กลับมาที่ปัจจุบัน
เสียงจูบเฉอะแฉะดังก้องไปทั่วโสตประสาทของทั้งสองคน ร่างสูงเดินถอยหลังออกมาตามแรงดันของคนงามที่ตอนนี้ออกแรงผลักหน้าอกของเขาไม่หยุด หลี่หรงเหยาช้อนตาขึ้นมามองหน้าเด็กหนุ่ม สกิลปลุกราคะกำลังทำงานเต็มที่เพื่อกระตุ้นอารมณ์ของเขารวมถึงกงหยางหลวนซานให้พร้อม
ศิษย์วัยฉกรรภ์ถูกมัวเมาด้วยความต้องการที่ล้นปรี่ จนไม่ได้ใส่ใจอีกต่อไปแล้วว่าแผ่นหลังกว้างของตนจะไปชนเข้ากับสิ่งใดบ้าง ตราบจนทั้งสองคนออกมาจากห้องอาบน้ำได้สำเร็จร่างบางจึงได้ถูกแขนแกร่งกอดรัดอย่างแนบแน่น
มือหนาช้อนเข้าใต้สะโพกขาวก่อนออกแรงยกร่างของหลี่หรงเหยาขึ้นจนเท้าลอยจากพื้น ก่อนจะพาไปวางบนเตียงอย่างทะนุถนอมด้วยเกรงว่าแรงของตนนั้นจะทำให้อีกฝ่ายเจ็บตัว ครึ่งมารหนุ่มไม่รู้เลยว่าที่จริงแล้วอาจารย์ผู้แสนบริสุทธิ์ในสายตาของเขานั้นอยากโดนกระทำอย่างรุนแรงเพียงใด
ดวงตากลมสวยจับจ้องร่างด้านบนที่นอนยังมีอาภรณ์ครบชิ้น ใบหน้าหล่อเหลาถูกชโลมไปด้วยเหงื่อแม้อากาศด้านนอกมีลมหนาวแห่งวสันต์ฤดูพัดวูบไหว ดวงตาคมดุดันมองลากไล้ไปทั่วเรือนกายของอาจารย์ตนซึ่งกำลังนอนหงายอย่างน่าอาย
หลี่หรงเหยาพยายามสงวนท่าทีอย่างสุดความสามารถ ทั้งที่ใจจริงอยากกระโจนเข้าใส่ ปลดเปลื้องอาภรณ์อันแสนเกะกะของเด็กหนุ่มตรงหน้าออกไปให้หมดสิ้น ฤทธิ์ของสกิลปลุกราคะซึ่งบัดนี้ทำงานผสานกับพิษของมารที่อยู่ในร่าง กำลังจะทำให้เขาสำลักความต้องการตายอยู่แล้ว
มือน้อยยื่นมาด้านหน้าไขว่คว้าหาที่ยึดราวกับคนเพ้อไข้ ดวงตากลมฉ่ำวาวไปด้วยน้ำตาแห่งความต้องการ หากแต่ยังพยายามหักห้ามใจตนอย่างสุดความสามารถ เพราะไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องสวมบทบาทซือจุนผู้ใสซื่อบริสุทธิ์ให้แนบเนียนที่สุด เพื่อให้ภารกิจลุล่วงไปได้ด้วยดี
ชายหนุ่มโน้มกายลงมาทาบทับแทรกกลางระหว่างเรียวขาขาวทั้งสองข้างโดยได้รับความร่วมมือจากคนงามเป็นอย่างดี ริมฝีปากหยักได้รูปประทับลงบนอวัยวะเดียวกัน ก่อนค่อย ๆ จุมพิตเรื่อยลงมาตามซอกคอนวลเนียน
หลี่หรงเหยาเลือกใช้สกิลฟีโรโมนยั่วยวน กระตุ้นอีกฝ่ายเพิ่มมากขึ้นด้วยการปล่อยกลิ่นกายหอมละมุน ปั่นประสาทของครึ่งมารหนุ่มให้ตกอยู่ในห้วงราคะ มือน้อยจิกทึ้งเรือนผมสีดำขลับของอีกฝ่ายด้วยแรงไม่เบานัก ยามที่ริมฝีปากหยักเล็มเลียแผ่นอกไปพร้อม ๆ กับมือสากที่ไล่สัมผัสเค้นคลึงเอวคอด
หลี่หรงเหยาอยากให้อีกฝ่ายหนักมือยิ่งกว่านี้ เพราะนี่มันยังไม่เพียงพอที่จะสนองความต้องการที่ดิ้นพล่านอยู่ภายในของเขาได้ เรียวขาขาวเกี่ยวกระหวัดรอบเอวสอบอย่างเผลอไผลยามที่ริมฝีปากนั้นครอบเข้ากับยอดอกสีระเรื่อ เรียวลิ้นอุ่นชื้นตวัดขึ้นลงอย่างชำนิชำนาญจนอดจะสงสัยไม่ได้ว่าเจ้าเด็กครึ่งมารนี่ไปศึกษาเรื่องเหล่านี้มาจากที่ใดกัน
"อะ อือ หลวนซาน" หลี่หรงเหยาวางมือลงบนศีรษะของกงหยางหลวนซานก่อนจะออกแรงรั้งให้ขยับขึ้นมาตำแหน่งเดิม แก้วตาสีเปลือกไม้จับจ้องที่ริมฝีปากของอีกฝ่ายอ้อนขอจุมพิตแสนหวานอีกครั้ง
ไม่ต้องมีคำพูดใด ๆ ออกมาจากปาก ครึ่งมารหนุ่มก็ยินดีป้อนจุมพิตลึกล้ำให้ด้วยความเต็มใจอยู่แล้ว ปากอุ่นร้อนทั้งสองทาบทับแนบชิดกันแช่ค้างอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เด็กหนุ่มจะเริ่มดูดดึงกลีบปากนิ่ม เรียวลิ้นชื้นหยอกล้อกับลิ้นเล็กที่พยายามขยับโต้ตอบกลับมา มือหนายังคงบีบนวดสะโพกกลมมนอย่างเบามือก่อนจะเพิ่มน้ำหนักเมื่อได้ยินเสียงครางเครือในลำคอระหง
น่ารัก
มือบางเริ่มดึงทึ้งเสื้อผ้าของกงหยางหลวนซานจนเหลือเพียงกางเกงผ้าตัวเดียวติดกาย ดวงตาสวยไล่มองกล้ามเนื้อแน่นหนันและส่วนหน้าที่ผงาดตั้งจนดันเนื้อผ้าออกมาชัดเจนก่อนจะลอบกลืนน้ำลายอย่างหิวกระหาย หากไม่ติดว่าเขาจะต้องเล่นละครเป็นดอกบัวขาวผู้แสนบริสุทธิแล้วล่ะก็ ป่านนี้เขาคงพุ่งเข้าไปกระชากกางเกงนั้นทิ้ง แล้วครอบครองแท่งหยกล้ำค่านั้นด้วยปากจนลึกสุดคอไปแล้ว
ในขณะที่หลี่หรงเหยาคิดอยางกระเหี้ยนกระหือรือแต่กงหยางหลวนซานก็ยังคงไม่รีบร้อน ร่างสูงยังคงลากไล้ปลายจมูกสูดดมกลิ่นกายหอมละมุนไปทั่วแผ่นอกขาว ลากมาจนถึงหน้าท้อง แวะเวียนไปที่สีข้างด้านซ้าย ก่อนจะลากลงมาใต้แอ่งสะดือสวยอย่างอ่อนโยน
พับผ่าสิ เมื่อไหร่เจ้าทึ่มนี่จะเผด็จศึกกับเขาเสียที!!
ยังไม่ทันที่หลี่หรงเหยาจะได้ก่นด่าไปมากกว่านี้ มือใหญ่ก็กอบกุมแก่นกายขนาดเหมาะมือของเขาเอาไว้ ก่อนจะช่วยรูดรั้งให้ด้วยจังหวะเนิบนาบ แล้วค่อย ๆ เพิ่มจังหวะขึ้นเรื่อย ๆ
"อ๊ะ..." สัมผัสวาบหวามที่อีกฝ่ายใช้ปรนเปรอ ทำให้ไฟราคะในกายคล้ายกับจะได้รับการบรรเทาอยู่บ้าง แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการอยู่ดี
มากกว่านี้ เขาต้องการมากกว่านี้
"ข้าไม่ไหวแล้วหลวนซาน ทำข้าแรงกว่านี้หน่อยได้หรือไม่" ไม่เพียงจะพูดด้วยเสียงสั่นพร่าเท่านั้น แต่ยังยกสะโพกส่ายยั่วยวน พร้อมกับใช้มือลูบวนเขี่ยคลึงยอดอกของตัวเองอีกทาง ทำขนาดนี้แล้วยังทนไหวอยู่ก็ให้มันรู้ไป!
กงหยางหลวนซานรู้สึกเหมือนตนหูอื้อกะทันหัน ภาพตรงหน้าเป็นสิ่งที่เกินจินตนาการของเขานัก แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่ได้หน้ามืดมากพอที่จะกระทำโดยไม่คิดช่วยเบิกทางก่อน ร่างกายบุรุษไม่เหมือนกับร่างกายของอิสตรีเรื่องนี้กงหยางหลวนซานรู้ดี ดวงตาคมสอดส่ายหาบางสิ่งที่จะช่วยหล่อลื่นบรรเทาความเจ็บให้กับอาจารย์ของเขาได้บ้าง
พลันสายตาไปปะทะกับขวดน้ำมันหอมที่ได้มาจากนางโลม ที่เขาและอาจารย์เคยช่วยเหลือตอนไปปราบมารที่แดนใต้ ครึ่งมารหนุ่มไม่รอช้ารีบรุดลงจากเตียงไปก่อนจะกลับมาจับร่างของหลี่หรงเหยาพลิกคว่ำ แล้วเปิดฝาเทน้ำมันหอมลงไหลรินรดผ่านระหว่างแก้มก้นนิ่มทั้งสองข้าง
"อ๊ะ จะ เจ้าทำสิ่งใดกัน" เสียงหวานถามอย่างตระหนกผิดกับภายในที่กำลังลิงโลด เพราะรู้ดีแก่ใจว่าสิ่งใดจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ ลองรีบร้อนเปิดทางเช่นนี้แล้ว อีกไม่นานท่อนลำใหญ่โตนั้นคงได้เข้ามาปรนเปรอเขาจนสำลักความสุขกันไปข้าง
"สิ่งนี้จะทำให้ท่านไม่เจ็บขอรับ" กงหยางหลวนซานโน้มตัวไปประทับริมฝีปากลงตรงกลางแผ่นหลังขาวอย่างเอ็นดูกับความไม่ประสีประสาของคนอายุมากกว่า หาได้รู้เลยว่าตนกำลังคิดผิดถนัด
"ท่านไม่ต้องกลัวนะขอรับข้าจะถนอมให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้" เสียงทุ้มกล่าวกับหลี่หรงเหยาอย่างอ่อนโยน ร่างบางรู้สึกขัดใจนักที่ได้ยินแบบนั้น เพราะในความเป็นเขาจริงอยากตะโกนใส่หน้าเจ้าเด็กบื้อนี่เหลือเกินว่ามีเท่าไหร่ก็ให้ใส่มาให้หมด อย่าได้เก็บกลั้นเอาไว้!! แต่ก็ทำได้เพียงกระทืบเท้าตะโกนในความคิดเท่านั้น
กงหยางหลวนซานประทับจุมพิตลงบนก้อนเนื้อขาว นิ้วเรียวกดนวดที่ปากช่องทางเบา ๆ ก่อนใช้ความลื่นดันนิ้วของตนผลุบหายเข้าไป ด้านหลี่หรงเหยาที่กำลังหลับตาพริ้มเพลิดเพลินกับการปรนนิบัติก็กลับกระตุกเฮือกอย่างควบคุมไม่ได้
ร่างกายของหลี่หรงเหยาในโลกนี้บริสุทธิ์กว่าที่คิด นี่ขนาดแค่นิ้วเดียวยังคับแน่นถึงเพียงนี้ แล้วหากต้องเจอกับของกงหยางหลวนซานล่ะ มิเจ็บเจียนตายหรอกหรือ มองดูผ่านเนื้อผ้ายังขนาดไม่ธรรมดาแบบนั้น
สะโพกสวยบิดเร้าไปมาอย่างเสียวกระสัน ยามเมื่อก้านนิ้วยาวที่สองชำแรกออกมาก็ยิ่งรู้สึกมากกว่าเดิมหลายเท่า หลี่หรงเหยาพยายามใจเย็นต่อสู้กับความไม่เคยชินการสัมผัสลึกซึ้งของร่างกายนี้ แต่เมื่อนิ้วก้านที่สามมุดเข้ามาท่อนขาขาวก็กลับหมดแรงทรุดลงไปเสียดื้อ ๆ
ความรู้สึกคับแน่นจนทนแทบไม่ได้นั้นยิ่งกระตุ้นให้เขาปล่อยกลิ่นหอมยั่วยวนแผ่ออกมาจากตัวจนแม้แต่ตัวเองยังได้กลิ่น เสียงหอบหายใจแรงของหลวนซานดังขึ้นเรื่อย ๆ หากแต่การกระทำยังคงนิ่มนวลเช่นเดิมคล้ายกับว่าเด็กหนุ่มยังคงพยายามตั้งสติของตนเองเอาไว้
ใบหน้าสวยผินไปด้านหลังอย่างช้า ๆ ดวงตาใสค่อย ๆ ไล่มองอย่างเอียงอาย ร่างกายกำยำสมชายของกงหยางหลวนซานทำเอาหน้าร้อนอย่างช่วยไม่ได้ ไม่เพียงกล้ามเนื้อแน่นที่เรียงตัวสวยอย่างไร้ที่ติ แต่ดวงตาคมดุคู่นั้นยังมองเขามาอย่างเอ็นดูเหลือเกิน หากกงหยางหลวนซานรู้ว่าในใจของเขาคิดพิเรณเพียงใด อีกฝ่ายคงไม่มองกันด้วยสายตาเช่นนี้แน่
ท่อนเนื้อใหญ่โตที่โป่งนูนดันเนื้อผ้าออกมามากกว่าเดิมทำเอาหลี่หรงเหยาเผลอหันกายไปอย่างลืมตัว มือเล็กเอื้อมไปแตะขอบกางเกงสีขาวอันแสนเกะกะ ก่อนจะแก้ปมเชือกแล้วดึงลงจนมันดีดผึงออกมาสัมผัสอากาศด้านนอก
อยู่ในกางเกงว่าใหญ่แล้ว พอออกมาข้างนอกใหญ่กว่าที่คิดเสียอีก หลี่หรงเหยาเผลอกลืนน้ำลาย ช่องทางที่เพิ่งถูกกระตุ้นขมิบถี่ด้วยความกระสัน แค่ได้คิดว่าจะโดนท่อนเอ็นนี้สอดใส่เข้ามาในกาย ขนทุกเส้นในกายก็พากันลุกชันไปหมด
หากแต่ในสายตาของกงหยางหลวนซานที่ไม่ได้รับรู้ถึงความคิดนั้นเลยแม้แต่น้อย กลับมองอาการนิ่งงันของหลี่หรงเหยาว่าช่างไม่ประสีประสาและน่าเอ็นดู ฝ่ามือใหญ่ดันให้ร่างบางนอนราบไปกับพื้นเตียง ดวงตาคมไล่มองไปทั่วทุกพื้นที่อย่างจาบจ้วงจนคนโดนมองรู้สึกเสียววาบไปทั่วสรรพางค์กาย
"ไม่ต้องกลัวนะขอรับ ข้าจะไม่ทำให้ท่านเจ็บ" ว่าพลางโน้มกายแนบกลีบปากกับริมฝีปากสวย ดูดคลึงแผ่วเบาอย่างเคลิบเคลิ้ม ขณะที่มือสากลากสัมผัสเนื้อนิ่มไปจนทั่วและไม่ลืมที่จะหยุดหยอกล้อกับยอดอกสีระเรื่อที่กำลังชูชันอีกด้วย
หลี่หรงเหยาปล่อยกลิ่นหอมของตนเพิ่มอีกครั้ง เพื่อยั่วยุให้กงหยางหลวนซานสติขาดกระแทกกระทั้นกายเข้ามาแรง ๆ เสียที แล้วก็เป็นไปดังที่หวัง ปลายยอดหยักมนเริ่มชำแรกเข้าในช่องทางคับแคบ แม้จะมีน้ำมันหอมเป็นตัวหล่อลื่นทั้งยังได้รับการเบิกทางมาแล้วแต่ก็ยังเข้ามาไม่ง่ายนัก หลี่หรงเหยาหลับตารับความรู้สึกที่ท่อนเนื้อร้อนรุ่มนั้นสัมผัสเสียดสีทุกพื้นที่ด้านใน
กว่าจะเข้าไปจนสุดลำก็นับว่าจุกไม่น้อย กงหยางหลวนซานไม่รีบร้อนเท่าใดนัก ยังคงใจดีให้หยุดแช่เอาไว้เขาได้ปรับตัว แม้จะต้องขมวดคิ้วและขบกรามอย่างสะกดกลั้น ยามที่โดนช่องทางของผู้เป็นอาจารย์ตอดรัดแน่นก็ตามที
"อ่ะ..."
กงหยางหลวนซานถนอมร่างกายเขาและมีความอดทนเสียจนหลี่หรงเหยาอดจะทึ่งไม่ได้ เป็นเขาเสียอีกที่ทนไม่ได้กับความคับแน่นจนต้องหาทางขยับตัวเสียดสีขมิบรัดอีกฝ่ายมากขึ้น
หลี่หรงเหยาไม่รับรู้สิ่งใดอีกแล้ว ดวงตาฉ่ำน้ำสบกับอีกฝ่ายคล้ายจะอ้อนวอนให้ช่วยกระทำกับร่างกายนี้ คำขอของคนงามไม่เคยไม่เป็นผล เมื่อในตอนนี้สะโพกสอบกำลังขยับโยกเข้าออกอย่างเชื่อฟัง
ดวงตาที่เคยเป็นสีดำสนิทบัดนี้เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีชาดอีกครั้งด้วยแรงอารมณ์ที่ แม้จะพยายามควบคุมตนเองอย่างหนัก ทว่าสายเลือดครึ่งมารในร่างที่เด็กหนุ่มยังไม่ได้เรียนรู้วิธีควบคุมก็มักจะเข้าครอบงำให้เขาเผลอกระทำรุนแรงเสมอ
เด็กหนุ่มไม่รู้เลยว่าที่จริงแล้วหลี่หรงเหยาสาสมใจกับด้านมารของเขาเพียงใด
ร่างสูงขยับสะโพกเสือกกายเข้าหาคนงามแรงขึ้น มือหนาลูบสีข้างนวลเนียน ใบหน้าหล่อยังคงไล่สูดดมกลิ่นหอมพร้อมทั้งเลาะเล็มผิวเนื้อนิ่มอย่างหลงใหล แรงปรนเปรอถึงอกถึงใจเริ่มทำให้คนงามดวงตาเลื่อนลอย ปากร้องครวญครางราวเสียงหวานคล้ายกับจะเก็บกลั้นต่อไปไม่ได้
"อ๊ะ อ๊า"
ช่างเรื่องต้องแสดงเป็นคนใสซื่อไปก่อนเถอะ
หากถามความมั่นใจในการทำภารกิจ หลี่หรงเหยาคิดว่าคงเป็นเรื่องที่เป็นเรื่องที่เป็นไปได้เพราะตอนนี้ทั้งด้านค่าความสัมพันธ์และการแสดงออกสื่อเหลือเกินว่าหลวนซานเริ่มมีใจให้กับเขา เพราะหากไม่มีใจคงไม่มาเสนอตัวช่วยในเรื่องแบบนี้แน่
แขนเรียวตวัดโอบรอบลำคอแกร่งยามที่อีกฝ่ายซุกไซ้ใบหน้าลงบนซอกคอหอมกรุ่น ก่อนจะเลื่อนมาจบที่ริมฝีปากอีกครั้ง ขาเรียวสวยเกี่ยวเอวสอบเอาไว้แน่นยามที่ท่อนเอ็นอวบนั้นกระทั้นเข้ามาแรงขึ้นเสียงเนื้อกระทบกันดังก้องไปทั้งห้อง หากเขาไม่ใช้ความสามารถที่ระบบให้มาช่วยเก็บเสียงภายในเรือนพักแล้วล่ะก็ ป่านนี้ทั้งสำนักคงได้ยินกันไปหมดแล้ว
ร่างกายของหลี่หรงเหยาอ่อนไหวเหลือเกินเสียจนสัมผัสเพียงน้อยนิดก็กระตุ้นอารมณ์วาบหวามให้ลุกโชนขึ้นได้อย่างง่ายดาย ไม่ต้องพูดถึงหากกงหยางหลวนซานกระแทกเข้าไปที่จุดกระสัน
"อะ อ๊า!! "
"ชู่ว..."
ครึ่งมารหนุ่มโน้มใบหน้าเข้าไปป้อนจูบปิดกั้นเสียงร้องด้วยเกรงว่าใครจะมาได้ยินเข้า หลี่หรงเหยาเบิกตากว้างเมื่อร่างทั้งร่างถูกจับพลิกให้อยู่ในท่าคว่ำหน้ากระทันหัน แม้จะถึงใจกับความรุนแรงแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าตกใจอยู่ไม่น้อย
ยามที่ท่อนเนื้อนั้นถอดออกและใส่เข้ามาใหม่ มือใหญ่เอื้อมมาปิดปากของเขาเอาไว้อย่างแน่นหนา หลี่หรงเหยาจึงทำได้เพียงร้องครางอู้อี้ในลำคอ กายสูงโน้มลงมาทาบทับแผ่นหลังของเขา ขณะที่สะโพกยังคงขยับไม่ได้พัก ยิ่งมาอยู่ในท่านี้หลี่หรงเหยายิ่งได้ยินเสียงหอบหายใจรุนแรงราวกับสัตว์ร้ายได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
จุดกระสันถูกครึ่งมารหนุ่มบดขยี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า มือที่เคยใช้ปิดปากเลื่อนลงไปเกาะเกี่ยวสะโพกมน ก่อนจับตรึงเอาไว้แล้วสาวเอวกระแทกเข้าใส่กายนิ่มจนก้อนเนื้อกลมขาวสองลูกกระเด้งกระดอนตามจังหวะที่เจ้าตัวดันแก่นกายเข้าหา
มืออีกข้างที่ว่างอยู่กดให้ไหล่เล็กแนบลงไปกับพื้นฟูกนอน ยิ่งทำให้สะโพกสวยลอยเด่นยิ่งขึ้น
"ซือจุนขอรับ ข้ารู้สึกดีเหลือเกิน" แม้ปากจะเรียกหลี่หรงเหยาว่าอาจารย์ แต่กงหยางหลวนซานรู้ดีอยู่แก่ใจว่าสิ่งที่กำลังทำกันอยู่ไม่ใช่สิ่งที่ศิษย์และอาจารย์ปกตินั้นควรทำร่วมกันเป็นอย่างยิ่ง
"หละ หลวนซาน อ๊า! " ความเสียวซ่านกระสันทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ จนหลี่หรงเหยาลืมไปเสียสิ้นว่าต้องสงวนท่าทีรักษาภาพลักษณ์ของตนเอาไว้ สะโพกสวยส่ายเด้งเข้าสู้กับแรงกระแทกกระทั้นอย่างลืมตัวและลืมอาย มือน้อยกำผ้าปูเตียงเอาไว้จนยับย่น
"ระ แรงอีก"
ช่องทางคับเริ่มขมิบตอดรัดแน่นขึ้นเรื่อย ๆ แสงสีขาวเริ่มปรากฏในหัวของหลี่หรงเหยายามที่โดนกระแทกเข้าจุดกระสันอย่างหนักหน่วง และเหมือนว่ากงหยางหลวนซานเองก็สัมผัสได้ว่าจุดหมายของร่างบางเคลื่อนใกล้เข้ามาเต็มทีแล้ว สะโพกสอบจึงขยับถี่เพิ่มแรงกระทั้นมากขึ้นจนคนโดนกระทำตัวโยน
หยาดหยดสีขุ่นพุ่งเลอะพื้นเตียงเบื้องล่างโดยที่ไม่ได้แตะต้องส่วนหน้าเลยแม้แต่น้อย ร่างสะโอดสะองกระตุกเกร็ง ขมิบกายบีบรัดส่วนหน้าของกงหยางหลวนซานอย่างหนักหน่วงจนครึ่งมารหนุ่มนิ่วหน้า
หลี่หรงเหยาทรุดร่างกายส่วนบนไปกับพื้นเตียงอย่างเหนื่อยอ่อน ร่างกายยังคงขยับเมื่อกงหยางหลวนซานยังไม่ถึงฝั่งฝัน มือหน้ายังคงจับสะโพกของเขาแน่นขณะที่ส่งแรงกระแทกห้วงสุดท้ายเข้ามา
"อ่าห์..."
เสียงครางต่ำในลำคอดังขึ้นก่อนที่หลี่หรงเหยาจะได้ยินเสียงกัดฟันดังกรอด พร้อมกับความอุ่นร้อนที่หลั่งไหลชโลมผนังภายในทั่วจนล้นทะลัก ร่างสองร่างล้มลงไปนอนทับกันบนฟูกนอนทั้งที่ยังไม่ได้ถอนกายจากช่องทาง
เนิ่นนานกว่าที่กงหยางหลวนซานจะยันกายขึ้น ก้าวลงจากที่นอนและหันมาช้อนกายผู้เป็นอาจารย์ขึ้นมาแนบอก
"อ่ะ เจ้าจะทำอะไรกันหลวนซาน" หลี่หรงเหยาเอ่ยถามด้วยใบหน้าแดงซ่าน เพราะท่วงท่าแบบนี้ทำให้ของเหลวด้านในไหลย้อนออกมาด้านนอกจนหยดลงไปบนพื้นไม้อย่างน่าอาย
"ข้าจะพาท่านไปล้างเนื้อล้างตัวขอรับ" น้ำเสียงอ่อนละมุนทำให้หลี่หรงเหยาที่กำลังจะร้องค้านหุบปากฉับทันที
ถึงในใจจะยังรู้สึกไม่เพียงพอกับสัมพันธ์ลึกซึ้งที่อีกฝ่ายมอบให้ และอยากได้อีกหลาย ๆ รอบ แต่ว่าการมีเซ็กส์ครั้งแรกของร่างกายจริง ๆ นี้ไม่ใช่ในมิติฝึกฝนทำให้รู้สึกปวดตุบ ๆ ไม่น้อย ช่องทางด้านหลังคงบวมแดงมากพอสมควร ไหนจะร่างกายซึ่งเต็มไปด้วยร่องรอยบีบเคล้นนี้อีก รอยรักสีแดงจากการขบกัดและดูดดึงปรากฏทั่วทั้งตัว เช่นนี้แล้วต่อให้ร้องขออีก กงหยางหลวนซานก็คงไม่ยอมทำ
หลี่หรงเหยาปล่อยให้ศิษย์คนสนิทอุ้มไปชำระร่างกาย รวมถึงช่องทางด้านหลังอยู่นานจนสะอาดหมดจด เด็กหนุ่มอุ้มกลับมายังห้องนอนอีกห้องซึ่งไม่มีกลิ่นหรือคราบเปรอะเปื้อนอันแสนน่าอายจากเกมกามคาวโลกีย์อยู่
แม้ร่างกายของหลี่หรงเหยาแม้จะดูบบอบบางน่าทะนุถนอมหากแต่ไม่ได้อ่อนแอถึงขนาดที่แสดงออกมาเพราะเป็นผู้บำเพ็ญเพียรขั้นสูงแล้ว แต่ในเมื่อกงหยางหลวนซานแสดงความใส่ใจเช่นนี้ เขาก็จะขอทำให้ค่าความสัมพันธ์เพิ่มขึ้นอีกสักหน่อย
"หลวนซาน เจ้าจะไปไหน" เสียงหวานแสร้งเอ่ยถามยามที่เห็นว่าศิษย์คนสนิทกำลังจะหยิบเสื้อคลุมมาสวมใส่ มือหนาชะงักนิ่งก่อนจะหันกลับมา หากแต่ไม่สบตาเขาเลยแม้แต่น้อย
"ข้า...ไม่สามารถสู้หน้าท่านได้ขอรับ" เมื่อแรงราคะหมดไปกงหยางหลวนซานจึงกลับมารู้สึกผิดชอบชั่วดีอีกครั้ง ความรู้สึกผิดที่กับสิ่งที่เขาทำกับผู้เป็นอาจารย์ตีรวนขึ้นในใจ ยากที่จะทำให้เขารั้งอยู่ต่อได้
"เจ้าช่วยข้าไม่ใช่หรือ ใยต้องไม่กล้าสู้หน้า"
"..."
"ข้าเสียอีกที่เป็นฝ่ายเรียกร้องสัมผัสจากเจ้า ต้องเป็นข้าสิที่ไม่กล้าสู้หน้า"
"..."
"มาเถิด" มือสวยยื่นไปทางกงหยางหลวนซานที่ค่อย ๆ เงยหน้ามาสบตาเขา
สุดท้ายครึ่งมารหนุ่มก็ไม่สามารถต้านทานได้ กงหยางหลวนซานยอมจำนนด้วยการเดินกลับมา คลานขึ้นเตียงและทิ้งตัวลงนอนข้าง ๆ ให้หลี่หรงเหยาได้ซุกกายอิงแอบคลายความเหน็ดเหนื่อยจากสัมพันธ์สวาทเมื่อครู่
ยังไม่ทันที่หลี่หรงเหยาจะสติหลุดลอย เสียงยานคางโมโนโทนจากระบบพลันดังขึ้นในหัว
[ปลดล็อกความสัมพันธ์รูปแบบใหม่ระหว่างหลี่หรงเหยา กับกงหยางหลวนซาน ค่าความสัมพันธ์ เพิ่มขึ้น 40 เปอร์เซ็นต์]
[ค่าความสัมพันธ์ระหว่างกงหยางหลวนซาน และ หลินชิวหรง ลดลง 40 เปอร์เซ็นต์]
[ขอให้เจ้าหน้าที่เฟรย์ คาร์ตัน ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป]
ใบหน้างามหยดย้อยเผยรอยยิ้มยินดี
แม้ว่านี่จะเป็นโลกแรกที่เขาได้เข้ามาทำภารกิจแต่ก็นับว่าไม่ได้แย่เลยสักนิด หากทุกอย่างยังราบรื่นแบบนี้ หนทางที่จะได้กลับไปมีชีวิตอยู่กับครอบครัวดังเดิมก็ยิ่งอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแล้ว
TBC.
ฝากเอ็นดูน้องเฟรย์กับเจ้าหมาเด็กด้วยนะคะ
Enjoy reading guys