“พี่นิ้คคคคคคคค”
เสียงคุ้นๆอีกแล้วครับแต่คราวนี้คุ้นว่าเป็นเสียงน้องตัวเอง คิดแล้วก็อยากจะยกมือไหว้ท่วมหัวสาธุ ขอพรเจ้าที่เจ้าทางให้เสียงที่ได้ยินเป็นแค่อาการหูแว่วหูฝาดทีเท้อ แต่ท่าทางสิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านจะไม่เห็นใจพ่อพระเอกจอมบู๊คนนี้ ถึงได้ส่งไอ้สองตัวแนมเนมมาให้จริงๆ สรุปนี่กุไม่ได้หูเพี้ยนอีกแล้วใช่มั้ย
ไอ้พวกแฝดตะโกนลั่นตามด้วยไอ้น้องวิน วันนี้มันวันเด็กหรือไงวะ รวมพลเกรียนมากันเชียว ไอ้แนนมาถึงก็เล่นก่อนใคร เงื้อหมัดต่อยโครมเข้าเต็มหน้าอีกฝ่ายจังๆ จากหนึ่งต่อสิบเอ็ด ทีนี้เลยกลายมวยหมู่กันแล้วครับ
จระเข้ฟาดหาง หักงวงไอยรา หักคอเอราวัณ หรือจะบิดหางนาคา คิดออกท่าไหนก็งัดออกมาใช้กันแบบไม่มีหวงวิชา และคนที่ตกเป็นเป้าของไอ้พวกนั้นมากที่สุดก็ไม่พ้นไอ้น้องไม้ที่ตัวเล็กที่สุดในกลุ่ม
“ไม้ มานี่”
ก่อนไอ้น้องไม้จะโดนสอย ผมก็ดึงตัวให้มันหลบหมัดแล้วเตะสวนเข้าเต็มท้องน้อยไอ้พวกหมาหมู่แต่เล็งพลาดไปหน่อยเลยถีบโดนลูกชายมันไปเต็มๆ ทีนี้ล่ะซ่าไม่ออกไปอีกนานเลยมรึง ไอ้นิคยิ้มหน้าถ่อย กระทืบซ้ำอีกทีเพื่อความสะใจแล้วดันไอ้น้องไม้ไปหลบไว้ข้างหลัง ส่วนพวกแฝดก็ไม่ต้องห่วงครับ มันหัดต่อยมวยตั้งแต่ฟันน้ำนมยังไม่ขึ้นเลย
ตะลุมบอนกันได้สักพัก เสียงนกหวีดห้ามทัพของพี่ยามก็ดังขึ้น พร้อมกับที่พวกผมคว้าแขนกันวิ่งไปที่รถแบบหวังจะสร้างสถิติโลก โหยพี่ยามครับ ทำไมไม่มามันซะพรุ่งนี้เลยล่ะครับ แต่เสียงนกหวีดนี่ก็ช่างศักดิ์สิทธิ์เสียจริง แต่ละคนนี่แตกกระจายวิ่งหนีตายกันจ้าละหวั่น ผมคว้าแขนไอ้น้องไม้กระโจนขึ้นรถได้ เสียงล้อบดถนนก็ดังลั่นพร้อมกับเสียงเร่งเครื่องยนต์อย่างจะไปแข่งฟอร์มูลาวัน ไอ้นิคตีโค้งออกไปจากลานจอดรถได้แบบเฉียดฉิว โชคยังดีที่รถไอ้เชนยังไม่มีป้ายทะเบียนเพราะท่านพ่อมันเพิ่งซื้อ ผมเลยลดความกังวลไปได้ระดับหนึ่ง ไม่ต้องกลัวว่าใครจะจดป้ายทะเบียนไว้แล้วไปแจ้งความกับจ่ายศ
ในที่สุดก็กลับมาถึงบ้านได้ในสภาพครบสามสิบสองกันทุกคน ไม่มีสมาชิกคนใดหายหน้าไปนอนอยู่ในมุ้งสายบัวก็เป็นอันโล่งอก
ว่าแต่กุลืมอะไรไปอย่างวะ ไอ้หยาซี้เลี้ยว นึกขึ้นได้ว่าลืมไอ้เชนสุดที่เลิฟ โทรบอกมันแล้วว่าจะไปรับที่อู่รถแต่ดันลืม ตายๆๆๆ บู๊เพลินไปหน่อย ไอ้โย่งมันจะงอนผมมั้ยเนี่ย แต่ช่างมัน สมองก็มี มันคงไม่โง่นอนรออยู่หน้าอู่รถแน่ แต่เรื่องนี้เอาไว้ทีหลัง ตอนนี้ขอเคลียร์เรื่องไอ้พวกเยาวชนต่ำกว่าสิบแปดก่อนเถอะ
“ทำไมไปอยู่ที่นั่นกันได้ บอกแล้วใช่มั้ยว่าให้เข้าบ้านไปก่อน !”
ไอ้นิคขึ้นเสียงใส่คู่แฝดที่มากับรถไอ้น้องวิน มันสองตัวทำหน้าจ๋อยเมื่อเห็นว่าพี่ชายโกรธจริงๆ ส่วนไอ้น้องวินก็ทำหน้าเฉยเป็นทองไม่รู้ร้อน รายสุดท้ายนี่หนักสุด ไอ้น้องไม้ครับ ยังนั่งสะอื้นไม่เลิก จะโศกไปถึงไหนวะ ฮึ้ย....เซ็ง
“ก็พวกเค้าเป็นห่วง เลยตามไปดู” ไอ้เนมตอบเสียงอ่อย
“แล้วไง” เสียงเหี้ยมใส่อีกเป็นสองเท่า เหมือนจะบอกว่าเตรียมตัวตายกันได้เลยถ้ายังอธิบายไม่กระจ่างอย่างนี้
“เค้ากับไอ้เนมเห็นว่าไอ้สองตัวนี่มันจะแอบตามพี่นิคไป เลยบังคับให้พวกมันพาไปด้วย แล้วเมื่อกี้เค้าสองคนมัวแต่ทะเลาะอยู่กับไอ้วิน เลยคลาดสายตาจากไอ้ไม้ไปหน่อย รู้ตัวอีกทีเค้าก็เห็นตัวมีเรื่องอยู่กับไอ้พวกขี้เมาอยู่ที่ลานจอดรถแล้วน่ะ”
ไอ้แนนยิ้มแหยๆ มาให้ ว่าแล้วเชียว ซื้อหวยทำไมไม่ถูกอย่างนี้วะ เห็นว่าพวกมันสี่ตัวฟังคำสั่งง่ายๆทำท่าจะกลับไปบ้านใครบ้านมันอย่างที่ผมบอกซะดิบดีนี่มันเล่นละครกันทั้งนั้น สังหรณ์แต่แรกแล้วเชียว
“รู้มั้ยว่าไอ้ไม้มันโดนลวนลาม ไปด้วยกันแล้วทำไมไม่ดูแลกันให้ดี เกิดไอ้ไม้มันโดนลากไปทุบหัวหั่นศพทิ้งป่าหญ้า พวกเราจะรับผิดชอบกันไหวมั้ย แล้วตามพี่ไปทำไม มันใช่เรื่องของเด็กมั้ย”
ตะคอกด่าน้องตัวเองนั่นแหละครับ ไอ้สองวินไม้น่ะช่างหัวมัน เพราะตามตรรกะของไอ้นิคนั้น พวกลูกคุณหนูที่มีแต่คนประคบประหงม มันย่อมไม่รู้เรื่องโลกภายนอกหรือไม่ค่อยคิดหน้าคิดหลังเท่าไหร่หรอก แต่ไอ้พวกแฝดมันโตมากับผม น่าจะรู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร
“สำนึกผิดแล้วครับ ต่อไปนี้จะไม่ทำอีกแล้ว” ไอ้สองตัวประสานเสียง หน้าแต่ละคนนี่บอกบุญไม่รับ เล่นงานน้องตัวเองแล้วคราวนี้เลยเปลี่ยนไปเฉ่งน้องแฟนบ้าง
“แล้วพวกมรึงสองคนนะ พ่อแม่มีตังค์ส่งเสียให้เรียนโรงเรียนดีๆก็เรียนไป อย่ามาสนใจเรื่องพวกนี้ให้รกสมอง โลกมันไม่ได้สวยงามอย่างที่พวกมรึงคิดหรอก อย่าคิดว่า แค่ทำหน้าตาน่ารัก ขอโทษแล้วเรื่องทุกอย่างก็จะจบ นี่ยังโชคดีที่รอดกันมาได้ไม่อย่างนั้นได้ซวยแด๊กขึ้นโรงพัก นอนคุกกันไปแล้ว จำไว้เป็นบทเรียนด้วยแล้วคราวหลังก็อย่าให้มีอีก เข้าใจมั้ย”
โห วันนี้ไอ้นิคมาแบบมีสาระในชีวิต แต่เห็นไอ้สองตัวคู่หูวอนตรีนยังนั่งเงียบ ไม่มีท่าทีสำนึกผิด หรือซาบซึ้งในรสคำสอนของผม ไอ้นิคเลยปรี๊ดขึ้นมาอีกรอบครับท่าน
“กุถามว่าเข้าใจมั้ย” ตะคอกใส่ไอ้น้องวินไม้จนสะดุ้งโหยง แต่พวกมันยังไม่วายเถียง
“ไม่ได้ชื่อมรึง ชื่อไม้ แล้วอย่ามากุใส่ ไม่ชอบ”
เอากับมันสิ ยังไม่สลด เดี๋ยวพ่อตบหน้าทิ่ม ท่องยุบหนอในใจ ยุบเข้าไว้ไอ้นิค ยุบอย่างเดียวนะมรึง อย่าพองเด็ดขาด ไม่งั้นของขึ้นได้ตบกะโหลกเด็กให้เสียประวัติแน่ พยายามเอาธรรมะเข้าข่มไม่ให้ลงมือฆาตกรรมเด็กตรงหน้าครับ
“โอเค เข้าใจที่พี่พูดใช่มั้ย วิน ไม้”
“เข้าใจ” ดูมันตอบ ฮึ้ย ไม่ไหวแล้ว ขอสักทีเหอะมรึง
ไอ้นิคเงื้อหมัดขอเขกกะโหลกมันสองตัวหน่อยเหอะ ทนไม่ไหวแล้วกุ
“ตอบดีๆสิวะ นี่พี่กุนะ ไม่ใช่พี่เลี้ยงเด็กบ้านมรึง จะได้ทำคอแข็งเสียงแข็งใส่อย่างนี้”
ไอ้แนนที่นั่งอยู่บนโซฟาอีกฟากแย่งซีนพี่มันด้วยการถลาเข้าผลักหัวไอ้น้องวินจนมันเซ แต่พอตั้งตัวได้น้องไอ้โย่งก็เงื้อหมัดจะสวนบ้าง
“หยุด บอกให้หยุด! ไอ้แนนไปนั่งดีๆ ส่วนวินกับไม้ เรื่องคราวนี้พี่จะบอกไอ้เชนให้มันไปจัดการพวกวินกันเอง กลับบ้านกันไปได้แล้ว”
ไล่ไอ้สองตัววินไม้กลับบ้านก่อนที่พวกมันจะแง่งๆใส่กันให้ผมปวดหัวอีก ไอ้ลูกหมาลุกขึ้นยืนแล้วเดินหน้าบูดออกไป ประจวบกับที่พวกข้างบ้านดาหน้าครบทีมเข้ามาพอดี
“พี่เชนครับ”
ไอ้น้องไม้น้ำตาร่วงอีกรอบ อุเหม่ นี่มรึงเห็นกุเป็นขอนไม้ของพี่บ่าววีหรือไงฟระ พอรอดจากไอ้ขี้เมามาเจอไอ้โย่งก็ลืมบุญคุณกุหมด นี่ก็แทบจะถลาเข้าตระกองกอดกันเลยนะมรึง ไอ้นิคล่ะฉุนจัด แต่จากฉุนๆอยู่ก็เป็นชิวๆ เมื่อไอ้เชนมันเห็นว่าไอ้เด็กนั่นไม่เป็นอะไร มันก็เดินผ่านไอ้น้องไม้เข้ามาหาผม หน้าตาเป็นห่วงจนไอ้นิคล่ะเป็นปลื้ม
“เห็นไอ้บูมบอกว่ามรึงไปมีเรื่องมาอีกแล้ว เจ็บตรงไหนรึเปล่า”
ถึงจะปลื้มกับอาการเป็นห่วงเป็นใยนั่นแต่ก็ยังไม่ลืมตัวครับ ผมรีบเบี่ยงตัวหลบเมื่อเห็นว่าสุดที่รักทำท่าจะจับมือ เหตุผลก็นี่ไงครับ ไอ้แฝดที่ยังยืนอยู่ข้างๆแถมยังทำสายตาจับผิดส่งมาอีก
-----------------------
หมดแล้วจ้าหมดแล้ว หมดแล้วจริงๆ เหอๆ