KING ที่ 20 คิสนี้เพื่อเธอ (ต่อ) " น้องฟา เซ็กซี่สุดๆ เลยค่ะ " พี่ช่างแต่งตัวชูสองนิ้วให้ผม แต่ผมก็แทบจะไม่อยากออกไปเลย กูโดนแน่ๆ เละแน่ๆ
ผมมองชุดคอเต่าแขนกุดสีครีมแนบเนื้อในกระจก และพยายามดึงชายกระโปรงสั้นๆ ให้ยาวลงมาอีกนิด ส่วนทรงผมในวันนี้ก็เป็นผมยาวแบบม้วนลอนหลวมๆ แบบมีวอลลุ่ม แต่งหน้าติดขนตาจัดเต็ม นี่จะไปเป็น MC หรือพริตตี้แน่ฟะ
ผมค่อยๆ เดินออกไปเกาะประตูห้องแต่งตัว พลางเหลือบมองไปรอบๆ บริเวณ สงสัยจะนานเกินไป มันเลยไม่รอแล้วมั้ง ถ้ากลับไปแม่งจะดีใจมาก
ผมที่เห็นทางโล่งสะดวก ก็ค่อยๆ ย่องออกมาด้วยรองเท้าส้นแหลม จริงๆ ไม่ค่อยชอบใส่สูงขนาดนี้เลย แม่งโครตจะเมื่อย
แต่ผมที่เดินอยู่นั้นก็เจอไอ้ตัวที่ผมอยากซ่อนอยู่พอดี อ้ากกก เอาไงเอากันวะ
ผมมองไอ้ธีร์ที่กำลังดื่มกาแฟในกระป๋องพลางมองออกไปนอกกระจกบานใหญ่ของร้าน มันยังไม่เห็นผมครับ แต่จะแอบไปก็ไร้ประโยชน์ ผมจึงค่อยๆ เดินเข้าไปหามัน ที่ยังคงเหม่อมองไปด้านนอกอยู่
" ธีร์ " ผมเรียกมันเบาๆ และรอคอยฟังคำสวดอย่างใจเย็น
และทันทีที่ผมส่งเสียงเรียก มันก็ค่อยๆ หันมาช้าๆ และก็นิ่งชะงักค้างอยู่อย่างนั้น
' กร้อบบ! '
ผมมองกระป๋องกาแฟที่แหลกคามือมันไปเรียบร้อย ต่อไปที่จะแหลกก็คือกูสินะ อ้ากกก
" อ้าว เสร็จเรียบร้อยแล้วเนอะ จะไปรถตู้กับพี่หรือจะไปกับเพื่อน " พี่เรียวเหมือนกับเทพบุตรมาโปรดจริงๆ อ้ากก ช่วยฟาด้วยย
" ฟาจะไปกับผม " ผมมองไอ้ธีร์ที่พูดกัดฟัน โอ้ยยย กูอยากไปกับพี่เรียวโว้ย
" ฮ่ะๆ โอเค เจอกันที่งานนะฟา เข้าไปที่บูธได้เลย ทุกคนรออยู่ " พี่เรียวพูดพลางขยิบตาให้ผมและเดินออกไปจากร้าน
ผมตอนนี้เหมือนกับตัวหดเหลือแค่นิดเดียว ยิ่งไม่มีใครอยู่ช่วยด้วยแล้ว แม่งน่ากลัวอ่ะ
" แค่งานนี้พอแล้วนะ ได้ยินไหม " ผมที่คิดว่ามันจะด่า แต่ก็ผิดคาด ผมเงยหน้ามองมันพลางยิ้มน้อยๆ อย่างสบายใจ
" บ่นเป็นตาแก่หวงลูกสาวไปได้ " ผมแกล้งบ่นอุบอิบพลางหยิบกระเป๋าเป้และเดินนำหน้ามันออกไป แต่ก็ถูกมันแย่งไปถือซะก่อน
" เออธีร์ " ผมที่นึกขึ้นได้ก็หันมาหามัน
" อะไร " มันพูดพลางหน้ามุ่ยเหมือนเดิม หนอย ไม่พูดว่าครับเหมือนเดิมเหรอ ตามอารมณ์สินะ โถๆ
" สนใจอยากคอสเพลย์ป่ะ " ผมพูดพลางทำตาเป็นประกายมองมัน ผมว่ามันยอมแน่ๆ มันตามใจผมจะตาย หึหึ
" ไม่! " มันพูดพลางเดินหนีไปขึ้นรถ โดยไม่เปิดประตูให้ผม หนอย ทำไมทีงี้พูดยากวะ
" โหยย เถอะน่า ลองดูๆ " ผมรีบขึ้นมาบนรถ และเขย่าแขนอ้อนมันต่อ
" ตลก ไม่เอา ทุเรสจะตายชัก " ผมเริ่มจิกตาเคืองๆ แต่ก็ยังเกาะเบาะหันไปจ้องกดดันมันอยู่ มึงอย่ามาดูถูกชุมชนกูนะโว้ย
" ทุเรสอะไร มึงหล่อจะตาย ใส่อะไรก็ดูดีหมดอ่ะ " ผมพูดแบบใส่อารมณ์ แต่เดี๋ยวนะ
ผมมองมันที่ตอนแรกก็หน้ามุ่ยสุดๆ แต่ตอนนี้สีหน้ากลับเริ่มอ่อนลง และดูลุกลี้ลุกลนแปลกๆ
" หล่อมากไหม " มันพูดพลางยิ้มน้อยๆ อ้ากกก นี่กูพูดอะไรออกป๊ายยย
ผมรีบกลับมานั่งดีๆ และหันหน้าหนีมันออกไปนอกหน้าต่าง
" ก็..ใช้ได้ " ผมพูดและไม่สบตามัน ทำไมกลายเป็นบรรยากาศมุ๊งมิ๊งได้ฟะ หึ่ยยย
" ถ้าขอร้องขนาดนั้น จะลองเอาไปคิดดูก็ได้ " ผมหันควับไปจิกตามองมันที่กำลังขับรถแบบอารมณ์ดี หนอยย ไอ้คนหลงตัวเอง
ไม่นานพวกเราก็มาถึงห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ผมที่เหลือเวลาไม่มากนั้นก็รีบวิ่งแทบจะตีนเปล่าเข้าไปในงาน ซึ่งตอนแรกนั้นผมคิดว่าเป็นงาน MC ในบูธเครื่องสำอางค์แค่แบรนด์เดียวแต่ที่ไหนได้ อ้ากกก
ผมมองฮอลล์จัดงานที่กว้างเหลือเกิน และกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปยังบูธที่ผมต้องไปประจำอยู่
" อย่าวิ่ง เดี๋ยวขาแพลงไปทำไง " ไอ้ธีร์ที่วิ่งตามผมมาตลอด พลางถือเป้ผมก็คอยจะดึงผมไม่ให้วิ่งเร็วเกินไป แต่กูสายแล้วโว้ย ขนาดเผื่อเวลานะเนี่ย
' นั่นน้องฟ้า '
' สวยมากกก '
' คนติดตามนั่นใครอ่ะ หล่อสุดๆ '
ผมเริ่มหายใจหอบและในที่สุดก็แหวกฝูงชนเข้าไปยืนประจำที่ของตัวเองได้สักที ฟู่วว
ผมก้มหัวยิ้มทักทายบรรดา MC บูธเดียวกัน และส่วนมากก็ยิ้มตอบรับผม แต่ก็มีบางคนที่เหลือบมองผมและทำชักสีหน้าใส่ ซึ่งผมชินแล้ว มีคนชอบก็มีคนเกลียดเป็นปกติ และทุกคนที่ยืนเรียงกันนี้ทั้งหมดแน่นอนว่าเป็นผู้หญิงครับ นอกจากผม เหอะๆ
ผมยืนส่งยิ้มมองบรรดาผู้คนที่เริ่มเข้ามาเลือกชมสินค้า และฟังการประชาสัมพันธ์จาก MC คนอื่นๆ ซึ่งผมนั้นสบายสุดที่ไม่ต้องพูดครับ แค่ยืนยิ้มสวยๆ และรับตังเหมือนทุกที แฮร่
" ผู้ชายคนนั้นเด่นมากอ่ะ หล่อจัง แต่น่าจะเด็กอยู่ "
" เด็กๆ ของโปรด แต่เขามาเฝ้าแฟนเขาป่ะ คนไหนนะ "
ผมมอง MC สองคนใกล้ๆ ผมที่กำลังพูดคุยกันและจ้องไอ้ธีร์ตาเป็นมัน มัน 18 เองนะเจ๊ พวกผู้หญิงนี่น่ากลัวจริงๆ
ผมมองไอ้ธีร์ที่ยืดกอดอกอยู่ไม่ไกล้ไม่ไกลจากบูธผม และก็ยืนจ้องผมตลอดเวลา เหอะ มึงจ้องกูขนาดนี้สิงเลยน่าจะดีกว่านะ
ผมยิ้มหวานให้คนที่เข้ามาขอผมถ่ายรูป และถือเครื่องสำอางค์โชว์ผู้คนที่เข้ามาฟังประชาสัมพันธ์ ซึ่งผมแปลกใจมากที่มีผู้ชายมางานนี้เยอะ พอๆ กับผู้หญิงเลยทีเดียว
" น้องสวยจังเลยครับ พี่ขอถ่ายเดี่ยวได้ไหม " ผมที่ยืนอยู่ก็ถูกตากล้องคนหนึ่งจีบซะแล้ว
ผมมองพี่เรียวที่ยืนอยู่ใกล้ๆ และพี่เขาก็พยักหน้าเป็นสัญญาณว่าโอเค ผมจึงเดินออกจากบูธเล็กน้อยและโพสท่าถ่ายรูปแบบปกติ ก็คือเท้าเอวเอียงตัวเล็กๆ
" สวยมากครับ พี่ขอเอียงตัวอีกนิดได้ไหม " ผมก้าวถอยหลังทันทีที่ไอ้บ้านี่ยื่นมือมาจับแขนผม
" ทำอะไร " ผมมองไอ้ธีร์ที่มาจากไหนก็ไม่รู้ เข้ามาปัดมือไอ้ตากล้องนั่นอย่างรวดเร็วจนผมยังตกใจ ฉิบหายละ
" อะไรวะ " ไอ้ตากล้องนั่นหันไปทำหน้าไม่พอใจใส่ไอ้ธีร์ทันที
" ขอโทษครับ แต่ห้ามจับน้องนะ " พี่เรียวที่เห็นท่าไม่ดีก็รีบเดินเข้ามาแทรกกลางและกันไอ้ตากล้องคนนั้นให้ออกห่างผม และไอ้บ้านั่นที่เห็นพวกเราคนเยอะกว่าก็เดินหนีไป แต่ยังไม่วายส่งยิ้มหวานให้ผม กูอยากฆ่ามึงจริงๆ
" พี่รู้ว่าหวง แต่แบบนี้อาจทำให้น้องบาดเจ็บหรือเสียงานได้นะ ใจเย็นหน่อย พ่อหนุ่ม " พี่เรียวพูดพลางวางมือที่ไหล่ไอ้ธีร์ นี่พี่พูดอาร๊ายย โอ้ยย
" ครับ " ไอ้ธีร์ที่เคยมีสีหน้าปรปักษ์บัดนี้อ่อนลงกับพี่เรียวอย่างชัดเจน หึ่ย ไม่รู้ด้วยแล้ว ไอ้พวกบ้า
" เอาล่ะค่ะ ต่อไปจะเข้าสู่ช่วง กิจกรรม ' คิสนี้เพื่อเธอ ' ขอเชิญทุกท่านร่วมสนุก ร่วมประมูลรอยคิสจาก MC สุดน่ารักของเรากันเลยนะคะ " ผมที่ได้ยินเสียงโฟนของเพื่อน MC ก็สะดุ้งขึ้นทันที เฮ้ยยย มันมีกิจกรรมบ้าๆ แบบนี้ด้วยหร๊า อ้ากกก ไม่อ๊าวว หนูไม่อยากจูบคนแปลกหน้า
ผมหน้าเสียทันทีและเหลือบมองพี่เรียวที่แอบขำท่าทีของผมอยู่ หนอย รู้อยู่แล้วใช่ม๊ายย ไอ้พี่บ้า
แล้วทำไมพวกแกสองคนสนิทกันไวจังฟะ ผมมองไอ้หอกธีร์ที่กำลังคุยกับพี่เรียวด้วยสีหน้าจริงจัง ไอ้พี่เรียวอย่าไปบอกอะไรมันนะเฮ้ยย อ้ากกก โดนเผาแน่กู
ผมเลิกสนใจไอ้พวกบ้านั่นและหันมาหวาดผวากับการประมูลรอยจูบ ผมมอง MC ทีละคนที่ขึ้นไปยืนบนแท่นพลางถือลิปสติกของแบรนด์และรอให้ผู้เข้าร่วมชูป้ายยกมือเพื่อประมูลราคารอยจูบ ซึ่งแต่ละคนก็สู้กันถึงพริกถึงขิงเลยทีเดียว อื้อหือ แม่งเผลอๆ แพงกว่าราคาลิปสติกรวมกันทั้งบูธอีกนะเนี่ย
และแล้วก็ถึงเวลาผมขึ้นเขียง อ้ากกก ผมหันไปมองพี่เรียวบ่อยครั้ง ผมอยากถอนตัว แบบนี่หนูไม่อ๊าวว ผมเดินขึ้นไปบนแท่นและก็ต้องพยายามฝืนยิ้มสุดจะทน ขอให้คนประมูลเป็นสาวๆ น่ารักด้วยเถอะ อย่าเป็นตาแก่หรือลุงลามกเล้ย ผมภาวนาในใจ
" เอาล่ะค่ะ MC คนสุดท้าย ขวัญใจเหล่าโอตาคุทั้งหลายเน็ตไอดอลสาวสวยที่ทุกคนน่าจะรู้จักกันดี น้องฟ้า นางฟ้าของเราจะปิดท้ายการประมูลสุดพิเศษ กติกาการประมูลจะต่างกับ MC คนอื่นๆ นะคะใครที่ซื้อลิปสติกและมียอดการซื้อถึงเกณฑ์ ถึงจะมีสิทธิ์เข้าร่วมการประมูลรอยคิสนี้เท่านั้นค่ะ เริ่มได้เลยค่า "
ผมกวาดตามองไปรอบๆ งาน เอ้ย อย่าเงียบสิวะ ใครก็ได้ช่วยประมูลให้ผมแลดูมีคุณค่าสักนิดเต๊อะ ฮืออ
" 10 แท่ง รอยคิส 10,000 ครับ " การประมูลเริ่มขึ้นแล้วและราคาก็สูงปรี๊ดตามคาด แต่จะดีมากถ้าไม่ใช่ไอ้หอกนี่ โอ้ยย คนอื่นสู้หน่อยเร้ว ผมมองไอ้ตากล้องหื่นนั่นที่ยกมือหรา นี่มึงเอาเรื่องเหมือนกันนะเนี่ย
" 30 แท่ง รอยคิส 50,000 " ผมตาโตมองไอ้คนที่อยู่ดีๆ ก็ยกมือร่วมประมูล โอ้ยย ไอ้พี่เรียว อย่ามาปั่นนะโว้ย
ผมส่งสายตาอาฆาตไปหาไอ้พี่เรียวที่แม่งโก่งราคาจนเวอร์ นี่ถ้าไม่มีใครสู้แม่งต้องจูบกันเองนะ หึ่ยย
" 50 แท่ง รอยคิส 100,000 " ผมมองตาแก่คนหนึ่งที่ยืนนิ่งๆ อยู่นานแต่แม่งใจว่ะ โอ้ยย ใครก็ได้ล้มประมูลมันทีกูเกลียดหนวดมั๊น
" 200 แท่ง รอยคิส 500,000 " ผมชะงักมองคนคนหนึ่งที่โผล่ออกมาด้วยความตกใจ และคนที่ตกใจไม่แพ้ผมก็คือไอ้ธีร์ ที่ตอนนี้กำลังทำหน้าเคร่งเครียดจนคิ้วแทบจะขมวดเป็นปม
" โอ้โห ราคาการประมูลตอนนี้เริ่มจะหยุดไม่อยู่แล้วนะคะ นี่มันงานประมูลคิสหรืองานประมูลตัว MC กันแน่คะเนี่ย " ผมไม่ได้สนใจคำบรรยายของ MC แต่กำลังจ้องมองคนที่ประมูลคิสผมด้วยราคาสูงลิ่ว ไอ้ธีร์ นี่มึงกับพี่ชายมีความแค้นอะไรกันมาก่อนหรือเปล่าฟะ มันจะซื้อลิปสติกไปถมที่หรือไง
" เหมาทุกแท่ง รอยคิส 1,000,000 " ผมที่ตอนแรกก็ว่าตาโตแล้วตอนนี่ตาแทบจะทะลักออกมา อ้ากกก ราคาแทบจะซื้อบ้านได้แล้วนะโว้ย มึงจะบ้ากันไปไหน และก็ไม่มีใครที่จะบ้าได้ขนาดนี้ นอกจากไอ้แฟนบ้าของผม
ผมมองไอ้ธีร์ที่ยกมือขึ้นสูงและเดินออกมาประจันหน้ากับพี่ชายตัวเอง
" ฮ่ะๆ พี่ยอมแล้ว แหม ธีร์เนี่ยเอาจริงเอาจังไปได้ " ผมมองไอ้ธีร์และพี่ชายที่กำลังคุยกัน
" ผมก็แค่ ไม่อยากให้แฟนต้องไปจูบใคร " ผมหน้าขึ้นสีทันทีที่ได้ยินแบบนั้น และผู้คนรอบๆ ก็เริ่มซุบซิบกันเสียงดัง นี่มึง ไอ้บ้า โอ้ยย พูดอะไรฟะ กูจะเป็นลม
" ไม่มีใครสู้แล้วใช่ไหมคะ เอาล่ะค่ะ เราได้ผู้ชนะการประมูลของเราแล้วค่ะ ขอเชิญขึ้นมารับรางวัลเป็น MC เอ้ย รอยคิสจาก MC คนสวยของเรากันเลยค่า " ผมเหลือบมองยัย MC ปากเสีย พลางมองไอ้หอกธีร์ที่ค่อยๆ เดินขึ้นมาช้าๆ อ้ากกกก นี่กูต้องจูบมึงจริงๆ เหรอ กูจะบ้าตาย
" ผมขอไมค์หน่อยได้ไหมครับ " ผมมองมันที่หันไปหา MC คนที่ถือไมค์และขอไมค์มา โอ้ยย นี่มึงจะเล่นอะไรอี๊กก กูไม่ไหวแล้วนะ ฮืออ
" ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ผมขอเลือกจุดที่จะให้คิสได้ไหมครับ " หลังจากไอ้ธีร์พูดจบ เสียงกรีดร้องและเสียงเชียร์ก็ดังลั่นสนั่นฮอลล์ อ้ากกกก มึงพูดอาร๊ายยย
" ปาก ปาก ปาก!! "
อ้ากกกกก ผมอยากจะเอาหัวมุดใต้เวทีซะเดี๋ยวนี้ื ไอ้พวกที่ร้องเชียร์มึงหุบปากไปเลยเฟ้ย งือออ มี๊จ๋าฟาจะเสียเฟิร์สคิสไปแล้ว
" ได้ยินแล้วใช่ไหม " ไอ้ธีร์หันมามองผมพลางขยับเดินขึ้นมาเข้าใกล้ผมมากขึ้นอีกนิด
ผมกลืนน้ำลายลงคอ เกร็งตัวนิดๆ ด้วยความอายและตื่นเต้น นี่มึงเอาจริงเหรอ ไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม
ท่ามกลางเสียงกรี๊ดและเสียงเชียร์ที่ยังคงดังก้องต่อไป แต่โสตประสาทและการรับรู้ของผมนั้น ตอนนี้มันช่างเงียบสงัด ผมจ้องมองเข้าไปในแววตาของคนตรงหน้าที่ค่อยๆ เลื่อนตัวและใบหน้าอันหล่อเหลานั้นเข้ามาใกล้ ทีละนิด ทีละนิด จนได้ยินเสียงลมหายใจอันสม่ำเสมอ และร้อนแรงจนใบหน้าของผมแดงเหมือนจะลุกไหม้
ผมหลับตาลง เตรียมรับสัมผัสที่ผมนั้นไม่เคยได้ลิ้มลองมาก่อน มันคงจะไม่เป็นอะไรใช่ไหม ทำไมผมถึงได้ใจเต้นขนาดนี้
ชั่วขณะที่ริมฝีปากของผมได้แตะลงบน เอ่อ... เดี๋ยวนะ
ผมขมวดคิ้ว และลืมตาขึ้นมองสิ่งที่ริมฝีปากของผมสัมผัสอยู่ตอนนี้
มันไม่ใช่สัมผัสนุ่มนิ่มของริมฝีปากคนตรงหน้า แต่กลับเป็นสัมผัสนิ่มๆ จากเนื้อผ้าชั้นดี ที่คนตรงหน้าใส่ต่างหาก ผมกำลังจุมพิตลงที่ปกคอเสื้อสีขาวของคนตรงหน้า จนบนผิวผ้านั้น ปรากฎรอยคิสสีแดงจารึกไว้อย่างเด่นชัด
" จะไม่ซักเสื้อตัวนี้อีกเลย " ผมมองคนตรงหน้าที่ส่งรอยยิ้มอย่างอ่อนโยนมาให้
ผมหัวใจสั่นไหว นิ่งชะงักกับสิ่งที่เกิดขึ้น ทำไมถึงไม่ใช่ที่ริมฝีปากงั้นเหรอ ทำไมมึงถึงได้ อ่อนโยนและปกป้องกูขนาดนี้
ผมมองแฟนของผมที่ตอนนี้ยิ้มมากขึ้นและทำท่าจะหันหลัง ก้าวลงจากเวที
เสี้ยววินาทีนั้น ผมตัดสินใจเอื้อมมือออกไป ดึงคนตรงหน้าไว้ให้หันกลับมา และยื่นหน้าเข้าไปประทับริมฝีปากลงที่ตรงแก้มของคนที่ผมอยากจะมอบมันให้
" แบบนี้สิ ถึงจะคุ้มกับ 1 ล้าน " ผมพูด และยิ้มให้มันที่ทำหน้าเหมือนกับว่า
โลกใบนี้มันช่างสวยงามจริงๆ