-๒-
ข้อตกลง
คอนโดหรูสูงระฟ้าใจกลางเมืองหลวง
หลังจากผ่านช่วงเวลาแห่งความสุขสมกันอย่างยาวนานตลอดทั้งคืน เงินและเจฟฟี่ก็นอนกอดก่ายกันอยู่บนเตียงขนาดคิงไซส์ ภายในห้องนอนหรูชั้นบนสุดของตึก ด้วยฤทธิ์ของยาปลุกเซ็กส์ทำให้แขกผู้มาเยือนออดอ้อนชายหนุ่มเจ้าของห้องตลอดทั้งคืน จนทนความต้องการไม่ไหวยัดเยียดความเป็นชายให้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนระบมไปทั่วทั้งร่าง
“อือออ”
ร่างเล็กเริ่มรู้สึกตัวเปลือกตาค่อยๆเปิดขึ้นมาอย่างเชื่องช้า กะพริบถี่หลายครั้งเพื่อปรับสภาพ จากนั้นดวงตาคู่สวยก็เปิดเต็มที่ ก่อนจะมองเห็นโคมไฟหรูที่แขวนบนเพดานห้องที่ไม่คุ้นตา เมื่อมองไปข้างๆก็พบกับร่างกำยำที่กำลังนอนล่อนจ้อน เจ้าตัวสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจแล้วลุกขึ้นนั่งทันที แต่ด้วยความสะบักสะบอมจากการร่วมกิจกรรมรักเมื่อคืนที่ผ่านมา ถึงกับร้องโอดโอยด้วยความปวดระบมที่มันแผ่ซ่านไปทั่งทั้งร่าง โดยเฉพาะส่วนล่างที่ขยับตัวแทบจะไม่ได้
“โอ๊ยยย!! ทำไมเจ็บอย่างนี้วะเนี่ย” ร้องโอดครวญพร้อมกับดึงผ้าห่มมาปิดร่างอันเปลือยเปล่าไว้ สายตาก็จ้องมองชายหนุ่มที่กำลังนอนหลับเป็นตาย ก่อนจะใช้เท้าสะกิดที่บริเวณเอวเพื่อปลุกให้ตื่น
“อื้อออ อย่ากวนคนจะนอน” ว่าพร้อมกับเอื้อมมือหนารั้งตัวเข้ามากอด เพราะเข้าใจว่าอีกฝ่ายเป็นหมอนข้าง
“เอามือสกปรกของนายออกไปเดี๋ยวนี้นะไอ้สารเลว ลืมตาขึ้นมาดูว่านายทำบ้าอะไรกับฉันบ้าง” เจ้าตัวตะโกนเสียงดังอย่างไม่ไว้หน้า
“จะโวยวายทำไมครับน้องเงิน เมื่อคืนยังร้องให้พี่ช่วยอยู่เลย” พูดแล้วแสยะยิ้มที่มุมปากอย่างพอใจ เมื่อคืนยอมรับว่ามันเป็นการมีเซ็กส์ที่สุดยอดมาก อาจจะเป็นเพราะได้เชยชมคนที่เคยตะล่อมมานานหลายเดือน และส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะอีกฝ่ายโดนวางยาปลุกเซ็กส์มาเลยทำให้มีส่วนร่วมอย่างเต็มที่
“นายพูดบ้าอะไร” เงินพยายามนึกถึงเรื่องราวเมื่อคืนที่ผ่านมา จำได้ว่าโดนไอ้เสี่ยเจียงวางยาแล้วก็ออกมานั่งร้องไห้ขี้มูกโป่งอยู่ข้างผับ และหลังจากนั้นก็เจอกับ.....ไอ้นี่ ไม่นะ! หรือว่าเพราะยานั่น...
“จำได้แล้วใช่ไหมล่ะครับ หึๆ” นอนตะแคงข้างเท้าแขนหนุนศีรษะอยู่บนเตียง สายตาก็โลมเลียที่ผิวขาวๆบริเวณเนินอกอย่างหื่นกระหาย
“ไอ้คนไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษ ไอ้เลว ฮือๆๆ” เจ้าตัวคิดคำด่าไม่ออก เพราะส่วนหนึ่งมันก็เป็นความผิดของตัวเองจริงๆ จะทำยังไงดีล่ะทีนี้ ตกงานแถมยังมาเสียตัวให้ไอ้หื่นบ้านี่อีก วันนี้เป็นวันซวยของเขาหรืออย่างไรเนี่ย
“อย่าร้องเลยครับคนดี เดี๋ยวพี่จะรับผิดชอบเองนะไม่ต้องห่วง” ร่างกำยำที่ไร้ซึ่งอาภรณ์ทะยานตัวเข้ามากอด
“หยุดอยู่ตรงนั้นเลย! แล้วก็ลุกขึ้นไปใส่เสื้อผ้าซะฉันอุบาทว์ลูกตา” ชี้หน้าอีกคนก่อนจะมาถึงตัว เขาขยะแขยงนายนั่นเต็มทนแล้ว
“แหมทำเป็นมองไม่ได้ ทีเมื่อคืนยังอ้อนพี่อยู่เลย พี่ครับช่วยผมด้วย พี่ครับเอาแรงๆเลย” เจฟฟี่ยั่วโมโหอีกฝ่ายอย่างกวนๆ
“หุบปากเดี๋ยวนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะไอ้ยาบ้าๆนั่นฉันไม่มีทางทำอย่างนั้นแน่นอน”
“อย่าคิดให้มันปวดหัวเลยน้องเงิน ยังไงซะเราก็เป็นผัวเมียกันแล้ว ต่อไปนี้พี่จะเลี้ยงน้องเองไม่ต้องห่วง”
“ไม่มีทางโว้ย! เอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะเที่ยวเตร่ไปวันๆจะมีปัญญาดูแลใครได้” ที่กล้าพูดเพราะเห็นมาเที่ยวผับเมาหัวราน้ำเกือบทุกวัน ถ้าเป็นคนเอาการเอางานจริงๆคงไม่มาผลาญเงินพ่อแม่เล่นอย่างนี้แน่
“ทำไมน้องเงินดูถูกพี่อย่างนั้นล่ะ เอางี้ถ้าน้องเงินมาอยู่กับพี่ พี่รับรองว่าจะทำตัวใหม่เลยเอ้า”
“ทำไมฉันต้องรับปากนายด้วยล่ะ นายมันก็แค่เสือผู้หญิงที่หลอกฟันคนอื่นไปวันๆ ฉันมันซวยเองที่เป็นหนึ่งในเหยื่อของนาย”
“แต่พี่ชอบน้องเงินจริงๆนะ ไม่งั้นพี่ไม่ตามไปเฝ้าที่ผับตั้งหลายเดือนขนาดนั้นหรอก...เชื่อพี่นะครับ” มองด้วยสีหน้าจริงจังแต่โดนอีกฝ่ายเมินหน้าหนี
“พอๆๆฉันจะกลับบ้านล่ะ ถือว่าทำบุญทำทานให้หมูให้หมาละกัน” พูดแล้วจะลุกขึ้นแต่โดนเจฟฟี่คว้าตัวเอาไว้ได้ก่อน แล้วคร่อมตัวทับทาบไว้ทันที
“ปล่อยเดี๋ยวนี้นะไม่งั้นฉันจะร้องให้คนช่วย”
“โอ๊ยขำว่ะ พี่เพิ่งรู้ว่าน้องเงินเป็นคนตลก นี่มันในห้องพี่โว้ย จะมีใครหน้าไหนมาช่วยได้ มาเป็นเมียพี่ซะดีๆ” พูดแล้วก็โน้มใบหน้าลงไปซุกไซร้ที่ซอกคอขาวทันที เช้าๆอย่างนี้มันต้องจัดให้หนักซ้ำอีกครั้ง
“อ๊ากกก!! ปล่อยกูนะโว้ยยยไอ้บ้า”
*-*-*-*-*-*
ปลาวาฬนั่งจิตตกจ้องหน้าจอมือถืออยู่บนรถเมล์ ถอนหายใจซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยความเป็นห่วงเพื่อนรัก เมื่อคืนโทรไปหามีเสียงผู้ชายคล้ายคนเมารับสายพูดจาไม่รู้เรื่อง หลังจากนั้นก็ตัดสายแล้วปิดเครื่องไป นั่นทำให้นอนไม่หลับทั้งคืน ครั้นจะออกไปหาที่ผับก็กลัวคนของเสี่ยเจียงจะเล่นงานเอา ในใจตอนนี้กลัวว่าเพื่อนจะตกเป็นเหยื่อไอ้พวกนักท่องราตรีหื่นกาม รายนั้นสู้คนซะที่ไหนดีแต่ปากเก่งไปเท่านั้นเอง
รถเมล์จอดหน้าตึกหรูระฟ้าที่เคยมาสัมภาษณ์ครั้งก่อน เจ้าตัวยอมรับว่าดีใจมากที่จะได้เงินห้าล้านบาท แต่ก็หวั่นใจเพราะไม่รู้จะต้องเจอกับอะไรบ้าง ต้องไปอยู่กับคนที่ไม่เคยรู้จัก ไม่เคยเห็นหน้า ไม่รู้นิสัยใจคอมาก่อน หากเป็นพวกซาดิสม์จิตวิตถารขึ้นมามีหวังตกนรกทั้งเป็นแน่ๆ แต่ถึงยังไงซะก็ต้องอดทนให้ได้เพราะความจนมันน่ากลัวกว่านั้นเยอะเลย
เมื่อเดินมาถึงหน้าเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ เจ้าตัวก็ยิ้มก่อนจะเอื้อนเอ่ยบอกจุดประสงค์ที่มาในวันนี้
“สวัสดีครับผมมาพบคุณวรรธนพล”
“ไม่ทราบว่ามาติดต่อเรื่องอะไรคะ แล้วได้นัดกับท่านไว้รึเปล่า” ประชาสัมพันธ์สาวสวยถามด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“เมื่อวานมีคนโทรไปบอกให้ผมมาครับ เรื่องเอ่อ...รับจ้างตั้งท้องน่ะครับ” ประโยคหลังเจ้าตัวกลับพูดเบาๆเพราะรู้สึกอายที่จะให้คนอื่นๆได้รับรู้ด้วย
“อ๋อ คุณปลาวาฬนั่นเอง ตามดิฉันมาทางนี้เลยค่ะ” เมื่อรู้ว่าชายหนุ่มมาเพราะเรื่องอะไร เจ้าหล่อนก็ยิ้มให้ทันที ก่อนจะเดินนำหน้าไปที่ห้องทำงานของนักบิน
ปลาวาฬเดินตามหลังมาติดๆจนถึงหน้าห้องหนึ่ง ก่อนที่เจ้าหล่อนจะเคาะประตูห้องแล้วเอ่ยแจ้งกับคนที่อยู่ข้างใน
“ท่านคะคุณปลาวาฬมาถึงแล้วค่ะ”
“ให้เข้ามาได้” เมื่อได้ยินอย่างนั้นเธอก็หันมายิ้มแล้วเอ่ยเบาๆ “เชิญค่ะ”
“ขอบคุณครับ”
ปลาวาฬสาวเท้าก้าวเข้าไปในห้องด้วยความประหม่า ปกติแล้วเจ้าตัวไม่ใช่คนที่กลัวอะไรง่ายๆอย่างนี้ แต่วันนี้ขอเถอะมันตื่นเต้นฉิบหาย
“สะ...สวัสดีครับ” เจ้าตัวทำหน้าบึ้งรู้สึกไม่พอใจที่อีกฝ่ายไม่ให้เกียรติเอาซะเลย แขกมาเยือนยังจะมานั่งหันหลังให้ซะอย่างนั้น
“มาตรงเวลาดีนี่” เสียงเข้มเอ่ยอย่างสบายๆ
“ผมเป็นคนที่ตรงต่อเวลาอยู่แล้วครับ ว่าแต่คุณเถอะเป็นตากุ้งยิงรึยังไงทำไมไม่หันหน้ามาคุยกันดีๆ ทำตัวลึกลับอย่างกับสัตว์ประหลาด”
“ยังปากดีเหมือนเดิมเลยนะ”
ได้ยินอย่างนั้นปลาวาฬก็เอะใจขึ้นมาทันที *‘ยังปากดีเหมือนเดิม’* งั้นเหรอแสดงว่าเคยเจอกันก่อนหน้านี้สินะ แล้วทำไมเขาจำไม่ได้เลยล่ะ
“หมายความว่าไง ผมจำได้ว่าไม่เคยเจอหน้าหรือรู้จักคุณมาก่อน”
“ทำไมจะไม่เคยเจอล่ะ” เจ้าของห้องหมุนเก้าอี้กลับมาแล้วยิ้มให้อีกฝ่าย
“เฮ้ย!! นี่คุณ” เมื่อเห็นว่าเป็นใครปลาวาฬก็ตกใจแล้วชี้หน้าอีกฝ่ายอย่างไม่ตั้งใจ
“แสดงว่านายยังจำฉันได้ ความจำดีอย่างนี้เหมาะที่จะเป็นแม่พันธุ์ชั้นดีได้เลยทีเดียว” เจ้าตัวยิ้มที่มุมปากอย่างพอใจ
“ทำไมจะจำไม่ได้หน้าโหลๆอย่างนี้” ด้วยความหมั่นใส้เจ้าตัวจึงเบ้ปากใส่
“ยังปากหมาเหมือนเดิมเลยนะนายอ่ะ”
“แน่นอน...แล้วไหนเจ้านายคุณทำไมยังไม่โผล่หัวมาให้เห็นสักที” ปลาวาฬยังคิดว่าคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าคือพนักงานคนหนึ่งเท่านั้นเอง
“ได้เห็นแน่ ถ้ารู้ว่าเป็นใครแล้วนายจะหนาว”
“แค่นี้ก็หนาวมากพอแล้วเนี่ยแอร์เย็นซะขนาดนี้” เจ้าตัวกอดอกทำท่าสั่นเทาเหมือนหนาวซะเต็มประดาเพื่อกวนอีกฝ่าย
ทำเป็นเล่นไปเดี๋ยวได้เจอดีแน่
ระหว่างนั้นเสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
“ขออนุญาตค่ะ” เลขาสาวสวยหน้าห้องเดินเข้ามาพร้อมกับถาดเครื่องดื่ม ก่อนจะวางถ้วยกาแฟให้กับเจ้านายแล้วตามด้วยแก้วน้ำเปล่าให้กับแขก
“ฝีมือชงกาแฟของคุณยังเยี่ยมเหมือนเดิมเลยนะ” เมื่อจิบกาแฟแล้วก็เอ่ยชมเลขาสาวพร้อมกับส่งสายตากรุ้มกริ่มให้ แม้จะไม่สามาถรแตะเนื้อต้องตัวได้ แต่เจ้าตัวก็ยังคงไว้ซึ่งความเป็นเสือที่พร้อมจะขย้ำเหยื่ออยู่ตลอดเวลา
“ขอบคุณค่ะ” เจ้าหล่อนยืนยิ้มบิดตัวไปมาด้วยความเขินอาย
ปลาวาฬมองภาพนั้นแล้วก็เบือนหน้าหนีอย่างเอือมระอา ผู้หญิงอะไรจะหน้าไม่อายยืนทำท่ากระมิดกระเมี้ยนต่อหน้าผู้ชายอย่างนี้ นายนั่นก็เหมือนกันเล่นหูเล่นตาซะเหลือเกิ๊นนนน...น่าหมั่นไส้ซะจริงๆ
“ถ้าคุณวรรธนพลต้องการอะไรเพิ่มเรียกกระต่ายได้ตลอดเลยนะคะ” เจ้าหล่อนพูดจีบปากจีบคอพร้อมกับขยิบตาให้
“ครับผม”
ปลาวาฬหันขวับไปมองหน้าชายหนุ่มทันทีที่ได้ยินเลขาสาวเอ่ยชื่อเมื่อสักครู่ ตายห่าแล้วไง... นายคนนี้คือคุณวรรธนพลงั้นเหรอ แล้วทีนี้จะเอายังไงต่อดี แอบด่าไปซะเยอเชียว เจ้าตัวนั่งก้มหน้าไม่กล้าสบตากับอีกฝ่าย
“ทำไมนั่งก้มหน้าอย่างนั้นล่ะ” นักบินยิ้มอย่างสะใจที่เห็นท่าทางนั่น ปากดีนักเป็นไงล่ะ
“ผมขอโทษนะครับที่ด่าคุณไว้เยอะเลย ผมไม่รู้ว่าคุณคือคุณวรรธนพล ทำไมไม่บอกกันก่อนล่ะจะได้ไม่ต้องด่า”
“อ้าวมันเป็นความผิดฉันรึไง นายนั่นล่ะที่ปากหมาด่าคนอื่นไปทั่ว”
“อ้าว! ทำไมอยู่ๆก็มาด่ากันอย่างนี้ล่ะ คุณเองก็ปากหมาเหมือนกันว่าแต่คนอื่น” เมื่อโดนอีกฝ่ายว่าให้ความสำนึกผิดเมื่อสักครู่ก็หายไปในพริบตา ตอนนี้เจ้าตัวจ้องหน้ากับนักบินอย่างไม่ยอมแพ้ เรื่องสู้คนขอให้บอก คนอย่าปลาวาฬไม่เคยยอมใครอยู่แล้ว....ถ้าไม่ใช่เรื่องเงิน
“พูดอย่างนี้สงสัยคงไม่อยากได้เงินห้าล้านแล้วมั้งเนี่ย” นักบินนั่งไขว่ห้างใช้นิ้วเคาะบนโต๊ะเสียงดัง ประหนึ่งว่าตัวเองกำลังเป็นต่อ
“ผมขอโทษครับ...ผมมันปากหมาอย่าโกรธผมเลยนะครับ” พูดพร้อมกับตบปากเบาๆเพื่อเอาใจอีกฝ่าย เพื่อเงินเขายอมฝืนใจตัวเองได้ทุกเรื่อง
“พูดอย่างนี้ค่อยน่าฟังหน่อย มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าเสียเวลามาเยอะแล้ว” นักบินหยิบเอกสารที่เย็บมุมรวมกันประมาณสามสี่แผ่นยื่นให้
“นี่อะไร” ปลาวาฬมองหน้าด้วยความสงสัย ก่อนจะหยิบมันขึ้นมาดู
“ก็สัญญาไง อ่านให้เข้าใจแล้วเซนต์ซะ ไม่เข้าใจตรงไหนก็ถามมา” เสียงเข้มเอ่ยอย่างเป็นการเป็นงาน
“ขอเอากลับไปอ่านที่บ้านก่อนได้ไหมอ่ะ เยอะขนาดนี้คงอ่านไม่จบแน่วันนี้”
“ไม่ได้! ต้องอ่านที่นี่และเดี๋ยวนี้ด้วย ถ้างั้นก็ไม่ต้องเอาเงินห้าล้านบาท คนอื่นรอคิวเยอะแยะ” พูดขู่อีกฝ่ายเพราะรู้ดีว่ากำลังเข้าตาจน ยังไงซะคงไม่ยอมทิ้งเงินห้าล้านบาทไปแน่นอน
“โด่ววว ผมเรียนไม่เก่งอ่านเข้าใจยากอ่ะ ให้ผมเอากลับไปอ่านที่บ้านก่อนเถอะนะครับ” เจ้าตัวพยายามอ้อนวอนขอร้อง แต่คนที่ทำหน้านิ่งอยู่ตรงหน้ากลับไม่มีท่าทีจะยอมง่ายๆ
“เอางี้เดี๋ยวฉันจะอ่านให้นายฟังเอง โอเคไหม? จะได้ไม่ต้องมีปัญหาทีหลัง ถ้าข้อไหนไม่เห็นด้วยหรือสงสัยให้ท้วงทันที” นักบินแย่งเอกสารนั้นมาถือไว้เอง
“โอเค๊...อ่านเลย” นั่งสบายๆรอฟังอีกฝ่าย ดีซะอีกจะได้ไม่ต้องนั่งปวดหัวอยู่คนเดียวในห้อง คิดพลางยิ้มที่มุมปากอย่างสบายใจ
“เงินห้าล้านบาทจะจ่ายเป็นสามงวดดังนี้ งวดแรกจ่ายให้หลังจากเรามีเพศสัมพันธ์กันครั้งแรกเป็นจำนวนเงินหนึ่งล้านบาท” พออ่านจบคนที่นั่งฟังก็ยกมือขึ้นประท้วงทันที “มีอะไรสงสัยมิทราบ?”
“อะ..อะไรนะผมก็นึกว่าจะผสมเทียมซะอีก” เจ้าตัวนึกว่าจะใช้วิธีทางวิทยาศาสตร์ในการปฏิสนธิเสียอีก แต่นี่มันไม่ต่างจากการขายตัวแม้แต่น้อย
“ใครบอกนาย ลูกของฉันต้องเกิดตามธรรมชาติเท่านั้น ถ้าไม่พอใจก็ถอนตัวไปเลย จะเอายังไง!”
“ขอคิดแป๊บ”
“ให้เวลาคิดหนึ่งนาที”
ปลาวาฬหันหลังกลับมาแล้วนั่งคิดว่ามันจะคุ้มกันหรือเปล่า ตั้งแต่เกิดไม่เคยมีอะไรกับใครมาก่อน เสียความบริสุทธิ์เพื่อแลกกับเงินหนึ่งล้านบาทมันคุ้มค่าไหมนะ หรือมันควรเยอะกว่านี้....
“ขอเพิ่มห้าแสนบาทขาดตัว ผมไม่ได้เห็นแก่เงินหรอกนะ แต่เสียความบริสุทธิ์ทั้งทีมันก็ต้องเรียกให้คุ้มหน่อย”
“โอเคเดี๋ยวฉันจะแบ่งส่วนที่สองมาเพิ่มให้ละกัน” นักบินรับข้อเสนอโดยง่าย
“ไม่ใช่อย่างน้านนน ที่ผมขอเพิ่มห้าแสนนี่ไม่รวมกับห้าล้านบาทนะ”
“นี่นายชักจะมากไปแล้วนะ ห้าล้านบาทนี่ก็ถือว่าเยอะมากแล้วสำหรับคนอย่างนาย ไหนบอกไม่เห็นแก่เงินไงล่ะ” เมื่อรู้ว่าความต้องการของอีกฝ่ายไม่ได้เป็นไปตามข้อสัญญา นักบินก็หงุดหงิดขึ้นมาทันที คนอะไรจะเรื่องมากขนาดนี้นะ
“คุณไม่รู้หรอก ฮึก ว่าความบริสุทธิ์มันมีความหมายกับผมมากขนาดไหน ไหนจะอุ้มท้อง ไหนจะยอมให้นายเอาไอ้นั่นเข้ามาเสียบอีก มันเจ็บปวดทรมานขนาดไหนคุณไม่รู้หรอก ฮือๆๆ” เขาไม่รู้ว่าแผนร้องไห้นี้มันจะได้ผลหรือเปล่า เพราะท่าทางนายนั่นจะเป็นคนใจหินซะเหลือเกิน
“แผนนี้ใช้ไม่ได้กับฉันหรอกนะ” นักบินรู้ทันอีกฝ่ายจึงนั่งกอดอกมองหน้านิ่ง ดูซิว่าจะร้องไห้ไปได้สักกี่น้ำ
“ฮือๆๆ คนใจร้ายแค่นี้ก็ให้ไม่ได้ ตัวเองรวยล้นฟ้าซะขนาดนี้ ฮือๆๆ” ไม่ว่าเปล่าปลาวาฬลงจากเก้าอี้ นอนดิ้นที่พื้นอย่างกับเด็กเอาแต่ใจ
นักบินมองภาพนั้นแล้วก็ต้องกุมขมับทันที นี่หรือที่เขาเลือกให้มาเป็นแม่ของลูก คิดผิดหรือคิดถูกกันแน่เนี่ย
“โอเคๆ ให้ก็ได้” เพื่อตัดรำคาญเจ้าตัวจึงยอมๆไปเพราะไม่งั้นวันนี้คงไม่จบแน่นอน
“เย้!!! ขอบคุณนะครับ คริๆ” เมื่อรู้ว่าแผนสำเร็จปลาวาฬก็หยุดร้องไห้แล้วรีบเช็ดน้ำตา ขึ้นมานั่งบนเก้าอี้เหมือนเดิม ราวกับว่าเมื่อสักครู่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“เปลี่ยนอารมณ์ได้เร็วจริงๆเลย ฉันดูไม่ออกเลยนะว่านายแกล้งทำ”
“ใครแกล้งทำ ไม่มี๊”
“แต่มีข้อแม้” นักธุรกิจอย่างเขาไม่มีทางขาดทุนแน่นอน
“อะไรอีกเนี่ยยย!” ตอนนี้ชักจะเริ่มไม่ไว้ใจนายคนนี้เอาซะเลย คิดว่าตัวเองมีเล่ห์เหลี่ยมเยอะแล้วนะ แต่มาเจออย่างนี้มันก็ต้องเหนื่อยขึ้นไปอีก
“นายขอเพิ่มห้าแสนบาท ฉันก็ขอเบิ้ลทีนึงละกัน แฟร์ๆ ยังไงซะนายก็ได้เสียแล้วต่ออีกนิดคงไม่เป็นไรหรอก” พูดแล้วก็ยิ้มกริ่มอย่างผู้มีชัย
“นี่ผมไม่ได้ขายตัวนะ!”
“ก็แล้วแต่นะถ้าไม่เอาผมจะให้คนอื่น” พูดอย่างไม่แคร์อีกฝ่าย
“ก๊ได้ๆ” เพื่อเงินห้าล้านห้าแสนบาท ปลาวาฬพยายามท่องในใจ
เงิน เงิน เงิน
ขณะคิดเงินเป็นฟ่อนๆก็ลอยอยู่ตรงหน้าเจ้าตัวจึงยิ้มคว้าหมับทันที
“นี่นายเป็นบ้ารึเปล่าทำท่าทางแปลกๆ”
“ปะ...เปล่าพูดต่อเลย” เมื่อนึกถึงรายได้มหาศาลในอนาคตเจ้าตัวก็ยิ้มกริ่มอย่างอารมร์ดี
“เงินงวดที่สองอีกหนึ่งล้านบาทจะจ่ายให้หลังจากนายตั้งท้องแล้ว และเงินอีกสามล้านบาทจะจ่ายให้หลังคลอด โอเคไหม” นักบินมองหน้าอีกฝ่าย
“โอเคไม่มีปัญหา” ปลาวาฬยิ้มรับอย่างเข้าใจ มันคงไม่มีอะไรจะแย่ไปกว่านี้แล้ว อดทนแค่อึดใจเดียวเท่านั้น
“เด็กที่เกิดมาต้องเป็นลูกของฉันเพียงคนเดียว ส่วยนายไม่มีสิทธิ์อะไรในตัวเด็กแม้แต่น้อย คลอดแล้วให้รับเงินไปห้ามกลับมาติดต่อกับลูกของฉันอีก ห้ามให้เด็กรู้ว่านายคือคนที่คลอดแกมา”
“ฉันเป็นแม่ของแกนะ จำเป็นต้องห้ามขนาดนั้นเลยเหรอ” ข้อนี้มันก็จะทำใจยากหน่อยเพราะถึงยังไงซะเขาเองก็เป็นคนอุ้มท้อง ถ้าจะให้ตัดขาดความเป็นแม่ลูกกันเลยมันจะไม่โหดไปหน่อยเหรอ
“จำเป็นเพราะนายรับเงินฉันไปแล้ว แม่ของเด็กต้องเป็นคนที่ฉันเลือกไว้เท่านั้น ส่วนนายมีหน้าที่อุ้มท้องเท่านั้น”
“โอเคก็ได้ ผมเองก็ไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวกับคุณนักหรอก” พูดพร้อมกับทำหน้าบึ้งใส่
“คิดอย่างนี้ให้ได้ตลอดล่ะ”
“แน่นอน”
นักบินอ่านสัญญาให้ฟังจนครบทุกข้อ หลังจากนั้นก็ยื่นเอกสารให้อีกฝ่ายเซนต์ยอมรับเพื่อเป็นหลักฐาน
“เซ็นต์แล้วก็กลับบ้านได้ใช่ป่ะ” พูดจบก็วางปากกาลงบนกระดาษ แล้วเลื่อนไปให้คนที่นั่งอยู่ตรงหน้า
“ใช่ กลับไปเก็บของวันพรุ่งนี้ฉันจะให้คนไปรับที่ห้อง โทรไปให้รับด้วยล่ะ”
“ผมจะนอนรอรับสายคุณคนเดียวเลยล่ะ บายย” ก่อนจะเดินออกไปเจ้าตัวก็ส่งจูบให้อย่างอารมณ์ดี
อยากมีข้อแม้เยอะดีนักเขาจะกวนให้หัวปั่นเลยคอยดู
--------------------------------
เงินน้อเงินกลายเป็นว่ามีผัวก่อนเพื่อนซะงั้น 555