ตอนที่ 7 อาหารทะเล
พอบั้นท้ายอาการทุเลาหนูก็ไปเรียนตามปกติ ถ้าคาบเรียนตรงกันหรือมีเวลาว่างก็จะพานังเพื่อนสวยไปเรียนแล้วก็ไปกินข้าวพร้อมๆ กัน ส่วนวันนี้ก็มากินกันสี่คน รวมหมอกกับอ้อมด้วย
“เป็นอะไรเหรอฐา ช่วงนี้ไม่ค่อยร่าเริง อกหักเหรอ?” คำถามจี้ใจดำจากเพื่อนสวยทำเอาหนูแทบสะดุ้ง เพราะคิดมาตลอดว่านอกจากเรื่องสภาพร่างกายที่ไม่ค่อยอำนวยแล้ว เรื่องอื่นก็ปกติดีทุกอย่างนะคะ ต่อมหื่น ต่อมฮายังทำงานได้ปกติ
“มึงเอาที่ไหนมาพูด กูปกติดี” หนูเถียงมันไป
“ที่กูพูด ก็เพราะช่วงหลังมานี่มึงไม่ค่อยกระดี๊กระด๊าเวลาผู้ชายหล่อๆ เดินผ่านมาน่ะสิ”
“ต๊าย... กูว่ามึงอ่ะแหละแปลก คนที่บอกไม่ชอบผู้ชายดันสนใจคนหล่อๆ ฮุ ฮุ ฮุ” หนูหัวเราะกลบเกลื่อน พยายามจะทำให้มันโป๊ะแตกให้จงได้ แต่มันก็ยังคงเนียน เก๊กแมนได้ต่อ ชิ!!
“อีฐามันคิดถึง ภุชงค์ที่มันพาไปกับตับมาวันนั้นอ๊ะเปล่า ฮ่าๆ” หมอกเป็นคนแซวมาแทน ไหงวกกลับมาเรื่องเก่าได้เนี่ย น้องฐางง
“อ๋อ... ที่ทำมึงกลับมาลุกไม่ขึ้นตั้งหลายวันอะนะ” อีเพื่อนสวยพูดแล้วก็ขำ ที่จริงแล้วเรื่องนี้เป็นเรื่องฮาที่พวกมันเอามาแซวหนูได้บ่อยๆ เพียงแต่กิ๊งมันไม่รู้เท่านั้นแหละว่าคนที่พากันแซวอยู่นั้นเป็นใคร เพราะหนูไม่ได้บอกมันเท่านั้นเอง
หลังทานข้าวเสร็จหนูก็ขับรถไปส่งกิ๊งที่คณะเพราะมันต้องไปซ้อมลีดมือ หนูจอดรถหน้าคณะเตรียมจะกลับ แต่พอดีว่ากิ๊งมันดึงมือหนูไว้เสียก่อน...
“ฐาอย่าเพิ่งไป...” มันทำเสียงตื่นเต้นแล้วหันไปมองใครคนหนึ่งที่เดินเข้ามา
แอร๋ยยยยยยยยยยยยยยยยย พอเห็นหน้าคนที่เดินเข้ามาแล้วน้องฐาอยากจะเป็นลมล้มพับ อีกิ๊ง!!!
“พี่โต้งไงมึง ที่มึงขอกูวันนั้นอ่ะ ไม่เอาแล้วเหรอ?” มันถามมา หนูไม่อยากจะบอกว่า ก็พี่คนนี้นี่แหละที่ทำเอาหนูลุกไม่ขึ้นตั้งหลายวัน อยากจะร้องไห้ เพราะหนูยังทำใจไม่ได้ที่จะเจอหน้าพี่เขาตอนนี้
“เดี๋ยวกูแนะนำให้นะฐา พี่เขานิสัยดีนะ มึงจะได้เลิกอกหักไง” โห!! ใจดีได้โล่ค่าอีเพื่อน...
พี่เขาเดินเข้ามาแล้วค่ะ แล้วคำแรกที่เอ่ยคือ
“สวัสดีครับ น้องกิ๊ง” เสียงหวานมากมายค่ะ แล้วพี่เขาก็หันมามองหน้าหนูซึ่งหนูได้แต่ก้มหน้า...
แป้งพัฟอยู่ไหน อายแชโดวอยู่ไหน บรัชออนอยู่ไหน ลิปอยู่ไหนคะ~~~ น้องฐาโคตรโทรม เรียนมาทั้งวันจนหน้ามันย่อง แถมยังใส่ชุดนิสิตชายอีกต่างหาก โฮ~~~~~ ม่ายยยยย
“ฐานี่พี่โต้ง” นังเพื่อนแนะนำให้ น้องฐาเงยหน้าขึ้น แล้วก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากเนียนทำเป็นไม่รู้จัก เพราะถ้ารู้จักกันก็กลัวว่ากิ๊งมันจะมาไล่เลียงทีหลังว่าไปรู้จักกันตอนไหนอย่างไรอีก
“สวัสดีค่ะ ฐานะคะ” หนูยกมือขึ้นไหว้แล้วฝืนส่งเสียงหวานๆ ขณะแนะนำตัว “พอดีหนูต้องรีบไปเข้าเชียร์เหมือนกัน ขอตัวนะคะ” ทักทายพร้อมบอกลาไปพร้อมๆ กัน โดยไม่สนใจเพื่อนสวยและคุณพ่อค้าตับว่าจะทำหน้าอย่างไร
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
เห็นพ่อค้าแล้วคิดถึงตับค่า ช่วยด้วย!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
สองทุ่มหลังกิจกรรมเชียร์ กิ๊งก็โทรมาหา
“วันนี้มึงมารับกูด้วยสิฐา ขอร้องนะฐา เพื่อนๆ ที่ซ้อมลีดไม่มีใครว่างไปส่งกูเลย”
“กูไม่ไป เดี๋ยวก็มีคนไปส่งมึงเองแหละ คนสวยๆ อย่างมึงน่ะมีแต่คนเขาอยากไปส่ง”
“ก็เพราะกูไม่อยากให้คนอื่นมาส่งไงกูถึงให้มึงมา” เฮ้อ....
“เรื่องมากน่า...”
“นะฐา กูจะรอนะ แค่นี้นะ” ส่งเสียงอ้อนวอนมาให้อ่อนใจ
กิ๊งมันตัดสายไปแล้วค่ะแล้วหนูก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไง ได้แต่ต้องไปรับมัน พอไปถึงคณะ มันซ้อมเสร็จแล้วค่ะ นั่งรอหนูอยู่ที่หน้าคณะกับพี่โต้ง!
ก่อนจะเดินเข้าไปก็ทำใจสองนาที ...
“กูมาแล้ว กลับกันเถอะ” หนูบอกกิ๊งแล้วจับมือกิ๊งให้ลุกขึ้นยืนแล้วลากตัวออกมาโดยไม่สนใจพี่โต้งที่นั่งอยู่ตรงนั้นสักนิดเดียว!!
“ฐา มึงจะรีบไปไหน”
“รีบกลับไง หรือถ้ามึงไม่รีบก็อยู่นี่ เดี๋ยวพี่เขาก็ไปส่งมึงเองแหละ” หนูว่าแล้วปล่อยมือกิ๊ง ซึ่งมันก็ยอมเดินตามมาโดยไม่พูดอะไรอีก
วันต่อมาหนูก็ไปส่งกิ๊งที่คณะตอนเช้า ตอนที่จะเลี้ยวรถออกมากลับโดนรถเก๋งอีกคันเลี้ยวตัดหน้า หนูเบรกตัวโก่งจนหน้าทิ่ม ดีที่รถไม่ล้ม
อร๊ายยยยยย ถ้าเบรกไม่ทันแล้วคว่ำไป หน้าอั้มมิแหกหมดเหรอคะเนี่ย ... อยากจะด่าคนขับรถแรงๆ สักที แต่พอคนขับเดินลงมาเท่านั้นแหละ น้องฐาก็ได้แต่อึ้ง มองเจ้าของรถฮอนด้าซีวิซคันนั้นด้วยแววตาสั่นไหว
เฮ้อ ดังนรกชัง ฤาสวรรค์แกล้ง .... เจออีพี่โต้งอีกแล้วสิ!
ทั้งๆ ที่บอกว่ามีเรียน แต่อีพ่อค้าตับไม่ยอมฟังค่ะ บังคับให้จอดรถที่คณะวิทยาศาสตร์แล้วก็ลากน้องขึ้นรถพี่เขาเฉยเลย
“หลบหน้าพี่ทำไม” คุณพี่โต้งถามมาเสียงดุๆ ขณะที่ขับรถออกนอกมหาวิทยาลัย
“เปล่านี่คะ” หนูตอบพลางก้มหน้าลง
“อ๋อ ไม่ได้หลบ แล้วตอนที่เจอพี่ทำไมต้องทำเหมือนเราไม่รู้จักกันด้วย” โถ...คุณพี่โต้งท่าจะความจำเสื่อม...ว่าอยู่ต่อหน้าน้องกิ๊งแล้วจะอยากมารู้จักมักจี่กับหนูทำม้ายยยยย
“อ้าว.... นี่เรารู้จักกันด้วยเหรอคะ” หนูลอยหน้าลอยตาถาม
โป๊ก!! เสียงหัวน้องฐาโขกกระจกรถด้านซ้ายค่ะ เพราะคุณพี่โต้งเลี้ยวซ้ายทันทีไม่ให้ตั้งตัว
“น้องฐาความจำสั้นเหรอคะ ได้ค่ะ เดี๋ยวพี่พาไปทวนความจำนะคะ” คุณพี่โต้งบอกเสียงเย็นๆ เวลาทำเสียงแบบนี้ทีไร น้องฐารู้เลยว่า อันตรายค่ะ!!
และแล้วก็เป็นดังคาดค่ะ!! พี่โต้งพาน้องเลี้ยวเข้าไปจอดที่คอนโดแห่งหนึ่งค่ะ
“ลงสิคะ” พี่โต้งบอก ขณะที่น้องฐายังนั่งนิ่ง
“จะให้ลงไปไหนคะ?”
“พี่จะพาไปทวนความจำสิคะ สองวันสองคืนยังน้อยไป เอาสักอาทิตย์นึงเลยไหมคะ เอากี่คนดี เดี๋ยวพี่เรียกเพื่อนมาเพิ่มไหม?” น้องฐาตาเหลือกเลยค่ะ เล่นข่มขู่จะกักขังหน่วงเหนี่ยวกระทำชำเรารุมโทรมครบเลยนะคะ
น้องฐาหันไปมองหน้าพี่เขาด้วยดวงตาเจ็บช้ำ
“ก็พี่เป็นคนบอกน้องเองแท้ๆ ว่าไม่ให้บอกกิ๊ง “เรื่องของเรา” แล้วจะให้ทำท่าเหมือนรู้จักกันให้ความแตกทำไมล่ะคะ” หนูตะโกนใส่ บ้าบอที่สุด
“อย่างน้อยก็ทำท่าเหมือนสนใจพี่บ้าง ไม่ใช่เมินแบบนี้ พี่เสียเซลล์รู้ไหม”
“อ๋อ หนูต้องทำเหมือนสนใจใช่ไหมคะ วันหลังหนูจะทำนะคะคุณพี่”
“อย่ากวนได้ไหม พี่พูดด้วยดีๆ นะ เป็นอะไรจะประชดประชันทำไมนักหนา ตอนจากกันยังพูดกันดีๆ อยู่เลย”
ก่อนจากกันอะไรๆ ก็ดูดี ก็เพราะน้องฐาคิดแค่ว่า อยากจะกินตับ คิดว่า ทุกอย่างมันเกิดจาก “ความใคร่ล้วนๆ ไม่มีความรักเจือเลย” แต่ตอนหลัง...น้องฐาอดคิดถึงความอ่อนโยนของพี่โต้งไม่ได้
ทุกคำพูด ทุกการกระทำ ที่แสดงความอ่อนโยน ใจดี ไม่เคยมีใครคนไหนทำให้มาก่อน
เคยคิดว่า “ตัดใจ” ได้แล้ว แต่พอมาเจอหน้ากันอีกทีมัน ก็แค่คิดเท่านั้นเอง...
จะให้มาปั้นหน้าทนดู “ผัว” ตัวเองจีบเพื่อนสนิท แล้วใครมันจะไปทนได้!!
“ก็พี่บอกว่าจะจีบกิ๊งไม่ใช่เหรอคะ”
“พี่จีบน้องกิ๊งก็จริง แต่ตอนนี้ก็ยังจีบไม่ติด ยังไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย หรือน้องฐาจะช่วยล่ะคะ?”
“พี่คะ หนูบอกว่าจะไม่ขัดขวางก็จริง แต่หนูก็ไม่ได้บอกว่าจะช่วยนะคะ”
“ไม่ช่วยก็ไม่ต้องช่วย พี่ก็แค่ไม่ชอบให้ใครมาเมินใส่พี่แบบนี้”
“ก็พี่บอกเองนี่คะว่าสนุกกันเฉยๆ ไม่ผูกมัดเป็นเจ้าของกันและกัน”
“ค่ะพี่พูด...ไม่ต้องเป็นเจ้าของกันและกัน ไม่ได้แปลว่าจะต้องลืมกัน เราสองคนก็เป็นพี่น้องกันก็ได้นี่คะ” อยากจะขำ พี่น้องท้องชนกันหรือไงคะคุณพี่...
“ค่ะ ได้...เป็นพี่น้องกัน” น้องฐาตอบด้วยเสียงเลื่อนลอย
“ขอโทษนะคะที่ทำให้ตกใจ แล้วก็ขอโทษที่ทำให้ต้องขาดเรียนวิชานี้ด้วย น้องฐามีเรียนอีกไหมคะ”
“มีค่ะ”
“กี่โมง”
อยากจะบอกให้ไปส่งซะเดี๋ยวนี้เลย แต่ไม่อยากตอบอะไรกวนๆ ให้พี่เขาโมโหอีก
“บ่ายโมงค่ะ”
“งั้น ไหนๆ ก็เข้าเรียนไม่ทันแล้ว ไปทานข้าวกับพี่ก่อนดีกว่าเนอะ ร้าน... อาหารทะเลเขาสดมากเลยนะ” พี่โต้งบอกแล้วออกรถพาหนูออกไปกินอาหารทะเลค่ะ
เอ่อ... ว่าไปแล้ว เสียดายตับเหมือนกันนะ แต่... เปลี่ยนรสชาติจากตับไปเป็นอาหารทะเลอาจจะดีกว่าเพราะน้องฐาไม่แพ้อาหารทะเลแต่ ตับเนี่ยน้องฐาแพ้ค่ะกินทีระบมไปหลายวัน (แต่เหมือนจะไม่ค่อยเข็ด)
พี่โต้งพาน้องฐามานั่งกินอาหารทะเลด้วยกัน พี่เขาเป็นคนน่ารักมากๆ ค่ะช่างเอาอกเอาใจ เรียกว่ามี “วิญญาณปรนนิบัติ” ก็คงได้
“ส่งแก้วมาค่ะ น้ำหมดแล้ว” พี่โต้งรับแก้วน้ำไปตักน้ำแข็งแล้วก็รินน้ำแดงให้ น้องฐาชอบดื่มน้ำแดงมากเป็นชีวิตจิตใจ เพราะมันหวานอร่อยและทำให้ปากแดง ลิ้นแดงธรรมชาติค่ะ คริคริ
ความจริงกุ้งก็อร่อยดี แต่น้องฐาขี้เกียจแกะกุ้งปกติเลยไม่ค่อยได้กิน แต่วันนี้พี่โต้งนั่งแกะกุ้งให้น้องฐาจนเปลือกกองพะเนิน น้องฐานั่งกินกุ้งไปเยอะมากจนจุกค่ะ แต่ก็มีความสุขดี
น้องฐาแกะปูไม่เป็นค่ะ ก็เลยนั่งมองปูนอนนิ่ง พี่โต้งก็ขำแล้วก็แกะปูให้ เนื้อปูนิ่มมาก ถูกใจน้องฐาสุดๆ
“ตอนอยู่มหา’ลัย แอ๊บเหรอคะ” อยู่ดีๆ พี่เขาก็ถามมา ทำให้น้องฐารู้สึกว่าตัวเองพาราดะ(พลาด)มากๆ
ก็อย่างที่บอกว่า ตอนนี้น้องฐาใส่ชุดนิสิตชาย เสื้อผ้าหน้าผมนี่มองยังไงก็ผู้ชายค่ะเพราะหน้านี่มีแค่แป้งฝุ่นกับปากแดงเพราะน้ำแดงธรรมชาติก็เท่านั้น
“ไม่ได้แอ๊บค่ะ แต่รุ่นพี่เขาไม่ให้แต่งสาว” น้องฐาตอบงอนๆ
“เหรอคะ แต่คนน่ารักน่ะ แต่งตัวแบบไหนก็น่ารักค่ะ” หนูก้มหน้าลงหน้าแดง
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด อีพี่โต้งบ้า อย่าพูดแบบนี้สิ
พี่คะ....ฮือ... อย่าทำให้น้องฐารู้สึกดีแบบนี้...
น้องฐากลัวจะหักห้ามใจตัวเองไม่ได้ค่ะ!!
........................
บอกนิทีว่าชอบให้เว้นบันทัดให้หรือให้ลงติดกันไปเลย คะ?
เอ่อ... คิดว่าพระเอกของฐาก็คงเป็นคนนี้แหละค่ะ อย่าเพิ่งเดือดกันนะ คนเราก็ต้องมีทั้งดีและร้าย
กิ๊งก็ไม่ได้เลวร้าย ผิดเหรอคะที่พี่โต้งจะชอบ บางทีกว่าจะมารู้ใจตัวเอง หรือรู้ว่าใครคือคนที่ใช่ก็อาจจะต้องใช้เวลาเท่านั้นเอง
เรื่องนี้จะมีแค่มุมมองของฐาคนเดียวนะคะ ไม่มีของพี่โต้งค่ะ
ดีแล้ว อย่าเกลียดกันเลย 3Pก็ได้นะ555
(จะได้ไม่เหนื่อยมาก หาร2 กร๊ากก)
3 p คงไม่ได้ค่ะ เพราะ หนูกิ๊งเขามีแฟนแล้ว อิอิ เพียงแต่ ตอนนี้เนื้อเรื่องยังไม่ถึงเท่านั้นเอง โฆษณาสำหรับคนที่อยากอ่านเรื่องของกิ๊งก็ตามไปอ่านกันได้ค่ะที่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=22465.newตอนนี้พักไว้อยู่... แต่ตอนจบไม่น่าจะค้างนะคะ ......คาดว่าจะต่อตอนเรื่องของฐาจบค่ะ เพราะเรื่องของฐาคงไม่ยาวมาก