ากลับไปแล้วกรูกันเข้ามาหาผมแล้วก็อาฟที่ยืนกอดกันอยู่ เราผละออกจากกันในวินาทีที่รู้ตัวหลังจากนั้นไม่ต่างอะไรกับต้องของร้อน ผมเหลือบเห้นมือถือที่ถ่ายรูปของเราไว้โดยช่างกล้องคนก่อน พร้อมกับน้องเดย์น้องอัยย์ที่ก็กอดกันกลมและแสดงท่าทางเลียนแบบเราสองคนเมื่อครู่

“ ดีใจด้วยที่เรียนจบ ” น้องอัยย์มันพูดเสียงทุ้มในแบบของอาฟ และแน่นอนว่าตอนนั้นน้องดย์ก็กอดเพื่อนตัวเองไว้แน่นเพื่อเลียนแบบผม

“ ขอบคุณนะครับ ”

“ พวกเหี้ย ” กลายเป็นว่าทั้งผมทั้งอาฟถึงขั้นต้องสถบออกมา แล้วหันไปอีกทางในตอนที่เจยกยิ้มแล้วหัวเราะเรา

“ ทำเป็นไล่พวกกู ทั้งๆที่จริงก็เตรียมดอกไม้ไว้ให้เค้า แต่ก็เขินเหลือเกินไม่กล้าเอามาให้ตรงๆ มีความสั่งให้เอามาส่งตอนที่พวกกูกลับไปแล้วด้วยนะ มองจากมุมกูคือชัดสุด ”

“ ฉากดมดอกไม้ด้วยความรักคือกูถ่ายเห็บไว้ล้อมันยันห้าสิบ ” เอมเสริม

“ แล้วเสือกไรกับมึง ”

“ ครับๆ คนฟอร์มเยอะ ”

“ แต่หวานมากเลยเอาจริง ” วิวมันพูดยิ้มๆ “ ฉากยื่นดอกไม้ ฉากกอด ก็คือพี่เอมถ่ายไปประมานสามร้อยรูปได้ ”
“ ฉากนั่งรออีกร้อย ” เอมมันว่า “ นั่งรอแบบ นั่งรอจริงๆ นั่งไม่ไปไหนเลย มือถือก็ไม่เล่น กลัวแบตหมด พาวเวอร์แบงค์ก็ไม่มี น่าสงสาร ”

“ จริงเหรอ ” หันไปถามอาฟในตอนที่ได้ยิน อีกคนที่ก็แค่ยกไหล่

“ มึงเชื่อคนอย่างพวกมันได้ด้วยเหรอ ” บอกกันแค่นั้น แต่ก็เขินกันมากมาย จนต้องคว้ามือผมมาจับกันไว้แน่น อาฟก้าวนำออกไปเหมือนว่าอยากจะหนีไปให้ไกลจากพวกชอบแซวที่ทำให้ตอนนี้หัวใจเรามันเต้นระส่ำ

“ นี่ ”

“ อะไร ”

“ ขอบใจที่มานะ ” ผมบอก อาฟก็ผ่อนเท้าที่กำลังจะเดินให้ช้าลง มันหันไปเหลือบมองกลุ่มเพื่อนที่เดินตามมาแบบไม่ใกล้กันเท่าไหร่ เพราะแน่นอนว่าเอมกำลังถ่ายรูปเราที่กำลังเดินจับมือกันอยู่

“ กูก็แค่ว่างอยู่แล้ว ”

“ เออนั่นแหละ ” ตอบรับคำอ้างนั้นก่อนจะยิ้ม “ ขอบใจที่มึงมา ขอบใจที่มึงพาทุกคนมาเพราะกลัวว่ากูจะเหงาที่ไม่มีใครมายินดีด้วย ขอบใจที่ตั้งใจเรียนถ่ายรูปด้วยตัวเองเพื่องานของกู แล้วก็ขอบใจที่ตั้งใจอยากจะมาถึงขั้นไปซื้อเสื้อใหม่ ”

“ กูบอกว่า..”

“ ขอบใจนะมึงที่ดูแลกันมาตั้งแต่ตอนที่รู้จักกันวันแรก จนถึงวันนี้ ขอบใจที่มึงคอยอยู่ข้างๆกันมาตลอดเลย ” ร่างสูงที่ฟังคำนั้นหยุดฝ่าเท้าที่กำลังเดินตรงไปของเรา ตรงหน้าส่วนจอดรถที่ไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่ เรายิ้มให้กัน “ มึงไม่ชอบอยู่ในที่ที่คนเยอะแต่มึงก็มา ไม่ชอบนั่งคอยใครนานๆแต่มึงก็คอยกู ขอบคุณที่ทำเพื่อกูนะอาฟ ”

“ เพราะมันคือมึง ” แล้วนั่นก็เป็นคำตอบสั้นๆ ของคนที่ยืนอยู่ข้างกันและทำสิ่งมากมายเหล่านั้นให้ด้วยใจแบบที่ไม่ต้องร้องขอ ทำให้แม้ว่านี่จะไม่ใช่ตัวตน และ ทำให้เพราะแค่รู้ว่าผมจะมีความสุขยิ่งกว่าใครในวันสำคัญนี้ “ รู้ใช่มั้ย ว่ากูอยากจะให้มึงมีความสุขมากที่สุด ”

“ รู้ ”

“ อื้ม ” ใบหน้าคมยื่นเข้ามาใกล้กันในตอนนั้น ผมหลับตาลงพร้อมรับจูบอบอุ่นจากริมฝีปากบางของคนตรงหน้า เสียงดังเบาๆในตอนที่เราสัมผัสกัน อาฟผละออก เรายิ้มให้กัน “ มึงรู้แล้วก็ดี ”


ในตอนนั้น ผมก็ได้แต่หวัง ว่าภาพจูบของเราจะไม่ถูกถ่ายไป โดยกลุ่มคนข้างหลังที่เฝ้ามองอยู่

......................................................................

สวัสดีปีใหม่ค่า

ทุกปีมีแค่คำอวยพร ปีนี้ทางหนมก็คือเตรียมของขวัญ ซึ่งก็คิดอยู่นานมากว่าจะเขียนพาสไหนดี
ไม่รุ้ทุกคนจำได้มั้ย แต่ผับชั้นสาม ลงตอนจบวันนี้ เมื่อปีที่แล้วเหมือนกันนะ เพราะงั้นก็ครบหนึ่งปีพอดีเลย
อีกอย่างพอดีได้กลับไปอ่านผับชั้นสาม ก็นึกคิดขึ้นมายังไม่มีพาสเลย ความอยากเขียนก็เลยประทุขึ้น แล้วกลายออกมาเป็นดอกผลให้ได้อ่านกัน
คิดถึงอาฟเมด และชาวผับชั้นสามมากจริงๆ

ท้ายนี้ ขอให้ปี 2020 เป็นปีที่ดีของทุกคนนะคะ
ขอให้เป็นปีแห่งความสมหวัง และความสุข ขอให้รอยยิ้มคงอยู่กับทุกคนไปตราบนานเท่านาน
ขอให้สุขภาพแข็งแรงกันถ้วนหน้า และเงินทองก็ไหลเข้ามาไม่มีขาด

สำหรับปีนี้ หนมมี่ผู้ใส่ซื่อ ก็ขอฝากตัว ฝากผลงานด้วยนะคะ 

สวัสดีปีใหม่ค่ะ

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
อาฟน่ารักจริงๆเลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ chaoyui

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
ข้ออ้างเยอะจริงๆพ่อคู๊ณณณณ ฮ่าๆๆๆ
ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษด้วยนะคะ สวัสดีปีใหม่ค่าา

ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
สวัสดีปีใหม่นะคะ :L1:

ออฟไลน์ arjinn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-1
อาฟ อารยะ ก็ยังเป็นอาฟ อารยะ

ขอบคุณนะคะ รอเรื่องใหม่ค่ะ

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ขอขำคุนอารนะแพ้บ  แต่น่ารักอ่ะ
คิดถึงทุกคนเลย

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
สัสพี่อาฟ


น่ารักเว๊ยเฮ๊ยยย

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
อาฟคือแฟนที่น่ารักมากกกกกกกกกกกกก

 :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ wildride

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 105
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
 o13
 บอกกงๆว่าอยากได้ความรักของสัดพี่อาฟอารยะของน้แงเมดคนเน้

 ((เอาแต่ความรักนะ ไม่เอานิสัยปากคอเราะร้าย))

 :call:

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5

ออฟไลน์ ตัวยุ่ง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 66
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
พ่อคนปากแข็ง พ่อคนซึน ทำให้เขาขนาดนี้ยังทำเก๊กนะพ่อนะ หวานซะอิจฉาตาร้อนผ่าวมากค่า

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด