ตอนที่สาม >>> Change!!!(สามจุดหนึ่ง).....หนึ่งเดียวในใจเดย์
“สอบถามได้นะคะคุณยาย”
พนักงานสาวพยายามปั้นสีหน้าให้ดูยิ้มแย้มเพื่อกลบเกลื่อนความรำคาญ เมื่อเห็นคุณยายท่าทางเรียบ ๆ คนหนึ่งยืนนิ่งอยู่นานหลายนาทีอยู่หน้าตู้โชว์สินค้าของร้าน
คุณยายแก่ ๆ ที่ดูยังไงก็ไม่น่าจะเป็นลูกค้าได้เลยน่ะนะ.....แม่เจ้าประคุณนึกในใจ หลังจากกระแอมก็แล้ว.....หันไปสนใจลูกค้าวัยรุ่นอีกคนหนึ่งก็แล้ว นั่งจ้องคุณยายคนดีไปพลาง ซับหน้าผากมัน ๆ ของตัวเองไปพลางก็แล้ว สุดท้ายเธอก็ทนไม่ไหว ต้องลุกขึ้นเดินโฉบไปใกล้ ๆ
“ยายอยากได้ไอ้เครื่องนี่น่ะอีหนูเอ๊ย....มันราคาเท่าไหร่หรือ”
“คุณยายจะใช้เองหรือคะ”
หญิงชราไม่ตอบ แต่กลับขยับแว่นสายตาแบบที่มีสายคล้องคอ จ้องมองใบโบชัวร์สลับกับสินค้าในตู้กระจก
“ยายจะดูไปให้หลานของยายน่ะ....อีหนูช่วยยายเลือกได้มั้ยลูก”
คราวนี้แม่สาวคนขายยิ้มร่าออกมาจากใจ....เอาล่ะ อย่างน้อย ๆ วันนี้ก็ได้คนแก่เป็นลูกค้าล่ะเว้ย!!!!
.
.
.
.
.
.
เกลียด.....เกลียดคน ๆนี้เหลือเกิน
เศษกระจกร่วงกราวเต็มพื้นห้อง พร้อมกับโลหิตสีแดงเข้มที่ไหลหยดออกมาจากมือข้างที่กำหมัดแน่น....ดวงตาที่ว่างเปล่าและเลื่อนลอย จ้องมองเศษกระจกที่แตกร้าวอยู่ในกรอบเบื้องหน้าอย่างไม่แสดงอารมณ์....
ภาพสะท้อนก่อนหน้านั้น...คือภาพของชายขี้ริ้วหัวฟูยุ่ง ริมฝีปากปริแตก ใบหน้านั้นเต็มไปด้วยสิว และร่องรอยฟกช้ำ บัดนี้กลับยิ่งบิดเบี้ยวและดูน่าเกลียดน่าชังกว่าเดิม เศษกระจกสะท้อนภาพของชายผู้นั้นออกเป็นหลาย ๆ คน....ดวงตาเย็นชาดูน่ากลัวในทุกเศษเสี้ยวของกระจกคล้ายปิศาจกำลังจ้องมองกลับมา ราวกับต้องการเย้ยหยัน และบางชิ้นส่วนของกระจกเงาที่แตกร้าวนั้นทำให้ภาพของชายผู้นั้นดูน่าขนลุกเหมือนภาพสะท้อนของอมนุษย์.....
แม้แต่สิ่งมีชีวิตที่น่าเกลียดที่สุดก็ยังมีความรู้สึกสินะ....
“ไอ้หนู.....ยายแวะซื้อของโปรดของหลานมาด้วย...น่ากินทั้งนั้น แล้วก็เคี้ยวง่ายด้วยลูก....แล้วยายก็ซื้อส้มมาคั้นให้หนูด้วย.....ไอ้หนู.....” เสียงร่าเริงของหญิงสูงอายุดังเจื้อยแจ้วพร้อมกับเสียงของประตูห้องเช่าที่เปิดเข้ามา ทำให้เดย์หยุดชะงักความคิดเอาไว้....
ข้าวของในมือของหญิงชราหลุดลงไปกองกับพื้น...ทันทีที่เงยขึ้นมองเห็นภาพตรงหน้าด้วยสายตาอันฝ้าฟางไปตามวัย ร่างสูงโปร่งเพียงแค่หันหน้ามาแล้วฉีกยิ้มให้เธอ....ยิ้มที่ดูอย่างไรก็ไม่เหมือนยิ้ม
“ยายจ๋า.....กระจกน่ะ เดย์ต่อยมันแตกหมดแล้ว เอาไว้เดย์จะซื้อมาให้ยายใหม่นะจ๊ะ”
เธอเองก็ทำได้เพียงแค่ถอนหายใจ แล้วส่งยิ้มกลับไปให้หลาน....พร้อมกับคิดหาทางที่จะเก็บซ่อนของมีคมที่สามารถทำอันตราย หรือหยิบฉวยมาใช้ทำร้ายตัวเองได้ง่าย เก็บไว้ให้เป็นที่เป็นทางกว่าที่เป็นอยู่.....
แน่นอนว่า ก็ต้องเป็นตอนที่เจ้าตัวไปเรียนล่ะนะ...
.
.
.
.
.
มือเหี่ยวย่นค่อย ๆ บรรจงพันผ้าก๊อตสำหรับพันแผลให้กับมืออ่อนเยาว์ของหลานชาย มือของหญิงชราลูบหัวของเดย์อย่างรักใคร่
“หลานของยายไม่ใช่คนขี้เหล่หรอกนะลูก”
“ไม่จริงหรอกยาย...เดย์น่ะทั้งน่าเกลียดแล้วก็อัปลักษณ์ ขนาดพ่อกับแม่ยังไม่ต้องการเดย์เลย”
“หลานพูดแบบนี้อีกแล้วนะ....ยายไม่ชอบเลย” น้ำเสียงของหญิงชราเปลี่ยนเป็นตำหนิ แต่ก็ไม่ได้จริงจังเท่าไรนัก
“ยายซื้อเครื่องนี่มาให้...เห็นในโฆษณา แพงทีเดียวแหละลูกเอ๊ย....ยายเองก็ไม่ได้เข้าไปเดินในห้างมาเป็นสิบ ๆ ปีแล้วล่ะไอ้หนู”
“ยาย....”
“ค่อย ๆ เปลี่ยนนะลูก....ยายเชื่อว่าหลานของยายต้องทำได้ ยายไม่ได้ปลอบใจ....แต่ยายเชื่อแบบนั้นจริง ๆ หลานของยายสวย....สวยทั้งข้างนอกและข้างใน”
“ยาย....”
มือสั่นเทายื่นไปรับกล่องเครื่องหนีบผมระบบไอน้ำราคาแสนแพงจากมือของยาย เดย์อยากจะร้องไห้....แต่น้ำตาเจ้ากรรมดันไม่ไหล...สองยายหลานไม่ได้ยากจน แต่ก็อยู่กันมาอย่างเรียบง่ายโดยตลอด อาศัยกินเงินเกษียณบำนาญข้าราชการของหญิงชรา เพียงแค่กินใช้ปกติ และจ่ายค่าเช่าห้องราคาไม่แพงมากนัก ไม่นึกฝันว่ายายซึ่งเป็นผู้หญิงแก่ ๆ คนหนึ่งจะลงทุนซื้อของแบบนี้ให้หลาน....หลานชายเสียด้วย
“เดย์เอ๊ย....หนูเป็นคนดีอยู่แล้ว แต่ถ้าจะให้คนอื่นเขาเห็นและรับรู้ หนูต้องแสดงมันออกมาให้พวกเขาเห็นนะลูก หันหลังสิ ยายจะทำให้....ต่อไปนี้หลานของยายจะต้องดูดีขึ้น เราเองก็พอมีเงินเก็บอยู่บ้างจำนวนหนึ่ง ถ้าหลานอยากจะฟุ่มเฟือยแบบเด็กธรรมดาดูบ้าง ยายว่ามันก็ไม่เสียหายนี่จริงมั้ย”
“ยาย......ยายจ๋า”
“หึหึ....อีหนูเอ๋ย....ยายต้องเรียกเราว่าอีหนูสินะ”
หญิงชราหัวเราะหัวใคร่....จนหลานชายเองอดอมยิ้มออกมาไม่ได้
“เดย์จะต้องดูดีขึ้นจ้ะยาย.....ต่อไปนี้เดย์จะมีความสุข....แต่ก่อนอื่นเดย์ต้องแก้แค้นคนพวกนั้น...แก้แค้นอย่างสาสม...พวกมันต้องเจ็บแบบที่เดย์เจ็บ”
หญิงชรายิ้มกว้าง....อย่างน้อย ๆ ก็ยังพอมีความหวังอยู่บ้างล่ะน่า....
ว่าทุกสิ่งอย่างมันจะต้องดีขึ้น....
อย่างน้อยที่สุดเจ้าเด็กดื้อนี่ก็ยอมที่จะเปลี่ยน... ไม่จะด้วยเหตุผลกลใดก็ตามที
.
.
.
.
.
.
“มึงยังจะกล้ามาเจอกูอีกเหรออีตุ๊ด”
น้ำเสียงเย็นชาของคนใจร้าย.....ไม่ได้ทำให้เดย์รู้สึกเสียใจอีกต่อไป.....คน ๆ นี้ไม่มีทางทำร้ายเดย์ได้อีกแล้ว
รายงานเล่มหนาที่มีชื่อของคนทั้งสองถูกโยนลงบนโต๊ะด้วยท่าทีที่เฉยเมยไม่ต่างกัน เดย์เอ่ยเสียงเรียบ....น้ำเสียงไม่ผิดเพี้ยนไปจากเครื่องตอบรับอัตโนมัติ
“รายงานคู่ของเรา......ชั้นทำมาให้แล้ว นายตรวจดูอีกทีก่อนส่งก็แล้วกัน”
“นี่มึง.....ทำแบบนี้ต้องการอะไรวะ.....มึงจะมาไม้ไหนอีก”
“สิ้นสุดกันแค่นี้แหละเจ......ไม่มีอะไรทั้งนั้น......ลาก่อน”
คนหล่อนั่งจ้องรายงานเล่มนั้นอยู่อึดใจหนึ่ง....แต่แล้วก็ลุกพรวดพราดขึ้น แล้วตรงดิ่งไปยังร่างโปร่งที่หันหลังเดินห่างออกไปเรื่อย ๆ คว้าข้อมือผอม ๆ นั่นเอาไว้
“หมายความว่าไง.....สิ้นสุดกันแค่นี้ มึงจะทำอะไรอีตุ๊ด.....มึงจะแก้แค้นก็ลงทำกับกูนี่....กูคนนี้แหละที่ทำร้ายมึง พีทไม่เกี่ยว!!!!”
มือของชายหนุ่มบีบข้อมือผอมนั้นเต็มแรง.....อย่างกับว่าต้องการจะให้มันหักดังเปร๊าะ.....เดย์ยังคงรักษาความเรียบเฉยของสีหน้า แม้ว่าจะรู้สึกเจ็บปวด.....
เจ็บมากกว่านี้ร้อยเท่าก็เคยมาแล้ว....นับประสาอะไรกับโดนแค่ผู้ชายบีบข้อมือเล่า....คนขี้ริ้วนึกขำ....นี่ถ้าหากว่าตัวเดย์เป็นหญิงสาวท่าทางอ่อนหวานขี้อายแบบนางเอกละครล่ะก็นะ.....นี่คงเป็นฉากที่โครตจะคลาสสิค
“มึงจะไม่พูดอะไรจริง ๆ เหรอ”
แรงบีบนั้นคลายลง....สีหน้าของชายหนุ่มดูสำนึกผิดอยู่กลาย ๆ
“ลาก่อนเจ.....”
เจได้แต่มองตาม.....แม้ว่าจะรู้สึกผิดมากแค่ไหน.....แต่ทุกสิ่งที่ได้ทำลงไปนั้น มันเลยจุดที่จะขอให้อีกคนยกโทษให้เสียแล้ว...ชายหนุ่มได้แต่กับตัวเองซ้ำ ๆ บอกซ้ำ ๆ ว่าไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้น....ไม่รู้สึกสงสารคนขี้ริ้วที่ถูกชกจนเลือดอาบ....ไม่รู้สึกหดหู่กับน้ำเสียงตัดพ้อ และหยาดน้ำที่ไหลรินออกมาจากดวงตาเศร้าหมองคู่นั้น
เขาไม่ได้.....รู้สึกอะไรทั้งนั้น
นอกเสียจากว่า....
“อีตุ๊ดมันไปยืดผมมารึไงน่ะ”.
.
.
.
.
.
“โย่ววววววววว์.......น้องสาว.....มีธุระกับใครในชมรมรึเปล่าจ๊ะ” เสียงโห่แซว.....ผิวปากดังขึ้นไม่มีหยุด จนเดย์รู้สึกประหม่า
สองขายาวโย่ง....ค่อย ๆ ย่างกรายอย่างเรียบร้อยสุด ๆ ผ่านหน้าฝูงหมาป่า....วัวควาย....และบรรดาม้าศึกที่ดูคึกเวอร์ ตาเหลือบไปเห็นมือเบสส์หน้าทะเล้นกำลังโซโล่อย่างเมามันส์
“พี่หน้าตี๋คะ”
เดย์ตรงดิ่งไปยังคนคุ้นหน้า ชายหน้าตี๋ที่ดันมีชื่อเล่นว่าตี๋สมกับหน้าตา ส่งยิ้มทะเล้นทะลึ่งมาให้จนตาหยี....
“มาหาพี่เหรอ.....จะมาขอบคุณพี่ล่ะเซ่ะ....แหม่ ว่าก็ว่าเหอะนะ ตอนเรายังไม่ฟื้นพี่ล่ะคิดว่าน้องน่ะแมนทั้งแท่ง....พอน้องเปิดปากพูดแค่นั้นล่ะ....อุ๊บ๊ะ น้องเทืองนี่หว่า....จากที่คิดว่าน้องไปมีเรื่องชกต่อยแย่งหญิง นี่คงจะไปตบกับเพื่อนกะเทยแย่งหนุ่ม ๆ ล่ะเซ่ะ”
ตั้งใจจะทำให้ฮา...แต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะตอบสนองอย่างแห้งแร้ง คนขี้ริ้วกระตุกยิ้มอยู่เพียงเสี้ยววินาที...เร็วจนมองตามไม่ทัน...
ไอ้เหี้ยนี่พูดมากกกก แพล่ม....พล่ามไปเรื่อยไม่มีหยุดจริง ๆ ให้ตายเหอะ!!!“หนูมาหาพี่คนที่หล่อ ๆ น่ะค่ะ”
“อ้าวงั้นก็มาหาพี่สิน้อง”
พูดอ้อม ๆ ขนาดนี้แล้ว.....มันยังไม่รู้สึกตัวอีกแฮะ“อีกคนนึงค่ะ.....คนที่หล่อน้อยกว่าพี่นิดนึงน่ะ”
“อ่อไอ้ต้นน่ะเหรอ......มันยังไม่เข้ามาน่ะ สงสัยจะไปเฝ้าน้องน้ำ.....กิ๊กคนที่ร้อยยี่สิบเจ็ดของมันน่ะ.....มีอะไรฝากพี่ไว้ก็ได้ครับน้องเทย”
แม้ไม่ได้พูด....แต่หน้าตาก็บ่งบอกถึงความไม่พอใจออกมาชัดเจน พ่อคนปากเสียรีบทำท่ารูดซิบปากครืด....ฉับ!!!! แล้วเปลี่ยนมายิ้มมุมปากแทน
“นี่บิลค่าห้องกับค่ารักษาพยาบาล....ที่พี่เค้าจ่ายให้หนู....แล้วนี่ก็เงินค่ะ หนูฝากพี่ให้พี่คนนั้นด้วยนะคะ”
“แค่นี้เหรอครับน้อง”
“ค่ะ.....แล้วก็...”
“ฝากขอบคุณพี่เค้าด้วย....ขอบคุณมากจริง ๆ.....หนูไม่รู้จะตอบแทนพี่สองคนยังไง....ขอบคุณค่ะ”
ของในมือของเดย์ยื่นส่งให้อีกคนที่รับไปอย่างเก้ ๆ กัง ๆ กล่องสี่เหลี่ยมทรงยาวถูกล้วงออกมาจากย่ามใบโต...
ของตอบแทนสำหรับพวกผู้ชาย.....คงไม่มีอะไรจะเหมาะสมไปกว่า
เจ้าเหล้านอกขวดเบ่อเริ่มเทิ่มนี่หรอกนะ.....ไปเมากันให้ตายห่าเลยไป๊.................................................................................
ยังไม่ให้เจอกันง่าย ๆ หรอกน่ะ.....ตอนนี้กล่าวถึงหนึ่งเดียวในใจเดย์ 55555+ คงคิดว่าเป็นพี่ต้นอ่ะดิ ป๊าดดดดดด เค้าตั้งใจจะสื่อถึงความรักระหว่างสองยายหลานต่างหากเล่า
อาจจะไม่ได้อัพถี่ แต่ไม่ทิ้ง ไม่ดองแน่ ๆ ค่ะ คนแต่งทำงาน ไม่ค่อยมีเวลาน่ะ
ตอนนี้ไม่เศร้าอ่ะ....แถมแอบซ่อนอารมณ์ฮากริบ ๆ.....อย่าว่ากันนะแบบ เครียดกับน้ำท่วม ถึงบ้านตัวเองจะไม่ท่วมก็เถอะ...แต่ก็มีผลกับงานที่ทำไม่มากก็น้อยอยู่!!!!!